00:00:04 → 00:00:05 [ปรบมือ]
00:00:05 → 00:00:06 [เพลง]
00:00:06 → 00:00:08 [ปรบมือ]
00:00:08 → 00:00:11 [เพลง]
00:00:11 → 00:00:14 [ปรบมือ]
00:00:14 → 00:00:23 [เพลง]
00:00:23 → 00:00:24 [ปรบมือ]
00:00:24 → 00:00:28 [เพลง]
00:00:28 → 00:00:30 แ
00:00:30 → 00:00:31 [ปรบมือ]
00:00:31 → 00:00:32 [เพลง]
00:00:33 → 00:00:35 [ปรบมือ]
00:00:35 → 00:00:46 [เพลง]
00:00:46 → 00:00:50 มาตรวจเรื่องดาซมอ่ะค่ะลูกมีอาการปาก
00:00:50 → 00:00:53 แหว่ง 2 ข้างผิดปกติอ่ะค่ะไม่คิดว่าจะ
00:00:53 → 00:00:56 เกิดขึ้นเลยเาบอกว่าไม่ต้องกังวลเรื่อง
00:00:56 → 00:00:59 แค่ปากแหว่งเพราะว่าเดี๋ยวนี้สศัลยกรรม
00:00:59 → 00:01:03 ได้ค่ะแทบจะไม่มีรอยแผลเป็นเลยคืองดกังวล
00:01:03 → 00:01:06 เรื่องนี้เลยแต่แค่กังวลเรื่องลูกจะเป็น
00:01:06 → 00:01:10 ดาซมเพราะว่าโครโมโซมอาจผิดพลาดสาเหตุเรา
00:01:10 → 00:01:13 รู้เท่าไม่ถึงการไม่ได้บำรุงตั้งแต่ตั้ง
00:01:13 → 00:01:16 แต่เดือนแรกที่เราตั้งครรภ์เพราะว่าเด็ก
00:01:16 → 00:01:19 สามารถสร้างหัวสร้างตัวได้ 4 สัปดาห์แรก
00:01:19 → 00:01:22 เลยค่ะที่เราต้องบำรุงตั้งแต่แรก
00:01:22 → 00:01:25 [เพลง]
00:01:25 → 00:01:30 เลยวันนี้คุณแม่มารับการปรึกษาที่หน่วย
00:01:30 → 00:01:33 เนื่องจากตรวจพบว่ามีความผิดปกติของน้อง
00:01:33 → 00:01:36 เล็กน้อยนะครับจากการทำซาวไปครั้งก่อน
00:01:36 → 00:01:39 เนี่ยเราพบว่าเด็กมีภาวะปากแว่งนะครับ
00:01:39 → 00:01:42 ซึ่งภาวะเนี้ยเกิดขึ้นเองตามธรรมชาตินะ
00:01:42 → 00:01:44 ครับคุณแม่ไม่ได้เกิดจากการปฏิบัติตัวที่
00:01:44 → 00:01:47 ผิดพลาดหรือว่าเราไปทำงานหนักกินของแสลง
00:01:47 → 00:01:50 ไม่เกี่ยวเลยนะครับอันนี้เป็นสิ่งที่เขา
00:01:50 → 00:01:51 เกิดขึ้นเองทางการแพทย์เราก็ยังไม่ได้
00:01:51 → 00:01:54 ทราบสาเหตุที่ชัดเจนแต่ว่ารักษาได้คุณแม่
00:01:54 → 00:01:57 นะครับเพราะว่าปัจจุบันเนี่ยเทคโนโลยีทาง
00:01:57 → 00:01:59 การแพทย์ในการสัญกรรมตกแต่งเนี่ยเราทำได้
00:01:59 → 00:02:00 เรียกว่าเนียบมากเพราะฉะนั้นประเด็น
00:02:00 → 00:02:02 เรื่องตรงเนี้ยหมอคิดว่าคุณแม่ไม่ต้อง
00:02:02 → 00:02:06 กังวลปัญหาคือภาวะปากแหว่งเนี่ยมันพบร่วม
00:02:06 → 00:02:10 กับภาวะโครโมโซมผิดปกติได้ประมาณสัก 10
00:02:10 → 00:02:13 -15% 10 -15% ใช่เยอะพอสมควรเพราะ
00:02:13 → 00:02:15 ฉะนั้นเนี่ยก็เลยแนะนำคุณแม่ว่าเราควรจะ
00:02:15 → 00:02:17 ตรวจเลือดเด็กเพื่อเช็คโครโมโซมของน้อง
00:02:17 → 00:02:20 ก่อนว่าเขามีโครโมโซมที่ผิดปกติร่วมด้วย
00:02:20 → 00:02:23 หรือไม่ถ้าโครโมโซมปกติเราก็ตั้งท้องต่อ
00:02:23 → 00:02:26 แล้วเดี๋ยวรอทำศัลยกรรมแก้ไขหลังคลอดแต่
00:02:26 → 00:02:29 ถ้าโครโมโซมผิดปกติอันนั้นต้องมาคุยกัน
00:02:29 → 00:02:32 ว่าเป็นความความผิดปกติชนิดรุนแรงหรือไม่
00:02:32 → 00:02:35 ถ้าเป็นโครโมโซมผิดปกติชนิดรุนแรงพูดตรงๆ
00:02:35 → 00:02:37 คือถ้าถ้าเลี้ยงไม่รอดเราอาจจะต้องให้
00:02:37 → 00:02:39 ยุติการตั้งคันลให้คุณแม่ตั้งท้องครั้ง
00:02:39 → 00:02:41 ใหม่ก็เลยแนะนำคุณแม่ไปคุณแม่ก็โอเคอายุ
00:02:41 → 00:02:44 คันตอนนี้เท่าไหร่ประมาณ 22 ใช่มั้ยครับ
00:02:44 → 00:02:46 คุณแม่ประมาณ 5 เดือนครึ่ง 22 สัปดาห์ 5
00:02:46 → 00:02:49 เดือนครึ่งนะครับแล้วคุณแม่รู้ข้อมูลนี้
00:02:49 → 00:02:52 มาก่อนหน้านี้แล้วรู้แล้วค่ะรู้มานานสัก
00:02:52 → 00:02:55 แค่ไหนแล้วนะฮะประมาณ 3 วันนะคะ 3 วัน
00:02:55 → 00:02:56 ก่อนหน้านี้คือเหมือนกับคุณแม่รับการตรวจ
00:02:56 → 00:02:58 จากโรงพยาบาลอีกที่นึงก่อนแล้วเมีความ
00:02:58 → 00:03:01 สงสัยอืเก็เลยส่งมายืนยันการวินิจฉัยที่
00:03:01 → 00:03:03 นี่ทางทางนี้ทางศิริราชก็ยืนยันการ
00:03:03 → 00:03:06 วินิจฉัยให้แล้วก็แนะนำข้อมูลเพิ่มเติม
00:03:06 → 00:03:08 เรื่องการเจาะเลือดจากสายสดือเด็กด้วยวัน
00:03:08 → 00:03:10 นี้สิ่งที่อาจารย์จะทำก็คือก็คือตรวจ
00:03:10 → 00:03:13 อันซาวซ้ำนะครับประเมินขนาดน้ำหนักเด็ก
00:03:13 → 00:03:16 แล้วก็ทำการเจาะเลือดจากสายสะดือเด็กเรา
