00:00:00 → 00:00:04 [เพลง]
00:00:04 → 00:00:07 คือพอเรามีความดันลหิตสูงอ่ะนะครับเรียก
00:00:07 → 00:00:10 ว่าหัวใจทำงานเยอะมากขึ้นพอหัวใจทำงาน
00:00:10 → 00:00:12 เยอะมากขึ้นเพื่อที่จะบีบเลือดเพื่อสู้
00:00:12 → 00:00:15 กับความดันโลหิตสูงที่เรามีอยู่พอมันสูง
00:00:16 → 00:00:18 มากขึ้นปุ๊บเนี่ยหัวใจเราก็ต้องทำงานหนัก
00:00:18 → 00:00:20 ก็จะเกิดภาวะแทรกซ้อนตามมาครับเช่นกล้าม
00:00:20 → 00:00:24 เนื้อหัวใจหนาเกิดภาวะหัวใจวายน้ำท่วมปอด
00:00:24 → 00:00:26 แล้วก็ในบางครั้งพอความดันลงหิสูงเราเป็น
00:00:26 → 00:00:28 มานานๆเนี่ยหัวใจเราทำงานเยอะโครงสร้างใน
00:00:28 → 00:00:31 หัวใจเราก็เปลี่ยนไปท้ายสุดก็จะเกิดพราะ
00:00:31 → 00:00:33 หัวใจเต้นผิดจังหวะแลตัวความดันลหิตสูง
00:00:33 → 00:00:35 เองนะครับก็ยังทำให้หลอดเลือดที่ไปเลี้ยง
00:00:35 → 00:00:39 หัวใจเนี่ยเสื่อมแล้วก็เกิดการตีบตันได้
00:00:39 → 00:00:41 ง่ายขึ้นเราก็จะกลายเป็นหัวใจขาดเลือดตาม
00:00:41 → 00:00:42 มาได้
00:00:42 → 00:00:45 [เพลง]
00:00:45 → 00:00:49 ครับพอเราเป็นความดันโลหิตสูงนะครับเราก็
00:00:49 → 00:00:51 แบ่งการดูแลรักษาเป็น 2 กลุ่มกลุ่มแรกก็
00:00:51 → 00:00:53 คือเเรียกว่าการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมก่อน
00:00:53 → 00:00:55 โดยที่เรายังไม่จำเป็นต้องใช้ยานะครับ
00:00:55 → 00:00:57 ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมก็คือเช่นเนี่ยแหละ
00:00:57 → 00:01:00 เราก็พยายามออกกำลังกายให้สม่ำเสมอเมอเรา
00:01:00 → 00:01:03 ก็พยายามงดอาหารเค็มนะครับไม่กินอาหารมัน
00:01:03 → 00:01:05 ถ้ามีภาวะเครียดถ้าสามารถที่จะจัดการได้
00:01:05 → 00:01:08 หรือลดมันได้ก็จะช่วยได้ครับส่วนถ้า
00:01:08 → 00:01:10 สมมุติเราได้พยายามปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
00:01:10 → 00:01:12 แล้วปรากฏว่าความดันเรายังไม่ดีขึ้นไม่
00:01:12 → 00:01:15 สามารถที่จะคุมอยู่ในเป้าหมายที่ควรจะ
00:01:15 → 00:01:17 เป็นได้เนี่ยก็ต้องมีการใช้ยาซึ่งคุณหมอ
00:01:17 → 00:01:19 ก็จะเป็นคนสั่งยาให้ครับ
00:01:19 → 00:01:23 [เพลง]
00:01:23 → 00:01:26 ผมคือจริงๆออกกำลังกายได้ใกล้เคียงเหมือน
00:01:26 → 00:01:28 คนปกติแหละครับเพียงแต่ว่าเราก็ไม่ควรที่
00:01:28 → 00:01:31 จะหักโหมมากเกินไปแล้วแล้วก็เราควรอจะ
00:01:31 → 00:01:32 ต้องประเมินดูด้วยว่าตอนที่เราออกกำลัง
00:01:32 → 00:01:35 กายเนี่ยความำถสูงเราเนี่ยสูงมากไปมั้จน
