การปรับวิถีชีวิตอย่างไรช่วยลดระดับ Remnant Cholesterol ได้บ้าง

หมอภทร Podcast Talk ตอน Remnant CL กับ โรคไตเรื้อรัง CKD

จากช่อง : Advanced LCHF longevity


ดูคำบรรยาย / View Transcript

00:00:0000:00:03 ขอต้อนรับสู่หมอพัทรพcast Talk ความรู้

00:00:0300:00:06 สุขภาพลึกและฟรีมีที่นี่

00:00:0600:00:08 >> เรื่องของคอเลสเตอรอลเนี่ยนะครับเราคุ้น

00:00:0800:00:12 เคยกันดีแต่เคยสงสัยไหมครับว่ามันอาจจะมี

00:00:1200:00:15 ตัวร้ายอีกตัวซ่อนอยู่เป็นปัจจัยเสี่ยง

00:00:1500:00:17 สำคัญของโรคหัวใจที่เราอาจไม่เคยได้ยิน

00:00:1700:00:21 ชื่อมาก่อนเลยทีนี้ลองมาตั้งคำถามกันดูนะ

00:00:2100:00:24 ครับว่าถ้าคอเลสเตอรอลตัวร้ายที่เราเพ่ง

00:00:2400:00:26 เล็งกันมาตลอดเนี่ยมันไม่ใช่ผู้ร้ายเพียง

00:00:2600:00:29 ตัวเดียวล่ะจะเป็นยังไงคือหลายสิบปีที่

00:00:2900:00:31 ผ่านมาเนี่ยนะครับเรื่องราวของ

00:00:3100:00:34 คอเลสเตอรอลมันดูเหมือนจะตรงไปตรงมามากๆ

00:00:3400:00:39 เลยก็คือลด LDL หรือไอ้เจ้าไขมันเลวลงซะ

00:00:3900:00:43 ก็น่าจะช่วยป้องกันโรคหัวใจได้แต่ถ้าเกิด

00:00:4300:00:45 ว่าเรื่องราวมันซับซ้อนกว่านั้นนะครับถ้า

00:00:4600:00:48 มันมีตัวละครลับซ่อนอยู่โดยที่เราไม่เคย

00:00:4800:00:52 รู้มาก่อนล่ะใช่ครับแล้วไอ้ความเชื่อแบบ

00:00:5200:00:55 เดิมๆเนี่ยแหละครับที่มันพาเราไปเจอกับ

00:00:5500:00:59 ปริศนาทางการแพทย์ที่แบบหาคำตอบได้ยากมาก

00:00:5900:01:03 โดยเฉพาะกับคนไข้กลุ่มนึงคำถามที่ว่าก็

00:01:0300:01:07 คือเอ๊ทำไมคนไข้จำนนมากโดยเฉพาะคนที่เป็น

00:01:0700:01:10 โรคไตเรื้อรังเนี่ยถึงยังมีความเสี่ยงสูง

00:01:1000:01:13 ที่จะเป็นโรคหัวใจวายหรือว่าเส้นเลือด

00:01:1300:01:16 สมองแตกทั้งๆที่ระดับ LDL ของพวกเขาเนี่ย

00:01:1700:01:19 ถูกควบคุมด้วยยาอย่างดีแล้วมันเกิดอะไร

00:01:1900:01:23 ขึ้นกันแน่แล้วดูนี่สิครับกราฟนี้มันน่า

00:01:2300:01:27 สนใจมากมาจากข้อมูลของคนเป็นแสนๆคนเลยนะ

00:01:2700:01:29 ในงานวิจัยที่ชื่อ Copenhagen General

00:01:2900:01:32 Population Study เขาพบเรื่องที่มันแบบ

00:01:3200:01:35 สวนทางกันอย่างสิ้นเชิงเลยคือพอการทำงาน

00:01:3500:01:38 ของไตแย่ลงค่า LDL กลับลดลงแต่กลับมีไข

00:01:3800:01:41 มันอีกตัวที่ชื่อว่า Remnant Cholesterol

00:01:4100:01:45 เนี่ยพุ่งพรวดขึ้นมาแทนและนี่แหละครับคือ

00:01:4500:01:48 จุดที่ทำให้เราได้เจอกับตัวการใหม่ที่

00:01:4800:01:52 ซ่อนอยู่ในเงามืดมาตลอดแล้วไอ้เจ้า RNT

00:01:5200:01:55 คอเลสเตอรอลเนี่ยมันคืออะไรกันแน่อธิบาย

00:01:5500:01:58 ง่ายๆเลยนะครับมันก็คือคอเลสคสเตอรอลที่

00:01:5800:02:02 ตกค้างหรือเหลืออยู่หลังจากที่เราเอาค่า

00:02:0200:02:06 คอเลสเตอรอลรวมมาหักลบกับค่า HDL และ LDL

00:02:0600:02:09 ที่เรารู้จักกันดีออกไปแล้วนั่นเองความ

00:02:0900:02:11 น่ากลัวของมันอยู่ตรงนี้ครับคือมันดันไป

00:02:1100:02:15 ผูกกับค่าไตรกรซรายโดยตรงเลยและที่แย่ก็

00:02:1500:02:18 คือในใบผลตรวจเลือดทั่วๆไปเนี่ยเขาไม่

00:02:1800:02:22 ค่อยรายงานค่านี้กันเลยที่สำคัญที่สุดคือ

00:02:2200:02:24 อนุภาคของมันเนี่ยใหญ่พอที่จะมุดเข้าไป

00:02:2400:02:27 เกาะตามผนังหลอดเลือดแล้วก็ก่อให้เกิดการ

00:02:2700:02:31 อุดตันได้เลยครับโอเคครับทีนี้เรามาดู

00:02:3100:02:33 หลักฐานชิ้นเอกที่มาช่วยคลายป่มปริศนานี้

00:02:3300:02:37 กันดีกว่านี่แหละครับคือข้อมูลที่เปลี่ยน

00:02:3700:02:40 เกมไปเลยกราฟนี้โชว์ให้เห็นชัดๆเลยว่าใน

00:02:4000:02:43 กลุ่มคนไข้โรคไตที่กินยาลดไขมันอยู่แล้ว

00:02:4300:02:46 เนี่ยปรากฏว่าระดับแรมแน่นคอเลสเตอรอลที่

00:02:4600:02:48 สูงมันเพิ่มความเสี่ยงโรคหัวใจแบบพุ่ง

00:02:4800:02:52 กระฉูดเลยในขณะที่ค่า LDL แทบจะไม่มีผล

00:02:5200:02:56 อะไรเลยโอ้โหถ้าจะให้เห็นภาพชัดๆนะครับก็

