00:00:00 → 00:00:02 ในช่วงนี้เราจะมาพูดคุยกับอาจารย์แพทย์
00:00:02 → 00:00:04 ผู้เชี่ยวชาญ
00:00:04 → 00:00:07 กันสวัสดีค่ะอาจารย์ขอเริ่มต้นที่คำถาม
00:00:07 → 00:00:09 แรกเลยนะ
00:00:09 → 00:00:18 [เพลง]
00:00:18 → 00:00:22 คะอาจารย์คะปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรค
00:00:22 → 00:00:25 เริมมีอะไรบ้างคะค่ะปัจจัยเสี่ยงที่ก่อ
00:00:25 → 00:00:27 ให้เกิดโรคเริมนะคะก่อนอื่นก็ต้องพูดว่า
00:00:27 → 00:00:30 โรคเริมเนี่ยเกิดจากเชื้อไวรัสชนิดเปี่
00:00:30 → 00:00:33 slex ไวรัสใช่ไหมยคะซึ่งเชื้อโรคเริม
00:00:33 → 00:00:35 เนี่ยแบ่งออกเป็น 2 ชนิดก็คือเชื้อโรค
00:00:35 → 00:00:38 เริมที่เกิดจากเชื้อไวรัสเปี่ซิกไวรัส
00:00:38 → 00:00:40 ชนิดที่ 1 ซึ่งตัวนี้เนี่ยจะก่อให้เกิด
00:00:41 → 00:00:44 รอยโรคเป็นแผลหรือว่าตุ่มน้ำุพองบริเวณ
00:00:44 → 00:00:47 รอบๆปากหรือว่าบางคนก็อาจจะถึงจมูกหรือ
00:00:47 → 00:00:49 บางคนก็จะอยู่บริเวณผิวหนังเหนือสะดือ
00:00:49 → 00:00:52 ขึ้นไปนะคะซึ่งโรคนี้เนี่ยจะมีความเสี่ยง
00:00:53 → 00:00:56 ในการติดต่อก็คือคนที่ใช้สิ่งของร่วมกับ
00:00:56 → 00:00:58 คนที่เป็นโรคเรือมที่ป่าอาจจะเป็นการกิน
00:00:58 → 00:01:02 น้ำร่วมกันใช้ช้อนร่วมกันนะคะนอกจากนั้น
00:01:02 → 00:01:05 ก็อาจจะสัมผัสติดโดยการที่สัมผัสโดยตรง
00:01:05 → 00:01:08 ไม่ว่าจะเป็นการจูบหรือการหอมแก้มนะคะ
00:01:08 → 00:01:10 แล้วก็รวมทั้งการทำ oral sex หรืออะไร
00:01:10 → 00:01:12 อย่างนี้ก็ทำให้มีความเสี่ยงต่อการติด
00:01:12 → 00:01:15 เริมชนิดนี้ได้ค่ะโรคเริมชนิดที่ 2 นะคะ
00:01:16 → 00:01:19 คือโรคเริมที่ติดจากเชื้อไวรัสเปิกไวรัส
00:01:19 → 00:01:22 ชนิดที่ 2 ค่ะเชื้อโรคเริมชนิดนี้เนี่ยก็
00:01:22 → 00:01:25 จะทำให้เกิดรอยโรคบริเวณรอบๆอวัยวะเพศ
00:01:25 → 00:01:27 อะไรอย่างนี้นะคะโดยรอยโรคเนี่ยก็จะเป็น
00:01:28 → 00:01:31 ตุ่มน้ำเป็นแผลอะไรอย่างงี้ได้ค่ะโดยคน
00:01:31 → 00:01:33 ที่มีความเสี่ยงต่อการติดโรคเริมชนิดนี้
00:01:33 → 00:01:36 เนี่ยก็คือคนที่มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้อง
