00:00:00 → 00:00:03 โรคความดันโลหิตสูงภัยเงียบอย่าปล่อยไว้
00:00:03 → 00:00:06 อันตรายกว่าที่คิดและในช่วงนี้นะคะเราจะ
00:00:06 → 00:00:11 ไปพูดคุยกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนี้
00:00:11 → 00:00:14 กันสวัสดีค่ะอาจารย์ขอเริ่มที่คำถามแรก
00:00:14 → 00:00:15 เลยนะ
00:00:15 → 00:00:22 [เพลง]
00:00:22 → 00:00:27 คะอาจารย์คะระดับความดันโลหิตเท่าไหร่ถึง
00:00:27 → 00:00:30 เสี่ยงเป็นโรคความดันโลหิตสูงคะความดัน
00:00:30 → 00:00:33 โลหิตนะคะของปกติเลยเนี่ยความดันตัวบน
00:00:33 → 00:00:37 เนี่ยจะต้องน้อยกว่า 120 มมตลอดนะคะความ
00:00:37 → 00:00:40 ดันตัวล่างเนี่ยถ้าปกติจะต้องน้อยกว่า 80
00:00:40 → 00:00:43 มมตลอดนะคะดังนั้นถ้าเมื่อไหร่ที่ความดัน
00:00:43 → 00:00:47 เนี่ยเกิน 12080 มมตลอดเกินหรือว่าเท่า
00:00:47 → 00:00:49 กับนะคะถือว่าเริ่มมีความเสี่ยงกับความ
00:00:49 → 00:00:53 ดันสูงค่ะแต่ส่วนใหญ่นะคะเราจะวินิจฉัย
00:00:53 → 00:00:56 ความดันสูงเนี่ยจะเอาความดันตัวบนที่เท่า
00:00:56 → 00:00:59 กับหรือมากกว่า 140 มมตลอดแล้วก็ตัวล่าง
00:00:59 → 00:01:01 มากกว่าหรือเท่ากับ 90 มมปลอดนะคะเพื่อ
00:01:01 → 00:01:03 เป็นการวินิจฉัยความดันโลหิตสูงโดยความ
00:01:04 → 00:01:06 ดันอันเนี้ยหมายถึงความดันที่โรงพยาบาลนะ
00:01:06 → 00:01:08 คะถ้าเป็นความดันที่บ้านอาจจะใช้เลขแค่
00:01:08 → 00:01:12 135 85 ที่เอาเป็นความดันสูงค่ะแล้วโรค
00:01:12 → 00:01:15 ความดันโลหิตสูงค่ะมักเกิดขึ้นกับคนกลุ่ม
00:01:15 → 00:01:19 ใดคะอาจารย์ความดันโลหิตสูงนะคะถ้าที่เจอ
00:01:19 → 00:01:22 บ่อยๆเนี่ยมันก็ขึ้นกับ 1 นะคะปัจจัยก็
00:01:22 → 00:01:25 คืออายุที่มากขึ้นนะคะยิ่งสูงอายุความดัน
00:01:25 → 00:01:28 ก็มีสิทธิ์ที่จะสูงมากขึ้นนะคะข้อที่ 2
00:01:28 → 00:01:31 ก็คือเช่นน้ำหนักตัวที่มากมากนะคะข้อที่ 3
00:01:31 → 00:01:34 ก็คือประวัติครอบครัวนะคะถ้าเรามีประวัติ
00:01:34 → 00:01:37 ครอบครัวเป็นความดันสูงสัก 1-2 คนเนี่ย
00:01:37 → 00:01:39 เราจะมีความเสี่ยงกับความดันเนี่ยเกือบ 2
00:01:39 → 00:01:42 เท่าจากคนอื่นนะคะนอกจากนั้นก็คือพวกโรค
00:01:42 → 00:01:45 ประจำตัวเช่นเป็นโรคไตก็เพิ่มโอกาสเป็น
00:01:45 → 00:01:48 ความดันสูงหรือว่าการใช้ชีวิตเช่นไม่ออก
00:01:48 → 00:01:51 กำลังกายการดื่มเหล้าการพักผ่อนน้อยนะคะ
