00:00:00 → 00:00:01 เ
00:00:01 → 00:00:07 [เพลง]
00:00:07 → 00:00:28
00:00:28 → 00:00:30 [เพลง]
00:00:30 → 00:00:36 เ
00:00:36 → 00:00:47 [เพลง]
00:01:00 → 00:01:06 อ
00:01:06 → 00:01:19 [เพลง]
00:01:30 → 00:01:31 เ
00:01:31 → 00:01:40 [เพลง]
00:01:40 → 00:01:48
00:01:48 → 00:02:00 [เพลง]
00:02:00 → 00:02:05 เ
00:02:05 → 00:02:13 [เพลง]
00:02:13 → 00:02:18
00:02:18 → 00:02:28 [เพลง]
00:02:28 → 00:02:45
00:02:45 → 00:02:54 แ
00:02:54 → 00:02:59 [เพลง]
00:02:59 → 00:03:11 เ
00:03:11 → 00:03:29 [เพลง]
00:03:29 → 00:03:31 อ
00:03:31 → 00:03:40 [เพลง]
00:03:40 → 00:03:59
00:03:59 → 00:03:59 [เพลง]
00:03:59 → 00:04:12 อ
00:04:12 → 00:04:22 [เพลง]
00:04:29 → 00:04:36 เ
00:04:36 → 00:04:43 [เพลง]
00:05:01 → 00:05:07 เ
00:05:07 → 00:05:17 [เพลง]
00:05:29 → 00:05:34 เ
00:05:34 → 00:05:47 [เพลง]
00:05:59 → 00:06:01 เ
00:06:01 → 00:06:27 [เพลง]
00:06:27 → 00:06:29
00:06:29 → 00:06:29 [เพลง]
00:06:29 → 00:06:46 เ
00:06:46 → 00:06:59 [เพลง]
00:06:59 → 00:07:06 อ
00:07:06 → 00:07:16 [เพลง]
00:07:29 → 00:07:31 เ
00:07:31 → 00:07:41 [เพลง]
00:07:41 → 00:07:47
00:07:47 → 00:07:58 [เพลง]
00:07:58 → 00:07:59
00:07:59 → 00:07:59 [เพลง]
00:07:59 → 00:08:03 เ
00:08:03 → 00:08:18 [เพลง]
00:08:29 → 00:08:30 เ
00:08:30 → 00:08:53 [เพลง]
00:08:53 → 00:08:59
00:08:59 → 00:09:10 แ
00:09:10 → 00:09:23 [เพลง]
00:09:57 → 00:10:02 ค่ะ
00:10:02 → 00:10:05 เดี๋ยวรอสัญญาณจากทีมงานแป๊บนึงนะครับผม
00:10:05 → 00:10:08 วันนี้ข้างนอกก็ร้อนพอสมควรเลยเรามาหลบ
00:10:08 → 00:10:09 แดดกันข้างในนี้ดีกว่านะ
00:10:10 → 00:10:16 ครับ
00:10:16 → 00:10:20 โอเคค่ะสวัสดีค่ะสวัสดีครับทุกท่านครับก็
00:10:20 → 00:10:23 ขอเสียงปรบมือสักนิดนึงนะครับให้กับการดู
00:10:23 → 00:10:27 แลกายและใจของเราในวันนี้ครับผมก็ต้อนรับ
00:10:27 → 00:10:30 ทุกท่านนะครับเข้าสู่งาน e Healthy be
00:10:30 → 00:10:32 wey นะครับวันนี้นิวพลวัฒผู้พิพัฒน์นะ
00:10:32 → 00:10:34 ครับแล้วก็คุณหมอดาวครับใช่ค่ะแพทยหญิง
00:10:34 → 00:10:37 ชันดาวจังวังกรนะคะครับผม FC หมอดาวขอ
00:10:37 → 00:10:39 เสียงปรมอีกสักครั้งนึงนะครับผมขอค่ะ
00:10:40 → 00:10:43 เคุณหมอดาวครับตอนนี้ประเทศไทยก็เข้าสู่
00:10:43 → 00:10:46 สังคมผู้สูงอายุแบบสมบูรณ์แล้วอ่าเรื่อง
00:10:46 → 00:10:48 นี้มันสำคัญอย่างไรสำหรับพวกเราครับผม
00:10:48 → 00:10:50 ต้องบอกว่าการที่ประเทศไทยเนี่ยเข้าสู่
00:10:50 → 00:10:52 สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์เนี่ยนั่น
00:10:52 → 00:10:55 หมายถึงว่าตัวเราเองถ้าเรายังมีชีวิตอยู่
00:10:55 → 00:10:58 ทุกคนยังมีชีวิตอยู่ใช่มั้คะมีครับผมใช่
00:10:58 → 00:11:01 ถ้าเราอพูดกันแบบตรงไปตรงมาคือถ้าเราไม่
00:11:01 → 00:11:04 กะว่าวันพรุ่งนี้เราซี้มองเซ็กตายแงแก
00:11:04 → 00:11:06 แล้วเนี่ยเราก็มีโอกาสที่จะเป็นผู้สูง
00:11:06 → 00:11:09 อายุอืปัญหาชีวิตค่ะคุณนิวก็คือว่าแล้ว
00:11:09 → 00:11:12 เราจะเป็นผู้สูงอายุอย่างไรที่ไม่สะเงาะ
00:11:12 → 00:11:15 สะแงะไม่นอนติดเตียงเนี่ยยังดึงดังเริง
00:11:15 → 00:11:17 ร่ากันแบบนี้นี่แหละอันเนี้ยคือปัญหาที่
00:11:17 → 00:11:20 เราจะทำอย่างไรอ่าเราก็มาหาคำตอบมาหาคำ
00:11:20 → 00:11:22 แนะนำกันนั่นเองนะครับวันนี้ก็สวัสดีทุก
00:11:22 → 00:11:25 ท่านณที่นี้นะครับที่เ่อร้านกาแฟแห่งนี้
00:11:25 → 00:11:28 นะครับร้านมีวนานะครับแล้วก็ที่รับชมเรา
00:11:28 → 00:11:31 อยู่ณขณะนี้ครับพี่ดาวครับผ่านทางไลฟนะ
00:11:31 → 00:11:33 ครับไม่ว่าจะเป็นทาง Facebook นะครับของ T
00:11:33 → 00:11:36 ช่อง 16 นะครับ T Live แล้วก็ tn Health
00:11:36 → 00:11:39 นะรวมไปถึงทาง tiktok ของ TNN Health
00:11:39 → 00:11:41 ด้วยนะครับแล้วก็ยังมีในส่วนของ YouTube
00:11:41 → 00:11:43 TNN ด้วยนะวันนี้คือเราแบบต้องการใชให้
00:11:43 → 00:11:45 ความรู้กันแบบเต็มที่เลยนั่นเองนะครับผม
00:11:45 → 00:11:48 ก็ลำดับแรกต้องขอขอบคุณก่อนนะครับทุกท่าน
00:11:48 → 00:11:50 ที่มารวมตัวกันในวันนี้แสดงว่าเราทุกคน
00:11:50 → 00:11:52 ตื่นตัวนะพี่ดาวครับในการที่จะดูแลสุขภาพ
00:11:52 → 00:11:55 กายสุขภาพใจเป็นผู้สงวัยที่มีความสุขนั่น
00:11:55 → 00:11:57 เองและงานดีๆแบบนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้นะ
00:11:57 → 00:12:00 ครับถ้าไม่มีผู้ใหญ่ใจดีช่วยสนับสนุนเรา
00:12:00 → 00:12:02 ในวันนี้นะครับก็ต้องขอบพระคุณนะครับผม
00:12:02 → 00:12:07 ทางบริษัทแลคตาซอยจำกัดครับขอบคุณครับ
00:12:07 → 00:12:10 แทดครับผมและบริษัทเครือเจริญพกพันธ์
00:12:10 → 00:12:13 จำกัดหรือว่าเครือ CP ครับผมสปอนเซอร์
00:12:13 → 00:12:16 ต้องดีใจนะทุกคนให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น
00:12:16 → 00:12:18 เลยแล้วก็บริษัท CP จำกัดมหาชนนะครับผู้
00:12:18 → 00:12:21 บริหารร้าน 7-eleven และ 7 delivery
00:12:21 → 00:12:22 ครับ
00:12:22 → 00:12:25 ค่ะและยังไม่หมดนะครับบริษัท True คปช
00:12:25 → 00:12:30 จำกัดมหาชนครับค่ะก็อยากจะขออนุญาตทุก
00:12:30 → 00:12:33 ท่านค่ะเนื่องจากว่าเราเป็นการให้ความรู้
00:12:33 → 00:12:35 ดังนั้นเนี่ยการแพนกล้องถ่ายอะไรไปบาง
00:12:35 → 00:12:38 ครั้งอาจจะติดหน้าสวยๆของเราหน้าหล่อๆของ
00:12:38 → 00:12:42 เรานะคะขออนุญาตเอ่อนำเสนอเล็กๆน้อยๆหมาย
00:12:42 → 00:12:44 ความว่าพูดง่ายๆคือ pdpa นั่นเองอ่ะนิว
00:12:44 → 00:12:47 พูดขออนุญาตบันทึกภาพแล้วก็นำไปเผยแพร่
00:12:47 → 00:12:49 ต่อนะครับซึ่งซึ่งก็ปฏิสัมพันธ์ที่เกิด
00:12:49 → 00:12:51 ขึ้นในวันนี้ก็จะเป็นความรู้สำหรับคุณผู้
00:12:51 → 00:12:53 ชมที่รับชมอยู่ทางบ้านด้วยนเองอนุญาตุ
00:12:53 → 00:12:55 ท่านครับผมเรื่องแรกที่สำคัญเราจะคุยกัน
00:12:55 → 00:12:57 ครับผมซึ่งเราจะเชิญวิทยากรคนสำคัญมาคุย
00:12:57 → 00:13:00 กันท่านนี้เนี่ยถ้าใครติดตาม TT ของ TE
00:13:00 → 00:13:01 and Health ต้องเห็นท่านอย่างแน่นอนนะ
00:13:02 → 00:13:04 ครับซึ่งปกติท่านไม่ได้มาเต้นจะดูแลอย่าง
00:13:04 → 00:13:06 ไรนะครับต้องขอเรียนเชิญวิทยากรท่านแรก
00:13:06 → 00:13:09 ของเรานะครับนายแพทย์อภิชาตจริยาวิราช
00:13:09 → 00:13:12 ครับหรือว่าคุณคนที่ผ่านโควิดมาได้นี่คือ
00:13:12 → 00:13:14 เราคือผู้ผู้ผู้อยู่รอดนะครับคนที่อยู่
00:13:14 → 00:13:17 รอดมาได้ก็เราก็ต้องเจอว่าอย่างนึงที่เรา
00:13:17 → 00:13:20 รอดมาได้ไม่ใช่แค่อาการทางกายหรือว่าโรค
00:13:20 → 00:13:23 ต่างๆเนี่ยเราแข็งแรงแต่ว่าเราต้องเจอว่า
00:13:23 → 00:13:24 เรื่องของสุขภาพจิตต้องแข็งแรงปัญหา
00:13:25 → 00:13:27 เรื่องสุขภาพจิตมันมีตั้งเรารู้จักกัน
00:13:27 → 00:13:30 อยู่แล้วซึมเศ้าได้ยินคำว่าโรคซึมเศร้า
00:13:30 → 00:13:36 ใช่มั้ยครับอตกกังวลมีโฟมีกลัวมีแพนิคมี
00:13:36 → 00:13:38 อาการเต็มไปหมดเลยแล้วก็อาจจะมีผลพวงจาก
00:13:39 → 00:13:41 การที่เราเกิดซึมเศร้าด้วยอย่างเช่นเป็น
00:13:41 → 00:13:44 การติดเหล้าติดสารเสพติดใช่มั้ครับเราเจอ
00:13:44 → 00:13:46 ว่าปัจจุบันเนี่ยคนที่ติดเหล้าติดสารเสพ
00:13:46 → 00:13:49 ติดเนี่ย 50 50 กว่าเปอร์เซ็นเนี่ยคือคน
00:13:49 → 00:13:52 ที่มีโรคซึมเศร้าแฝงอยู่เป็นสาเหตุว่า
00:13:52 → 00:13:54 ทำไมเลิกเหล้าอ่ะรักษาเท่าไหร่ไม่หายักที
00:13:54 → 00:13:57 จับเลิกเห้าเท่าไหร่ไม่จบสักทีปรากฏว่าพอ
00:13:57 → 00:14:00 มามีการเลิกเอ่อพอเลิกเล่าร่วมกับการ
00:14:00 → 00:14:04 รักษาซึมเศร้าปรากฏหายนะครับเราก็เจอว่า
00:14:04 → 00:14:06 คนที่มีซึมเศร้าปัญหาสุขภาพีวิตกกังวล
00:14:06 → 00:14:09 เนี่ยบางทีจะมีอะไรปรากฏเหงาอยู่แล้วเหงา
00:14:09 → 00:14:12 ค้างไว้แล้วก็เจอว่าแนวโน้มของความเหงา
00:14:12 → 00:14:14 เนี่ยจะมากขึ้นเรื่อยๆนะครับสาเหตุของ
00:14:14 → 00:14:16 ความเหงาเนี่ยมันก็มีหลายอย่างก็คือเรา
00:14:16 → 00:14:18 ไม่ได้เจอใครอ่ะแน่นอนถูกบังคับให้อยู่คน
00:14:19 → 00:14:21 เดียวแต่ปัจจุบันเนี่ยถึงแม้ว่าคนจะมีคน
00:14:21 → 00:14:24 ลายล้อมด้วยคนเต็มไปหมดมีเพื่อนมีฝูงมีคน
00:14:24 → 00:14:26 ในครอบครัวออกไปปาร์ตี้สังสรรค์แต่ความ
00:14:26 → 00:14:30 เหงามันก็ยังโจมตีคนปกติได้อยู่สาเหตุมัน
00:14:30 → 00:14:32 มีหลายอย่างนะครับเพราะว่ากรณีที่ 1
00:14:32 → 00:14:35 เนี่ยกรณีคนที่ออกไปเจอคนเยอะๆอยู่แล้วมี
00:14:35 → 00:14:37 ปาร์ตี้สังสรรค์แล้วแต่ทำไมถึงยังเจอความ
00:14:37 → 00:14:39 เหงาเพราะว่าความสัมพันธ์มันอาจจะไม่ได้
00:14:39 → 00:14:42 ลึกซึ้งแล้วก็เจอว่าคนที่ออกไปปาร์ตี้ไป
00:14:42 → 00:14:45 สังสรรค์เนี่ยเอาจจะเป็นความสัมพันธ์ที่
00:14:45 → 00:14:48 มันมีได้แค่ระดับนึงในการที่พบปะแต่ถาม
00:14:48 → 00:14:50 ว่ามันลึกซึ้งพอที่เขาจะหายเหงายปรากฏว่า
00:14:51 → 00:14:53 ไม่นะครับดังนั้นคนเราแล้วก็เจอว่าคนเรา
00:14:53 → 00:14:56 ปกติเนี่ยที่มันจะลดความเหงาได้เนี่ยมัน
00:14:56 → 00:14:58 มีปฏิสัมพันธ์ได้จริงแต่มันต้องมีความลึก
00:14:58 → 00:15:01 ซึ้งประมาณนึงในในแต่ละรูปแบบนะครับถ้าจะ
00:15:01 → 00:15:04 เป็นเพื่อนก็คงต้องสนิทขึ้นมาประมาณนึง
00:15:04 → 00:15:06 มันไม่ใช่ว่าแค่คนรู้จักดังนั้นเวลาเรา
00:15:07 → 00:15:09 เหงาๆเนี่ยเราไปเจอคนทั่วไปมันก็ไม่ได้
00:15:09 → 00:15:12 หายเหงาอ่ะอาจจะนิดหน่อยแต่ว่ามันไม่ได้
00:15:12 → 00:15:14 หายเหงาเท่าไหร่นะครับเพราะะนั้นต่อให้
00:15:14 → 00:15:16 ออกไปมีกิจกรรมมันก็อยากจะไม่จบนะครับ
00:15:16 → 00:15:18 เพราะว่าคนที่ความสัมพันธ์ลึกซึ้งเหสูง
00:15:19 → 00:15:21 อายุเนี่ยเกิดปัญหาเหงาอ่ะเยอะนะครับแล้ว
00:15:21 → 00:15:24 ก็เป็นปัญหาเหงาเสียบพลันก็เยอะความเหงา
00:15:24 → 00:15:26 เนี่ยเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ในคนปกตินะ
00:15:26 → 00:15:29 ครับแต่ว่าความเหงาเสียบพลันเนี่ยคือมัน
00:15:29 → 00:15:31 เหมือนแบบเราก็ใช้ชีวิตอยู่ดีๆของเรามา
00:15:31 → 00:15:34 อยู่ๆความเก่าก็บึ้มระเบิดขึ้นมาโจมตี
00:15:34 → 00:15:36 ขึ้นมากระทันหันนะครับในช่วงสงกรานต์
00:15:36 → 00:15:39 เนี่ยทำไมมันเกิดแบบนี้อันนี้เราเจอว่า
00:15:39 → 00:15:41 มันมีอย่างเช่นกรณีที่ 1 เนี่ยมันมีความ
00:15:41 → 00:15:43 คาดหวังอยู่อย่างเช่นผู้สูงอายุเนี่ยเวลา
00:15:43 → 00:15:48 อยู่บ้านอยู่คนเดียวอยู่ใช้ชีวิตกับ 2 ตา
00:15:48 → 00:15:50 ยายหรืออยู่เป็นตาอยู่คนเดียวคุณยายอยู่
00:15:50 → 00:15:53 คนเดียวเนี่ยคาดหวังว่าพอสงกรานต์ลูกหลาน
00:15:53 → 00:15:57 กลับมาใช่มั้ยครับอ่ะพอลูกหลานติดธุระมา
00:15:57 → 00:15:59 ไม่ได้อยู่คนเดียวต่อเหงาทั้งๆที่อยู่ได้
00:15:59 → 00:16:03 มาตลอด 360 วันเลยเนาะไอ้ 5 วันที่คาด
00:16:03 → 00:16:06 หวังว่าเขาจะกลับมาปรากฏมาไม่ได้ติดธุระ
00:16:06 → 00:16:09 เหงาเกิดทรมานเกิดทุกข์ใจเกิดห่อเหี่ยว
00:16:09 → 00:16:12 เกิดนอนมันทรมานจากความเหงาอ่ะแล้วมันก็
00:16:12 → 00:16:15 อาจจะลามไปหลังจากนั้นได้หรือบางคนลูก
00:16:15 → 00:16:17 หลานกลับมาจริงแต่ว่ากลับมาแล้วลูกหลานก็
00:16:17 → 00:16:20 อ่ะเล่นมือถือนั่งอยู่ข้างหน้าแล้วก็เล่น
00:16:20 → 00:16:24 มือถือไปปล่อยคุณตาคุณยายก็มีเหมือนไม่มี
00:16:24 → 00:16:27 อย่างเงี้ยก็เลยเกิดเหงาแบบน้อยอกน้อยใจ
00:16:27 → 00:16:29 รู้สึกเอ้ยเหมือนเหมมีลูกหลานก็เหมือนไม่
00:16:29 → 00:16:31 มีอย่างเงี้ยก็เกิดเหงาอันนี้ก็เป็นสิ่ง
00:16:31 → 00:16:33 ที่เจอบ่อยในยุคปัจจุบันนะครับดังนั้น
00:16:33 → 00:16:36 ช่วงก่อนสงกรานต์มันก็จะมีเอ่ออย่าง TNN
00:16:36 → 00:16:38 ก็ให้ความสำคัญเรื่องนี้นะ tn ก็ออกออก
00:16:38 → 00:16:40 เรื่องให้ระวังเรื่องจะเหงาก่อนสงกรานต์
00:16:40 → 00:16:43 เหมือนกันนะครับก็หลายๆกรมสุขภาพจิตก็ให้
00:16:43 → 00:16:45 ข้อมูลว่าระวังเรื่องเหง่าก่อนสงกรานต์
00:16:45 → 00:16:47 เพราะว่ามันก็จะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิด
00:16:47 → 00:16:50 ขึ้นได้ทีนี้ไอ้ทำยังไงช่วงก่อนสงกรานต์
00:16:50 → 00:16:53 เราก็แนะนำว่าไม่ต้องรอลูกหลานมานะเราก็
00:16:53 → 00:16:55 แค่โทรศัพท์ใช้เทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์
00:16:55 → 00:16:57 เพราะว่าเดี๋ยวนี้ผู้สูงอายุใช้ LINE ใช้
00:16:57 → 00:16:59 โซเชียลมีเดียบางคนเก่งกว่าวัยรุ่นอีกก็
00:16:59 → 00:17:01 มีใช่มั้ยครับดังนั้นก็ใช้ติดต่อสื่อสาร
00:17:01 → 00:17:03 เป็นฝ่ายจู่โจมเลยไม่ต้องรอเป็นฝ่ายตั้ง
00:17:03 → 00:17:05 รับให้เมาอย่างเดียวอย่างเงี้เป็นต้นนะ
00:17:05 → 00:17:07 ครับหรือจริงๆเราทำให้ทุกวันเป็นวัน
00:17:07 → 00:17:10 ครอบครัวไม่ต้องรอวันสงกรานต์ก็ได้อาจจะ
00:17:10 → 00:17:12 ไปเจอกันนอกรอบอย่างเงี้ยสำหรับลูกหลาน
00:17:12 → 00:17:14 เองถ้าไม่อยากให้ผู้สูงอายุเกิดความเหงา
00:17:14 → 00:17:17 เสียบพลันขึ้นมาทำยังไงเราก็แนะนำว่าให้
00:17:17 → 00:17:19 ทุกวันเป็นวันครอบครัวไปเลยไม่ลืมเอ่ะมัน
00:17:19 → 00:17:22 ไม่ใช่ให้ความสำคัญเฉพาะวันสงกรานต์ 360
00:17:22 → 00:17:25 วันลืมไปไหนไม่รู้อ่าเก็ต้องเหงาเป็น
00:17:25 → 00:17:28 ธรรมดาดังนั้นให้เวลาเ้าบ้างโทรศัพท์บ้าง
00:17:28 → 00:17:30 มีการพูดคุยบ้างไปเจอบ้างยิ่งถ้าไม่ใช่
00:17:31 → 00:17:33 เทศกาลยิ่งดีเพราะอะไรรถไม่ติดใช่มั้ย
00:17:33 → 00:17:36 ครับไม่ต้องอยู่กัน 6 ชมง 7 ช่วโมงบนรถก็
00:17:36 → 00:17:39 ใช้เวลาอย่างเงี้ยไปหาในนอกรอบก็ได้อย่าง
00:17:39 → 00:17:42 นี้เป็นต้นนะครับหรือบางทีถ้าเกิดว่า
00:17:42 → 00:17:44 กิจกรรมเนี่ยก็ไม่ต้องรอกิจกรรมที่มัน
00:17:44 → 00:17:47 ต้องเล่นเล่นใหญ่โอโหเก็บเงินก็ต้องรอไป
00:17:47 → 00:17:50 ต่างประเทศ 2-3 ปีได้เจอกันทีไม่ต้องเอา
00:17:50 → 00:17:53 แค่จากบ้านเนี่ยไปหน้าปากซอยก่อนมยจริงๆ
00:17:53 → 00:17:55 ผู้สูงอายุแค่บอกมีลูกมีหลานไปด้วยอ่ะ
00:17:55 → 00:17:58 เส้นทางเดินมันก็ไม่เหมือนเดิมแล้วนะจาก
00:17:58 → 00:18:00 แค่หน้าบ้านไปถึงหน้าปากซอยเนี่ยบางอย่าง
00:18:01 → 00:18:03 มันก็ดูแปลกใหม่แล้วแค่มีคนเดินด้วยอย่าง
00:18:03 → 00:18:05 นี้เป็นต้นนะครับดังนั้นการให้เวลามันไม่
00:18:05 → 00:18:07 ต้องทำอะไรเวอร์วังไม่ต้องทำอะไรประหลาด
00:18:07 → 00:18:09 ไม่ต้องลงทุนเยอะไม่ต้องใช้เงินเยอะใช้
00:18:09 → 00:18:12 เวลาให้ความรู้สึกให้ใจอย่างเงี้ยมันก็
00:18:12 → 00:18:15 ช่วยลดความเหงาได้ดีนะครับอ้าแต่ทีนี้ถ้า
00:18:15 → 00:18:18 เกิดว่าทำไม่ทันมันเหงาไปแล้วล่ะทำยังไง
00:18:18 → 00:18:21 ก็ต้องรีบฟื้นตัวเองนะครับฟื้นตัวเองใน
00:18:21 → 00:18:23 ที่นี้ถ้าเกิดเราเป็นผู้สูงอายุหรือเรา
00:18:23 → 00:18:26 เราเป็นคนหนุ่มคนสาวก็เหงาเป็นใช่มอ่ะก็
00:18:26 → 00:18:29 บอกคนใกล้ตัวว่าตอนนี้รู้สึกไม่โอโคอย่า
00:18:29 → 00:18:31 ปล่อยให้ความความเหงาพวกนี้มันเกาะกินเรา
00:18:31 → 00:18:33 ไปเรื่อยเพราะว่าบางทีเรารู้ตัวอีกทีนึง
00:18:33 → 00:18:36 คือเราไม่ไหวแล้วกลายเป็นซึมเศร้าซึ่งโรค
00:18:36 → 00:18:39 อาการของเหงาเฉียบพันธุ์เนี่ยมันจะกลาย
00:18:39 → 00:18:42 เป็นเหงาเรื้อรังได้แล้วไอ้เหเหงาเรื้อ
00:18:42 → 00:18:45 รังเนี่ยมันกลายเป็นโรคซึมเศร้าต่อไปได้
00:18:45 → 00:18:48 นะครับมันมีมันมีอุบัติกาว่าโอกาสที่จะ
00:18:48 → 00:18:50 เกิดโรคซึมเศร้าหลังจากที่มีความเหงานานๆ
00:18:50 → 00:18:53 เนี่ยสูงนะครับบางคนเขจะบอกว่าจริงๆไอ้
00:18:53 → 00:18:55 เหงาๆนี่มันอาจจะสงสัยว่าเป็นสัญญาณเริ่ม
00:18:55 → 00:18:59 ต้นของซึมเศร้าหรือเปล่าด้วยซ้ำนะครับดัง
00:18:59 → 00:19:02 นั้นอันนี้ต้องรีบจัดการก็คือ 1 ก็คือลอง
00:19:02 → 00:19:04 สำรวจอารมณ์ตัวเองบ่อยๆนะครับว่าเอ้ยเรา
00:19:05 → 00:19:07 โอเคอยู่มั้ยเราเหงาหรือเปล่าถ้าเหงา 2
00:19:07 → 00:19:11 มาดูซิว่าเราเหงาจากอะไรเราเหงาจากขาดคน
00:19:11 → 00:19:13 อยู่ใกล้หรือว่าคนที่อยู่ด้วยเ้าไม่สนใจ
00:19:13 → 00:19:16 เราหรือมีคนเยอะแยะก็ไม่ได้เหงาเรื่องคน
00:19:16 → 00:19:18 นะอยากจะมีกิจกรรมทำเพราะแก้เบื่ออย่าง
00:19:18 → 00:19:21 เงี้ยเราหาสาเหตุก่อนลองจัดการในสิ่งที่
00:19:21 → 00:19:23 เราจัดการได้ก่อนอย่างเช่นกิจกรรมลอง
00:19:23 → 00:19:25 เปลี่ยนกิจกรรมดูก่อนมยถ้าเราไม่รู้ทำยัง
00:19:25 → 00:19:27 ไงเข้าไปใน Google ง่ายสุดเลยครับเขียน
00:19:27 → 00:19:30 ว่ากิจกรรมยังว่าด 100 วิธีขึ้นมาเต็มไป
00:19:30 → 00:19:33 หมดเลยเรื่องเอาสักวิธีนึงที่เราพอจะสนใจ
00:19:33 → 00:19:35 หรือหรือว่ามันน่าเบื่อน้อยสุดอ่ะถ้ารู้
00:19:35 → 00:19:37 สึกว่าข้อข่าไม่ดีจะไปปีนเขาคงไม่ได้ใช่
00:19:37 → 00:19:40 มั้ยครับอ่าถ้าเกิดข้อเขาไม่ดีแล้วก็ทำ
00:19:40 → 00:19:42 กิจกรรมในที่รู้สึกว่าเป็นงานประดิษฐ์อ่ะ
00:19:42 → 00:19:45 ถ้าไม่ชอบงานประดิษฐ์ไปทำอะไรอาจจะไปไม่
00:19:45 → 00:19:47 ไปาว่ายน้ำมยอะไรอย่างเงี้ยนะครับหรือยัง
00:19:47 → 00:19:49 ไม่มีสะดวกเดินทางโออากาศร้อนมากไม่ไหว
00:19:49 → 00:19:52 เดี๋ยวเป็นลมก็ทำอะไรอยู่ในบ้านได้มยอาจ
00:19:52 → 00:19:55 จะดูดูหนังดูทีวีหรืออะไรก็ได้ลองไล่มาที
00:19:55 → 00:19:58 ละหัวข้อดูอันนี้จะช่วยได้เยอะเป็นการทำ
00:19:58 → 00:20:00 กิกจกรรมกับตัวเองแต่ว่าถ้ารู้สึกว่า
00:20:00 → 00:20:03 กิจกรรมมันเยอะแล้วแต่ว่ามันมีปัญหาว่า
00:20:03 → 00:20:06 ไม่ได้เจอลูกหลานอยู่คนเดียวบางคนบอกไปดู
00:20:06 → 00:20:09 ภาพยนตร์มาชื่อหลานมากที่เขามีประโยคนึง
00:20:09 → 00:20:11 บอกว่าไม่ชอบตรุษจีนเพราะว่าพอหลังจาก
00:20:11 → 00:20:13 ตรุษจีนอาหารเหลือเต็มต้องกินคนเดียว
00:20:13 → 00:20:15 อย่างเงี้ยอันนี้เป็นตัวแทนสถานการณ์
00:20:15 → 00:20:18 ปัจจุบันจริงๆเลยนะเพราะว่าคนสูงอายุ
00:20:18 → 00:20:20 เนี่ยปัจจุบันก็คือสุขภาพดีไงก็ไม่ตายกัน
00:20:20 → 00:20:22 ง่ายๆเนาะมันก็ต้องอยู่กันไปก่อนซึ่งจริง
00:20:22 → 00:20:25 ๆดีแล้วต้องอายุยืนน่ะดีแล้วแต่ว่าไอ้การ
00:20:25 → 00:20:27 อยู่แล้วอยู่อย่างมีความสุขอยู่ยังไง
00:20:27 → 00:20:30 อันเนี้ยสุขภาพจิตเลยสำใช่มครับดังนั้นก็
00:20:30 → 00:20:32 จะต้องหาว่าทำยังไงให้เรามันเบื่อน้อยลง
00:20:32 → 00:20:35 อ่ะถ้าเราบางคนไม่มีลูกมีหลานซึ่งบางคน
00:20:35 → 00:20:37 บอกไม่มีลูกมีหลานนี่ก็ถือเป็นบุญอย่าง
00:20:37 → 00:20:39 นึงนะปัจจุบันเนาะจะหวังให้ลูกมาหลานมาดู
00:20:39 → 00:20:42 แลเรามาเลี้ยงเรามันก็คนหลายๆคนปัจจุบัน
00:20:42 → 00:20:44 ก็ไม่คาดหวังแล้วอ่ะอ่าดังนั้นถ้าเกิดว่า
00:20:44 → 00:20:47 เราไม่ได้มีลูกหลานหรือลูกหลานไม่ว่าเรา
00:20:47 → 00:20:49 หาเพื่อนได้มยเรามาทำกิจกรรมข้างนอกได้ม
00:20:49 → 00:20:51 เพราะว่าปัจจุบันเนี่ยหลังโควิดมาเนี่ย
00:20:51 → 00:20:54 กิจกรรมนอกบ้านก็เยอะขึ้นใช่มั้ยครับแล้ว
00:20:54 → 00:20:57 ก็ตามชุมชนตามอะไรจริงๆมันก็มีงานหลายๆ
00:20:57 → 00:21:00 อย่างให้ทำนะครับบางคนคนก็หางานอดิเรกทำ
00:21:00 → 00:21:02 งานอดิเรกของคนบางคนในผู้สูงอายุเนี่ย
00:21:02 → 00:21:05 กลายเป็นรายได้ที่มากกว่าตอนกอดเกษียณก็
00:21:05 → 00:21:08 มีคนไข้หมอเองนี่แหละเคยไปบอกอุ๊ยเบื่อ
00:21:08 → 00:21:11 ไม่ทำเลยเงินก็ไม่มีปรากฏทำกิจกรรมงาดีเล
00:21:11 → 00:21:15 ปรากฏหาเงินได้เยอะกว่าตอนยังทำงานอยู่ก็
00:21:15 → 00:21:17 เห็นมาหลายคนแล้วนะครับหรือบางคนบอกไม่
00:21:17 → 00:21:20 ได้เงินไม่ใช่ปัญหาละเงินมีพอสำรองไม่ไม่
00:21:20 → 00:21:23 ต้องไม่ได้ฟู่ฝ้าแต่ว่าไม่เดือดร้อนงั้น
00:21:23 → 00:21:25 ทำกิจกรรมเข้าสังคมได้มั้ยทำกิจกรรมเพื่อ
00:21:25 → 00:21:28 สังคมได้มั้ยก็ได้นะครับอย่างเช่นทำ
00:21:28 → 00:21:31 กิจกรรมที่เป็นการกุศลทำงานมุนิธิช่วย
00:21:31 → 00:21:33 เหลือคนอื่นหรือเอาความรู้ที่เรามีถ่าย
00:21:33 → 00:21:36 ทอดให้คนในชุมชนอย่างเงี้ยก็ได้นะครับแต่
00:21:36 → 00:21:38 ว่าถ้าเราไม่แน่ใจทำยังไงบอกว่าวิธีการ
00:21:39 → 00:21:41 ง่ายสุดเข้าเป็นถ้าใครใช้เทคโนโลยีได้ลอง
00:21:41 → 00:21:43 ดูในอินเทอร์เน็ตได้ว่า Google ว่า
00:21:43 → 00:21:45 กิจกรรมชุมชนใกล้บ้านเราพวกเก็จะมีข้อมูล
00:21:45 → 00:21:48 ขึ้นมาหรือลองติดตาม pnn ก็ได้นะครับ
00:21:48 → 00:21:50 เผื่อเขาจะมีโครงการดีๆก็จะได้เล่าให้เรา
00:21:50 → 00:21:52 ฟังว่าทำยังไงอันนี้ก็เป็นการจัดการ
00:21:52 → 00:21:56 เบื้องต้นนะครับที่ไม่ต้องพึ่งพาคนอื่น
00:21:56 → 00:21:58 แต่สำหรับคนที่รู้สึกว่าจะยากสุดเลยเท่า
00:21:59 → 00:22:01 ที่คุยกันมาเนี่ยคือถ้าบ้านเราเอยู่คน
00:22:01 → 00:22:03 เดียวไม่มีลูกหลานอยู่หรือไม่มีกิจกรรมทำ
00:22:03 → 00:22:06 เนี้ยแก้ด้วยตัวเราเองง่ายกว่าแต่ไอ้ที่
00:22:06 → 00:22:08 มันยากกว่านั้นคือมีคนอยู่เต็มบ้านแต่ยัง
00:22:08 → 00:22:11 เหงาอยู่เนี่ยอันเนี้ยเรื่องใหญ่เพราะ
00:22:11 → 00:22:13 อะไรคนเราทำไงอาวุธเนี่ยไม่ยไม่เหมือนหมอ
00:22:13 → 00:22:16 ถือเนี่ยจะมาบรรยายก็ต้องถือโทรศัพท์อยู่
00:22:16 → 00:22:18 ในมือเนี่ยเอามาหยิบยกตัวอย่างให้ดูใช่
00:22:18 → 00:22:20 มั้ยครับคุณไปด้วยอ่ะก็นั่งคุยไปแทนที่
00:22:20 → 00:22:23 หมอจะมองสบตากันอย่างเงี้ยคนปัจจุบันทำ
00:22:23 → 00:22:25 ยังไงอ๋อก็พูดไปเรื่อยๆแล้วก็มือเล่นมือ
00:22:25 → 00:22:28 ถืออย่างเงี้ยนึกภาพออกใช่มั้ยครับมันก็
00:22:28 → 00:22:31 ทำให้คนที่อยู่ในบ้านน่ะมันรู้สึกเหงา
00:22:31 → 00:22:33 ทั้งๆที่คนเต็มบ้านเลยแล้วคนก็ไม่ใช่ความ
00:22:33 → 00:22:35 สัมพันธ์ที่มันตื้นเขินด้วยเป็นความ
00:22:35 → 00:22:38 สัมพันธ์ที่เป็นญาติพ่อแม่พี่น้องเป็นคน
00:22:38 → 00:22:40 ในครอบครัวแต่มันก็เหงาได้เพราะว่าเหตุ
00:22:40 → 00:22:43 การณ์แบบเมันเกิดขึึ้นงั้นสิ่งที่เราจะ
00:22:43 → 00:22:46 แนะนำคือเอาสายตาเนี่ยเราอาจจะออกมาจาก
00:22:46 → 00:22:49 มือถือก่อนแล้วมองคนรอบข้างก่อนปัจจุบัน
00:22:50 → 00:22:53 เนี่ยไม่ใช่แค่หนุ่มๆสาวๆทำนะผู้สูงอายุ
00:22:53 → 00:22:56 บางคนก็ลืมสนใจลูกหลานก็มีนะเพราะว่าก้ม
00:22:56 → 00:22:58 หน้ากับมือถืออันนี้ก็เป็นปัญญหานึงที่
00:22:58 → 00:23:01 เจอปัจจุบันคือผู้สูงอายุติดมือถือแล้วก็
00:23:01 → 00:23:03 ไม่สนใจลูกหลานอันนี้ก็มีปัญหากลับกันก็
00:23:03 → 00:23:06 มีนะครับดังนั้นดีที่สุดคืออาจจะต้องบอก
00:23:06 → 00:23:09 คนในบ้านว่าอาจจะต้องมีเวลาที่เราเงยหน้า
00:23:09 → 00:23:12 จากมือถือก่อนแล้วก็วางลงมันก่อนเสร็จ
00:23:12 → 00:23:15 แล้วก็มามีการคุยกันอันเนี้ยมันก็จะจัด
00:23:15 → 00:23:17 การลดความเหงาแล้วมันก็เป็นการต่อความ
00:23:17 → 00:23:20 สัมพันธ์ในครอบครัวที่ดีที่ดีขึ้นได้แบบ
00:23:20 → 00:23:22 ง่ายที่สุดนะครับอ่าทีนี้อันนี้ก็เป็น
00:23:22 → 00:23:25 เรื่องความเหงาที่อาจจะเกิดขึ้นมาแบบอิ
00:23:25 → 00:23:27 แต่ว่าถ้าเกิดเรื้อรังแล้วเนี่ยสิ่งที่
00:23:27 → 00:23:29 เราต้องระวังคืออย่างที่หมอบอกไข้างต้น
00:23:29 → 00:23:31 ว่ามันอันตรายต่อการที่จะเป็นโรคซึมเศร้า
00:23:31 → 00:23:34 ใช่มั้ยครับอันนี้หมอมีแจกโบชัวไว้ในทุก
00:23:34 → 00:23:38 ท่านได้แล้วยังเอ่ยอ่ายังไม่ได้เดี๋ยวขอ
00:23:38 → 00:23:42 โบชัวนิดนึงนะครับอ่าในโบชัวร์เนี่ยมันจะ
00:23:42 → 00:23:46 มีมันจะมีแบบทดสอบอยู่อยากให้เวลานิดนึง
00:23:46 → 00:23:50 นะครับในการทำแบบทดสอบวันนี้มันเป็นแบบทด
00:23:50 → 00:23:53 สอบสกรีนว่าเราอ่ะมีความเครียดมยนะครับ
00:23:53 → 00:23:58 อ่าลองทำกันดูนะครับไหนๆก็มางานแล้วอง
00:23:58 → 00:24:01 สำรวจตัวเองก่อนเบื้องต้นที่หมออยากให้
00:24:01 → 00:24:04 สำรวจตัวเองเพราะอะไรเพราะว่าเราอ่ะสำรวจ
00:24:04 → 00:24:06 เช็คสุขภาพทางกายเนี่ยเราเช็คกันทุกปีบาง
00:24:06 → 00:24:09 คน 6 เดือนเช็คทีใช่มั้ครับเรารู้ละเอียด
00:24:09 → 00:24:13 แล้วล่ะว่าเราเราแข็งแรงมยเรามีปัญหามนะ
00:24:13 → 00:24:16 ครับเรามีการเช็คสุขภาพทางการเงินเราดู
00:24:16 → 00:24:19 บัญชีเรามีการหาข้อมูลแต่ว่าสิ่งที่ควรจะ
00:24:19 → 00:24:22 เช็คไม่แพ้ 2 อย่างนั้นเลยคือเช็คทาง
00:24:22 → 00:24:25 สุขภาพทางอารมณ์หรือสุขภาพจิตเราปรากฏว่า
00:24:25 → 00:24:27 คนในปัจจุบันเนี่ยเราไม่ค่อยได้เช็ค
00:24:27 → 00:24:30 อารมณ์อย่าว่าแต่ว่าไม่ค่อยได้เช็คเลยบาง
00:24:30 → 00:24:32 คนบอกว่าดิฉันเนี่ย 30 ปีไม่เคยถามตัวเอง
00:24:32 → 00:24:35 เลยว่าฉันรู้สึกยังไงกลายเป็นว่าฉันอยู่
00:24:35 → 00:24:37 กับอยู่กับอะไรก็ไม่รู้อยู่กับเงินอยู่
00:24:37 → 00:24:41 กับทองอยู่กับคนอื่นดูแลคนอื่นเมตตาคน
00:24:41 → 00:24:43 อื่นแต่ไม่เคยถามตัวเองว่าเรารู้สึกยังไง
00:24:43 → 00:24:46 ดังนั้นลองดูวันนี้ดูสำรวจตัวเองกันดู
00:24:46 → 00:24:50 ก่อนนะครับว่าโอเคไหมอ่าเดี๋ยวลองสำรวจดู
00:24:50 → 00:24:58 นะครับ
00:24:58 → 00:25:00 ค่ะต้องสร่วมนะค่ะส่งให้ทีมได้นะคะเดี๋ยว
00:25:00 → 00:25:04 ทีมบวกให้อ่าเดี๋ยววันนี้มีมีทางทีมช่วย
00:25:04 → 00:25:08 บวกคะแนนให้นะครับอ่าทำสควเขนชื่อด้าน
00:25:09 → 00:25:11 ซ้ายนะคะจะได้ท่าน
00:25:11 → 00:25:15 ใช่อันเนี้ยสามารถทำบ่อยได้นะครับคือเอา
00:25:15 → 00:25:18 แบบสักเดือนละครั้งก็ได้นะครับแล้วก็มา
00:25:18 → 00:25:20 สอบถามจริงๆอาจจะให้คนที่บ้านช่วยทำก็ได้
00:25:20 → 00:25:23 ใครอยากได้เพิ่มคือแจ้งได้นะครับหรืออยาก
00:25:23 → 00:25:26 ให้สำรวจคนอื่นคนที่บ้านก็ได้ว่าเป็นยัง
00:25:26 → 00:25:36 ไงนะครับอ่าอันนี้เก็บไว้ใช้ซ้ำได้นะ
00:25:36 → 00:25:39 ครับเดี๋ยวเราจะมาดูคะแนนกันว่าเป็นยังไง
00:25:39 → 00:26:06 น้า
00:26:06 → 00:26:14 ขอโบโชหมหยิบโบโชให้มออันนึงได้มครับ
00:26:14 → 00:26:21 ครับขอบคุณครับลืมคมา
00:26:21 → 00:26:24 อ่าวิธีการทำนะครับให้ลองนึกย้อนไปมา 2
00:26:24 → 00:26:27 สัปดาห์ที่ผ่านมาว่าเป็นยังไงนะครับอัน
00:26:27 → 00:26:30 นี้มันมันเป็นการประเมินสุขภาพจิตแบบ
00:26:30 → 00:26:33 ประเมินความเครียดแบบอย่างอย่างอย่างง่าย
00:26:33 → 00:26:35 ๆก่อนนะครับเป็นการคัดกรองไม่ได้หมายว่า
00:26:36 → 00:26:37 ทำแล้วปุ๊บเธอป่วยอย่างงี้ไม่ใช่นะเดี๋ยว
00:26:37 → 00:26:40 บางคนบอกว่าอุ้ยเดี๋ยวจะบอกว่าคะแนนออกมา
00:26:40 → 00:26:43 เป็นไงหนุดิฉันป่วยงี้ไม่ใช่นะครับอันนี้
00:26:43 → 00:26:45 เป็นแค่สกรีนเรื่องของความเครียดของเรา
00:26:45 → 00:26:48 เบื้องต้นก่อนนะครับแล้วก็ไม่ต้องลอกกัน
00:26:48 → 00:26:51 นะนี่ของเราของใครของมันนะครับเดี๋ยวพอ
00:26:51 → 00:26:54 เห็นคำข้อสอบอุ้ยแอบดูคนข้างๆหน่อยว่า
00:26:54 → 00:27:00 เป็นยังไงไม่มีผิดไม่มีถูกนะครับอ่า
00:27:00 → 00:27:03 คะแนนมันจะมีอยู่ 3 มันจะมีอยู่ 4 ช่องก็
00:27:03 → 00:27:06 คือไม่มีเลยเป็นบางครั้งเป็นบ่อยแล้วก็
00:27:06 → 00:27:11 เป็นประจำนะครับ
00:27:11 → 00:27:15 อ่าอันนี้มองเห็นมองเห็นกันทุกท่านนะครับ
00:27:15 → 00:27:20 โอเคหมอเคยไปไปให้ทำนะปรากฏว่าจริงหรอคะ
00:27:20 → 00:27:23 คะแนนสูงหรคะดิฉันน่ะไม่เครียดเลยไม่เห็น
00:27:23 → 00:27:26 เครียดเลยค่ะน้ำตาไหล่ซ้ายก็ถามว่าไม่
00:27:26 → 00:27:29 เป็นเป็นไหรหรอครับคุณพี่น้ำตาไหล
00:27:29 → 00:27:33 ขวาก็มีมาแล้วนะครับดังนั้นการแบบทนแบบทด
00:27:33 → 00:27:35 สอบอันนี้เราจะเห็นว่ามันไม่ได้ถามว่า
00:27:35 → 00:27:37 เศร้าหรือเครียดอย่างเดียวมันจะถามอาการ
00:27:37 → 00:27:39 อื่นด้วยบางทีมันเป็นเรื่องที่เราไม่รู้
00:27:39 → 00:27:54 ตัวนะ
00:27:54 → 00:27:57 ครับถ้าเกิดใครทำเสร็จแล้วอยากให้รวม
00:27:57 → 00:28:00 คะแนนทางทีมงานรวมคะแนนก็ยกมือได้นะครับ
00:28:00 → 00:28:34 เดี๋ยวรวมคะแนนให้