00:03:16 → 00:03:19 จะเอาเลือดเด็กไปตรวจโครโมโซมนะครับเอา
00:03:19 → 00:03:22 เลือดจากตัวเด็กเลยสายสะดือใช่ๆแต่ว่า
00:03:22 → 00:03:24 เจาะตรงสายสะดือเจาะสายสะดือเคสเนี้ย
00:03:24 → 00:03:27 เนื่องจากอายุครรภ์เกินเกิน 20 สัปดาห์
00:03:27 → 00:03:29 เราถ้าถ้าคุณแม่อายุคันน้อยกว่าเนี้ยเรา
00:03:29 → 00:03:31 อาจจะใช้การเจาะน้ำคร่ำเพื่อตรวจโครโมโซม
00:03:31 → 00:03:34 ก็ได้แต่ทีเนี้ยพออายุคันเยอะขึ้นการตรวจ
00:03:34 → 00:03:37 จากน้ำค่ำอาจจะได้ความแม่นยำน้อยลงประกอบ
00:03:37 → 00:03:39 กับอายุครรภ์มันเยอะขึ้นเรื่อยๆถ้าผลผิด
00:03:39 → 00:03:41 ปกติเนี่ยเราอาจจะยุติการตั้งครรภ์ได้
00:03:41 → 00:03:44 ลำบากจึงต้องเลือกวิธีการเป็นการเจาะ
00:03:44 → 00:03:46 เลือดจากสายสะดือซึ่งมันตรวจได้ผลรวดเร็ว
00:03:46 → 00:03:49 กว่าแต่ว่าการการเจาะเลือดจากสายสะดือ
00:03:49 → 00:03:52 เด็กเนี่ยภาวะแทรกซ้อนจะมากกว่ามากกว่า
00:03:52 → 00:03:55 การเจาะน้ำคร่ำอย่างโอกาสจะการจาะน้้ำค่ำ
00:03:55 → 00:03:57 เนี่ยโอกาสแท้งโอกาสถูงน้ำค่ำแตกประมาณ
00:03:57 → 00:03:58 สัก
00:03:58 → 00:04:01 0.4% ประมาณแต่การเจาะเลือดจากสายสะดือ
00:04:01 → 00:04:03 เด็กเนี่ยมีโอกาสทำให้เกิดการแทงได้เป็น 2
00:04:03 → 00:04:06 เท่าคือประมาณ 1 หรืออาจจะถึง 2% ผมว่า
00:04:06 → 00:04:08 ขั้นตอนแบบนี้เป็นขั้นตอนสำคัญมากสำหรับ
00:04:08 → 00:04:10 สำหรับคุณหมอสำหรับอาจารย์ที่จะที่จะบอก
00:04:10 → 00:04:12 คนไข้แล้วก็เท่าที่ผ่านมาเป็นไงบ้างฮะคณ
00:04:12 → 00:04:16 ไข้จะทำใจากตนละต้องคุยกันนะครับว่า
00:04:16 → 00:04:19 อธิบายว่าเกิดอะไรขึ้นเราตรวจเจออะไรภาวะ
00:04:19 → 00:04:21 เนี้ยมีที่มาที่ไปรุนแรงมากน้อยแค่ไหน
00:04:21 → 00:04:23 รักษาได้มั้ยบอกตรงเลยใช่บอกตรงเลยครับ
00:04:23 → 00:04:27 ข้อมูลทั้งหมดต้องบอกตรงเอ่อโดยทั้งหมด
00:04:27 → 00:04:29 เนี่ยเราจะเชิญสามีหรืออาจจะมีครอบครัวมา
00:04:29 → 00:04:31 ร่วมรับฟังด้วยนะครับเพราะว่าถ้ามาคน
00:04:31 → 00:04:33 เดียวเนี่ยเดี๋ยวการถอยทอดข้อมูลมันตก
00:04:33 → 00:04:35 หล่นก็จะเกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนเพราะ
00:04:35 → 00:04:37 ฉะนั้นการให้คำปรึกษาเราจะให้คำปรึกษาแบบ
00:04:37 → 00:04:39 กับครอบครัวทั้งหมดเราเป็นผู้ให้ข้อมูล
00:04:39 → 00:04:42 พื้นฐานนะครับซึ่งกระบวนการเหล่าเเกิด
00:04:42 → 00:04:43 ขึ้นเรียบร้อยไปหมดแล้วตั้งแต่ตั้งแต่
00:04:43 → 00:04:46 เมื่อวานใช่มั้ยครับคุณแม่นะเขาแจ้งผลการ
00:04:46 → 00:04:49 ตรวจไปแล้วแจ้งว่าเจออะไรบ้างมีอชมีคาง
00:04:49 → 00:04:51 เลือกยังไงบ้างตั้งแต่เมื่อวานแล้วก็คุณ
00:04:51 → 00:04:53 แม่และครอบครัวตัดสินใจรับการตรวจเลือด
00:04:53 → 00:04:56 ของทารกของเด็กโดยการเจาะเลือดจากสาย
00:04:56 → 00:04:57 สะดืองั้นเดี๋ยวขั้นตอนเป็นอย่างนี้ครับ
00:04:57 → 00:05:00 คุณแม่หมอจะทำมาซาดูโครงสร้างทั่วๆไปก่อน
00:05:00 → 00:05:03 แล้วก็ดููตำแหน่งที่เราจะเจาะแล้วเดี๋ยว
00:05:03 → 00:05:05 ตอนจะเจาะหมออธิบายขั้นตอนให้ฟังอีกทีนึง
00:05:05 → 00:05:06 นะ
00:05:06 → 00:05:10 [เพลง]
00:05:10 → 00:05:14 ครับอย่างตอนที่คุณแม่รู้ว่ามีอาการปาก
00:05:14 → 00:05:17 แหว่งเนี่ยเรารู้ตั้งแต่เด็กยังอยู่ใน
00:05:17 → 00:05:20 ครรภ์แล้วก็อายุรภยังน้อยอยู่ก็รู้ลฮะ
00:05:20 → 00:05:21 ประมาณสัก 5 เดือนเป็นช่วงที่เหมาะในการ
00:05:21 → 00:05:23 วินิจฉัยเพราะถ้าถ้าเล็กกว่านั้นเนี่ยจะ
00:05:24 → 00:05:26 ดูยากส่วนมากความผิดปกติต่างๆเราจะ
00:05:26 → 00:05:28 วินิจฉัยกันได้ตอนประมาณ 5 เดือนนะเห็นชด
00:05:29 → 00:05:32 เห็นชัดใช่อันเนี้ยคือคุณแม่ดูตามลูกศรนะ
00:05:32 → 00:05:35 อันนี้ก็คือริมฝีปากบนอันนี้คือปีกจมูก 2
00:05:35 → 00:05:38 ข้างเราจะพบว่ามันมีสีดำตรงเนี้ยอันนี้
00:05:38 → 00:05:40 มันคือมันไม่เต็มชิ้นน่ะคุณแม่มันเป็นรอย
00:05:40 → 00:05:43 แหว่งเล็กๆอันนี้ก็คือเป็นตำแหน่งความผิด
00:05:43 → 00:05:46 ปกติของริมฝีปากบนนะครับถ้าเราเจอแบบ
00:05:46 → 00:05:48 เนี้ยเราก็จะให้การวินิจฉัยได้อย่างมั่น
