00:00:00 → 00:00:02 โรคพฤติกรรมการกินที่ผิดปกตินะครับหรือ
00:00:02 → 00:00:04 ว่า eating disorders เนี่ยก็มีอยู่หลาย
00:00:04 → 00:00:08 แบบนะครับโดยเอิหลักการเนี่ยก็คือการที่
00:00:08 → 00:00:11 มีพฤติกรรมการกินที่ผิดปกติโดยที่อาจจะมี
00:00:11 → 00:00:15 ที่มาสาเหตุจากจิตใจนะครับอารมณ์ความคิด
00:00:15 → 00:00:18 ต่างๆส่งผลให้เกิดพฤติกรรมที่ผิดปกติซึ่ง
00:00:19 → 00:00:21 เมื่อมีพฤติกรรมการกินที่ผิดปกติไปเนี่ย
00:00:21 → 00:00:24 ก็จะก่อให้เกิดปัญหาทางร่างกายต่างๆตามมา
00:00:24 → 00:00:26 ได้อันที่อาจจะเคยเห็นกันบ่อยก็อาจจะเป็น
00:00:26 → 00:00:29 anoxia จะมีความกังวลเกี่ยวกับน้ำหนัก
00:00:29 → 00:00:33 ตัวที่ค่อนข้างมากนะครับมากจนผิดปกติทำ
00:00:33 → 00:00:35 ให้เกิดพฤติกรรมอาจจะมีการอดอาหารหรือว่า
00:00:35 → 00:00:37 มีการนับ
00:00:37 → 00:00:39 แคลอรี่ไม่กินนะครับหรือว่าออกกำลังกาย
00:00:39 → 00:00:42 มากจนผิดปกติทำให้น้ำหนักลดไปเยอะมากส่ง
00:00:42 → 00:00:45 ผลให้ร่างกายมีปัญหาตามมาเป็นต้นนะครับ
00:00:46 → 00:00:48 หรือว่าบีเมียนะครับก็อาจจะมีอาการที่
00:00:48 → 00:00:52 เอิ่กินโดยที่ควบคุมตัวเองไม่ได้นะครับ
00:00:52 → 00:00:54 กินอาหารในปริมาณมากที่ควบคุมตัวเองไม่
00:00:54 → 00:00:57 ได้เกิดความรู้สึกผิดขึ้นมาแล้วก็ไปมี
00:00:57 → 00:00:59 พฤติกรรมบางอย่างเพื่อชดเชยในสิ่งที่กิน
00:00:59 → 00:01:02 เข้าไปอย่างเช่นการทำให้ตัวเองอาเจียนการ
00:01:02 → 00:01:05 ใช้ยาระบายนะครับหรือว่าการออกกำลังกาย
00:01:05 → 00:01:08 ที่มากจนเกินไปซึ่งทั้งหมดเนี้ยก็ก่อให้
00:01:08 → 00:01:10 เกิดปัญหาทางกายตามมาได้อันนี้ก็เป็น 2
00:01:10 → 00:01:12 อันที่อาจจะพบเห็นกันได้ที่เป็นอันที่
00:01:12 → 00:01:14 สำคัญำคัญของ eating disorders นะครับ
00:01:14 → 00:01:17 แต่จริงๆมันก็มีอื่นๆอีกมากมายคือจริงๆ
00:01:17 → 00:01:19 ตัวโรคเนี่ยมันก็มีมานานแล้วแต่ว่าเพิ่ง
00:01:19 → 00:01:22 ได้รับการมองเห็นได้รับการตระหนักถึงไม่
00:01:23 → 00:01:26 นานมานี้นี่เองนะครับโดยที่อาการเนี่ยก็
00:01:26 → 00:01:30 จะเป็นการกินอาหารในชนิดเค้าเรียกว่าเป็น
00:01:30 → 00:01:33 ชนิดของอาหารที่ค่อนข้างแคบนะครับหรือว่า
00:01:33 → 00:01:36 การที่ไม่กินอาหารประเภทใดประเภทหนึ่งจาก
00:01:36 → 00:01:40 การที่อาหารนั้นน่ะอาจจะมี Texture ที่
00:01:41 → 00:01:43 เขาไม่ชอบอย่างเช่นอาหารบางคนจะไม่กิน