00:28:34 → 00:28:36 เดี๋ยวให้เวลาอีกนิดนึงแล้วกันนะครับน่า
00:28:36 → 00:28:44 จะยังมีคนยังไม่
00:28:44 → 00:28:48 เสร็จมองไม่เห็นมองไม่เห็นคำถามอ่ะเดี๋ยว
00:28:48 → 00:28:51 อ่านให้ฟังเดี๋ยวอ่านให้
00:28:51 → 00:29:01 ฟังเป็นประจำกเป็นไม่เคยสลับอ๋อโอเคครับ
00:29:01 → 00:29:03 [เพลง]
00:29:03 → 00:29:05 อันแรกนะครับเดี๋ยวทวนกันนิดนึงอันแรกคือ
00:29:05 → 00:29:08 นอนไม่หลับเพราะกินเพราะคิดมากหรือกังวล
00:29:08 → 00:29:11 ใจนะครับข้อที่ถัดมาคือรู้สึกหงุดหงิดลำ
00:29:11 → 00:29:15 รำคาญใจข้อ 3 คือทำอะไรไม่ได้เลยเพราะ
00:29:15 → 00:29:18 ประสาทตึงเครียดข้อ 4 มีความวุ่นวายใจข้อ
00:29:18 → 00:29:22 5 ไม่อยากพบปะผู้คนข้อ 6 ปวดหัวข้าง
00:29:22 → 00:29:25 เดียวหรือปวดบริเวณขมับ 2 ข้างข้อ 7 รู้
00:29:25 → 00:29:28 สึกไม่มีความสุขและเศร้าหมองข้อ 8 รู้สึก
00:29:28 → 00:29:30 หมดหวังในชีวิตข้อ 9 รู้สึกว่าชีวิตตนเอง
00:29:30 → 00:29:33 ไม่มีคุณค่าข้อ 10 กระวนกระวายอยู่ตลอด
00:29:33 → 00:29:37 เวลา 11 รู้สึกตนเองไม่มีสมาธิ 12 รู้สึก
00:29:37 → 00:29:40 เพลียจนไม่มีแรงจะทำอะไร 13 รู้สึก
00:29:40 → 00:29:43 เหนื่อยๆไม่อยากทำอะไร 14 มีอาการหัวใจ
00:29:43 → 00:29:47 เต้นแรง 15 เสียงสั่นปากสั่นหรือเวลาหรือ
00:29:47 → 00:29:50 มือสั่นเวลาไม่พอใจ 16 รู้สึกกลัวผิดพลาด
00:29:50 → 00:29:54 ในการทำสิ่งต่างๆ 17 ปวดเกรงกล้ามเนื้อ
00:29:54 → 00:29:57 บริเวณไททอยหรือไหล่ 18 ตื่นเต้นง่ายกับ
00:29:57 → 00:30:00 เหการที่ไม่คุ้นเคย 19 งุนมึนงงหรือเวียน
00:30:00 → 00:30:03 ศีรษะแล้วข้อสุดท้ายคือความสุขทางเพศลดลง
00:30:03 → 00:30:06 นะครับ 0 คะแนนคือไม่เคยเลย 1 คะแนนเป็น
00:30:06 → 00:30:09 บางครั้ง 2 คะแนนเป็นบ่อยแล้วก็ 3 คะแนน
00:30:09 → 00:30:11 คือเป็นประจำนะ
00:30:11 → 00:30:15 ครับมีใครอยากให้รวมคะแนนให้ย
00:30:15 → 00:30:21 [เพลง]
00:30:21 → 00:30:25 ครับอ่ะเดี๋ยวให้เวลาอีกนิดนึงนะครับไหนๆ
00:30:25 → 00:30:28 ใครเสร็จแล้วปั้งยกมือหน่อยอ่ามีคนเสร็จ
00:30:28 → 00:30:32 แล้วนะครับเดี๋ยวรออีกบางท่านรอรอเพื่อนๆ
00:30:32 → 00:30:33 กันแป๊บนึงนะ
00:30:33 → 00:30:38 [เพลง]
00:30:38 → 00:30:41 ครับจริงๆเนี่ยต้องบอกว่าถ้าเราถ้าเรา
00:30:41 → 00:30:44 อ่านในเนี้ยเราจะเห็นว่าที่หมออ่านมา 20
00:30:44 → 00:30:47 ข้อมันไม่ใช่แค่ถามว่าเราเครียดหรือไม่
00:30:47 → 00:30:50 เครียดใช่มมันเป็นอาการทางกายด้วยคือหมอ
00:30:50 → 00:30:53 จะต้องบอกงี้ครับว่าความเครียดจริงๆเนี่ย
00:30:53 → 00:30:56 มันมันมีผลหลายอย่างมันไม่ใช่แค่อารมณ์
00:30:56 → 00:30:59 อย่างเดียวจริงๆบอจะแบ่งเป็น 3 อย่างก็
00:30:59 → 00:31:02 คือความเครียดแล้วมีผลต่ออารมณ์ข้อที่ 1
00:31:02 → 00:31:05 คือตรงไปตรงมาเครียดแล้วเศร้าเครียดแล้ว
00:31:05 → 00:31:08 คิดมากเครียดแล้วกังวลเครียดแล้วท้อแท้
00:31:08 → 00:31:10 เครียดแล้วรู้สึกอารมณ์ด้านลบอ่าอันนี้
00:31:10 → 00:31:14 ข้อที่ 1 อันที่ 2 เครียดแล้วมันเป็น
00:31:14 → 00:31:15 อาการทาง
00:31:15 → 00:31:20 กายอ่าอาการทางกายเป็นยังไงอย่างเช่นบาง
00:31:20 → 00:31:23 คนปวดหัวปวดคอปวดบ่าป่นไหล่เคยได้ยินม
00:31:23 → 00:31:25 ครับว่าเมื่อก่อนสมัยสัก 20 ปีที่แล้ว
00:31:25 → 00:31:28 เนี่ยจะมีคุณตาคุณยายผู้สูงอายุว่าไปโรง
00:31:28 → 00:31:31 พยาบาลบ่อยไปแล้วไปอีกไปไม่จบไม่สิ้นไป
00:31:31 → 00:31:34 กันมา 10 กว่ารอบหมอหาอะไรไม่เจอเลยแล้ว
00:31:34 → 00:31:36 หมอก็จะคิดไปเองคุณตาคุณยายคิดไปเอง
00:31:36 → 00:31:38 ปัจจุบันไม่มีอย่างงั้นแล้วนะครับ
00:31:38 → 00:31:41 ปัจจุบันเรารู้แล้วว่าการปวดข้อปวดบ่าปวด
00:31:41 → 00:31:45 ไหล่ปวดหัวปวดหลังพวกเนี้ยหาสาเหตุไม่เจอ
00:31:45 → 00:31:48 อาจจะไม่ได้มาจากการบาดเจ็บไม่ได้มาจาก
00:31:48 → 00:31:51 การติดเชื้อไม่ได้มาจากการอักเสบแต่มาจาก
00:31:51 → 00:31:54 ความเครียดนะครับเพราะว่าความเครียดเนี่ย
00:31:54 → 00:31:57 เวลามันมีอยู่นานๆเนี่ยสมองมันจะหลั่ง
00:31:57 → 00:31:59 ฮอร์โมนความเครียดออกมาเยอะครับฮอร์โมน
00:31:59 → 00:32:02 ความเครียดเนี่ยถ้ามันอยู่สั้นๆมันเป็น
00:32:02 → 00:32:05 ประโยชน์นะครับอยู่สั้นๆเป็นประโยชน์ยัง
00:32:05 → 00:32:08 ไงเราเคยแต่ดูหน้าหน้าตายังหนุ่มๆสาวๆกัน
00:32:08 → 00:32:10 อยู่ไม่รู้ทันเรื่องนี้หรือเปล่าเวลาเรา
00:32:10 → 00:32:13 ดูข่าวทีวีบอกมีไฟไหม้แล้วมีคนยกตุ่มออก
00:32:13 → 00:32:16 จากบ้านไฟไหม้ยกตุ่มเคยได้ยินมยครับอ่า
00:32:16 → 00:32:19 สาวๆหนุ่มๆในที่นี้ได้ยินเคยได้ยินรุ่น
00:32:19 → 00:32:22 เดียวกับหมอหมดดังนั้นเคยได้ยินหมดไปไป
00:32:22 → 00:32:25 บรรยายที่มหาวิทยาลัยกับหมอหมอปลายตุ่ม
00:32:25 → 00:32:31 คืออะไรคะหมอทำไมต้องยกตุ่มคะแสดงว่าคนละ
00:32:31 → 00:32:33 ยุคคนละยุคกันอ่าอันนี้อเราคุยกันรู้
00:32:34 → 00:32:37 เรื่องนะไฟไฟไหม้ยกตุ่มคืออะไรไฟไหม้ยก
00:32:37 → 00:32:40 ตุ่มเนี่ยคือเวลาที่เราคนตกใจเนี่ยสมอง
00:32:40 → 00:32:42 มันจะหลัฮอร์โมนความเครียดออกมาครับพอ
00:32:42 → 00:32:44 ฮอร์โมนความเครียดมามันจะเกิดอะไรขึ้นมัน
00:32:44 → 00:32:48 จะทำให้เลือดลมสูบฉีดเยอะหัวใจเต้นเร็ว
00:32:48 → 00:32:50 เลือดเลือดลมสูบฉีดเยอะเพราะอะไรเพราะว่า
00:32:50 → 00:32:53 ให้เราหนีอ่ะคือถ้ามันมีเจอเรื่องหนัก
00:32:53 → 00:32:55 กลัวเจอไฟไหม้ร่างกายไม่รู้สึกอะไรตื่น
00:32:55 → 00:32:57 เต้นอุยสนุกจะเลยวิ่งเข้าไปหาตายเข้ากอง
00:32:57 → 00:33:00 ไฟตายใช่มั้ยครับงั้นสมองมันจะสั่งให้เรา
00:33:00 → 00:33:02 หนีหรือให้กลัวๆให้รู้สึกแย่ให้เราเกิด
00:33:02 → 00:33:05 ความเครียดเพื่อเราจะได้หนีให้เราปลอดภัย
00:33:05 → 00:33:07 ดังนั้นเลือดลมจะสูดฉีดดีเพื่อให้เรา
00:33:07 → 00:33:10 พร้อมวิ่งกล้ามเนื้อมันจะเกรงตัวเพราะว่า
00:33:10 → 00:33:12 ให้พร้อมเราเคลื่อนไหวให้พร้อมเราหนีนะ
00:33:12 → 00:33:15 ครับทุกอย่างมันจะแบบรู้มนตามันก็จะหด
00:33:15 → 00:33:18 กล้ามเนื้อมันก็จะเกงพร้อมหนีงเอาง่ายๆ
00:33:18 → 00:33:20 พลังมันจะเยอะเพราะว่าอรินนารีนมันหลั่ง
00:33:20 → 00:33:23 ดังนั้นคนตกใจเครียดมากๆมันอยู่ชั่วคราว
00:33:23 → 00:33:25 ฮอร์โมนความเครียดทำให้เรามีแรงเยอะยก
00:33:25 → 00:33:29 ตุ่มน้ำแบกออกมาจากบ้านได้บางข่าวบอกยก
00:33:29 → 00:33:32 ตู้เย็นออกมาได้บางคนยกเครื่องซักผ้าออก
00:33:33 → 00:33:37 มาได้ขายตกใจยกกลับได้มยไม่ได้ 2-3 คน
00:33:37 → 00:33:39 ช่วยกันยกอย่างหนักเลยอันนี้คนเดียวแบก
00:33:39 → 00:33:41 ขึ้นมาแขนเดียวกลับมาได้เป็นยอดมนุษย์ใช่
00:33:41 → 00:33:43 ไหมมครับอันนี้คือตัวอย่างฮอร์โมนความ
00:33:43 → 00:33:45 เครียดที่มันหลัออกมาเวลาเราเกิดความ
00:33:45 → 00:33:48 เครียดออกอยู่สั้นๆเนี่ยมันไม่เป็นไรมัน
00:33:48 → 00:33:51 ปลอดภัยแต่ไออยู่นานๆอยู่เหือลังเนี่ยมัน
00:33:51 → 00:33:54 มีมันเป็นพิษนะครับดังนั้นเวลามันพิษ
00:33:54 → 00:33:56 เนี่ยเป็นพิษอะไรเวลาที่กล้ามเนื้อเกร็ง
00:33:56 → 00:33:58 เนี่ยฮอโมลความเครียดมันอยู่นกล้ามเนื้อ
00:33:58 → 00:34:01 มันไม่คลายมันเกรงไปเรื่อยๆเกรงนานๆเป็น
00:34:01 → 00:34:05 อะไรปวดมันก็จะปวดก่อนปวดคอปวดบ่าปวดไหล่
00:34:05 → 00:34:07 ก่อนหลายๆคนในยุคนี้เขาเรียกว่าอะไร
00:34:07 → 00:34:11 Office syndrome อ่าจริงๆก็งงไว้ท่ามัน
00:34:11 → 00:34:13 ก็ไม่ได้ผิดปกติเออแต่จะมีอิ Syndrome
00:34:13 → 00:34:16 ส่วนนึงเนี่ยท่าเนั่งนานๆเใช้คอมพิวเตอร์
00:34:17 → 00:34:19 นานๆก้มนานๆอ่ะมันปวดอันนาจักท่าจริงแต่
00:34:19 → 00:34:22 บางคนท่ามันก็ไม่ดีขนาดนั้นนะอ๋อส่วนนึง
00:34:22 → 00:34:25 เจอว่ากล้ามเนื้อมันเกร็งจากความเครียด
00:34:25 → 00:34:27 ปวดหัวปวดคอปวดบ่าปวดไหล่พวกนี้ก่อนเพราะ
00:34:27 → 00:34:30 ว่ากล้ามเนื้อบริเวณเนี้ยพลังมันเยอะสุด
00:34:30 → 00:34:34 นะครับจากนั้นก็มีอะไรปวดหลังปวดกามเนื้อ
00:34:34 → 00:34:38 ปวดท้องกระเพาะเป็นเป็นโรคกระเพาะเพราะ
00:34:38 → 00:34:41 ว่ากดมันไหลเยอะหลังเยอะครับโมความเครียด
00:34:41 → 00:34:43 ทำให้กรดมันหลังเยอะการเคลื่อนไหวของลำ
00:34:43 → 00:34:45 ไส้มันผิดปกติเพราะเราตื่นเต้นเราเครียด
00:34:45 → 00:34:47 มากๆมนคนท้องผูหรือท้องเสียใช่ไหมมครับ
00:34:47 → 00:34:50 เป็นที่มาของลำไส้แปรปรวนปัจจุบันเนี่ย
00:34:50 → 00:34:53 โรคลำไส้แปรปวนเก็ให้ยาต้านเศร้ายาต้านค
00:34:53 → 00:34:55 เครียดเพราะว่าถ้ามันยังความเครียดไม่หาย
00:34:55 → 00:34:58 ลำไส้แ8บนมันไม่หายอย่างเงี้เป็นต้นนะ
00:34:58 → 00:35:00 ครับแล้วก็เป็นอะไรอีกอหัวใจความดันมัน
00:35:00 → 00:35:04 ขึ้นเครียดนานๆความดันขึ้นหัวใจเป็นโรค
00:35:04 → 00:35:07 หัวใจใช่มั้ยครับแล้วก็นอนไม่หลับเพราะ
00:35:07 → 00:35:09 ว่ามันตื่นตัวตลอดเวลาเงยปัญหาความเครียด
00:35:09 → 00:35:12 เราก็จะเห็นว่าอาการทางกายมันส่งผลได้
00:35:12 → 00:35:15 อย่างที่เราเขียนมาในนี้นะครับแล้วก็
00:35:15 → 00:35:17 เรื่องของทางเพศอารมณ์ความสุขทางเพศก็ลด
00:35:17 → 00:35:20 ลงอย่างเงี้ยเป็นต้นที่สำคัญคือความ
00:35:20 → 00:35:23 สามารถในการเข้าสังคมมันก็จะแย่ทำงานก็จะ
00:35:23 → 00:35:25 แย่การเรียนก็จะแย่เพราะว่ามันเครียดใช่
00:35:26 → 00:35:29 มั้ยครับดังนั้นผลจากการเทสพวกนี้มันก็จะ
00:35:29 → 00:35:32 มีอยู่ 3 ด้านเลยทั้งอารมณ์ทั้งร่างกาย
00:35:32 → 00:35:36 เราแล้วก็การใช้ชีวิตด้วยอ่ะใครได้ 0 -5
00:35:36 → 00:35:40 คะแนนไม่ให้ยกมือนะเพราะว่าเดี๋ยวรู้ความ
00:35:40 → 00:35:44 ลับของเราเอาเป็นว่าใครได้คะแนนเท่าไหร่
00:35:44 → 00:35:47 กระพริบตาให้หมอถี่ๆแล้วกันหมออยู่หน้า
00:35:47 → 00:35:50 เวทีเห็นคนเดียวปิ๊งปั๊งๆ๊ัมาได้เลยอ่ะ
00:35:51 → 00:35:53 ใครได้ 0 ถึง 5 คะแนนบ้างปิ๊งปังให้หมอ
00:35:53 → 00:35:57 หน่อยอ่ามีอ่ะมีไม่เยอะอ 0-5 เนี่ยคือ
00:35:57 → 00:36:00 ความเครียดต่ำกว่าปกตินะครับต่ำกว่าปกติ
00:36:00 → 00:36:03 เนี่ยถามว่าดีมยอาจจะไม่ดีซะทีเดียวเพราะ
00:36:03 → 00:36:06 ว่าจริงๆความเครียดไม่ใช่ศัตรูเรานะครับ
00:36:06 → 00:36:08 อย่างที่บอกไปตอนต้นความเครียดเนี่ยมัน
00:36:08 → 00:36:11 เป็นสิ่งปกติที่สมองผลิตออกมาให้เราปลอด
00:36:11 → 00:36:14 ภัยอ่ะถ้าเราไม่มีเลยหรือมีน้อยน้อยเกิน
00:36:14 → 00:36:17 ไปมันทำให้เราเป็นคนเฉื่อยชาเป็นคนไม่มี
00:36:17 → 00:36:21 อยากทำอะไรเป็นคนแบบเลื่อยอ่ะอาจจะทำให้
00:36:21 → 00:36:23 ประมาทกับชีวิตเกินไปได้นะครับถ้าเป็นที่
00:36:23 → 00:36:26 ทำงานก็มันจะเช้าชาญเยมชามไปหน่อยนึงอะไร
00:36:26 → 00:36:29 อย่าเงี้ยนะครับอ่าใครได้ 6-17 คะแนน
00:36:29 → 00:36:31 ปิ๊งปั๊งให้หมอหน่อยเร็วเอ้ามีคนปิ๊งปั๊ง
00:36:31 → 00:36:34 ให้หมอหลายคนนะมีกระพริบตามียกมือนะครับ
00:36:34 → 00:36:37 อ่ะอันนี้เป็นความคิดดระดับปกตินะครับ
00:36:37 → 00:36:41 ระดับนี้ถือว่าโอเคนะครับมีระดับพอเหมาะ
00:36:41 → 00:36:43 นะครับอันนี้ก็ทำให้เป็นความเิดที่เราจะ
00:36:43 → 00:36:46 ปรับตัวสถานการณ์ได้ดีนะครับ 18-25 ไหน
00:36:47 → 00:36:50 ปิ๊งปั๊ให้หมอนหน่อยมีมั้ยมีมยอ่ะมีอ่า
00:36:50 → 00:36:53 18-25 มีปมปิงปังให้หมออันนี้มันเริ่ม
00:36:53 → 00:36:56 ขึ้นกว่าปกตินิดนึงแต่นี้อันยังไม่เยอะ
00:36:56 → 00:36:58 ครับถ้าเราสสรวจตัวเองบ่อยๆเราถามตัวเอง
00:36:58 → 00:37:01 ว่าเราเครียดเพราะอะไรจัดการปัญหาดูแล
00:37:01 → 00:37:03 สุขภาพจิตพวกเนี้ยเดี๋ยวมันก็ลงอันนี้ไม่
00:37:03 → 00:37:06 น่ากลัวแต่ให้ระวังนะครับ
00:37:06 → 00:37:12 26-29 มีมโอ๋มีมี 26-29 อ่าโอเคอันนี้
00:37:12 → 00:37:14 เป็นความเครียดสูงกว่าปกติแบบปานกลางอัน
00:37:14 → 00:37:17 นี้ต้องระวังละอันนี้หมอว่าต้องให้เวลา
00:37:17 → 00:37:19 ให้ความสัมคัญกับเรื่องความเครียดเอาละ
00:37:19 → 00:37:22 ต้องหาสาเหตุละอาจจะต้องระบายให้คนอื่น
00:37:22 → 00:37:24 ฟังละเก็บไว้ไม่ได้ครับเพราะว่าอันนี้มัน
00:37:24 → 00:37:27 เริ่มทำให้ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน
00:37:27 → 00:37:30 แล้วนะครับใครมากกว่า 30 บ้างเอ่ย
00:37:30 → 00:37:34 ปิ๊งปั๊งเร็วอ้าวมีเนาะอ่ะมีอยู่ 1 มี
00:37:34 → 00:37:36 อยู่ 2 คน
00:37:36 → 00:37:40 โอเคระดับนี้แนะนำว่าต้องปรึกษาคุณหมอผู้
00:37:40 → 00:37:42 เชี่ยวชาญละเพราะว่าระดับเนี้ยมันเครียด
00:37:42 → 00:37:44 มากเดี๋ยวเส้นเลือดสมองแตกเนาะเดี๋ยวความ
00:37:44 → 00:37:47 ดันขึ้นนะครับเครียดระดับนี้ถือว่าเครียด
00:37:47 → 00:37:49 แบบไม่โอเคละถ้ายังปล่อยไปเรื่อยๆอาจจะ
00:37:49 → 00:37:52 ซึมเศร้าได้นะครับเวลาที่เรามีความเหงา
00:37:52 → 00:37:54 หรือมีความรู้สึกไม่โอเคลองสำรวจพวกนี้ดู
00:37:54 → 00:37:57 แต่ถ้าเกิดข้อสุดท้ายเนี่ยจะถือว่าต้อง
00:37:57 → 00:38:00 ต้องปรึกษาแล้วนะครับอย่าเก็บไว้คนเดียว
00:38:00 → 00:38:04 เนาะอ่ะใครสนใจก็ปรึกษาตาม QR Code ได้
00:38:04 → 00:38:08 นะครับอ่ามีใครเกิน 60 คะแนนบ้างยกมือ
00:38:08 → 00:38:12 หน่อยถ้ามีใครเกิน 60 คะแนนคือคำนวณผิดนะ
00:38:12 → 00:38:15 ครับเพราะว่ามันเต็มแค่ 60 นะครับใครเกิน
00:38:15 → 00:38:19 60 ก็คำนวณผิดนะครับโอเควันนี้ก็ได้ได้
00:38:19 → 00:38:23 ดูเรื่องของความเครียดเบื้องต้นก็หมอจะขอ
00:38:24 → 00:38:28 คืนเวทีให้ทางทีมเพราะว่าครบเวลาพอดีนะ
00:38:28 → 00:38:31 ครับ
00:38:31 → 00:38:34 โอเคอ่าเป็นสำหรับเป็น fl เปิด fl สำหรับ
00:38:34 → 00:38:38 คำถามนะครับถามว่างวดนี้ออกอะไรตอบไม่ได้
00:38:38 → 00:38:43 ไม่รู้นะครับตอบเรื่องสุขภาพจิตจะตอบ
00:38:43 → 00:38:48 ได้
00:38:48 → 00:38:52 นะได้ครับถ้าเศร้าอยู่แล้วค่ะแล้วมันจะมี
00:38:52 → 00:38:55 การ
00:38:55 → 00:38:59 อาการโอเคคำถามว่าถ้าเกิดมีคนเป็นโรคซึม
00:38:59 → 00:39:02 เศร้าเนี่ยอยู่ๆมันจะมีอาการซึมเศร้า
00:39:02 → 00:39:05 เฉียบพันขึ้นมาได้มยเอาง่ายๆเหมือนเป็น
00:39:05 → 00:39:07 ซึมเศร้าอยู่แล้วอยู่บนแย่ลงเป็นการอหัน
00:39:07 → 00:39:11 มีได้มยตอบว่ามีได้นะครับแต่สาเหตุที่แบบ
00:39:11 → 00:39:13 อาการมันทรงๆมามันแล้วควบลงไปเลยเนี่ย
00:39:13 → 00:39:16 เกิดจากอะไรเกิดจากหลายสาเหตุนะครับอัน
00:39:16 → 00:39:19 เหตุอันที่ 1 คือถ้าเราไม่ได้รักษานะครับ
00:39:19 → 00:39:22 มีซึมเศร้าเราไม่รักษาวันดีคืนดีมันจะควบ
00:39:22 → 00:39:25 ลงไปเยอะๆได้ 2 ถ้าเริ่มรักษาแล้วแต่เรา
00:39:25 → 00:39:29 กินยาไม่ครบอ่ะโรคซึมเศร้าเป็นโรคที่เกิด
00:39:29 → 00:39:32 จากสารเคมีสมองทำงานไม่สมดุลไม่ได้มโนไป
00:39:32 → 00:39:36 เองไม่ได้ผีเข้าไม่ได้โดนคุนใสไม่ได้อ่อน
00:39:36 → 00:39:39 แอด้วยเนาะสมัยก่อนคนเข้าใจผิดนึกว่าผี
00:39:39 → 00:39:43 สางแบบเข้าสิงถัดมาเขนึกว่าเป็นคนอ่อนแอ
00:39:43 → 00:39:45 จริงๆหมอบอกเลยไม่จริงใครมาบอกว่าคนเป็น
00:39:45 → 00:39:47 โรคซึมเศร้าอ่อนแอหมอเถียงสู้สุดนิดเลย
00:39:47 → 00:39:51 เพราะว่าคนไข้หมอปัจจุบันน่ะส่วนใหญ่เข้ม
00:39:51 → 00:39:53 แขวงกับคนปกติด้วยซ้ำแล้วบางคนเนี่ยเป็น
00:39:53 → 00:39:56 หัวหน้าครอบครัวเป็นคนที่แบบสู้มาทั้ง
00:39:56 → 00:39:59 ชีวิตกว่าจะมาหาหมอได้คืออดทนชั้นไหวชั้น
00:39:59 → 00:40:02 ไหวชั้นไหวคือแข็งแรงกว่าคนทั่วไปเยอะแยะ
00:40:02 → 00:40:05 เลยครับแต่ว่าโรคมันคือโรคอ่ะเหมือนคนผอม
00:40:05 → 00:40:08 ก็เป็นเบาหวานได้ถูกมอย่างหมอตัวอย่าง
00:40:08 → 00:40:10 เงี้ยไม่มีโรคอะไรเลยเบาหวานก็ไม่เป็นอ่ะ
00:40:11 → 00:40:14 พันธุกรรมมันดีอ่าใช่มแต่บางคนผอมๆท่าทุ
00:40:14 → 00:40:17 เป็นเบาหวานความดันเยอะแยะดังนั้นเราไม่
00:40:17 → 00:40:20 ได้บอกว่าอ่อนแอหรืออะไรทั้งสิ้นคนเข้ม
00:40:20 → 00:40:23 แข็งก็เป็นได้ทีนี้พอเราถ้าเราเริ่มรักษา
00:40:23 → 00:40:28 ไปแล้วปุ๊บเราขาดยามันก็จะลงไป
00:40:28 → 00:40:30 ไปปรับระดับยาเองรู้สึกว่าตัวเองดีขึ้น
00:40:30 → 00:40:35 แล้วไปลดยาเองมันก็จะร่วงไปนะครับหรือไป
00:40:35 → 00:40:38 ปรับไปกินอาหารเสริมหมอบอกเลยไม่มีอาหาร
00:40:38 → 00:40:40 เสริมตัวไหนทั้งสิ้นที่ป้องกันหรือรักษา
00:40:40 → 00:40:43 ซึมเศร้าได้จริงๆไม่มีอาหารเสริมตัวไหน
00:40:43 → 00:40:45 เลยป้องกันรักษาโรคได้ถ้ามันป้องกันหรือ
00:40:45 → 00:40:49 รักษาโรคได้มันคือยาแล้วทุกคนหมอวันนี้ไป
00:40:49 → 00:40:52 บรรยายให้อยมาอยคอนเฟิร์มว่าทุกตัวที่ได้
00:40:52 → 00:40:55 ออยกินแล้วไม่ตายแต่ไม่ได้มีสรรพคุณใน
00:40:55 → 00:40:58 ป้องกันหรือรักษาเลยเพราะว่าทุกอาหาร
00:40:58 → 00:41:00 เสริมอยากให้ตัวเองกลายเป็นยาเพราะว่าถ้า
00:41:00 → 00:41:04 เป็นยาเหาเงินได้เยอะกว่าแต่ว่ามันเป็นยา
00:41:04 → 00:41:06 ไม่ได้เพราะว่าสรรพคุณมันไม่ถึงดังนั้น
00:41:06 → 00:41:09 อย่าไปหลงเชื่อบางคนไปกินอาหารเสริมไปกิน
00:41:09 → 00:41:12 สมุนไพรปรากฏมันตีกับยาที่กินปุ๊บอาการ
00:41:12 → 00:41:15 ซึมเศร้าก็แย่ลงได้และที่น่ากลัวอกอย่าง
00:41:15 → 00:41:19 นึงคือการใช้ยาเสพติดการใช้กัญชาการใช้
00:41:19 → 00:41:21 เหล้าการใช้แอลกอฮอล์สาเสพตัวกทุกตัวครับ
00:41:21 → 00:41:24 ทำให้โรคซึมเศร้าแย่ลงได้แล้วก็ที่สำคัญ
00:41:24 → 00:41:28 คือการอดหลับอดนอนนะครับเห็นมยที่หมอพูด
00:41:28 → 00:41:30 มาเนี่ยหมอยังไม่ได้พูดถึงความเครียดเลย
00:41:30 → 00:41:33 นะจริงๆถ้ามีความเครียดเนี่ยถ้ารักษาดี
00:41:33 → 00:41:36 รักษาต่อเนื่องเรื่องกระตุ้นมาเนี่ยหลายๆ
00:41:36 → 00:41:38 คนรู้สึกรับมือได้ง่ายกว่าเดิมเรื่อง
00:41:38 → 00:41:40 กระตุ้นอาจจะยังไม่ได้แย่เท่ากับสิ่งที่
00:41:40 → 00:41:43 หมอพูดมาตอนแรกบางคนพอรักษาบทุกอย่างทำ
00:41:43 → 00:41:47 ตัวทำทำตัวอยู่ในเอ่อดูแลตัวเองดีอ่ะครับ
00:41:47 → 00:41:49 อย่างที่หมอบอกปุ๊บพอมีเรื่องอะไรเามั่น
00:41:49 → 00:41:52 ใจขึ้นในการแก้ปัญหาด้วยแต่ว่าถ้าเรื่อง
00:41:52 → 00:41:54 มันใหญ่จริงๆก็มาบอกหมอแล้วก็ช่วยกันแก้
00:41:54 → 00:41:59 ไขได้นะครับค่ะมีคำถามอีกมยคะอ่าถ้าอย่าง
00:41:59 → 00:42:01 งั้นเดี๋ยวหมอดาวเป็นตัวแทนหมู่บ้านถาม
00:42:01 → 00:42:05 แทนพวกเราคำถามอีกคถอมีๆๆค่ะรู้สึกว่าคน
00:42:05 → 00:42:09 ใกล้ตัวเรามีภาวะเสียงเราต้องพูกับเยังไง
00:42:09 → 00:42:12 อ่าคำถามนี้ชอบมากคือถ้าเรารู้สึกว่าคน
00:42:12 → 00:42:14 รอบตัวเราก็มีความเสียงจะซึมเศร้าใช่ไหมย
00:42:14 → 00:42:16 ครับแต่ว่าจะซึมเศร้าหรือยังไม่รู้เนี่ย
00:42:16 → 00:42:19 อันนี้สิ่งที่เราต้องทำคือลองสังเกตอาการ
00:42:19 → 00:42:23 ก่อนเราไม่ต้องรอว่าใครป่วยนะคือคนหลายๆ
00:42:23 → 00:42:25 คนเข้าใจผิดว่าต้องป่วยก่อนเพราถึงไป
00:42:25 → 00:42:28 ชาร์จจริงๆไม่ใช่ถามนี้ดีแล้วนะครับคือ
00:42:28 → 00:42:32 เราสงสัยเอ๊ะมันดูไม่โอเคดูจากอะไร 1 ดู
00:42:32 → 00:42:36 ซึมลงดูไม่สัดชื่นดูไม่โอเคดูมีเรื่องคุม
00:42:36 → 00:42:39 ใจเอาแค่นี้พอเลยนะครับเข้าไปรับฟังเ้า
00:42:39 → 00:42:42 ก่อนยังไม่ต้องพูดอะไรเพราะว่าเราเป็นคน
00:42:42 → 00:42:45 ปกติเนี่ยเราเราเราอยากช่วยเราอยากจะเรา
00:42:45 → 00:42:47 วิธีการช่วยที่ง่ายสุดที่ในความคิดของเรา
00:42:47 → 00:42:49 คิดออกคือการพูดแต่จริงๆการพูดเนี่ยเป็น
00:42:49 → 00:42:53 ลำดับที่ 2 ลำดับที่ 1 คือไปฟังก่อนไปดู
00:42:53 → 00:42:56 ก่อนเเป็นอะไรเพราะว่าเรื่องบางเรื่อง
00:42:56 → 00:42:58 เนี่ยเราอาจจะเดาผิดเพราะว่าเรื่องใน
00:42:58 → 00:43:00 ชีวิตคนมันหลายพันหลายหมื่นเรื่องหลาย
00:43:00 → 00:43:02 ล้านเรื่องเราฟังก่อนว่าเกิดเรื่องอะไร
00:43:02 → 00:43:04 ให้เขาได้ระบายก่อนเพราะบางทีถ้าเราฟัง
00:43:04 → 00:43:08 น้อยเราพูดเยอะบางทีเราเข้าใจเขาผิดมันทำ
00:43:08 → 00:43:10 ให้เขาห่างจากเรามากขึ้นดังนั้นรับฟัง
00:43:10 → 00:43:13 ก่อนอ๋อเรื่องมันเป็นแบบนี้นะถ้าเรารู้
00:43:13 → 00:43:16 แน่ๆเรารู้มั่นใจว่าเราเราชำนาญเรื่องนี้
00:43:16 → 00:43:19 แน่นอนอาจจะให้คำแนะนำเบื้องต้นแต่ถ้ารู้
00:43:19 → 00:43:21 สึกว่าเราไม่ถนัดเราก็บอกเราเราบอกเรา
00:43:21 → 00:43:24 ความจจงเลยครับว่าเ้ยเราไม่แน่ใจนะแต่เรา
00:43:24 → 00:43:28 รู้ว่าเธอกำลังเศร้าเราเป็นหห่วงเรารัก
00:43:28 → 00:43:31 เธอเราบอกความรักห่วงใยเบอกได้เลยไม่ต้อง
00:43:31 → 00:43:34 กลัวนะครับแต่ถ้าไม่รู้จะพูดอะไรก็ไม่
00:43:34 → 00:43:36 ต้องพูดอะไรเพราะว่าบางทีพอพูดพูดไม่เก่ง
00:43:36 → 00:43:38 อ่ะเราก็นึกอะไรไม่ออกบางทีคนจะไปพูดคำ
00:43:38 → 00:43:42 ว่าสู้ๆนะแต่ว่าคนฟังก็จะรู้สึกว่าให้สู้
00:43:42 → 00:43:46 กับอะไรอ่ะงงแต่ถ้าเรารู้ว่าเ้าเสู้กับ
00:43:46 → 00:43:48 อะไรพูดได้นะอย่างเช่นตอนนี้กำลังกินยา
00:43:48 → 00:43:50 รักษาหาหมออยู่มันต้องใช้เวลาในการรักษา
00:43:50 → 00:43:52 อ่ะสู้เป็นกำลังใจให้เธอนะเป็นกำลังใจไป
00:43:52 → 00:43:55 ด้วยกันเราอยู่เป็นเพื่อนเธอไปเรื่อยๆวัน
00:43:55 → 00:43:57 นึงมันจะหายได้อันเนี้ยหมอว่าพูดได้แต่
00:43:57 → 00:43:59 ถ้าพูดไปเพะไม่รู้จะพูดอะไอย่าพูดแล้ว
00:43:59 → 00:44:02 วิธีการ้ารู้จัดการยังไงไม่แนใจไม่ต้อง
00:44:02 → 00:44:05 วินิจัยเองครับพาเขไปหาหมออันนี้ดีที่สุด
00:44:05 → 00:44:08 ประหยัดเวลาไม่เสียพลังงานเราด้วยนะครับ
00:44:08 → 00:44:13 พาไปหาหมอได้เลยนะครับค่ะก็
00:44:13 → 00:44:18 อ่าอาจรู้สึกว่าไม่อะไไม่ยอมไปอ่าเราเรา
00:44:18 → 00:44:21 บอกนี้ก็ได้เลยครับอ่าวิธีอันคำถามนี้ดี
00:44:21 → 00:44:23 มากคำถามว่าบางเคสเขาคิดว่าเขาไม่ป่วยเขา
00:44:23 → 00:44:28 ไม่เป็นอะไรเราสามารถให้ไปดที่เไม่ต้อง
00:44:28 → 00:44:31 ปวดนะครับอย่างอย่างคลินิคของหมอเองเนี่ย
00:44:31 → 00:44:33 หมอก็จะบอกเเลยว่าเวลาถ้าเกิดมีคนถามก็จะ
00:44:33 → 00:44:38 บอกว่าคซของคลินิกเราสำหรับคนไม่ป่วยคือ
00:44:38 → 00:44:40 คนที่มาเนี่ยส่วนใหญ่คือคนที่ไม่ได้ป่วย
00:44:41 → 00:44:43 แต่เขามีความทุกข์ใจมีความเครียดมันระบาย
00:44:43 → 00:44:46 ก่อนเพราะอะไรเพราะจะได้ไม่ป่วยเหมือนเรา
00:44:46 → 00:44:49 ไปโรงพยาบาลเนี่ยไปหาคุณหมอเพื่อตรวจร่าง
00:44:49 → 00:44:51 กายประจำปีคุณป่วยหรือยังคุณยังไม่ได้
00:44:51 → 00:44:53 ป่วยนะแต่คุณไปเพื่อคุณจะระวังไม่ให้คุณ
00:44:54 → 00:44:56 ป่วยอันนั้นถ้าเกิดตอนนี้ดีแล้วเธอไปก่อน
00:44:56 → 00:44:58 เธอจะได้ไม่ป่วยไงมันเป็นความเครียดคน
00:44:58 → 00:45:01 ปกติเดี๋ยวนี้ใครๆก็ไปกันเดี๋ยวเนี้ยวิธี
00:45:01 → 00:45:03 การคิดมันก็จะไม่เหมือนเมื่อก่อนนะครับ
00:45:03 → 00:45:06 สมัยก่อนถ้าถ้าไปคือัวหนักแล้วใช่มั้ย
00:45:06 → 00:45:09 ครับอันนี้เราสามารถบอกได้เลยว่าไปเพื่อ
00:45:09 → 00:45:12 จะไม่ป่วยไปเพื่อจะได้สุขภาพดีต่อไปเขาก็
00:45:12 → 00:45:16 จะยอมไปง่ายกว่านะครับค่ะจริงๆที่จะถาม
00:45:16 → 00:45:19 อาจารย์ก็คือคำถามลักษณะนี้ละค่ะอ่าเชิญ
00:45:19 → 00:45:24 เลยค่ะครับมีรายการวิทยุอยู่รายการเอ่อมี
00:45:24 → 00:45:27 มีเป็นรายการที่ดีมากก็คือว่ามีคุณหมมา
00:45:27 → 00:45:29 ต่อบมาถาสุขภาพด้วยแต่ตนี้เค้าขายแปกก๊วย
00:45:29 → 00:45:31 แล้วแปกก้วยเค้าก็ราคาไม่แพงประมาณ 200
00:45:31 → 00:45:34 กว่าบาทที่ถามว่าแปกก๊วยเนี่ยเอ่อมันเป็น
00:45:34 → 00:45:36 สมุนไพรด้วยอาหารอื่นเรากินแล้วมันเป็น
00:45:36 → 00:45:39 อันตรายต่อร่างกายู้เรากินเราไม่ได้เป็น
00:45:39 → 00:45:42 ไรเรากินเพื่อป้องกันอะไรเงี้ยคือคือหมอ
00:45:42 → 00:45:45 จะแนะนำอย่างนี้ครับว่าอาหารเสริมหรือ
00:45:45 → 00:45:49 วิตามินเนี่ยถ้าเราขาดมันเป็นตัวเสริม
00:45:49 → 00:45:52 อาหารอันนี้อาจจะมีประโยชน์แต่ว่าแนะนำ
00:45:52 → 00:45:57 ว่าควรจะไปหาหมอแล้วก็มีตรวจสุขภาพก่อน
00:45:57 → 00:45:59 ถ้าเกิดจำเป็นให้คุณหมอเคแนะนำว่ากินอะไร
00:45:59 → 00:46:01 เพิ่มบางทีเราไม่ต้องเปลืองเงินก็ได้ค
00:46:01 → 00:46:04 เพราะว่า 200 กาทจริงๆก็ถือว่าแพงนะถูกม
00:46:04 → 00:46:07 จริงๆมาจากอาหารอื่นๆได้มอันเนี้ยช่วยได้
00:46:07 → 00:46:09 จริงๆมันคนต้องกลับไปดูรากฐานว่าอาหารที่
00:46:09 → 00:46:12 เรากินเนี่ยมันโอเคไยบางคนไปกินเหล้าอยู่
00:46:12 → 00:46:15 อย่างเงี้ยบางคนกินอะไรที่มันไม่โอเคอยู่
00:46:15 → 00:46:18 อันนั้นอาจจะมีมีมีโทษซะมากกว่าดังนั้น
00:46:18 → 00:46:20 กินอาหารเสร์ฟไปก็ไม่ช่วยอยู่ดีังนั้นบอก
00:46:20 → 00:46:22 ว่าก่อนจะไปซื้ออะไรกินเนี่ยบอกว่าให้คุณ
00:46:22 → 00:46:24 หมอที่เขาดูแลเราประจำเนี่ยเขาบอกก่อนว่า
00:46:25 → 00:46:30 อะไรควรทานไม่ควรทานดีกว่าแล้วหลชระดับยา
00:46:30 → 00:46:34 เวิตามิอย่าเพคนบหลังๆสนใจเรวิตามิใช่
00:46:34 → 00:46:37 ครับปรากฏกินไปเรื่อยๆเป็นพิษเพราะว่าสูง
00:46:37 → 00:46:41 เกินไปต่อให้เป็นวิตามินบอย่างเงี้ยเนี่ย
00:46:41 → 00:46:44 โอ้โหแบบมาคนไข้มาหาหมอนอนไม่หลับเลย
00:46:44 → 00:46:47 เนี่ยรักษาไงก็ไม่หายรักษามา 5-6 ที่ละ
00:46:47 → 00:46:49 เนี่ยหมอบอกเออต้องหยุดวิตามินก่อนนะ
00:46:49 → 00:46:51 เพราะบางทีวิตามินกระตุ้นให้นอนไม่หลับ
00:46:51 → 00:46:53 ไม่เชื่อลบกันอยู่ประมาณ 2-3 เดือนอ่ะ
00:46:53 → 00:46:57 งั้นเจาะเลือดดูระดับวิตามินปรากฏวิตามิน
00:46:57 → 00:46:59 1 มากเกินปกติไป 30
00:46:59 → 00:47:01 เท่า
00:47:01 → 00:47:05 อ่ะหยุดเชื่อหรือยังอ่ะหยุดพอหยุดหายแค่
00:47:05 → 00:47:07 เนี้ยมันมีอะไรเป็นแค่เนี้ยดังนั้นอาหาร
00:47:07 → 00:47:09 เสริมหรือมีบางตัวถ้าเราได้เกินขนาดก็
00:47:09 → 00:47:12 เป็นพิษนะครับก็เป็นโทษได้ดังนั้นบางที
00:47:12 → 00:47:15 ถ้าเรารักสุขภาพอ่ะให้คุณหมอเขเลือกให้ดี
00:47:15 → 00:47:17 กว่าดีกว่าไปซื้อเองแล้วก็ไอ้ที่เราขาย
00:47:17 → 00:47:21 กันมาเราก็ไม่รู้ว่ามันมีอยจริงมอ่าแล้ว
00:47:21 → 00:47:23 ก็เดี๋ยวมีปัญหาให้คุณหมอเลือกดีกว่าครับ
00:47:23 → 00:47:27 ค่ะครับผมก็น่าจะชัดเจนะครับวันนี้ขอบพระ
00:47:27 → 00:47:31 คุณคุณหมอท็อปเป็นอย่างสูงครับผมขอบคณค่ะ
00:47:31 → 00:47:32 และในโอกาสนี้นะครับคุณหมอท็อปอยู่กับเรา
00:47:33 → 00:47:35 ก่อนนะครับเรียนเชิญนะครับพี่จ๋าครับคุณ
00:47:35 → 00:47:38 สันสนีนารังสรนะครับบรรณาธิการเ Health
00:47:38 → 00:47:40 มอบของที่ระลึกให้กับคุณหมอนะครับผมเชิญ
00:47:40 → 00:47:42 คุณหมอดาวร่วมถ่ายภาพด้วยนะครับค่ะเป็น
00:47:43 → 00:47:45 ตัวแฮนของ TE Health นะครับขอบคุณคุณหมอ
00:47:45 → 00:47:50 ที่ช่วยให้ความรู้เรามาเสมอเลยนะครับ
00:47:50 → 00:47:53 ผมขอบพระคุณนะครับนายแพทย์อภิชาตจริยา
00:47:53 → 00:47:56 วิราชคุณหมอท็อปนะครับจิตแพทย์และโฆษกกรม
00:47:57 → 00:47:59 สุขภาพจิตนะครับมาช่วยดูแลจิตใจของพวกเรา
00:48:00 → 00:48:01 ขอบพระคุณครับคุณหมอครับ
00:48:01 → 00:48:04 ผมเชขอบพระคุณคุณหมอดาวนะครับอีกสักครู่
00:48:04 → 00:48:05 นึงเดี๋ยวพี่ดาวจะกลับมาพร้อมกับวิธีการ
00:48:05 → 00:48:09 ดูแลออเพื่อส่งวัยนะครับผมแต่ว่าระหว่าง
00:48:10 → 00:48:12 นี้ครับทุกท่านครับมีใครหิวแล้วยครับผมมี
00:48:12 → 00:48:15 ใครหิวเราหรือยังยังไม่หิวเลยเหรอครับ
00:48:15 → 00:48:19 ผมแต่ว่ามาในวันนี้ต้องบอกว่าเรามากันที่
00:48:19 → 00:48:23 ร้านซึ่งร่มรื่นมากครับพี่ดาวครับผมแล้ว
00:48:23 → 00:48:26 ก็เป็นกาแฟที่ไม่ธรรมดานะครับเป็นกาแฟที่
00:48:26 → 00:48:28 ออร์แกนนิคด้วยนะดังนั้นโอกาสนี้เดี๋ยวจะ
00:48:28 → 00:48:31 ชวนทุกคนเนี่ยมาร่วมพูดคุยกันกับทางตัว
00:48:31 → 00:48:33 แทนของร้านหน่อยแล้วกันนะครับขอเรียนเชิญ
00:48:33 → 00:48:35 นะครับคุณหมีครับสิทธิชัยนะครับ Operation
00:48:35 → 00:48:38 Manager ของร้านหมีวนานั่นเองสวัสดีครับ
00:48:38 → 00:48:40 คุณหมีครับผม
00:48:40 → 00:48:43 สวัสหมีเชิญเลยค่ะครับผมอ่าเดี๋ยวคุณหมี
