00:00:00 → 00:00:03 สวัสดีครับตอนนี้นะครับมีการแชร์โพสต์อัน

00:00:03 → 00:00:06 นึงอย่างกว้างขวางนั่นก็คือโพสต์ที่เขียน

00:00:06 → 00:00:11 ไว้ว่าฟูรมากสติปัญญาลดแล้วผมมั่นใจ 100%

00:00:11 → 00:00:15 เลยนะครับว่าคนที่อ่านข้อความนี้ทุกคนจะ

00:00:15 → 00:00:18 เข้าใจไปในทางเดียวกันหมดว่าอย่าใช้ยาสี

00:00:18 → 00:00:21 ฟันที่มีฟลูออไรด์มันเป็นอันตรายอาจจะทำ

00:00:21 → 00:00:25 ให้สติปัญญาของลูกหลานของเราลดลงและนี่

00:00:25 → 00:00:28 แหละครับเป็นดราม่าครั้งใหญ่มีทันตแพทย์

00:00:28 → 00:00:31 ไปคอมเมนต์มากมายเลยทีเดียวแล้วทุกครั้ง

00:00:31 → 00:00:34 ที่คอมเมนต์นะครับก็จะได้รับการตอบกลับมา

00:00:34 → 00:00:39 ด้วยคำตอบที่คล้ายๆกันคำตอบแรกบอกว่าให้

00:00:39 → 00:00:44 ไปอ่านในงานวิจัยที่เขาแปะลิงก์ไว้นะครับ

00:00:44 → 00:00:47 คำตอบที่ 2 มีการอ้างอิงการฟ้องร้องที่

00:00:47 → 00:00:52 อเมริกาที่เค้าอยากจะให้หน่วยงานทางสิ่ง

00:00:52 → 00:00:54 แวดล้อมเนี่ยมีการพิจารณาระดับฟลูออไรด์

00:00:55 → 00:00:58 ที่ปลอดภัยใหอีกรอบหนึ่งและคำตอบที่ 3

00:00:58 → 00:01:00 ที่มีนะครับที่ผมเห็นนะฮะ

00:01:00 → 00:01:04 คืออ้างอิงไปในเว็บไซต์อีกอย่างหนึงก็คือ

00:01:04 → 00:01:06 National toxicology Program ของ

00:01:06 → 00:01:09 อเมริกานะครับซึ่งพูดเรื่องนี้ไว้เค้าก็

00:01:09 → 00:01:12 จะอ้างอิงแบบนี้ให้เราไปอ่านเองและตอน

00:01:12 → 00:01:14 หลังนะครับหลังจากมีธนแพทย์มาคอมเมนต์

00:01:14 → 00:01:18 หลายๆครั้งเข้านะครับมีการอธิบายว่าจริงๆ

00:01:18 → 00:01:20 แล้วมันเป็นยังไงเค้าก็เปลี่ยนใจนะครับเค

00:01:20 → 00:01:23 ก็มาบอกว่าตัวเค้า

00:01:23 → 00:01:26 เนี่ยที่เขียนอย่างนี้เนี่ยครับไม่ได้

00:01:26 → 00:01:31 เจตนาจะบอกว่าฟลัวร์ในยาสีฟันเป็นอันตราย

00:01:31 → 00:01:35 แต่อะไรรู้มยครับก่อนหน้านั้นเนี่ยเค้ามี

00:01:35 → 00:01:38 คอมเมนต์อันนึ่งที่เขียนไว้ว่าอย่าเติม

00:01:38 → 00:01:42 ฟลัวร์ในยาสีฟันไม่จำเป็นต้องเติมเขียน

00:01:42 → 00:01:46 ไว้ชัดเจนครับแต่ลบไปแล้วบังเอิญผมแคปอัน

00:01:46 → 00:01:51 นั้นไว้ทันครับผมก็เลยมีหลักฐานนะฮะงั้น

00:01:51 → 00:01:53 มั่นใจได้เลยว่าจริงๆเจ้าตัวเนี่ยเคคิด

00:01:53 → 00:01:56 ว่าฟลูออไรด์เป็นอันตรายรวมทั้งนายยาสี

00:01:56 → 00:01:57 ฟันเสีย

00:01:58 → 00:02:02 ด้วยและแน่นอนครับว่ามันมีไม่กี่คนหรอก

00:02:02 → 00:02:05 ครับที่เข้าไปอ่านงานวิจัยอ่านลิงก์เหล่า

00:02:05 → 00:02:07 นั้นแต่บังเอิญไม่ใช่ผมครับผมอ่านทุกตัว

00:02:08 → 00:02:11 อักษรแล้วผมจะมาอธิบายให้คุณทุกคนฟังว่า

00:02:11 → 00:02:15 มันคืออะไรกันแน่นะฮะและที่น่ากลัวไปกว่า

00:02:15 → 00:02:19 นั้นรู้มั้ยครับว่ามีคนอ้างอิงโพสต์ของคน

00:02:19 → 00:02:20 ๆ

00:02:20 → 00:02:24 เนี้ยไปบอกว่าเฮ้ยลัวนมันมีความอันตรายนะ

00:02:24 → 00:02:28 เคพูดมาตั้งหลายปีและว่าฟูรมันอันตรายนะ

00:02:28 → 00:02:31 แล้วก็มีการเขียนขีดค่าแอนตี้เอ่อ

00:02:31 → 00:02:34 เว็บไซต์ทางทันตแพทย์ต่างๆนะครับคือไม่

00:02:34 → 00:02:37 เชื่อเลยแล้วก็จะบอกว่าเนี่ยความรู้ทาง

00:02:38 → 00:02:41 โลกของเราเนี่ยมันมีการพัฒนาก้าวหน้าไป

00:02:41 → 00:02:44 แล้วหมอที่เา้าเรียนเนี่ยเขาก็ล้าหลัง

00:02:44 → 00:02:47 สิ่งที่เขารู้เนี่ยเา้าใหม่สุดเลยนะนี่

00:02:47 → 00:02:49 เค้าเขียนไว้อย่างนี้นะครับโพสต์เรื่อง

00:02:49 → 00:02:52 โฟลอันตรายมาเกือบ 3 ปีหลายคนคงว่าบ้าบาง

00:02:52 → 00:02:55 คนเถียงกลับนะครับตอนนี้ชัดเจนขนาดนี้หมอ

00:02:55 → 00:02:58 ฟันที่ยังไม่ตื่นก็คงจะแถเพราะขัดกับที่

00:02:58 → 00:03:00 ท่องจำมาส่วนหมอที่มีต่อเอ๊ะก็จะสะดุ้ง

00:03:00 → 00:03:04 ทั่วไปทั้งปัฐพีว่ากูถูกให้เรียนอะไรมา

00:03:04 → 00:03:08 นี่อันนี้นะครับบอกเลยว่าคนๆเนี้ยไม่รู้

00:03:08 → 00:03:10 เรื่องอะไรเลยครับเดี๋ยวผมจะอ่านให้ฟังดู

00:03:10 → 00:03:14 ว่ามันเป็นยังไงบ้างนะครับพบกับผมนะครับ

00:03:14 → 00:03:16 นายแพทย์ธนีธนียวันเป็นอาจารย์แพทย์อยู่

00:03:16 → 00:03:19 ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาเชี่ยวชาญโรคปอดการ

