00:00:00 → 00:00:03 This Is tha PBS podcast View the
00:00:03 → 00:00:05 world vi The
00:00:05 → 00:00:08 Voice แผลไภไหม้นะคะก็จะเป็นบัตรแผลที่
00:00:08 → 00:00:10 เกิดขึ้นบริเวณผิวหนังเนื้อเยื่อของร่าง
00:00:10 → 00:00:13 กายนะคะสาเหตุต่างๆที่พูดถึงก็คือเรื่อง
00:00:13 → 00:00:16 ของความร้อนความเย็นกระแสไฟฟ้าแล้วก็สาร
00:00:16 → 00:00:19 เคมีต่างๆรวมไปถึงสารกัมมันตภาพรังสีด้วย
00:00:19 → 00:00:22 นะคะแผประเภทนี้ก็จะทำให้เนื้อเยื่อเนี่ย
00:00:22 → 00:00:25 ค่ะถูกทำลายในแต่ละชั้นระดับของแผลไหม้จะ
00:00:25 → 00:00:28 แบ่งเป็น 3 ระดับด้วยกันนะคะแต่ละระดับจะ
00:00:28 → 00:00:31 บอกถึงความรุนแรงของการการบาดเจ็บแต่จริง
00:00:31 → 00:00:33 ๆแล้วเนี่ยภาพรวมของความรุนแรงของการบาด
00:00:33 → 00:00:36 เจ็บจากแผลไหม้เนี่ยไม่ได้พูดถึงแค่แค่
00:00:36 → 00:00:38 ความลึกอย่างเดียวนะคะเขาจะพูดถึงปัจจัย
00:00:38 → 00:00:41 สำคัญอยู่ 3 อย่างความกว้างความลึกแล้วก็
00:00:41 → 00:00:45 ปัจจัยที่มีอิทพลต่อความรุน
00:00:45 → 00:00:49 แรงฟังทุกเรื่องสุขภาพอัปเดตทุกโรคภัยฟัง
00:00:49 → 00:00:52 รายการโรงหมอกับดิฉันสุรีพรวงสถิตพรค่ะ
00:00:52 → 00:00:56 This Is to PBS podcast วันนี้ค่ะ
00:00:56 → 00:00:59 คุณผู้ฟังคะมาติดตามรับฟังนะคะถึงเรื่อง
00:00:59 → 00:01:02 ที่น่าสนใจนะคะเกี่ยวกับเรื่องของอันตราย
00:01:02 → 00:01:05 จากแผลไฟไหม้นะคะหรือเราอาจจะโดนไฟลวก
00:01:05 → 00:01:08 หรืออะไรอย่างเงี้เราจะต้องดูแลแผลต่างๆ
00:01:08 → 00:01:10 เหล่านี้ได้อย่างไรนะคะอย่างถูกต้อง
00:01:10 → 00:01:12 เดี๋ยวคุยกับผู้ช่วยศาสตราจารย์ปิยาพร
00:01:13 → 00:01:16 เยาวเรศอาจารย์ประจำภาควิชาการพยาบาลราก
00:01:16 → 00:01:19 ฐานคณะพยาบาลศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดลค่ะ
00:01:19 → 00:01:23 สวัสดีค่ะอาจารย์คาสวัสดีค่ะค่ะอาจารย์คะ
00:01:23 → 00:01:26 คุยกันวันนี้เป็นเรื่องของแผลไฟไหม้นะคะ
00:01:26 → 00:01:30 ซึ่งอาจจะเกิดจากความบังเอิญไปโดนไฟหรือ
00:01:30 → 00:01:32 ว่าอาจจะมีเหตุหรืออะไรก็แล้วแต่เนี่ยนะ
00:01:33 → 00:01:36 คะซึ่งก็แน่นอนว่าเวลาที่เราเกิดบาดแผล
00:01:36 → 00:01:39 จากไฟไหม้เนี่ยเราก็อาจจะดูแลไม่ถูกเอ๊ะ
00:01:39 → 00:01:41 จะต้องทำยังไงนะคะแล้วก็บาดแผลต่างๆเหล่า
00:01:41 → 00:01:44 นี้ที่เคยได้ยินมามีระดับนั้นระดับนี้
00:01:44 → 00:01:46 เป็นยังไงเดี๋ยววันนี้ให้อาจารย์ได้ช่วย
00:01:46 → 00:01:49 อธิบายให้คุณผู้ฟังได้ฟังกันนะคะก่อนอื่น
00:01:49 → 00:01:52 เลยเดี๋ยวถามอาจารย์ก่อนนะคะว่าคำว่าแผล
00:01:52 → 00:01:55 ไฟไหม้เนี่ยในความหมายโดยรวมที่เกี่ยว
00:01:55 → 00:01:58 ข้องกับคำๆนี้อ่ะนะคะลักษณะหรืออะไรก็ตาม
00:01:58 → 00:02:01 เนี่ยมันคืออะไรคะอาจารย์คะค่ะก็แผลไภ
00:02:01 → 00:02:03 ไหม้นะคะก็จะเป็นบาดแผลที่เกิดขึ้นบริเวณ
00:02:04 → 00:02:06 ผิวหนังเนื้อเยื่อของร่างกายนะคะก็จะมี
00:02:06 → 00:02:10 สาเหตุต่างๆอย่างที่คุณลีได้เกริ่นมาล่วง
00:02:10 → 00:02:12 หน้าแล้วนะคะสาเหตุต่างๆที่พูดถึงก็คือ
00:02:12 → 00:02:15 เรื่องของความร้อนความเย็นกระแสไฟฟ้าแล้ว
00:02:15 → 00:02:18 ก็สารเคมีต่างๆรวมไปถึงสารกัมมันตภาพ
00:02:18 → 00:02:20 รังสีด้วยนะคะซึ่งประเทศเราไม่ค่อยจะเจอ
00:02:20 → 00:02:23 เรื่องนั้นสักเท่าไหร่ค่ะค่ะแล้วก็แผล
00:02:23 → 00:02:25 ประเภทเก็จะทำให้เนื้อเยื่อเนี่ยค่ะถูก
00:02:25 → 00:02:29 ทำลายในแต่ละชั้นอืนะคะซึ่งเบื้องต้นอาจ
00:02:29 → 00:02:32 จะต้องคุยกันเรื่องเรื่องของผิวหนังก่อน
00:02:32 → 00:02:34 เนาะว่าผิวหนังของเราเนี่ยก็จะมีอยู่ 2
00:02:34 → 00:02:38 ชั้นอ่าหลักๆเป็นชั้นหนังกำพ้านะคะก็จะ
00:02:38 → 00:02:41 อยู่นอกสุดนะคะเป็นส่วนที่สัมผัสแล้วก็
00:02:41 → 00:02:45 ดูดซับเอ่อแสงแดดนะคะแล้วก็เอ่อจะเป็นที่
00:02:45 → 00:02:48 อยู่ของเยื่อบุเซลล์ผิวหนังแล้วก็เม็ดสี
00:02:48 → 00:02:52 ต่างๆค่ะชั้นถัดมาเป็นหนังแท้ชั้นนี้นะคะ
00:02:52 → 00:02:55 ก็จะอยู่ด้านในถัดเข้ามาค่ะเป็นส่วนที่
00:02:55 → 00:02:58 อยู่ลึกลงไปที่เป็นที่อยู่ของเส้นเลือด
00:02:58 → 00:03:01 เส้นประสาทต่อมไขมันแล้วก็ต่อมเหงื่อถ้า
00:03:01 → 00:03:04 ภาพนี้ออกมาแล้วว่าเอ่อผิวหนังมี 2 ชั้น
00:03:04 → 00:03:06 แบบนี้ประชาชนจะได้เข้าใจอ่ะค่ะว่าว่าพูด
00:03:06 → 00:03:10 ถึงทำไมลึกลงไปแล้วไม่รู้สึกเจ็บปวดอ๋อ
00:03:10 → 00:03:12 เพราะเส้นประสาทถูกทำลายไปแล้วอย่างเงี้ย
00:03:12 → 00:03:15 ค่ะเวลาเราพับความรุนแรงในขั้นต่อไปนะคะ
00:03:15 → 00:03:19 ค่ะซึ่งอ่าแน่นอนว่ามันอาจจะเกิดจากความ
00:03:19 → 00:03:22 ร้อนอ่าสารต่างๆเหล่านี้เมื่อกี้อาจารย์
