00:00:15 → 00:00:18 สวัสดีครับผมผู้ช่วยศาสตราจารย์นายแพทย์
00:00:18 → 00:00:20 ศิลราหาไทยนะครับสายแพทยสงอกประจำคณะ
00:00:20 → 00:00:23 แพทยศาสตร์วชรพยาบาลวันนี้เราจะมาคุยกัน
00:00:23 → 00:00:26 เรื่องกล้ามเนื้ออ่อนแรงหรือว่าโรคหนังตา
00:00:26 → 00:00:28 ตกนั่นเองว่าเป็นอย่างไรวิธีการรักษาให้
00:00:28 → 00:00:31 อย่างไรและปัจจุบันการผัตัดเป็นอย่างไรมา
00:00:31 → 00:00:34 ดูกันครับอยากจะทำความรู้จักเกี่ยวกับ
00:00:34 → 00:00:36 เรื่องของต่อมไทมัสค่ะว่าต่อมไทมัสเนี่ย
00:00:36 → 00:00:39 มันคืออะไรแล้วก็อยู่ในส่วนไหนของร่างกาย
00:00:39 → 00:00:42 คะต่อมไคมัสเนี่ยเป็นอวัยวะที่คนหลายคน
00:00:42 → 00:00:44 อาจจะไม่รู้ว่าเอ๊ะมันคืออะไรทำงานอะไร
00:00:44 → 00:00:46 เพราะว่าไอ้ตัวต่อมอันนี้เนี่ยมันอยู่
00:00:46 → 00:00:50 หน้าต่อหัวใจครับและมันมีพัฒนาการโดดเด่น
00:00:50 → 00:00:53 มากในช่วงวัยเด็กพวกตุ่มนี้จะเป็นตัวต้าน
00:00:53 → 00:00:56 ภูมิคุ้มกันการอักเสบต่อต้านเชื้อโรคใน
00:00:56 → 00:00:59 สมัยเรายังเด็กอย่างเช่นช่วงทารกหรือว่า
00:00:59 → 00:01:02 ช่วง 1-2 ขวบขึ้นมาแต่พออายุมากขึ้น
00:01:02 → 00:01:04 เรื่อยๆเนี่ยภาวะภูมิคุ้มกันเราเริ่มมี
00:01:04 → 00:01:07 ความแข็งแรงมากขึ้นต่อมตรงเนี้ยจึงเริ่ม
00:01:07 → 00:01:09 ไม่ค่อยได้ใช้ประโยชน์ละนะครับกลายเป็น
00:01:09 → 00:01:12 ต่อมเพียงไขมันธรรมดาที่คอยปกป้องหัวใจนะ
00:01:12 → 00:01:15 ครับอยู่ใต้ต่อกระดูกหน้าอกในเวลาผู้ใหญ่
00:01:15 → 00:01:18 ต่อมาครับอาจารย์คะมันมีงานวิจัยอ่ะค่ะ
00:01:18 → 00:01:22 จากของทางมหาวิทยาลัยฮวดอ่ะค่ะอ่าเขาระบุ
00:01:22 → 00:01:24 ว่าเนี่ยต่อมไทมัสเนี่ยจะช่วยในเรื่องของ
00:01:24 → 00:01:27 การต้านมะริงข้อมูลตรงนี้จริงเท็จแค่ไหน
00:01:27 → 00:01:30 อ่ะคะจริงๆแล้วต้องบอกเลยว่าต่อมไทเนี่ย
00:01:30 → 00:01:32 ในเรื่องการต้านมะเร็งเนี่ยผมคิดว่าข้อ
00:01:32 → 00:01:35 มูลนี้เอาจจะไม่น่าเชื่อถือมากครับโดย
00:01:35 → 00:01:37 ส่วนมากหลักการเนี่ยในสมัยก่อนเนี่ยยจะ
00:01:37 → 00:01:39 พูดไปว่ามันเป็นต่อต้านพวกเชื้อโรคแต่ว่า
00:01:39 → 00:01:42 พออายุมากจริงๆเนี่ยพวกนี้เนี่ยไม่ค่อยมี
00:01:42 → 00:01:44 ความเกี่ยวข้องกับการเรื่องการต้านมเร็ง
00:01:44 → 00:01:47 เลยและต่อมเจริงๆแล้วเนี่ยในบรรดาผู้ใหญ่
