การสื่อสารระหว่างเซลล์ผิดปกติส่งผลต่อสุขภาพอย่างไร

ถอดรหัส 14 ต้นตอเซลล์แก่เรียงตัว จุดตั้งต้นการชะลอวัย | Top to Toe EP.102

จากช่อง : THE STANDARD PODCAST


ดูคำบรรยาย / View Transcript

00:00:0000:00:02 เวลาที่เราพูดถึงความแก่เนี่ยหลายๆคนก็จะ

00:00:0200:00:06 นึกถึงภาพใหญ่ๆเช่นผิวหนังเหี่ยวอวัยวะมี

00:00:0600:00:09 ปัญหานะครับแต่จริงๆแล้วไอ้การที่เราเห็น

00:00:0900:00:10 ว่าร่างกายของเราเนี่ยมันทรุดโทรมลงไป

00:00:1100:00:14 เนี่ยจริงๆต้นเหตุเนี่ยมันเกิดมาจากเซลล์

00:00:1400:00:17 ส่วนที่เล็กที่สุดของร่างกายเนี่ยมันแก่

00:00:1700:00:19 นั่นเองเพราะฉะนั้นถ้าเกิดว่าเราอยากจะ

00:00:1900:00:22 สู้กับความแก่ต้องการจะชะลอไวรวมถึงย้อน

00:00:2200:00:25 ให้เราเนี่ยรู้สึกเด็กลงนะครับเราต้องไป

00:00:2500:00:28 จัดการที่ต้นตอของความแก่นั่นก็คือไปจัด

00:00:2800:00:31 การที่เซลล์นั่นเองนะครับครับสมัยเนะครับ

00:00:3100:00:34 บริษัทใหญ่ๆเนี่ยเขาลงทุนกับงานวิจัยทาง

00:00:3400:00:36 ด้านวิทยาศาสตร์ลึกเลยนะครับเวลาก่อนที่

00:00:3600:00:39 จะออกผลิตภัณฑ์อะไรก็ตามที่โฆษณาว่าเป็น

00:00:3900:00:43 การจัดการกับความแก่เนี่ยเขาจะไปเล่นที่

00:00:4300:00:46 ต้นตอที่ทำให้เซลล์มันแก่นั่นเองนะครับ

00:00:4600:00:49 ไม่ว่าจะเป็น skin care หรือว่าอาหาร

00:00:4900:00:52 เสริมหรือจะเป็นยารวมไปถึง medical

00:00:5200:00:54 service medical intervention ต่างๆ

00:00:5400:00:57 ที่เคลมออกมาเคลมทั้งนั้นเลยว่าเฮ้ยสิ่ง

00:00:5700:00:59 ที่เราทำมาเนี่ยมันแก้ Pain Point

00:00:5900:01:01 เรื่องความแก่ได้นะครับงั้นเราสามารถจะไป

00:01:0100:01:04 ดูได้ว่าแบรนด์ไหนที่มีงานวิจัยเยอะๆ

00:01:0400:01:06 เรื่องความแก่และผลิตภัณฑ์ของเค้าเนี่ย

00:01:0600:01:09 มันไปจัดการที่ต้นเหตุจริงๆแบรนด์นั้น

00:01:0900:01:12 เนี่ยก็จะน่าเชื่อถือเป็นอีกหนึ่งวิธีการ

00:01:1200:01:15 ที่ทำให้เราสามารถจะเลือกผลิตภัณฑ์ที่ตอบ

00:01:1500:01:17 โจทย์แล้วก็แก้ไขความแก่ให้เราได้จริงๆ

00:01:1700:01:21 และเป็นที่มาว่าทำไมเราควรจะรู้ว่าต้นตอ

00:01:2100:01:24 ที่ทำให้เซลล์เนี่ยมันแก่มันมีอะไรบ้าง

00:01:2400:01:26 เป็นความรู้ที่สำคัญมากสำหรับชีวิตเราใน

00:01:2600:01:30 อนาคตนะครับผมบอกเลยว่าณวันนี้นะครับนัก

00:01:3000:01:33 วิทยาศาสตร์เขาสรุปมาว่าต้นตอของความแก่

00:01:3300:01:36 ระดับเซลล์เนี่ยนะครับมันมีทั้งหมด 14

00:01:3600:01:39 สาเหตุด้วยกันเดี๋ยวเราจะไปไล่กันทีละ

00:01:3900:01:41 สาเหตุเลยว่าไอ้ 14 สาเหตุที่มันทำให้

00:01:4100:01:44 เซลล์ของเราแก่เนี่ยมันคืออะไรบ้างและ

00:01:4400:01:48 ทั้ง 14 สาเหตุเนี่ยมันมีวิธีในการจัดการ

00:01:4800:01:51 รายตัวด้วยนะครับถ้าเราเข้าใจทั้งสาเหตุ

00:01:5100:01:53 และรู้วิธีจัดการเนี่ยก็จะทำให้เราย้อนไว

00:01:5300:01:56 ได้ครับ This is the Standard podcast

00:01:5600:02:00 Eye Opening for your ears

00:02:0000:02:03 Top to podcast สุขภาพที่ใช้

00:02:0300:02:07 วิทยาศาสตร์ไขปัญหาตั้งแต่หัวจด

00:02:0700:02:10 เท้า 14 สาเหตุของความแก่เนี่ยครับถ้า

00:02:1000:02:12 เกิดพูดตามหลักวิชาการหรือทางวิทยาศาสตร์

00:02:1200:02:16 แล้วเนี่ยมันคือคำว่า 14 hallmarks of

00:02:1600:02:18 aging นะครับตอนแรกเนี่ยมันไม่ได้มาถึง

00:02:1800:02:22 14 ตัวนะตอนประมาณปีค.ศ 2013 นะครับนัก

00:02:2200:02:24 วิทยาศาสตร์กลุ่มนึงเนี่ยเขาได้ propose

00:02:2400:02:27 ต้นตอของความแก่มาประมาณ 13 ตัวและเมื่อ

00:02:2800:02:31 เวลาผ่านไปนะครับจนเมื่อประมาณ 2023 คือ

00:02:3100:02:34 ปีที่แล้วก็มีการอัปเดตเพิ่มขึ้นหลังจาก

00:02:3400:02:37 ที่มีการสำรวจเนาะนักวิทยาศาสตร์ที่ทำงาน

00:02:3700:02:39 ด้านความแก่เนี่ยเค้าก็คอยสังเกตอยู่เสมอ

00:02:3900:02:41 ว่าเอ๊มันมีสาเหตุอะไรหรือเปล่านะที่คน

00:02:4100:02:45 แก่มักจะมี Common Root C อ่ะแล้วถ้า

00:02:4500:02:47 เขาคเจอปึ๊บเค้าก็จะยกมันขึ้นมาว่าเนี่ย

00:02:4700:02:49 คือสาเหตุใหญ่นะครับเพราะฉะนั้นจาก 9

00:02:4900:02:52 เนี่ยนะครับมันก็เลยถูกอัปเดตมาเป็น 12

00:02:5200:02:55 และถูกอัปเดตมาเป็น 14 เพราะงั้นวันนี้

00:02:5500:02:58 เดี๋ยวผมจัดเต็มมาให้เลยว่าทั้ง 14 ตัวมี

00:02:5800:03:00 อะไรบ้างเนาะถ้าใครอยากที่จะได้ข้อมูล

00:03:0000:03:03 เต็มๆแล้วก็อยากจะได้เปอร์ทางวิทยาศาสตร์

00:03:0300:03:05 นะครับคุณสามารถไปเสิร์ชได้ตามเปอร์นี้นะ

00:03:0500:03:07 ครับภาพที่คุณจะเห็นเนี่ยคือไดอะแกรมนี้

00:03:0700:03:09 เลยนะฮะเป็นไดอะแกรมที่สรุปว่า 14 สาเหตุ

00:03:0900:03:12 ของความแก่คืออะไรจะเห็นว่าแต่ละตัวเนี่ย

00:03:1200:03:14 มันจะมีชื่อกำกับอยู่นะครับซึ่งชื่อเนี่ย

00:03:1400:03:16 มันอาจจะค่อนข้างยากนิดนึงเพราะฉะนั้นวัน

00:03:1600:03:19 นี้ผมจะทำหน้าที่เป็นล่ามที่จะ simplify

00:03:1900:03:22 ทุกอย่างให้มันง่ายขึ้นแล้วก็เปรียบเทียบ

00:03:2200:03:24 ให้มันจับต้องได้มากยิ่งขึ้นนั่นเองนะ

00:03:2500:03:27 ครับเดี๋ยวมาไล่กันทีละตัวฮะ 14 ตัวนะ

00:03:2700:03:29 ครับถ้าดูจากไดอะแกรมนี่คือแผนผังที่ผมทำ

00:03:2900:03:32 ขึ้นมาเป็นเวอร์ชั่นที่เป็นการ์ตูนที่ทำ

00:03:3200:03:34 ให้เข้าใจง่ายนะครับภาพที่ทุกคนกำลังเห็น

00:03:3400:03:37 อยู่ตรงกลางที่เป็นกลมๆสีแดงเนี่ยนะครับ

00:03:3700:03:41 มันคือเซลล์คือเซลล์ที่สุขภาพดีนะครับไอ้

00:03:4100:03:43 ตัวที่เป็นสีแดงเข้มกลมๆข้างในอันนั้นน่ะ

00:03:4300:03:46 คืออวัยวะที่สำคัญที่สุดของเซลล์ตัวนี้ก็

00:03:4600:03:50 คือนิวเคลียสนะครับด้านข้างที่เป็นเซลล์

00:03:5000:03:52 กลมๆอีก 2 อันที่มี 2 สีนะครับที่เป็นสี

00:03:5200:03:55 แดงเนี่ยคือเซลล์สุขภาพดีเซลล์อื่นที่

00:03:5500:03:58 เรียกว่าเป็นเพื่อนบ้านเราละกันส่วนเซลล์

00:03:5800:04:01 สีเทานะครับที่อยู่ข้างๆเนี่ยผมใช้แทน

00:04:0100:04:04 เซลล์ที่เป็นเซลล์ที่เพี้ยและสุขภาพไม่ดี

00:04:0400:04:07 เป็นเซลล์ทกิหรือที่รู้จักกันในนามซอบี้

00:04:0700:04:09 เซลล์เนาะใครที่ติดตาม Top Tool จะรู้

00:04:0900:04:10 จัก zomb Sell นะครับเจ้านี่ผมใช้แทน

00:04:1000:04:13 Zombie Sell แล้วะกันสัญลักษณ์ต่างๆนะ

00:04:1300:04:15 ครับที่อยู่ในแผนผังเนี้ยใช้แทนต้นตอทั้ง

00:04:1600:04:18 หมด 14 ประการนะครับเดี๋ยวเราจะไปไล่กัน

00:04:1800:04:21 ทีละตัวเพื่อความง่ายในการเข้าใจนะครับผม

00:04:2100:04:23 ขอแบ่ง 14 สาเหตุเป็น 3 กรุ๊ปแล้วกันเรา

00:04:2300:04:25 มาเริ่มที่กรุ๊ปแรกครับกรุ๊ปแรกเนี่ยคือ

00:04:2500:04:29 ต้นตอนหรือสาเหตุที่ทำให้เซลล์มันแก่และ

00:04:2900:04:31 มักจะเกิดเกิดขึ้นอยู่ในนิวเคลียส

00:04:3100:04:33 นิวเคลียสก็คือส่วนที่เป็นสีแดงเข้มนะ

00:04:3400:04:36 ครับจะมีสัญลักษณ์ประกบอยู่ทั้งหมด 4 ตัว

00:04:3600:04:39 ตอนนี้ทุกคนจะเห็นว่ามี DNA ที่สวมหมวก

00:04:3900:04:42 อยู่แล้วก็มีสวิตชที่เขียนว่า on นะครับ

00:04:4200:04:45 และก็มีรูปแปลภาษาอยู่ด้วยนั่นคือ 4

00:04:4500:04:48 สาเหตุที่ทำให้เซลล์แก่เรามาเริ่มที่ตัว

00:04:4800:04:50 แรกนะครับเป็นตัวที่สำคัญมากเลยนะครับ

00:04:5100:04:54 สำคัญที่สุดเลยก็ว่าได้นั่นคือ DNA ครับ

00:04:5400:04:57 DNA เนี่ยเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดในเซลล์

