00:00:00 → 00:00:03 This Is Thai PBS podcast View the
00:00:03 → 00:00:05 world vi The
00:00:05 → 00:00:08 Voice ภาวะหยุดหายใจในขนานหลับจากการอุด
00:00:08 → 00:00:10 กั้นซึ่งส่วนใหญ่แล้วเองก็มักจะเป็นจากคน
00:00:10 → 00:00:12 ที่มีโครงสร้างของเดิหัวใจค่อนข้างแคบ
00:00:12 → 00:00:15 เช่นคนที่อ้วนกรีของคนไข้เด็กก็จะเป็นใน
00:00:15 → 00:00:17 ส่วนของเด็กที่มีคอนซินมีขนาดใหญ่ๆหรือ
00:00:17 → 00:00:20 พุกต่อมอดีนอยที่อยู่ข้างในคอมีขนาดค่อน
00:00:20 → 00:00:22 ข้างใหญ่ตัวโรคเครับมันเกิดจากการที่ว่า
00:00:22 → 00:00:24 ทางเดินหายใจส่วนบนนะครับบริเวณคอหอย
00:00:24 → 00:00:27 เนี่ยนะครับมันสามารถที่จะมีการยุบตัวใน
00:00:27 → 00:00:29 ขณะที่เราหลับได้ซึ่งในบางครั้งเองเนี่ย
00:00:29 → 00:00:31 มันอาจสามารถที่จะปิดและอุดกั้นทำให้เรา
00:00:31 → 00:00:35 หยุดหายใจไปชั่วคราวได้ในในช่วง
00:00:35 → 00:00:39 นั้นฟังทุกเรื่องสุขภาพอัปเดตทุกโรคไทย
00:00:39 → 00:00:42 ฟังรายการโรงหมอกับดิฉันสุรีพรวงษ์สถิตพร
00:00:42 → 00:00:46 ค่ะ This Is Toy PBS podcast เอาล่ะ
00:00:46 → 00:00:49 ค่ะคุณผู้ฟังคะวันนี้เราจะมาพูดคุยกันถึง
00:00:49 → 00:00:53 เรื่องของภาวะหยุดหายใจขณะหลับนะคะซึ่ง
00:00:53 → 00:00:56 เป็นอีกภาวะนึงค่ะที่มีความเสี่ยงถึงขั้น
00:00:56 → 00:00:58 เสียชีวิตได้เหมือนกันเดี๋ยววันนี้เรามา
00:00:58 → 00:01:01 ฟังกันนะคะว่าสาเหตุเหตุเกิดจากอะไรแล้ว
00:01:01 → 00:01:05 ก็วิธีการรักษาจะหายมยนะคะแล้วจะทำยังไง
00:01:05 → 00:01:08 เอ่อที่เราจะไม่ต้องมีความเสี่ยงกับภาวะ
00:01:08 → 00:01:11 หยุดหายใจขนาดหลับแบบนี้นะคะเดี๋ยววันนี้
00:01:11 → 00:01:13 เราคุยกับรองศาสตราจารย์ดรนายแพทย์
00:01:14 → 00:01:16 วรสิทธิ์สิริพรพาณิชย์ศูนย์วิจัยปราสาท
00:01:17 → 00:01:19 วิทยาศาสตร์สถาบันชีววิทยาศาสตร์โมเลกุล
00:01:19 → 00:01:22 มหาวิทยาลัยมหิดลค่ะสวัสดีค่ะคุณหมอคะ
00:01:22 → 00:01:25 สวัสดีครับค่ะคุณหมอคะวันนี้คุยกันถึง
00:01:25 → 00:01:28 เรื่องของภาวะหยุดหายใจขนาดหลับนี้นะคะ
00:01:28 → 00:01:32 ซึ่งก็เคยได้ยินมีหลายๆคนเขามีความเสี่ยง
00:01:32 → 00:01:35 ต่อภาวะนี้เหมือนกันแต่เขามีความไม่แน่ใจ
00:01:35 → 00:01:38 ว่าเอ๊ะมันใช่หรือไม่ใช่เดี๋ยวขออนุญาต
00:01:38 → 00:01:40 เรียนถามคุณหมอเลยทำความเข้าใจกันแล้ววัน
00:01:40 → 00:01:42 นี้เราจะได้ความรู้กันไปด้วยนะคะเรื่อง
00:01:42 → 00:01:46 ของภาวะหยุดหายใจขนาดหลับเนี่ยสาเหตุมัน
00:01:46 → 00:01:48 เกิดจากอะไรแล้วมันอาการลักษณะมันเป็นยัง
00:01:48 → 00:01:52 ไงบ้างอ่ะคะครับผมก็ตัวโรคนี้ครับชื่อ
00:01:52 → 00:01:55 เต็มๆของมันคือภาวะหยุดหายใจในขณาหลับจาก
00:01:55 → 00:01:57 การอุดกั้นครับหมายความว่ามันต้องมีการ
00:01:57 → 00:02:00 อุดกั้นทางเดือนหายใจส่วนบนฮะซึ่งส่วน
00:02:00 → 00:02:02 ใหญ่แล้วเองก็มักจะเป็นจากคนที่อาจจะมี
00:02:02 → 00:02:05 โครงสร้างของเดิหายใจค่อนข้างแคบนะครับ
00:02:05 → 00:02:08 เช่นคนที่อ้วนอืนะครับหรือว่าถ้าเป็นกกณี
00:02:08 → 00:02:10 ของคนไข้เด็กก็าจะเป็นในส่วนของเด็กที่มี
00:02:10 → 00:02:12 คอนซินมีขนาดใหญ่ๆนะครับหรือพวกป่อม
00:02:13 → 00:02:15 อดีนอยที่อยู่ข้างในคอมีขนาดค่อนข้างใหญ่
00:02:15 → 00:02:17 ครับหรือได้เอ่อในบางท่านเองที่อาจจะมี
00:02:17 → 00:02:20 โครงสร้างใบหน้าที่เอ่อทำให้ตัวช่องคอ
00:02:20 → 00:02:22 ค่อนข้างแคบก็จะถือว่าเป็นความเสี่ยงนะ
00:02:22 → 00:02:24 ครับเพราะว่าตัวตัวโรคเยครับมันเกิดจาก
00:02:24 → 00:02:26 การที่ว่าทางเดือนหายใจส่วนบนนะครับ
00:02:26 → 00:02:29 บริเวณคอหอยเนี่ยนะครับมันสามารถที่จะมี
00:02:29 → 00:02:32 อย่ายุบตัวในขณะที่เราหลับได้ซึ่งในบาง
00:02:32 → 00:02:34 ครั้งเองเนี่ยมันอาจสามารถที่จะปิดะอุด
00:02:34 → 00:02:36 กั้นทำให้เราหยุดหายใจไปชั่วคราวได้ในใน
00:02:36 → 00:02:39 ช่วงนั้นอือนะครับซึ่งเมื่อการหยุดหายใจ
00:02:39 → 00:02:41 เกิดขึ้นสิ่งที่เกิดขึ้นตามมาก็คือ
00:02:41 → 00:02:43 ออกซิเจนในเลือดก็จะมีการเปลี่ยนแปลงก็จะ
00:02:43 → 00:02:46 มีการลดระดับลงกับอีกแบบนึงก็ทำให้เรารู้
00:02:46 → 00:02:48 สึกตื่นขึ้นมาอาจจะตื่นแบบที่เรารู้ตัว
00:02:48 → 00:02:51 หรืออาจตื่นแบบไม่รู้ตัวก็ได้ก็เลยทำให้
00:02:51 → 00:02:53 นอนไม่ค่อยต่อเนื่องแลตื่นมาไม่ค่อยสด
00:02:53 → 00:02:56 ชื่นในตอนเช้าครับอืนี่คือการสังเกตอาการ
00:02:56 → 00:02:58 ตัวเองในเบื้องต้นว่าถ้ามันมีภาวะแบบนี้
00:02:58 → 00:03:01 อ่าด้วยความสรีระร่างกายเราอาจจะเป็นคน
00:03:01 → 00:03:04 ที่อ้วนน้ำหนักเยอะนะคะหรือว่าอาจจะ
00:03:04 → 00:03:07 อวัยวะอย่างอื่นมันอาจจะไม่ได้เป็นปกติ
00:03:07 → 00:03:10 อย่างที่ควรจะเป็นอาจจะเกิดจากปัจจัยอะไร
00:03:10 → 00:03:12 อะไอย่างอื่นอีกด้วยอ่ะนะคะก็ทำให้ตืตอน
00:03:12 → 00:03:16 เช้าตื่นมารู้สึกโอ๊ยไม่ไหวละไม่สนใเป็น
00:03:16 → 00:03:18 ระยะเวลานานแค่ไหนที่เราจะรู้สึกว่าเฮ้ย
00:03:18 → 00:03:21 ต้องเอะใจแล้วว่ามันน่าจะมีความเสี่ยงกับ
00:03:21 → 00:03:24 ภาวะหยุดหายใจขณะหลับอย่างเงี้ยค่ะจริงๆ
00:03:24 → 00:03:26 แล้วตัวอาการที่เราสังเกตได้ง่ายๆคือ
00:03:26 → 00:03:28 เรื่องของกนครับเพราะเมื่อทางเหายใจเรา
00:03:28 → 00:03:31 แคบลงเนี่ยเราก็มีเสียงกรนทีนี้กรนเนี่ย
00:03:31 → 00:03:33 ไม่ได้เป็นหยุดหายใจในขณะหลับจากการอุด
00:03:33 → 00:03:36 กั้นนะครับถ้ามีกรนเฉยๆโดยไม่หยุดหายใจก็
00:03:36 → 00:03:38 คือเป็นภาวะปกติที่เราอาจจะมีการกรนได้ใน
00:03:38 → 00:03:41 เวลากลางคืนค่ะแต่คนที่กนและทำให้รู้สึก
00:03:41 → 00:03:43 ว่าเหมือนน่าจะมีภาวะหยุดหายใจในขณะหลัก
00:03:43 → 00:03:47 จากการอุดกั้นเนี่ยครับเอ่อคนอย่างคนในคน
00:03:47 → 00:03:48 ไข้ลักษณะนั้นเนี่ยครับก็จะมีปัญหาเรื่อง
00:03:48 → 00:03:52 ของการที่เขาจะมีการกรนเสียงดังถามว่าดัง
00:03:52 → 00:03:54 แบบไหนดังแบบที่ว่าปิดประตูแล้วยังได้ยิน
00:03:54 → 00:03:56 เสียงกลนนะครับหรืออันที่ 2 นะครับคือ
00:03:56 → 00:03:58 เป็นลักษณะที่ว่าคนที่นอนข้างๆจะได้ยิน
