00:00:00 → 00:00:04 บอกว่าค่านิยมการทำประกันสุขภาพน้อยเพราะ
00:00:04 → 00:00:07 ยังมีค่านิยมก็คือ 1 เงินทิ้งชอบมองว่า
00:00:07 → 00:00:11 เป็นเงินทิ้งคำพูดเป็นเงินทิ้งทิ้งไป
00:00:11 → 00:00:13 อย่างนั้นแหละครับไม่เคยได้ใช้หรอก
00:00:13 → 00:00:18 [เพลง]
00:00:18 → 00:00:23 หรือมีแนวความคิดอะไรที่ที่ทางเพจคิดว่า
00:00:23 → 00:00:26 เออเป็นค่านิยมที่จริงๆน่าจะต้องถึงเวลา
00:00:26 → 00:00:28 และที่จะต้องปรับบ้างแล้วก็ให้ความสำคัญ
00:00:28 → 00:00:32 หน่อยเพราะส่วนตัวผมเองผมเชื่อนะครับว่า
00:00:32 → 00:00:35 คนเราทุกคนควรจะมีประกันนะครับเพราะว่า
00:00:35 → 00:00:38 ค่าใช้จ่ายทางการแพทย์มันสูงขึ้นเรื่อยๆ
00:00:38 → 00:00:43 ทุกปีนะครับเหมือนกับการศึกษาของลูกๆ
00:00:43 → 00:00:45 expense หรือค่าใช้จ่ายที่สูงจริงและ
00:00:45 → 00:00:48 เป็นแรงกดดันให้กับครอบครัวคือ
00:00:48 → 00:00:53 ค่ารักษาทางการแพทย์
00:00:53 → 00:00:57 จริงๆแล้วต้องบอกว่าถ้าถามว่ามันจ่ายทิ้ง
00:00:57 → 00:01:01 ไหมถ้าคนไม่ป่วยมันก็คือการทีนี้เราต้อง
00:01:01 → 00:01:05 ต้องห่วงสมมุติว่าผมจะทำประกันสุขภาพจ่าย
00:01:05 → 00:01:07 เบี้ยปีละ 30,000 บาทนะครับผมทำไป 10 ปี
00:01:07 → 00:01:10 ผมไม่ป่วยเลยครับผมก็คือทิ้งเงินไป
00:01:10 → 00:01:12 300,000 บาทปีที่ 11
00:01:12 → 00:01:16 ผมเกิดป่วยและป่วยหนักมากเลยแล้วเข้าโรง
00:01:16 → 00:01:20 พยาบาลครั้งเดียวเลยตู้มโดนแบบเป็นโรคน้ำ
00:01:21 → 00:01:22 หนักก็จ่ายไป
00:01:22 → 00:01:26 450,000 บาทประกันออกให้หรือว่าร้านนึง
00:01:26 → 00:01:31 ทุกอย่างมันก็คือจะคืนกลับไปคือมันก็มอง
00:01:31 → 00:01:33 ได้ในแง่นั้นถ้าป่วยคิดว่ายังไงมันก็คุม
00:01:33 → 00:01:36 ได้อยู่แล้วเครื่องมันก็อยู่ที่เราวางแผน
00:01:36 → 00:01:39 แหละครับว่าเราจะมองแบบนี้ไหมเพราะว่าณ
00:01:39 → 00:01:41 วันนี้ถ้าเราบอกว่าเราประหยัดเงินประหยัด
00:01:41 → 00:01:43 เบี้ยประกันที่เราทำเพราะเราคิดว่ามันจะ
00:01:43 → 00:01:46 ไม่ป่วยแต่พอเมื่อถึงวันที่มันป่วยขึ้นมา
00:01:46 → 00:01:49 ปุ๊บผมเชื่อว่าทุกคนเป็นพอถึงวันที่ป่วย
00:01:49 → 00:01:52 ขึ้นมาปุ๊บเราจะถามตัวเองว่าเราจะไปโรง
00:01:52 → 00:01:55 พยาบาลใช้สิทธิ์สวัสดิการเนี่ยประกาศทั่ว
00:01:55 → 00:01:57 หน้าเนี่ย 30 บาทรักษาทุกโรคหรือเราอยาก
00:01:57 → 00:02:00 เดินเข้าโรงพยาบาลเอกชนซึ่งแน่นอนนะครับ
00:02:00 → 00:02:01 เราคุยกันไปเมื่อสักครู่นี้แล้วเราบอกว่า
00:02:01 → 00:02:05 ลงเราทุกคนมีสิทธิ์แต่ว่า
00:02:05 → 00:02:09 คุณภาพในการได้รับการบริการเนี่ยมันก็จะ
00:02:09 → 00:02:13 ต่างกันเราแค่ต้องถามตัวเราเองว่าเราเรา
00:02:13 → 00:02:15 อยากที่จะเข้าโรงพยาบาลเอกชนไหมหรือว่า
00:02:15 → 00:02:18 เราก็ไม่เป็นไรไปโรงพยาบาลรัฐบาลตาม
00:02:18 → 00:02:21 สิทธิ์ที่มีให้ก็ได้ซึ่งถามว่าดีแตกต่าง