00:01:43 → 00:01:46 อาหารแหย่ๆบางคนอาจจะไม่กินอาหารที่กรอบ
00:01:46 → 00:01:48 อย่างเงี้ยครับหรือว่าบางคนก็ไม่กินอาหาร
00:01:48 → 00:01:51 ที่มีสีแดงไม่กินอาหารที่มีสีเขียวนะครับ
00:01:51 → 00:01:53 ก็คือเป็นการเลือกกินโดย Base on
00:01:53 → 00:01:57 Texture ของอาหารหรือว่าสีเ่อหน้าตาของ
00:01:57 → 00:02:01 อาหารอย่างเงี้ยครับซึ่งแบบเนี้ยนะครับ
00:02:01 → 00:02:03 การเลือกกินแบบเนี้ยไม่ได้เกี่ยวข้องกับ
00:02:03 → 00:02:06 ความกังวลน้ำหนักนะครับไม่ได้ไม่ได้มี
00:02:06 → 00:02:09 ความกังวลเกี่ยวกับน้ำหนักหรือว่าบางคน
00:02:09 → 00:02:13 เนี่ยเอาจจะไม่กินเพราะว่ากังวลกับเ่าผล
00:02:13 → 00:02:16 ที่จะเกิดขึ้นจากการกินอย่างเช่นบางคนเคย
00:02:16 → 00:02:19 ไปกินปลาแล้วก็มีกั้งปลาติดคอนะครับจาก
00:02:19 → 00:02:23 นั้นมาก็ไม่ยอมกินอาหารที่แข็งอีกต่อไป
00:02:23 → 00:02:25 อาหารทุกอย่างที่จะเข้าปากได้ต้องผ่านการ
00:02:25 → 00:02:27 ปั่นเท่านั้นอย่างเงี้ยครับอันเนี้ยมันก็
00:02:27 → 00:02:30 เห็นได้ชัดเจนว่ามันเป็นพฤติกรรมการกิน
00:02:30 → 00:02:33 ซึ่งไม่ปกติก็ยังไม่ได้มีตัวเลขอุบัติการ
00:02:33 → 00:02:35 ชัดเจนแต่ว่าก็มีการประมาณกันว่าน่าจะ
00:02:35 → 00:02:37 ประมาณ 1% หรือน้อยกว่านั้นนะครับใน
00:02:37 → 00:02:40 ประชากรทั่วไปโรคฟิเนี่ยก็ไม่ได้มีสาเหตุ
00:02:40 → 00:02:43 ใดสาเหตุหนึ่งที่เป็นสาเหตุชัดเจนว่า 1
00:02:43 → 00:02:45 ทำให้เกิด 2 นะอย่างเงี้อาจจะตอบไม่ได้
00:02:45 → 00:02:48 ขนาดนั้นแต่ว่าเอิก็อาจจะมีปัจจัยทาง
00:02:48 → 00:02:50 พันธุกรรมที่เข้ามาเกี่ยวข้องหากคนใน
00:02:50 → 00:02:53 ครอบครัวที่มีโรคความผิดปกติทางการกินนะ
00:02:53 → 00:02:55 ครับมันก็อาจจะส่งผลให้เพิ่มความเสี่ยง
00:02:55 → 00:02:57 ต่อต่อคนอื่นในครอบครัวได้ก็ดังที่ได้
00:02:58 → 00:03:01 แจ้งไปนะครับว่ามันมีสาเหตุมาจากความคิด
00:03:01 → 00:03:04 นะครับหรือว่าอารมณ์บางอย่างที่ผิดปกติ
00:03:04 → 00:03:06 เกี่ยวกับอาหารนะครับอาจจะเรียกว่าเป็น
00:03:06 → 00:03:08 ความสัมพันธ์ระหว่างตัวเองกับอาหารที่มัน
00:03:09 → 00:03:12 ผิดปกติไปทำเทำให้ก่อให้เกิดพฤติกรรมการ
00:03:12 → 00:03:15 กินซึ่งซึ่งผิดปกตินะครับแล้วก็ทำให้ร่าง
00:03:15 → 00:03:18 กายผิดปกติตามไปด้วยโรคทางจิตเวทไม่
00:03:18 → 00:03:21 จำเป็นต้องมีสาเหตุนะครับเหมือนก็เหมือน