00:04:5700:04:58 นะครับเพราะฉะนั้นเซลล์เองจึงต้องเก็บ

00:04:5800:05:01 รักษา D ไว้อย่างดีจะเห็นได้ว่า DNA

00:05:0100:05:04 เนี่ยถูกเก็บเอาไว้ในนิวเคลียสก็คือ

00:05:0400:05:06 เหมือนกับเป็นห้องนิภัยห้องนึงเลยที่เอา

00:05:0600:05:09 ไว้เก็บ DNA โดยเฉพาะเพื่อป้องกันไม่ให้

00:05:0900:05:12 อะไรมันมาทำลาย DNA ได้ง่ายๆนะครับงั้น

00:05:1200:05:14 DNA เนี่ยมันคือคู่มือการทำงานของเซลล์

00:05:1400:05:18 กำหนดชะตากรรมการทำงานฟังก์ชันทั้งหมดของ

00:05:1800:05:21 เซลล์เลยนะครับเปรียบเทียบง่ายๆมันคือ

00:05:2100:05:24 ตำราในการทำกับข้าวเล่ม 1 คุกบุกเลยนะ

00:05:2400:05:29 ครับสมมุติว่าเราอยากจะกินข้าวกะเพราไก่

00:05:2900:05:33 ไข่ดไม่สุกแล้วเราไม่รู้ว่าจะทำยังไงเรา

00:05:3300:05:35 ก็ไปเปิดไอ้หนังสือเล่มเที่เป็น DNA ดูนะ

00:05:3500:05:37 ครับมันก็จะบอกวิธีการทำถ้าเรา Follow

00:05:3700:05:40 recipe ที่ถูกต้องเนี่ยเราก็จะได้กะเพรา

00:05:4000:05:43 ไก่ไข่ดาวออกมาที่ถูกต้องนะครับนั่นคือ

00:05:4300:05:46 DNA ที่ Healthy สุขภาพดีแต่ DNA เนี่ย

00:05:4700:05:49 มันก็สามารถที่จะถูกทำลายได้เมื่อเราใช้

00:05:4900:05:52 ชีวิตมาทุกวันเราแก่ขึ้นแก่ขึ้นเจอกับ

00:05:5200:05:55 toxic มากมายทั้งภายนอกร่างกายภายในร่าง

00:05:5500:05:58 กายเช่นเดินออกจากบ้านเจอแสงแดดและนะครับ

00:05:5800:06:01 การกินอาหารที่เป็นอาหาร process Food

00:06:0100:06:04 กินน้ำมันทอดบ่อยๆหรือกินของที่มันไม่้ม

00:06:0400:06:07 นะครับหรือการที่เราเครียดแล้วก็พักผ่อน

00:06:0700:06:09 ไม่เพียงพอสาเหตุทั้งหมดเหล่าเนี้ยรวมไป

00:06:0900:06:12 ถึงเติที่เราได้มาจากพ่อกับแม่เราด้วยนะ

00:06:1200:06:15 ครับ DNA สามารถที่จะถูกทำลายแล้วก็

00:06:1500:06:17 เปลี่ยนแปลงได้เสมอนั่นหมายความว่าไอ้

00:06:1700:06:20 เจ้าตำราเล่มเนี้ยนะครับมันสามารถที่จะ

00:06:2000:06:22 ผิดเพี้ยนไปสูตรที่มันเคยถูกต้องที่เรา

00:06:2200:06:25 ได้มาตอนเด็กๆเนี่ยสูตรนั้นเนี่ยมันก็อาจ

00:06:2500:06:28 จะค่อยๆเปลี่ยนไปเรื่อยๆผิดเพี้ยนไปจน

00:06:2800:06:31 เวลาเราไปฟโสูตรเนี่ยมันจะได้กับข้าวที่

00:06:3100:06:33 ไม่อร่อยหรือกับข้าวคนละจานเลยก็ได้นะ

00:06:3300:06:36 ครับสมมุติว่าเฮ้ยจีนที่ผมเคยพูดไว่าจีน

00:06:3600:06:40 ทำกะเพราไก่ไข่ดาวไม่สุกเนี่ยครับตอนที่

00:06:4000:06:43 เราอายุมากขึ้นจีนนี้เกิดดาจได้รับความ

00:06:4300:06:46 เสียหายถ้าเราไป f มันปุ๊บเนี่ยเราอาจจะ

00:06:4600:06:50 ได้เป็นกะเพราหมูกรอบไข่ดาวสุกซึ่งไม่ใช่

00:06:5000:06:52 สิ่งที่เราต้องการเพราะฉะนั้นเนี่ยการที่

00:06:5200:06:55 เราได้กะเพราหมูกรอบมันอาจจะไม่ Healthy

00:06:5500:06:57 กับร่างกายแล้วก็ได้นะครับงั้นเป็นการ

00:06:5700:06:59 สะท้อนว่าถ้า DNA ผิดพลาดเพียงเล็กน้อยไ

00:06:5900:07:02 นิดเดียวเนี่ยก็จะได้ผลลัพธ์ที่เปลี่ยน

00:07:0200:07:04 แปลงไปแต่ถ้าเกิดว่า DNA เนี่ยมันได้รับ

00:07:0400:07:07 ความเสียหายเยอะมากนะครับแล้วเราไป Follow

00:07:0700:07:09 recipe นะเนี่ยคุณอาจจะไม่ได้เป็นข้าว

00:07:0900:07:12 กระเพราด้วยซ้ำคุณอาจจะได้ออกเป็นราดหน้า

00:07:1200:07:14 หมูเลยก็ได้นะครับซึ่งมันผิดเพี้ยนไปใหญ่

00:07:1400:07:16 และทำให้ร่างกายเนี่ยเกิดโรคต่างๆตามมา

00:07:1700:07:19 ได้เช่นมะเร็งนั่นเองนะครับนั่นคือความ

00:07:1900:07:22 เสียหายของ DNA งั้นเราไม่อยากให้ DNA

00:07:2200:07:24 เกิดการดาเมจแต่มันเลี่ยงไม่ได้เลยครับ

00:07:2400:07:27 ตลอดเวลาที่เราเติบโตขึ้นนะครับยังไง DNA

00:07:2700:07:29 เราอ่ะเสียหายอยู่แล้วไม่ว่าจะตั้งใจหรือ

00:07:2900:07:32 ว่าไม่ตั้งใจก็ตามนั่นคือสาเหตุที่ 1 คือ

00:07:3200:07:34 DNA Damage ชื่อเต็มๆของมันนะครับถ้า

00:07:3400:07:37 เกิดไปอ่าน Paper เนี่ยเาใช้คำว่า genomic

00:07:3700:07:40 instability เนาะแต่เพื่อความเข้าใจง่าย

00:07:4000:07:43 ๆผมขอเรียกมันว่า DNA Damage หรือว่า

00:07:4300:07:46 ความเสียหายของ DNA นั่นเองครับมาที่ต้น

00:07:4600:07:50 เหตุตัวที่ 2 นะครับสัญลักษณ์ของียคือรูป

00:07:5000:07:52 สวิตชครับที่อยู่ข้างๆ DNA เลยผมใช้

00:07:5300:07:55 สัญลักษณ์ที่เป็น on เนาะเป็นสวิตชเปิด

00:07:5500:07:59 ปิดจีนั่นเองอยากจะเล่าให้ฟังว่าชื่อเต็ม

00:07:5900:08:01 ๆของมันเนี่ยจริงๆอ่ะไอ้เจ้าตัวเนี้ยผม

00:08:0100:08:04 ตั้งชื่อเล่นมันว่า DNA Control ครับสม

00:08:0400:08:07 ชื่อเลยมันคือสวิตชที่เอาไว้ Control DNA

00:08:0700:08:11 อีกระดับนึงชื่อจริงๆของมันเนี่ยคือคำว่า

00:08:1100:08:14 Epic genetic alteration ก็คือการ

00:08:1400:08:17 เปลี่ยนแปลงของ EP genetic คำดูยากเนาะ

00:08:1700:08:20 EP เนี่ยมันเป็น prefix ที่แปลว่า Above

00:08:2000:08:23 หรือว่าเหนืองั้นแปลง่ายๆคือมันเหนือกว่า

00:08:2300:08:27 DNA อีกอโหมันสามารถจะควบคุม DNA ได้เลย

00:08:2700:08:30 มันควบคุม DNA ยังไงสมมุติว่าเมื่อกี้เรา

00:08:3000:08:32 บอกว่า DNA สำคัญเนาะในการทำอะไรสักอย่าง

00:08:3200:08:35 นึงต่อให้ DNA ของเราเนี่ยจะไม่ได้รับ

00:08:3500:08:38 ความเสียหายเลยนะครับยีนกะเพราไก่ไข่ดาว

00:08:3800:08:42 เริปนั้นเยังเป็นเริปที่ถูกต้องเลยนะแต่

00:08:4200:08:45 มันมีสิ่งที่ไปควบคุมปิดสวิตช์เปิดปิดมัน

00:08:4500:08:48 ว่าเฮ้ยไอ้หน้าเนี้ยมันถูกปิดอยู่บล็อก

00:08:4800:08:51 ไม่ให้อ่านหรือเปิดให้อ่านน่ะต่อให้จีน

00:08:5100:08:53 นั้นจะยังอยู่ในสุภาพสมบูรณ์ที่อ่านได้

00:08:5300:08:55 ชัดเจนเนี่ยนะครับ Follow recipe ได้ถูก

00:08:5500:08:57 ต้องแต่ถ้ามีอะไรไปปิดมันไว้เราอ่านไม่

00:08:5700:08:59 ได้เราก็ไม่สามารถจะทำกะเพราไก่ใ่ไข่ดาว

00:08:5900:09:02 ได้ถูกต้องเพราะเริปมันถูกบดบังเอาไว้

00:09:0200:09:04 นั่นเองนะครับเทียบง่ายๆเหมือนเราไปกิน

00:09:0400:09:06 ร้านหาเราอยากจะสั่งแม่ค้าว่าเฮ้ยวันนี้

00:09:0600:09:09 อยากกินกะเพราไก่ไ่ดาวครับจานนึงแม่ค้า

00:09:0900:09:12 ตอบกลับมาเลยวันนี้ไก่หมดช็อต fiel มาก

00:09:1200:09:14 การที่ไก่หมดเนี่ยมันคือปิดสวิตชเลยครับ

00:09:1400:09:17 ไม่มีช้อยส์ให้เราสั่งไก่ได้เลยมีให้

00:09:1700:09:18 เลือกแค่อย่างอื่นเท่านั้นนะครับนั่นคือ

00:09:1800:09:22 ไอเดียของสวิตชและไอ้เจ้าสวิตหรือว่า DNA

00:09:2200:09:24 Control หรือ EP genetic เนี่ยต้องบอก

00:09:2400:09:26 ว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆเลยนะครับหลังจาก

