00:00:00 → 00:00:03 ไขมันพอกตับหายไวมากนะครับแค่ทำ 5 สิ่ง
00:00:03 → 00:00:05 นี้ทุกวันนะครับสวัสดีครับผมหมอ 1
00:00:05 → 00:00:07 Healthy ฮีโร่นะครับลดน้ำหนักครั้งสุด
00:00:07 → 00:00:09 ท้ายในชีวิตคิดถึงหมอหน Healthy ฮีโร่นะ
00:00:09 → 00:00:11 ครับแต่สำหรับสิ่งที่เราจะคุยกันวันนี้
00:00:11 → 00:00:13 คือเรื่องของไขมันพอกตับเนาะหมอหนต้องบอก
00:00:13 → 00:00:15 เลยนะครับว่าไม่ว่าคุณจะเป็นคนอ้วนหรือ
00:00:15 → 00:00:17 ว่าเป็นคนที่ผอมนะครับคุณก็มีโอกาสเป็นไข
00:00:17 → 00:00:20 มันพอกต่ำได้นะครับเพราะฉะนั้นฟังให้ดีๆ
00:00:20 → 00:00:22 นะครับเดี๋ยวจะอธิบายให้ฟังว่ามันมีอาการ
00:00:22 → 00:00:25 ยังไงนะครับปรับอาหารยังไงรักษายังไงแล้ว
00:00:25 → 00:00:27 หายได้ไหมนะครับแล้วถ้าคุณปล่อยไว้เนี่ย
00:00:27 → 00:00:30 โดยที่คุณไม่รู้ว่ามีไขมันพอกตับเนี่ยมัน
00:00:30 → 00:00:32 จะอันตรายกับคุณยังไงบ้างนะครับฟังคลิป
00:00:32 → 00:00:34 นี้ให้จบนะครับมีครบทุกอย่างเลยนะครับแต่
00:00:34 → 00:00:36 ก่อนอื่นนะครับอย่าลืมกดติดตามหมอ 1
00:00:36 → 00:00:38 Healthy ฮีโร่ไว้นะครับคุณจะได้ไม่พลาด
00:00:38 → 00:00:40 คลิปความรู้ดีๆแบบนี้นะครับคราวนี้ย้อน
00:00:40 → 00:00:42 กลับมาในสิ่งที่เราจะคุยกันครับว่าไขมัน
00:00:42 → 00:00:44 พอกตับเนี่ยมันคืออะไรหรอเราจะรู้ได้ยัง
00:00:44 → 00:00:46 ไงว่าเรามีไขมันพอกตับหรือเปล่าเพราะ
00:00:46 → 00:00:48 เมื่อกี้หมอหนึ่งบอกว่าคนที่อ้วนมีโอกาส
00:00:48 → 00:00:51 เป็นไขมันพอกตับแต่คนที่ผอมก็ไม่ได้หมาย
00:00:51 → 00:00:53 ความว่าคุณจะไม่มีนะถูกมยนะครับนะเพราะ
00:00:53 → 00:00:56 ฉะนั้นไอ้เจ้าไขมันพอกตับเนี่ยตามชื่อมัน
00:00:56 → 00:00:59 คือการที่มีไขมันไปเกาะอยู่ที่ตับเยอะแต่
00:00:59 → 00:01:02 หลายคนมักจะเข้าใจผิดมากๆว่าไขมันพอกตับ
00:01:02 → 00:01:04 มันเกิดจากการที่เรากินของมันของทอดซึ่ง
00:01:04 → 00:01:07 จริงๆนั้นมันไม่ใช่นะครับการที่คนเราจะมี
00:01:07 → 00:01:10 การสะสมไขมันเนี่ยมันเกิดจากแบบนี้ครับนะ
00:01:10 → 00:01:12 ระบบพลังงานในร่างกายของคนเราเนี่ยจะมี
00:01:12 → 00:01:14 อยู่ 2 อย่างที่ร่างกายใช้เป็นพลังงาน
00:01:14 → 00:01:17 หลักๆอันที่ 1 คือน้ำตาลกับแป้งอันที่ 2
00:01:17 → 00:01:19 คือไขมันส่วนโปรตีนที่คุณทานเข้าไปเนี่ย
00:01:19 → 00:01:21 ถ้าไม่จำเป็นมันจะยังไม่เอาออกมาใช้เป็น