00:01:47 → 00:01:50 ที่เราตัดไปเนี่ยเราสามารถตัดได้โดยที่
00:01:50 → 00:01:53 ไม่ได้ส่งผลอะไรได้ด้วยซ้ำเลยครับผู้ป่วย
00:01:53 → 00:01:56 โรคกล้ามเหนื้ออ่อนแรงหนังตาตกเนี่ยมันมี
00:01:56 → 00:01:59 ความเกี่ยวข้องกันอย่างไรกับต่อมไทมัสคะ
00:01:59 → 00:02:02 ต้องบอกเลยว่าสังเกตนะครับบางคนที่เราเคย
00:02:02 → 00:02:05 เห็นเอ๊ะทำไมเถึงหนังตาตกเรานึกว่าเป็นไง
00:02:05 → 00:02:09 หนังตามันหย่อนถูกมั้ยกเนื้อเอ๊ะเราแบบ
00:02:09 → 00:02:12 ว่าทำคนแก่หรือเปล่าหนังมันย่นทำให้ตาเรา
00:02:12 → 00:02:14 ตกแต่จริงๆแล้วเนี่ยสิ่งที่เกิดขึ้นคือ
00:02:15 → 00:02:18 โรคหนังตาตกคือเป็นโรคของทางกล้ามเนื้อ
00:02:18 → 00:02:21 ทำไมถึงต้องเป็นที่หนังตาก็เพราะว่ากล้าม
00:02:21 → 00:02:25 เนื้อลองนิดดูว่าวันนึงเรากระพิบตากี่รอบ
00:02:25 → 00:02:27 ฉะนั้นมันเป็นสิ่งที่ส่งผลทำให้กล้าม
00:02:27 → 00:02:30 เนื้อของบริเวณตรงเปลือกตาเนี่ยเป็นโอแรก
00:02:30 → 00:02:32 ที่โดนโจมตีในของกลุ่มกล้ามเนื้ออ่อนแรง
00:02:32 → 00:02:35 คือมันทำงานหนักมากแล้วมันกระพริบตาบ่อย
00:02:35 → 00:02:39 จนกระทั่งคนที่มีเอไซน้อยที่ไม่สามารถอาจ
00:02:39 → 00:02:41 จะทำงานได้ก้ามด้วยปกติอ่ะมันเลยไปออกที่
00:02:42 → 00:02:45 หนังตาก่อนฉะนั้นผู้ป่วยส่วนมากเนี่ยก็จะ
00:02:45 → 00:02:48 านด้วยกล้ามเนื้ออ่อนแรงที่บริเวณดงตา 2
00:02:48 → 00:02:51 ข้างหรือเราเรียกว่า ul mg ครับๆกับการ
00:02:51 → 00:02:53 ในกลุ่มโพกโลกนี้เนี่ยเราสามารถพัฒนาไป
00:02:53 → 00:02:56 สู่โลกกล้ามเนื้ออ่อนแรงทางร่างกายได้
00:02:56 → 00:02:58 หรือว่าเป็นกลุ่ม generalized mg คือ
00:02:58 → 00:03:00 เป็น้าร่างกายอย่างเช่นเช่นผู้ป่วยก็จะมี
00:03:00 → 00:03:03 อาการเหนื่อยง่ายเนะครับมีอาการอ่อนแรง
00:03:03 → 00:03:05 บริเวณไหลทั้ง 2 ข้างและบริเวณขาทั้ง 2
00:03:05 → 00:03:08 ข้างได้ครับแต่บางรายเนี่ยอาจจะมีความรุน
00:03:08 → 00:03:11 แรงไปถึงระบบเส้นประสาทนะครับว่าเฮ้ยมัน
00:03:11 → 00:03:14 มีการอ่อดแรงจนกระทั่งเกิดความล้มเหลวของ
00:03:14 → 00:03:16 การหายใจต้องใส่ท่อช่วยหายใจเลยทีเดียว
00:03:16 → 00:03:19 หรือบางรายอาจจะมีอาการกลืนลำบากรุ่มด้วย
00:03:19 → 00:03:21 ครับฉะนั้นเนี่ยไอ้ตัวอาการเหล่านี้เนี่ย
00:03:21 → 00:03:25 มันถึงชอบออกที่บริเวณดวงตาทีนี้มันก็จะ