00:09:2600:09:28 ที่นักวิทยาสาเาเริ่มศึกษาเรื่องความแก่

00:09:2800:09:30 มาเยอะขึ้นเยอะขึ้นเนี่ยเค้าก็เจอแล้ว

00:09:3000:09:33 ครับว่าโหไอ้เจ้า epis genetic เนี่ย

00:09:3300:09:36 เป็นตัวที่บอกเลยว่าตอนเร่างกายเราแก่มาก

00:09:3600:09:39 แก่น้อยนะครับถ้าใครเคยติดตามผมเรื่อง

00:09:3900:09:41 biological Age ที่ผมเคยเล่าไปเนี่ยผม

00:09:4100:09:44 จะบอกว่าทุกวันเนี้ยวิธีการวัดอายุที่แท้

00:09:4400:09:47 จริงหรือว่าอายุทางชีวภาพที่แม่นยำที่สุด

00:09:4700:09:50 เนี่ยมันคือการวัด EP genetic Clock ก็

00:09:5000:09:52 คือไอ้เจ้า EP genetic หรือว่า DNA

00:09:5200:09:54 Control นี่แหละเพราะฉะนั้นตัวเนี้ยคือ

00:09:5400:09:57 ตัวที่สำคัญมากๆเลยเนาะถามว่าไอ้สวิชนี้

00:09:5700:10:00 มันคืออะไรหรอจริงๆแล้วสิ่งที่มันสามารถ

00:10:0000:10:02 ใช้ในการควบคุม DNA เนี่ยมีหลากหลายรูป

00:10:0200:10:05 แบบเลยนะครับแต่รูปแบบนึงเลยที่มีคนศึกษา

00:10:0500:10:09 เยอะมากที่สุดณวันนี้แล้วก็มี Impact มาก

00:10:0900:10:11 ที่สุดกับ Age ของเรานะครับเราเรียกมัน

00:10:1100:10:16 ว่า DNA mation mation คือการเติมหมู

00:10:1600:10:19 เมิเข้าไปในส่วนใดส่วนนึงของ DNA เดี๋ยว

00:10:2000:10:21 ไว้ตอนหน้าเดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟังให้