00:03:58 → 00:04:01 เสียงว่าเกรนไปสักพักนึงค่ะแล้วอยู่ๆ
00:04:01 → 00:04:03 เสียงกลนนะครับมันเงียบไปนั่นคือตอนที่
00:04:03 → 00:04:06 หยุดหายใจแล้วตามมาด้วยเสียงคล้ายๆกับ
00:04:06 → 00:04:08 สำลักน้ำลายหรืองับอากาศดังๆุกขึ้นมา
00:04:08 → 00:04:10 อย่างเงี้ยครับค่ะอันนั้นคือจังหวะที่
00:04:10 → 00:04:12 ร่างกายกระตุ้นให้มีการตื่นตัวขึ้นมา
00:04:12 → 00:04:14 เพราะว่าร่างกายเอ่อรู้แล้วว่าหยุดหายใจ
00:04:14 → 00:04:16 ทั้นั้นต้องกระตุ้นให้ตัวเองตื่นเพื่อทำ
00:04:16 → 00:04:19 ให้เรากลับมาหายใจได้ใหม่นะครับเพราะ
00:04:19 → 00:04:21 ฉะนั้นจุดสำคัญเนี่ยนะครับนอกเหนือจากการ
00:04:21 → 00:04:23 ที่ว่าตื่นเช้าแล้วไม่ค่อยสดชื่นง่วงนอน
00:04:23 → 00:04:25 ตอนกลางวันเยอะนะครับอีก 2 ประเด็นที่
00:04:25 → 00:04:28 สำคัญคือการที่กนเนี่ยครับเสียงดังค่ะนะ
00:04:28 → 00:04:30 ครับเสียงดังมากแล้วก็มีเรื่องของการที่
00:04:30 → 00:04:32 คนนข้างๆเนี่ยสามารถสังเกตได้ว่ามีการ
00:04:32 → 00:04:35 หยุดหายใจเกิดขึ้นจริงซึ่งถ้ามีลักษณะแบบ
00:04:35 → 00:04:37 นี้เนี่ยถือว่าเป็นอาการที่ค่อนข้างบ่ง
00:04:37 → 00:04:40 ค่อนข้างชัดเลยครับอืคือมันดังกว่าปกติ
00:04:40 → 00:04:44 ควรกว่าควที่ควรจะเป็นเยอะๆเลยนะคะหรือ
00:04:44 → 00:04:47 แม้กระทั่งแบบเอ้ยแต่ว่าคุณหมอคะบางทีคน
00:04:47 → 00:04:49 นอนข้างๆเนี่ยค่ะเขอาจจะรู้สึกว่าเออ
00:04:49 → 00:04:52 เสียงเงียบไปนี่ก็ดีเหมือนกันจะได้นอน
00:04:52 → 00:04:55 หลับไปด้วยอะไรแบบนี้หรือเปล่าคือเสียง
00:04:55 → 00:04:57 เงียบไปเนี่ยครับถ้าเป็นเงียบไปในลักษณะ
00:04:57 → 00:05:00 ของการที่เอ่อเขาเปลี่ยนท่าแล้วเสียงกรน
00:05:00 → 00:05:01 หายไปอันนั้นเป็นไปได้ครับเพราะเราจะพบ
00:05:01 → 00:05:03 ว่าท่าที่คนเรานอนกรนเยะที่สุดเนี่ยคือ
00:05:03 → 00:05:06 ท่านอนหงายอซึ่งทางเินหายใจส่วนบนเมันจะ
00:05:06 → 00:05:09 แคบสุดในท่านั้นแต่ถ้าเกิดเรานอนตะแคง
00:05:09 → 00:05:11 ปุ๊บเนี่ยทางหใจมันจะกว้างขึ้นเสียงกลน
00:05:11 → 00:05:14 มันจะเบาลงงถ้าเกิดสมมุติว่าเอ่อตัวของ
00:05:14 → 00:05:16 ท่านที่กนอยู่นะครับมีการเปลี่ยนท่าตอน
00:05:16 → 00:05:19 ตอนนอนสิ่งที่เกิดขึ้นมาก็คือเอ่อเสียงกน
00:05:19 → 00:05:21 อาจจะเงียบไปได้เพราะว่าท่าเปลี่ยนแต่
00:05:21 → 00:05:23 ลักษณะของการหยุดหายใจและเสียงกรนเงียบ
00:05:23 → 00:05:25 เนี่ยมันจะเงียบไปประมาณไม่กี่ไม่กี่
00:05:25 → 00:05:27 วินาทีอ่ะครับเพราะว่าช่วงเวลาที่เราหยุด
00:05:27 → 00:05:30 หายใจไปเนี่ยร่างกายจะมองว่าเอ้ยอันตราย
00:05:30 → 00:05:32 แล้วเป็นอันตรายต่อชีวิตแล้วเพราะฉะนั้น
00:05:32 → 00:05:34 ต้องพยายามกระตุ้นให้ให้มีการหายใจขึ้นมา
00:05:34 → 00:05:36 มันเป็นลักษณะของการเงียบแล้วก็กระตุ้น
00:05:36 → 00:05:38 ให้หายใจดังเงียบแล้วกระตุ้นให้หายใจดัง
00:05:38 → 00:05:40 อันนี้คือลักษณะของการหยุดหายใจครับอ๋อ
00:05:41 → 00:05:43 คืออันเนี้ยถ้าถ้าเปลี่ยนท่านไม่เป็นไร
00:05:43 → 00:05:46 แต่ถ้านอนหงายปกติไปเนี่ยก็อาจจะมีความ
00:05:46 → 00:05:49 เสี่ยงละนะคะแล้วก็เอ่อต้องต้องคนข้างๆ
00:05:49 → 00:05:52 ต้องลุกขึ้นมาดูมั้ยคะหรือว่าต้องมาเขย่า
00:05:52 → 00:05:54 ปลุกตัวขนาดนั้นเลยมั้ยคะครับจริงๆแล้ว
00:05:54 → 00:05:57 ถ้าเบื้องต้นเนี่ยครับจับตะแคงท่าก็ได้นะ
00:05:57 → 00:05:59 ครับเพราะว่าถ้าเกิดไปปลุกเดี๋ยวเดี๋ยวก็
00:06:00 → 00:06:01 บางทีบางท่านตึกขึ้นมากลางคืนแล้วนอนไม่
00:06:02 → 00:06:04 หลับอีกกลายเป็นปัญหาเลยเพราะว่าเหมือน
00:06:04 → 00:06:07 กับว่าเขาอาจจะเป็นคนนอนยากอะไรแบบนี้ผม
00:06:07 → 00:06:09 คิดว่าสิ่งสำคัญคืออาจจะหามอญข้างมาดุลๆ
00:06:09 → 00:06:12 ให้เขาอยู่ในท่านอนตะแคงอาการตรงนี้ก็จะ
00:06:12 → 00:06:14 ดีขึ้นแลสุดท้ายแล้วนะครับถ้าเกิดเป็นตัว
00:06:14 → 00:06:17 โรคค่อนข้างดุนแรกเนี่ยบางทีท่านอนตะแคง
00:06:17 → 00:06:19 ก็กลนนะอันนั้นอาจจะอันนั้นก็คงต้องมาวาง
00:06:19 → 00:06:22 แผนการรักษากันแล้วล่ะว่าถ้าเกิดกรนทุก
00:06:22 → 00:06:25 ท่าแบบนี้ต้องทำยังไงนะครับอืคือเพราะว่า
00:06:25 → 00:06:28 มันไม่ใช่แค่คนที่นอนกรนอย่างเดียวนะคะ
00:06:28 → 00:06:31 ที่จะรู้สึกว่าเอ่อการนอนมีปัญหาคนข้างๆ
00:06:31 → 00:06:34 อ่ะก็จะมีปัญหากับการนอนตามไปด้วยถ้าเกิด
00:06:34 → 00:06:37 ว่าเจอลักษณะการกรนที่มันผิดปกติแบบนี้
00:06:37 → 00:06:41 ด้วยอ่ะนะคะก็อาจจะต้องไปพบคุณหมอเออคุณ
00:06:41 → 00:06:43 หมอคะอันนี้ถามอีกนิดนึงว่านอกจากเรื่อง
00:06:43 → 00:06:46 ของภาวะความอ้วนหรืออะไรเงี้ยโรคอื่นๆมี
00:06:46 → 00:06:48 ส่วนเกี่ยวข้องด้วยมั้ยคะอย่างเช่นแบบ
00:06:48 → 00:06:52 เอ่ออย่างภูมิคนเป็นภูมิแพ้เคยมีได้ยินมา
00:06:52 → 00:06:55 เหมือนกันค่ะว่าเอ้อมันมีความกนนิดๆของ
00:06:55 → 00:06:58 ของคนที่มาเล่าให้ฟังนะคะว่าเออได้ยิน
00:06:58 → 00:07:01 เสียงหรืออะไรแบบเนี้ยหรือว่าการการไปกิน
00:07:01 → 00:07:04 ยาอะไรบางชนิดนี่เกี่ยวด้วยมั้ยคะเอ่อ
00:07:04 → 00:07:06 อธิบายอย่างงี้ครับเพราะว่าภูมิแพ้เอง
00:07:06 → 00:07:08 เนี่ยเป็นสิ่งนึงที่คนไข้หลายๆคนเนี่ยได้
00:07:08 → 00:07:10 รับการรักษาเพื่อรักษาเรื่องนอนกลนเลย
00:07:10 → 00:07:13 เข้าใจว่าอ๋อนอนกลนเนี่ยเกี่ยวข้องกับ
00:07:13 → 00:07:15 ภูมิแพ้จริงๆเรียนอย่างนี้นะครับว่า
00:07:15 → 00:07:17 ตำแหน่งที่เรามีเรื่องของการหยุดหายใจ
00:07:17 → 00:07:19 หรือว่ามีตำแหน่งของกลนเนี่ยมันจะเกิด
00:07:19 → 00:07:21 ขึ้นตำแหน่งของคอหอยอือซึ่งมันเป็นโครง
00:07:21 → 00:07:24 สร้างที่ค่อนข้างจะนุ่มค่ะนะครับแล้วแล้ว
00:07:24 → 00:07:26 คือเป็นส่วนมันเป็นส่วนของเนื้อเยื่อซะ
00:07:26 → 00:07:29 ส่วนใหญ่นะครับแต่ในตำแหน่งของจมูกที่
00:07:29 → 00:07:32 เร่องภูมแเนี่ยครับมันจะเป็นลักษณะของการ
00:07:32 → 00:07:34 ที่ว่าตัวโครงสร้างเมันจะมีกระดูกอ่อน
00:07:34 → 00:07:38 คลุมอยู่เพราะฉะนั้นนะครับโดยหลักการแล้ว
00:07:38 → 00:07:41 เนี่ยเวลาคนที่คัดจมูกนะครับอาจจะมีเสียง
00:07:41 → 00:07:44 หายใจในลักษณะที่ดังขึ้นได้บ้างนะครับแต่
