00:00:02 → 00:00:04 สวัสดีครับวันนี้เรามีเรื่องน่าสนใจจาก

00:00:04 → 00:00:07 มุมมองของการแพทย์แผนจีนมาคุยกันนะครับ

00:00:07 → 00:00:10 คือแนวคิดเรื่องลักษณะเฉพาะของร่างกาย

00:00:10 → 00:00:13 หรือที่เรียกว่า Body constitution นะ

00:00:13 → 00:00:16 ครับเขาว่ากันว่าถ้าเรารู้จักลักษณะร่าง

00:00:16 → 00:00:19 กายตัวเองเนี่ยเอ่ออาจจะเป็นกุญแจสำคัญ

00:00:19 → 00:00:21 เลยในการป้องกันพวกโรคเรื้อรังต่างๆแล้ว

00:00:21 → 00:00:24 ก็ดูแลสุขภาพโดยรวมได้ดีขึ้น

00:00:24 → 00:00:27 >> อืมใช่ค่ะเป็นแนวคิดที่น่าสนใจมากเลยค่ะ

00:00:27 → 00:00:30 >> วันนี้เราเลยจะมาเจาะลึกกันครับว่าลักษณะ

00:00:30 → 00:00:34 ร่างกายตามทฤษฎีนี้มันมีกี่แบบอะไรบ้าง

00:00:34 → 00:00:36 แล้วเอ่อมันไปเกี่ยวข้องกับโรคยอดฮิตที่

00:00:36 → 00:00:40 เราคุ้นๆกันอย่างความดันเบาหวานโรคหัวใจ

00:00:40 → 00:00:41 พวกนี้ยังไงบ้าง

00:00:41 → 00:00:44 >> ค่ะคือข้อมูลที่เราจะคุยกันวันเนี้ยมาจาก

00:00:44 → 00:00:48 2 ส่วนหลักๆนะคะส่วนแรกก็จะเป็นคำอธิบาย

00:00:48 → 00:00:50 ลักษณะร่างกายทั้ง 9 แบบตามหลักการแพทย์

00:00:50 → 00:00:53 แผนจีนเลยแล้วก็อีกส่วนที่สำคัญมากคือมี

00:00:53 → 00:00:56 งานวิจัยชิ้นนึงค่ะเศึกษาความสัมพันธ์

00:00:56 → 00:00:58 ระหว่างลักษณะร่างกายพวกนี้กับโรคเรื้อ

00:00:58 → 00:01:01 เนื้อรัง 5 อย่างที่เจอบ่อยๆก็คือความดัน

00:01:01 → 00:01:05 โลหิตสูงไขมันในเลือดสูงเบาหวานโรคหัวใจ

00:01:05 → 00:01:06 แล้วก็โรคอ้วน

00:01:06 → 00:01:09 >> โอ้โหข้อมูลน่าสนใจมากครับศึกษาในคนเยอะ

00:01:09 → 00:01:09 ด้วยใช่มั้ครับ

00:01:09 → 00:01:13 >> ใช่ค่ะกลุ่มตัวอย่างกว่า 2,600 คนเลยค่ะ

00:01:13 → 00:01:16 >> งั้นเป้าหมายเราวันเนี้ยชัดเจนเลยครับคือ

00:01:16 → 00:01:19 มาดูกันว่าไอ้ลักษณะร่างกาย 9 แบบเนี่ย

00:01:19 → 00:01:22 มันคืออะไรบ้างแล้วงานวิจัยที่ว่าเนี่ย

00:01:22 → 00:01:25 เขาเจออะไรที่มันแบบเออเชื่อมโยงกันยังไง

00:01:25 → 00:01:26 กับโรคพวกนี้

00:01:26 → 00:01:29 >> ได้เลยค่ะเริ่มจากพื้นฐานนิดนึงก่อนนะคะ

00:01:29 → 00:01:32 คำว่าลักษณะร่างกายหรือ body

00:01:32 → 00:01:35 constitution ในการแพทย์แผ่นจีนเนี่ยมัน

00:01:35 → 00:01:38 หมายถึงสภาพโดยรวมของคนๆนั้นเลยค่ะทั้ง

00:01:38 → 00:01:41 โครงสร้างร่างกายการทำงานของอวัยวะภายใน

00:01:42 → 00:01:45 ระบบต่างๆแล้วก็รวมไปถึงสภาพจิตใจด้วยนะ

