00:00:00 → 00:00:02 ก็สวัสดีทุกคนนะครับยินดีต้อนรับเข้าสู่
00:00:02 → 00:00:03 เรื่องเล่าจากร่างกาย Channel นะครับกับ
00:00:03 → 00:00:06 ผมบอกเร็วนายแพทย์ชัชชมนต์จราจรทดานะครับ
00:00:06 → 00:00:08 สำหรับวันนี้นะครับก็จะเป็นตอนที่ 3 นะ
00:00:08 → 00:00:10 ครับของซีรีส์ที่เราคุยกันอยู่นะครับ
00:00:10 → 00:00:13 เรื่องของไมโครไบโอมนะครับหรือว่าเรื่อง
00:00:13 → 00:00:15 ของจุลินทรีย์ที่อาศัยอยู่ในร่างกายของ
00:00:15 → 00:00:18 มนุษย์สำหรับเน็ตที่ส่วนนี้นะครับตอนที่ 3
00:00:18 → 00:00:20 ไม่รู้จะคุยเรื่องของความอ้วนกันนะครับ
00:00:20 → 00:00:22 เราจะมาดูว่าแบคทีเรียที่อาศัยอยู่ในลำ
00:00:22 → 00:00:24 ไส้ของเราเนี่ยมันไม่เกี่ยวข้องกับความ
00:00:24 → 00:00:27 อ้วนหรือความพร้อมของเราได้ยังไงแต่ก่อน
00:00:27 → 00:00:29 ที่เราจะเริ่มเรื่องของเรานะครับขอพูดถึง
00:00:29 → 00:00:32 ผู้สนับสนุนซีรีส์ไมโครไบโอมของเราเกาะนะ
00:00:32 → 00:00:35 ครับบริษัทมดกัดนะครับบริษัทงดการเนี่ย
00:00:35 → 00:00:37 เป็นบริษัทที่ก่อตั้งขึ้นโดยนักวิจัยที่
00:00:37 → 00:00:39 เชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยีตัวไมโครไบโอม
00:00:39 → 00:00:42 นะครับจะมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้า
00:00:42 → 00:00:45 ธนบุรีบางมดซึ่งบริษัทดีนะครับเปิดให้
00:00:45 → 00:00:47 บริการตรวจแล้วก็วิเคราะห์สวินซีที่อยู่
00:00:47 → 00:00:50 ในลำไส้ของเราเพื่อให้เรารู้ว่าภาวะของ
00:00:50 → 00:00:52 จุลินทรีย์อยู่แบบขึ้นในลำไส้ของเราเนี่ย
00:00:52 → 00:00:55 เป็นยังไงสำหรับท่านที่สนใจนะครับเดี๋ยว
00:00:55 → 00:00:56 ผมจะเล่าเกี่ยวกับมดการให้ฟังในตอนท้าย
00:00:56 → 00:00:58 ของคลิปนี้นะครับหรือว่าจะดูใน
00:00:58 → 00:01:00 Description ก็ได้นะครับจะเนื้อเพลงเอา
00:01:00 → 00:01:03 ไว้ให้นะครับคือใครสนใจโอเคเรามาเริ่ม
00:01:03 → 00:01:05 เรื่องของเราในที่สุดนี้กันนะครับเรื่อง
00:01:05 → 00:01:07 ของไปเที่ยวในลำไส้กับความอ้วนนะครับผม
00:01:07 → 00:01:09 อยากจะขอเริ่มต้นที่โสดนี้ด้วยคำถามว่า
00:01:09 → 00:01:12 เคยสงสัยไหมครับว่าทำไมคนสองคนนะครับที่
00:01:12 → 00:01:15 กินอะไรที่คล้ายกันมีกิจกรรมวัดประจำวัน
00:01:15 → 00:01:17 ในคล้ายๆกันออกกำลังกายเท่ากันเนี่ยทำไม
00:01:17 → 00:01:20 คนเนี่ยคนนึงเนี่ยที่ได้อ้วนแล้วทำไมกี่
00:01:20 → 00:01:23 คนเนี่ยถึงได้ผอมคำที่บายของเรื่องนี้นะ
00:01:23 → 00:01:25 ครับมันอาจจะเกี่ยวข้องกับไปคือในลำไส้
00:01:25 → 00:01:30 ของเราก็ได้
00:01:30 → 00:01:33 สำหรับเรื่องราวนะครับของการค้นพบว่า
00:01:33 → 00:01:34 แบคทีเรียในลำไส้เนี่ยมันไม่เกี่ยวข้อง
00:01:34 → 00:01:37 กับความอ้วนความผอมของเราได้ยังไงเนี่ย
00:01:37 → 00:01:39 มันมีประวัติศาสตร์การค้นพบที่น่าสนใจมาก
00:01:39 → 00:01:42 นะครับซึ่งผมเนี่ยก็อยากจะนำ pros อ่า
00:01:42 → 00:01:44 เดี๋ยวมาเล่าให้ฟังนะครับเป็นการเริ่มต้น
00:01:44 → 00:01:47 เรื่องของเรานะครับเรื่องที่จะเล่าให้ฟัง