00:01:21 → 00:01:24 พลังงานเพราะว่ามันมีหน้าที่ในการซ่อมแซม
00:01:24 → 00:01:26 ร่างกายซึ่งแป้งกับไขมันมันไม่สามารถทำ
00:01:26 → 00:01:28 แทนได้นะครับเพราะฉะนั้นร่างกายของคุณเลย
00:01:29 → 00:01:31 ใช้พลังงานจากน้ำตาลกับแป้งและไขมันเป็น
00:01:31 → 00:01:33 หลักคราวนี้คุณอ้วนขึ้นคุณสะสมไขมันใน
00:01:33 → 00:01:36 ช่องท้องจากอะไรมันเกิดจากการที่คุณทาน
00:01:36 → 00:01:38 อาหารที่ทำให้น้ำตาลในเลือดของคุณสูงพอ
00:01:38 → 00:01:40 น้ำตาลในเลือดของคุณเริ่มสูงสิ่งที่เกิด
00:01:40 → 00:01:43 ขึ้นคือถ้าร่างกายปล่อยไว้แบบนั้นคุณจะ
00:01:43 → 00:01:45 เป็นเบาหวานเพราะฉะนั้นร่างกายเลยบอกว่า
00:01:45 → 00:01:47 เฮ้ยไม่ได้นะเพราะถ้าสมมุติว่าปล่อยน้ำ
00:01:47 → 00:01:49 ตาลในเลือดสูงมากๆเป็นเบาหวานเนี่ยน้ำตาล
00:01:49 → 00:01:51 วิ่งไปที่ตาตาก็เสื่อมวิ่งไปที่ไตไตก็
00:01:51 → 00:01:54 เสื่อมวิ่งไปที่สมองสมองคุณก็เสื่อมเพราะ
00:01:54 → 00:01:56 ฉะนั้นร่างกายเลยหลั่งฮอร์โมนออกมา 1 ตัว
00:01:56 → 00:01:58 เพื่อเอาน้ำตาลเหล่านั้นไปเก็บเบื้องต้น
00:01:58 → 00:02:00 ก็เอาไปเก็บเป็นแป้งก่อนที่ตับกับกล้าม
00:02:00 → 00:02:03 เนื้อแต่ที่มันน้อยมากนะครับส่วนที่มัน
00:02:03 → 00:02:05 เกินมากๆเนี่ยก็เลยจำเป็นที่จะต้องเอาไป
00:02:05 → 00:02:07 เก็บในรูปของไขมันถามว่าไขมันเก็บในที่
00:02:07 → 00:02:09 ไหนได้บ้างนอกจากตามไขมันที่อยู่ใต้ผิว
00:02:09 → 00:02:12 หนังของคุณแล้วเนี่ยที่ที่คุณมองไม่เห็น
00:02:12 → 00:02:13 เลยมันคือไขมันที่อยู่ในช่องท้องหรือ
00:02:13 → 00:02:16 อวัยวะภายในไม่ว่าจะเป็นในเนื้อเยื่อลำ
00:02:16 → 00:02:19 ไส้ในช่องท้องเอยและที่สำคัญคือในตับของ
00:02:19 → 00:02:21 คุณนั่นเองดังนั้นไขมันพอกตับมันไม่ได้
00:02:22 → 00:02:24 เกิดจากการกินไขมันแล้วไปเกาะเป็นไขมัน
00:02:24 → 00:02:26 ที่ตับแต่ส่วนใหญ่มันเกิดจากอาหารที่เป็น
00:02:26 → 00:02:28 น้ำตาลกับแป้งต่างหากนะครับเพราะฉะนั้น
00:02:28 → 00:02:30 ตอนนี้ต้องเข้าใจแล้วนะว่าสาเหตุมันเกิด
00:02:30 → 00:02:32 จากอะไรนะครับซึ่งอาหารที่เป็นน้ำตาลกับ
00:02:32 → 00:02:34 แป้งบางชนิดเนี่ยถ้ากินแล้วนอกจากไขมัน
00:02:34 → 00:02:36 เกาะตับแล้วยังทำให้คุณอ้วนด้วยแต่ก็มี
00:02:36 → 00:02:38 อาหารบางชนิดที่คุณกินเข้าไปอาจจะไม่ได้
00:02:39 → 00:02:41 ทำให้คุณอ้วนแต่ไขมันไปเกาะที่ตับโดยตรง