00:10:2100:10:24 ละเอียดขึ้นแต่หมู่เิมันคือ

00:10:2400:10:27 ch3 นะครับนั่นคือโมเลกุลทางเคมีแล้วะ

00:10:2700:10:29 กันถ้าเกิดว่ามีไอ้เจ้าตัวเนี้ไอ้เจ้า ch3

00:10:2900:10:32 เครับไปแปะอยู่แต่ละจุดของจีนเนี่ยนะครับ

00:10:3200:10:36 มันสามารถที่จะไปเปิดหรือปิดสวิตชได้ั้น

00:10:3600:10:38 สิ่งที่เราต้องการคือเราอยากให้สวิตชมัน

00:10:3800:10:41 เปิดในจุดที่มันควรเปิดแล้วมันปิดในจุด

00:10:4100:10:44 ที่มันควรปิดแต่เวลาที่เราแก่ไปเนี่ยนะ

00:10:4400:10:47 ครับไอ้จีนที่มันควรจะเปิดเนี่ยมันดันปิด

00:10:4700:10:49 ไอ้จีนที่มันควรจะปิดเนี่ยมันดันเปิดแล้ว

00:10:4900:10:51 มันอาจจะทำให้เกิดความเสียหายได้เช่นจีน

00:10:5100:10:54 มะเร็งเราอยากให้มันปิดแต่มันดันไปเปิด

00:10:5400:10:56 เพราะอีสวิตชมันไปเปิดให้เนี่ยอันเนี้ย

00:10:5600:10:59 เราก็จะทำให้เกิดโรคมะเร็งขึ้นมาเป็นต้น

00:10:5900:11:00 นะครับหรือว่าจีนที่เฮ้ยเราอยากให้มัน

00:11:0000:11:03 เปิดจังเลยเช่นจีนที่ช่วยในการกำจัดขยะใน

00:11:0300:11:05 ร่างกายอยากให้มันเปิดแต่ปรากฏว่าเรายิ่ง

00:11:0500:11:08 แกะไปแกะไปไอ้จีนนี้มันดันปิดคราวนี้ขยะ

00:11:0800:11:10 มันก็จะล้นเซลล์แล้วทำให้มันเกิดปัญหา

00:11:1000:11:13 นั่นเองนั่นคือไอเดียของ epigenetic หรือ

00:11:1300:11:16 ว่า DNA Control ครับสาเหตุตัวที่ 2 ที่

00:11:1600:11:19 ทำให้เราแก่นะครับมาที่สาเหตุตัวที่ 3

00:11:1900:11:21 ครับถ้าจากรูปเนี่ยจะเห็นว่า DNA เนี่ยผม

00:11:2100:11:24 มีหมวกให้มันใส่ด้วยมันคือหมวกช่างหรือ

00:11:2400:11:28 หมวกวิศวกรนะครับแน่นอนหมวกเนี่ยใช้แทน

00:11:2800:11:32 ความปลอดภัยมันคือระบบ Safety ให้กับ DNA

00:11:3200:11:35 บอกแล้ว DNA มันสำคัญเนาะจริงๆ DNA เนี่ย

00:11:3500:11:37 ของจีนเนี่ยมันจะขดอยู่แน่นเลยอยู่ในรูป

00:11:3700:11:41 ทรงที่เป็นปาตโก๋ทีนี้ตรงปลายสุดของปาต

00:11:4100:11:42 โก๋เนี่ยนะครับก็เรียกได้ว่าปลายสุดของ

00:11:4200:11:45 DNA เนี่ยมันมีส่วนที่เรียกว่าเทเมเจ้า

00:11:4500:11:47 เเมียเนี่ยผมเปรียบเทียบมันเป็นหมวก

00:11:4700:11:50 นิรภัยนั่นเองนะครับถามว่า้ยเเมียมัน

00:11:5000:11:52 สำคัญยังไงทุกครั้งที่มีการแบ่งเซลล์คือ

00:11:5200:11:55 แบ่งจาก 1 เซลล์ไปเป็น 2 เซลล์เพื่อการ

00:11:5500:11:57 เติบโตเนี่ยนะครับเจ้า DNA เนี่ยมันต้อง

00:11:5700:12:00 ถูกโ Copy หรือถ่ายเอกสารสาไปให้เซลล์ลูก

00:12:0000:12:02 ด้วยนะครับเพื่อที่เซลล์จะได้รู้ว่ามันจะ

00:12:0200:12:04 ต้องทำงานยังไงใช่มั้ยครับแต่ทุกครั้งที่

00:12:0400:12:07 มีการแบ่งเซลล์และมีการ copy DNA เนี่ย

00:12:0700:12:10 ครับ DNA มันสามารถที่จะเกิดความเสียหาย

00:12:1000:12:13 ได้การที่มีเเมียเนี่ยเป็นระบบ Safety

00:12:1300:12:15 ว่าถ้ามันจะเกิดการเสียหายเนี่ยให้มัน

00:12:1500:12:18 เกิดความเสียหายที่ตรงปลายของ DNA ก่อนก็

00:12:1800:12:21 คือเอาหมวกไปใส่หัวเลยหัวเนี่ยสำคัญใช่มย

00:12:2100:12:24 เอาหมวกไปใส่ถ้าเกิดมีความเสียหายเนี่ย

00:12:2400:12:26 ให้มันมาลงที่หมวกก่อนเพื่อที่จะเซฟศีรษะ

00:12:2600:12:29 ของเรานั่นคือหลักการเดียวกันเลยครับที่

00:12:2900:12:32 ทีนี้ในช่วงก่อนหน้าเนี้ยซักประมาณ 10 ปี

00:12:3300:12:35 นะครับมันจะมีเทรนด์ว่าเฮ้ยการตรวจอายุ

00:12:3500:12:38 ชีวภาพเนี่ยเฮ้ยเราควรจะไปวัดความยาวของ

00:12:3800:12:41 เเมียเพราะว่าการที่เเมียเนี่ยมันสั้นลง

00:12:4100:12:44 สั้นลงสั้นลงก็เป็นการบอกว่าเซลล์นั้นน่ะ

00:12:4400:12:46 ถูกแบ่งเซลล์มาแล้วหลายรอบหลายรอบก็มีการ

00:12:4600:12:49 สอบว่าเอ้ยเราแกะขึ้นแกะขึ้นแกะขึ้นทีนี้

00:12:4900:12:52 แต่เมื่อมีการศึกษาเรื่อง EP genetic ก็

00:12:5200:12:55 เจอว่าการวัด epi เติหรือว่าไอ้ DNA

00:12:5500:12:57 Control เนี่ยมันให้ข้อมูลที่แม่นยำเป็น

00:12:5700:13:00 การค่าคะเนอายุชีวภาได้แม่นยำกว่าการไป

00:13:0000:13:04 วัดเทรยนะครับแต่ก็ไม่ใช่ว่าการวัดเเมีย

00:13:0400:13:07 ไม่มีประโยชน์การที่เรารู้ความยาวของเทเย

00:13:0700:13:08 เนี่ยเป็นการบอกได้ระดับนึงเลยว่าเซลล์

00:13:0800:13:11 ของเราแก่หรือไม่แก่นั่นเองนะครับเมียก็

00:13:1100:13:13 ยังเป็นสิ่งที่สำคัญอยู่ดีกับร่างกายของ

00:13:1300:13:16 เรานั้นนั่นคือตัวที่ 3 ถ้าชื่อทางการของ

00:13:1600:13:19 มันทางวิชาการนะครับเขาเรียกว่า teria

00:13:1900:13:22 attrition atri มันคือการถลอกก็คิดง่าย

00:13:2200:13:25 ๆว่า teria มันมันหดลงหรือว่าบางคนเนี่ย

00:13:2500:13:27 เขาใช้ำว่า thom shortening ก็คือการ

00:13:2700:13:30 สั้นลงของเทียนั่นเนั่นเองนะครับตัวที่ 4

00:13:3000:13:34 ที่เป็นต้นเหตุอ่านี้เป็นรูปล่ามครับเฮ้ย

00:13:3400:13:36 ล่ามมันมันเกี่ยวอะไรอ่ะกับ DNA ก็บอกว่า

00:13:3600:13:38 DNA มันเป็นคู่มือถูกมั้ยแล้วมันอยู่ใน

00:13:3800:13:40 นิวเคลียสคือห้องนิรภัยด้วยแต่อยากจะบอก

00:13:4000:13:42 ว่าในเซลล์เนี่ยมันมีทีมงานอวัยวะอื่นๆ

00:13:4200:13:45 มันดันอยู่นอกนิวเคลียสหมดเลยนะทีมงาน

00:13:4500:13:47 อื่นๆเช่นเป็นเชฟทำกับข้าวอย่างเงี้ยที่

00:13:4700:13:50 ต้องรออ่านเริปที่มันดันอยู่ในห้องนิรภัย

00:13:5000:13:53 ตัวเชฟเองที่อยู่ข้างนอก DNA อ่ะเาไม่มี

00:13:5300:13:55 access ที่จะเข้าไปในห้องนิรภัยเพื่อ

00:13:5500:13:58 ความ Safety เนี่ยในห้องนิรภัยเนี้ยจะยอม

00:13:5800:14:01 ให้มีแค่ล่ามเท่านั้นที่จะสามารถเข้าไป

00:14:0100:14:05 อ่านไอ้ตัว DNA ได้ซึ่งหนังสือ DNA เนี่ย

00:14:0500:14:07 จินตนาการได้ว่าเฮ้ยโอเคมันเขียนด้วยภาษา

00:14:0700:14:09 ไทยสมมุติเดี๋ยวเแรงงานไทยไม่ค่อยมีใช่

00:14:0900:14:11 ไหมมครับเพราะฉะนั้นเราต้องเอาแรงงาน

00:14:1100:14:12 เพื่อนบ้านแรงงานต่างชาติเนี่ยเข้ามาเป็น

00:14:1200:14:15 เชฟบ้างอะไรบ้างเพราะฉะนั้นเกอหรือคนทำ

00:14:1500:14:17 งานจริงๆอ่ะดันอ่านภาษาไทยไม่ออกเพราะ

00:14:1700:14:20 ฉะนั้นเลยจำเป็นต้องมีล่ามที่เข้าไปอ่าน

00:14:2000:14:24 ตำราภาษาไทยและแปลออกมาเป็นภาษาที่คนทำ

00:14:2400:14:27 งานไม่ว่าจะเป็นเชฟเป็นอะไรต่างๆเนี่ยเขา

00:14:2700:14:30 เข้าใจได้ถึงจะสามารถจะ Cooking หรือว่า

00:14:3000:14:33 ทำจานอาหารจานนึงขึ้นมาได้เพราะฉะนั้น

00:14:3300:14:37 ล่ามจึงสำคัญมากถ้าล่ามทำงานผิดพลาดก็คือ

00:14:3700:14:41 แปล DNA ออกมาเป็นคำสั่งที่ผิดพลาดคนที่

00:14:4100:14:43 รับคำสั่งต่อไปเพื่อทำงานจริงๆเนี่ยก็จะ

00:14:4300:14:46 ทำงานผิดพลาดนั่นเองนะครับผมเรียกเจ้า

00:14:4600:14:48 ล่ามนี้ว่า DNA interpreter นะครับแต่

00:14:4800:14:52 ของจริงเนี่ยล่ามคืออะไรล่ามคือ RNA หลาย

00:14:5200:14:55 คนอาจจะเคยได้ยิน RNA จากโควิดเนาะมันจะ

00:14:5500:14:57 มี RNA หลายประเภทครับมันจะมี RNA อยู่

00:14:5700:14:59 ประเภทหนึงที่ทำหน้าที่เป็นลาบในการการไป

00:14:5900:15:01 คัดลอกข้อมูล DNA มาบอกเพื่อนๆที่อยู่ภาย

00:15:0100:15:04 นอกนิวเคลียสนะครับแต่คำจริงๆของมันถ้า

00:15:0400:15:06 เราไปอ่านเปอร์เนี่ยมันจะใช้คำว่า

00:15:0600:15:10 splicing dis regulation ซึ่งกระบวน

00:15:1000:15:12 การเนี้ยมันค่อนข้างซับซ้อนผมเปรียบเทียบ

00:15:1200:15:14 ง่ายๆแล้วกันว่ามันต้องมีการแปลภาษาแล้ว

00:15:1400:15:16 มันแปลภาษาแล้วทำให้ข้อมูลมันผิดเพี้ยนไป

00:15:1700:15:19 แล้วกันเนาะเพื่อความง่ายในการเข้าใจเพรา

00:15:1900:15:22 งั้นนั่นคือ 4 ตัว 4 ต้นตอแรกที่ทำให้

00:15:2200:15:25 เซลล์แก่นะครับและอยู่ในนิวเคลียสมาดู

00:15:2500:15:27 กรุ๊ปต่อไปครับกรุ๊ปต่อไปเนี่ยมีอีก 5

00:15:2800:15:31 ตัวครานี้ยังอยู่ในเซลล์อยู่นะแต่ว่าต้น

00:15:3100:15:33 เหตุเหล่าเนี้ยมักจะเกิดขึ้นอยู่ภายนอก

00:15:3300:15:36 นิวเคลียสนั่นเองนะครับ 5 ตัวตอนนี้มีรูป

00:15:3600:15:38 ภาพอะไรบ้างถ้าดูเนี่ยมันจะมีตั้งแต่รูป

00:15:3800:15:42 ก้างปลารูปถังขยะรูปถ่านไฟฉายนะครับรูป

00:15:4200:15:45 สปริงแล้วก็รูปเซ็นเซอร์เนาะไปทีละตัวว่า

00:15:4500:15:48 แต่ละตัวคืออะไรเราเริ่มกันที่เซ็นเซอร์

00:15:4800:15:50 ก่อนแล้วกันนะครับเซลล์ทุกเซลล์มันจะมี

00:15:5000:15:52 ชีวิตอยู่รอดได้มันต้องการสารอาหารเพราะ

00:15:5300:15:54 ว่าสารอาหารนั้นน่ะจะเป็นพลังงานในการ

00:15:5400:15:56 ดำเนินชีวิตถูกมั้ยครับเพราะฉะนั้นเนี่ย

00:15:5600:15:59 ทุกเซลล์เนี่ยเาจะมีเซ็นเซอร์อยู่ที่

00:15:5900:16:01 ผิวของเขาเพื่อที่จะดูว่าเฮ้ยตอนเนี้มัน

00:16:0100:16:05 มีสารอาหารเข้ามาในร่างกายเนี่ยเยอะหรือ

00:16:0500:16:07 น้อยนะครับสารอาหารมีอะไรบ้างอ่ะก็คือน้ำ

00:16:0700:16:11 ตาลอะมิโนแอซิดหรือว่าพวกไขมันต่างๆนะ

00:16:1100:16:13 เซลล์จำเป็นต้องรู้ว่ามันมีเยอะมีน้อย

00:16:1300:16:16 แล้วมันก็จะรีบส่งสัญญาณไปบอกเพื่อนๆที่

00:16:1600:16:18 อยู่ภายในเซลลว่าเฮ้ยตอนนี้มีน้ำตาลเยอะ

00:16:1900:16:21 เลยเพราะฉะนั้นเราเตรียมตัวทำงานได้มี

00:16:2100:16:24 พลังงานแน่ๆนะครับพวกเรา Active หรือถ้า

00:16:2400:16:27 เกิดว่าตอนไหนมันจับสัญญาณได้ว่าเฮ้ยเจ้า

00:16:2700:16:29 ของร่างกายไม่กินข้าวเลยอ่ะไม่มีสารอาหาร

00:16:2900:16:32 ล่องรอยอยู่เลยมันก็ต้องรีบไปบอกเพื่อนๆ

00:16:3200:16:34 ภายในเซลล์ว่าเฮ้ยตอนนี้ไม่ค่อยมีสาร

00:16:3400:16:37 อาหารเลยเพราะฉะนั้นเนี่ยเราอาจจะต้องเซฟ

00:16:3700:16:39 แบตเตอรี่นิดนึงมยอะไรที่ยังไม่ต้องทำ

00:16:3900:16:42 เนี่ยเก็บไว้ก่อนเพื่อไม่ให้เราเหนื่อยจน

00:16:4200:16:44 เกินไปเพราะมันไม่มีพลังงานเนาะคิดง่ายๆ

00:16:4400:16:46 เหมือนเราไม่ได้กินข้าวแล้วเราดันฝืนไป

00:16:4600:16:49 ออกกำลังกายเราอาจจะเป็นลมหรือบางคนเนี่ย

00:16:4900:16:51 กินข้าวเยอะเลยแต่ว่าไม่ทำอะไรเลยนะครับ

00:16:5100:16:54 มันก็จะกลายเป็นอ้วนลงพุงได้นะครับหลัก

00:16:5400:16:56 การเดียวกันเลยเพราะฉะนั้นการเซ้นสาร

00:16:5600:16:59 อาหารเนี่ยจึงเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ที่ทำ