00:01:36 → 00:01:39 กันกับคนที่เป็นโรคเริมชนิดนี้นะคะรวมถึง
00:01:39 → 00:01:43 การแชร์ของใช้ค่ะแล้วก็อาจจะติดในกรณีที่
00:01:43 → 00:01:46 คุณแม่ที่มีโรคอยู่แล้วแล้วคลอดบุตรผ่าน
00:01:46 → 00:01:50 ทางช่องทางนั้นด้วยค่ะคนกลุ่มใดที่มีความ
00:01:50 → 00:01:53 เสี่ยงในการเป็นโรคเริมบ้างคะค่ะคนที่มี
00:01:53 → 00:01:56 ความเสี่ยงในการเกิดโรคเริมนะคะก็คือคน
00:01:56 → 00:01:59 ที่ใช้สิ่งของร่วมกับคนที่เป็นโรคเริมค่ะ
00:01:59 → 00:02:02 ไม่ว่าอาจจะเป็นแก้วน้ำหรือว่าช้อนส้มนะ
00:02:02 → 00:02:05 คะที่มันสัมผัสกับบริเวณแผลโลคเริมโดยตรง
00:02:05 → 00:02:09 นะคะนอกจากนั้นก็คือกลุ่มคนที่สัมผัสโดย
00:02:09 → 00:02:12 ตรงกับคนที่เป็นโรคเริมค่ะไม่ว่าอาจจะ
00:02:12 → 00:02:14 เป็นการจูบการหอมแก้มนะคะหรือว่าการ
00:02:15 → 00:02:17 สัมผัสโดยตรงเวลาที่มีเพศสัมพันธ์ค่ะนอก
00:02:17 → 00:02:20 จากนั้นก็จะเป็นกลุ่มคนที่มีเพศสัมพันธ์
00:02:20 → 00:02:22 กับคนที่เป็นโรคเริมแล้วไม่ได้ป้องกันนะ
00:02:22 → 00:02:27 คะความต่างระหว่างโรคเริมอิสุอิสัยและงู
00:02:27 → 00:02:30 สวัสดิ์มีอะไรบ้างคะค่ะความต่างต่าง
00:02:30 → 00:02:34 ระหว่างโรคเริมงูสวะและอิสุอิสัยนะคะก่อน
00:02:34 → 00:02:36 อื่นพูดถึงโรคเริมก่อนค่ะโรคเริมที่บอก
00:02:36 → 00:02:39 ว่าเกิดจากเชื้อไวรัสเปิกนะคะโรคนี้เนี่ย
00:02:39 → 00:02:42 ลักษณะจะเป็นเหมือนเป็นเริ่มจากเป็นอาการ
00:02:42 → 00:02:45 แสบๆคันๆก่อนต่อมาเนี่ยคนข้าจะเป็นตุ่ม
00:02:45 → 00:02:48 น้ำใสเป็นกลุ่มค่ะแล้วก็แตกออกเป็นแผล
00:02:48 → 00:02:50 บริเวณที่โรคเริมชอบเป็นก็จะเป็นบริเวณ
00:02:50 → 00:02:54 รอบปากรอบจมูกหรือว่าบริเวณอวัยวะเพศขึ้น
00:02:54 → 00:02:57 อยู่กับชนิดของโรคเริมนั้นๆนะคะในขณะที่
00:02:57 → 00:03:00 โรคอิสุอิสัยค่ะโรคอิสุอิสัยเกิดจากเชื้อ
00:03:00 → 00:03:03 ไวรัสชนิดวิลไวรัสนะคะเชื้ออิสุอิสัย
00:03:03 → 00:03:06 เนี่ยจะทำให้เกิดอาการไข้นำมาก่อนค่ะหลัง
00:03:06 → 00:03:08 จากที่มีไข้แล้วเนี่ยคนไข้ก็จะเริ่มมี
00:03:08 → 00:03:11 ตุ่มตามตัวซึ่งตุ่มเนี่ยสามารถกระจายทั่ว
