00:00:06 → 00:00:13 [เพลง]
00:00:22 → 00:00:25 ถ้าพูดถึงสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่เป็นต้น
00:00:25 → 00:00:27 เหตุทำให้มนุษย์เราต้องป่วยด้วยโรคภูมิ
00:00:27 → 00:00:31 แพ้และโรคอื่นๆอีกมากมายคงไม่มีใครที่ไม่
00:00:31 → 00:00:40 คิดถึงสัตว์ตัวจิ๋วที่ชื่อว่าไร
00:00:40 → 00:00:43 ฝุ่นคนไทยกว่า 10 ล้านคนป่วยเป็นโรคภูมิ
00:00:43 → 00:00:47 แพ้นอกจากผลเสียทางด้านร่างกายแล้วคนไทย
00:00:47 → 00:00:50 ต้องสูญเสียเงินไปกับค่ายาค่ารักษาพยาบาล
00:00:50 → 00:00:53 จำนวนหลายพันล้านบาทต่อปียังไม่นับรวมถึง
00:00:53 → 00:00:56 ผลเสียที่ส่งผลกระทบต่อการเรียนและการทำ
00:00:56 → 00:01:00 งานตัวไรฝุ่นหรือในภาษาอังกฤษเรียกว่า
00:01:00 → 00:01:04 House Dust M ขนาดของตัวไรฝุ่นมีขนาด
00:01:04 → 00:01:08 เพียง 0.2 - 0.3 มมมีสีขาวคล้ายฝุ่น
00:01:08 → 00:01:12 เคลื่อนที่ค่อนข้างไวอยู่ปะปนในฝุ่นจึง
00:01:12 → 00:01:14 ยากที่จะมองเห็นได้ด้วยตาเปล่ามักอาศัย
00:01:14 → 00:01:18 อยู่ในบริเวณที่มีแสงน้อยชอบความอับชื้น
00:01:18 → 00:01:21 ดำรงชีวิตอยู่ได้โดยกินเศษขี้ไครขี้รังแค
00:01:21 → 00:01:24 หรือสารอินทรีย์ที่คลุกปนอยู่ใน
00:01:24 → 00:01:27 ฝุ่นเจ้าตัวร้ายขนาดจิ๋วสามารถซ่อนตัว
00:01:27 → 00:01:30 อยู่ในทุกที่ภายในบ้านของเราไม่ว่าจะเป็น
00:01:30 → 00:01:36 ที่นอนหมอนผ้าห่มพรมตุ๊กตาหรือวัสดุที่มี
00:01:36 → 00:01:40 เส้นใยโดยไรฝุ่นจะขยายพันธุ์ได้รวดเร็วใน
00:01:40 → 00:01:43 บริเวณที่มีอาหารอุดมสมบูรณ์อุณหภูมิและ
00:01:43 → 00:01:47 ความชื้นเหมาะ
00:01:47 → 00:01:51 สมรายการเล็กๆเปลี่ยนโลกวันนี้จะพาท่าน
00:01:51 → 00:01:54 ผู้ชมไปทำความรู้จักไร่ฝุ่นให้มากยิ่ง
00:01:54 → 00:01:57 ขึ้นตลอดจนวิธีการป้องกันและการกำจัดไร
00:01:57 → 00:02:00 ฝุ่นกับคณะวิจัยของโครงการการศูนย์บริการ
00:02:00 → 00:02:03 และวิจัยไรฝุ่นศิริราชภาควิชาปรสิทธิ์
00:02:03 → 00:02:07 วิทยาคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
00:02:07 → 00:02:08 มหาวิทยาลัย
00:02:08 → 00:02:12 มหิดลศูนย์บริการและวิจัยไรฝุ่นศิริราช
00:02:12 → 00:02:16 เริ่มก่อตั้งเมื่อปีพ.ศ 2540 เพื่อพัฒนา
