00:00:00 → 00:00:01 โดยทั่วไปเวลาเตรียมตัวยกตัวอย่างเช่น
00:00:01 → 00:00:04 เวลาเจาะเลือดอ่ะคุณพยาบาลคุณหมอก็จะบอก
00:00:04 → 00:00:08 ว่าให้มีการงดน้ำงดอาหารใช่ไหมคะพักผ่อน
00:00:08 → 00:00:11 ให้เพียงพอทีละอันก่อนสมมุติว่าถ้า
00:00:11 → 00:00:13 อาจารย์จะงดน้ำงดอาหารเนี่ยจริงๆหลักๆ
00:00:13 → 00:00:16 เนาะงดอาหารไม่ค่อยงดน้ำนะคะดื่มน้ำได้
00:00:16 → 00:00:20 เวลาที่จะงดน้ำเนี่ยเราจะมีผลเพราะว่า
00:00:20 → 00:00:22 เวลาเรากินอาหารปุ๊บมันจะมีผลกับระดับตัว
00:00:22 → 00:00:25 ที่ชื่อว่าน้ำตาลในเลือดกับตัวที่ชื่อว่า
00:00:25 → 00:00:28 ไขมันโดยเฉพาะไตรกลีเซอไรด์นะคะเพราะ
00:00:28 → 00:00:30 ฉะนั้นเนี่ยตัวเลขที่เราตั้งเป็นค่าปกติ
00:00:30 → 00:00:33 อ่ะมันเป็นค่าตอนที่เรางดน้ำงดอาหารตอน
00:00:33 → 00:00:35 ที่เราไม่ได้กินอะไรถ้าอาจารย์กินปุ๊บ
00:00:35 → 00:00:37 แล้วผลเลือดมันเปลี่ยนเราก็ตอบไม่ได้แล้ว
00:00:37 → 00:00:39 ว่าเอ๊ะมันปกติหรือมันไม่ปกติไม่งั้นตัว
00:00:39 → 00:00:41 เลขที่ได้เนี่ยมันจะไม่ได้ตามมาตรฐานที่
00:00:41 → 00:00:44 เขาคิดเอาไว้คือค่าพวกเนี้ยมันเก็บตอนที่
00:00:44 → 00:00:47 ไม่ได้กินอะไรเพราะฉะนั้นกินปุ๊บน้ำตาลใน
00:00:47 → 00:00:49 เลือดมันสูงมันก็จะบอกไม่ได้อ้าเขาก็เลย
00:00:49 → 00:00:52 จะมีบอกว่าอันที่ 1 คืองดน้ำงดอาหารนาน
00:00:52 → 00:00:55 เท่าไหร่แต่ชั่วโมงอ้าวเนอะเออก็จะประมาณ
00:00:55 → 00:00:58 เนี้ย 8 ชั่วโมงก็อาจารย์ก็สมมุตินอน
00:00:58 → 00:01:00 เที่ยงคืนก็ตื่นมาเจาะเลือดตอน 7 ช่วง
00:01:00 → 00:01:02 เช้าสมมุติที่กินไปครั้งสุดท้ายตอนประมาณ
00:01:02 → 00:01:04 3 ทุ่ม 4 ทุ่มก็เช้ามาเจาะเลือดได้อย่าง
00:01:04 → 00:01:08 นี้เป็นต้นนะคะโดยทั่วไปอย่างนี้ค่ะถ้าจะ
00:01:08 → 00:01:10 มีน้ำตาลอยู่ในเลือดยังไงก็ตามร่างกายจะ
00:01:10 → 00:01:13 ต้องเอาน้ำตาลลงให้ได้เพราะฉะนั้นพอจะไม่
00:01:13 → 00:01:16 กินอะไรเข้าไปเขาจะเคลียร์ละมันก็เหมือน
00:01:16 → 00:01:19 ระบายเนาะน้ำมันก็จะระบายและน้ำตาลมันจะ
00:01:19 → 00:01:22 ต่ำลงต่ำกว่าร้อยนะคะนี่คือคนปกติยังไงก็
00:01:22 → 00:01:25 ต่ำกว่าร้อยแต่ถ้าสมมุติว่ามันเกิน 126
00:01:25 → 00:01:30 อันนี้สงสัยละว่าจนจะเป็นเบาหวานนะคะอ่า
00:01:30 → 00:01:33 ถ้าอยู่ระหว่างร้อยถึง 126 ตรงนี้เนาะ