00:07:44 → 00:07:46 จะไม่ใช่เสียงกลนเพราะเสียงกลนเนี่ยจะ
00:07:46 → 00:07:48 เกิดเป็นหลักๆจากบริเวณของคอหอยค่ะ
00:07:48 → 00:07:51 ประเด็นคืออยู่ตรงที่ว่าถ้าคนที่เป็นภูมิ
00:07:51 → 00:07:55 แพ้แล้วจมูกเขบวมเยอะๆลมหายใจนะครับที่
00:07:55 → 00:07:58 มันวิ่งผ่านจมูกนะครับมันจะมันจะวิ่งค่อน
00:07:58 → 00:08:01 ข้างเร็วนะครับผมพนาการภาพเหมือนกับรถรรถ
00:08:01 → 00:08:04 ที่มันมีพื้นที่แคบๆครับมันก็เบียดแล้ว
00:08:04 → 00:08:06 มันก็วิ่งเข้าไปได้ค่อนข้างเร็วทีนี้พอมา
00:08:06 → 00:08:08 ถึงตำแหน่งของคอหอยที่อยู่บริเวณถัดลงมา
00:08:08 → 00:08:11 ข้างล่างเนี่ยนะครับมันจะมีลักษณะของการ
00:08:11 → 00:08:13 ที่มันจะมีแรงในการดูดไอ้เนื้อเยื้อเนี่ย
00:08:13 → 00:08:16 ให้มันมีการหดแล้วก็มีการตีบลงมาได้มาก
00:08:16 → 00:08:20 กว่าจินตนาการภาพครับเหมือนกับตอนที่เรา
00:08:20 → 00:08:23 อยู่ในสถานีรถไฟฟ้าหรือสถานีรถไฟอ่ะครับ
00:08:23 → 00:08:25 แล้วรถไฟฟ้าหรือรถไฟอันนั้นน่ะไม่ได้จอด
00:08:25 → 00:08:28 เพถมีป้ายกั้นว่าอย่าเข้าไปใกล้เพราะมัน
00:08:28 → 00:08:29 เววลาที่อะไรวิ่งผ่านไปเร็วๆเนี่ยมัน
00:08:29 → 00:08:31 เหมือนมันจะมีแรงดูดเราเข้าไปใช่มั้ยฮะ
00:08:31 → 00:08:34 อ่าใช่นั้นคนไหนก็ตามที่จมูกบวมๆเนี่ยนะ
00:08:34 → 00:08:36 ครับแล้วลมมันวิ่งผ่านไอ้ตรงจมูกด้วยความ
00:08:36 → 00:08:38 เร็วความแรงเนี่ยมันจะมีโอกาสดึงทำให้
00:08:38 → 00:08:41 โครงสร้างของคอหอยเนี่ยมันยุบได้ง่ายขึ้น
00:08:41 → 00:08:43 แปลว่าถ้าเกิดเขามีภาวะของนอนกลนมีหยุด
00:08:43 → 00:08:46 หายใจในขณะหลับจากการอุดก้าแล้วเนี่ยภูมิ
00:08:46 → 00:08:49 แพ้จะทำให้โรคเนี่ยเป็นมากขึ้นอ๋อจากลม
00:08:49 → 00:08:52 จากลมหายใจที่มันมีแรงดูดเล็กมากขึ้นใน
00:08:52 → 00:08:55 ทางตรงกันงข้ามครับถ้าเกิดในกรณีของคนที่
00:08:55 → 00:08:57 เอ่อมีแต่ภูมิแพ้อย่างเดียวแล้วไม่ได้มี
00:08:57 → 00:09:00 ตอนกลนก็อาจจะมีนอนหายใจเสียงดังบ้างแต่
00:09:00 → 00:09:02 มันจะมันจะไม่ใช่ลักษณะของเสียงกลนนะครับ
00:09:02 → 00:09:04 มันจะเป็นลักษณะของคนที่หายใจคัดจมูกแต่
00:09:04 → 00:09:06 มันก็ไม่ดีกับการนอนเหมือนกันอืเพราะ
00:09:06 → 00:09:09 ฉะนั้นนะครับภูมิแพ้นะครับไม่ได้ทำให้
00:09:09 → 00:09:11 เป็นนอนกรนและหยุดหายใจในขณะหลับจากการ
00:09:11 → 00:09:14 อุดกั้นแต่ภูมิแพ้สามารถทำให้นอนกรนและ
00:09:14 → 00:09:16 หยุดหายใจในขณะหลับจากการอุดกั้นแย่ลง
00:09:16 → 00:09:19 กว่าเดิมได้อ๋อมันถึงต้องรักษาไปคู่กัน
00:09:19 → 00:09:21 เพราะในเขตกรุงเทพฯเองต้องยอมรับว่าในเขต
00:09:21 → 00:09:23 เมืองที่มีฝุ่นละอองเยอะเนี่ยอากาศไม่
00:09:23 → 00:09:25 ค่อยดีแล้วคนเป็นภูมิแพ้เยอะมันก็เลยเป็น
00:09:25 → 00:09:27 ปัจจัยนึงที่ทำให้ตัวอาการนอนกลนเนี่ย
00:09:27 → 00:09:30 เป็นมากขึ้นได้ครับค่ะอ่าเพราะฉะนั้นมัน
00:09:30 → 00:09:32 มันอาจจะมีความแตกต่างกันตรงนี้ยกเว้นว่า
00:09:32 → 00:09:36 เอ่อคนที่เป็นโรคไม่ใช่สิภาวะหยุดหายใจ
00:09:36 → 00:09:38 ขนาดหลับเนี่ยที่มีภาวะแบบนี้อยู่ด้วยนะ
00:09:38 → 00:09:40 เป็นภูมิแพ้ไปด้วยมันจะยิ่งดับเบิลเข้าไป
00:09:40 → 00:09:43 อีกอนะคะโอ้โหอันนี้ต้องรีบไปพบคุณหมอ
00:09:43 → 00:09:47 แล้วค่ะไปพบคุณหมอคุณหมอจะทำอะไรก่อนคะจะ
00:09:47 → 00:09:50 ต้องตรวจวินิจฉัยก่อนเลยยคะครับคือในคน
00:09:50 → 00:09:52 ที่มาด้วยอาการชัดเกณฑอย่างเช่นเรื่องของ
00:09:52 → 00:09:55 นอนกรนหยุดหายใจแบบนี้เนี่ยส่วนใหญ่แล้ว
00:09:55 → 00:09:57 เราก็จะมาส่งตรวจเรียกว่าตรวจการนอนหลับ
00:09:57 → 00:10:00 นะครับตรการนอนหลับเองเนี่ยเป็นการตรวจ
00:10:00 → 00:10:02 โดยการที่มีการติดอุปกรณ์ต่างๆที่เกี่ยว
00:10:02 → 00:10:04 ข้องกับการวัดคลื่นสมองนะครับวัดวัด
00:10:04 → 00:10:08 เรื่องของตัวการหายใจลมหายใจนะครับแรงการ
00:10:08 → 00:10:12 ขยับของหน้าอกชีพจรนะครับออกซิเจนนะครับ
00:10:12 → 00:10:15 คลื่นไฟฟ้าหัวใจพวกเนะครับเพื่อดูว่าใน
00:10:15 → 00:10:17 ระหว่างของการนอนหลับเนี่ยมีการเปลี่ยน
00:10:17 → 00:10:20 แปลงของร่างกายยังไงบ้างค่ะที่เราบอกว่า
00:10:20 → 00:10:22 เวลานอนหลับแล้วมีการหยุดหายใจในขณะหลับ
00:10:22 → 00:10:25 จากการอุดกั้นหรือ osa ตรงนี้เนี่ยนะครับ
00:10:25 → 00:10:27 มันก็จะเป็นลักษณะที่ว่าเราจะสังเกตได้
00:10:27 → 00:10:30 ว่าพอนอนไปสักพักนึงเนี่ยนะครับลมหายใจ
00:10:30 → 00:10:33 เข้าจมูกเนี่ยนะครับมันลดลงไปเลยนะครับก็
00:10:33 → 00:10:34 คือเป็นจังหวะของการหยุดหายใจนะครับหรือ
00:10:35 → 00:10:37 หายใจแผ่วอันนั้นก็แล้วแต่ความรุนแรงนะ
00:10:37 → 00:10:39 ครับถ้าจำนวนเนี้ยนะครับมันเกิดมากกว่า 5
00:10:39 → 00:10:42 ครั้งต่อชั่วโมงในผู้ใหญ่นะครับเราก็จะ
00:10:42 → 00:10:44 เรียกว่าเป็นความผิดปกติก็เป็นภาวะหยุด
00:10:44 → 00:10:47 หายใจในขณะหลับจากการอุดกั้นเพราะฉะนั้น
00:10:47 → 00:10:50 ในลักษณะของโลกนี้เองเนี่ยเราจำเป็นมากๆ
00:10:50 → 00:10:52 เลยครับที่จะต้องมีการตรวจการนอนหลับนะ
00:10:52 → 00:10:54 ครับเพราะเราสามารถจะวัดด้วยว่าคนๆนั้น
00:10:54 → 00:10:57 เนี่ยมีอัตราการหยุดหายใจในขณะหลับเนี่ย
00:10:57 → 00:10:59 นะครับหรือการหายใจแผ่วในขณะหลับเนี่ยกี่
00:10:59 → 00:11:01 ครั้งต่อชั่วโมงซึ่งเราเอาตรงนี้เนี่ย
00:11:01 → 00:11:04 เป็นตัวประเมินระดับความรุนแรงนะครับถ้า
00:11:04 → 00:11:07 หยุดหายใจนะครับอยู่ระหว่าง 5-15 ก็จะ
00:11:07 → 00:11:10 เป็นแบบรุนแรงน้อยถ้า 15-30 ก็จะเป็น
00:11:10 → 00:11:13 ลักษณะของรุนแรงปานกลางถ้ามากกว่า 30 ก็
00:11:14 → 00:11:16 จะเป็นรุนแรงมากอนะครับอันนี้สำหรับผู้
00:11:16 → 00:11:17 ใหญ่นะครับถ้าของเด็กเองก็จะเป็นอีกอีก
00:11:17 → 00:11:21 เกณฑ์นึงที่ที่เจะเอามาใช้นะครับซึ่งทำไม
00:11:21 → 00:11:24 ต้องระบุระดับความรุนแรงเหตุผลก็เพราะว่า
00:11:24 → 00:11:26 ถ้าในระดับของการรุนแรงปานกลางขึ้นไปคือ
00:11:26 → 00:11:29 มากกว่า 15 ครั้งต่อชั่มขึ้นไปเนี่ยจะเรา
00:11:29 → 00:11:31 พิจารณาเรื่องของการรักษาเฉพาะครับเช่น