00:03:22 → 00:03:25 บอกว่ามีเรื่องของความเย็นค่ะความเย็นทำ
00:03:25 → 00:03:28 ให้เกิดแผลใช่ค่ะความเย็นทำให้เกิดแผลแต่
00:03:28 → 00:03:31 เป็นความเย็นที่ที่ต่ำกว่าจุดยึดแข็งนะคะ
00:03:31 → 00:03:35 คือติดลบน่ะค่ะพอสำผัสอเช่นประเทศเราไม่
00:03:35 → 00:03:37 ค่อยเจอเพราะประเทศเราไม่ใช่เมืองที่มี
00:03:37 → 00:03:40 น้ำแข็งเยอะๆนะคะแต่กลุ่มคนที่ประเทศเรา
00:03:40 → 00:03:43 จะเจอเช่นใช้ Dr ไซหรือไม่ก็เป็นกลุ่มที่
00:03:43 → 00:03:47 อยู่ในโรงงานน้ำแข็งเท่านั้นซึ่งจะเจอได้
00:03:47 → 00:03:50 น้อยค่ะกลุ่มนี้อืเอ่อคนที่ทำโรงงานน้ำ
00:03:50 → 00:03:55 แข็งใช่ค่ะแล้วก็ที่ใช้เอ่อไดอทั้งหลาย
00:03:55 → 00:03:58 อ่ะค่ะไม่แน่ใจว่าแดงอะไรเหล่านี้ต้องมี
00:03:58 → 00:04:02 หรือเปล่านะคะอือก็ทำให้มีการบาดเจ็บของ
00:04:02 → 00:04:05 ของผิวหนังได้เช่นกันค่ะอ๋อมีน่าอย่างบาง
00:04:05 → 00:04:09 ทีที่อาจจะเคยเห็นแบบเอ่อนักปีนเขาหรือ
00:04:09 → 00:04:11 ว่าที่แบบไปเล่นหิมะอะไรอย่างเงี้ใช่มั้
00:04:11 → 00:04:13 คะจะโดนหิมะกาดหรอันนี้มันมันเกี่ยวกัน
00:04:13 → 00:04:16 มั้ยคะกับความเย็นใช่ค่ะอืจะเกิดขึ้นกับ
00:04:16 → 00:04:19 กลุ่มประเทศที่ที่เขาหนาวเย็นนะประเทศ
00:04:19 → 00:04:22 เมืองหนาวทั้งหลายค่ะค่ะแต่ว่าของบ้านเรา
00:04:22 → 00:04:25 ก็เจอความร้อนอย่างเดียวเลยนะคะเลยค่ะกับ
00:04:25 → 00:04:28 กระแสไฟฟ้านะคะที่เจอแต่ที่เป็นปัญหา
00:04:28 → 00:04:30 สังคมแบบปัญหาคความสัมพันธ์อาจจะเจอได้
00:04:30 → 00:04:34 บ้างสารเคมีกดหรือด่างพวกเค่ะก็มีบ้างค่ะ
00:04:34 → 00:04:37 แล้วก็อันนี้ก็อาจจะเฉพาะกลุ่มคนที่ทำงาน
00:04:38 → 00:04:41 อยู่ในโรงงานสารเคมีต่างๆเหล่านี้เนาะก็
00:04:41 → 00:04:45 จะเจอได้ใช่ค่ะอืค่ะทีนี้ว่าด้วยความที่
00:04:45 → 00:04:47 มีผิวหนังอยู่ 2 ชั้นก็คือหนังชั้นหนัง
00:04:47 → 00:04:53 กำพร้ากับเอ่อหนังแท้นะคะซึ่งอ่ะถ้าโดน
00:04:53 → 00:04:56 ความร้อนในระดับไหนคะที่มันอาจจะทำให้
00:04:56 → 00:04:59 เกิดผลกับหนังกำพร้าเกิดแผลขึ้นมาได้ค่ะ
00:04:59 → 00:05:00 อาจารย์
00:05:00 → 00:05:03 ค่ะโดยปกติแล้วเนี่ยผิวหนังของเราจะทุน
00:05:03 → 00:05:06 ความร้อนได้อยู่ที่ประมาณ 40 องศค่ะถ้า
00:05:06 → 00:05:08 มากกว่านั้นจะเกิดการเปลี่ยนแปลงวันนี้
00:05:08 → 00:05:10 ถ้าเกิดการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนเลยก็
00:05:10 → 00:05:13 เริ่มตั้งแต่ 60 องศนี่ชัดมากนะคะ 60
00:05:13 → 00:05:16 องศาก็คือเป็นอุณหภูมิเหมือนหม้อหุงข้าว
00:05:16 → 00:05:19 ขนาดเล็กทั่วไปอ่ะค่ะเอ่อถ้าเกิดว่า
00:05:19 → 00:05:22 ประมาณ 60 องศาเจอแค่ 3 วินาทีเท่านั้น
00:05:22 → 00:05:26 น่ะค่ะก็จะทำให้เกิดบาดแผลได้แล้วนะคะออ
00:05:26 → 00:05:29 แค่3ีถ้า 69 นี่คือเ่อเขาพิสูจน์มาแล้ว
00:05:29 → 00:05:33 ว่าเกิดแผลทันทีใน 1 วินาทีที่สัมผัส
00:05:33 → 00:05:36 โอ้โหใช่ค่ะแค่แค่โดนนิดเดียวอ่ะนะคะอ่า
00:05:36 → 00:05:39 โดนนิดเดียวก็อาจจะเริ่มจากเล็กน้อยก่อน
00:05:39 → 00:05:43 นะคะเริ่มจากแบบเอ่อแผลแดงนะค่ะอักเสบนะ
00:05:43 → 00:05:46 คะก่อนที่จะลุกลามไปหรือถ้าสัมผัสนานขึ้น
00:05:46 → 00:05:50 นะคะก็อาจจะทำให้แผลเนี่ยถูกทำลายลึกขึ้น
00:05:50 → 00:05:53 ก็จะมีอาการและการแสดงที่แตกต่างกันไปค่ะ
00:05:53 → 00:05:57 อืก็ขึ้นอยู่กับว่าเราไปสัมผัสกับอ่าความ
00:05:57 → 00:06:00 ร้อนสารเคมีหรืออะไรต่างๆเหล่าเนี้ยใน
00:06:00 → 00:06:03 ระดับไหนใช่มั้ยคะแล้วก็ระยะเวลานานแค่
00:06:03 → 00:06:09 ไหนอืซึ่งเอ่อในอาการของแผลไฟไหม้ต่างๆ
00:06:09 → 00:06:12 เนี่ยค่ะด้วยความที่มันมีอาจจะมีหลาย
00:06:12 → 00:06:14 ระดับเค่ะเดี๋ยวให้อาจารย์ได้ช่วยอธิบาย
00:06:14 → 00:06:16 ให้คุณผู้ฟังฟังหน่อยได้มั้ยคะว่าอ่า
00:06:16 → 00:06:19 ระดับแต่ละระดับเนี่ยมันมีความรุนแรง
00:06:19 → 00:06:22 อย่างไรนะคะแล้วก็ลักษณะของแผลหรือว่า
00:06:22 → 00:06:25 สิ่งที่เราจะต้องเอ่อประเมินหรืออะไร
00:06:25 → 00:06:28 อย่างเงี้ยค่ะเราจะต้องดูอะไรยังไงบ้างคะ
00:06:28 → 00:06:32 ระดับของแผลมานะคะสำหรับระดับของแผลไหม้
00:06:32 → 00:06:35 จะแบ่งเป็น 3 ระดับด้วยกันนะคะซึ่งแต่ละ
00:06:35 → 00:06:38 ระดับเนี่ยนะคะจะบอกถึงความรุนแรงของการ
00:06:38 → 00:06:41 บาดเจ็บแต่จริงๆแล้วเนี่ยภาพรวมของความ
00:06:41 → 00:06:43 รุนแรงของการบาดเจ็บจากแผลไหม้เนี่ยไม่
00:06:43 → 00:06:46 ได้พูดถึงแค่แค่ความลึกอย่างเดียวนะคะเขา
00:06:46 → 00:06:49 จะพพูดถึงปัจจัยสำคัญอยู่ 3 อย่างความ
00:06:49 → 00:06:52 กว้างความลึกแลก็ปัจจัยที่มีอิทพลต่อความ
00:06:52 → 00:06:54 รุนแรงคราวนี้เราพูดถึงความลึกกันก่อน
00:06:54 → 00:06:57 เนาะว่าเอ่อมี 3 ระดับเนี่ยเป็นแบบไหน