00:01:45 → 00:01:45 คะ

00:01:45 → 00:01:47 >> อ๋อคือดูองค์รวมหมดเลย

00:01:47 → 00:01:50 >> ใช่ค่ะซึ่งลักษณะพวกนี้เนี่ยมันก็ได้รับ

00:01:50 → 00:01:52 อิทธิพลมาจากเอ่อปัจจัยที่เราได้มาตั้ง

00:01:53 → 00:01:55 แต่เกิดหรือพันธุกรรมแล้วก็ปัจจัยภายนอก

00:01:55 → 00:01:58 ที่เราเจอในชีวิตประจำวันอย่างเช่นการกิน

00:01:58 → 00:02:02 อยู่การใช้ชีวิตเพศอายุหรือแม้แต่สภาพแวด

00:02:02 → 00:02:03 ล้อมที่เราอยู่ค่ะ

00:02:03 → 00:02:06 >> ครับแล้วที่บอกว่ามี 9 แบบนี้มีอะไรบ้าง

00:02:06 → 00:02:08 นะครับพอจะยกตัวอย่างได้มั้ยครับ

00:02:08 → 00:02:11 >> ได้ค่ะเขาจะแบ่งคร่าวๆเป็น 9 กลุ่มนะคะก็

00:02:11 → 00:02:15 จะมีกลุ่มแรกคือกลุ่มสมดุลอันนี้คือดีที่

00:02:15 → 00:02:17 สุดสุขภาพค่อนข้างแข็งแรง

00:02:17 → 00:02:18 >> Neutral เนาะ

00:02:18 → 00:02:21 >> ใช่ค่ะ Neutral หรือ Gentleness แล้วก็จะ

00:02:21 → 00:02:24 มีกลุ่มที่เอ่อมีลักษณะพร่องต่างๆเช่น

00:02:24 → 00:02:28 พร่องชี่หรือว่าพลังงานน้อยอ่อนเพลียง่าย

00:02:28 → 00:02:29 >> ครับ

00:02:29 → 00:02:33 >> พร่องหยางอันนี้จะขี้หนาวร่างกายเย็นง่าย

00:02:33 → 00:02:36 พร่องยินก็จะตรงข้ามคือจะขี้ร้อนรู้สึก

00:02:36 → 00:02:39 ร้อนข้างในง่ายร่างกายเหมือนขาดน้ำขาดสาร

00:02:39 → 00:02:40 หล่อเลี้ยง

00:02:40 → 00:02:41 >> อืๆ

00:02:41 → 00:02:43 >> แล้วก็มีกลุ่มเลือดคั่งอันนี้คือเลือดไหล

00:02:43 → 00:02:46 เวียนไม่ค่อยดีอาจจะมีปวดตามตัวง่ายมีรอย

00:02:46 → 00:02:50 คลำง่ายกลุ่มเสมหะและความชื้นสะสมพวกนี้

00:02:50 → 00:02:54 ก็จะรู้สึกตัวหนักๆบวมน้ำง่ายเสมหะเยอะ

00:02:54 → 00:02:54 >> ครับ

00:02:54 → 00:02:57 >> กลุ่มร้อนชื้นอันนี้คือมีความร้อนสะสม

00:02:57 → 00:03:01 ร่วมกับความชื้นมักจะหน้ามันเป็นสิวง่าย

00:03:01 → 00:03:03 อะไรแบบนี้ค่ะกลุ่มชีติดขัดอันนี้จะ

00:03:03 → 00:03:06 เกี่ยวกับอารมณ์พลังงานไหลเวียนไม่สะดวก

00:03:06 → 00:03:08 หงุดหงิดง่ายท้องอืดแน่นท้องบ่อย

00:03:08 → 00:03:09 >> ครับผม

00:03:09 → 00:03:12 >> แล้วก็กลุ่มสุดท้ายคือกลุ่มลักษณะพิเศษ

00:03:12 → 00:03:15 หรือพวกที่แพ้ง่ายเป็นภูมิแพ้หรือมีโรค

00:03:15 → 00:03:16 เฉพาะตัวบางอย่างค่ะ

00:03:16 → 00:03:18 >> โหฟังดูรายละเอียดเหมือนกันนะครับแบ่งได้

00:03:18 → 00:03:19 เยอะเลย

00:03:19 → 00:03:22 >> ใช่ค่ะทีนี้พอกลับมาที่งานวิจัยที่ศึกษา

