00:00:04 → 00:00:28 [เพลง]
00:00:28 → 00:00:33 เ
00:00:33 → 00:00:38 [เพลง]
00:00:38 → 00:00:40 ประวัติที่น้องๆรู้จักซีอุยเป็นยังไงบ้าง
00:00:40 → 00:00:44 ครับเป็นผู้ชายเป็นมนุษย์กินคนค่ะเคสนี้
00:00:44 → 00:00:48 นะครับเป็นเคสที่เราได้ศึกษาของกระสุนปืน
00:00:48 → 00:00:53 มันไม่ได้เป็นร่องคมๆเหมือนที่เรา
00:00:53 → 00:00:56 คิดที่นำตัวอย่างมาแสดงให้ดูเนี่ยก็จะ
00:00:57 → 00:00:59 เป็นลักษณะของมะเร็งเต้านมที่มีการแพร่
00:00:59 → 00:01:02 กระจายไปอย่างมากนะคะอันนี้คือถุงคุมันทะ
00:01:02 → 00:01:05 ครับของผู้ชายไทยคือของคนนี้น้ำหนัก 35
00:01:05 → 00:01:09 กก 35
00:01:09 → 00:01:13 35 สวัสดีครับคุณผู้ชมครับนี่คือรายการ
00:01:13 → 00:01:16 ศิริราช 360 องศนะครับแล้ววันนี้ครับผมจะ
00:01:16 → 00:01:19 พาคุณผู้ชมเที่ยวพิพิธภัณฑ์การแพทย์
00:01:19 → 00:01:22 ศิริราชนะครับอยู่ที่ชั้น 2 ตึกอดุลยเดช
00:01:22 → 00:01:27 วิกรมนะครับมาที่นี่ที่เดียวได้ชมถึง 4
00:01:27 → 00:01:29 พิพิธภัณฑ์คุณผู้ชมฟังไม่ผิดหรอกครับ 4
00:01:29 → 00:01:31 พิพิธภัณฑ์จริงๆครับรับรองว่าวันนี้นะ
00:01:31 → 00:01:36 ครับได้ความรู้พร้อมความสนุกติดตามนะ
00:01:36 → 00:01:58 [เพลง]
00:01:58 → 00:02:02 ครับแล้วตอนนี้นะครับมาถึงพิพิธภัณฑ์แรก
00:02:02 → 00:02:05 ครับนิติเวชศาสตร์นะครับสงกรานต์นิยมเสน
00:02:05 → 00:02:07 นะครับตอนนี้อยู่กับอาจารย์ชัยรัตน์
00:02:07 → 00:02:10 สวัสดีครับสวัสดีครับคำว่านิติเวชศาสตร์
00:02:10 → 00:02:12 เนี่ยมันคือเกี่ยวกับเอ่อเรื่องของศพ
00:02:12 → 00:02:14 เรื่องของผ่าศพ่ะครับเพราะว่าผมค่อนข้าง
00:02:14 → 00:02:16 กลัวครับถามก่อนนิดนึงเพจะเตรียมใจถูก
00:02:16 → 00:02:19 ครับจริงๆแล้วคงในความเข้าใจของคนส่วน
00:02:19 → 00:02:21 ใหญ่คงจะเป็นเช่นนั้นน่ะนะครับซึ่งอาจจะ
00:02:21 → 00:02:25 ไม่ถูกต้องนักในความเป็นจริงนะครับเอ่อศพ
00:02:25 → 00:02:28 ของเราเนี่ยเราผ่าศพประมาณปีละพันกว่าราย
00:02:28 → 00:02:30 ในขณะที่คนไข้ที่เป็นคนไข้ให้เป็นมีชีวิต
00:02:30 → 00:02:33 เนี่ยประมาณหมื่นกว่ารายนะครับังนั้นผมจะ
00:02:33 → 00:02:35 บอกได้ว่าจริงๆแล้วเรารับผิดชอบในส่วนของ
00:02:35 → 00:02:37 คนเป็นมากกว่าคนตายด้วยซ้ำเพียงแต่ว่าบท
00:02:37 → 00:02:39 บาทที่เกี่ยวข้องกับคนตายอาจจะมีความโดด
00:02:39 → 00:02:43 เด่นแล้วก็น่าสนใจจากสังคมทั่วไปมากกว่า
00:02:43 → 00:02:45 ผมเชื่อว่าในปัจจุบันแทบจะเป็นแห่งเดียว
00:02:45 → 00:02:48 ในโลกเท่าที่สืบค้นนะฮะในในฐานข้อมูล
00:02:48 → 00:02:50 อินเทอร์เน็ตเนี่ยยังไม่พบว่ามี
00:02:50 → 00:02:53 พิพิธภัณฑ์เฉพาะทางสำหรับนิติเวชศาสตร์
00:02:53 → 00:02:56 ดังนั้นจึงค่อนข้างได้รับความสนใจจากผู้
00:02:56 → 00:02:58 เยี่ยมชมทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเป็น
00:02:58 → 00:03:01 อย่างมากนะครับครับเริ่มต้นจากส่วนแรกเลย
00:03:01 → 00:03:03 ครับทำไมต้องเป็นศิริราชกับซึนามิครับ
00:03:03 → 00:03:05 จริงๆแล้วในส่วนนี้ของพิพิธภัณฑ์เนี่ยเรา
00:03:05 → 00:03:08 พยายามที่จะนำเสนอเกี่ยวกับบทบาทของคณะ
00:03:08 → 00:03:11 แพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาลกับเหตุการณ์ที่
00:03:11 → 00:03:14 มีความสำคัญกับประเทศไทยในขณะนั้นก็คือใน
00:03:14 → 00:03:17 เหตุการณ์สึนามิศิริราชเข้าไปมีส่วนร่วม
00:03:17 → 00:03:21 กับเหตุการณ์ดังกล่าวอยู่ใน 2 2 ทางนะ
00:03:21 → 00:03:24 ครับหลักๆเลยเนี่ยเราส่งทีมแพทย์พยาบาล
00:03:24 → 00:03:28 เป็นจำนวนมากเข้าไปดูแลผู้ป่วยครับไม่ใช่
00:03:28 → 00:03:54 สว่าศิริราชกับ
00:03:55 → 00:03:59 สอาจารย์ครับนี่ถ้าเกิดไม่อยู่ที่มีราย
