00:00:00 → 00:00:03 โรคไอกรนโรคติดต่อที่อาจรุนแรงในผู้ป่วย
00:00:03 → 00:00:06 บางกลุ่มโดยเฉพาะเด็กเล็กโรคนี้เป็นแล้ว
00:00:06 → 00:00:08 จะต้องรักษาอย่างไรและป้องกันด้วยวิธีใด
00:00:08 → 00:00:11 ได้บ้างต่อไปนี้คือข้อเท็จจริงและคำแนะนำ
00:00:11 → 00:00:12 จากผู้เชี่ยว
00:00:12 → 00:00:15 [เพลง]
00:00:15 → 00:00:18 ชาญศูนยชัวร์ก่อนแชร์สำนักข่าวไทยอสมทสอบ
00:00:18 → 00:00:20 ถามกับหัวหน้าหน่วยโรคติดเชื้อภาควิชา
00:00:20 → 00:00:23 กุมารเวชศาสตร์คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาล
00:00:23 → 00:00:26 รามาธิบดีมหาวิทยาลัยมหิดลถ้าสมมุติว่า
00:00:26 → 00:00:29 ท่านหรือลูกหลานของท่านเนี่ยมีอาการไอไอ
00:00:29 → 00:00:32 นานเยอะมีไอมากซะจนแบบมีอาเจียนหลังไอนะ
00:00:32 → 00:00:34 ครับตอนนี้เนี่ยอาจจะต้องพาไปพบคุณหมอน
00:00:34 → 00:00:36 นิดนึงเพื่อที่จะตรวจว่าเป็นไอกรนหรือ
00:00:36 → 00:00:38 เปล่าหรือถ้าไม่ใช่เป็นโรคอย่างอื่นหรือ
00:00:38 → 00:00:40 เปล่าที่ทำให้ไอเยอะแลไอนานเมื่อสงสัย
00:00:40 → 00:00:43 เป็นไอกรนควรพบแพทย์ถ้าเป็นไอกรนจริงๆ
00:00:43 → 00:00:46 เนี่ยก็มียารักษานะครับการรักษาก็ง่ายมาก
00:00:46 → 00:00:48 กินยาแค่ 5 วันก็หายแล้วนะครับนอกจากจะทำ
00:00:48 → 00:00:50 ให้เราอาการดีขึ้นแล้วเนี่ยมันยังลดโอกาส
00:00:50 → 00:00:52 การแพร่เชื้อให้คนอื่นด้วยถ้าสมมุติว่ามี
00:00:52 → 00:00:55 ประวัติสัมผัสเช่นสมมุติว่ามีเด็กในบ้าน
00:00:55 → 00:00:57 หมอบอกว่าเป็นไอกรนแน่นอนแล้วก็คนที่อยู่
00:00:57 → 00:00:58 รูปบ้านเดียวกันแล้วก็อยู่อยู่เรื่องมี
00:00:58 → 00:01:01 อาการเหมือนหวาดไอน้ำมูกอย่างเงี้ยควรจะ
00:01:01 → 00:01:02 ต้องไปตรวจนะครับเพื่อคุณหมอจะได้ดูว่า
00:01:02 → 00:01:04 ติดไอกรนไปแล้วหรือยังเพราะแพทย์จะมีแนว
00:01:04 → 00:01:07 ทางรักษาที่ได้ผลเร็วการรักษาตั้งแต่เื่น
00:01:07 → 00:01:09 ๆก็จะช่วยทำให้หายจากโรคได้เร็วยับยั้ง
00:01:09 → 00:01:11 การแพร่เชื้อแล้วก็ป้องกันการเกิดพาา
00:01:11 → 00:01:13 แซกซอนด้วยครับเนื่องจากไอโนเป็นโรคที่
00:01:13 → 00:01:15 เกิดจากแบคทีเรียนะครับเพราะฉะนั้นคือยา
00:01:15 → 00:01:17 ปฏิชีวนะหรือยาค่าเชอแบคทีเรียก็สามารถ
00:01:17 → 00:01:20 ใช้ได้ตอนนี้เราก็มียาเรียกว่ากุปแมคโคน
