00:00:00 → 00:00:03 This Is tha PBS podcast View the
00:00:03 → 00:00:05 world vi The
00:00:05 → 00:00:08 Voice ปกติหน้าเราทั้ง 2 ฝั่งเนี่ยเวลา
00:00:08 → 00:00:11 ขยับมันก็จะต้องขยับไปพร้อมๆกันนะครับ
00:00:11 → 00:00:14 เวลาที่มีปัญหามันก็จะเห็นชัดเจนเลยว่า
00:00:14 → 00:00:17 ข้างนึงขยับแต่ว่าอีกข้างนึงเนี่ยไม่ขยับ
00:00:17 → 00:00:19 ซึ่งสาเหตุมันเกิดได้จากหลายอย่างแต่ว่า
00:00:19 → 00:00:22 สาเหตุหลักๆ 2 อย่างที่จะแตกต่างกันทั้ง
00:00:22 → 00:00:25 ในแง่ของอาการแล้วก็วิธีการรักษาก็คือโรค
00:00:25 → 00:00:29 เส้นประสาทใบหน้าอักเสบนะครับอีกอันนึงก็
00:00:29 → 00:00:32 คือโรคหลอดเลือดสมองเลยซึ่งแน่นอนส่วน
00:00:32 → 00:00:35 ใหญ่ถ้าเป็นอาการชัดๆมันก็จะมีอาการแขนขา
00:00:35 → 00:00:38 ของข้างที่หน้าเบี้ยวเนี่ยอ่อนแรงร่วม
00:00:38 → 00:00:41 ด้วยอันนั้นเป็นอาการของอัมพฤกอัมพาจาก
00:00:41 → 00:00:43 โรคหลอดเลือด
00:00:43 → 00:00:47 สมองฟังทุกเรื่องสุขภาพอัปเดตทุกโรคภยฟัง
00:00:47 → 00:00:51 รายการโรงหมอกับดิฉันสุรีพรวงสถิตพรค่ะ
00:00:51 → 00:00:55 This Is Toy PBS podcast เอาล่ะค่ะ
00:00:55 → 00:00:57 คุณผู้ฟังคะเดี๋ยววันนี้เราจะมาติดตามรับ
00:00:57 → 00:01:00 ฟังกันถึงอาการหน้าเบี้ยวครึ่งซีกนะคะ
00:01:00 → 00:01:02 อาการเป็นยังไงลักษณะเป็นยังไงเดี๋ยวคุย
00:01:02 → 00:01:05 กับนายแพทย์ชลพิวัฒน์ตรีพงษ์นายแพทย์
00:01:05 → 00:01:08 ชำนาญการสถาบันปราสาทวิทยากรมการแพทย์
00:01:08 → 00:01:11 กระทรวงสาธารณสุขค่ะสวัสดีค่ะคุณหมอคะ
00:01:11 → 00:01:14 ครับสวัสดีครับค่าคุณหมอคะอาการหน้า
00:01:14 → 00:01:16 เบี้ยวครึ่งซีกนี่คืออะไรคะอาการมันเป็น
00:01:16 → 00:01:19 ยังไงคุณหมอช่วยอธิบายให้ฟังหน่อยค่ะครับ
00:01:19 → 00:01:22 ปกติหน้าเราทั้ง 2 ฝั่งเนี่ยเวลาขยับมัน
00:01:22 → 00:01:25 ก็จะต้องขยับไปพร้อมๆกันนะครับเวลาที่
00:01:25 → 00:01:29 เอ่อมีปัญหานะครับมันก็จะเห็นชัดเจนเลย
00:01:29 → 00:01:32 ว่าว่าข้างนึงขยับแต่ว่าอีกข้างนึงเนี่ย
00:01:32 → 00:01:34 ไม่ขยับนะครับซึ่งสาเหตุมันเกิดได้จาก
00:01:34 → 00:01:37 หลายอย่างแต่ว่าสาเหตุหลักๆ 2 อย่างที่จะ
00:01:37 → 00:01:40 แตกต่างกันทั้งในแง่ของอาการแล้วก็วิธี
00:01:40 → 00:01:44 การรักษาก็คือโรคเส้นประสาทใบหน้าอักเสบ
00:01:44 → 00:01:47 นะครับอันนี้หรือถ้าอาจจะเคยได้ยินนะครับ
00:01:47 → 00:01:50 เราเรียกเบล py นะครับอีกอันนึงก็คือโรค
00:01:50 → 00:01:54 หลอดเลือดสมองเลยซึ่งเ่อแน่นอนส่วนใหญ่
00:01:54 → 00:01:57 ถ้าเป็นอาการชัดๆมันก็จะมีอาการแขนขาของ
00:01:57 → 00:02:00 ข้างที่หน้าเบี้ยวเนี่ยอ่อนแรงร่วมด้วย
00:02:00 → 00:02:03 อันนั้นเป็นอาการของอัมพฤกษ์อัมพาตจากโรค
00:02:03 → 00:02:06 หลอดเลือดสมองครับผมก็จะมี 2 อันเนี่ยที่
00:02:06 → 00:02:09 จริงๆแล้วหน้าเบียวเนี่ยจะต้องแยกจากกัน
00:02:09 → 00:02:12 ครับผมอือแล้วใครที่มีโอกาสเป็นได้บ้างคะ
00:02:12 → 00:02:15 สำหรับหน้าเบี้ยวครึ่งซี่แบบนี้ทั้ง 2
00:02:15 → 00:02:17 ลักษณะเลยอ่ะค่ะครับถ้าเป็นกลุ่มที่เป็น
00:02:17 → 00:02:20 อันที่ 2 ก็คือของโรคหลอดเลือดสมองเนี่ย
00:02:20 → 00:02:23 ก็จะเป็นเอ่อผู้สูงอายุหน่อยนึงนะครับ
00:02:23 → 00:02:26 แล้วก็มีโรคประจำตัวไม่ว่าจะเป็นเบาหวาน
00:02:26 → 00:02:30 ความดันไขมันในเลือดสูงคนที่ศุบุหรี่นะ
00:02:30 → 00:02:34 ครับหรือคนที่มีหัวใจเต้นผิดจังหวะหรือ
00:02:34 → 00:02:38 อีกอีกแบบนึงก็คือตอนเนี้ยทุกคนก็มีโอกาส
00:02:38 → 00:02:41 มากขึ้นเพราะว่าเราอยู่ในสถานการณ์ที่มี
00:02:41 → 00:02:43 ปัญหาเรื่องของฝุ่น PM 2.5 ซึ่งก็เป็น
00:02:43 → 00:02:46 ปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง
00:02:46 → 00:02:49 เหมือนกันนะครับอือส่วนกลุ่มที่ 2 เ่อ
00:02:49 → 00:02:52 กลุ่มแรกก็คือเ่อเส้นประสาทใบหน้าอักเสบ
00:02:52 → 00:02:55 นะครับเอ่อปกติเนี่ยสมองเราจะมีเส้นอ่า
00:02:55 → 00:02:59 ปสาทสมองอยู่ทั้งหมด 12 คู่นะครับแต่ว่า
00:02:59 → 00:03:02 คู่ที่ 7 เนี่ยจะทำหน้าที่ในการเลี้ยงอ่า
00:03:02 → 00:03:04 กล้ามเนื้อใบหน้าเพื่อที่จะให้เราสามารถ
00:03:04 → 00:03:08 แสดงออกถึงอารมณ์แล้วก็แสดงสีหน้าได้นะ
00:03:08 → 00:03:11 ครับในทุกรูปแบบนะครับค่ะทีนี้ตัวเส้น
00:03:11 → 00:03:13 ประสาทนี้ก็มีโอกาสที่จะเกิดการอักเสบ
00:03:14 → 00:03:16 ขึ้นได้ซึ่งการอักเสบก็จะมีจากหลายๆ
00:03:16 → 00:03:19 สาเหตุนะครับอักอ่าส่วนใหญ่จะเป็นแบบที่
00:03:19 → 00:03:22 ไม่ทราบสาเหตุคือมันก็อักเสบของมันเองมี
00:03:22 → 00:03:25 ส่วนน้อยที่เกิดตามหลังการอักเสบการติด
00:03:25 → 00:03:28 เชื้อของทางเดินหายใจเช่นเราเป็นหวัดนะ
00:03:28 → 00:03:30 ครับแล้วก็การอักเสบนั้นเนี่ยไม่ได้อยู่
00:03:30 → 00:03:32 เฉพาะในลำคอและมันลุกลำแล้วก็ทำให้เกิด
00:03:32 → 00:03:35 การอักเสบของตัวเส้นประสาทด้วยอือหรือบาง
00:03:35 → 00:03:38 คนอาจจะมีเอ่อเส้นประสาทอักเสบนะครับจาก
00:03:38 → 00:03:42 ตัวไวรัสอ่างูสวัสด์หรือไวรัสอิสุอีสัยก็
00:03:42 → 00:03:46 ได้เช่นเดียวกันครับอืก็โอมาจากหลายอย่าง
00:03:46 → 00:03:49 ได้เหมือนกันเอ่อแต่ว่าอย่างอีสุอีสัยอาจ
00:03:49 → 00:03:53 จะเดี๋ยวนี้ไม่ค่อยเห็นมีใครเป็นใช่มั้ย
00:03:53 → 00:03:56 คะครับส่วนใหญ่เราจะเป็นตอนเด็กครับแล้ว
00:03:56 → 00:04:00 ก็เ่อตัวไวรัสอีสุกอีสัยเนี่ยพอหายและมัน