00:04:00 → 00:04:05 การศิราช 360 องศาผมจะนึกว่าเรามายืนอะไร
00:04:05 → 00:04:08 อยู่ตรงนี้บรรยากาศวังเวงมากทำไมต้อง
00:04:08 → 00:04:11 จำลองเหมือนจริงขนาดนี้้วครับอันนี้บอก
00:04:11 → 00:04:14 ตรงๆว่าเป็นส่วนที่จะเอาไว้สอนนักศึกษา
00:04:14 → 00:04:16 แพทย์ด้วยส่วนหนึงนะครับดังนั้นจึงพยายาม
00:04:16 → 00:04:18 จำลองให้เหมือนมากที่สุดนะครับเหตุการณ์
00:04:18 → 00:04:20 อย่างนี้มันไม่ได้เกิดบ่อยๆนะคุณบวยอดัง
00:04:20 → 00:04:23 นั้นเนี่ยบางทีการสอนด้วยภาพการสอนด้วย
00:04:23 → 00:04:26 การเล่าเรื่องให้ฟังเด็กๆอาจจะไม่เข้าใจ
00:04:26 → 00:04:30 นะครับดังนั้นสำหรับนักศึกษาเองเนี่ยเรา
00:04:30 → 00:04:34 ก็มีจุดมุ่งหวังว่าให้เขาได้มาดูได้รับ
00:04:34 → 00:04:37 บรรยากาศในการปฏิบัติหน้าที่จริงสิ่งที่
00:04:37 → 00:04:39 เขาจะต้องไปเจอจริงนะครับสำหรับแพทย์ทั่ว
00:04:39 → 00:04:42 ๆไปแล้วก็แพทย์นิติเวชด้วยอรรถรสจริงๆก็
00:04:42 → 00:04:44 เลยเป็นคำตอบว่าทำไมเราต้องจัดเหมือนจริง
00:04:44 → 00:04:46 ขนาดนี้เราต้องเหมือนริงขนาดนี้อันนี้
00:04:46 → 00:04:47 เหมือนจริงมากนะครับเหมือนจริงมากเหมือน
00:04:47 → 00:04:50 จริงมากจริงก็คือมีรอยสักมีมีให้ดูราย
00:04:50 → 00:04:53 ละเอียดนี่ครับให้ดูรายละเอียดรายละเอียด
00:04:53 → 00:04:58 ของศพแบบมีรอยสักมีแบบหนอนขึ้นมีเบวมแล้ว
00:04:58 → 00:05:01 ครับจำลองหมเหมือนมากแล้วแต่ละแพทย์แต่ละ
00:05:01 → 00:05:03 ท่านนี่ทำอะไรบ้างครับเอ่อหน้าที่หลักๆ
00:05:03 → 00:05:06 ของนิติเวชศาสตร์ในเชิงของการตรวจภัย
00:05:06 → 00:05:08 พิบัติธรรมชาติเนี่ยเราคงไม่ได้ไปหา
00:05:08 → 00:05:10 สาเหตุการตายะวัตถุประสงค์ที่สำคัญคือการ
00:05:10 → 00:05:13 ระบุตัวบุคคลนะครับการตรวจเอกลักษณ์บุคคล
00:05:13 → 00:05:15 การตรวจยืนยันตัวบุคคลดังนั้นหลักหลักก็
00:05:15 → 00:05:18 คือการไปตรวจดูข้าวของเครื่องใช้นะครับ
00:05:18 → 00:05:20 แล้วก็จดบันทึกโดยก็จะมีแพทย์ท่านนึงเป็น
00:05:20 → 00:05:23 คนจดบันทึกจดอยู่นะครับรายละเอียดที่ตรวจ
00:05:23 → 00:05:26 พบถ่ายรูปแล้วก็มีแพทย์ที่คอยตรวจดู
00:05:27 → 00:05:30 ลักษณะจำเพาะทางการแพทย์สำหรับศพแต่ละราย
00:05:30 → 00:05:33 เพื่อประโยชน์ในการระบุยืนยันตัว
00:05:33 → 00:05:37 บุคคลนี่คือหน้าที่ของแพทย์หลังจากทำที่
00:05:37 → 00:05:40 งานซึนามิเรียบร้อยก็จะมีการโชว์แบบนี้
00:05:40 → 00:05:41 เหมือนเป็นรายงานถูกต้องครับอันนี้เป็น
00:05:41 → 00:05:44 รายงานแบบฟอร์มที่เห็นเนี่ยสีเหลืองกับสี
00:05:44 → 00:05:46 ชมพูเนี่ยเป็นแบบฟอร์มที่ใช้ร่วมกันทั่ว
00:05:46 → 00:05:49 โลกนะครับสำหรับหน่วยงานที่เรียกว่า dvi
00:05:49 → 00:05:51 ก็คือมีแพทย์จากทั้งโลกมาช่วยประเทศไทย
00:05:51 → 00:05:55 เลยสิ่งที่เกิดขึ้นคือนี่ความร่วมมือร่วม
00:05:55 → 00:05:57 ใจกันก็จะเป็นอย่างงี้เป็นการเปรียบเทียบ
00:05:57 → 00:05:59 การกรอกข้อมูลของทีมแพทย์ศริราชและแพทย์
00:06:00 → 00:06:03 ชาวสวีเดนครับหลักๆก็คือการชี้ชัดว่าเ
00:06:03 → 00:06:05 เป็นใครถูกต้องซึ่งใช้หลายๆอย่างอันเนี้ย
00:06:05 → 00:06:08 ข้อมูลหลักๆจะเป็นข้อมูลเกี่ยวกับข้าวของ
00:06:08 → 00:06:11 เครื่องใช้ที่ตรวจพบนะครับลักษณะภายนอก
00:06:11 → 00:06:14 ผู้ชาผู้หญิงรอยศักดิต่างๆักอนะครับนอก
00:06:14 → 00:06:16 จากนั้นแล้วเราก็ทำการตรวจฟันนะครับแล้ว
00:06:16 → 00:06:18 ก็จะมีทีมทันตแพทย์นะครับก็จะเป็น
00:06:18 → 00:06:22 ทันตแพทย์จากหลายๆมหาวิทยาลัยในประเทศไทย
00:06:22 → 00:06:24 แล้วก็ในต่างประเทศด้วยมาช่วยกันนะครับ
00:06:24 → 00:06:28 เก็บข้อมูลเอกลักษณ์บุคคลจากฟันนะครับจาก
00:06:28 → 00:06:31 การตรวจฟันมีภาพเชิงซ้อนแล้วเมื่อกี้
00:06:31 → 00:06:34 อาจารย์บอกว่าการเก็บเอกลักษณ์บุคคลครับ