00:02:5600:02:59 คือความเสี่ยงทั้งหมดที่เพิ่มขึ้นมาเนี่ย

00:02:5900:03:03 1 ใน 4 หรือ 25% เต็มๆเลยนะครับมีสาเหตุ

00:03:0300:03:05 มาจากปัจจัยตัวนี้ตัวเดียวเลยคือ remnant

00:03:0500:03:08 cholesterol กว่าหน้าทีมนิจใจ

00:03:0800:03:11 ศาสตราจารย์เchescardเถึงกับสรุปออกมาเลย

00:03:1100:03:15 นะคะว่าสำหรับคนไข้ที่ใช้ยาสตินแล้วไต

00:03:1500:03:17 เริ่มเสื่อมเนี่ย ramn คอเลสเตอรอลสำคัญ

00:03:1700:03:22 มากแต่ LDL ไม่ใช่โอ้โหนี่คือการพลิกความ

00:03:2200:03:24 เชื่อเดิมๆในวงการแพทย์แบบหน้ามือเป็น

00:03:2400:03:28 หลังมือเลยนะคะพอมีข้อมูลแบบนี้ออกมามัน

00:03:2800:03:30 ก็ชัดเจนแล้วล่ะครับว่าถึงเวลาแล้วที่เรา

00:03:3100:03:33 ต้องมาคิดเรื่องการจัดการความเสี่ยงจาก

00:03:3300:03:35 คอเลสเตอรอลกันใหม่หมดเลยแล้วในทาง

00:03:3500:03:38 ปฏิบัติล่ะเราจะทำยังไงได้บ้างแนวทางใหม่

00:03:3900:03:42 ก็เสนอว่า 1 เลยคือต้องเลิกจ้องแต่ค่า LDL

00:03:4200:03:45 อย่างเดียว 2 คือเราสามารถคำนวณค่าแรม

00:03:4500:03:49 แน่นได้ง่ายๆเลยและ 3 การใช้ยาสตติในขณะ

00:03:4900:03:51 ที่เหมาะสมก็ยังเป็นเรื่องสำคัญอยู่เพราะ

00:03:5200:03:54 มันก็ช่วยลดเจ้าเร็มแน่นนี่ได้เหมือนกัน

00:03:5400:03:58 แล้วถ้ามองไปในอนาคตล่ะครับการค้นพบครั้ง

00:03:5800:04:01 นี้มันกำลังเปิดประตูไปสู่การรักษาแบบ

00:04:0100:04:04 ใหม่ๆที่น่าตื่นเต้นมากเลยข่าวดีมากๆก็

00:04:0400:04:07 คือตอนเนี้นักวิจัยเขากำลังพัฒนายาตัว

00:04:0700:04:09 ใหม่ๆที่ออกแบบมาเพื่อโจมตีนคอเลสเตอรอล

00:04:0900:04:12 โดยเฉพาะเลยนะคะซึ่งยาบางตัวเนี่ยให้ผล

00:04:1200:04:15 ล็อที่แบบสุดยอดมากคือลดได้ถึง 80% เลยที

00:04:1500:04:18 เดียวตอนนี้ก็กำลังเตรียมจะทดลองในเฟสที่

00:04:1800:04:20 3 กันแล้วเรื่องราวทั้งหมดที่เล่ามาใน

00:04:2000:04:23 วันนี้เนี่ยนะครับมันก็ทิ้งคำถามสำคัญสุด

00:04:2300:04:27 ท้ายเอาไว้ว่าหลังจากที่เราทุ่งเทความสน

00:04:2700:04:31 ใจทั้งหมดไปที่ LDL มานานหลายสบปีหรือว่า

00:04:3100:04:35 ตอนนี้เราอาจจะเจอจิ๊กซอชิ้นสุดท้ายที่จะ

00:04:3500:04:37 มาช่วยไขปริศนาความเสี่ยงโรคหัวใจซึ่ง

00:04:3700:04:40 เป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 ของโลก

00:04:4000:04:44 ได้สำเร็จแล้วจริงๆ

00:04:4400:04:46 สวัสดีค่ะวันนี้เราจะมาเจาะลึกเรื่อง

00:04:4600:04:50 สุขภาพเรื่องนึงนะคะที่เอ่อน่าสนใจมาก

00:04:5000:04:52 แล้วก็อาจจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งเลยโดย

00:04:5200:04:56 เฉพาะกับผู้ที่อาจจะกังวลเรื่องสุขภาพไต

00:04:5600:04:58 >> ครับผมหรือว่าอยากจะเข้าใจเรื่อง

00:04:5800:05:00 คอเลสเตอรอลให้ลึกซึ้งกว่าเดิม

00:05:0000:05:01 >> ค่ะ

00:05:0100:05:04 >> ครับวันนี้เราจะมาดูกันในรายละเอียดเลยนะ

00:05:0400:05:06 ครับเอาข้อมูลมาจากการศึกษาใหญ่ที่

00:05:0600:05:09 Copenhagen เดนมาร์กซึ่งข้อมูลนี้มันชี้

00:05:0900:05:12 ไปที่คอเลสเตอรอลชนิดนึงเอ่อที่หลายคนอาจ

00:05:1200:05:13 จะยังไม่คุ้น

00:05:1300:05:14 >> ค่ะ

00:05:1400:05:17 >> หรืออาจจะมองข้ามไปเลยก็ได้ก็คือ Ramnent

00:05:1700:05:20 Cholesterol หรือที่เราเรียกย่อๆว่า RC

00:05:2000:05:24 นะครับโดยเฉพาะเลยนะบทบาทของมันในกลุ่มคน

00:05:2400:05:27 ที่เป็นโรคไตเรื้อร่างหรือ CKD นะครับ

00:05:2700:05:30 >> น่าสนใจมากเลยค่ะเพราะปกติเราก็จะคุ้นแต่

00:05:3000:05:33 กับ LDL เนาะ LDL คอเลสเตอรอลข้อมูลที่

00:05:3300:05:36 เรามีวันนี้ก็จะพาไปดูกันว่าแล้วเจ้า RC

00:05:3600:05:40 ที่ว่าเนี่ยคืออะไรมันต่างจาก LDL ยังไง

00:05:4000:05:43 แล้วทำไมทำไมมันถึงมีความสำคัญถึงขั้น

00:05:4300:05:46 เชื่อมโยงกับความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอด

00:05:4600:05:48 เลือดหรือ ASCVD ได้

00:05:4800:05:49 >> ครับ

00:05:4900:05:52 >> โดยเฉพาะเวลาเทียบกับ LDL ในคนที่เป็นโรค

00:05:5200:05:52 ไตนะคะ

00:05:5200:05:55 >> ใช่เลยครับคือเป้าหมายเราวันนี้ก็เหมือน

00:05:5500:05:59 กับมาสกัดเอาแก่นสำคัญๆคัญเลยนะจากงาน

00:05:5900:06:03 วิจัยชิ้นนี้เพื่อให้เห็นภาพรวมว่าเออ RC

00:06:0300:06:06 เนี่ยมันเพิ่มความเสี่ยงยังไงแล้วก็แนว

00:06:0600:06:08 ทางการดูแลสุขภาพของเราเราเนี่ยอาจจะต้อง

00:06:0800:06:11 ปรับมุมมองหรือปรับเปลี่ยนไปจากที่เราเคย

00:06:1100:06:13 เข้าใจกันมาบ้างหรือเปล่าครับ

00:06:1300:06:16 >> โอเคค่ะงั้นเรามาเริ่มกันเลยดีกว่าจุดแรก

00:06:1600:06:19 เลยค่ะตัวเรมนanceคอเลสเตอรอลหรือ RC

00:06:1900:06:23 เนี่ยจริงๆแล้วมันคืออะไรกันแน่คะมันต่าง

00:06:2300:06:25 จาก LDL ที่เราคุ้นๆกันยังไงคะ

00:06:2500:06:29 >> อธิบายแบบง่ายๆก่อนนะครับคือ RC เนี่ยมัน

00:06:2900:06:31 เป็นคอเลสเตอรอลที่อยู่ในไลโปโรปีนบาง

00:06:3100:06:35 ชนิดอย่างเช่น VLDL แล้วก็ IDL นะครับ

00:06:3500:06:39 ซึ่งมันเป็นอนุภาคไขมันที่เอ่อเรียกว่า

00:06:3900:06:42 เหลืออยู่หรือ remnance ในเลือดเรา

00:06:4200:06:44 >> อ๋อที่เหลืออยู่

00:06:4400:06:47 >> ใช่ครับหลังจากที่ไตรกีซอไรด์ใน VLDL

00:06:4700:06:49 เนี่ยมันถูกสลายไปใช้เป็นพลังงานส่วน

00:06:4900:06:52 หนึ่งแล้วมันก็จะเหลือเป็นอนุภาคพวกนี้

00:06:5200:06:55 แหละครับมันเลยไม่ใช่ LDL โดยตรงนะ

00:06:5500:06:55 >> ค่ะ

00:06:5500:06:57 >> ซึ่ง LDL เนี่ยเป็นตัวขนส่งคอเลสเตอรอล

00:06:5700:06:59 หลักที่เราคุ้นชื่อกันดีอยู่แล้ว

00:06:5900:07:02 >> อ๋อเข้าใจแล้วค่ะคือเป็นส่วนที่เหลือจาก

00:07:0200:07:05 การที่ร่างกายเอาไขมันไปใช้แล้วนั่นเอง

00:07:0500:07:06 >> ประมาณนั้นเลยครับ

00:07:0600:07:09 >> แล้วการศึกษาที่โคenเคenที่เราใช้อ้างอิง

00:07:0900:07:11 วันนี้ล่ะคะมีรายละเอียดคร่าวๆยังไงบ้าง

00:07:1100:07:12 คะ

00:07:1200:07:15 >> เป็นการศึกษาที่ใหญ่มากนะครับชื่อเต็มๆ

00:07:1500:07:18 คือ Copenhagen General Population

00:07:1800:07:19 Study

00:07:1900:07:19 >> ค่ะ

00:07:1900:07:23 >> เขาติดตามประชากรทั่วไปเป็นแสนคนเลยนะ

00:07:2300:07:26 เอ่อประมาณ 18,000 คน

00:07:2600:07:27 >> โอ้โหเยอะมากเลย

00:07:2700:07:30 >> แต่ที่น่าสนใจมากๆคือเขามาวิเคราะห์เจาะ

00:07:3000:07:34 ลึกในกลุ่มย่อยครับกลุ่มที่มีภาวะไตทำงาน

00:07:3400:07:38 บกพร่องคือมีค่าการกรองของไตหรือ EGFR

00:07:3800:07:39 เนี่ยต่ำกว่า 60

00:07:3900:07:40 >> อ๋อค่ะ

00:07:4000:07:43 >> ซึ่งกลุ่มนี้มีอยู่ประมาณหมื่คนได้ครับ

00:07:4300:07:46 แล้วเขาก็ติดตามไปดูความเสี่ยงว่าจะเกิด

00:07:4600:07:49 โรคหัวใจขาดเลือดหรือโรคหลอดเลือดสมองตีบ

00:07:4900:07:52 มยติดตามกันนานเหมือนกันเฉลี่ยประมาณ 9

00:07:5200:07:53 ปีครับ

00:07:5300:07:55 >> อื้อหือเป็นข้อมูลที่น่าเชื่อถือมากนะคะ

00:07:5500:07:58 เพราะมาจากคนเยอะแล้วก็ติดตามนานด้วยแล้ว

00:07:5800:08:01 ผลการศึกษาที่ว่าน่าสนใจเนี่ยค่ะมีอะไร

00:08:0100:08:03 ที่เด่นๆเป็นพิเศษบ้างคะ

00:08:0300:08:06 >> มีจุดที่เอ่อผมว่าน่าประหลาดใจพอสมควรเลย

00:08:0600:08:11 นะครับจุดแรกนะคือเขาพบว่าพอไตทำงานแย่ลง

00:08:1100:08:13 เรื่อยๆอ่ะโดยเฉพาะในระดับที่ค่อนข้างจะ

00:08:1300:08:16 รุนแรงแล้วนะครับเช่นค่า EGFR เหลือแค่

00:08:1600:08:20 15-30 เนี่ยปรากฏว่าระดับ LDL

00:08:2000:08:23 คอเลสเตอรอลที่เรากลัวๆกันน่ะครับกลับมี

00:08:2300:08:24 แนวโน้มลดลงครับ

00:08:2500:08:28 >> เดี๋ยวสิคะลดลงหรอคะอันนี้แปลกปกติเราจะ

00:08:2800:08:30 นึกว่าถ้าสุขภาพไม่ดีไขมันตัวร้ายมันน่า

00:08:3000:08:31 จะยิ่งสูงขึ้นสิคะ

00:08:3100:08:34 >> ใช่ครับนั่นแหละคือประเด็นที่น่าสนใจแต่

00:08:3400:08:37 ว่าในทางตรงกันข้ามเลยนะครับระดับ ROC

00:08:3800:08:40 ที่เราคุยกันอยู่เนี่ยแหละกลับมีแนวโน้ม

00:08:4000:08:43 สูงขึ้นชัดเจนเลยเมื่อไตทำงานแย่ลง

00:08:4300:08:44 >> เอ้าสวนทางกัน

00:08:4400:08:47 >> สวนทางกันครับและที่สำคัญไปกว่านั้นอีก

00:08:4700:08:49 คือพอไปวิเคราะห์ความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ

00:08:4900:08:53 และหลอดเลือดหรือ ASCVD เนี่ยถ้าเทียบกัน

00:08:5300:08:54 ที่ระดับคอเลสเตอรอลที่เพิ่มขึ้น 1

00:08:5500:08:57 มลิโมลต่อลิตรเท่ากันเนี่ยการเพิ่มขึ้น

00:08:5700:09:00 ของ ROC มันสัมพันธ์กับความเสี่ยงที่สูง

00:09:0000:09:03 กว่าการเพิ่มขึ้นของ LDL อย่างชัดเจนเลย

00:09:0300:09:05 นะโดยเฉพาะในกลุ่มคนไข้โรคไตครับ

00:09:0500:09:08 >> ประเด็นนี้น่าคิดมากๆเลยค่ะแปลว่าถึงแม้

00:09:0800:09:12 ว่า LDL อาจจะดูไม่สูงหรืออาจจะลดลงด้วย

00:09:1200:09:13 ซ้ำในคนไข้ไตบางราย

00:09:1300:09:14 >> ครับ

00:09:1400:09:17 >> แต่ถ้า RC มันสูงปรี๊ดขึ้นมาเนี่ยความ

00:09:1700:09:19 เสี่ยงโดยรวมก็ยังสูงอยู่ดีแบบนี้หรือ

00:09:1900:09:20 เปล่าค่ะ

00:09:2000:09:22 >> ถูกต้องเลยครับชัดเจนแบบนั้นเลยแล้วมัน

00:09:2200:09:25 ยิ่งชัดขึ้นไปอีกนะครับในกลุ่มผู้ป่วย CKD

00:09:2500:09:28 ที่ได้รับยาลดไขมันกลุ่มสตินอยู่แล้วด้วย

00:09:2800:09:29 นะ

00:09:2900:09:29 >> ค่ะ

00:09:2900:09:32 >> ผลการศึกษาชี้เลยว่าความเสี่ยงโรคหัวใจ

00:09:3200:09:35 และหลอดเลือดที่มันยังคงหลงเหลืออยู่หรือ

00:09:3500:09:37 ที่เรียกว่า Residual Risk เนี่ยมัน

00:09:3700:09:39 สัมพันธ์กับระดับ RC เป็นหลักเลยครับ

00:09:3900:09:41 >> อ๋อ

00:09:4100:09:43 >> ส่วนระดับ LDL เนี่ยแทบจะไม่มีความ

00:09:4300:09:44 สัมพันธ์กับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นใน

00:09:4500:09:47 กลุ่มนี้เลยนะถ้าเขากินยาสตาตินอยู่แล้ว

00:09:4700:09:50 >> โหอย่างี้ก็แปลว่าสำหรับผู้ป่วยไตที่กิน

00:09:5000:09:53 ยาลดไขมันอยู่แล้วเนี่ยความเสี่ยงโรคหัว

00:09:5300:09:56 ใจที่ยังเหลืออยู่อาจจะมาจากเจ้า RC ตัว

00:09:5600:09:59 นี้ตั้ง 1 ใน 4 เลยอย่างงั้นหรือเปล่าคะ

00:09:5900:10:01 >> ใช่ครับการศึกษาเขาวิเคราะห์ออกมาแบบนั้น

00:10:0100:10:03 เลยเป็นสัดส่วนที่สูงมาก

00:10:0300:10:05 >> แล้วนี่เป็นสิ่งที่เราอาจจะมองข้ามไปเลย

00:10:0500:10:07 ถ้าเราดูแต่ค่า LDL อย่างเดียว

00:10:0700:10:10 >> ถูกต้องครับอาจจะมองข้ามไปได้ง่ายๆเลย

00:10:1000:10:13 ส่วนในกลุ่มผู้ป่วย CKD ที่ยังไม่ได้ใช้

00:10:1300:10:18 ยาสตินนะก็พบว่าทั้ง RLC และ LDL เนี่ย

00:10:1800:10:20 มันก็สัมพันธ์กับความเสี่ยงทั้งคู่แหละ

00:10:2000:10:23 ครับแต่ถ้าเทียบกันปอนด์ต่อปอนด์ที่ระดับ

00:10:2300:10:26 การเพิ่มขึ้นเท่ากัน RLC ก็ยังดูเหมือนจะ

00:10:2600:10:28 เพิ่มความเสี่ยงได้มากกว่าอยู่ดี

00:10:2800:10:32 >> แสดงว่า ILC นี่เป็นเหมือนเอ่อตัวร้าย

00:10:3200:10:35 ซ่อนเงื่อนนะคะโดยเฉพาะในบริบทของโรคไต

00:10:3500:10:37 >> ใช่ครับเป็นแบบนั้นเลย

00:10:3700:10:40 >> แล้วการที่ ILC มันสูงขึ้นเนี่ยค่ะมัน

00:10:4000:10:42 สามารถอธิบายความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในผู้

00:10:4200:10:45 ป่วย CKD ได้มากน้อยแค่ไหนคะ

00:10:4500:10:47 >> ครับการศึกษาเขามีการวิเคราะห์แบบหนึ่ง

00:10:4700:10:51 เรียกว่า Mediation Analysis นะครับคือ

00:10:5100:10:54 พยายามจะประเมินว่าระดับไขมัน ILC ที่สูง

00:10:5400:10:57 ขึ้นเนี่ยมันอธิบายความเสี่ยงโรคหัวใจที่

00:10:5700:11:00 เพิ่มขึ้นในคนไข้โรคไตได้มากน้อยแค่ไหน

00:11:0000:11:02 >> อ๋อเหมือนหาตัวกลาง

00:11:0200:11:05 >> ใช่ครับเหมือนกับหาว่า RLC เป็นตัวกลาง

00:11:0500:11:07 ที่เชื่อมระหว่างโรคไตกับโรคหัวใจได้ดี

00:11:0700:11:11 แค่ไหนผลก็คือในกลุ่มผู้ป่วย CKD ที่ใช้

00:11:1100:11:14 ยาสตาตินอยู่แล้วเนี่ยระดับ ILC ที่สูง

00:11:1400:11:17 ขึ้นมาสามารถอธิบายความเสี่ยงส่วนเกิน

00:11:1700:11:20 หรือ access Risk ตรงเนี้ยได้ถึง 25%

00:11:2000:11:21 เลยนะครับ

00:11:2100:11:22 >> 25% 1 ใน 4

00:11:2300:11:25 >> ใช่ครับเน้นนิสัยของความเสี่ยงทั้งหมดที่

00:11:2500:11:28 เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับคนไต่ปกติเลย