00:11:31 → 00:11:33 การใส่เครื่องอัดอากาศนะครับที่เราเคย
00:11:33 → 00:11:36 เห็นหลายๆท่านเคยมาโพสต์ให้ดูในทาง
00:11:36 → 00:11:37 โซเชียล Media ครับว่ามีเครื่องอุปกรณ์
00:11:37 → 00:11:39 นึงใส่ตอนนอนด้วยเ้าเรียกว่าเครื่องอ
00:11:40 → 00:11:41 อากาศหรือเครื่อง cpap นะครับใส่เข้าไป
00:11:41 → 00:11:44 ช่วยทำเปิดทางเหายใจให้มันกว้างขึ้นนะ
00:11:44 → 00:11:46 ครับแต่ถ้าเกิดเป็นในบางกรณียกตัวอย่าง
00:11:46 → 00:11:48 เช่นในคนไข้เด็กนะครับซึ่งของเด็กอย่าง
00:11:48 → 00:11:50 ที่ได้เรียนแล้วว่าส่วนใหญ่เป็นเรื่องของ
00:11:50 → 00:11:53 ทอนซินกับอดีนอยที่ค่อนข้างโตเพราะฉะนั้น
00:11:53 → 00:11:55 ในลักษณะแบบนั้นเองนะครับเราก็จะในเรื่อง
00:11:55 → 00:11:57 ของการผ่าตัดเป็นหลักก็คือตัดทอนซินตัด
00:11:57 → 00:11:59 อนอยเพื่อทำให้ทางเดือนหายใจของเด็กคน
00:11:59 → 00:12:01 นั้นกว้างขึ้นครับก็จะมีความแตกต่างกันใน
00:12:01 → 00:12:03 แต่ละช่วงวัยด้วยเพราะสาเหตุของการเป็นก็
00:12:03 → 00:12:06 จะมีความต่างกันอยู่ครับออ๋อคือแสดงว่า
00:12:06 → 00:12:09 เด็กผู้ใหญ่ก็มีโอกาสความเสี่ยงเป็นเท่าๆ
00:12:09 → 00:12:12 กันถ้าเป็นคนที่มีภาวะความอ้วนด้วยมี
00:12:12 → 00:12:16 ปัญหาต่างๆเกี่ยวกับเอ่อทางระบบทางเดิน
00:12:16 → 00:12:18 หายใจด้วยใช่มั้ยคะก็มีความเสี่ยงเหมือน
00:12:18 → 00:12:20 กันครับถ้าเกิดเป็นในเรื่องของความอ้วน
00:12:20 → 00:12:22 นี่ถือว่าเป็นความเสี่ยงที่เจอได้บ่อยที่
00:12:22 → 00:12:24 สุดแล้วก็เป็นปัจจัยที่สำคัญมากๆครับ
00:12:24 → 00:12:27 เพียงแต่ในของเด็กเองเนี่ยถ้าสาเหตุของ
00:12:27 → 00:12:28 เด็กอันดับ 1 จริงๆเนี่ยจะเป็นเรื่องของ
00:12:28 → 00:12:31 การที่มีต่อมทอนซินกับต่อมอดินอยโตอเหตุ
00:12:31 → 00:12:33 ผลเพราะว่าในในช่วงวัยเด็กเนี่ยไอ้ต่อม
00:12:33 → 00:12:35 พวกนี้มันมีขนาดค่อนข้างใหญ่ตามตามลักษณะ
00:12:35 → 00:12:38 ของธรรมชาติที่มองว่าเด็กมีความเสี่ยงต่อ
00:12:38 → 00:12:40 การติดเชื้อเนาะมันจะมองว่าเอ่อสมัยก่อน
00:12:40 → 00:12:42 เนี่ยนะครับเอ่อเด็กเกิดมาเนี่ยก็จะเป็น
00:12:43 → 00:12:45 ปัญหาของการว่าเสี่ยงว่าจะติดเชื้อแล้วจะ
00:12:45 → 00:12:47 ทำให้เขาเสียชีวิตเพราะฉะนั้นต่อมพวกนี้
00:12:47 → 00:12:48 ที่เรียกเป็นต่อมน้ำเหลืองเนี่ยต้องต้อง
00:12:48 → 00:12:51 ต้องค่อนข้างไวหน่อยแต่ประเด็นคือว่ามัน
00:12:51 → 00:12:54 อาจจะมีไวไม่มีขนาดใหญ่เกินไปแล้วมันไป
00:12:54 → 00:12:56 ขวางทางเดินหายใจทำให้ทางหายใจของเด็กมัน
00:12:56 → 00:12:59 แคบก็ต้องมีการตัดบอกออกไปลักษณะแบบครับ
00:12:59 → 00:13:01 เพราะฉะนั้นในคนที่มีทอนซินใหญ่มากๆใน
00:13:01 → 00:13:04 เด็กนะครับถึงมีการรักษาโรคนี้ด้วยการผ่า
00:13:04 → 00:13:06 ตัดนะครับผู้ใหญ่เองต่อมพวกนี้จะไม่ค่อย
00:13:07 → 00:13:08 โตมากแล้วครับเพราะว่าในผู้ใหญ่เนี่ยมัน
00:13:08 → 00:13:10 จะไม่ค่อยแคทีเหมือนกับในเด็กแล้วผู้ใหญ่
00:13:10 → 00:13:13 เองก็โอกาสติดเชื้อค่อนข้างน้อยทำเรื่อง
00:13:13 → 00:13:14 เรื่องต่อมพวกนี้ก็เลยไม่ได้มีขนาดใหญ่
00:13:14 → 00:13:16 มากเพราะั้นประเด็นุกอยากเป็นเรื่องของ
00:13:16 → 00:13:18 ความอ้วนเป็นหลักมากกว่านะครับแต่ถ้าเกิด
00:13:18 → 00:13:21 เด็กคนไหนมีทั้งอ้วนด้วยคอนซินโตด้วยอิโต
00:13:21 → 00:13:23 ด้วยอันนี้ก็ค่อนข้างยากละเพราะว่าผมต้อง
00:13:23 → 00:13:26 รักษาทั้ง 2 อย่างไปพร้อมๆกันครับอืก็
00:13:27 → 00:13:30 เป็นปัจจัยที่ที่ของของเด็กอาจจะมีปัจจัย
00:13:30 → 00:13:33 จากทอมซินอักเสบเอไม่ใช่อักเสบทอมซินโตน
00:13:33 → 00:13:35 อยู่ในเด็กด้วยอ่ะนะคะทีนี้คุณหมอคะแล้ว
00:13:35 → 00:13:37 อย่างเงี้ยคืออย่างอย่าขออนุญาตถามเรื่อง
00:13:37 → 00:13:39 เด็กอีกนิดนึงว่าพอเขาโตขึ้นแล้วเนี่ย
00:13:39 → 00:13:42 ปัจจัยภาวะอะไรต่างๆเหล่านี้เขาสามารถที่
00:13:42 → 00:13:44 จะหายไปได้เองมั้ยคะหรือว่ามันก็จะยัง
00:13:44 → 00:13:47 อยู่กับเต่อไปเพราะว่าทอนซินก็ยังโตอยู่
00:13:47 → 00:13:49 นะแล้วก็มีภาวะความอ้วนอยู่เหมือนเดิม
00:13:49 → 00:13:53 ครับก็ในส่วนของเด็กเองครับมันถ้าระดับ
00:13:53 → 00:13:55 ของที่เป็นเนี่ยไม่รุนแรงมากเรามีการ
00:13:55 → 00:13:57 รักษาหนึของเด็กเเรียกว่าการสังเกตการ
00:13:57 → 00:13:59 ครับคือเราก็สังเกตอาการไปก่อนนะครับถ้า
00:13:59 → 00:14:01 เาไม่ได้เป็นเยอะเพราะในเมื่อเด็กโตขึ้น
00:14:01 → 00:14:03 ประมาณสัก 9 ขวบเนี่ยลักษณะของต่อมพวกนี้
00:14:03 → 00:14:06 เมันจะโตช้าลงบางคนมีขนาดเล็กลงกว่าเดิม
00:14:06 → 00:14:09 บวกกับเด็กโตขึ้นโครงสร้างของคอใหญ่ขึ้น
00:14:09 → 00:14:12 ก็อาจจะหายได้นะครับแต่ว่าทำลักษณะของการ
00:14:12 → 00:14:14 สังเกตไปแบบนี้เนี่ยทำเฉพาะแค่บางรายที่
00:14:14 → 00:14:16 อาการน้อยน้อยฮะในเวลาที่อาการค่อนข้าง
00:14:16 → 00:14:19 เยอะเนี่ยยังไงก็ต้องมีการรักษาเฉพาะนะ
00:14:19 → 00:14:20 ครับไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการผ่าตัดหรือ
00:14:20 → 00:14:22 การใส่เครื่องเข้าไปช่วยอยู่ดีเพราะว่า
00:14:22 → 00:14:25 ถ้าเกิดเราทิ้งให้เด็กคนนึงเนี่ยมีภาวะ
00:14:25 → 00:14:27 ของการที่นอนไม่ดีจากการที่เขามีหยุดหาย
00:14:27 → 00:14:29 ใจหรือว่าหายใจแผวเป็นพักักนะครับมันจะนำ
00:14:29 → 00:14:31 ไปสู่เรื่องของการที่เขาจะมีปัญหาใน
00:14:31 → 00:14:33 เรื่องของชีวิตในเวลากลางวันเยอะไม่
00:14:33 → 00:14:35 เรื่องของสมาธิในการเรียนนะครับเรื่องของ
00:14:35 → 00:14:37 พฤติกรรมเราจะพบว่าเด็กที่นอนไม่ค่อยดี
00:14:37 → 00:14:39 เนี่ยนะครับจะมีความต่างจากผู้ใหญ่นิดนึง
00:14:39 → 00:14:40 คือผู้ใหญ่เองเนี่ยเวลานอนไม่ดีเนี่ยจะ
00:14:40 → 00:14:43 เป็นลักษณะของง่วงๆซึมๆไม่ค่อยแอคทีฟอแต่
00:14:43 → 00:14:45 เด็กจะกลายเป็นลักษณะของเด็กที่ค่อนข้าง
00:14:45 → 00:14:47 ไฮเปอร์ครับไฮเปอร์ไม่ค่อยนิ่งสมาธิไม่
00:14:47 → 00:14:49 ค่อยดียุกยิกอะไรลักษณะแบบนั้นคล้ายๆกับ
00:14:49 → 00:14:51 เด็กสมาธิสั้นเลยครับเพราะฉะนั้นเวลาที่