00:05:48 → 00:05:51 ใจเพราะถือว่าชัดเจนซึ่งซึอย่างที่บอกนะ
00:05:51 → 00:05:53 คุณแม่มันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเองตาม
00:05:53 → 00:05:55 ธรรมชาติไม่ได้เกิดจากเราไปปฏิบัติตัวผิด
00:05:55 → 00:05:58 อะไรต่างๆนะครับแต่รักษาได้ครับโอเคปาก
00:05:58 → 00:06:01 แว่งเพันโหวมาพร้อมกันมั้ยฮะไม่ครับแล้ว
00:06:01 → 00:06:04 แต่ไม่เสมอไปนะครับแต่เพดานโหว่จะ
00:06:04 → 00:06:06 วินิจฉัยแทบไม่ได้เลยในขณะที่เด็กอยู่ใน
00:06:07 → 00:06:09 ท้องเพราะว่าเพดานมันอยู่ในช่องปากอีกที
00:06:09 → 00:06:11 นึงอันเนี้ยอันซาวมองไม่ค่อยเห็นนี่ก็
00:06:11 → 00:06:13 ต้องหาตำแหน่งของสายสะดือหาตำแหน่งของสาย
00:06:13 → 00:06:15 สะดือครับขั้นตอนคือเดี๋ยวหมอจะทำความ
00:06:15 → 00:06:18 สะอาดหน้าท้องทางน้ำยาฆ่าเชื้อมือคุณแม่
00:06:18 → 00:06:20 วางตำแหน่งนี้ตลอดเวลาเป็นยังไงให้บอกหมอ
00:06:20 → 00:06:23 อย่าเอามือลงมาปัดมันจะเกิดการปนเปื้อนนะ
00:06:23 → 00:06:25 หมอทานน้ำยาเสร็จปุ๊บหมอปูหมอปูผ้าปลอด
00:06:25 → 00:06:29 เชื้อแล้วก็จะฉีดยาชาคุณแม่เจ็บตอนฉีดยา
00:06:29 → 00:06:31 ชานิดนิดนึงหลังจากนั้นหมอใช้เข็มเบอร์
00:06:31 → 00:06:35 เล็กปักลงไปเอ่อลงไปถึงสายสะดือแล้วก็ดูด
00:06:35 → 00:06:38 เลือดจากสายสะดือเด็กออกมา 5 ซีซนะครับ
00:06:38 → 00:06:40 ระหว่างเจาะถ้าคุณแม่มีอาการผิดปกติบอก
00:06:40 → 00:06:46 หมอได้เลยนะครับแต่ว่าอย่าเอามือลงมาปัด
00:06:46 → 00:06:58 [เพลง]
00:06:58 → 00:07:04 นะ
00:07:04 → 00:07:07 จอเสร็จเรียบร้อยเรียบร้อยครับเป็นไงบ้าง
00:07:07 → 00:07:10 ครับเมื่อกี้ลุ้นมั้ยฮะลุ้นลุ้นตามไปด้วย
00:07:10 → 00:07:12 ใช่มั้ยครับคุณแม่เจ็บมั้ยไม่เจ็บค่ะไม่
00:07:12 → 00:07:15 ค่อยเจ็บเพราะว่าเราฉีดราชาเยอะพอสมควร
00:07:15 → 00:07:17 ใช้ใช้เลือดปริมาณประมาณสัก 2 ซีซี 2
00:07:17 → 00:07:19 ซีซีก็ก็ไม่มากนะฮะใชครับไม่มากครับ
00:07:19 → 00:07:21 ปริมาณนิดเดียวคือปริมาณที่ออกมาเนี่ยไม่
00:07:21 → 00:07:23 มีผลกระทบต่อเด็กนะครับคุณแม่เพราะเลือด
00:07:23 → 00:07:25 ไหลเวียนในตัวเด็กเนี่ยมีอยู่หลาย 10
00:07:25 → 00:07:28 ซีซีการออกมาแค่ 2 ซีซีไม่มีผลครับนะครับ
00:07:28 → 00:07:31 เลือดนี้ก็จะถูกนำไปตรวจโครโมโซมตรวจต่อ
00:07:31 → 00:07:34 ไปนะครับว่าน้องมีโครโมโซมที่ปกติหรือผิด
00:07:34 → 00:07:37 ปกติพอเราได้ผลตรวจโครโมโซมเด็กปุ๊บเราก็
00:07:37 → 00:07:38 จะอธิบายให้คุณแม่ฟังว่าอ่าขณะนี้
00:07:38 → 00:07:41 โครโมโซมเป็นอย่างไรแพลนการดูแลต่อไปข้าง
00:07:42 → 00:07:44 หน้าเป็นอย่างไรบ้างท้องต่อได้มยหรือว่า
00:07:44 → 00:07:47 จะต้องทำอะไรเพิ่มเติมต่างๆนะครับก็หลัง
00:07:47 → 00:07:50 จากวันเนี้ยเจาะเสร็จแล้วคำแนะนำคือเอ่อ
00:07:50 → 00:07:54 24 ชมงแรกคุณแม่ต้องพักผ่อนเยอะๆนะครับ
00:07:54 → 00:07:56 กิจกรรมทำได้เบาๆอย่างอยู่ในบ้านเนี่ย
00:07:56 → 00:07:59 เดินเหินได้ขึ้นลงบันไดได้หมอไม่ห้ามจะ
00:07:59 → 00:08:02 ล้างจานทำกับข้าวเบาๆทำได้หมดเลยนะครับ
00:08:02 → 00:08:05 แต่แนะนำให้พักเยอะๆอ่านหนังสือดูหนังดู
00:08:05 → 00:08:08 ทีวีฟังเพลงไปนะครับเพื่อป้องกันไม่ให้
00:08:08 → 00:08:11 มันมีภาวะถุงน้ำค่ำแตกหลังเจาะนะครับ
00:08:11 → 00:08:14 กิจกรรมหนักที่ควรงดเช่นยกของหนักๆเดิน
00:08:14 → 00:08:18 ทางไกลเอ่อวิ่งขึ้นลงบันไดหลายๆรอบอันนี้
00:08:18 → 00:08:20 อาจจะหนักเกินไปการออกกำลังกายการมี
00:08:20 → 00:08:22 เพศสัมพันธ์ที่มีการกระทบขร่างกายต้องงด
00:08:22 → 00:08:25 24 ชมนะครับงั้นก็เดี๋ยวคุณแม่ต้องนั่ง
00:08:25 → 00:08:26 รออีกแป๊บนึงเดี๋ยวพอครบครึ่งชั่วโมง
00:08:26 → 00:08:29 เนี่ยหมอจะทำซาวซ้ำให้ดูอีกทีนึงว่าหลัง
00:08:29 → 00:08:32 จอหัวใจเด็กเต้นโอเคไม่มีภาวะแทรกซ้อน
00:08:32 → 00:08:34 อะไรต่างๆถึงจะให้กลับบ้านทำไมต้องตรวจ
00:08:34 → 00:08:37 ซ้ำอีกทีนึงอัซอีกทีเพราะมีมีเหมือนกัน
00:08:37 → 00:08:38 ครับเพราะว่าหลังการเจาะเนี่ยมันจะมี
00:08:38 → 00:08:42 เลือดออกตรงสายสะดือออนะครับโดยธรรมชาติ