00:02:41 → 00:02:43 เลยก็มีหมอหนึ่งเลยบอกว่าคนที่ผอมก็มีไข
00:02:43 → 00:02:45 มันพอกตับได้นะครับคราวนี้มันอันตรายยัง
00:02:45 → 00:02:47 ไงนะครับคุณลองเอามือขวาของคุณขึ้นมาอ่า
00:02:47 → 00:02:50 แล้วเอามือจับไปที่ชายโคงด้านขวาตำแหน่ง
00:02:50 → 00:02:52 ที่เห็นอยู่เนี่ยคือตำแหน่งของตับนะครับ
00:02:52 → 00:02:54 นะตรงชายโคงขวานะคุณจับแล้วคุณรู้มว่ามัน
00:02:54 → 00:02:57 มีไขมันพอกตัดอยู่มยไม่มีทางรู้เลยเพราะ
00:02:57 → 00:02:59 ฉะนั้นวิธีเดียวที่จะรู้ก็คือคุณต้องอันต
00:02:59 → 00:03:01 ซาวด์ดูนะครับนะคนที่เป็นไขมันพอกตับ
00:03:01 → 00:03:03 อัลตร้าซาวด์ไปเนี่ยลักษณะของตับเนี่ยมัน
00:03:03 → 00:03:06 ก็จะไม่เหมือนของคนปกตินะมันจะเป็นลักษณะ
00:03:06 → 00:03:08 ที่มีไขมันพอกอยู่คราวนี้อันตรายยังไง
00:03:08 → 00:03:10 หมายความว่าคุณมองเห็นด้วยตาเปล่ามว่าไข
00:03:10 → 00:03:12 มันปูมพอกตับไม่มีทางรู้เลยแล้วถ้าเป็น
00:03:12 → 00:03:14 ไม่ได้เยอะนะครับหมอหนึ่งบอกเลยว่าตรวจ
00:03:14 → 00:03:17 เลือดนะครับ่าตับคุณก็จะไม่ได้ขึ้นอ่า
00:03:17 → 00:03:20 เพราะว่าไขมันพอกตับมันจะแบ่งเป็นระยะแบบ
00:03:20 → 00:03:22 นี้นะครับระยะแรกคือตับของคุณปกตินะไม่
00:03:23 → 00:03:25 เป็นไรแต่พอคุณเริ่มมีไขมันพอกตับมากขึ้น
00:03:25 → 00:03:27 เรื่อยๆเนี่ยตับของคุณเนี่ยมันจะต้อง
00:03:27 → 00:03:30 เริ่มทำงานหนักขึ้นจนเกิดการอักเสบเพราะ
00:03:30 → 00:03:33 ฉะนั้นในคนที่มีไขมันพอกตับนะเจาะเลือด
00:03:33 → 00:03:35 ออกมา่าไขมันที่ชื่อว่าไตรกลีเซอไรด์สูงๆ
00:03:35 → 00:03:38 แล้วเริ่มมีค่าตับสูงเล็กน้อยอันเนี้ย
00:03:38 → 00:03:40 เริ่มเป็นสัญญาณบกบอกแล้วว่าเฮ้ยไขมันที่
00:03:40 → 00:03:42 พอกตับเนี่ยมันกำลังทำให้ตับคุณอักเสบ
00:03:42 → 00:03:44 แล้วนะถ้าคุณไม่รู้ตัวแล้วก็ใช้ชีวิตไป
00:03:44 → 00:03:47 เรื่อยๆเรื่อๆๆๆตับของคุณจะอักเสบเรื้อ
00:03:47 → 00:03:49 รังพอมันอักเสบเรื้อรังสิ่งที่เกิดขึ้น
00:03:50 → 00:03:52 คือคุณจะเป็นตับแข็งโดยที่คุณไม่ได้กิน
00:03:52 → 00:03:54 แอลกอฮอล์เลยนะครับแต่คุณตับแข็งได้เพราะ
00:03:54 → 00:03:56 ฉะนั้นตับแข็งจริงๆไม่ได้เกิดจากการกิน
00:03:56 → 00:03:58 แอลกอฮอล์อย่างเดียวแต่ตับแข็งเกิดจากไข
00:03:58 → 00:04:00 มันพอกตับแล้วทำให้ตับแข็งได้และความ
00:04:00 → 00:04:01 เสี่ยงที่สำคัญที่สุดคือเมื่อไหร่ก็ตาม