00:02:16 → 00:02:19 องค์ความรู้เรื่องเกี่ยวกับโรคภูมิแพ้และ
00:02:19 → 00:02:22 การวิจัยไรฝุ่นมากกว่า 10 ปีโดยมี
00:02:22 → 00:02:25 วัตถุประสงค์ในการก่อตั้งเพื่อเป็นกลไกใน
00:02:25 → 00:02:29 การนำองค์ความรู้ตลอดจนคิดค้นนวัตกรรมรวม
00:02:29 → 00:02:31 ถึงผลงานวิจัยที่ประดิษฐ์ขึ้นมาเผยแพร่
00:02:31 → 00:02:35 สู่ประชาชนและสังคมนอกจากนั้นยังขยายผล
00:02:35 → 00:02:39 ต่อผู้ที่สนใจองค์กรเอกชนหน่วยงานต่างๆ
00:02:39 → 00:02:42 เพื่อนำองค์ความรู้และนวัตกรรมขยายผลใน
00:02:42 → 00:02:45 เชิงพาณิชย์อีกด้วยไม่ว่าจะเป็นรูปแบบของ
00:02:45 → 00:02:47 การให้บริการการตรวจวิเคราะห์การให้
00:02:47 → 00:02:50 บริการวิชาการและเป็นแหล่งการเรียนรู้
00:02:50 → 00:02:53 เกี่ยวกับโรคภูมิแพ้และไรฝุ่นอย่างครบวง
00:02:53 → 00:02:57 จรศูนย์บริการและวิจัยไรฝุ่นศิริราชมี
00:02:57 → 00:03:00 พันธกิจในการบริการทางวิชาชาการการเผย
00:03:01 → 00:03:03 แพร่องค์ความรู้สู่สังคมจึงได้เปิดการอบ
00:03:03 → 00:03:06 รมเชิงปฏิบัติการเรื่องไรฝุ่นกับมุมมอง
00:03:07 → 00:03:10 ใหม่ทางธุรกิจเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไป
00:03:10 → 00:03:13 และหน่วยงานภายนอกได้ศึกษาและเรียนรู้ใน
00:03:13 → 00:03:16 ผลงานการวิจัยเกี่ยวกับโรคภูมิแพ้และไร
00:03:16 → 00:03:20 ฝุ่นสำหรับการอบรมในช่วงแรกผู้เข้าอบรม
00:03:20 → 00:03:23 ได้ทำความรู้จักโรคภูมิแพ้และไรฝุ่นให้
00:03:23 → 00:03:26 มากยิ่งขึ้นกับรองศาสตราจารย์แพทย์หญิง
00:03:26 → 00:03:28 อัญชลีตั้งตรงจิตเนื้อหาการอบรมจะเป็น
00:03:28 → 00:03:32 อย่างไรเราไปชมภาพกันครับอันนี้ก็คงมาให้
00:03:32 → 00:03:36 รู้จักโรคภูมิแพ้เลยนะคะว่าเป็นโรคที่
00:03:36 → 00:03:40 เกิดจากการตอบสนองแบบไวเกินนะคะก็คือเวลา
00:03:40 → 00:03:42 เราได้รับเชื้อโรคใช่มั้ยคะเราก็จะติด
00:03:42 → 00:03:45 เชื้อแต่อันนี้เนี่ยมันไม่ใช่เชื้อโรค
00:03:45 → 00:03:47 เป็นสิ่งที่อยู่ในธรรมชาติที่เราเรียกว่า
00:03:47 → 00:03:51 สารก่อภูมิแพ้นะคะถ้าเป็นคนปกติได้รับสาร
00:03:51 → 00:03:54 ก่อภูมิแพ้เข้าไปเนี่ยก็จะไม่เกิดอาการใด