00:03:21 → 00:03:24 กับคนจะเป็นเบาหวานจะเป็นก็คือต้องเป็นอื
00:03:24 → 00:03:26 แล้วก็ไม่ได้เป็นความผิดของเขาไม่ได้เป็น
00:03:26 → 00:03:29 ช้อยส์ของเขาเขาไม่ได้อยากเป็นไม่ได้มี
00:03:29 → 00:03:31 ใครอยากเป็นทางจิตเวทครับคนที่เลือกกิน
00:03:31 → 00:03:34 อาหารปกติสมมุติว่าคนเนี้ยไม่ชอบกินหนัง
00:03:34 → 00:03:37 ไก่คนเนี้ยไม่ชอบกินสะโพกไก่อันเนี้ยก็
00:03:37 → 00:03:39 อันนี้ก็คือเป็นการเลือกกินที่เข้าใจได้
00:03:40 → 00:03:43 เป็นปกตินะครับแต่ในขณะที่คนที่มีโรคฟิ
00:03:43 → 00:03:45 เนี่ยอาจจะมีช้อยส์ของอาหารที่ค่อนข้าง
00:03:45 → 00:03:49 แคบมากยึดมั่นถือมั่นในกฎเกณฑ์ของการกิน
00:03:49 → 00:03:52 ค่อนข้างสกอย่างเช่นคนเนี้ยถ้าถ้าอาหาร
00:03:52 → 00:03:55 ไหนมีสีแดงไม่กินเลยอาหารไหนมีสีเขียวไม่
00:03:55 → 00:03:58 กินเลยอาหารไหนที่มันแยอะแยะหน่อยไม่กิน
00:03:58 → 00:04:01 นะครับซึ่งพอกินอาหารได้แค่แบบเนี้ยก็จะ
00:04:01 → 00:04:04 ส่งผลให้ขาดสารอาหารได้ถ้าเป็นเด็กก็อาจ
00:04:04 → 00:04:06 จะไม่โตนะครับถ้าเป็นผู้ใหญ่ก็อาจจะทำให้
00:04:06 → 00:04:10 น้ำหนักเนี่ยลงมาจนผิดปกติได้ครับอาจจะ
00:04:10 → 00:04:12 งองเทียบกับตัวเองก็ได้ถ้าคิดว่าตัวเอง
00:04:12 → 00:04:16 ปกติออะนะครับเอิมอาจจะดูว่าช้อยของอาหาร
00:04:16 → 00:04:19 ที่เขากินเนี่ยมันแคบจนผิดปกติไหมปริมาณ
00:04:19 → 00:04:22 อาหารที่เขากินเนี่ยมันน้อยกว่าคนอื่นๆ
00:04:22 → 00:04:24 ทั่วไปสมมุติไปนั่งกินข้าวเป็นวงกับ
00:04:24 → 00:04:26 เพื่อนอย่างเงี้ย 10 คนกินหมดจานได้แต่คน
00:04:26 → 00:04:30 เนี้ยกินอยู่ 2 คำอันเนี้ยมันก็อาจจะไม่
00:04:30 → 00:04:33 ปกติแล้วนะครับแต่การกินนน้อยแบบนั้นหรือ
00:04:33 → 00:04:35 ว่ากินแคบแบบนั้นไม่จำเป็นว่าต้องเป็นโรค
00:04:35 → 00:04:38 ทางความผิดปกติทางการกินนะครับไม่จำเป็น
00:04:38 → 00:04:40 ว่าต้องเป็นโรคความผิดปกติทางการกินเพราะ
00:04:40 → 00:04:42 ว่ามันอาจจะเกิดจากสาเหตุอื่นก็ได้อย่าง
00:04:42 → 00:04:45 เช่นบางคนมีแผลในปากกินน้อยอย่างเงี้ก็
00:04:45 → 00:04:48 เป็นได้หรือบางคนซึมเศร้านะครับก็ทำให้
00:04:48 → 00:04:51 เบื่ออาหารไม่อยากกินก็เป็นได้ไม่จำคือ
00:04:51 → 00:04:54 ความผิดปกติทางการกินไม่ได้แปลว่าต้อง
00:04:54 → 00:04:56 เป็นโรคความผิดปกติทางการกิน 2 อย่างนี้
00:04:56 → 00:05:00 แยกกันนะครับนอกจากเนี้ยในรคความผิดปกติ