00:03:19 → 00:03:23 ปลูกถ่ายปอดและวิกฤตบำบัดนะครับชัดเจนนะ

00:03:23 → 00:03:25 ผมบอกไว้ตรรงๆตรงนี้เลยนะครับว่าฟลัวร์

00:03:25 → 00:03:29 ที่เราใช้อยู่ในประเทศไทยในยาสีฟันไม่

00:03:29 → 00:03:33 อันตรายอะไรเลยไม่อันตรายอะไรเลยที่มาจาก

00:03:33 → 00:03:36 น้ำดื่มไม่อันตรายอะไรเลยเหมือนกันครับ

00:03:36 → 00:03:39 แล้วเรื่องมันมายังไงเรื่องเนะครับมันมา

00:03:39 → 00:03:42 จากงานวิจัยตัวนึงเป็น Meta analysis นะ

00:03:42 → 00:03:46 ครับประกอบไปด้วยงานศึกษาทั้งหมด 74

00:03:46 → 00:03:52 เรื่องในนั้นนะครับโดยส่วนใหญ่นะครับ 55

00:03:52 → 00:03:54 งานคืออันเนี้ยมันเป็นการเอาการศึกษาหลาย

00:03:55 → 00:03:57 ๆงานมารวมกันเพื่อหาข้อสรุปว่าฟลูออไรด์

00:03:57 → 00:04:00 มีความเกี่ยวข้องกับระดับ IQ ของคนเรามย

00:04:00 → 00:04:03 นะครับแต่การเอาทุกอย่างมารวมกันเนี่ย

00:04:03 → 00:04:07 สิ่งที่เเจอนะครับ 55 จาก 74 งานเป็นงาน

00:04:07 → 00:04:10 ที่มีอคติสูง

00:04:10 → 00:04:14 มากมีเพียง 22 งานเท่านั้นที่มีอคติต่ำ

00:04:14 → 00:04:19 นั่นหมายความว่าอะไรถ้าเอาอคติสูงมาเยอะๆ

00:04:19 → 00:04:22 การสรุปก็ผิดพลาดได้ครับนี่ข้อที่ 1 นะ

00:04:22 → 00:04:26 ข้อที่ 2 งานวิจัยส่วนใหญ่ 45 งานมาจาก

00:04:26 → 00:04:31 ประเทศจีนครับผมไม่ได้บูประเทศชาติไหนนะ

00:04:31 → 00:04:35 แต่ประเทศจีนถ้าเราลงไปอ่านเนี่ยมันจะมี

00:04:35 → 00:04:37 เรื่องอื่นที่เกี่ยวข้องกับสติปัญญาได้

00:04:37 → 00:04:40 อีกเช่นสารพิษตัวอื่นครับคุณขาดไอโอดีน

00:04:40 → 00:04:43 มั้ยคุณได้สารตะกั่วสารปรอดอะไรมั้ยคุณ

00:04:43 → 00:04:48 ได้สารหนูอาร์เซนิกมยหรือคุณอยู่ในสภาวะ

00:04:48 → 00:04:54 แวดล้อมที่มันยากจนแร้งแค้นซึ่งมีผลต่อ IQ

00:04:54 → 00:04:57 ของเด็กแต่เขาไม่เอาดวงตนั้นมารวมครับไม่

00:04:57 → 00:05:00 ได้เอาตรงนั้นมารวมเลยนะ

00:05:00 → 00:05:02 และมันเป็นของประเทศจีนครับไม่สามารถที่

00:05:02 → 00:05:05 จะบอกว่าทั่วโลกมันจะเป็นเหมือนกันได้ที่

00:05:05 → 00:05:08 สำคัญเราไม่รู้ว่าน้ำที่คนจีนเหล่านั้น

00:05:08 → 00:05:10 ดื่มเนี่ยมันมีการปนเปื้อนอะไรอย่างอื่น

00:05:10 → 00:05:12 อย่างที่ผมเล่าไปมเพราะว่ามันมีผลต่อสติ

00:05:12 → 00:05:14 ปัญญาจะมาโทษว่าเป็นฟลูออไรด์มีผลไม่ได้

00:05:14 → 00:05:17 สมมุติน้ำอันนึงที่ดื่มไปมีฟลัวไรด์อยู่

00:05:17 → 00:05:21 จำนวนหนึ่งและในน้ำมีสารตะกั่วด้วยมีปลอด

00:05:21 → 00:05:25 ด้วยแล้วคุณจะโทษว่าโอ๊ยฟูเยอะสมองเลยแย่

00:05:25 → 00:05:28 ก็ไม่ถูกถูกมั้ยฮะเรายังไม่ได้บอกเลยอ้าว

00:05:28 → 00:05:32 แล้วตะกั่วล่ะปลอดล่ะสารหนูอ่ะหรือสาร

00:05:32 → 00:05:36 เคมีอย่าๆน่ะไม่ได้เอามานับรวมเลยหรอนี้

00:05:36 → 00:05:38 แสดงว่าเราวิสัยทัศน์แคบเกินไปถ้าเราจะ

00:05:38 → 00:05:42 มองเฉพาะเรื่องของ flu ครับแล้วในงานตัว

00:05:42 → 00:05:46 นี้เนี่ยนะฮะมีอย่างอื่นอีกครับวิธีที่

00:05:46 → 00:05:49 เขาทำงานศึกษาเนี่ยส่วนใหญ่งานทั้งหมดนะ

00:05:49 → 00:05:52 เกือบทั้งหมดเลยเป็นงานศึกษาที่เราเรียก

00:05:52 → 00:05:56 ว่า Cross sectional หมายความว่าอะไร

00:05:56 → 00:06:00 หมายความว่าเราเก็บข้อมูลณตอนตอนนี้นะ