00:04:00 → 00:04:02 จะไม่ได้หายไปจากร่างกายของคนเรานะครับ
00:04:02 → 00:04:05 มันจะไปอยู่ที่ปมประสาทเวลาที่เราเจ็บไข้
00:04:05 → 00:04:09 ไม่สบายภูมิคุ้มกันลดต่ำลงนะครับเ่ามันก็
00:04:09 → 00:04:13 จะโผล่ออกมาก็จะเห็นมีตุ่มนะครับเป็นตุ่ม
00:04:13 → 00:04:16 น้ำใสๆขึ้นนะครับตามตำแหน่งที่เส้นประสาท
00:04:16 → 00:04:18 เส้นนั้นเลี้ยงนะครับเพราะฉะนั้นถ้า
00:04:18 → 00:04:21 สมมุติว่าเป็นเส้นประสาทสมองคู่ที่ 7
00:04:21 → 00:04:23 อักเสบแล้วทำให้มีอาการหน้าเบี้ยวถ้าเป็น
00:04:23 → 00:04:26 จากตัวงูสวัสดเราก็จะเห็นตุ่มใสๆขึ้น
00:04:26 → 00:04:30 บริเวณตรงเอ่อหน้าหูนะนะครับตรงแก้มอะไร
00:04:30 → 00:04:33 อย่าเงี้ยครับก็จะเห็นขึ้นด้วยครับอ๋อ
00:04:33 → 00:04:37 แล้วอาการพวกนี้คือมันจะมีอะไรบ่งบอกก่อน
00:04:37 → 00:04:39 มั้ยคะก่อนที่เราจะมีอาการหน้าเบี้ยว
00:04:39 → 00:04:41 ครึ่งซี่เพราะว่าอย่างบางคนที่เคยรู้จัก
00:04:41 → 00:04:44 มาอย่างเงี้ยค่ะอาจารย์วันนึงอยู่ๆก็มี
00:04:44 → 00:04:46 อาการหน้าเบี้ยวครึ่งซี่เหมือนเหมือน
00:04:46 → 00:04:48 อัมพฤษอัมพาไปครึ่งนึงเลยก็มีนะคะแล้วก็
00:04:48 → 00:04:51 แบบว่าไม่ไม่ได้มีอาการอะไรมาก่อนแต่ถ้า
00:04:51 → 00:04:54 มาสืบซาว้าเรื่องเราก็จะรู้ประวัติอ่ะอ๋อ
00:04:54 → 00:04:56 สูบบุหรี่เยอะพักผ่อนน้อยเครียดอะไรอย่าง
00:04:56 → 00:04:58 เงี้ยค่ะแต่อย่าพวกเนี้ยมันมีอาการอะไร
00:04:58 → 00:05:01 ที่พอจะเป็นสัญญญาให้เราได้ระมัดระวัง
00:05:01 → 00:05:04 หรือว่าได้เออดูแลตัวเองเพิ่มมากขึ้นได้
00:05:04 → 00:05:06 มั้ยคะถ้าเป็นโรคหลอดือดสมองที่เป็น
00:05:06 → 00:05:09 อัมพฤกอัมพาตแล้วทำให้มีอาการหน้าเบี้ยว
00:05:09 → 00:05:11 ครึ่งซีกอันนี้จะไม่มีอาการเตือนเลยนะ
00:05:11 → 00:05:14 ครับเราจะต้องเตือนตัวเองเราจะต้องมีการ
00:05:15 → 00:05:19 เ่อเอ่อสำรวจตัวเองอยู่เสมอมีการตรวจ
00:05:19 → 00:05:21 สุขภาพหรืออะไรอย่าเงี้นะครับเพราะว่า
00:05:21 → 00:05:23 เวลาที่มีอาการหน้าเบี้ยวที่เกิดขึ้น
00:05:23 → 00:05:26 เนี่ยมันจะเป็นบุบปับเลยทันทีนะครับบางคน
00:05:26 → 00:05:29 อาจจะตื่นนอนมาแล้วก็เดินไปเข้าห้องน้ำ
00:05:29 → 00:05:32 แล้วก็เอ่อบ้วนปากแปรงฟันอะไรอย่าเงี้ย
00:05:32 → 00:05:34 ปรากฏว่าอมน้ำไม่อยู่อันเนี้ยถึงรู้ว่า
00:05:34 → 00:05:37 โอเคตัวเองมีการปากเบี้ยวหรือว่าพูดคุย
00:05:37 → 00:05:39 กับเ่อคนที่อยู่ในบ้านแล้วรู้สึกว่าพูด
00:05:39 → 00:05:41 ไม่ชัดไปส่องกระจกดูรู้สึกหน้าเบี้ยวอะไร
00:05:41 → 00:05:43 อย่าเงี้ยแต่ว่าโดยส่วนใหญ่อย่างที่บอก
00:05:43 → 00:05:46 ครับมักจะมีความผิดปกติของแขนขาร่วมด้วย
00:05:46 → 00:05:48 ก็จะอ่อนแรงด้วยแต่ว่าทั้งหมดเนี่ยมักจะ
00:05:48 → 00:05:50 ไม่ได้มีอาการเตือนเป็นแล้วก็คือเป็นเลย
00:05:50 → 00:05:53 นะครับซึ่งจะต่างจากกลุ่มที่เป็นเส้น
00:05:53 → 00:05:56 ประสาทอักเสบนะครับเวลาที่มีการอักเสบ
00:05:56 → 00:05:59 เกิดขึ้นในร่างกายคนเรามันก็จะมีอาการปวด
00:05:59 → 00:06:02 บัววมแดงร้อนหรืออาจจะมีไข้อะไรอย่างเงี้
00:06:02 → 00:06:04 นะครับเพราะฉะนั้นเส้นประสาทคู่ที่ 7
00:06:04 → 00:06:08 ซึ่งจะออกมาจากตัวอ่ากั้นสมองแล้วก็วิ่ง
00:06:08 → 00:06:11 ออกจากกะโหลกศีรษะเนี่ยจะอยู่แถวๆใบหู
00:06:11 → 00:06:14 เพราะฉะนั้นเนี่ยเราก็จะมีอาการปวดตึงนะ
00:06:14 → 00:06:18 ครับบริเวณตรงอ่ารอบๆใบหูนะฮะหรือบริเวณ
00:06:18 → 00:06:21 ขมับด้านที่มีการอักเสบนะครับบางคนอาจจะ
00:06:21 → 00:06:24 ปวดหรือตึงๆเนี่ยอยู่ประมาณเป็นวันเลย
00:06:24 → 00:06:26 หรือบางคนอาจจะหลายชั่วโมงแต่ว่าส่วนใหญ่
00:06:26 → 00:06:30 จะใช้เวลาค่อนข้างนานเอ่อซึ่งมันก็จะแยก
00:06:30 → 00:06:33 ยากนิดนึงจากอาการปวดทั่วๆไปแต่ว่าถ้าคน
00:06:33 → 00:06:34 ที่ไม่ค่อยปวดหัวเท่าไหร่ไม่ได้เป็น
00:06:34 → 00:06:38 ไมเกรนไม่ได้มีโรคปวดหัวอยู่แล้วอาการปวด
00:06:38 → 00:06:41 หัวที่เกิดขึ้นเนี่ยมันจะทำให้เราต้อง
00:06:41 → 00:06:44 สงสัยนิดนึงว่าเอ๊ะทำไมอยู่ๆปวดหัวมันจะ
00:06:44 → 00:06:47 เป็นตัวโรคเนี้ยหรือเปล่าอืแต่ว่าถ้า
00:06:47 → 00:06:50 สมมุติว่าปวดแลไปกินยามันมักจะดีขึ้นนิด
00:06:50 → 00:06:52 หน่อยแล้วเดี๋ยวพอยาหมดฤทธิ์มันก็จะกลับ
00:06:52 → 00:06:55 มาปวดใหม่เหมือนเวลาที่เรามีไข้หรือว่ามี
00:06:55 → 00:06:57 อาการปวดถ้าสาเหตุนั้นยังไม่ได้รับการ
00:06:57 → 00:07:00 รักษากินยาแล้วไข้มันก็จะลดลงปวดหัวมันจะ
00:07:00 → 00:07:03 ลดลงแป๊บนึงค่ะพอยาหมดฤทธิ์มันก็กลับมา
00:07:03 → 00:07:06 ปวดใหม่ก็จะเป็นแบบนี้ครับอือซึ่งแต่ละ
00:07:06 → 00:07:09 รายที่เป็นก็อาการอาจจะมากน้อยแตกต่างกัน
00:07:09 → 00:07:13 ไม่ได้เหมือนกันใช่มั้ยคะใช่ครับก็จะมี
00:07:13 → 00:07:15 ทั้งมากมีทั้งน้อยหรือบางคนอาจจะไม่ได้
00:07:16 → 00:07:18 รู้สึกแบบปวดหัวมากก็ได้แต่พอถามย้อนกลับ
00:07:18 → 00:07:22 ไปตอนที่เราเห็นแล้วเนี่ยอาจจะแค่แบบเออ
00:07:22 → 00:07:24 ก็รู้สึกตึงๆหรือรู้สึกหน่วงๆอะไรอย่า
00:07:24 → 00:07:27 เงี้ยครับแต่จะไม่ได้บอกว่าปวดหัวเลยอค่ะ
00:07:27 → 00:07:30 แต่ถ้างั้นแสดงว่าคือคืออ่าบางอย่างมันก็
00:07:30 → 00:07:33 มีอาการบ่งบอกมาให้เราได้พอได้เอ๊ะได้เอะ
00:07:33 → 00:07:37 ใจได้สังเกตแต่ถ้าเป็นหลอดเลือดสมองนี้
00:07:37 → 00:07:40 คือมันไม่ไม่ล่ะบางทีอยู่ๆก็ปุ๊บปับเป็น
00:07:40 → 00:07:42 ไปเลยเอ่อเดี๋ยวถามของในส่วนของหลอดเลือด