00:08:42 → 00:08:44 เนี่ยเมื่อมีเหมมเหมือนมีรูทะลุเนี่ย
00:08:44 → 00:08:47 เลือดมันจะมาอุดเป็นคอตครับนะครับซึ่งทำ
00:08:47 → 00:08:50 ให้เลือดไม่ออกเพิ่มเติมแต่มีบางรายแต่
00:08:50 → 00:08:52 เป็นส่วนน้อยที่เลือดออกต่อเนื่องถ้ามี
00:08:52 → 00:08:54 ภาวะดังกล่าเนี่ยหัวใจเด็กเจะเต้นช้าลงนะ
00:08:54 → 00:08:56 ครับซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นจริงเราอาจจะต้อง
00:08:56 → 00:08:59 admit คนไข้ให้น้ำเกลือให้ออกซิเจนชดเชย
00:08:59 → 00:09:02 กับเลือดที่เสียไปอ๋อนะครับอ๋อเค็มที่
00:09:02 → 00:09:05 เจาะลงไปฮะคือต้องทะลุถุงน้ำคล่ำก่อนถุง
00:09:05 → 00:09:07 น้ำค่ำแล้วก็ไปตรงสายสะดือมันก็จะเกิดรู
00:09:07 → 00:09:11 ตรงผิวของถุงน้ำค่ำตรงนั้นรูตรงนั้นมัน
00:09:11 → 00:09:13 อันตรายมั้ยฮะใช่ตรงนั้นถุงน้ำค่ำมีความ
00:09:13 → 00:09:15 เหนียวพอสมควรครับเพราะฉะนั้นเราไม่ค่อย
00:09:15 → 00:09:18 กังวลเท่าไหร่ส่วนมากก็คือแล้วะเข็มที่
00:09:18 → 00:09:20 เราใช้เนี่ยเป็นเข็มขนาดเล็กด้วยหลังจาก
00:09:20 → 00:09:22 ถอนเข็มมามันมีความยืดหยุ่นมันก็จะเข้ามา
00:09:22 → 00:09:25 สมานกันได้เกือบปิดสนิทเหรอฮะนะครับทันที
00:09:25 → 00:09:29 เลยมั้ยฮะหรือว่าต้องรอทันทแต่ว่าอย่างๆ
00:09:29 → 00:09:31 ช่วงเอ่อ 24 ชั่วโมงแรกเนี่ยเป็นช่วงที่
00:09:31 → 00:09:33 ต้องดูแลตัวเองนิดนึงเพราะถ้ามีอะไรไป
00:09:33 → 00:09:35 กระทบกระเทือนเดี๋ยวรูเล็กๆมันอาจจะขยายแ
00:09:35 → 00:09:38 เป็นรูใหญ่นำไปสู่ภาวะถุงน้ำข้ามแตกได้ก็
00:09:38 → 00:09:41 เป็นสาเหตุที่หมอแนะนำว่าต้องพักเยอะๆ 24
00:09:41 → 00:09:44 ช่มชมอย่าให้มีการกระทบเเทือร่างกายรุน
00:09:44 → 00:09:47 แรงอะไรต่างๆทีนี้มีคุณแม่บางท่านอาจจะ
00:09:47 → 00:09:49 ไม่รู้ว่าอัมตรวจได้ก่อนด้วยเหรอระหว่าง
00:09:49 → 00:09:52 ตั้งตั้งท้องตั้งคันเอ๋อตรวจได้อะไรงี้ก็
00:09:52 → 00:09:54 ไม่รู้เดี๋ยวนี้ความรู้ความเข้าใจเรื่อง
00:09:54 → 00:09:57 นี้ไปถึงคุณแม่คุณพ่อยังไม่ทั้งหมดยังไม่
00:09:57 → 00:10:00 ทั้งหมดยังคงต้องต้องอาศัยการเผยแพร่ความ
00:10:00 → 00:10:02 รู้ให้ความรู้กับสังคมมากขึ้นเรื่อยๆนะ
00:10:02 → 00:10:05 ครับเทคโนโลยีเนี่ยมันมีการพัฒนาไปเรียก
00:10:05 → 00:10:08 ว่าปีต่อปีก็ว่าได้ปีที่แล้วอันนี้เป็น
00:10:08 → 00:10:10 เทคโนโลยีใหม่ปีนี้อาจจะลสมัยไปแล้วแล้ว
00:10:10 → 00:10:12 ก็มีอะไรใหม่กว่านั้นมาเพใช่ๆเพราะฉะนั้น
00:10:12 → 00:10:14 ก็คงต้องอาศัยการติดตามข่าวสารแต่ว่าข่าว
00:10:14 → 00:10:17 สารก็เป็นเหมือนดาบสังคมนะครับหมายถึงว่า
00:10:17 → 00:10:20 รับฟังก็อย่าเชื่อ 100% กังวลเกินไปใช่
00:10:20 → 00:10:22 หรือหรือความแม่นยำของข่าวสารก็ต้องดู
00:10:22 → 00:10:25 แหล่งที่มาบางทีเป็นการพูดปากต่อปากความ
00:10:25 → 00:10:27 แม่นยำก็ไม่มีคำแนะนำสำหรับคุณแม่คือ
00:10:27 → 00:10:30 เมื่อเมื่อตัดสินใจว่ามีแแฟนจะมีการมีลูก
00:10:30 → 00:10:32 เนี่ยถ้าปรึกษาได้ก่อนตั้งครรนิดนึงก็จะ
00:10:32 → 00:10:34 ดีหน้าที่ของสุติแพทย์คือจะประเมินความ
00:10:34 → 00:10:37 เสี่ยงให้ว่าคู่สมรสเนี้ยเป็นกลุ่มที่
00:10:37 → 00:10:39 ความเสี่ยงสูงหรือความเสี่ยงต่ำต่อการมี
00:10:39 → 00:10:42 รูปผิดปกติถ้าความเสี่ยงต่ำก็อาจจะไม่
00:10:42 → 00:10:44 ต้องทำอะไรปล่อยพ้องได้เลยถ้าความเสี่ยง
00:10:44 → 00:10:46 สูงค่อยมาพิจารณากันว่าต้องทำอะไรเมื่อ
00:10:46 → 00:10:48 ไหร่อคุณแม่ก็จะได้รับข้อมูลที่ครบถ้วน
00:10:48 → 00:10:51 บางทีถ้าถ้าไม่ได้มาปรึกษาก่อนเนี่ยเลย
00:10:51 → 00:10:53 กำหนดไปแล้วตรวจไม่ได้ก็ก็พลาดไปอย่างน่า
00:10:53 → 00:10:56 เสียดายก็มีครับวันนี้ขอบคุณมากนะครับ
00:10:56 → 00:11:05 สวัสดีครับสวัสดีครับอจารย์ครับินดีครับ
00:11:05 → 00:11:08 ย้อนไปเมื่อประมาณซักประมาณสัก 30 ปีนะฮะ
00:11:08 → 00:11:12 ผมก็ได้ไปบริจาคเลือดจากนั้นก็ได้รับคำ
00:11:12 → 00:11:16 ตอบว่าผมเนี่ยมีไวรัสสัอักเสบชนิด B ห้าม
00:11:16 → 00:11:19 บริจาคเลือดตกใจนะครับด้วยด้วยความที่เรา
00:11:19 → 00:11:22 เอ๊ะอยู่ดีๆบโรคอะไรขึ้นมาก็ไม่รู้ไม่เคย