00:01:47 → 00:01:49 นะครับมันจะมีอยู่ 2 ส่วนด้วยกันส่วนได้
00:01:49 → 00:01:52 นะครับมันเกิดขึ้นในประเทศอเมริกานะครับ
00:01:52 → 00:01:54 ในช่วงประมาณต้นของศตวรรษที่ 20 ก็คือ
00:01:54 → 00:01:58 ประมาณปีคศ 1900 นิดนะครับช่วงเวลานั้น
00:01:58 → 00:02:00 เนี่ยเป็นช่วงลาก่อนเกิดสงครามโลกโอ้นี่
00:02:00 → 00:02:03 เนี่ยบอกไม่นานนักปัญหาในเวลานั้นก็คือ
00:02:03 → 00:02:06 ว่าเที่ยวในการเนื้อสัตว์และมีราคาที่แพง
00:02:06 → 00:02:10 ขึ้นเรื่อยๆนะครับคำถามก็คือว่าทำไมนะ
00:02:10 → 00:02:11 ครับเกิดอะไรขึ้น
00:02:11 → 00:02:15 คำอธิบายเนี่ยก็คือปัจจัยสำคัญก็คือว่าใน
00:02:15 → 00:02:17 ชั่วร้ายนะเนี่ยมันมีการเคลื่อนย้ายของ
00:02:17 → 00:02:19 ประชากรจากภาคการเกษตรเข้ามาใส่อยู่ใน
00:02:19 → 00:02:22 เมืองใหญ่มากขึ้นก็คือคนหนุ่มสาวอเมริกัน
00:02:22 → 00:02:24 ในช่วงเวลานั้นเนี่ยไม่ค่อยอยากทำอาชีพ
00:02:24 → 00:02:28 เกษตรกรกันนะครับอยากจะย้ายมิลในเมือง
00:02:28 → 00:02:30 อยากจะค่ะมาทำงานในโรงงานอุตสาหกรรมหรือ
00:02:30 → 00:02:33 มากขึ้นซึ่งแน่นอนว่าเมื่อคนย้ายเข้ามา
00:02:33 → 00:02:35 อยู่ในเมืองมากขึ้นมันก็ไม่มีคนทำอาชีพ
00:02:35 → 00:02:37 เกษตรกรหรือว่าเลี้ยงสัตว์เนี่ยสักเท่า
00:02:37 → 00:02:40 ไหร่เมื่อรายงานน้อยลงเนี่ยผลผลิตทางการ
00:02:40 → 00:02:42 เกษตรมากก็น้อยลงเป็นธรรมดาถูกไหมครับ
00:02:42 → 00:02:44 แล้วเมื่อผลผลิตทางการเกษตรมันน้อยลง
00:02:44 → 00:02:47 เนี่ยความแต่ความต้องการยังสูงอยู่มันก็
00:02:47 → 00:02:50 เลยทำให้ราคาของเนื้อสัตว์วันนี้ราคาแพง
00:02:50 → 00:02:53 ขึ้นปัญหาเนี่ยมันดูแลถึงขั้นที่ผู้คนเอา
00:02:53 → 00:02:56 มาเดินประท้วงตามท้องถนนนะครับขอแล้วก็คน
00:02:56 → 00:02:59 เอาออกมาด้วยอารมณ์โกรธแค้นนะครับหลายขวด
00:02:59 → 00:03:01 หลายครั้งหลายเมืองแต่มันก็ถึงขั้นที่ออก
00:03:01 → 00:03:05 ประชาชนเนี่ยออกมาเดินขบวนกันแล้วก็บาง
00:03:05 → 00:03:07 ครั้งมีกันบุกเข้าไปทำลายร้านค้านะครับ
00:03:07 → 00:03:09 บวกเข้าไปขโมยเนื้อสัตว์ในเวลาต่อมานะ
00:03:09 → 00:03:12 ครับอเมริกาเนี่ยก็เข้าสู่สงครามโลกครั้ง
00:03:12 → 00:03:15 ที่ 1 นะครับปัญหามะลิรุนแรงและก็ลากยาว
00:03:15 → 00:03:18 ต่อไปอีกซึ่งเหตุผลก็ตรงไปตรงมานะครับก็
00:03:18 → 00:03:21 คือเมื่อมีสงครามเนี่ยก็ข้าวยากหมากแพงนะ
00:03:21 → 00:03:24 ครับคนนมส่วนหนึ่งก็ถูกไปเป็นทหารครับทำ
00:03:24 → 00:03:27 ให้มีแรงงานที่จะมาอยู่ในภาคการเกษตรร้อย
00:03:27 → 00:03:30 ลงไปอีกที่หลังสงครามโลกที่หนึ่งปัญหาใน
00:03:30 → 00:03:33 การลากยาวต่อไปถึงสงครามโลกครั้งที่ 2
00:03:33 → 00:03:36 ซึ่งแน่นอนว่าปัญหาคุณก็ไม่อาการแก้ไขที่
00:03:36 → 00:03:39 นี่แต่ช่วงเวลานั้นรัฐบาลของบริการก็มอง
00:03:39 → 00:03:41 ว่าปัญหาเนื้อแพงเนี่ยไม่ใช่ปัญหาเล็กๆ
00:03:41 → 00:03:43 น้อยๆต่อไปแล้วนะครับมันเป็นปัญหาใหญ่
00:03:43 → 00:03:45 ทั่วปัญหาเร่งด่วนระดับชาติเลยก็ว่าได้