00:01:20 → 00:01:22 นะครับซึ่งตอนนี้ยาตัวที่นิยมใช้ก็คือ
00:01:22 → 00:01:24 เรียกว่าซิทไมซินนะครับซึ่งก็เป็นยาที่
00:01:24 → 00:01:26 ไม่ได้หายากเลยนะครับถ้าไปพบคุณหมอคุณหมอ
00:01:26 → 00:01:28 วินิจฉัยว่าเป็นไอกรนเนี่ยคุณหมอก็สามารถ
00:01:28 → 00:01:30 สั่งให้รับประทานได้นะส่วนใหญ่ก็คือกิน
00:01:30 → 00:01:32 แค่ประมาณ 5 วันก็จบคอร์สแล้วครับการ
00:01:32 → 00:01:35 รักษาไงมาแต่ว่าถ้าทิ้งไว้นานๆเช่นเดือน
00:01:35 → 00:01:37 กว่า 2 เดือนมันก็ดีขึ้นเองได้นะครับถ้า
00:01:37 → 00:01:39 ไม่มีภาวะแซกซ้อนเกิดขึ้นก่อนแล้วถ้าเป็น
00:01:39 → 00:01:42 ไอกรนกินยาแก้ไอช่วยได้ไหมครับยาแก้ไอก็
00:01:42 → 00:01:45 เป็นการบรรเทาอาการช่วยให้อาการไออาจจะ
00:01:45 → 00:01:47 บรเทาได้แต่ว่าเชื้อไม่หายไปนะครับถ้าจะ
00:01:47 → 00:01:49 รักษาไอกลจะต้องกำจัดเชื้อมันก็คือกินยา
00:01:49 → 00:01:51 การดื่มน้ำการพักผ่อนให้เพียงพอหรือยาแก้
00:01:51 → 00:01:53 ไอเนี่ยเา้าเรียกว่าการรักษาแบบประคับ
00:01:53 → 00:01:55 ประคองนะครับอาจจะทำให้อาการไอดีขึ้นแต่
00:01:55 → 00:01:58 ว่ามันไม่ได้ช่วยให้หายไปครับไอกรนรักษา
00:01:58 → 00:02:00 หายขาดแต่ก็เป็นซ้ำได้เป็นซ้ำได้ครับ
00:02:00 → 00:02:02 เพราะว่าภูมิคุ้มกันที่เกิดขึ้นมันไม่
00:02:02 → 00:02:04 อยู่ตลอดชีวิตเช่นเดียวกันนะครับฉีด
00:02:04 → 00:02:06 วัคซีนมันไม่ได้ป้องกันได้ 100% แล้วก็
00:02:06 → 00:02:08 เราฉีดวัคซีนในวัยเด็กประมาณ 5 เข็มหลัง
00:02:08 → 00:02:10 จากนั้นเนี่ยจะต้องมีการฉีดซ้ำทุก 10 ปี
00:02:10 → 00:02:12 เพราะฉะนั้นพอเด็กอายุเข้า 11 12 ปี
00:02:12 → 00:02:14 เนี่ยสู่ช่วงวัยรุ่นเนี่ยจะต้องมาฉีด
00:02:14 → 00:02:16 วัคซีนไอนซ้ำอีกทีนึงเพื่อเป็นการกระตุ้น
00:02:16 → 00:02:19 แล้วก็ฉีดทุก 10 ปีถ้าเป็นผู้หญิงทุกการ
00:02:19 → 00:02:21 ตั้งครรภ์ก็จะมีการแนะนำให้ฉีดวัคซีนไรน
00:02:21 → 00:02:23 ทุกครั้งขณะที่ตั้งครรภ์ครับแล้วการป้อง
00:02:23 → 00:02:26 กันไอนล่ะครับการป้องกันเป็นไรนก็คืออัน
00:02:26 → 00:02:27 ที่ 1 การฉีดวัคซีนตอนนี้เนี่ยเรามีการ
00:02:27 → 00:02:30 ฉีดวัคซีนตั้งแต่ในเด็กอายุ 2 เดือนขึ้น
00:02:30 → 00:02:32 ไปการฉีกวัคซีนเนี่ยก็จะลดการติดเชื้อ
00:02:32 → 00:02:34 แล้วก็ถ้าลดการติดเชื้อไม่ได้ก็จะลดความ
