00:00:00 → 00:00:04 สวัสดีครับหลายคนคงจะรู้กันดีอยู่แล้วว่า
00:00:04 → 00:00:08 เราเนี่ยต้องนอนให้พอวันละ 7-9 ชมง.แต่
00:00:08 → 00:00:11 สิ่งที่หลายคนอาจจะมองข้ามไปนั่นก็คือ
00:00:11 → 00:00:14 เวลาที่เราเข้านอนนั่นเองคือไม่ใช่แค่นอน
00:00:14 → 00:00:17 กี่ชั่วโมงเท่านั้นนะครับแต่เราเข้านอน
00:00:17 → 00:00:20 เมื่อไหร่และเข้านอนตรงเวลาไหมซึ่งสิ่ง
00:00:20 → 00:00:23 นี้เนี่ยกลายเป็นตัวแปรสำคัญที่วิจัยใหม่
00:00:23 → 00:00:27 ๆเริ่มพูดถึงกันมากขึ้นเรื่อยๆนะครับนัก
00:00:27 → 00:00:30 วิจัยจากมหาวิทยาลัยปักกิ่งและ Army
00:00:30 → 00:00:33 Medical University ได้เผยแพร่งานวิจัย
00:00:33 → 00:00:36 ชิ้นใหญ่ในวารสาร Health Data Sci ซึ่ง
00:00:36 → 00:00:40 ใช้ข้อมูลจากผู้ใหญ่กว่า 88,000 คนในโครง
00:00:40 → 00:00:43 การ UK Biobงโดยเป็นการวัดการนอนโดยการ
00:00:43 → 00:00:46 ใช้อุปกรณ์ติดตามพฤติกรรมจริงๆนะครับไม่
00:00:46 → 00:00:49 ใช่แค่การกรอกแบบสอบถามโดยพวกเขาเนี่ยพบ
00:00:49 → 00:00:53 ว่าพฤติกรรมการนอนที่ไม่สม่ำเสมอเช่นเข้า
00:00:53 → 00:00:55 นอนไม่เป็นเวลามีความสัมพันธ์กับความ
00:00:55 → 00:00:58 เสี่ยงของโลกถึง 172 โรคเลยนะครับโดย
00:00:58 → 00:01:03 เฉพาะโรคตับแข็งเนื้อตายเบาหวานไตวาเฉียบ
00:01:03 → 00:01:06 พันธุ์โรคพากินสันและอีกหลายอย่างมากมาย
00:01:06 → 00:01:10 นะครับหนึ่งในข้อค้นพบที่น่าตกใจมากก็คือ
00:01:10 → 00:01:13 คนที่เข้านอนหลังเที่ยงครึ่งบ่อยๆเนี่ยมี
00:01:13 → 00:01:16 ความเสี่ยงต่อการเป็นโรคตับแข็งเพิ่มขึ้น
00:01:16 → 00:01:19 ถึง 2.57 57 เท่าเลยนะครับอีกตัวชี้วัด
00:01:19 → 00:01:22 ที่นักวิจัยใช้ก็คือสิ่งที่เรียกว่า
00:01:22 → 00:01:25 Interdary Stability ซึ่งหมายถึงความ
00:01:25 → 00:01:28 สม่ำเสมอของพฤติกรรมในแต่ละวันนะครับโดย
00:01:28 → 00:01:31 หากเรานอนไม่เป็นเวลาตื่นไม่เป็นเวลาวงจร
00:01:31 → 00:01:34 นี้เนี่ยจะเสียสมดุลและในกลุ่มที่มี
00:01:34 → 00:01:37 stability ต่ำที่สุดเนี่ยพบว่ามีโอกาส
00:01:37 → 00:01:40 เป็นโรคเนื้อตายมากกว่าคนทั่วไปถึง 2.6 6
00:01:40 → 00:01:43 เท่าซึ่งมันไม่ใช่เรื่องเล็กเลยนะครับมัน
00:01:43 → 00:01:46 ไม่ใช่แค่เรานอนไม่เป็นเวลาแล้วเพียรแต่
00:01:46 → 00:01:48 มันคือถ้าเรานอนไม่เป็นเวลาเนี่ยเราอาจ
00:01:48 → 00:01:52 ป่วยหนักได้นะครับอีกหนึ่งสิ่งที่มีความ
00:01:52 → 00:01:55 สำคัญอย่างมากนั่นก็คือcคardanritึมหรือ
00:01:55 → 00:01:57 นาฬิกาชีวภาพของเรานะครับมันทำหน้าที่ควบ
00:01:57 → 00:02:01 คุมสารเคมีการหลั่งฮอร์โมนระบบภูมิคุ้ม
00:02:01 → 00:02:04 กันไปจนถึงพฤติกรรมต่างๆถ้าเรานอนผิดเวลา
00:02:04 → 00:02:08 เนี่ยเช่นเราเคยนอน 22- 23:00 น.แต่เรา
00:02:08 → 00:02:11 กลับไปนอน 2:00 น. 3 เนี่ยหรือเลื่อนเวลา
00:02:11 → 00:02:14 กลับไปกลับมาบ่อยๆมันจะทำให้วงจรชีวภาพ
00:02:14 → 00:02:17 นี้เนี่ยสับสนนะครับส่งผลต่อทั้งระบบโดย
00:02:17 → 00:02:21 เฉพาะกลไกการอักเสบเรื้อรังหรือ
00:02:22 → 00:02:24 กลายเป็นจุดเริ่มต้นของโรคเรื้อรังหลาย
00:02:24 → 00:02:26 ชนิดนะครับงานวิจัยชิ้นนี้เนี่ยพบว่าสาร
00:02:27 → 00:02:30 ชีวะโมเลกุลอักเสบเช่น C Reactive โปรte