00:03:25 → 00:03:28 มีบทความงานวิจัยว่าเอ้ยไอ้ตัวนี้มันเกิด
00:03:28 → 00:03:31 ขึ้นยังไงออโตขึ้นมาเกิดขึ้นมาได้ยังไง
00:03:31 → 00:03:33 หรือพมพุ้มกันมันโจมตีตัวเองได้อย่างไร
00:03:33 → 00:03:35 เค้าก็ไปศึกษามาว่ามันไปเจอเจ้าต่อมไทมัส
00:03:36 → 00:03:38 นี่แหละไอ้เจ้าตัวปัญหาอยู่ดีๆเนี่ยของ
00:03:38 → 00:03:40 มันเนี่ยนอนอยู่เฉยๆที่มันไม่ได้ทำงาน
00:03:40 → 00:03:43 ประโยชน์มันเป็นตัวกระตุ้นที่ไปบล็อกสาร
00:03:43 → 00:03:46 สื่อประสาทส่งมาทำให้ร่างกายเนี่ยเรา
00:03:46 → 00:03:48 เนี่ยพยายามจะใช้งานผันนังกล้ามเนื้อแต่
00:03:48 → 00:03:50 เจ้าเนี้ยมันไปขวางมันมีแอนติบอดี้ไปขวาง
00:03:50 → 00:03:53 อยู่สมมนให้กล้ามเนื้อเนี่ยมันไม่สามารถ
00:03:53 → 00:03:56 ทำงานได้ปกติทำให้เกิดอาการอ่อนแรงขึ้นมา
00:03:56 → 00:03:59 ครับอาจารย์คะแล้วอย่างนี้หนังตาตกเนี่ย
00:03:59 → 00:04:02 เนี่ยมักจะเกิดขึ้นกับคนกลุ่มใดวัยใดอ่ะ
00:04:02 → 00:04:05 คะโดยส่วนมากนะครับพวกกล้ามเนื้ออ่อนแรง
00:04:05 → 00:04:08 นะครับจะส่วนมากเกิดในอายุกลุ่มคนไข้ที่
00:04:08 → 00:04:11 เป็นกลุ่มช่วงวัยกลางคนครับประมาณ 20-40
00:04:11 → 00:04:15 ปีในบางรายอาจจะเกิดในช่วงอายุ 50 60 ก็
00:04:15 → 00:04:18 ได้แต่ว่าเจอได้ไม่ไม่บ่อยนะครับเจอได้
00:04:18 → 00:04:22 ไม่ค่อยบ่อยจะเจอในกลุ่มกลางคนและส่วนมาก
00:04:22 → 00:04:25 ก็จะเป็นผู้หญิงนะครับจะผู้หญิงได้ค่อน
00:04:25 → 00:04:27 ข้างบ่อยเลยดีครับอ่าปัจจุบันการศึกษานะ
00:04:28 → 00:04:30 ครับก็ยังไม่มีข้อสรุปที่แชัดว่าทำไมผู้
00:04:30 → 00:04:33 หญิงเเกิดเป็นผู้ชายแต่ว่าพอเราดูข้อมูล
00:04:33 → 00:04:35 ต่างๆเราก็จะพบว่าเฮ้ยเราเจอผู้หญิงใบ
00:04:35 → 00:04:38 กว่าจริงๆครับในเรื่องของหนังตาตกเนี่ย
00:04:38 → 00:04:41 ค่ะมันจะส่งผลกระทบต่อผู้ป่วยอย่างไรบ้าง
00:04:41 → 00:04:44 อคะอาจารย์จริงๆแล้วหนังตาตกเนี่ยนะครับ
00:04:44 → 00:04:47 ผมคิดว่าอาการเนี่ยค่อนข้างที่จะน่าปวด
00:04:47 → 00:04:50 หัวเลยทีเดียวครับเนื่องจากหนังตาตกไม่
00:04:50 → 00:04:53 ใช่ทำให้เรามองไม่เห็นนะครับแต่ว่ามันทำ
00:04:53 → 00:04:56 ให้เราเกิดภาพซ้อนผู้ป่วยเนี่ยจะมีอาการ
00:04:56 → 00:04:59 เป็นภาพซ้อนหรือว่ามองแล้วบ้านหมุนหรือ
00:04:59 → 00:05:01 ว่ามันมันมันบ้ามันเอียงกลุ่มพว่งนี้
00:05:01 → 00:05:04 เนี่ยผู้ป่วยก็สไม่สามารถทำงานได้เนื่อง