00:04:01 → 00:04:03 ที่คุณตับแข็งนะคุณมีความเสี่ยงในการเป็น
00:04:04 → 00:04:06 มะเร็งตับนะครับเพราะฉะนั้นถามว่าอาหาร
00:04:06 → 00:04:08 การกินทำให้คุณเป็นมะเร็งได้ไหมเป็นได้นะ
00:04:08 → 00:04:11 ครับและจุดที่อันตรายที่สุดคือจุดที่ตับ
00:04:11 → 00:04:14 ของคุณอักเสบฉับพลันแล้วกลายเป็นอักเสบ
00:04:14 → 00:04:16 เรื้อรังแล้วสุดท้ายกลายเป็นตับแข็งเมื่อ
00:04:16 → 00:04:18 ไหร่ก็ตามที่มันกลายเป็นตับแข็งไปแล้ว
00:04:18 → 00:04:20 นั่นคือมันเป็นพังผืดไปแล้วมันจะไม่
00:04:20 → 00:04:23 สามารถย้อนกลับมาเป็นตับที่ปกติได้เพราะ
00:04:23 → 00:04:25 ฉะนั้นณวันนี้ควรจะต้องรีบปรับทันทีโดย
00:04:25 → 00:04:28 เฉพาะคนที่อ้วนนะครับใครอ้วนควรจะต้องรีบ
00:04:28 → 00:04:30 ปรับเลยเพราะว่าคุณมีโอกาสที่ที่ตับจะ
00:04:30 → 00:04:32 แข็งมากๆเนาะเพราะฉะนั้น 5 ข้อนะครับที่
00:04:32 → 00:04:34 หมอหนึ่งอยากให้คุณเอาไปทำนะคุณจะได้หาย
00:04:34 → 00:04:38 จากการเป็นไขมันพอกตับหายไวมากๆเลยข้อที่
00:04:38 → 00:04:40 1 ทุกอย่างต้องแก้ที่สาเหตุหมอหนึ่งบอก
00:04:40 → 00:04:42 ไปแล้วว่าสาเหตุของไขมันพอกต่ำไม่ได้เกิด
00:04:42 → 00:04:44 จากของมันของทอดแต่มันเกิดจากแป้งและน้ำ
00:04:45 → 00:04:47 ตาลดังนั้นข้อที่ 1 นะครับพยายามงดน้ำตาล
00:04:47 → 00:04:49 จากเครื่องดื่มและขนมออกก่อนเลยแล้วก็พวก
00:04:49 → 00:04:51 เครื่องดื่มที่เป็นแอลกอฮอล์ถ้าคุณกิน
00:04:51 → 00:04:53 เครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูงน้ำตาลพวกเนี่ย
00:04:53 → 00:04:55 มันดูดซึมเข้ากระแสเลือดทันทีพอน้ำตาลของ
00:04:55 → 00:04:57 คุณสูงปั๊บมันก็ถูกเอาไปเก็บเป็นไขมัน
00:04:58 → 00:04:59 เปลี่ยนรูปไปเก็บเป็นไขมันโดยเฉพาะเฉพาะ
00:04:59 → 00:05:01 ในช่องท้องและที่ตับเพราะฉะนั้นคุณก็จะ
00:05:01 → 00:05:03 ไม่มีทางหายจากไขมันพอกตับได้แต่เมื่อ
00:05:03 → 00:05:06 ไหร่ก็ตามที่คุณงดเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล
00:05:06 → 00:05:08 ออกไปเอาน้ำอัดลมออกไปนะครับนะเอาน้ำ
00:05:08 → 00:05:12 ผลไม้กล่องออกไปเอาขนมหวานๆออกไปแล้วก็งด
00:05:12 → 00:05:14 พวกแอลกอฮอล์พวกเนี้ยจะทำให้ตับของคุณทำ
00:05:14 → 00:05:17 งานน้อยลงไม่มีไขมันใหม่ไปคอกตับคุณก็จะ
00:05:17 → 00:05:19 สามารถเอาไขมันเก่าออกมาใช้ได้เห็นภาพ