00:03:11 → 00:03:14 ตัวได้เลยค่ะเริ่มต้นตั้งแต่ตุ่มแดงต่อมา
00:03:14 → 00:03:17 ก็จะเป็นตุ่มน้ำใสตุ่มหนองตามมานะคะนอก
00:03:17 → 00:03:20 จากนั้นโรคอิสุอีสัยมีลักษณะจำเพาะคือจะ
00:03:20 → 00:03:23 พบตุ่มหลายๆระยะคือพบทั้งตุ่มน้ำใสตุ่ม
00:03:23 → 00:03:26 แดงตุ่มหนองหรือว่าเป็นสะเก็ดเนี่ยในเวลา
00:03:26 → 00:03:30 เดียวกันค่ะส่วนในโรคงูสวัสดิ์นะคะโรคงู
00:03:30 → 00:03:31 สวัสด์เนี่ยเกิดจากเชื้อเดียวกันกับโรค
00:03:31 → 00:03:34 อิสุอิสัยเลยค่ะคือเชื้อไวรัสวิซเมื่อ
00:03:34 → 00:03:36 หลังจากที่เราเป็นอิสุอิสัยใช่ไหมคะเชื้อ
00:03:36 → 00:03:39 ไวรัสตัวเนี้มันก็จะกลับไปนอนอยู่ในปม
00:03:39 → 00:03:41 ประสาทเราหลังจากนั้นเนี่ยเมื่อร่างกาย
00:03:41 → 00:03:44 เราอ่อนแอชื้อไวรัสก็จะเกิดการกระตุ้น
00:03:44 → 00:03:47 ขึ้นมาทำให้เกิดโรคงูสวัดขึ้นมาค่ะโรคงู
00:03:47 → 00:03:50 สวัสดิ์เนี่ยจะลักษณะเป็นตุ่มน้ำสายเรียง
00:03:50 → 00:03:53 กันเป็นแถวตามแนวเส้นประสาทค่ะมีอาการปวด
00:03:53 → 00:03:56 ร้อนปวดแสบปวดร้อนตามแนวเส้นประสาทที่มี
00:03:56 → 00:03:58 ลักษณะของโรคขึ้นด้วยค่ะทั้ง 3 โรคนี้คือ
00:03:58 → 00:04:02 โรคเรโรคอิสุอิไซแล้วก็โรคงูสวัสดิ์นะคะ
00:04:02 → 00:04:05 สามารถให้ยาต้านไวรัสเหมือนกันค่ะอาจจะ
00:04:05 → 00:04:08 แตกต่างกันที่ขนาดการใช้ยาและระยะเวลาการ
00:04:08 → 00:04:11 ใช้ยาค่ะแล้วผู้ป่วยโรคเริมมีความเสี่ยง
00:04:11 → 00:04:14 ที่จะเป็นโรคเอดสได้หรือไม่คะในกรณีที่
00:04:14 → 00:04:16 เป็นผู้ป่วยโรคเริมมีความเสี่ยงที่จะเป็น
00:04:17 → 00:04:19 โรคเอดได้หรือไม่นั้นนะคะต้องบอกว่าคนที่
00:04:20 → 00:04:23 เป็นโรคเริมเนี่ยจะมีความเสี่ยงในการติด
00:04:23 → 00:04:26 เชื้อโรค Edge มากกว่าคนปกติ 3 เท่าต้อง
00:04:26 → 00:04:28 เข้าใจว่าโรคเริมมันเป็นแผลใช่ไหมยคะก็จะ
00:04:28 → 00:04:31 เป็นทางให้เชื้อโรคอื่นๆเนี่ยเข้าสู่ร่าง
00:04:31 → 00:04:33 กายได้ง่ายมากขึ้นค่ะแต่ว่าคนที่เป็นโรค
00:04:33 → 00:04:36 เริมเนี่ยไม่ใช่แปลว่าจะเป็นการติดเชื้อ
00:04:36 → 00:04:40 hiv ทุกคนนะคะคนปกติเนี่ยก็สามารถติด