00:01:33 → 00:01:37 เช่น 100 นึงจนถึง 125 อันนี้ก็จะบอกว่า
00:01:37 → 00:01:40 เออเสี่ยงเราใช้คำว่าเสียงเรายังตอบไม่
00:01:40 → 00:01:43 ได้ว่าคนเบาหวานหรือเปล่าเอาใหม่ทีนี้
00:01:43 → 00:01:44 อาจารย์เราพิมพ์บอกว่าเออผมรู้สึกว่าผม
00:01:44 → 00:01:48 ปัสสาวะบ่อยน้ำหนักผมก็ลดเอ่อแม่ผมเป็น
00:01:48 → 00:01:51 เบาหวานอ่ะแล้วอยู่ๆกินไปละแต่อยากจะเจาะ
00:01:51 → 00:01:54 มีที่จอดน้ำตาลเจาะปึ้งขึ้นมา 220
00:01:54 → 00:01:58 อันนี้น่าสงสัยนะคะเจาะน้ำตาลเวลาใดๆก็
00:01:58 → 00:02:00 ตามไม่ว่าจะกินหรือไม่กินก็ตามไม่ควรจะ
00:02:00 → 00:02:02 เกิน 200 ค่ะ
00:02:02 → 00:02:05 ถ้าเกิน 200 อาจารย์ควรจะมารีเช็คเลยค่ะ
00:02:05 → 00:02:08 ว่าจะเป็นเบาหวานหรือเปล่านะคะทีนี้อัน
00:02:08 → 00:02:12 นี้มันจะเป็นน้ำตาลที่ชั่วขณะเนาะคือเจาะ
00:02:12 → 00:02:15 ตอนนี้ผลจากน้ำตาลตอนนั้นกินเยอะเท่านี้
00:02:15 → 00:02:18 ถ้าสมมุติว่าเราไม่มั่นใจหรือเราอยากรู้
00:02:18 → 00:02:20 ว่าเออน้ำตาลในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา
00:02:21 → 00:02:22 เป็นยังไงเราก็จะเจาะสิ่งที่เราเรียกว่า
00:02:22 → 00:02:25 น้ำตาลสะสมฉะนั้นถ้าสมมุติเราจะดูว่า
00:02:25 → 00:02:28 ที่ผ่านมาทั้ง 3 เดือนเนี่ยน้ำตาลเราสูง
00:02:28 → 00:02:31 ไหมก็คือดูน้ำตาลสะสม
00:02:31 → 00:02:34 อีกวิธีหนึ่งที่เขาจะทำก็คือบางทีคนท้อง
00:02:34 → 00:02:36 จะโดนนะคะเดี๋ยวบอกว่าเอ๊ะเรามีแค่ 3
00:02:36 → 00:02:39 วิธีลืมไปเลยถ้าคนท้องบางทีน้ำตาลสูงแล้ว
00:02:39 → 00:02:41 เขาต้องการจะตรวจว่าเป็นเบาหวานหรือเปล่า
00:02:41 → 00:02:44 เขาจะให้กินน้ำตาลค่ะเจาะตอนก่อนกินน้ำ
00:02:44 → 00:02:47 ตาลกินน้ำตาลเข้าไปเราก็ 1 ชั่วโมง 2
00:02:47 → 00:02:50 ชั่วโมงแล้วดูว่าร่างกายตอบสนองกับน้ำตาล
00:02:50 → 00:02:52 ที่กินเข้าไปมากแค่ไหนแล้วมันวินิจฉัยว่า
00:02:52 → 00:02:54 เป็นเบาหวานหรือเปล่าค่ะ
00:02:54 → 00:02:58 พูดเพราะพูดถึงตัวน้ำตาลสะสมผมเชื่อว่า
00:02:58 → 00:03:01 หลายๆคนเนี่ยครับก่อนที่จะไปเจาะเลือดก็
00:03:01 → 00:03:04 มักจะ 1 สัปดาห์ก่อนหน้าที่จะไปเจาะเลือด
00:03:04 → 00:03:07 ก็จะพยายามที่จะลดน้ำตาลลงเนอะโดยที่โดย
00:03:07 → 00:03:09 ที่ลืมไปว่าจริงๆแล้วตัวน้ำตาลสะสมมันจะ
00:03:09 → 00:03:12 เป็นตัวฟ้องเลยว่าพฤติกรรมการกินของเราใน