00:03:54 → 00:03:58 ๆนะคะแต่ในกลุ่มที่มีปัจจัยเสี่ยงที่จะ
00:03:58 → 00:04:01 เกิดโรคภูมิแพ้เนี่ยถ้าตามลำดับขั้นตอนใน
00:04:02 → 00:04:04 ทางวิทยาภูมิคุ้มกันจะต้องมีการกระตุ้น
00:04:04 → 00:04:07 ครั้งที่ 1 ครั้งที่ 2 นะคะจนกระทั่งเกิด
00:04:07 → 00:04:10 มีเซลล์ที่จำได้นะคะว่าอันเนี้ยเป็นสาร
00:04:10 → 00:04:13 ก่อบภูมิแพ้เพราะงั้นเมื่อได้รับซ้ำอีกที
00:04:14 → 00:04:17 นึงเนี่ยก็จะไปกระตุ้นให้เซลล์ต่างๆใน
00:04:17 → 00:04:21 ร่างกายหลั่งสารเคมีออกมามากมายเลยนะคะ
00:04:21 → 00:04:24 หลายชนิดแต่ตัวนึงที่มีความสำคัญก็คือตัว
00:04:24 → 00:04:28 ฮิสตามีนนะคะที่เราแบบเวลาเราบอกว่ามี
00:04:28 → 00:04:30 อาการแล้วเรากินยาแก้แพแพ้แอนตี้ฮิสตามีน
00:04:30 → 00:04:33 เพราะว่าเราจะไปยับยั้งสารตัวเนี้ยเพื่อ
00:04:33 → 00:04:37 ลดอาการนะคะวัตถุประสงค์ของการจัดอบรมใน
00:04:37 → 00:04:40 วันนี้นะคะเพื่อให้ภาคเอกชนเนี่ยค่ะหรือ
00:04:40 → 00:04:44 บุคคลทั่วๆไปได้มีความรู้เกี่ยวกับโรค
00:04:44 → 00:04:47 ภูมิแพ้ไรฝุ่นนะคะแล้วที่สำคัญก็คือ
00:04:47 → 00:04:51 เรื่องของการนำองค์ความรู้ไปพัฒนาเพื่อ
00:04:51 → 00:04:55 ให้ได้เอ่อผลิตภัณฑ์ดีๆมาใช้กับประชาชน
00:04:55 → 00:04:58 รวมทั้งเอ่อให้กับผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ด้วย
00:04:58 → 00:05:01 แล้วเราก็ยังมองอีกนะคะว่าในหน่วยงานของ
00:05:01 → 00:05:05 โรงพยาบาลเนี่ยเราก็จะมีการติดต่อโดยตรง
00:05:05 → 00:05:08 กับผู้ป่วยแต่เราคิดว่าภาคเอกชนเนี่ยจะ
00:05:08 → 00:05:12 ได้ติดต่อโดยตรงกับประชาชนทั่วๆไปซึ่งถ้า
00:05:12 → 00:05:15 เขามีความรู้ที่ถูกต้องก็สามารถนำความรู้
00:05:15 → 00:05:19 เนี่ยไปเผยแพร่กับลูกค้าหรือประชาชนทั่วๆ
00:05:19 → 00:05:22 ไปได้ค่ะแล้วเราเกิดโรคภูมิแพ้ได้อย่างไร
00:05:22 → 00:05:26 นะคะปัจจุบันเนี่ยเราพบว่าโรคภูมิแพ้เกิด
00:05:26 → 00:05:30 จากปัจจัยร่วมนะคะจากปัจจัยทางพันธุกก
00:05:30 → 00:05:33 ร่วมกับสิ่งแวดล้อมนะคะเพราะฉะนั้นปัจจัย
00:05:33 → 00:05:36 ทางพันธุกรรมเนี่ยก็ขึ้นอยู่กับอะไรคะคุณ
00:05:36 → 00:05:39 พ่อคุณแม่ใช่มั้ยคะมีการศึกษาว่าถ้าทั้ง