00:03:22 → 00:03:25 เรื่องนี้นะคะเขาใช้วิธีการทางสถิติเข้า

00:03:25 → 00:03:28 มาช่วยวิเคราะห์ค่ะเพื่อจะดูว่าลักษณะ

00:03:28 → 00:03:31 ร่างกายแบบไหนมันมีแนวโน้มจะไปพบร่วงกับ

00:03:31 → 00:03:33 โรคเรื้อรังชนิดไหนเป็นพิเศษ

00:03:33 → 00:03:36 >> อ๋อคือใช้สถิติมาช่วยหาความสัมพันธ์

00:03:36 → 00:03:39 >> ถูกต้องค่ะทำให้เราเห็นภาพชัดขึ้นว่าแบบ

00:03:39 → 00:03:42 ไหนมันไปคู่กับโรคอะไรบ่อยๆ

00:03:42 → 00:03:44 >> แล้วผลเป็นยังไงบ้างครับอันนี้น่าสนใจมาก

00:03:44 → 00:03:45 เลย

00:03:45 → 00:03:48 >> ค่ะผลนี่มีหลายจุดที่น่าสนใจเลยนะคะอย่าง

00:03:48 → 00:03:51 แรกเลยคือกลุ่มพร่องยินที่บอกว่าร่างกาย

00:03:51 → 00:03:54 ร้อนง่ายขาดสารน้ำเนี่ยพบว่ามีความ

00:03:54 → 00:03:56 สัมพันธ์ค่อนข้างชัดเจนกับความดันโลหิต

00:03:56 → 00:03:58 สูงแล้วก็เบาหวานค่ะ

00:03:58 → 00:04:02 >> อ๋อพร่องยินนี้ไปทางความดันกับเบาหวาน

00:04:02 → 00:04:05 >> ใช่ค่ะซึ่งถ้าอธิบายตามหลักการแพทย์จีนก็

00:04:05 → 00:04:08 คือพอสารน้ำสารหล่อเลี้ยงในร่างกายมัน

00:04:08 → 00:04:11 พร่องไปมันก็จะเกิดความร้อนภายในได้ง่าย

00:04:11 → 00:04:14 ซึ่งความร้อนนี้เองที่อาจจะส่งผลกระทบต่อ

00:04:14 → 00:04:16 ระบบไหลเวียนเลือดหรือทำให้มีอาการเวี้

00:04:16 → 00:04:19 หัวกระหายน้ำซึ่งก็คล้ายๆกับอาการของคน

00:04:19 → 00:04:21 เป็นความดันหรือเบาหวานบางประเภทเหมือน

00:04:21 → 00:04:22 กันนะคะ

00:04:22 → 00:04:24 >> เออจริงด้วยครับมันเหมือนงานวิจัยสมัย

00:04:24 → 00:04:27 ใหม่มาช่วยยืนยันหรือให้มุมมองเพิ่มเติม

00:04:27 → 00:04:30 กับทฤษฎีเดิมๆของการแพทย์แผนจีนเลยนะครับ

00:04:30 → 00:04:33 >> ใช่เลยค่ะต่อมานะคะกลุ่มพร่องชี่หรือ

00:04:33 → 00:04:35 กลุ่มที่พลังงานน้อยอ่อนเพลียเนี่ยงาน

00:04:36 → 00:04:38 วิจัยพบว่าสัมพันธ์กับโรคหัวใจค่ะ

00:04:38 → 00:04:42 >> พร่องชี้กับโรคหัวใจอันนี้พอจะอธิบายตาม

00:04:42 → 00:04:43 หลักการได้มั้ครับ

00:04:43 → 00:04:46 >> อธิบายได้ค่ะคือตามทฤษฎีการแพทย์จีนเนี่ย

00:04:46 → 00:04:48 ชื้น

00:04:48 → 00:04:51 ฐานเนี่ยมันเป็นตัวขับเคลื่อนเลือดให้ไหล

00:04:51 → 00:04:54 เวียนไปทั่วร่างกายทีนี้ถ้าพลังงานพื้น

00:04:54 → 00:04:58 ฐานของหัวใจหรือชี่หัวใจมันพร่องมันอ่อน

00:04:58 → 00:05:01 แอลงการบีบตัวการไหลเวียนเลือดมันก็อาจจะ

00:05:01 → 00:05:04 ติดขัดหรือทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ

00:05:04 → 00:05:06 ซึ่งก็อาจจะนำไปสู่ปัญหาเกี่ยวกับโรคหัว

00:05:06 → 00:05:07 ใจได้ค่ะ

00:05:07 → 00:05:10 >> เข้าใจเลยครับชี่เหมือนเป็นแรงขับเคลื่อน

00:05:10 → 00:05:14 เนอะพอแรงขับเคลื่อนน้อยระบบมันก็รวนได้

00:05:14 → 00:05:16 >> ประมาณนั้นเลยค่ะแล้วก็มีกลุ่มอื่นๆอีก

00:05:17 → 00:05:20 ค่ะอย่างกลุ่มเสมหะและความชื้นสะสมอันนี้

00:05:20 → 00:05:23 ค่อนข้างตรงไปตรงมาก็สัมพันธ์กับโรคอ้วน

00:05:23 → 00:05:23 ค่ะ

00:05:23 → 00:05:25 >> อ๋ออ๋อครับอันนี้ชัดเจน

00:05:25 → 00:05:30 >> ค่ะส่วนกลุ่มร้อนชื้นที่มีความร้อนปนกับ

00:05:30 → 00:05:32 ความชื้นสะสมในร่างกายเนี่ยก็พบว่า

00:05:32 → 00:05:34 สัมพันธ์กับไขมันในเลือดสูง

00:05:34 → 00:05:36 >> อืม

00:05:36 → 00:05:39 >> ซึ่งในการแพทย์จีนก็มองว่าความร้อนชื้น

00:05:39 → 00:05:41 เนี่ยแหละเป็นพยาธิสภาพหรือเป็นสาเหตุ

00:05:42 → 00:05:44 สำคัญอย่างนึงของภาวะไขมันในเลือดสูง

00:05:44 → 00:05:44 เหมือนกัน

00:05:44 → 00:05:47 >> โหมันมีความเชื่อมโยงที่ค่อนข้างชัดเจนใน

00:05:47 → 00:05:50 หลายๆกลุ่มเลยนะครับแต่เหมือนจะมีอยู่

00:05:50 → 00:05:53 กลุ่มนึงที่ผลออกมาเอ่อเอ่อแปลกๆหน่อย

00:05:54 → 00:05:55 หรือเปล่าครับกลุ่มสมดุล

00:05:55 → 00:05:58 >> ใช่ค่ะใช่ค่ะอันนี้น่าสนใจมากคือกลุ่ม

00:05:58 → 00:06:01 สมดุลหรือนิวตรัเนี่ยตามหลักแล้วน่าจะ

00:06:01 → 00:06:03 เป็นกลุ่มที่สุขภาพดีๆที่สุดใช่มั้ยคะ

00:06:03 → 00:06:03 >> ครับ

00:06:03 → 00:06:06 >> ซึ่งในงานวิจัยก็พบว่ากลุ่มคนที่เป็นโรค

00:06:06 → 00:06:09 เรื้อรังเนี่ยมีสัดส่วนของคนที่มีลักษณะ

00:06:09 → 00:06:12 ร่างกายแบบสมดุลเนี่ยน้อยกว่าในประชากร

00:06:12 → 00:06:13 ทั่วไปจริงๆค่ะ

00:06:13 → 00:06:15 >> อ่าฮะก็สมเหตุสมผล

00:06:15 → 00:06:18 >> แต่แต่ว่าพอเขาเอาข้อมูลมาวิเคราะห์ทาง

00:06:18 → 00:06:21 สถิติแล้วเนี่ยมันก็ยังพบความสัมพันธ์