00:05:19 → 00:05:22 มั้ยข้อ 1 สำคัญที่สุดเลยนะครับนะทำอะไร
00:05:22 → 00:05:24 ไม่ได้ไม่รู้จะเริ่มจากอะไรเริ่มจากข้อ 1
00:05:24 → 00:05:25 ก่อนนะครับเพราะว่ามันสำคัญกับชีวิตของ
00:05:25 → 00:05:27 คุณมากเนาะปล่อยไว้เป็นเมร็งตับอ่ะนะครับ
00:05:28 → 00:05:30 ต่อมาข้อที่ 2 เมื่อกี้เราพูดถึงน้ำตาลนะ
00:05:30 → 00:05:33 ข้อที่ 2 ให้คุณลดการทานแป้งลงอ่าเพราะ
00:05:33 → 00:05:35 เหมือนึงบอกแล้วมันไม่ได้เกิดจากของมัน
00:05:35 → 00:05:37 ของทอดนะมันเกิดจากแป้งที่มากเกินไปเพราะ
00:05:37 → 00:05:40 ฉะนั้นคุณควรจะต้องลดแป้งลงเคยกินแป้ง
00:05:40 → 00:05:42 ปริมาณเท่าไหร่ลดแป้งลงให้เหลือครึ่งนึง
00:05:42 → 00:05:45 ก่อนนะครับและเลือกชนิดของแป้งพยายาม
00:05:45 → 00:05:47 เลือกแป้งที่ไม่ใช่แป้งที่ผ่านกระบวนการ
00:05:47 → 00:05:50 ขัดสีมาเช่นอะไรบ้างที่ผ่านการขัดสีมาพวก
00:05:50 → 00:05:53 ข้าวๆขนมปังขาวๆพวกเนี้ยทำไมหมอหนึ่งถึง
00:05:53 → 00:05:56 บอกว่าควรจะเลี่ยงเพราะว่าพวกข้าวสีขาว
00:05:56 → 00:05:58 หรือว่าขนมปังสีขาวพวกนี้จะไม่มีใยอาหาร
00:05:59 → 00:06:01 อยู่ในนั้นเวลาที่มันย่อยเป็นน้ำตาลปั๊บ
00:06:01 → 00:06:03 มันจะทำให้ระดับน้ำตาลเนื้อเลือดของคุณ
00:06:03 → 00:06:05 สูงขึ้นเลยทันทีเพราะมันไม่มีอะไรมาชะลอ
00:06:05 → 00:06:07 การดูดซึมถ้าคุณอยากให้มันมีการชะลอการ
00:06:07 → 00:06:09 ดูดซึมคุณจะต้องมีใยอาหารอยู่ในนั้นเพราะ
00:06:09 → 00:06:11 ฉะนั้นคุณอาจจะเพิ่มใยอาหารด้วยการทานผัก
00:06:11 → 00:06:14 เพิ่มก็ได้นะครับเนาะเพราะฉะนั้นลดแป้ง
00:06:14 → 00:06:15 เลือกชนิดของแป้งให้ดีแล้วเพิ่มใยอาหาร
00:06:16 → 00:06:19 เข้าไปนะครับถัดมาข้อที่ 3 นะครับข้อที่ 3
00:06:19 → 00:06:21 เนี่ยให้คุณเลี่ยงกลุ่มพวกผลไม้ไปก่อนบาง
00:06:21 → 00:06:25 คนเนี่ยไม่ได้อ้วนนะแต่กินผลไม้เยอะมากๆ
00:06:25 → 00:06:27 จนไขมันพอกตับไม่รู้ตัวเพราะอะไรเพราะว่า
00:06:27 → 00:06:29 เราไม่ได้อ้วนไงเราก็เลยงงว่าไขมันพอกตับ
00:06:29 → 00:06:32 เราได้ยังไงนะครับกลุ่มผลไม้ที่หวานๆมากๆ
00:06:32 → 00:06:34 เนี่ยจะมีน้ำตาลอยู่ชนิดนึงที่เรียกว่า
00:06:34 → 00:06:37 น้ำตาลฟรุกโตสมันจะคนละชนิดกับน้ำตาลที่
00:06:37 → 00:06:39 อยู่ในกระแสเลือดคุณที่คุณเจาะนะการที่
00:06:39 → 00:06:41 คุณเจาะน้ำตาลปลายนิ้วเนี่ยเราเรียกมัน
00:06:41 → 00:06:43 ว่าน้ำตาลกลูโคสนะครับแต่น้ำตาลที่อยู่ใน