00:05:39 → 00:05:42 พ่อและแม่เป็นลูกเนี่ยมีโอกาสเสี่ยงที่จะ
00:05:42 → 00:05:46 เกิดเป็นโรคภูมิแพ้ได้ถึง 70% นะคะแต่ถ้า
00:05:46 → 00:05:49 เป็นคุณพ่อหรือคุณแม่ท่านใดท่านหนึ่งอัน
00:05:49 → 00:05:51 นี้ก็อาจจะประมาณครึ่งนึงเท่านั้นเองใน
00:05:51 → 00:05:55 กรณีที่ไม่มีประวัตินะคะปัจจุบันเราพบว่า
00:05:55 → 00:05:58 ไม่มีประวัติก็อาจจะเป็นโรคภูมิแพ้ได้ถึง
00:05:58 → 00:06:00 20% นะคะคะตรงนี้ก็จะเห็นว่าเป็น
00:06:00 → 00:06:04 เปอร์เซ็นต์ที่ค่อนข้างสูงนะคะปัจจัยทาง
00:06:04 → 00:06:07 สิ่งแวดล้อมนี่มีหลากหลายเลยนะคะปัจจุบัน
00:06:07 → 00:06:09 เนี่ยบอกว่าอะไรคะโรคภูมิแพ้เป็นโรคฮิต
00:06:09 → 00:06:12 ของคนรวยใช่มั้จริงๆแล้วเป็นเพราะอะไร
00:06:12 → 00:06:15 ครับเป็นเพราะว่าปัจจุบันมียาปฏิชีวนะ
00:06:15 → 00:06:19 เนาะมีแวกซี่ดีขึ้นโอกาสในการติดเชื้อ
00:06:19 → 00:06:22 เป็นยังไงคะลดลงนะคะเซลล์ที่เกี่ยวกับโรค
00:06:22 → 00:06:25 ภูมิแพ้ก็ทำงานเด่นขึ้นก็มีโอกาสแล้ว
00:06:25 → 00:06:28 ปัจจุบันเราก็จะอยู่ในที่พักอาศัยเยอะใช่
00:06:28 → 00:06:31 มั้ยคะไม่ค่อยเป็นไปเล่นตามข้างนอกเพราะ
00:06:31 → 00:06:34 มันร้อนอยู่ห้องแอร์เราก็มีโอกาสที่จะได้
00:06:34 → 00:06:37 รับสารก่อภูมิแพ้ซึ่งอยู่ในบ้านเราเนี่ย
00:06:37 → 00:06:41 นะคะเป็นปัจจัยสำคัญนะคะที่จะกระตุ้นให้
00:06:41 → 00:06:45 เราเกิดอาการได้นะคะความสำคัญของโรคภูมิ
00:06:45 → 00:06:48 แพ้ไรฝุ่นณปัจจุบันนะคะคงเป็นที่ทราบกัน
00:06:48 → 00:06:51 ดีแล้วว่าปัจจุบันมีประชากรนะคะเป็นโรค
00:06:51 → 00:06:54 ภูมิแพ้สูงมากขึ้นเรื่อยๆนะคะแล้วสิ่งที่
00:06:54 → 00:06:57 ตามมาก็คือเรื่องของการเป็นโรคภูมิแพ้ไร่
00:06:57 → 00:07:00 ฝุ่นนะคะตรงนี้ก็เพิ่มจำนวนมากขึ้นด้วย
00:07:00 → 00:07:04 ประชากรในคนไทยอ่ะค่ะประมาณการว่าน่าจะ
00:07:04 → 00:07:07 มากกว่า 15 ล้านคนในแต่ละปีเนี่ยเราก็จะ
00:07:07 → 00:07:11 สูญเสียค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษามากกว่า
00:07:11 → 00:07:14 2,000 ล้านบาทแล้วก็เป็นโรคที่เป็นเรื้อ
00:07:14 → 00:07:17 รังเพราะฉะนั้นเอ่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย
00:07:17 → 00:07:21 ก็จะขาดประสิทธิภาพในการทำงานมีคุณภาพ
00:07:21 → 00:07:24 ชีวิตที่ลดลงนะคะแล้วเราแพ้อะไรกันคะอัน
00:07:24 → 00:07:27 นี้ก็เป็นสารก่อภูมิแพ้ที่พบได้บ่อยแล้ว
00:07:27 → 00:07:30 ก็เป็นสาเหตุสำคัญอันดับ 1 ก็ต้องเป็นตัว
00:07:31 → 00:07:33 ที่เราเลือกเลิกศึกษาก่อนเลยก็คืออะไรคะ
00:07:33 → 00:07:39 ไรฝุ่นใช่มั้ยคะเดินมา 100 คน 80 คนจะแพ้
00:07:39 → 00:07:44 ไรฝุ่นนะคะอีกประมาณ 40 คนแพ้แมลงสาบอัน
00:07:44 → 00:07:47 นี้ก็เป็นขนสัตว์เลี้ยงนะคะแล้วก็เป็น
00:07:47 → 00:07:51 เรื่องของอาหารรองเกสรนะคะที่ฟุ้งกระจาย
00:07:51 → 00:07:54 รวมทั้งเชื้อราที่อยู่ในบ้านเราหรือว่า
00:07:54 → 00:07:57 นอกบ้านก็เป็นไปได้ด้วยนะคะประมาณ
00:07:57 → 00:08:01 10% แต่ในการทำสถิติอันนี้นะคะต้องเรียน
00:08:01 → 00:08:03 อย่างนี้นะคะว่าผู้ป่วยในแต่ละรายอาจจะ
00:08:03 → 00:08:05 ไม่ได้แพ้ตัวเดียวใช่มั้ยคะแต่อันนี้เป็น
00:08:05 → 00:08:09 สถิติว่าในผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ 100 คนเนี่ย
00:08:09 → 00:08:12 จะแพ้ไรฝุ่นกี่เปอร์เซ็นต์แพ้แมลงสระกี่
00:08:12 → 00:08:15 เปอร์เซ็นต์นะคะอันนี้ก็เป็นสาเหตุที่เรา
00:08:15 → 00:08:18 ได้รับนะคะสารกร่อภูมิแพ้เพราะว่าตัวไร
00:08:18 → 00:08:22 ฝุ่นอยู่ใกล้ชิดเรานะคะอยู่ในที่นอนแล้ว
00:08:22 → 00:08:25 ก็หายใจเอาสารก่อบภูมิแพ้เข้าไปแบบนี้นะ
00:08:25 → 00:08:30 คะหรือเล่นหรือมีการฟุ้งกระจายอยู่ในที่
00:08:30 → 00:08:34 พักอาศัยก็เป็นเอ่อเป็นแหล่งที่เราสูดดม
00:08:34 → 00:08:37 หรือได้รับสารเกาะภูมิแพ้แล้วไปกระตุ้น
00:08:37 → 00:08:40 ให้เกิดโรคภูมิแพ้ไรฝุ่นนะคะเพราะฉะนั้น
00:08:40 → 00:08:45 จริงๆแล้วเนี่ยการเกิดโรคภูมิแพ้ไรฝุ่น
00:08:45 → 00:08:49 ไม่ได้เกิดจากตัวไรฝุ่นมากัดมาต่อยมาฝัง
00:08:49 → 00:08:52 ที่ผิวหนังนะคะเกิดจากการที่เราได้รับ
00:08:52 → 00:08:56 โปรตีนนะคะจากตัวไรฝุ่นที่เราเรียกว่าสาร
00:08:56 → 00:08:59 ก่อภูมิแพ้ไรฝุ่นนะคะพอได้รับับไปแล้ว
00:08:59 → 00:09:03 เนี่ยไปกระตุ้นให้ภูมิคุ้มกันนะคะในร่าง
00:09:04 → 00:09:08 กายของเราเนี่ยนะคะทำปฏิกิริยาตอบสนองแบบ
00:09:08 → 00:09:11 ไวเกินแล้วก็จะมีการสร้างสารที่มีความ