00:06:57 → 00:07:01 บ้างระดับที่ 1 นะคะเราก็เรียกว่าเคบิน
00:07:01 → 00:07:04 อันนี้จะอยู่ระดับชั้นหนังกำพ้าค่ะแผลจะ
00:07:04 → 00:07:06 เป็นลักษณะสีชมพูนะคะแดงแล้วก็นุ่มค่ะไม่
00:07:06 → 00:07:11 มีตุ่มเอ่อตุ่มพองน้ำที่มันพองขึ้นมานะคะ
00:07:11 → 00:07:14 เอ่อไม่มีการปวดแสบปวดร้อนมีอาการปวดแสบ
00:07:14 → 00:07:18 ปวดร้อนรุนแรงค่ะกลุ่มนี้นะคะแล้วก็จะจะ
00:07:18 → 00:07:20 ใช้เวลาในการรักษาไม่นานนะคะโดยเฉลี่ย
00:07:20 → 00:07:23 อยู่ประมาณ 7 วันนะคะถ้าเป็นช่วงเวลาก็
00:07:23 → 00:07:26 อยู่ประมาณสัก 5-10 วันอันนี้ก็อยู่อยู่
00:07:26 → 00:07:29 ที่เวลาที่เราสัมผัสด้วยเช่นกันส่วนใหญ่
00:07:29 → 00:07:32 นะคะส่วนใหญ่่แล้วระดับที่ 1 เนี่ยก็จะ
00:07:32 → 00:07:35 เกิดจากเ่อแผลแผลเรานี้จะเกิดจากแสง
00:07:35 → 00:07:38 อาทิตย์ความร้อนจากซันเบิร์นพวกเนี้ยค่ะ
00:07:38 → 00:07:41 เวลาที่เราแดดนานๆหรือไม่ก็น้องๆที่อยู่
00:07:41 → 00:07:44 บนสแตนด์เชียร์นานๆที่อ่าอยู่กลางแดดนานๆ
00:07:45 → 00:07:48 เหล่านี้ค่ะค่ะก็วิธีการรักษาก็ก็อาจจะ
00:07:48 → 00:07:51 ไม่ไม่ต้องมีวิธีหรือขั้นตอนซับซ้อนค่ะ
00:07:51 → 00:07:54 เอ่อขั้นแรกเราก็ออกจากจุดที่เป็นความ
00:07:54 → 00:07:57 ร้อนก่อนถูกมั้ยคะแล้วก็ให้ค่อยๆคลายความ
00:07:57 → 00:07:59 ร้อนออกไประยะเวลาหลังจากนั้นเราก็ให้
00:07:59 → 00:08:02 ความชุ่มชื้นกับผิวมันจะค่อยๆลอกโดย
00:08:02 → 00:08:05 ธรรมชาติค่ะอ๋อไม่ได้เกิดแผลเป็นนะเพราะ
00:08:05 → 00:08:07 ว่ามันไม่ได้มีแผลพุพองอย่างที่อาจารย์
00:08:07 → 00:08:10 บอกตอนต้นนึกภาพที่อาจารย์บอกเลยว่าขึ้น
00:08:10 → 00:08:13 สแตนด์เชีย์สมัยก่อนนี้แบบโอโหหน้าไหม้
00:08:14 → 00:08:20 เออแล้วก็แดงหลใช่แล้วก็ลอกโอ้โหกว่าจะ
00:08:20 → 00:08:23 กลับมาสภาพเดิมได้นี่ก็หนักหนาสาหัสหลาย
00:08:23 → 00:08:26 วันอยู่เหมือนกันค่ะนะคะอันนี้คือระดับ
00:08:26 → 00:08:29 ที่ 1 ใช่มั้ยคะอืค่ะระดับที่ 1 ค่ะค่ะพอ
00:08:29 → 00:08:32 เป็นระดับที่ 2 นะคะก็จะลึกขึ้นระดับที่ 2
00:08:32 → 00:08:35 เราจะแบ่งเป็น 2 ชั้นนะคะชั้นชั้นแรกถัด
00:08:35 → 00:08:38 จากชั้นที่ 1 จะเป็นเอ่อความลึกส่วนระดับ
00:08:38 → 00:08:42 ผิวนะคะก็จะมีการทำลายของชั้นหนังกำพร้า
00:08:42 → 00:08:45 ทั้งหมดนะคะรวมทั้งส่วนของหนังแท้ด้วยนะ
00:08:45 → 00:08:49 คะอย่างเช่นต่อมเหงื่อต่อมไขมันรากขน
00:08:49 → 00:08:52 เหล่านี้นะคะซึ่งระดับนี้เนี่ยจะมีแผลผู้
00:08:52 → 00:08:56 พองค่ะเป็นตุ่มคองจะแสบมากนะคะเพราะว่า
00:08:56 → 00:08:58 รับความรู้สึกนะคะในชั้นหนังแท้เหล่านี้
00:08:58 → 00:09:01 ยังอยู่นะคะระยะเวลาในการหายก็จะประมาณ
00:09:01 → 00:09:05 สัก 7-14 วันนะคะส่วนนี้จะเริ่มเป็นแผล
00:09:05 → 00:09:08 เป็นแล้วนะคะก็จะต้องเข้าสู่กระบวนการ
00:09:08 → 00:09:10 รักษานิดนึงถ้าอยู่ในตำแหน่งที่สำคัญ
00:09:11 → 00:09:14 อย่างเช่นหน้าอย่างเช่นมือหรืออย่างเช่น
00:09:14 → 00:09:18 อยู่ในบริเวณของขานีบหรือพวกเค่ะที่เป็น
00:09:18 → 00:09:22 จุดที่ติดเชื้อได้ง่ายอคะก็ต้องอาศัย
00:09:22 → 00:09:26 แพทย์นะคะช่วยเ่อประเมินแล้วก็มีการรักษา
00:09:26 → 00:09:30 โดยการให้ยานะคะอาจจะเป็นยาทาเฉพาะที่
00:09:30 → 00:09:33 หรือยาป้องกันการติดการยาฆ่าเชื้อเหล่า
00:09:33 → 00:09:37 นี้เป็นต้นรวมไปถึงนะคะยาที่ลดอาการปวด
00:09:37 → 00:09:40 ด้วยค่ะค่ะอันนี้ถ้าระดับ 2 นี้ส่วนใหญ่
00:09:40 → 00:09:46 จะเป็นเอ่อประเภทที่โดนเอ่อไฟจากการทำ
00:09:47 → 00:09:48 อะไรก็แล้วแต่ที่มันเกี่ยวข้องกับไฟโดย
00:09:48 → 00:09:51 ตรงมั้คะหรือว่ามันมีอย่างอื่นด้วยอ่ะคะ
00:09:51 → 00:09:54 มีค่ะมีอย่างความร้อนเนี่ยเราแบ่งเป็น 3
00:09:54 → 00:09:56 ชนิดเมื่อกี้เราพูดถึงซันเบิร์ดไปแล้วก็
00:09:56 → 00:09:59 จะเหลืออยู่ 3 ชนิดค่ะเป็นความร้อนเปีย
00:09:59 → 00:10:02 กับความความร้อนแห้งอย่างความร้อนแห้งก็
00:10:02 → 00:10:05 จะเป็นเปลวไฟนะเพลิงไหม้ทั้งหลายเนี่ยค่ะ
00:10:05 → 00:10:08 หรือไม่ก็จะเป็นกระคายไฟนะคะอาจจะเกิดการ
00:10:08 → 00:10:12 สปารกันของไฟช็อตในอากาศนี่แหละค่ะก็จะทำ
00:10:12 → 00:10:15 ให้แผลไหม้ชนิดแห้งได้ด้วยเหมือนกันหรือ
00:10:15 → 00:10:20 แผเอ่อไฟแห้งชนิดที่เราไปสัมผัสกับเอ่อ
00:10:20 → 00:10:23 อุปกรณ์ที่มีความร้อนสูงเตารีดหรือไม่ก็
00:10:23 → 00:10:26 ท่อไอเสียรถยนต์อะไรพวกเยค่ะรถมอเตอร์ไซ
00:10:26 → 00:10:30 พวกเยค่ะอันนั้นก็เกิดแห้งแต่ค่าแผลเปียก
00:10:30 → 00:10:34 ก็จะเป็นเกิดจากพวกน้ำมันน้ำร้อนนะคะหม้อ
00:10:34 → 00:10:38 น้ำเต้าหู้อะไรพวกเยค่ะค่ะก็ยางมาตอยร้อน
00:10:38 → 00:10:41 ๆอันพวกนี้ก็จะเกิดการทำงานหรือการใช้