00:06:00 → 00:06:03 ครับณตอนนี้ไม่มีการเก็บไปข้างหน้าไม่ได้

00:06:03 → 00:06:06 เก็บย้อนหลังดังนั้นงานชิ้นนี้จะไม่

00:06:06 → 00:06:12 สามารถเอามาสรุปได้เลยว่า flu กับ IQ มัน

00:06:12 → 00:06:15 มีความเกี่ยวข้องกันแบบนั้น flu สูงคุณ

00:06:15 → 00:06:18 ไม่สามารถบอกว่ามันเป็นสาเหตุของ IQ ต่ำ

00:06:18 → 00:06:21 ครับ

00:06:21 → 00:06:26 อืมตรงเนี้ยสำคัญมากนะ temporality ไม่

00:06:27 → 00:06:29 ใช่ causality

00:06:29 → 00:06:32 ไม่ใช่ไม่เกี่ยวข้องกันงานวิจัยตัวเนี้ย

00:06:32 → 00:06:35 ยังสรุปแบบนั้นไม่ได้ครับต้องมีงานวิจัย

00:06:35 → 00:06:39 ที่มันทำแบบไปข้างหน้าแล้วก็มีการกำหนด

00:06:39 → 00:06:43 ชัดเจนถึงจะตอบได้อ่ะแต่ยังไงก็ตามนะครับ

00:06:43 → 00:06:47 สิ่งที่เขาเจอนะคืออะไรนะเพราะว่าบางที

00:06:47 → 00:06:49 เราบอกว่าโอเคการศึกษาแบบเนี้ยมันทำได้

00:06:49 → 00:06:51 ยากจะทำไปข้างหน้าไม่รู้จะอีกกี่ 10 ปี

00:06:51 → 00:06:55 ถึงจะรู้ผมตอบคุณอีก 2-3 อย่างอย่างแรกนะ

00:06:55 → 00:06:58 ครับ flu มีใช้มาเป็น 100 ปีและและเราก็

00:06:58 → 00:07:00 มั่นใจแล้วว่ามันสามารถช่วยป้องกันฟันผุ

00:07:00 → 00:07:04 ได้นะครับแล้วคุณรู้มยว่าถ้าฟันมันผุมัน

00:07:04 → 00:07:07 เกิดอะไรขึ้นฟลัวร์มันช่วยคนไว้เป็นหลาย

00:07:07 → 00:07:11 ล้านคนเลยนะถ้าเกิดคุณไม่มีฟลูออไรด์ที่

00:07:11 → 00:07:13 กินเข้าไปหรือว่าแปรงฟันหรืออะไรก็แล้ว

00:07:13 → 00:07:15 แต่เนี่ยถ้ามีไม่เพียงพอนะสิ่งที่เกิด

00:07:15 → 00:07:19 ขึ้นกับคุณก็คือฟันผุติดเชื้อเข้าไปในฟัน

00:07:19 → 00:07:23 เข้ากระแสเลือดลงไปที่ลิ้นหัวใจตุยนะครับ

00:07:23 → 00:07:28 ตุยนะเนี่ยมันอันตรายขนาดเนี้ยนะครับงั้น

00:07:28 → 00:07:30 ฟรยเรารู้มาเป็น 100 ปีแล้วว่ามันมี

00:07:30 → 00:07:34 ประโยชน์สูงมากนะอันนี้คือข้อที่ 1 ที่

00:07:34 → 00:07:37 จำเป็นจะต้องรู้เกี่ยวข้องกับข้อเขียนอัน

00:07:37 → 00:07:42 นี้นะครับทีนี้เรื่องข้อที่ 2 ที่ควรจะ

00:07:42 → 00:07:44 รู้เกี่ยวข้องกับงานเขียนอันนี้เลยนะ

00:07:44 → 00:07:47 ฮะคุณต้องรู้อีก

00:07:47 → 00:07:51 ว่าทั้งหมดเนี่ยนะฮะที่เค้าทำการศึกษา

00:07:51 → 00:07:57 เนี่ยปริมาณของฟลัวร์เวัดกันยังไงนะฮะ

00:07:57 → 00:08:01 หลายงานวัดในน้ำดื่มครับแล้วคุณรู้ได้ไง

00:08:01 → 00:08:03 ว่าเค้าได้ฟูนเข้าไปจากน้ำดื่มหรือว่าได้

00:08:03 → 00:08:06 ฟูลจากที่ไหนเพราะว่าจริงๆวิธีในการวัด

00:08:06 → 00:08:09 คือต้องวัดฟูรในร่างกายครับว่าอปัสสาวะ

00:08:10 → 00:08:11 ออกมามีฟลูอะไรเยอะแค่ไหนอย่างน้อยก็ตรวจ

00:08:11 → 00:08:13 เลือดตรวจปัสสาวะจะได้รู้ว่าคนๆนั้นได้

00:08:13 → 00:08:18 ฟูรเยอะจริงๆหรือเปล่านะครับเพราะไม่งั้น

00:08:18 → 00:08:21 ก็จะมีการปนอ่ะเกิดว่าเราดูในน้ำดื่มโอเค

00:08:21 → 00:08:24 น้ำดื่มมีเยอะใช่มั้ยแต่ว่าเด็ก 10 คนนี้

00:08:24 → 00:08:26 อ่ะดื่มน้ำดื่มอ่ะเด็กอีก 10 คนไม่ได้

00:08:26 → 00:08:30 ดื่มอ่ะก็แปลว่าเฮ้ยเขาอาจจะไปเจออย่าง

00:08:30 → 00:08:33 อื่นก็ได้แต่แถวนั้นมันดันมีน้ำที่มีฟรด

00:08:33 → 00:08:35 สูงแต่เขาไม่ได้ดื่มอ่ะจะไปรู้ได้ไงว่า

00:08:35 → 00:08:40 ฟรดในร่างกายเมีอ่าใช่มฮะถ้างั้นจะไปเหมา