00:48:43 → 00:48:46 ติดไมค์สักครู่นึงนะครับผมใช่ครับผมวัน
00:48:46 → 00:48:49 นี้คุณหมีครับผมก็มาครั้งแรกพี่ดาวมา
00:48:49 → 00:48:50 ครั้งแรกรึเปล่าครับผมมาครั้งแรกค่ะอ่า
00:48:51 → 00:48:52 ที่นี่มันมีความพิเศษยังไงบ้างช่วยเล่า
00:48:52 → 00:48:54 ให้พวกเราฟังหน่อยครับผมก็อันนี้นะครับ
00:48:54 → 00:48:57 เราก็เป็นร้านกาแฟนะครับที่เราเราใช้กาแฟ
00:48:57 → 00:48:59 ออร์กานิค 100% นะครับเป็นกาแฟไทยนะครับ
00:48:59 → 00:49:02 จากที่เชียงรายนะครับอันนี้ก็คือจริงๆ
00:49:02 → 00:49:04 แล้ววันนี้อยากให้ทุกคนได้ลองนะครับก็คือ
00:49:04 → 00:49:07 จริงๆแล้วกาแฟออแกนิคอ่ะครับจะเป็นแค่ 1%
00:49:07 → 00:49:10 ของกาแฟทั่วโลกที่มีอยู่ณตอนนี้นะครับ
00:49:10 → 00:49:12 ปกติแล้วอ่ะครับก็คือกาแฟหรือว่าที่เรา
00:49:12 → 00:49:15 รู้จักกันกาแฟอินทรีย์นะครับจะไม่มีสาร
00:49:15 → 00:49:18 เคมีเลยนะครับเราจะปลูกโดยอยู่ใต้ร่มเงา
00:49:18 → 00:49:21 นะครับอยู่เหนือแบบเอ่อภูมิประเทศที่แบบ
00:49:21 → 00:49:23 สูงอยู่ประมาณ 1,000 ขึ้นที่เชียงรายอะไ
00:49:23 → 00:49:26 เงี้ยครับอก็กาแฟรสชาติจะดีอะไรเงี้ยนะ
00:49:26 → 00:49:29 ครับแล้วก็อย่างที่บอกครับว่าเทสโน้ตที่
00:49:29 → 00:49:32 ได้จากการที่อยู่กาแฟที่อยู่ใต้ร่มเงาของ
00:49:32 → 00:49:35 ป่าไม้อ่ะครับก็จะมีคุณค่าทางอาหารมีรส
00:49:35 → 00:49:38 ชาติที่พิเศษกว่าอื่นๆอะไรเงี้ยครับอปกติ
00:49:38 → 00:49:40 พี่ดาวดื่มกาแฟมั้ยครับผมจริงๆต้องบอกว่า
00:49:40 → 00:49:42 ดื่มกาแฟไม่ได้ดื่มได้แต่ช้าเพราะว่าใจสา
00:49:42 → 00:49:44 อ่าแล้วที่นี่มีชาด้วยมั้ยครับผมมีจริงๆ
00:49:44 → 00:49:46 เราก็มีชานะครับจากที่เชียงใหม่กเชียงราย
00:49:46 → 00:49:48 เหมือนกันนะครับก็เป็นออร์แกนิคเหมือนกัน
00:49:48 → 00:49:51 อครับครับผมได้ข่าว่าที่นี่เป็นร้านกาแฟ
00:49:51 → 00:49:54 ที่จริงๆดูแลชุมชนด้วยใช่มั้ยครับใช่ครับ
00:49:54 → 00:49:56 ก็คือจริงๆแล้วเราเองก็มีมูลนิธิที่เรา
00:49:56 → 00:49:58 ร่วมโครงการด้วยครับเราก็จะช่วยดูแล
00:49:58 → 00:50:01 เกษตรกรที่เชียงรายนะครับเราไปให้ความรู้
00:50:01 → 00:50:04 เที่หมู่บ้านที่เขาปลูกกาแฟอะไรเงี้ยครับ
00:50:04 → 00:50:07 เราจะมีพื้นที่ที่เราช่วยกับรัฐบาลอยู่
00:50:07 → 00:50:09 ที่ 20,000 ไรนะครับที่เชียงรายนะครับเรา
00:50:09 → 00:50:12 ไปให้ความรู้เโดยการที่ว่าปกติสมัยก่อน
00:50:12 → 00:50:14 แล้วเลยเกษตรกรนะครับเวลาเขาปลูกแล้วแล้ว
00:50:14 → 00:50:17 เขาอาจจะแบบเผาป่าเพื่อที่จะปลูกอย่าง
00:50:17 → 00:50:19 อื่นแทนอะไรเงี้ยครับตอนเนี้เราเองก็มี
00:50:19 → 00:50:22 โครงการที่ไปช่วยนะครับให้ความรู้เขาใน
00:50:22 → 00:50:24 การที่ว่านอกเหนือจากกาแฟแล้วที่ปลูกใต้
00:50:24 → 00:50:27 ร่มเงาแล้วเรายังมีไปช่วยให้เขาแบบปูกปผ
00:50:27 → 00:50:30 ผลิตผลอื่นๆเช่นพวกโวคาโดดมียเพื่อที่จะ
00:50:30 → 00:50:32 ให้เขาไม่ทำลายป่านะครับแล้วก็พอถึงช่วง
00:50:32 → 00:50:34 ที่ปลูกกาแฟเขก็จะได้ปลูกกาแฟแล้วก็เก็บ
00:50:34 → 00:50:37 เกียบผลผลิตได้อะไรเงี้ยครับครับผมและ
00:50:37 → 00:50:39 สำหรับช่วงนี้เนี่ยมีอะไรมาให้เราได้ลอง
00:50:39 → 00:50:42 ดื่มลองทานกันบ้างครับผมก็เดี๋ยววันนี้นะ
00:50:42 → 00:50:45 ครับเราจะมีขนมนะครับจะเป็นบิตนะครับจะ
00:50:45 → 00:50:48 เป็นอาหารเพื่อสุขภาพนะครับเข้ามาบตสไตล์
00:50:48 → 00:50:50 แบบเม็กซิกันอย่างเงี้ยใช่จะเป็นแวบห่อนะ
00:50:50 → 00:50:52 ครับจะเป็นถั่วข้างในมีชีสนิดนึงอะไร
00:50:52 → 00:50:54 เงี้ยครับเดี๋ยวลองทานกันดูนะครับแล้วก็
00:50:54 → 00:50:57 จะมีเครื่องดื่มจะเป็นพวกน้ำผลมปปั่นหรือ
00:50:57 → 00:50:59 ว่าจะเป็นพวกกาแฟที่บางท่านอาจจะได้ลอง
00:50:59 → 00:51:02 อะไรเงี้ยครับผมครับผมได้ขว่ามีเมนู
00:51:02 → 00:51:06 สุขภาพที่ใช้เอ่อแลคตาซอยผสมงาดำด้วยใช่
00:51:06 → 00:51:08 มั้ยครับอ่าใช่ครับก็วันนี้นะครับก็คือจะ
00:51:08 → 00:51:11 มีตัวของเอ่อนมแลคตาซอยนะครับจริงๆแล้ว
00:51:11 → 00:51:13 ส่วนผสมของเอ่อแลคตาซอยก็เอามาทำเป็นพวก
00:51:13 → 00:51:16 เมนูกาแฟได้หรือว่าเอาไปทำเป็นพวกน้ำปั่น
00:51:16 → 00:51:18 หรืออะไรพวกเครับเป็นนมปั่นได้เหมือนกัน
00:51:18 → 00:51:20 อะไรเงี้ยครับครับผมอยากให้มาลองชิมกันนะ
00:51:20 → 00:51:24 ครับแลคตาซอยงาดำนี่เข้มประโยชน์ทุกคำหอม
00:51:24 → 00:51:27 งาดำอร่อยมากด้วยนะครับผมก็ขอบคุณคุณหมี
00:51:27 → 00:51:30 นะครับผมขขอบคุณครับขอบคุณมากครับขอบคุณ
00:51:30 → 00:51:33 ครับจริงๆอยากเชิญชวนเพราะว่าด้วยความที่
00:51:33 → 00:51:35 ตัวเองไม่ได้ดื่มกาแฟแต่ว่ากลิ่นกาแฟหอม
00:51:35 → 00:51:38 นะคะแต่ถ้าท่านใดดื่มไม่ได้จริงๆก็ดื่ม
00:51:38 → 00:51:40 แบบที่หมอดาวดื่มก็คือชาเขียวเมื่อกี้ลอง
00:51:40 → 00:51:42 แล้วก็โอเคค่ะครับผมก่อนที่เราจะพักเบรค
00:51:42 → 00:51:44 กันเนี่ยนะครับอยากให้คุณหมอดาวช่วยเล่า
00:51:44 → 00:51:47 ให้ฟังหน่อยว่าเดี๋ยวช่วงต่อไปคุณหมอดาว
00:51:47 → 00:51:49 จะมีอะไรมาแนะนำพวกเราบ้างครับผมค่ะก็
00:51:49 → 00:51:52 ช่วงต่อไปนะคะหมอดาวจะสมหมวกเป็นวิทยากร
00:51:52 → 00:51:55 บรรยายเรื่องของเคล็ดไม่ลับการดูแลสุขภาพ
00:51:56 → 00:51:59 ในผู้สูงวัยซึ่งจะมีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับ
00:51:59 → 00:52:01 ว่าถ้าหากเราเป็นทั้งผู้สูงวัยแล้วก็ผู้
00:52:01 → 00:52:03 ดูแลผู้สูงวัยเนี่ยอย่างผมเเป็นคนดูแลคุณ
00:52:03 → 00:52:07 พ่อใช่เราจะได้ทราบจะได้เก็ทว่าอ๋อหลัก
00:52:07 → 00:52:10 การง่ายๆอะไรบ้างเนาะแล้วก็เราจะได้
00:52:10 → 00:52:13 ประเมินถึงว่ามันมีภาวะนึงก็คือภาวะ
00:52:13 → 00:52:15 caregiver buren หรือว่า burn Out ก็
00:52:15 → 00:52:19 คือผู้ดูแลผู้สูงอายุเนี่ยรู้สึกแย่ sad
00:52:19 → 00:52:21 คือมันจะต่อเนื่องมาจากอาจารย์อภิชาติของ
00:52:21 → 00:52:23 เราเลยค่ะเดี๋ยวอีกสักพักเนาะอีกสักพัก
00:52:23 → 00:52:26 อ่าพักกันก่อนก็เดี๋ยวช่วงนี้เราจะทาน
00:52:26 → 00:52:28 เครื่องดื่มนะครับรับประานอาหารแล้วก็
00:52:28 → 00:52:31 ดื่มเคร่องดื่มอร่อยๆกันแล้วอีกประมาณ 15
00:52:31 → 00:52:33 นาทีนะจริงๆระว่างที่ทานอาหารสามารถเดิน
00:52:33 → 00:52:35 รอบๆได้นะครับถ้ามันไม่ร้อนจนเกินไปนะแต่
00:52:35 → 00:52:37 ถ้าร้อนก็อยู่กันข้างในนี้ได้แล้วเดี๋ยว
00:52:37 → 00:52:39 กลับมาฟังเคล็ดลับจากคุณหมอดาในช่วงต่อไป
00:52:39 → 00:52:42 นะครับแล้วพบกันนะครับค่ะขอบคุณ
00:52:42 → 00:52:46 [ปรบมือ]
00:52:46 → 00:52:55 [เพลง]
00:52:55 → 00:53:05 ค่ะ
00:53:05 → 00:53:17 [เพลง]
00:53:17 → 00:53:23
00:53:23 → 00:53:25 [เพลง]
00:53:25 → 00:53:31 ออ
00:53:31 → 00:53:37 [เพลง]
00:53:56 → 00:53:58 แ
00:53:58 → 00:54:06 [เพลง]
00:54:06 → 00:54:17
00:54:17 → 00:54:26 [เพลง]
00:54:26 → 00:54:30 เ
00:54:30 → 00:54:47 [เพลง]
00:54:56 → 00:55:01 เ
00:55:01 → 00:55:26 [เพลง]
00:55:26 → 00:55:29 เ
00:55:29 → 00:55:49 [เพลง]
00:55:49 → 00:55:55
00:55:55 → 00:56:01 [เพลง]
00:56:01 → 00:56:04
00:56:04 → 00:56:04 [เพลง]
00:56:04 → 00:56:05 K
00:56:05 → 00:56:22 [เพลง]
00:56:22 → 00:56:40
00:56:40 → 00:56:42 [เพลง]
00:56:42 → 00:56:45 แ
00:56:45 → 00:56:54 [เพลง]
00:57:25 → 00:57:35 อ
00:57:35 → 00:57:52 [เพลง]
00:57:55 → 00:57:57 แ
00:57:57 → 00:58:06 [เพลง]
00:58:06 → 00:58:11
00:58:11 → 00:58:25 [เพลง]
00:58:25 → 00:58:27 แ
00:58:27 → 00:58:45 [เพลง]
00:58:45 → 00:58:55
00:58:55 → 00:58:59 แ
00:58:59 → 00:59:04 [เพลง]
00:59:25 → 00:59:31 แ
00:59:31 → 00:59:37 [เพลง]
00:59:55 → 00:59:57 อแ
00:59:57 → 01:00:16 [เพลง]
01:00:16 → 01:00:22
01:00:22 → 01:00:26 [เพลง]
01:00:26 → 01:00:29 เ
01:00:29 → 01:00:35 [เพลง]
01:00:35 → 01:00:43
01:00:43 → 01:00:56 [เพลง]
01:00:56 → 01:01:01 เ
01:01:01 → 01:01:11 [เพลง]
01:01:26 → 01:01:28 เ
01:01:28 → 01:01:48 [เพลง]
01:01:48 → 01:01:54
01:01:54 → 01:01:56 [เพลง]
01:01:56 → 01:01:58 เ
01:01:58 → 01:02:21 [เพลง]
01:02:21 → 01:02:29
01:02:29 → 01:02:33 [เพลง]
01:02:33 → 01:02:40 แ
01:02:40 → 01:02:53 [เพลง]
01:02:53 → 01:02:55
01:02:55 → 01:02:56 [เพลง]
01:02:56 → 01:02:59 เ
01:02:59 → 01:03:35 [เพลง]
01:03:41 → 01:03:49 แ
01:03:49 → 01:03:55 [เพลง]
01:03:55 → 01:03:56 อ
01:03:56 → 01:04:11 [เพลง]
01:04:11 → 01:04:18
01:04:18 → 01:04:25 [เพลง]
01:04:25 → 01:04:28 เ
01:04:28 → 01:04:47 [เพลง]
01:04:47 → 01:04:55
01:04:55 → 01:05:04 เ
01:05:04 → 01:05:18 [เพลง]
01:05:33 → 01:05:36 แ
01:05:36 → 01:05:55 [เพลง]
01:05:55 → 01:05:57 อ
01:05:57 → 01:06:15 [เพลง]
01:06:15 → 01:06:25
01:06:25 → 01:06:28 เ
01:06:28 → 01:06:34 [เพลง]
01:06:34 → 01:06:42
01:06:42 → 01:06:55 [เพลง]
01:06:55 → 01:07:00 เ
01:07:00 → 01:07:17 [เพลง]
01:07:25 → 01:07:27 เ
01:07:27 → 01:07:40 [เพลง]
01:07:40 → 01:07:46
01:07:46 → 01:07:55 [เพลง]
01:07:55 → 01:08:00 อ
01:08:00 → 01:08:28 [เพลง]
01:08:54 → 01:08:59 เเ
01:08:59 → 01:09:09 [เพลง]
01:09:25 → 01:09:34 เ
01:09:34 → 01:09:40 [เพลง]
01:09:55 → 01:09:57 เ
01:09:57 → 01:10:04 [เพลง]
01:10:04 → 01:10:11
01:10:11 → 01:10:17 [เพลง]
01:10:17 → 01:10:25
01:10:25 → 01:10:28 เ
01:10:28 → 01:10:55 [เพลง]
01:10:55 → 01:11:03 เ
01:11:03 → 01:11:15 [เพลง]
01:11:15 → 01:11:25
01:11:25 → 01:11:29 เ
01:11:29 → 01:11:55 [เพลง]
01:11:55 → 01:12:06 เ
01:12:06 → 01:12:15 [เพลง]
01:12:25 → 01:12:28 อ
01:12:28 → 01:12:34 [เพลง]
01:13:24 → 01:13:27 เ
01:13:27 → 01:13:46 [เพลง]
01:13:46 → 01:13:54
01:13:54 → 01:13:59 เเ
01:13:59 → 01:14:22 [เพลง]
01:14:25 → 01:14:28 อ
01:14:28 → 01:14:43 [เพลง]
01:14:55 → 01:14:58 เ
01:14:58 → 01:15:05 [เพลง]
01:15:05 → 01:15:33
01:15:33 → 01:15:40 [เพลง]
01:15:40 → 01:15:43 พี่พี่ๆทุกท่านอยากอยากเชิญหอแสก่อนนะคือ
01:15:43 → 01:15:46 หลายครั้งค่ะที่เราไม่รู้ตัวเลยว่าเรา
01:15:46 → 01:15:50 กำลังหายใจอยู่นะคะและหลายครั้งเนี่ยที่
01:15:50 → 01:15:52 เราเหนื่อยเนี่ยเป็นเพราะเราหายใจผิดวิธี
01:15:52 → 01:15:56 อืซึ่งก่อนที่เราเราเนี่ยจะมารับข้อมูล
01:15:56 → 01:15:59 ข่าวสารดีๆเนี่ยการที่เราได้หายใจเต็มที่
01:15:59 → 01:16:02 แล้วก็ให้ออกซิเจนให้อากาศดีๆเข้าสมอง
01:16:02 → 01:16:04 เต็มที่เนี่ยมันจะทำให้ทุกอย่างเปิดรับ
01:16:04 → 01:16:07 เปิดโล่งเหมือนพลังชีวิตมันจะเปิดโล่งโห
01:16:07 → 01:16:09 ดีเลยครับผมคราวนี้ถ้าท่านที่กินอยู่ค่อย
01:16:09 → 01:16:12 ๆนะพี่คือพี่ี่กินกินกันไปก่อนฟังๆังไป
01:16:13 → 01:16:15 ก่อนฟังไปอ่ะแต่ถ้าท่านที่พร้อมแล้วเนี่ย
01:16:15 → 01:16:19 วิธีการหายใจก็คือว่าให้เราจินตนาการว่า
01:16:19 → 01:16:21 เราเป็นกระบอกฉีดยาทุกคนรู้จักใช่มั้ยคะ
01:16:21 → 01:16:24 กระบอกสูบฉีดยาไซลิงอ่ะค่ะมันจะเป็น
01:16:24 → 01:16:26 กระบอกพพลาสติกถูกมั้ยคะแล้วก็จะเป็นลูก
01:16:26 → 01:16:29 สูตรสีดำๆอืจริงๆแล้วร่างกายเราอ่ะคล้ายๆ
01:16:30 → 01:16:32 อย่างงั้นตรงที่ว่าตัวเราเนี่ยเหมือน
01:16:32 → 01:16:35 กระบอกฉีดยาเนาะแล้วเวลาที่เราหายใจเนี่ย
01:16:35 → 01:16:38 เราต้องใช้สิ่งที่เรียกว่ากระบังลมส่วน
01:16:38 → 01:16:40 ใหญ่แล้วเนี่ยเราจะหายใจไม่ทั่วท้อง
01:16:40 → 01:16:43 สังเกตมเวลาที่เราหายใจมันจะตื้นๆสั้นๆ
01:16:43 → 01:16:45 คราวนี้การหายใจทั่วท้องเนี่ยคือใช้กล้าม
01:16:45 → 01:16:50 เนื้อกระบังลมในการลงแล้วก็ขึ้นดังนั้น
01:16:50 → 01:16:52 เนี่ยถ้าเราจับพุงจับพุงตัวเองนะคะห้าม
01:16:52 → 01:16:55 จับพุงเพื่อนถ้าพี่หายใจแล้วพุงกระเพื่อม
01:16:55 → 01:16:58 เไม่ใช่นะหายใจที่ถูกต้องพุงต้องไม่
01:16:59 → 01:17:01 กระเพื่อมจะต้องแบบอยู่นิ่งๆเลยโทษนะอ่ะ
01:17:01 → 01:17:03 อย่างเนี่ยชุดหมออย่างเงี้ยคือคือมันจะ
01:17:03 → 01:17:06 ต้องแบนลบแล้วแบบขึ้นลงคณบอกไม่มีพุงเลย
01:17:06 → 01:17:09 นะคทุกคนอย่าเงี้นะคะนะลองดูอ่ะนั่งหลัง
01:17:09 → 01:17:11 ให้ตรงนั่งหลังให้ตรงนะคะพยายามนั่งหลัง
01:17:11 → 01:17:14 ให้ตรงอย่างเงี้ค่ะนิวขานิวก็ลองคือเรา
01:17:14 → 01:17:16 หายใจเข้าแล้วใช้กระบังลมใช้กล้ามเนื้อ
01:17:16 → 01:17:19 กระบังลมมันจะเข้าประมาณ 4 วินาทีหายใจ
01:17:19 → 01:17:22 เข้า 4 วินาทีเนาะและหายใจออกเนี่ยลอง
01:17:22 → 01:17:25 เล่นกับตัวเองก็คือออก 8 วินาที
01:17:25 → 01:17:28 ถ้าจะ Advance นะหรือว่าแบบเก่งขึ้นไปอีก
01:17:28 → 01:17:31 ก็คือหายใจออกทางปากแบบๆเบาๆหายใจเข้า
01:17:32 → 01:17:37 ทางจมูก 4 วินาทีหายใจออกทางปาก 8 วินาที
01:17:37 → 01:17:41 ลองดูค่ะอ่ะลองนะทำพร้อมกับนะหายใจเข้านะ
01:17:41 → 01:17:49 1 2 3 อ่ะ 1 2 3 4 อ่ะหายใจออกค่ะ 1
01:17:49 → 01:17:58 2 3 4 5 6 7 8 ค่อยๆไม่เป็นไรพี่
01:17:58 → 01:18:00 ถ้าตอนแรกได้แค่ 4 วินาทีก็ 4 วินาทีมัน
01:18:00 → 01:18:02 จะเหนื่อยๆนิดนึงนะว่าผมผิดรือเปล่าครับ
01:18:02 → 01:18:06 ผมไม่ๆค่ะถ้าถ้าหายใจหายใจโดยใช้กระบังลม
01:18:06 → 01:18:09 อ่ะค่ะคุณนิวมันจะเป็นอะไรที่คุณน้องนิว
01:18:09 → 01:18:11 ของเราเนี่ยคือคือต้องบอกอย่างงี้พอเรา
01:18:11 → 01:18:13 เป็นพิธีกรเป็นอะไรบางครั้งเราจะเน้น
01:18:13 → 01:18:15 เปล่งเสียงนู่นนี่นั่นใช่มั้ยคะแต่เราจะ
01:18:15 → 01:18:18 ลืมนึกเรื่องลมหายใจใช่แต่ถ้าทำสักพักค่ะ
01:18:18 → 01:18:20 เดี๋ยวน้องนิวจะรู้สึกเลยว่ามันจะไม่ค่อย
01:18:20 → 01:18:24 เหนื่อยเพราะมันชินลองดูอีกทีนะคะอ่ะจำ
01:18:24 → 01:18:26 ไว้ว่าเหมือนเราเป็นกระบอกฉีดยาเนาะแล้ว
01:18:26 → 01:18:29 เราก็จะใช้ลูกสูบสูบเข้าไปหายใจเข้า 4
01:18:29 → 01:18:33 แล้วค่อยๆดันออก 8 นะคะให้ปอดมันขยายเต็ม
01:18:33 → 01:18:37 ที่ใครที่เคยเป็นโควิดนะคะเอ่อหรือว่า
01:18:37 → 01:18:40 เป็นโรคปอดต่างๆเนี่ยปอดเนี่ยมันจะเหมือน
01:18:40 → 01:18:43 กับว่ามันจะคล้ายๆกึ่งๆเป็นพังผืดหรือบาง
01:18:43 → 01:18:46 คนที่เคยเป็นเขาเรียกว่าโรคเอ่อปอดที่มัน
01:18:46 → 01:18:49 เป็นทางเดินอุดกั้นน่ะค่ะนะคะพวกเเรียก
01:18:49 → 01:18:53 copd ก็คือเหมือนกับคนที่สูบบุหรี่คนที่
01:18:53 → 01:18:55 มีแบบทางเดินหายใจอุดก้าเนี่ยปอดมันจะไม่
01:18:55 → 01:18:57 ขยายแต่การที่เราบริหารแบบเนี้ยปอดเราจะ
01:18:57 → 01:19:00 ค่อยๆขยายแล้วเราจะเหนื่อยยากขึ้นอ่ะ
01:19:00 → 01:19:08 พร้อมๆกันอ่ะ 1 2 3มหายใจเข้า 1 2 3 4
01:19:08 → 01:19:18 อ่ะหายใจออกค่ะ 1 2 3 4 5 6 7 8
01:19:18 → 01:19:27 อ่ะหายใจเข้า 1 2 3 4 อ่ะหายใจออก 1 2
01:19:27 → 01:19:33 3 4 5 6 7 8 อีกครั้งนึงค่ะหายใจ
01:19:33 → 01:19:44 เข้า 1 2 3 4 หายใจออก 1 2 3 4 5
01:19:44 → 01:19:50 6 7 8 มันจะโล่งหัวจะโล่งขึ้นจริงๆ
01:19:50 → 01:19:53 หลังหลังรู้สึกดีขึ้นนะรู้สึกเหมือนแมัน
01:19:53 → 01:19:57 เต็มพลังเตมว่าเนี่ยแหละหลายคนที่บอกว่า
01:19:57 → 01:20:00 อยากจะฝึกสติหายใจหายใจให้เต็มปอดใช่ค่ะ
01:20:00 → 01:20:03 มันคือการหายใจให้เต็มปอดแล้วหลายๆอย่าง
01:20:03 → 01:20:05 บางครั้งค่ะเรากำลังร้อนรนอยู่กำลังอะไร
01:20:05 → 01:20:09 อยู่ไม่รู้เนี่ยค่ะบครับขอขอาเวเิดอีก
01:20:09 → 01:20:12 ครั้งครับอ๋อคุณพี่มาช้าอ่ะโอเคโอเคก็คือ
01:20:12 → 01:20:15 อ่าสรุปนะคะก็คือว่าการหายใจที่ถูกวิธี
01:20:15 → 01:20:18 นั้นจะต้องหายใจโดยใช้กระบังลมในการ
01:20:18 → 01:20:20 เคลื่อนขึ้นแล้วก็เคลื่อนลงโดยที่หน้า
01:20:20 → 01:20:23 ท้องพยายามที่แบบให้มันกระเพื่อมน้อยอย
01:20:23 → 01:20:26 ที่สุดเพราะถ้าเราเนี่ยยุบหนอพองหนอแบบ
01:20:26 → 01:20:28 ว่าพุงเข้าพุงออกเนี่ยแปลว่าเราใช้กล้าม
01:20:28 → 01:20:31 เนื้อท้องซึ่งอาจจะไม่ถูกต้องนักคราวนี้
01:20:31 → 01:20:34 การหายใจเนี่ยถ้าเข้าเนี่ยหมอเอาง่ายๆเลย
01:20:34 → 01:20:37 ก็คือ 4 วินาทีแต่หายใจออกเนี่ยให้เป็น 8
01:20:37 → 01:20:40 วินาทีเพราะมันจะเป็นการช่วยๆผ่อนลมหายใจ
01:20:40 → 01:20:42 นอกจากนี้แล้วเนี่ยมันจะทำให้เราเนี่ย
01:20:42 → 01:20:44 เหมือนยั้งอ่ะเหมือนกับว่าถ้าเรากำลัง
01:20:44 → 01:20:47 ร้อนรนอยู่กำลังเครียดอยู่เนี่ยมันจะผ่อน
01:20:47 → 01:20:50 คลายตรงนี้ก็เป็นหนึ่งในวิธีการเา้าเรียก
01:20:50 → 01:20:53 ว่าการผ่อนคลายความเครียดโดยการใช้ลมหาย
01:20:53 → 01:20:56 ใจนะคะอที่คุณหมอบอกว่าจริงๆทำให้มีสติ
01:20:56 → 01:20:59 ด้วยใช่มั้ยครับใช่ค่ะใช่แล้วก็ทำให้สมอง
01:20:59 → 01:21:02 ปลอดโปร่งอเนาะครับเอ่อตรงจุดนี้ถ้าเป็น
01:21:02 → 01:21:04 รุ่นใหญ่เนี่ยเอ่ออย่างที่บอกไปค่ะว่าถ้า
01:21:05 → 01:21:07 เราเนี่ยผ่านกันมาตรงนี้คือเรายังไม่บ๊าย
01:21:07 → 01:21:10 บายโลกแปลว่าเราเนี่ยรอดโควิดมาได้แต่เรา
01:21:10 → 01:21:13 อาจจะมีร่องรอยความเจ็บป่วยจากโควิดเนื้อ
01:21:13 → 01:21:16 เยื่อปอดอะไรที่มันแบบว่าเอ้ยเป็นพังผืด
01:21:16 → 01:21:19 เป็นอะไรพวกเค่ะการที่เราซ้อมออกกำลังกาย
01:21:19 → 01:21:21 ทางเดินหายใจเนี่ยจะทำให้มันมีความยืด
01:21:21 → 01:21:24 หยุ่นมากขึ้นอืและที่สำคัญมีใครชอบรร้อง
01:21:24 → 01:21:29 เพลงมคะชอบฟังร้องก้อนก็ได้จะบอกว่ารอง
01:21:29 → 01:21:31 วิธีการนี้มันจะทำให้เราอ่ะร้องเพลงได้
01:21:31 → 01:21:34 เพราะขึ้นกลางวานขึ้นเพราะมันคือวิธีการ
01:21:34 → 01:21:38 เปล่งเสียงที่มาจากทางเดินหายใจจริงๆอ๋อ
01:21:38 → 01:21:40 ครับเหมือนที่เวลานักร้องเาซ้อมแบบซื่อๆๆ
01:21:40 → 01:21:43 อะไรอย่างเงี้ยใช่ใช่มันจะมาค่ะอออกมาเลย
01:21:43 → 01:21:46 ค่ะโอเคค่ะตอนนี้น่าจะใกล้เวลาแล้วอีกสัก
01:21:46 → 01:21:48 2 นาทีครับคุณหมอครับผมระหว่างนี้คุณหมอ
01:21:48 → 01:21:50 อยากจะร้องเพลงให้ทุกคนฟังมั้ยครับโจะดี
01:21:50 → 01:21:55 แซเล่นครับ่ะท้าได้รับขนมบ้างคะอ่าขนมค่ะ
01:21:55 → 01:21:59 ขนมับๆนี่เลยครับผมได้มาเดี๋ยวขนมมาเลยนะ
01:21:59 → 01:22:03 ครับผมโอคขนมเครื่องดื่มด้วยไม่ได้อีกค้า
01:22:03 → 01:22:07 ในส่วนอ่ะคราวนี้ไหนๆก็ไหนๆค่ะเล่าสู่กัน
01:22:07 → 01:22:10 ฟังครับคือการรับประทานอาหารเนี่ยในช่วง
01:22:11 → 01:22:13 บ่ายเนี่ยประมาณสัก 14:00 15:00 นเนี่ย
01:22:13 → 01:22:15 มันจะช่วยทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเนี่ยคง
01:22:15 → 01:22:18 ที่แต่เราอาจจะไม่ต้องเน้นแบบหนักคือ
01:22:18 → 01:22:20 อย่างเนี่ยของว่างที่วันนี้ร้านมีวนา
01:22:20 → 01:22:22 เนี่ยเขาเตรียมไว้ให้เราค่ะมันจะเป็นอ่า
01:22:22 → 01:22:25 พี่แหม่มพี่แหบเป็นอะไรนะนางแบแบบนแบบอ่ะ
01:22:25 → 01:22:28 ือถือไว้พี่ถือไว้แป้งอ่าแป้งมีแป้งน้อยๆ
01:22:28 → 01:22:31 บางคนบอกไม่กินแป้งเลยคำตอบคือไม่ได้นะคะ
01:22:31 → 01:22:33 ต้องกินแป้งบ้างเราต้องได้ใช่ค่ะน้องนิว
01:22:33 → 01:22:35 เรายังต้องได้คาร์โบไฮเดรตแต่เป็น
01:22:35 → 01:22:37 คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนคาร์โบไฮเดรตที่มี
01:22:37 → 01:22:40 คุณภาพเนาะอ่ะแล้วก็นอกจากนี้เนี่ยเขาจะ
01:22:40 → 01:22:43 มีฝักผักโทษที่พูดผักไฟเบอร์หรือว่าใย
01:22:43 → 01:22:46 อาหารการรับประทานผักเนี่ยเดี๋ยวหมอดาวจะ
01:22:46 → 01:22:50 พูดอีกทีแนะนำว่าถ้าให้ดีทานช่วงประมาณ
01:22:50 → 01:22:53 สายๆหรือว่าบ่ายๆเหตุผลเพราะบางคนเนี่ย
01:22:53 → 01:22:56 กินผักตอนเช้าท้องจะอืดได้ง่ายในผู้สูง
01:22:56 → 01:22:58 อายุเนื่องจากว่าผักเนี่ยจะค่อนข้างย่อย
01:22:58 → 01:23:01 ยากเน้นว่าเป็นผักที่ผ่านความร้อนแล้วก็
01:23:01 → 01:23:03 อีกเรื่องนึงก็คือว่าถ้ารุ่นใหญ่ผู้สูง
01:23:03 → 01:23:06 อายุค่ะน้องนิวถ้ากินผักตอนเช้ามากเกินไป
01:23:06 → 01:23:09 มันจะทำให้ได้ธาตุโซเดียมในเลือดต่ำพอต่ำ
01:23:09 → 01:23:11 แล้วเราจะทำให้เราเพลียได้ง่ายเพราะ
01:23:11 → 01:23:14 ฉะนั้นพวกผักพวกสลัดอะไรต่างๆเนี่ยเป็น
01:23:14 → 01:23:16 มื้อกลางวันมื้อเที่ยงๆดีกว่าเนาะอ่ะ
01:23:16 → 01:23:19 เพราะงั้นวันนี้ก็ดีเลยช่วงบ่ายนี้เราจะ
01:23:19 → 01:23:22 ได้มีพลังกันต่อไปนะครับแล้วก็พร้อมที่จะ
01:23:22 → 01:23:25 เข้าสู่เต่อไปนั่นเองนะครับผมอคุณหมอนั่ง
01:23:25 → 01:23:27 ก่อนได้เลยนะครับเพราะเดี๋ยวจะเป็นเวที
01:23:27 → 01:23:29 เอ่อเดี่ยวไมโครโฟนของคุณหมอแล้วนะฮะแต่
01:23:29 → 01:23:31 ก็ช่วงนี้ก็ต้อนรับทุกท่านนะครับที่รับชม
01:23:31 → 01:23:34 เราอยู่ผ่านทาง facebook นะครับทาง tiktok
01:23:34 → 01:23:36 แล้วก็ YouTube ของ TNN แล้วก็ TNN
01:23:36 → 01:23:38 Health นะครับต้อนรับกลับเข้ามาในช่วง
01:23:38 → 01:23:40 ครึ่งที่หลังอครึ่งหลังนะครับครึ่ง 2 ของ
01:23:40 → 01:23:44 ในวันนี้ก็คือเอ่องานเสวนาของเรานะ eat
01:23:44 → 01:23:46 Healthy be wealthy นั่นเองนะครับซึ่ง
01:23:46 → 01:23:49 ช่วงนี้สำคัญมากเราอยู่กับแพทย์หญิงฉัดาว
01:23:49 → 01:23:52 จางวังกรหรือว่าคุณหมอดาวนั่นเองนะครับ
01:23:52 → 01:23:55 แพทย์เฉพาะทางสาขาเวชศาสครอบครัวแพทย์
01:23:55 → 01:23:57 วิทยากรชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพและผู้
01:23:57 → 01:24:00 ดำเนินรายการ TE and Health เช่อง 16
01:24:00 → 01:24:02 เดี๋ยวต้องขอเสียงปรบมือดังๆนะสำหรับ FC
01:24:02 → 01:24:05 คุณหมออ้าเพราะฉะนั้นจัดเต็มเลยครับคุณ
01:24:05 → 01:24:07 หมอครับสำหรับเคลดไม่รับสำหรับการดูแลผู้
01:24:07 → 01:24:10 สูงอายุดูแลอย่างไรให้มีความสุขทั้งผู้
01:24:10 → 01:24:12 ที่ให้การดูแลและผู้ที่รับการดูแลเชิญคุณ
01:24:12 → 01:24:16 หมอเลยครับโอเคขอบคุณค่ะ
01:24:16 → 01:24:20 ค่ะก็ถ้าใครง่วงนะคะเดี๋ยวหมอจะเดินเข้า
01:24:20 → 01:24:23 ไปใกล้ๆดังนั้นเราจะตื่นตัวกันตลอดเนาะ
01:24:23 → 01:24:27 เดี๋ยวจะใช้วิธีว่าเอ่อคนที่กดสไลด์ให้
01:24:27 → 01:24:29 หมอก็คืออ่าสไลด์ถัดไปก็ช่วยกดให้หน่อย
01:24:29 → 01:24:32 แล้วกันนะคะโอเคค่ะงั้นไปสไลด์ถัดไปกัน
01:24:32 → 01:24:35 เลยค่ะโอเคก็ตรงนี้เป็นวุฒการศึกษาของหมอ
01:24:35 → 01:24:39 อ่ะสไลด์ถัดไปเลยะกันโอเคตรงจุดนี้ถ้าใคร
01:24:40 → 01:24:43 ยังจำได้สโลแกนนี้หมอยอมรับเลยค่ะว่ามา
01:24:43 → 01:24:45 จากนักการเมืองท่านหนึ่งแต่ไม่ได้เกี่ยว
01:24:45 → 01:24:48 ข้องกับการเมืองหมอชอบตรงจุดที่ว่าเป็น
01:24:48 → 01:24:52 วลีที่ทำให้เรามาฉุกคิดนะคะว่าทำอย่างไร
01:24:52 → 01:24:55 ที่คนเราคนนึงเนี่ยเวลาเรียนน่ะทุกคนจะ
01:24:55 → 01:24:58 เบื่อมีหลายคนถามหมอดาว่าทำไมถึงไม่เบื่อ
01:24:58 → 01:25:02 การเรียนทำไมถึงชอบเรียนคือหมอรู้สึกสนุก
01:25:02 → 01:25:04 ดังนั้นค่ะหมออยากชวนให้พวกเราไม่ว่าจะ
01:25:04 → 01:25:07 อายุเท่าไหร่ก็ตามเราสามารถเรียนรู้ได้
01:25:07 → 01:25:11 ตลอดชีวิตจริงๆแม้กระทั่งนาทีสุดท้ายของ
01:25:11 → 01:25:14 ชีวิตอันนี้บอกไว้เลยดังนั้นรุ่นใหญ่คะ
01:25:14 → 01:25:16 ถึงแม้ว่าตื่นขึ้นมาฉันเกษียณและฉันเป็น
01:25:16 → 01:25:21 สวและสวนี่คือสวยเว้ยใช่ไหมพี่อ้าเฮ้ยแต่
01:25:21 → 01:25:25 จะบอกว่าตราบที่เรายังใช้สมองสมองเก็จะดู
01:25:25 → 01:25:27 แลเรานะคะดังนั้นค่ะอยากให้เกิดการเรียน
01:25:27 → 01:25:30 รู้ให้สนุกในทุกเรื่องอย่างวันเนี้ยเราก็
01:25:30 → 01:25:33 มาเรียนรู้เรื่องของการดูแลสุขภาพกันเล่น
01:25:33 → 01:25:36 ให้มีความรู้คำถามคือเราเป็นรุ่นใหญ่เป็น
01:25:36 → 01:25:40 สูงวัยเล่นได้ไหแล้วทำไมจะเล่นไม่ได้ไพ่
01:25:40 → 01:25:43 ก็เล่นไปเถอะค่ะนะคะก็ไม่ต้องกินตังค์
01:25:43 → 01:25:46 เพื่อนแต่ถ้าจะกินตังค์ก็ไม่ให้ตำรวจรู้
01:25:46 → 01:25:49 ไม่ใช่นะคะคือเอาเป็นว่าเล่นเกมเล่นอะไร
01:25:49 → 01:25:52 ให้มีความสุขแม้กระทั่งเล่นต่อคำนะคะหรือ
01:25:52 → 01:25:54 ว่าร้องเพลงเล่นก็ยังได้
01:25:54 → 01:25:58 แล้วก็อนาคตล่ะอนาคตเราเป็นรุ่นใหญ่เรา
01:25:58 → 01:26:01 เป็นสูงวัยเรามีอนาคตมพี่แหม่มพี่แหม่ม
01:26:01 → 01:26:04 ว่าพี่มีอนาคตมคะมีค่ะกเสียงขอเสียงปบมือ
01:26:04 → 01:26:07 ให้พี่แหม่มค่ะขอบคุณค่ะพี่แหม่มขาอนาคต
01:26:07 → 01:26:10 ของพี่แหม่มก็คือเป็นสาวใหญ่ที่สดใสไงถูก
01:26:10 → 01:26:13 มพี่คือไม่ใช่เราไม่มีอนาคตนะคะการที่เรา
01:26:13 → 01:26:16 อายุ 70 80 90 อย่างน้อยค่ะอนาคตของเรา
01:26:16 → 01:26:18 คือวันพรุ่งนี้เราตื่นมาถ้าเรายังตื่นมา
01:26:18 → 01:26:21 ก็เอ้ยเราก็ยังแข็งแรงไงนี่ไงอนาคตของพวก
01:26:21 → 01:26:24 เราดังนั้นค่ะวลีเนี้ยเนี่ยคืออยากจะบอก
01:26:24 → 01:26:28 ค่ะว่าถึงแม้เราจะเป็นรุ่นใหญ่พยายามให้
01:26:28 → 01:26:31 ตัวเองเนี่ยมีอนาคตนะคะไม่เอาแบบว่าอุ๊ย
01:26:31 → 01:26:34 ขอโทษนะคะแก่กะหลกกะลาไม่เอาไม่ใช่เรานะ
01:26:34 → 01:26:38 คะเราจะต้องสดใสซาบซ่าอ่ะสไลด์ถัดไปค่ะ
01:26:38 → 01:26:41 คราวนี้พาร์ทแรกหมอแบ่งเป็น 2 พาร์ทพาร์ท
01:26:41 → 01:26:44 แรกคืออะไรอ่ะสไลด์ถัดไปเลยเรามาดูกันว่า
01:26:44 → 01:26:48 พวกเราอยู่ในวัยไหนอ่ะมีใครอยู่ในวัยไหน
01:26:48 → 01:26:51 บ้างแซมมี่อยู่ในวัยไหนกันดีคะขอขอหน้ามา
01:26:51 → 01:26:54 อ่ะแซมมี่บอกอยู่ในวัยภาพที่ 2 นะคะโอเค
01:26:54 → 01:26:57 เป็นแซแซมมี่บอกเป็นเป็นสาวน้อยนะคะเริ่ม
01:26:57 → 01:27:01 พ้นจากวัยรุ่นนิดนึงโอเคภาพนี้หมอดาวบอก
01:27:01 → 01:27:03 ไว้ก่อนว่าเกิดแก่เจ็บตายอย่างไรก็เป็น
01:27:03 → 01:27:06 เรื่องธรรมชาติถึงแม้จะไม่ใช่
01:27:06 → 01:27:08 พุทธศาสนิกชนแต่มันเป็นเรื่องธรรมชาติ
01:27:08 → 01:27:10 อย่างการที่หมอดาวเนี่ยเรียนเขาเรียกว่า
01:27:10 → 01:27:13 เวชศาสตร์ชะลอไว้และฟื้นฟูสุขภาพนะคะพวก
01:27:13 → 01:27:16 เราไม่ใช่ว่าเรียนแล้วแบบอุ๊ยไม่ตายไม่
01:27:16 → 01:27:19 เจ็บไม่ใช่แต่ทำอย่างไรให้ชะลอความเจ็บ
01:27:19 → 01:27:22 ความป่วยทำอย่างไรให้คุณภาพชีวิตดีที่สุด
01:27:22 → 01:27:26 สวยหล่อสมวยที่สุดนั่นต่างหากอ่ะสไลด์ถัด
01:27:26 → 01:27:30 ไปเลยคราวนี้มาดูสาเหตุของความแก่ชรากัน
01:27:30 → 01:27:35 บ้างวลีพวกเนี้ยหมอคิดเองเป็นภาษาไทยตอน
01:27:35 → 01:27:38 เด็กๆเนี่ยหมอมีความน้อยใจที่บ้านอย่าง
01:27:38 → 01:27:41 นึงตรงที่ว่าหมออยากเรียนภาษาแต่ว่าที่
01:27:41 → 01:27:43 บ้านเนี่ยด้วยความที่คุณแม่เนี่ยเป็น
01:27:43 → 01:27:46 พยาบาลคุณแม่ก็เออเนาะนึกออกใช่มั้ยคะ
01:27:46 → 01:27:48 ครอบครัวไทยก็อยากให้ลูกเนี่ยเรียนทาง
01:27:48 → 01:27:51 ด้านการแพทย์เราก็รู้สึกน้อยใจว่าเราไม่
01:27:51 → 01:27:54 ได้ใช้ความรู้ทางด้านภาษาวันนี้ค่ะหมอดี
01:27:55 → 01:27:58 ใจมากหมอสามารถใช้ความรู้ทางภาษาไทยในการ
01:27:58 → 01:28:03 ที่ทำให้มันคล้องจองกันมาพี่ๆช่วยกันอ่าน
01:28:03 → 01:28:07 อ่ะ 1 2 3 อ่ะอ่านภาษาไทยค่ะอนุมูลอิสล
01:28:07 → 01:28:12 ระวังไว้น้น้ำตาคือมาร้ายมัจุราชเียบ
01:28:12 → 01:28:16 อักเสบภายในอ่ะอ่านต่อค่ะคนพร่องไปไม่
01:28:16 → 01:28:21 สมดุลค่ะสาทิวันละนิดวันละหน่อยอค่ะดค่อย
01:28:21 → 01:28:26 ๆก่อนกทำลายนี่คือสาเหตุของความแก่ชรา
01:28:26 → 01:28:29 เนาะอนุมูลอิสระคืออะไรเดี๋ยวมาเล่าสู่
01:28:29 → 01:28:33 กันฟังทำไมน้ำตาลคือมันร้ายคบกับมันไม่
01:28:33 → 01:28:35 ได้เลยชิวหรือไม่ใช่นะแต่ว่าให้รู้ไว้
01:28:36 → 01:28:38 ก่อนว่าอ๋อคุณน้ำตาลเนี่ยเดี๋ยวยังไง
01:28:38 → 01:28:40 ระวังเขานิดนึงมัจจุราชเนียบอักเสบภายใน
01:28:41 → 01:28:43 คืออะไรและฮอร์โมนคืออะไรรวมถึงสารพิษ
01:28:43 → 01:28:47 แล้วก็ความเป็นกรดมาสไลด์ถัดไปเลยนะคะ
01:28:47 → 01:28:50 ต้องบอกว่าขออนุญาตนำละครไทยมาให้พวกเรา
01:28:51 → 01:28:55 ดูค่ะละครไทยพวกนี้เมีการแย่งส่วนใหญ่่