00:03:45 → 00:03:49 เพราะว่าตอนนั้นเขาเริ่มกังวลกันและว่า
00:03:49 → 00:03:52 ทหารที่ส่งไปรบเนี่ยจะขาดอาหารจะขาดผู้
00:03:52 → 00:03:56 โปรตีนทำให้ทหารอเมริกาเนี่ยไม่แข็งแรงนะ
00:03:56 → 00:03:59 ครับแล้วแน่นอนว่าเมื่อทำให้แข็งแรงมันก็
00:03:59 → 00:04:02 ส่งผลต่อรายการรอบด้วยดังนั้นรัฐบาลก็
00:04:02 → 00:04:05 พยายามที่จะมองหาวิธีการแก้ปัญหานะคะว่า
00:04:05 → 00:04:07 จะทำยังไงให้สามารถผิดเนื้อสัตว์ได้มาก
00:04:07 → 00:04:11 ขึ้นสุดท้ายนะครับวิธีการแก้ปัญหาหน้ามัน
00:04:11 → 00:04:14 ไปพบโดยบังเอิญและก็มาจากวิธีการที่ไม่มี
00:04:14 → 00:04:18 ใครคาดคิดมาก่อนด้วยสิ่งที่พบคือว่าใน
00:04:18 → 00:04:21 เวลานั้นเนี่ยมีเกษตรเกาะเนี่ยพบว่าถ้า
00:04:21 → 00:04:23 เรายาปฏิชีวนะนะครับหรือว่ายาฆ่า
00:04:23 → 00:04:26 แบคทีเรียเนี่ยปริมาณน้อยๆผสมเป็นอาหาร
00:04:26 → 00:04:30 หรือว่าผสมในน้ำที่ไก่กินมันจะทำให้ไก่
00:04:30 → 00:04:33 ที่รับยาปฏิชีวนะเนี่ยต้องเร็วขึ้นแล้วก็
00:04:33 → 00:04:36 อ้วนกว่าปกติด้วยแล้วในเวลาต่อมานะครับก็
00:04:36 → 00:04:39 เพราะว่าปรากฏการณ์นี้นะครับไม่ได้พบแค่
00:04:39 → 00:04:41 ไหนไก่เท่านั้นแต่เพราะว่าเมื่อนำยา
00:04:41 → 00:04:44 ปฏิชีวนะเนี่ยประสบในอาหารในน้ำให้กับ
00:04:44 → 00:04:46 สัตว์อื่นนะครับสาระรู้ด้วยลมอื่นโดย
00:04:46 → 00:04:48 สัตว์ที่อื่นไม่ว่าจะเป็นเรื่องของวัวนะ
00:04:48 → 00:04:52 ครับหมูหมูไก่ไก่งวงนะครับหรือว่าแพะแกะ
00:04:52 → 00:04:55 ต่างๆเนี่ยมันก็พบปรากฏการณ์เช่นเดียวกัน
00:04:55 → 00:04:57 เกิดขึ้นในสัตว์อื่นด้วยก็คือว่าสัตว์
00:04:57 → 00:05:00 นั้นเนี่ยเร็วขึ้นแล้วก็อ้วนขึ้นด้วยฮะ
00:05:00 → 00:05:05 ซึ่งไม่มีใครรู้ว่าคำอธิบายและคืออะไรแต่
00:05:05 → 00:05:08 ตรงนั้นไปสำคัญนะครับในเวลานั้นเนี่ยสิ่ง
00:05:08 → 00:05:10 ที่พบคือว่าปัญหานั้นสามารถช่วยแก้ปัญหา
00:05:10 → 00:05:14 เรื่องของเนื้อสัตว์ราคาแพงได้ซึ่งการค้น
00:05:14 → 00:05:17 พบในกเป็นข่าวใหญ่และก็เป็นข่าวที่สร้าง
00:05:17 → 00:05:20 ความดีใจให้กับชาวในการเนี่ยไปทั่วแต่ไม่
00:05:20 → 00:05:22 มีใครรู้คำอธิบายและกลไกที่อยู่เบื้อง
00:05:22 → 00:05:24 หลังของปรากฏการณ์นี้เลยนะครับกว่าจะรู้
00:05:24 → 00:05:27 เนี่ยก็ผ่านไปสิบกว่าปีนะครับข้ามอธิบาย
00:05:27 → 00:05:29 นะครับมันมาจากเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกัน
00:05:29 → 00:05:32 เลยฉันก็คือเรื่องที่สองเธอจะคุยกันต่อไป
00:05:32 → 00:05:35 เรื่องนี้นะครับมันมาจากคำถามเก่าแก่คำ
00:05:35 → 00:05:37 ถามอย่างนะครับซึ่งเปิดประเด็นไว้โดย
00:05:37 → 00:05:39 หลุยส์ปาสเตอร์นะครับซึ่งหลุยส์ปาสเตอร์
00:05:39 → 00:05:42 ในก็คือจอชื่อว่าหลายคนน่าจะพอรู้นะครับ
00:05:42 → 00:05:45 ก็คือเป็นคนที่หนึ่งในนักวิทยาศาสตร์ที่
00:05:45 → 00:05:47 พิสูจน์ให้เห็นว่าแบตทะเบียนเนี่ยมัน
00:05:47 → 00:05:49 สามารถก่อโรคในมนุษย์ได้นะคะแล้วก็นำไป
00:05:49 → 00:05:51 สู่วิธีการที่พาสเจอร์ไรส์เซชั่นตามชื่อ