00:01:51 → 00:01:54 ก็เพิ่มโอกาสเป็นความดันสูงได้ค่ะเราควร
00:01:54 → 00:01:58 ตรวจวัดความดันบ่อยแค่ไหนคะถ้าเป็นความ
00:01:58 → 00:02:01 ดันนะคะปัจจุบันคำแนะนำเนี่ยจะให้คนที่
00:02:01 → 00:02:04 อายุ 18 ปีขึ้นไปนะคะวัดความดันอย่างน้อย
00:02:04 → 00:02:06 ปีละ 1 ครั้งค่ะแต่ถ้าสมมุติว่ามีความ
00:02:06 → 00:02:09 เสี่ยงกับการเป็นความดันสูงก็คือปัจจัย
00:02:09 → 00:02:11 ที่ว่านะคะอาจจะให้วัดอย่างน้อยปีละ 2
00:02:11 → 00:02:14 ครั้งขึ้นไปค่ะการวัดความดันโลหิตเองที่
00:02:14 → 00:02:18 บ้านควรทำอย่างไรบ้างคะก็คือ 1 การวัด
00:02:18 → 00:02:20 ความดันเนี่ยจะต้องประกอบด้วยเครื่องวัด
00:02:20 → 00:02:24 ความดันที่เป็นมาตรฐานนะคะแล้วก็ได้รับ
00:02:24 → 00:02:27 การ validate นะคะ cate เรียบร้อยนะคะ
00:02:27 → 00:02:30 แล้วก็สายก็คือไอ้ตัวผ้าพันธุ์นะคะหรือ
00:02:30 → 00:02:32 ว่าเรียกว่าคัฟเนี่ยจะต้องขนาดพอเหมาะกับ
00:02:32 → 00:02:35 แขนของเรานะคะโดยเครื่องวัดความดันเนี่ย
00:02:35 → 00:02:38 จะระบุขนาดของแขนที่ที่พอเหมาะกับขนาดของ
00:02:38 → 00:02:41 สายรัดอยู่แล้วนะคะดังนั้น 1 เครื่องวัด
00:02:41 → 00:02:43 จะต้องถูกต้องนะคะข้อที่ 2 ก็คือว่าถ้า
00:02:43 → 00:02:47 วัดนะคะเราจะต้องวัดเนี่ยจะต้องนั่งที่
00:02:47 → 00:02:49 เก้าอี้นะคะขาจะต้องแตะพื้น 2 ข้างห้าม
00:02:50 → 00:02:52 นั่งไขว่ห้างนะคะหลังจะต้องพิงเก้าอี้นะ
00:02:52 → 00:02:55 คะแขนเนี่ยจะต้องวางที่โต๊ะแล้วก็สายที่
00:02:55 → 00:02:58 รัดที่แขนอ่ะค่ะจะต้องอยู่ระดับเดียวกับ
00:02:58 → 00:03:01 หัวใจนะคะแล้วก็ก็เวลาวัดความดันเนี่ย
00:03:01 → 00:03:04 ต้องห้ามดื่มชากาแฟสูบบุหรี่หรือออกกำลัง
00:03:04 → 00:03:07 กายก่อนวัดครึ่งชั่วโมงนะคะแล้วก็เวลาวัด
00:03:07 → 00:03:10 แนะนำให้วัดประมาณซักเอ่อ 2 ครั้งติดห่าง
00:03:10 → 00:03:13 กันประมาณ 1 นาทีนะคะปกติหมอก็จะแนะนำให้
00:03:13 → 00:03:15 วัดตอนเช้าตื่นขึ้นมาไปเข้าห้องน้ำไม่
00:03:15 → 00:03:18 กั้นปัสสาวะมาวัดความดันนะคะอีกทีนึงอาจ
00:03:18 → 00:03:20 จะเป็นวัดช่วงเย็นหรือก่อนนอนอีกสักครั้ง
00:03:20 → 00:03:24 หนึ่งค่ะถ้าเราวัดความดันโลหิตตัวเอง 1
00:03:24 → 00:03:27 ครั้งค่ะอาจารย์แล้วพบว่าเข้าเกณฑ์ได้กับ
00:03:27 → 00:03:30 ความดันโลหิตสูงเลยจะถือว่าเป็นโรคความ
00:03:30 → 00:03:33 ดันโลหิตสูงหรือไม่คะเป็นคำถามที่ดีนะคะ