00:06:34 → 00:06:36 การตรวจพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลมันมีกี่
00:06:36 → 00:06:38 วิธีอาจารย์จริงๆแล้วมีหลายวิธีหลากหลาย
00:06:38 → 00:06:41 นะครับถ้าจะแยกออกเป็นแบบหยาบๆก็คือการ
00:06:41 → 00:06:44 ตรวจภายนอกกับการตรวจภายในการตรวจภายนอก
00:06:44 → 00:06:48 นี่ก็เป็นการตรวจด้วยวิธีที่ไม่รุกล้ำไม่
00:06:48 → 00:06:50 ต้องผ่าศพไม่ต้องไปเจาะเลือดอะไรนะครับ
00:06:50 → 00:06:54 ตั้งแต่การตรวจดูรอยสักนะครับการตรวจฟัน
00:06:54 → 00:06:56 ก็ถือว่าเป็นการตรวจภายนอกแบบนึงการตรวจ
00:06:56 → 00:06:59 ลายพิมพ์นิ้วมืออืนะครับแล้วก็ก็เข้ามา
00:06:59 → 00:07:03 ถึงในการตรวจในส่วนของการตรวจภายในเช่น
00:07:03 → 00:07:06 การเจาะเลือดการผ่าศพตรวจการตรวจ DNA
00:07:06 → 00:07:09 เหล่านี้เป็นต้นนะครับถ้าจะย้อนกลับไปพูด
00:07:09 → 00:07:11 ถึงกรณีของ suami เนี่ยแน่นอนไม่อยากให้
00:07:11 → 00:07:13 มันเกิดขึ้นแต่ในเมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว
00:07:13 → 00:07:15 เนี่ยเราได้รับบทเรียนอะไรบ้างครับขอพูด
00:07:15 → 00:07:18 ในแง่มุมของทางนิติวิทยาศาสตร์ก่อนแล้ว
00:07:18 → 00:07:21 กันนะครับโดยเฉพาะในส่วนของการที่ศพจะได้
00:07:21 → 00:07:24 รับการระบุนะครับจริงๆแล้วมันมีปัญหาเยอะ
00:07:24 → 00:07:26 นะฮะทั้งครอบครัวในภายหลังเกี่ยวข้องกับ
00:07:26 → 00:07:31 เงินประกันที่จะได้รับใช่มสเกี่กทายาต่อๆ
00:07:31 → 00:07:34 ไปดังนั้นการระบุตัวคนที่ถูกต้องนะครับ
00:07:34 → 00:07:36 การที่ทำให้ศพกลับบ้านได้เนี่ยไม่ได้มี
00:07:36 → 00:07:38 ความสำคัญเฉพาะทางด้านจิตวิญญาณอย่าง
00:07:38 → 00:07:41 เดียวแต่มันมีความสำคัญกับคนที่อยู่ภาย
00:07:41 → 00:07:44 หลังด้วยคนที่อยู่เมืองถ้าคุณยลองสังเกต
00:07:44 → 00:07:46 ตายกระทบคนเป็นละใช่ถ้าคุณบยลองสังเกตดู
00:07:46 → 00:07:50 บนกระดานเนะฮะจากการตัวสรุปตัวเลขที่วัน
00:07:50 → 00:07:53 ที่ 11 ธันวาคม 2548 ศพทั้งหมด
00:07:53 → 00:07:58 3777 ส่งคืนญา 2779 นี่คือนี่ส่งเยอะนะ
00:07:58 → 00:07:59 ครับอาจารยครับอันนี้ผมต้องบอกว่าไม่ใช่
00:08:00 → 00:08:01 ตัวเลขทั้งหมดครับนะครับอันนั้นเป็นตัว
00:08:01 → 00:08:04 เลขที่เท่าที่เราเราพบแต่จริงๆที่จิตรมา
00:08:04 → 00:08:07 ว่าญาติหายไปเนี่ยประมาณ 5,000 ศพอย่าง
00:08:07 → 00:08:10 ที่ผมบอกอืต้องเรียนคุณบูไว้ว่าตอนตอนที่
00:08:10 → 00:08:14 เกิดเหตุการณ์เนี้ยผมได้เข้าไปผ่าศพด้วย
00:08:14 → 00:08:16 แต่อยู่ในฐานะของแพทย์เยอรมนีนะครับมา
00:08:16 → 00:08:19 ร่วมกับทีมของเยอรมนีอ๋อจารยไปด้วยแต่
00:08:19 → 00:08:20 อยู่ที่เยอรมนีพอดีตอนนั้นผมศึกษาต่อที่
00:08:20 → 00:08:24 เยอรมนีแล้วก็มากับทีมเยอรมันผมบอกได้ว่า
00:08:24 → 00:08:27 ศพที่ส่งคืนได้ส่วนใหญ่เกือบทั้งหมดเนี่ย
00:08:27 → 00:08:30 จะเป็นศพชาวต่างชาตินะครับบทเรียนที่เรา
00:08:30 → 00:08:33 ได้รับอย่างนึงก็คือการเก็บข้อมูลแล้วก็
00:08:34 → 00:08:38 การรวบรวมสถิติที่เกี่ยวข้องกับตัวเราที่
00:08:38 → 00:08:41 แตกต่างกันในประชากรต่างชาติกับประชากร
00:08:41 → 00:08:45 ไทยเได้ประสบจำนวนมากเราไม่มีข้อมูลของ
00:08:45 → 00:08:50 เขาคนไทยทำฟันไม่เคยเก็บข้อมูลคนไทยไม่
00:08:50 → 00:08:55 เคยบอกใครว่าฉันมีเอกลักษณ์ตรงไหนในขณะ
00:08:55 → 00:08:57 ที่ชาวต่างชาติเนี่ยเราส่งคืนได้เกือบ
00:08:57 → 00:09:00 ทั้งหมดแล้วเข้าใจเลยก็คือว่าที่อาจารย์
00:09:00 → 00:09:02 บอกว่าคืนได้ศพส่วนใหญ่เนี่ยเป็นชาวต่าง
00:09:02 → 00:09:05 ชาติเพราะว่าเวลาชาวต่างชาติทำอะไรเครับ
00:09:05 → 00:09:08 มีสติติเก็บข้อมูลทั้งหมดทั้งประวัติ
00:09:08 → 00:09:11 ชีวิตการทำฟันทำนู่นทำนี่มีประวัติหมดแต่