00:03:12 → 00:03:15 ช่วง 3 เดือนนั้นเป็นอย่างไรอันนี้พูดจาก
00:03:15 → 00:03:16 ประสบการณ์ส่วนตัว
00:03:17 → 00:03:24 ประสบการณ์ส่วนตัวเหมือนกัน
00:03:24 → 00:03:28 บางทีก็จะรู้ตัวเลยบอกว่ารีบเดินเข้ามา
00:03:28 → 00:03:30 ก่อนที่หมอจะดุรู้ตัวและสารภาพก่อนแล้ว
00:03:30 → 00:03:33 หมอช่วงนี้นะหรือไม่ก็ถือมะม่วงมาค่ะ
00:03:33 → 00:03:35 เพื่อจะแบบคิดว่าหมอจะไม่ดุแน่ๆเอามาพ่อ
00:03:36 → 00:03:37 มาฝากนิดนึงแล้วตัวเองก็กินมาเยอะแล้ว
00:03:37 → 00:03:40 อะไรอย่างนี้
00:03:40 → 00:03:43 แล้วถ้าสมมุติว่าตัวเลขมันสูงมากๆแล้วควร
00:03:43 → 00:03:47 จะต้องทำทำตัวอย่างไรรักษาเลยไหมหรือยัง
00:03:47 → 00:03:49 ไงหรือว่าควรจะต้องมีการเช็กกันอีกครั้ง
00:03:49 → 00:03:52 นึงเพราะว่าเวลาที่เราดูตัวเลขค่าต่างๆนะ
00:03:52 → 00:03:55 ครับมันก็จะเป็นณจุดๆนั้นณช่วงเวลานั้น
00:03:55 → 00:03:58 จริงๆเนี่ยถามว่าเวลาเราจะรักษาสมมุติ
00:03:58 → 00:04:59 เวลาน้ำตาลสูงอ่ะค่ะ
00:04:59 → 00:05:02 บอกว่าโอเคนะคะควรแล้วยิ่งถ้ามีอาการเนอะ
00:05:02 → 00:05:06 ก็ควรที่จะเริ่มยาละถ้าเกิดเกิน 200 180
00:05:06 → 00:05:08 อย่างนี้ค่ะส่วนใหญ่จะเริ่มยาละแต่ถ้า
00:05:09 → 00:05:11 สมมติตัวเลขมันอยู่กลางๆไม่มากเท่าไหร่
00:05:11 → 00:05:14 แล้วคนไข้ก็เห็นมีประวัติชัดเจนเราอาจจะ
00:05:14 → 00:05:17 ให้ไปปรับพฤติกรรมได้ค่ะอ่าไปปรับเรื่อง
00:05:17 → 00:05:19 อาหารนะแล้วนัดมาเร็วนิดนึงเพื่อจะมาดู
00:05:19 → 00:05:22 ว่าเป็นยังไงอย่างนี้ค่ะอันนี้ก็จะแล้ว
00:05:22 → 00:05:24 แต่เคสแต่ถ้าสมมุติว่าน้ำตาลแบบเกิน 200
00:05:24 → 00:05:27 โดยทั่วไปเขาจะเริ่มยานะคะหรือบางคนถ้า
00:05:27 → 00:05:30 แบบ 3 400 อย่างเงี้ยอาจจะต้องโดนยาฉีด
00:05:30 → 00:05:33 ไปเลยก็มีนะคะทีนี้ในกรณีของเบาหวานเนี่ย
00:05:33 → 00:05:36 เราจะดู 2 อย่างค่ะอันแรกคืออาการเนาะที่
00:05:36 → 00:05:38 บอกไปเมื่อสักครู่
00:05:38 → 00:05:41 อันที่ 2 เราจะดูว่าคนนั้นมีภาวะแทรกซ้อน
00:05:41 → 00:05:44 อย่างแบบเฉียบพลันหรือเปล่าเช่นเขาบอกว่า
00:05:44 → 00:05:46 เบาหวานสูงแล้วเลือดเป็นกรดหรือช็อกน้ำ
00:05:46 → 00:05:49 ตาลถ้าอันนี้ก็ฉีดยาค่ะไม่ต้องคิดมากแล้ว
00:05:49 → 00:05:55 อาจจะต้องนอนโรงพยาบาลด้วยค่ะ
00:05:55 → 00:05:59 [เพลง]