00:05:04 → 00:05:07 จากว่าต้องใช้อาการเพ่งเป็นหลักนะครับใน
00:05:07 → 00:05:10 บางรายที่พัฒนาไปสู่กล้ามเนื้ออ่อนแรง
00:05:10 → 00:05:12 ทั่วๆไปเนี่ยอันนี้ยิ่งหนักเข้าไปใหญ่เลย
00:05:12 → 00:05:14 ผู้ป่วยเนี่ยจะรู้สึกเหมือนกับทำงานและ
00:05:14 → 00:05:17 เหนื่อยตลอดเวลามีอาการแน่นบางในบางลยแค่
00:05:17 → 00:05:21 จะยกแก้วน้ำยกไม่ได้เลยโดยที่อาการทั้ง
00:05:21 → 00:05:24 หมดเนี่ยมักจะเกิดขึ้นช่วงเวลาบ่ายครับ
00:05:24 → 00:05:27 เหตุผลทำไมต้องเกิดช่วงเวลาบ่ายก็เพราะ
00:05:27 → 00:05:31 ว่าในช่วงแรกเนี่ยร่างกายเรามีตัวรับ
00:05:31 → 00:05:33 เนี่ยเยอะเต็มไปหมดเลยแต่พอเราทำงานไป
00:05:33 → 00:05:36 เรื่อยๆตัวรับมันโดนใช้งานไปะมันเริ่ม
00:05:36 → 00:05:38 เต็มอัตราแอนตี้บอดี้หรือตัวมันเริ่มมา
00:05:38 → 00:05:41 ขวางมากขึ้นส่งมาทำให้มันไม่เพียงพอ
00:05:41 → 00:05:44 ฉะนั้นเนี่ยเราจะพบว่าในกลุ่มคนไข้กลุ่ม
00:05:44 → 00:05:47 นี้เนี่ยมักจะเกิดในช่วงเวลาบ่ายแล้วพอ
00:05:47 → 00:05:50 หลับเต็มอิ่มตื่นเช้ามาก็จะกลับมาเหมือน
00:05:50 → 00:05:53 คนปกติแต่พอทำไปสักพักนึงตอนช่วงบ่ายๆก็
00:05:53 → 00:05:56 เริ่มล้าแล้วครับในเรื่องของอาการของหนัง
00:05:56 → 00:05:58 ตาตกกล้ามเนื้ออ่อนแรงนี่มันเป็นยังไงอ่ะ
00:05:58 → 00:06:01 คะอาจารย์อ่าในคนไข้ที่อาการกล้ามเนื้อ
00:06:01 → 00:06:03 อ่อนแรงบริเวณหนังตาตกเนี่ยจะสมให้ผู้
00:06:04 → 00:06:07 ป่วยเนี่ยมีภาวะภาพซ้อนนะครับมีภาอาการ
00:06:07 → 00:06:09 มองไม่เห็นหรือบางครั้งเนี่ยมีอาการมัว
00:06:09 → 00:06:12 ฉะนั้นน่ะผู้ป่วยในบางรายเนี่ยที่มีอาการ
00:06:12 → 00:06:14 ดังกล่าวอาจจะสับสนว่าเอ๊ะเราทำงาน
00:06:14 → 00:06:17 คอมพิวเตอร์หรือทำงานหน้าจอแล้วเราเคลียร
00:06:17 → 00:06:19 มากเกินไปหรือเปล่าจริงๆแล้วเนี่ยถ้าดู
00:06:19 → 00:06:21 องค์ประกอบหลายอย่างเราก็จะพบว่ามันไม่
00:06:21 → 00:06:24 ใช่นะครับสังเกตง่ายๆว่าเรามีอาการนี้
00:06:24 → 00:06:26 หรือเปล่าคือเราไปมองหน้ากระจกว่าตาเรา
00:06:26 → 00:06:30 แทบจะปิดเลยคือหนังตาเราเนี่ยไม่ให้ผิดใน
00:06:30 → 00:06:34 บางรายอาจจะเจอ 1 ข้างก็ได้ในบางรายอาจจะ
00:06:34 → 00:06:37 เจอ 2 ข้างก็ได้แต่โดยส่วนมากผู้ป่วยมัก
00:06:37 → 00:06:39 จะเป็น 2 ข้างพร้อมกันนะครับก็จะเหมือนคน