00:05:51 → 00:05:54 ของเค้านะครับที่นี่โดยพลาสเตอร์เนี่ยเขา
00:05:54 → 00:05:56 ทำอะไรไว้คือเขาเปิดประเด็นไว้เมื่อ
00:05:56 → 00:05:58 ประมาณสักร้อยกว่าปีที่แล้วเนี่ยว่าว่า
00:05:58 → 00:06:01 สัตว์แล้วก็มนุษย์อาจจะไม่สามารถมีชีวิต
00:06:01 → 00:06:08 อยู่ได้ถ้าไม่มีจุลินทรีย์อยู่ในร่างกาย
00:06:08 → 00:06:10 ไม่มีใครรู้จริงๆนะคะว่าหรือปาสเตอร์
00:06:10 → 00:06:13 เนี่ยเขานำความคิดได้มาจากไหนนะครับที่
00:06:13 → 00:06:15 บอกว่าจุลินทรีย์เนี่ยจำเป็นสำหรับสิ่งมี
00:06:15 → 00:06:18 ชีวิตทุกชนิดนะครับแล้วถ้าเราไม่สัตว์และ
00:06:18 → 00:06:19 มนุษย์ยังไม่มีจุลินทรีย์ในร่างกายเนี่ย
00:06:19 → 00:06:22 จะไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้แต่ยังไงก็แล้ว
00:06:22 → 00:06:24 แต่ประเด็นที่เขาเปิดขึ้นเนี่ยมันก็สร้าง
00:06:24 → 00:06:26 ความสนใจว่าสร้างแรงกระเพื่อมขึ้นในวงการ
00:06:26 → 00:06:28 วิทยาศาสตร์นะครับให้มีการดีเบตกันว่า
00:06:28 → 00:06:30 สิ่งที่เขาทำนายไว้เนี่ยมันจะจริงหรือ
00:06:30 → 00:06:33 เปล่าที่นี่ทั้งหมดนะบริษัทที่สนใจที่จะ
00:06:33 → 00:06:35 ตอบคำถามนี้นะครับมีไม่เยอะมากนะครับจะ
00:06:35 → 00:06:38 บอกว่าเป็นกลุ่มคนที่เหมือนกับขอแค่อยาก
00:06:38 → 00:06:40 อยากรู้อยากเห็นนะครับอยากจะตอบคำถาม
00:06:40 → 00:06:42 เพื่อสนองความอยากอยากเห็นตัวเองเท่านั้น
00:06:42 → 00:06:45 เองก็เลยแผนจะออกแบบทดลองที่จะสร้างสัตว์
00:06:45 → 00:06:49 ที่ปลอดเชื้อขึ้นมานะครับสำหรับคนที่อยู่
00:06:49 → 00:06:51 นะวงการเนี่ยก็จะมองว่าเป็นการทดลองที่
00:06:51 → 00:06:53 ไม่ได้มีประโยชน์อะไรนะครับถ้าอยากนัก
00:06:53 → 00:06:55 เรียนศาสตร์กลุ่มหนึ่งที่อยากจะสร้าง
00:06:55 → 00:06:57 สัตว์เหมือนกับสัตว์ประหลาดขึ้นมาชั้นหน่
00:06:57 → 00:06:59 ยังไงก็แล้วแต่นะครับก็มีนักเรียนสัก
00:06:59 → 00:07:01 กลุ่มนี้ฉันอยากจะออกแบบทดลองแล้วก็ค่อย
00:07:01 → 00:07:04 สร้าง Sport เชื้อขึ้นมาสำหรับเรื่องราว
00:07:04 → 00:07:07 ของการสร้าง Sport เชิญนะครับถ้าใครสนใจ
00:07:07 → 00:07:09 ในรายละเอียดนะครับก็แนะนำหนังสือนะครับ
00:07:09 → 00:07:11 ที่ผมเขียนเองนะครับที่ว่าเพื่อนเก่าที่
00:07:11 → 00:07:13 หายสาปสูญนะครับก็เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ
00:07:13 → 00:07:16 ไม่เข้าไปโอ้แม่นะครับก็จะมีรายละเอียด
00:07:16 → 00:07:19 เขียนเล่าไว้นะครับก็ใครสนใจก็ลองไปหา
00:07:19 → 00:07:21 อ่านดูก็ได้นะครับโอเคกลับมาที่เรื่องของ
00:07:21 → 00:07:23 เรานะครับแล้วพญาสาดเนี่ยก็สามารถแยก
00:07:23 → 00:07:26 สร้าง Sport เชื่อไม่ได้สำเร็จแล้วก็พบ
00:07:26 → 00:07:28 ว่าว่า Sport เชื้อเนี่ยสามารถที่จะมี
00:07:28 → 00:07:31 ชีวิตอยู่ได้เพียงแต่ว่าสัตว์ปลอดเชื้อ
00:07:31 → 00:07:34 มันจะมีร่างกายเดี๋ยวใจร้ายอย่างที่จะบอก
00:07:34 → 00:07:38 ว่าแปลกไปจากสัตว์ปกติเช่นหัวใจนะคะอาจจะ
00:07:38 → 00:07:40 มีขนาดหัวใจที่ใหญ่กว่าปกตินะครับตับขอ