00:10:41 → 00:10:44 ชีวิตประจำวันได้ด้วยค่ะโอ้โหแค่พูดมานี่
00:10:44 → 00:10:47 ก็แสบแล้วค่ะไม่ได้โดนเลยนะคะเออแต่ถ้า
00:10:47 → 00:10:50 ถ้าเป็นแบบพวกความร้อนแห้งความเอ่อแผแผล
00:10:50 → 00:10:54 แห้งกับแผลเปียกนะคะรูปแบบก็อาจจะต่างกัน
00:10:54 → 00:10:54 แต่ว่า
00:10:54 → 00:10:58 โอโหน่าจะเจ็บปวดอยู่เหมือนกันนะเนี่ยคือ
00:10:58 → 00:11:02 แบบโดนไฟประกายไฟหรือแบบว่าน้ำลงน้ำร้อน
00:11:02 → 00:11:04 น้ำมันอะไรอย่าเงี้ยอย่างบางคนที่แบบทอด
00:11:04 → 00:11:08 ของทอดกระทะร้อนๆแบบเแล้วเกิดแบบบังเอิญ
00:11:08 → 00:11:10 ไปล้มใส่อย่างที่เคยเป็นข่าวเด็กๆบ้าง
00:11:10 → 00:11:15 อะไรบ้างเโหอันตรายตรงจุดนี้เลยนะคะค่ะอื
00:11:15 → 00:11:17 ตรงนี้มันมันไปทำให้เกิดแผลยังไงได้บ้าง
00:11:17 → 00:11:22 คะถ้าเกิดแบบเจอความร้อนที่รุนแรงขนาดเ
00:11:22 → 00:11:26 ค่ะแผลที่เกิดขึ้นนะคะจุดที่สำคัญเลยจะจะ
00:11:26 → 00:11:30 จะตำแหน่งที่ถูกสัมผัสโดยตรงอาจจะเป็นน้ำ
00:11:30 → 00:11:32 ร้อนน้ำมันหรืออะไรก็แล้วแต่ค่ะโดนจุด
00:11:32 → 00:11:36 ตำแหน่งไหนที่สำคัญนะค่ะก็จะทำลายตั้งแต่
00:11:36 → 00:11:39 ชั้นผิวหนังชั้นนอกลงไปนะคะลึกลงไปขึ้น
00:11:39 → 00:11:42 อยู่กับความร้อนค่ะว่าร้อนมากน้อยแค่ไหน
00:11:42 → 00:11:44 และขึ้นอยู่กับการจัดการเบื้องต้นณบริเวณ
00:11:45 → 00:11:47 นั้นด้วยว่าเราเอาความร้อนเหล่านั้นออก
00:11:47 → 00:11:49 ได้เร็วแค่ไหนด้วยนะคะถ้าเกิดว่าเป็นน้ำ
00:11:49 → 00:11:52 มันแล้วยังอยู่ในชุดที่มันเป็นน้ำมันอยู่
00:11:52 → 00:11:54 แล้วยังมีความร้อนเก็บอยู่อันนั้นน่ะความ
00:11:54 → 00:11:57 ร้อนก็ยังอยู่แล้วก็ยังมีการทำลายชั้นผิว
00:11:58 → 00:12:02 หนังลงไปเรื่อยๆโอมันมันลึกลงไปถึงระดับ
00:12:02 → 00:12:06 ไหนได้คะเอ่อถ้าถ้าเกิดว่าอยู่ในระดับที่
00:12:06 → 00:12:08 3 ที่ยังไม่ไม่ได้คุยกันเนี่ยนะคะก็จะ
00:12:08 → 00:12:11 ถึงชั้นกล้ามเนื้อแล้วก็กระดูกได้เลยค่ะ
00:12:11 → 00:12:14 โดยเฉพาะในกลุ่มที่เป็นเด็กแล้วก็ผู้สูง
00:12:14 → 00:12:17 อายุซึ่งกลุ่มนี้ผิวหนังจะบางชั้นไขมันจะ
00:12:18 → 00:12:20 น้อยนะคะก็จะไม่เหมือนวัยทำงานหรือวัย
00:12:20 → 00:12:23 รุ่นเพราะนั้นเวลาเจอความร้อนก็จะถูก
00:12:23 → 00:12:26 ทำลายหรือชั้นผิวหนังนะคะถูกทำลายลงไปได้
00:12:26 → 00:12:30 เร็วแล้วก็ลึกกว่าอืคว่ามันจะมีอีกอันนึง
00:12:30 → 00:12:34 อ่ะค่ะในกรณีที่เป็นแผลจากความร้อนเอ่อ
00:12:34 → 00:12:36 จากเพลิงไหม้นะคะถ้าไม่ใช่น้ำร้อนแล้วนะ
00:12:37 → 00:12:40 คะแบบไหม้เนี่ยอันนึงที่เรามักจะลืมก็คือ
00:12:40 → 00:12:42 ในกรณีที่เกิดเพลิงไหม้แล้วสมมุติว่าเรา
00:12:42 → 00:12:45 ไปติดอยู่ในที่ที่มีอากาศแบบถ่ายเทไม่
00:12:45 → 00:12:48 สะดวกเป็นเวลานานเขาอาจจะหมดสติหรือไม่
00:12:48 → 00:12:51 อาจจะออกมาแล้วแบบมึนงงผ่ะเหล่านี้เนี่ย
00:12:51 → 00:12:54 มันเกิดจากการที่เขาสูดดมควันหรือไม่ก็
00:12:54 → 00:12:58 โดนไอร้อนจากเพลิงไหม้อันนั้นนะคะแล้วก็
00:12:58 → 00:13:01 มันจะมีผลต่อต่อการบาดเจ็บทางเดินหายใจ
00:13:01 → 00:13:04 ด้วยนะคะในกรณีที่สูดดมไอร้อนเข้าไปนานๆ
00:13:04 → 00:13:07 เนี่ยค่ะก็จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
00:13:07 → 00:13:11 เฉพาะที่บริเวณทางเดินหายใจส่วนต้นนะคะ
00:13:11 → 00:13:16 เกิดการเอ่อในกรณีที่มีการมีการเอ่อเกิด
00:13:16 → 00:13:19 ได้รับความร้อนเข้ามาเนี่ยนะคะร่างกายจะ
00:13:19 → 00:13:22 ปฏิกิริยาโดยการหลั่งสารออกมาสารเหล่า
00:13:22 → 00:13:24 นั้นเจะมีผลต่อหลอดเลือดทำให้หลอดเลือด
00:13:24 → 00:13:28 ขยายตัวค่ะแล้วก็มีการรั่วของโปรตีนน้ำ
00:13:28 → 00:13:30 แล้วก็คือเื่อแร่ออกจากระบบการไหลเวียน
00:13:31 → 00:13:33 คือออกจากไหลเอ่อออกจากหลอดเลือดนะคะมา
00:13:34 → 00:13:36 อยู่ช่องว่างของเซลล์ก็ทำให้บริเวณนั้น
00:13:36 → 00:13:40 น่ะบวมขึ้นค่ะวันนี้ก็เป็นเป็นเ่อข้อที่
00:13:40 → 00:13:44 เรานำมาอธิบายว่าทางเดือนสใจหายใจส่วนที่
00:13:44 → 00:13:46 ถูกความร้อนโดยตรงอันนั้นนะคะก็จะทำให้
00:13:47 → 00:13:50 บวมพอบวมเสร็จเนี่ยนะคะก็ทำให้ทางเดือน
00:13:50 → 00:13:54 หายใจแคบเข้าถ้าถ้าโดนโดนเป็นเวลานานนะคะ
00:13:54 → 00:13:58 แล้วก็ยังไม่ได้รับการแก้ไขตรงบริเวณก็จะ
00:13:58 → 00:14:02 ติแคบก็หายใจไม่ได้คนไข้ก็อาจจะเสียชีวิต
00:14:02 → 00:14:05 จากทางเดินหายใจส่วนต้นอุดกั้นแทนที่จะ
00:14:05 → 00:14:08 หายแทนที่จะแบบมีการเ่อต้องมารักษาด้วย
00:14:08 → 00:14:12 แผล่อาจจะเสียชีวิตด้วยด้วยเหตุนั้นก่อน
00:14:12 → 00:14:16 ก็ได้ค่ะอันนี้เป็นข้อที่เราต้องต้องเอ่อ
00:14:16 → 00:14:20 นึกถึงเวลาที่เกิดเอ่อการบาดเจ็บิดนี้ค่ะ