01:28:55 → 01:28:58 เนี่ยด้วยประชากรหญิงมากกว่าชายทำให้เกิด
01:28:58 → 01:29:01 การแย่งประชากรชายแต่ไม่ใช่ว่าตบตีแย่ง
01:29:01 → 01:29:04 ชิงอะไรแค่นั้นอนุมูลอิสระเปรียบเทียบ
01:29:04 → 01:29:08 เหมือนกันตบตีแย่งชิงกันสไลด์ถัดไปนะคะ
01:29:08 → 01:29:12 อ่าโอเคขอโทษด้วยต้องบอกว่าอย่างงี้ค่ะ
01:29:12 → 01:29:15 หมอหมอไม่ได้ทำสไลด์อนุมูลอิสระไว้แต่มัน
01:29:15 → 01:29:17 จะมีความคล้ายกันเอ่อไม่เป็นไรเอาเอา
01:29:17 → 01:29:20 สไลด์ถัดไปก่อนสไลด์สลดนี้ก่อนมันคล้าย
01:29:20 → 01:29:22 กันคืออย่างนี้ค่ะเมื่อกี้อนุมูลอิสระ
01:29:22 → 01:29:25 แล้วก็เรื่องของน้ำตคือมารร้ายเนี่ยมี
01:29:25 → 01:29:27 ความใกล้เคียงตรงจุดที่ว่ามันคือการเกาะ
01:29:27 → 01:29:30 กันและแย่งกันถ้าเรื่องของอนุมูลอิสระ
01:29:30 → 01:29:32 เหมือนอย่างเงี้ยค่ะทีมงานของเรานั่งอยู่
01:29:32 → 01:29:34 แล้วมีแสงแดดถ้าเราปล่อยให้เขานั่งเนี่ย
01:29:34 → 01:29:37 ค่ะแล้วแสงแดดส่องหนังหน้าเานะคะผิวหน้า
01:29:37 → 01:29:41 เาเชื่อไหมว่าฝั่งที่โดนแดดทุกคนดูหน้า
01:29:41 → 01:29:44 ของน้องเนะคะฝั่งที่โดนแดดเนี่ยจะมีโอกาส
01:29:44 → 01:29:47 หน้าแก่หน้าเหี่ยวมากกว่าอีกฝั่งนึงเพราะ
01:29:47 → 01:29:50 แสงแดดที่ส่องเข้ามาเนี่ยมันจะไปจับมันจะ
01:29:51 → 01:29:53 มีเค้าเรียกว่าอนุมูลอิสระไปจับกับผิว
01:29:53 → 01:29:55 หนังแล้วก็ทำให้ผิวหนังเนี่ยเกิดการ
01:29:55 → 01:29:58 เสื่อมสภาพอนุมูลอิสระเนี่ยมันก็คือสิ่ง
01:29:58 → 01:30:01 ที่เหมือนกับชั้นเขาเรียกว่าไม่เสถียร
01:30:01 → 01:30:03 เหมือนกับมื่อกี้สไลด์ที่คุณผู้หญิงที่
01:30:03 → 01:30:05 เป็นตัวอิจฉาเนี่ยเขาไม่เสถียรเขาไม่มี
01:30:05 → 01:30:08 ความสุขเขาต้องหาผู้ชายมาอยู่ข้างกายดัง
01:30:08 → 01:30:10 นั้นเขาไม่สนว่าผู้ชายคนเนี้ยจะมีเจ้าของ
01:30:11 → 01:30:14 มีภรรยามีนู่นนี่นั่นเขาไม่สนเขาจะเอา
01:30:14 → 01:30:16 เช่นเดียวกับแสงแดดที่ส่องมาที่หน้าน้องเ
01:30:16 → 01:30:18 เนี่ยนะคะก็คือว่ามันก็จะมาจากผิวหนังเา
01:30:18 → 01:30:20 ก็ไม่สนหรอกว่าผิวหนังเนี่ยจะเป็นยังไง
01:30:20 → 01:30:22 เพราะฉะนั้นถ้าน้องเนั่งอยู่อย่างเงี้ย
01:30:22 → 01:30:24 เป็นเวลา 30 วันหน้าฝ่งเจะเหี่ยวกับหน้า
01:30:24 → 01:30:28 ฝั่งนี้กลับมาที่เราสาวๆใครขับรถเองบ้าง
01:30:28 → 01:30:31 คะหมอดาวก็ขับรถเองสังเกตหน้าตัวเองก็ได้
01:30:31 → 01:30:34 ฝั่งเนี้ยมันจะเหมือนมีกระมีฝ้าหน้าดำ
01:30:34 → 01:30:37 กว่าฝั่งขวาหรือถ้าออฟฟิศเรานะคะอยู่ใกล้
01:30:37 → 01:30:40 หน้าต่างฝั่งไหนฝั่งนั้นก็จะโดนแดดมาก
01:30:40 → 01:30:43 กว่านี่แหละคืออนุมูลอิสระยังไม่จบแค่
01:30:43 → 01:30:46 นั้นในเรื่องของน้ำตาลนะคะคล้ายกันตรงจุด
01:30:46 → 01:30:49 ที่ว่าเป็นการจับอีกเหมือนกันน้ำตาลไม่
01:30:49 → 01:30:52 ใช่สิ่งที่เลวร้ายแต่ต้องมีพอดีพอเหมาะ
01:30:52 → 01:30:55 เนาะหมายความว่ายังไงหมายความว่าเวลาที่
01:30:55 → 01:30:58 เราอยู่เนี่ยเราใช้ชีวิตอยู่ค่ะพลังงาน
01:30:58 → 01:31:01 ของเราคือน้ำตาลในกระแสเลือดแต่มันต้องมี
01:31:01 → 01:31:04 พอดีที่จะเลี้ยงเซลล์สมองแต่ถ้ามันมาก
01:31:04 → 01:31:07 เกินควนมันจะไปจับตามเส้นเลือดทำให้เส้น
01:31:07 → 01:31:09 เลือดแข็งแข็งแรงจะแข็งแรงใช่มั้ยคะมันจะ
01:31:09 → 01:31:12 กลายเป็นยืดหยุ่นใช่มั้ยคะมันจะกลายเป็น
01:31:12 → 01:31:16 เปราะแข็งแรงยืดหยุ่นกลายเป็นเปราะถ้าน้ำ
01:31:16 → 01:31:20 ตาลไปเกาะที่ผิวหน้าหน้าก็จะหยาบก้านถ้า
01:31:20 → 01:31:22 น้ำตาลไปเกาะตามอวัยวะส่วนต่างๆเซลล์
01:31:22 → 01:31:25 เนื้อเยื่อต่างๆก็จะเสือเสื่อมไปแต่ไม่
01:31:25 → 01:31:27 ใช่ว่ากินไม่ได้เลยกินได้แต่ต้องพอดีพอ
01:31:27 → 01:31:31 เหมาะน้ำตาลไปเกาะที่เลนตาทำให้รุ่นใหญ่
01:31:31 → 01:31:34 ผู้สูงอายุเป็นต้ออะไรคะตกกต้อกระจกเก่ง
01:31:34 → 01:31:37 มากถึงแม้คุณจะเปลี่ยนเลนตาไปปึ๊บแต่ทำไม
01:31:37 → 01:31:39 ยังมองไม่เห็นเพราะน้ำตาลไปเกาะที่เส้น
01:31:39 → 01:31:42 ประสาทที่อยู่ในลูกกตาทำให้ถึงแม้เปลี่ยน
01:31:42 → 01:31:45 เลนตาแล้วต้อกระจกตรงนี้เปลี่ยนกระจกและ
01:31:45 → 01:31:49 จากกระจกฝ้าๆเป็นกระจกใสๆแต่ข้างในเส้น
01:31:49 → 01:31:52 เลือดยังมีปัญหาก็มองไม่เห็นอยู่ดีเพราะ
01:31:52 → 01:31:54 ฉะนั้นทำไมถึงบอกน้ำตาลคือร้ายแต่ไม่ใช่
01:31:54 → 01:31:57 ว่าเขาเลวร้ายไปทั้งหมดย้ำเอาไว้ก่อนโอเค
01:31:57 → 01:32:00 มคะเพราะบางคนก็มีในทางกลับกันเป็นประเภท
01:32:00 → 01:32:03 สุดโด่งสุดขั้วคือไม่ยอมกินน้ำตาลเลยไม่
01:32:03 → 01:32:05 กินหวานเลยปรากฏระดับน้ำตาลในเลือดต่ำก็
01:32:05 → 01:32:09 หิวก็โหยดังนั้นให้พอดีค่ะการรับประทาน
01:32:09 → 01:32:11 อาหารกลุ่มน้ำตาลความหมายก็คือว่าให้กิน
01:32:11 → 01:32:14 ที่มันอยู่ในธรรมชาติของมันแล้วเช่นเรา
01:32:14 → 01:32:17 กินข้าวข้าวกล้องมีใยอาหารหรืออย่างขนม
01:32:17 → 01:32:20 ปังอย่างเงี้ยเป็นขนมปังโวทเขามีใยอาหาร
01:32:20 → 01:32:23 มีน้ำตาลอยู่ในตัวแป้งขนมปังของเขาอยู่
01:32:23 → 01:32:25 แล้วถึงเวลาปุ๊บเขาก็เปลี่ยนเป็นน้ำตาล
01:32:25 → 01:32:27 อันนั้นพอดีพอเหมาะก็ไม่ต้องไปเติมเพิ่ม
01:32:27 → 01:32:32 แค่นั้นเองเข้าใจเนาะอ่าสไลด์ถัดไปค่ะการ
01:32:32 → 01:32:34 อักเสบภายในเนี่ยเราจะนึกถึงเวลาอักเสบ
01:32:35 → 01:32:38 เราจะนึกถึงฝีหนองบึ้มใหญ่โตภายนอกแต่
01:32:38 → 01:32:42 จริงๆแล้วสไลด์ถัดไปเลยค่ะการอักเสบภายใน
01:32:42 → 01:32:45 นั้นมันอยู่ภายในร่างกายเบาๆของเราพวกเรา
01:32:45 → 01:32:49 มีใครตรวจเลือดยคะช่วยตรวจดูการทำงานของ
01:32:49 → 01:32:52 ตับคุณพี่ผู้หญิงถ้าประจำเนือนหมดแล้ว
01:32:52 → 01:32:56 เริ่มมีพุงเบาเบาๆมีพุงต้องตรวจด้วยนะคะ
01:32:56 → 01:32:58 การทำงานของตับเพราะว่าไขมันแทรกอยู่ใน
01:32:58 → 01:33:01 ตับทำให้ตับอักเสบได้ตับอักเสบพวกเนี้ย
01:33:01 → 01:33:03 มันจะเป็นการอักเสบที่อยู่ภายในโดยที่เรา
01:33:03 → 01:33:07 ไม่รู้ตัวนอกจากนี้แล้วอ่ะสาวอวบเราน้ำ
01:33:07 → 01:33:09 หนักตัวเกินอย่าได้น้อยใจไปมันจะมีนะอัน
01:33:09 → 01:33:11 นี้บอกไว้เลยคือมันมีเนื้อเยื่อไขมัน
01:33:11 → 01:33:13 เนื้อเยื่อไขมันจะเหนียวนาวทำให้เกิดการ
01:33:13 → 01:33:16 อักเสบได้ง่ายดังนั้นเนี่ยหมอดาวจะบอกคน
01:33:16 → 01:33:19 ไข้ของเรามิตรรักของเราเสมอว่าเฮ้ยอ่ะ
01:33:19 → 01:33:21 อย่างเราเป็นสาวอวบน้ำหนักเกินเหมือน
01:33:21 → 01:33:23 อย่างอาจารย์เมื่อกี้อาจารย์อภิชาตท่านก็
01:33:23 → 01:33:25 บอกเลยว่าว่าเฮ้ยฉันอ้วนอย่างเดียวนะแต่
01:33:25 → 01:33:27 อย่างอื่นไม่มีเอาแบบนั้นเลยอ่ะเราเป็น
01:33:27 → 01:33:30 สาวอวบร่างใหญ่ไม่เป็นไรแต่น้ำตาลระดับ
01:33:30 → 01:33:33 น้ำตาลในเลือดพยายามไม่ให้เป็นเบาหวานไข
01:33:33 → 01:33:35 มันในเลือดพยายามไม่ให้มีอ่ะความดันเอา
01:33:35 → 01:33:38 ให้มันปกติอย่างนี้เป็นต้นนึกออกมั้ยคะ
01:33:38 → 01:33:40 พยายามดูแลในสิ่งที่มันเป็นไปได้บนพื้น
01:33:40 → 01:33:43 ฐานของตัวเราเนาะเพราะฉะนั้นเนี่ยคำว่า
01:33:43 → 01:33:45 อักเสบภายในอย่างที่บอกไปว่าทำไมคุณหมอ
01:33:45 → 01:33:49 เขาถึงขี้บ่นจังขี้ดุจังไขมันในเลือดสูง
01:33:49 → 01:33:52 ด่าเราเหมือนแบบเราไปฆ่าคนมาซึ่งจริงๆ
01:33:52 → 01:33:54 แล้วเ้าเป็นห่วงค่ะคุณหมอแต่ละคนสไตล์
01:33:54 → 01:33:57 ต่างกันคุณหมอบางท่านก็จะเน้นดุหน่อยก็ก็
01:33:57 → 01:33:59 คือเนี่ยแหละค่ะเขาห่วงว่าไขมันที่สูง
01:33:59 → 01:34:01 เนี่ยมันจะไปเกาะมันเหนียวน้ำให้เกิดการ
01:34:01 → 01:34:05 อักเสบของหลอดเลือดเนาะสไลด์ถัดไปค่ะ
01:34:05 → 01:34:08 ฮอร์โมนพร่องไปไม่สมดุลไม่ใช่แค่รุ่นใหญ่
01:34:08 → 01:34:11 ไฟกระพริบนะคะคุณพี่ผู้หญิง 45-55 จะ
01:34:11 → 01:34:14 เริ่มเข้าสู่วัยหมดประจำเดือนนั่นหยถึง
01:34:14 → 01:34:16 ว่าผู้หญิงบางคนค่ะอายุ 40 เริ่มฮอร์โมน
01:34:16 → 01:34:18 กระพร่องกระแพงแล้วเริ่มมีประจำเดือน
01:34:18 → 01:34:23 เพี้ยนใครมีเพื่อนที่ขี้หงุดหงิดขึ้นๆลงๆ
01:34:23 → 01:34:28 งดราม่างี่เง่าเอาแต่ใจเอออาจจะเป็น
01:34:28 → 01:34:31 เรื่องของฮอร์โมนพร่องไปไม่สมดุลคุณผู้
01:34:31 → 01:34:34 ชายก็มีนะคะคุณผู้ชายเนี่ยอาจจะเป็นช่วง
01:34:34 → 01:34:37 50 กว่าพี่ๆผู้ชายที่เป็นผู้บริหารหลาย
01:34:37 → 01:34:41 ท่านค่ะที่เป็นเเรียกว่า CEO เนาะทำไมบาง
01:34:41 → 01:34:44 คนอุ้ยอยู่ๆก็เหมือนแบบสมรรถภาพแบบไม่ใช่
01:34:44 → 01:34:46 เรื่องของพังงเพศนะคะความคิดความอ่าน
01:34:46 → 01:34:49 เสื่อมลงไปเลยเอาแต่ใจตัวเองก็มีเรื่อง
01:34:49 → 01:34:51 นี้เหมือนกันคราวนี้เนี่ยคำว่าฮอร์โมน
01:34:51 → 01:34:53 พร่องไปเนี่ยการตรวจวัดระดับฮอร์โมนใน
01:34:53 → 01:34:56 เลือดก็มีส่วนช่วยแต่บางคนค่ะไปตรวจเลือด
01:34:56 → 01:34:59 แล้วมันยังปกติซึ่งเราต้องดูจากอะไรรู้
01:34:59 → 01:35:02 มั้ยคะดูจากลักษณะที่เราเป็นนิสัยการใช้
01:35:02 → 01:35:05 ชีวิตค่ะสิ่งที่อาจารย์เอ่อให้อาจารย์
01:35:05 → 01:35:07 อภิชาติท่านให้ดูเมื่อกี้ในมี Center ถ้า
01:35:07 → 01:35:10 พี่ๆเปิดอีกทีนะคะอาการเหล่านี้เนี่ยอาจ
01:35:10 → 01:35:13 จะมาจากฮอร์โมนที่พร่องที่เพี้ยนก็ได้ที่
01:35:13 → 01:35:17 ทำให้ทางจิตเรามีปัญหาเนาะอ่ะสไลด์ถัดไป
01:35:17 → 01:35:20 ค่ะสารพิษเนี่ย Second Hand Smoking
01:35:20 → 01:35:22 ด้วยนะคะก็คือการสุบบุหรี่ที่เราไม่ได้
01:35:22 → 01:35:26 สุบที่เราได้ควันความน่ากลัวคือในรุ่นลูก
01:35:26 → 01:35:30 รุ่นหลานเรารุ่นพวกเราถ้าเป็น Generation
01:35:30 → 01:35:32 ที่เรียกว่า Baby Bloomer คือพี่ๆ 60 70
01:35:32 → 01:35:36 ยังสูบบุหรี่ก้นกรองแต่น้องๆใช้คำว่าเด็ก
01:35:36 → 01:35:39 ๆสมัยนี้อายุ 10 กว่า 20 กว่าการสูบ
01:35:39 → 01:35:42 บุหรี่ที่เป็นบุหรี่ไฟฟ้าความน่ากลัวยิ่ง
01:35:42 → 01:35:44 กว่าก้นกรองค่ะเพราะมันไม่มีก้นอะไรมา
01:35:44 → 01:35:47 กรองเลยแล้วก็ด้วยความที่เขาทำเคมีเนี่ย
01:35:48 → 01:35:50 ที่เป็นเคมีสังเคราะห์พวกโลหะหนักรวมไป
01:35:50 → 01:35:54 ถึงว่านิโคตินที่มันแบบ 3% 6 เปอ 99%
01:35:54 → 01:35:56 ถ้าใครเคยรู้นะคะมันเป็นอะไรที่สูงมาก
01:35:56 → 01:35:58 สิ่งเหล่านี้ค่ะมันจะเป็นสารพิษที่ทำให้
01:35:58 → 01:36:04 เกิดการสะสม PM 2.5 เราไม่ได้ว่าใครเอ่อ
01:36:04 → 01:36:08 ร้านกาแฟนี้เราเอากาแฟมาจากจังหวัดอะไรคะ
01:36:08 → 01:36:10 เชียงรายเชียงรายแล้วก็เชียงใหม่ด้วย
01:36:10 → 01:36:14 เชียงใหม่ด้วยอ่าเชียงไฮเชียงใหม่นะเจ้า
01:36:14 → 01:36:16 ซึ่งตรงจุดนี้ถามว่าสิ่งที่เขาช่วยอันนึง
01:36:16 → 01:36:19 เมื่อกี้เราฟังดีๆเช่วยเรื่องลดการ
01:36:19 → 01:36:25 เผาเผาป่าการเผาป่าทำให้เกิด PM 2.5 การ
01:36:25 → 01:36:27 จุดธูปจุดเทียนจุดควันต่างๆก็มีส่วนช่วย
01:36:27 → 01:36:30 ซึ่งถ้าจุดตามความจำเป็นก็โอเคเนาะสิ่ง
01:36:30 → 01:36:32 เหล่านี้แหละทำให้เกิดสารพิษวันละนิดวัน
01:36:32 → 01:36:34 ละหน่อยแต่โอเคเราอยู่กรุงเทพฯเราช่วยได้
01:36:34 → 01:36:37 มยช่วยได้ช่วยกันนะคะสนับสนุนอย่างเงี้ย
01:36:37 → 01:36:40 เราช่วยเขาดื่มกาแฟเคก็ลดการเผาป่าเนาะ
01:36:40 → 01:36:43 ใช่มั้ยคะคุณหมีริอ่าเห็นมทาอินเบาๆให้
01:36:43 → 01:36:47 คุณหมีนะจ๊ะโอเคแค่จะบอกว่าสารพิษวันละ
01:36:47 → 01:36:51 นิดวันละหน่อยเนี่ยมันก็สะสมได้ค่ะกรด
01:36:51 → 01:36:54 คราวนี้หลายๆคนเนี่ยอ่ะหายใจก่อนหายใจตอน
01:36:54 → 01:36:55 นี้มันจะเริ่มง่วง
01:36:55 → 01:36:59 ะเหนื่อยๆใช้สมองมันจะเหนื่อยเนาะจริงๆ
01:36:59 → 01:37:00 เห็นอย่างเงี้ยหมอดาเป็นคนไม่ค่อยชอบใช้
01:37:00 → 01:37:03 สมองนะคะแต่ว่ามันมันต้องใช้อ่ะเนาะอ่ะ
01:37:03 → 01:37:06 หายใจนะคะกรดเนี่ยหมายความว่ายังไงต้อง
01:37:06 → 01:37:08 บอกอย่างนี้นะอ่ะวันนี้ฟังไปได้ความรู้
01:37:08 → 01:37:11 ด้วยความเป็นกรดเต็มที่และความเป็นด่าง
01:37:11 → 01:37:15 เต็มที่นั้นล้วนไม่ดีกับร่างกายแต่ว่า
01:37:15 → 01:37:17 เลือดของเราเนี่ยนะคะเนี่ยอันนี้ Human
01:37:17 → 01:37:19 Blood เนี่ยค่าความเป็นเลือดเนี่ยมันจะ
01:37:19 → 01:37:23 ค่อนข้างไปทางด่างก็คือ 7.4 ความเป็นกลาง
01:37:23 → 01:37:26 เนี่ยค่าค่าพีชที่เป็นกลางคือ 7 หลายๆคน
01:37:26 → 01:37:28 เคยได้ยินการรับประทานอาหารที่เป็นด่าง
01:37:28 → 01:37:30 ถูกมั้ยคะอาหารที่เป็นด่างก็คืออาหารที่
01:37:30 → 01:37:34 มาจากธรรมชาติเช่นกลุ่มผักใบเขียวหรือว่า
01:37:34 → 01:37:37 เป็นปลาเป็นเนื้อสัตว์สีขาวเนาะแล้วก็
01:37:37 → 01:37:40 อาหารกลุ่มที่เป็นแบบเขาเรียกว่าอาหารที่
01:37:40 → 01:37:43 โทรมสุขภาพหน่อยเช่นจังก์ฟู้ดอาหารแปรรูป
01:37:43 → 01:37:46 เนี่ยมันจะทำให้ค่าเลือดค่อนไปทางกรดความ
01:37:46 → 01:37:47 เป็นกรดเนี่ยส่วนใหญ่เนี่ยคือต้องบอก
01:37:48 → 01:37:50 อย่างงี้ค่ะว่าอาหารที่แปรรูปเนี่ยมันจะ
01:37:50 → 01:37:52 มีความเป็นกรดค่อนข้างสูงมันก็จะมีส่วน
01:37:52 → 01:37:56 ที่ทำให้รร่างกายของเราเนี่ยมีการทำลาย
01:37:56 → 01:37:59 อย่างเงียบๆยกตัวอย่างเรื่องของกระดูกพี่
01:38:00 → 01:38:02 ๆผู้หญิงเนี่ยทำไมถึงกระดูกพรุนได้ง่าย
01:38:02 → 01:38:04 เพราะเรื่องราวนึงคือฮอร์โมนเอสโตรเจนมัน
01:38:04 → 01:38:07 ลดลงอีกเรื่องราวนึงคือค่าความเป็นเลือด
01:38:07 → 01:38:10 จินตนาการตามนะเลือดของเราเนี่ยคือมัน
01:38:10 → 01:38:13 ค่อนข้างไปทางด่างคือ 7.4 เป็นกลางคือ 7
01:38:13 → 01:38:16 7 คือน้ำกลั่นเลยนะเลือดของเราคือ 7.4
01:38:16 → 01:38:19 คราวนี้พอเรากินอาหารเป็นกรดเนี่ยค่า
01:38:19 → 01:38:22 เลือดเนี่ยมันจะค่อนไปทางกรดร่างกายเนี่ย
01:38:22 → 01:38:24 ต้องพยายามที่จะทำให้กลับมาเป็น 7.4 ให้
01:38:25 → 01:38:27 ได้เค้าก็เลยเอากระดูกเนี่ยละลายออกมา
01:38:27 → 01:38:31 ละลายกระดูกออกมาเพื่อให้แร่ธาตุแคลเซียม
01:38:32 → 01:38:34 แมกนีเซียมจากกระดูกเนี่ยใส่ลงไปในน้ำ
01:38:34 → 01:38:37 เลือดทำให้จากค่าความเป็นกรดตรงเนี้ย
01:38:37 → 01:38:40 เลือดมาเป็นด่างมากขึ้นพอละลายกระดูก
01:38:40 → 01:38:44 กระดูกมันก็เลยสลายสลายก็เลยเกิดภาวะ
01:38:44 → 01:38:47 กระดูกพรนได้ง่ายมันเลยเป็นเหตุผลหนึว่า
01:38:47 → 01:38:50 ทำไมถึงสนับสนุนให้กินอาหารที่ค่อนไปทาง
01:38:50 → 01:38:52 ด่างร่วมด้วยเพื่อช่วยป้องกันเรื่องของ
01:38:52 → 01:38:58 กระดูกพุนเห็นภาพเนาะสไลด์ถัดไปค่ะสมอง
01:38:58 → 01:39:00 เสื่อมความจำอัลไซเมอร์หลงลืมสไลด์เนี้ย
01:39:00 → 01:39:03 ทุกครั้งที่หมอเห็นหมอจะนึกถึงภาพนึงสมัย
01:39:03 → 01:39:06 ที่หมอเรียนเวชศาสตร์ครอบครัวที่
01:39:06 → 01:39:09 รามาธิบดีหมอชอบอันนึงมากๆเลยค่ะคือเขา
01:39:09 → 01:39:12 เรียกว่าโฮ Visit คือไปเยี่ยมบ้านเยี่ยม
01:39:12 → 01:39:14 บ้านเนี่ยเยี่ยมบ้านคนไข้พวกเรารู้ไหมว่า
01:39:15 → 01:39:18 คนไข้ 1 คนคนไข้สมองเสื่อม 1 คนใน
01:39:18 → 01:39:21 ครอบครัวเนี่ยเท่ากับว่าแทบจะป่วยกันทั้ง
01:39:21 → 01:39:25 ครอบครัวเลยนะคะนึงน่าเห็นใจมากคุณป้า
01:39:25 → 01:39:28 ท่านนี้ต้องดูแลอดีตสามีใช้คำว่าอดีตสามี
01:39:28 → 01:39:31 ด้วยนะคืออย่ากันไปแล้วแต่ลูกสาวขอร้อง
01:39:31 → 01:39:34 ให้คุณแม่เนี่ยไปดูแลคุณพ่อเพราะว่าด้วย
01:39:34 → 01:39:36 กันเงินเเก็ก็ไม่ได้มีเงินที่เราจะจ้างคน
01:39:36 → 01:39:40 มาดูแลได้คุณลุงท่านนี้มีภาวะสมองเสื่อม
01:39:40 → 01:39:45 โดยที่ไม่ใช่น่ารักๆรนะคุณลุงอึแล้วเอาอึ
01:39:45 → 01:39:49 ป้ายตามผนังกำแพงบ้านวันดีคืนร้ายบ้าน
01:39:49 → 01:39:54 อยู่ริมซอยปลาอึออกไป
01:39:54 → 01:39:59 อ้าวสนุกไคะฟังดูมันแบบเฮ้ยขำแต่คนอยู่
01:39:59 → 01:40:03 ไม่สนุกเลยไม่สนุกซึ่งการที่หมอเนี่ยทำไม
01:40:03 → 01:40:06 หมอถึงพูดตรงนี้หมอโชคดีมากๆที่หมอได้
01:40:06 → 01:40:08 เรียนภาควิชาเวชศาสตร์ครอบครัวตรงนี้แล้ว
01:40:09 → 01:40:10 ได้ไปเยี่ยมบ้านแล้วได้เห็นภาพนี้นี่คือ
01:40:10 → 01:40:13 ชีวิตจริงของคนไข้สมองเสื่อมไม่ใช่เหมือน
01:40:13 → 01:40:17 หนังที่แบบอุ้ยนั่งแบบว่าเออๆอ๊ๆงงๆไม่
01:40:17 → 01:40:20 ใช่แค่นั้นมันเลยเป็นเหตุว่าเฮ้ยถ้าเรา
01:40:20 → 01:40:23 ช่วยกันป้องกันไม่ให้เกิดความภาวะสมของ
01:40:23 → 01:40:26 เสื่อมกับครอบครัวคนไทยก็เท่ากับว่าเรา
01:40:26 → 01:40:28 ช่วยให้ครอบครัวคนไทยหลายๆครอบครัวเนี่ย
01:40:28 → 01:40:32 สุขภาพจิตดีสุขภาพกายดีถูกมสิ่งที่พูดมา
01:40:32 → 01:40:34 เมื่อกี้ไม่ว่าจะเป็นอนุมูลอิสระไม่ว่าจะ
01:40:34 → 01:40:36 เป็นเรื่องน้ำตาลในเลือดไม่ว่าจะเป็นไข
01:40:36 → 01:40:39 มันในเลือดสูงภาวะสมองเสื่อมอันนึงเขา
01:40:39 → 01:40:42 เรียกว่าวกู demia ชียแปลว่าสมองเสื่อม
01:40:42 → 01:40:46 วกูคือเส้นเลือดเป็นภาวะสมองเสื่อมที่อัน
01:40:46 → 01:40:50 เกิดมาจากเส้นเลือดมีปัญหาคือเบาหวานไข
01:40:50 → 01:40:52 มันความดันเราบอกไม่ได้ว่าเราจะเป็นสมอง
01:40:52 → 01:40:55 เสื่อมหรือเปล่าทำบุญกันเยอะๆนะคะทำบุญ
01:40:55 → 01:40:58 ด้วยด้วยแปกกล้วยก็อาจจะไม่ช่วยนะคะอัน
01:40:58 → 01:41:00 นี้บอกไว้ก่อนอ่ากิงโกะไบโลบาก็อาจจะไม่
01:41:00 → 01:41:02 ช่วยเพราะฉะนั้นต้องช่วยดูแลตัวเองดีที่
01:41:02 → 01:41:06 สุดอ่ะโอเคสไลด์ถัดไปค่ะภาพยนตร์เรื่อง
01:41:06 → 01:41:08 นี้นะคะหลายปีมาแล้วถ้าแนะนำให้ดูก็ไอ้
01:41:08 → 01:41:10 สะพรลอยไอ้ตัวเนี้ยค่ะอีหมามีคิ้วเนี่ย
01:41:10 → 01:41:13 น่ารักมากซึ่งจะบอกว่ามันไม่ใช่แค่ตรง
01:41:13 → 01:41:17 นั้นพี่ๆผู้ใหญ่ทั้งหลายคะอันนี้ฝากทาง
01:41:17 → 01:41:20 รายการ TNN hth เลยถ้าพี่ขับรถแล้วพี่
01:41:20 → 01:41:24 รู้สึกงงๆกับชีวิตพี่แบบเอ๊ะทำไมเราขับรถ
01:41:24 → 01:41:26 แล้วเรารู้สึกโดนบีบแตบ่อยเราโดนด่า
01:41:26 → 01:41:30 บรรพบุรุษบ่อยเฮ้ยพี่พี่อาจจะมีสมอง
01:41:30 → 01:41:32 เสื่อมหรือเปล่าความน่ากลัวอันนึงก็คือ
01:41:32 → 01:41:35 ว่าปัจจุบันประเทศไทยเราเนี่ยยังอนุญาต
01:41:35 → 01:41:38 ให้พี่ๆรุ่นใหญ่ขับรถได้ด้วยใบขับขี่ตลอด
01:41:38 → 01:41:42 ชีวิตถูกมั้ยคะทุกคนคราวเนี้ยตัวเราเอง
01:41:42 → 01:41:44 ต้องรับผิดชอบตัวเองด้วยนะคะพี่ๆไม่ใช่
01:41:44 → 01:41:46 ว่าห้ามพี่ๆขับรถนะคะคุณพ่อหมอก็ยังขับรถ
01:41:46 → 01:41:49 นะคะแต่ว่าเราต้องประเมินตัวเองด้วยว่า
01:41:49 → 01:41:53 ถ้าเราฝ่าฟางสายตาไม่ดีถ้าเราเริ่มงงๆอๆ
01:41:53 → 01:41:55 เนี่ยเนี่ยลองประเมินตัวเองลองไปหาคุณหมอ
01:41:55 → 01:41:57 อย่างเป็นหมอแบบหมอดาวแพทย์เวสสัตว์
01:41:57 → 01:42:00 ครอบครัวแพทย์ผู้ดูแลผู้สูงอายุแพทย์
01:42:00 → 01:42:02 อายุรกรรมหรือจิตแพทย์ก็ได้หรือแม้
01:42:02 → 01:42:04 กระทั่งคุณหมอทั่วไปนะคะก็คือแพทย์เวท์
01:42:04 → 01:42:07 ปฏิบัติทั่วไปลองไปประเมินว่าเอ๊ะเรา
01:42:07 → 01:42:09 เริ่มมีเข้าข่ายสมองเสื่อมมยเพราะบาง
01:42:09 → 01:42:11 ครั้งเราไม่รู้ตัวแต่มันแสดงออกมาให้เห็น
01:42:11 → 01:42:15 ในรูปแบบของการใช้ชีวิตต่างๆเนาะสไลด์ถัด
01:42:15 → 01:42:20 ไปค่ะมันมีอีกเรื่องราวนึงอันนี้ก็ขอพี่
01:42:20 → 01:42:22 น้องชาวไทยไว้ก่อนว่าอย่าเพิ่งไปตีตราตัด
01:42:22 → 01:42:28 สินเราจะมีข่าวเช่นเอ่ออะไรนะคุณปู่ตัณหา
01:42:28 → 01:42:33 กลับยืนแก้ผ้าอยู่หน้าปากซอยยืนช่วยตัว
01:42:33 → 01:42:36 เองนู่นนี่นั่นสิ่งเหล่านี้ขอว่าอย่า
01:42:36 → 01:42:40 เพิ่งไปเบลมไปแบบว่าอะไรกันทางวาจาของเขา
01:42:40 → 01:42:42 เนาะไปคอมเมนต์ก่อนเพราะจริงๆแล้วเนี่ย
01:42:42 → 01:42:45 อาจจะเกิดจากปัญหาสมองเสื่อมก็ได้เช่นกัน
01:42:45 → 01:42:47 ดังนั้นใครที่เป็นญาติโยมทั้งหลายเหล่า
01:42:47 → 01:42:50 นี้ค่ะก็คือถ้าเราเจอเหตุการณ์พวกเนี้ย
01:42:50 → 01:42:54 กรุณาว่าโอเคช่วยพากันมาพบแพทย์ดูแลรักษา
01:42:54 → 01:42:58 นะคะโอเคค่ะสไลด์ถัดไปนะคะสไลด์ถัดไปเลย
01:42:58 → 01:43:02 เอาล่ะก็ถึงได้ย้ำนะคะว่าทำไมถึงเน้นถึง
01:43:02 → 01:43:06 ปัญหานี้เพราะว่าคุณภาพชีวิตที่ดีจนนาที
01:43:06 → 01:43:09 สุดท้ายจะต้องไม่สมองเสื่อมด้วยไป
01:43:09 → 01:43:13 ค่ะสมองเนี่ยมันมีอยู่เค้าเรียกว่าหลาย
01:43:13 → 01:43:16 โหลบหลายส่วนเอาล่ะค่ะพี่ชื่อเล่นชื่อ
01:43:16 → 01:43:18 อะไรคะเล็กครับพี่เล็กยังจำชื่อเล่นได้
01:43:18 → 01:43:22 พี่มีภรรยามั้ยคะไม่มีออไม่มีนะคะเอ่อพี่
01:43:22 → 01:43:25 มีพี่น้องมั้ยคะมีครับโทษนะคะพี่พูดเร็วๆ
01:43:25 → 01:43:27 เลยค่ะพี่น้องพี่มีชื่อเล่นกี่คนอะไรยัง
01:43:27 → 01:43:30 ไงบ้างชื่อเล็กแดงแบบแล้วก็อ้าโหตบเสียง
01:43:30 → 01:43:32 ขอเสียงปบมือให้พี่
01:43:32 → 01:43:36 ค่ะอันนี้พี่เล็กเรานะคะได้ใช้สมองส่วน
01:43:36 → 01:43:39 อะไรบ้างพี่เล็กได้ใช้สมองส่วนการรับฟัง
01:43:40 → 01:43:43 ส่วนภาษาพี่ยังพอนึกคิดคำออกก็ได้ใช้เา
01:43:43 → 01:43:46 เรียกว่าใช้สมองส่วนหน้าด้วยมีการตอบโต้
01:43:46 → 01:43:49 กับหมอดาวด้วยนะคะใช้สมองส่วนกลางด้วย
01:43:49 → 01:43:53 อย่างนี้เป็นต้นพี่ๆคะมาคิดเลขกันค่ะอ่า
01:43:53 → 01:43:56 100 - 7 เป็นเท่าไหร่คะ 93 93 - 7
01:43:56 → 01:43:58 เป็นเท่าไหร่คะ
01:43:58 → 01:44:03 8 อ้า 8 80 เท่าไหร่ 90 93 - 7 เท่า
01:44:03 → 01:44:05 ไหร่คะ 86 86 - 7
01:44:05 → 01:44:10 ค่ะเฮ้ย 9 79 - 7 ค่ะ 79 - 7 72
01:44:10 → 01:44:14 โอเคพอก่อนโทษนะทีมงานขอขอน้ำให้หมอดาว
01:44:14 → 01:44:18 หน่อยค่ะเสียงหายเสียงหายเอาล่ะเอา
01:44:18 → 01:44:23 ล่ะเปิดเลยเปิดเลยขออนุญาตอ่าขออนุญาตยก
01:44:23 → 01:44:27 ดื่มนะคะอ่ะให้ทายกันว่าเราใช้สมองส่วน
01:44:27 → 01:44:31 ไหนในการคิด
01:44:31 → 01:44:34 เลขสมองส่วนหน้า
01:44:34 → 01:44:39 อ่าพี่ๆคะนี่สีอะไรคะน้ำเงินสีน้ำเงินอ่ะ
01:44:39 → 01:44:41 สีน้ำเงินบ้างว่าสีฟ้าอ่ะโอเคพี่คะนี้สี
01:44:41 → 01:44:44 อะไรคะเขียวเขียวก็ได้ใช้สมองส่วนส่วน
01:44:44 → 01:44:48 หลังพี่ๆคะใช้สมองกันด้วยนะคะคือไม่ได้
01:44:48 → 01:44:51 ด่านะคะหมายความว่ายังไงหมายความว่า
01:44:51 → 01:44:55 พยายามให้ใช้สมองด้วยอันนี้พูดจริงเวลา
01:44:55 → 01:44:57 ที่ไปเนี่ยอย่างอย่างเช่นมีลูกค้ามาซื้อ
01:44:57 → 01:45:01 กาแฟอย่าทำหน้าอย่างงั้นใส่หมอสิคะคือ
01:45:01 → 01:45:03 เวลาที่มีลูกค้ามาซื้อกาแฟนอกจากจิ้ม
01:45:03 → 01:45:05 เครื่องคิดเลขแล้วลองพยายามใช้เพราะสมอง
01:45:05 → 01:45:09 ส่วนไหนที่ไม่ใช้มันลืมจริงๆรวมถึงการพูด
01:45:09 → 01:45:13 คุยด้วยเราถ้าไม่ใช้ภาษาเราก็จะเหมือนคน
01:45:13 → 01:45:17 แบบนึกคำไม่ออกอ่ะทุกคนหันมาทางนี้สิ่ง
01:45:17 → 01:45:19 นี้เรียกว่าอะไร
01:45:19 → 01:45:23 คะโอเคอันนี้เรียกว่าอะไรคะอยอ่ะภาษา
01:45:23 → 01:45:26 อังกฤษเรียกว่าอะไรเก่งมากสตอนี่ไม่ใช่
01:45:26 → 01:45:29 เขียวๆนะอ่าอันนี้เรียกว่าอะไรแภาษา
01:45:29 → 01:45:33 อังกฤษเรียกว่าเก่งมากพี่ๆเลี่ยงการใช้
01:45:33 → 01:45:37 ไอ้นั่นไอ้นี่ไอ้โน่นโอเคป่ะอ่าไอ้ขาว
01:45:37 → 01:45:39 เฮ้ยไปหยิบไอ้ขาวมาดิไอ้เขียวอยู่ไหนอ่ะ
01:45:39 → 01:45:42 ไอ้นั่นน่ะไอ้นั่นน่ะพี่รู้ไหมว่ามีสามี
01:45:42 → 01:45:45 ภรรยาหลายคนที่บ้านน่ะทะเลาะกันเพราะว่า
01:45:45 → 01:45:48 เธอหยิบไอ้นั่นโอ้ยไอ้นั่นไงไอ้นอ่านึก
01:45:48 → 01:45:50 ออกมั้ยคะพยายามเขาเรียกว่า generate
01:45:50 → 01:45:53 หรือว่าคิดคำพูดว่ามันเรียกว่าอะไรเพราะ
01:45:53 → 01:45:57 ไม่งั้นมันลืมและถ้าใครนะเจ๋งไปกว่านั้น
01:45:57 → 01:46:00 ก็คือรู้ภาษาอังกฤษคิดไทยคำอังกฤษคำได้
01:46:00 → 01:46:03 ยิ่งดีมันจะทำให้เราใช้หรือแม้กระทั่ง
01:46:03 → 01:46:05 รุ่นใหญ่พี่แหม่มคึกๆไปเรียนภาษาจีนเลย
01:46:05 → 01:46:08 หว่ออ้ายีหนีอ้ายหว่อมานู่นนี่นั่นนึกออก
01:46:08 → 01:46:13 มยคะใช่มั้คะแซมมี่อ่านะคะเ้ายอ่ะนะคะแซว
01:46:13 → 01:46:16 น้องหน่อยอ่าโอเคเพราะฉะนั้นสมองของเรา
01:46:16 → 01:46:20 เราเลือกเองอ่าสไลด์ถัดไปนะคะขยับแข้ง
01:46:20 → 01:46:23 ขยับขากันค่ะอ้าพี่ๆขยับแข้งสไลสไลด์ถัด
01:46:23 → 01:46:26 ไปไม่ใช่หัวไหล่ตูดนะคะหมอรู้นะคะหลายคน
01:46:27 → 01:46:29 แอบคิดหัวไหล่เข่าเอาหัวก่อนค่ะอ่าเริ่ม
01:46:29 → 01:46:33 ที่หัวสไลด์ถัดไปหัวนะคะนั่งหลังตรงๆนะคะ
01:46:33 → 01:46:37 หัวเนี่ยนะพี่เราต้องใช้หัวถูกมั้ยคะแต่
01:46:37 → 01:46:41 ปัญหาชีวิตคือเราก้มมากกว่าเงยพี่ๆคะถ้า
01:46:41 → 01:46:46 วันนี้เราก้มเยอะให้เราเงยเวลาเงยนะคะอืม
01:46:46 → 01:46:48 อ่ะพี่ขาเชิญ
01:46:48 → 01:46:51 ค่ะมีโมเดลให้หมอหน่อยอ่านั่งๆขออนุญาตนะ
01:46:52 → 01:46:54 คะพี่ชื่อเล่นชื่ออะไรนะคะไม่มีชื่อมาลี
01:46:54 → 01:46:57 พี่มาลีนั่นแหละชื่อมาเล่เอ้มาเล่มาลี
01:46:57 → 01:47:01 มาลีขอโทษพี่มาลีขาพี่มาลีลองค่อยๆหงาย
01:47:01 → 01:47:06 ศีรษะไปให้สุดโอเคแล้วค้างไว้อันนี้คือ
01:47:06 → 01:47:08 สุดของเราให้ลองเทสแบบนี้ก่อนอ่ะคราวนี้
01:47:08 → 01:47:12 พี่มลีขากลับมานะคะให้นับ 1 2 3 4
01:47:12 → 01:47:15 แล้วก็หงายไปให้สุดะค้างไว้ 4 วินาทีเนาะ
01:47:15 → 01:47:20 อ่ะเริ่มค่ะ 1 2 3 4 อ่ะหงายให้สุด
01:47:20 → 01:47:25 แล้วก็ค้างไว้ค่ะ 1 2 3 4 ค่อยๆกลับมา
01:47:25 → 01:47:31 ค่ะ 1 2 3 4 อ่ะตั้งตรงก่อนนะคะไม่แนะ
01:47:31 → 01:47:34 นำให้ใช้มือไปหันไปซ้ายไปขวาเพราะอะไรรู้
01:47:34 → 01:47:36 มมเพราะกล้ามเนื้อมือมันแข็งแรงกว่าก้า
01:47:36 → 01:47:40 กล้ามเนื้อคอใครที่คอเคล็ดพวกคุณผู้ชาย
01:47:40 → 01:47:43 ชอบป๊อกๆใช่มตัวเองเอออย่าสะบัดอย่างงั้น
01:47:43 → 01:47:46 เดี๋ยวตีเลยการสะบัดป๊อกๆพวกเนี้ยจะทำให้
01:47:46 → 01:47:50 กระดูกคอเคลื่อนและทำให้คอมันเคล็ดและ
01:47:50 → 01:47:53 ระยะยาวเนี่ยมันจะมีผลได้กระดุกคอเสื่อม
01:47:53 → 01:47:56 ได้นะตัวเองห้ามทำนะคราวนี้ยังไม่จบแค่
01:47:56 → 01:47:58 นั้นอันนี้ไปข้างหลังคราวนี้พี่มาลีขาย
01:47:58 → 01:48:01 ลุกขึ้นก่อนค่ะพี่เป็นหนางแบบของหมออ่ะ
01:48:01 → 01:48:04 นั่งค่ะอุ๊ยโทษค่ะพี่อ่ะนั่งคราวนี้พี่
01:48:04 → 01:48:07 มาลีศีรษะพี่อย่างงี้ใช่มเดี๋ยวพี่โยกไป
01:48:07 → 01:48:09 อย่างนี้นะเหมือนมๆเหมือมันเหมือนดอกไม้
01:48:09 → 01:48:12 นะยากนะไม่ใช่เอียงนะหัวต้องตั้งตรงนะแต่
01:48:12 → 01:48:14 เอียงเอียงเหมือนเหมือนหมางงอ่ะพี่เคย
01:48:14 → 01:48:18 เห็นหมางงมั้ยแบบนึกออกป่ะอ่ะพี่เวลาแมว
01:48:18 → 01:48:20 งงก็ได้อ่ะแมวงงที่มันแบบคออย่างเงี้ยย
01:48:20 → 01:48:22 คือคือโทษนะพี่อย่างงี้นะโอเคมอ่ะพี่ลอง
01:48:22 → 01:48:26 ทำก่อนไหนทำทำให้สุดซิโอเคได้แค่นี้เนาะ
01:48:26 → 01:48:28 เอาแค่นี้แหละอ่ะมาเริ่มค่ะนับ 1 2 3 4
01:48:28 → 01:48:34 นะคะแล้วก็ลงไปแล้วก็ค้างสิอ่ะ 1 2 3 4
01:48:34 → 01:48:39 ค้างไว้ค่ะค้างไว้ค้างไว้ 1 2 3 4 อ่ะ
01:48:39 → 01:48:43 แล้วก็เอาคอกลับมาค่ะ 1 2 3
01:48:43 → 01:48:47 4 เชื่อไว่าหลายคนไม่ได้ใช้กล้ามเนื้อคอ
01:48:47 → 01:48:49 ด้านข้างพอมันไม่ได้ใช้กล้ามเนื้อมันก็
01:48:49 → 01:48:53 แข็งเกรงพอเราเผลอหันไปแรงๆเร็วๆมันก็เลย
01:48:53 → 01:48:57 คอเคลดง่ายไงการที่เราเนี่ยให้คนอื่นนวด
01:48:57 → 01:49:00 ให้เเรียกว่าเป็น Active พี่ซึ่งเขาอาจจะ
01:49:00 → 01:49:03 นวดเจ็บแต่ถ้าเราทำเองเป็นแบบลักษณะเอ่อ
01:49:03 → 01:49:05 เอ้โทษค่ะสลับกันการที่เคนอื่นเขาทำให้
01:49:05 → 01:49:07 เนี่ยมันเป็น Passive คือเขาทำให้เขาอาจ
01:49:07 → 01:49:10 จะแรงเกินไปแต่ถ้าเราทำเองคือ Active เรา
01:49:10 → 01:49:12 จะรู้ว่าแค่ไหนพอดีพี่มาลีอีกครั้งนึงนะ
01:49:12 → 01:49:15 เอียงไปด้านนี้นะอ่ะเริ่ม 1 เอ้ยด้าด้าน
01:49:15 → 01:49:19 นี้พี่ด้านนี้ก่อน 1 2 3 4 ครั้งไว้
01:49:19 → 01:49:26 ค่ะ 1 2 3 3 4 โอเคอ่าโอเคกลับมาค่ะ 1
01:49:26 → 01:49:31 2 3 4 ทำไมหมอถึงให้นับ 1 2 3 4 ใจ