00:07:42 → 00:07:46 สมองก่อนค่ะคุณหมอว่าถ้าการอยู่ๆปุ๊บปั๊บ
00:07:46 → 00:07:48 เป็นเลยอย่างเงี้ยมันมีโอกาสที่จะกลับมา
00:07:49 → 00:07:51 หายดังเดิมได้ไหมคะถ้าแบบอุ๊ยทำไมมัน
00:07:51 → 00:07:55 เบี้ยวมันอะไรแบบดูผิดปกติแน่ๆแล้วล่ะรีบ
00:07:55 → 00:07:59 ไปหาหมอเงี้ยค่ะเอ่อโอกาสมากน้อยแค่ไหนคะ
00:07:59 → 00:08:01 ที่จะกลับมาสภาพเดิมครับถ้าสมมุติว่ามี
00:08:01 → 00:08:03 เฉพาะอาการหน้าเบี้ยวเฉยๆโอกาสกลับมา
00:08:04 → 00:08:06 เนี่ยมันจะเยอะมากนะครับเนื่องจากว่าถ้า
00:08:06 → 00:08:09 มีเฉพาะหน้าเบี้ยวแปลว่ามันไม่ได้เป็น
00:08:09 → 00:08:12 เยอะมากนะครับแล้วก็เป็นในตำแหน่งที่เอ่อ
00:08:12 → 00:08:15 เป็นในตำแหน่งของสมองเล็กๆนะฮะหรือเป็น
00:08:15 → 00:08:18 เอ่อเส้นเลือดเล็กๆนะครับทั้งนี้ก็จะขึ้น
00:08:18 → 00:08:22 อยู่กับเอ่อเราอ่ะไปโรงพยาบาลช้าหรือเร็ว
00:08:22 → 00:08:25 แค่ไหนเพราะว่าปัจจุบันเนี้ยกระบวนการใน
00:08:25 → 00:08:27 การรักษาโรคหลอดเลือดสมองเนี่ยมันอาศัย
00:08:27 → 00:08:30 เอ่อฝั่งโรงพยาบาลหรือฝั่งหมออย่างเดียว
00:08:30 → 00:08:33 ไม่ได้ต้องอาศัยคนไข้ด้วยเพราะว่าถ้ารู้
00:08:33 → 00:08:38 แล้วก็ไปนะครับรู้เร็วรอดปลอดอผ้านะนี่
00:08:38 → 00:08:40 คือคำขวัญที่ทาง
00:08:40 → 00:08:43 อ่าส่วนใหญ่ของเอ่อสมาคมโรคหลอเลือดสมอง
00:08:43 → 00:08:46 แห่งประเทศไทยเครับเขาจะใช้เพื่อที่จะอ่า
00:08:46 → 00:08:48 กระตุ้นให้ประชาชนรู้จักว่าถ้าเมื่อไหร่
00:08:48 → 00:08:51 ก็ตามที่เรามีอาการผิดปกติแบบครึ่งซีกไม่
00:08:51 → 00:08:54 ว่าจะเป็นชาอ่อนแรงพูดลำบากปักตกแขนขายยก
00:08:54 → 00:08:56 ไม่ขึ้นอะไรอย่าเงี้ยครับต้องรีบไปโรง
00:08:56 → 00:08:58 พยาบาลให้เร็วเพราะว่าถ้าสมมุติว่าโดย
00:08:58 → 00:09:01 เฉพาะถ้าเป็นเส้นใหญ่แต่ว่าถ้าไปเร็วตรวจ
00:09:01 → 00:09:03 แล้วเจอว่าเป็นเส้นเลือดสมองตีบหรืออุด
00:09:03 → 00:09:06 ตันเนี่ยมันจะมียาฉีดสลลิ่มเลือดถ้าฉีดยา
00:09:06 → 00:09:10 แล้วไม่ดีขึ้นอาการไม่ไม่กลับมานะครับมัน
00:09:10 → 00:09:13 ก็ยังมีการใส่สายสวนลากลิ่มเลือดนะครับ
00:09:13 → 00:09:16 เพื่อที่จะลดการอุดตันแต่ถ้าสมมติว่าตรวจ
00:09:16 → 00:09:18 และสาเหตุของการเกิดอ่อนแรงหรือหน้า
00:09:19 → 00:09:21 เบี้ยวเนี่ยมันเกิดจากเส้นเลือดสมองแตก
00:09:21 → 00:09:24 อันนี้ก็จะต้องมาดูว่าแตกมากแตกน้อยแต่
00:09:24 → 00:09:27 ว่ามันก็จะสามารถที่จะคุมไม่ให้อาการมัน
00:09:27 → 00:09:30 เยอะขึ้นได้ด้วยกันควบคุมความนโลหิตดูว่า
00:09:30 → 00:09:32 จำเป็นต้องผ่าหรือไม่ต้องผ่าอะไรเงี้ย
00:09:32 → 00:09:34 ครับสรุปแล้วก็คือถ้าเป็นโรคหลอดเลือด
00:09:34 → 00:09:38 สมองถ้าเป็นเ่อแค่หน้าเบี้ยวเฉยๆโอกาสก็
00:09:38 → 00:09:41 จะเยอะมากในการที่จะฟื้นตัวแต่ว่าเยอะมาก
00:09:41 → 00:09:43 หรือน้อยขึ้นอยู่กับว่าเราไปโรงพยาบาล
00:09:43 → 00:09:47 เร็วหรือชาอืือช้าแค่ไหนครับค่ะนมีกำหนด
00:09:47 → 00:09:50 ระยะเวลามั้ยคะว่าภายในกี่ชั่วโมงอ่ะถ้า
00:09:50 → 00:09:52 มาในช่วงระยะเวลานี้โอกาสเอ่อเหมือนเดิม
00:09:52 → 00:09:55 เนี่ยเยอะหน่อยภายใน 3 ช่วโมงครับ 3
00:09:55 → 00:09:58 ชั่วโมงซึ่งอ่าถ้าสมมุติว่าอย่างบางคนบาง
00:09:58 → 00:10:00 ท่านอาจจะเอ่อใช้ชีวิตอยู่คนเดียวอย่าง
00:10:00 → 00:10:04 เงี้ยค่ะเห็นตัวเองแบบว่าใบหน้าเบี้ยวขึน
00:10:04 → 00:10:06 ซี่ขับรถไปเองได้เลยไม่ไม่หรือว่าเรา
00:10:07 → 00:10:09 จำเป็นที่ออย่าเลยอย่าเสี่ยงดีกว่าเอา
00:10:09 → 00:10:12 เป็นแบบเรียกรถพยาบาลมาดีมั้ยแบบเราเรา
00:10:12 → 00:10:14 สามารถขับรถไปเองอย่างงั้นได้ขนาดนั้นมั้
00:10:14 → 00:10:16 คะถ้าเกิดแบบเราเบี้ยวไปครึ่งซีกแบบนั้น
00:10:16 → 00:10:18 แล้วอ่ะคะได้ครับถ้าสมมุติว่ามันแค่
00:10:18 → 00:10:21 เบี้ยวเฉยๆแขนขายังมีแรงอยู่เราสามารถขับ
00:10:21 → 00:10:23 รถไปเองได้แต่ทีนี้เนี่ยถ้าสมมุติว่าเป็น
00:10:24 → 00:10:26 ท่านที่ไม่มีรถนะครับหรือท่านที่อยู่ต่าง
00:10:26 → 00:10:28 จังหวัดหรือเป็นคนสูงอายุอะไรอย่าเงี้ย
00:10:28 → 00:10:31 ครับค่ะส่วนใหญ่ก็จะบอกว่าเออเดี๋ยวรอลูก
00:10:31 → 00:10:33 เลิกงานรอคนนั้นคนนี้เลิกงานหรือว่าไปตาม
00:10:33 → 00:10:35 หาคนนั้นคนนี้อะไรอย่าเงี้ยอันนี้เราก็
00:10:35 → 00:10:38 ไม่อยากให้รออยากให้ไปโรงพยาบาลโดยเร็ว
00:10:38 → 00:10:41 ที่สุดนะครับเพราะฉะนั้นถ้าท่านไปเองไม่
00:10:41 → 00:10:43 ได้หรือโอเคอาจจะไม่มั่นใจว่าตอนนี้เอ๊ะ
00:10:44 → 00:10:46 มือมันก็จะเริ่มเหมือนจะมีน้อยๆแต่ว่ายัง
00:10:46 → 00:10:48 ไม่มั่นใจว่ามันจะเป็นต่อเนื่องไปเรื่อยๆ
00:10:48 → 00:10:52 หรือเปล่าอะไรเงี้ยค่ะอาจจะโทร 1669 นะ
00:10:52 → 00:10:55 ครับให้รถโรงพยาบาลเนี่ยมารับได้หรือว่า
00:10:55 → 00:10:58 ปัจจุบันเนี่ยหลายๆที่ก็จะเริ่มมีรถเอ่อ
00:10:58 → 00:11:01 โรคหเลือดสมองเคลื่อนที่ซึ่งสามารถทำ
00:11:01 → 00:11:04 เซเรย์คอมพิวเตอร์สมองหรือให้ยาฉีดละลาย
00:11:04 → 00:11:07 ลิ่มเลือดเนี่ยได้เลยถ้าตรงตามข้อบ่งชี้
00:11:07 → 00:11:10 นะครับก็จะมีเอ่อแต่ก็ต้องโทร 1669
00:11:10 → 00:11:12 เหมือนกันถ้ามันอยู่ในพื้นที่ที่มีรถนี้
00:11:12 → 00:11:17 อยู่นะครับเขาก็จะจากที่เป็นรถฉุกเฉินคัน
00:11:17 → 00:11:19 เล็กๆวิ่งไปรับก็จะเป็นรถฉุกเฉิน 6 ล้อ
00:11:19 → 00:11:22 คันใหญ่ๆไปเลยค่ะอืซึ่งจะมีเครื่องไม้