00:14:20 → 00:14:23 อก็คือหมายความว่าถ้าเกิดว่ามันมันมีกับ
00:14:23 → 00:14:25 ปัญหากับระบบหายใจส่วนต้นถึงแม้ว่าจะช่วย
00:14:25 → 00:14:29 ออกมาได้แล้วใช่มั้ยคะแต่เขาก็อาจจะมีมี
00:14:29 → 00:14:32 โอกาสเสียชีวิตจากเรื่องของทระบบทางเดิน
00:14:32 → 00:14:35 หายใจส่วนต้นตรงนี้ได้ใช่ค่ะอาจจะไม่ได้
00:14:35 → 00:14:37 แบบว่าจากบาดแผลที่ถูกเพลิงไหม้อะไรอย่าง
00:14:37 → 00:14:41 งี้เนาะค่ะถ้าเป็นเพลิงไหม้แม้แต่ตัวสาร
00:14:41 → 00:14:44 พิษหรือตัวคาร์บอนมอนอกไซด์ที่เกิดจากการ
00:14:44 → 00:14:47 เผ่าไหม้ที่ไม่สมบูรณ์เนี่ยค่ะเขาก็เข้า
00:14:47 → 00:14:52 ไปทำลายในในตัวปอดนะในส่วนของถุลมทำให้มี
00:14:52 → 00:14:55 การอักเสบบริเวณนั้นมีการกระตุ้นการสร้าง
00:14:55 → 00:14:59 พวกเสมหะค่ะก็ทำให้เกิดการอุดกั้นบริเวณ
00:14:59 → 00:15:02 ด้านล่างได้ด้วยคือบริเวณปอนค่ะนะคะซึ่ง
00:15:02 → 00:15:05 พอวิธีการรักษาของแพทย์คือคืออาการและการ
00:15:05 → 00:15:08 แสดงนอกจากประวัติเรื่องนี้แล้วเราสามารถ
00:15:08 → 00:15:11 เจอได้จากการตรวจร่างกายทั่วไปด้วยนะคะ
00:15:11 → 00:15:15 อย่างเช่นน้จะแดงบริเวณจมูกอาจจะขนในจมูก
00:15:16 → 00:15:18 หายไปอะไรพวกเค่ะถ้าสมมุติเกเกิดมีการ
00:15:18 → 00:15:23 สปารของไฟหรือมีเขม่าควันจากเสมหะเค้า
00:15:23 → 00:15:27 อะไรอย่างเงี้ยค่ะนะคะบริเวณนี้ค่ะแล้วก็
00:15:27 → 00:15:30 เอ่อจะประเมินในช่องปะซ้ำซักประวัติเสร็จ
00:15:30 → 00:15:33 นะคะหลังจากนั้นก็ก็อาจจะต้องใส่ท่อช่วย
00:15:33 → 00:15:36 หายใจเพราะกระบวนการบวงที่พูดถึงเนี่ยมัน
00:15:37 → 00:15:39 จะเกิดขึ้นนะคะประมาณ 1 ช่มถึง 2 ช่วโมง
00:15:39 → 00:15:43 ภายหลังการได้รับความร้อนเหล่านี้ค่ะอื
00:15:43 → 00:15:46 อ๋อสมัยแสดงว่าตอนแรกอาจจะยังไม่ได้รู้
00:15:46 → 00:15:49 สึกอะไรแต่ว่าพอหลังจากนั้นไปอาการมันก็
00:15:49 → 00:15:53 จะค่อยๆเริ่มแสดงออกมากขึ้นเริ่มหายใจยาก
00:15:53 → 00:15:57 ขึ้นใช่ค่ะเสียงจะแหบนะคะเวลาถ้าเขาผ่าน
00:15:57 → 00:16:00 ไปสักครึ่งชเสียงจะเริ่มแหที่เราซัก
00:16:01 → 00:16:04 ประวัติหรือคุยกับเค่ะค่ะดีะต้องนำส่งโรง
00:16:04 → 00:16:08 พยาบาลแล้วก็ให้ประวัติส่วนนี้กับทีม
00:16:08 → 00:16:11 สุขภาพเพื่อที่จะนำไปสู่การแก้ไขหรือป้อง
00:16:11 → 00:16:14 กันปัญหาที่จะเกิดขึ้นค่ะค่ะอืก็นึกภาพ
00:16:14 → 00:16:17 ตามนะคะคุณผู้ฟังว่าอย่างในกรณีที่เอ่อมี
00:16:17 → 00:16:19 เหตุเพลิงไหม้แล้วก็มีเจ้าหน้าที่เขวิ่ง
00:16:19 → 00:16:21 เข้าไปช่วยเหลือแล้วอ่าพาตัวออกมาได้
00:16:21 → 00:16:24 เนี่ยถึงแม้ว่าร่างกายอาจจะไม่ได้รับาด
00:16:24 → 00:16:27 แผลหรืออะไรอย่างเงี้ยนะคจากจากไฟอ่ะนะคะ
00:16:27 → 00:16:29 แต่ว่าระบบทางเดินหายใจจากเขม่าควัน
00:16:29 → 00:16:31 คาร์บอนอ่าคาร์บอนไดออกไซด์อะไรต่างๆ
00:16:31 → 00:16:33 เหล่าเนี้ยมันก็อยู่ในร่างกายของเราเพราะ
00:16:33 → 00:16:36 จากการสูดควันเข้าไปอ่ะนะคะมันก็เป็นผล
00:16:37 → 00:16:40 ได้อีกเหมือนกันนะเออซึ่งต้องโหต้องดูรอบ
00:16:40 → 00:16:42 ด้านเลยเหมือนกันนะคะไม่ใช่แค่ว่าเออมี
00:16:42 → 00:16:45 บาดแผลไฟไหม้มั้แล้วก็ถือว่าเ่อปลอดภัย
00:16:45 → 00:16:47 และไม่เป็นอันตรายและไม่ใช่เนาะอาจารย์
00:16:48 → 00:16:51 เนาะอันนี้น่าจะระดับ 3 เลยมั้ยคะอเพราะ
00:16:51 → 00:16:53 มันลึกถึงกระดูกกล้ามเนื้อเลยเนาะใช่ๆใน
00:16:53 → 00:16:56 ระที่ 3 เนี่ยมันจะเป็นแผลเป็นได้ได้ง่าย
00:16:56 → 00:17:00 ค่ะคือแผลเป็นค่อนข้างเยอะประเป็นแผนูน
00:17:00 → 00:17:03 เป็นคีขึ้นมาเลยค่ะแต่ว่าใช้เวลานานขึ้น
00:17:03 → 00:17:07 นะคะเป็นเดือน 21-28 วันเลยแล้วก็วิธี
00:17:08 → 00:17:11 รักษานี้จะเสี่ยงกับพวกเอ่อเรียกได้ว่า
00:17:11 → 00:17:15 ติดเชื้อได้ง่ายเพราะว่าจะใช้เวลานานวิธี
00:17:15 → 00:17:18 การรักษาจะแตกต่างจากวิธีวิธีเอ่อแผล
00:17:18 → 00:17:21 ระดับที่ 2 ซึ่งอาจจะใช้แล้วก็ผ่าตัดเล็ก
00:17:21 → 00:17:24 ๆน้อยๆแต่วิธีที่ 3 เจะลึกกว่าจะใช้เวลา
00:17:24 → 00:17:27 นานแล้วก็ผ่าตัดเนื้อตายหลายครั้งค่ะบาง
00:17:27 → 00:17:31 ทีอาจจะต้องจบลงด้วยทำผูกถ่ายเอ่อผิวหนัง
00:17:32 → 00:17:37 เทียมค่ะอืค่ะอันนี้ก็แล้วแต่ว่าบาดแผล
00:17:37 → 00:17:40 อยู่ในระดับ 3 ขนาดไหนแบบไหนก็อ่าคุณหมอ
00:17:40 → 00:17:44 ก็จะประเมินอีกทีนึงใช่มั้ยคะใช่ค่ะอื
00:17:44 → 00:17:47 อย่างอย่างที่เดี๋ยวเจะเห็นมากขึ้นค่ะ
00:17:47 → 00:17:50 อาจารย์อย่างเรื่องของเอ่อคนโดนฟ้าผ่า
00:17:50 → 00:17:53 อย่างเงี้ยค่ะค่ะเอออันนี้เกี่ยวมั้ยคะ
00:17:53 → 00:17:57 แบบบาดแผลในลึกระดับนี้อมีบาดแผลเหล่านี้
00:17:57 → 00:18:00 ก็มีค่ะอืค่ะเป็นการสปารอันนี้เป็นเป็น