00:11:2800:11:31 >> ถือว่าเยอะมากนะคะแล้ว LDL ล่ะคะในกลุ่ม

00:11:3100:11:33 นี้ LDL อธิบายได้เท่าไหร่

00:11:3300:11:35 >> ในกลุ่มที่ใช้สตินอยู่แล้ว LDL แทบจะไม่

00:11:3600:11:38 มีส่วนในการอธิบายความเสี่ยงส่วนเกินนี้

00:11:3800:11:38 เลยครับ

00:11:3800:11:39 >> โห

00:11:3900:11:42 >> ส่วนในกลุ่มที่ไม่ได้ใช้ยาสติน R อธิบาย

00:11:4200:11:45 ได้ประมาณ 8% ในขณะที่ LDL อธิบายได้มาก

00:11:4500:11:48 กว่านิดหน่อยประมาณ 13% แต่ก็อย่างที่บอก

00:11:4800:11:51 ครับว่าคนกลุ่มนี้จริงๆส่วนใหญ่ตามแนวทาง

00:11:5100:11:54 ปัจจุบันก็ควรจะต้องได้รับยาสตินอยู่แล้ว

00:11:5400:11:57 >> พอจะเห็นภาพชัดเจนขึ้นมากเลยค่ะข้อมูล

00:11:5700:11:59 ทั้งหมดนี้มันชี้ไปในทางเดียวกันเลยว่า

00:11:5900:12:02 ถึงเวลาที่เราต้องหันมาให้ความสำคัญกับ

00:12:0200:12:05 RTR เพิ่มเติมแล้วนอกเหนือจากการที่เรา

00:12:0500:12:07 จะเพ่งเล็งแต่ LDL อย่างเดียว

00:12:0700:12:07 >> ใช่ครับ

00:12:0700:12:09 >> โดยเฉพาะเลยในผู้ป่วย CKD หรือกลุ่ม

00:12:1000:12:13 เสี่ยงสูงอื่นๆแม้ว่าค่า LDL จะดูดีแล้ว

00:12:1300:12:13 ก็ตาม

00:12:1300:12:16 >> ถูกต้องครับนี่คือข้อเสนอแนะสำคัญเลยจาก

00:12:1600:12:19 การศึกษานี้โดยเฉพาะในคนที่คุม LDL ได้

00:12:1900:12:22 ตามเป้าแล้วนะด้วยยาแซตินแต่เอ๊ะทำไมความ

00:12:2200:12:25 เสี่ยงโดยรวมยังสูงอยู่คำตอบอาจจะอยู่ที่

00:12:2500:12:26 เจ้า RTR นี่แหละครับ

00:12:2600:12:29 >> แล้วการที่เราจะรู้ค่า RC เนี่ยค่ะมัน

00:12:2900:12:32 ยุ่งยากซับซ้อนมั้ยคะต้องไปตรวจเลือดอะไร

00:12:3200:12:34 พิเศษแพงหรือเปล่า

00:12:3400:12:37 >> จริงๆแล้วไม่ยุ่งยากเลยครับแล้วก็ไม่แพง

00:12:3700:12:40 ด้วยเพราะว่ามันคำนวณได้จากผลเลือดพื้น

00:12:4100:12:42 ฐานที่เราตรวจกันอยู่เป็นประจำอยู่แล้ว

00:12:4200:12:43 นี่แหละครับ

00:12:4300:12:44 >> อ้าวหรอคะ

00:12:4400:12:48 >> ครับคือเอาค่า non HDL คอเลสเตอรอลมาลบ

00:12:4800:12:50 ด้วยค่า LDL คอเลสเตอรอล

00:12:5000:12:53 >> อ๋อ HDL - LDL

00:12:5300:12:58 >> ใช่ครับสูตรง่ายๆแค่นี้เลย RC = nonHDL

00:12:5800:13:01 LDL ซึ่ง Non HDL ก็คือ Total

00:13:0100:13:04 Cholesterol ลบด้วย HDL คอเลสเตอรอลอีก

00:13:0400:13:05 ทีนึง

00:13:0500:13:07 >> ผู้วิจัยถึงกับเสนอเลยนะคะว่าจริงๆห้อง

00:13:0700:13:10 ปฏิบัติการเนี่ยควรจะรายงานค่า RC นี้ออก

00:13:1000:13:12 มาโดยอัตโนมัติเลยด้วยซ้ำ

00:13:1200:13:16 >> แต่ว่าเอ๊ะบางทีเราก็เห็นค่า non HDL ใน

00:13:1600:13:18 ใบรายงานผลเลื่อนอยู่แล้วนี่ค่ะทำไมการดู

00:13:1800:13:22 แค่ non HDL ถึงอาจจะยังไม่พอต้องมาดู RC

00:13:2200:13:25 แยกออกมาอีกล่ะคะเป็นคำถามที่ดีครับคือ

00:13:2500:13:29 ถึงแม้ว่า Non HDL มันจะรวมไขมันตัวร้าย

00:13:2900:13:31 ๆไว้เกือบทั้งหมดก็จริงแต่มันไม่ได้บอก

00:13:3100:13:34 สัดส่วนครับว่าตัวที่อาจจะร้ายกว่าอย่าง

00:13:3400:13:36 RC เนี่ยมันมีอยู่เท่าไหร่

00:13:3600:13:38 >> อ๋อ

00:13:3800:13:41 ครับการที่เราดูแค่ non HDL รวมๆเนี่ย

00:13:4100:13:44 อาจจะทำให้เราเข้าใจผิดไปว่าเออมันก็

00:13:4400:13:48 คล้ายๆกับ LDL และมั้งหรืออาจจะประเมิน

00:13:4800:13:50 ความเสี่ยงจากส่วนที่เป็น RHC ต่ำเกินไป

00:13:5000:13:51 ได้ครับ

00:13:5100:13:52 >> เข้าใจแล้วค่ะ

00:13:5200:13:55 >> ส่วนการตรวจ Apple B หรือ Apple Lipple

00:13:5500:13:57 Prote B เนี่ยก็เป็นตัวชี้วัดที่ดีนะ

00:13:5700:14:00 ครับแล้วก็สัมพันธ์ใกล้ชิดกับ non HDL

00:14:0000:14:03 ด้วยแต่สำหรับผู้ป่วยส่วนใหญ่แล้วการดู

00:14:0300:14:07 ค่า non HDL แล้วก็คำนวณ RHC จากค่าพื้น

00:14:0700:14:09 ฐานเนี่ยก็น่าจะให้ข้อมูลที่เพียงพอแล้ว

00:14:0900:14:12 นะครับแล้วก็อาจจะเข้าถึงได้ง่ายกว่า

00:14:1200:14:13 ประหยัดกว่าด้วย

00:14:1300:14:16 >> ขอย้อนกลับไปนิดนึงได้มั้คะตรงที่บอกว่า

00:14:1600:14:18 ในผู้ป่วย CKD ที่อาการค่อนข้างรุนแรง

00:14:1800:14:22 แล้วเนี่ยค่า LDL มันลดลงพอมีคำอธิบายที่

00:14:2200:14:24 ชัดเจนกว่านี้มั้คะว่าทำไม

00:14:2400:14:28 >> ครับอันนี้ยังไม่มีคำอธิบายที่เอ่อฟันธง

00:14:2800:14:31 ได้ 100% นะครับแต่ก็มีข้อสันนิษฐานว่า

00:14:3100:14:33 อาจจะเกี่ยวข้องกับภาวะการเจ็บป่วยหรือ

00:14:3300:14:35 รังโดยรวมนะครับ

00:14:3500:14:36 >> ค่ะ

00:14:3600:14:38 >> ที่มันทำให้ร่างกายอาจจะทรุดโทรมลงเบื่อ

00:14:3800:14:41 อาหารน้ำหนักลดอะไรพวกนี้ซึ่งมันก็ส่งผล

00:14:4100:14:44 ให้การผลิตหรือระดับไขมันบางตัวในร่างกาย

00:14:4400:14:47 ลดลงได้คล้ายๆกับที่อาจจะเจอในภาวะรื้อ

00:14:4700:14:51 รังอื่นๆอย่างเช่นตับวายหัวใจวายอะไรแบบ

00:14:5100:14:51 นั้นครับ

00:14:5100:14:53 >> อื

00:14:5300:14:56 >> แต่ยังอธิบายไม่ได้ชัดเจนเป๊ะๆว่าทำไม RS