00:16:5900:17:00 ให้เซลล์แก่ได้ถ้ามันเซ้นผิดยกตัวอย่าง

00:17:0100:17:03 เช่นถ้าเกิดว่ามีน้ำตาลในเลือดเยอะเลยแต่

00:17:0300:17:06 ว่าไม่เซ้นส์น้ำตาลเครับจนมันดื้อต่อให้

00:17:0600:17:08 มีฮอร์โมนอินซูลินแล้วมันก็ยังดื้อเนี่ย

00:17:0800:17:10 นะครับก็จะทำให้เราเป็นโรคเบาหวานได้นั่น

00:17:1000:17:13 คือคอนเซปของการเซ้นสารอาหารนะครับชื่อ

00:17:1300:17:15 จริงๆของมันทางวิทยศาสตร์ไอ้เจ้าสาเหตุ

00:17:1600:17:18 เนี้ยมันคือ der regulated nutrient

00:17:1800:17:22 sensing นั่นเองครับตัวต่อไปครับตัวที่ 6

00:17:2200:17:26 เรามาที่ก้างปลาครับก้างปลาเนี่ยผมใช้แทน

00:17:2600:17:29 ถึงขยะที่มันจะเกิดขึ้นภายในเซลลล์มาหลาย

00:17:2900:17:31 คนอาจจะไม่รู้นะว่าจริงๆแล้วไอ้ DNA ที่

00:17:3100:17:34 มันออกคำสั่งมาไอ้คำสั่งนั้นน่ะมันคือออก

00:17:3400:17:38 คำสั่งมาเพื่อสร้างโปรตีนใดโปรตีนนึงขึ้น

00:17:3800:17:41 มาภายในเซลล์เพื่อเอาไปใช้งานต่อเอนไซม์

00:17:4100:17:45 ฮอร์โมนสารสื่อประสาทโอ้เยอะแยะมากมายเลย

00:17:4500:17:47 คือโปรตีนทั้งนั้นนะครับแล้วไอ้ DNA นี่

00:17:4700:17:50 แหละจะเป็นตัวกบอกว่าเฮ้ยณเวลาเเราควรจะ

00:17:5000:17:53 สร้างโปรตีนตัวไหนเพื่อไปทำงานทีนี้การ

00:17:5300:17:54 สร้างโปรตีนเนี่ยคิดง่ายๆมันก็เหมือนกับ

00:17:5400:17:56 เรามีโรงงานแล้วก็ต้องการจะผลิตสินค้า

00:17:5600:17:58 ขึ้นมาขายอ่ะบางครั้งเนี่ยการผลิตสินค้า

00:17:5800:18:00 เนี่ยเนี่ยมันก็เกิดข้อผิดพลาดได้แล้วก็

00:18:0000:18:03 กลายเป็นฟคซึ่งสินค้าที่ไม่ผ่าน QC เนี่ย

00:18:0300:18:06 ก็ไม่ถูกส่งไปแล้วครับแล้วก็กลายเป็นขยะ

00:18:0600:18:08 แล้วก็ไม่ได้ถูกเอาไปทำอะไรก็เป็นความ

00:18:0800:18:10 เสียหายที่เกิดขึ้นกับโรงงานเพราะฉะนั้น

00:18:1000:18:12 เช่นกันครับเซลล์ต่อให้อยากจะสร้างโปรตีน

00:18:1200:18:15 ที่มันถูกต้องบางครั้งเนี่ยมันก็สร้าง

00:18:1500:18:18 โปรตีนที่มันเกิดฟคเกิดความเสียหายได้

00:18:1800:18:20 แล้วต้องบอกว่าโปรตีนมัน sensitive มาก

00:18:2000:18:22 ครับหลายคนอาจจะไม่รู้ว่าโปรตีนเนี่ยมัน

00:18:2200:18:25 มีรูปร่างเป็น 3 มิตินะครับซึ่งมันต้อง

00:18:2500:18:28 อยู่ในรูปร่างที่ถูกต้องเป๊ะแบบบิดซ้าย

00:18:2800:18:30 บิดขวาเพี้ยนไปนิดเดียวไม่ได้เลยเมื่อ

00:18:3000:18:32 ไหร่ก็ตามที่โปรตีนเนี่ยรูปร่างมัน

00:18:3200:18:34 เปลี่ยนไปนิดเดียวเนี่ยนะครับฟังก์ชันมัน

00:18:3400:18:36 จะเปลี่ยนคุณสมบัติมันจะเปลี่ยนก็คือมัน

00:18:3600:18:39 จะสูญเสียความสามารถในการทำงานไปเลยนะฮะ

00:18:3900:18:42 ยกตัวอย่างเช่นสมมุติเอนไซม์ในกระเพาะ

00:18:4200:18:44 เนี่ยมันจะทำงานได้ดีในการย่อยก็ต่อเมื่อ

00:18:4400:18:47 กระเพาะมีความเป็นกรดแต่เมื่อไหร่ก็ตาม

00:18:4700:18:50 ที่กระเพาะเราโอโหมันเกิดมีความเป็นด่าง

00:18:5000:18:53 ด้วยความที่เราอาจจะไปกินอะไรอกสักอย่าง

00:18:5300:18:55 นึงที่มันมีความเป็นด่างมากเกินไปอ่ะไอ้

00:18:5500:18:57 เจ้าเอนไซม์ตัวนั้นเมันอาจจะเจอด่างปึ๊บ

00:18:5700:18:59 รูปร่างเปลี่ยนปึ๊บมันก็ไม่สามารถจะเป็น

00:19:0000:19:01 น้ำย่อยแล้วก็ย่อยอาหารให้เราได้แล้วมัน

00:19:0100:19:04 sensitive มากขนาดนั้นเพราะฉะนั้นโอกาส

00:19:0400:19:06 ที่จะเกิดโปรตีนขยะเกิดขึ้นด้วยความผิด

00:19:0600:19:08 พลาดของการฟอร์มรูปร่างของโปรตีนเนี่ยก็

00:19:0800:19:10 ค่อนข้างเยอะแล้วก็กลายเป็นขยะนะครับแน่

00:19:1000:19:13 นอนขยะเหม็นๆมันก็ไม่ดีกับกับใครเลยมันก็

00:19:1300:19:16 ไม่ดีกับเซลล์ด้วยนั้นยิ่งมีขยะเยอะเซลล์

00:19:1600:19:19 ก็จะแก่ไวนะครับชื่อทางการของไอ้เจ้าการ

00:19:1900:19:21 สร้างขยะโปรตีนเนี่ยเขาเรียกว่า loss of

00:19:2100:19:24 prote stasis มันคือการสูญเสียความ

00:19:2400:19:27 สมดุลของการผลิตโปรตีนนั่นเองในเซลล์นะ

00:19:2700:19:30 ครับต่อมาตัวที่ 7 ครับตัวนี้ผมพูดเยอะ

00:19:3100:19:34 มากค่อนข้างเยอะเลยใน Top to นะครับ

00:19:3400:19:35 เกี่ยวข้องกับการสร้างพลังงานมันคือ

00:19:3500:19:38 เกี่ยวกับไมโตคอนเดรียนั่นเองฮะในเซลล์

00:19:3800:19:40 เนี่ยมันจะมีอวัยวะนึงที่สำคัญมากก็คือ

00:19:4000:19:43 ไมโทคอนเดรียทำหน้าที่ในการเปลี่ยนอาหาร

00:19:4300:19:46 ที่เรากินไปเป็นพลังงานหรือว่าแบตเตอรี่

00:19:4600:19:48 นั่นเองนะครับเปรียบเทียบง่ายๆนะทุกคนน่า

00:19:4800:19:51 จะเห็นภาพว่าถ้าเซลล์มีพลังงานเยอะแบบ

00:19:5100:19:53 ชาร์จแบตเต็มอ่ะมันก็มีพลังงานในการทำ

00:19:5300:19:56 นู่นทำนี่ทำนั่นแต่ถ้าเกิดว่าเราแกะขึ้น

00:19:5600:19:59 แกะขึ้นแบตเตอรี่เนี่ยมันดันเสื่อมเนาะ

00:19:5900:20:01 เหมือนเราซื้อมือถือใหม่ๆช่วงแรกมือถือ

00:20:0100:20:03 แบบแบตดีมากเลยใช้ไปสักพักปี 2 ปีแบต

00:20:0400:20:06 เสื่อมชาร์จยังไงเนี่ยก็ชาร์จไม่เข้า

00:20:0600:20:09 เปรียบเทียบได้กับไมโทคอนเดรียที่อายุ

00:20:0900:20:11 เยอะและทำงานได้ไม่มีประสิทธิภาพชาร์จแบต

00:20:1100:20:14 ไม่ค่อยดีเซลล์ก็จะมีพลังงานน้อยลงเมื่อ

00:20:1400:20:16 มีพลังงานน้อยลงเนี่ยมันก็ทำให้เซลล์

00:20:1700:20:18 เนี่ยไม่ Healthy แล้วก็แก่ตายได้นะครับ

00:20:1800:20:20 เพราะฉะนั้นไมโตคอนเดรียเป็นอีกหนึ่ง

00:20:2000:20:24 อวัยวะที่สำคัญมากทีนี้มันก็จะมีความ

00:20:2400:20:26 เกี่ยวเนื่องด้วยเนาะถ้าเกิดว่าบางที

00:20:2600:20:28 เนี่ยในเซลล์เนี่ยมันมีขยะเยอะเกินไป

00:20:2800:20:30 สาเหตุก่อนหน้านี้เนาะการมีขยะเยอะมัน

00:20:3100:20:32 เปลืองแบตเตอรี่อ่ะอ้าวเปลืองแบตเตอรี่

00:20:3200:20:35 ปึ๊บก็ไปเพิ่มโหลดให้กับไมโตคอนเดรียที่

00:20:3500:20:38 ต้องโอ๊ยชาร์จแบตเยอะขึ้นสร้างพลังงาน

00:20:3800:20:41 เยอะขึ้นมันก็จะเสื่อมไวขึ้นทุกอย่าง

00:20:4100:20:43 เนี่ยมันลิงกันหมดเลยเห็นมครับเพราะ

00:20:4300:20:45 ฉะนั้นตัวที่ 7 ที่เป็นต้นตอของความแก่

00:20:4500:20:48 นั้นคือการที่พลังงานภายในเซลล์ไม่พอชื่อ

00:20:4800:20:50 ทางการของมันคือ mitochondrial

00:20:5000:20:52 dysfunction ก็คือกับความเสียหายที่เกิด

00:20:5200:20:54 ขึ้นกับเจ้าไมโตคอนเดรียนั่นเองครับตัว

00:20:5400:20:56 ที่ 8 ลิงกับตัวเมื่อกี้เลยครับเกี่ยว

00:20:5600:20:58 ข้องกับพลังงานเพราะอันเนี้ยมันคือการ

00:20:5800:21:01 เก็บขยะครับคืออ fy นั่นเองที่เราพูดกัน

00:21:0100:21:04 ถึงบ่อยๆนะครับในเซลล์มีขยะเพราะฉะนั้น

00:21:0400:21:08 เซลล์เองก็ต้องมีกระบวนการกำจัดขยะนะครับ

00:21:0800:21:10 ผมเคยเล่าไปเนาะว่าสมมุติเวลาเราทำ If

00:21:1000:21:13 เนี่ยพลังงานมันน้อยลงเมื่อพลังงานในร่าง

00:21:1300:21:15 กายน้อยลงเนี่ยร่างกายก็จะเข้าสู่โหมด

00:21:1500:21:17 ประหยัดพลังงานหรือว่าแบตเตอรี่ Saving

00:21:1700:21:19 พอเข้าโหมดประหยัดพลังงานเมื่อไหร่ปุ๊บ

00:21:1900:21:21 เนี่ยนะครับทีมงานที่เป็นทีมงาน aut fy

00:21:2100:21:24 หรือกำจัดขยะเนี่ยก็จะ Active ขึ้นมาตื่น

00:21:2400:21:29 ขึ้นมาดูซิว่าเฮ้ยมันมีอะไรที่มันกินพลัง

00:21:2900:21:31 งานแต่ว่ามันไม่เกิดประโยชน์กับเราบ้าง

00:21:3100:21:33 เราควรจะต้องกำจัดมันไปเพื่อที่จะได้เซฟ

00:21:3300:21:35 Bat นั่นเองนะครับเพรางั้นเนี่ยไม่ว่าจะ

00:21:3500:21:38 เป็นอวัยวะต่างๆที่มันเสียหายที่มันแก่

00:21:3800:21:40 แล้วไมโทคอนเดรียที่มันทำงานไม่ดีหรือว่า

00:21:4000:21:42 เจอขยะที่เป็นโปรตีนร่องรอยอยู่เต็มเลย

00:21:4200:21:44 เนี่ยไอ้เจ้าพวกเยก็จะต้องลุกขึ้นมาแล้ว

00:21:4400:21:47 ก็คอยปัดกวาดเช็ดถูให้กับเซลล์อยู่เรื่อย

00:21:4700:21:50 ๆยิ่งทีม autopy ทำงานดีเนี่ยเซลล์ก็จะ

00:21:5100:21:53 Healthy มากขึ้นเท่านั้นนั่นเองนะครับ

00:21:5300:21:56 ต่อมาตัวสุดท้ายของ category นี้ตัวที่ 9

00:21:5600:21:59 นะครับผมแทนมาด้วยสัญลักษณ์สปริงนั่นเอง

00:21:5900:22:02 ครับพูดถึงสปริงเนี่ยก็จะเห็นภาพว่ามัน

00:22:0200:22:04 คือความยืดหยุ่นถูกมั้ยครับจริงๆเซลล์

00:22:0400:22:07 เนี่ยเหมือนเหมือนเราเลยอ่ะตอนที่เราตัว

00:22:0700:22:09 เด็กๆเนาะบางทีร่างกายเราจะค่อนข้างยืด

00:22:0900:22:11 หยุดหรือถ้าเราไม่ได้ทำงานหนักเนี่ยเราก็

00:22:1100:22:13 จะรู้สึกสบายเนื้อสบายตัวแต่ถ้าเกิดว่า

00:22:1300:22:16 เราทำงานหนักแบบมากเกินไปแบบนั่งทำงาน

00:22:1600:22:18 ทั้งวันเนี่ยออฟิ Syndrome เนี่ยมาแน่ๆ

00:22:1800:22:21 เพราะฉะนั้นคอบ่าไหล่ตึงมากนะครับเพ

00:22:2100:22:23 ฉะนั้นเราสูญเสียความยืดหยุ่นเซลล์เองก็

00:22:2300:22:26 ไม่ต่างกันนะครับเซลล์ที่หนุ่มๆสาวๆนี่นะ

00:22:2600:22:28 ครับมันจะมีความยืดหยุ่นเยอะเออะเพราะ

00:22:2800:22:31 ฉะนั้นตัวมันเองสามารถที่จะหดเปลี่ยนรูป

00:22:3100:22:34 ร่างจะเดินทางกระดึ๊บกระดึ๊บไปไหนเนี่ยทำ

00:22:3400:22:36 ได้ค่อนข้างคล่องตัวแต่เมื่อไหร่ก็ตามที่

00:22:3600:22:39 เซลล์มันแก่ขึ้นร่างกายมันสิฟขึ้นน่ะมัน

00:22:3900:22:42 แบบเกร็งแข็งแข็งตัวมากขึ้นเพรางั้นตัว

00:22:4200:22:44 มันไม่อ่อนเหมือนเดิมแล้วเพงั้นการ

00:22:4400:22:46 เปลี่ยนรูปร่างทำได้ค่อนข้างยากนะครับ

00:22:4600:22:49 เวลาจะกระดึ๊บกระดึ๊บไปไหนเนี่ยก็โอ้เดิน

00:22:4900:22:52 ช้าต้วมเตี้ยมมากขึ้นซึ่งการที่เซลล์มัน

00:22:5200:22:55 ไม่คล่องตัวเพราะว่า mechanical Property

00:22:5500:22:57 ของมันเปลี่ยนแปลงไปหรือว่าความยืดหยุ่น

00:22:5700:22:59 เปลี่ยนแปลงไปเนี่ยก็ส่งผลเสียกับกับ

00:22:5900:23:02 เซลล์แล้วก็กับร่างกายนะยกตัวอย่างเช่น

00:23:0200:23:04 สมมุติร่างกายเรามีเซลล์ทหารคือเซลล์เม็ด

00:23:0400:23:06 เลือดขาวอย่าเงี้ยโอ้โหเมื่อไหร่ที่เจอ

00:23:0600:23:08 สัญญาณฉุกเฉินเจ้าเมเลขาวเนี่ยต้องรีบ

00:23:0800:23:10 วิ่งไปและไปจัดการกับเชื้อโลกแต่ถ้าเกิด

00:23:1000:23:13 ว่าเซลล์เมเลขาวเรามีแต่เซลล์มเลขาวแก่ๆ

00:23:1300:23:15 ทั้งนั้นเลยที่แบบว่ากว่าจะเดินทางไปที

00:23:1500:23:18 เนี่ยช้าก็สู้เชื้อโลกไม่ทันนั่นคือตัว

00:23:1800:23:22 อย่างว่าทำไมการเคลื่อนที่ความสิฟของ

00:23:2200:23:25 เซลล์เนี่ยมันถึงส่งผลต่อความแก่ชราของ

00:23:2500:23:28 เซลล์แล้วรวมถึงร่างกายได้นะครับนี่ไอ้

00:23:2800:23:31 เจ้าความยืดหยุ่นเนี่ยมันไม่ได้หมายรวม

00:23:3100:23:34 เฉพาะภายในเซลล์นะครับมันยังหมายรวมไปถึง

00:23:3400:23:37 สิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบเซลล์ด้วยหลายคนอาจ