00:14:51 → 00:14:54 เด็กนอนนอนออกมาไม่ดีเนี่ยมันไม่ได้ส่งผล
00:14:54 → 00:14:56 เฉพาะเวลากลางคืนนะมันกลายเป็นว่ามันนำมา
00:14:56 → 00:14:58 สู่พฤติกรรมในเวลากลางวันแล้วมันเป็น
00:14:58 → 00:15:00 เอฟเฟคกับเรื่องของการเรียงโดยตรงครับก็
00:15:00 → 00:15:03 เลยเป็นที่มาของของการรักษาในระยะยาวเอง
00:15:03 → 00:15:05 เนี่ยการที่เรามีหยุดหายใจบ่อยๆเนี่ยมัน
00:15:05 → 00:15:08 ส่งผลเสียต่อการควบคุมเรื่องของเอ่อ
00:15:08 → 00:15:10 กระบวนการต่างๆของร่างกายไม่ว่าจะเป็นการ
00:15:10 → 00:15:13 คุมความดันนะครับคุมเบาหวานนะครับเกี่ยว
00:15:13 → 00:15:15 กับเรื่องของเส้นเลือดแข็งตัวอะไรต่างๆ
00:15:15 → 00:15:18 พวกนี้ซึ่งเราพบเลยว่าถ้าคนคนนั้นเนี่ยมี
00:15:18 → 00:15:20 ภาวะหยุดหายใจในขณะหลับจากการอุดกั้นนะ
00:15:20 → 00:15:22 ครับแบบยาวนานเนี่ยนะครับจะเป็นปัจจัยใน
00:15:22 → 00:15:25 การเพิ่มเรื่องของความดันเบาหวานไขมันใน
00:15:25 → 00:15:27 เลือดสูงแล้วก็เส้นเลือดอุดตันต่างๆและ
00:15:27 → 00:15:29 ที่น่าตกใจคือนำไปสู่เรื่องของพวกเส้น
00:15:29 → 00:15:32 เลือดสมองตีบได้ด้วยนะครับซึ่งซึเป็นเป็น
00:15:32 → 00:15:34 โรคที่ค่อนข้างจะรุนแรงก็เลยเป็นที่มาว่า
00:15:34 → 00:15:36 ทำไมปัจจุบันเราถึงค่อนข้างจะให้ความ
00:15:36 → 00:15:39 สำคัญกับการดูแลนะครับตั้งแต่ช่วงที่ไม่
00:15:39 → 00:15:40 มีอาการเพราะว่ามันเป็นปัจจัยหนึที่
00:15:40 → 00:15:43 สามารถป้องกันโรคต่างๆที่เกี่ยวข้องกับ
00:15:43 → 00:15:45 ความเสื่อมของร่างกายได้ครับค่ะโออันนี้
00:15:45 → 00:15:48 ก็มันส่งผลระยะยาวแล้วมันมันอาจจะนำไปสู่
00:15:48 → 00:15:51 โรคอื่นๆได้อีกตามมาเยอะแยะมากมายด้วยนะ
00:15:51 → 00:15:53 คะทีนี้คุณหมอคะกลับมาที่ Sleep Test
00:15:53 → 00:15:55 อีกนิดนึงเพราะว่าเมื่อกี้คุณหมอบอกว่ามี
00:15:55 → 00:15:59 หลายระดับเอ่อมี 3 ระดับนะคะเอ่อถ้า
00:15:59 → 00:16:03 1-15 นะคะครั้งต่อชั่วโมงใช่มั้ยคะแล้ว
00:16:03 → 00:16:06 5-15 ครับ 5-15 5-15 ครั้งต่อชั่่วโมง
00:16:06 → 00:16:10 อันนี้เนี่ยถ้าเกิดเราปล่อยไว้มันมีโอกาส
00:16:10 → 00:16:12 ยกระดับไปเป็นระดับที่ 2 ระดับที่ 3 ได้
00:16:12 → 00:16:15 มั้คะถ้าเราแบบยังคิดว่าเอ้ยมันก็คงไม่
00:16:15 → 00:16:18 อะไรหรอกก็ยังพอจะใช้ชีวิตในช่วงกลางวัน
00:16:18 → 00:16:21 ได้ยังพอทำงานได้ไม่ถึงกับแบบเอ่อเสีย
00:16:21 → 00:16:25 สมดุลไปมันจะยกระดับได้มั้ยคะครับเรื่อง
00:16:25 → 00:16:27 อย่างงี้ครับว่าในส่วนของคนที่มีลักษณะ
00:16:27 → 00:16:29 ของโรคยุเสียใจในขณาหลักจากการอุดกั้นใน
00:16:30 → 00:16:32 ระดับรุนแรงน้อยก็คือหยุดหายใจหรือหายใจ
00:16:32 → 00:16:35 แผ่วเนี่ยประมาณ 5-15 ครั้งต่อชั่วโมง
00:16:35 → 00:16:37 จริงๆแล้วก็ต้องการการรักษานะครับแต่การ
00:16:37 → 00:16:39 รักษาตรงนี้เองเนี่ยจะมี Option หรือว่า
00:16:39 → 00:16:41 มีกระบวนการต่างๆหลายอันขึ้นอยู่กับคนไข้
00:16:41 → 00:16:43 ยกตัวอย่างเช่นบางคนอาจจะได้รับการพ่นยา
00:16:44 → 00:16:46 นะครับรักษาภูมิแพ้นะครับบางคนอาจจะได้
00:16:46 → 00:16:49 ลักษณะของการเอ่อจี้นะครับก็จะเป็นลักษณะ
00:16:49 → 00:16:51 ของพวกเอ่อตัวอุปกรณ์ความความร้อนนะครับ
00:16:51 → 00:16:54 จี้ความร้อนในบริเวณของคอหอยอะไต่างๆ
00:16:54 → 00:16:56 เนี่ยให้กล้ามเนื้อเพดานแข็งแรงมากขึ้น
00:16:56 → 00:16:57 หรือบางคนอาจจะเคยเห็นเรื่องของการใส่
00:16:58 → 00:17:01 อุปกร์เรียกว่าทันตอุปกรณ์ในการดึงตรงต่ง
00:17:01 → 00:17:03 ของกามล่างให้ยื่นออกมาทำให้ช่องคอกว้าง
00:17:03 → 00:17:06 ขึ้นค่ะแปลว่าถ้าเกิดรุนแรงน้อยเนี่ยก็
00:17:06 → 00:17:08 ยังต้องการการรักษาอยู่นะครับเพียงแต่ว่า
00:17:08 → 00:17:10 การรักษาเองเนี่ยอาจจะมีอีกหลายๆวิธีที่
00:17:10 → 00:17:13 เอามาเป็นตัวตัวช่วยได้นะครับแล้วที่คำ
00:17:13 → 00:17:16 ถามว่ามีโอกาสที่พอทิ้งไว้แล้วจะรุนแรง
00:17:16 → 00:17:18 มากขึ้นได้มมต้องเรียนว่ามีโอกาสครับ
00:17:18 → 00:17:20 เพราะว่าลักษณะของกล้ามเนื้อของคนมนุษย์
00:17:20 → 00:17:22 เองเมื่ออายุมากขึ้นเนี่ยบางทีกล้ามเนื้อ
00:17:22 → 00:17:25 ก็จะมีเอ่อความสามารถในการที่จะตอบสนอง
00:17:25 → 00:17:28 ต่อการเอ่อภาวะหยุดหายใจต่างๆเนี่ยได้ได้
00:17:28 → 00:17:31 ได้ได้น้อยลงนะครับะความสามารถในการที่ทำ
00:17:31 → 00:17:32 ให้ตรงทางเนือหายใจมันกว้างนะครับหรือ
00:17:32 → 00:17:35 รักษาสภาพทางเนือหายใจเองนี่ก็จะลดลงด้วย
00:17:35 → 00:17:38 เมื่อเมื่อคเราอายุมากขึ้นแปลว่านอกจาก
00:17:38 → 00:17:39 เรื่องของอ้วนแล้วเนี่ยกล้ามเนื้อที่จะ
00:17:39 → 00:17:41 เป็นตัวช่วยเปิดทางเืหายใจให้กว้างเนี่ย
00:17:42 → 00:17:43 มันก็ค่อนข้างจะทำงานได้แย่ลงเมื่อเรา
00:17:43 → 00:17:46 อายุมากขึ้นแปลว่าโรคพวกนี้เนี่ยมีแนว
00:17:46 → 00:17:48 โน้มที่ว่าอายุมากขึ้นมันจะยิ่งแย่ลงครับ
00:17:48 → 00:17:52 อโอเพราะฉะนั้นอย่าปล่อยทิ้งไว้ค่ะไปอาจ
00:17:52 → 00:17:55 จะไปทำตรวจการนอนหลับนะที่เขาเรียกกันว่า
00:17:55 → 00:17:58 Sleep Test เนี่ยนะคะอันนี้ต้องต้องทำ
00:17:58 → 00:18:00 กี่ครั้งคะหรือว่าแบบ
00:18:00 → 00:18:03 เอ่อมีการติดตามผลเป็นระยะๆอะไรอย่างงี้
00:18:03 → 00:18:05 ด้วยมั้ยคะโดยส่วนใหญ่แล้วเราจะทำแค่
00:18:05 → 00:18:07 ครั้งเดียวครับก็คือทำวินิจฉัยเพราะพอได้
00:18:07 → 00:18:10 ตัวเลขมาปุ๊บเนี่ยนะครับเราก็จะมาดูว่า
00:18:10 → 00:18:12 ความรุนแรงอยู่ในระดับไหนหรือว่าไม่เป็น
00:18:12 → 00:18:14 โรคคือถ้าไม่เป็นโรคคือน้อยกว่า 5 ครั้ง
00:18:14 → 00:18:16 ก็ไม่เป็นไรก็ใช้ชีวิตตามปกติแค่กลน
00:18:16 → 00:18:18 ธรรมดาแต่ถ้าเกิดเป็นโรคแล้วคือเกินกว่า 5
00:18:18 → 00:18:21 ครั้งขึ้นมาเนี่ยเราก็จะมาดูว่าเป็นระดับ
00:18:21 → 00:18:23 รุนแรงน้อยปานกลางหรือว่ามากถ้ารุนแรง
00:18:23 → 00:18:25 น้อยอย่างที่ผมได้เรียนไปก็คือการรักษา
00:18:25 → 00:18:28 อาจจะมีอชั่นหลายยันแต่ถ้าเกิดรุนแรงปัน
00:18:28 → 00:18:30 ่างรุนแรงมากเนี่ยนะครับการรักษาหลักๆของ
00:18:30 → 00:18:32 ผู้ใหญ่เองเนี่ยเป็นเรื่องของการใส่