00:05:00 → 00:05:03 ทางการกินบางอย่างก็อาจจะมีความคิดหมก
00:05:03 → 00:05:05 มุ่นเกี่ยวกับอาหารค่อนข้างมากทำให้วิถี
00:05:05 → 00:05:08 ชีวิตทุกอย่างเนี่ยหมุนรอบอาหารเพื่อนชวน
00:05:08 → 00:05:12 ไปกินข้าวไม่ไปนะครับไม่กล้าไปเรียนเพราะ
00:05:12 → 00:05:14 ว่ากลัวว่าตอนพักเที่ยงต้องไปกินข้าวกับ
00:05:14 → 00:05:17 เพื่อนอย่างเงี้ยนะครับทำให้ชีวิตมัน
00:05:17 → 00:05:20 กระทบไปหมดอ่าอันเนี้ยก็เป็นตัวบ่งชีว่า
00:05:20 → 00:05:23 มันไม่ปกติแล้วนะครับก็ต้องสังเกตดูกลุ่ม
00:05:23 → 00:05:26 เสียงของฟิเนี่ยนะครับก็มักจะพบได้มากใน
00:05:26 → 00:05:29 คนที่มีภาวะออทิสติกนะครับเพราะว่าคนที่
00:05:29 → 00:05:32 มีเพอิติเนี่ยมักจะมีความไวนะครับมักจะมี
00:05:32 → 00:05:36 ความไวต่อลักษณะบางประการของสิ่งต่างๆได้
00:05:36 → 00:05:39 อยู่อาหารก็เป็นหนึ่งในนั้นเขาก็อาจจะไว
00:05:39 → 00:05:41 ต่อ Texture ของอาหารไวต่อสีของอาหารนะ
00:05:41 → 00:05:44 ครับแล้วก็เอิสติก็มักจะมีลักษณะในความ
00:05:44 → 00:05:47 ที่สมมุติว่าเอาข้าวมาจานนึงอย่างเงี้นะ
00:05:47 → 00:05:49 ครับมีอาหารหลายอย่างใช่มั้ยครับคนที่
00:05:50 → 00:05:52 เป็นฟิเนี่ยก็อาจจะเขี่ยอาหารทุกอย่างที่
00:05:53 → 00:05:55 มีลักษณะสีแดงออกไปอย่างเงี้ยคือมันจะชัด
00:05:55 → 00:05:58 เจนเลยว่าเออเขาไม่กินเพราะมันเป็นสีนี้
00:05:58 → 00:06:01 ไม่กินเพราะว่า Text เป็นเป็นของกรอบๆ
00:06:01 → 00:06:05 อย่างเงี้ยไม่กินเลยนะครับซึ่งพอกินอาหาร
00:06:05 → 00:06:07 ได้จำกัดแบบเนี้ยสมมุติว่าไปเจาะเลือดออก
00:06:07 → 00:06:10 มาก็อาจจะพบว่ามีการขาดวิตามินบางอย่าง
00:06:10 → 00:06:13 ขาดแร่ธาตุบางอย่างได้ลักษณะการขาดเนี่ย
00:06:13 → 00:06:15 อาจจะขาดเยอะจนเป็นอันตรายต่อชีวิตเลยก็
00:06:15 → 00:06:18 ได้เพราะว่าเาไม่กินอาหารชนิดใดชนิดหนึ่ง
00:06:18 → 00:06:22 เ่ะแบบไม่กินเลยซึ่งจริงๆคนปกติก็ควรจะ
00:06:22 → 00:06:24 กินอาหารที่มีหลายอย่างเพื่อได้เพื่อให้
00:06:24 → 00:06:28 ได้สารอาหารครบถ้วนถูกมยครับก็เ่อฟินี่ก็
00:06:28 → 00:06:31 รักษาได้นะครับการรักษาที่สำคัญที่สุดก็
00:06:31 → 00:06:34 คือการทำจิตบำบัดการการทำพฤติกรรมบำบัดนะ
00:06:34 → 00:06:36 ครับซึ่งจุดประสงค์เนี่ยก็มักจะเป็นการ
00:06:36 → 00:06:40 ฝึกให้เขาเิสามารถกินอาหารได้กว้างขึ้นนะ
00:06:40 → 00:06:44 ครับได้สามารถอดทนกับอาหารที่แตกต่างออก