00:08:40 → 00:08:42 รวมได้ไงว่าเด็กทั้งหมดเนี่ยที่มี IQ ต่ำ

00:08:42 → 00:08:46 มันเพราะว่าฟูราก็ในเมื่อ 10 คนโอเคมีฟ

00:08:46 → 00:08:48 เยอะจริงแต่ไอ้ 10 คนมันอาจจะไม่มีก็ได้

00:08:48 → 00:08:51 เพราะว่าคุณไม่ได้ไปตรวจใช่มยฮะ

00:08:51 → 00:08:56 อ่าไม่ได้ไปตรวจงั้นคุณก็ไม่รู้นะครับ

00:08:56 → 00:08:58 งั้นตอนเนี้ยเรารู้แล้วมันเป็น Cross

00:08:58 → 00:09:02 sectional มันใช้บอก City ไม่ได้ไอ้ตัว

00:09:02 → 00:09:05 ฟลูออไรด์มันมีมาเป็น 100 ปีและไม่ได้มี

00:09:05 → 00:09:09 ปัญหาอะไรนะครับงานชิ้นเนี้ยก็มีปัญหาแต่

00:09:09 → 00:09:12 ว่าส่วนหนึ่งนะครับซึ่งจะเน้นย้ำคืองาน

00:09:12 → 00:09:16 ตัวเนี้ยเาเจอว่าอะไรรู้มั้ยฮะถ้าฟลัวร์

00:09:16 → 00:09:21 ในน้ำนะฮะมีเกิน

00:09:21 → 00:09:26 1.5 มิลลิกรัมต่อลิตรจะมีผลเกี่ยวเนื่อง

00:09:26 → 00:09:30 กับ IQ ที่มันต่ำลงคือมีความแปรผกผันกัน

00:09:30 → 00:09:34 เช่นถ้าเกิน 1.5 มิลิกรัมต่อลิตรเนี่ย

00:09:34 → 00:09:37 หรือ 1.5 ppm นะครับพ

00:09:38 → 00:09:42 perm ยิ่งสูงสติปัญญายิ่งลดอ่าอันนี้เขค

00:09:42 → 00:09:46 เจอนะแต่คุณรู้เลยมยและนี่แหละที่เป็น

00:09:46 → 00:09:50 สิ่งที่หลายๆคนไม่ได้ไปอ่านนะครับคือน้ำ

00:09:50 → 00:09:53 ทั่วไปอ่ะที่เราใช้อ่ะประเทศไทยค่าของมัน

00:09:53 → 00:09:58 อยู่ที่ 0.7 ครับไม่ได้ 1.5 เลยที่

00:09:58 → 00:10:01 อเมริกาโอเคกำหนดไว้ 1.5 แต่จริงๆมันก็

00:10:01 → 00:10:04 ไม่ถึงครับแล้วที่เขาบอกว่าเออส่งลิงก์

00:10:04 → 00:10:06 ว่าที่อเมริกาเนี่ยมีการฟ้องร้องอยากจะ

00:10:07 → 00:10:10 ให้ epa นะครับเป็นตัวที่เป็นตัวกำหนด

00:10:10 → 00:10:15 เรื่องของค่าัวายพวกเนี้ยมาพิจารณาใหม่นะ

00:10:15 → 00:10:18 ครับสิ่งที่เา้าทำก็คือโอเคในเมื่อกำลัง

00:10:18 → 00:10:21 มีการฟ้องร้องอยากจะให้พิจารณาใหม่หลายๆ

00:10:21 → 00:10:23 รัฐเนี่ยครับเก็เลยบอกว่าโอเคงั้นจะเติม

00:10:23 → 00:10:27 ฟูดเข้าไปในน้ำแต่คุณรู้อะไรมั้ยว่าปกติ

00:10:27 → 00:10:29 เนี่ยต่อให้ไม่เติมเนี่ยฟูดในอเมริกเนี่ย

00:10:29 → 00:10:32 นะครับต่อน้ำพวกเนี้ยก็ต่ำกว่า 1.5 อยู่

00:10:32 → 00:10:35 แล้วดังนั้นถ้าเกิดคุณจะเชื่องานศึกษาอัน

00:10:35 → 00:10:39 นี้ถ้าจะเชื่อนะอเมริกาเนี่ยก็ไม่ได้มี

00:10:39 → 00:10:41 ปัญหาอะไรครับแต่เขาฟ้องร้องกันเรื่อง

00:10:41 → 00:10:44 อะไรรู้มยฟ้องร้องกันที่บอกว่า epa เนี่ย

00:10:44 → 00:10:50 กำหนดไว้ว่าค่าที่อันตรายมากๆของฟูนคือ 4

00:10:50 → 00:10:54 มิลลิกรัมต่อลิตรขึ้นไปเอยากจะให้ตัวเลข

00:10:54 → 00:10:58 เนี้ยมันต่ำลงมาแค่นั้นเองแค่นั้นเลยแต่

00:10:58 → 00:11:00 มันต่ำอยู่แล้วครับของอเมริกามันต่ำอยู่

00:11:00 → 00:11:03 แล้ว 0.7 ถึง 1 กว่าๆยังไม่ถึง 1.5 ด้วย

00:11:03 → 00:11:05 ซ้ำไปมันต่ำอยู่แล้วแต่เขาแค่อยากจะแก้

00:11:05 → 00:11:08 ตัวนี้ให้มันต่ำลงมาอย่างไรก็ตามเวลาเอา

00:11:08 → 00:11:11 ไปตีข่าวเวลาเอาไปตีพิมพ์อยู่ในเว็บไซต์

00:11:11 → 00:11:13 เนี่ยเค้าก็ต้องตีพิมพ์ให้เห็นรู้สึก

00:11:13 → 00:11:17 เหมือนว่าูนมันอันตรายเค้ากำลังฟ้องร้อง

00:11:17 → 00:11:20 นี่มันเป็นอย่างงี้นะครับนี่มันเป็นอย่าง