00:11:22 → 00:11:26 เครื่องมือที่ครบคลันดูแลในเบื้องต้นได้
00:11:26 → 00:11:28 ก่อนใช่มั้ยคะใช่ครับใช่ครับเอ๊ะเมื่อกี้
00:11:29 → 00:11:31 ฟังคุณหมอแล้วเหมือนบอกว่าอาการเอ่อ
00:11:31 → 00:11:33 เบี้ยวครึ่งซี่เนี่ยจากหลอดเลือดสมอง
00:11:33 → 00:11:35 เนี่ยค่ะคือโอเคหน้าอาจจะเบี้ยวแต่ว่า
00:11:35 → 00:11:38 อย่างอื่นยังคงปกติได้อยู่แต่ว่าหลังจาก
00:11:38 → 00:11:41 นั้นมันอาจจะมีเริ่มมีอาการไล่ไปตามลำดับ
00:11:41 → 00:11:45 เรื่อยๆลงมามาแขนมาขามาอะไรอย่างงี้ได้
00:11:45 → 00:11:47 เหรอคะมันจะค่อยๆมีได้เพราะว่าบางคนเนี่ย
00:11:47 → 00:11:50 ถ้าสมมุติว่ามันโดนที่ตำแหน่งของเส้น
00:11:50 → 00:11:54 เลือดเล็กๆแล้วก็มันก็เกิดการเอ่ออุตัน
00:11:54 → 00:11:56 เพิ่มขึ้นเพิ่มขึ้นมากเรื่อยๆอะไรเงี้ย
00:11:56 → 00:11:58 ครับมันก็จะทำให้อาการเนี่ยค่อยๆเป็นมาก
00:11:58 → 00:12:01 ขึ้นมากขึ้นเรื่อยๆก็มีเหมือนกันอืมีหลาก
00:12:01 → 00:12:05 หลายรูปแบบทั้งแบบที่เป็นปึ๊บโดนแค่เส้น
00:12:05 → 00:12:07 เดียวแล้วก็จบอยู่แค่นั้นหรือว่าเป็นแล้ว
00:12:07 → 00:12:11 ก็มีการเอ่อรุนแรงหรือว่าอาการเพิ่มมาก
00:12:11 → 00:12:13 ขึ้นเรื่อยๆแบบนี้ก็มีครับค่ะเพราะฉะนั้น
00:12:13 → 00:12:15 แสดงว่าถ้ามาจากเหตุหลอดเลือดสมองทำให้
00:12:15 → 00:12:18 หน้าเบี้ยวครึ่งซีกหรืออะไรเงี้ยอ่ะอาการ
00:12:18 → 00:12:21 อาจจะแล้วแต่แต่ละระดับในความรุนแรงของ
00:12:21 → 00:12:23 การอุดตันหรืออะไรก็แล้วแต่เนี่ยนะคะแต่
00:12:23 → 00:12:26 ละคนก็ไม่เหมือนกันอีกแหละนะคะปัจจัย
00:12:26 → 00:12:28 สาเหตุก็อาจจะแต่ละคนแตกต่างกันอีกแหละนะ
00:12:28 → 00:12:31 คะอ่าแต่ถ้าเกิดเป็นเส้นประสาทใบหน้า
00:12:31 → 00:12:34 อักเสบลอคะคุณหมอคะคืออันเนี้ยยังไงก็
00:12:34 → 00:12:37 ต้องรีบไปพบแพทย์ก็ภายใน 3 ชั่วโมงเหมือน
00:12:37 → 00:12:39 กันอันนี้จะมีระยะเวลามากขึ้นนะครับ
00:12:39 → 00:12:43 เนื่องจากว่าเ่อการเ่อสาเหตุมันเกิดจาก
00:12:43 → 00:12:46 การอักเสบนะครับเพียงแต่ว่าถ้าสมมุติว่า
00:12:46 → 00:12:49 เราไปภายใน 72 ชั่วโมงอันนี้คือมีเวลามาก
00:12:49 → 00:12:52 ขึ้นคือ 3 วันนะครับอ่า 3 วันเนี่ยมันจะ
00:12:52 → 00:12:55 มีความสำคัญในแง่ของการให้การรักษานะครับ
00:12:55 → 00:12:59 ถ้าสมมุติว่าไปตรวจนะครับภายใน 72 ช่มนะ
00:12:59 → 00:13:02 ครับนอกจากเราจะให้ยารักษาตามสาเหตุถ้า
00:13:02 → 00:13:05 เราเจอหรือเราทราบนะครับเราก็จะให้ยาลด
00:13:05 → 00:13:08 การอักเสบก็จะเป็นกลุ่มสเตียรอยด์เนี่ย
00:13:08 → 00:13:10 ช่วงสั้นๆก็คือประมาณ 1 สัปดาห์โดย
00:13:10 → 00:13:13 สเตียรอยด์เนี่ยมันจะไปช่วยลดการอักเสบนะ
00:13:14 → 00:13:16 ครับเวลาที่มีการอักเสบเนี่ยหมายความว่า
00:13:16 → 00:13:20 เอ่อตัวมันก็จะมีเอ่อเม็ดเลือดขาวนะครับ
00:13:20 → 00:13:22 หรืออาจจะมีเชื้อโรคหรือมีเซลล์ของการ
00:13:22 → 00:13:25 อักเสบเนี่ยเข้าไปอยู่ตรงบริเวณเ่อเส้น
00:13:25 → 00:13:27 ประสาทเส้นประสาทเนี่ยมันจะไม่ได้เป็นท่อ
00:13:28 → 00:13:30 หรือเป็นเส้นใหญ่ๆเส้นเดียวแต่ว่ามันจะ
00:13:30 → 00:13:33 เกิดกับคล้ายๆสายไฟหรือว่าเชือกนะครับมัน
00:13:33 → 00:13:36 จะมีเส้นใหญ่เล็กๆหลายๆเส้นเนี่ยเ่อเกาะ
00:13:36 → 00:13:39 กลุ่มกันอยู่ทีนี้เวลามีการอักเสบเนี่ย
00:13:39 → 00:13:42 มันอาจจะไม่ได้อักสมมุติว่ามี 100 เส้นใย
00:13:42 → 00:13:44 เนี่ยครับมันก็จะแล้วแต่คนเหมือนคนเหมือน
00:13:44 → 00:13:47 กันบางคนอาจจะอักเสบแค่ 50 เส้นใยบางคน
00:13:47 → 00:13:49 อาจจะอักเสบ 80 90 หรือ 100 อะไรอย่าง
00:13:49 → 00:13:52 เงี้ยเพราะฉะนั้นอาการก็จะไม่เท่ากันแล้ว
00:13:52 → 00:13:54 ก็การอักเสบเนี่ยถ้าสมมุติว่าเป็นช่วงแรก
00:13:55 → 00:13:58 ๆมันก็จะอักเสบเฉยๆโดยที่ตัวเส้นใยประสาท
00:13:58 → 00:14:00 นั้นเนี่ยจะไม่ได้เสียหายมากเพราะฉะนั้น
00:14:00 → 00:14:03 ถ้าเราสามารถหยุดการอักเสบในช่วงต้นหรือ
00:14:03 → 00:14:06 ช่วงแรกๆได้นะฮะซึ่งส่วนใหญ่ก็จะภายใน 72
00:14:06 → 00:14:09 ชั่วโมงนี้ตัวที่ยังไม่เสียหายเนี่ยมันก็
00:14:09 → 00:14:11 จะกลับมาเป็นปกติได้แต่ว่าตัวที่เสียหาย
00:14:11 → 00:14:14 แล้วอาจจะใช้ระยะเวลาในการฟื้นฟูเนี่ยไป
00:14:14 → 00:14:18 อีก 3 เดือนอเพราะฉะนั้นการให้เอ่อยา
00:14:19 → 00:14:21 เพื่อเพื่อลดการอักเสบเนี่ยภายใน 72
00:14:21 → 00:14:24 ชั่วโมงมันจะช่วยลดเอ่อกลุ่มคนที่จะเสีย
00:14:24 → 00:14:27 หายแล้วต้องใช้ระยะเวลาในการฟื้นฟูนานๆ
00:14:27 → 00:14:29 เนี่ยมากขึ้นเพราะฉะนั้นอันเนี้ยก็ต้อง
00:14:29 → 00:14:32 รีบไปเหมือนกันแต่ว่า 72 ชมแต่ว่าส่วน
00:14:32 → 00:14:35 ใหญ่อ่อถ้าเป็นเส้นประสาทอักเสบเนี่ยนะ
00:14:35 → 00:14:37 ครับเนื่องจากว่ามันเกิดที่เส้นประสาทโดย
00:14:37 → 00:14:40 ตรงเพราะฉะนั้นถึงแม้ว่าอ่าจะไปช้าหรือ
00:14:40 → 00:14:43 ว่ารอดูอาการหรือสังเกตอาการหรืออาการมัน
00:14:43 → 00:14:45 เป็นมากขึ้นจากการอักเสบที่มากขึ้นมันก็
00:14:45 → 00:14:48 จะเป็นเฉพาะแค่ที่หน้าแขนแล้วก็ขาเนี่ย
00:14:48 → 00:14:51 ไม่ได้ถูกเลี้ยงด้วยเส้นประสาทสมองคู่ที่
00:14:51 → 00:14:53 7 เพราะฉะนั้นแขนและขาก็จะไม่ได้มีปัญหา
00:14:53 → 00:14:56 ร่วมด้วยครับอ๋อก็จะเป็นที่หน้าอย่าง
00:14:56 → 00:14:59 เดียวอ่ะคนละแบบกับหลอดเรือสมองฟังดูแล้ว
00:14:59 → 00:15:02 กลายเป็นว่าหลอดเลือดสมองนี้คือดูอันตราย
00:15:02 → 00:15:05 มากกว่าแล้วคือความรีบจะต้องไปหาหมอมาก