00:06:21 → 00:06:24 อยู่ดีค่ะว่าลักษณะร่างกายแบบสมดุลเนี่ย

00:06:24 → 00:06:26 ก็ยังสัมพันธ์กับความดันโลเหตุสูงและเบา

00:06:26 → 00:06:27 หวานอยู่

00:06:27 → 00:06:30 >> อ้าวทำไมเป็นอย่างนั้นล่ะครับคนร่างกาย

00:06:30 → 00:06:31 สมดุลก็น่าจะเสี่ยงน้อยสุดสิครับ

00:06:32 → 00:06:35 >> นั่นน่ะสิค่ะเป็นข้อสังเกตที่นักวิจัยเขา

00:06:35 → 00:06:38 ก็ให้ความสนใจเหมือนกันค่ะคือมันอาจจะ

00:06:38 → 00:06:40 อธิบายได้หลายแบบนะคะอย่างแรกอาจจะเป็นไป

00:06:40 → 00:06:44 ได้ว่าคนกลุ่มนี้อาจจะมีอัตราการรอดชีวิต

00:06:44 → 00:06:47 โดยรวมดีกว่าหรืออาจจะตรวจเจอโรคช้ากว่า

00:06:47 → 00:06:48 กลุ่มอื่นหรือเปล่าอันนี้ก็เป็น

00:06:48 → 00:06:51 สมมุตติฐานหนึ่งหรืออีกมุมนึงอาจจะเป็นไป

00:06:51 → 00:06:54 ได้ว่าการที่คนเรารู้สึกว่าตัวเองสมดุล

00:06:54 → 00:06:58 แข็งแรงดีอาจจะทำให้เอ่อเผลอประมาทหรือ

00:06:58 → 00:07:00 ละเลยปัจจัยเสี่ยงอื่นๆในการใช้ชีวิตไป

00:07:00 → 00:07:03 บ้างก็ได้เช่นอาจจะยังกินหวานกินเค็มหรือ

00:07:03 → 00:07:05 ไม่ได้ออกกำลังกายสม่ำเสมอ

00:07:05 → 00:07:08 >> อ๋อเป็นไปได้ครับเหมือนชะล่าใจไปหน่อย

00:07:08 → 00:07:11 >> ใช่ค่ะประมาณนั้นแต่ยังไงก็ตามนะคะสิ่ง

00:07:11 → 00:07:14 สำคัญมากๆที่ต้องย้ำเลยก็คือในความเป็น

00:07:14 → 00:07:18 จริงแล้วเนี่ยคนส่วนใหญ่มากๆเลยไม่ได้มี

00:07:18 → 00:07:20 ลักษณะร่างกายแบบใดแบบหนึ่งเป๊ะๆหรอกค่ะ

00:07:20 → 00:07:23 ส่วนใหญ่มักจะเป็นแบบผสมผสานกันมากกว่า

00:07:23 → 00:07:26 เช่นอาจจะพร่องชี่ร่วมกับมีเสมหะชื้นหรือ

00:07:26 → 00:07:29 พร่องยินร่วมกับมีเลือดคั่งอะไรแบบนี้ค่ะ

00:07:29 → 00:07:30 >> ครับ

00:07:30 → 00:07:32 >> เพราะฉะนั้นการจะประเมินลักษณะร่างกายของ

00:07:32 → 00:07:34 ตัวเองจริงๆเนี่ยการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ

00:07:34 → 00:07:37 ด้านการแพทย์แผนจีนโดยตรงก็ยังเป็นวิธี

00:07:37 → 00:07:39 ที่ดีที่สุดค่ะแล้วก็ต้องไม่ลืมข้อจำกัด

00:07:39 → 00:07:42 ของงานวิจัยชิ้นนี้ด้วยนะคะคือมันเป็นการ

00:07:42 → 00:07:45 ศึกษาณจุดเวลาเดียวไม่ได้ติดตามผลระยะยาว

00:07:45 → 00:07:47 แล้วข้อมูลโรคเรื้อรังที่ได้มาก็เป็นการ

00:07:48 → 00:07:50 รายงานจากตัวผู้เข้าร่วมเองซึ่งอาจจะมี

00:07:50 → 00:07:52 ความคลาดเคลื่อนกันอยู่บ้างค่ะ

00:07:52 → 00:07:55 >> ครับเข้าใจเลยครับแต่ถึงจะมีข้อจำกัดโดย

00:07:55 → 00:07:58 รวมแล้วเราก็เห็นภาพความเชื่อมโยงที่น่า

00:07:58 → 00:08:01 สนใจมากๆเลยนะครับสรุปคร่าวๆก็คือพร่อง

00:08:01 → 00:08:04 ยินสัมพันธ์กับความดันสูงเบาหวาน

00:08:04 → 00:08:04 >> ค่ะ

00:08:04 → 00:08:08 >> พร่องชัมพันธ์กับโรคหัวใจเสมหะชื้น

00:08:08 → 00:08:11 สัมพันธ์กับโรคอ้วนแล้วก็ร้อนชื้น

00:08:11 → 00:08:13 สัมพันธ์กับไผมันในเลือดสูง

00:08:13 → 00:08:15 >> ตามแนวคิดการแพทย์แผนจีนเนี่ยมันอาจจะ

00:08:15 → 00:08:18 เป็นอีกเครื่องมือนึงที่น่าจะมีประโยชน์

00:08:18 → 00:08:20 นะคะอาจจะช่วยในการประเมินความเสี่ยง

00:08:20 → 00:08:23 อย่างเบื้องต้นหรืออาจจะช่วยปรับแนวทาง

00:08:23 → 00:08:26 การป้องกันการดูแลจัดการโรคเรื้อรังต่างๆ

00:08:26 → 00:08:29 ให้มันเหมาะกับลักษณะเฉพาะของแต่ละคนมาก

00:08:29 → 00:08:32 ขึ้นแต่แน่นอนว่ามันก็มีความซับซ้อนของ

00:08:32 → 00:08:34 มันอยู่ค่ะไม่ใช่เรื่องง่ายๆ

00:08:34 → 00:08:36 >> ครับผมและประเด็นที่น่าสนใจมากๆจากกลุ่ม

00:08:36 → 00:08:39 สมดุลที่ถึงแม้จะดูแข็งแรงแต่ก็ยังพบความ

00:08:39 → 00:08:40 เชื่อมโยงกับความดันสูงและเบาหวานอยู่ดี

00:08:40 → 00:08:42 เนี่ยมันก็เหมือนเป็นเครื่องเตือนใจที่ดี

00:08:43 → 00:08:45 เลยนะครับว่าต่อให้เรารู้สึกว่าร่างกาย

00:08:45 → 00:08:47 เราโอเคสมดุลดีแล้วก็ยังไม่ควรประมาท

00:08:47 → 00:08:50 เรื่องการดูแลสุขภาพโดยรวมหรือมองข้าม

00:08:50 → 00:08:51 ปัจจัยเสียงอื่นๆไป

00:08:51 → 00:08:54 >> ใช่เลยค่ะตรงโว้งมันก็ชวนให้เราคิดต่อนะ

00:08:54 → 00:08:57 คะว่าถึงแม้ว่าเราอาจจะยังไม่ได้ไปหาหมอ

00:08:57 → 00:09:00 จีนเพื่อตรวจประเมินลักษณะร่างกายตัวเอง

00:09:00 → 00:09:02 อย่างเป็นทางการก็เถอะแต่แค่การที่เรา

00:09:02 → 00:09:05 เริ่มหันมาสังเกตตัวเองมากขึ้นเริ่ม

00:09:05 → 00:09:07 ตระหนักถึงแนวโน้มของร่างกายเราว่าเอ๊ะ

00:09:08 → 00:09:10 เราเป็นคนขี้ร้อนง่ายหรือขี้หนาวง่ายหรือ

00:09:10 → 00:09:13 อ่อนเพียงง่ายหรือเปล่าการตระหนักรู้ตรง

00:09:13 → 00:09:16 นี้เนี่ยมันอาจจะส่งผลต่อการตัดสินใจเล็ก

00:09:16 → 00:09:18 ๆน้อยๆในชีวิตประจำวันของเราที่เกี่ยวกับ

00:09:18 → 00:09:21 การดูแลสุขภาพได้เหมือนกันนะคะหรืออย่าง

00:09:21 → 00:09:24 น้อยที่สุดมันก็อาจจะเป็นข้อมูลเพิ่มให้

00:09:24 → 00:09:26 เราเอาไปใช้พูดคุยปรึกษาปัญหาสุขภาพกับ

00:09:26 → 00:09:28 คุณหมอหรือผู้เชี่ยวชาญที่เราดูในอยู่ได้

00:09:28 → 00:09:31 ดีขึ้นก็น่าจะเป็นคำถามที่น่าสนใจให้ลอง

00:09:31 → 00:09:33 เก็บไปคิดกันดูนะคะ

00:09:33 → 00:09:36 >> ครับเป็นมุมมองที่น่าสนใจและน่าจะนำไป

00:09:36 → 00:09:39 ปรับใช้หรืออย่างน้อยก็สังเกตตัวเองได้ดี

00:09:39 → 00:09:43 ขึ้นจริงๆครับ