00:18:00 → 00:18:03 แบบแห้งนะคะแผลอาจจะเกิดขึ้นที่ร่างกาย
00:18:03 → 00:18:09 ได้ค่ะค่ะ้าก็มีค่ะอืแต่น้อยนะประเทศเรา
00:18:09 → 00:18:12 ค่ะน้อยแต่ยังมีอยู่แต่ก็ยังมีเออแล้วก็
00:18:13 → 00:18:16 เอ่ออย่างเอ่อเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าอะไร
00:18:16 → 00:18:20 อย่างเงี้ยค่ะที่ขึ้นขึ้นไปเอ่อดำเนินการ
00:18:20 → 00:18:22 เรื่องสายไฟหรืออะไรแล้วโดนไฟช็อตหรือ
00:18:22 → 00:18:25 อะไรอย่าเงี้ยอันนี้ก็อันนี้เป็นอีกกลุ่ม
00:18:25 → 00:18:28 นึงค่ะที่ที่เป็นแผลอันตรายมากเป็นชนิด
00:18:28 → 00:18:30 เป็นสาเหตสำคัญอันนึงอ่ะค่ะเรื่องของ
00:18:30 → 00:18:33 กระแสไฟฟ้าแล้วแผลที่เกิดจากแผลไหม้ที่
00:18:33 → 00:18:36 เกิดจากกระแสไฟฟ้าเนี่ยไม่เหมือนแผลไหม้
00:18:36 → 00:18:38 ชนิดอื่นมีความเฉพาะแผลไม้ชนิดนี้เนี่ย
00:18:39 → 00:18:42 มองจากภายนอกจะเล็กค่ะแต่พอแบบเราเข้าไป
00:18:42 → 00:18:46 ดูข้างในนะคะแผลจะค่อนข้างลึกจะทำลายตั้ง
00:18:46 → 00:18:48 แต่ชั้นเนื้อเยื่อต่างๆหลอดเลือดนะคะ
00:18:48 → 00:18:51 กล้ามเนื้อแล้วไปถึงกระดูกได้เลยแต่ก็จะ
00:18:51 → 00:18:54 ขึ้นอยู่กับกำลังไฟฟ้าค่ะที่ดูเพราะ
00:18:54 → 00:18:57 ฉะนั้นกลุ่มนี้ก็เลยจะป้องกันมีฉนวนไฟฟ้า
00:18:57 → 00:19:02 มีถุงมืออออกรค่ะค่ะโอประมาทไม่ได้เลยนะ
00:19:02 → 00:19:05 คะอะไรที่แบบแม้กระทั่งคือพอมันรู้สึกว่า
00:19:05 → 00:19:08 พอมันโดนร่างกายอย่าเงี้ยค่ะมันโอ้โหความ
00:19:08 → 00:19:11 เจ็บปวดความแสบความร้อนความอะไรอย่าง
00:19:11 → 00:19:13 เงี้ยเอาแค่เราโดนนิดเดียวอ่ะค่ะอาจารย์
00:19:13 → 00:19:16 ยังแบบว่าจะทนไม่ไหวเลยอ่ะ
00:19:16 → 00:19:21 อืแล้วเคยได้ยินมาว่าเอ่อถ้าโดนแผลไฟไหม้
00:19:21 → 00:19:23 น้ำร้อนลวกอะไรอย่างงี้นะคะอ่าอันนี้
00:19:23 → 00:19:26 เดี๋ยวให้อาจารย์ได้ช่วยเ่อบอกข้อเท็จ
00:19:26 → 00:19:28 จริงให้หน่อยเรื่องเกี่ยวกับยาสีฟันอ่า
00:19:28 → 00:19:30 ได้ยินมาตั้งแต่เด็กๆแต่เดี๋ยวนี้เชื่อ
00:19:30 → 00:19:32 ว่าหลายคนก็เริ่มมีความรู้และแต่ยืนยัน
00:19:32 → 00:19:35 กันอีกทีนึงนะคะว่าถ้าแผลไฟไหม้น้ำร้อน
00:19:35 → 00:19:38 ลวกเนี่ยนะคะไม่ควรเอายาสีฟันมาทาใช่มั้ย
00:19:38 → 00:19:41 คะใช่ค่ะไม่ไม่ควรเอายาสีฟันมาทาอย่าง
00:19:41 → 00:19:44 ยิ่ง 1 และระดับเราเมื่อกี้เราคุยกันมัน
00:19:44 → 00:19:46 มีหลายระดับถูกมั้ยคะเมื่อไหร่ก็ตามที่
00:19:46 → 00:19:51 แผลเปิดอ่าผิวหนังเปิดนะคะอันนี้ทำให้ทำ
00:19:51 → 00:19:54 ให้ร่างกายข้างในอ่ะค่ะสัมผัสกับเชื้อโรค
00:19:55 → 00:19:58 ข้างนอกได้โดยตรงเวลาที่เราทำแผลคิดง่ายๆ
00:19:58 → 00:20:01 ค่ะเราต้องเปิดเซตที่มันแบบปลอดเชื้อเลย
00:20:01 → 00:20:04 ในการทำแผลให้คนไข้แต่ละครั้งยาสีฟันไม่
00:20:04 → 00:20:07 ได้ปลอดเชื้อค่ะยาสีฟันมีโอกาสที่ทำให้
00:20:07 → 00:20:11 เกิดการติดเชื้อบริเวณนี้ได้อืเราเรา
00:20:11 → 00:20:13 เลือกใช้วิธีระบายความร้อนอย่างอื่นดี
00:20:13 → 00:20:17 กว่าเช่นนะคะถ้าถ้าเป็นน้ำก็ควรจะใช้น้ำ
00:20:17 → 00:20:21 ที่อุณหภูมิปกติค่ะให้น้ำไหลผ่านเนี่ยละ
00:20:21 → 00:20:24 ค่ะประมาณซักเอ่อเฉลี่ยแล้วอยู่ที่ประมาณ
00:20:24 → 00:20:28 20 นาทีจะใช้ 15-20 หรือ 20-30 นี่มีมี
00:20:28 → 00:20:30 มีหลายหลักฐานเฉิงประจักษ์อยู่เหมือนกัน
00:20:30 → 00:20:34 นะคะแต่ถ้าเฉลี่ยะ 20 นาทีแล้วลดความเจ็บ
00:20:34 → 00:20:37 ปวดลงไปได้คืออย่างน้อยที่สุดเนี่ยเราลด
00:20:37 → 00:20:40 อุณหภูมิความร้อนที่จะไปทำลายเนื้อเยื่อ
00:20:40 → 00:20:44 ต่างๆอ่ะค่ะก็ทำให้ทำลายหยุดสาเหตุมันซะ
00:20:44 → 00:20:48 ก็จะทำให้การทำลายเนี่ยหยุดลงมคะอก็ใช้
00:20:48 → 00:20:52 น้ำไหลผ่าน 15-20 นาทีนะคะค่ะก็จะช่วยลด
00:20:52 → 00:20:55 ได้อ๋อแล้วแล้วจากนั้นต้องทำอะไรต่อมยคะ
00:20:55 → 00:20:57 คือแบบเออรีบไปหาหมอเลยหรือว่ายังพอที่จะ
00:20:57 → 00:21:00 มีอะไรให้เราแบบแบบประทังไว้ก่อนในความ
00:21:00 → 00:21:02 รุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้นได้อะไรอย่าเงี้ย
00:21:02 → 00:21:05 ค่ะปิดแผลเลยได้มั้ยคะแบบพปิดแผลได้อ๋อ
00:21:05 → 00:21:09 ปิดแผลได้ปิดได้แล้วค่อยไปหาหมอนะคะถ้า
00:21:09 → 00:21:14 ถ้าปวดก็ทานยาเอ่อบรรเทาปวดก่อนได้นะคะอื
00:21:14 → 00:21:16 อนี้คือเบื้องต้นก่อนนะคะคุณผู้ฟังเพราะ
00:21:16 → 00:21:21 ว่าอ่าในระดับความความเ่อของแผลเนี่ยก็
00:21:21 → 00:21:23 ไม่รู้ว่าแต่ละคนในระดับไหนแต่เบื้องต้น
00:21:23 → 00:21:27 เนี่ยก็อย่างงนี้ไว้ก่อนแล้วก็รีบไปหาคุณ
00:21:27 → 00:21:29 หมอนะคะแต่แต่คุณหมอคะเอ้ยแต่อาจารย์คะ
00:21:29 → 00:21:32 ถ้าเกิดสมมุติว่าบาดแผลมันลึกมันกว้างนะ