00:02:21 → 00:02:25 กันมากขนาดไหนครับมันผมว่าทุกคนพอทราบ
00:02:25 → 00:02:27 แหละไม่ใช่ว่าคุณหมอไม่ดีหรืออะไรไม่เก่ง
00:02:27 → 00:02:31 นะครับแต่ว่าประเทศเราโรงพยาบาลมันก็มี
00:02:31 → 00:02:34 อยู่จำกัดใช่ไหมครับแต่ประชากรมันมีเยอะ
00:02:34 → 00:02:36 คนที่ไปใช้สิทธิ์อ่ะมันก็มีเยอะเพราะ
00:02:36 → 00:02:39 ฉะนั้นพวกลำดับในการได้รับการดูแลหรือ
00:02:39 → 00:02:42 อะไรการบริการมันก็จะต่างกันนะครับบางคน
00:02:42 → 00:02:44 เป็นโรครุนแรงเนี่ยผมก็เจอมากับตัวผมก็
00:02:44 → 00:02:47 เห็นมากับคนรอบข้างผมอ่ะครับที่โอเคไปใช้
00:02:47 → 00:02:50 สวัสดิการรัฐแล้วก็ไปใช้สิทธิ์แบบเนี้ย
00:02:50 → 00:02:53 แล้วมันก็การที่บางทีเราได้รับการรักษา
00:02:53 → 00:02:57 ล่าช้ามันก็ส่งผลทำให้โลกลุกลามไปหรือว่า
00:02:57 → 00:03:00 ให้ลึกลงไปในตรงนั้นอีกก็คือคือมันจะเป็น
00:03:00 → 00:03:04 เรื่องของมันจะมียาที่อยู่ในระบบกับยาที่
00:03:04 → 00:03:07 อยู่นอกระบบซึ่งโอเคจ่ายได้ทุกอย่างแต่
00:03:07 → 00:03:10 เป็นการใช้ยาในระบบบางทีไปถึงจุดที่มันจะ
00:03:10 → 00:03:12 ต้องใช้ยานอกระบบมันมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม
00:03:12 → 00:03:15 เติมซึ่งตรงนี้ก็ว่ากันไป Case by Case
00:03:15 → 00:03:18 แล้วก็โลกใบโลกเพราะฉะนั้นถ้าเราสามารถ
00:03:18 → 00:03:21 ที่จะทำประกันสุขภาพให้กับตัวเองได้ผมจะ
00:03:21 → 00:03:25 ผมจะมองว่ามันคือการยกระดับคุณภาพชีวิต
00:03:25 → 00:03:28 เราให้เมื่อเราป่วยเนี่ยครับเรามีโอกาส
00:03:28 → 00:03:32 ที่จะได้รับการรักษาที่ดีกว่าที่รวดเร็ว
00:03:32 → 00:03:35 กว่าแล้วก็สามารถทำให้เรากลับมามีชีวิต
00:03:35 → 00:03:39 ที่เป็นปกติได้ไวมากมาย
00:03:39 → 00:03:44 มีค่านิยมอะไรอีกไหมที่รู้สึกว่าคนไม่ชอบ
00:03:44 → 00:03:45 ซื้อประกัน
00:03:45 → 00:03:49 ถ้าเอานอกจากเรื่องจ่ายทิ้งแล้วส่วนมาก
00:03:49 → 00:03:52 ถ้าถามผมที่ที่ผมเจอหรือว่าที่ผมมองเนี่ย
00:03:52 → 00:03:57 ผมมองว่าคนมีอคติกับกับประการคนเหตุผลที่
00:03:57 → 00:04:00 คนมีหลายต้องแยกก่อน 2 ส่วนก็คือส่วน
00:04:00 → 00:04:02 หนึ่งคือมีอคติกับตัวแทน
00:04:02 → 00:04:06 เพราะว่าตัวแทนตัวไม่ใช่ทุกคนครับตัวแทน
00:04:06 → 00:04:09 บางคนที่เขาบอกว่าเป็นตื้อตามตื้อตามจะ
00:04:09 → 00:04:11 ขายๆๆอย่างเดียวอะไรอย่างนี้ครับไม่ได้
00:04:11 → 00:04:14 ฟังลูกค้าว่าลูกค้าพร้อมไม่พร้อมก็คือ
00:04:14 → 00:04:19 เหมือนแบบไปฟอสไปกดดันนะครับ 2 คือเรื่อง
00:04:19 → 00:04:22 ของบริษัทประกันที่แบบเคลมยากบ้างอะไร
00:04:22 → 00:04:25 บ้างแล้วก็มันหลอกลวงมาลัยอะไรอย่างนี้
00:04:25 → 00:04:27 คือมันมีมันมีความ
00:04:27 → 00:04:31 เข้าใจความสับสนกันอยู่ถ้าจะให้ผมอธิบาย
00:04:31 → 00:04:34 ในมุมผมแล้วกันผมเคยบอกว่ามันถูกหรือมัน
00:04:34 → 00:04:38 ผิดแต่ผมจะมองว่าจริงๆทุกอาชีพครับทุกวง