00:02:34 → 00:02:37 รุนแรงถ้าเกิดติดขึ้นมาได้ 2 ก็คือการแยก
00:02:37 → 00:02:39 ผู้ป่วยอย่างเหมาะสมคือถ้าเรารู้แล้วว่า
00:02:39 → 00:02:41 คนนี้เป็นไอกรนเราควรจะต้องรักษาเขากินยา
00:02:41 → 00:02:43 ประมาณ 5 วันช่วง 5 วันเนี้ยเขาจะต้องแยก
00:02:43 → 00:02:45 ไม่เจอกับกลุ่มเสียงหรือถ้าจำเป็นก็ต้อง
00:02:45 → 00:02:47 สวมหน้ากากนมาอย่างถูกต้องหลังจากรักษา 5
00:02:48 → 00:02:49 วันไปแล้วเนี่ยเาก็จะไม่แพทยเชืละก็
00:02:49 → 00:02:52 สามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติมียาป้อง
00:02:52 → 00:02:55 กันไอนมั้ยครับสมมุติว่ามีคนๆนึงในบ้าน
00:02:55 → 00:02:57 เป็นไอนนะครับแล้วก็คนรอบบ้านเนี่ยก็คือ
00:02:57 → 00:02:59 ถือว่าเป็นคนที่สัมผัสมีความเสี่ยงสูงที่
00:02:59 → 00:03:01 จะจะเป็นก่อนที่จะเกิดอาการถ้าคุณหมอรู้
00:03:01 → 00:03:03 ก่อนคุณหมอก็จะให้ยาป้องกันคนเหล่านั้น
00:03:03 → 00:03:06 ก่อนที่จะเกิดอาการนะซึ่งยาตัวที่ใช้ป้อง
00:03:06 → 00:03:08 กันเนี่ยก็เป็นยาตัวเดียวกันกับที่ใช้
00:03:08 → 00:03:10 รักษานั่นแหละระยะเวลาก็เท่ากันคือ 5 วัน
00:03:10 → 00:03:13 ดังนั้นยาป้องกันไอกรนจะควรใช้ก็ต่อเมื่อ
00:03:13 → 00:03:16 บุคคลนั้นเสี่ยงสัมผัสผู้ติดเชื้อมาแล้ว
00:03:16 → 00:03:18 ถ้าสมมุติว่าอยู่ๆเราบอกว่าไอ้กลระบาดที่
00:03:18 → 00:03:20 ชุมชนอย่างผมเนี่ยผมก็ไม่กินเพราะว่าผม
00:03:20 → 00:03:21 ไม่ได้ไปสัมผัสสมมุตินะครับในห้องเรียน
00:03:21 → 00:03:24 นึงมีเด็กคนนึงหมอบอกแน่ๆว่าเป็นไอกรน
00:03:24 → 00:03:26 เพื่อนที่นั่งข้างๆกันอยู่ในห้องเดียวกัน
00:03:26 → 00:03:28 เนี้ยเวลาเรียนไม่ได้สมแมสไม่ได้สมนักา
00:03:28 → 00:03:30 อนามัยเด็กเหล่าเนี้ยก็สมควรที่จะต้องได้
00:03:30 → 00:03:32 รับยาป้องกันถึงแม้คุณพ่อคุณแม่จะบอกว่า
00:03:32 → 00:03:34 เขาเพิ่งฉีดวัคซีนไอนมาเมื่อเดือนที่แล้ว
00:03:34 → 00:03:36 2 เดือนที่แล้วแต่ถ้ามีประวัติสัมผัส
00:03:36 → 00:03:39 ใกล้ชิดยังไงก็ต้องกินยาเด็กคนอื่นในโรง
00:03:39 → 00:03:40 เรียนที่ไม่เคยมาเจอเด็กคนนี้เลยหรือว่า
00:03:40 → 00:03:42 ไม่ได้มาสัมผัสใกล้ชิดเด็กคนนี้เลยก็ไม่
00:03:42 → 00:03:44 จำเป็นต้องกินยายังตอนนี้มีข่าวไอกรน
00:03:45 → 00:03:47 ระบาดเราควรไปซื้อยามากินกันไว้ก่อนมั้