00:03:33 → 00:03:36 เพราะว่าความดันน่ะค่ะมันจะคล้ายๆความดัน
00:03:36 → 00:03:39 ของเราเนี่ยมันจะแปรปรวนขึ้นกับหลายสภาวะ
00:03:39 → 00:03:42 นะคะดังนั้น 1 อ่ะถ้าเราวัดที่บ้านนะคะ
00:03:42 → 00:03:45 แล้วเป็นการวัดที่ถูกต้องนะคะอย่างที่หมอ
00:03:45 → 00:03:47 บอกเครื่องถูกต้องถ่าวัดถูกต้องวิธีการ
00:03:47 → 00:03:50 วัดถูกต้องนะคะจริงๆก็น่าจะวินิจฉัยความ
00:03:50 → 00:03:53 ดันสูงได้นะคะแต่ว่าจริงๆความดันของคนเรา
00:03:53 → 00:03:55 อ่ะค่ะมันจะขึ้นอยู่กับหลายภาวะเช่น
00:03:55 → 00:03:58 สมมุติว่าตอนนั้นพักผ่อนน้อยมีความเครียด
00:03:58 → 00:04:00 มีการทานยาบางอย่างก็อาจจะมีความดันขึ้น
00:04:01 → 00:04:03 ชั่วคราวนะคะดังนั้นส่วนใหญ่เรามักจะลอง
00:04:03 → 00:04:06 วัดความดันหลายๆครั้งเพื่อคอนเฟิร์มหรือ
00:04:06 → 00:04:08 เพื่อวินิจฉัยความดันโลหิตสูงนะคะอันนี้
00:04:08 → 00:04:11 คือความดันที่บ้านนะคะแต่ถ้าเป็นความดัน
00:04:11 → 00:04:13 ที่โรงพยาบาลอ่ะค่ะถ้าสมมุติว่าเราวัด
00:04:13 → 00:04:16 ครั้งแรกแล้วเกิน 180 120 เลยก็วินิจฉัย
00:04:16 → 00:04:19 ได้เพราะว่าสูงมากนะคะแต่ถ้าเกณฑ์ไม่ถึง
00:04:19 → 00:04:23 แต่ว่าพบโรคร่วมของความดันนะคะเช่นไปเจอ
00:04:23 → 00:04:25 กล้ามเนื้อหัวใจหนาที่น่าจะเป็นผลจากความ
00:04:25 → 00:04:29 ดันก็วินิจฉัยได้เลยนะคะแต่ถ้าไม่พบทั้ง
00:04:29 → 00:04:32 เอ่อโรคที่เป็นผลจากความดันความดันก็ไม่
00:04:32 → 00:04:35 ได้สูงมากนะคะมันอาจจะมีภาวะที่เรียกว่า
00:04:35 → 00:04:38 ไท cose hypertension นะคะก็คือความดัน
00:04:38 → 00:04:42 สูงเฉพาะตอนที่มาโรงพยาบาลนะคะซึ่งถ้า
00:04:42 → 00:04:44 อย่างงั้นเนี่ยเราอาจจะแนะนำให้คนไข้ไป
00:04:44 → 00:04:46 วัดความดันที่บ้านนะคะหรือว่าถ้าจะเอา
00:04:46 → 00:04:49 วินิจฉัยความดันสูงโดยที่ไม่วัดที่บ้านนะ
00:04:49 → 00:04:51 คะก็ต้องอย่างน้อย 3 ครั้งขึ้นไปความดัน
00:04:52 → 00:04:54 ที่สูงที่โรงพยาบาลถึงจะวินิจฉัยว่าเป็น
00:04:54 → 00:04:58 โรคความดันสูงได้ค่ะอาจารย์คะและหากตรวจ
00:04:58 → 00:05:01 พบว่าเป็นโรคความดันลโลหิตสูงค่ะแต่ยัง
00:05:01 → 00:05:04 ไม่มีอาการผิดปกติใดๆเลยจำเป็นต้องเข้า
00:05:04 → 00:05:07 รับการรักษาหรือไม่คะจำเป็นเลยค่ะคือ
00:05:07 → 00:05:10 อย่างงี้โลคความดันน่ะค่ะระยะเอาเป็นว่า
00:05:10 → 00:05:13 ส่วนใหญ่เลยดีกว่าไม่ค่อยมีอาการนะคะ