00:15:05 → 00:15:10 กว่าด้วยซ้ำไปนะคะใช่ครับใช่ครับแล้วถ้า
00:15:10 → 00:15:13 คือเป็นขึ้นมาอย่างหลอดเลือดสมองเนี่ยค่ะ
00:15:13 → 00:15:16 รักษาตั้งแต่เบื้องต้นอ่ะไปทันภายใน 3
00:15:16 → 00:15:18 ชั่วโมงหรืออะไรเงี้ยเรารักษาหายลกทุก
00:15:18 → 00:15:20 อย่างดีขึ้นทั้งทั้ง 2 อย่างเลยนะคะคุณ
00:15:20 → 00:15:25 หมอโอกาสจะกลับมาเป็นซ้ำได้หรือเปล่าคะ
00:15:25 → 00:15:27 เป็นซ้ำได้ทั้ง 2 กลุ่มเลยนะครับถ้า
00:15:27 → 00:15:29 สมมุติว่าเป็นเส้นประสาทอักเสเนี่ยจะเป็น
00:15:29 → 00:15:33 ข้างเดิมก็ได้หรือเป็นอีก 1 ข้างก็ได้นะ
00:15:33 → 00:15:37 ครับส่วนโรคหลอดเลือดสมองเนี่ยปกติเวลา
00:15:37 → 00:15:39 ที่เป็นโรคหลอดเลือดสมองขึ้นมาแล้วเนี่ย
00:15:39 → 00:15:43 กระบวนการรักษาก็คือเอ่อเราจะถ้าไปเร็ว
00:15:43 → 00:15:46 ภายใน 3 ชั่วโมงมันมีกระบวนการรักษาเลย
00:15:46 → 00:15:48 ที่ตรงจุดนะครับแต่ถ้าสมมติว่าเลย 3
00:15:48 → 00:15:50 ชั่วโมงไปแล้วหรือได้รับการรักษาในช่วง 3
00:15:50 → 00:15:53 ชั่วโมงไปแล้วเนี่ยกระบวนการรักษาในลำดับ
00:15:53 → 00:15:56 ถัดไปก็คือการป้องกันการกลับเป็นซ้ำนะ
00:15:56 → 00:15:59 ครับซึ่ง 1 ก็จะมียาให้ตามสาเหตุว่าเป็น
00:15:59 → 00:16:02 แบบไหนเราจะเลือกเลือกยาให้กินซึ่งยาตัว
00:16:02 → 00:16:04 เนี้ยจำเป็นต้องกินตลอดชีวิตเพื่อป้องกัน
00:16:04 → 00:16:07 การกลับเป็นซ้ำแต่ว่ายามันไม่สามารถป้อง
00:16:07 → 00:16:11 กันได้ 100% นะครับส่วนใหญ่ก็จะประมาณ 30
00:16:11 → 00:16:13 -50% ที่เหลือก็จะต้องคุมปัจจัยเสี่ยง
00:16:14 → 00:16:15 ว่าเรามีปัจจัยเสี่ยงอะไรบ้างที่จะทำให้
00:16:16 → 00:16:18 มันกลับเป็นซ้ำมีเบาหวานต้องคุมเบาหวานมี
00:16:18 → 00:16:22 ความดันต้องคุมความดันสุดบุหรี่ต้องเลิก
00:16:22 → 00:16:24 นะครับซึ่งถ้าสมมุติว่าคุมปัจจัยเสี่ยง
00:16:24 → 00:16:26 เหล่าเนี้ยยิ่งดีเท่าไหร่โอกาสกลับเป็น
00:16:26 → 00:16:29 ซ้ำเนี่ยก็ยิ่งน้อยเพราะฉะนั้นเนี่ยเลยจะ
00:16:29 → 00:16:31 ต้องควบคุมปัจจัยเสี่ยงเหล่าเนี้ยให้แบบ
00:16:31 → 00:16:34 ดีมากๆซึ่งส่วนใหญ่พอคนเป็นน้อยบางคนหาย
00:16:35 → 00:16:37 ดีแล้วก็จะรู้สึกว่าอืหายดีแล้วไม่กินยา
00:16:37 → 00:16:39 ต่ออะไรอย่าเงี้ยหายดีแล้วกลับมาสูบ
00:16:39 → 00:16:42 บุหรี่เหมือนเดิมหรือหายดีและเบาหวานก็
00:16:42 → 00:16:45 ไม่เห็นเป็นไรีแค่น้ำตาลสูงเฉยๆแต่ว่าก็
00:16:45 → 00:16:47 ไม่ได้กลับมาดูแลตัวเองเรื่องของเบาหวาน
00:16:47 → 00:16:50 อันเนี้ยโอกาสจะกลับเป็นซ้ำจะสูงขึ้นมากๆ
00:16:50 → 00:16:54 เลยครับอ๋อพอโอกาสสูงขึ้นมากแล้วอาการจะ
00:16:54 → 00:16:56 อาจจะหนักกว่าเดิมด้วยได้เหมือนกันใช่
00:16:56 → 00:16:58 มั้ยคะอืใช่ครับครั้งนี้อาจจะแค่หน้าบี้
00:16:58 → 00:17:01 เยวแต่ว่าครั้งหน้าก็คืออาจจะขยับแขนขา
00:17:01 → 00:17:04 ไม่ได้เลยซึ่งพอไม่ไปรักษาหรือรักษาไม่
00:17:04 → 00:17:07 ทันหรือไปทันแหละแต่ว่ามันเสียหายมากก็
00:17:07 → 00:17:10 อาจจะหลงเหลือความพิการของร่างกายซีกนั้น
00:17:10 → 00:17:12 อยู่ซึ่งอาจจะไม่กลับมาเป็นปกติเหมือน
00:17:12 → 00:17:15 เดิมก็ได้ครับอือหือคือก็ยังไงก็ต้องมี
00:17:15 → 00:17:18 การเอ่อเค้าเรียกอะไรทำตามคำแนะนำของคุณ
00:17:18 → 00:17:20 หมอตลอดระยะเวลานะคะเพราะแล้วก็อะไรที่
00:17:20 → 00:17:23 เป็นปัจจัยเสี่ยงลดลงได้ก็ดีนะคะเพราะว่า
00:17:23 → 00:17:25 มันไม่คุ้มกันแน่ๆเลยเนาะคุณหมอเนาะว่าจะ
00:17:25 → 00:17:28 แบบกลับมาเป็นซ้ำแล้วคราวนี้อ้าเป็นหนัก
00:17:28 → 00:17:31 กว่าเดิมอีกแล้วแล้วก็จะมาแบบโหรู้งี้
00:17:31 → 00:17:34 เอ่อทำตามที่คุณหมอบอกดีกว่าหรืออะไร
00:17:34 → 00:17:36 อย่างงี้มันก็ไม่ทันแล้วอ่ะนะใช่มั้ยใช่
00:17:36 → 00:17:39 คำว่ารู้งี้เนี่ยไม่ไม่ไม่อยากให้ต้องใช้
00:17:39 → 00:17:41 เลยนะครับเพราะฉะนั้นเนี่ยเอ่อถ้าเป็น
00:17:41 → 00:17:43 กลุ่มโรคหลอดเลือดสมองเนี่ยครับปัจจัย
00:17:43 → 00:17:45 เสี่ยงทั้งหลายพวกนี้มันจะเหมือนระเบิด
00:17:45 → 00:17:49 เวลาซึ่งสมคนที่เป็นความดันสูงเนี่ยก็อาจ
00:17:49 → 00:17:52 จะรู้สึกว่าเออก็ไม่เห็นเป็นอะไรเลยไม่
00:17:52 → 00:17:55 เห็นมีอาการอะไรเลยหรือน้ำตาลสูงเป็นเบา
00:17:55 → 00:17:57 หวานก็ไม่เห็นมีอะไรเลยพวกเนี้ยมันจะไม่
00:17:57 → 00:17:59 มีอะไรจริงๆครับจนกระทั่งวันที่ระเบิดมัน
00:18:00 → 00:18:03 ระเบิดอย่าไปรอให้ระเบิดมันทำงานนะคะคือ
00:18:03 → 00:18:05 เราตอนนี้ถ้าถ้าคนที่มีความเสี่ยงเป็น
00:18:05 → 00:18:08 ความดันเบาหวานอาจดูแลสุขภาพตัวเองดีอยู่
00:18:08 → 00:18:10 แล้วแหละเพราะว่าก็เชื่อว่าก็ต้องกินยา
00:18:10 → 00:18:13 เบาหวานใช่มั้ยคะยาลดความดันอะไรกันอยู่
00:18:13 → 00:18:17 ในบางคนซึ่งก็แน่นอนว่าก็ยังคงต้องรักษา
00:18:17 → 00:18:22 เอ่อในในความดูแลตัวเองเนี่ยมากขึ้นไปอีก
00:18:22 → 00:18:25 นะคะอันนี้ก็จะได้แบบไม่ต้องมามีความ
00:18:25 → 00:18:28 เสี่ยงกับอาการหน้าเบี้ยวครึ่งซี่คนไทย
00:18:28 → 00:18:32 เป็นเยอะมั้ยคะคุณหมอคะเอ่อมีมีคนไทยเป็น
00:18:32 → 00:18:36 ประมาณปีละ 200,000 50,000 คนนะครับเอ่อ
00:18:36 → 00:18:39 ทิ่งซึ่ง 250,000 คนเนี่ย 1 ใน 3 ก็คือ
00:18:40 → 00:18:44 หายเป็นปกติ 1 ใน 3 เสียชีวิตแล้วก็ 1 ใน
00:18:44 → 00:18:47 3 เนี่ยมีความพิการหลงเหลืออยู่ครับค่ะ
00:18:47 → 00:18:50 เอ๊ะเสียชีวิตเสียชีวิตเกิดจากปัจจัยเช่น