00:06:39 → 00:06:43 ตาหยีลืมตามไม่ขึ้นอ่าถ้าเรานึกภาพง่ายๆ
00:06:43 → 00:06:46 ครับปัจจุบันมีการรักษาหนังตาตกกล้าม
00:06:46 → 00:06:48 เนื้ออ่อนแรงด้วยวิธีอะไรบ้างคะอาจารย์
00:06:49 → 00:06:51 จริงๆแล้วการรักษาโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงนะ
00:06:51 → 00:06:54 ครับจะต้องประกอบด้วย 2 วิธีหลักๆนะครับ 1
00:06:54 → 00:06:57 คือการรับประทานยาและ 2 คือการผ่าตัดนะ
00:06:57 → 00:06:59 ครับการรับประทานยาเนี่ยเป็นสิ่งที่สำ
00:06:59 → 00:07:01 สำคัญมากๆที่ขาดไม่ได้นะครับเพราะว่าการ
00:07:01 → 00:07:04 กินยาเนี่ยจะช่วยทำให้ร่างกายเราเนี่ย
00:07:04 → 00:07:06 กลับมากล้ามเนื้อเนี่ยกลับมาทำงานปกติ
00:07:06 → 00:07:09 ครับในทางกับกันเนี่ยการผ่าตัดก็เข้ามามี
00:07:09 → 00:07:12 บทบาทร่วมด้วยกันก็คือเราเข้าไปกำจัด
00:07:12 → 00:07:15 สาเหตุของมันก็คือตัวต่อมไทสครับก็คือเรา
00:07:15 → 00:07:18 เอาต่อมไทมัสออกให้หมดพวกนี้เนี่ยถ้าเรา
00:07:18 → 00:07:20 ผ่าตัดเราให้หมดเนี่ยโอกาสที่คนไข้จะดี
00:07:20 → 00:07:22 ขึ้นเนี่ยค่อนข้างสูงมากเลยครับมากกว่า 80
00:07:22 → 00:07:25 กว่าเปอร์เซเลยนะครับโดยผู้ป่วยกลุ่มนี้
00:07:25 → 00:07:27 เนี่ยต้องรักษาทั้ง 2 อย่างไปด้วยกันโดย
00:07:27 → 00:07:30 สเต็ปการรักษาคือ 1 เราต้องกินยาก่อน
00:07:30 → 00:07:33 เมื่อใดก็ตามที่ได้รับการวินิจฉัยเราก็
00:07:33 → 00:07:35 ต้องเริ่มทานยาพออาการมันเริ่มคงที่ขึ้น
00:07:36 → 00:07:38 มาเราก็จะเข้าสู่กระบวนการผ่าตัดครับหลัง
00:07:39 → 00:07:41 จากการผ่าตัดปุ๊บก็ต้องกินยาต่อเนื่องและ
00:07:41 → 00:07:44 ค่อยๆประเมินแล้วค่อยๆปรับลดยาระดับเพราะ
00:07:44 → 00:07:46 ว่ากว่าร่างกายเราจะปรับตัวอ่าภูมิคุ้ม
00:07:46 → 00:07:48 กันทุกอย่างใหม่หมดเลยมันใช้เวลาค่อนข้าง
00:07:48 → 00:07:52 นานประมาณ 4-5 เดือนบางรายถึงปีเลยฉะนั้น
00:07:52 → 00:07:55 เนี่ยต้องค่อยๆปรับไปทีละสเต็ปทีละสเต็ป
00:07:55 → 00:07:57 ครับก็จะมีความกังวลนิดนึงนะคะว่าการผ่า
00:07:58 → 00:08:00 ตัดต่ำไทมัสเนี่ยน่ากลัวหรือไม่แล้วก็จะ
00:08:00 → 00:08:03 มีภาวะแทรกซ้อนลังผ่าหรือเปล่าคะเมื่อใดร
00:08:03 → 00:08:05 ก็ตามที่เราไว้นิจฉัยว่าเราเป็นกล้าม
00:08:05 → 00:08:07 เนื้ออ่อนแรงปุ๊บและคุณหมอปรับยาได้ละ
00:08:07 → 00:08:10 ค่อนข้างที่จะคงที่และอาการค่อนข้างนิ่งเ