00:23:3700:23:39 จะไม่รู้ว่าเฮ้ยเซลล์ทุกเซลล์ในร่างกาย

00:23:3900:23:42 เนี่ยบางทีบางเนื้อเยื่อหรือบางอวัยวะ

00:23:4200:23:44 เนี่ยเซลล์มันไม่ได้อยู่ติดกันนะบางเนื้อ

00:23:4400:23:46 เยื่ออย่างเช่นเซลล์กระดูกอ่อนหรือว่า

00:23:4600:23:49 เซลล์ผิวหนังบางส่วนเนี่ยเซลล์มันอยู่

00:23:4900:23:52 ห่างกันนะแล้วมันถูกคั่นด้วยสิ่งต่างๆที่

00:23:5200:23:54 ไม่ใช่เซลล์ถามว่าไอ้สิ่งต่างๆที่ไม่ใช่

00:23:5400:23:56 เซลล์คืออะไรชื่อทางการมันคือ Extra

00:23:5600:23:59 Cellular Matrix ซึ่งมีอะไรอะไรบ้างมี

00:23:5900:24:02 คอลลาเจนอยู่ครับหลายคนจะคุ้นเคยคอลลาเจน

00:24:0200:24:04 เนาะมีคอลลาเจนมีไฮยาลูรอนทั้งหลายเนี่ย

00:24:0400:24:06 มันเป็นเหมือนสิ่งแวดล้อมที่อยู่ขั้น

00:24:0600:24:08 เซลล์อยู่รอบๆเซลล์ซึ่งไอ้เจ้าสิ่งแวด

00:24:0900:24:10 ล้อมเหล่านั้นเนี่ยครับถ้ามันมีการ

00:24:1000:24:13 เปลี่ยนแปลงทางคุณสมบัติเนี่ยมันก็สามารถ

00:24:1300:24:15 ที่จะส่งผลกระทบกับเซลล์ได้เนอย่างเช่น

00:24:1500:24:18 คอลลาเจนอย่างเงี้ยที่มันเคยยืดหยุ่นกลาย

00:24:1800:24:20 เป็นคอลลาเจนที่มันแข็งกระด้างไม่ยืด

00:24:2000:24:23 หยุ่นแล้วเนี่ยมันก็ส่งผลต่อสุขภาพของ

00:24:2300:24:25 เซลล์ที่อยู่รอบข้างได้เช่นกันครับเพราะ

00:24:2500:24:27 ฉะนั้นความยืดอยู่ในครอบคลุมทั้งในเซลล์

00:24:2700:24:30 แล้วก็นอกเซลล์ด้วยเราผ่านไปแล้ว 9 ตัวนะ

00:24:3000:24:33 ครับมาที่ catagory สุดท้ายอีก 5 ตัวครับ

00:24:3300:24:35 ถ้าเกิดว่าดูแผนผังประกอบนะครับคราวนี้จะ

00:24:3500:24:37 เห็นว่าเฮ้ยมันเกี่ยวข้องกับไอ้สิ่งที่

00:24:3700:24:40 มันอยู่นอกเซลล์และนะครับมีอะไรบ้างตอน

00:24:4000:24:41 นี้มีสัญลักษณ์ทั้งหมด 5 ตัวตัวแรกคือ

00:24:4100:24:44 สัญลักษณ์คล้ายๆ WiFi นะครับตัวที่ 2 คือ

00:24:4400:24:46 สัญลักษณ์คล้ายๆซอมบี้แล้วทางซ้ายมือ

00:24:4600:24:49 เนี่ยก็มีเหมือนกับเป็นช่างซ่อมมีสัญญาณ

00:24:4900:24:52 ฉุกเฉินแล้วก็มีลำไส้ที่มีแบคทีเรียอยู่

00:24:5200:24:55 นะครับ 5 ตัวนี้เป็นอีก 5 ต้นตอที่ทำให้

00:24:5500:24:58 เซลล์แก่ไปไล่ทีละตัวครับตัวแรกครับผมขอ

00:24:5800:25:01 พูดถึงสัญญาณ WiFi ก่อนแล้วะกันผมเรียก

00:25:0100:25:04 มันว่าเซล Talk หรือว่าการสื่อสารแน่นอน

00:25:0400:25:07 เซลล์ทำงานตัวคนเดียวไม่ได้ต้องทำงานเป็น

00:25:0700:25:10 ทีมนะครับเพราะฉะนั้นการที่มันสามารถจะ

00:25:1000:25:13 สื่อสารกันได้แบบลื่นปื๊ดลื่นไหลเนี่ยมัน

00:25:1300:25:15 ก็ทำให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมาก

00:25:1500:25:18 ยิ่งขึ้นเข้าใจไม่ยากเลยนะครับเพราะ

00:25:1800:25:20 ฉะนั้นสัญญาณ WiFi ที่พูดคุยกันแชทกัน

00:25:2000:25:22 ระหว่างเซลล์เนี่ยเป็นสิ่งที่สำคัญมากยก

00:25:2200:25:25 ตัวอย่างเช่นเวลาที่เกิดภัยร้ายกับร่าง

00:25:2500:25:27 กายเช่นติดเชื้อโรคนะครับเมื่อไหร่ก็ตาม

00:25:2700:25:29 ที่มีเชื้อโรควิ่งเข้ามาปึ๊บทีมงาน immune

00:25:2900:25:31 System ทั้งหมดไม่ได้มีเซลล์ประเภทเดียว

00:25:3100:25:34 ด้วยนะมีเซลล์ตั้งหลายประเภทใน 1 ประเภทเ

00:25:3400:25:36 ก็มีหลายตัวมากๆมันต้องทำงานแล้วก็รีบส่ง

00:25:3600:25:38 สัญญาณไปบอกตัวแรกวิ่งไปปึ๊บมันจะมีตัว

00:25:3800:25:40 ที่เร็วที่สุดที่วิ่งเข้าไปประจันหน้ากับ

00:25:4000:25:42 เชื้อโลกเลยนะครับในขณะที่มันกำลังจัดการ

00:25:4200:25:44 เชื้อโลกอยู่ก็ต้องรีบส่งสัญญาณไปบอก

00:25:4400:25:46 เซลล์อีกประเภทนึงให้เฮ้ยมาตามมาตามมามา

00:25:4600:25:49 จำหน้าตาเชื้อโลกไว้เธอจะได้รู้ว่ารอบ

00:25:4900:25:51 หน้าเธอเจอไอ้หน้าตาแบบนี้อีกเธอจะได้จัด

00:25:5100:25:54 ส่งแิบมาเพื่อจัดการมันต้องพูดคุยกันตลอด

00:25:5400:25:56 เวลาเพราะฉะนั้นถ้าเกิดว่ามันมี No หรือ

00:25:5600:26:00 มีอะไรก็ตามที่มันจะมาขัดขวางสัญญาณที่ทำ

00:26:0000:26:02 ให้มันสื่อสารกันได้ไม่มีประสิทธิภาพ

00:26:0200:26:05 เนี่ยก็จะส่งผลต่อระบบการทำงานของร่างกาย

00:26:0500:26:09 ของเราได้ถามว่านอยคืออะไรนะครับผมแชร์ No

00:26:0900:26:11 นึงง่ายๆที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่คนรู้จัก