00:18:50 → 00:18:53 มีถ้ามันถ้ามันอุดตันในเส้นเลือดที่เป็น
00:18:53 → 00:18:57 เส้นใหญ่ๆมากๆนะครับเวลาที่มันอุตันเนี่ย
00:18:57 → 00:19:00 มันก็จะทำให้เกิดภาวะสมองบวมนะครับพอสมอง
00:19:00 → 00:19:03 บวมเนี่ยเนื่องจากว่ากะโหลกศีรษะเราเนี่ย
00:19:03 → 00:19:05 มันเป็นกระดูกแข็งๆนะครับเนื้อสมองเนี่ย
00:19:05 → 00:19:08 มันอยู่ในกระโหลกนั้นเวลาที่มันบวมมันจะ
00:19:08 → 00:19:11 ไม่มีที่ไปครับอค่ะพอมันบวมปุ๊บมันก็จะกด
00:19:11 → 00:19:15 ตัวก้านสมองซึ่งพอกดก้านสมองก็จะเสีย
00:19:15 → 00:19:18 ชีวิตทีนี้เนี่ยในคนที่เอ่อเป็นแบบเสีย
00:19:18 → 00:19:21 หายเยอะๆมากๆแบบนี้นะครับเขาก็จะมีการผ่า
00:19:22 → 00:19:25 ตัดเปิดกะโหลกศีรษะตั้งแต่เริ่มต้นนะครับ
00:19:25 → 00:19:28 เพื่อที่ให้พื้นที่ของสมองเนี่ยมันมีพื้น
00:19:28 → 00:19:32 ที่ของการบวมเนี่ยไปเ่อพอมันมีบวมออกไป
00:19:32 → 00:19:34 ข้างนอกกะโหลกเนี่ยได้โอกาสเสียชีวิต
00:19:34 → 00:19:38 เนี่ยมันก็จะน้อยลงครับค่ะโอ้โหเอออันนี้
00:19:38 → 00:19:40 มีความเสี่ยงสูงในการที่จะเสียชีวิตได้
00:19:40 → 00:19:44 เหมือนกันก็ 1 ใน 1 ใน 3 ของตัวเลขที่
00:19:44 → 00:19:48 เมื่อกี้คุณหมอบอกไปแล้วอย่างพิการเเป็น
00:19:48 → 00:19:50 ผู้พิการหรืออะไรอย่างเงี้ยค่ะก็ก็มาจาก
00:19:50 → 00:19:52 ตรงจุดนี้ด้วยเหมือนกันใช่มั้ยเกี่ยวกับ
00:19:52 → 00:19:55 เรื่องของสมองงี้อืใช่ใช่่ครับเพราะว่า
00:19:55 → 00:19:59 ส่วนใหญ่เนี่ยเวลาเ่อเป็นเรามีอาการมาพฤก
00:19:59 → 00:20:01 อัมพาตอยู่แล้วถ้าสมมุติว่ารักษาบางคนไป
00:20:01 → 00:20:04 ทันไปเร็วก็อาจจะดีขึ้นภายในไม่กี่วันแต่
00:20:04 → 00:20:06 กลุ่มคนที่มีความผิดปกติหลงเหลืออยู่
00:20:06 → 00:20:09 อันเนี้ยก็จำเป็นที่จะต้องทำกายภาพบำบัด
00:20:09 → 00:20:11 ต่อเนื่องนะครับซึ่งจะมีระยะเวลาทอง
00:20:11 → 00:20:15 ประมาณ 6 เดือนในการที่จะฟื้นฟูซึ่งหลัง 6
00:20:15 → 00:20:17 เดือนแล้วบางคนดีขึ้นแต่บางคนก็อาจจะหลง
00:20:17 → 00:20:20 เหลือความผิดปกติอยู่หรือตอนเริ่มผิดปกติ
00:20:20 → 00:20:23 เยอะมากเวลาฟื้นฟูไปแล้วเนี่ยมันก็จะไม่
00:20:23 → 00:20:26 กลับมา 100% แต่ดีขึ้นนะอันนี้ก็จะยังยัง
00:20:26 → 00:20:28 ลงเหลือความพิการอยู่เช่นเดียวกันครับออื
00:20:28 → 00:20:31 อันนี้ก็ต้องระวังกันด้วยนะคะแล้วนี่มัน
00:20:31 → 00:20:35 มีส่วนของ PM 2.5 ก็มีส่วนด้วยนะคะในใน
00:20:35 → 00:20:39 ทุกวันนี้ใชเออคือมันบางคนอาจจะคิดไม่ถึง
00:20:39 → 00:20:42 ว่าเอ๊ะมัน PM อ่าลงโป่งลงปอนอะไรเงี้ยไป
00:20:42 → 00:20:47 ถึงสมองด้วยใช่ครับแค่แค่เราเราสูดฝุ่น
00:20:47 → 00:20:49 ฝุ่นพิษเข้าไปโอ้โหอย่างงี้จะใช้ชีวิตยัง
00:20:50 → 00:20:51 ไงดีคะคุณ
00:20:51 → 00:20:55 หมออออาจจะต้องย้อนกลับไปฟังเรื่องที่เรา
00:20:55 → 00:20:58 เคยคุยกันเรื่องของเอ่อ PM 2.5 ต่อโลก
00:20:58 → 00:21:01 ทางระบบประสาทในในครั้งก่อนนะครับซึ่ง
00:21:01 → 00:21:04 เอ่อแน่นอนแหละว่าเ่อในช่วงที่หลีกเลี่ยง
00:21:04 → 00:21:06 ไม่ได้ก็ป้องกันกันไปก่อนแต่ว่าเราก็จะ
00:21:06 → 00:21:10 ต้องพยายามเ่อผลักดันให้เ่อวาระเรื่องของ
00:21:10 → 00:21:13 ฝุ่นเป็นวาระแห่งชาตินะครับค่ะอืนอกจาก
00:21:13 → 00:21:15 ปัจจัยแวดล้อมภายนอกแล้วนะคะเรื่องของ
00:21:15 → 00:21:17 พฤติกรรมก็อันนี้เราก็ต้องปรับเปลี่ยน
00:21:17 → 00:21:20 ด้วยเนาะคุณหมอเพราะว่าใช่ๆครับอืตอนนี้
00:21:20 → 00:21:23 ทุกวันนี้ก็แทบจะเ่าอย่างหลายคนเนี่ย
00:21:23 → 00:21:26 เมืองไทยเป็นเมืองที่มีของกินตลอด 24 ช่ม
00:21:26 → 00:21:29 ค่ะแล้วมีอะไรให้ให้ได้แบบว่าตั้งแต่ต้น
00:21:29 → 00:21:32 ต้นซอยยันท้ายซอยกินได้ตลอดแล้วฤดูนี้ก็
00:21:33 → 00:21:34 จะเป็นฤดูข้าวเหนียวมะม่วงครับเพราะ
00:21:34 → 00:21:37 ฉะนั้นเนี่ยก็อาจจะต้องทานแค่ให้หายอยาก
00:21:38 → 00:21:40 หรือถ้าท่านที่เป็นเบาหวานอันเนี้ยก็อาจ
00:21:40 → 00:21:43 จะเอาแค่แบบหายอยากจริงๆนะครับอุยหายอยาก
00:21:43 → 00:21:47 แต่ละคนไม่เท่ากันอีกนะคะคุณหมอบางคนบอก
00:21:47 → 00:21:50 ว่าจะอ่ะขอสักแบบ 1 จานลูก 2 ลูกนะราด
00:21:50 → 00:21:53 ด้วยน้ำกะทินะคะว่าแล้วก็อยากกินเลยที
00:21:53 → 00:21:55 เดียวนะอ่ะแต่ว่าสิ่งสำคัญตรรงนี้เนี่ย
00:21:55 → 00:21:59 คือความที่เรารู้ได้เร็วนะฮะรู้เร็วแล้ว
00:21:59 → 00:22:02 ก็มีโอกาสรอดนะคะฟังดูเหมือนเหมือนยังมี
00:22:02 → 00:22:04 ระยะเวลาแต่ว่ามันก็แป๊บเดียวเองนะคะ 3
00:22:04 → 00:22:07 ชั่วโมงคือต้องถึงมือหมอเลยใช่มั้ยฮะโดย
00:22:07 → 00:22:09 เฉพาะถ้าสมมุติว่าเกิดขึ้นใน
00:22:09 → 00:22:11 กรุงเทพมหานครในช่วงระยะเวลาที่มีการ
00:22:11 → 00:22:14 จราจรติดขัดเนี่ย 3 ชั่วโมงจริงๆแล้วมัน
00:22:14 → 00:22:18 อาจจะยากด้วยนะฮะอ่าอ่ะมันมันคงยากแหละ
00:22:18 → 00:22:20 แต่ว่าก็เดี๋ยวนี้ก็จะเห็นว่าหลายๆคนอ่า
00:22:20 → 00:22:22 ที่ขับรถบนท้องถนนนะคะก็จะหลิ่งทางให้กับ
00:22:22 → 00:22:25 รถรถพยาบาลหรือรถฉุกเฉินต่างๆเหล่านี้
00:22:25 → 00:22:29 ด้วยนะคะอืนอกจากนี้แล้วแล้วค่ะเอ่อใน
00:22:29 → 00:22:32 เรื่องของการรักษาต่างๆเหล่านี้เนี่ยนะคะ
00:22:33 → 00:22:35 ก็จะเป็นไปตามอาการเลยใช่มั้ยคะการรักษา
00:22:35 → 00:22:38 จะยกเว้นว่าบางอย่างอาจจะต้องมีการผ่าตัด
00:22:38 → 00:22:41 ว่าไปอืใช่ครับถ้าสมมุติว่าเป็นเส้นเลือด
00:22:41 → 00:22:43 แตกนะครับซึ่งก็ถือเป็นโรคหลอดเลือดสมอง