00:05:13 → 00:05:15 อาการที่ว่าปวดหัวนะคะหรือว่าอาการที่
00:05:15 → 00:05:18 เป็นพวกเส้นเลือดมีปัญหาเนี่ยเจอได้น้อย
00:05:18 → 00:05:20 นะคะส่วนใหญ่คนที่เป็นความดันเนี่ยไม่มี
00:05:20 → 00:05:24 อาการนะคะแต่ว่าเอ่อถ้าเรารักษาช้ามันจะ
00:05:24 → 00:05:27 มีผลแทรกซ้อนของความดันนะคะดังนั้นเนี่ย
00:05:28 → 00:05:30 แนะนำว่าถ้ามีความดันสูงถึงจะยังไม่มี
00:05:30 → 00:05:33 อาการแนะนำให้มาพบแพทย์ก่อนนะคะแพทย์จะ
00:05:33 → 00:05:36 พิจารณาว่าควรจะเริ่มรักษาเลยหรือเปล่านะ
00:05:36 → 00:05:38 คะเพราะว่าถ้าช้าไปเนี่ยมันอาจจะอันตราย
00:05:38 → 00:05:42 แล้วก็มีผลแทรกซ้อนที่รุนแรงได้เลยค่ะผู้
00:05:42 → 00:05:45 ที่เป็นโรคความดันโลหิตสูงค่ะหากปล่อยไว้
00:05:45 → 00:05:49 นานไม่รักษาจะส่งผลเสียอย่างไรได้คะผล
00:05:49 → 00:05:51 แทรกซ้อนของความดันนะคะอาแบ่งว่าถ้าเป็น
00:05:51 → 00:05:54 ของหัวใจนะคะอย่างแรกคือกล้ามเนื้อหัวใจ
00:05:54 → 00:05:57 จะหนาขึ้นนะคะกล้ามเนื้อมันก็จะต้องปรับ
00:05:57 → 00:06:00 หนาขึ้นเพื่อสู้กับความดันของเราที่สูงนะ
00:06:00 → 00:06:02 คะแต่กล้ามเนื้อที่หนาของหัวใจเนี่ยไม่
00:06:02 → 00:06:04 ได้ดีเหมือนกล้ามเนื้อของเราที่หนาขึ้นนะ
00:06:04 → 00:06:07 คะมันก็จะทำให้เกิดภาวะหัวใจวายง่ายขึ้น
00:06:07 → 00:06:10 มีอาการเหนื่อยง่ายขึ้นนะคะแล้วก็ความดัน
00:06:10 → 00:06:12 ที่สูงก็ยังเพิ่มโอกาสทำให้เกิดเป็นพวก
00:06:12 → 00:06:14 หลอดเลือดหัวใจตีกนะคะซึ่งเป็นโรคที่
00:06:14 → 00:06:17 อันตรายถึงแก่ชีวิตนะคะอันที่ 2 ถ้าเป็น
00:06:17 → 00:06:20 ทางสมองก็จะเกิดพวกเส้นเลือดสมองตีบหรือ
00:06:20 → 00:06:22 ว่าเป็นพวกเลือดออกในสมองได้นะคะอย่างที่
00:06:22 → 00:06:25 เคยได้ยินว่าอยู่ดีๆมีเลือดออกในสมองแล้ว
00:06:25 → 00:06:28 ก็พุบไปเลยนะคะก็เป็นจากความดันสูงได้นะ
00:06:28 → 00:06:31 คะอันสุดท้ายที่เจอบ่อยๆเลยก็คือไตวายนะ
00:06:31 → 00:06:34 คะความดันสูงเนี่ยสามารถทำให้ไตวายจนต้อง
00:06:34 → 00:06:37 ไปล้างไตได้เลยนะคะซึ่งความดันเนี่ยแหละ
00:06:37 → 00:06:40 ก็เป็นโรคที่อันตรายมากเหมือนกันค่ะ
00:06:40 → 00:06:42 ปัจจุบันค่ะมีวิธีการรักษาโรคความดัน
00:06:42 → 00:06:46 โลหิตสูงอย่างไรบ้างคะคือวิธีการรักษา
00:06:46 → 00:06:49 ความดันนะคะเอ่อแบ่งง่ายๆก็คือ 1 เป็นการ
00:06:49 → 00:06:52 รักษาที่ไม่ต้องใช้ยานะคะเอ่อการรักษาที่