00:09:11 → 00:09:14 ของเรานี่คือจะห่วงไว้ไม่บอกใครเลยเก็บ
00:09:14 → 00:09:17 ไว้อยู่คนเดียวเลย่แต่เวลาไม่อยู่แล้วก็
00:09:17 → 00:09:20 หายาลำบากลำบากญาติๆลำบากลูกหลานโดยเฉพาะ
00:09:20 → 00:09:25 อย่างยิ่งเนี่ยใน 2779 เนี่ยเป็นศพของ
00:09:25 → 00:09:27 ประเทศเยอรมนีคือชาวเยอรมันที่มาเสีย
00:09:27 → 00:09:30 ชีวิตเนี่ยประมาณ 500 บันทึกนี่เคุณบู๊
00:09:31 → 00:09:33 เชื่อมยเกลับบ้านได้
00:09:33 → 00:09:37 99.9% โหสุดยอดอ่าไม่ใช่ความเก่งกดทาง
00:09:37 → 00:09:40 ด้าน DNA หรือความเก่งกาจของหมอผ่าศพนะ
00:09:40 → 00:09:43 ครับศพประมาณ 80% เนี่ยถูก matching ด้วย
00:09:43 → 00:09:46 ข้อมูลการทำฟันนะครับเนื่องจากระบบ
00:09:46 → 00:09:49 สาธารณสุขนะครับมีการเก็บข้อมูลฟันมีการ
00:09:49 → 00:09:54 เก็บข้อมูล xray ต่างๆเนี่ยเรา matching
00:09:54 → 00:09:57 ศพได้ประมาณ 80% จากข้อมูลตรงนั้นในส่วน
00:09:57 → 00:10:00 ของการผ่าศพและการตรวจ DNA จริงๆแล้ว
00:10:00 → 00:10:02 เนี่ยประมาณ 10 กว่าเปอร์เเท่านั้นเองนะ
00:10:02 → 00:10:06 ครับอ่าดังนั้นจึงอาจจะต้องมาทบทวนกระบวน
00:10:06 → 00:10:09 การในการเก็บอัตลักษณ์หรือว่าเอกลักษณ์
00:10:09 → 00:10:28 ของบุคคลของประเทศเหมือน
00:10:28 → 00:10:34 กัน
00:10:34 → 00:10:37 อันดับต่อไปมีอะไรครับอาจารย์อันดับต่อไป
00:10:37 → 00:10:39 ผมจะพาไปคุณบ๊วยไปดูสิ่งที่คุณบ๊วยต้อง
00:10:39 → 00:10:42 รู้จักแน่นอนแลผมเชื่อว่าผู้ชมส่วนใหญ่ก็
00:10:42 → 00:10:44 คงจะรู้จักแม้แต่ชาวต่างชาติก็รู้จักคือ
00:10:45 → 00:10:48 ซีอุยโหตกใจนะครับแต่คงจะมีนำเสนอในแง่
00:10:48 → 00:10:51 มุมที่แตกต่างไปจากที่คุณบวยเข้าใจเยี่ยม
00:10:51 → 00:10:55 เลยครับซีอุยไปพาอั้วไปเลยฮอยากกิงกับ
00:10:55 → 00:10:58 เด็กแล้ว
00:10:58 → 00:11:02 เชิญมาถึงแล้วครับ
00:11:02 → 00:11:06 แซีอุยแซ่อึนะครับวันนี้โชคดีมากมีนัก
00:11:06 → 00:11:09 เรียนนักศึกษามาเต็มเลยก็เดี๋ยวน้องๆครับ
00:11:09 → 00:11:11 เดี๋ยวเราจะมีข้อมูลุยถ้าเกิดใครอยากฟัง
00:11:11 → 00:11:14 มาฟังใกล้ๆได้นะครับไม่ใช่แบบเฮ้ยเถ่าย
00:11:14 → 00:11:17 รายการอะไรวะโมาด้วยไม่ต้องนินทาข้างหลัง
00:11:17 → 00:11:20 มาฟังใกล้ๆได้ครับเมาครับเมามาลูกมาเออ
00:11:20 → 00:11:23 เข้ามาจะเรียนรู้คนที่มาแล้วได้ประโยชน์
00:11:23 → 00:11:27 ดีมครับอาจารย์เราพูดทีเดียวยิงนกได้หลาย
00:11:27 → 00:11:29 ตัวทีเดียวนะครับเดี๋ยวน้องๆเดี๋ยวได้ฟัง
00:11:29 → 00:11:31 จากอาจารย์ด้วยเนาะถามนิดนึงว่าตาม
00:11:31 → 00:11:33 ประวัติที่น้องๆรู้จักซีอุยเป็นยังไงบ้าง
00:11:33 → 00:11:37 ครับเป็นผู้ชายที่มีเป็นมนุษย์กินคนค่ะอื
00:11:37 → 00:11:41 แล้วเป็นคนจีนกลัวมั้ยก็น่ากลัวค่ะทีนี้
00:11:41 → 00:11:43 ประวัติจริงๆอาจารย์เป็นยังไงครับซีอุยผม
00:11:43 → 00:11:45 ต้องเรียนตรงๆว่าผมเองก็เกิดไม่ทันได้แต่
00:11:46 → 00:11:48 ฟังจากที่ท่านอาจารย์เล่าให้ฟังแล้วก็จาก
00:11:48 → 00:11:51 เอกสารเก่าๆเอ่อนายิอุยแซ่อึ้งเนี่ยเป็น
00:11:51 → 00:11:55 มนุษย์กินคนคนแรกและคนเดียวของประเทศไทย
00:11:55 → 00:11:58 ที่มีการบันทึกอนะครับเอ่อถูกจับกุมและ
00:11:59 → 00:12:01 ตั้งแต่ปี 2501 นะฮะที่ที่ถูกจับคุมที่
00:12:01 → 00:12:05 จังหวัดระยองประวัติของเขาเนี่ยเขารับ
00:12:05 → 00:12:08 ประทานเฉพาะหัวใจกระตับไม่ใช่เลือกกิน
00:12:08 → 00:12:11 ทั้งตัวนะแล้วก็ไม่ได้กินอวัยวะส่วนอื่น
00:12:11 → 00:12:13 กินจากความเชื่อกินโดยความเชื่อว่ากิน
00:12:13 → 00:12:17 แล้วจะแข็งแรงขึ้นอืแล้วก็จะทำให้มีพลัง
00:12:17 → 00:12:20 อำนาจเหนือกว่าคนธรรมดานะครับแล้วก็ถูก
00:12:20 → 00:12:25 จับกุมได้คาหลักฐานเมื่อปี 2501 อย่างที่