00:14:5600:15:00 มันถึงสูงสวนทางขึ้นมาได้อาจจะเกี่ยวข้อง

00:15:0000:15:03 กับการเผ่าผลานไลโปโปรตินีนที่มันผิดปกติ

00:15:0300:15:06 ไปในภาวะไตวัยนี่แหละครับซึ่งคงต้องศึกษา

00:15:0600:15:07 กันต่อไป

00:15:0700:15:11 >> โอเคค่ะในเมื่อ RSC มันสำคัญขนาดนี้แล้ว

00:15:1100:15:13 ถ้าเราตรวจเจอว่ามันสูงแนวทางการจัดการจะ

00:15:1300:15:14 เป็นยังไงคะ

00:15:1400:15:17 >> ครับอันดับแรกเลยและสำคัญที่สุดตามแนวทาง

00:15:1700:15:21 ปัจจุบันเลยนะครับก็คือการใช้ยาสตtinใน

00:15:2100:15:24 ขนาดสูงที่สุดเท่าที่ผู้โบยจะทนได้หรือ

00:15:2400:15:26 ที่เรียกว่า High Intensity Statin

00:15:2600:15:27 Therapy

00:15:2700:15:28 >> ค่ะ

00:15:2800:15:31 >> เพราะว่ายา Statin เนี่ยมันช่วยลดทั้ง LDL

00:15:3100:15:33 และก็ช่วยลด RAC ได้ในระดับหนึ่งอยู่แล้ว

00:15:3300:15:33 ครับ

00:15:3300:15:36 >> แล้วถ้าเกิดว่าใช้สตินเต็มที่แล้วปรับ

00:15:3600:15:40 ขนาดยาสูงสุดแล้ว RS ก็ยังสูงอยู่ล่ะคะมี

00:15:4000:15:41 ทางเลือกอื่นอีกมย

00:15:4100:15:44 >> ถ้ายังคุมไม่ได้หรือ RSC ยังสูงอยู่มากนะ

00:15:4400:15:46 ครับก็อาจจะต้องพิจารณาเพิ่มยาตัวอื่น

00:15:4600:15:51 ครับเช่นยาที่ช่วยเสริมฤิสเตินอย่างหรือ

00:15:5100:15:54 อาสิตแม้ว่าข้อมูลเกี่ยวกับผลต่อ RSC โดย

00:15:5400:15:57 ตรงของยาพวกนี้อาจจะยังไม่มากนักนะครับ

00:15:5700:15:58 >> ค่ะ

00:15:5800:16:01 >> หรืออาจจะพิจารณากลุ่มยา Fibrate อย่าง

00:16:0100:16:04 เช่นPhenฟbrateหรือ PMA Fbr โดยเฉพาะใน

00:16:0400:16:07 คนที่ไตรกิซรายสูงมากๆร่วมด้วยแต่กลุ่ม

00:16:0700:16:10 นี้ก็ต้องระวังนิดนึงเรื่องปฏิกิริยา

00:16:1000:16:13 ระหว่างยาโดยเฉพาะในผู้ปุ๋ยบางกลุ่มเช่น

00:16:1300:16:15 คนที่ปลูกถูกถ่ายตายแล้วได้ยากดภูมิบาง

00:16:1500:16:16 ชนิดอยู่

00:16:1600:16:18 >> อืต้องระวัง

00:16:1800:16:21 >> ใช่ครับส่วนน้ำมันปลาสังเคราะห์ชนิด

00:16:2100:16:24 บริสุทธิ์หรือไอคซาพักเอทิลก็เป็นอีกทาง

00:16:2400:16:26 เลือกหนึ่งแต่ผลการศึกษาก็ยังมีข้อถก

00:16:2600:16:28 เถียงกันอยู่บ้างครับยังไม่ชัดเจนเท่า

00:16:2800:16:29 ไหร่

00:16:2900:16:32 >> พอจะมีแสงสว่างที่ปลายอุมองบ้างมั้คะกับ

00:16:3200:16:35 ยาใหม่ๆในอนาคตที่จะมาจัดการกับ RDL โดย

00:16:3500:16:36 ตรงเลย

00:16:3600:16:38 >> มีความหวังเลยครับตอนนี้มียาหลายตัวเลย

00:16:3800:16:41 ที่กำลังพัฒนาอยู่มีเป้าหมายเพื่อลดระดับ

00:16:4100:16:44 RDL แล้วก็ไตรกิโดยตรงเลย

00:16:4400:16:45 >> ค่ะ

00:16:4500:16:48 >> เช่นยาในกลุ่มที่ไปยับยั้งโปรตีนชื่อ C3

00:16:4800:16:52 หรือยับยั้งโปรตีน ANGTL3 นะครับซึ่งผล

00:16:5200:16:55 การศึกษาเบื้องต้นเนี่ยดูดีมากเลยนะลด RDL

00:16:5500:16:57 ได้แบบ 50-80% เลย

00:16:5700:16:59 >> โหเยอะมาก

00:16:5900:17:02 >> เยอะมากครับแต่ก็ยังต้องรอผลการศึกษาขนาด

00:17:0200:17:04 ใหญ่ในระยะที่ 3 หรือ PH 3 Trials ต่อ

00:17:0400:17:07 ไปเพื่อยืนยันทั้งประสิทธิภาพและความปลอด

00:17:0700:17:10 ภัยในระยะยาวก่อนที่จะนำมาใช้จริงได้ครับ

00:17:1000:17:13 >> ฟังดูมีความหวังนะคะแต่ระหว่างที่รอยยา

00:17:1300:17:16 ใหม่ๆเนี่ยเราทำอะไรได้บ้างคะการปรับ

00:17:1600:17:19 เปลี่ยนวิถีชีวิตพื้นฐานอย่างเรื่องกิน

00:17:1900:17:22 เรื่องออกกำลังกายพวกนี้ช่วยลด RC ได้มย

00:17:2200:17:22 คะ

00:17:2200:17:25 >> โอ้โหช่วยได้มากแน่นอนครับอันนี้สำคัญมาก

00:17:2500:17:28 ๆเลยการศึกษานี้แล้วก็อีกหลายๆการศึกษา

00:17:2800:17:31 เลยนะครับชี้ชัดเจนเลยว่าดัชนีมวลกายหรือ

00:17:3100:17:34 BMI ที่สูงหรือภาวะน้ำหนักเกินโรคอ้วน

00:17:3400:17:37 เนี่ยมันสัมพันธ์โดยตรงเลยกับระดับ RC

00:17:3700:17:39 และไตรกีซรที่สูงขึ้น

00:17:3900:17:39 >> ค่ะ

00:17:3900:17:43 >> ดังนั้นการควบคุมอาหารลดการกินไขมันอิ่ม

00:17:4300:17:46 ตัวลดแคลอรี่ส่วนเกินการออกกำลังกายสม่ำ

00:17:4600:17:49 เสมอแล้วก็การลดน้ำหนักเนี่ยยังไงก็เป็น

00:17:4900:17:52 แนวทางพื้นฐานที่ดีที่สุดและควรทำเป็น

00:17:5200:17:53 อันดับแรกเสมอครับ

00:17:5300:17:55 >> แต่ก็นั่นแหละค่ะอย่างที่อาจารย์บอกการ

00:17:5500:17:57 ปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตให้มันยั่งยืนเนี่ย

00:17:5700:18:00 มันพูดง่ายแต่ทำยากนะคะสำหรับหลายๆคน

00:18:0000:18:03 >> ถูกต้องเลยครับอันนี้คือความท้าทายในโลก

00:18:0300:18:06 ความเป็นจริงเลยถึงแม้ว่าปัจจุบันจะมียา

00:18:0600:18:08 ลดน้ำหนักกลุ่มใหม่ๆที่มีประสิทธิภาพดี

00:18:0800:18:10 ขึ้นเยอะอย่างกลุ่ม GLP1 Receptor

00:18:1000:18:13 Agonist ที่ช่วยลดลดน้ำหนักได้ดีมากแล้ว

00:18:1300:18:15 ก็ส่งผลพลอยได้ให้ RC ลดลงได้บ้างเหมือน

00:18:1500:18:16 กัน

00:18:1600:18:17 >> อ๋อค่ะ

00:18:1700:18:19 >> แต่ก็ยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้ทั้งหมดอยู่