00:06:44 → 00:06:48 ไปได้มากขึ้นในบางรายที่การทำจิตบำบัดอาจ
00:06:48 → 00:06:51 จะยากหรือว่าไม่ได้ผลดีเท่าที่ควรอาจจะมี
00:06:51 → 00:06:54 การพิจารณาใช้ยาได้บ้างเหมือนกันครับแต่
00:06:54 → 00:06:56 ว่าการรักษาที่สำคัญที่สุดก็คือการทำจิต
00:06:56 → 00:07:00 บำบัดการทำพฤติกรรมบำบัดในตัวฟินะครับค่ะ
00:07:00 → 00:07:03 ครับจริงๆถ้าสมมุติว่าเลือกกินไม่ได้ไป
00:07:03 → 00:07:06 ไม่ได้ไปไม่กินอาหารกลุ่มที่มันมีความ
00:07:06 → 00:07:09 สำคัญมากๆเนี่ยก็อาจจะไม่ได้มีอันตรายถึง
00:07:09 → 00:07:12 แก่ชีวิตได้แต่ว่าถ้าสมมุติว่าไปจำกัด
00:07:12 → 00:07:17 สมมุติว่าคนเนี้ยไม่กินเอิ่มไม่กินผักไม่
00:07:17 → 00:07:19 กินเนื้อสัตว์เลยสมมุตินะครับก็อาจจะทำ
00:07:19 → 00:07:22 ให้ขาดสมมุติขาดโปรตีนไปได้อย่างเงี้ย
00:07:22 → 00:07:25 เป็นต้นนะครับซึ่งการขาดสัอาหารเนี่ยมัน
00:07:25 → 00:07:28 ก็ส่งผลกับร่างกายตั้งตั้งแต่หัวจดเท้าอื
00:07:28 → 00:07:32 บางคนอาจจะทำให้ขาดเกลือแร่บางอย่างซึ่ง
00:07:32 → 00:07:35 ส่งผลต่อหัวใจทำให้หัวใจทำงานผิดปกติไป
00:07:35 → 00:07:37 ซึ่งตงเนี้สามารถถึงแก่ชีวิตได้เพราะ
00:07:37 → 00:07:40 ฉะนั้นจริงๆก็อาจจะต้องมาตรวจเพิ่มเติมดู
00:07:40 → 00:07:43 ว่ามันมันมันกระทบแค่ไหนนะครับเพราะมันมี
00:07:43 → 00:07:45 ผลกับร่างกายด้วยไม่ได้เฉพาะจิตใจไม่ได้
00:07:45 → 00:07:49 เฉพาะพฤติกรรมเท่านั้นความจู้จี้จุกจิก
00:07:49 → 00:07:53 กับการกินเนี่ยไม่ได้ต้องเป็นโรคเสมอไป
00:07:53 → 00:07:57 แต่ว่าถ้าจูจีมากในระดับหนึจนจำกัดมากไป
00:07:57 → 00:07:59 ก็อาจจะก่อให้เกิดเป็นโรคขึ้นมาได้เพราะ
00:07:59 → 00:08:02 เพะฉะนั้นพ่อแม่นะครับก็อยากจะให้พยายาม
00:08:02 → 00:08:07 ฝึกเด็กให้สามารถกินอะไรได้หลากหลายนะ
00:08:07 → 00:08:10 ครับเพื่อที่ว่าเขาจะได้ไม่มีการจำกัดอาม
00:08:10 → 00:08:13 ช้อยของอาหารมากจนเกินไปจนก่อให้กลายเป็น
00:08:13 → 00:08:16 ไม่โตหรือว่าขาสารนอาหารได้นะครับไม่งั้น
00:08:16 → 00:08:20 จะมีปัญหาตามมาขอบคุณนะคะสำหรับการรับชม
00:08:20 → 00:08:23 รายการ TNN Health ค่ะและอย่าลืมค่ะกด
00:08:24 → 00:08:27 Subscribe กดไลค์กดแชร์ในทุกช่องทาง
00:08:27 → 00:08:30 ออนไลน์ของ TNN ช่อง 16 ค่ะเพื่อที่จะไม่
00:08:30 → 00:08:34 พลาดการรับชมรายการสดคลิปวีดีโอที่น่าสน
00:08:34 → 00:08:38 ใจของทาง TNN นะคะ