00:18:32 → 00:18:34 เครื่องอัดอากาศแรงดันบวกเป็นหลักนะครับ
00:18:34 → 00:18:36 เพื่อเปิดทางเินหายใจครับตัวเครื่องนี้
00:18:36 → 00:18:38 หลายๆคนเข้าใจว่ามันคือเครื่องช่วยหายใจ
00:18:38 → 00:18:40 จริงๆไม่ใช่นะฮะมันเป็นลักษณะของเครื่อง
00:18:40 → 00:18:42 ที่ปล่อยลมเข้าไปในให้เราเราให้เราเกิด
00:18:42 → 00:18:44 ขึ้นในระหว่างการนอนหลับแล้วลมเยมันจะ
00:18:44 → 00:18:46 เหมือนกับเป็นตัวถ่างทางเืนหายใจให้มัน
00:18:46 → 00:18:49 เปิดกว้างตลอดนะครับพอืหายใจมันกว้างตลอด
00:18:49 → 00:18:51 ปุ๊บเราก็จะไม่มีเสียงกลนนะครับแล้วเราก็
00:18:51 → 00:18:53 สามารถนอนต่อเนื่องได้ยาวทั้งคืนนะครับใน
00:18:53 → 00:18:55 คนที่เป็นโรครุนแรงเนี่ยเวลาใส่เครื่อง
00:18:55 → 00:18:57 เนี่ยจะชอบมากเลยครับเพราะว่ามันจะเป็น
00:18:57 → 00:18:58 การตื่นขึ้นมาในตอนนอนเช้าที่รู้สึก
00:18:59 → 00:19:00 เหมือนกับว่าสดชื่นมากๆเพราะเป็นการนอน
00:19:00 → 00:19:03 ที่นลงระับหลักการหลับลึกได้นะครับเข้า
00:19:03 → 00:19:05 สู่ระยะหลับแบบตากระตุกซึ่งคนชอบเรียกว่า
00:19:05 → 00:19:08 หลับฝันอะไรพวกนี้ได้ได้ค่อนข้างดีเลยทำ
00:19:08 → 00:19:10 ให้เขาสามารถนอนได้เต็มที่นะครับค่ะอ๋อ
00:19:11 → 00:19:12 แล้วอย่างงี้คือต้องใส่เครื่องมือตลอดเลย
00:19:12 → 00:19:14 มั้ยคะอันนี้ต้องเรียนอย่างงี้ว่าโดยส่วน
00:19:14 → 00:19:16 ใหญ่แล้วเนี่ยครับถ้าเกิดเราสามารถจัดการ
00:19:16 → 00:19:18 เรื่องปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคได้นะ
00:19:19 → 00:19:21 ครับเราก็สามารถที่จะเอ่อเอาเครื่องออก
00:19:21 → 00:19:23 ได้ยกตัวอย่างเช่นสมมุติว่าใส่จากความ
00:19:23 → 00:19:26 อ้วนนะครับแล้วเราสามารถลดน้ำหนักนะครับ
00:19:26 → 00:19:28 ในระดับที่ค่อนข้างเยอะได้เนี่ยบางทีโรค
00:19:28 → 00:19:30 ดีขึ้นแล้วไม่ต้องใส่เครื่องได้นะครับ
00:19:31 → 00:19:33 ซึ่งหลายๆคนก็จะมองว่าเอ๊ะลดน้ำหนักแล้ว
00:19:33 → 00:19:36 แล้วไม่ต้องใส่เครื่องได้จริงๆถ้ารถเนี่ย
00:19:36 → 00:19:38 นะครับมันต้องลดราวๆ 20 30% เป็นอย่าง
00:19:38 → 00:19:41 น้อยของน้ำหนักตัวฮะแปลว่าถ้าเกิดหนัก 100
00:19:41 → 00:19:43 กลเนี่ยต้องลดได้ประมาณ 20-30 กกรซึ่งถือ
00:19:43 → 00:19:45 ว่าค่อนข้างเยอะนะครับเพราะฉะนั้นในบางที
00:19:45 → 00:19:47 เองเนี่ยถ้าลดได้สักส่วนนึงเนี่ยบางที
00:19:47 → 00:19:49 ความรุนแรงของโลกไม่ค่อยเปลี่ยนนะครับก็
00:19:49 → 00:19:51 เลยจะต้องใช้เครื่องอยู่ครับแต่ว่ามันก็
00:19:52 → 00:19:54 จะมีความแตกต่างกันด้วยครับว่าถ้าเกิดตัว
00:19:55 → 00:19:58 น้ำหนักเยอะอ้วนมากค่าความดันแรงลมที่ผัก
00:19:58 → 00:20:00 ผลักเข้ามาเนี่ยก็ต้องค่อนข้างสูงก็จะใส่
00:20:00 → 00:20:03 ยากหน่อยนะครับแต่ถ้าเกิดเราอ้วนลดลงนะ
00:20:03 → 00:20:04 ครับเราคุมน้ำหนักถึงจะลดไม่ถึงขนาดว่า
00:20:04 → 00:20:07 ต้องเลิกใช้เครื่องได้แต่ว่าลดลงมาระดับ
00:20:07 → 00:20:09 นึงเนี่ยมันทำให้ค่าความดันของลมที่ดันมา
00:20:09 → 00:20:11 เนี่ยอาจจะใช้ค่อนข้างน้อยทำให้ใส่ง่าย
00:20:11 → 00:20:14 ขึ้นใส่แล้วสะดวกขึ้นครับก็จะมีความแตก
00:20:14 → 00:20:17 ต่างกันนะครับค่ะอืก็แล้วแต่เคสด้วยว่ามี
00:20:18 → 00:20:21 ภาวะแบบไหนความรุนแรงของอาการเป็นยังไงก็
00:20:21 → 00:20:26 จะเอ่อรักษาไปตามแต่ละต้นเหตุอย่างเช่น
00:20:26 → 00:20:28 อ่ะถ้าอ้วนก็อ่ะลองปรับพฤติกรรมดูหน่อยนะ
00:20:28 → 00:20:31 คะนอนพักอ่าเค้าเรียกอะไรหลีกเลี่ยงอะไร
00:20:31 → 00:20:34 บางอย่างที่ไม่ไม่ดีต่อร่างกายหรือว่าการ
00:20:34 → 00:20:36 นอนหงายก็อาจจะปรับท่าหรืออะไรอย่างงี้ก็
00:20:36 → 00:20:39 ได้เนาะดูดูเหมือนง่ายแต่ถ้าแบบพอคนที่
00:20:39 → 00:20:43 เป็นหนักๆอย่างงี้ค่ะเราอืมผ่าตัดเลยได้
00:20:43 → 00:20:46 มั้ยคะคุณหมอแบบว่าจะได้จบๆไปการการผ่า
00:20:46 → 00:20:48 ตัดเองเนี่ยอย่างที่ได้เรียนแล้วครับมีมี
00:20:48 → 00:20:50 บทบาทในในคนไข้เด็กเป็นส่วนใหญ่ที่มี
00:20:50 → 00:20:53 เรื่องของคอนสินโตแล้วก็ตออดีนอยโตแต่ใน
00:20:53 → 00:20:55 ผู้ใหญ่บางคนที่มีโครงสร้างของคอที่ผิด
00:20:55 → 00:20:57 ปกติครับอย่างยตัวอย่างผู้ใหญ่บางท่านเอง
00:20:57 → 00:21:00 เนี่ยนะครับตัวเพดานนะครับตรงเพดานด้านบน
00:21:00 → 00:21:02 นะครับคือไอ้ตรงที่โครงสร้างอยู่ระหว่าง
00:21:02 → 00:21:04 จมูกกับปากเนี่ยตรงเพดานบริเวณนั้นนะครับ
00:21:04 → 00:21:07 มันค่อนข้างอ่อนมันยวบอก็จะมีการรักษาโดย
00:21:07 → 00:21:10 การผ่าตัดครับนะครับหมอคุณหมอทางด้านหูคอ
00:21:10 → 00:21:12 จมูกเนี่จะเป็นผู้ผ่าตัดแล้วเจะจะเป็น
00:21:12 → 00:21:14 ลักษณะของการเย็บบริเวณนั้นให้ตึงขึ้น
00:21:14 → 00:21:16 หรือการใช้เลเซอร์นะครับหรืออุปกรณ์ให้
00:21:16 → 00:21:18 ความร้อนต่างๆเนี่ยนะครับในการจี้บริเวณ
00:21:18 → 00:21:20 นั้นทำให้บริเวณนั้นเนี่ยมีการตึงขึ้นนะ
00:21:20 → 00:21:23 ครับแต่ว่ามันจะลดความรุนแรงของโรกได้แค่
00:21:23 → 00:21:25 ระดับหนึ่งไม่ได้ไม่ไม่ได้ถึงขนาดทำให้
00:21:25 → 00:21:27 กลับไปหายได้เพราะฉะนั้นอย่างที่ได้เรียน
00:21:27 → 00:21:29 ว่าการผ่าตัดพวกเองเนี่ยมักจะเป็นในกรณี
00:21:29 → 00:21:31 ที่ความรุนแรงของโรคไม่เยอะนะครับเพราะ
00:21:31 → 00:21:33 ถ้าเกิดความรุนแรงของโรคเยอะเองเนี่ยนะ
00:21:33 → 00:21:36 ครับถึงเอ่อตัวผ่าตัดไปแล้วบางทีก็ากจะ
00:21:36 → 00:21:38 ยังมีเอ่อโรคหลลงเรืออยู่แล้วต้องใช้
00:21:38 → 00:21:41 เครื่องต่อนะครับแต่อย่างที่ได้เรียนว่า
00:21:41 → 00:21:43 ถ้าเราเปลี่ยนระยะของความรุนแรงของโรคได้
00:21:43 → 00:21:45 จากอรุ่นแรงมากลงมาเหลือเป็นรุนแรงเล็ก
00:21:45 → 00:21:47 น้อยอย่างงี้เนี่ยการเอ่อการใช้เครื่อง
00:21:47 → 00:21:50 อาจจะอาจจะไม่ได้จำเป็นหรืออาจจะใช้วิธี
00:21:50 → 00:21:51 อื่นได้หรือถ้าเกิดเปลี่ยนจากรุนแรงมากๆ
00:21:51 → 00:21:53 ไปเป็นรุนแรงปานกลางคือยังต้องใช้เครื่อง
00:21:54 → 00:21:56 อยู่แต่ว่าเราอาจจะใช้เครื่องในความดัน
00:21:56 → 00:21:58 ที่ต่ำลงใช้ง่ายขึ้นก็ได้เพราะฉะนั้น
00:21:58 → 00:22:00 เรื่องการรักานี้ในเร่องของการผ่าตัด