00:08:10 → 00:08:12 จะส่งเข้ากระบวนการการผ่าตัดครับเมื่อ
00:08:13 → 00:08:15 เข้าสู่กระบวนการการผ่าตัดนะครับการผ่า
00:08:15 → 00:08:17 ตัดจะมีทั้งหมด 2 แบบทันทีเลยแบบแรกนะ
00:08:17 → 00:08:20 ครับคือการผักตัดแบบเปิดแบบดั้งเดิมเลย
00:08:20 → 00:08:22 เนื่องจากว่าต่อมไทมัสเนี่ยมันอยู่ใต้ต่อ
00:08:22 → 00:08:25 บริเวณกระดูกหน้าอกนะครับสิ่งที่เกิดขึ้น
00:08:25 → 00:08:27 ก็คือวิธีการผัตัดคือเราต้องเลื่อยกระดูก
00:08:27 → 00:08:30 หน้าอกออกเพื่อเอาต่อมไทมออกไปนะครับซึ่ง
00:08:30 → 00:08:33 เป็นการผ่าตัดที่ค่อนข้างที่จะใหญ่แล้วก็
00:08:33 → 00:08:36 ตัดกระดูกค่อนข้างเยอะแล้ววิธีการรักษา
00:08:36 → 00:08:39 คือเราก็เย็บกระดูกกลับคืนมากว่าจะหายก็
00:08:39 → 00:08:42 ประมาณ 6-8 สัปดาห์เลยครับในังกับกันนะ
00:08:42 → 00:08:45 ครับวิธีการรักษาอีกวิธีนึงที่มีการพัฒนา
00:08:45 → 00:08:47 ขึ้นมาใหม่คือการดัด 2 กล้องนะครับเราจะ
00:08:47 → 00:08:50 ดัด 2 กล้องผ่านตามบริเวณช่องซีโครงที่ 45
00:08:50 → 00:08:53 นะครับแผลขนาดแค่ 3-4 ซมเราก็สามารถทำได้
00:08:53 → 00:08:57 เช่นเดียวกันโดยที่ผลการรักษาเนี่ยไม่แตก
00:08:57 → 00:08:59 ต่างกันไม่ว่าจะเป็นการผัดตัดเปิดหรือ
00:08:59 → 00:09:01 หรือการส่องกล้องนะครับมันใดก็ตามที่เรา
00:09:01 → 00:09:04 เอาเนื้องอกหรือว่าแล่ต่อมไทมัสออกได้หมด
00:09:04 → 00:09:06 เนี่ยผู้ป่วยก็มีโอกาสจะดีขึ้นเลยทันที
00:09:06 → 00:09:09 ครับภาวะแทรกซ้อนจากการผ่าตัดนะครับของ
00:09:09 → 00:09:11 การผ่าตัดไม่ว่าจะเป็นชิ้นที่ไหนก็ตาม
00:09:11 → 00:09:14 ปัจจุบันเนื่องจากการพัฒนาเทคโนโลยีค่อน
00:09:14 → 00:09:15 ข้างมากแล้วโอกาสภาวะแทกซ้อนหนักมีเพียง
00:09:16 → 00:09:18 แค่น้อยกว่า 1% อีกเพียครับอย่างไรก็ตาม
00:09:18 → 00:09:20 ต้องมีภาวะอีกอนึงที่ต้องบอกคนไข้เสมอใน
00:09:20 → 00:09:23 กลุ่มคนไข้โกเอ่อนแรงคือระหว่างการผัดตัด
00:09:23 → 00:09:26 ในผู้ป่วยที่ต้องทานยาขนาดค่อนข้างเยอะ
00:09:26 → 00:09:28 มากๆอาจจะมีภาวะที่เรียกว่า mg crisis
00:09:28 → 00:09:30 แต่คาว่าอ่อนแรงฉับพันธพวกนี้ต้องระมัด
00:09:31 → 00:09:33 ระวังคือเวลาไปยุ่งกับต่อมไมัพอเวออกปุ๊บ
00:09:33 → 00:09:35 สิ่งที่เกิดขึ้นคือร่างกายเราเกิดการ
00:09:35 → 00:09:38 กระตุ้นของภูมคุ้มกันส่งให้เกิดภาวะหายใจ