00:01:35 → 00:01:37 เป็นอันตรายหรือเปล่าก็ต้องลองปรึกษากับ
00:01:37 → 00:01:40 คุณหมอที่ที่รักษาเราอย่างต่อเนื่องมา
00:01:40 → 00:01:42 ตลอดครับคุณหมอก็จะเป็นคนที่ให้คำตอบกับ
00:01:42 → 00:01:44 เราได้ว่าเราพร้อมที่จะออกกำลังกายแล้ว
00:01:44 → 00:01:46 หรือยังถ้าความมันมันสูงมากเกินไปณเวลา
00:01:46 → 00:01:48 นั้นเนี่ยสูงจนจะเป็นอันตรายเนี่ยคุณหมอ
00:01:48 → 00:01:50 เคก็จะยังให้งดไว้ก่อนแต่ถ้าเมื่อไหร่รับ
00:01:50 → 00:01:52 ประทานยาคุมความดันได้ดีแล้วเราก็สามารถ
00:01:53 → 00:01:55 ที่จะไปออกกำลังกายได้แต่ยังไงเราก็ยัง
00:01:55 → 00:02:01 ไม่แนะนำให้หักหหมากอยู่ดีนะครับ
00:02:02 → 00:02:04 คำว่าหายขาดมันก็หมายถึงว่าหายสนิทเลย
00:02:04 → 00:02:06 เหมือนเราไม่เคยเป็นใช่มั้ครับคราวนี้
00:02:06 → 00:02:09 ปัญหาก็คือว่าถ้าเราเป็นน้อยๆเป็นไม่เยอะ
00:02:10 → 00:02:13 การที่เราปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเช่นงดอาหาร
00:02:13 → 00:02:16 เค็มออกกำลังกายให้สม่ำเสมอลดความเครียด
00:02:16 → 00:02:19 ลงหรือว่ารักษาโรคอื่นๆที่อาจจะทำให้เกิด
00:02:19 → 00:02:21 ความังสูงได้เช่นในบางคนมีภาวะหยุดหายใจ
00:02:21 → 00:02:23 ขณะหลักร่วมด้วยอย่างเงี้ยนะครับถ้าเรา
00:02:23 → 00:02:25 สามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมพวกนี้ได้เนี่ย
00:02:25 → 00:02:27 ธีความดันเรากลับมาเป็นปกติได้เลยโดยที่
00:02:27 → 00:02:30 เราไม่ต้องกินยาแต่ถามว่าเราจะแบบวางใจ
00:02:30 → 00:02:32 ได้เลยยก็ไม่ได้หรอกครับก็คือเราคงต้อง
00:02:32 → 00:02:35 คอยติดตามแล้วก็วัดความดันตัวเราเองเนี่ย
00:02:35 → 00:02:38 ไปตลอดแล้วก็ต่อเนื่องรอดูว่าเกิดเมื่อ
00:02:38 → 00:02:39 ไหร่ก็ตามที่มันคุมไม่ได้ก็อาจจะต้องมี
00:02:39 → 00:02:42 การใช้ยาเข้ามาช่วยส่วนในคนที่สูงมากๆนะ
00:02:42 → 00:02:44 ครับหมายความว่าการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
00:02:44 → 00:02:46 อย่างเดียวไม่หายแล้วเนี่ยก็ต้องใช้ยาการ
00:02:46 → 00:02:49 ใช้ยาแม้ว่าจริงอยู่อาจจะไม่หายต้องกินยา
00:02:49 → 00:02:51 ไปตลอดจนกระทั่งเหมือนจะเกือบตลอดชีวิตก็
00:02:51 → 00:02:54 ตามเนี่ยแต่เราสามารถทำให้มีชีวิตใกล้
00:02:54 → 00:02:56 เคียงหรือเหมือนคนปกติได้เลยเพียงแต่ว่า
00:02:56 → 00:02:58 เราอาจจะเสียเวลารับประทานยานิดนึงเท่า
00:02:58 → 00:02:59 นั้นเองครับแต่อย่างน้อยก็ช่วยป้องกันการ