00:22:43 → 00:22:45 อันนึงเหมือนกันแล้วก็ทำให้เกิดอาการ
00:22:45 → 00:22:47 คล้ายๆกันอันนั้นเนี่ยก็ดูว่าผ่าตัดได้
00:22:47 → 00:22:50 หรือผ่าตัดไม่ได้นะครับค่ะแต่ว่าอีกอัน
00:22:50 → 00:22:52 นึงก็คือตะกี้เราพูดเรื่องของกระบวนการ
00:22:52 → 00:22:54 รักษาสำหรับโรคหลอดเลือสมองนี้ค่อนข้าง
00:22:54 → 00:22:56 เยอะแต่ว่าอ่ากระบวนการรักษาสำหรับกลุ่ม
00:22:56 → 00:22:59 ที่เป็นเส้นเส้นเอ่อประสาทสมองคู่ที่ 7
00:22:59 → 00:23:02 อักเสบเนี่ยนะครับนอกจากที่ให้เอ่อลดยา
00:23:03 → 00:23:06 ให้ยาลดการอักเสบในช่วง 72 ชั่วโมงหรือ 3
00:23:06 → 00:23:08 วันแรกแล้วเนี่ยนะครับค่ะกลุ่มคนที่เป็น
00:23:08 → 00:23:10 เส้นประสาทสมองอักเสบเนี่ยจะมีปัญหา
00:23:10 → 00:23:12 เรื่องของการหลับตาไม่สนิททีเนี้ยปกติ
00:23:12 → 00:23:16 เวลาเรานอนเราจะต้องหลับตาให้สนิทหรือว่า
00:23:16 → 00:23:18 เราจะต้องกระพริบตาเพื่อที่จะเกลี่ยน้ำตา
00:23:18 → 00:23:21 ไปทั่วๆนะครับอค่ะเพื่อไม่ให้เกิดตาแห้ง
00:23:21 → 00:23:23 กลุ่มนี้จะมีอาการตาหลับไม่สนิทเพราะ
00:23:23 → 00:23:26 ฉะนั้นเกลี่ยน้ำตาไม่ได้หรือว่าตอนหลับตา
00:23:26 → 00:23:29 เนี่ยตาก็จะยังเปิดอยู่เนี่ยตาก็จะแห้งก็
00:23:29 → 00:23:32 จะทำให้เกิดการตาอักเสบหรือบางคนอักเสบ
00:23:32 → 00:23:34 มากจนทำให้กระจกตามีปัญหาเนี่ยได้เพราะ
00:23:34 → 00:23:37 ฉะนั้นเนี่ยเราก็จะต้องให้การรักษาตาม
00:23:37 → 00:23:39 อาการอื่นๆเนี่ยร่วมด้วยก็คืออาจจะต้อง
00:23:39 → 00:23:43 ให้น้ำตาเทียมหยอดตาให้ยาขี้ผึ้งป้ายตา
00:23:43 → 00:23:46 เพื่อที่เพื่อที่จะตอนนอนเนี่ยจะตาที่ปิด
00:23:46 → 00:23:49 ไม่ได้ก็จะช่วยทำให้มันไม่แห้งนะครับหรือ
00:23:49 → 00:23:53 บางคนก็อาจจะใช้ตัวแผ่นที่เป็นผ้าก๊อสสี
00:23:53 → 00:23:55 ขาวๆนะครับหรือว่าเป็นกลมๆนะครับดึง
00:23:55 → 00:23:58 เปลือกตาลงมาแล้วก็นี่ทับไว้แล้วก็เอากอด
00:23:58 → 00:24:00 ปิดเพื่อที่จะให้ตาเนี่ยหลับสนิทในช่วง
00:24:00 → 00:24:03 ที่เรานอนซึ่งมันจะช่วยลดอาการตาแห้งได้
00:24:03 → 00:24:07 ครับค่าโอ้โหมันมันส่งผลไปในจุดอื่นๆด้วย
00:24:07 → 00:24:10 ใช่มั้ยคะใช่แล้วก็ที่เหลือก็คือทำกายภาพ
00:24:10 → 00:24:13 บำบัดเหมือนกันแต่ว่าเ่อโปรแกรมความเข้ม
00:24:13 → 00:24:16 ข้นแล้วก็ตำแหน่งที่ทำมันก็จะแตกต่างจาก
00:24:16 → 00:24:19 ตัวโรคหลอดเลือดสมองนะครับแต่ว่าก็ถ้า
00:24:19 → 00:24:22 อ่อนแรงเฉพาะที่หน้าก็ทำเฉพาะที่หน้าซึ่ง
00:24:22 → 00:24:24 อันนี้จะไม่แตกต่างกันมากนักแต่ถ้ามีแขน
00:24:24 → 00:24:27 ขาอ่อนแรงด้วยอันนั้นก็จะอีกแบบนึงครับอื
00:24:27 → 00:24:29 ค่ะเพราะฉะนั้นก็ต้องดูแลตัวเองกันหน่อย
00:24:29 → 00:24:31 นะคะอ่ะคุณหมอคะท้ายนี้คุณหมอมีอะไรฝาก
00:24:31 → 00:24:34 คุณผู้ฟังหน่อยมั้ยคะถึงแม้ว่าตัวเส้น
00:24:34 → 00:24:36 ประสาทอักเสบเนี่ยมันจะสามารถเกิดขึ้นได้
00:24:36 → 00:24:39 ในทุกช่วงอายุนะครับแล้วเราก็เอ่อไม่
00:24:39 → 00:24:42 สามารถที่จะป้องกันได้นะครับแต่ว่าการดู
00:24:42 → 00:24:45 แลตัวเองให้มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงนะครับ
00:24:45 → 00:24:50 ไม่ว่าจะเป็นกินให้ดีนอนให้ดีออกกำลังกาย
00:24:50 → 00:24:53 ให้ดีนะครับแล้วก็พฤติกรรมทำร้ายสุขภาพ
00:24:53 → 00:24:55 ทั้งหลายเราก็พยายามลดลงหรือว่าหลีก
00:24:55 → 00:24:57 เลี่ยงนะครับอันเนี้ยนอกจากอ่าแม้ว่ามัน
00:24:57 → 00:24:59 จะไม่สามารถช่วยป้องกันเ่อกลุ่มที่เป็น
00:24:59 → 00:25:02 เส้นประสาทอักเสบได้แต่ว่าอ่าการที่เรามี
00:25:02 → 00:25:04 สุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงโอกาสที่เราจะเป็น
00:25:04 → 00:25:07 หวัดโอกาสที่จะทำให้เกิดการติดเชื้อในทาง
00:25:07 → 00:25:09 เดินหายใจแล้วลูกลมไปเป็นการอักเสบของ
00:25:09 → 00:25:12 เส้นประสาทเนี่ยมันก็จะน้อยลงนะครับหรือ
00:25:12 → 00:25:15 แม้แต่การที่เราดูแลตัวเองดีๆแบบนี้มันก็
00:25:15 → 00:25:18 จะช่วยลดปัจจัยเสียงของโรคไม่ติดต่อเรื้อ
00:25:18 → 00:25:21 รังหรือ ncd ซึ่งเป็นสาเหตุที่จะทำให้
00:25:21 → 00:25:23 เกิดโรคหลอดเลือดหัวใจแล้วก็หลอดเลือด
00:25:23 → 00:25:25 สมองได้เพราะฉะนั้นทุกอย่างเนี่ยเราจะ
00:25:25 → 00:25:28 ต้องทำตั้งแต่วันนี้วันที่เรายังแข็งแรง
00:25:28 → 00:25:30 ดีนะครับถ้าสมมุติว่ามันเกิดแล้วเราจะใช้
00:25:30 → 00:25:34 คำว่ารู้งี้อค่อยมาแก้หรือรู้งี้ค่อยกลับ
00:25:34 → 00:25:37 ไปป้องกันอันนั้นมันจะไม่ทันแล้วดีที่สุด
00:25:37 → 00:25:39 ของการควบคุมและก็ป้องกันไม่ว่าจะเป็นโรค
00:25:39 → 00:25:42 ไหนก็ตามก็คือการป้องกันไม่ให้เกิดนะครับ
00:25:42 → 00:25:45 วันนี้ยังไม่มีอาการแต่ถ้าเรารู้ว่าเ่อ
00:25:45 → 00:25:47 เราเจ็บป่วยไม่สบายหรือมีปัจจัยเสี่ยงดัง
00:25:47 → 00:25:49 ต่อไปนี้แล้วเราสามารถหลีกเลี่ยงหรือลด
00:25:49 → 00:25:52 มันได้โอกาสที่จะทำให้เจ็บป่วยด้วยโรค
00:25:52 → 00:25:54 อะไรก็แล้วแต่เนี่ยมันจะน้อยลงเพราะ
00:25:54 → 00:25:57 ฉะนั้นดูแลตัวเองให้ดีนะครับแล้วก็ดูแล
00:25:57 → 00:26:00 เอ่อคนะรอบข้างเพราะบางทีบางคนรอบข้างอาจ
00:26:00 → 00:26:03 จะต้องการการสนับสนุนหรือการเตือนเล็กๆ
00:26:03 → 00:26:05 น้อยๆจากลูกจากพ่อจากแม่จากเพื่อนอะไร
00:26:05 → 00:26:07 อย่าเงี้ยเราก็ช่วยกันเตือนด้วยหรือบางที
00:26:07 → 00:26:10 ถ้าหมอบอกว่าจะต้องไปออกกำลังกายเงี้ยถ้า