00:11:22 → 00:11:25 ได้ยินเหมือนกันตับอักเสบแต่รู้ว่าไอ้โรค
00:11:25 → 00:11:28 ตับนี่มันไม่ค่อจะดีก็ได้เอาไอ้ใบใบรับ
00:11:28 → 00:11:31 รองแจ้งจากสถาบันนั้นนะฮะเอาไปให้หมอตาม
00:11:31 → 00:11:34 คลินิกซึ่งผมก็รักษาอยู่ประจำคุณหมอ
00:11:34 → 00:11:36 คลินิกก็ท่านก็บอกว่าโอ้ไม่ต้องไปกลัว
00:11:36 → 00:11:44 หรอกเพราะว่าคนทั้งโลกเป็นกันเยอะแยะมาก
00:11:44 → 00:11:47 เลยพี่พิษณุวันนี้มาหาคุณหมอเรื่องอะไร
00:11:47 → 00:11:52 ครับเอ่อเรื่องตับอักเสบดีครับออทำไมถึง
00:11:52 → 00:11:54 ทราบทำไมอยู่ๆไม่ต้องตรวจก็เจอเลยอย่า
00:11:54 → 00:11:57 เงี้ยครับหรืออ๋อผมไปบริจาคโลหิตที่สภา
00:11:57 → 00:12:01 กาชาติไทยนะครับอือืแล้วก็ทางสภากชาติไทย
00:12:01 → 00:12:04 ก็มีหนังสือฉบับนึงบอกขอให้คุณหยุดบริจาค
00:12:04 → 00:12:09 โลหิตและไปรักษาโรคไวรัสตับเกษตบีซะก่อน
00:12:09 → 00:12:12 แค่คำว่าขอให้คุณหยุดบริจาคโลหิตนี่แล้ว
00:12:12 → 00:12:16 อึแล้วไปรักษาไวรัสตับอักเสบบีครับผม
00:12:16 → 00:12:18 อาการตอนนั้นเป็นไงครับอารมณ์เราไม่มี
00:12:18 → 00:12:20 อาการเลยแต่รู้สึกกังวลกับไอ้โรคนี้เพราะ
00:12:20 → 00:12:24 ว่ามันเป็นโรคตอนนั้นมันใหม่อยู่นะครับอ
00:12:24 → 00:12:27 ผมก็เอาเอาใบของสภากาชาตไทยแจ้งมานะครับ
00:12:27 → 00:12:30 ไปหาหมอที่คลินิกอืคุณหมอคลินิกก็บอกว่า
00:12:30 → 00:12:33 เออเเป็นกันทั้งโลกอ่ะโลกเนี้ยนะครับเไม่
00:12:33 → 00:12:36 รักษาเบอกไม่ปล่อยไว้เฉยๆก็ได้ผมก็ปล่อย
00:12:36 → 00:12:38 ไว้ตั้งแต่นั้นมาจนกระทก็ปล่อยอยู่นาน
00:12:38 → 00:12:41 มั้ยครับก็เกือบ 30 ปีอ่ะครับอันนี้ก็จะ
00:12:41 → 00:12:44 เป็นความเชื่อซึ่งทั้งผู้ป่วยแล้วก็ที่
00:12:44 → 00:12:46 สำคัญคือแพทย์เองเนี่ยส่วนใหญ่เชื่ออย่าง
00:12:46 → 00:12:49 คุณพิษณุก็คือว่าเป็นวรัตปสบีถ้าไม่มี
00:12:49 → 00:12:51 อาการเนี่ยก็เรียกว่า
00:12:51 → 00:12:56 พาหะเออจริงๆผมได้นี้มาซึ่งคนที่เป็นไวรั
00:12:56 → 00:12:59 ตสบบีเนี่ยเกือบทั้งหมดอ่ะจะจะไม่มีอารนะ
00:12:59 → 00:13:01 ครับคืออย่างที่เมื่อกี้ผมเรียนแล้วว่า
00:13:01 → 00:13:04 ถ้ารอมีอาการน่ะนู่นน่ะตับแข็งมะเร็งตับ
00:13:04 → 00:13:07 ขั้นสุดท้ายไปแล้วคือรอมีอาการทำอะไรไม่
00:13:07 → 00:13:09 ทันมากไปกว่านั้นบางทีไปตรวจร่างกายประจำ
00:13:09 → 00:13:13 ปีไปตรวจเลือดเราก็จะตรวจเอนไซม์ของตับนะ
00:13:13 → 00:13:15 ครับตรวจสกอตตรวจอะไรต่างๆที่เขาเรียกกัน
00:13:15 → 00:13:18 เนี่ยนะครับเอนไซม์ของตัปกติก็มักจะบอก
00:13:18 → 00:13:22 ว่าไม่เป็นไรเป็นพาหะใช่มั้ครับซึ่งใน
00:13:22 → 00:13:25 ความเป็นจริงก็คือว่าไม่จำเป็นเสมอไปเอ่อ
00:13:25 → 00:13:28 คนไข้ที่เป็นไวรัสตับเสตบีเรื้อรังส่วน
00:13:28 → 00:13:31 ใหญ่เป็นโรคไม่ใช่พาหะนะครับเพรางั้นรอจน
00:13:31 → 00:13:34 ผู้ป่วยมีอาการตอนอายุสัก 5060 เป็นตับ
00:13:35 → 00:13:37 แข็งเป็นมะเร็งตับเนี่ยมันแก้ไขไม่ทันนะ
00:13:37 → 00:13:41 ครับแล้วก็บางทีเอนไซม์ตับขึ้นแพทย์ก็จะ
00:13:41 → 00:13:43 บอกไม่เป็นไรเดี๋ยวรออีกสักเดือน 2 เดือน
00:13:43 → 00:13:45 ขอตรวจซ้ำมันก็ต้องลงเพราะว่ามันธรรมชาติ
00:13:45 → 00:13:49 มันเหมือนกับน้ำขึ้นน้ำลงไปไปเจาะซ้ำมัน
00:13:49 → 00:13:51 ก็จะลงเพราะฉะนั้นก็เราไม่สามารถจะ
00:13:51 → 00:13:54 ประเมินจากเอนไซม์ตับได้เพียงอย่างเดียว
00:13:54 → 00:13:57 นะครับเราก็ต้องใช้ข้อมูลหลายๆอย่าง
00:13:57 → 00:14:01 ประกอบกันนะครับถึงจะบอกได้ว่าผู้ป่วย
00:14:01 → 00:14:04 เนี่ยมีตับอักเสบเรื้อรังจริงหรือไม่งั้น
00:14:04 → 00:14:06 คือเราเข้าใจอย่างงั้นในอดีตเป็นอย่าง
00:14:06 → 00:14:08 งั้นนะครับผมินถามคุณพิษณุนิดนึงเอ่อมี
00:14:08 → 00:14:11 พี่น้องกี่คนครับ 4 คนครับแล้วมีคนเป็น
00:14:11 → 00:14:13 ไวรัสบีอีกมั้ยครับ
00:14:13 → 00:14:15 เอ่อไม่ไม่ทราบครับไม่มีใครไปตรวจไม่มี
00:14:15 → 00:14:18 ใครไปตรวจครับครับจริงๆก็น่าจะให้พี่น้อง
00:14:18 → 00:14:20 คนอื่นน่ะไปตรวจด้วยเช่นเดียวกันเพราะว่า
00:14:20 → 00:14:24 ผมก็คาดว่าน่าจะติดจากคุณแม่ตอนตอนเกิด