00:11:20 → 00:11:23 นี้แหละนะดังนั้นถ้าใครไม่ได้ไปอ่านก็จะ

00:11:23 → 00:11:26 ไม่เข้าใจในส่วนนี้เรื่องของที่จีนก็

00:11:26 → 00:11:29 เหมือนกันนะครับมันมีอะไรปนเืนในน้ำไม่มี

00:11:29 → 00:11:33 ใครรู้น้ำในพวกนั้นนะฮะบางที่มีฟรดสูง

00:11:33 → 00:11:36 จริงแต่ก็มีอย่างอื่นสูงด้วยถามว่าแล้ว

00:11:36 → 00:11:37 ประเทศไทยเรา

00:11:37 → 00:11:41 ล่ะประเทศไทยเรานะครับมันอยู่ที่ประมาณ

00:11:41 → 00:11:44 0.7 ppm หรือ 0.7 มิลกรัมต่อลิตรในน้ำ

00:11:44 → 00:11:46 ที่เรามีนี่แหละและเราก็ไม่ได้มีการเติม

00:11:46 → 00:11:48 ฟู LINE ด้วยดังนั้นไม่มีความจำเป็นจะ

00:11:48 → 00:11:52 ต้องกังวลแต่อย่างใดเลยแม้แต่น้อยนะครับ

00:11:52 → 00:11:55 ไม่ต้องมีความกังวลเลยแม้แต่น้อย

00:11:55 → 00:11:59 นะทีนี้ก็มาถึงประเด็นสำคัญและเออมีอีก 2

00:11:59 → 00:12:01 มีอีกเรื่องนึงก่อนก่อนที่จะถึงนั้นอยาก

00:12:01 → 00:12:06 จะเล่าคนที่เโพสต์อันนี้เนี่ยนะประเด็น

00:12:06 → 00:12:10 แรกเลยนะครับผมว่าเขาอาจจะเป็นติ่งของ

00:12:10 → 00:12:14 Robert f kenedy ทำไมรู้มย Robert f

00:12:15 → 00:12:17 keny เนี่ยเป็นคนที่เคลื่อนไหวต่อต้าน

00:12:17 → 00:12:19 วิทยาศาสตร์ค่อนข้างที่จะเยอะแล้วหนึ่งใน

00:12:19 → 00:12:21 นั้นที่เขาเคลื่อนไหวอยู่เรื่อยๆก็คือ

00:12:21 → 00:12:25 เรื่องของ flu นั่นเองถ้าใครติดตามอยู่

00:12:25 → 00:12:26 เรื่อยๆก็จะรู้ว่า Robert f kenedy

00:12:26 → 00:12:29 เนี่ยเป็นคนที่ต่อต้านวัคซีนทุกนิดบนโลก

00:12:29 → 00:12:33 นี้ตั้งแต่ 20 กว่าปีที่แล้วแล้วก็มาโด่ง

00:12:33 → 00:12:36 ดังเอาช่วงโควิดเพราะว่าเคต่อต้านนะฮะ

00:12:36 → 00:12:38 เค้าไม่ได้ต่อต้านแค่นั้นครับเต่อต้านทุก

00:12:38 → 00:12:41 อย่างที่เป็นวิทยาศาสตร์เพราะเคิดว่ามัน

00:12:41 → 00:12:45 จะเป็นพิษนะฮะรวมทั้งเรื่องลนด้วยเรื่อง

00:12:45 → 00:12:49 เนี้ยไม่ใช่อยู่ๆคนที่ประเทศไทยอ่ะจะคิด

00:12:49 → 00:12:51 ขึ้นมาเองแล้วมันบอิบังเอิญไปตรงกับ

00:12:51 → 00:12:54 Robert f kenedy ได้หรอกครับผมคิดว่า

00:12:54 → 00:12:56 เออโอเคมันอาจจะมีโอกาสที่จะไปตรงกันพอดี

00:12:56 → 00:12:58 นะฮะแต่ส่วนใหญ่ไม่หรอกฮะเพราะว่าคนพวก

00:12:58 → 00:13:02 นี้คงจะติดตามกันเอ้ยไปดูโ rogan ไปดูเ่อ

00:13:02 → 00:13:05 rfk ไปดู John Camp เอ๊ยเค้าพูดคล้ายๆ

00:13:05 → 00:13:08 กันเอามาทำบ้างดีกว่าเพราะว่าเราจะได้

00:13:08 → 00:13:14 อะไรครับชื่อเสียงแสงมีคนมามีคนมาให้

00:13:14 → 00:13:18 engagement เยอะซึ่งมผมมองว่าส่วนตัวผม

00:13:18 → 00:13:21 เสียใจมากนะที่มันเป็นแบบเนี้ยคนคนเนี้ย

00:13:21 → 00:13:24 สมองก็ดีนะแต่ไม่รู้กลายเป็นแบบนี้ได้ยัง

00:13:24 → 00:13:26 ไงแต่ก็เอาเถอะนะฮะ

00:13:26 → 00:13:30 คือเค้าอาจจะใช้ชช่องโหวตรงที่ว่าเโพสต์

00:13:30 → 00:13:32 แบบนี้แล้วทิ้งลิงก์งานวิจัยแล้วมันมีไม่

00:13:32 → 00:13:34 มันไม่มีกี่คนหรอกครับที่เข้าไปอ่านงาน

00:13:35 → 00:13:38 วิจัยเข้าไปอ่านลิงก์จริงๆหรือต่อให้เข้า

00:13:38 → 00:13:39 ไปเนี่ยก็อ่านแป๊บเดียวแล้วอู้ยมันเยอะ

00:13:39 → 00:13:42 จังคงจะมีหลักฐานมั้งไม่ไม่จำเป็นจะต้อง