00:07:40 → 00:07:44 ขนาดผิดปกตินะครับลำไส้ผิวพรรณขนาดลำไส้
00:07:44 → 00:07:47 ในก็จะมากับเจริญเติบโตไม่เต็มที่ระบบ
00:07:47 → 00:07:49 ภูมิคุ้มกันเนี่ยก็ทำงานไม่ค่อยดีเท่า
00:07:49 → 00:07:52 ไหร่นะครับหรือพูดง่ายว่าต้องการการช่วย
00:07:52 → 00:07:54 เหลือจากมันดูได้ค่อนข้างมากถึงจะมีชื่อ
00:07:54 → 00:07:57 อยู่ได้ถ้าปล่อยให้ไปออโตข้างนอกเนี่ยก็
00:07:57 → 00:08:00 จะมีโอกาสเสียชีวิตสูงมากที่นี่และก็ถือ
00:08:00 → 00:08:02 ว่าเรื่องนี้มันเกี่ยวข้องกับเรื่องของ
00:08:02 → 00:08:04 ความอ้วนที่เราคุยกันอยู่ยังไงนะครับ
00:08:04 → 00:08:06 ประเด็นที่เล่าเรื่องให้ฟังหน่อยมันจะมี
00:08:06 → 00:08:08 อยู่ 2 ส่วนด้วยกันนะครับส่วนแรกก็คือว่า
00:08:08 → 00:08:11 ตอนที่สร้าง Sport เชิญขึ้นมานะครับไม่มี
00:08:11 → 00:08:13 ใครรู้ว่าสัตว์เหล่าเนี้ยก็จะมีประโยชน์
00:08:13 → 00:08:15 อะไรนะครับมันเหมือนกับเป็นแค่นักเรียน
00:08:15 → 00:08:17 สัตว์กลุ่มหนึ่งที่สร้างสัปปะหลาดขึ้นมา
00:08:17 → 00:08:19 นะครับเพื่อตอบสนองความอยากรู้อยากเห็น
00:08:19 → 00:08:21 ของตัวเองเท่านั้น a แต่ต่อมาก็เพราะว่า
00:08:21 → 00:08:23 สัตว์ปลอดเชื้อเขาจะช่วยหนูปลอดเชื้อเรา
00:08:23 → 00:08:25 เนี่ยถ่ายเป็นเครื่องมือสำคัญในการทำงาน
00:08:25 → 00:08:27 วิจัยทางด้านการแพทย์นะครับที่ทำให้เรา
00:08:27 → 00:08:29 เข้าใจเกี่ยวกับเรื่องของไปเคลียร์ในร่าง
00:08:29 → 00:08:32 กายของมนุษย์เนี่ยมากขึ้น
00:08:32 → 00:08:35 แต่ที่นี่เรื่องหนาวนะครับของที่เล่ามานะ
00:08:35 → 00:08:37 ครับประเด็นสำคัญมันเกี่ยวข้องกับความ
00:08:37 → 00:08:39 อ้วนตรงนี้ครับก็คือว่าสัตว์ก็เชื่อที่
00:08:39 → 00:08:42 สร้างขึ้นมานะครับมันมีความแปลกอีกอย่าง
00:08:42 → 00:08:44 หนึ่งที่สำคัญก็คือว่านักวิทยาศาสตร์
00:08:44 → 00:08:47 เพราะว่าหนูปลอดเชื้อเนี่ยมีแนวโน้มที่จะ
00:08:47 → 00:08:51 ผอมแม้ว่าจะเลี้ยงด้วยอาหารที่มีไขมัน
00:08:51 → 00:08:54 สูตรแล้วก็มีแคลอรี่สูงแต่หนูเหล่านี้ก็
00:08:54 → 00:08:57 มีแนวโน้มจะผอมก่อนหนูทั่วไปคำถามคือว่า
00:08:57 → 00:09:00 ทำไมหนูปลอดเชื้อเนี่ยถึงได้ผอมค่ะหนู
00:09:00 → 00:09:05 ทั่วไป
00:09:05 → 00:09:08 แล้วเตรียมสารนะครับก็เริ่มสงสัยไว้เห็น
00:09:08 → 00:09:10 หรือว่าจริงๆการที่หนูปลอดเชื้อวันผอม
00:09:10 → 00:09:12 เพราะมันเกี่ยวข้องกับแบคทีเรียที่อยู่ใน
00:09:12 → 00:09:15 ร่างกายก็เลยมีการความคิดว่าเรามี
00:09:15 → 00:09:18 สมมุติฐานว่าถ้าเราใส่ไปเคลียร์นะครับ
00:09:18 → 00:09:20 เข้าไปในทางเดินอาหารของรู้ปลาเชื้อเนี่ย
00:09:20 → 00:09:22 มันจะทำให้หนูเนี่ยอ้วนขึ้นได้หรือเปล่า
00:09:22 → 00:09:24 ก็มีนักวิทยาศาสตร์นะครับที่สนใจจะตอบคำ
00:09:24 → 00:09:27 ถามนี้นะครับก็ทำการทดลองในการที่นำ
00:09:27 → 00:09:30 แบคทีเรียนะครับจากหนูปกติเนี่ยค่อยๆใส่
00:09:30 → 00:09:32 เข้าไปหนูปลอดเชื้อนะครับก็คืออ้ากินเข้า
00:09:32 → 00:09:35 ไปให้เป็นปีเนี่ยไม่เข้าไปเติบโตในทาง