00:09:11 → 00:09:13 จำเพาะอันนี้ก็จะมีชื่อเรียกยากนิดนึงเรา
00:09:13 → 00:09:16 เรียกว่าอิมมูโนกอบลิน E หรือเราเรียกว่า
00:09:16 → 00:09:19 IG โรคภูมิแพ้จะต้องมีตัวเนี้ยค่ะเป็น
00:09:19 → 00:09:23 ตัว IG เนี่ยนะคะเป็นตัวสำคัญที่จะทำให้
00:09:23 → 00:09:27 เกิดโรคนะคะอันนี้ก็จะเกิดโรคภูมิแพ้ไร
00:09:27 → 00:09:29 ฝุ่นอันนี้เข้าใจตรงกันแล้วนะคะทำให้เกิด
00:09:29 → 00:09:33 อาการอะไรได้บ้างนะคะก็หลักๆจะมี 4 โรค
00:09:33 → 00:09:36 หลักนี้นะคะที่จมูกที่ทางเดินหายใจส่วน
00:09:36 → 00:09:40 ล่างนะคะแล้วก็ไปที่ตาใช่มั้ยคะแล้วก็
00:09:40 → 00:09:43 ผื่นผิวหนังอันนี้ก็จะเป็นโรคที่พบได้
00:09:43 → 00:09:46 บ่อยนะคะเราลองมารู้จักรายละเอียดนิดนึง
00:09:47 → 00:09:51 นะคะตัวนี้มีอาการได้ 2 แบบนะคะแบบนึงก็
00:09:51 → 00:09:54 คือเป็นตลอดทั้งปีกับเป็นเฉพาะฤดูกาลนะคะ
00:09:54 → 00:09:57 อันนี้เป็นโรคภูมิแพ้ได้ทั้ง 2 ชนิดแต่
00:09:57 → 00:10:01 ที่เราเจอเนี่ยมักจะเป็นตลอดทั้งปีก็จะ
00:10:01 → 00:10:04 เกิดจากการแพ้สารลก่อภูมิแพ้ที่อยู่ใน
00:10:04 → 00:10:07 บ้านที่เป็นตลอดทั้งปีแต่ถ้าเกิดเป็นตาม
00:10:07 → 00:10:10 ฤดูกาลก็จะเป็นเรื่องของการแพ้พวกอะไรคะ
00:10:10 → 00:10:14 รองเกสรซึ่งจะมาเป็นหน้าๆใช่มั้ยคะอย่าง
00:10:14 → 00:10:17 ในเมืองนอกเนี่ยจะเยอะมากแต่ว่าบ้านเรา
00:10:17 → 00:10:20 นี้ก็เริ่มมีมากขึ้นนะคะแต่ว่าเรายังเป็น
00:10:20 → 00:10:24 กลุ่มที่มีอาการตลอดทั้งปีอยู่นะคะนี่เลย
00:10:24 → 00:10:27 ค่ะอาการสำคัญรูปนี้ก็จะทำให้ท่านจำได้นะ
00:10:27 → 00:10:32 ต้องแบบจมูกแน่นตลอดเวลาน้ำมูกไหลไอจาม
00:10:32 → 00:10:35 เป็นชุดๆนะคะมีอาการ 3 อย่างเยนะคะนึกถึง
00:10:35 → 00:10:39 ได้เลยแต่ที่สำคัญก็คือจะมีภาวะแทรกซ้อน
00:10:39 → 00:10:42 นะคะตามมาพวกไซนัสอักเสบเพราะฉะนั้นเวลา
00:10:42 → 00:10:46 เนี้ยปัจจุบันนี้นะคะถ้าเราเป็นไซนัสยิ่ง
00:10:46 → 00:10:50 โดยเฉพาะเรื้อรังเนี่ยนะคะคุณหมอจะต้อง
00:10:50 → 00:10:53 ถามสาเหตุเลยว่ามีเกี่ยวกับโรคภูมิแพ้
00:10:53 → 00:10:55 หรือเปล่าเพราะว่าเป็นสาเหตุสำคัญใน
00:10:55 → 00:10:59 ปัจจุบันนะคะเป็นที่มาของหูอักเสบเพราะ