00:04:40 → 00:04:42 เชื้อโรคเริมได้ค่ะแล้วกรณีของผู้หญิงที่
00:04:42 → 00:04:45 ตั้งครรภ์อยู่ค่ะอาจารย์ถ้ากรณีที่เขาติด
00:04:45 → 00:04:48 โรคเริมเขาจะมีความเสี่ยงอะไรบ้างคะใน
00:04:48 → 00:04:51 กรณีที่คุณแม่ตั้งครรภ์นะคะถ้าเกิดว่าติด
00:04:51 → 00:04:53 เชื้อโรคเริมเนี่ยถ้าเกิดว่าติดเชื้อโรค
00:04:53 → 00:04:56 เริมระหว่างการตั้งครรภ์เนี่ยสามารถส่ง
00:04:56 → 00:04:59 เชื้อเนี่ยไปถึงทารกได้นะคะเพราะฉะนั้น
00:04:59 → 00:05:01 ถ้าเกิดถเกิดว่าคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์
00:05:01 → 00:05:04 อยู่แล้วมีอาการโรคเริมควรจะแจ้งให้แพร่
00:05:04 → 00:05:07 ทราบนะคะซึ่งความจริงส่งผลถึงทารกเนี่ยมี
00:05:07 → 00:05:10 อันตรายต่อทารกเนี่ยครบไม่มากแต่ยังไงก็
00:05:10 → 00:05:12 ต้องระวังไว้ก่อนนะคะยังไงก็ต้องระวังตัว
00:05:12 → 00:05:15 ด้วยอีกกรณีนึงคือในกรณีที่คุณแม่ที่ตั้ง
00:05:15 → 00:05:18 ครรภ์แล้วมีโรคเริมใกล้ๆกับเวลาที่จะคลอด
00:05:18 → 00:05:20 น้องเลยอาจจะต้องเปลี่ยนวิธีเป็นการผ่า
00:05:20 → 00:05:23 ตัดคลอดแทนการคลอดธรรมชาตินะคะเพื่อรดการ
00:05:23 → 00:05:26 ติดเชื้อสุทารกค่ะแล้วเมื่อป่วยเป็นโรค
00:05:26 → 00:05:30 เริมค่ะเราควรปฏิบัติตัวอย่างไรบ้างคะ
00:05:30 → 00:05:32 เมื่อป่วยเป็นโรคเริมแล้วนะคะแนะนำให้ผู้
00:05:32 → 00:05:35 ป่วยรีบมาพบแพทย์เลยค่ะเนื่องจากการได้ยา
00:05:35 → 00:05:38 ต้านไวรัสเนี่ยยิ่งได้เร็วยิ่งสามารถลด
00:05:38 → 00:05:40 การเพิ่มจำนวนของไวรัสแล้วก็ลดอาการปวด
00:05:40 → 00:05:43 ด้วยค่ะส่วนในกรณีที่เป็นโรคเริมแล้วนะคะ
00:05:43 → 00:05:46 ก็แนะนำให้ปฏิบัติตามที่แพทย์แนะนำค่ะไม่
00:05:46 → 00:05:49 ว่าจะต้องการกินยาให้ตรงเวลานะคะแล้วก็ทำ
00:05:49 → 00:05:52 ความสะอาดแผลตามที่แพทย์แนะนำนะคะนอกจาก
00:05:52 → 00:05:54 นี้เนี่ยเมื่อเป็นโรคเริมแล้วก็ต้องระวัง
00:05:54 → 00:05:57 ไม่ให้แพร่กระจายไปสู่คนอื่นค่ะโดยการอาจ
00:05:57 → 00:05:59 จะไม่สัมผัสไม่ให้ใครมาสัมผัสตัวโดยตรง
00:05:59 → 00:06:02 กับรอยโรคนะคะแล้วก็ไม่ใช้ของร่วมกับคน