00:22:00 → 00:22:03 เนี่ยผมคิดว่าอาจะขึ้นอยู่กับเคสไปครับใน
00:22:03 → 00:22:06 บางคนที่มีลักษณะของโครงสร้างบางอย่างที่
00:22:06 → 00:22:08 อาจจะดีได้จากการผ่าตัดนะครับคุณหมออาจะ
00:22:08 → 00:22:11 แนะนำเรื่องของการผ่าตัดนะครับหรือการจ
00:22:11 → 00:22:13 ความร้อนเพื่อทำให้กล้ามเนื้อมันตึงขึ้น
00:22:13 → 00:22:15 เนื้อเยื่อมันตึงขึ้นนะครับอาจจะเป็นใน
00:22:15 → 00:22:18 รายๆไปครับค่ะก็ไม่ได้แบบว่าทุกรายจะตัด
00:22:18 → 00:22:20 จบด้วยการผ่าตัดอย่างเดียวแล้วก็สสบายหาย
00:22:20 → 00:22:23 แล้วทีนี้นะคะแล้วถ้าอย่างงี้คือเป็นแล้ว
00:22:23 → 00:22:27 เนี่ยฟังแล้วรู้สึกท้อใจเลยค่ะเพราะว่าจะ
00:22:27 → 00:22:30 ใช้การแต่ละวิธีเนี่ยก็แล้วแต่เคสกันไป
00:22:30 → 00:22:33 มันจะมีโอกาสหายมั้ยคะหยุดแบบเค้าเรียก
00:22:33 → 00:22:36 อะไรอ่ะไม่นอนกรนอีกต่อไปนะคะแล้วก็ไม่
00:22:36 → 00:22:38 ต้องมีความเสี่ยงต่อการที่จะแบบหยุดหายใจ
00:22:38 → 00:22:41 ขนาดหลับแล้วก็เสียชีวิตไปเลยอย่างเงี้ย
00:22:41 → 00:22:43 มีมั้ยคะก็ต้องเรียนอย่างงี้ฮะก็คงมี 2
00:22:43 → 00:22:46 ประเด็นหลักๆก็คือถ้าถ้าเราอยู่ในวัยที่
00:22:46 → 00:22:48 เรายังไม่ได้เป็นโรคนี้นะครับยกตัวอย่าง
00:22:48 → 00:22:52 เช่นยังเอ่อรูปร่างปกติยังไม่ได้อ้วนอายุ
00:22:52 → 00:22:55 ยังไม่เยอะนะครับการปฏิบัติตัวนะครับใน
00:22:55 → 00:22:57 เรื่องของการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอควบ
00:22:57 → 00:23:00 คุมอาหารนะครับไม่ปล่อยให้ตัวเองอ้วนนะ
00:23:00 → 00:23:03 ครับแล้วก็ปฏิบัติตามหลักสุขัสุขนมัยการ
00:23:03 → 00:23:06 นอนหลับที่ดีนะครับก็คือนอนในเวลาที่เอ่อ
00:23:06 → 00:23:09 ประมาณ 21:00 นอะไรแบบนี้แล้วก็ตื่นตอน
00:23:09 → 00:23:11 เช้านะครับตื่นในเวลาเดิมทุกวันเวลาใน
00:23:11 → 00:23:13 ห้องนอนค่อนข้างเงียบสงบไม่มีเสียงรบกวน
00:23:14 → 00:23:16 ไม่มีแสงรบกวนอะไรแบบนี้เนี่ยมันก็จะเป็น
00:23:16 → 00:23:17 วิธีช่วยที่จะป้องกันไม่ให้เกิดโรคอยู่
00:23:17 → 00:23:20 แล้วครับในการใช้ชีวิตอทีนี้ถ้าเกิดเกิด
00:23:20 → 00:23:22 โรคมาแล้วเนี่ยนะครับอันนี้ต้องเรียนว่า
00:23:22 → 00:23:24 เพราะเกิดโรคมาแล้วเนี่ยโรคนี้เนี่ยด้วย
00:23:24 → 00:23:27 ความที่มันเป็นโรคตามตามอายุต้องต้องต้อง
00:23:27 → 00:23:29 ยอมรับยังไงว่าพออายุมากขึ้นแนวโน้มมันจะ
00:23:29 → 00:23:32 เป็นมากขึ้นเพราะฉะนั้นเป็นแล้วเนี่ยถาม
00:23:32 → 00:23:35 ว่ามีโอกาสต้องต้องเป็นตลอดมก็ต้องยอมรับ
00:23:35 → 00:23:36 ว่าส่วนใหญ่เป็นอย่างงั้นครับก็เป็นแล้ว
00:23:36 → 00:23:39 ก็เป็นตลอดแล้วก็ต้องมีการเอ่อรักษาต่อ
00:23:39 → 00:23:42 เนื่องนะครับแต่ในบางคนที่นะครับเป็นใน
00:23:42 → 00:23:45 ระยะต้นๆนะครับหรือว่ามีความตั้งใจแน่ว
00:23:45 → 00:23:47 แน่ว่าจะต้องพยายามแก้ให้ได้นะครับยกตัว
00:23:47 → 00:23:50 อย่างเช่นลดน้ำหนักอย่างจริงจังลดได้เยอะ
00:23:50 → 00:23:52 ๆเลยนะครับหรือหรือในบางคนเองเนี่ยมีการ
00:23:52 → 00:23:54 เอ่อเป็นลักษณะของโครงสร้างทางใบหน้าที่
00:23:54 → 00:23:57 มันผิดปกติเช่นบางคนอาจจะมีลักษณะของคาง
00:23:57 → 00:23:59 ที่มันล่นลงไปครับตรงบริเวณด้านหลังเยอะ
00:23:59 → 00:24:01 นะครับมีคางบุ๋มลงไปเยอะๆอะไรแบบนั้น
00:24:01 → 00:24:04 เนี่ยอาจจะมีการรักษาโดยการผ่าตัดที่พอ
00:24:04 → 00:24:05 แก้แล้วทุกอย่างกลับมาหาเป็นปกติได้
00:24:05 → 00:24:08 เหมือนกันนะครับแต่ก็จะเจอในแค่บางราย
00:24:08 → 00:24:10 เท่านั้นนะครับเพราะฉะนั้นผมคิดว่าสิ่ง
00:24:10 → 00:24:12 สำคัญเนี่ยคือการเข้ามาเจอทางด้านคุณหมอ
00:24:12 → 00:24:15 ด้านการนอนหลับนะครับเพื่อจะดูว่าตัวโครง
00:24:15 → 00:24:17 สร้างใบหน้าเนี่ยมีอะไรตำแหน่งไหนที่เป็น
00:24:17 → 00:24:19 จุดหลักในการที่ทำให้เกิดการอุดกั้นของทิ
00:24:19 → 00:24:22 หายใจส่วนบนนะครับถ้ามีรักษณะของโครง
00:24:22 → 00:24:24 สร้างที่มันผิดปกติไปอย่างชัดเจนการผ่า
00:24:24 → 00:24:26 ตัดจะมีส่วนเข้ามาช่วยครับนะครับไม่ว่าจะ
00:24:26 → 00:24:29 เป็นการดึงดึงามร่างออกมานะครับหรือการ
00:24:29 → 00:24:31 ผ่าตัดอื่นๆนะครับหรือการใช้ตัวความร้อน
00:24:31 → 00:24:33 ในการจี้บริเวณเนื้อเยื่อต่างๆให้มันตึง
00:24:33 → 00:24:35 มากขึ้นทางเดือนใจกว้างขึ้นนะครับแต่การ
00:24:35 → 00:24:37 รักษาหลักของโรกนี้เองก็ยังเป็นเครื่องนะ
00:24:37 → 00:24:39 ครับเครื่องอัดอากาศที่จะเข้าไปช่วยอยู่
00:24:39 → 00:24:42 นะครับซึ่งตรงนี้เองเนี่ยนะครับก็เป็นตัว
00:24:42 → 00:24:44 ที่ในปัจจุบันเนี่ยได้รับการยอมรับว่า
00:24:44 → 00:24:47 เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยในการรักษาโรคนี้ได้นะ
00:24:47 → 00:24:49 ครับแต่การปฏิบัติตัวอย่างดีเนี่ยก็จะ
00:24:49 → 00:24:51 เป็นปัจจัยนึงที่เกี่ยวข้องไปกับการรักษา
00:24:51 → 00:24:53 เลยเพราะว่าถ้าเกิดเราใช้เครื่องแต่ว่า
00:24:53 → 00:24:56 เรายังคงปล่อยให้ตัวเองอ้วนนะครับไม่ได้
00:24:56 → 00:24:59 ออกกำลังกายเอนะครับใช้ชีวิตไปตามไปวันๆ
00:24:59 → 00:25:02 อะไรลักษณะแบบนี้เนี่ยโรคมันแย่โรคมันจะ
00:25:02 → 00:25:04 แย่ลงได้เรื่อยๆแล้วบางทีเนี่ยเครื่องบาง
00:25:04 → 00:25:06 ทีเนี่ยมันอาจจะเอาไม่อยู่นะครับถ้าเกิด
00:25:06 → 00:25:08 เราปล่อยให้เหมือนกับเอาตัวโรคมันแย่ลงไป
00:25:08 → 00:25:10 กว่าเดิมเพราะฉะนั้นต่อให้เป็นโรคแล้วก็
00:25:10 → 00:25:12 ต้องพยายามรักษาตัวเองเพื่อทำให้ตัวโรคดี
00:25:12 → 00:25:15 ขึ้นอย่างน้อยก็ใช้ความดันที่น้อยลงไซ้
00:25:15 → 00:25:17 เครื่องง่ายขึ้นอย่างนี้ครับค่ะโอ้โหวัน
00:25:17 → 00:25:19 นี้ก็ได้ข้อมูลความรู้เต็มที่เลยเอคุณ
00:25:19 → 00:25:22 หม่อนอีกนิดนึงได้มจริงๆเลยเวลามาแล้วนิด
00:25:22 → 00:25:25 นึงเนี่ยคุณหมอเห็นในโซเชียลใน
00:25:25 → 00:25:30 เ่าขายพวกอุอกรช่วยแบบไม่ให้นอนกรนลด
00:25:30 → 00:25:32 เสียงนอนกลนหรืออะไรก็แล้วแต่เนี่ยเต็มไป
00:25:32 → 00:25:36 หมดเลยเนี่ยเฮ้ยอันนั้นมันจำเป็นมยคะหรือ