00:14:24 → 00:14:27 เหมือนกันครับที่ถามว่าบอกติดจากคุณแม่
00:14:27 → 00:14:29 คือปกติแล้วมันไม่ติดกันในโลกทั่วไปได้
00:14:29 → 00:14:31 ง่ายๆอย่างที่เรากลัวกันใช่มั้ยครับใช่
00:14:31 → 00:14:34 ครับเพราส่วนใหญ่จะติดก่อนวัย 1 ขวบก็คือ
00:14:34 → 00:14:37 ก่อนวัย 1 ขวบก็จะติดก็คือต้องติดจากแม่
00:14:37 → 00:14:39 ผมสนใจนี่ครับคือพี่พิสนุบอกว่าพี่เา้า
00:14:39 → 00:14:43 อ่ะคือทีแรกกังวลแต่ก็ทิ้งระยะตั้ง 30 ปี
00:14:43 → 00:14:46 มาเจอเงี้ยอาจารย์ว่ามันเกิดถ้าเกิดเท่า
00:14:46 → 00:14:49 ที่ดูคือปกติแต่ถ้าเกิดไม่ปกติอาจจะเป็น
00:14:49 → 00:14:53 อะไรได้บ้างครับก็เอ่อโดยทั่วไปอย่างที่
00:14:53 → 00:14:56 ทราบนะครับว่าไวรัสตับปีเนี่ยไม่ได้ทำลาย
00:14:56 → 00:14:58 ตับโดยตรงมันก็มันอยู่ในตับมันก็จะมีการ
00:14:59 → 00:15:01 การลบกันระหว่างไวรัสกับภูมิต้านทานของ
00:15:01 → 00:15:04 ผู้ป่วยมันตับก็จะค่อยๆเสื่อมไปเรื่อยๆที
00:15:04 → 00:15:07 นี้อัตราการเสื่อมของแต่ละคนเนี่ยไม่ได้
00:15:07 → 00:15:10 เท่ากันแต่ละคนบางคนอาจจะลบกันบ่อยมากลบ
00:15:10 → 00:15:13 กันเยอะมากตับก็อาจจะ 30 ปีอาจจะเป็นตับ
00:15:13 → 00:15:15 แข็งไปแล้วหรือบางคนก็อาจจะแต่ขณะเดียว
00:15:15 → 00:15:19 กันรบกันเนี่ยช่วงที่สงบเนี่ยตับมันก็
00:15:19 → 00:15:21 ฟื้นตัวด้วยนะครับมันก็จะเป็นการที่ตับจะ
00:15:22 → 00:15:24 เสียหายไปแค่ไหนเนี่ยมันขึ้นจากอัตราการ
00:15:24 → 00:15:26 ทำลายและอัตราการสร้างใหม่ของผู้ป่วยแต่
00:15:26 → 00:15:30 ละคนณณจุดนั้นเนี่ยมากนยเป็นปัจเจกมากเลย
00:15:30 → 00:15:32 ใช่ครับเพราะฉะนั้นเห็นว่าแต่ละคนเราไม่
00:15:32 → 00:15:35 สามารถจะใช้เอ่อประสบการณ์จากผู้ป่วยคน
00:15:35 → 00:15:38 นึงไปใช้กับอผู้ป่วยอีกคนนึงได้เลยมันไม่
00:15:38 → 00:15:40 มีค่ามาตรฐานไม่มีครับไม่มีครับวิธีการ
00:15:40 → 00:15:42 ตรวจไวรัสตักอักเสบคือเรารู้แล้วว่าเป็น
00:15:42 → 00:15:45 ไม่เป็นคือตรวจเลือดมีที่ละเอียดมากกว่า
00:15:45 → 00:15:47 นั้นมีมั้ยครับอาจารย์มีครับก็คือว่าเรา
00:15:47 → 00:15:50 จะประเมินก่อนว่าตอนเนี้ยมีไวรัสตับ
00:15:50 → 00:15:53 อักเสบอยู่ในตัวของผู้ป่วยอย่างของคุณ
00:15:53 → 00:15:55 พิษณุเนี่ยมากหรือน้อยแค่ไหนนะครับเราก็
00:15:55 → 00:15:58 จะนับปริมาณไวรัสโดยตรงนะครับปริมาณไวรัส
00:15:58 → 00:16:00 มากก็ไม่ได้บอกว่าจะต้องเป็นโรคมากนะครับ
00:16:00 → 00:16:03 เพราะว่าปริมาณไวรัสไม่ได้สัมพันธ์กับตัว
00:16:03 → 00:16:06 โรคเนื่องจากที่ผมบอกแล้วว่าโรคมันเกิด
00:16:06 → 00:16:09 จากเกใช่ครับเพราะฉะนั้นมันไม่เหมือนเบา
00:16:09 → 00:16:12 หวานไขมันปริมาณมากจะต้องเป็นโรคมากแต่
00:16:12 → 00:16:14 อันนี้ไม่เกี่ยวกันปริมาณไวรัสเป็นตัว
00:16:14 → 00:16:17 ประเมินว่าเอาล่ะยังมีไวรัสพอที่เราจะที่
00:16:17 → 00:16:20 เราจะต้องลุยกันนะในการที่จะตรวจต่อไปก็
00:16:20 → 00:16:22 คือเราก็จะประเมินว่าตับของผู้ป่วยเสีย
00:16:22 → 00:16:26 หายไปมากน้อยแค่ไหนนะครับเอ่อในปัจจุบัน
00:16:26 → 00:16:29 เราอาจจะมีเครื่องมือที่ประประเมินอันนี้
00:16:29 → 00:16:33 เนี่ยง่ายๆโดยที่ไม่ต้องไปตรวจชิ้นเนื้อ
00:16:33 → 00:16:36 ตับนะครับเช่นการตรวจพังผืดตับไม่ทคุณพนุ
00:16:36 → 00:16:39 เคยเคยตรวจป่ะฮะเอ่อตรวจตรงเจาะตับมาครับ
00:16:39 → 00:16:42 ตรงเจาะตับตอนนั้น 6-7 ปีที่แล้วเนี่ยเรา
00:16:42 → 00:16:44 ยังไม่มีเครื่องตรวจพังผืดตับเนี่ยเราก็
00:16:44 → 00:16:47 เลยต้องเลือกวิธีการตรวจชิ้นเนื้อตับใช่
00:16:47 → 00:16:50 ครับทีนี้ว่าการในในปัจจุบันเนี่ยเราตรวจ
00:16:50 → 00:16:53 พังผืดตับเนี่ยหลักการที่การตรวจพังผืด
00:16:53 → 00:16:55 ตับเนี่ยก็คือว่าเหมือนกับตับเป็นอย่าง
00:16:55 → 00:16:59 นี้นะครับเรากระแทกด้วยตัวโหลบอันที่
00:16:59 → 00:17:01 เหมือนนิ้วมือผมเนี่ยกระแทบปุ๊บเนี่ยมัน
00:17:01 → 00:17:04 ก็จะเกิดเกิดคลื่นวิ่งเข้าไปในเนื้อตับ
00:17:04 → 00:17:08 แล้วเราสามารถจะใช้ตัวอัตซาวเนี่ยในการ
00:17:08 → 00:17:11 ที่วัดความเร็วของการเด้งคืนของคลื่นนี้