01:49:31 → 01:49:34 ร้อนหลายคนใจร้อนพอแบบปุ๊บๆกลับมานึกออก
01:49:34 → 01:49:36 มยรุ่นใหญ่เนี่ยปัญหาชีวิตนึงที่เกิด
01:49:36 → 01:49:40 อุบัติเหตุบ่อยเพราะใจเร็วใจร้อนแต่กาย
01:49:40 → 01:49:44 มันไม่ทันอ่าเพราะฉะนั้นคารุ่นใหญ่เราจะ
01:49:44 → 01:49:47 ต้องช้าๆหน่อยช้านี่คือร่างกายให้มันทัน
01:49:47 → 01:49:50 ความคิดพี่คราวนี้ด้านนี้โทษนะพี่มาลี
01:49:50 → 01:49:53 เอียงสุดให้สุดเลยได้แค่นี้เนาะอ่ะได้แค่
01:49:53 → 01:49:56 นี้เอาแค่นี้นะอ่ะโอเคอ่ะมาเริ่มอ่ะกลับ
01:49:56 → 01:50:03 ไป 1 2 3 4 ครั้งไว้นะคะ 1 2 3 4
01:50:03 → 01:50:09 อ่ะกลับไปค่ะ 1 2 3 4 โอเคอันเนี้ยค่ะ
01:50:09 → 01:50:13 คือการที่บริหารกล้ามเนื้อต้นคอหัวคร่าวๆ
01:50:13 → 01:50:16 คือทีมงาน TNN help อย่าลืมนะนั่งดูคอม
01:50:16 → 01:50:19 นานๆก็คือเราส่วนใหญ่เราก้มเพราะฉะนั้น
01:50:19 → 01:50:21 เราต้องเงยบ้างแล้วเราก็กลับมาตรงเราต้อง
01:50:21 → 01:50:25 ซ้ายบ้างบ้างเราต้องขวาบ้างคราวเนี้ยไอ้
01:50:25 → 01:50:28 การหมุนน่ะหมุนซ้ายหมุนขวาเนี่ยคำถามคือ
01:50:28 → 01:50:33 ทำได้ไหมมได้แต่ต้องระวังวืดวืดก็คือวืด
01:50:33 → 01:50:35 อ่ะพี่แมมทำหน้างงทำไมวืบอ่ะวืบอ่ะเพราะ
01:50:35 → 01:50:38 ว่าบางคนเนี่ยคือเราอ่ะเวียนหัวได้ง่าย
01:50:38 → 01:50:41 ดังนั้นน่ะให้ทำแบบนี้ก่อนซ้ายเนี่ยก้ม
01:50:41 → 01:50:45 อ่ะก้มไปข้างหน้าให้สุดเลยเสร็จแล้วตั้ง
01:50:45 → 01:50:48 ตรงแล้วก็เงยไปข้างหลังต้องช้าๆด้วยนะ
01:50:48 → 01:50:52 อย่าเร็วนะแล้วก็เอ่อตรงแล้วก็ซ้ายแล้วก็
01:50:52 → 01:50:56 ตรงแล้วก็ขวาแล้วก็ตรงลองดูเนาะอันนี้คือ
01:50:56 → 01:51:00 กล้ามเนื้อส่วนคออ่ะกลับป่อนพี่มาลีเอาคน
01:51:00 → 01:51:03 อื่นบ้างเดี๋ยวคนเดี๋ยวพี่มาลีเบื่ออ่ะ
01:51:03 → 01:51:09 เชิญคุณพี่คุณพี่ล่ะค่ะค่ะต่อไปไหล่ค่ะมา
01:51:09 → 01:51:12 ค่ะคุณพี่ชื่ออะไรคะอกิจครับชื่อเล่นพี่
01:51:12 → 01:51:16 หมูครับพี่หมูนะคะโอเคพี่หมูขาไหล่เนี่ย
01:51:16 → 01:51:19 ค่ะโทษนะคะพี่หมูขาก่อนหน้านั้นพี่หมูทำ
01:51:19 → 01:51:23 งานลักษณะไหนคะก่อนเกษียณออกนนัตอ๋อนาง
01:51:23 → 01:51:25 โต๊ะเป็นออฟฟิศเป็นเจ้าคนนคนพี่หมูขาพี่
01:51:25 → 01:51:29 หมูลองลองลองอย่างงนี้นะเห็นมะติดติดใช่
01:51:29 → 01:51:31 มมคะพี่หมูขาโอเคพี่หมูงั้นพี่หมูรบกวน
01:51:31 → 01:51:34 ยืนแล้วพี่หมูทำแบบหมอดาวพี่หมูยืนค่ะพี่
01:51:34 → 01:51:38 หมูเอามือนะคะจับกันเองใช่อ่ะหันข้างให้
01:51:38 → 01:51:42 เพื่อนๆพี่ๆน้องๆเรานะคะโอเคโทษนะคะพี่
01:51:42 → 01:51:46 หมูขาเอาฝ่ามือพี่หมูขาข้อศอกให้ตึงที่
01:51:46 → 01:51:48 สุดสิค่ะพี่ลองดึงๆใช้มือดึงดึงข้อศอกดึง
01:51:49 → 01:51:52 ๆดึงลงดึงลงดึงดึงเงยหน้าค่ะกลางคานิดค่ะ
01:51:53 → 01:51:55 พี่หมูแล้วเปิดไหล่เยอะๆ 1 2 3 ดึง
01:51:56 → 01:51:59 โทษนะคะอันนี้นะคะคือการยืดอกให้อก
01:51:59 → 01:52:02 มันตึงค่ะพี่หมูแล้วก็ให้แขนตึงแล้วดึง
01:52:02 → 01:52:10 ไหล่ลงค้างไว้นะพี่หมูนะ 1 2 3 4 5 6
01:52:10 → 01:52:15 7 8 อ้าค่อยผ่อนพี่หมูโล่งขึ้นมโล่งเอา
01:52:15 → 01:52:20 อีกทีนะพี่สู้นะโอเค 1 2 3 เริ่ม 1 2
01:52:21 → 01:52:27 3 4 ดึงเองเลยนะ 5 6 7 8 อ่า
01:52:27 → 01:52:30 ปล่อยสิ่งที่พี่หมูจะได้คือเนื่องจากว่า
01:52:30 → 01:52:33 พี่หมูเนี่ยนะคะเป็นผู้บริหารจะนั่งเนี่ย
01:52:33 → 01:52:35 โทษนะพี่มันจะเป็นเต่าเป็นธรรมชาติเลย
01:52:35 → 01:52:37 กล้ามเนื้อโทษนะขอรูปไลฟ์พี่นิดนึงนะ
01:52:37 → 01:52:40 กล้ามเนื้อช่วงหน้านะพวกเราจำไว้เลยนะมัน
01:52:40 → 01:52:42 จะแข็งแรงกว่ากล้ามเนื้อช่วงหลังดังนั้น
01:52:42 → 01:52:45 ง่ายๆเลยถ้าเราไปเห็นคนนอนติดเตียงเขาจะ
01:52:45 → 01:52:47 นอนเป็นกุ้งกล้ามเนื้อมันจะงอหงิอย่างง
01:52:47 → 01:52:49 นี้เพราะอะไรเพราะว่าเนี่ยนี่คือธรรมชาติ
01:52:49 → 01:52:51 กล้ามเนื้อดังนั้นถ้าเรายังรู้ตัวอยู่
01:52:51 → 01:52:53 เนี่ยการดึงอย่างพี่หมูดึงเนี่ยค่ะมันจะ
01:52:53 → 01:52:56 ทำให้ไหล่เปิดพอไหล่เปิดแล้วเนี่ยพี่หมู
01:52:56 → 01:52:59 จะหายใจได้โล่งขึ้นเพราะว่ากระบังลมต่างๆ
01:52:59 → 01:53:01 แล้วก็ช่วงช่องอกต่างๆเนี่ยมันเปิดนอกจาก
01:53:01 → 01:53:04 เนี้ยเวลาที่เรานั่งค้อมนึกออกมยคะเราใช้
01:53:04 → 01:53:06 กล้ามเนื้อส่วนหน้าไบเซปมากกว่าไตรเซปก็
01:53:06 → 01:53:08 คือกล้ามเนื้อช่วงหลังเพราะฉะนั้นการดึง
01:53:08 → 01:53:11 ตรงเนี้ยจะช่วยทำให้โล่งขึ้นผ่อนคลายขึ้น
01:53:11 → 01:53:14 โอเคค่ะอ่ะขอเสียงปรบมือให้พี่หมูค่ะ
01:53:14 → 01:53:16 ขอบคุณ
01:53:16 → 01:53:22 ค่ะแล้วก็เข่าใครอยากเป็นนางแบบเข่าคะ
01:53:22 → 01:53:25 เข่าใช้เข่ามาเดี๋ยวนะต้องเป็นคุณอยากมี
01:53:25 → 01:53:28 คุณผู้ชายใส่กางเกงขาสั้นไมไม่มีอะไรหรอ
01:53:28 → 01:53:31 ไม่ใไม่มีใครใส่ขาสั้นเลยเหรอพี่หมีอ่ะ
01:53:31 → 01:53:33 คุณ
01:53:33 → 01:53:37 หมีเ้า่ะไม่ต้องเป็นกางเกงอยากอยากให้ให้
01:53:37 → 01:53:41 โชว์หน่อยอตัวแทนหมู่บ้านมาสักคนเอามา
01:53:41 → 01:53:44 เร็วๆๆให้วองให้องมาค่ะมาค่ะบาริสต้า
01:53:44 → 01:53:48 หนุ่มค่ะคุณอะไรนะคะคุณไปมาเลยค่ะคุณไป
01:53:48 → 01:53:52 อาจจะะคุณไผ่อ๋อคุณไผ่อาจจะปวดเขาได้ใน
01:53:52 → 01:53:54 อนาคตเอาเก้าอี้ตัวเล็กให้คุณไผ่หน่อย
01:53:54 → 01:53:58 เก้าอี้เตี้ยมาๆๆเดี๋ยวคุณไผ่เอาไปสอนคุณ
01:53:58 → 01:54:02 แม่นะคะจะเป็นลูกกตัญญูทันทีเรื่องเข่า
01:54:02 → 01:54:05 ทำไมต้องบริหารเหตุผลเพราะว่าถ้าไม่
01:54:05 → 01:54:09 บริหารอ่านั่นก็ได้เฮ้ยต้องเป็นเก้าอี้
01:54:09 → 01:54:14 ที่มีพนักพิงพนักพิงอ่ะตัวนี้ตัวนี้มา
01:54:14 → 01:54:19 ๆเราเน้นไปใช้งานจริงนะคะคุณผู้ชม tn ขา
01:54:19 → 01:54:21 เราเราเน้นทุกอย่างต้องใช้งานจริงอ่าคุณ
01:54:21 → 01:54:25 ไผ่นั่งหันข้างขออนุญาตถอดรองเท้าเลยคุณ
01:54:25 → 01:54:30 ไผ่คะอ่ะนั่งๆอ่าเอ่อมีแอลกอฮอล์นั่นมือม
01:54:30 → 01:54:33 เพราะเดี๋ยวหมอต้องจับเท้าของคุณอ่าเอา
01:54:33 → 01:54:38 วางไว้ไม่เป็นไรต้องบอกก่อนว่าเวลาที่หมอ
01:54:38 → 01:54:41 ดาวสลัดคราบจากพิธีกรเป็นหมอเนี่ยจะค่อน
01:54:41 → 01:54:45 ข้างลูกทุ่งหน่อยนะคะโอเคค่ะทุกคนคะเข่า
01:54:45 → 01:54:47 เนี่ยนะคะต้องบอกว่ามันเสื่อมไปตามไวก็
01:54:48 → 01:54:51 จริงแต่ว่าถ้าเราใช้กล้ามเนื้อพยุงเข่า
01:54:51 → 01:54:53 ได้ดีเนี่ยมันจะช่วยชะลอความเสื่อมเนาะขอ
01:54:53 → 01:54:57 อนุญาตนะจ๊ะคุณไผ่จ๋าฮึบๆๆอ่ะยกตรงนี้
01:54:57 → 01:55:01 ขึ้นมานะคะทุกคนเอื้อมดูเอ้ยตึงดิคุณไผ่
01:55:01 → 01:55:04 เอ้ยอ่ะอย่างงี้นะคะคุณไผ่นั่งนั่งหลัง
01:55:04 → 01:55:06 ตรงนั่งพิงดีๆอ่ะนั่งพิงดีๆมือเอาวางไว้
01:55:06 → 01:55:10 อ่าไม่จับพนักพิงไม่จับอะไรนะมือเพราะว่า
01:55:10 → 01:55:13 เราจะใช้กล้ามเนื้อในการที่พยุงเข่าเป็น
01:55:13 → 01:55:15 หลักสิ่งที่ต้องทำก็คือยกขึ้นมาเกรงค่ะ
01:55:15 → 01:55:18 เกรงค้างไว้และให้นิ้วเนี่ยค่ะงอมากที่
01:55:18 → 01:55:24 สุดคุณไผ่สู้ๆโอเคหมอปล่อยนะนะ 1 2 3 1
01:55:24 → 01:55:33 2 3 4 ค้างไว้ 5 6 7 8 9 10 เอา
01:55:33 → 01:55:36 ลงข้างนี้ค่ะคุณไผ่ขา
01:55:36 → 01:55:43 อ่ะเฮ้ยอย่าเกรงดิอ่ะพร้อมนะนะคะโอเค 1 2
01:55:43 → 01:55:51 3 4 5 6 7 8 9 10 อ่ะวางลงทำ
01:55:51 → 01:55:54 อย่างงี้นะนะคะอย่างน้อยค่ะรุ่นใหญ่ทั้ง
01:55:54 → 01:55:56 หลายจริงๆไม่ต้องรุ่นใหญ่ก็ได้สาวๆ 30 40
01:55:56 → 01:56:01 ก็ทำได้เนาะก็คือ 1 1 2 2 10 10 ทำ
01:56:01 → 01:56:04 10 ครั้งหลังอาหารเช้ากลางวังเย็นก็ได้
01:56:04 → 01:56:07 30 ครั้งถูกมยคุณไผ่มันจะช่วยทำให้ข้อ
01:56:07 → 01:56:10 เข่าเนี่ยก็คือว่าแข็งแรงขึ้นจากการที่
01:56:10 → 01:56:13 มันมีการพยุงของกล้ามเนื้อพูดง่ายๆอ่ะ
01:56:13 → 01:56:16 เสร็จแล้วค่ะไปได้แล้วค่ะขอบคุณค่ะเออคือ
01:56:16 → 01:56:20 ขอเสียงปรบมือนะคะใช่ค่ะทำสลับกันใช่ใช่
01:56:20 → 01:56:22 ค่ะแต่ว่าไม่ทำพร้อมกันนะคะแล้วก็ที่
01:56:22 → 01:56:24 สำคัญเก้าอี้ต้องมีพนักพิงด้วยเพราะอะไร
01:56:24 → 01:56:27 เพราะว่าไม่งั้นเดี๋ยวล้มไม่ใช่เก้าอี้
01:56:27 → 01:56:30 หมุนๆนะพวกเราไม่ใช่แบบเออไม่ได้นะเดี๋ยว
01:56:30 → 01:56:35 ลื่นล้มไม่ได้เลยแล้วก็อ่าค่ะๆทำค่าิครับ
01:56:35 → 01:56:36 ไม่ก็คือเมื่อกี้ที่หมอน้ำเนี่ยหมายถึง
01:56:36 → 01:56:40 ว่าอันนี้ให้คร่าวๆพี่หมูก็คือครั้งที่ 1
01:56:40 → 01:56:44 1 2 2 หมายถึงทำ 10 ครั้งไงอย่างน้อย
01:56:44 → 01:56:48 สลับกันอ๋อแต่นั้นทำทำซ้าย 10 ครั้งขา 10
01:56:48 → 01:56:50 ครั้งได้มก็ได้แต่มันเมื่อยเพราะว่าการ
01:56:50 → 01:56:53 ที่เราทำซ้ายแล้วก็ขวาเนี่ยมันจะได้แบบ
01:56:53 → 01:56:55 เหมือนได้พักด้วยไม่งั้นเดี๋ยวกลายเป็น
01:56:55 → 01:56:57 กล้ามเนื้อเกร็งเป็นตะคิว
01:56:57 → 01:57:00 คือคืออันนี้คือคำนึงถึงการใช้งานจริง
01:57:00 → 01:57:02 ด้วยเนาะโอเค
01:57:02 → 01:57:08 ค่ะเหนื่อยมคะลืมถามอ่าพาร์ท 2 นะคะตอน
01:57:08 → 01:57:11 นี้เรามาถึงครึ่งทางแล้วโอเคค่ะอันนี้อ่ะ
01:57:11 → 01:57:14 เช็ดเช็มือตอนนี้เรามาถึงครึ่งทางแล้วนะ
01:57:14 → 01:57:20 คะมีคำถามมคะระหว่างนี้อ่ะๆๆในในผู้สูง
01:57:20 → 01:57:24 อายุอ่ะครับไม่ควรที่จะนั่งแเตะขาเตะเข่า
01:57:24 → 01:57:26 ใช่มั้ยครับเพราะว่าเราจะเห็นผู้ใหญ่หลาย
01:57:26 → 01:57:29 ๆคนที่แบบชอบาใช่ค่ะถูกต้องไม่ควคืออย่าง
01:57:29 → 01:57:32 งี้ค่ะพี่การที่นั่งเตะขาเล่นเนี่ยคือเตะ
01:57:32 → 01:57:35 แบบแบบไร้จุดหมายเนี่ยมันไม่ใช่นะคะมัน
01:57:35 → 01:57:38 ไม่ใช่การบริหารที่ถูกต้องคือเราต้องกลับ
01:57:38 → 01:57:41 มาที่ว่าการบริหารอะไรเนี่ยเราเราเอ่อ
01:57:41 → 01:57:43 ต้องบอกอย่างงี้ก่อนเราบริหารส่วนนั้น
01:57:43 → 01:57:46 เนี่ยเราทำอะไรอยู่ต้องถามตัวเองก่อนการ
01:57:46 → 01:57:49 ที่นั่งแล้วเตะเะขาเตะขาไปมาอย่างเงี้ย
01:57:49 → 01:57:52 ถามว่ามันได้กล้ามเนื้อส่วนไหนจริงๆมยเรา
01:57:52 → 01:57:54 ต้องการให้กล้ามเนื้อมันแข็งแรงแต่การที่
01:57:54 → 01:57:56 เราเตะแกว่งไปมาเนี่ยมันไม่ได้ทำให้กล้าม
01:57:56 → 01:57:58 เนื้อตรงนี้แข็งแรงเท่าไหร่แต่มันคือการ
01:57:58 → 01:58:02 ที่ให้เข่ามันเสียดๆดๆมากกว่าแต่ถ้าบอก
01:58:02 → 01:58:06 ว่าเฮ้ยอันนี้นะเราลงกระโดดลงไปในสระว่าย
01:58:06 → 01:58:08 น้ำแล้วเราก็เดินหรือเราตีขาในน้ำ
01:58:08 → 01:58:11 อันเนี้ยมันจะมีแรงหน่วงจากน้ำเนาะโอเค
01:58:11 → 01:58:14 อ่ะทุกคนหายใจเข้าออกลึกๆตอนนี้ออกซิเจน
01:58:14 → 01:58:17 มันจะหลดมันจะน้อยลงเนาะอากาศเริ่มร้อนนะ
01:58:17 → 01:58:20 คะเดี๋ยวเราต้องติดแอร์เพิ่มนะคะพี่หมีขา
01:58:20 → 01:58:23 ต่อไปอ่าอ่ะเรื่องของอาหารเสริมเมื่อกี้
01:58:23 → 01:58:27 อาจารย์พูดไว้แล้วนิดนึงเนาะหมอออยากแย้ม
01:58:27 → 01:58:31 เหลือเกินเหมือนกันคำว่าฟังดีๆนะพวกเราคำ
01:58:31 → 01:58:36 ว่ากินอาหารให้เป็นยาคำว่าออกกำลังกายคำ
01:58:36 → 01:58:38 ว่าใช้ชีวิตได้อย่างสดใสอย่าให้เกิดภาพ
01:58:38 → 01:58:42 นี้เพราะหลายๆคนเนี่ยพอป่วยมากๆแล้วเนี่ย
01:58:42 → 01:58:44 กลายเป็นว่าเาต้องกินยาเหมือนกินอาหารเลย
01:58:44 → 01:58:49 คือยาๆๆๆาและยาแต่ถ้าหากจำเป็นจริงๆนะจ๊ะ
01:58:49 → 01:58:52 มันก็คือต้องกินแต่ทางนี้คุยกับแพทย์ที่
01:58:52 → 01:58:56 เป็นเจ้าของไข้เราว่าเราสมควรหรือว่าต้อง
01:58:56 → 01:59:00 ใช้ยาอะไรใช้ให้มันน้อยที่สุดใช้เท่าที่
01:59:00 → 01:59:03 จำเป็นที่สุดเนาะส่วนในเรื่องอาหารเสริม
01:59:03 → 01:59:05 เนี่ยถ้าเป็นภาษาอังกฤษเราใช้คำศัพท์ว่า
01:59:05 → 01:59:08 feel the Gap Gap คือช่องว่างฟิวคือ
01:59:08 → 01:59:11 เติมเต็มส่วนที่ขาดหายไปดังนั้นถ้าเรา
01:59:11 → 01:59:15 มั่นใจแบบสุดๆชีวิตสุดฤทธิ์สุดเดชเช่นเรา
01:59:15 → 01:59:18 ได้กินอาหารที่เป็นปลาทะเลน้ำลึกเราได้
01:59:18 → 01:59:21 โอเมก้า 3 จริงๆนะจ๊ะอ่าเราได้ผักใยอาหาร
01:59:21 → 01:59:24 จริจริงๆเราได้โปรตีนถึงมันไม่จำเป็นแต่
01:59:24 → 01:59:29 ถ้าเราไม่แน่ใจเราคำนวณดูแล้วเราช่างตวง
01:59:29 → 01:59:32 วัดดูแล้วเราจาเลือดดูแล้วมันขาดโอเค
01:59:32 → 01:59:34 อาหารเสริมเป็นทางเลือกหนึ่งคือ fel The
01:59:34 → 01:59:38 Gap เหมือนกับมันคือทางเลือกมันไม่ใช่
01:59:38 → 01:59:40 สิ่งเลวร้ายหรือไม่ใช่ว่าอุ๊ยมันคือเทวดา
01:59:40 → 01:59:44 ดีเวอร์ไม่ใช่ในเรื่องของการเกิดโรคโรค
01:59:44 → 01:59:48 ต่างๆมันมีขาของมันคือกว่าที่จะเป็นโรค
01:59:48 → 01:59:51 เนี่ยมันคือความไม่สมดุลอาหารเสริมอาจจะ
01:59:51 → 01:59:54 ช่วยทำให้ชีวิตมันสมดุลขึ้นถ้าเราขาดอจาก
01:59:54 → 01:59:58 อาหารหลักมันเลยทำให้เกิดเหตุที่ว่าเออ
01:59:58 → 02:00:00 ถ้าเราเข้าใจความเป็นจริงของคอนเซปเขา
02:00:00 → 02:00:04 เนี่ยเราจะใช้ได้อย่างที่ถูกที่ควรการดู
02:00:04 → 02:00:06 แลสุขภาพไม่ใช่แค่มิติเดียวคือเฮ้ยฉันกิน
02:00:06 → 02:00:08 อาหารอย่างเดียวไม่ออกกำลังกายฉันกิน
02:00:08 → 02:00:10 อาหารเสริมอย่างเดียวไม่ออกกำลังกายหรือ
02:00:10 → 02:00:12 ฉันออกกำลังกายอย่างเดียวฉันไม่กินอาหาร
02:00:12 → 02:00:14 อะไรอาหารไม่ต้องเยอะแยะไม่ใช่ทุกอย่าง
02:00:14 → 02:00:18 ต้องสมดุลอีก 2 มิติคือการนอนหลับแล้วก็
02:00:18 → 02:00:21 การขับถ่ายเดี๋ยวหมอดาวจะพูดเนาะอันนี้
02:00:21 → 02:00:23 คือทางเลือดซึ่งหมอไม่อยากให้คนไทยยทั่ว
02:00:23 → 02:00:26 ประเทศเป็นขานี้เลยถึงได้มาพูดกันในวัน
02:00:26 → 02:00:30 นี้ว่าอยากให้เป็นขานี้สไลด์ถัดไปค่ะอีก
02:00:30 → 02:00:32 ครึ่งชั่วโมงก่อนที่คุณหมอแผนจีจะมาหมอ
02:00:32 → 02:00:34 ดาวจะพูดเรื่องกินนอนขับไถยออกกำลังกาย
02:00:34 → 02:00:38 สู้ยพวกเราโอเคสู้สู้นี่ 2 2 คนนี่สู้นะ
02:00:38 → 02:00:42 คนหลังจะจะตายแล้วจ้ะหัวบวมอ่ะสไลด์ถัดไป
02:00:42 → 02:00:47 จ้ะการกินอ่าโอเคสไลด์ถัดไปกินขาดคืออะไร
02:00:47 → 02:00:51 บ้างกินขาดคือสิ่งเหล่านี้คือกลุ่มใย
02:00:51 → 02:00:54 อาหารแล้วก็กลุ่มโปรตีนเรื่องของนมให้
02:00:54 → 02:00:57 ความรู้ง่ายๆค่ะนมวัวเนี่ยต้องบอกก่อนว่า
02:00:57 → 02:01:00 เขาไม่ได้ถึงกับเป็นพิษเป็นไพยแต่ก็เริ่ม
02:01:00 → 02:01:03 มีงานวิจัยว่าบางคนต้องบอกนะบางคนอาจจะ
02:01:03 → 02:01:05 กินแล้วไม่เหมาะกับเค้าไม่ว่าจะเป็น
02:01:05 → 02:01:08 เรื่องน้ำย่อยในการย่อยหรือบางคนเกิดภูมิ
02:01:08 → 02:01:12 แพ้ต่างๆตามมาได้ดังนั้นให้พอบะพอดีบางคน
02:01:12 → 02:01:15 กินชีสได้กินแล้วมีความสุขบางคนกินนมวัว
02:01:15 → 02:01:18 ได้ไม่เกิดผืนแพ้แต่บางคนเป็นดังนั้นต้อง
02:01:18 → 02:01:21 บอกว่าเ่อลังเนื้อชอบลังยาเนาะดังนั้นลอง
02:01:21 → 02:01:24 พิจารณาาเป็นกรณีกรณีไปแต่ที่ดีเนี่ยก็
02:01:24 → 02:01:27 คือพยายามให้มันหลากหลายหลากหลายเช่นว่า
02:01:27 → 02:01:30 เราวันนี้เราได้กินโปรตีนจากนมวัวอีกวัน
02:01:30 → 02:01:32 นึงอาจจะเป็นนมถั่วเหลืองอีกวันนึงเป็น
02:01:32 → 02:01:34 ปลาอีกวันนึงเป็นหมูเป็นไก่คุณผู้หญิงก็
02:01:34 → 02:01:38 เก๊ากินได้กดยูริกสูงได้นะคะถ้ากินไก่
02:01:38 → 02:01:40 เยอะนึกออกมคะเพราะฉะนั้นพยายามให้หลาก
02:01:40 → 02:01:43 หลายสไลด์ถัดไปค่ะส่วนที่กินเกินนั้นมัก
02:01:43 → 02:01:46 จะเป็นอาหารที่อร่อยซึ่งไม่ต้องบอกเลยเรา
02:01:46 → 02:01:49 รู้กันอยู่คุณผู้หญิงเองกดยูริกสูงได้จาก
02:01:49 → 02:01:53 การกินน้ำผลไม้นะคะแล้วก็น้ำอัดลมเพร้อม
02:01:53 → 02:01:55 มาจากน้ำตาลฟรุกโตสและกรดยูริกในคุณผู้
02:01:55 → 02:01:57 หญิงเนี่ยก็มีผลทำให้การทำงานของไตมี
02:01:57 → 02:02:01 ปัญหาได้ไม่ใช่แค่คุณผู้ชายนะคะโอเคสไลด์
02:02:01 → 02:02:04 ถัดไปนะคะอันนึงที่ต้องระวังก็คือเรื่อง
02:02:04 → 02:02:08 ของเครื่องปรุงรสพยายามค่ะหัดลิ้นให้ชิน
02:02:08 → 02:02:11 จืดเข้าไว้พยายามใช้เครื่องปรุงรสให้น้อย
02:02:11 → 02:02:13 ที่สุดส่วนหนึ่งที่เคล็ดลับต้องบอกอย่าง
02:02:13 → 02:02:16 งี้มีคนมาถามหมอดาว่าทำยังไงถึงหน้าเด็ก
02:02:16 → 02:02:18 หมอก็บอกว่าวิธีกินก็คือกินจืดที่สุดแล้ว
02:02:18 → 02:02:21 ไม่ปรุงเลยเพราะว่าอย่างที่บอกเนาะน้ำตาล
02:02:21 → 02:02:24 มันก็จะไปกรอนะคะเกลือโซเดียมเมื่อกี้มี
02:02:24 → 02:02:26 น้องคนนึงน้องทีมงานอ่ะทุกคนหายใจก่อนหาย
02:02:26 → 02:02:28 ใจเริ่มมีคนง่วง
02:02:28 → 02:02:32 ะถ้าใครง่วงหายใจเข้าออกลึกๆใครรู้ว่า
02:02:32 → 02:02:34 เพื่อนง่วงก็สะกิดเพื่อนด้วยเดี๋ยวเพื่อน
02:02:34 → 02:02:38 ตกเก้าอี้อ่ะคราวนี้นะคะก็คือว่ามีน้องคน
02:02:38 → 02:02:41 นึงเนี่ยหน้าเขาบวมขึ้นมาน้องทีมงาน TE
02:02:41 → 02:02:44 And He นะคะเบ่นว่าบวมอาจจะมาจากนี่ก็
02:02:44 → 02:02:50 ได้เาไปเอ่ออีสานมามีคนเอ้ยจริงๆนะนี่ๆ
02:02:51 → 02:02:54 ไม่ได้พูดเล่นนะคนไปเเรียกถ้ำนาคาหมอดาว
02:02:54 → 02:02:57 เจอคนไข้ที่โรงพยาบาล 2 คนแล้วไปถ้ำนาคา
02:02:57 → 02:03:00 มาแล้วกลับมาบวมขึ้นไม่ใช่เป็นเพราะสิ่ง
02:03:00 → 02:03:02 ศักดิ์สิทธิ์ไม่ใช่โดนของไม่ใช่โดนคุณใส
02:03:02 → 02:03:05 แต่พอไปถ้ำนาคาแล้วอ่ะเขากินลาบแทบจะทุก
02:03:05 → 02:03:09 มื้อเลยนึกออกป่ะแล้วกินตรงนั้นเนาะอาหาร
02:03:09 → 02:03:11 อีสานทุกมื้อก็เลยทำให้ได้โซเดียมเยอะได้
02:03:11 → 02:03:15 ผงชูรสเยอะบวมจริงๆเพราะว่าหมอดาวเนี่ย
02:03:15 → 02:03:17 นั่งแบบนั่งดูเลยรีวิวประวัติเฮ้ยไม่ใช่
02:03:17 → 02:03:20 และแล้วก็แบบค่าเลือดค่าอะไรปกติปรากฏว่า
02:03:20 → 02:03:22 บวมโซเดียม
02:03:22 → 02:03:24 ดังนั้นค่ะการกินเครื่องปรุงที่เยอะก็ทำ
02:03:25 → 02:03:29 ให้คุณบวมได้นะคะโอเคค่ะสไลด์ถัดไปนะคะ
02:03:29 → 02:03:33 น้ำค่ะก็แน่นอนว่าจะต้องดื่มให้เพียงพอ
02:03:33 → 02:03:38 เนาะโอเคสไลด์ถัดไปคราวนี้อาหารจริงๆแล้ว
02:03:38 → 02:03:40 เนี่ยเราอยู่เมืองไทยเนี่ยแนะนำว่าอาหาร
02:03:40 → 02:03:42 ไทยเนี่ยดีมากในแง่ที่ว่าคุณค่าทาง
02:03:42 → 02:03:45 โภชนาการจะมีหลากหลายหมู่แต่ทางนี้ค่ะถ้า
02:03:45 → 02:03:47 อย่างเช่นนะอันนี้ยกตัวอย่างให้ฟังอ่ะ
02:03:47 → 02:03:51 อย่างเงี้ยเราเป็นคนชอบกินกาแฟชาเบเกอรี่
02:03:51 → 02:03:53 เราอาจจะจัดสรรว่าเบเกอรี่เนี่ยเราก็
02:03:54 → 02:03:56 เลือกไอ้สิ่งที่มันเป็นคาร์โบไฮเดรตเชิง
02:03:56 → 02:03:59 ซ้อนหน่อยเป็นวีดแล้วก็กินเป็นอาหารว่าง
02:03:59 → 02:04:02 แต่มื้อหลักเนี่ยอาจจะเป็นกลุ่มข้าวหรือ
02:04:02 → 02:04:04 ถ้ากินก๋วยเตี๋ยวเราก็เพิ่มก๋วยเตี๋ยวที่
02:04:04 → 02:04:06 มีผักเยอะหน่อยอย่างนี้เป็นต้นนึกออกม
02:04:07 → 02:04:11 เนาะโอเคคราวนี้เรื่องการนอนอ่ะทุกคนใคร
02:04:11 → 02:04:16 ง่วงนอนยกมือขึ้นโอเคต้องบอกนะว่าถ้าช่วง
02:04:16 → 02:04:19 นี้เราง่วงนอนไม่แปลกเลยแต่ไม่แนะนำให้
02:04:19 → 02:04:22 นอนในเวลานี้สไลด์ถัดไป
02:04:22 → 02:04:24 เหตุผลเพราะว่าตอนนี้เป็นเวลากี่โมงคะทุก
02:04:24 → 02:04:29 คนชถ้าพี่ๆนอนเวลานี้สิ่งที่เกิดขึ้นคือ
02:04:29 → 02:04:33 คืนนี้พี่จะนอนไม่หลับเพราะว่าการที่เรา
02:04:33 → 02:04:35 นอนเนี่ยมันเหมือนเราใช้เวลาชีวิตไปนะคะ
02:04:35 → 02:04:37 พี่เล็ก
02:04:37 → 02:04:40 ตื่นขออนุญาตนะพี่อย่าโกรธหมอเลยนะตื่น
02:04:40 → 02:04:43 ก่อนตื่นก่อนฟังก่อนพี่คือการนอนเนี่ยมัน
02:04:44 → 02:04:46 เหมือนกับว่าถ้าพี่อ่ะเผลอนอนมันจะเหมือน
02:04:46 → 02:04:48 พี่ใช้เวลากลางคืนน่ะเอามานอนแล้วเพราะ
02:04:48 → 02:04:51 ฉะนั้นกลางคืนมันจะกลายเป็นพี่ไม่นอน
02:04:51 → 02:04:54 พยายามว่าถ้าเขาเรียกว่าค napping หรือก็
02:04:54 → 02:04:58 คือการนอนงีบต้องช่วงประมาณ 13:00 นไม่
02:04:58 → 02:05:01 เกิน 15:00 แล้วก็ประมาณ 10 นาทีตั้งปลุก
02:05:01 → 02:05:06 มือถือเอาไว้นะคะเนี่ยตรงนี้นะคะก็คือว่า
02:05:06 → 02:05:09 ต้องตื่นก่อน 15:00 นไม่งั้นแน่นอนวาย
02:05:09 → 02:05:12 ป่วงแน่ๆไม่งั้นพี่จะไม่ได้นอนและการนอน
02:05:12 → 02:05:15 นั้นทำไมต้องเป็น 22:00 นเพราะ 22:00 น
02:05:15 → 02:05:18 ถึง 2:00 นจะมีการหลังโกสฮอร์โมนฮอร์โมน
02:05:18 → 02:05:21 ที่ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอแต่จริงๆแล้ว
02:05:21 → 02:05:23 เนี่ยมันจะเริ่มง่วงตอน 20:00 นแล้วโอเค
02:05:23 → 02:05:26 มยดังนั้นย้อนกลับไปสไลด์เมื่อกี้ก่อนพวก
02:05:27 → 02:05:32 เราทุกคน tiktok นะ IG นะ Facebook LINE
02:05:32 → 02:05:35 ตอบแฟนนะพยายามเลี่ยงนะคะ 20:00 นเนี่ย
02:05:35 → 02:05:37 พยายามเลี่ยงได้แล้วเพราะถ้าเล่นปึ๊บ
02:05:37 → 02:05:39 เนี่ยมันจะติดแล้วก็แสงที่มาจากหน้าจอ
02:05:39 → 02:05:42 เนี่ยรวมถึงการที่เราดูข่าวดูอะไรที่ตื่น
02:05:42 → 02:05:45 เต้นเร้าใจผกระแสก็ดูตอนกลางวันจะได้
02:05:45 → 02:05:49 Alert เตนึกออกมยไปโฆษณาให้เขา TE He
02:05:49 → 02:05:52 ก็ช่วยดูด้วยเอ้ยเออแต่ถ้าง่วงนอนดู tn
02:05:52 → 02:05:54 and Health จะทำให้หลับสบายไม่ใช่ tn
02:05:54 → 02:05:56 and Health ก็ดูทั้งกลางวันและกลางคืน
02:05:56 → 02:06:01 ได้อ่ะอ้อยกลับมาก่อนแป๊บนึงระวังเรื่อง
02:06:01 → 02:06:04 นิ้วล็อคด้วยโอเคไหรุ่นใหญ่เล่นมือถือ
02:06:04 → 02:06:08 ส่วนนึงคือนิ้วล็อคคราวนี้กลับมาที่ว่า
02:06:08 → 02:06:09 รูปนี้คือ
02:06:09 → 02:06:14 อะไรเวลาที่อหาวหาวาวได้อีกนิดนึงใกล้จบ
02:06:14 → 02:06:18 แล้วเวลาที่เราตื่นมาตอนกลางคืนห้ามดู
02:06:18 → 02:06:23 นาฬิกาเด็ดขาดพอถ้าเมื่อไดูนาฬิกามันจะ
02:06:23 → 02:06:27 ไม่ง่วงอีกต่อไปถูกไมันจะตื่นมันจะอุ๊ย
02:06:27 → 02:06:30 อยากจะนอนเพราะฉะนั้นถ้าเมื่อไหร่ตื่นมา
02:06:30 → 02:06:33 กลางดึกเราตั้งปลุกเอาไว้แล้วนาฬิกาในมือ
02:06:33 → 02:06:36 ถือไม่เคยโกหกเรามีแต่เราโกงมันโอเคไหม
02:06:36 → 02:06:40 อ่ะสไลด์ถัดไปได้สไลด์ถัดไปเลยค่ะสไลด์
02:06:40 → 02:06:45 ถัดไปขับถ่ายไม่ได้อย่าเพิ่งวิ่งหายาถ่าย
02:06:45 → 02:06:48 ให้หาสิ่งนี้ก่อนยายอาหารดื่มเพียงเอ่อ
02:06:48 → 02:06:51 โทษค่ะรับประทานเพียงพอไดื่มน้ำดื่มเพียง
02:06:51 → 02:06:54 พพอมรวมถึงการเคลื่อนไหวลำไส้ด้วยหลาย
02:06:54 → 02:06:58 ท่านออกกำลังกายดื่มน้ำไม่พอหลายท่านดื่ม
02:06:58 → 02:07:03 น้ำพอออกกำลังกายแต่ไม่กินยผักใยอาหารถ้า
02:07:03 → 02:07:06 ไม่ชอบผักลองหาถั่วพวกถั่วเป็นกลุ่มถั่ว
02:07:06 → 02:07:09 เขียวถั่วแดงถั่วที่มีใยอาหารสูงนะคะ
02:07:09 → 02:07:13 สไลด์ถัดไป
02:07:13 → 02:07:16 ค่ะถัดไป
02:07:16 → 02:07:21 เลยพวกเราขาออกกำลังกายนะคะหลักๆก็คือว่า
02:07:21 → 02:07:25 ต้องสนุกไม่สนุกอย่าไปอย่าไปออกไม่เอาให้
02:07:25 → 02:07:28 รู้สึกฟิลสนุกพี่แหม่มทำให้มันสนุกนะพี่
02:07:28 → 02:07:31 นะโอเคผ่อนคลายด้วยต้องผ่อนคลายนะถ้าพี่
02:07:31 → 02:07:35 ไปตีแบตแข่งกันไม่เวิร์คเพราะพี่เครียด
02:07:35 → 02:07:38 กินเงินเครียดโอเคไหมต้องผ่อนคลายไม่แข่ง
02:07:38 → 02:07:41 ขันกันจนเกินไปและก็เน้นสร้างความยืด
02:07:41 → 02:07:44 หยุ่นบริหารหัวใจและคงกล้ามเนื้อไว้จะรู้
02:07:45 → 02:07:47 ได้อย่างไรว่าออกกำลังกายเพียงพอทุกคน
02:07:47 → 02:07:49 หยิบมือถือของตัวเองขึ้นมาแล้วคราวนี้
02:07:49 → 02:07:51 อนุญาตให้เข้าเครื่องคิดเลขค่ะอ่ะหยิบเลย
02:07:51 → 02:07:54 ค่ะหยิบๆๆค่ะเดี๋ยวได้เข้าเครื่องคิดเลข
02:07:54 → 02:07:56 แล้วค่ะเข้าเครื่องคิดเลขอันนี้ให้ใช้
02:07:56 → 02:08:02 เครื่องคิดเลขเอา 220 ลบอายุตัวเองปิต้า
02:08:02 → 02:08:06 ทำด้วย 220 ลบอายุตัวเองห้ามขี้งนะอายุ
02:08:06 → 02:08:11 จริงๆนะเอ่อได้ๆๆครึ่งคิดเลขนั่นได้อ่ะ
02:08:11 → 02:08:14 ได้เท่าไหร่อ่ะพี่มาลีได้เท่าไหร่คะ 220
02:08:14 → 02:08:19 ลบอายุตัวเอง 153 โอเค 153 เนี่ยเขาเรียก
02:08:19 → 02:08:22 ว่าอัตราการเต้นของหัวใจสูงสุด
02:08:22 → 02:08:25 พี่มาลีห้ามเด็ดขาดห้ามออกกำลังกายแล้วทำ
02:08:25 → 02:08:28 ให้หัวใจมันเต้น 153 ฝั่งนี้ตัวเองชื่อ
02:08:28 → 02:08:30 เล่นชื่ออะไรนะคะชื่อนุ่นคุณนุ่นได้เท่า
02:08:30 → 02:08:34 ไหร่คะได้ 187 โอเค 187 คืออัตราการเต้น
02:08:34 → 02:08:37 หัวใจสูงสุดของคุณนุ่นห้ามนะคราวนี้คุณ
02:08:37 → 02:08:39 นุ่นถ้าเป็นวัยคุณนุ่นคือวัยผู้ใหญ่ทั่ว
02:08:40 → 02:08:43 ไปให้เอา 187 ใช่ป่ะคูณ
02:08:43 → 02:08:46 0.65 ของพี่คูณ
02:08:46 → 02:08:52 0.55 โอเคคุณนุ่นได้เท่าไหร่คะ 1 2.5
02:08:52 → 02:08:55 โอเคของคุณนุ่นเนี่ยหมอดาวให้คูณเนี่ย
02:08:55 → 02:08:58 คำนวณคืออะไรมันจะเป็นอย่างนี้นะพวกเรา
02:08:58 → 02:09:01 220 - อายุที่เป็นจริงนะห้ามแอปอายุนะ
02:09:01 → 02:09:04 ได้เป็นอัตราการเต้นหัวใจสูงสุดของคุณ
02:09:04 → 02:09:08 นุ่นเนี่ยคูณ 0.65 ก็คืออยู่ระหว่าง 0.6
02:09:08 → 02:09:11 กับ 0.7 มันจะเป็นอัตราการเต้นของหัวใจ
02:09:11 → 02:09:14 ที่พอดีพอเหมาะในการเผาผลาญไขมันในการ
02:09:14 → 02:09:17 สร้างกล้ามเนื้อกำลังดีดังนั้นคุณนุน
02:09:17 → 02:09:18 เนี่ยถ้าวันเนี้ยคุณนุนบอกว่าจะไปวิ่งสวน
02:09:18 → 02:09:22 ลวงร 9 ให้หัวใจเต้นประมาณ 100 20 -130
02:09:22 → 02:09:25 ประมาณเนี้ยเนี่ย 121 ประมาณเนี้ยนะคะมัน
02:09:25 → 02:09:29 จะไม่เหนื่อยจนเกินไปแล้วก็ทำประมาณ 30
02:09:29 → 02:09:32 40 นาทีถึง 60 นาทีถ้าคุณนุ่นทำแบบนี้
02:09:32 → 02:09:34 ได้ทุกวันคุณนุ่นมีสิทธิ์ผอมมันจะเป็นการ
02:09:34 → 02:09:37 เบิร์นไขมันแต่ถ้าคุณนุ่นเนี่ยออกกำลัง
02:09:37 → 02:09:39 กายแล้วหัวใจมันเต้นน้อยกว่านั้นช้ากว่า
02:09:39 → 02:09:42 นั้นเนี่ยมันจะเป็นเบาเกินไปไม่เหมาะหรือ
02:09:42 → 02:09:45 ถ้าหัวใจเต้นแบบ 140 อะไรอย่างเงี้ก็หนัก
02:09:45 → 02:09:48 เกินไปมันก็จะไม่ได้เบิร์นไขมันในขณะที่
02:09:48 → 02:09:52 พี่มาลีเป็นรุ่นใหญ่หมอให้คุณ 0.5 55
02:09:52 → 02:09:56 0.55 ก็คืออยู่ระหว่าง 0.5 - 0.6 นึก
02:09:56 → 02:09:59 ออกมพี่มันก็จะเป็นอัตราการเต้นของหัวใจ
02:09:59 → 02:10:00 ของรุ่นใหญ่รุ่นใหญ่เนี่ยหมอจะให้เป็น
02:10:00 → 02:10:04 เกณฑ์ 0.5 - 0.6 พี่อาจจะเอา 150 กว่า
02:10:04 → 02:10:07 คูณ 0.6 ของพี่ก็ได้เพราะว่ามันก็จะเป็น
02:10:07 → 02:10:10 อัตราการเต้นหัวใจที่เหมาะสมต้องระวังนะ
02:10:10 → 02:10:13 คะที่ออกกำลังกายแล้วก็ตายกันไปอ่ะค่ะ
02:10:13 → 02:10:16 ส่วนนึงก็คือเราหักหมเกินไปแต่ถ้าเรา
02:10:16 → 02:10:20 เนี่ยเป็นผู้สูงอายุรุ่นใหญ่มีโรคประจำ
02:10:20 → 02:10:25 ตัวเราอาจจะต้องคูณ 0.5 ด้วยซ้ำเนาะโอเค
02:10:25 → 02:10:30 ค่ะยาจำเป็นมยถ้าจำเป็นใช้แต่ถ้าไม่
02:10:30 → 02:10:33 จำเป็นไม่ต้องใช้แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่า
02:10:33 → 02:10:36 จำเป็นหรรือเปล่าหาข้อมูลแล้วปรึกษาแพทย์
02:10:36 → 02:10:40 ด้วยเนาะอืพยายามหาหมอเอางี้ค่ะพี่ๆถ้า
02:10:40 → 02:10:43 เป็นพุทธศาสนิกชนทำบุญเยอะๆแล้วก็ขอให้
02:10:43 → 02:10:46 เจอหมอที่ดีนึกออกมั้ยคะเพราะบางครั้งหมอ
02:10:46 → 02:10:48 ก็มาอะไรนะต้องบอกเจ้ากรนายเวรมาในรูปหมอ
02:10:48 → 02:10:50 ให้เรากินยาอะไรก็ไม่รู้อันนี้ไม่ได้ว่า
02:10:50 → 02:10:53 ใครแต่ว่าหมอเนี่ยจะบอกเสมอเหมือนกันว่า
02:10:53 → 02:10:55 หมอก็อยากเจอคนไข้ที่ไม่ใช่เจ้าคำมนายเวร
02:10:55 → 02:10:59 หมอก็จะบอกว่าโอเคขอเจอคนไข้ที่เป็นคู่
02:10:59 → 02:11:02 บุญนะช่วยกันรักษาดูแลกันเพราะคนไข้บางคน
02:11:02 → 02:11:05 ก็ชอบกินยาก็มีพี่ๆดังนั้นเนี่ยหมอดาวก็
02:11:05 → 02:11:08 จะบอกว่ายาใช้เท่าที่จำเป็นสไลด์ถัดไปค่ะ
02:11:08 → 02:11:13 อีก 2 สไลด์จบแล้วผู้ดูแลผู้สูงอายุอ่ะ
02:11:13 → 02:11:17 ทำไมถึงไม่อยากให้ติดเตียงภาพนี้มาร์คเอา
02:11:17 → 02:11:20 ไว้ไม่ให้เห็นหน้าเป็นคนไข้ท่านหนึ่งที่
02:11:20 → 02:11:25 นอนติดเตียงรู้มว่ากว่าจะได้ภาพอย่าง
02:11:25 → 02:11:30 เงี้ยดูแลกันอย่างเงี้ยยากนะใส่ท่อฉี่ใส่