00:03:00 → 00:03:02 ไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อนตามมาได้ครับโอกาส
00:03:02 → 00:03:05 ที่จะหายขาดค่อนข้างยากครับยังไงก็คงอาจ
00:03:05 → 00:03:08 จะต้องมีการทานยาไปตลอดส่วนแต่ว่าถ้าเรา
00:03:08 → 00:03:11 จะหยุดยาได้มเนี่ยเอ่อเราคงต้องเอาความ
00:03:11 → 00:03:13 ดันที่เราวัดเนี่ยแหละครับเอามาให้คุณหมอ
00:03:14 → 00:03:16 เ้าดูคุณหมอเดูเสร็จแล้วปุ๊บสามารถที่จะ
00:03:16 → 00:03:19 ลดหรือหยุดยาได้ก็คุณหมอเจะเป็นคนบอกเรา
00:03:19 → 00:03:21 เองก็ในบางคนเนี่ยก็จะสามารถหยุดยาได้
00:03:21 → 00:03:23 เหมือนกันเวลาเราเริ่มอายุเยอะๆแล้วเรา
00:03:23 → 00:03:26 ไม่ค่อยได้มีกิจกรรมอะไรเยอะมากแล้วภาวะ
00:03:26 → 00:03:29 กดดันอะไรก็น้อยลงเราอาจจะทานอาหารได้
00:03:29 → 00:03:31 น้อยลงด้วยเค็มก็เลยทานน้อยลงไปความดัน
00:03:31 → 00:03:33 มันอาจจะดีขึ้นก็อาจจะหยุดยาได้แต่ถามว่า
00:03:33 → 00:03:36 หายสนิทมก็ยังไงคงต้องมีการติดตามความดัน
00:03:36 → 00:03:38 ไปตลอดอยู่ดี
00:03:38 → 00:03:41 [เพลง]
00:03:41 → 00:03:46 ครับก็จริงๆโรคหัวใจเราก็เอาแค่พื้นฐาน
00:03:46 → 00:03:48 ก่อนอย่างน้อยก็คือเวลาเรามาเจอคุณหมอเก็
00:03:48 → 00:03:50 มีการซักประวัติตรวจร่างกายก่อนนะครับ
00:03:50 → 00:03:52 เสร็จปุ๊บเราก็อาจจะมีการส่งตรวจบางอย่าง
00:03:53 → 00:03:55 เพิ่มเติมขึ้นนะครับเช่นกดคลื่นไฟฟ้าหัว
00:03:55 → 00:03:57 ใจนะฮะดูว่ามีกล้ามเนื้อหัวใจหนามั้ยหรือ
00:03:57 → 00:04:00 ว่ามีหัวใจเต้นผิดจังหวะหรือเปล่า xray
00:04:00 → 00:04:02 ปอดดูนิดนึงว่าเรามีภาวะเสี่ยงที่จะมี
00:04:02 → 00:04:06 ภาวะหัวใจไวน้ำท่วมปอดมนะครับหรือมากกว่า
00:04:06 → 00:04:08 นั้นก็อาจจะมีการทำอัตซาวหัวใจหรือที่เรา
00:04:08 → 00:04:11 เรียกกันว่าเอคคาริมก็ได้หรือในบางครั้ง
00:04:11 → 00:04:13 คุณหมอก็อาจจะขอให้เรามีการวิ่งสายพาน
00:04:13 → 00:04:16 เพื่อทดสอบสมรรถภาพหัวใจด้วยว่าเราเสี่ยง
00:04:16 → 00:04:18 ที่จะมีหลอดเลือดหัวใจตีบแล้วหรือยังนะ
00:04:18 → 00:04:20 ครับหากเราคุมความดันได้ไม่ค่อยดีมานาน
00:04:20 → 00:04:23 แล้วนะครับซึ่งเอ่อการตรวจพวกเนี้ยคนไข้
00:04:23 → 00:04:25 ที่เป็นความดันโลหิตสูงเนี่ยสามารถที่จะ
00:04:25 → 00:04:27 ทำได้นะครับมันไม่ได้ดูอันตรายอะไรส่วน
00:04:27 → 00:04:30 การตรวจอื่นๆที่มันเพิ่มเริ่มมากขึ้นไป
00:04:30 → 00:04:32 กว่าเนี้ยไม่ว่าจะเป็นการเซเรย์