00:10:59 → 00:11:02 เป็นไงคะจมูกก็ต่อไปที่หูใช่มั้ยคะแล้วก็
00:11:02 → 00:11:05 มีติ่งเนื้อได้นะคะที่เรียกว่าฤทธสีดวง
00:11:05 → 00:11:09 จมูกนะคะอันนี้ถ้าเราหายใจลงลึกลงไปเนี่ย
00:11:09 → 00:11:12 นะคะจะไปกระตุ้นทำให้หลอดหลอดลมเนี่ยติด
00:11:12 → 00:11:16 แคบถ้าหลอดลมปกติก็หายใจโล่งดีใช่มั้ยคะ
00:11:16 → 00:11:20 แต่ถ้ามีอาการเกิดขึ้นก็จะมีอาการหลอดลม
00:11:20 → 00:11:24 หดเกร็งนะคะอันนี้ติดแคบแล้วก็มีโมกมาก
00:11:24 → 00:11:27 ขึ้นแล้วก็เวลาคนไข้ที่หอกมาโรงพยาบาลเรา
00:11:27 → 00:11:30 จะได้ยินเสียงหายใจวีดเพราะว่าอากาศที่
00:11:31 → 00:11:35 ผ่านหลอดลมมันไปได้ยากกว่าปกตินะคะอันนี้
00:11:35 → 00:11:38 อันนี้ที่ตาก็จะเจอได้บ้างในบางรายนี่เรา
00:11:39 → 00:11:42 เจอเป็นเม็ดๆแบบนี้เลยนะคนไข้จะน้ำตาลไหล
00:11:42 → 00:11:45 ตลอดเวลาทรมานมากนะ
00:11:45 → 00:11:49 คะที่ผื่นผิวหนังนี่ก็ไม่มากประมาณ 10%
00:11:49 → 00:11:52 นะคะทาวนี้เราจะวินิจฉัยว่าเป็นโรคภูมิ
00:11:53 → 00:11:55 แพ้ประวัติแล้วตรวจร่างกายแล้วการทดสอบ
00:11:55 → 00:11:58 ค่ะเราจะต้องทดสอบด้วยวิธีการสะกิดที่เรา
00:11:59 → 00:12:01 เรียกเรียกว่า Skin prick Test นะคะก็
00:12:01 → 00:12:04 จะดูว่าผู้ป่วยแพ้อะไรนะคะอันนี้ให้มาดู
00:12:04 → 00:12:06 รายละเอียดนิดนึงเพราะว่าถ้าเกิดมีผู้
00:12:06 → 00:12:09 ป่วยถามก็จะมีความรู้ตรงนี้ใช่มั้ยคะว่า
00:12:09 → 00:12:13 เราจะสะกิดผิวหนังนะคะแต่ที่สำคัญก่อนที่
00:12:13 → 00:12:16 จะทำการทดสอบต้องงดยาลดน้ำมูก
00:12:16 → 00:12:19 แอนตี้ฮิสตามีนอย่างน้อย 7 วันแต่บางราย
00:12:19 → 00:12:22 ผู้ป่วยไม่สามารถหยุดยาได้นานขนาดนั้นก็
00:12:22 → 00:12:26 อาจจะอนุโลมเป็น 3 วันนะคะมีคนไข้ถามว่า
00:12:26 → 00:12:28 เจ็บมั้ยคะจริงๆแล้วเอาเข็มสะกิดเนื้อมัน
00:12:29 → 00:12:31 ก็เจ็บเนาต้องวงเล็บว่าเจ็บไม่มากนะคะไม่
00:12:31 → 00:12:35 เหมือนฉีดยาแล้วก็บริเวณทดสอบถ้าเป็นเด็ก
00:12:35 → 00:12:37 เราก็จะทำที่หลังนะคะถ้าเป็นผู้ใหญ่ก็ทำ
00:12:37 → 00:12:40 ที่ท้องแขนหยดน้ำยาลงไปอย่างนี้แล้วก็
00:12:40 → 00:12:44 สะกิดนะคะแล้วก็ดูผลแบบนี้ค่ะอันนี้ก็จะ