02:11:30 → 02:11:35 ป้อนอาหารฟีดต้องพลิกทุก 2 ช่วโมงภาพ
02:11:35 → 02:11:38 เนี้ยเกิดขึ้นจากการที่เป็นสตกบ้างอัมพาต
02:11:38 → 02:11:41 อัมพฤกษ์อัมพาตอัมพฤกษ์เกิดจากนั่งอยู่ตา
02:11:41 → 02:11:44 แป๋วเหมือนพวกเราแต่ไขมันในเลือดสูงน้ำ
02:11:44 → 02:11:47 ตาลสูงดูแลตัวเองไม่ดีมันเป็นภาพที่ต่อ
02:11:48 → 02:11:51 ต่อๆกันแต่วันที่มาเห็นภาพนี้แล้วเนี่ย
02:11:51 → 02:11:55 เราจะมากลับไปรีเวสกลับไปมันไม่ได้ถึงได้
02:11:55 → 02:11:59 ต้องระวังไม่ให้เกิดสไลด์ถัดไปค่ะอ่าพวก
02:11:59 → 02:12:03 เรานิดนึงผู้สูงอายุเนี่ยนะคนที่ดูแล
02:12:03 → 02:12:06 เนี่ยนะก็มีคำว่าเเดนหรือว่า bur Out
02:12:06 → 02:12:10 ได้เอ่อที่อาจารย์อภิชาติให้ไปคือการ
02:12:10 → 02:12:13 ประเมินความเครียดผู้ที่ดูแลผู้สูงอายุ
02:12:13 → 02:12:16 เขามีงานวิจัยเลยค่ะมักจะเป็นคนดังต่อไป
02:12:16 → 02:12:21 นี้ 1 เป็นลูกผู้หญิงโสดเป็นพยาบาลหรือ
02:12:21 → 02:12:24 ว่าเป็นอาชีพที่เป็นบัญชีอาชีพที่แบบว่า
02:12:24 → 02:12:26 มีความรับผิดชอบสูงนี่คือเขาเรียกว่า
02:12:26 → 02:12:29 คาแรคเตอร์หรือว่าลักษณะของผู้ที่จะเป็น
02:12:29 → 02:12:32 ผู้ดูแลผู้สูงอายุมันเป็นเรื่องน่าเศร้า
02:12:32 → 02:12:35 ถ้าใครไปดูเช่นเดียวกันเรื่องหลานมา่า
02:12:35 → 02:12:37 ส่วนใหญ่แน่นอนเราไม่ได้ว่ากันเนาะด้วย
02:12:37 → 02:12:40 ประเพณีชอบลูกชายแต่ถึงเวลาคนสุดท้ายที่
02:12:40 → 02:12:43 ดูแลคือลูกสาวอันนี้เป็นเรื่องจริงเลย
02:12:43 → 02:12:45 เป็นเรื่องน่าเศร้าแล้วสมบัติก็ไม่ได้ตก
02:12:45 → 02:12:48 ที่ลูกสาวด้วยไม่เป็นไรนะคะเราเปลี่ยนได้
02:12:48 → 02:12:51 โโเนอ่ะกลับมาค่ะสิ่งที่จะบอกก็คือว่าคน
02:12:51 → 02:12:54 ที่ดูแลผู้สูงอายุก็คือคนป่วยเช่นเดียว
02:12:54 → 02:12:58 กันดังนั้นถ้าวันนี้คนที่ชมอยู่ทางบ้าน
02:12:58 → 02:13:02 ถ้าท่านเป็นแิอหรือว่าผู้ดูแลผู้สูงอายุ
02:13:02 → 02:13:04 ผู้ดูแลผู้ป่วยท่านก็มีสิทธิ์ที่จะป่วย
02:13:04 → 02:13:08 ได้หมอดาวทำงานนะคะต้องบอกว่าเขาเรียกว่า
02:13:08 → 02:13:11 เป็นงานวิจัยก็คือวิทยานิพนธ์สมัยที่
02:13:11 → 02:13:15 เรียนเฉพาะทางหมอดาทำเรื่องของการดูแลผู้
02:13:15 → 02:13:17 ต้องบอกว่าเป็นดูแลผู้ดูแลผู้สูงอายุว่า
02:13:18 → 02:13:22 เขาต้องเจออะไรบ้างหลายคนค่ะดูแลคุณแม่
02:13:22 → 02:13:26 เครียดเครียดมากเลยตีเผลอตีคุณแม่ตีแป๊ะ
02:13:26 → 02:13:29 เดียวแต่รู้สึกบาปรู้สึกผิดนึกออกมั้ยคะ
02:13:29 → 02:13:31 สิ่งเหล่านี้มันตามมาได้เพราะฉะนั้น
02:13:31 → 02:13:34 สุขภาพจิตสุขภาพกายของผู้ดูแลผู้สูงอายุ
02:13:34 → 02:13:37 คุณก็ต้องประเมินตัวเองถ้าเมื่อไหร่ก็ตาม
02:13:37 → 02:13:39 คุณมีอาการไม่ว่าจะเป็นอย่างเงี้ยค่ะ
02:13:39 → 02:13:42 หงุดหงิดง่ายเจ้าอารมณ์ฉุนเฉียวเบื่อ
02:13:42 → 02:13:45 อาหารหรืออะไรก็ตามที่เครียดคุณเองก็อาจ
02:13:45 → 02:13:48 จะป่วยสิ่งเหล่านี้ก็แน่นอนคุณก็ต้องไปพบ
02:13:48 → 02:13:51 แพทย์เหมือนกันสไลด์ถัดไปนะคะ
02:13:51 → 02:13:54 อันนี้ก็เพิ่มเติมจากที่อาจารย์อภิชาต
02:13:54 → 02:13:57 ท่านให้เนาะก็คือว่าท่านสามารถที่จะโทรไป
02:13:57 → 02:14:01 สายด่วนสุขภาพจิตได้ 1 32 3 นะคะแล้วก็
02:14:01 → 02:14:03 แพทย์เวทปฏิบัติทั่วไปรวมถึงแพทย์อย่าง
02:14:03 → 02:14:05 เมดาเวทสาส์ครอบครัวหรือแม้กระทั่งแพทย์
02:14:05 → 02:14:09 ดูแลผู้สูงอายุจิตแพทย์ก็สามารถที่จะดูแล
02:14:09 → 02:14:12 ผู้ดูแลผู้สูงอายุได้เช่นเดียวกันดังนั้น
02:14:12 → 02:14:15 อย่ารอให้มันบึ้มเครียดไม่เอาแล้วอย่าลืม
02:14:15 → 02:14:18 ว่าคนเจ็บป่วย 1 คนในบ้านเท่ากับทุกคนใน
02:14:18 → 02:14:21 บ้านป่วยเนาะโอเคสไลด์ถัดไป
02:14:21 → 02:14:25 และขอบขอบพระคุณรีบพูดค่ะสำหรับการรับชม
02:14:25 → 02:14:28 รับฟังนะคะมีคำถามม
02:14:28 → 02:14:34 คะมีมีคำถามค่ะจะถามว่าค่ะเลืองที่มีความ
02:14:34 → 02:14:37 ค่อนข้างไปทำเป็นกดเนี่ยเกี่ยวกับการที่
02:14:37 → 02:14:42 กดยูนิในร่างกายสูงหรือเปล่าคะอืโอเค
02:14:42 → 02:14:47 ค่ะเป็นคำถามที่ดีมากค่ะพี่แหม่มถามว่า
02:14:47 → 02:14:49 การที่กรดยูริกในร่างกายสูงนั้นทำให้
02:14:49 → 02:14:53 เลือดเนี่ยมีความเป็นกรดสูงไหมต้องบอกว่า
02:14:53 → 02:14:56 ไม่ได้ตรงไปตรงมาขนาดนั้นคือต้องบอกอย่าง
02:14:56 → 02:14:59 นี้นะคะค่าความเป็นกรดเป็นด่าในเลือดเรา
02:14:59 → 02:15:04 เนี่ยคือ 7.35 - 7.45 เฉลี่ยก็คือ 7.4
02:15:04 → 02:15:07 ร่างกายจะมีวิถีในการปรับให้ค่าพีชของ
02:15:07 → 02:15:10 เลือดเป็นประมาณนี้การที่มีกรดยูริกใน
02:15:10 → 02:15:14 ร่างกายคั่งเนี่ยจะไม่ได้ถึงกับสะเทินให้
02:15:14 → 02:15:16 ค่าค่าเลือดเนี่ยมันเป็นโรดเป็นกรดขนาด
02:15:16 → 02:15:20 นั้นแต่อย่างไรก็ตามการที่มีกรดยูริกใน
02:15:20 → 02:15:23 ร่างกายข้างก็เป็นสัญญาณว่าร่างกายมีความ
02:15:23 → 02:15:27 เจ็บป่วยเกิดขึ้นเพราะปกติแล้วร่างกายจะ
02:15:27 → 02:15:29 มีค่ากรดยูริกประมาณนึงก็คือถ้าในคุณผู้
02:15:29 → 02:15:32 หญิงจะประมาณ 2 กว่าถึง 6 กว่าซึ่งการที่
02:15:33 → 02:15:35 กรดยูริกในร่างกายของคุณผู้หญิงหรือคุณ
02:15:35 → 02:15:38 ผู้ชายคั่งเนี่ยมันจะเป็นสัญญาณที่บ่งบอก
02:15:38 → 02:15:41 ความเสื่อมในการกำจัดกรดยูริกออกนอกร่าง
02:15:41 → 02:15:44 กายเรื่องราวที่ 1 เรื่องราวที่ 2 ก็คือ
02:15:44 → 02:15:46 เป็นการความเสื่อมในการสังเคราะห์กรด
02:15:46 → 02:15:50 ยูริกที่มากเกินควรและก็เป็นการเสื่อมที่
02:15:50 → 02:15:52 แนวโน้มก็คือเสื่อมของไตที่กรดยูริกจะไป
02:15:52 → 02:15:56 คั่งที่ไตและไปคั่งตามข้อทำให้เกิดการปวด
02:15:56 → 02:15:59 ข้อดังนั้นกรดยูริกที่สูงจะไม่ได้ตรงไป
02:15:59 → 02:16:02 ตรงมาทำให้เลือดของเราเป็นกรดแต่การที่
02:16:02 → 02:16:05 กรดยูลีกสูงในร่างกายไม่ว่าคุณผู้หญิงผู้
02:16:05 → 02:16:08 ชายทำให้เกิดความเสื่อมทำให้เกิดโรคต่างๆ
02:16:08 → 02:16:12 เกิดขึ้นค่ะพี่แหม่มแล้วทางน้ำด่างจะมีผล
02:16:12 → 02:16:16 โอเคน้ำด่างนะคะต้องอย่างงี้นะพวกเราน้ำ
02:16:16 → 02:16:19 เนี่ยเวลาที่เราแนะนำให้ดื่มเนี่ยเราไม่
02:16:19 → 02:16:21 ได้โฆษณาไม่ได้ให้ต้องบอกอย่างงี้ก่อน
02:16:21 → 02:16:24 เนาะอันนี้เป็นกลางนะเป็นข้อมูลเป็นกลาง
02:16:24 → 02:16:27 น้ำที่มีค่าความเป็นดั่งจริงๆคือน้ำที่มี
02:16:27 → 02:16:31 แร่ธาตุธรรมชาติจริงๆนะจ๊ะไม่ใช่น้ำที่
02:16:31 → 02:16:34 แสร้งว่าด่างหรือน้ำที่ที่แบบอยู่ๆก็เป็น
02:16:34 → 02:16:38 น้ำด่างไม่ใช่น้ำนั้นต้องมีแร่ธาตุแร่
02:16:38 → 02:16:42 ธาตุกลุ่มที่เป็นทำให้น้ำเป็นด่างโอเคั้ย
02:16:42 → 02:16:47 คะและน้ำแร่ทำให้น้ำเป็นดังงแล้วจะมีส่วน
02:16:47 → 02:16:50 ช่วยในการดูแลร่างกายกลับมาที่ว่าถ้าเป็น
02:16:50 → 02:16:54 นน้ำธรรมดาแล้วเขาเอาไปทำผ่านเครื่องทำ
02:16:54 → 02:16:56 น้ำด่างพี่แหม่มมันจะเกิดความเป็นด่างแต่
02:16:57 → 02:16:59 เป็นด่างแค่ชั่วคราวมันใช้เขาเรียกว่า
02:16:59 → 02:17:02 หลักก็คืออิเล็กโทรไลต์ก็คือจะเป็นพวก
02:17:02 → 02:17:05 ตระกูลใช้คลื่นใชไม่ใช่คลื่นโทษค่ะใช้
02:17:05 → 02:17:08 กระแสไฟฟ้าในการใช้ประจุลบประจุบวกแล้วก็
02:17:08 → 02:17:11 ดึงสิ่งเหล่านี้ถามว่าช่วยได้ไหมมันทันที
02:17:11 → 02:17:14 ที่น้ำเนี่ยผ่านเครื่องกรองน้ำที่เป็น
02:17:14 → 02:17:16 น้ำำดังแล้วตั้งทิ้งไว้สักประเดี๋ยว
02:17:16 → 02:17:19 ประดาวอาจจะเป็นชั่วโมงเป็นวันเนี่ยมันก็
02:17:19 → 02:17:21 กลับมาเป็นภาพเดิมดังนั้นถ้าดื่มน้ำตรง
02:17:21 → 02:17:23 นี้เข้าไปก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะได้
02:17:23 → 02:17:27 ความเป็นด่างของน้ำดังนั้นถ้าน้ำด่างที่
02:17:27 → 02:17:30 จะช่วยทำให้สมดุลแร่ธาตุในร่างกายที่ดี
02:17:30 → 02:17:33 นั้นจะต้องเป็นน้ำที่เป็นน้ำด่างธรรมชาติ
02:17:33 → 02:17:37 ก็คือกลุ่มน้ำแร่นั่นเองโอเคนะพี่เนาะดัง
02:17:37 → 02:17:40 นั้นตอบคำถามก็คือน้ำที่มีคุณสมบัติเป็น
02:17:40 → 02:17:43 ด่างมีส่วนช่วยร่างกายแต่ถ้าเป็นน้ำด่าง
02:17:43 → 02:17:45 ที่มีความด่างธรรมชาติก็คือมาจากแร่ธาตุ
02:17:45 → 02:17:49 ก็ต้องแยกแยะด้วยคราวนี้ในท้องตลาดเนี่ย
02:17:49 → 02:17:51 อันนี้ไม่ได้บอกแล้วว่าไม่ได้ว่าหรือว่า
02:17:51 → 02:17:55 อ้างอิงเอ่อยี่ห้ออะไรเราก็ต้องไปตรวจสอบ
02:17:55 → 02:17:57 ดูให้ดีว่าน้ำที่เขาเคลมว่าเป็นน้ำด่าง
02:17:57 → 02:18:00 นั้นเนี่ยณจุดที่เข้าปากเรานะไม่เอานะจุด
02:18:00 → 02:18:03 ที่ผลิตออกมานะเข้าปากเราอั้มเนี่ยมันมี
02:18:03 → 02:18:07 ความเป็นด่างจริงๆมนะจ๊ะเนาะซึ่งถ้าจะให้
02:18:07 → 02:18:09 แบบชัวร์เลยเนี่ยก็ต้องตรวจด้วยเครื่อง
02:18:09 → 02:18:12 เครื่องที่ตรวจความเป็นด่างว่าเอ้ยเป็น
02:18:12 → 02:18:15 ด่างหรือเปล่าเนาะอื
02:18:15 → 02:18:18 ค่ะใครมีคำถามเพิ่มเติมมั้ยครับใช้โอกาส
02:18:18 → 02:18:20 นี้ถามคุณหมอดาวได้เลยนะครับผมวันนี้ได้
02:18:20 → 02:18:22 มีโอกาสเจอตัวเป็นๆแล้วนะครับหลายท่านอาจ
02:18:22 → 02:18:25 ได้ดูผ่านทาง Health กันมานะครับวันนี้
02:18:25 → 02:18:28 คุณหมอดาวมาตรงนี้แล้วนะใครมีคำถามอเชิญ
02:18:28 → 02:18:33 เลยครับอกำถถ้าเกิดสมน้ำมะนาวเข้าไปมันจะ
02:18:33 → 02:18:38 มีส่วนทำให้โอเคเป็นคำถามที่ดีมากค่ะเอ
02:18:38 → 02:18:43 พี่ๆคะน้ำผลไม้กับน้ำกลุ่มที่เป็นบีบ
02:18:43 → 02:18:46 มะนาวหรือน้ำสัดเขาเรียก Extract Water
02:18:46 → 02:18:51 แยกแยคซก่อนนะคะพี่เอาส้มมาแล้วพี่คั้น
02:18:51 → 02:18:53 เป็นน้ำเลยนะแล้วพี่กินอันเนี้ยพี่จะได้
02:18:53 → 02:18:56 น้ำตาลเต็มๆอันนี้แหละที่หมอดาวบอกว่ามัน
02:18:56 → 02:18:58 เป็นน้ำตาลฟรุกโตสจะทำให้กรดยูริกในเลือด
02:18:58 → 02:19:03 สูงไม่ recom ถ้าจะกินส้มก็กินเป็นส้มส้ม
02:19:03 → 02:19:06 ลูกเดียวพอแล้วรุ่นใหญ่กินเยอะน้ำตาลขึ้น
02:19:06 → 02:19:09 อีกกินพร้อมกับเอ่อตัวเนื้อส้มด้วยมันจะ
02:19:09 → 02:19:13 ได้ใยอาหารได้อะไรด้วยอร่อยด้วยกลับมาที่
02:19:13 → 02:19:15 ว่าถ้าเป็นน้ำที่บีบมะนาวสิ่งที่ต้อง
02:19:15 → 02:19:18 ระวังก็คือรุ่นใหญ่เนี่ยระคายกระเพาะได้
02:19:18 → 02:19:21 ง่ายมันเหมือนคุณกินไกกลุ่มน้ำส้มใายชู
02:19:21 → 02:19:23 หรือว่าน้ำมะนาวแบบว่าเปรี้ยวๆอันนี้ก็
02:19:23 → 02:19:26 ต้องระวังพูดเรื่องนี้ไว้ก่อนกลับมาที่
02:19:26 → 02:19:30 ว่าแต่ถ้าสมมุติโหเนี่ยหมอพี่นะเอาน้ำมา
02:19:30 → 02:19:32 เป็นโถใหญ่เลยแล้วพี่บีบไปลูกนึงแล้วแบบ
02:19:33 → 02:19:36 แทบจะจ้างจาอ่ะเป็นไรมอ่ะมันไม่แสบท้อง
02:19:36 → 02:19:41 แต่ตามหลักการก็คือว่ามันเกิดภาวะเกลือ
02:19:41 → 02:19:46 ของกรดอ่อนถ้าการเรียนเคมีมันจะมีเรื่อง
02:19:46 → 02:19:49 นะพี่ๆอันนี้สายวิทยาศาสตร์เนาะมันจะมี
02:19:49 → 02:19:54 เรื่องของเเรียกว่ากรดแก่ด่างแก่กรดอ่อน
02:19:54 → 02:19:57 ด่างอ่อนเกลือของกรดอ่อนด่างแก่มันจะมี
02:19:57 → 02:20:00 ว่าพอมันเข้าไปสู่ร่างกายมันจะกลายเป็น
02:20:00 → 02:20:03 ภาวะดังอ่อนๆมันเป็นเหมือนสมการซ้อนหลาย
02:20:03 → 02:20:06 สมการถามว่ามีส่วนช่วยมมีส่วนช่วยแต่
02:20:06 → 02:20:08 อย่างที่บอกไป
02:20:08 → 02:20:13 ว่าเอาน้ำมาเอามะนาวบีบมาพอได้ได้ค่ะแต่
02:20:13 → 02:20:15 ก็ต้องระวังด้วยในรุ่นใหญ่เพราะบางคนกิน
02:20:15 → 02:20:19 มะนาวตรงนี้บีบไปแล้วระคายท้องแสบท้อง
02:20:19 → 02:20:23 Extract Water ก็คือเอาน้ำมาเขาก็จะ
02:20:23 → 02:20:26 หั่นเช่นหั่นสับปะรดเป็นแว่นๆลองไปพวกตาม
02:20:27 → 02:20:29 โรงแรมอ่ะค่ะหั่นเป็นเ้าเรียกว่าอะไรนะ
02:20:29 → 02:20:32 ไอ้สีขาวๆอ่ะช่วยหมอคิดหน่อยซิเค้าเรียก
02:20:32 → 02:20:33 ว่าอะไรไม่ใช่พาย
02:20:33 → 02:20:37 แอิไม่ใช่เสาวรสที่เป็นลูกสีขาวๆคล้ายๆ
02:20:37 → 02:20:40 เนื้อแตงโมแก้ว
02:20:40 → 02:20:43 มังกรเห็นมถ้าไม่ใช้เนี่ยมันก็จะนึกคำไม่
02:20:43 → 02:20:45 ออกเพราะถึงได้บอกว่าเราต้องช่วยกันคิด
02:20:45 → 02:20:49 แก้วมังกรหั่นฝานเป็นแว่นๆอ่าเขาจะใส่ลง
02:20:49 → 02:20:52 ไปในน้ำ Extract รเนี่ยก็จะเป็นน้ำกลุ่ม
02:20:52 → 02:20:55 นึงที่ให้รสชาติชื่นอกชื่นใจม่วนอกม่วนใจ
02:20:55 → 02:20:59 เนาะแต่ว่าถามว่าเขาก็เชื่อกันว่าใช้คำ
02:20:59 → 02:21:01 ว่าเชื่อกันว่ามันก็จะมีความเป็นด่างอ่อน
02:21:01 → 02:21:03 ๆเช่นเดียวกันก็อาจจะเป็นน้ำกลุ่มนี้ก็
02:21:03 → 02:21:06 ได้แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็อย่าลืมเรื่องของ
02:21:06 → 02:21:10 ความสะอาดด้วยนะคะโอเคครับผมยังมีเวลาอีก
02:21:10 → 02:21:13 สัก 2 คำถามนะครับค่ะมีใครอยากใช้โอกาส
02:21:13 → 02:21:16 นี้ในการถามคุณหมอเชิญได้เลยนะครับผมอยาก
02:21:16 → 02:21:18 ให้คุณหมอช่วยให้ความรู้เรื่องของโรคผัก
02:21:18 → 02:21:20 กินสันหน่อยครับผมว่าเริ่มมีอาการจะดูแล
02:21:20 → 02:21:23 อย่างไรครับผมพากินสันเนี่ยหลายคนจะบอก
02:21:23 → 02:21:26 ว่าเป็นเรื่องของความสั่นจริงๆไม่ใช่พา
02:21:26 → 02:21:30 กินสันเนี่ยก็คือเป็นเรื่องราวของภาวะ
02:21:30 → 02:21:32 สมองที่เริ่มเสื่อมและบังเอินบังเอิญเ
02:21:32 → 02:21:34 สมองที่เริ่มเสื่อมนั้นเนี่ยมันจะมี
02:21:34 → 02:21:37 เรื่องของการลดลงของการหลั่งสารพวก
02:21:37 → 02:21:40 โดปามีนการสร้างสารโดปามีนนะคะคราวนี้
02:21:40 → 02:21:44 กลับมาที่ว่าอาการเนี่ยมันก็เลยทำให้
02:21:44 → 02:21:46 เกี่ยวข้องกับสมองส่วนที่เกี่ยวข้องกับ
02:21:46 → 02:21:48 พวกโดปามีนเหล่านี้ก็คือการเคลื่อนไหวทำ
02:21:49 → 02:21:51 ให้การเคลื่อนไหวผิดปกติไม่ว่าจะเป็นสั่น
02:21:51 → 02:21:54 โดยที่ไม่ได้อยากสั่นหรือการที่ทำอะไรช้า
02:21:54 → 02:21:59 ลงรวมไปถึงมันจะค่อยๆเสื่อมๆๆๆไปากินสัน
02:21:59 → 02:22:01 เนี่ยมันจะมีพากินสันแท้ก็คือเป็นสมอง
02:22:01 → 02:22:04 ส่วนนี้ากินสันเทียมก็มีนะก็คือเป็นสมอง
02:22:04 → 02:22:07 ส่วนอื่นแล้วก็ทำให้สั่นทำให้เกิดอะไร
02:22:07 → 02:22:10 อื่นๆตามมาก็เป็นหนึ่งในโรคของสมองสมอง
02:22:10 → 02:22:13 เสื่อมนี่มีหลายอย่างเหมือนตะกร้าใบใหญ่ๆ
02:22:13 → 02:22:16 มนเชียสมองเสื่อมอาจจะเป็นสมองอัลไซเมอร์
02:22:16 → 02:22:19 ก็ได้เป็นพาร์กินสันก็ได้หรือเป็นวกูชีย
02:22:19 → 02:22:21 คือสมองเสื่อมจากเส้นเลือดที่หมอดาวบอกไป
02:22:21 → 02:22:25 ก็ได้แต่ไม่ว่ายังไงก็คือเสื่อมเสื่อมอื
02:22:25 → 02:22:29 กลับมาที่ว่าแล้วจะทำยังไงสิ่งที่ทำได้
02:22:29 → 02:22:30 ตอนนี้ที่เรายังอยู่ตรงนี้คือชะลอความ
02:22:30 → 02:22:34 เสื่อมของสมองง่ายที่สุดก็คือกินนอนขับ
02:22:34 → 02:22:36 ถ่ายออกกำลังกายตรวจสุขภาพไม่ให้มีเบา
02:22:36 → 02:22:39 หวานไขมันความดันความเครียดก็มีผลเพราะ
02:22:39 → 02:22:43 ความเครียดที่มากเกินควรจะทำให้สมองเนี่ย
02:22:43 → 02:22:45 มีเรื่องของเาเรียกสเตสความเครียดต่อ
02:22:45 → 02:22:48 เซลล์สมองก็มีผลอีกเหมือนกันแต่ถ้าเกิด
02:22:48 → 02:22:52 มันเป็นแล้วมันโชครักวยปวงขึ้นมาดีทคหรือ
02:22:52 → 02:22:56 ตรวจจับหรือสกรีนนิ่งคัดกรองแต่แรกคือ
02:22:56 → 02:22:59 เช่นเฮ้ยแปลกๆเริ่มสั่นเริ่มอะไรอย่างงี้
02:22:59 → 02:23:02 ไปพบแพทย์แต่แน่นอนเนาะต้นเหตุคือการดูแล
02:23:02 → 02:23:04 ดีที่สุดแต่ถ้าเริ่มเสื่อมก็ชะลอความ
02:23:04 → 02:23:09 เสื่อมให้มากที่สุดอืครับผมขอ
02:23:09 → 02:23:13 อนุญาตสิ่งหนึที่ทำให้หมอดาวตั้งใจในการ
02:23:13 → 02:23:17 ที่เป็นแพทย์เป็นวิทยากรเป็นพิธีกรหมอดาว
02:23:17 → 02:23:19 เนี่ยทำสิ่งนี้เพราะว่าหมอดาวต้องการจะ
02:23:19 → 02:23:21 ตอบแทนแม่
02:23:21 → 02:23:23 ทุกวันนี้แม่หมอดาวเนี่ยไม่อยู่แล้วอะไร
02:23:23 → 02:23:26 ก็ตามที่ดีๆเนี่ยหมอดาวจะนึกถึงส่งจิตส่ง
02:23:26 → 02:23:29 บุญให้ท่านท่านเสียด้วยพภากินสันเทียมแม่
02:23:29 → 02:23:33 หมอดาวเป็นพยาบาลเป็นพยาบาลทหานอากาศเป็น
02:23:33 → 02:23:35 ผู้หญิงที่ขยันเป็นผู้หญิงที่เก่งเป็นผู้
02:23:35 → 02:23:38 หญิงที่จริงจังเป็นผู้หญิงที่ทุกอย่าง
02:23:38 → 02:23:42 เนี่ยคือเขาทุกอย่างเป๊ะทุกอย่างเลยแต่
02:23:42 → 02:23:45 ด้วยความที่คาแรคเตอร์แม่เป็นแบบนี้ทำให้
02:23:45 → 02:23:48 แม่เกิดภาวะโรคคือพากินสันเทียมเป็นอะไร
02:23:48 → 02:23:51 ที่เรารู้สึกเลยว่าโหเ้ยมันเป็นเพราะว่า
02:23:51 → 02:23:55 ตัวเค้าเนี่ยทำงานหนักเกินควรจริงจังเกิน
02:23:55 → 02:23:59 ไปสิ่งเหล่าเเรามาตกตะกอนได้วันที่เรา
02:23:59 → 02:24:01 เนี่ยมาเป็นหมอเต็มตัวแล้วแล้วเรามี
02:24:01 → 02:24:03 ประสบการณ์ทำให้เราแทรคกลับมาว่าเราเสีย
02:24:03 → 02:24:06 ดายมากเราเสียดายที่วันที่เขาเริ่มเป็น
02:24:06 → 02:24:09 เนี่ยเรายังเป็นแค่นิสิตแพทย์วันที่เขา
02:24:09 → 02:24:11 เป็นหนักเรายังเพิ่งเป็นหมอจบใหม่เรายัง
02:24:11 → 02:24:15 ไม่รู้ถ้าย้อนเวลากลับไปได้เราคงจะบอกว่า
02:24:15 → 02:24:18 เฮ้ยจะดูแลเค้ายังไงบอกเ้ายังไงแต่วันนี้
02:24:18 → 02:24:22 มันไม่ได้แม่ของหมอเนี่ยพากินสันเทียม
02:24:22 → 02:24:24 เนี่ยก็คือว่าเริ่มจากเหมือนกันค่ะเริ่ม
02:24:24 → 02:24:28 จากว่าเซ็นชื่อไม่ได้แล้วก็เริ่มมีปัญหา
02:24:28 → 02:24:31 เรื่องการเดินเรื่องการพูดและกลายเป็นผู้
02:24:31 → 02:24:34 ป่วยที่ติดเตียงและกลายเป็นผู้ป่วยสมอง
02:24:34 → 02:24:38 เสื่อมทำไมหมอถึงได้เข้าใจสิ่งเหล่านี้
02:24:38 → 02:24:41 มันคือประสบการณ์ตรงแล้วมันก็เป็นอนอเป็น
02:24:41 → 02:24:44 inspiration เป็นแรงบันดาลใจว่าเฮ้ยเรา
02:24:44 → 02:24:49 ไม่อยากให้ใครเจอแบบเราเอาล่ะในเมื่อถ้า
02:24:49 → 02:24:51 เราไม่อยากให้ใครเจอแบบเราสิ่งที่เราทำ
02:24:51 → 02:24:53 ได้ในนาทีนี้ก็คือเราเป็นหมอเราสามารถ
02:24:53 → 02:24:57 ถ่ายทอดความรู้ได้เราก็พร้อมที่จะให้นี่
02:24:57 → 02:25:00 ก็คือแรงบันดาลใจนึงที่หมอไม่อยู่ตรงนี้
02:25:00 → 02:25:02 มันเป็นคำถามที่ไม่น่าเชื่อที่มันลิงเนาะ
02:25:02 → 02:25:09 เออประมาณนั้นเนาะ
02:25:09 → 02:25:12 ค่ะมีคำถามหรือว่าอยากแลกเปลี่ยนอะไรกับ
02:25:12 → 02:25:15 คุณหมออีกสักคำถามครับเชิญเลยครับผมค่ะ
02:25:15 → 02:25:19 คุณหมอครับมันมีมันมียาหรือว่าอะไรที่แบบ
02:25:19 → 02:25:23 ้องมันของเสื่อมโอเคค่ะคือจริงๆนะคะต้อง
02:25:23 → 02:25:27 บอกอย่างนี้ก่อนว่าถ้าเป็นยานะพี่เล็กยา
02:25:27 → 02:25:30 ที่รักษาหรือใช้คำว่าชะลอไม่ใช่ป้องกันนะ
02:25:30 → 02:25:35 พี่มันมีแต่มันต้องดูด้วยว่าสมองเสื่อม
02:25:35 → 02:25:39 ชนิดนั้นๆตอบสนองกับยาที่ว่านี้มยมันจะมี
02:25:39 → 02:25:41 ยาบางอย่างในกลุ่มสมองเสื่อมบางอย่างเช่น
02:25:41 → 02:25:44 กลุ่มเอ่อจะมีอย่างเช่นอัลไซเมอร์เขจะมี
02:25:44 → 02:25:47 งานวิจัยแต่ต้องบอกนะคะว่าก็ไม่ใช่ว่ากิน
02:25:47 → 02:25:50 ยานี้แล้วป้องกันความเสื่อม 100% แล้วก็
02:25:50 → 02:25:53 มียาบางอย่างพี่เล็กเช่นเป็นยากลุ่มที่
02:25:53 → 02:25:57 ควบคุมอาการเอ่ออาการแปรปรวนเขาเรียกว่า
02:25:57 → 02:26:00 bpsd ก็คือ behavioral of
02:26:00 → 02:26:02 psychological Of dementia ก็คือเป็น
02:26:02 → 02:26:06 พูดง่ายๆเป็นเป็นยาที่ควบคุมอาการไม่ให้
02:26:06 → 02:26:08 ไม่ให้อ๊องไม่ให้เพ้อไม่ให้งงไม่ให้
02:26:08 → 02:26:12 วุ่นวายเนาะแต่ไม่ใช่เป็นการป้องกันหรือ
02:26:12 → 02:26:15 ว่ารักซ้ารักษาให้หายขาแต่การชะลอความ
02:26:15 → 02:26:20 เสื่อมแล้วก็ช่วยลดความวุ่นวายมากกว่าอื
02:26:20 → 02:26:23 ค่ะได้ครับวันนี้ชัดเจนนะครับขอเสียงปรบ
02:26:23 → 02:26:25 มือดังๆให้กับคุณหมอดาวหน่อยครับผมขอบพระ
02:26:25 → 02:26:27 คุณคุณหมอเป็นอย่างสูงเลยครับผมได้ความ
02:26:27 → 02:26:31 รู้ไปเต็มๆเลยนะครับผมเดี๋ยวเราจะใช้เวลา
02:26:31 → 02:26:34 พักกันอีกสักครู่นึงนะครับประมาณ 15 นาที
02:26:34 → 02:26:36 สามารถเข้าห้องน้ำหรือว่าพูดคุยกับคุณหมอ
02:26:36 → 02:26:37 ได้ทั้งคุณหมอดาวแล้วก็คุณหมอเมย์มาอยู่
02:26:37 → 02:26:39 แล้วนะครับเดี๋ยวอีกสักครู่นึงคุณหมอเมย์
02:26:39 → 02:26:41 จะมาเล่าให้ฟังถึงเรื่องของแพทย์แผนจีนนะ
02:26:41 → 02:26:44 การฝังเข็มการกดจุดเป็นอย่างไรนะอีกสัก
02:26:44 → 02:26:46 ครู่นึงนะ 15 นาทีเดี๋ยวกลับมาเจอกันนะ
02:26:46 → 02:26:50 ครับพักผ่อนตอัธยาศัยก่อนครับ
02:26:50 → 02:26:53 สุดยอดเลยครับคุณหมอครับ
02:26:53 → 02:27:03 [เพลง]
02:27:03 → 02:27:16
02:27:16 → 02:27:20 [เพลง]
02:27:20 → 02:27:22 อ
02:27:22 → 02:27:36 [เพลง]
02:27:36 → 02:27:50
02:27:50 → 02:27:56 เ
02:27:56 → 02:28:20 [เพลง]
02:28:36 → 02:28:40 เ
02:28:40 → 02:28:50 [เพลง]
02:28:50 → 02:28:52 เ
02:28:52 → 02:29:10 [เพลง]
02:29:10 → 02:29:16
02:29:16 → 02:29:20 [เพลง]
02:29:20 → 02:29:27 เ
02:29:27 → 02:29:40 [เพลง]
02:29:40 → 02:29:46
02:29:46 → 02:29:50 [เพลง]
02:29:50 → 02:29:57 เ
02:29:57 → 02:30:20 [เพลง]
02:30:20 → 02:30:22 เ
02:30:22 → 02:30:39 [เพลง]
02:30:39 → 02:30:50
02:30:50 → 02:30:52 อ
02:30:52 → 02:30:58 [เพลง]
02:30:58 → 02:31:20
02:31:20 → 02:31:23 เ
02:31:23 → 02:31:34 [เพลง]
02:32:18 → 02:32:20 เแ
02:32:20 → 02:32:49 [เพลง]
02:32:49 → 02:33:03 เ
02:33:03 → 02:33:08 [เพลง]
02:33:08 → 02:33:16
02:33:16 → 02:33:19 [เพลง]
02:33:19 → 02:33:21 อ
02:33:21 → 02:33:29 [เพลง]
02:33:29 → 02:33:49
02:33:49 → 02:33:57 เ
02:33:57 → 02:34:14 [เพลง]
02:34:48 → 02:34:51 เเ
02:34:51 → 02:35:07 [เพลง]
02:35:07 → 02:35:16
02:35:16 → 02:35:19 [เพลง]
02:35:19 → 02:35:26 เ
02:35:26 → 02:35:39 [เพลง]
02:35:39 → 02:35:45
02:35:45 → 02:35:49 [เพลง]
02:35:49 → 02:35:51 เ
02:35:51 → 02:36:19 [เพลง]
02:36:19 → 02:36:21 อ
02:36:21 → 02:36:38 [เพลง]
02:36:38 → 02:36:49
02:36:49 → 02:36:51 อ
02:36:51 → 02:36:57 [เพลง]
02:36:57 → 02:37:05
02:37:05 → 02:37:19 [เพลง]
02:37:19 → 02:37:23 เ
02:37:23 → 02:37:39 [เพลง]
02:37:39 → 02:37:50
02:37:50 → 02:38:04 [เพลง]
02:38:04 → 02:38:09
02:38:09 → 02:38:17 [เพลง]
02:38:17 → 02:38:18
02:38:18 → 02:38:18 [เพลง]
02:38:18 → 02:38:20 เ
02:38:20 → 02:38:45 [เพลง]
02:38:45 → 02:38:48
02:38:48 → 02:38:48 [เพลง]
02:38:48 → 02:38:51 เ
02:38:51 → 02:39:02 [เพลง]
02:39:18 → 02:39:21 เเ
02:39:21 → 02:39:52 [เพลง]
02:39:52 → 02:39:54 เดี๋ยวรอสัญญาณไลฟ์แป๊บนึงนะครับนิวนะ
02:39:54 → 02:39:56 ครับณม
02:39:56 → 02:39:59 นินิค่ะพูดเสียงประมาณเยทุกคนจะได้ยิน
02:40:00 → 02:40:01 เดี๋ยวเขจะมีไมค์เดี๋ยวเออเดี๋ยวเขจะมี
02:40:01 → 02:40:04 ลำโพงเดี๋ยวลำโพงจะออกแต่ถ้าเกิดว่าเบาไป
02:40:04 → 02:40:06 เดี๋ยวิวบอกคุณมอก็ได้ว่าของเสียงเพิ่ม
02:40:06 → 02:40:11 แต่นคิดว่าเดี๋ยวเคงจะปรับให้ครับ
02:40:11 → 02:40:22 [เพลง]
02:40:22 → 02:40:24 ก็ต้อนรับทุกท่านนะครับเข้าสู่ช่วงสุด
02:40:24 → 02:40:26 ท้ายแล้วนะครับของการสัมมนาของเราในวัน
02:40:27 → 02:40:29 นี้นะครับ eat Healthy be wealthy
02:40:29 → 02:40:34 นั่นเองนะครับผมต้องตื่นกันหน่อยนะอ่าขอ
02:40:34 → 02:40:37 แนะนำเลยนะครับวิทยากรในช่วงนี้นะครับก็
02:40:37 → 02:40:42 คือแพทย์แผนจีนครับนะแพทย์แผนจีนนัทยาเฮง
02:40:42 → 02:40:45 อุดมสวัสดิ์หรือว่าคุณหมอเมย์นั่นเองนะ
02:40:45 → 02:40:47 ครับขอเสียงโรมให้กับคุณหมอเมย์หน่อยครับ
02:40:47 → 02:40:50 คุณหมอเมย์มาจากโรงพยาบาลนวเวชนั่นเองนะ
02:40:50 → 02:40:53 ครับผมก่อนที่จะเข้าถึงงการฝังเข็มนะครับ
02:40:53 → 02:40:56 คุณหมอเมย์ครับผมแอบดูสายตาหน้าตาแต่ละ
02:40:56 → 02:40:59 ท่านะต้องมีบางท่านเนี่ยง่วงแน่ๆเลยนะ
02:40:59 → 02:41:01 ครับผมมีกดจุดตรงไหนมครับให้แบบเปิด
02:41:01 → 02:41:04 สวิตช์แล้วแบบตื่นได้เลยมคุณหมอครับผมได้
02:41:04 → 02:41:07 เลยค่ะวันนี้นะคะสำหรับใครที่เริ่มง่วงๆ
02:41:07 → 02:41:10 ยามบ่ายแบบนี้นะคะแนะนำอยู่จุดนึงค่ะที่
02:41:10 → 02:41:13 ช่วยทำให้ปลุกสมองให้ตื่นขึ้นมานะคะแปบ
02:41:13 → 02:41:14 นึงนะครับถ้าพูดประมาณนี้ได้ยินกันมั้ย
02:41:14 → 02:41:16 ครับผมได้ยินออขออดังขึ้นอีกนิดนึงครับ
02:41:16 → 02:41:19 คุณหมอครับอขอได้ยินมั้ยคะประมาณนี้อ้า
02:41:19 → 02:41:23 โอเควันนี้นะคะจะแนะนำอยู่จุดๆนึงนะคะที่
02:41:23 → 02:41:26 ช่วยทำให้สมองมันตื่นขึ้นมาเลยในช่วงยาม
02:41:26 → 02:41:29 บ่ายๆแบบนี้นะคะเราเรียกว่าจุดป่หุ้ยค่ะ
02:41:29 → 02:41:33 ป่หุ้ยป่หุ้ยค่ะป่หุ้ยนะคะวิธีการหาคือ
02:41:33 → 02:41:36 แถวๆช่อช่วงประมาณเห็นมุมหูตรงนี้ั้ยคะ
02:41:36 → 02:41:40 ยอดตรงนี้ให้ลากขึ้นไปค่ะตรงกลางศีรษะจาก
02:41:40 → 02:41:44 หูลากขึ้นไปตรงกลางศีรษะใช่ค่ะแล้วกดลงไป
02:41:44 → 02:41:47 เลยค่ะพอกดลงไปเนี่ยมันจะมีความรู้สึก
02:41:47 → 02:41:51 ตื้อๆหน่วงๆนิดนึงมคะตรงจุดนี้ครับผมอ่า
02:41:51 → 02:41:53 จุดนี้นะคะเป็นจุดที่ช่วยทำให้เลือดเนี่ย
02:41:53 → 02:41:56 ขึ้นไปหล่อเลี้ยงบริเวณสมองได้ดีมากยิ่ง
02:41:56 → 02:41:59 ขึ้นนะคะช่วงบ่ายๆใครรู้สึกง่วงหงาวหาว
02:41:59 → 02:42:02 นอนนะคะสามารถกดจุดนี้ได้หรือแม้กระทั่ง
02:42:02 → 02:42:05 ถ้าหากว่าใครนะคะที่เรียกว่าเป็นคนขี้หลง
02:42:05 → 02:42:08 ขี้ลืมเอออ่ากดจุดนี้ได้เช่นเดียวกันค่ะ
02:42:08 → 02:42:11 ความจำก็จะกลับมาเลยความจำจะกลับมาดีขึ้น
02:42:11 → 02:42:14 เลยค่ะอ๋อ๋งั้นเดี๋ยวขอเสียงดังขึ้นอีก
02:42:14 → 02:42:16 นิดทิงเดี๋ยวขอเร่งเรทางลำโพงให้นิดนึงนะ
02:42:16 → 02:42:19 ครับผมงั้นคือคือกดไปแรงขนาดไหนครับคุณ
02:42:19 → 02:42:22 หมอครับจุดป่าหุ้ยเนี่ยครับผมกดให้เรารู้
02:42:22 → 02:42:24 สึกว่ามันมีอาการแบบตึงๆค่ะกดให้ตึงๆอ่ะ
02:42:24 → 02:42:27 ลองดูนะครับผมจากหูนะครับไล่ขึ้นมาจนถึง
02:42:27 → 02:42:30 ตรงกลางสี 3 นะครับลองกดดูแล้วกดนานขนาด
02:42:30 → 02:42:33 ไหนครับคุณหมอครับเวลากดนะค่ะกดประมาณนับ
02:42:33 → 02:42:36 1 2 3 4 5 แล้วปล่อยกดแบบนี้ค่ะ
02:42:36 → 02:42:39 ประมาณ 5-10 ครั้งโอเคงั้นเราลองทำ 5
02:42:39 → 02:42:43 ครั้งพร้อมกันนะอ้ากดไปก่อนนะครับ 1 2 3
02:42:43 → 02:42:49 4 5 ปล่อยครั้งที่ 1 1 2 3 4 5
02:42:49 → 02:42:54 ปล่อยครั้งที่ 2 กดต่อนะครับ 1 2 3 4
02:42:54 → 02:42:59 5 ปล่อยครั้งที่ 3 1 2 3 4 5 ปล่อย
02:42:59 → 02:43:04 ครั้งที่ 4 สุดท้ายครับ 1 2 3 4 5
02:43:04 → 02:43:07 ปล่อยครั้งที่ 5 ตื่นเลยยคะตื่นเลยยครับ
02:43:07 → 02:43:10 ทุกท่านครับผมอ่างั้นมาเข้าเรื่องกันดี
02:43:10 → 02:43:13 กว่านะครับผมเรื่องของการฟังเข็มครับคุณ
02:43:13 → 02:43:16 หมอครับค่ะณที่นี้มีใครเคยฝังเข็มมาก่อนม
02:43:16 → 02:43:20 ครับผมอ่ามี 1 ท่านนะครับผม
02:43:20 → 02:43:25 แล้วให้คุณหเล่าให้ังว่าเข็มจริมันอะไน
02:43:25 → 02:43:28 ครับค่ะการฝังเข็มนะคะเป็นหนึ่งในศาสตร์
02:43:28 → 02:43:30 การรักษาโรคของทางแพทย์แผนจีนนะคะที่มี
02:43:30 → 02:43:33 ประวัติความเป็นมาเนี่ยยาวนานประมาณ 4,000
02:43:33 → 02:43:36 ปีแล้วโดยการนำเข็มเล็กๆค่ะประมาณเส้นผม
02:43:36 → 02:43:39 ของคนเราเท่านั้นเองปักไปตามจุดฝังเข็มบน
02:43:39 → 02:43:42 ร่างกายนะคะซึ่งจุดพวกนี้เนี่ยมันจะมี
02:43:42 → 02:43:45 ความเชื่อมโยงไปถึงอวัยวะภายในได้อคครับ
02:43:45 → 02:43:48 ผมเดี๋ยวถ้าทีมงานครับถ้าเป็นช่วงคุณหมอ
02:43:48 → 02:43:50 เอ่อช่วยเร่งเสียงขึ้นอีกนิดนึงได้ั้ย
02:43:50 → 02:43:52 ครับ
02:43:52 → 02:43:55 ผมได้ยินกันชัดๆนะครับผมโอก็เป็นสาสตร์
02:43:55 → 02:43:58 ที่มีมานานกิบกี่กี่ 1000 ปีนะครับคุณหมอ
02:43:58 → 02:44:00 ครับประมาณ 4,000 ปีแล้วค่ะ 4,000 ปีแล้ว
02:44:00 → 02:44:02 นะครับการฝังเข็มอ่ะงั้นงขออีกครั้งนึงนะ