00:13:42 → 00:13:45 ไปสงสัยอะไรหรอกนะครับก็เชื่อไปตามนั้น

00:13:45 → 00:13:47 ซึ่งมันไม่ถูกต้อง่ะฮะเราต้องอ่านให้เป็น

00:13:48 → 00:13:50 ต้องเข้าใจนะครับไม่งั้นเราก็จะโดนหลอก

00:13:50 → 00:13:52 ได้ง่ายๆแบบนี้นะ

00:13:52 → 00:13:56 ครับทีนี้แหละมาเรื่องของยาสีฟันบ้างผม

00:13:56 → 00:13:59 อยากจะเล่าให้ฟังอย่างนี้นะ

00:13:59 → 00:14:02 สมัยก่อนแล้วจริงๆก็รวมตอนนี้ด้วยพิษที่

00:14:02 → 00:14:05 เกิดจากฟลูออไรด์เนี่ยมันมีพิษอยู่ 2

00:14:05 → 00:14:08 ประเภทพิษประเภทเฉียบพลันนะครับกับพิษ

00:14:08 → 00:14:12 ประเภทที่มันเรื้อรังพิษแบบเฉียบผลัเนี่ย

00:14:12 → 00:14:15 นะครับมันมักจะเกิดขึ้นในเด็กนะครับเพราะ

00:14:15 → 00:14:18 ว่ามันจำเป็นจะต้องกินฟลูออไรด์เข้าไปรวด

00:14:18 → 00:14:23 เดียว 5 มิลกรัมต่อกิกัครับสมมุติเด็กขวบ

00:14:24 → 00:14:27 นึงเนี่ยหนักสัก 10 กลนะครับ 5 มิลกรัม

00:14:27 → 00:14:31 ต่อกกก็คือคือคุณต้องกินนเข้าไป 50 มกรนะ

00:14:31 → 00:14:34 นี่ทำให้ผมต้องไปดูเลยยาสีฟันเด็กอ่ะหลอด

00:14:34 → 00:14:38 นึงมันมีกี่กรัมนะครับมันมีแบบอ่ะ 40 60

00:14:38 → 00:14:40 80 กรัมหมายความว่าถ้าเกิดคุณมีไอ้หลอด

00:14:40 → 00:14:43 ขนาดกลาง 60 กรัมแล้วกันเด็กคนนั้นน่ะ

00:14:43 → 00:14:47 ต้องกินยาสีฟันเข้าไปทั้งทั้งหลอดเลยอ่ะ

00:14:47 → 00:14:50 ถึงจะเกิดปัญหามีอาการคลื่นไส้อาเจียน

00:14:51 → 00:14:54 แล้วก็อย่างอื่นอีกมากมายนะครับนี่คือพิษ

00:14:54 → 00:14:56 แบบเฉียบพลันซึ่งมันไม่มีเด็กคนไหนเขาจะ

00:14:56 → 00:14:59 บีบเอายาสีฟันกินเข้าไปทั้งอันหรอกครับนะ

00:14:59 → 00:15:01 อย่างน้อยๆเด็กขวบนึงก็ไม่สามารถแปรงฟัน

00:15:01 → 00:15:04 ได้ด้วยตัวเองถูกมยเด็กก็คงจะไม่มาบีบ

00:15:04 → 00:15:07 เล่นพ่อแม่เนี่ยเป็นคนแปรงให้แล้วไม่ใช่

00:15:07 → 00:15:10 แปลงเสร็จแล้วก็ให้เสร็จอย่างงั้นเลยนะฮะ

00:15:10 → 00:15:13 เค้าแปลงเสร็จแล้วเเช็ดออกครับเช็ดออก

00:15:13 → 00:15:15 เพรางั้นปริมาณฟลัวร์ที่เข้าไปเนี่ยน้อย

00:15:15 → 00:15:19 มากน้อยป้องกันฟันผุได้แล้วก็ไม่ได้ทำให้

00:15:19 → 00:15:20 เกิดปัญหาอะไร

00:15:20 → 00:15:25 ด้วยทีนี้เราพิษเรื้อรังล่ะพิษเรื้อรัง

00:15:25 → 00:15:28 เนี่ยนะครับมันจะอยู่ที่ประมาณ 0.05 ม

00:15:28 → 00:15:33 กรัมต่อกิโลกรัมหมายความว่าอะไรหมายความ

00:15:33 → 00:15:36 ว่าถ้าเกิดคุณหนัก 10 กลนะครับเป็นเด็ก

00:15:36 → 00:15:40 ขวบนึงหนัก 10 กคุณจะต้องกินเข้าไป 0.5

00:15:40 → 00:15:44 มิลกรัมทุกๆวันไปเรื่อยๆนะครับแล้วจะเกิด

00:15:44 → 00:15:46 ภาวะนึงเรียกว่า fluorosis นะครับหรือ

00:15:46 → 00:15:48 skeletal fluorosis ฟันจะเป็นกระเป็น

00:15:48 → 00:15:51 ขาวๆจุดๆจุดๆอย่างเงี้ยแล้วก็กระดูกมันจะ

00:15:51 → 00:15:55 เปราะบางได้นะครับซึ่งไอ้เนี้ยก็เกิดยาก

00:15:55 → 00:15:59 อยู่ดีนะครับก็เกิดยากอยู่ดีคือคุณจะต้อง

00:15:59 → 00:16:03 ใช้ปริมาณเยอะๆเข้าไปทุกวันนะฮะยาสีฟัน

00:16:03 → 00:16:05 คุณต้องใช้เยอะอ่ะถึงจะเป็นอย่างนั้นได้

00:16:05 → 00:16:09 นะครับมันไม่เกิดหรอกครับนะฮะแล้วยิ่งคุณ

00:16:09 → 00:16:11 ตัวโตขึ้นเรื่อยๆน้ำหนักคุณมากขึ้นเรื่อย