00:12:44 → 00:12:47 มีอาการแพ้ใช่มมคะมีตุ่มนูนแล้วก็เป็นผืน
00:12:47 → 00:12:50 แดงเราก็จะวัดขณะตรงเนี้ยเพื่อจะบอกว่า
00:12:50 → 00:12:53 แพ้หรือไม่แพ้แล้วก็แพ้ตัวอะไรนะคะอันนี้
00:12:53 → 00:12:56 เป็นการตรวจเรื่องเอ่อเรื่องการเอ่อ
00:12:56 → 00:13:00 Contact เมาติการผิวอักเสบจากการสัมผัส
00:13:00 → 00:13:03 นะคะก็จะมีการแปะที่หลังแบบนี้อันนี้ก็
00:13:03 → 00:13:06 เป็นภาพรวมของการทดสอบแต่ในบางลยทำไมคะ
00:13:06 → 00:13:09 ไม่รักษาได้มยคะปล่อยให้แน่นจมูกไปเรื่อย
00:13:09 → 00:13:13 ๆผลกระทบระยะยาวก็คือเรื่องของไซนัส
00:13:13 → 00:13:17 อักเสบนะคะบางรายอาจจะเกิดถุงลมโป่งพอง
00:13:17 → 00:13:21 ได้นะคะมีเรื่องของการเจริญเติบโตช้าขาด
00:13:21 → 00:13:24 เรียนบ่อยตรงนี้สำคัญมากเพราะว่ามันเป็น
00:13:24 → 00:13:28 โรคเรื้อรังก็จะเป็นผลกระทบระยะยาวนะคะ
00:13:28 → 00:13:31 เรารักษายังไงก็จะต้องเรื่องของการควบคุม
00:13:31 → 00:13:35 สิ่งแวดล้อมนะคะแต่ผู้ป่วยเป็นไงคะมาหา
00:13:35 → 00:13:38 เรานี่แน่นจมูกแล้วเราจะต้องเริ่มให้การ
00:13:38 → 00:13:41 รักษาด้วยยาแล้วก็ถึงจะให้เรื่องของคำแนะ
00:13:41 → 00:13:47 นำนะคะในบางรายนะคะที่การดูแลรักษาด้วยยา
00:13:47 → 00:13:50 ไม่ผลไม่ได้รับผลดีเพียงพอไม่ตอบสนองมี
00:13:50 → 00:13:54 อาการหอบบ่อยๆนะคะรักษาไม่ดีก็จำเป็นที่
00:13:54 → 00:13:58 จะมีข้อบ่งชี้ที่จะต้องมีการให้วัคซีน
00:13:58 → 00:14:01 บำบัดนะคะหรือภูมิคุ้มกันบำบัดที่ก็คือ
00:14:01 → 00:14:06 การฉีดแวกซี่ไรฝุ่นนั่นเองนะคะต้องชี้แจง
00:14:06 → 00:14:09 นิดนึงนะคะว่าการฉีดวัคซีนโรคภูมิแพ้
00:14:09 → 00:14:12 เนี่ยจะแตกต่างจากการฉีดวัคซีนโรคติด
00:14:12 → 00:14:15 เชื้ออันนี้ไม่ได้เป็นการฉีดเพื่อป้องกัน
00:14:15 → 00:14:19 โรคแต่เป็นการฉีดเพื่อให้ผู้ป่วยมีความ
00:14:19 → 00:14:23 คุ้นเคยกับสารก่อภูมิแพ้นั้นๆเมื่อได้รับ
00:14:23 → 00:14:27 หรือว่าสัมผัสก็จะมีอาการก่อโรคภูมิแพ้
00:14:27 → 00:14:31 น้อยลงไปเรื่อยๆจนกระทั่งอาจจะในบางราย
00:14:31 → 00:14:35 นี่ก็จะดีขึ้นนะคะหรือหายขาดได้ถึง 30%
00:14:35 → 00:14:36 ค่ะ
00:14:36 → 00:14:41 [เพลง]