00:26:1100:26:13 ดีคือคอลลาเจนแล้วะกันคือเมื่อกี้เล่าไป

00:26:1400:26:16 ว่าเซลล์เนี่ยมันเซลล์บางส่วนเนาะมันถูก

00:26:1600:26:18 คั่นด้วย Extra Cell Matrix ก็คือพวก

00:26:1900:26:21 คอลลาเจนอะไรต่างๆเนี้ยงั้นคอลลาเจนนี่

00:26:2200:26:24 แหละครับมันเป็นหนึ่งใน No ได้เลยถ้าเกิด

00:26:2400:26:26 คอลลาเจนอยู่ในสภาพที่ดีนะครับมันก็จะไม่

00:26:2700:26:29 ขัดขวางการส่งสัญญาณเวลาเซลล์ส่งสัญญาณ

00:26:2900:26:32 เนี่ยมันส่งด้วยด้วยสารเคมีเนาะปล่อยสาร

00:26:3200:26:34 เคมีออกไปเพื่อสารเคมีก็จะวิ่งไปยังเซลล์

00:26:3400:26:36 อีกตัวนึงอีกเซลล์อีกตัวนึงก็จะได้สัญญาณ

00:26:3600:26:38 ถูกมั้ยครับทีนี้บางทีเนี่ยมันเกิดมีสิ่ง

00:26:3800:26:40 กรีดขวางสิ่งกรีดขวางมาจากการที่คอลลาเจน

00:26:4000:26:43 นี่แหละมันดันแบบเฮ้ยอีคนนั้นดันไปกินน้ำ

00:26:4300:26:45 ตาลเยอะแล้วน้ำตาลมาเกาะคอลลาเจนแล้วทำ

00:26:4500:26:47 ให้คอลลาเจนเสื่อมเสียสภาพเขาเรียกว่า

00:26:4700:26:51 กระบวนการไชคอลลาเจนอาจจะแบบหักขึ้นมา

00:26:5100:26:53 แล้วเหมือนกับไปขวางถนนอย่างเงี้ยเพงั้น

00:26:5300:26:55 การส่งสัญญาณการเดินทางของข้อมูลจากเซลล์

00:26:5500:26:59 1 ไปเซลล์นึงเนี่ยมันก็ล่าชะค้าแล้วก็ทำ

00:26:5900:27:01 ให้การทำงานเนี่ยไม่มีประสิทธิภาพแล้วก็

00:27:0100:27:03 ทำให้เซลล์แก่ได้เพราะฉะนั้นการสื่อสาร

00:27:0400:27:05 เป็นอีกหนึ่งต้นเหตุที่ทำให้เซลล์แก่นะ

00:27:0500:27:07 ครับชื่อทางการเรียกว่า alter

00:27:0700:27:10 intercellular Communication ครับตัว

00:27:1000:27:14 ต่อมาครับเป็นตัว SOS แล้วกันนะครับมัน

00:27:1400:27:17 คือการอักเสบเพราะเมื่อกี้กำลังพูดถึงทีม

00:27:1700:27:19 White br Sell เนาะทีมไม่เลขาวเวลาต่อ

00:27:1900:27:21 สู้กับชโลกนะครับถามว่าการอักเสบเนี่ยมัน

00:27:2100:27:24 คืออะไรจริงๆการอักเสบเนี่ยมันเป็นอีก

00:27:2400:27:27 หนึ่งกระบวนการที่ร่างกายใช้ในการต่อสู้

00:27:2700:27:29 เวลาที่ร่างกายได้รับบาดเจ็บได้รับการติด

00:27:2900:27:31 เชื้อเนาะมันเป็นกระบวนการปกป้องของร่าง

00:27:3100:27:35 กายเลยคือสมมุติเรามีแผลอย่างเงี้ยนะครับ

00:27:3500:27:38 มีแผลปึ๊บทีนี้ทีมงานที่เป็นระบบอมู

00:27:3800:27:40 System เนี่ยก็ต้องมาช่วยกันจัดการวิ่ง

00:27:4000:27:44 กรูกันเข้ามาที่แผลนั้นเพื่อที่จะปิดแผล

00:27:4400:27:47 แล้วก็จัดการกับเชื้อโรคที่มันวิ่งเข้ามา

00:27:4700:27:52 ผ่านไอ้ลอยบาทนั้นนะครับถามว่าไอ้เจ้า

00:27:5200:27:54 เม็ดเลือดขาวแล้วมันจะวิ่งกันมาได้ยังไง

00:27:5400:27:58 มันก็ต้องมีสัญญาณไปบอกมันสัญญาณนั้นทั้ง

00:27:5800:28:01 หมดเนี่ยมันสัญญาณการอักเสบก็คือการเรียก

00:28:0100:28:05 รวมพลังของทีมอิมมูนเนี่ยมาที่ใดที่นึง

00:28:0500:28:07 เพื่อจัดการกับอันตรายที่มันกำลังเกิด

00:28:0800:28:09 ขึ้นกับร่างกายนะครับเพราะฉะนั้นจะสังเกต

00:28:0900:28:12 ได้เวลาที่ร่างกายเราเป็นแผลหรืออักเสบ

00:28:1200:28:13 เนี่ยเราจะเห็นว่าตรงบริเวณนั้นเนี่ยมัน

00:28:1300:28:17 จะบวมถามว่าทำไมมันถึงบวมเพราะว่าเลือด

00:28:1700:28:19 มันจะไหลไปตรงนั้นเยอะขึ้นที่มันเลือดไหล

00:28:1900:28:21 เยอะขึ้นเพราะว่าเส้นเลือดมันขยายใหญ่

00:28:2100:28:23 เพื่อให้เมเดขาวมันวิ่งไปตรงนั้นได้เยอะ

00:28:2300:28:24 ขึ้นนะครับมันจะแดงแน่นอนเลือดมันเยอะ

00:28:2400:28:27 ขึ้นมันก็แดงเนาะมันจะร้อนก็เลือดเยอะ

00:28:2700:28:29 ขึ้นโอภูมันก็เลยรร้อนมันก็เลยเป่งมันก็

00:28:2900:28:32 เลยปวดที่มันปวดเพราะมันมีสารเคมีที่เป็น

00:28:3200:28:35 สัญญาณมากมายที่จะไปเรียกทีมกู้ภัยเนี่ย

00:28:3500:28:38 มาช่วยกันดูแลแผลดูแลการติดเชื้อเนี่ยให้

00:28:3800:28:42 มันให้มันทุเลาลงทีนี้โดยปกติแล้วเนี่ย

00:28:4200:28:45 หลังจากที่ทีมกู้ภัยเนี่ยมันจัดการกับ

00:28:4500:28:47 ปัญหาไม่ว่าจะเป็นเชื้อโรคหรือว่าความ

00:28:4700:28:49 เสียหายเนี่ยเสร็จเรียบร้อยแล้วเนี่ย

00:28:4900:28:52 สัญญาณเตือนภัยสัญญาณกู้ภัยทั้งหลายเนี่ย

00:28:5200:28:55 มันควรจะหยุดลงแล้วร่างกายเราควรจะกลับ

00:28:5500:28:58 เข้าสู่ภาวะปกติแต่ถ้าเมื่อไหร่ก็ตาม

00:28:5800:29:00 เนี่ยไอ้เจ้าสัญญาณนี้มันยัง turn on

00:29:0000:29:04 อยู่ตลอดเวลาแล้วก็เรียกไอ้เจ้าทหารออกมา

00:29:0400:29:06 เยอะเลยคราวนี้ททงที่จะออกมาแบบอยู่ใน

00:29:0600:29:09 สภาพปกติเนาะทหารออกมาเป็นกองทัพมาพร้อม

00:29:0900:29:11 รถถังเหมือนกับเป็นการปฏิวัติเกิดขึ้นใน

00:29:1100:29:13 ร่างกายเงี้ยคราวนี้ร่างกายจะเริ่มมี

00:29:1300:29:16 ปัญหาแล้วนะครับเพงั้นตัวอย่างเช่นโรคบาง

00:29:1600:29:19 โรคเนี่ยบางคนเนี่ยแพ้ภูมิตัวเองคือเป็น

00:29:1900:29:22 autoimmune disease ก็คือแบบทีมเม็ด

00:29:2200:29:24 เลือดขาวเนี่ยแทนที่จะไปจัดการกับศัตรู

00:29:2400:29:26 ที่มันวิ่งเข้ามาจากข้างนอกมันเข้าใจผิด

00:29:2600:29:28 ว่าอ้าวไอ้เซลล์ของร่างกายเนี่ยมันคือ

00:29:2800:29:31 สิ่งแปลกปอแล้วดันมาจัดการเซลล์ตัวเอง

00:29:3100:29:34 อันเนี้ยก็คือปัญหาคือมีสัญญาณเตือนภัย

00:29:3400:29:37 ออกมาเรื้อรังต่อเนื่องตลอดเวลาแล้วก็ทำ

00:29:3700:29:39 ร้ายตัวเองได้เพราะฉะนั้นการอักเสียบ

00:29:3900:29:41 เรื้อรังหรือว่า chronic inflammation

00:29:4100:29:43 เนี่ยเป็นอีกหนึ่งต้นตอที่ทำให้เซลล์แก่

00:29:4300:29:46 แล้วก็ร่างกายเราเกิดปัญหาต่างๆตามมานะ

00:29:4600:29:49 ครับตัวที่ 12 นะครับผมแทนด้วยสัญลักษณ์

00:29:4900:29:52 เป็นช่างช่างซ่อมนะครับคือใครผมเปรียบ

00:29:5200:29:55 เทียบช่างซ่อมคือสเต็มเซลครับสเตมเซลล์

00:29:5500:29:57 นี้สำคัญกับร่างกายเรามากๆเลยนะครับเพราะ

00:29:5700:30:00 ว่าสเตมเซลล์ทำหน้าที่ในการผลิตเซลล์ขึ้น

00:30:0000:30:03 มาใหม่ทดแทนเซลล์ที่มันแก่แล้วหรือเซลล์

00:30:0300:30:06 ที่มันเสียหายนะครับมันคือซ่อมร่างกายให้

00:30:0600:30:08 เรานั่นเองหลายคนอาจจะไม่รู้นะว่าตอนที่

00:30:0800:30:11 เราเป็นวัยรุ่นตอนที่เราอายุมากขึ้นแค่

00:30:1100:30:13 เป็นวัยรุ่นเนี่ยนะครับปริมาณสเตมเซลล์ใน

00:30:1300:30:16 ร่างกายเนี่ยมันลดฮวบลงมาเลยนะครับอาจจะ

00:30:1600:30:18 เหลือแค่ 50-60 per เท่านั้นแล้วยิ่งเรา

00:30:1800:30:22 อายุมากขึ้นีมันก็จะลดๆๆๆๆๆลงไปอีกเพราะ

00:30:2200:30:24 ฉะนั้นถ้าเกิดว่ามีสเต็มเซลล์น้อยลงเวลา

00:30:2400:30:28 ที่ร่างกายเราป่วยเซลล์เสียหายเนี่ยมันก็

00:30:2800:30:31 จะแบ่งตัวมาทดแทนได้น้อยลงเวลาที่เราป่วย

00:30:3100:30:34 เราถึงหายช้าลงเวลาที่เราแก่มากขึ้นเพราะ

00:30:3400:30:37 ว่ามีทีมงานที่ทำหน้าที่ในการซ่อมแซม

00:30:3700:30:39 สร้างเซลล์ใหม่มาทดแทนเนี่ยมันน้อยลงไป

00:30:3900:30:41 นั่นเองนะครับนั่นคือ STEM เซลลผมเอง

00:30:4200:30:45 เนี่ยผมอ่าเรียนจบปริญญาเอกมาด้าน

00:30:4500:30:47 สเตมเซลล์โดยเฉพาะนะครับงั้นก็อยู่ในวง

00:30:4700:30:49 การสเตมเซลล์โดยแท้จริงหลายคนก็อาจะเริ่ม

00:30:4900:30:51 เห็นว่าในวงการทางการแพทย์เนี่ยครับมี

00:30:5200:30:54 service ที่เรียกว่า Stemcell therapy

00:30:5400:30:57 หรือว่ามีการฉีดสเตมเซลล์เข้าไปในร่างกาย

00:30:5800:31:00 ไม่ว่าจะเป็นสเตมเซลล์ของคนไข้เองหรือว่า

00:31:0000:31:03 สเตมเซลล์ของคนอื่นหลักการ Stemcell

00:31:0300:31:07 therapy เนี่ยมันคือการเรา suly ช่าง

00:31:0700:31:09 เข้าไปณร่างกายให้มันเยอะขึ้นเยอะขึ้นทด

00:31:0900:31:12 แทนช่างที่มันมีน้อยลงน้อยลงเมื่อเราแก่

00:31:1200:31:14 นั่นเองนะครับยิ่งมีสเตมเซลล์อยู่เยอะ

00:31:1400:31:17 โอกาสที่จะซ่อมแซมร่างกายได้ทันท่วงที

00:31:1700:31:19 ก่อนที่โรคเนี่ยมันจะไปถึงจุดวิกฤตเนี่ย

00:31:1900:31:22 มันก็มีมากขึ้นตามไปด้วยครับตัวที่ 13

00:31:2200:31:24 ครับผมแทนด้วยสัญลักษณ์ซอมบี้อันนี้ใคร

00:31:2400:31:26 ติดตาม To To To ต้องรู้จักเจ้านี่แน่ๆ

00:31:2600:31:29 นะครับมันคือซอมบี้เซลล์ครับซอมบี้เซล์

00:31:2900:31:31 เนี่ยเรียกง่ายๆมันคือเซลล์เพี้ยนเซลล์

00:31:3100:31:33 บ้านะครับคือจริงๆแล้วเนี่ยมันเป็นเซลล์

00:31:3300:31:36 ที่สุขภาพไม่ดีและมันสมควรที่จะตายไปได้

00:31:3600:31:39 แล้วมันแก่แล้วทำงานไม่ได้และแต่มันดัน

00:31:3900:31:43 โกงความตายได้นะครับไม่ทำงานไม่ฟังก์ชัน

00:31:4300:31:46 แต่ก็ไม่ตายด้วยเท่านยังไม่พอเนี่ยมันยัง

00:31:4600:31:49 ทกิกับเพื่อนๆที่อยู่รอบข้างไปด้วยนะครับ