00:12:25 → 00:12:27 เรียนให้ทราบแล้วนะครับที่จังหวัดระยองนะ
00:12:27 → 00:12:30 ครับอ่าถูกจับกันได้ขณะที่กำลังจะพยายาม
00:12:30 → 00:12:34 ทำลายศพนะครับเป็นศพเด็กชายอายุประมาณ 9
00:12:34 → 00:12:40 ปีนะฮะแล้วก็ตอนที่ไปพบศพเนี่ยศพก็ถูกผ่า
00:12:40 → 00:12:44 เปิดออกและนะครับซึ่งสาเหตุการตายก็คงชัด
00:12:44 → 00:12:47 เจนมีบาดแพ้ที่ลำคอมีแบบแผลผ่าอกผ่าท้อง
00:12:47 → 00:12:50 นะฮะแล้วก็ไปค้นดูในตู้กับข้าวในบริเวณ
00:12:50 → 00:12:53 บ้านซึ่งอยู่ใกล้เคียงกันเนาะก็เจอชาม
00:12:53 → 00:12:57 สังกสีที่ใส่หัวใจแล้วก็ตับของเด็กอยู่
00:12:57 → 00:13:00 โอเคนั่นคือข้อข้อมูลที่เราสามารถค้นได้
00:13:00 → 00:13:02 ในอินเทอร์เน็ตทีนี้ครับวันนี้เรามาดูซี
00:13:02 → 00:13:04 อุยซะอึในแง่ของนิติวิยาศาสตร์เป็นยังไง
00:13:04 → 00:13:07 ครับจริงๆแล้วการนำเสนอซีอุยที่
00:13:07 → 00:13:10 พิพิธภัณฑ์แห่งนี้นะครับอันดับ 1 เลยคงคง
00:13:10 → 00:13:13 คงเรี่ยงไม่ได้ที่จะพูดว่าพฤติกรรมการ
00:13:13 → 00:13:16 ประกอบอาชญากรรมที่ประหลาดผิดธรรมชาติ
00:13:16 → 00:13:19 แล้วก็ไม่เคยค้นพบอันนี้คือส่วนหนึงที่นำ
00:13:19 → 00:13:21 มาจัดแสดงไว้ตรงนี้อีกส่วนนึงที่สำคัญคือ
00:13:21 → 00:13:25 ณขณะนั้นท่านอาจารย์ผู้ก่อตั้งภาควิชา
00:13:25 → 00:13:27 นิติเวชศาสตร์ซึ่งท่านเป็นผู้นำวิชา
00:13:27 → 00:13:31 นิติเวชศาสตร์เข้ามาสู่ประเทศไทยก็ได้ขอ
00:13:31 → 00:13:35 ศพนายซูแซ่อึ้งหลังจากการประหารชีวิตมา
00:13:35 → 00:13:38 ใช้ในการศึกษานะครับทั้งในเชิงของ
00:13:38 → 00:13:42 ประวัติศาสตร์และในเชิงของวิธีการประหาร
00:13:42 → 00:13:45 ชีวิตแล้วก็วิธีการเก็บถนอมรักษาศพนะครับ
00:13:45 → 00:13:47 ดังนั้นคอนเซปต์ใหญ่ๆหรือว่าหลักใหญ่ๆที่
00:13:47 → 00:13:50 อยากให้มาดูที่นี่ด้วยนอกจากมาดูว่าว้าว
00:13:50 → 00:13:54 ุยแล้วก็ยังมีความรู้ในทางวิทยาศาสตร์นะ
00:13:54 → 00:13:56 ครับอันดับแรกเลยคือวิธีการประชีวิตครับ
00:13:56 → 00:14:00 ซึ่งในปัจจุบันนี้เราเปลี่ยนวิธีการละนะ
00:14:00 → 00:14:02 เป็นการฉีดยานะครับแต่ว่าอันนี้เป็นวิธี
00:14:02 → 00:14:05 การประหารชีวิตแบบเก่าถ้าเราสังเกตดีๆเรา
00:14:05 → 00:14:08 ก็จะเห็นนะฮะมีรอยกระสุนอืนะครับทั้งด้าน
00:14:08 → 00:14:10 หน้าและด้านหลังถูกต้องนี่คือวิธีการ
00:14:10 → 00:14:13 ประหารชีวิตในสมัยนั้นอันดับที่ 2 ก็คือ
00:14:13 → 00:14:16 เรื่องของการถนอมรักษาศพจะเห็นได้ว่าตรง
00:14:16 → 00:14:19 ช่วงบริเวณท้องเนี่ยคือซูบแล้วแบบคือเอา
00:14:19 → 00:14:22 เครื่องในออกไม่ได้ออกสพนี้ไม่ได้ไม่ได้
00:14:22 → 00:14:24 ผ่าครับศพนี้ไม่ได้นี่ผมคิดแบบนั้นเลยนะ
00:14:24 → 00:14:27 ครับศพนี้ไม่ได้ผ่าศพนะครับตามกฎหมายไทย
00:14:27 → 00:14:29 นักโทษที่ประหารชีวิตเนี่ยเนี่ยเป็นข้อยก
00:14:29 → 00:14:32 เว้นว่าไม่เป็นการเสียชีวิตผิดธรรมชาติ
00:14:32 → 00:14:35 ที่ไม่จำเป็นต้องมีการผ่าศพั้นศพคุซุนี้
00:14:35 → 00:14:38 ไม่ได้ผ่านะครับเราพยายามที่จะแสดงให้
00:14:38 → 00:14:41 เห็นว่าการเกิดมัมมี่ในศัพท์การแพทย์เรา
00:14:41 → 00:14:44 เรียกว่า mummification คือการที่ร่างกาย
00:14:44 → 00:14:46 ไม่เน่าหลังจากการเสียชีวิตแล้วเนี่ยมี
00:14:46 → 00:14:49 ทั้งในแบบที่เป็นแบบธรรมชาติกับในแบบที่
00:14:49 → 00:14:51 มนุษย์ทำขึ้นและอย่าง C นี่คือมนุษย์ทำ
00:14:51 → 00:14:54 ขึ้นโอนะครับอันนี้เป็นวิธีการถนอมรักษา
00:14:54 → 00:14:57 ศพสมัยเก่านะย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 2501
00:14:57 → 00:15:00 กี่ปีแล้วครับโอโอ 2501 ก็ตอนนี้ 50 กว่า
00:15:00 → 00:15:02 ปีเนาะสมัยนู้นเราก็ยังไม่มีการฉีดน้ำยา