00:26:10 → 00:26:12 เราไปคนเดียวมันก็อาจจะไปได้ช่วงเวลาสั้น
00:26:12 → 00:26:14 ๆหรือไม่สนุกเท่าไหร่แต่ถ้าเราชวนกันไป
00:26:14 → 00:26:17 ทั้งบ้านส่วนคุณพ่อคุณแม่ไปนอกจากจะได้
00:26:17 → 00:26:19 ออกกำลังกายด้วยกันสนุกด้วยกันแล้วมันก็
00:26:19 → 00:26:21 เป็นการส่งเสริมสัมพันธภาพของคนใน
00:26:21 → 00:26:24 ครอบครัวด้วยครับผมค่ะนะคะก็ไม่ต้องกลัว
00:26:24 → 00:26:27 คุณหมอจะว่างานนะคะคุณหมองานเยอะอยู่แล้ว
00:26:27 → 00:26:30 นะคะอ่ะดูแลสุขภาพกันค่ะขอบคุณคุณหมอชน
00:26:30 → 00:26:32 พี่วัฒน์ค่ะที่มาร่วมพูดคุยในรายการของ
00:26:32 → 00:26:35 เราในวันนี้ด้วยนะคะขอบคุณค่ะครับสวัสดี
00:26:35 → 00:26:37 ครับสดีครับสวัดีเอาล่ะค่ะคุณผู้ฟังหมด
00:26:37 → 00:26:39 เวลาแล้วนะคะเราจะกลับมาพบกันใหม่ครั้ง
00:26:39 → 00:26:41 หน้ากับรายการโรงหมอนะคะวันนี้ลาไปก่อน
00:26:41 → 00:26:45 ค่ะสวัสดีค่ะ This Is Toy PBS podcast
00:26:45 → 00:26:47 เวลาที่มีอาการป่วยไม่สบายทำไมร่างกายของ
00:26:48 → 00:26:50 เรามักอยู่ในภาวะขาดสารอาหารหรือทุบ
00:26:50 → 00:26:53 โภชนาการผู้ช่วยศาสตราจารย์ดรเอกราชบำรุง
00:26:53 → 00:26:55 พืชผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการมหาวิทยาลัย
00:26:55 → 00:26:59 ธุรกิจบัณฑิตมาเล่าให้ฟังครับเวลาเราเจ็บ
00:26:59 → 00:27:01 ไข้ได้ป่วยไม่สบายเนี่ยมันขึ้นอยู่กับ
00:27:01 → 00:27:04 สภาวะโรคด้วยหลักๆเลยเราแบ่งออกเป็น 2
00:27:04 → 00:27:07 กลุ่มโรคนะกลุ่มโรคแรกก็คือกลุ่มโรคติด
00:27:07 → 00:27:12 เชื้อเช่นเป็นหวัดอ่าไข้หวัดใหญ่โควิดไข้
00:27:12 → 00:27:15 หวัดสายพันธุ์นู่นนี่นั่นนะหรือติดเชื้อ
00:27:15 → 00:27:17 ท้องทรงท้องเสียท้องร่วงติดเชื้อไวร้ม
00:27:18 → 00:27:20 ไวรัสหรือแบคทีเรียก็ตามแต่อันเนี้ยก็จะ
00:27:20 → 00:27:24 แบบทุกโรคเนี่ยมันจะส่งผลต่อภาวะโภชนาการ
00:27:24 → 00:27:26 ต่ออาหารการกินหมดโดยอาจารย์บอกอันนี้คือ
00:27:26 → 00:27:29 กลุ่มของโรคติดเชื้อนะคโรคไร้เชื้อส่วน
00:27:29 → 00:27:30 ใหญ่มันจะเป็นโรคเรื้อรังเป็นแล้วไม่ค่อย
00:27:30 → 00:27:32 หายเหมือนเป็นเบาหวานเป็นความดันเป็นอะไร
00:27:33 → 00:27:36 พวกนี้แต่มักจะเป็นกลุ่มโรคที่ป่วยก็คือ
00:27:36 → 00:27:40 แบบติดเชื้อนะแล้วก็แบบเฮ้ยเพิ่งหายเมื่อ
00:27:40 → 00:27:42 ไหร่ก็ตามที่เราป่วยยิ่งเราแอดมิอยู่ที่
00:27:42 → 00:27:45 โรงพยาบาลอาจารย์บอกเลยว่าส่งผลเพราะไอ้
00:27:45 → 00:27:48 เจ้าพญาธิสภาพของโรคเนี่ยเวลามันติดเชื้อ
00:27:48 → 00:27:50 เจ็บไข้ได้ป่วยไม่สบายขึ้นมาเนี่ยเราจะ
00:27:50 → 00:27:53 กินได้น้อยและอืนะเพราะงั้นเราจะเห็นเลย
00:27:53 → 00:27:56 ว่าส่วนใหญ่คนไข้จะกินได้น้อยก็จะมีปัญหา
00:27:56 → 00:27:59 เรื่องของการขาดสารอาหารสารอาหารภาวะ
00:27:59 → 00:28:01 โภชนาการก็จะไม่ค่อยดีและหรือบางคนกินไม่
00:28:01 → 00:28:04 ได้เลยเราก็ต้องให้อะไรครับเป็นไอ้น้ำ
00:28:04 → 00:28:06 เกลือน้ำเกลือเพื่อให้อย่างน้อยคุณได้น้ำ
00:28:06 → 00:28:09 คุณได้แร่ธาตุอิเล็กโตรไลต์ต่างๆไม่ให้
00:28:09 → 00:28:12 แบบว่าเ้ยมันเพลียนะครับแต่จริงๆแล้ว
00:28:12 → 00:28:14 เนี่ยสารอาหารหลักที่คุณควรจะกินทั้ง 5
00:28:14 → 00:28:16 หมู่เนี่ยคุณอาจจะกินได้น้อยกินได้ไม่กี่
00:28:16 → 00:28:19 คำเพราะมันเบื่อมันไม่อยากกินอาหารเหมือน
00:28:19 → 00:28:21 เวลาเราเจ็บไข้ได้ป่วยไม่สบายอย่างเงี้ย
00:28:21 → 00:28:25 บางคนแบบว่าแบบเฮ้ยเจ็บคอกลืนลำบากอย่าง
00:28:25 → 00:28:29 เงี้ยนะปากแห้งมันก็ยิ่งแบบไปกันใหญ่เลย
00:28:30 → 00:28:31 ช่วงนั้นเนี่ยส่วนใหญ่จะมีภาวะที่เรา
00:28:31 → 00:28:35 เรียกว่า mal นิิหรือภาวะทุบโภชนาการส่วน
00:28:35 → 00:28:38 ใหญ่มักจะขาดสารอาหารกันตอนนั้นน่ะเราติด
00:28:38 → 00:28:41 รบอทุกสารอาหารแหละส่วนใหญ่เรากินข้าวได้
00:28:41 → 00:28:45 น้อยเรากินโปรตีนได้น้อยอนะผักผลไม้ก็ไม่
00:28:45 → 00:28:49 อยากกินปากแห้งนะแล้วก็รู้สึกแบบเบื่อ
00:28:49 → 00:28:52 อาหารอ่าไม่งั้นน้ำหนักคุณไม่ลดหรอกหรือ
00:28:52 → 00:28:54 สารอาหารบางอย่างคุณพร่องลงไปในร่างกาย
00:28:54 → 00:28:57 ซึ่งคุณไม่รู้ก็จะมีปัญหาแบบเฮ้ยไม่สด
00:28:57 → 00:28:59 ชื่นไม่แทีไม่กระปี้กระเป๋าเลยเพราะว่า
00:28:59 → 00:29:02 แบบเพิ่งหายป่วยมาบางคนเนี่ยภูมิคุ้มกัน
00:29:02 → 00:29:04 ไม่ดีนะเวลาป่วยทีนึงเนี่ยเราก็ต้องกลับ
00:29:04 → 00:29:08 มาประเมินว่าเอ้ยไอ้ที่เราติดๆรบไปเนี่ย
00:29:08 → 00:29:09 เรารู้แล้วร่างกายของเราเนี่ยมันไม่
00:29:09 → 00:29:11 เหมือนเดิมแล้วมันสะท้อนออกมาถึงความอ่อน
00:29:11 → 00:29:14 เพลียอาการแสดงต่างๆที่เราแบบให้ตื่นมา
00:29:14 → 00:29:18 ไม่สดชื่นไม่แจ่มใสเลยอะไรอย่างเงี้ย
00:29:18 → 00:29:21 เพราะว่าเราภูมิคุ้มกันมันดรอปลงไปแล้ว
00:29:21 → 00:29:23 เราก็ต้องฟื้นฟูสารอาหารต่างๆเนี่ยมัน
00:29:23 → 00:29:27 ช่วยได้เลยนะโดยตรงเลย
00:29:27 → 00:29:31 นะ This Is Toy PBS
00:29:31 → 00:29:34 podcast ติดตามรายการทางเว็บไซตและ
00:29:34 → 00:29:37 Application ของ Thai PBS podcast
00:29:37 → 00:29:40 spotify soundcloud Google podcast
00:29:40 → 00:29:43 Apple podcast และ YouTube Channel
00:29:43 → 00:29:47 Thai PBS podcast tha PBS podcast
00:29:47 → 00:29:50 View the world via The
00:29:50 → 00:29:57 [เพลง]
00:29:57 → 00:30:01 Voice อ