00:31:4900:31:52 เหมือนเราเองน่ะถ้าเกิดว่ามันมีคนท็อกซิก

00:31:5200:31:55 ลายล้อมเราก็คงไม่แฮปปี้เนาะเจ้าซอมบี้

00:31:5500:31:57 เซลล์เนี่ยมันท็อกซิกยังไงมันท็อกซิกด้วย

00:31:5700:31:59 กัน้าส้างสารที่เป็นสารทำให้เกิด

00:31:5900:32:01 inflammation หรือทำให้เกิดการอักเสบ

00:32:0100:32:04 แล้วมันทำให้กระทบเพื่อนบ้านได้ครับเซลล์

00:32:0400:32:07 ที่สุขภาพดีที่อยู่ข้างๆเซลล์ซอมบี้เนี่ย

00:32:0700:32:09 ก็จะซวยไปด้วยเพราะวันนึงเนี่ยก็จะกลาย

00:32:0900:32:11 เป็นเซลล์ซอมบี้ไปด้วยนั่นเองนะครับถาม

00:32:1100:32:13 ว่าเซลล์ซอมบี้เนี่ยมันเกิดขึ้นมาได้ยัง

00:32:1300:32:15 ไงมันมีตัวการเยอะแยะมากมายเลยนะครับ

00:32:1500:32:18 หนึ่งในนั้นคือ Free Radical แล้วกันก็

00:32:1800:32:20 คือสารอนุมูลอิสระถามว่ามีอะไรเป็น Free

00:32:2000:32:22 Radical บ้างแสงแดดก็เป็นนะครับความ

00:32:2200:32:25 เครียดก็เป็นนะฮะหลายอย่างเลยบุหรี่ก็

00:32:2500:32:27 เป็นนะครับสาเหล่าเนี้เป็นรี Radical

00:32:2700:32:29 แล้วสามารถที่จะทำให้เซลล์ๆลนึงเนี่ยจาก

00:32:2900:32:31 ที่มันสุขภาพดีกลายเป็นเซลล์เพี้ยนเซลล์

00:32:3100:32:34 บ้าหรือว่าเซลล์ซอมบี้ได้เราแกะขึ้นเซลล์

00:32:3400:32:37 ซอมบี้ในร่างกายเนี่ยมันมีเยอะขึ้นเยอะ

00:32:3700:32:39 ขึ้นสะสมมากขึ้นนะครับยิ่งเซลล์ซอมบี้มี

00:32:3900:32:42 เยอะมันก็จะส่งผลไปให้อวัยวะนั้นเ่ะเสีย

00:32:4200:32:45 หายได้แล้วถ้าอวัยวะนั้นเสียหายก็จะส่งผล

00:32:4500:32:48 กระทบไปที่ระบบอวัยวะให้มันเสียหายได้

00:32:4800:32:50 เช่นกันนะครับเพราะฉะนั้นวิธีการของเรา

00:32:5000:32:52 คือทำยังไงให้ร่างกายเนี่ยมันกำจัดเซลล์

00:32:5200:32:54 ซอมบี้ให้ได้เยอะมากที่สุด1ึในนั้นก็คือ

00:32:5500:32:58 การพยายามกินอาหารที่มีแอนติ an ออกซิน

00:32:5800:33:00 เข้าไปเยอะๆเพราะแอนตี้ออกซินเนี่ยมันจะ

00:33:0000:33:02 ไปจัดการกับเจ้าี Radical นั่นเองฮะผมเลย

00:33:0200:33:04 พูดถึงเซลล์ซอมบี้อยู่ค่อนข้างเยอะหลายๆ

00:33:0400:33:07 คนน่าจะคุ้นหูนะครับชื่อทางการของเซลล์

00:33:0700:33:09 ซอมบี้เนี่ยครับมันคือสิ่งที่เรียกว่า

00:33:0900:33:12 Cellular sence ก็คือการที่เซลล์เนี่ย

00:33:1200:33:15 มัน Silence มันเงียบคือมันไม่ทำงานแล้ว

00:33:1500:33:18 นั่นเองนะครับสุดท้ายครับเดินมาถึงต้นตอ

00:33:1800:33:22 ตัวที่ 14 นะครับจริงๆเจ้าเนี่ยมันไม่ได้

00:33:2200:33:25 เป็นเซลล์ของเราเองแต่ว่าจริงๆแล้วมันคือ

00:33:2500:33:27 เพื่อนบ้านที่มาอยู่ร่วมกับเรา evolve

00:33:2700:33:29 กันมานานแล้วนะครับคือวิวัฒนาการในการมา

00:33:2900:33:31 อยู่ร่วมกันมานานแล้วมันคือจุลินทรีย์

00:33:3100:33:33 นั่นเองฮะซึ่งเป็นจุลินทรีย์ที่มี

00:33:3300:33:35 ประโยชน์กับร่างกายของเรานะครับส่วนใหญ่

00:33:3500:33:37 จุลินทรียอยู่ตรงไหนอยู่ในแทคที่เป็นทาง

00:33:3700:33:39 เดินอาหารทั้งหมดเราถึงเรียกมันรวมๆว่า

00:33:3900:33:42 God bacteria ชื่อทางการของมันเนี่ยก็

00:33:4200:33:45 คือ Dis biosis Dis biosis แปลว่าเป็น

00:33:4500:33:49 การสูญเสียความสมดุลของไอ้เจ้าจุลินทรีย์

00:33:4900:33:52 ภายในลำไส้ของเรานั่นเองนะครับหลายคนน่า

00:33:5200:33:54 จะเคยได้ยินแล้วว่าลำไส้เป็นสมองส่วนที่ 2

00:33:5500:33:58 แล้วก็จุลินซีในลำไส้อ่ะสำคัญกับสุขภาพ

00:33:5800:34:00 overall ของเรามากนะเพราะมันสามารถที่จะ

00:34:0000:34:04 ทำงานส่งสัญญาณไปทั่วร่างกายเลยนะครับดู

00:34:0400:34:07 แลทุกระบบเลยไม่ว่าจะเป็นสุขภาพของสมอง

00:34:0700:34:10 สุขภาพของอารมณ์สุขภาพของการย่อยอาหาร

00:34:1000:34:14 เรียกได้ว่ามันไปมีส่วนร่วมในการดูแลความ

00:34:1400:34:16 เป็นอยู่ที่ดีของร่างกายของเราทุกระบบเลย

00:34:1600:34:18 นะครับเพราะฉะนั้นตอนที่เราเด็กๆเนี่ย

00:34:1800:34:21 สมดุลของไอ้เจ้าแบคทีเรียเนี่ยมันอยู่ใน

00:34:2100:34:25 สมดุลที่ดีก็คือมีชนิดแลก็ปริมาณของ

00:34:2500:34:28 แบคทีเรียตัวดีเนี่ยอยู่ในสสส่วนที่เหมาะ

00:34:2800:34:30 สมแต่เวลาที่เราโตขึ้นโตขึ้นโตขึ้นเนี่ย

00:34:3100:34:32 เราใช้ชีวิตหนักๆเนาะกินอาหารอาจจะไม่

00:34:3200:34:35 ค่อยดีเท่าไหร่สมดุลของแบคทีเรียเนี่ยมัน

00:34:3500:34:37 ก็สูญเสียไปอาจจะมีแบคทีเรียตัวไม่ดีเยอะ

00:34:3700:34:40 ขึ้นแล้วก็กลายเป็นไป dominate หมู่บ้าน

00:34:4000:34:42 ของแบคทีเรียแล้วก็กลายเป็นคนคุมหมู่บ้าน

00:34:4200:34:45 เป็นอันธพานนะครับก็ไม่ใช่เรื่องดีเลย

00:34:4500:34:49 เป็นเหตุผลว่าทำไมเราถึงจะต้องกินโอติ

00:34:4900:34:51 เติมแบคทีเรียตัวดีเข้าไปรวมไปถึงกิน

00:34:5100:34:54 prebiotics ซึ่งเป็นอาหารของแบคทีเรีย

00:34:5400:34:56 ตัวดีเข้าไปด้วยนะครับเพื่อที่จะไป

00:34:5600:34:58 rebalance หรือว่าทำให้สมดุลของ

00:34:5800:35:01 แบคทีเรียเนี่ยมันเกิดขึ้นอีกครั้งนึง

00:35:0100:35:04 แล้วก็ดูแลให้ไอ้เจ้าหมู่บ้านแบคทีเรีย

00:35:0400:35:06 เนี่ยมันอยู่อย่างสมดุลสม่ำเสมอเพราะมัน

00:35:0600:35:09 ช่วยทำให้ Over Health ของเราเนี่ยมันดี

00:35:0900:35:12 ขึ้นเพราะฉะนั้นการสูญเสียสมดุลของกั

00:35:1200:35:14 แบคทีเรียหรือว่ากัไมโครไบโอมเนี่ยเป็น

00:35:1400:35:17 อีกหนึ่งต้นตอที่ทำให้เซลล์แก่นั่นเอง

00:35:1700:35:21 ครับครบทั้ง 14 ตัวแล้วนะครับหวังว่าทุก

00:35:2100:35:23 คนน่าจะพอเห็นภาพผมพยายามจะเปรียบเทียบ

00:35:2300:35:25 กับสิ่งที่มันอยู่ใกล้ตัวเพื่อให้มันจับ

00:35:2500:35:28 ต้องได้นะครับแต่อยากจะบอกว่า

00:35:2800:35:31 มันจะยังไม่จบแค่ 14 ตัวนี้ครับตอนเฮะนัก

00:35:3100:35:33 วิสาเคก็ยังเก็บข้อมูลไปเรื่อยๆเนาะแล้ว

00:35:3300:35:36 วันนึงเนี่ยเดี๋ยวมันก็จะต้องเจอว่ามันจะ

00:35:3600:35:39 มีต้นตออะไรผุดขึ้นมาอีกแหละที่ณวันนี้

00:35:3900:35:41 มันอาจจะยังไม่ใช่ต้นตอใหญ่แต่ถ้าวันนึง

00:35:4100:35:43 เขาเริ่มเจอแล้วว่าเฮ้ยการที่คนเราเป็น

00:35:4300:35:45 มะเร็งเป็นเบาหวานเป็นความดันเป็นหัวใจ

00:35:4500:35:49 เนี่ยมันมีต้นตอเเป็นคอมอต้นตอร่วมกันเขา

00:35:4900:35:52 ก็จะยกระดับมันขึ้นมาแล้วก็จัดมาเป็นหนึ

00:35:5200:35:54 ใน Hall Mark เพราะฉะนั้นลิของ Hall

00:35:5400:35:56 Mark sub aging เนี่ยมันก็จะไม่หยุด

00:35:5600:35:58 อยู่ที่ 14 ก็จะขยับไปไปที่ 15 16 ไป

00:35:5800:36:00 เรื่อยๆถ้าเกิดมีเพิ่มเดี๋ยวผมมาอัปเดท

00:36:0000:36:04 ให้ฟังนะครับงั้นถามว่าแล้วเรารู้ Hall

00:36:0400:36:07 Mark ไปแล้วมันได้อะไรต้องบอกว่าณวันนี้

00:36:0700:36:10 ถ้าคุณเป็นคนรักสุขภาพเนี่ยจำเป็นมากที่

00:36:1000:36:12 ต้องรู้จัก Hall มาคของความแก่นะครับถ้า

00:36:1200:36:16 รู้แล้วว่า 14 สาเหตุของความแก่คืออะไร

00:36:1600:36:20 เราก็สามารถจะได้ไปจัดการทีละตัวทีละตัว

00:36:2000:36:23 รวมไปถึงเวลาที่เราได้รับข้อมูลของ

00:36:2300:36:25 ผลิตภัณฑ์ต่างๆไม่ว่าจะเป็นสกินแครเค้ามี

00:36:2500:36:28 การเคลมว่าเฮ้ยสกินแครตัวนี้มันไปรักษา

00:36:2800:36:31 ความแก่ที่ต้นตอถ้าเค้าเคลมแบบนั้นแล้วเ

00:36:3100:36:34 มีการเอ่ยถึงไอ้เจ้า 14 สาเหตุตัวใดตัว

00:36:3400:36:37 นึงแล้วอธิบายคุณว่าโอ้ยเามีใส่สารตัวนี้

00:36:3700:36:39 ไปเพื่อไปจัดการตัวนี้เช่นใส่สารตัวนี้ไป

00:36:3900:36:42 เพื่อไปจัดการกับซอมบี้เซลล์นะใส่สารตัว

00:36:4200:36:44 นี้ไปเพื่อไปเติมพลังงานให้กับผิวนะ

00:36:4400:36:47 อันเนี้ยมันก็จะฟังดูน่าสนใจและฟังดูมี

00:36:4700:36:50 หลักการในการพัฒนาผลิตภัณฑ์นั้นแล้วเพิ่ม

00:36:5000:36:52 ความน่าเชื่อถือของผลิตภัณฑ์นั้นได้นะ

00:36:5300:36:55 ครับนั่นคือตัวอย่างง่ายๆเลยว่าทำไมเรา

00:36:5500:36:59 จำเป็นต้องรู้จัก 14 hm of aging และ

00:36:5900:37:02 ใน Episode ต่อๆไปผมจะมาไล่ให้ทุกคนเลยที

00:37:0200:37:05 ละตัวเลยว่าณวันนี้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์

00:37:0500:37:08 เนี่ยมันค้นพบวิธีการยังไงบ้างในการจัด

00:37:0800:37:11 การกับต้นตอของความแก่เรียงตัวทีละตัว

00:37:1100:37:14 แล้วมันมี supplement อะไรไมที่เราสามารถ

00:37:1400:37:17 ที่จะกินได้ดูแลตัวเองได้เพื่อที่จะเอาไป

00:37:1700:37:19 จัดการทีละตัวเดี๋ยวเราไล่ให้ทีละตัวเลย

00:37:2000:37:22 เพราะงั้นรอติดตามนะ

00:37:2200:37:26 ครับ Top to Toe The Standard

00:37:2600:37:31 podcast i Open for