00:18:1900:18:23 ดีการปรับพฤติกรรมก็ยังคงเป็นหัวใจสำคัญ

00:18:2300:18:24 ที่สุดครับ

00:18:2400:18:27 >> นอกเหนือจากเรื่อง RC โดยตรงแล้วการศึกษา

00:18:2700:18:29 ที่เดนมาร์กครั้งนี้มีข้อสังเกตอื่นๆที่

00:18:2900:18:31 น่าสนใจอีกมั้คะอาจารย์

00:18:3100:18:34 >> มีจุดนึงที่ผมว่าน่าสนใจแล้วก็อาจจะ

00:18:3400:18:38 สะท้อนปัญหาในระบบสาธารณสุขบ้านเราหรือ

00:18:3800:18:41 หลายๆที่ได้เหมือนกันนะครับคือเขาพบว่ามี

00:18:4100:18:44 ผู้ป่วยซี PKD ในการศึกษาเนี่ยจำนวนไม่

00:18:4400:18:47 น้อยเลยนะที่ยังไม่ได้รับยาสตาติน

00:18:4700:18:48 >> อ้าวเหรอคะ

00:18:4800:18:51 >> ใช่ครับทั้งๆที่จริงๆแล้วตามข้อบ่งชี้ตาม

00:18:5100:18:54 แนวทางปฏิบัติเนี่ยเขาควรจะได้รับยาแล้ว

00:18:5400:18:56 ซึ่งมันอาจจะเกิดจากปัญหาเรื่องการเข้า

00:18:5600:18:59 ถึงยาการเข้าถึงการรักษาหรือที่น่ากังวล

00:18:5900:19:02 กว่านั้นคือผู้ป่วยจำนวนมากอาจจะไม่รู้

00:19:0200:19:05 ตัวด้วยซ้ำว่าตัวเองมีภาวะไตเริ่มเสื่อม

00:19:0500:19:06 แล้ว

00:19:0600:19:07 >> อืจริงด้วยค่ะ

00:19:0700:19:10 >> เพราะว่าระยะแรกๆเนี่ยมันมักจะไม่มีอาการ

00:19:1000:19:11 อะไรแสดงออกมาเลยครับ

00:19:1100:19:15 >> นั่นสินะคะเป็นประเด็นที่สำคัญมากมองข้าม

00:19:1500:19:17 ไม่ได้เลยแล้วเหมือนจะมีเรื่องเล่าเล็กๆ

00:19:1800:19:20 น้อยๆเกี่ยวกับความเชื่อเรื่องผลข้าง

00:19:2000:19:22 เคียงของยาสแตตินด้วยใช่มั้ยคะที่สน

00:19:2300:19:25 เดสกardดผู้ทำวิจัยเขาเล่าไว้

00:19:2500:19:28 >> ใช่ครับเป็นเกร็ดเล็กๆที่น่าสนใจมากท่าน

00:19:2800:19:31 เล่าประสบการณ์ส่วนตัวนะครับตอนที่ท่านไป

00:19:3100:19:34 บรรยายที่ประเทศขีกิสถานซึ่งอาจจะเป็น

00:19:3400:19:36 ประเทศที่ไม่ค่อยได้รับอิทธิพลจากข่าวสาร

00:19:3600:19:37 ภาษาอังกฤษมากนัก

00:19:3700:19:38 >> ค่ะ

00:19:3800:19:40 >> ท่านก็เลยลองถามแพทย์โรคหัวใจอวุโสที่

00:19:4000:19:43 นั่นดูว่าเอ่อตลอดชีวิตการทำงานเนี่ย

00:19:4400:19:47 รักษาคนไข้มาเป็นพันๆคนเคยเจอคนไข้ที่

00:19:4700:19:50 เรียกว่าทนยาสตินไม่ได้จริงๆจังๆหรือ

00:19:5000:19:53 statin intolerance เนี่ยสักกี่คน

00:19:5300:19:55 >> แล้วคำตอบเป็นยังไงคะน่าสนใจจัง

00:19:5500:19:58 >> แพทย์อาวุโสเท่านั้นก็นั่งนับนิ้วอยู่

00:19:5800:20:01 แป๊บนึงแล้วก็ตอบว่าจากประสบการณ์ที่

00:20:0100:20:04 รักษามาหลายพันคนเนี่ยเคยเจอจริงๆแค่ 5

00:20:0400:20:05 คนเท่านั้นเองครับ

00:20:0500:20:07 >> 5 คนจากหลายพัน

00:20:0700:20:09 >> ใช่ครับซึ่งพอคิดเป็นอัตราส่วนแล้วมันคือ

00:20:0900:20:12 ประมาณ 1:1,000 เท่านั้นเอง

00:20:1200:20:13 >> โหน้อยมาก

00:20:1300:20:16 >> น้อยมากครับซึ่งมันสอดคล้องกับข้อมูลจาก

00:20:1600:20:19 การศึกษาแบบสุ่มที่มีกลุ่มควบคุมหรือ RCT

00:20:1900:20:22 เลยนะครับที่ชี้ว่าปัญหาการทนยาไม่ได้ที่

00:20:2200:20:25 เกิดจากตัวยาจริงๆเนี่ยมันพบได้น้อยมากๆ

00:20:2500:20:29 >> โห 1:1 นี่น้อยจริงๆนะคะแสดงว่าไอ้ความ

00:20:2900:20:32 เชื่อความกังวลต่างๆที่เราอาจจะเคยได้ยิน

00:20:3200:20:34 ได้ฟังกันมาหรืออ่านเจอในอินเทอร์เน็ต

00:20:3400:20:37 เนี่ยอาจจะมีผลต่อการรับรู้แล้วก็ความรู้

00:20:3700:20:40 สึกของผู้ป่วยมากกว่าผลจากตัวยาจริงๆซะ

00:20:4000:20:42 อีกอย่างนั้นเลยใช่คะ

00:20:4200:20:44 >> มีความเป็นไปได้สูงมากครับเรื่องนี้มัน