00:15:02 → 00:15:06 ศพสวยงามใช่เราจะเห็นว่าศพสมัยเนี้ยอ่า
00:15:06 → 00:15:09 เวลาฉีดยาฟรินฉีดยาถนมรักษาศพศพค่อนข้าง
00:15:10 → 00:15:13 ดูดีดูเรียบร้อยดูสาซ่านแต่สมัยนู้นเรา
00:15:13 → 00:15:15 ยังไม่มีวิธีการถนอมศพสมัยเก่าก็คือการ
00:15:15 → 00:15:18 แช่ศพลงไปนะครับทั้งตัวแล้วก็ใช้แวก
00:15:18 → 00:15:20 เคลือบเหมือนเออผมกำลังจะว่าเหมือนชุบ
00:15:20 → 00:15:22 อะไรสักอย่างนึงถูกต้องใช้แวกเคลือบทุ
00:15:22 → 00:15:25 ข้างข้าเราก็จะมีศพที่ไม่เน่าใช้
00:15:25 → 00:15:27 เทคโนโลยีเดียวกันไม่ใช้ครับอันนี้เป็น
00:15:27 → 00:15:29 natural mummification เอ้าเหรอคือการ
00:15:29 → 00:15:32 ที่สภาพร่างกายเกิดการเปลี่ยนเป็นมัมมี่
00:15:32 → 00:15:35 โดยธรรมชาตินะครับต่างกันยังไงอาจารย์อัน
00:15:35 → 00:15:37 นี้อันนี้สงสัยเลยต่างกันยังไงครับตุมอง
00:15:37 → 00:15:40 ด้วยตาเป่าคงไม่ต่างนะครับเพราะจริงๆแล้ว
00:15:40 → 00:15:43 หลักการของการไม่เน่าเนี่ยคือการแข่งกัน
00:15:43 → 00:15:45 ระหว่างการทำงานของแบคทีเรียที่ทำให้เกิด
00:15:45 → 00:15:49 การเน่ากับการแห้งของเซลล์ดังนั้นถ้าร่าง
00:15:49 → 00:15:53 กายเนี่ยเกิดสภาพการแห้งหรือมีชพูมีสภาวะ
00:15:53 → 00:15:57 ต่างๆที่เหมาะสมนะครับเกิดการแห้งหรือ
00:15:57 → 00:15:59 แข็งตัวของเนื้อเยื่อเื่อก่อนที่
00:15:59 → 00:16:01 แบคทีเรียจะทำงานทันก็จะเกิดสภาพเป็น
00:16:01 → 00:16:05 มัมมี่โดยธรรมชาติได้ก็คือจะแห้งเองแห้ง
00:16:05 → 00:16:08 เองไม่เน่าถูกต้องคือเราจะเห็นว่าถ้าเป็น
00:16:09 → 00:16:11 ในเชิงความเชื่อของเรานี่โอ้โหบุญบารมี
00:16:11 → 00:16:15 ถูกต้องถูกต้องผมว่าก็คงมีส่วนนึงที่เกิด
00:16:15 → 00:16:19 จากบุญบารมีจริงๆสมาธิอะไรอย่างงี้เลยใช่
00:16:19 → 00:16:21 อาจารย์ใช่โดยเฉพาะเกจิอาจารย์ที่จิต
00:16:22 → 00:16:24 บริสุทธิ์เนาะแล้วก็โดยเฉพาะถ้าไม่ฉัน
00:16:24 → 00:16:27 เนื้อสัตว์แบคทีเรียในร่างกายก็อาจจะน้อย
00:16:27 → 00:16:30 กว่าแต่อันนี้เป็นแค่สมติฐานอืยืนในทาง
00:16:30 → 00:16:32 การแพจะเห็นได้ว่าไม่ค่อยต่างกันเท่าไหร่
00:16:32 → 00:16:35 นะครับแต่ว่าอันนี้คือไม่ต้อง่าหลักคือทำ
00:16:35 → 00:16:39 ให้แห้งแห้งเองเลือทำให้แห้งแหเองออจริงๆ
00:16:39 → 00:16:42 แล้วทฤษฎีการทำให้แห้งเนี่ยก็เป็นหลักการ
00:16:42 → 00:16:45 เดียวกันกับที่ใช้ในฟาโรที่อิปออนะครับ
00:16:45 → 00:16:49 ถ้าเราขุดลงไปในสุสานฟาโรต่างๆก็มักจะมี
00:16:49 → 00:16:52 สภาพเป็นแบบนี้แล้วก็จะพันผ้า
00:16:52 → 00:16:57 [เพลง]
00:16:57 → 00:17:06 ใช่
00:17:06 → 00:17:23 [เพลง]
00:17:23 → 00:17:26 ถามอาจารย์ชรนิดนึงครับว่าทำไมอาจารย์ถึง
00:17:26 → 00:17:30 ให้มาหยุดดูอยู่ที่กระดูกวงนี้ผมคิดว่า
00:17:30 → 00:17:33 ส่วนนี้คือหัวใจที่สำคัญของพิพิธภัณฑ์
00:17:33 → 00:17:36 แห่งนี้ท่านอาจารย์เป็นปรมาจารย์เรียกได้
00:17:36 → 00:17:38 ว่าเป็นผู้นำวิชา
00:17:38 → 00:17:41 นิติศาสตร์เข้ามาสู่ประเทศไทยเป็นท่านแรก
00:17:41 → 00:17:43 นะครับเป็นผู้เริ่มต้นวิชาเนี้ยในประเทศ
00:17:43 → 00:17:46 ไทยศาสตราจารย์นายแพทย์สงกรานต์นิยมเสน
00:17:46 → 00:17:51 ปรมาจารย์แห่งนิติเวทวิทยาของประเทศไทย
00:17:51 → 00:17:54 ครับจริงๆท่านอาจารย์จบการศึกษามาจากจาก
00:17:54 → 00:17:57 ประเทศไทยก่อนนะครับจดแพทยศาสตรบัณฑิตจาก
00:17:57 → 00:17:59 ประเทศไทยแล้วก็ไปศึกษาต่อที่ประเทศ
00:17:59 → 00:18:00 เยอรมณีท่านอาจารย์ก็มีความสนใจทาง
00:18:00 → 00:18:03 นิติเวชเป็นอย่างยิ่งนะครับหลังจากนั้น
00:18:03 → 00:18:06 ท่านอาจารย์ก็ได้มีประสบการณ์ที่มีความ
00:18:06 → 00:18:09 สำคัญต่อชีวิตท่านอาจารย์อย่างยิ่งและมี
00:18:09 → 00:18:12 ความสำคัญกับประเทศไทยอย่างหาที่สุดไม่