00:06:02 → 00:06:05 อื่นด้วยค่ะแล้วปัจจุบันมีวิธีการในการ
00:06:05 → 00:06:08 รักษาโรคเริมกี่วิธีคะอาจารย์ปัจจุบันค่ะ
00:06:08 → 00:06:10 การรักษาโรคเริมเนี่ยสามารถรักษาได้ด้วย
00:06:10 → 00:06:13 ยาต้านไวรัสค่ะกลุ่มไซโคเวียค่ะแฟมิ
00:06:13 → 00:06:16 โคเวียแล้วก็วาไซโคเวียนะคะซึ่งยาต้าน
00:06:16 → 00:06:19 ไวรัสเนี่ยอย่างที่บอกไปว่าแนะนำให้รีบมา
00:06:19 → 00:06:23 รับทันทีที่เริ่มมีอาการนะคะนอกจากนั้น
00:06:23 → 00:06:26 เนี่ยก็อาจจะให้เป็นกลุ่มพวกยาแก้ปวดนะคะ
00:06:26 → 00:06:28 เนื่องจากคนไข้โรคเริมเนี่ยบางทีจะมี
00:06:28 → 00:06:30 อาการปวดได้นะคะก็แนะนำว่าอาจจะให้เป็นยา
00:06:30 → 00:06:33 กลุ่มยาแก้ปวดได้ค่ะแล้วผู้ที่เป็นโรค
00:06:33 → 00:06:35 เริมค่ะอาจารย์เมื่อรักษาหายแล้วจะมี
00:06:36 → 00:06:38 โอกาสกลับมาเป็นซ้ำได้หรือไม่คะและเพราะ
00:06:38 → 00:06:41 อะไรคะอาจารย์ผู้ที่เป็นโรคเริมนะคะ
00:06:41 → 00:06:44 สามารถกลับมาเป็นซ้ำได้ค่ะเนื่องจากหลัง
00:06:44 → 00:06:46 จากที่โรคเริมหายไปเนี่ยเชื้อไวรัสเนี่ย
00:06:46 → 00:06:49 จะกลับเข้าไปอยู่ตรงบริเวณปมประสาทค่ะ
00:06:49 → 00:06:51 เมื่อร่างกายอ่อนแอเนี่ยเชื้อไวรัสก็จะ
00:06:51 → 00:06:54 ออกมาอีกทีแล้วก็ทำให้เป็นโรคเริมซ้ำได้
00:06:54 → 00:06:56 ค่ะแต่ว่าอาการครั้งที่ 2 หรืออาการครั้ง
00:06:57 → 00:06:59 ที่มันกลับมาเนี่ยอาการจะเป็นน้อยกว่า
00:06:59 → 00:07:01 เดิมนะคะความรุนแรงน้อยลงแล้วก็ระยะเวลา
00:07:01 → 00:07:05 น้อยลงด้วยนะคะโดยปัจจัยที่กระตุ้นให้
00:07:05 → 00:07:08 กลับมาเป็นโรคเริมซ้ำก็ได้แก่เวลาที่ภูมิ
00:07:08 → 00:07:11 ร่างกายอ่อนแอลงนะคะเช่นอาจจะเครียดนอน
00:07:11 → 00:07:14 ดึกพักผ่อนไม่เพียงพอหรือว่าได้รับยากด
00:07:14 → 00:07:17 ภูมินะคะหรือว่าช่วงนั้นเนี่ยอาจจะไม่
00:07:17 → 00:07:19 สบายอะไรอย่างนี้ก็อาจจะเป็นปัจจัยที่
00:07:19 → 00:07:22 กระตุ้นให้มีโรคเริมซ้ำได้ค่ะอาหารที่ผู้
00:07:22 → 00:07:25 ป่วยโรคเริมควรที่จะรับประทานค่ะอาจารย์
00:07:25 → 00:07:28 และไม่ควรที่จะรับประทานเลยมีอะไรบ้างคะ