00:20:4400:20:48 สะท้อนให้เห็นถึงพลังของข้อมูลข่าวสาร

00:20:4800:20:50 แล้วก็ความเชื่อต่างๆนะครับที่มันอาจจะ

00:20:5000:20:53 ส่งผลต่อการตัดสินใจในการรักษาได้แม้ว่า

00:20:5300:20:56 หลักฐานทางวิทยาศาสตร์จะชี้ไปอีกทางก็ตาม

00:20:5600:21:00 >> วันนี้เราได้เจาะลึกข้อมูลที่โอโหเปิดมุม

00:21:0000:21:03 มองใหม่มากๆเลยนะคะทำให้เห็นว่าโรคของไข

00:21:0300:21:06 มันในเลือดเนี่ยมันซับซ้อนกว่าแค่เรื่อง

00:21:0600:21:10 LDL จริงๆแล้วก็เจ้า Remnon คอเลสเตอรอล

00:21:1000:21:13 RC เนี่ยเป็นอีกตัวแปรสำคัญที่ไม่ควรมอง

00:21:1300:21:16 ข้ามเลยโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มผู้ป่วย

00:21:1600:21:18 โรคไตเรื้อรังแม้ว่าจะกินยาสตาตินอยู่

00:21:1800:21:19 แล้วก็ตามนะคะ

00:21:1900:21:21 >> ถูกต้องเลยครับความเข้าใจในเรื่องนี้

00:21:2100:21:24 เนี่ยก็อาจจะนำไปสู่การปรับเปลี่ยนแนวทาง

00:21:2400:21:27 การประเมินความเสี่ยงการรายงานผลเลือดใน

00:21:2700:21:30 อนาคตเช่นอาจจะมีการเพิ่มค่า RC เข้าไป

00:21:3000:21:31 โดยอัตโนมัติ

00:21:3100:21:32 >> ค่ะ

00:21:3200:21:35 >> แล้วก็การพิจารณาทางเลือกในการรักษาเพิ่ม

00:21:3500:21:37 เติมในอนาคตด้วยนะครับเพื่อเป้าหมายในการ

00:21:3700:21:40 ลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดใน

00:21:4000:21:42 ผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงสูงเหล่านี้ให้มี

00:21:4200:21:44 ประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิมครับ

00:21:4400:21:46 >> ก็น่าจะเป็นข้อมูลที่กระตุ้นให้ผู้ฟัง

00:21:4600:21:49 หลายๆท่านนะคะโดยเฉพาะผู้ที่อาจจะมีความ

00:21:4900:21:51 เสี่ยงเรื่องโรคไตอยู่แล้วหรืออาจจะมีค่า

00:21:5200:21:55 ไตรกรซรายสูงๆอาจจะลองพลิกผลเลือดเก่าๆ

00:21:5500:21:57 ของตัวเองดูสังเกตค่า non HDL

00:21:5700:22:00 คอเลสเตอรอลหรือว่าลองปรึกษาคุณหมอที่ดู

00:22:0000:22:02 แลอยู่เกี่ยวกับค่า Remnage คอเลสเตอรอล

00:22:0200:22:04 ในการพบครั้งต่อไปก็ได้นะคะ

00:22:0400:22:07 >> ครับเห็นด้วยอย่างยิ่งเลยครับแล้วจากทั้ง

00:22:0700:22:09 หมดที่เราคุยกันมาวันนี้เนี่ยเนี่ยมันก็

00:22:0900:22:12 เกิดเป็นคำถามชวนคิดทิ้งท้ายไว้นะครับว่า

00:22:1200:22:14 เอ่อเมื่อเรามีความเข้าใจเกี่ยวกับบทบาท

00:22:1500:22:17 ของ remnent คอเลสอลมากขึ้นแล้วเนี่ยเรา

00:22:1700:22:20 ควรจะปรับมุมมองต่อการจัดการไขมันในเลือด

00:22:2000:22:24 โดยรวมกันอย่างไรต่อไปแล้วเราควรจะบูณาร

00:22:2400:22:26 เอาความรู้นี้เข้าไปในการดูแลผู้ป่วย

00:22:2700:22:29 กลุ่มเสี่ยงสูงอื่นๆอย่างเช่นผู้ป่วยโรค

00:22:2900:22:31 ไตที่เราคุยกันวันนี้หรือผู้ที่มีภาวะ

00:22:3100:22:35 เมาบอลิsyนrมโรคอ้วนหรือเบาหวานอย่างไรดี

00:22:3500:22:38 เพื่อให้เราสามารถป้องกันโรคหัวใจและหลอด

00:22:3800:22:40 เลือดซึ่งก็ยังเป็นสาเหตุการเสียชีวิต

00:22:4000:22:43 อันดับต้นๆของโรคอยู่ดีเนี่ยให้มันมี

00:22:4300:22:45 ประสิทธิภาพสูงสุดท่ามกลางปัจจัยเสี่ยง

00:22:4500:22:47 แล้วก็วิถีชีวิตที่มันเปลี่ยนแปลงไปมากใน

00:22:4700:22:50 โลกยุคปัจจุบันนี่คงเป็นโจทย์ใหญ่ที่เรา

00:22:5000:22:52 ต้องช่วยกันหาคำตอบต่อไปครับ

00:22:5200:22:56 >> เป็นคำถามที่น่าสนใจและสำคัญมากจริงๆค่ะ

00:22:5600:22:58 ต้องขอบคุณสำหรับข้อมูลเชิงลึกในวันนี้นะ

00:22:5800:22:59 คะ

00:22:5900:23:00 >> ยินดีครับ

00:23:0000:23:18 [เพลง]