00:04:32 → 00:04:34 คอมพิวเตอร์ดูหลอดเลือดหัวใจหรือต้องมี
00:04:34 → 00:04:36 การฉีดสีเข้าไปเนี่ยการตรวจเริ่มมีความ
00:04:36 → 00:04:39 เสี่ยงบ้างเล็กน้อยละอันเนี้ยปรึกษาคุณ
00:04:39 → 00:04:41 หมอก่อนครับก่อนที่จะทำว่าเอ่อมันมีข้อ
00:04:41 → 00:04:43 บ่งชี้มีความจำเป็นที่จะต้องทำแล้วหรือ
00:04:43 → 00:04:45 ยังถ้าสมมุติว่ามีความจำเป็นที่จะต้องทำ
00:04:45 → 00:04:47 เดี๋ยวคุณหมอเคก็จะแนะนำแล้วก็บอกข้อดี
00:04:47 → 00:04:49 ข้อเสียของการตรวจนั้นๆให้เราทราบครับถ้า
00:04:50 → 00:04:52 สมมุติว่าเรามีปัจจัยเสี่ยงในการเกิดโรค
00:04:52 → 00:04:54 หลอดเลือดหัวใจตีบตันแล้วปรากฏว่าเราอาจ
00:04:55 → 00:04:58 จะดูแลได้ไม่ดีหรือว่าระยะเวลาที่เป็นตัว
00:04:58 → 00:05:00 โรคู้นี้เป็นมานานมากขึ้นก็จะทำให้เรา
00:05:00 → 00:05:02 เส้นเลือดตีบตันเนี่ยแล้วก็คุณหมอเตรวจ
00:05:02 → 00:05:04 เจอว่าเรามีความเสี่ยงที่จะเป็นไม่ว่าจะ
00:05:04 → 00:05:07 เป็นการเอ่อวิ่งสายพานทำอัตซาวหัวใจหรือ
00:05:07 → 00:05:10 ว่าเจาะเลือดอะไรก็ตามเนี่ยเอ่อแล้วคุณ
00:05:10 → 00:05:11 หมอก็สงสัยว่าเราอาจจะมีเส้นเลือดตีบ
00:05:11 → 00:05:13 เนี่ยคุณหมอก็จะส่งเราไปเ้าเรียกว่า
00:05:13 → 00:05:15 วินิจฉัยก่อนด้วยการฉีดสีดูหล่อเลือดหัว
00:05:15 → 00:05:17 ใจนะครับหรือในบางครั้งเราก็จะเรียกว่า
00:05:17 → 00:05:20 สวนหัวใจก็ได้เพื่อดูว่าหล่อเลือดหัวใจ
00:05:20 → 00:05:22 เราตีบตันจริงมยในปัจจุบันจริงๆเนี่ยเรา
00:05:22 → 00:05:24 ก็มีวิธีออื่นในการตรวจหล่อเลือดหัวใจนะ
00:05:24 → 00:05:27 ครับเช่นการด้วยเอ่อการทำด้วย xray
00:05:27 → 00:05:30 คอมพิวเตอร์การทำด้วยการตรวจคลื่นแม่
00:05:30 → 00:05:32 เหล็กไฟฟ้านะครับอันนี้ก็ช่วยบอกได้เช่น
00:05:32 → 00:05:35 กันแต่ท้ายที่สุดแล้วถ้าเราเจอว่ามีเส้น
00:05:35 → 00:05:38 เลือดหัวใจตีกเนี่ยการรักษาเราก็คงต้อง
00:05:38 → 00:05:41 เริ่มรกก่อนอ่ะการรักษาก็คือกลุ่มแรกก็
00:05:41 → 00:05:43 คือใช้ยาได้มมถ้าสามารถใช้ยารักษาได้แล้ว
00:05:43 → 00:05:46 ก็ใช้ยาหากการใช้ยานั้นไม่สามารถรักษาให้
00:05:46 → 00:05:49 โรคนั้นดีได้เพียงอย่างเดียวเราก็อาจจะ
00:05:49 → 00:05:52 ต้องมีการทำบรูนขยายหลอดเลือดไปหรือถ้า
00:05:52 → 00:05:55 หากเส้นเลือดนั้นดูเป็นเยอะแล้วการทำบน
00:05:55 → 00:05:57 รูนขยายหลอดเลือดอาจจะไม่เหมาะกับคนไข้
00:05:57 → 00:06:01 การผ่าตัดไพาก็จะเป็นทางเลือกที่ดีได้
00:06:01 → 00:06:09 [เพลง]