00:06:43 → 00:06:46 ผลไม้ส่วนใหญ่มันคือน้ำตาลฟรุกโตสซึ่งน้ำ
00:06:46 → 00:06:49 ตาลฟลุกโตสเนี่ยมันจะไปเผาผลาญที่ตับโดย
00:06:49 → 00:06:51 ตรงนะครับเพราะฉะนั้นการที่คุณได้น้ำตาล
00:06:51 → 00:06:53 ตัวนี้เข้าไปเยอะๆเยอะๆยอะๆมากๆเนี่ยก็มี
00:06:53 → 00:06:56 โอกาสที่จะทำให้คุณเนี่ยมีไขมันพอกตับได้
00:06:56 → 00:06:58 นะครับแล้วพวกลุกโต๊ดเจอจากอะไรได้อีกก็
00:06:58 → 00:07:00 พวกน้ำผึ้งนะครับครับแล้วก็พวกที่เป็นน้ำ
00:07:00 → 00:07:03 อัดลมต่างๆนะครับพวกเนี้ยมีส่วนประกอบของ
00:07:03 → 00:07:04 พวกน้ำตาลชนิดนี้อยู่เพราะฉะนั้นก็ควรจะ
00:07:05 → 00:07:06 เลี่ยงไปเลยนะครับเพราะฉะนั้นอย่าลืมนะ
00:07:06 → 00:07:09 ผลไม้ถ้าจะทานให้จำกัดปริมาณแล้วก็เลี่ยง
00:07:09 → 00:07:12 ผลไม้ลดหวานๆถัดมานะครับข้อที่ 4 นะครับ
00:07:12 → 00:07:14 ทำแล้วไขมันคุณจะหายไวมากโดยเฉพาะไขมัน
00:07:14 → 00:07:17 ที่พอกตับก็คือคุณจะต้องมีช่วงเวลาของการ
00:07:17 → 00:07:20 หยุดทานนะการที่คุณลดแป้งลงได้งดน้ำตาลลง
00:07:20 → 00:07:22 ได้ตอนนี้ตับคุณเริ่มทำงานน้อยลงแล้วเนาะ
00:07:23 → 00:07:25 ตับคุณเริ่มแข็งแรงขึ้นละไขมันที่อยู่ใน
00:07:25 → 00:07:28 ตับเริ่มถูกเอาออกมาใช้ละแต่มันจะใช้ได้
00:07:28 → 00:07:30 นานหรือไม่นานขึ้นอยู่กับว่าคุณมีการเติม
00:07:30 → 00:07:33 อาหารใหม่เข้าไปบ่อยแค่ไหนบางคนเนี่ยตื่น
00:07:33 → 00:07:35 มาตั้งแต่ 8:00 นก็เริ่มกินตั้งแต่ 8:00
00:07:35 → 00:07:38 นนอนเที่ยงคืนก็กินยันเที่ยงคืนถามว่า
00:07:38 → 00:07:40 ร่างกายจะได้ใช้ไขมันมจะไม่ค่อยได้ใช้
00:07:40 → 00:07:42 หรอกครับเพราะว่าอะไรเพราะว่าอาหารที่คุณ
00:07:42 → 00:07:44 กินส่วนใหญ่ก็เป็นน้ำตาลกับแป้งถูกมั้ย
00:07:44 → 00:07:46 มันก็จะใช้น้ำตาลกับแป้งจากอาหารที่คุณ
00:07:46 → 00:07:48 กินเข้าไปก่อนแต่ถ้าคุณอยากจะใช้ไขมันที่
00:07:48 → 00:07:51 อยู่ในร่างกายของคุณคุณต้องลดช่วงระยะ
00:07:51 → 00:07:53 เวลาของการกินจากอาหารภายนอกลงเช่นเคยกิน
00:07:53 → 00:07:56 ตั้งแต่ 8:00 นยันเที่ยงคืนจำกัดเวลา
00:07:56 → 00:07:58 หน่อยได้มยเช่น 12 ชมงกิน 12 ชั่วโมงอด
00:07:58 → 00:08:00 ได้มั้ยเริ่มเริ่มกิน 8:00 นหยุดกินน
00:08:00 → 00:08:02 20:00 นได้ไมแต่ถ้าจะให้ดีถ้าคุณมีไขมัน
00:08:03 → 00:08:04 พอกตับแล้วคุณควรจะต้องมีช่วงเวลาของการ