00:17:11 → 00:17:14 ได้ถ้าเกิดว่าพังผืดเยอะเหมก็เหมือนหนัง
00:17:14 → 00:17:17 ยางเป็นหนังสติ๊กเนี่ยมันมันเรากดให้มัน
00:17:17 → 00:17:20 บุ๋มไปมันก็ต้องเด้งคืนเร็วมันก็สามารถจะ
00:17:20 → 00:17:22 คำนวณแล้วบอกได้ว่าเอาล่ะตับเนี่ยมีพัง
00:17:22 → 00:17:24 ผืดเยอะหรือเป็นตับแข็งไปแล้วใช่มั้ครับ
00:17:24 → 00:17:26 งั้นก็เราก็สามารถประเมินได้งั้นก็ของคุณ
00:17:26 → 00:17:29 พิษณุเนี่ยก็ได้รับการตรวจชิ้นตับพบว่ามี
00:17:29 → 00:17:33 ตับอักเสบโชคดีว่าถึงแม้ว่าทิ้งช่วงไป
00:17:33 → 00:17:36 ตั้ง 30 ปีเนี่ยแต่ตับอักเสบของคุณพิษณุ
00:17:36 → 00:17:38 ก็ไม่ได้เยอะมากนะครับคือเริ่มมีพังผืด
00:17:39 → 00:17:42 และหถ้าเราปล่อยทิ้งไว้อีกสัก 10 กว่าปี
00:17:42 → 00:17:45 อาจจะเป็นตับแข็งได้มันก็ก็เลยอตกลงคุย
00:17:45 → 00:17:48 กันว่าจะรักษาคนเราที่ตายเพราะตับแข็งคือ
00:17:48 → 00:17:51 มีผังผืดเยอะใช่ครับแล้วผังผืดเยอะส่งผลร
00:17:51 → 00:17:54 ครับผังผืดเยอะเนี่ยมันเกิดผล 2 อย่างที่
00:17:54 → 00:17:57 ตามมาอันที่ 1 ก็คือว่าเนื้อตับส่วนดี
00:17:57 → 00:17:59 ส่วนที่จะสร้างสารต่างๆมันน้อยลงไปด้วย
00:17:59 → 00:18:02 เพราะพังผืดก็ไปแทนที่กับอันที่ 2 คือไอ้
00:18:02 → 00:18:04 พังผืดเนี่ยมันไปรัดหลอดเลือดในในตับใช่
00:18:04 → 00:18:06 มั้ยครับก็ทำให้เลือดจากในช่องท้องเนี่ย
00:18:06 → 00:18:10 ไหลกลับได้ไม่ดีก็จะเกิดภาวะท้องมารเกิด
00:18:10 → 00:18:12 ภาวะเส้นเลือดขอดในหลอดอาหารอาเจียนเป็น
00:18:12 → 00:18:15 เลือดอะไต่างๆตามมานะครับมันก็พวกเนี้ย
00:18:15 → 00:18:18 ถ้าเราปล่อยไว้นานๆก็จะเกิดภาวะพวกนี้
00:18:18 → 00:18:21 ขึ้นมานะครับเราก็เลยคุยกันเรื่องการ
00:18:21 → 00:18:24 รักษานะครับทีนี้รักษายไงอาจารย์ในกรณี
00:18:24 → 00:18:27 ของการรักษาไวรัสตับอักเสบบนี่แะครับการ
00:18:27 → 00:18:31 เกิดโรคมันเกิดจากมีไวรัสภูมิต้านทานไปรบ
00:18:31 → 00:18:34 กับไวรัสใช่มั้ยครับงั้นการรักษาก็ทำได้ 2
00:18:34 → 00:18:37 กรณีคือโอหสนใจนะสนใจมาอันที่ 1 ก็คือว่า
00:18:37 → 00:18:41 เราเชื่อว่าภูมิต้านทานเนี่ยมันลบแล้วมัน
00:18:41 → 00:18:45 ลบไม่ได้ประสิทธิภาพเต็มสมบูรณ์อาวุธ
00:18:45 → 00:18:47 ยุทโธปกรณ์ของภูมิต้านทานเราไม่ดีใช่มั้ย
00:18:47 → 00:18:50 เราก็เพิ่มอาวุธให้กับภูมิต้านทานให้เรา
00:18:50 → 00:18:52 มาเราก็จะเป็นพวกอเมริกาหรือรัสเซียที่
00:18:52 → 00:18:54 ทรงอาวุธเข้าไปอ่าติดขีปนาวุธให้กับภูมิ
00:18:54 → 00:18:57 ต้านทานครับซึ่งคุณพิษณุเลือกวิธีนั้นก็
00:18:57 → 00:19:02 คือใช้อฟอฉีดยาอฟอสัปดาห์แล้วเข็มไปนะ
00:19:02 → 00:19:04 ครับก็คือทำให้ภูมิท้าทานเราเนี่ยเหมือน
00:19:04 → 00:19:10 ส่งไปเทรนฝึกนาวิกโยธินฝึกไอ้ไอหน่วยซีล
00:19:10 → 00:19:12 อะไรเลุยได้ดีขึ้นอยู่ๆก็แข็งแรงขึ้นไป
00:19:12 → 00:19:15 เลยล่ะอ่าก็แข็งแรงมากขึ้นแล้วก็หลังจาก
00:19:15 → 00:19:19 ที่ฉีดยาสัปดาห์แล้วะเข็ม 48 เข็มเอ่อ 1
00:19:19 → 00:19:23 ใน 3 ของผู้ป่วยเนี่ยจะตอบสนองต่อวิธีนี้
00:19:23 → 00:19:27 งั้นก็เลยหายแล้วหายขาดมีภูมิขึ้นด้วยอ่ะ
00:19:28 → 00:19:31 งั้นก็สามารถจะพูดได้เต็มปากว่าหายขาดจาก
00:19:31 → 00:19:35 โรคไวรัสตัอักเสบ B นะครับซึ่งแน่นอนทาง
00:19:35 → 00:19:37 ผืที่เกิดขึ้นเนี่ยมันก็จะดีขึ้นด้วยนะ
00:19:37 → 00:19:40 ครับเพราะถ้าเกิดไม่มีอะไรไปรบทำให้เกิด
00:19:40 → 00:19:43 มีการทำลายเซลล์ตับต่อเนื่องเนี่ยตับจะดี
00:19:43 → 00:19:46 ขึ้นแต่ว่าอย่างไรก็ตามก็เหมือนกันก็คือ
00:19:46 → 00:19:50 เราต้องติดตามแล้วก็นัดมาตรวจเป็นระยะระะ
00:19:50 → 00:19:52 แต่ตรวจนิดหน่อยะเดี๋วนี้เหลืออาจจะเอ
00:19:52 → 00:19:54 เซ้าัก 6 เดือนครั้งเท่านั้นเป็นต้นนะ
00:19:54 → 00:19:57 ครับทีนี้มันมีอีกวิธีนึงของการรักษานะ
00:19:57 → 00:20:01 ครับคือเรามีไวรัสเรามีภูมิด้านทานคุณ
00:20:01 → 00:20:04 พิษณุเลือกเพิ่มขีปนาวุธให้กับภูมิด้าน
00:20:04 → 00:20:07 ทานใช่มั้ยครับอีกทางหนึ่งในปัจจุบันก็
00:20:07 → 00:20:10 คือเราใช้ยากินยากินเนี่ยเราไปคุมกำเนิด