00:18:12 → 00:18:15 ได้นะครับนั่นคือกรณีสวรรนคตของพระบาท
00:18:15 → 00:18:17 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอนันทมหิดลรัชกาลที่
00:18:17 → 00:18:21 8 ท่านอาจารย์ก็เป็นกรรมการที่ทำการผ่า
00:18:21 → 00:18:25 พิสูจน์พระบรมศพในกรณีสวรรคคตดังกล่าวถ้า
00:18:25 → 00:18:28 คุณบ้วยมาทางด้านนี้เชิญครับนะครับ
00:18:28 → 00:18:33 จะเห็นหัวกะโหลกจำนวนมากนะครับหลายๆคนก็
00:18:33 → 00:18:35 มาดูพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก็ไม่ทราบว่าคือ
00:18:35 → 00:18:38 อะไรรู้แต่ว่าเป็นกะโหลกมีรูนะครับจริงๆ
00:18:38 → 00:18:41 แล้วนี่คือกะโหลกจริงที่ใช้ในการทดสอบยิง
00:18:41 → 00:18:46 วิถีกระสุนในกรณีสวรรคตของรัชกาลที่ 8 นะ
00:18:46 → 00:18:49 ครับถูกต้องครับอาจารย์ครับนี่มีโครง
00:18:49 → 00:18:53 กระดูกศีรษะทั้งหมด 7 ศีรษะนะครับมาจาก
00:18:53 → 00:18:55 ยังไงครับถ้าเกิดคนมาเห็นทั่วไปก็คือเป็น
00:18:55 → 00:18:59 กะโหลกที่มีรูอยู่ตรงใช่อันนี้ถือเป็นเคส
00:18:59 → 00:19:02 แรกของประเทศไทยนะครับที่มีการทดสอบนะ
00:19:02 → 00:19:05 ครับในห้องยิงปืนจริงกะโหลกทั้งหมดเนี่ย
00:19:05 → 00:19:08 เป็นกะโหลกของอ่าชายไม่ทราบชื่อบ้างนะ
00:19:08 → 00:19:11 ครับหรือว่าผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ
00:19:11 → 00:19:14 ต่างๆบ้างอ่าเคสทั้งหมดเจริงๆแล้วใช้
00:19:14 → 00:19:17 กะโหลกศีรษะมากกว่านี้ถือว่าเป็นครั้งแรก
00:19:17 → 00:19:19 ที่มีการทดลองจริงๆในประเทศไทยมีอีกสิ่ง
00:19:19 → 00:19:23 นึงที่เป็นสิ่งที่สำคัญมากนะครับเมาให้ดู
00:19:23 → 00:19:26 คิดว่าคงหาไม่ได้อีกแล้วในชีวิตนี้และนี่
00:19:26 → 00:19:29 คือเครื่องมือที่ใช้ในการผ่าชันสูตรพระ
00:19:29 → 00:19:33 บรมศพในกรณีสวรรคตนะครับซึ่งเท่าที่เหลือ
00:19:33 → 00:19:35 เก็บมาก็เหลืออยู่เท่านี้แหละครับจริงๆ
00:19:35 → 00:19:38 แล้วมีใช้เป็นเป็นรชิ้นประวัติศาสตร์หน้า
00:19:38 → 00:19:42 แรกขององการนิติวิทยาศาสตร์ได้เปิดขึ้นใน
00:19:42 → 00:19:44 ประเทศไทยจากชุดนี้ถูกต้องครับจกระทั่ง
00:19:44 → 00:19:47 ท่านอาจารย์รู้สึกว่าประเทศของเราเี่ยัง
00:19:47 → 00:19:50 ขาดองค์ความรู้แล้วก็งานทางด้านนี้ท่าน
00:19:50 → 00:19:53 อาจารย์จึงบุกเบิกแล้วก็เริ่มก่อตั้งเ่อ
00:19:53 → 00:19:55 แล้วก็เริ่มมีการใช้วิชานิติวิทยาศาสตร์
00:19:55 → 00:19:59 และนิติเวชศาสตร์ในประเทศไทยนะครับถือว่า
00:19:59 → 00:20:01 ท่านอาจารย์เป็นท่านแรกที่นำมาสู่ประเทศ
00:20:01 → 00:20:13 [เพลง]
00:20:13 → 00:20:16 ไทยอันนี้ส่วนนี้อาจารย์บอกว่าก็เป็นอีก
00:20:16 → 00:20:18 ส่วนหนึ่งที่สำคัญก็คือว่านอกจากมี
00:20:18 → 00:20:20 ประโยชน์ในของการเข้าชมแล้วในเรื่องของ
00:20:20 → 00:20:23 การศึกษาด้วยถูกต้องครับอันนี้เป็นหัวใจ
00:20:23 → 00:20:25 สำคัญของการเรียนการสอนสำหรับนักศึกษา
00:20:25 → 00:20:29 แพทย์นะครับหแพทย์ประจำบ้านแล้วก็
00:20:29 → 00:20:32 เฉพาะทางนะเ่อก็จะเป็นอวัยวะที่เกิดจาก
00:20:32 → 00:20:35 การบาดเจ็บในลักษณะต่างๆอืหรือว่าการเสีย
00:20:35 → 00:20:39 ชีวิตในรูปแบบต่างๆซึ่งเราคงจะไม่เข้าใจ
00:20:39 → 00:20:42 ถ้าเราดูแต่ภาพ 2 มิติจากในหนังสือเนาะ
00:20:42 → 00:20:46 นั้นก็จะมีคชที่เป็นของจริงให้ชมแพทย์ได้
00:20:46 → 00:20:49 ชมแล้วมีใครอีกมยครับที่มามาในเรื่องของ
00:20:49 → 00:20:51 การศึกษาได้อีกตำรวจได้มยครับใช่ตำรวจก็
00:20:51 → 00:20:55 ได้ครับอ่าเขาก็จะเห็นว่าเวลาที่ลูก
00:20:55 → 00:20:58 กระสุนเข้าไปในในร่างกายแล้วเนี่ยมันทำ
00:20:58 → 00:21:01 ให้เกิดพยาธิสภาพอย่างไรนะครับการที่มีด
00:21:01 → 00:21:04 เข้าไปในร่างกายทำให้เกิดพยาธิสภาพอย่าง