00:16:11 → 00:16:14 ๆมันจะต้องใชู้นมากขึ้นตามไปด้วยกว่าจะ

00:16:14 → 00:16:19 เกิดพิษครับนะฮะและถ้าเข้าไปอ่านอีกนะฮะ

00:16:19 → 00:16:21 คือในงานเนี้ย met analis เมื่อตะกี้

00:16:21 → 00:16:25 เนี้ยเเจอผลพวกเนี้ยในเด็กเท่านั้นไม่เจอ

00:16:25 → 00:16:27 ในผู้ใหญ่ดังนั้นถ้าเกิดใครเป็นผู้ใหญ่จะ

00:16:27 → 00:16:29 ใช้ยาสีฟันฟูลคุุณยิ่งไม่ต้องสนใจอะไร

00:16:30 → 00:16:32 เข้าไปใหญ่เลยครับมันไม่เกิดเรื่องนะครับ

00:16:32 → 00:16:36 แต่ในเด็กถ้าคุณกังวลแหทางทันตแพทย์เด็ก

00:16:36 → 00:16:39 นะครับเคก็มีการแนะนำไว้ให้อยู่เรียบร้อย

00:16:39 → 00:16:42 แล้วนะครับว่าจะต้องทำยังไงบ้างนะครับก็

00:16:42 → 00:16:45 มีเอ่อถ้าเราลองไปอ่านดูเนี่ยเด็กน้อย

00:16:45 → 00:16:48 กว่า 3 ปีนะครับซึ่งก็น้ำหนักไม่เยอะเท่า

00:16:48 → 00:16:51 ไหร่หรอกนะฮะไม่ 15 กลอย่างมาก 20 กล

00:16:51 → 00:16:55 โอ้โหนี่อ้วนะนะฮะก็ใช้ใช้ยาสีฟันเท่ากับ

00:16:55 → 00:16:58 เม็ดข้าวสารก็จึ๋งนึงไม่ได้มีพิษอะไรนะ

00:16:58 → 00:17:01 ครับครับถ้าโตขึ้นมาหน่อยอถึง 6 ขวบอย่าง

00:17:01 → 00:17:04 เงี้ยนะฮะก็อาจจะใหญ่ขึ้นมาเท่าเม็ดถู

00:17:04 → 00:17:07 เขียวถ้าเกิดเกิน 6 ขวบก็อ่ะโอเคใหญ่กว่า

00:17:07 → 00:17:09 นั้นได้นะนี่คือปริมาณยาสีฟันที่บีบซึ่ง

00:17:09 → 00:17:12 ก็ไม่มีปัญหาอยู่แล้วแล้วยาสีฟันพวกเนี้ย

00:17:12 → 00:17:15 มันไม่มีใครกินเข้าไปครับถ้ากินเข้าไปก็

00:17:15 → 00:17:18 ปริมาณน้อยมากนะไม่ได้น่ากลัวจนกระทั่ง

00:17:18 → 00:17:21 เอ้ยเราเกิดอะไรขึ้นนะครับส่วนบางคนบอก

00:17:21 → 00:17:24 ว่าแปรงฟันแบบแห้งเออคือไงคือแปรงฟันแล้ว

00:17:24 → 00:17:26 ไม่ได้บ้วนน้ำคือคุณแปรงฟันเสร็จแล้ว

00:17:26 → 00:17:28 เนี่ยคุณไม่บ้วนน้ำก็ริงแต่คุณต้องบ้วนยา

00:17:28 → 00:17:31 สีฟันออกครับนะป้วนยาสีฟันออกคุณไม่ได้

00:17:31 → 00:17:35 กินยาสีฟันเข้าไปงั้นถ้าคุณป้วนออกเนี่ย

00:17:35 → 00:17:38 ฟลูออไรด์ที่เหลืออยู่ในปากที่มันเคลือบ

00:17:38 → 00:17:40 ฟันอยู่เนี่ยมันป้องกันฟันผุแต่มันไม่ได้

00:17:40 → 00:17:42 มากพอที่จะทำให้คุณกินเข้าไปแล้วก็เกิด

00:17:42 → 00:17:46 ภาวะฟูรเป็นพิษต่อระบบประสาทแต่อย่างใด

00:17:46 → 00:17:51 ดังนั้นเรื่องทั้งหมดเลยเครับผมมองว่าคือ

00:17:51 → 00:17:54 คนเขียนเนี่ยค่อนข้างมีเจตนาชัดเจนนะฮะ

00:17:54 → 00:17:58 ที่ออกมาโพสต์แบบนี้ให้คนมากดเข้ามาดู

00:17:58 → 00:18:00 แล้วก็เชื่อไปไปตามที่เขาบอกหลักฐานชัด

00:18:00 → 00:18:03 เจนก็คือเค้าโพสต์ไว้อันนึงแล้วเลบทิ้งไป

00:18:03 → 00:18:08 แล้วแล้วบังเอิญผมแคปทันว่าไ้ยาสีฟันไม่

00:18:08 → 00:18:10 ต้องไปเติมฟัว LINE เราก็โอ๊อย่างงี้มัน

00:18:10 → 00:18:14 ไม่ได้นะฮะอ่ะแต่ส่วนใครเป็นคนโพสต์ต้น

00:18:14 → 00:18:17 ทางตนี้ทุกท่านก็ไปหากันเอาเองแล้วกันนะ

00:18:17 → 00:18:20 ครับเพราะว่าถ้าเราพูดไปก็อาจจะเป็นการดู

00:18:20 → 00:18:23 หมิ่นสติปัญญาของใครบางคนก็ได้ดังนั้นผม

00:18:23 → 00:18:27 ก็จะละไว้ในฐานที่ทุกคนเข้าใจกันนะครับ

00:18:27 → 00:18:29 ถ้าใครไปเห็นข้อความเหล่านี้ส่งมาจากที่

00:18:29 → 00:18:32 ไหนก็รู้ไว้เลยนะครับว่ามันไม่ได้เป็นแบบ

00:18:32 → 00:18:35 นั้นนะครับยาสีฟันของเรายังควรปลอดภัยน้ำ