00:09:35 → 00:09:37 เดินอาหารความรู้ปากเชื้อและดูสิว่าจะ
00:09:37 → 00:09:40 เกิดอะไรขึ้นผลการทดลองเนี่ยน่าสนใจมากนะ
00:09:40 → 00:09:43 ครับเพราะพบว่าเมื่อหนูปลอดเชื้อเนี่ยได้
00:09:43 → 00:09:45 รับบาดเคลียร์เข้าไปเดี๋ยวหนูประเชิญเอก
00:09:45 → 00:09:47 แม่นแนวโน้มที่จะอ้วนขึ้นนะครับมีสัดส่วน
00:09:47 → 00:09:50 ของไขมันในร่างกายเพิ่มขึ้นและที่น่าสนใจ
00:09:50 → 00:09:53 ไปกว่านั้นนะครับก็คือว่าหนูปลอดเชื้อ
00:09:53 → 00:09:54 เนี่ยเมื่อมีชื่อไปเที่ยวไปเติบโตในร่าง
00:09:54 → 00:09:57 กายเนี่ยอ่อนหนูเนี่ยมีแนวโน้มที่จะกิน
00:09:57 → 00:10:00 น้อยลงด้วยและแม้ว่าอาหารที่ให้กินเนี่ย
00:10:00 → 00:10:03 จะมีแคลอรี่น้อยลงมีใครมาน้อยลงเนี่ยแต่
00:10:03 → 00:10:06 หนูกับอ้วนเพิ่มขึ้นดังนั้นนะครับการค้น
00:10:06 → 00:10:08 พบครั้งนี้เนี่ยก็เลยทำให้เป็นเหมือนเป็น
00:10:08 → 00:10:10 การครั้งแรกที่รู้ว่าแบบคือในลำไส้เนี่ย
00:10:10 → 00:10:13 มันสามารถทำให้หนูเนี่ยอ้วนขึ้นได้แต่ว่า
00:10:13 → 00:10:16 ไม่ได้มีแต่แบคทีเรียที่ทำให้หนูอ้วนขึ้น
00:10:16 → 00:10:18 ได้นะครับเพราะในเวลาต่อมาเนี่ยก็มีการทด
00:10:18 → 00:10:21 ลองที่เพราะว่าแบคทีเรียในลำไส้เนี่ยก็ทำ
00:10:21 → 00:10:26 ให้ผอมลงได้เช่นกัน
00:10:26 → 00:10:29 ซึ่งหนาวของงานวิจัยที่พบแพทย์เคลื่อนที่
00:10:29 → 00:10:32 ทำให้หนูเนี่ยผอมลงได้นะครับ
00:10:32 → 00:10:34 ดังนั้นพญาศาสตร์ที่สงสัยเรื่องนี้นะครับ
00:10:34 → 00:10:37 ก็คือว่าปกติในการทดลองวิทยาศาสตร์มันจะ
00:10:37 → 00:10:39 มีหนูทดลองยา 2 สายพันธุ์ด้วยกันนะครับ
00:10:39 → 00:10:41 หนูสายพันธุ์นึงจะเป็นหนูชายพันธุ์อ้วน
00:10:41 → 00:10:44 ไม่ถึงว่าธรรมชาติของมันก็จะเป็นหนูที่
00:10:44 → 00:10:46 อื่นอ้วนนะครับทำฉากไว้คือมันจะกินเยอะนะ
00:10:46 → 00:10:49 ครับมันก็จะอ้วนกวนง่ายอีกหนูสายพันธุ์จะ
00:10:49 → 00:10:51 เป็นหนูที่ไม่ค่อยอ้วนที่นี้นัก
00:10:51 → 00:10:54 วิทยาศาสตร์ก็ก็สนใจขึ้นมาว่าไอ้หนูสาย
00:10:54 → 00:10:56 พันธุ์ที่อ้วนอยู่ใช้พันธุ์ที่ไม่อ้วน
00:10:56 → 00:10:58 เนี่ยคือหนูใส่พันปกติเนี่ยมันมี
00:10:58 → 00:11:01 แบคทีเรียในลำไส้ในต่างกันหรือเปล่าเขาก็
00:11:01 → 00:11:03 นำมาดู 2 สายพันธุ์นี้มาศึกษาดูนะครับ
00:11:03 → 00:11:06 แล้วก็จะช้าไปที่ในลำไส้ขอคอมเม้นของหนู 2
00:11:06 → 00:11:08 สายพันธุ์นี้ดูก็พบว่ามีความต่างกันจริง
00:11:08 → 00:11:12 ก็เลยเกิดคำถามต่อไปว่าให้แบคทีเรียในลำ
00:11:12 → 00:11:15 ไส้ที่ต่างกันเนี่ยมันเป็นผลให้หนูแต่ละ
00:11:15 → 00:11:17 สายพานเนี่ยอ้วนแล้วผอมต่างกันด้วยหรือ
00:11:17 → 00:11:19 เปล่าและเพื่อที่จะตอบคำถามนี้นะครับแล้ว
00:11:19 → 00:11:21 ก็เดียวสาเก่าแบบกันทะเลาะนะครับโดยใช้
00:11:21 → 00:11:25 หนูออกปลอดเชื้อเนี่ยมาช่วยในการทำการทด
00:11:25 → 00:11:27 ลองวิธีการทดลองนะครับก็จะเป็นลักษณะแบบ
00:11:27 → 00:11:29 นี้นะครับก็คือนำหนูปลอดเชื้อได้มากลุ่ม
00:11:29 → 00:11:32 นึงนะครับแล้วก็อ่าจำนวนนึงนะครับเราแบ่ง