00:21:32 → 00:21:36 คะแล้วก็แบบเอ่ออาจจะไม่ใช่เป็นระดับที่ 1
00:21:36 → 00:21:38 อย่างเงี้ยค่ะเราใช้วิธีแบบเดียวกันแบบ
00:21:38 → 00:21:41 นี้ได้มั้ยคะหรือว่ามันต้องต้องระวังอะไร
00:21:41 → 00:21:44 เป็นพิเศษอีกมั้ยคะคือสำหรับหมายถึงการลด
00:21:44 → 00:21:48 ความร้อนใช่มั้ยคะค่ะอ่าสิ่งสิ่งสำคัญเลย
00:21:48 → 00:21:53 เราไม่ควรเอายาเอ่อหรือเขาเรียกว่าคือ
00:21:53 → 00:21:56 จริงๆเวลาที่คุณหมอใช้ยาป้องกันการติด
00:21:56 → 00:21:59 เชื้อที่แผลเนี่ยเขาก็จะดูลักษณะของบาด
00:21:59 → 00:22:03 แผลซักประวัติเพิ่มควรจะใช้ยาประเภทไหน
00:22:03 → 00:22:06 ที่จะป้องกันการติดเชื้อบริเวณนี้ถูกมคะ
00:22:06 → 00:22:08 อันนี้เราเรากำลังคุยกันเรื่องป้องกันการ
00:22:08 → 00:22:11 ติดเชื้อเนาะค่ะก่อนที่จะไปถึงแพทย์เรา
00:22:11 → 00:22:14 ถ้ามันสกปรกเราล้างน้ำสะอาดธรรมดาได้ปิด
00:22:14 → 00:22:18 แผลด้วยก๊อสแล้วก็ไปพบแพทย์ยาแก้ปวดยัง
00:22:18 → 00:22:21 ทันได้เหมือนเหมือนเดิมแต่ไม่ควรที่จะเอา
00:22:21 → 00:22:26 ยาเอ่อบางอย่างที่เป็นครีมอ่าจากโฆษณา
00:22:26 → 00:22:29 หรืออะไรก็แล้วแต่ที่เรายังไม่แน่ใจค่ะลง
00:22:29 → 00:22:31 ไปเพราะว่าแต่ละคนเนี่ยนะคะก็จะมีปัจจัย
00:22:32 → 00:22:35 ส่วนบุคคลที่ไม่เหมือนกันอย่างเช่นอายุ
00:22:35 → 00:22:38 อายุเด็กกับสูงอายุภูมิคุ้มกันอาจจะแตก
00:22:38 → 00:22:42 ต่างจากในวัยทำงานอาจจะไม่ดีเท่าเราหรือ
00:22:42 → 00:22:44 คนที่เป็นโรคร่วมต่างๆค่ะอย่างเช่นเบา
00:22:44 → 00:22:47 หวานหรือเป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับภูมิคุ้ม
00:22:47 → 00:22:51 กันเอ่อต่ำบกพร่องพวกเค่ะก็ควรจะใช้วิธี
00:22:51 → 00:22:56 การปิดล้างแล้วปิดแผลไปพบแพทย์ได้เลยอื
00:22:56 → 00:22:59 ใช้วิธีเดียวกันได้นะคะแต่ว่ายังไงก็คือ
00:23:00 → 00:23:02 การที่จะคลายความร้อนเนี่ยคือจุดที่สำคัญ
00:23:02 → 00:23:05 ของบาดแผลเพราะว่าอย่างที่อาจารย์อธิบาย
00:23:05 → 00:23:07 คุณผู้ฟังไปตั้งแต่ตอนต้นว่าคือถ้ามันยัง
00:23:07 → 00:23:10 มีความร้อนอยู่ตรงผิวหนังเรายังอะไรอยู่
00:23:10 → 00:23:14 เนี่ยมันก็ยังเกิดความเอ่อเรียกว่าไหม้
00:23:14 → 00:23:17 อยู่ใช่มั้ยคะก็ถ้าเป็นจุดเกิดเหตุจริงๆ
00:23:17 → 00:23:20 เนี่ยนะคะเราเราต้องเอาความร้อนเนี่ยออก
00:23:20 → 00:23:23 จากร่างกายของเราให้เร็วอย่างเช่นถ้ามีมี
00:23:23 → 00:23:25 เพลิงไหม้อยู่เราก็ต้องหยุดส่วนนั้นเสื้อ
00:23:25 → 00:23:29 ผ้าเราถอดได้เราควรถอดเอาถอดออกเลยนะคะ
00:23:29 → 00:23:31 หรือถ้าเกิดว่าไม่มีน้ำอ้าจริงๆไม่มีน้ำ
00:23:31 → 00:23:33 แล้วเราจะทำยังไงกับเพลิงไหม้ที่มันอยู่
00:23:33 → 00:23:37 ที่ตัวเราเพึ่งไปใช้ทรายค่ะมีวิธีอย่าง
00:23:37 → 00:23:41 นั้นนะคะที่จะช่วยแล้วก็บางคนก็ใส่แวนนะ
00:23:41 → 00:23:45 คะที่เคยเจอนี่ต้องมาแหวนกันตัดเอ่อกำไล
00:23:45 → 00:23:48 เหล็กหรือพวกเยค่ะถ้าเป็นไปได้นะคะก็ควร
00:23:48 → 00:23:52 จะถอดเก็บก่อนออกก่อนก่อนที่จะเกิดกระบวน
00:23:52 → 00:23:55 การบ่วมสักครู่นี้ที่ที่เล่าให้ฟังค่ะ
00:23:55 → 00:23:57 โอ้โหต้องระวังหลายอย่างเลยนะอ่ะสุดท้าย
00:23:58 → 00:24:00 นี้ค่ะอาจารย์มีอะไรฝากถึงคุณผู้ฟังหน่อย
00:24:00 → 00:24:03 มยคะขอเนิ้มย้ำว่าให้มีการติดตามนะคะแล้ว
00:24:03 → 00:24:06 ก็กลับมา Follow อัพอย่างต่อเนื่องอ่ะค่ะ
00:24:06 → 00:24:09 เพราะว่าบางทีเนี่ยแผลเนี่ยมันไม่ได้หาย
00:24:09 → 00:24:13 แล้วจบที่แผลแห้งนะคะมันอาจจะมีลักษณะของ
00:24:13 → 00:24:16 แผลที่เป็นแผลเป็นนูนนะคะติดตามไปอีก
00:24:16 → 00:24:19 ประมาณเอ่อเดือนครึ่งถึง 2 เดือนแผลึ่ง
00:24:19 → 00:24:23 ึ่งนูนขึ้นมาก็มีค่ะนะคะเห่านั้นก็จะนำ
00:24:23 → 00:24:25 ปัญหาตามมาอีกค่ะไม่ว่าจะเป็นตปัญหา
00:24:25 → 00:24:29 เรื่องของการคันนะคะการการระบายความร้อน
00:24:29 → 00:24:32 ไม่ดีค่ะกลุ่มนั้นก็จะร้อนพิเศษเลยนะคะ
00:24:32 → 00:24:35 หรือไม่ความเจ็บปวดก็จะยังมีอยู่ในบางราย
00:24:35 → 00:24:38 หรืออาจจะมีภาวะแทรกซ้อนอื่นๆเช่นมีการ
00:24:38 → 00:24:42 ดึงล้างของแผลเหล่านี้ค่ะก็อยากให้กลับมา
00:24:42 → 00:24:44 ดูแลอย่างต่อเนื่องแต่ถ้าเป็นไปได้นะคะ
00:24:45 → 00:24:48 เราก็หลีกเลี่ยงป้องกันค่ะดีที่สุดนะคะใน
00:24:48 → 00:24:52 การที่ไม่ให้เกิดแผลไหม้ค่ะอืนะคะก็อ่า
00:24:52 → 00:24:55 อุบัติเหตุมันอาจจะเกิดขึ้นได้ค่ะแต่ก็ใน
00:24:55 → 00:24:58 ส่วนของการที่ระวังไว้ก่อนนะคะอันไหนที่
00:24:58 → 00:25:01 มันพอที่จะระวังได้ก็ระวังส่วนอันไหนที่
00:25:01 → 00:25:03 ถ้ามันเกิดเหตุแล้วก็สำคัญคือการ
00:25:03 → 00:25:06 ปฐมพยาบาลเบื้องต้นนะคะซึ่งอาจารย์ได้
00:25:06 → 00:25:08 อธิบายเบื้องต้นให้คุณผู้ฟังได้ฟังกันไป