00:07:28 → 00:07:31 อาหารส่วนใหญ่เนี่ยไม่ได้มีผลต่อโรคเริม
00:07:31 → 00:07:33 โดยตรงนะคะเพียงแต่ว่าถ้าเรามีแผลโรคเริม
00:07:33 → 00:07:36 ที่ปากเนี่ยถ้าเรากินของเผ็ดของแซ่บของ
00:07:37 → 00:07:39 ร้อนเนี่ยอาการก็จะยิ่งเจ็บมากค่ะเพราะ
00:07:39 → 00:07:41 ฉะนั้นอาจจะต้องหลีกเลี้ยวพวกนั้นไปก่อน
00:07:41 → 00:07:45 นะคะแต่ว่าไม่มีอาหารอะไรที่ห้ามสำหรับ
00:07:45 → 00:07:48 โรคเริมโดยเฉพาะค่ะก็แนะนำให้ทานอาหารที่
00:07:48 → 00:07:51 สะอาดสุขแล้วก็มีประโยชน์ก็พอค่ะคำถามสุด
00:07:51 → 00:07:54 ท้ายค่ะวิธีป้องกันเพื่อไม่ให้ตัวเราเกิด
00:07:54 → 00:07:58 รบเริมทำอย่างไรได้บ้างคะอาจารย์วิธีการ
00:07:58 → 00:08:01 ป้องกันไม่ให้เกิดเกิดโรคเริมนะคะก็คือ
00:08:01 → 00:08:03 ต้องป้องกันไม่ให้ติดเชื้อโรคเริมค่ะ
00:08:03 → 00:08:05 อย่างที่รู้กันเชื้อโรคเริมเกิดจากเชื้อ
00:08:05 → 00:08:08 ไวรัสนะคะที่ติดต่อทางการสัมผัสเพราะ
00:08:08 → 00:08:10 ฉะนั้นก็คือไม่ควรจะไปสัมผัสกับผู้ป่วย
00:08:10 → 00:08:13 ที่เป็นโรคเริมค่ะไม่ควรใช้สิ่งของร่วม
00:08:13 → 00:08:17 กันกับผู้อื่นนะคะนอกจากนั้นก็ควรจะป้อง
00:08:17 → 00:08:20 กันทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ค่ะนอกจาก
00:08:20 → 00:08:22 นั้นเราก็ต้องดูแลตัวเองด้วยนะคะถ้าเกิด
00:08:22 → 00:08:25 ว่าร่างกายเราแข็งแรงนะคะโดยการกินอาหาร
00:08:25 → 00:08:27 ที่มีประโยชน์พักผ่อนให้เพียงพอออกกำลัง
00:08:27 → 00:08:30 กายสม่ำเสมอเนี่ยก็จะทำให้ร่างกายเราแข็ง
00:08:30 → 00:08:33 แรงค่ะแล้วก็ในกรณีที่เป็นโรคเริมเนี่ยก็
00:08:33 → 00:08:35 จะไม่กลับมาเป็นซ้ำค่ะขอบพระคุณอาจารย์
00:08:35 → 00:08:38 แพทย์ผู้เชี่ยวชาญนะคะที่มาให้ความรู้ดีๆ
00:08:38 → 00:08:42 ในเรื่องของโรคเริมกันขอบคุณนะคะสำหรับ
00:08:42 → 00:08:45 การรับชมรายการ TNN Health ค่ะและอย่า
00:08:45 → 00:08:48 ลืมค่ะกด Subscribe กดไลคกดแชร์ในทุกช่อง
00:08:48 → 00:08:52 ทางออนไลน์ของ TNN ช่อง 16 ค่ะเพื่อที่จะ
00:08:52 → 00:08:55 ไม่พลาดการรับชมรายการสดคลิปวีีดีโอที่
00:08:55 → 00:09:01 น่าสนใจของทาง TNN นะคะ M