00:20:10 → 00:20:13 ไวรัสลดการแบ่งตัวของไวรัสนั้นยาเนี่ยไม่
00:20:13 → 00:20:16 ได้ฆ่าไวรัสนะครับครับมันลดการแบ่งตัวของ
00:20:16 → 00:20:20 ไวรัสลงั้นภูมิต้านทานเท่าเดิมแต่ศัตรู
00:20:20 → 00:20:23 น้อยลงมันก็มีโอกาสที่จะทำให้โรคสงบได้
00:20:23 → 00:20:27 เหมือนกันแต่มันต้องคุมกำเนิดไประยะยาวไ
00:20:27 → 00:20:29 ครับคุมไปเหมือนกินยาคุมป้องกันไม่ให้
00:20:29 → 00:20:32 ตั้งท้องไนี่เราคุมไคุมกำเนิดไวรัสคุมไป
00:20:32 → 00:20:35 ระยะยาวแต่ในบางกรณีเนี่ยเราก็ต้องเลือก
00:20:35 → 00:20:38 ให้ผู้ป่วยเช่นในกรณีอย่างคุณพิษณุ
00:20:38 → 00:20:44 ต้องการจะใช้ยาฉีดส่งแต่คนไข้่ะมาหาผมใน
00:20:44 → 00:20:47 ระยะที่ตับแข็งระยะมากแล้วท้องมารเท้าบวม
00:20:47 → 00:20:49 ต่างๆเยอะแยะไปหมดแล้วเนี่ยนะครับอย่าง
00:20:49 → 00:20:52 เงี้ยขนาดเขาอยู่ปกติดีเนี่ยก็ยังเอาตัว
00:20:52 → 00:20:55 จะไม่รอดเลยเนี่ยขืนใส่ขีพาวุธให้รบไป
00:20:55 → 00:20:59 เนี่ยคนไข้เสียชีวิตแน่นอนอย่างงี้ดูสภาพ
00:20:59 → 00:21:03 อีกเลือกยากินนะครับอืแต่สิ่งที่เป็น
00:21:03 → 00:21:06 เหมือนกับสวรรค์สำหรับคนไข้ที่เป็นวรัแต่
00:21:06 → 00:21:09 ประเสษ B ก็คือต่อให้ผู้ป่วยมาในระยะที่
00:21:09 → 00:21:13 ตับแข็งระยะมากแล้วท้องมารเท้าบวมตัวตา
00:21:13 → 00:21:15 เหลืองแล้วเนี่ยนะครับถ้ายังมีไวรัสอยู่
00:21:15 → 00:21:18 เนี่ยผู้ป่วยรับประทานยาเพียงวันละเม็ด 6
00:21:18 → 00:21:20 เดือน 9 เดือนหลังจากรับประทานยาต่อให้
00:21:20 → 00:21:23 เป็นตับแข็งแล้วนะครับอีก 6 เดือน 9
00:21:23 → 00:21:25 เดือนหลังจากนั้นเนี่ยก็อาจจะเหมือนคุณ
00:21:25 → 00:21:28 พิษณุกลับมาเหมือนปกติดูไม่ออกเลยว่าคนใ
00:21:28 → 00:21:31 เคยเป็นตับแข็งระยะสุดท้ายอันนี้ไม่ใช่
00:21:31 → 00:21:33 คุณวิษณุไม่ได้เป็นนะครับไม่ได้เป็นนพี่
00:21:33 → 00:21:35 พี่คือแชมเปี้ยนร่างกายของเรามีแชมเปี้ยน
00:21:36 → 00:21:38 อยู่เพียงว่าวันใดวันนึงมันท้อแท้มันไม่
00:21:38 → 00:21:41 ทำงานเราสามารถทำให้มันทำงานได้ใช่มั้ย
00:21:41 → 00:21:44 อาจารย์ใช่ครับสุดยอดครับแล้วพี่พิษณุ
00:21:44 → 00:21:46 ต้องปฏิบัติตัวอย่างไรครับหลังจากที่หาย
00:21:46 → 00:21:49 ขาดแล้วเนี่ยครับก็ตอนนี้จริงๆก็เหมก็คือ
00:21:49 → 00:21:52 คนปกติเลยนะครับแล้วก็สามารถจะดูแลตัวเอง
00:21:52 → 00:21:57 ตามตามคนปกติทั่วไปคือการอย่างน้อยเนี่ย
00:21:57 → 00:22:00 การรักษาสุขภาพให้แแข็งแรงไม่ว่าจะการงด
00:22:00 → 00:22:04 การดื่มสุราไม่สูดปกิทั่วออกกำลังกายสม่ำ
00:22:04 → 00:22:07 เสมอใช่ครับมันนั้นดูแลตัวเองเหมือนปกติ
00:22:07 → 00:22:10 เลยแต่อย่างน้อยก็เอ่อถึงแม้หายขาดแล้ว
00:22:10 → 00:22:13 เนี่ยรอยโรคในตับยังมีเหลืออยู่บ้างเล็กๆ
00:22:13 → 00:22:16 น้อยๆเนี่ยก็ 1 ปีอาจจะมาตรวจอัตซาวสัก 1
00:22:16 → 00:22:18 หรือ 2 ครั้งเท่านั้นเองครับท่านฟังคือดู
00:22:18 → 00:22:21 แลคือปรึกษาแพทย์อยู่ตลอดเวลาอย่าทิ้ง
00:22:21 → 00:22:23 ห่างไปเลยอย่าหายไปเลยรู้จักกันแล้วอย่า
00:22:23 → 00:22:27 หายไปเลยมันมาเยี่ยมอย่างน้อยปีละครั้ง
00:22:27 → 00:22:29 อารมณ์ประมาณนี้ขอบคุณขอบคุณครับอันนี้
00:22:29 → 00:22:31 พี่วิษนุขอบคุณมากสำหรับอาจารย์ครับผมฝาก
00:22:31 → 00:22:33 ไว้ก่อนเจอคราวหน้าผมจะตอบคำถามอาจารย์
00:22:33 → 00:22:35 ให้ถูกให้ได้ครับขอบคุณครับอาจารย์ครับ
00:22:35 → 00:22:36 สวัสดี
00:22:36 → 00:22:38 [เพลง]
00:22:38 → 00:22:39 [ปรบมือ]
00:22:39 → 00:22:52 [เพลง]
00:22:52 → 00:22:53 [ปรบมือ]
00:22:53 → 00:22:57 [เพลง]
00:22:57 → 00:22:59 ครับ
00:22:59 → 00:23:02 [เพลง]
00:23:02 → 00:23:02 [ปรบมือ]
00:23:02 → 00:23:09 [เพลง]
00:23:09 → 00:23:10 [ปรบมือ]
00:23:10 → 00:23:11 [เพลง]
00:23:11 → 00:23:14 [ปรบมือ]
00:23:14 → 00:23:18 [เพลง]
00:23:18 → 00:23:21 [ปรบมือ]
00:23:21 → 00:23:22 [เพลง]
00:23:22 → 00:23:26 [ปรบมือ]
00:23:26 → 00:23:27 [เพลง]
00:23:27 → 00:23:29 เ
00:23:29 → 00:23:43 [เพลง]
00:23:43 → 00:23:56
00:23:56 → 00:23:56 [เพลง]
00:23:56 → 00:23:59 เ