00:09:38 → 00:09:40 ล้มเหลวเกิดขึ้นพวกนี้เนี่ยผู้ป่วยเนี่ย
00:09:40 → 00:09:43 หลังผ่าตะอาจจะต้องคาท่อช่วยหายใจแล้วก็
00:09:43 → 00:09:46 ให้ยาพลาสมา fis หรือว่าการให้ ivig
00:09:46 → 00:09:48 เพื่อลดูมคุ้มกันที่มันอ่ากำลังกระตุ้น
00:09:48 → 00:09:50 อย่างรุนแรงเนี่ยลุดลงกันมาสู่ปกติแล้ว
00:09:50 → 00:09:53 ค่อยๆเอาท่อช่วยหายใจออกครับแต่พวกนี้
00:09:53 → 00:09:55 เนี่ยถ้าเราปรับยาได้ดีนะครับเราเตรียม
00:09:55 → 00:09:58 ตัวมาดีโอกาสพวกนี้เกิดน้อยกว่า 1-2 per
00:09:58 → 00:10:01 อีกครับผมอ่าตัวนี้จะขอคำแนะนำในเรื่อง
00:10:01 → 00:10:03 ของผู้ที่ต้องเข้ารับการผ่าตัดจะต้อง
00:10:03 → 00:10:05 เตรียมตัวยังไงบ้างคะอาจารย์สำหรับผู้
00:10:05 → 00:10:07 ป่วยที่กำลังเป็นโรคนี้อยู่นะครับที่
00:10:07 → 00:10:09 กำลังจะเตรียมตัวการผ่าดตัดสิ่งแรกที่
00:10:09 → 00:10:12 ต้องถามก็คืออ่าต้องไปถามคุณหมออรป
00:10:12 → 00:10:15 ประศาสตร์เลยนะครับว่าเราสามารถทำการผาด
00:10:15 → 00:10:18 ตัดได้หรือยังันที่ 2 เราได้ทำการ CT
00:10:18 → 00:10:21 สแกนเพื่อดูอ่าเข้าอุโมงค์ทรงอกเพื่อดู
00:10:21 → 00:10:23 ว่าเนื้อต่อมเป็นยังไงและมีเนื้องอกใน
00:10:23 → 00:10:26 ต่อมร่วมด้วยหรือเปล่าแต่บางลยต้องบอกเลย
00:10:26 → 00:10:29 ว่าถึงแม้ว่าเราจะ CD สแกนไม่เห็นเนื้อ
00:10:29 → 00:10:33 ของต่อมไทมัสโตผิดปกติแต่ว่าในทุกรายคน
00:10:33 → 00:10:36 ปกติมันมีอยู่ละเพราะมันเป็นอวัยวะที่มี
00:10:36 → 00:10:38 ตั้งแต่เด็กฉะนั้นน่ะในบางรายเราอาจจะไม่
00:10:38 → 00:10:41 พบแต่ว่ามันก็มีอยู่นะครับฉะนั้นเมื่อเรา
00:10:41 → 00:10:44 ก็ตามมีเบอร์ 1 นะครับที่อาการค่อนข้างดี
00:10:44 → 00:10:49 หมอ
00:10:49 → 00:10:53 อายุกรณ์ผ่าตัดได้เลยครับหลังผ่าตัดเสร็จ
00:10:53 → 00:10:55 แล้วอ่ะค่ะพอจะมีคำแนะนำให้สำหรับผู้ป่วย
00:10:55 → 00:10:57 หลังผ่าตัดมั้ยคะว่าควรจะต้องปฏิบัติตัว
00:10:57 → 00:11:00 อย่างไรค่ะหลังจากการผัดตัดต่อมไทมัสนะ
00:11:00 → 00:11:03 ครับโรคกัืออดแรงสิ่งที่สำคัญที่ขาดไม่
00:11:03 → 00:11:05 ได้ของกลุ่มโรคนี้ก็คือต้องกินยาของกเรือ
00:11:05 → 00:11:08 ออดแรงอย่างสม่ำเสมอครับไม่ขาดเพราะว่า
00:11:08 → 00:11:11 อย่าคิดว่าเราผ่าตัดแล้วอาการดีขึ้นแล้ว
00:11:11 → 00:11:13 มันจะดีขึ้นไม่ต้องทานยาไม่ใช่พวกนี้มัน
00:11:13 → 00:11:15 ใช้เวลาในการปรับตัวจริงๆครับอาจจะต้องอด