00:11:32 → 00:11:34 ทั้งสองกลุ่มโดยที่หนูปลาเชื่อกรมนึง
00:11:34 → 00:11:37 เนี่ยได้รับแบคทีเรียนะครับจากลำไส้ของ
00:11:37 → 00:11:40 หนูสายพันธุ์ที่อ้วนหนูป่ะช่วยกรมเนี่ย
00:11:40 → 00:11:44 ได้รับใบเคลียร์จากดูปกติแล้วดูซิว่า
00:11:44 → 00:11:47 แบคทีเรียจักหนูอ้วนกะหนูผอมเนี่ยมันจะทำ
00:11:48 → 00:11:50 ให้หนูปลอดเชื้อเนี่ยมีความอ้วนพร้อมต่าง
00:11:50 → 00:11:54 กันหรือเปล่าผลปรากฏว่าต่างครับก็คือหนู
00:11:54 → 00:11:56 ปลอดเชื้อที่ได้แบคทีเรียจากหนูสายพันธุ์
00:11:56 → 00:11:59 อ้วนเนี่ยจะมีประมาณไขมันหรือว่าสัดส่วน
00:11:59 → 00:12:01 ของใครมาเนี่ยเพิ่มขึ้นเยอะกว่าหนูอีก
00:12:01 → 00:12:04 กลุ่มหนึ่งซึ่งการทดลองนี้นะครับมันก็
00:12:04 → 00:12:06 แสดงให้เห็นว่าเป็นเพลงนำไส้เนี่ยสามารถ
00:12:06 → 00:12:09 ทำให้อ้วนหรือว่าผอมได้การค้นพบครั้งนี้
00:12:09 → 00:12:11 นะครับกลายเป็นข่าวใหญ่ไปทั่วนะครับเพราะ
00:12:11 → 00:12:13 ว่าเป็นพันคนพบครั้งแรกที่เพราะว่าแบบเคย
00:12:13 → 00:12:17 ในลำไส้เนี่ยสามารถทำให้เราอ้วนว่าผอมได้
00:12:17 → 00:12:20 แต่ว่าแต่ว่านะครับการค้นพบการทดลองครั้ง
00:12:20 → 00:12:24 นี้เนี่ยมันการทดลองที่ทำในหนูเท่านั้นคำ
00:12:24 → 00:12:27 ถามคือว่าแล้วแต่ช่วยนำใช่ของมนุษย์เนี่ย
00:12:27 → 00:12:29 จะมีลักษณะเหมือนเป็นเทรนด์นำใช่ของหนู
00:12:29 → 00:12:31 ด้วยหรือเปล่าก็คือแบบที่แนะนำไส้มัน
00:12:31 → 00:12:34 สามารถทำให้ขั้วจะผอมได้ก็เลยมีนักเรียน
00:12:34 → 00:12:37 ศาสตร์เนี้ยที่อยากจะตอบคำถามนี้ดูในการ
00:12:37 → 00:12:40 จะตอบคำถามนี้นะครับพระยาสาดเนี้ยก็ทำการ
00:12:40 → 00:12:42 ทดลองที่คล้ายๆกับที่เราเคยไปเกาะหน้าเลย
00:12:42 → 00:12:44 นะครับก็คือนำรู้ปลอดเชื้อมาแต่คราวนี้
00:12:44 → 00:12:46 เนี่ยแทนที่จะเอา Black Clear จักหนู
00:12:46 → 00:12:49 อ้วนแล้วหนูพร้อมใส่ไปในรูปลอดเชื้อก็เอา
00:12:50 → 00:12:53 ไปเที่ยวของคนใส่เข้าไปในวิธีการเพื่อควบ
00:12:53 → 00:12:56 คุมให้การทดลองมันมีขอมีปัจจัยต่างๆใน
00:12:56 → 00:12:58 คล้ายกันมากที่สุดนะครับแล้ววิทยาศาสตร์
00:12:58 → 00:13:01 เนี่ยก็เลยทดลองในฝ่าแฝดฝาแฝดเนี่ยเป็นฝา
00:13:01 → 00:13:03 แฝดเหมือนด้วยนะครับกาแฟเครื่องฝาแฝดแท้
00:13:03 → 00:13:05 นะครับก็คือว่าทั้งสองคนมีพันธุกรรม
00:13:05 → 00:13:09 เหมือนกันร้อยเปอร์เซ็นต์แต่ว่าเลือกฝา
00:13:09 → 00:13:11 แฝดที่คนนึงเนี่ยเป็นคนอ้วนควรเป็นคนผอม
00:13:11 → 00:13:15 จากนั้นนะครับจะนำแบคทีเรียจากต่อทางเดิน
00:13:15 → 00:13:17 อาหารของทั้งสองคนอย่าใส่ไปในลูกอ๊อด
00:13:17 → 00:13:20 เชื้อปรากฏว่าผลที่ได้นะครับจากการทดลอง
00:13:20 → 00:13:23 เนี่ยก็คล้ายกับที่พบในหนูทดลองนะครับก็
00:13:23 → 00:13:25 คือว่าไปเที่ยวจากคนอ้วนเนี่ยสามารถทำให้
00:13:25 → 00:13:28 หนูปลอดเชื้อเนี่ยอ้วนได้มากกว่าไป
00:13:28 → 00:13:31 เคลียร์ที่มาจากฝาแฝดที่ไปอ้วนแล้วการค้น
00:13:31 → 00:13:33 พบครั้งนี้นะคะก็เหมือนเดิมนะครับเป็น