02:44:03 → 02:44:04 ครับคุณหมอครับเผื่อหลายท่านด้านหลังจะ
02:44:04 → 02:44:07 ไม่ได้ยินนะอ่ะเริ่มต้นใหม่นะคะครับผมค่ะ
02:44:07 → 02:44:09 เอ่อศาสตร์การฝังเข็มนะคะเป็นหนึ่งใน
02:44:09 → 02:44:12 ศาสตร์การรักษาโรคของทางแพทย์แผ่นจีนค่ะ
02:44:12 → 02:44:15 ที่มีประวัติความเป็นมายาวนานประมาณ 4,000
02:44:15 → 02:44:19 ปีแล้วนะคะโดยการใช้เข็มขนาดเล็กประมา
02:44:19 → 02:44:23 เส้นผมของคนเราค่ะปักไปตามจุดฝังเข็มต่าง
02:44:23 → 02:44:26 ๆบนร่างกายออ่าซึ่งจุดเหล่านี้ค่ะจะมี
02:44:26 → 02:44:29 ความเชื่อมโยงไปถึงอวัยวะแล้วก็ระบบภายใน
02:44:29 → 02:44:33 ต่างๆโดยมุ่งเน้นนะคะทำให้ปรับการทำงาน
02:44:33 → 02:44:35 ของอวัยวะแล้วก็ระบบต่างๆเนี่ยให้มันอยู่
02:44:35 → 02:44:38 ในสภาวะที่สมดุลมากยิ่งขึ้นนั่นเองค่ะ
02:44:38 → 02:44:41 ครับผมแล้วอย่างงนี้ฝันเข็มช่วยรักษาโรค
02:44:41 → 02:44:43 อะไรได้บ้างครับหรือว่ามันจะส่งผลให้ร่าง
02:44:44 → 02:44:46 กายมันดีขึ้นยังไงได้บ้างครับผมโอพูดถึง
02:44:46 → 02:44:49 เรื่องของโรคนะคะที่สามารถรักษาได้เนี่ย
02:44:49 → 02:44:51 เรียกว่าหลากหลายมากๆค่ะคุณนิวเรียกว่า
02:44:51 → 02:44:55 ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าภายนอกจนถึงภายใน
02:44:55 → 02:44:57 นะคะถ้าหากว่าแบ่งเป็นระบบเนี่ยก็เรียก
02:44:57 → 02:45:00 ว่าเยอะมากอย่างเช่นนะคะยกตัวอย่างเรื่อง
02:45:00 → 02:45:04 ระบบประสาทค่ะระบบประสาทนะคะอย่างแรกใน
02:45:04 → 02:45:06 กลุ่มผู้สูงอายุที่เป็นกันเยอะๆเนี่ย
02:45:06 → 02:45:10 อย่างนึงคือขี้หลงขี้ลืมมีใครเป็นเป็นกัน
02:45:10 → 02:45:13 บ้างมั้ยคะขี้หลงขี้ลืมไม่ต้องผู้สูงอายุ
02:45:13 → 02:45:14 ครับผมเองก็เป็นแล้วครับ
02:45:14 → 02:45:18 ผมใช่ค่ะกลุ่มอาการขี้หลงขี้ลืมนะคะ
02:45:18 → 02:45:20 สามารถช่วยได้ด้วยกันฝั่งเข็มหรือแม้
02:45:20 → 02:45:24 กระทั่งคนที่มีอาการมึนเวียนศีรษะง่ายค่ะ
02:45:24 → 02:45:26 บ้านหมุนเนี่ยกลุ่มเนี้ยจะเป็นอาการที่
02:45:26 → 02:45:29 เป็นกันเยอะในผู้สูงอายุถูกมคะไปจน
02:45:29 → 02:45:34 กระทั่งถึงหูอื้อหูมีเสียงวิ้งๆวีดๆอือ่า
02:45:34 → 02:45:36 กลุ่มนี้เป็นกันเยอะค่ะแล้วก็อีกอาการ
02:45:36 → 02:45:40 หนึ่งที่เป็นเยอะมากๆคือนอนไม่หลับอออื
02:45:40 → 02:45:42 นอนไม่หลับังเข็มช่วยให้นอนหลับดีขึ้น
02:45:42 → 02:45:45 เหรอครับใช่ค่ะเพราะว่าเาเข้าไปช่วยปรับ
02:45:45 → 02:45:49 สมดุลการทำงานของอวัยวะต่างๆเพราะว่าการ
02:45:49 → 02:45:52 เอ่อนอนไม่หลับใช่มคะจริงๆกลุ่มอาการเขา
02:45:52 → 02:45:56 ค่อนข้างกว้างมากอย่างเช่นว่าหลับยากหลับ
02:45:56 → 02:46:00 ๆตื่นๆตื่นแล้วหลับต่อไม่ได้หรือแม้
02:46:00 → 02:46:02 กระทั่งคนที่หลับได้แต่ตื่นมาแล้วรู้สึก
02:46:02 → 02:46:04 เพลียเหมือนไม่ได้นอนทั้งคืนแบบเค่ะ
02:46:04 → 02:46:06 อันเนี้ยจัดอยู่ในกลุ่มนอนไม่หลับทั้งหมด
02:46:06 → 02:46:11 ออ่าแล้วแล้วนอนกรนด้วยมครับนอนกรนมีส่วน
02:46:11 → 02:46:14 หนึ่งที่ทำได้ใช่ค่ะขึ้นอยู่กับสาเหตุ
02:46:14 → 02:46:17 ด้วยถ้าเกิดว่ามันเกิดจากทางแบบกายภาพ
02:46:17 → 02:46:19 อย่างเช่นว่าเกิดเนื้อเยื่อหรื่องอะไรพวก
02:46:19 → 02:46:21 เค่ะมันไปปิดกั้นบล็อกจากน้ำหนักที่เพิ่ม
02:46:21 → 02:46:24 ขึ้นอันนี้อาจจะต้องไปลดน้ำหนักแต่ถ้าหาก
02:46:24 → 02:46:27 ว่ามันเป็นอีกแบบนึงสาเหตุอีกประเภทนึงเย
02:46:27 → 02:46:29 อาจจะรักษาได้ในบางแบบค่ะครับผมก็เป็น
02:46:30 → 02:46:32 ศาสตร์ที่มีมาอย่างยาวนานแล้วก็สามารถ
02:46:32 → 02:46:34 รักษาได้นะครับในหลากหลายโรคหลากหลาย
02:46:34 → 02:46:37 อาการเลยนะครับคราวนี้มันก็มีคำถามว่า
02:46:37 → 02:46:40 แล้วมันอันตรายมยคุณหมอมันมีข้อควรระวัง
02:46:40 → 02:46:42 อะไรบ้างโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้สูงวัยที่
02:46:42 → 02:46:44 อาจจะเริ่มมาใช้บริการแพทย์แผนจีนแบบเย
02:46:44 → 02:46:47 ครับผมเอ่อการฝังเข็มนะคะนับเป็นาสตร์การ
02:46:47 → 02:46:50 รักษาที่เรียกว่าค่อนข้างปลอดภัยมากเพราะ
02:46:50 → 02:46:54 ว่าเป็นการรักษาที่ไม่ได้ใช้สารเคมีอะไร
02:46:54 → 02:46:57 เลยค่ะมันใช้แค่เข็มเล็กๆประมาณเส้นผมของ
02:46:57 → 02:47:00 คนเราเนี่ยแล้วมันเป็นเข็มตันที่ไม่มีการ
02:47:00 → 02:47:02 สอดยาเข้าไปข้างในนะคะปักไปตามจุดต่างๆ
02:47:02 → 02:47:05 แล้วกระตุ้นให้เรียกว่าร่างกายเราเนี่ยมี
02:47:05 → 02:47:09 การตอบสนองแล้วก็รักษาตัวเองนะคะเพราะ
02:47:09 → 02:47:11 ฉะนั้นมันเป็นการรักษาที่ค่อนข้างปลอดภัย
02:47:11 → 02:47:14 มากๆแต่ว่ามีข้อควรระวังอย่างนึงนะคะคือ
02:47:14 → 02:47:16 จำเป็นจะต้องได้รับการรักษาจากแพทย์ผู้
02:47:16 → 02:47:20 เชี่ยวชาญที่ได้รับการขึ้นทะเบียนแล้วก็
02:47:20 → 02:47:23 เรียกว่ามีใบประกอบโรคศิลปะอย่างถูกต้อง
02:47:23 → 02:47:25 ซึ่งในปัจจุบันเนี่ยมีอยู่แค่ 2 สาขาเท่า
02:47:25 → 02:47:28 นั้นที่ฝังเข็มได้โดยทุกกฎหมายนะคะก็คือ 1
02:47:28 → 02:47:32 แพทย์เวชกรรมหรือว่าแพทย์แผนปัจจุบันกับ 2
02:47:32 → 02:47:34 แพทย์แผนจีนซึ่งเป็นแพทย์ตรงสายที่สามารถ
02:47:34 → 02:47:37 ฝังเข็มได้นั่นเองค่ะครับซึ่งซึก็คือ
02:47:37 → 02:47:39 เหมือนก็จะเหมือนคุณหมอทั่วๆไปที่เขาจะมี
02:47:39 → 02:47:42 ใบรับรองใช่มั้ยครับว่าจบมาจากสถาบันไหน
02:47:42 → 02:47:45 ใชได้รับการรับรองถูกต้องแล้วหรือเปล่า
02:47:45 → 02:47:47 เพราะฉะนั้นถ้าเกิดหลายท่านเนี่ยไปใช้
02:47:47 → 02:47:50 บริการก็อย่าลืมสังเกตใช่ค่ะตรงนี้ด้วย
02:47:50 → 02:47:53 ประกาชต่างๆนั่นเองนะครับผมคราวนี้ทุกเทศ
02:47:53 → 02:47:55 ทุกวัยหรอครับสามารถที่จะเข้ารับบริการ
02:47:55 → 02:47:59 การฝังเข็มได้ใช่ค่ะในเรื่องของการฝัง
02:47:59 → 02:48:02 เข็มนะคะสามารถรักษาได้กับทุกเพศทุกวัยนะ
02:48:02 → 02:48:05 คะไม่ว่าจะเป็นตั้งแต่ในเด็กเล็กๆไปจน
02:48:05 → 02:48:07 กระทั่งถึงผู้สูงอายุไม่ว่าจะอายุเท่า
02:48:07 → 02:48:11 ไหร่นะคะก็สามารถฟังเข็มได้ค่ะครับผมแล้ว
02:48:11 → 02:48:15 ถ้าเกิดว่าเราจะฝังเข็มได้รับการรักษา
02:48:15 → 02:48:18 ประเภทนี้ควบคู่ไปกับแพทย์แผนปัจจุบันแบบ
02:48:18 → 02:48:21 เนี้ยสถเดินไปด้วยกันได้มยครับุหครับผม
02:48:21 → 02:48:24 ได้ค่ะการฝังเข็มนะคะสามารถรักษาควบคู่ไป
02:48:24 → 02:48:26 กับการรักษาจากแพทย์แผนปัจจุบันได้อย่าง
02:48:26 → 02:48:28 แน่นอนนะคะอันเนื่องมาจากว่า 1 เนี่ยเขา
02:48:28 → 02:48:31 ไม่ได้มีอันตรายอะไรนะคะอย่างที่ 2 เนี่ย
02:48:31 → 02:48:35 เขาช่วยปรับสมดุลในร่างกายนะคะทำให้ร่าง
02:48:35 → 02:48:38 กายของเราเนี่ยมันเกิดความแข็งแรงมากยิ่ง
02:48:38 → 02:48:40 ขึ้นมันทำให้ป่วยยากมากยิ่งขึ้นแม้
02:48:40 → 02:48:43 กระทั่งคนที่ป่วยอยู่แล้วค่ะเวลาไปรักษา
02:48:43 → 02:48:45 ด้วยการฝังเข็มนะคะมันจะยิ่งทำให้เรียก
02:48:45 → 02:48:48 ว่าฟื้นฟูได้เร็วได้ง่ายมากยิ่งขึนกว่า
02:48:48 → 02:48:52 เดิมด้วยค่ะอืมครับผมแล้วนอกจากวิธีการ
02:48:52 → 02:48:54 รักษาแล้วเนี่ยนะครับจริงๆฝังเข็มเนี่ย
02:48:54 → 02:48:58 มันป้องกันก่อนที่ร่างกายจะเสื่อมโทรม
02:48:58 → 02:49:00 หรือว่ามีโรคเกิดขึ้นได้หรือเปล่าครับคือ
02:49:00 → 02:49:02 ฝั่งเข็มเนี่ยป้องกันโรคได้มั้ยฝั่งเข็ม
02:49:02 → 02:49:05 นะคะนอกจากจะช่วยในเรื่องของการรักษาโรค
02:49:05 → 02:49:07 แล้วนะคะเขายังช่วยในเรื่องของการป้องกัน
02:49:07 → 02:49:10 โรคแล้วก็ฟื้นฟูร่างกายได้ดีด้วยค่ะอย่าง
02:49:10 → 02:49:12 ที่บอกว่าการฝังเข็มเนี่ยมันเป็นการ
02:49:12 → 02:49:15 กระตุ้นการทำงานของระบบต่างๆให้มันอยู่ใน
02:49:15 → 02:49:18 สภาวะที่สมดุลใช่มั้คะนอกจากนี้เนี่ยมัน
02:49:18 → 02:49:20 ทำให้ให้การไหลเวียนของเลือดลมต่างๆเนี่ย
02:49:21 → 02:49:23 มันดีมากยิ่งขึ้นด้วยค่ะเพราะฉะนั้นเนี่ย
02:49:23 → 02:49:26 ถ้าหากว่าร่างกายเราสามารถทำงานได้อย่าง
02:49:26 → 02:49:29 ดีแล้วนะคะแน่นอนว่าสุขภาพเนี่ยมันจะมี
02:49:29 → 02:49:31 ความแข็งแรงเรียกว่ามันทำให้ป่วยยากมาก
02:49:31 → 02:49:34 ขึ้นด้วยค่ะอืแล้วแล้วอย่างงี้แบบสมมุติ
02:49:34 → 02:49:36 ว่าผมแบบไม่ได้มีอาการอะไรแต่รู้สึกว่า
02:49:36 → 02:49:39 อยากจะดูแลสุขภาพตัวเองแบบเนี้ยเราเข้าไป
02:49:39 → 02:49:41 ฝั่งเข็มได้เลยมยครับผมได้ค่ะเพราะว่าการ
02:49:41 → 02:49:43 เข้าไปฝั่งเข็มเนี่ยคือไม่ใช่ว่าอยู่ดีๆ
02:49:44 → 02:49:46 เข้าไปปุ๊บหมอจะจับฝังเลยไม่ใช่นะคะอย่าง
02:49:46 → 02:49:49 น้อยๆเนี่ยมันจะต้องมีการพูดคุยกันก่อน
02:49:49 → 02:49:51 ว่าตอนนี้สภาวะร่างกายเป็นยังไงบ้างเพราะ
02:49:51 → 02:49:54 ว่าในปัจจุบันน่ะค่ะน้อยคนมากๆที่จะแบบ
02:49:54 → 02:49:57 แข็งแรงมากจริงๆแล้วไม่ป่วยอะไรถูกมยคะ
02:49:57 → 02:50:00 เพราะว่าเอ่อเรียกว่าปัจจัยที่มันทำให้
02:50:00 → 02:50:03 เกิดอาการป่วยเนี่ยมันมีอะไรบ้างเริ่ม
02:50:03 → 02:50:05 ตั้งแต่อากาศคือเรารู้อยู่นะคะว่าทุกวัน
02:50:05 → 02:50:09 เนี้ยสภาพอากาศเนี่ยมันไม่ได้แบบสะอาด
02:50:09 → 02:50:11 บริสุทธิ์ 100% เพราะฉะนั้นกลุ่มต่างๆ
02:50:11 → 02:50:14 เหล่านี้ค่ะมันเป็นปัจจัยเล็กๆน้อยๆที่ทำ
02:50:14 → 02:50:17 ให้เรื่องเรียกว่าเรื่องของก่อโรคขึ้นมา
02:50:17 → 02:50:21 แล้วกันอประมาค่ะครับผมแล้วแบบนี้เนี่ย
02:50:21 → 02:50:23 เอ่ออย่างที่คุณหมอบอกไปว่าเราก็ต้องดู
02:50:24 → 02:50:25 ด้วยว่าเป็นสถานที่ที่ได้รับการรับรองถูก
02:50:25 → 02:50:28 ต้องหรือเปล่าแพทย์ผู้เชี่ยวชาญตัวจริง
02:50:28 → 02:50:30 หรือไม่นะครับแล้วก็เข้าไปรับบริการฝัง
02:50:30 → 02:50:32 เข็มนอกจากฝังเข็มแล้วจะเห็นอย่างอื่น
02:50:32 → 02:50:35 ด้วยของแพทย์แผนจริงก็คือการกดจุดค่ะเออ
02:50:35 → 02:50:39 อันนี้นอกจากเรากดไปตอนแรกะนะตั้งแต่
02:50:39 → 02:50:41 เริ่มต้นเลยเนี่ยคุณหมอมีเทคนิคในการกด
02:50:41 → 02:50:44 จุดดูแลสุขภาพที่สามารถทำได้เองทุกวันมา
02:50:44 → 02:50:47 แนะนำนะครับในวันนี้นี่ค่ะวันนี้นะคะ
02:50:47 → 02:50:49 เกี่ยวกับเรื่องการกดจุดจริงๆมันเป็น
02:50:49 → 02:50:51 เรียกว่าพื้นฐานเดียวกับการฝังเข็มแล้ว
02:50:51 → 02:50:54 กันค่ะเพียงแต่ว่าการกดจุดเนี่ยมันจะค่อน
02:50:54 → 02:50:55 ข้าง
02:50:55 → 02:50:59 เอ่อเบาบางกว่าเพราะว่ามันไม่ค่อยลึกเท่า
02:50:59 → 02:51:02 กันฝั่งเข็มนะคะแต่ว่าอย่างน้อยๆเขา
02:51:02 → 02:51:05 สามารถช่วยบรรเทาโรคได้หลายๆชนิดแล้วก็
02:51:05 → 02:51:08 ถ้าหากว่าโรคไม่ได้เป็นหนักหนามากนัก
02:51:08 → 02:51:11 สามารถช่วยรักษาได้ด้วยอ่าอย่างจุดแรกนะ
02:51:11 → 02:51:14 คะจุดแรกได้อธิบายไปในเบื้องต้นแล้วนะคะ
02:51:14 → 02:51:16 คือจุดไปหุ้ยด้านบนยังจำได้กันใช่มั้ยคะ
02:51:16 → 02:51:19 ครับผมอ่าจุดที่ 2 นะคะคะเกี่ยวกับเรื่อง
02:51:19 → 02:51:22 อาการนอนไม่หลับค่ะมีใครนอนไม่ค่อยหลับ
02:51:22 → 02:51:24 บ้างมคะนที่ออมือหน่อยครับใครนอนไม่ค่อย
02:51:24 → 02:51:28 หลับครับโอโอหลายท่าเลยนะคณ 60% ได้ 60%
02:51:28 → 02:51:30 ค่ะของที่อยู่ในห้องนี้โอเคค่ะเกี่ยวกับ
02:51:30 → 02:51:36 อาการนอนไม่หลับนะคะจะแนะนำจุดที่ชื่อว่า
02:51:36 → 02:51:40 จุดเนยกวานค่ะเนยกวานนะคะจะอยู่บริเวณข้อ
02:51:40 → 02:51:43 มือด้านในทั้ง 2 ข้างของคนเราวิธีการหา
02:51:43 → 02:51:45 จุดเดีกว่านะคะคือาบ 3 นิ้วเป็นแบบนี้ค่ะ
02:51:45 → 02:51:48 อันนี้นิ้วใครนิ้วมันนะคะเพราะว่านิ้วแต่
02:51:48 → 02:51:50 ละคนจะไม่เท่ากัน 3 นิ้วเท่านั้นนะคะแปะ
02:51:50 → 02:51:53 ไปแบบนี้ค่ะ 3 นิ้วจุดจะอยู่ด้านล่างตรง
02:51:53 → 02:51:57 นี้ค่ะอ่า 3 นิ้วแบบนี้นะ
02:51:57 → 02:52:01 คะแล้วกดลงไปตจุดนี้ค่ะจะอยู่ที่ข้อมือ
02:52:01 → 02:52:05 ด้านในจุดนี้เรียกว่าจุดในกวานในกวาน
02:52:05 → 02:52:09 เนี่ยจะช่วยสงบสติอารมณ์สงบจิตใจได้นะคะ
02:52:09 → 02:52:12 สำหรับคนที่จิตใจค่อนข้างว้าวุ่นสมมุติ
02:52:12 → 02:52:15 เรากดกดใครอยู่แล้วหากดเลย
02:52:15 → 02:52:19 ค่ะกดเลยค่ะตรงนี้นะคะถ้าเกิดว่าใครที่
02:52:19 → 02:52:21 นอนไม่ค่อยหลับนะคะรู้สึกจิตใจค่อนข้าง
02:52:22 → 02:52:25 ว้าวุ่นสามารถกดจุดๆนี้ได้วิธีการกดก็
02:52:25 → 02:52:28 เช่นเดียวกับจุดปลายหุ้ยเลยค่ะครับกด
02:52:28 → 02:52:31 ประมาณคะทั้ง 2 ข้างเลย 2 ข้างเลยค่ะ
02:52:31 → 02:52:34 เพราะว่าจุดอยู่ทั้ง 2 ข้างซ้ายขวานะคะ
02:52:34 → 02:52:37 สามารถกดได้ค่ะเวลากดก็คือกดประมาณ 5-10
02:52:37 → 02:52:42 วินาทีวนไปประมาณ 5-10 รอหรือช่วงว่างก็
02:52:42 → 02:52:44 ได้ค่ะถ้าเกิดว่าเรานอนไม่หลับช่วงกลาง
02:52:44 → 02:52:46 คืนแต่กลางวันมันว่างอ่ะอยกดกดได้เช่น
02:52:47 → 02:52:51 เดียวกันนะคะก็ก็คือจะกดซ้ายกดขวาสลับกัน
02:52:51 → 02:52:53 ไปอย่างงี้อันนี้แนะนำอย่าเพิ่งกดตอนนี้
02:52:53 → 02:52:54 เดี๋ยวจะหลับกัน
02:52:54 → 02:52:57 หมดโอเคงั้นท่าที่ 1 ะมีจุดไหนอีกครับคุณ
02:52:57 → 02:53:01 หมอครับผมมีจุดไหนบ้างอย่างงี้ดีกว่าค่ะ
02:53:01 → 02:53:04 มีใครอยากรู้จุดไหนอะไรยังไงบ้างดีเอือ
02:53:04 → 02:53:07 อะไรแล้วกดตรงไหนให้ร่างกายดีขึ้นก็ได้นะ
02:53:07 → 02:53:09 ครับผมอ่ะลองดูก่อนเอ๊ะเรามีปัญหาอะไร
02:53:09 → 02:53:11 เรื่องการนอนหรือว่าเรือการปวดอะไรอย่าง
02:53:11 → 02:53:14 งี้ด้วยมยคุณหมอช่วยการปวดหรอคะปวดพอได้
02:53:14 → 02:53:18 อยู่แต่ว่ามันแล้วแต่บริเวณที่ปวดด้วยอ่า
02:53:18 → 02:53:20 ไม่ค่อยเหมือนกันค่ะครับผมมีท่านไหนอยาก
02:53:20 → 02:53:23 ปรึกษามั้ยครับแบบว่าเขามันฝืดๆอย่าง
02:53:23 → 02:53:26 เงี้ยค่ะเข่ามันฝืดๆฝืดๆอ่าสมมุติว่าเข่า
02:53:26 → 02:53:29 ฝืดหรือว่าเป็นข้อเข่าเสื่อมด้วยั้คะยัง
02:53:29 → 02:53:31 ไม่เสื่อมยังไม่เสื่อมแต่แค่ฝืดๆอย่าง
02:53:32 → 02:53:35 เดียวใช่มั้ยคะจุดที่สามารถกดได้นะคะ
02:53:35 → 02:53:38 เกี่ยวกับอาการแบบเาฝืดๆรู้สึกว่ามันไม่
02:53:38 → 02:53:41 ค่อยกระปรี้กระเป๋าใช้คำนี่ได้มยไม่ค่อย
02:53:41 → 02:53:44 คล่องอครับผมนะคะจะอยู่บริเวณหัวเข่าทั้ง
02:53:44 → 02:53:48 2 ฝั่งนะคะถ้าหากว่าเรามองหาบริเวณหัว
02:53:48 → 02:53:51 เข่านะค่ะมันจะมีช่วงบริเวณเค่ะที่เป็นเา
02:53:51 → 02:53:55 เรียกว่ารูบุ๋มๆลงไปเนาะ 2 รูตรงเยค่ะจุด
02:53:55 → 02:53:59 ตรงเค่ะสามารถกดไปได้นะคะเห็นกันไม่คัดรู
02:53:59 → 02:54:02 บุ๋มๆตรงหัวเข่านะครับสามารถกดไปได้ใช่
02:54:02 → 02:54:05 ค่ะ 2 รูซ้ายขวาค่ะแต่ว่าอันเนี้ยจะได้ใน
02:54:05 → 02:54:08 ระยะที่ไม่ได้เป็นเยอะมากแต่ถ้าหากว่าคน
02:54:08 → 02:54:10 ที่เป็นแบบข้อเข่าเสื่อมจริงจังแล้วก็มี
02:54:10 → 02:54:13 อาการแบบเสียงก๊อกๆกๆๆอ๊อดแอดอแอดข้างใน
02:54:13 → 02:54:15 อย่างเงี้ค่ะแนะนำให้ไปฝั่งเข็มดีกว่า
02:54:15 → 02:54:17 เพราะว่าจุดมันจะอยู่ค่อนข้างลึกมากกว่า
02:54:17 → 02:54:20 อืแล้วอย่าคนที่มีอาการข้อเข่าเสื่อม
02:54:20 → 02:54:22 อย่างมยครับเอ่อไปกดจุดไม่เป็นไรครับไปกด
02:54:22 → 02:54:25 จุดแบบนี้นี่ได้มั้ยครับคุณมข้อเข่า
02:54:25 → 02:54:27 เสื่อมหรอคะข้อเข่าเสื่อมสามารถกดจุดช่วย
02:54:27 → 02:54:30 ได้อย่างน้อยๆคือมันเป็นการกระตุ้นอ่ะค่ะ
02:54:30 → 02:54:32 ให้เลือดเข้าไปไหลเวียนแล้วก็หล่อเลี้ยง
02:54:32 → 02:54:35 บริเวณเข่าที่มันมีการสึกหล่อมากยิ่งขึ้น
02:54:35 → 02:54:37 ได้บ้างแต่ถามว่ามันทำให้แบบหายปวดไปใน
02:54:38 → 02:54:40 ทันทีมยอาจจะไม่ถึงขั้นนั้นนะคะมันจำเป็น
02:54:40 → 02:54:43 จะต้องได้รทใช่บรรเทาได้ประมาณระดับนึง
02:54:43 → 02:54:46 ค่ะแต่ว่าถ้าเกิดแบบอยากรจะรักษาจริงจัง
02:54:46 → 02:54:49 เนี่ยแนะนำให้ไปฝังเข็มดีกว่าเพราะว่า
02:54:49 → 02:54:51 เข็มเนี่ยเวลาปักเข้าไปอ่ะค่ะมันค่อนข้าง
02:54:51 → 02:54:54 ลึกมากกว่านั่นเองค่ะเวลากดมันกดไม่ค่อย
02:54:54 → 02:54:57 ถึงครับผมแล้วอย่างหมอนรองกระดูกทับเส้น
02:54:57 → 02:55:00 ประสาทอย่างเงี้ยช่วยได้มยครับหมอนรอง
02:55:00 → 02:55:02 กระดูกทับเส้นประสาทอันนี้ไม่ค่อยแนะนำ
02:55:02 → 02:55:05 ให้กดสักเท่าไหร่นะคะเนื่องมาจากว่ามัน
02:55:05 → 02:55:07 เป็นโรคเกี่ยวกับพวกเส้นประสาทแล้วที่
02:55:07 → 02:55:10 เนี้ยการการใช้แรงหรือว่าการกดลงไปโดยตรง
02:55:10 → 02:55:13 อ่ะค่ะมันทำให้ตัวเส้นประสาทเนี่ยมันเกิด
02:55:13 → 02:55:15 การบอกช้ำขึ้นมาอ่าเพราะฉะนั้นถ้าเกิดว่า
02:55:15 → 02:55:17 ใครที่เป็นอาการประมาณเนี้ยแนะนำให้ไปฝั
02:55:17 → 02:55:20 เข็มจะจะดีกว่าฝั่งเข็มจะตรงจุดมากกว่า
02:55:20 → 02:55:22 ค่ะทำให้กล้างเนือด้านข้างเนี่ยมันเกิด
02:55:22 → 02:55:25 การคลายตัวมากยิ่งขึ้นแล้วก็ทำให้เรียก
02:55:25 → 02:55:28 ว่ามันแข็งแรงมากขึ้นค่ะไม่ค่อยกดทับเส้น
02:55:28 → 02:55:30 ประสาทนั่นเองนะคะครับระหว่างนี้ใครมีคำ
02:55:30 → 02:55:32 ถามถามได้
02:55:32 → 02:55:37 ครับเออปวดเอวเหรอคะอ่ะถ้าเกิดว่าเป็นปวด
02:55:37 → 02:55:40 เอวนะคะถ้าหากว่าเราไม่รู้หรอกว่ามันเป็น
02:55:40 → 02:55:43 ที่ข้อไหนตรงไหนตรงไหนถูกมยคะถ้าเกิดว่า
02:55:43 → 02:55:46 ปวดเอวเนี่ยแนะนำให้กดบริเวณตรงนี้ค่ะจะ
02:55:46 → 02:55:50 อยู่ตรงฝ่ามือด้านหลังนะคะจะมีจุดตรงนี้
02:55:50 → 02:55:53 ค่ะมันจะอยู่ระหว่าง 2 กับ 3 คือนิ้วชี้
02:55:53 → 02:55:56 กับนิ้วกลางตรงนี้ค่ะเป็นร่องลงไปกดอัน
02:55:56 → 02:55:59 นี้จุดที่ 1 จุดที่ 2 คือนิ้วนางและนิ้ว
02:55:59 → 02:56:02 ก้อยตรงเค่ะจุดที่ 2 ตรงนี้จะพอช่วยได้นะ
02:56:02 → 02:56:03 คะสำหรับคน
02:56:03 → 02:56:08 ที่ใช่ค่ะจะเป็นประมาณประมาณนี้เนาะ 2
02:56:08 → 02:56:10 จุดตรงนี้นะคะอ๋อคือกดไปพร้อมกันเลยเหรอ
02:56:10 → 02:56:13 ครับคุณหมอเอ่อถ้ามีแรงสามารถกดไปพร้อมๆ
02:56:13 → 02:56:16 กันได้ค่ะอันนี้ให้ดูเฉยๆนะคะว่าตำแหน่ง
02:56:16 → 02:56:19 มันอยู่ประมาณนี้อืค่ะลองดูนะครับผมลองดู
02:56:19 → 02:56:22 นะครับครับผมถ้าสำหรับคนที่เหมือนเอว
02:56:22 → 02:56:25 เคล็ดเอวยอกอะไรพวกนี้ค่ะสามารถใช้ได้แต่
02:56:25 → 02:56:28 ว่าถ้าเกิดว่าเกิดจากหมอนรองกระดูก
02:56:28 → 02:56:31 เคลื่อนไปทับเส้นประสาทแล้วมันเล้าชาลงขา
02:56:31 → 02:56:34 อันนี้อาจจะแบบช่วยไม่ได้มากนักนะคะครับ
02:56:34 → 02:56:40 ผมปดเอปวดเอวเฉยๆใช่ค่ะแบบเหมือนเอื้อม
02:56:40 → 02:56:43 ผิดท่าไปหยิบของอะไรประมาณนี้เรารู้สึก
02:56:43 → 02:56:48 เอเสใช่ค่ะสามารถช่วยได้ค่ะคืพเส้นประสาด
02:56:48 → 02:56:51 พังผืดรัดเส้นประสาทใช่มั้ยคะจริงๆถ้าพัง
02:56:52 → 02:56:56 ผืดรัดเส้นมือชามือชาถ้ากรณีที่พังผืดรัด
02:56:56 → 02:57:00 เส้นประสาทแล้วมือชาขึ้นมานะคะแนะนำอย่าง
02:57:00 → 02:57:04 แรกคือใช้การนวดนวดบริเวณข้อมือรอบรอบค่ะ
02:57:04 → 02:57:07 อันเนี้ยจะได้ผลมากกว่าเพราะว่ามันทางผืด
02:57:07 → 02:57:09 เนี่ยมันไม่ได้เป็นจุดๆเดียวถูกไหมคะแต่
02:57:09 → 02:57:12 ว่ามันเป็นแบบรอบๆดังนั้นเนี่ยเวลานวด
02:57:12 → 02:57:15 เนี่ยให้แช่ไปในกลุ่มน้ำอุ่นออ่ามันจะ
02:57:15 → 02:57:18 ช่วยคลายตรงนี้ได้ค่อนข้างดีค่ะถ้าสนาก
02:57:18 → 02:57:21 ว่าคนที่มีอาการมือชาหรือว่าเอ่อเกิดจาก
02:57:21 → 02:57:23 เรื่องทางผืนหรืออะไรพวกเนี้ยใช้วิธีนี้
02:57:23 → 02:57:27 ได้ผลค่อนข้างดีอยู่ค่ะครับผมอันนี้อยาก
02:57:27 → 02:57:30 ถามด้วยเพิ่มเติมกดจุดตรงไหนให้หน้าใสมี
02:57:30 → 02:57:34 มั้ยคุณหมอกดจุดหน้าใสอ่ะได้ค่ะกดจุดหน้า
02:57:34 → 02:57:37 ใส่นะคะจริงๆมันมีหลายจุดมากๆแต่ว่าวัน
02:57:37 → 02:57:40 นี้ขอแนะนำประมาณ 2-3 จุดแล้วกันนะต้อง
02:57:40 → 02:57:42 2-3 จุดนะทุกคนเราจะหน้าใส่ไปพร้อมกันนะ
02:57:42 → 02:57:44 ครับอ่ะจุดแรกนะคะจะอยู่ประมาณระหว่าง
02:57:44 → 02:57:48 คิ้วตรงนี้ค่ะจุดนี้ค่ะเป็นจุดจุดแรกนะคะ
02:57:48 → 02:57:50 ถ้าหากว่าใครที่นอนไม่ค่อยหลับจุดนี้ก็
02:57:50 → 02:57:53 ช่วยได้เช่นเดียวกันใครที่มีอาการตาพร่า
02:57:54 → 02:57:58 ตามัวออจากการที่เล่นลายเยอะเล่นมือถือ
02:57:58 → 02:58:02 เยอะเล่นติกต๊อกเยอะค่ะอ่าสามารถกดจุดจุด
02:58:02 → 02:58:05 นี้ได้ค่ะอันนี้เป็นจุดแรกนะคะเวลากด
02:58:05 → 02:58:08 เนี่ยให้ใช้วิธีการคลึงค่ะกดแล้ว
02:58:08 → 02:58:12 คลึงใช่ค่ะนี่ไงคุณพี่หน้าใสขึ้นทันทีเลย
02:58:12 → 02:58:16 ครับประมาณกี่วินีคะประมาณ 5 วินีเหมือน
02:58:16 → 02:58:18 เดิมค่ะ 5 วินีแล้วปล่อยแล้วก็กดซ้ำย้ำๆ
02:58:18 → 02:58:22 แล้วแล้วต้องคลึงซ้ายคลึงขวามันอยู่ตรง
02:58:22 → 02:58:24 กลางค่ะอ๋ออ่าเราสามารถวนไปทางเดียวหรือ
02:58:24 → 02:58:26 ว่าวนย้อนกลับก็ได้ค่ะเพื่อสร้างความ
02:58:26 → 02:58:31 สมดุลอือ่ะอันนี้คือจุดที่ 1 แล้วนะคะจุด
02:58:31 → 02:58:33 ที่ 2 ค่ะจะอยู่ตรงช่วงห่างตามันจะอยู่
02:58:33 → 02:58:35 ระหว่างตรงห่างคิ้วกับหางตาค่ะลากออกไป
02:58:35 → 02:58:38 เป็นเส้นค่ะจะอยู่ตรงแถวๆขมับเรานั่นเอง
02:58:38 → 02:58:41 อ่าจุดนี้เป็นจุดที่ 2 นะคะถ้าหากว่าใคร
02:58:42 → 02:58:45 ที่มีอาการตาล้าจากการที่ใช้คอมพิวเตอร์
02:58:45 → 02:58:48 เยอะใช้สมาร์ทโฟนเยอะหรืออะไรพวกนะคะ
02:58:48 → 02:58:51 สามารถกดจุดนี้ได้เช่นเดียวกันอืก็คือกด 5
02:58:51 → 02:58:54 วินีแล้วก็ออกมาแล้วก็อีก 5 วินีแล้วก็
02:58:54 → 02:58:57 ออกมาแบบนี้ใชค่ะใช่ค่ะใครที่เป็นไมเกรน
02:58:57 → 02:58:59 อะไรพวกนี้ค่ะก็สามารถกดจุดนี้ได้เช่น
02:58:59 → 02:59:02 เดียวกันค่ะครับผมอ 2 จุดแล้วนะครับทุก
02:59:02 → 02:59:05 ท่านครับ 2 จุดแล้วใครมีคำ
02:59:05 → 02:59:09 ถามคุณหมอขาจุดอันตรายอคะที่เราทคนไปพูด
02:59:09 → 02:59:12 กับมันอจุดอันตรายใช่มั้ยคะจริงๆจุด
02:59:12 → 02:59:14 อันตรายเนี่ยถามว่าอันนี้อันนี้หวังดี
02:59:14 → 02:59:17 หรือยังไงครับโอเคหวังดีใช่มั้ยครับโอเค
02:59:17 → 02:59:22 โอครับผมอส่วดอันตรายนะคะจริงๆถามว่ามีมี
02:59:22 → 02:59:25 มยแต่ว่าถามตอบได้เลยว่ามันมีแต่ว่าไม่
02:59:25 → 02:59:28 ใช่ว่าสำหรับทุกคนจะอันตรายทุกคนอย่าง
02:59:28 → 02:59:31 เช่นว่าบางจุดอ่ะค่ะที่มันเป็นการกระตุ้น
02:59:31 → 02:59:34 การไหลเวียนของเลือดเยอะๆคนที่ตั้งครรภ์
02:59:34 → 02:59:37 อาจจะกดได้ไม่ค่อยมากประมาณนี้ค่ะครับผม
02:59:37 → 02:59:40 จุดที่ว่านั้นคือจุดแถวๆตรงมือตรงนี้ค่ะ
02:59:40 → 02:59:42 แต่ว่าถ้าเราไม่ได้ตั้งขั้นอยู่สามารถกด
02:59:42 → 02:59:45 ได้นะคะโอเคอันนี้จะช่วยทำให้หน้าใสขึ้น
02:59:45 → 02:59:48 ด้วยนี้คือจุดที่ 3 งรีบกดเลยต้องกดแล้ว
02:59:48 → 02:59:51 ละครับผมนี่นะคะจะอยู่ระหว่างเอ่อนิ้วชี้
02:59:51 → 02:59:54 กับนิ้วโปงนะคะลงไปตรงนี้เวลากดไปจะเราจะ
02:59:54 → 02:59:58 รู้สึกตึงๆหน่วงๆด้านในค่ะครับผมอจุดนี้
02:59:58 → 03:00:01 เรียกว่าจุดเหอกู่นะคะกดเข้าไปได้ทั้ง 2
03:00:01 → 03:00:03 ฝั่งค่ะเวลาใช้เนี่ยให้ใช้นิ้วโป้งในการ
03:00:03 → 03:00:07 กดจะมีแรงมากกว่าใช้นิวชีนะคะกดไปได้ตรง
03:00:07 → 03:00:08 นี้เนี่ยจะเป็นการกระตุ้นการไหล่งเวี้ยน
03:00:09 → 03:00:12 ของเลือดใครที่มีอาการปวดศีรษะบ่อยๆนะคะ
03:00:12 → 03:00:15 ก็สามารถกดได้เช่นเดียวกันค่ะอืแล้วแล้ว
03:00:15 → 03:00:18 มันมีบริการแบบกดจุดใช่มยคุณหมออย่างเช่น
03:00:18 → 03:00:21 ผมเแบบมีอาการแล้วอยากให้มีคนแบบทำให้เลย
03:00:21 → 03:00:22 อ่ะไม่ต้องมาแบบทำเองอย่าเงี้ยก็คือไปไป
03:00:23 → 03:00:25 ปรึกษาได้ใช่มั้ยครับปรึกษาได้ค่ะมันจะมี
03:00:25 → 03:00:27 อยู่ 2 แบบค่ะอย่างแรกเนี่ยมันเอ่อจะ
03:00:27 → 03:00:32 เรียกว่าคล้ายๆการนวดเพื่อการผ่อนคลาย
03:00:32 → 03:00:34 อันเนี้ยแบบนึงกับอีกประเภทนึงคือเพื่อ
03:00:34 → 03:00:37 การรักษาโรคเพราะว่าถ้าเกิดเป็นการรักษา
03:00:37 → 03:00:40 โรคเนี่ยจะเหมือนถูกสั่งออเดอร์โดยคำสั่ง
03:00:40 → 03:00:42 แพทย์อ่ะค่ะว่าควรจะกดตรงไหนอะไรยังไง
03:00:42 → 03:00:45 บ้างอ๋อคือคุณหมอแพทย์แผนจริงก็จะแนะนำ
03:00:45 → 03:00:47 เลยว่าต้องเหมือนเหมเป็นการให้ยาไปเลยว่า
03:00:47 → 03:00:50 ต้องเป็นกดเพื่อได้รับการรักษาใช่ใช่ค่ะ
03:00:50 → 03:00:52 เพราะว่าร่างกายแต่ละคนไม่เหมือนกันครับ
03:00:52 → 03:00:56 ผมอครับผมมีคำถามอะไรเพิ่มเติมมครับเชิญ
03:00:56 → 03:00:58 เลยครับต้องมีกดจุดที่แบบว่าแก้ไมเกรนแต่
03:00:58 → 03:01:01 แก้โรคบ้านหมุนอ้าไมเกรนและบ้านหมุนครับ
03:01:01 → 03:01:04 กดจุดไหนดีครับคุณมองไมเกรนและบ้านหมุนนะ
03:01:04 → 03:01:06 คะจะมีหลายๆจุดอยู่เหมือนกันอย่างจุดแรก
03:01:06 → 03:01:08 เนี่ยตรงนี้แน่นอนนะคะจุดไปคุจำได้ใช่
03:01:09 → 03:01:12 มั้ยคะทุกคนจุดแรกเลยจากหูมาตรงกลางใช่ม
03:01:12 → 03:01:16 ครับอืจุดที่ 2 ค่ะคือจุดอิ้มถางตรงกลาง
03:01:16 → 03:01:18 ระหว่างคิ้วที่บอกออกไปแล้วเมื่อกี้นั่น
03:01:18 → 03:01:22 เองอืตรงกลางค่ะตรงกลางไม่เอาตรงนี้นะคะ
03:01:22 → 03:01:25 ตรงนี้ค่ะตรงกลางค่ะกลางระหว่างคิ้วใช่
03:01:25 → 03:01:27 อันนี้ถูกมั้ยต่ำลงมาอีกนิดนึงค่ะตลมาก
03:01:27 → 03:01:29 นิดนึงใช่ค่ะจะอยู่ระหว่างหัวคิ้วทั้ง 2
03:01:30 → 03:01:34 ข้างตรงกลางอ๋อตรงนี้ใช่ค่ะจุดที่ 3 ลอง
03:01:34 → 03:01:38 กดตรงนี้ค่ะตรงกลางแถวๆเหนือไรผมขึ้นไป
03:01:38 → 03:01:41 นิดนึงค่ะเหนือไรผมอาจจะสัก
03:01:41 → 03:01:45 ประมาณ 1 ซมครึ่งซมประมาณเยค่ะกดเข้าไป
03:01:45 → 03:01:48 ได้ตรงนี้ค่ะจะช่วยอาการเกี่ยวกับพวก
03:01:48 → 03:01:52 ไมเกรนบ้านหมุนได้ค่อนข้างดีค่ะครับผมมี
03:01:52 → 03:01:55 ท่านไหนสนใจถามเพิ่มเติมเชิญครับฝเขช่วยร
03:01:55 → 03:02:01 ความอนลดความลดความอ้วนได้ค่ะอันจาก
03:02:01 → 03:02:06 ใช่อะไรนะคะให้ังหน่อยได้ค่ะเกี่ยวกับการ
03:02:06 → 03:02:08 ฝังเข็มลดน้ำหนักนะคะอันเนื่องมาจากว่าใน
03:02:08 → 03:02:11 แต่ละคนเนี่ยสาเหตุของน้ำหนักที่ขึ้น
03:02:11 → 03:02:14 เนี่ยแตกต่างกันถูกต้องมคะบางคนเนี่ยบอก
03:02:14 → 03:02:17 ว่าไม่ได้กินอะไรเยอะเลยแค่หายใจเข้าไปก็
03:02:17 → 03:02:20 อ้วแล้วออันนี้เคยได้ยินกันบ่อยๆค่ะอัน
03:02:20 → 03:02:23 นั้นไม่ใช่ข้ออ้างใช่มั้ยครับไม่ใช่จริงๆ
03:02:23 → 03:02:25 อันนี้คือเรื่องจริงค่ะคือเรียกว่าถามว่า
03:02:25 → 03:02:27 ทานเยอะมั้ยวันนึงคือบางคนทานน้อยมากทาน
03:02:27 → 03:02:30 เหมือนแมวดมอแต่น้ำหนักขึ้นเอาขึ้นเอาค่ะ
03:02:30 → 03:02:32 อันนี้ในผู้สูงอายุเป็นกันค่อนข้างเยอะนะ
03:02:32 → 03:02:35 คะอันเนื่องมาจากเรื่องของระบบการย่อยของ
03:02:35 → 03:02:37 เขาเนี่ยมันเริ่มแปรปรวนไปนั่นเองเพราะ
03:02:37 → 03:02:39 ฉะนั้นเวลาเรารับประทานอะไรเข้าไปเนี่ย
03:02:39 → 03:02:42 มันเหมือนฮอร์โมนมันก็แบบแกว่งอ่ะค่ะอ่า
03:02:42 → 03:02:44 นอกจากนี้มันทำให้การดูดซึมสารอาหารต่างๆ
03:02:45 → 03:02:47 เนี่ยไม่ดีเท่าที่ควรด้วยบางคนอาจจะเกิด
03:02:47 → 03:02:51 อาการอย่างเช่นท้องอืดท้องเฟ้อแน่นท้องลม
03:02:51 → 03:02:54 ในท้องมากแล้วก็รู้สึกว่ารับประทานเข้าไป
03:02:54 → 03:02:56 นิดนึงรู้สึกแบบแน่นและรู้สึกไม่ค่อยดี
03:02:56 → 03:02:58 ประมาณนี้ค่ะเพราะฉะนั้นถ้าหากว่าเกิด
03:02:58 → 03:03:01 อาการประมาณนี้ขึ้นนะคะแน่นอนว่ามันเกิด
03:03:01 → 03:03:03 จากเรื่องของระบบการย่อยที่ไม่ค่อยดี
03:03:04 → 03:03:06 เพราะฉะนั้นค่ะในการฝังเข็มนะคะมันจะเข้า
03:03:06 → 03:03:09 ไปช่วยจัดการในจุดนี้ก็คือทำให้เกิดความ
03:03:09 → 03:03:13 สมดุลของระบบการย่อยอาหารแล้วก็ลำไส้ให้
03:03:13 → 03:03:16 มันดีมากยิ่งขึ้นกระตุ้นการเผาผลานให้ดี
03:03:16 → 03:03:18 มากยิ่งขึ้นด้วยค่ะแล้วแล้วก็จะมีอีกบาง
03:03:18 → 03:03:20 ส่วนที่ช่วยกระชับสัดส่วนได้ด้วยอย่าง
03:03:20 → 03:03:23 เช่นบางคนเนี่ยถามว่าช่วงพุงช่วงท้อง
03:03:23 → 03:03:25 เนี่ยไม่ใหญ่แต่ต้นแขนต้นขาใหญ่อ่ะค่ะก็
03:03:25 → 03:03:28 สามารถรักษาแบบเฉพาะส่วนได้เช่นเดียวกัน