00:21:04 → 00:21:06 ไรอย่างเงี้ยบาดแผลถูกแทงเที่หัวใจไม่มี
00:21:06 → 00:21:10 ทางรู้เลยนะว่าเป็นยังไงต้องเห็นจริงๆใช่
00:21:10 → 00:21:11 อันนี้คงจะเป็นที่เดียวในโลกที่มี
00:21:11 → 00:21:27 คอลเลกชั่นมากกขนาดนี้ที่เดียวในโลกนะ
00:21:27 → 00:21:44 ครับ
00:21:44 → 00:21:46 อันนี้เป็นอีกชิ้นนึงที่อยากจะพาคุณบยมา
00:21:46 → 00:21:49 ชมนะครับสำหรับตัวผมเองมีคุณค่าทางการ
00:21:49 → 00:21:52 เรียนการสอนการศึกษาเป็นอย่างยิ่งนะครับ
00:21:52 → 00:21:54 ตั้งแต่สมัยผมเป็นนักศึกษาแพทย์แล้วจะ
00:21:54 → 00:21:56 เห็นได้ว่าทำไมถึงต้องมีพิพิธภัณฑ์แห่ง
00:21:56 → 00:21:59 นี้ทำไมเราถึงต้องต้องมีชิ้นงานหรือว่า
00:21:59 → 00:22:02 ชิ้นส่วนที่จัดแสดงบนพิธภัณฑ์ยกตัวอย่าง
00:22:02 → 00:22:05 เช่นเคสนี้นะครับเป็นเคสที่เราได้ศึกษา
00:22:05 → 00:22:09 แล้วก็เรียนรู้ว่าเส้นทางของกระสุนปืน
00:22:09 → 00:22:11 เมื่อมันผ่านเข้าไปในร่างกายของเราเนี่ย
00:22:11 → 00:22:13 มันทำให้เกิดพยาธิสภาพอะไรได้บ้างยังไงฮะ
00:22:13 → 00:22:16 อาจารย์นะครับคุณลองสังเกตดูนี่ฮะจะเห็น
00:22:16 → 00:22:19 ได้ว่าเส้นทางการเดินทางของกระสุนปืน
00:22:19 → 00:22:21 เนี่ยบอกอะไรเราได้หลายๆอย่างนะครับอ่า
00:22:21 → 00:22:24 โดนยิงจากตรงนี้นะครับอันนี้เป็นเส้นทาง
00:22:24 → 00:22:26 ที่เราตรวจพบนะครับแล้วมันประทับใจตรงไหน
00:22:26 → 00:22:28 ครับอาจารย์มันประทับใจตรงที่เรารู้รู้
00:22:28 → 00:22:31 ว่าเข้าไปแล้วเนี่ยมันทำให้เกิดมันไม่ได้
00:22:31 → 00:22:34 เป็นร่องคมๆเหมือนที่เราคิดเนาะแต่มันทำ
00:22:34 → 00:22:37 ให้เกิดการทำลายของเนื้อเยื่อโดยรอบด้วย
00:22:37 → 00:22:39 นะครับซึ่งแตกต่างกันสำหรับลูกกระสุนปืน
00:22:39 → 00:22:41 ในแต่ละชนิดนะครับแล้วนอกจากนี้ถ้าเราลอง
00:22:41 → 00:22:44 ประกบดูเนี่ยอื้อหือนะอย่างรายเนี้ยเราก็
00:22:44 → 00:22:48 จะรู้ว่ารูปร่างของแผลนะครับก็บอกเราได้
00:22:48 → 00:22:50 ในหลายๆอย่างนะครับเรื่องของขนาดกระสุน
00:22:50 → 00:22:54 ปืนไม่แปลกใจใจนะครับเพราะอันนี้เราผ่า
00:22:54 → 00:22:57 เนียนมากนะฮะอันนี้ก็เป็นอีกชิ้นนึงที่
00:22:57 → 00:23:00 ที่เป็นหัวใจสำคัญในการเรียนการสอนแล้วก็
00:23:00 → 00:23:03 ารมองว่าเปิดๆิดใช้ในการสอนที่สำคัญแล้ว
00:23:03 → 00:23:06 ก็เราเห็นว่าคิดว่ามันคงเป็นเป็นแบบตรง
00:23:06 → 00:23:08 เลยนะกระสุนมันหมุนหมดเลยมันจะแบบเนียน
00:23:08 → 00:23:10 หมดเลยจริงๆแล้วไม่เนียนเลยใช่มั้ย
00:23:10 → 00:23:11 อาจารย์ใช่ครับจริงๆแล้วไม่ได้เนียนอย่าง
00:23:11 → 00:23:14 ที่เราคิดนี่คือเป็นความสำคัญคร่าวๆของ
00:23:14 → 00:23:17 พิพิธภัณฑ์แรกที่เรามาเยี่ยมชมในวันนี้ใน
00:23:17 → 00:23:19 ศิราช 360 องศาขอบคุณอาจารย์ชรัตด้วยนะ
00:23:19 → 00:23:21 ครับขอบคุณมากครับทีนี้อยากให้อาจารย์
00:23:21 → 00:23:24 เชิญชวนประชาชนทั่วไปในการเข้ามาชม
00:23:24 → 00:23:28 พิพิธภัณฑ์อ่อก็อยากให้ผู้ที่สนใจนะครับ
00:23:28 → 00:23:32 จริงๆแล้วพิพัเราเหมาะสำหรับคนทุกระดับก็
00:23:32 → 00:23:35 อยากให้มาดูหรจริงๆเรามีของที่จะโชว์อีก
00:23:36 → 00:23:38 เยอะอีกเยอะครับด้วยเวลาจำกัดได้แค่นี้
00:23:38 → 00:23:40 ครับก็ขอบคุณอาจารย์อีกครั้งครับขอบคุณ
00:23:40 → 00:23:43 ครับยินดีครับไปที่พี่พิพันต่อไปรับรอง
00:23:43 → 00:23:47 ว่าน่าสนใจไม่แพ้กัน
00:23:47 → 00:23:50 ครับที่นำตัวอย่างมาแสดงให้ดูเนี่ยก็จะ
00:23:50 → 00:23:53 เป็นลักษณะของมะเร็งเต้านมที่มีการแพร่
00:23:53 → 00:23:56 กระจายไปอย่างมากนะคะอันนี้คือถุงคุอันทะ
00:23:56 → 00:23:59 ครับของผู้ชายไทยคือของคนนี้น้ำหนัก 35
00:23:59 → 00:24:06 กก 35
00:24:06 → 00:24:09