00:04:38 → 00:04:42 การมันจะมีดีแล้วมันก็จะมีไม่ดีเหมือนตัว
00:04:42 → 00:04:45 แทนประกันคนนึงถ้าเป็นตัวแทนที่เก่งๆเขา
00:04:45 → 00:04:48 อธิบายดีเขารู้ดีเขาแจ้งลูกค้าได้ดีลูก
00:04:48 → 00:04:51 ค้าจะเข้าใจทุกอย่างที่ไม่คลาดเคลื่อนกับ
00:04:51 → 00:04:55 สิ่งที่เขาจะได้แต่ถ้าเป็นบางคนที่อาจจะ
00:04:55 → 00:04:58 ฝึกมาไม่พอหรือว่าร่วมรัฐตัดตอนพลาดในการ
00:04:58 → 00:05:00 บอกบางสิ่งบางอย่างให้กับลูกค้าไปทำให้
00:05:00 → 00:05:02 ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ไม่ดีมันก็จะ
00:05:03 → 00:05:06 เกิดการรีวิวและบอกต่อกันไปในเรื่องของ
00:05:06 → 00:05:09 การเคลมได้เคลมไม่ได้จริงๆประกันถ้าถ้าดู
00:05:09 → 00:05:11 เอกสารจริงๆมันจะมีเงื่อนไขที่ค่อนข้าง
00:05:11 → 00:05:14 เยอะมากบริษัทประกันก็ต้องรับความเสี่ยง
00:05:14 → 00:05:18 ในการที่แบบลูกค้าเองก็จะเข้ามาจะมีเหตุ
00:05:18 → 00:05:20 จะมีอะไรไหมเพื่อที่เขาจะรับประกันเพราะ
00:05:20 → 00:05:22 ฉะนั้นมันก็จะมีเงื่อนไขและเพื่อที่เขา
00:05:22 → 00:05:26 เขาคิดมาแล้วว่าอันนี้มันก็แฟร์สำหรับเขา
00:05:26 → 00:05:28 ด้วยแล้วก็แฟร์สำหรับลูกค้าด้วยเพียงแต่
00:05:28 → 00:05:31 แค่ลูกค้าเองก็คือจะต้องรู้ครับว่าเงิน
00:05:31 → 00:05:34 ใครเหล่านั้นมันคืออะไรซึ่งก็เป็นหน้าที่
00:05:34 → 00:05:36 ของตัวแทนส่วนหนึ่งที่จะต้องบอกแต่เมื่อ
00:05:36 → 00:05:41 ไหร่ก็ตามที่ตัวแทนก็ไม่ได้บอกลูกค้าเอง
00:05:41 → 00:05:45 ก็แบบว่าไม่ได้อ่านโดยละเอียดพอมันมี
00:05:45 → 00:05:47 communicate กันมันก็จะทำให้เกิดกรณีที่
00:05:47 → 00:05:50 รู้สึกว่าทำเหมือนไม่คุ้มทำไม่ได้แล้วก็
00:05:50 → 00:05:55 กลายเป็นวงกว้างคนก็เลยจะ bias ประกัน
00:05:55 → 00:05:58 ดังนั้นเห็นด้วยเลยครับก็คือ
00:05:58 → 00:06:01 อคติอคติเพราะ
00:06:01 → 00:06:05 คนขายหรือว่าตัวแทนที่ตื้อเกินหรืออคติ
00:06:05 → 00:06:09 เพราะว่ารู้สึกว่าประกันหลอกลวงซึ่งถ้าจะ
00:06:09 → 00:06:14 ให้ถ้าจะให้ฝากถึง 3 เรื่องนี้ฉะนั้นสรุป
00:06:14 → 00:06:17 นะคนไทยหรือว่าบ้านเมืองเรานะครับที่ยัง
00:06:17 → 00:06:20 ไม่ใช้ประกันหรือยังไม่นิยมซื้อประกัน
00:06:20 → 00:06:22 เพื่อปกป้องทรัพย์สินตนเองหรือปกป้องตน
00:06:22 → 00:06:25 เองสรุปได้หลักๆคือ 3 เรื่องคือ 1
00:06:26 → 00:06:30 ยังมีความเชื่อว่ามันเป็นเงินทิ้งนะครับ
00:06:30 → 00:06:33 ทิ้งไปอย่างนั้นแหละเดือนปีนึง 2-3 หมื่น
00:06:33 → 00:06:38 สองคือไม่ชอบหรืออคติกับเซลล์หรือว่าตัว
00:06:38 → 00:06:40 แทนประกันหรือ 3 คือยังยังเข้าใจว่า
00:06:40 → 00:06:43 บริษัทประกันถึงเวลาก็ไม่รับผิดชอบหรอก
00:06:43 → 00:06:49 ครับซึ่งความเข้าใจต้องมองว่าการที่เรา
00:06:49 → 00:06:53 ปรับเสร็จและเข้าใจบริบทให้ถูกมันก็จะทำ
00:06:53 → 00:06:54 ให้เราเนี่ยไม่เสียโอกาส
00:06:54 → 00:07:02 [เพลง]