00:02:30 → 00:02:33 และไคไซต C จะสูงขึ้นในกลุ่มที่นอนไม่
00:02:33 → 00:02:38 เป็นเวลาแม้จะนอนครบ 8 ชมงก็ตามล่ะครับ
00:02:38 → 00:02:40 สิ่งที่น่าสนใจจากงานวิจัยนี้ก็คืองาน
00:02:40 → 00:02:43 วิจัยนี้เนี่ยไม่ได้มองแค่ว่าเราต้องนอน
00:02:43 → 00:02:46 กี่ชั่วโมงแต่มันชี้ให้เห็นถึงความสำคัญ
00:02:46 → 00:02:49 ของการนอนเป็นเวลาและความสม่ำเสมอหลายคน
00:02:50 → 00:02:53 อาจจะเข้าใจว่าการนอนเยอะเนี่ยเท่ากับดี
00:02:53 → 00:02:55 หรือนอนน้อยเท่ากับแย่แต่ในงานวิจัยนี้
00:02:55 → 00:02:58 เนี่ยชี้ให้เราเห็นว่าการนอนไม่เป็นเวลา
00:02:58 → 00:03:00 ต่างหากที่เชื่อมโยงกับความเสี่ยงต่อโลก
00:03:00 → 00:03:03 ต่างๆได้กว้างขวางกว่านะครับอีกจุดที่น่า
00:03:03 → 00:03:06 สนใจก็คือนักวิจัยเนี่ยใช้ข้อมูลจาก
00:03:06 → 00:03:09 อุปกรณ์วัดการนอนแทนที่จะใช้การใช้แบบสอบ
00:03:09 → 00:03:11 ถามซึ่งมันจะช่วยลดความคลาดเคลื่อนที่
00:03:11 → 00:03:13 เกิดจากความรู้สึกหรือความเข้าใจผิดของ
00:03:13 → 00:03:16 ตัวเองด้วยนะครับเช่นคนที่คิดว่าตัวเอง
00:03:16 → 00:03:19 เนี่ยนอน 9 ชม.แต่จริงๆแล้วหลับไปแค่ 5-6
00:03:19 → 00:03:22 ช่มงเท่านั้นผลที่ได้เนี่ยเลยแม่นยำขึ้น
00:03:22 → 00:03:25 และสามารถแยกความแตกต่างระหว่างการนอนนาน
00:03:25 → 00:03:28 แต่ไม่สม่ำเสมอกับการนอนน้อยแต่เป็นเวลา
00:03:28 → 00:03:31 ได้ชัดเจนขึ้นนะครับมันทำให้เราเนี่ยเห็น
00:03:31 → 00:03:34 ว่าปัญหาไม่ได้อยู่ที่เวลานอนมากหรือน้อย
00:03:34 → 00:03:37 เพียงอย่างเดียวแต่การมีจังหวะชีวิตที่
00:03:37 → 00:03:39 ผันผวนก็เป็นสิ่งที่กระทบต่อระบบในร่าง
00:03:39 → 00:03:43 กายของเราอย่างมากด้วยนะครับผมเองเนี่ยก็
00:03:43 → 00:03:46 เป็นคนหนึ่งที่คิดว่านอนวันละ 7-8 ชมงก็
00:03:46 → 00:03:49 พอแล้วจะนอน 1:00 น.บ้าง 2:00 น.บ้างก็
00:03:49 → 00:03:52 ไม่น่าจะเป็นอะไรโดยเฉพาะในคืนก่อนวัน
00:03:52 → 00:03:55 หยุดแต่พอได้มาอ่านงานวิจัยนี้เนี่ยก็รู้
00:03:55 → 00:03:58 ว่ามันไม่ใช่นะครับเวลานอนเท่ากันแต่นอน
00:03:58 → 00:04:01 แบบสม่ำเสมอกับการนอนเปลี่ยนเวลาไปมา
00:04:01 → 00:04:04 เนี่ยมันให้ผลลัพธ์กับร่างกายต่างกัน
00:04:04 → 00:04:07 อย่างมีนัยยะสำคัญจริงๆนะครับดังนั้น
00:04:07 → 00:04:10 เนี่ยผมเลยอยากจะชวนทุกคนมาปรับรูทีนการ
00:04:10 → 00:04:12 นอนใหม่ไปด้วยกันนะครับอย่างแรกเลยคือให้
00:04:13 → 00:04:15 ตั้งเวลาเข้านอนและตื่นนอนให้ใกล้เคียง
00:04:15 → 00:04:18 กันในทุกๆวันนะครับ 2 คือหลีกเลี่ยง
00:04:18 → 00:04:21 เรื่องการนอนดึกในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ 3
00:04:21 → 00:04:25 คือถ้าเราใช้มือถือหรือทำงานจนดึกเนี่ย
00:04:25 → 00:04:28 ลองลดแสงสีฟ้าก่อนนอนและเข้านอนให้เร็ว
00:04:28 → 00:04:31 ขึ้นสักครึ่งชั่วโมงนะครับให้ความสำคัญ
00:04:31 → 00:04:33 กับความสม่ำเสมอมากขึ้นนะครับเพราะบางที
00:04:33 → 00:04:36 เนี่ยเราอาจจะไม่ต้องนอนเยอะขึ้นแค่เรา
00:04:36 → 00:04:39 นอนให้ตรงเวลาก็สุขภาพดีขึ้นได้มากกว่า
00:04:40 → 00:04:42 ที่คิดนะครับแล้วเจอกันใหม่ใน episode
00:04:42 → 00:04:47 ต่อไปสำหรับวันนี้ขอบคุณครับ