00:06:52 → 00:06:55 ไม่ต้องใช้ยาเนี่ยก็จะเน้นการลดน้ำหนักนะ
00:06:55 → 00:06:57 คะการลดน้ำหนักคือถ้าน้ำหนักเกินเนี่ยการ
00:06:57 → 00:07:00 ลดน้ำหนัก 1 กกสามารถลดความได้ความดันได้
00:07:00 → 00:07:03 ประมาณ 1 มลมปลอดนะคะดังนั้นเอ่อแนะนำให้
00:07:03 → 00:07:06 ลดน้ำหนักข้อที่ 2 ก็คือว่าเอ่อจะแนะนำ
00:07:06 → 00:07:09 ถ้าเกิดสมมุติว่าดื่มแอลกอฮอล์มากก็ลด
00:07:09 → 00:07:12 ปริมาณแอลกอฮอล์ลงนะคะต่อมาก็คือการคุม
00:07:13 → 00:07:16 โซเดียมคลุมเกลือนะคะอันต่อมาคือการทาน
00:07:16 → 00:07:20 อาหารที่ดีกับโรคความดันนะคะอันนี้คือการ
00:07:20 → 00:07:23 รักษาที่ไม่ใช้ยานะคะนอกจากนั้นการออก
00:07:23 → 00:07:25 กำลังกายใช่การออกกำลังกายอีกอันนึงนะคะ
00:07:25 → 00:07:28 ก็ช่วยลดความดันได้นะคะอันต่อมาก็คือการ
00:07:28 → 00:07:31 รักษาที่ใช้ยานะคะยาเนี่ยมันมีหลายกลุ่ม
00:07:31 → 00:07:34 มากนะคะซึ่งแต่ละกลุ่มก็เหมาะสมกับคนไข้
00:07:34 → 00:07:36 แต่ละคนก็อันนี้ต้องให้แพทย์เป็นผู้เลือก
00:07:36 → 00:07:39 ใช้นะคะแล้วก็อันสุดท้ายค่ะก็เป็นวิธี
00:07:39 → 00:07:42 ใหม่นะคะวิธีที่ว่าเนี่ยคือการคล้ายๆจี้
00:07:42 → 00:07:45 ไฟฟ้าที่เส้นเลือกที่ไตนะคะจะใช้ในคนที่
00:07:45 → 00:07:48 เราให้ยาความดันปริมาณมากและคุมไม่ได้นะ
00:07:48 → 00:07:51 คะหรือว่าไม่สามารถทานยาความดันได้ด้วยผล
00:07:51 → 00:07:54 ข้างเคียงของยานะคะหรือว่าอาจจะใช้ในบาง
00:07:54 → 00:07:57 คนจริงๆที่ไม่อยากทานยานะคะแล้วผู้ที่
00:07:57 → 00:08:00 เป็นความดันโลหิตสูงค่ะควรหลีกเลี่ยง
00:08:00 → 00:08:03 อาหารประเภทไหนบ้างคะหลักๆหนึ่งก็คือว่า
00:08:03 → 00:08:06 ต้องพยายามเลี่ยงเกลือหรือว่าโซเดียมนะคะ
00:08:06 → 00:08:09 เอ่ออาหารที่มีโซเดียมอยู่สูงเนี่ยมักจะ
00:08:09 → 00:08:12 เป็นอาหารพวกอาหารสำเร็จรูกนะคะดังนั้น
00:08:12 → 00:08:14 เราจะแนะนำให้คนไข้เนี่ยเลี่ยงอาหารที่ทำ
00:08:14 → 00:08:17 มาสำเร็จรูกนะคะเช่นพวกอาหารกระป๋องอาหาร
00:08:17 → 00:08:21 ที่แช่แข็งอาหารซองๆหรือพวกขนมถุงๆซองๆนะ
00:08:21 → 00:08:24 คะอันต่อมาเนี่ยพยายามเลี่ยงพวกซอสพวกซอส
00:08:24 → 00:08:28 พริกซอสมะเขือเทศนะคะพวกน้ำปลาเงี้ยต้อง
00:08:28 → 00:08:30 เลี่ยงนะคะต่อมาก็ก็คืออาหารที่เป็นคล้าย
00:08:30 → 00:08:33 ๆอาหาร process Food อ่ะค่ะจะเป็นพวกแฮม