00:11:15 → 00:11:18 ทนนิดนึงเพราะว่าพวกนี้ต้องใช้เวลาจริงๆ
00:11:18 → 00:11:20 นะครับว่าอาการผู้ป่วยเนี่ยว่าจะต้องปรับ
00:11:20 → 00:11:23 ยาเมื่อไหร่นะครับพวกนี้เนี่ยต้องควบคู่
00:11:23 → 00:11:25 กับทีมอุตกรรมทางโรคประศาสตร์ของการแพทย์
00:11:25 → 00:11:28 ไปด้วยครับฉะนั้นเนี่ยผู้ป่วยต้องกินยา
00:11:29 → 00:11:31 สม่ำเสมอ 2 ต้องระมัดระวังการดูแลตัวเอง
00:11:31 → 00:11:34 มันกินอาหารที่สุขถุกลักษณะนะครับแล้วก็
00:11:35 → 00:11:37 นอนหลับให้เพียงพออย่าเพิ่งเผลอยกของหนัก
00:11:37 → 00:11:39 ประมาณ 1-2 สัปดาห์ครับหลังจากนั้นก็
00:11:39 → 00:11:42 สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติได้เลย
00:11:42 → 00:11:44 ครับสำหรับผู้ที่มีปัญหาหนังตาตกกล้าม
00:11:45 → 00:11:47 เนื้ออ่อนแรงสามารถที่จะขอรับคำปรึกษา
00:11:47 → 00:11:50 แล้วก็รักษาได้ทีใดคะสำหรับผู้ป่วยที่
00:11:50 → 00:11:54 กำลังเผชิญปัญหาภาวะกล้ามเนื้ออ่อนแลนนะ
00:11:54 → 00:11:57 ครับและไม่อยากจะทำผ่าตัดเปิดนะครับทาง
00:11:57 → 00:12:00 โรงพยาบาลวชิระพยาบาลเนี่ยเราทำการผ่าตัด
00:12:00 → 00:12:03 2 กล้องต่อมไัเนี่ยเป็นเวลามาค่อนข้าง
00:12:03 → 00:12:06 นานแล้วครับทีนี้เนี่ยผู้ป่วยที่สนใจจะ
00:12:06 → 00:12:09 เข้าปรึกษาผ่านได้ทางผ่าตัดปอดและหัวใจ
00:12:09 → 00:12:13 คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาลผ่านทาง facebook
00:12:13 → 00:12:15 หรือว่าผ่านทาง LINE ID address lang
00:12:15 → 00:12:18 surgery th ได้เลยครับเรามีทีมงานให้คำ
00:12:18 → 00:12:21 ปรึกษาตอบข้อมูลค่อนข้างดีเลยไม่ต้อง
00:12:21 → 00:12:24 กังวลครับปรึกษามาได้เลย
00:12:24 → 00:12:27 [เพลง]
00:12:27 → 00:12:31 ครับ
00:12:31 → 00:12:34 TNN Health เราจะรวบรวมความรู้ทางด้าน
00:12:34 → 00:12:37 สุขภาพจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือพร้อม
00:12:38 → 00:12:41 ก่อติดความเคลื่อนไหวจากทุกประเด็นสุขภาพ
00:12:41 → 00:12:45 รอบโลกสะท้อนผ่านความคิดมุมมองของแพทย์
00:12:45 → 00:12:48 ผู้เชี่ยวชาญและองค์ความรู้ทางด้านต่างๆ
00:12:48 → 00:12:51 TNN Health เข้าถึงทุกสาระสุขภาพเสริม
00:12:51 → 00:12:54 ภูมิคุ้มกันรู้ทัน
00:12:54 → 00:12:57 [เพลง]
00:12:57 → 00:13:00 โลก
00:13:00 → 00:13:21 [เพลง]