00:08:05 → 00:08:07 หยุดทานเนี่ยอย่างน้อยสัก 15-16 ชมงนะ
00:08:07 → 00:08:10 ครับถ้าคุณหยุดกินวันนี้ตอน 18:00 นพรุ่ง
00:08:10 → 00:08:12 นี้คุณอาจจะไปเริ่ม 10:00 นเลยหรือ 99:00
00:08:12 → 00:08:15 นเพื่อให้มีช่วงระยะเวลาสัก 15-16
00:08:15 → 00:08:17 ชั่วโมงเพื่อให้ร่างกายของคุณได้ใช้ไขมัน
00:08:17 → 00:08:19 ที่มันออกมารอจากตระคุณแล้วเนี่ยให้เต็ม
00:08:19 → 00:08:21 ที่เห็นภาพเนาะหรือบางคนอยู่กิน 17:00 น
00:08:21 → 00:08:23 ก็อาจจะไปกิน 8:00 นหรือ 99:00 นอีกวัน
00:08:23 → 00:08:25 นึงเพื่อให้ร่างกายของคุณมีช่วงเวลาในการ
00:08:25 → 00:08:27 ใช้ไขมันได้เต็มที่ช่วงที่คุณหยุดทานก็
00:08:27 → 00:08:30 กินน้ำเปล่าเอาได้นะครับเนาะและข้อสุด
00:08:30 → 00:08:32 ท้ายข้อที่ 5 พอคุณทำข้อที่ 1 2 3 4
00:08:32 → 00:08:35 ไปแล้วนะ 4 ข้อนี้จะทำให้ร่างกายเนี่ย
00:08:35 → 00:08:37 ปล่อยไขมันออกมาตับคุณจะคลายไขมันที่มัน
00:08:37 → 00:08:41 พอกออกมานะพอเอาไขมันมารอปั๊บคุณต้อง
00:08:41 → 00:08:43 เพิ่มเตาเผาพลังงานของคุณเข้าไปเพื่อให้
00:08:43 → 00:08:45 มันเผาไขมันได้เยอะๆถูกมั้ยการเพิ่มเตา
00:08:45 → 00:08:47 เผาพลังงานก็คือการออกกำลังกายนั่นแหละ
00:08:47 → 00:08:49 การออกกำลังกายที่จะช่วยให้คุณเผาผลาไข
00:08:49 → 00:08:51 มันที่สะสมอยู่ได้ก็จะมีอยู่ 2 ประเภทคือ
00:08:51 → 00:08:54 1 คาร์ดิโอเช่นวิ่งกระโดดเชือกว่ายน้ำ
00:08:54 → 00:08:57 ได้หมดเลยนะครับเนาะหรือบางคนวิ่งไม่ไหว
00:08:57 → 00:08:59 เพราะว่าน้ำหนักตัวเยอะให้เป็นเดินช้า
00:08:59 → 00:09:01 สลับเดินเร็วก็ได้นะได้เหมือนกันนะครับ
00:09:01 → 00:09:03 อย่างน้อยสัก 10-15 นาทีต่อวันอย่าไป
00:09:03 → 00:09:05 เชื่อหลายๆคนที่บอกว่าโอให้ออกวันนึง
00:09:05 → 00:09:08 30-45 นาทีจริงๆมันดีนะครับถ้าทำได้แต่
00:09:09 → 00:09:10 ในคนที่เริ่มต้นที่ไม่เคยได้ออกกำลังกาย
00:09:10 → 00:09:13 มาก่อนเลยเนี่ยการออกแค่ 10-15 นาทีก็มี
00:09:13 → 00:09:15 ประโยชน์นะครับเพราะฉะนั้นดีที่สุดในจุด
00:09:15 → 00:09:17 ที่ทำได้ไหวเท่าไหร่เท่านั้นวันรุ่งขึ้น
00:09:17 → 00:09:19 เราค่อยๆเพิ่มข้นทีละนิดตามร่างกายของเรา
00:09:19 → 00:09:22 อย่าไปเปรียบเทียบกับใครนะครับเนาะแล้วก็
00:09:22 → 00:09:23 การออกกำลังกายอีกแบบนึงเราเรียกว่าการ
00:09:23 → 00:09:26 ออกกำลังกายแบบเท Training เช่นการ
00:09:26 → 00:09:28 cranking with พื้น sit up พวกเนี้ย