00:18:35 → 00:18:38 ดื่มที่เรามีอยู่ในเนี้ยยังคงปลอดภัยไม่

00:18:38 → 00:18:40 ได้มีอันตรายแต่อย่างใดถ้าจะมีอันตราย

00:18:40 → 00:18:43 อะไรก็โน่นคุณต้องไปอยู่ในสถานที่ที่น้ำ

00:18:43 → 00:18:46 ดื่มของเขาบังเอิญมีฟลูออไรด์ปนเปื้อน

00:18:46 → 00:18:48 มหาศาลถ้าพวกนั้นน่ะคุณอาจจะต้องใช้แบบ

00:18:48 → 00:18:50 เครื่องกรองน้ำ revere osmosis เอาพวก

00:18:50 → 00:18:53 ฟลูออไรด์ออกไปก็ได้นะครับแต่ถ้าเกิดคุณ

00:18:53 → 00:18:56 อยู่ในประเทศไทยอเมริกาไม่ได้มีปัญหาอะไร

00:18:56 → 00:19:00 เลยครับสบายใจได้แล้วผมก็ไปอ่านลิงก์ทุก

00:19:01 → 00:19:04 อันที่เา้าเป็นคนเอามาแปะไว้ทุกตัวอักษร

00:19:04 → 00:19:06 แต่ถ้าเกิดคุณยังสงสัยว่าผมอ่านถูกหรือ

00:19:06 → 00:19:09 ไม่ถูกผมก็จะแปะลิงก์ซ้ำให้คุณสามารถไป

00:19:09 → 00:19:12 อ่านได้ด้วยตัวเองครับเพื่อความมั่นใจ

00:19:12 → 00:19:15 แล้วก็ผมสนับสนุนให้ทุกคนนะครับอ่านข้อ

00:19:15 → 00:19:18 ความให้ชัดเจนก่อนที่จะเชื่ออะไรอย่าไป

00:19:18 → 00:19:21 เชื่อเพียงเพราะว่าคนๆหนึ่งมีชื่อเสียง

00:19:21 → 00:19:25 มากคนๆหนึ่งเป็นถึงระดับเอ่อคนเก่งมาก

00:19:25 → 00:19:27 อย่าไปเชื่อตรงนั้นแล้วก็อย่าไปเชื่อว่า

00:19:27 → 00:19:30 เค้าเอางานวิจัยหลายๆอย่างนะครับหลักฐาน

00:19:30 → 00:19:34 แต่ละอย่างมาแปะให้คุณได้ดูอย่าเพิ่งไป

00:19:34 → 00:19:37 เชื่อที่เา้าบอกว่าเฮ้ยนี่ไงถ้ามันไม่

00:19:37 → 00:19:39 จริงทำไมอเมริกามีการฟ้องร้องคุณไปอ่านดู

00:19:39 → 00:19:41 หรือยังว่าเค้าฟ้องกันเรื่อง

00:19:41 → 00:19:45 อะไรเค้าฟ้องกันเรื่องอะไรนะฮะถ้าคุณยัง

00:19:45 → 00:19:48 ไม่ได้เข้าไปอ่านเลยเนี่ยคุณก็โดนโดนหลอก

00:19:48 → 00:19:52 ซ้อนหลอกถูกมั้ยฮะหลอกที่ 1 ก็คือโอ้นี่

00:19:52 → 00:19:55 ไงอเมริกายังฟ้องแล้วแสดงว่าัวลายเกี่ยว

00:19:55 → 00:19:58 ข้องกับไอคต่ำจริงๆหลอกที่ 2 ก็คือสิ่ง

00:19:58 → 00:20:01 ที่เฟ้องร้องเนี่ยเอยากจะให้ epa แก้ไข

00:20:01 → 00:20:04 ระดับที่อันตรายจาก 4 อาจจะต้องต่ำกว่า

00:20:04 → 00:20:07 นั้นเช่น 1.5 เป็นต้นหรือ 2 อะไรอย่างงี้

00:20:07 → 00:20:10 เป็นต้นนะครับไม่ได้ฟ้องร้องว่าในน้ำดื่ม

00:20:10 → 00:20:12 มันมีปัญหาอะไรแล้วก็ไม่ได้ฟ้องร้องว่ายา

00:20:12 → 00:20:15 สีฟันมันอันตรายแต่อย่างใดครับคุณก็ต้อง

00:20:15 → 00:20:18 ไปอ่านพวกนี้เองดังนั้นเนี่ยมีหลักฐาน

00:20:18 → 00:20:21 เข้าไปอ่านพิจารณาให้เป็นนะครับเดี๋ยวนี้

00:20:21 → 00:20:23 ถ้าคุณพิจารณาไม่เป็นคุณถามแชท gpt ก็ได้

00:20:23 → 00:20:27 ง่ายที่สุดถูกมั้ยฮะง่ายๆเลยนะฮะดังนั้น

00:20:27 → 00:20:29 วันนี้ผมก็จะเล่าให้ฟังเพียงเท่านี้แล้ว

00:20:29 → 00:20:31 กันนะครับถ้าเกิดว่าใครมีอะไรสงสัยก็สอบ

00:20:31 → 00:20:36 ถามกันเข้ามานะครับถ้าใครมีอะไรคัดค้านก็

00:20:36 → 00:20:40 คอมเมนต์โดยสุภาพและมีหลักฐานชัดเจนไม่

00:20:40 → 00:20:42 ต้องไปอ้างอิงคอมเมนต์ของใครมาครับเพราะ

00:20:43 → 00:20:45 ว่าคุณต้องอ้างอิงงานวิจัยแล้วคุณต้อง

00:20:45 → 00:20:48 อ่านให้เป็นถึงจะมาสู้กับผมได้นะครับวัน

00:20:48 → 00:20:53 นี้เท่านี้นะครับขอบคุณมากครับสวัสดีครับ