00:03:47 → 00:03:49 ครับเอ่อจริงๆแนะนำอยากให้คุณหมอเป็นคน
00:03:50 → 00:03:51 สั่งจ่ายเพราะว่าอยากให้คุณหมอตรวจร่าง
00:03:51 → 00:03:53 กายก่อนว่าเอ๊ะเป็นไอนจริงหรือเปล่าอัน
00:03:53 → 00:03:55 ที่ 2 เป็นรุนแรงมั้ยอันที่ 3 มีภาวะ
00:03:55 → 00:03:57 แซกซอนมการไปซื้อยากินเองจริงๆยาตัวเนี้ย
00:03:57 → 00:04:00 ตามร้านที่ขายยาก็มีแต่ผมไม่ไม่ค่อยอยาก
00:04:00 → 00:04:01 แนะนำให้ไปซื้อยาเหล่านี้กินเองนะครับโดย
00:04:01 → 00:04:03 เฉพาะยาปติชีวนะเนี่ยไม่ค่อยอยากแนะนำ
00:04:03 → 00:04:05 เพราะว่าอันที่ 1 ยังไม่รู้เลยว่าเราเป็น
00:04:05 → 00:04:07 โรคนั้นจริงหรือเปล่าแล้วก็การใช้ยาปติ
00:04:07 → 00:04:10 ชีวนะสุ่ม 4 สุ่ม 5 เนี่ยอาจจะทำให้ร่าง
00:04:10 → 00:04:12 กายเราเนี่ยมีเชื้อดื้อยาอยู่ในตัวได้
00:04:12 → 00:04:14 เพราะฉะนั้นถ้าเราเกิดเป็นโรคขึ้นมาจริงๆ
00:04:14 → 00:04:16 เนี่ยเชื้อโรคของเราจะเป็นเชื้อที่ดื้อ
00:04:16 → 00:04:18 ยาวมันก็จะรักษายากแพทย์แนะนำไม่ควรซื้อ
00:04:18 → 00:04:21 ยามากินเองโดยไม่ปรึกษาแพทย์การซื้อยากิน
00:04:21 → 00:04:23 เองเนี่ยเราก็ไม่รู้เลยว่าจริงๆแล้วเนี่ย
00:04:23 → 00:04:25 โรคที่เราเป็นเนี่ยรุนแรงแค่ไหนมันมีภาวะ
00:04:25 → 00:04:27 แซกซอนหรือยังงั้นเนี่ยถ้าสมมุติว่าโรก
00:04:27 → 00:04:29 เรามันแรงขนาดนึงหรือว่ามีภาวะแซกซอนแล้ว
00:04:29 → 00:04:31 เนี่ยถึงถึงแม้ว่ายาจะถูกมันอาจจะรักษา
00:04:31 → 00:04:33 ไม่หายก็ได้แล้วมันจะทำให้การรักษาที่ถูก
00:04:33 → 00:04:35 ต้องเนี่ยมันถูกยืดออกไปการรักษาก็จะไม่
00:04:35 → 00:04:37 ได้เป็นผลดีสำหรับรายละเอียดของเรื่อง
00:04:37 → 00:04:40 วัคซีนป้องกันไรนรวมทั้งสัญญาณอาการและ
00:04:40 → 00:04:43 สาเหตุสามารถติดตามได้จากชัวร์ก่อนแชร์
00:04:43 → 00:04:45 อีกตอนนึงนะครับทรงเรื่องน่าสงสัยแจ้ง
00:04:45 → 00:04:47 เตือนภัยข้อมูลเท็จเพียงแอด Line ศูนย์
00:04:47 → 00:04:49 ชัวร์ก่อนแชร์ไว้นะครับเข้าไปที่เพิ่ม
00:04:49 → 00:04:52 เพื่อนแล้วค้นหาชัวแอ Share ยังมีอีกหลาย
00:04:52 → 00:04:54 เรื่องน่าสงสัยบนสังคมออนไลน์หากได้รับ
00:04:54 → 00:04:56 อะไรมาอย่าเพิ่งแชร์ต่อร่วมตรวจสอบไปด้วย
00:04:57 → 00:04:58 กันกับชัว่ก่อน
00:04:58 → 00:05:02 แชร์ y