00:25:36 → 00:25:39 ควรใช้มั้ยคะควรซื้อมยคะนคือตัวอุปกรณ์
00:25:39 → 00:25:41 โดยส่วนหนึ่งที่เขาเอามาขายก็คือเครื่อง
00:25:41 → 00:25:44 อัดอากาศแรงดันบวกครับก็คืออย่างที่ผมได้
00:25:44 → 00:25:45 เล่าว่าเป็นเครื่องที่มันเหมือนกับปล่อย
00:25:45 → 00:25:48 ลมเข้าไปเพื่อทำให้ทรินหายใจเรากว้างขึ้น
00:25:48 → 00:25:50 ครับซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วเนี่ยนะครับผมคิด
00:25:50 → 00:25:53 ว่าตัวอุปกรณ์พวกนี้เองเนี่ยนื่องความนี้
00:25:53 → 00:25:55 อุปกรณ์ที่ใช้ในลักษณะของการรักษาโรคคน
00:25:55 → 00:25:58 ควรจะมาเจอแล้วมาเปิดในโรงพยาบาลก่อนนะ
00:25:58 → 00:26:02 ครับว่ามันใช้เอ่อด้วยค่าความดันในการ
00:26:02 → 00:26:04 ปล่อยลมเนี่ยประมาณเท่าไหร่นะครับเพราะ
00:26:04 → 00:26:05 ปัจจุบันเองเนี่ยด้วยความที่มันจะมี
00:26:05 → 00:26:07 เครื่องที่เป็นรุ่นที่เป็นออโต้คือความ
00:26:07 → 00:26:09 ดันปรับอัตโนมัติเลยทำให้มีการเหมือนกับ
00:26:10 → 00:26:12 การซื้อขายกันเองโดยที่ไม่ได้มาเจอซึ่งผม
00:26:12 → 00:26:14 มองว่าตรงนี้เป็นจุดหนึงที่อันตรายมากๆนะ
00:26:14 → 00:26:17 ครับเพราะว่าเรากำลังเอาอุปกรณ์ที่เรามา
00:26:17 → 00:26:19 ใส่เพื่อช่วยในการหายใจของเราตอนกลางคืน
00:26:19 → 00:26:21 มาโดยที่เรายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเราเป็น
00:26:21 → 00:26:23 โรคในระดับไหนเราจำเป็นต้องใช้เครื่องมัน
00:26:23 → 00:26:25 มยนะครับแล้วเครื่องมันเหมาะหรือเปล่า
00:26:25 → 00:26:26 เพราะว่าตัวเครื่องบางอย่างเองเนี่ยมันจะ
00:26:26 → 00:26:29 มีความเหมาะนะครับในรายละเอียดว่าเหมาะ
00:26:29 → 00:26:31 กับคนไข้แบบไหนด้วยนะครับเพราะฉะนั้นผม
00:26:31 → 00:26:34 มองว่านะครับในส่วนของอุปกรณ์ต่างๆเนี่ย
00:26:34 → 00:26:36 นะครับควรจะมาปรึกษาแพทย์ดีกว่าครับเพราะ
00:26:36 → 00:26:38 ว่าบางอันเองอาจจะช่วยไม่ได้บางอันอาจจะ
00:26:38 → 00:26:40 เป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์จริงแต่ต้องมาเจอ
00:26:40 → 00:26:42 ผู้เชี่ยวชาญในการปรับตั้งค่านะครับหลายๆ
00:26:42 → 00:26:44 ครั้งเองเนี่ยนะครับเราลองไปซื้อเครื่อง
00:26:44 → 00:26:46 มาใส่เองอาจะใส่ไม่ได้แต่พอมาเจอผู้
00:26:46 → 00:26:48 เชี่ยวชาเเคปรับนิดหน่อยๆครับบางอย่าง
00:26:48 → 00:26:51 เนี่ยนะครับในการที่จะมีลูกเล่นในการปรับ
00:26:51 → 00:26:53 ตัวเลขนิดๆหน่อยๆเนี่ยมันทำคามใส่เครื่อง
00:26:53 → 00:26:55 ได้ง่ายขึ้นก็มีครับเพราะฉะนั้นก็แนะนำ
00:26:55 → 00:26:57 ว่าคนจะมาตรวจดีกว่าครับจะได้ได้รู้แน่ๆ
00:26:57 → 00:26:59 ว่าเป็นเป็นถ้าเป็นแล้วเป็นรุแรงระดับไหน
00:26:59 → 00:27:01 แล้วต้องการการรักษาแบบไหนบางครั้งเองนะ
00:27:01 → 00:27:04 ครับมันอาจอย่างที่ได้เรียนไปว่าบางคนเอง
00:27:04 → 00:27:06 เป็นลักษณะของโครงสร้างใบหน้านะครับแบบ
00:27:06 → 00:27:08 เนี้ยผ่าตัดบางทีมันก็ช่วยได้เยอะเลยนะ
00:27:08 → 00:27:11 ครับอืก็ต้องเอ่อเอาแบบว่าตามความเหมาะสม
00:27:11 → 00:27:13 นะคะไปพบแพทย์ดีกว่านะคะเพื่อเฉพาะทาง
00:27:13 → 00:27:16 ด้วยเพื่อการรักษาที่ถูกต้องแล้วก็เหมาะ
00:27:16 → 00:27:19 สมใช้อุปกรณ์ที่ถูกกับตัวโรคของแต่ละคน
00:27:19 → 00:27:22 ภาวะแต่ละคนด้วยนะคะโอวันนี้ได้ข้อมูล
00:27:22 → 00:27:25 เต็มที่เลยค่ะเราก็ได้เข้าใจถึงภาวะหยุด
00:27:25 → 00:27:27 หายใจขณะหลับจากการอุดกั้นแล้วนะคะวันนี้
00:27:27 → 00:27:29 ขอบคุณคุณหมอวรสิทธิค่ะที่มาร่วมพูดคุยใน
00:27:29 → 00:27:31 รายการโรงหมอของเราในวันนี้ด้วยนะคะ
00:27:31 → 00:27:34 ขอบคุณค่ะสวัสดีค่ะขอบขอบคุณมากครับแล
00:27:34 → 00:27:36 ขอบคุณคุณผู้ฟังด้วยครับสวัสดีครับสวัสดี
00:27:36 → 00:27:38 ค่ะเอาล่ะค่ะคุณผู้ฟังหมดเวลาแล้วนะคะพบ
00:27:38 → 00:27:40 กันใหม่ครั้งหน้ากับรายการโรงหมอทางไทย
00:27:40 → 00:27:42 PBS podcast ค่ะวันนี้ลาไปก่อนนะคะ
00:27:42 → 00:27:47 สวัสดีค่ะ This Is Toy PBS podcast
00:27:47 → 00:27:49 โรคที่เกิดจากการทำงานมีปัจจัยอะไรบ้าง
00:27:49 → 00:27:51 และสาเหตุที่ทำให้เกิด Office syndrome
00:27:51 → 00:27:54 มาจากอะไรแพทย์หญิงชีวรัตน์ปราสานแพทย์
00:27:54 → 00:27:57 ชำนาญการพิเศษจากโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี
00:27:57 → 00:28:01 นี่มาเล่าให้ฟังครับโรคจากการทำงานมันจะ
00:28:01 → 00:28:05 ไม่เหมือนกับโรคอื่นๆนะคะคือการทำงาน
00:28:05 → 00:28:08 เนี่ยมันจะทำงานแล้วมีการสัมผัสความ
00:28:08 → 00:28:11 เสี่ยงด้านต่างๆไม่ว่าจะเป็นด้านกายภาพ
00:28:11 → 00:28:15 เสียงแสงความร้อนนะคะด้านสารเคมีชนิดต่าง
00:28:15 → 00:28:19 ๆหรือว่าเชื้อโรคต่างๆอ่าการอ่ามีท่าทาง
00:28:19 → 00:28:22 การทำงานที่ไม่เหมาะสมหรือมีความเครียด
00:28:22 → 00:28:25 มันก็จะสะสมความเสี่ยงเนี้ยไปเรื่อยๆจน
00:28:25 → 00:28:28 ถึงระยะเวลานึงอ่ะค่ะค่ะก็จะทำให้เกิด
00:28:28 → 00:28:31 อาการซึ่งระยะเวลาเนี่ยก็ขึ้นอยู่กับสภาพ
00:28:31 → 00:28:34 ร่างกายของแต่ละคนนะคะแล้วก็ขึ้นอยู่กับ
00:28:34 → 00:28:37 ลักษณะงานความเสี่ยงสภาพแวดล้อมในงาน
00:28:37 → 00:28:40 เพราะฉะนั้นคือระยะเวลานานเลยกว่าจะเกิด
00:28:40 → 00:28:43 อาการอาการก็จะเริ่มต้นตั้งแต่อาการเล็ก
00:28:43 → 00:28:46 น้อยเช่นระคายเครื่องนะคะหรือว่าอาการ
00:28:46 → 00:28:48 เหนื่อยกว่าปกติหรืออาการในระบบต่างๆใน
00:28:48 → 00:28:51 ระยะเริ่มต้นและถ้ารุนแรงที่สุดถ้าสาร
00:28:51 → 00:28:54 นั้นเนี่ยมันเป็นสารก่อมะเร็งอ่ายกตัว
00:28:54 → 00:28:57 อย่างเช่นแร่ใยหินก็จะเกิดเป็นโรคมะเร็ง
00:28:57 → 00:29:00 ขึ้น
00:29:00 → 00:29:04 มา This Is Toy PBS
00:29:04 → 00:29:08 podcast ติดตามรายการทางเว็บไซต์และแปลช
00:29:08 → 00:29:12 ของ Thai PBS podcast spotify South
00:29:12 → 00:29:15 Cloud Google podcast Apple podcast
00:29:15 → 00:29:18 และ YouTube Channel Thai PBS podcast
00:29:18 → 00:29:21 Thai PBS podcast View the world
00:29:21 → 00:29:23 via The
00:29:23 → 00:29:26 [เพลง]
00:29:26 → 00:29:32 Voice
00:29:32 → 00:29:35 อ