00:25:08 → 00:25:10 แล้วนะคะเดี๋ยวถ้ายังไงมีอะไรเดี๋ยวเราคง
00:25:10 → 00:25:12 ได้คุยรายละเอียดในเรื่องนี้เพิ่มเติม
00:25:12 → 00:25:14 ด้วยนะคะเพราะว่ารายละเอียดค่อนข้างจะ
00:25:14 → 00:25:17 เยอะนะคะวันนี้ต้องขอขอบคุณอาจารย์ด้วยนะ
00:25:17 → 00:25:20 คะที่มาร่วมพูดคุยกับรายการโรงหมอของเรา
00:25:20 → 00:25:24 นะคะขอบคุณค่ะอาจารย์ขาค่ะค่ะสวัสดีค่ะ
00:25:24 → 00:25:26 เอาล่ะค่ะคุณผู้ฟังคะก็หมดเวลาแล้วนะคะ
00:25:26 → 00:25:28 เราจะกลับมาพบกันใหม่ครั้งหน้ากับกับราย
00:25:28 → 00:25:31 การโรงหมอทางไทย pbh podcast ค่ะวันนี้
00:25:31 → 00:25:34 ลาไปก่อนนะคะสวัสดีค่ะ This Is thay
00:25:34 → 00:25:37 PBS podcast สาเหตุของโรคหน้าเบี้ยว
00:25:37 → 00:25:39 ครึ่งซี่เกิดจากอะไรอีสุกอีสัยกับงู
00:25:39 → 00:25:42 สวัสดิสัมพันธ์กับโรคนี้อย่างไรนายแพทย์
00:25:42 → 00:25:45 ชลพิวัฒน์ตรีพงษ์จากสถาบันประสาทวิทยากรม
00:25:45 → 00:25:48 การแพทย์กระทรวงสาธารณสุขมาเล่าให้ฟัง
00:25:48 → 00:25:51 ครับปกติหน้าเราทั้ง 2 ฝั่งเนี่ยเวลาขยับ
00:25:51 → 00:25:55 มันก็จะต้องขยับไปพร้อมๆกันนะครับเวลาที่
00:25:55 → 00:25:58 มีปัญหามันก็จะเห็นชัดเจนเลยว่าข้างนึง
00:25:58 → 00:26:00 ขยับแต่ว่าอีกข้างนึงเนี่ยไม่ขยับซึ่ง
00:26:00 → 00:26:02 สาเหตุมันเกิดได้จากหลายอย่างแต่ว่า
00:26:02 → 00:26:05 สาเหตุหลักๆ 2 อย่างที่จะแตกต่างกันทั้ง
00:26:05 → 00:26:08 ในแง่ของอาการแล้วก็วิธีการรักษาก็คือโรค
00:26:08 → 00:26:11 เส้นประสาทใบหน้าอักเสบนะครับหรืออาจจะ
00:26:11 → 00:26:14 เคยได้ยินนะครับเราเรียกเ py อือีกอันนึง
00:26:14 → 00:26:18 ก็คือโรคหลอดเลือดสมองเลยซึ่งแน่นอนส่วน
00:26:18 → 00:26:21 ใหญ่ถ้าเป็นอาการชัดๆมันก็จะมีอาการแขนขา
00:26:21 → 00:26:24 ของข้างที่หน้าเบี้ยวเนี่ยอ่อนแรงร่วม
00:26:24 → 00:26:27 ด้วยอันนั้นเป็นอาการของอัมพฤกอัมพาจาก
00:26:27 → 00:26:30 โรคหลอดเลือดสมองถ้าเป็นโรคหลอดเลือดสมอง
00:26:30 → 00:26:32 เนี่ยก็จะเป็นผู้สูงอายุหน่อยนึงนะครับ
00:26:32 → 00:26:35 แล้วก็มีโรคประจำตัวไม่ว่าจะเป็นเบาหวาน
00:26:35 → 00:26:39 ความดันไขมันในเลือดสูงคนที่สูบบุหรี่นะ
00:26:39 → 00:26:43 ครับหรือคนที่มีหัวใจเต้นผิดจังหวะหรือ
00:26:43 → 00:26:47 อีกอีกแบบนึงก็คือตอนเนี้ยทุกคนก็มีโอกาส
00:26:47 → 00:26:50 มากขึ้นเพราะว่าเราอยู่ในสถานการณ์ที่มี
00:26:50 → 00:26:52 ปัญหาเรื่องของฝุ่น PM 2.5 ซึ่งก็เป็น
00:26:53 → 00:26:55 ปัจจัยเสียงของการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง
00:26:55 → 00:26:58 เหมือนกันกลุ่มแรกก็คือเส้นประสาทใบหน้า
00:26:58 → 00:27:01 อักเสบนะครับเอ่อปกติเนี่ยสมองเราจะมี
00:27:01 → 00:27:04 เส้นเ่อประสาทสมองอยู่ทั้งหมด 12 คู่นะ
00:27:04 → 00:27:07 ครับแต่ว่าคู่ที่ 7 เนี่ยจะทำหน้าที่ใน
00:27:07 → 00:27:10 การเลี้ยงกล้ามเนื้อใบหน้าเพื่อที่จะให้
00:27:10 → 00:27:13 เราสามารถแสดงออกถึงอารมณ์แล้วก็แสดงสี
00:27:13 → 00:27:16 หน้าได้นะครับในทุกรูปแบบทีนี้ตัวเส้น
00:27:16 → 00:27:18 ประสาทนี้ก็มีโอกาสที่จะเกิดการอักเสบ
00:27:18 → 00:27:21 ขึ้นได้ซึ่งการอักเสบก็จะมีจากหลายๆ
00:27:21 → 00:27:23 สาเหตุนะครับส่วนใหญ่จะเป็นแบบที่ไม่ทราบ
00:27:23 → 00:27:26 สาเหตุคือมันก็อักเสบของมันเองมีส่วนน้อย
00:27:26 → 00:27:29 ที่เกิดตามหลังการอักเสบการติดเชื้อของ
00:27:29 → 00:27:32 ทางเดินหายใจเช่นเราเป็นหวัดนะครับแล้วก็
00:27:32 → 00:27:34 การอักเสบนั้นเนี่ยไม่ได้อยู่เฉพาะในลำคอ
00:27:34 → 00:27:37 และมันลุกลำแล้วก็ทำให้เกิดการอักเสบของ
00:27:37 → 00:27:40 ตัวเส้นประสาทด้วยอหรือบางคนอาจจะมีเอ่อ
00:27:40 → 00:27:44 เส้นประสาทอักเสบนะครับจากตัวไวรัสอ่องู
00:27:44 → 00:27:47 สวัสดหรือไวรัสอีสุกอีสัยก็ได้เช่นเดียว
00:27:47 → 00:27:49 กันเพราะฉะนั้นถ้าสมมุติว่าเป็นเส้น
00:27:49 → 00:27:52 ประสาทสมองคู่ที่ 7 อักเสบแล้วทำให้มี
00:27:52 → 00:27:55 อาการหน้าเบี้ยวถ้าเป็นจากตัวงูสวัสด์เรา
00:27:55 → 00:27:59 ก็จะเห็นตุ่มใสๆขึ้นบริเวณตรงเอ่อหน้าหู
00:27:59 → 00:28:01 นะครับตรงแก้มอะไรอย่าเงี้ยครับก็จะเห็น
00:28:01 → 00:28:04 ขึ้นด้วย
00:28:04 → 00:28:09 ครับ This Is Toy PBS
00:28:09 → 00:28:12 podcast ติดตามรายการทางเว็บไซต์และ
00:28:12 → 00:28:15 แอปพลิเคชันของ Thai PBS podcast
00:28:16 → 00:28:18 spotify soundcloud Google podcast
00:28:18 → 00:28:21 Apple podcast และ YouTube Channel
00:28:21 → 00:28:25 Thai PBS podcast tha PBS podcast
00:28:25 → 00:28:28 View the world via The Voice
00:28:28 → 00:28:36 [เพลง]
00:28:36 → 00:28:39 แ