00:08:33 → 00:08:35 ไส้กรอกพวกเยค่ะอาจจะต้องเรี่ยงเหมือนกัน
00:08:35 → 00:08:38 นะคะนอกจากนั้นพวกอาหารในร้านอาหารเขาก็
00:08:38 → 00:08:41 จะแนะนำว่าอย่าทานอาหารในร้านอาหารเยอะ
00:08:41 → 00:08:44 ให้พยายามประกอบอาหารเองนะคะก็จะได้ลด
00:08:44 → 00:08:46 เอ่อโซเดียมลงนะคะหรือว่าเวลาเราทานเนี่ย
00:08:46 → 00:08:49 ถ้าไปดูฉลากข้างหลังค่ะจริงๆปัจจุบันพวก
00:08:49 → 00:08:52 ฉลากของอาหารเนี่ยมันจะมีการเขียนปริมาณ
00:08:52 → 00:08:55 โซเดียมอยู่นะคะเนาะอันนี้คืออาหารที่ควร
00:08:55 → 00:08:57 จะต้องเลี่ยงนะคะจริงๆต่อมาเนี่ยมันมี
00:08:57 → 00:09:00 อาหารที่ดีกับโรคความดันด้วยด้วยนะคะนะคะ
00:09:00 → 00:09:02 เขาคจะเรียกว่า Dash Diet เป็นอาหารที่
00:09:02 → 00:09:05 ดีต่อความดันมันจะเป็นกลุ่มอาหารกลุ่มที่
00:09:05 → 00:09:07 ว่าเนี่ยก็คือเป็นกลุ่มที่ประกอบไปด้วย
00:09:07 → 00:09:12 เน้นผักผลไม้นะคะเน้นปลาสัตว์ปีกนะคะแล้ว
00:09:12 → 00:09:14 ก็พยายามเลี่ยงพวกเนื้อแดงหรือว่าพวกของ
00:09:14 → 00:09:18 หวานนะคะเอ่อเน้นพวกถั่วที่ไม่ใส่เกลือนะ
00:09:18 → 00:09:21 คะพวกเนี้ยก็จะสามารถทำให้ความดันลงได้
00:09:21 → 00:09:25 ค่ะทำอย่างไรค่ะอาจารย์เพื่อที่จะป้องกัน
00:09:25 → 00:09:29 ไม่ให้เป็นโรคความดันโลหิตสูงควบคุมอาหาร
00:09:29 → 00:09:32 ก็คือเลือกอาหารที่ดีต่อโรคความดันนะคะ
00:09:32 → 00:09:34 หลีกเลี่ยงอาหารที่เป็นพวก process Food
00:09:34 → 00:09:36 หรืออาหารที่มีการเติมเกลือนะคะอาหาร
00:09:36 → 00:09:40 สำเร็จรูปนะคะพยายามออกกำลังกายเป็นประจำ
00:09:40 → 00:09:44 นะคะพักผ่อนให้พอนะคะต้องอย่าเครียดมากนะ
00:09:44 → 00:09:47 คะแล้วก็พยายามวัดความดันสม่ำเสมอนะคะถ้า
00:09:47 → 00:09:50 เรามีความเสี่ยงพยายามวัดความดันสม่ำเสมอ
00:09:50 → 00:09:52 นะคะแล้วก็ถ้ามันมีความดันสูงก็บแพทย์
00:09:52 → 00:09:55 เพื่อรักษาค่ะขอบพระคุณอาจารย์ที่มาให้
00:09:55 → 00:09:57 ความรู้ความเข้าใจนะคะในเรื่องของโรคความ
00:09:57 → 00:10:00 ดันโลหิตสูงค่ะ
00:10:00 → 00:10:03 ขอบคุณนะคะสำหรับการรับชมรายการ TNN
00:10:03 → 00:10:06 Health ค่ะและอย่าลืมค่ะกด Subscribe กด
00:10:06 → 00:10:09 ไลคกดแชร์ในทุกช่องทางออนไลน์ของ TNN
00:10:09 → 00:10:13 ช่อง 16 ค่ะเพื่อที่จะไม่พลาดการรับชมราย
00:10:13 → 00:10:17 การสดคลิปวีีดีโอที่น่าสนใจของทาง TNN นะ
00:10:17 → 00:10:20 คะ