03:03:28 → 03:03:32 ค่ะโอดีนะครับอันนี้เป็นการฝังเข็มครับ
03:03:32 → 03:03:36 ความอ้วนเชิญครับผมขาอค่ะต้องทำกี่ขค่ะ
03:03:36 → 03:03:39 อาจารย์จะเห็นผลส่วนใหญ่นะคะในส่วนของการ
03:03:39 → 03:03:42 ฝังเข็มเนี่ยเริ่มแรกจะอยู่ไปที่ประมาณ 3
03:03:42 → 03:03:44 ครั้งค่ะคือ 3 ครั้งเนี่ยมันจะเป็นการ
03:03:44 → 03:03:47 เข้าไปปรับสมดุลในช่วงแรกๆมากกว่าซึ่งใน
03:03:47 → 03:03:49 ช่วงแรกเนี่ยบางคนอาจจะมองว่าเอ๊ะน้ำหนัก
03:03:49 → 03:03:52 มันดูไม่ค่อยลงหรือเปล่าแต่อย่างน้อยๆค่ะ
03:03:52 → 03:03:56 ที่เราจะสังเกตเห็นได้คือเรื่องของเอ่อ
03:03:56 → 03:03:58 ภาวะของภายในร่างกายอย่างเช่นว่าบางคน
03:03:58 → 03:04:01 เนี่ยขับถ่ายได้ไม่ค่อยดีมยหรือว่ามันดู
03:04:01 → 03:04:04 แบบบวมๆหรือเปล่าพวกเค่ะมันจะเริ่มลดลง
03:04:04 → 03:04:06 แล้วก็หลังจากครั้งที่ 3 เป็นต้นไปเนี่ย
03:04:06 → 03:04:09 น้ำหนักมันจะเริ่มลดลงอย่างจริงจังแต่ถ้า
03:04:09 → 03:04:12 หากว่าเราควบคุมการรับประทานอาหารร่วม
03:04:12 → 03:04:15 ด้วยนะคะแล้วก็ดูแลสุขภาพด้านอื่นๆอย่าง
03:04:15 → 03:04:18 เช่นไม่นอนดึกเกินไปนะคะออกกำลังกายร่วม
03:04:18 → 03:04:21 ด้วยพวกเมันจะยิ่งทำให้ลดได้เร็วมากยิ่ง
03:04:21 → 03:04:24 ขึ้นนั่นเองค่ะยิ่งเห็นผลดีเลยแล้วการฝัง
03:04:24 → 03:04:26 เข็มสามารถช่วยอะไรได้อีกบ้างที่คนส่วน
03:04:26 → 03:04:28 ใหญ่ไม่ค่อยรู้ว่าเอ้ยมันสามารถทำได้นะ
03:04:28 → 03:04:31 แต่การฝักเค็มก็ไปช่วยตรงนั้นได้ครับอ่ะ
03:04:31 → 03:04:34 ได้ค่ะเดี๋ยววันนี้จะไล่เป็นระบบระบบให้
03:04:34 → 03:04:36 ฟังเลยดีมั้ยคะอ่ะอย่างเรื่องของระบบ
03:04:36 → 03:04:39 ประสาทนะคะช่วงแรกได้คุยกันไปแล้วใช่มั้ย
03:04:39 → 03:04:41 คะว่าอาการกลุ่มของผู้สูงอายุเนี่ยคือขี้
03:04:41 → 03:04:45 หลงขี้ลืมมุนเวียนศีรษะง่ายบ้านหมุน
03:04:45 → 03:04:48 ไมเกรนนะคะนอนไม่หลับแต่ถ้าหากว่าเป็น
03:04:48 → 03:04:50 ค่อนข้างเยอะหน่อยอาการหนักหน่อยเนี่ยก็
03:04:50 → 03:04:54 คือเป็นพวกสมองเสื่อมอืนะคะเอ่อ
03:04:54 → 03:05:02 พิสันพิสันด้วยค่ะค่ะโรคหลอดเลือดสมอง
03:05:02 → 03:05:04 หรือว่าสตกที่เรารู้จักกันนั่นเองนะคะ
03:05:04 → 03:05:07 แล้วก็มีในกลุ่มของอัลไซเมอร์ร่วมด้วยตรง
03:05:07 → 03:05:10 เนี้ยจะต้องดูด้วยค่ะว่าเป็นมากน้อยแค่
03:05:10 → 03:05:12 ไหนคือถ้าเกิดว่าคนที่เป็นในระยะเริ่มต้น
03:05:12 → 03:05:14 เนี่ยสามารถรักษาได้ผลดีแต่ถ้าหากว่าเป็น
03:05:14 → 03:05:17 ในระยะหลังๆเนี่ยอาจจะเป็นไปได้ว่าช่วยใน
03:05:17 → 03:05:20 การชะลอโลกประมาณนี้ค่ะอันนี้คือระบบ
03:05:20 → 03:05:24 ประสาทอือืหรือแม้กระทั่งคะไม่ทราบว่ากด
03:05:24 → 03:05:28 จุดไหนที่ช่วยลดการเจริญอาหารลการเจริญกด
03:05:28 → 03:05:31 จุดไหนช่วยลดการเจริญอาหารเอ้ออ่าถ้าเกิด
03:05:31 → 03:05:34 ว่าจุดเกี่ยวกับลดการเจริญอาหารนะคะจะ
03:05:34 → 03:05:38 อยู่ตรงกึ่งกลางระหว่างลิ้นปี่กับสะดือ
03:05:38 → 03:05:41 ค่ะลิ้นปี่ลิ้นปี่คือตรงไหนนะคุณลิ้นลิ้น
03:05:41 → 03:05:44 ปี่คือขอโทษนะคะบริเวณนี้ค่ะอ๋อนี้คือ
03:05:44 → 03:05:49 ลิ้นปี่กับสะดือแล้วตรงกลางอ๋อ
03:05:49 → 03:05:52 โอเคใช่ค่ะจุดเนี้ยจริงๆมันเป็นจุดที่ได้
03:05:52 → 03:05:55 ผล 2 ทางมันทำให้ระบบการย่อยของเราเนี่ย
03:05:55 → 03:05:58 มันเกิดความสมดุลมากขึ้นหมายความว่าถ้า
03:05:58 → 03:06:01 หากคนที่รับประทานอาหารไม่ค่อยได้ผอมมากๆ
03:06:01 → 03:06:04 ค่ะกดไปจะทำให้ทานได้โอหดีเลยผมอยากเพิ่ม
03:06:04 → 03:06:08 น้ำหนักพอดีกดแรงๆคือบางคนเป็นแบบอพวก
03:06:08 → 03:06:10 เบื่ออาหารนะคะเห็นเราไม่ค่อยอยากกินกด
03:06:10 → 03:06:13 จุดนี้ช่วยเจริญนอาหารได้ค่อนข้างดีแต่
03:06:13 → 03:06:15 ถ้าหากว่าคนที่รับประทานมากจนเกินไปหรือ
03:06:15 → 03:06:18 ว่าน้ำหนักขึ้นง่ายอ่ะค่ะเวลากดจุดเนี้ย
03:06:18 → 03:06:20 มันจะทำให้ทานได้น้อยลงกว่าเดิมอือเป็น
03:06:20 → 03:06:23 การรักษาสมดุลของร่างกายเรานัเองครับผม
03:06:23 → 03:06:26 เป็นคำถามที่น่าสนใจมากเลยครับผมขอบคุณ
03:06:26 → 03:06:30 ครับผมอ่ะถัดมานะคะคือเรื่องของฮอร์โมน
03:06:30 → 03:06:33 และต่อมไร้ท่อนะคะในผู้สูงอายุที่เป็นกัน
03:06:33 → 03:06:37 มากคืออาการไวทองอือ่าวทองคือจะมีอาการ
03:06:37 → 03:06:39 อย่างน้อยๆอย่างแรกคือหงุดหงิดง่ายค่ะคือ
03:06:39 → 03:06:42 เห็นอะไรขวางหูขวางตาไปหมดปกติคือไม่เคย
03:06:42 → 03:06:44 รู้สึกหงุดหงิดมาก่อนเห็นปุ๊บหงุดหงิด
03:06:44 → 03:06:46 เพราะวัยทองอันนี้คือเรื่องของฮอร์โมนที่
03:06:47 → 03:06:49 มันแกว่งไปนั่นเองนะคะอย่างที่ 2 ค่ะรู้
03:06:49 → 03:06:53 สึกร้อนตามฝ่ามือฝ่าเท้าแผ่นอบแผ่นหลัง
03:06:54 → 03:06:56 เวลากลางคืนนอนเนี่ยตื่นขึ้นมาเราจะรู้
03:06:56 → 03:06:59 สึกว่าเชื้อเสื้อค่ะมันชืนๆแฉะๆออัน
03:06:59 → 03:07:01 เนื่องจากเหงื่อมันออกช่วงกลางคืนมากนั่น
03:07:01 → 03:07:04 เองนะคะตรงนี้ก็สามารถช่วยได้เช่นเดียว
03:07:04 → 03:07:07 กันค่ะอ่ะอย่างที่ 3 นะคะระบบทางเดินหาย
03:07:07 → 03:07:10 ใจและภูมิุมกันโรคอันนี้คนเป็นกันเยอะคือ
03:07:10 → 03:07:13 เป็นภูมิแพ้ครับอ่าฝังเข็มสามารถรักษาได้
03:07:13 → 03:07:17 เช่นเดียวกันค่ะอืถ้าเกิดว่าใครที่เป็น
03:07:17 → 03:07:21 ภูมิแพ้เกี่ยวกับทางเดินหายใจค่ะอย่าง
03:07:21 → 03:07:24 เช่นแบบน้ำมูกไหลไอจามมากจะแนะนำกดจุดจุด
03:07:24 → 03:07:27 นึงค่ะอืจุดไหนครับคุณหมอครับจะอยู่ตรง
03:07:27 → 03:07:32 นี้นะคะตรงปีกจมูก 2 ข้างตรงนี้ค่ะใช่ค่ะ
03:07:32 → 03:07:38 ให้กดย้ำย้ำคนที่มีอาการน้ำมูกไหลมากๆ
03:07:38 → 03:07:42 ช่วงเช้าช่วงเช้าคะใส่นด้วยนะคะใช่ค่ะจุด
03:07:42 → 03:07:45 นี้ช่วยด้วยค่ะเกี่ยวกับอาการที่มันมีแบบ
03:07:45 → 03:07:47 เหมือนน้ำมูกอะไรพวกเนี้ยไหลออกมาทางจมูก
03:07:47 → 03:07:50 หรือแม้กระทองบางคนเนี่ยเป็นไซนัสที่น้ำ
03:07:50 → 03:07:52 มูกไม่ได้ไหลออกมาข้างนอกแต่ไหลย้อนกลับ
03:07:52 → 03:07:54 เข้าไปในคอค่ะก็สามารถใช้จุดนี้ช่วยได้
03:07:54 → 03:07:57 เช่นเดียวกันค่ะคือต้องทำบ่อยขนาดไหนมัน
03:07:57 → 03:08:00 ถึงจะเห็นผลครับคุณแมทำทุกวันค่ะทุกวันไป
03:08:00 → 03:08:02 เรื่อยๆใช่มันเหมือนเป็นการแบบบริหารร่าง
03:08:02 → 03:08:06 กายอ่ะค่ะอครับผมดีเลยครับผมใครมีอาการ
03:08:06 → 03:08:09 อะไรอยากปรึกษาใช้โอกาสนี้ได้เลยนะครับผม
03:08:09 → 03:08:13 การที่เหงื่อออกเยอะๆเยอะมากผิดปกติ
03:08:13 → 03:08:17 สามารถใช้ใช้ัเอาการเหงื่อออกมากผิดปกติ
03:08:18 → 03:08:20 ใช่มั้คะใช้การฝังเข็มรักษาได้ค่ะเพราะ
03:08:20 → 03:08:22 ว่ากลุ่มอาการเกี่ยวกับเหงื่อออกมากเนี่ย
03:08:22 → 03:08:25 จริงๆมันมีหลายสาเหตุมากแต่ว่ากลุ่มที่
03:08:25 → 03:08:28 เป็นกันเยอะที่สุดที่มาหาหมอเนี่ยโดยส่วน
03:08:28 → 03:08:31 ใหญ่เนี่ยมันจะเกิดควบคู่กับอาการเหนื่อย
03:08:31 → 03:08:34 แล้วก็อ่อนเพลียง่ายด้วยในทางแพทจีนเราจะ
03:08:34 → 03:08:37 มองว่าเกิดจากชี่หรือว่าเกี่ยวกับพวกลม
03:08:37 → 03:08:40 ปราณในร่างกายค่ะมันไม่เพียงพออ่ามันทำ
03:08:40 → 03:08:43 ให้เกิดแบบเรียกว่าไม่สามารถควบคุมเหงื่อ
03:08:43 → 03:08:46 หรือว่าสารน้ำต่างๆในร่างกายได้ค่ะครับผม
03:08:47 → 03:08:49 อือืแต่ว่าอันนี้อาจจะต้องเป็นการรักษา
03:08:49 → 03:08:52 ที่ค่อนข้างจริงจังนะคะอาจจะมีหลายๆส่วน
03:08:52 → 03:08:56 ที่จำเป็นจะต้องใช้ด้วย
03:08:56 → 03:08:58 ค่ะงั้นเดี๋ยวโอกาสนี้เดี๋ยวเชิญคุณหมอ
03:08:58 → 03:09:00 ดาวมาร่วมพูดคุยกันด้วยดีกว่านะครับผมใน
03:09:00 → 03:09:02 ช่วงหลังนี้นะจะใช้เวลาอีกประมาณสัก 10
03:09:02 → 03:09:05 นาทีครับก่อนที่เราจะได้กลับบ้านกันเพราะ
03:09:05 → 03:09:08 แดดเริ่มเรไล่พวกเราไปเรื่อยๆแล้วจริงๆ
03:09:08 → 03:09:12 กำลังเเปลี่ยนจบดาวเลยครับผมเอมีมีไมค์
03:09:12 → 03:09:13 เหมือ
03:09:13 → 03:09:18 คะมบตำแเชิญอาจารย์เมค่ะจริงๆแล้วกำลัง
03:09:18 → 03:09:21 นั่งกระซิบกันนะคะกับทีมงานโรงพยาบาล
03:09:21 → 03:09:24 นวเวชว่าเนี่ยโดยส่วนตัวคืออาจารย์เมย์
03:09:24 → 03:09:26 คือหมอดาวอย่างเงี้ยเอเอ่อจะมีคนไข้มาถาม
03:09:26 → 03:09:29 เรื่องการฟังเค็มเรื่องนู่นนี่นั่นแต่ว่า
03:09:29 → 03:09:31 เราก็ต้องเรียนตรงๆเนาะว่าคุณหมอแต่ละ
03:09:31 → 03:09:34 ท่านก็จะถนัดแต่ละอย่างใช่อ่าคนนี้ยังพูด
03:09:34 → 03:09:37 เลยว่าจะฟอรฟอร์ก็คือศัพท์แพทย์ค่ะก็คือ
03:09:37 → 03:09:40 ว่าจะนั่นแหละให้ไปหาอาจารย์เมย์แล้วะกัน
03:09:40 → 03:09:43 ไงดีคราวนี้จะถามนิดนึงค่ะอาจารย์เมขาว่า
03:09:43 → 03:09:46 กรณีที่คนไข้รักษาออย่างพี่ๆเนี่ยเมีเบ้า
03:09:47 → 03:09:49 วาไขมันความดันบางท่านอย่างเงี้อาจจะมี
03:09:49 → 03:09:52 เรื่องของการใส่สตนใส่แบบไอ้ตัวโครงหัวใจ
03:09:52 → 03:09:55 อะไรอย่างเงี้ค่ะอาจารย์สามารถที่จะทำ
03:09:55 → 03:09:57 ร่วมกันกับการฝังเข็มหรือดูแลยังไงได้
03:09:57 → 03:10:00 บ้างคะสำหรับคนที่มีอาการเรียกว่าเรื้อ
03:10:00 → 03:10:03 รังแล้วกันนะคะในกลุ่มแบบเบาหวานไขมัน
03:10:03 → 03:10:07 ความดันอันนี้คือเขาเรียกว่าโรคยอดฮิตของ
03:10:07 → 03:10:10 คนสูงวัยเนาะสามารถรักษาควบคู่ไปกับการ
03:10:10 → 03:10:12 รักษาแบบแพทย์แผ่นจีนได้นะคะอันเนื่องมา
03:10:12 → 03:10:15 จากว่าการรักษาแบบแพท์แผนจีนเนี่ยมันจะ
03:10:15 → 03:10:17 ไม่ใช่ว่าเป็นเชิงการรักษาแบบเพียงอย่าง
03:10:17 → 03:10:19 อย่างเดียแต่ว่าเราจะกลับไปมองถึงต้นเหตุ
03:10:19 → 03:10:22 ด้วยค่ะว่ามันเกิดจากอะไรกันแน่ที่ทำให้
03:10:22 → 03:10:25 เกิดโรคหรือว่าภาวะต่างๆเหล่านี้ขึ้นมานะ
03:10:25 → 03:10:28 คะซึ่งถ้าหากว่าสมมุติว่าเราเป็นโรคๆนึง
03:10:29 → 03:10:31 ค่ะแล้วต้องรักษาเฉพาะปายเหตุแบบกินยาไป
03:10:31 → 03:10:34 เรื่อยๆเนี่ยมันจะกลายเป็นว่าไอ้ส่วนกิน
03:10:34 → 03:10:36 ยาก็คือกินไปอาการมันก็ลดลงแต่ถามว่ามัน
03:10:37 → 03:10:39 หายไหมมันไม่หายค่ะมันจะเป็นแบบมนใหม่ไป
03:10:39 → 03:10:42 เรื่อยๆซึ่งถ้าหากว่าเราไปแก้ที่ต้นเหตุ
03:10:42 → 03:10:45 ได้ว่ามันเกิดจากเรื่องอะไรกันแน่อวัยวะ
03:10:45 → 03:10:48 ไหนที่เสียสมดุลไปประมาณค่ะมันก็จะช่วยทำ
03:10:48 → 03:10:51 ให้การรักษาโรคเนี่ยดีมากยิ่งขึ้นฟื้นฟู
03:10:51 → 03:10:54 ได้ไวกว่านั่นเองค่ะค่ะอาจารย์แล้วในแง่
03:10:54 → 03:10:57 ของอาจารย์ก็คือคือถ้าเป็นสัตว์แพทย์เรา
03:10:57 → 03:10:59 เรียกว่า Practice ก็คือการเหมือนปฏิบัติ
03:10:59 → 03:11:02 เนี่ยก็คือว่าอาจารย์ฝังเข็มคราวนี้ถ้ามี
03:11:02 → 03:11:05 เ่อคนไข้บางท่านบอกว่าต้องกินยาจีนด้วยมย
03:11:05 → 03:11:08 อะไรด้วยมนี่ยังไงบ้างคะอาจารย์ในส่วนของ
03:11:08 → 03:11:10 การรักษานะคะนอกเจากฝังเข็มเนี่ยมันจะมี 1
03:11:10 → 03:11:14 ส่วนในการกินยาจีนด้วยซึ่งการกินยาจีนน่ะ
03:11:14 → 03:11:16 ค่ะมันจะแล้วแต่บุคคลนะคะว่าอาการของเรา
03:11:16 → 03:11:19 เนี่ยเป็นอะไรเป็นมากน้อยแค่ไหนสมควรที่
03:11:19 → 03:11:22 จะได้รับการใช้ยามอันนี้ต้องแล้วแต่
03:11:22 → 03:11:24 วิจารณญาณของแพทย์อีกทีนึงด้วยค่ะออค่ะ
03:11:24 → 03:11:29 จารอโอเคมีคำถามด้านอื่นด้วยไยคะเนอ่า
03:11:29 → 03:11:32 โอเคค่ะขอา
03:11:32 → 03:11:36 ศึกษาพ้อมกันเลยคือว่าเป็นเ study นะคะ
03:11:36 → 03:11:39 เอ่อปีที่แล้วหลังไม่แน่ใจว่ามันเกี่ยวไ
03:11:39 → 03:11:44 ว่าหลังสิปุ๊บเราหายทำไมอยู่ดีเราล 10 ที
03:11:44 → 03:11:48 นี้ไปปรึกษาคุณหมอที่แรกเลยไปที่เเียวาก
03:11:48 → 03:11:53 ไปค่ะเาก็แนะนำให้ทำทันยาแล้วขดูลูกชื่อ
03:11:54 → 03:11:57 ด้วยูดเราก็ฝันเ็นแล้วก็ๆหมอก็บอกต้องใจ
03:11:57 → 03:12:00 เย็นๆอย่างน้อย 2 ปีซึ่งเราก็ถามว่าเ
03:12:00 → 03:12:04 เพราะอะไรเราก็นอนกับเป็นนอนตะแคงข้างเ
03:12:04 → 03:12:07 บอกว่าส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิงแล้วก็การนอ
03:12:07 → 03:12:10 ตะแคงข้างก็มีความเสี่ยงแต่ทีนี้องเป็นถา
03:12:10 → 03:12:13 ของแผนปัจจุบันคือใจร้อนแล้วค่ะก็รักษาไป
03:12:13 → 03:12:17 ประมาณ 3 เดือนค่ะแล้วก็รู้สึกว่าเงแล้ว
03:12:17 → 03:12:18 เปี่ยนแบบอื่นบ้างก็เลยไปหาหมอแขน
03:12:18 → 03:12:23 ปัจจุบันซึ่งเป็นหมอกายภาพหมอกายภาพก็ก็
03:12:23 → 03:12:28 มีการเเรกอซสายเแล้วก็มีประคบเย็นประคบ
03:12:28 → 03:12:30 ร้อนอะไรอย่างเงี้ยค่ะแล้วก็ทำทำอย่าง
03:12:30 → 03:12:34 เงี้ยแล้วก็มีท่าประกอบเพกสร้างก้าเือเพ
03:12:34 → 03:12:37 แต่อีกทีนึงก็ยังไม่หายดีแต่มันดีขึ้นนิด
03:12:37 → 03:12:41 นึงนะคะจริงๆอ่ะไปไปที่ฝัเข็นู้สึกได้ว่า
03:12:41 → 03:12:44 ดีขึ้นจริงๆแต่ทีละนี้แล้วหมอจะดเบาๆวิธี
03:12:44 → 03:12:48 ของหมอฝัสิเขาจะบอกว่าเราไม่คนไปนวดแรงๆ
03:12:48 → 03:12:51 แล้วมีคนไปนวดข้างนอกโดยที่เป็นหมอกซึ่ง
03:12:51 → 03:12:54 เราไม่เคยรู้เลยเราก็เลยไปนวดที่ที่รแรง
03:12:54 → 03:12:57 ซึ่งเป็นหมอหมอนวดตัวทั่วไปเราก็จะเอาแบบ
03:12:57 → 03:13:02 ที่แพงชั่วโมงนึง 3002 ชั่วมงแต่วิธีนวด
03:13:02 → 03:13:05 ที่ถูกต้องให้คือหมอหมอนวดบำบัดซึ่ง
03:13:05 → 03:13:09 ชั่วโมงลพอไปนวดแล้วรู้เลยว่ามันต่างกันเ
03:13:09 → 03:13:13 คือตอนนวดจะเจ็บแต่พอกลับมาไม่เ็แต่ถ้าคน
03:13:13 → 03:13:16 ที่นวดไม่เป็น 2 ชมงกลับมาลมงค่ะก็เลยุ
03:13:16 → 03:13:20 เนี่ยตอนไปที่เอแลนด์ไได้ประมาณเกือเดือน
03:13:20 → 03:13:24 แล้วก็ก่อนไปเอแลนด์ก็ไปศาตกายภาพที่ที่
03:13:24 → 03:13:27 อื่นที่เป็นเหอะกภาพคือพยามค้นหาตอนนี้จะ
03:13:27 → 03:13:30 ครบ 1 ปีแล้วค่ะคือมันดีขึ้นมั้ยมันดี
03:13:30 → 03:13:34 ขึ้นแบวงแขนไปได้จากที่แบบใส่เสื้อผ้าไม่
03:13:34 → 03:13:38 ได้เลยนะคะเจ็บมากตอนนี้วงแขงไปแต่มัน
03:13:38 → 03:13:40 เหมือนจะหายมันกลับมาอีกแล้วอ่ะคุณหมอคือ
03:13:40 → 03:13:43 มันมันติดักตรงเนี้ยตอนที่ตื่นมาคจะก๊อก๊
03:13:43 → 03:13:47 ๊มันมันมันเหมือนสีกันอยู่บอกไม่ถูกเส็
03:13:47 → 03:13:50 โดยเฉพาะตอนตื่นเหมือมันยังไม่เข้าที่แต่
03:13:50 → 03:13:54 ระหว่างวันขับอะไรได้ปกติแต่ถ้ามีางท่าไป
03:13:54 → 03:13:59 ก็จะเด็ก็เลยอยากทราบตอนไม่รู้จะรักษาสา
03:13:59 → 03:14:03 ที่มันเร็วและและไปด้วยกันได้ควรจะกลับไป
03:14:03 → 03:14:06 ฟังเขมหรือควรจะกลับไปหาหมอไกภาพอ่าเอา
03:14:06 → 03:14:11 ความเห็นอาจารย์เม์ก่อนเอจริงๆหมอดาวอยาก
03:14:11 → 03:14:14 อยากอยากเหมือนแปลงคำถามพี่ว่าอย่างกรณี
03:14:14 → 03:14:17 ของคนไข้อย่างพี่เเนี่ยค่ะอาจารย์เมคือ
03:14:17 → 03:14:19 เหมือนมีเรื่องโควิดมาแล้วเขาก็เอ๊ะมัน
03:14:19 → 03:14:21 ใช่หรือเปล่าว่าโควิดเนี่ยทำให้เกิดการ
03:14:21 → 03:14:24 อักเสบของกล้ามเนื้อแล้วก็ทำให้เกิดภาวะ
03:14:24 → 03:14:26 เหล่านี้แล้วถ้าเป็นแบบนี้เนี่ยเอ่อในทาง
03:14:26 → 03:14:30 แพทย์แผนจีนจะดูแลยังไงอ่ะถามเป็นแปลคำ
03:14:30 → 03:14:32 ถามให้ก่อนนะคะอ่ะถ้าคำถามประมาณนี้นะคะ
03:14:32 → 03:14:36 ว่าโควิดมีส่วนเกี่ยวข้องมต้องบอกว่ามี
03:14:36 → 03:14:39 ส่วนเกี่ยวข้องค่อนข้างมากนะคะแต่ว่าอาจ
03:14:39 → 03:14:41 จะไม่ได้แบบตีไป 100% ว่ามันจะทำให้เกิด
03:14:41 → 03:14:43 อาการไหลติดของเราหรือเปล่านะคะเพราะ
03:14:43 → 03:14:45 อย่างน้อยๆเนี่ยเรื่องของโควิดอ่ะค่ะมัน
03:14:45 → 03:14:48 จะทำให้เรียกว่าภูมิตั้งต้าทานภูมคุ้มกัน
03:14:48 → 03:14:52 โรคของเราเนี่ยมันตกลงลดลงสังเกตว่าคนที่
03:14:52 → 03:14:54 เคยเป็นโควิดมาแล้วหรือแม้กระทั่งผ่าน
03:14:54 → 03:14:58 ช่วงโควิดมาคะถ้าหากว่าเดิมเนี่ยไม่เคย
03:14:58 → 03:15:01 เป็นอะไรเป็นคนที่แข็งแรงดีๆอยู่ส่วนใหญ่
03:15:01 → 03:15:04 มักจะแบบเหมือนมีอาการนู้นอาการนี้แบบผุด
03:15:04 → 03:15:07 หรือว่าโผล่ขึ้นมาโดยที่ไม่ทราบสาเหตุค่ะ
03:15:07 → 03:15:09 ทุกวันนี้เขาก็ยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่
03:15:09 → 03:15:11 ว่าเป็นเพราะอะไรกันแน่ทำไมถึงมีอาการ
03:15:11 → 03:15:14 ประมาณนี้ขึ้นมานะคะซึ่งในทางแพทย์จีนเรา
03:15:14 → 03:15:17 มองว่าการที่ไปป่วยด้วยอาการโควิดต่างๆ
03:15:17 → 03:15:20 เหล่านี้ค่ะมันทำให้เรื่องของชีหรือว่า
03:15:20 → 03:15:22 ภูมิคุ้มกันโรคของเราเนี่ยมันตกลงเพราะ
03:15:23 → 03:15:25 ฉะนั้นเมื่ออาการตรงเนี้มันตกลงค่ะการที่
03:15:25 → 03:15:28 ว่ามันจะไปเสริมสร้างหรือว่าไปรักษาส่วน
03:15:28 → 03:15:31 อื่นๆของร่างกายเนี่ยมันเลยไม่ดีตามไป
03:15:31 → 03:15:35 ด้วยอย่างที่เอ่อคุณพี่นะคะไปหาคุณหมอมา
03:15:35 → 03:15:37 ใช่มแล้วคุณหมอบอกว่าชี่มันค่อนข้างน้อย
03:15:37 → 03:15:39 ทำให้อาการตรงเยมันไม่ค่อยขึ้นอ่ะค่ะ
03:15:40 → 03:15:42 อันเนี้ยถือว่าค่อนข้างถูกต้องเลยอัน
03:15:42 → 03:15:44 เนื่องมาจากว่าเมื่อชี่มันไม่พอค่ะการไป
03:15:44 → 03:15:47 หล่อเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกายเนี่ยมันก็
03:15:47 → 03:15:49 ไม่ดีตามไปด้วยอันเนี้ยมันรวมไปถึงเรื่อง
03:15:49 → 03:15:51 ของกล้ามเนื้อด้วยค่ะเพราะฉะนั้นการแบบ
03:15:51 → 03:15:53 ที่ไปหล่อเลี้ยงกล้ามเนื้อได้ไม่ค่อยดี
03:15:53 → 03:15:55 เนี่ยกล้ามเนื้อมันไม่ขึ้นมันไม่โตค่ะ
03:15:56 → 03:15:57 เพราะฉะนั้นเวลาการแบบขยับหรืออะไรพวก
03:15:57 → 03:16:01 เนี้ยมันก็ไม่ดีตามไปด้วยนั่นเองค่ะค่ะก็
03:16:01 → 03:16:03 ในส่วนของหมอดาวถ้าตอบเสริมจากอาจารย์
03:16:03 → 03:16:06 เมย์นะคะก็คือว่าถ้าในแพทย์แผนปัจจุบัน
03:16:06 → 03:16:08 เนี่ยแน่นอนเรื่องของโควิดมันจะเป็นการ
03:16:08 → 03:16:11 อักเสบหลายระบบดังนั้นโอกาสใช้คว่าโอกาส
03:16:11 → 03:16:13 ที่มันจะเกิดการอักเสบบริเวณที่เอ่อ
03:16:13 → 03:16:17 เหมือนโควิดเขาเรียกว่าไปแทคหรือว่าไปไป
03:16:17 → 03:16:19 ไปกระทบนะคะเพราะว่าสังเกตว่าเชื้อไวรัส
03:16:19 → 03:16:21 โควิดเนี่ยมันจะประหลาดกว่าเชื้ออื่นตรง
03:16:21 → 03:16:24 ที่มันไปหลายระบบมากเลยดังนั้นโอกาสใช้
03:16:24 → 03:16:26 ว่าที่จะทำให้เกิดการอักเสบอวัยวะใด
03:16:26 → 03:16:29 อวัยวะหนึ่งเกิดขึ้นได้คราวนี้เนี่ยช่วง
03:16:29 → 03:16:31 จังหวะโควิดเนี่ยถ้าเรามีการเคลื่อนไหว
03:16:31 → 03:16:33 ร่างกายที่ไม่เหมาะสมคือน้อยเกินไปหรือ
03:16:33 → 03:16:36 มากเกินไปก็แน่นอนการอักเสบเกิดขึ้นแต่
03:16:36 → 03:16:39 ตอนเนี้ยปัญหาคือว่าพอเราไปรักษาแล้วถ้า
03:16:39 → 03:16:42 มันไม่สอดประสานกันในเรื่องของไม่ว่าจะ
03:16:42 → 03:16:44 เป็นแพทย์แผนจีนหรือแพทย์แผนปัจจุบันที่
03:16:44 → 03:16:47 เป็นกายภาพบำบัดแล้วอีกอย่างนึงเนี่ยถ้า
03:16:47 → 03:16:48 เรามีการเปลี่ยนเหมือนเปลี่ยนคุณหมอ
03:16:48 → 03:16:51 เปลี่ยนสถานที่วิธีการรักษาบ่อยๆมันก็อาจ
03:16:51 → 03:16:54 จะกลายเป็นว่าบาดเจ็บมากขึ้นตรงจุดเคิด
03:16:54 → 03:16:57 ว่าน่าจะเป็นปัญหาที่พี่เจอด้วยนะคะเท่า
03:16:57 → 03:17:02 ที่ฟังจริงๆจริงๆรักษาที่หมอ
03:17:02 → 03:17:07 ทีาของประมาณ 3 ปแล้วเราใจร้อนเทำทั้ง 2
03:17:07 → 03:17:10 ปีน่าจะหาแต่เรารู้สึกว่าใจร้อนแล้วมันก็
03:17:10 → 03:17:14 ดีข้เราเปไปกภาพษา
03:17:14 → 03:17:17 ประมาณที่
03:17:17 → 03:17:20 โบราณกันยานะคะก็มีค่ะจริงๆคุณหมอก็จะมี
03:17:20 → 03:17:24 จิตญาณรูปว่าคนที่เป็นน่ะเวลาเราเราเราทำ
03:17:24 → 03:17:27 วงแผนเจ็บแต่จริงๆแล้วเรากำลังเป็นคนป่วย
03:17:27 → 03:17:29 เพราะว่าเรากำลังคิดว่าเราทำไม่ได้แต่
03:17:29 → 03:17:33 จริงๆไม่ใช่คุณหมอก็เลยพูดคเลยว่าถ้าคุณ
03:17:33 → 03:17:36 ยังเกร็งอย่างนี้หมอก็ช่วยไม่ได้อืเราก็
03:17:36 → 03:17:40 เลยต้องผ่อนคายอืวันที่หมอพูดเนี่ยแค่ 1
03:17:40 → 03:17:42 นาทีนะคะมันทำให้เราคิดระเบียบแล้วเรา
03:17:42 → 03:17:45 โอเคหมอแป๊บค่ะคุณหมอแล้วหายใจเบาๆแล้ว
03:17:45 → 03:17:48 เราก็ยืดแขนไปหายค่ะคือเราตีงแขนให้สบาย
03:17:48 → 03:17:52 กลับบ้านใส่เสื้อผ้าได้ก็เลยมันเป็นืิธี
03:17:52 → 03:17:55 คิดด้วยแต่หลังจากนั้นวงแขนเขไปสบายตอน
03:17:55 → 03:18:00 นี้แต่มันมันไม่สุกก็เลยไปกายภาพลงกายภาพ
03:18:00 → 03:18:03 ก็เลยแค่หมอกายภาพบอกว่าต้องต้องเพิ่ม
03:18:03 → 03:18:08 กล้ามเนื้อแต่หมอกายภาพบอกว่ากล้ามเนื้อ
03:18:08 → 03:18:10 การเพิ่มถูกต้องแต่กล้ามเนื้อมันตืไปเสรม
03:18:10 → 03:18:13 กล้ามเนื้อจนมันตึงมันต้องมีการยืดก็เลย
03:18:13 → 03:18:17 ต้องาาพคู่ตอนนี้ก็เลย
03:18:17 → 03:18:22 2 อย่างเี้ยค่ะที่ยลงอค่ะคราวนี้ค่ะเลย
03:18:22 → 03:18:25 เลยไม่รู้ว่าอันตรายหรือเปล่าก็ก็ถาม
03:18:25 → 03:18:29 อย่างทำสอืคราวนี้ถามอาจารย์เมนิดนึง
03:18:29 → 03:18:32 อย่างกรณีเนี่ยเป็นเคสตัวอย่างว่าการบาด
03:18:32 → 03:18:35 เจ็บหรือว่าการรักษาด้วยวิธีแพทย์แผนจีน
03:18:35 → 03:18:38 เนี่ยระยะเวลาเนี่ยมันเป็นยังไงบ้างคะแบบ
03:18:38 → 03:18:40 ว่าเนี่ยอย่างอย่ากรณีของเราเนาะเราก็
03:18:40 → 03:18:42 เป็นแอบใจร้อนิดนึงเนี่ยค่ะอยากรู้ค่ะ
03:18:42 → 03:18:45 อาจารย์ว่าว่าการฝังเข็มอุ๊ยผลมันจะเร็ว
03:18:45 → 03:18:48 จะช้าอะไรยังไงส่วนใหญ่แล้วหลักการของการ
03:18:48 → 03:18:51 ฝัเข็มอ่ะค่ะฝัเข็มนะคะถ้าหากว่าถามว่า
03:18:52 → 03:18:55 ระยะเวลารักษะในการรักษาของแต่ละคนเนี่ย
03:18:55 → 03:18:57 บอกได้เลยว่าไม่เท่ากันเพราะว่าขึ้นอยู่
03:18:57 → 03:19:00 กับเรื่องของโรคระดับอาการของโรคที่เป็น
03:19:00 → 03:19:03 ด้วยอย่างเช่นว่าถ้าเราเพิ่งเป็นเป็น
03:19:03 → 03:19:05 อาการแบบเฉียบพลันพวกเยค่ะจะสามารถรักษา
03:19:05 → 03:19:08 ได้ค่อนข้างไวได้ผลค่อนข้างดีแล้วก็เร็ว
03:19:08 → 03:19:10 แต่ถ้าหากว่ามันเป็นเกิดจากความแบบเรื้อ
03:19:10 → 03:19:14 รังหรือว่าเกิดจากความแบบขาดมานานๆหรือ
03:19:14 → 03:19:17 อะไรพวกเยค่ะพวกเนี้จะใช้ระยะเวลาเาในการ
03:19:17 → 03:19:20 รักษาค่อนข้างนานอย่างเช่นสมมุตินะคะ
03:19:20 → 03:19:22 เกี่ยวกับเรื่องอาการนอนไม่หลับก็ได้บาง
03:19:22 → 03:19:24 คนมาเนี่ยถามว่าฝัไปประมาณครั้ง 2 ครั้ง
03:19:25 → 03:19:27 คือสามารถหลับได้เลยพวกนั้นเนี่ยเกิดจาก
03:19:27 → 03:19:30 เรื่องของความเครียดที่มันสามารถรักษา
03:19:30 → 03:19:33 หรือว่าขัดจัดไปได้ค่อนข้างไหวแต่ว่าใน
03:19:33 → 03:19:37 บางคนเนี่ยเกิดมาจากเลือดไม่ต้องเพียงพอ
03:19:37 → 03:19:40 หรืออะไรพวกเค่ะคือมันเป็นโรคที่ค่อนข้าง
03:19:40 → 03:19:42 นานแล้วเพราะฉะนั้นตรงเจะใช้ระยะเวลาค่อน
03:19:42 → 03:19:46 ข้างมากกว่านั่นเองค่ะโอเคนี้ถามแท
03:19:46 → 03:19:49 จากที่เล่าให้่าค่ะเปลี่ยนอย่างเงี้ยเรา
03:19:49 → 03:19:53 ควรจะไปต่อยังไงที่มันสบเอาง่ายๆว่า 100%
03:19:53 → 03:19:56 ที่อยู่เ็ตอนเนี้ยเหลืออยู่ที่ประมาณซัก
03:19:56 → 03:20:02 คิดว่าเหลือที่ไม่เกิด 20% อจะหายคือมันิ
03:20:02 → 03:20:08 ขึ้นมานะคะแตมันเป็นรำคาเจมือหิูกอถูอค
03:20:08 → 03:20:11 มันเหมือนอาจารย์อาจารย์เมย์ก่อนค่ะถ้า
03:20:11 → 03:20:15 เกิดแนะนำนะคะจะแนะนำว่าให้ไปรักษากับคุณ
03:20:15 → 03:20:17 หมอคนเดิมต่อไปเพราะว่าเเป็นคนที่ทำให้
03:20:18 → 03:20:20 เราดีขึ้นได้ถูกมคะเพราะฉะนั้นเนี่ยแนว
03:20:20 → 03:20:22 ทางของเขาเนี่ยมันแปลว่ามันถูกต้องแล้ว
03:20:22 → 03:20:24 เพียงแต่
03:20:24 → 03:20:27 ว่าพี่ดีจากตรงไหนก็คือเอาเอาตรงนั้นสัก
03:20:28 → 03:20:31 คนใช่ค่ะสักคนพี่เพราะว่าอย่าหลายใจจุด
03:20:31 → 03:20:33 สำคัญคือเรื่องของความต่อเนื่องนั่นเอง
03:20:33 → 03:20:37 ค่ะค่ะเนาะโอเคค่ะก็สุดท้ายนี้อยากให้คุณ
03:20:37 → 03:20:39 หมอทั้ง 2 ท่านช่วยฝากหน่อยครับสุดท้าย
03:20:39 → 03:20:42 แล้วเนี่ยการดูแลสุขภาพนะครับของผู้สูง
03:20:42 → 03:20:45 อายุอ่าในยุคนี้เนี่ยเป็นอย่างไรนะฝากไว้
03:20:45 → 03:20:47 สั้นๆครับผมสำหรับทุกคนจะได้กลับบ้านไปไป
03:20:47 → 03:20:50 ดูแลตัวเองครับผมอ่าอาจารย์เมเลยค่ะการดู
03:20:50 → 03:20:53 แลสุขภาพนะคะจริงๆมันไม่มีอะไรมากมันเป็น
03:20:53 → 03:20:55 เรื่องที่ค่อนข้างเบสิคมากๆนะคะเกิดจาก
03:20:55 → 03:20:59 เรื่องของการกินค่ะการนอนการออกกำลังกาย
03:20:59 → 03:21:03 การดื่มน้ำแล้วก็เรื่องของจิตใจ 5 อย่าง
03:21:03 → 03:21:06 นี้แบบง่ายๆแต่ว่าไม่ค่อยมีคนที่จะทำได้
03:21:06 → 03:21:09 ครบนะคะอย่างน้อยๆคือ 1 เวลาการดื่มน้ำ
03:21:09 → 03:21:13 ค่ะประมาณวันละ 2-3 ลิตรอันนี้คือแล้วแต่
03:21:13 → 03:21:16 เรื่องของน้ำหนักตัวแต่ละคนด้วยนะคะวิธี
03:21:16 → 03:21:19 การคือค่อยๆจิบเรื่อยๆตลอดทั้งวันนอนให้
03:21:19 → 03:21:22 ได้ 6-8 ชมรับประทานอาหารอย่ารับประทาน
03:21:22 → 03:21:26 แต่สิ่งที่ตัวเองชอบนะคะงดกลุ่มพวกของ
03:21:26 → 03:21:29 หวานของมันของทอดน้ำเย็นหรือแม้กระทั่ง
03:21:29 → 03:21:32 กลุ่มอาหารลดจัดค่ะถ้าหากว่าลดกลุ่มพวก
03:21:32 → 03:21:34 นี้ได้เนี่ยมันจะทำให้เอ่อระบบการย่อย
03:21:35 → 03:21:37 อาหารของเราเนี่ยมันดีมากยิ่งขึ้นร่วมกับ
03:21:37 → 03:21:40 การออกกำลังกายเท่านี้ค่ะสจริงสอนคล้อง
03:21:40 → 03:21:44 ที่หมอดาวบอกเลยอารจืใช่มยคะที่เห็นมยคะ
03:21:44 → 03:21:47 เหมือนกันไม่ได้เตมกันนะคะแว่าไปปฏิบัติ
03:21:47 → 03:21:50 ค่ะไม่เรียนอย่างเดียวแล้วก็ไม่ทำนะคะแค่
03:21:50 → 03:21:52 นั้นแหละค่ะวันนี้เราจัดเต็มข้อมูลความ
03:21:52 → 03:21:54 รู้ให้เต็มที่แล้วเหลือแต่แต่ละท่านแล้ว
03:21:54 → 03:21:56 นะครับนำไปปฏิบัติกันนั่นเองนะครับแล้วก็
03:21:56 → 03:21:59 เป็นความปรารถนาดีจาก tn Health ด้วยนะ
03:21:59 → 03:22:00 ครับอยากให้ทุกท่านเมีความสุขแล้วก็
03:22:00 → 03:22:03 สุขภาพร่างกายแข็งแรงซึ่งงานในวันนี้ของ
03:22:03 → 03:22:05 เราจัดขึ้นไม่ได้นะครับถ้าไม่มีผู้ใหญ่ใจ
03:22:05 → 03:22:07 ดีนะครับร่วมกันสนับสนุนในครั้งนี้นั่น
03:22:07 → 03:22:09 เองขอบคุณวิทยากรแล้วก็สปอนเซอร์ของเรา
03:22:09 → 03:22:12 ด้วยนะครับบริษัทซอยจำกัดครับบริษัทเครือ
03:22:12 → 03:22:15 เจริญพกพัธ์จำกัดหรือว่าเครือ CP บริษัท
03:22:15 → 03:22:18 CP จำกัดมหาชนนะครับผู้บริหารร้าน
03:22:18 → 03:22:21 7-eleven และเ delivery รวมไปถึงบริษัท
03:22:21 → 03:22:23 True คปชจำกัดมหาชนนะครับแล้วก็ขอบคุณ
03:22:24 → 03:22:25 ทุกๆท่านในในโอกาสนี้ด้วยนะครับขอเสียง
03:22:25 → 03:22:27 ปรบมือดังๆนะครับให้กับคุณหมอแม่นะครับ
03:22:27 → 03:22:31 แล้วก็คุณหมอดาด้วยโอกาสนี้ผมขอเรียนเชิญ
03:22:31 → 03:22:33 นะครับคุณชูชาติเพชรโตนะครับท่านเป็น
03:22:33 → 03:22:36 บรรณาธิการบริหารของสำนักข่าวทช่อง 16 นะ
03:22:36 → 03:22:39 ครับมอบของที่ระลึกให้กับคุณหมอเมย์นะ
03:22:39 → 03:22:41 ครับแล้วเรียนเชิญคุณหมอดาวร่วมถ่ายภาพ
03:22:41 → 03:22:44 ร่วมกันด้วยนะครับถ่าย
03:22:44 → 03:22:47 คฟัง
03:22:47 → 03:22:50 ป่อรวมกันถ่ายภาพขอบพระคุณนะครับก็อย่า
03:22:50 → 03:22:54 ลืมไปกดจุดกันนะครับ 1 2 3 ทั้งหน้าใส
03:22:54 → 03:22:58 เออลดการเจริญอาหารนะครับแล้วก็บ้านหมุน
03:22:59 → 03:23:01 ไมเกรนทั้งหลายเนี่ยกดจุดกันเลยแล้วก็
03:23:01 → 03:23:03 อย่าลืมเคล็ดลับดีๆที่คุณหมอดาวได้แนะนำ
03:23:03 → 03:23:07 กันด้วยนะครับขอบคุณนะคะอาจารย์ขอบคุณค่ะ
03:23:08 → 03:23:10 ก็ขอบคุณทุกๆท่านนะครับในโอกาสนี้ขอให้
03:23:10 → 03:23:12 กลับบ้านโดยสวัสดิภาพนะครับแล้วพบกันใหม่
03:23:12 → 03:23:14 สุขภาพร่างกายแข็งแรงนะครับสวัสดีครับ
03:23:14 → 03:23:16 สวัสดีค่ะ
03:23:16 → 03:23:21 [ปรบมือ]
03:23:21 → 03:23:24 อ้อโอเคแล้วก็สำหรับความประทับใจในวันนี้
03:23:24 → 03:23:27 นะครับนิดนึงนะครับขออนุญาตสุดท้ายะยก
03:23:27 → 03:23:30 โทรศัพท์ือกันขึ้นมาครับสแกน QR โคดบอก
03:23:30 → 03:23:32 เล่าหน่อยนะครับว่าอยากให้เราเนี่ยพัฒนา
03:23:32 → 03:23:45 ปับ
03:23:45 → 03:24:04 [เพลง]
03:24:15 → 03:24:17 เเ
03:24:17 → 03:24:34 [เพลง]