00:09:28 → 00:09:30 เป็นการการใช้กล้ามเนื้อนะครับนะหรือว่า
00:09:30 → 00:09:33 การทำ squat ก็ได้พวกนี้เป็นการใช้กล้าม
00:09:33 → 00:09:34 เนื้ออะไรก็แล้วแต่ที่ได้ออกแรงกล้าม
00:09:34 → 00:09:37 เนื้อบิดผ้านะครับพวกเยจะช่วยให้ร่างกาย
00:09:37 → 00:09:39 ของคุณเผาผันพลังงานได้ดีขึ้นนะครับเพราะ
00:09:39 → 00:09:40 เมื่อไหร่ก็ตามที่กล้ามเนื้อคุณได้ใช้
00:09:40 → 00:09:42 เนี่ยมันเปรียบเสมือนเตาเผาพลังงานของคุณ
00:09:42 → 00:09:45 เนี่ยได้เปิดสวิตช์เนาะเพราะฉะนั้น 5 ข้อ
00:09:45 → 00:09:48 นี้นะครับลองเอาไปทำนะไขมันที่พอกตับของ
00:09:48 → 00:09:50 คุณจะหายไวมากๆเลยนะครับนอกจากไขมันพอก
00:09:50 → 00:09:53 ตับคุณจะหายแล้วน้ำหนักคุณจะลดอีกด้วยแล
00:09:53 → 00:09:55 สำหรับใครนะครับที่มีไขมันพอกตับแล้วแล้ว
00:09:55 → 00:09:57 ก็น้ำหนักตัวเยอะด้วยนะครับแล้วอยากลดน้ำ
00:09:57 → 00:10:00 หนักจริงๆจังๆแล้วอยากลดไขมันพอกตับด้วย
00:10:00 → 00:10:02 โดยไม่ใช้ยานะครับตอนนี้หมอหนึมีกลุ่มลด
00:10:02 → 00:10:04 น้ำหนักนะครับชื่อกลุ่มลดน้ำหนัก VIP
00:10:04 → 00:10:06 คอร์สลดน้ำหนักครั้งสุดท้ายในชีวิตนะครับ
00:10:06 → 00:10:08 เพราะหมอหนึพบว่าหลายๆคนที่ฟังคลิปไปแล้ว
00:10:08 → 00:10:11 เนี่ยแล้วสุดท้ายก็ไม่ได้เริ่มต้นทำเนี่ย
00:10:11 → 00:10:13 มันมักจะเกิดอยู่จากไม่กี่ข้อเท่านั้นเอง
00:10:13 → 00:10:15 ข้อนึงคือไม่รู้จะเริ่มต้นยังไงติดปัญหา
00:10:15 → 00:10:17 ไม่รู้จะปรึกษาอะไรยังไงนะครับนะเพราะ
00:10:17 → 00:10:19 ฉะนั้นใครที่อยากจริงจังกับการดูแลสุขภาพ
00:10:19 → 00:10:21 ตัวเองนะครับสามารถดูรายละเอียดวิธีการ
00:10:22 → 00:10:24 เข้ากลุ่มได้นะครับหมอหนึจะคอยดูแลนัก
00:10:24 → 00:10:25 เรียนอยู่ในกลุ่มด้วยตนเองนะครับและบท
00:10:26 → 00:10:27 เรียนทั้งหมดเนี่ยที่อยู่ในกลุ่มนั้น
00:10:27 → 00:10:29 เนี่ยจะเป็นบทเรียนที่ไม่ได้มีเผยแพร่
00:10:29 → 00:10:31 สาธารณะนะครับเพราะว่าถูกเรียงมาแล้วว่า
00:10:31 → 00:10:33 ตามน้ำหนักตัวของคุณคุณควรจะต้องทำอะไร
00:10:33 → 00:10:35 ยังไงเท่าไหร่นะครับก็สามารถดูรายละเอียด
00:10:35 → 00:10:37 ได้ที่คลิปที่อยู่ต่อจากท้ายคลิปนี้หรือ
00:10:37 → 00:10:39 กดที่ลิงก์ที่อยู่ในคอมเมนต์ก็ได้นะครับ
00:10:39 → 00:10:44 แล้วพบกันนะ
00:10:44 → 00:10:54 [เพลง]
00:10:54 → 00:10:57 ครับ