00:13:33 → 00:13:36 ข่าวใหญ่ที่ดังไปทั่วโลกนะครับเรานัก
00:13:36 → 00:13:37 เรียนศาสตร์นะครับหรือว่านักข่าวในก็
00:13:37 → 00:13:39 เริ่มเขียนว่าหรือว่าจริงๆแล้วเนี่ยการ
00:13:39 → 00:13:41 ที่คนอ้วนหรือผอมเนี่ยอาจจะมาอยู่ที่ว่า
00:13:41 → 00:13:45 เรากินไขมันว่ากินอะไรนะครับเริ่มอาจจะ
00:13:45 → 00:13:47 ไม่อยู่ที่คณะกรรมของเราก็ได้แต่ว่าอยู่
00:13:47 → 00:13:49 ที่ว่าเรามีเเบคทีเรียอะไรอยู่ในร่างกาย
00:13:49 → 00:13:51 ของเราแล้วก็เริ่มมีคนตั้งคำถามว่าแล้ว
00:13:51 → 00:13:54 นาคตเนี่ยเป็นไปได้ไหมที่เราจะรักษาโรค
00:13:54 → 00:13:56 อ้วนเนี่ยด้วยการเอาไปเที่ยวจากคนผอมๆมา
00:13:56 → 00:13:58 ใส่ในร่างกายของเราแล้วทำให้เราเนี่ย
00:13:58 → 00:14:04 สามารถผอมได้
00:14:04 → 00:14:08 คำตอบนี้นะครับผมต่อให้เลยนะครับว่าไม่
00:14:08 → 00:14:10 ง่ายอย่างนั้นฉันทีเดียวนะครับไม่ได้นะ
00:14:10 → 00:14:12 ครับข้ามอธิบายนะครับมันมาจากงานวิจัย
00:14:12 → 00:14:15 วิจัยนึงนะครับซึ่งนะพญาส่าตั้งคำถามว่า
00:14:15 → 00:14:18 ถ้าเราเอาแบบเทียนนะคะที่ทำให้อ้วนนะครับ
00:14:18 → 00:14:20 ก็ไปที่ทำให้ผอมเนี่ยใส่ไปหนูก็เชื่อตัว
00:14:20 → 00:14:23 เดียวกันก็คือว่าหนูตัวนั้นเนี่ยมีประเทศ
00:14:23 → 00:14:26 ทั้งสองชั้นอยู่ด้วยกันคำถามคือว่าหนู
00:14:26 → 00:14:28 ปลอดเชื้อตัวนั้นเนี่ยมันจะอ้วนหรือว่า
00:14:28 → 00:14:31 มันจะผอมคำตอบที่ได้จากการทดลองนี้นะครับ
00:14:31 → 00:14:34 น่าสนใจมากนะครับและก็คือว่ามันจะอ้วน
00:14:34 → 00:14:36 หรือผอมเนี่ยขึ้นเขาว่าเราให้มันกินอะไร
00:14:36 → 00:14:39 นะครับถ้าหนูตัวนั้นได้กินอาหารที่มีไข
00:14:39 → 00:14:43 มันสูงแคลอรี่สูงลงตัวนะเนี่ยจะอ้วนถ้า
00:14:43 → 00:14:45 หนูตัวนั้นเนี่ยได้กินอาหารที่มีกากใยสูง
00:14:45 → 00:14:48 แคลอรี่ต่ำหนูตัวนั้นจะผอมฟังดูนะค่อน
00:14:48 → 00:14:50 ข้างตรงไปตรงมาใช่ไหมครับแต่ที่น่าสนใจก็
00:14:50 → 00:14:53 คือว่าเมื่อนักเรียนศาสน์ศึกษาไปเที่ยวใน
00:14:53 → 00:14:55 ลำไส้ของหนู 2 กลุ่มนี้เนี่ยเพราะว่ามี
00:14:55 → 00:14:58 ความต่างกันจะลืมนะครับตอนเริ่มต้นเนี่ย
00:14:58 → 00:15:01 หนูที่มาศึกษานะมีแบบทุเรียนทั้งสองชนิด
00:15:01 → 00:15:04 อยู่ภายในร่างกายนะครับในทางเดินอาหารคือ
00:15:04 → 00:15:07 มีทางไปที่เรียกอ้วนและคุณจะไม่ผอมแต่
00:15:07 → 00:15:09 เมื่อไปศึกษาในหนูที่อ้วนนะครับคือกิน
00:15:09 → 00:15:12 แคลอรี่สูงไทยมันสูงจนอ้วนเนี่ยเมื่อเรา
00:15:12 → 00:15:14 ศึกษาเป็นขึ้นนำไส้เนี่ยเพราะว่าว่า
00:15:14 → 00:15:17 แบคทีเรียที่ทำให้ผอมเนี่ยมันลดลงไปรับลง
00:15:17 → 00:15:19 ไปมากเลยนะครับแล้วแบบที่จะไม่อ้วนมัร
00:15:19 → 00:15:22 เพิ่มขึ้นอย่างมากมายในทางตรงกันข้ามหนู
00:15:22 → 00:15:25 ที่ผอมนะครับที่ได้กินอาหารที่มีกากใยสูง
00:15:25 → 00:15:27 และก็ผอมเนี่ยเมื่อศึกษาแบบเธอในลำไส้ของ
00:15:27 → 00:15:30 มาเนี่ยเพราะว่าแบตช่วยที่ทำให้อ้วนมันลด
00:15:30 → 00:15:32 ลงไปอย่างมากแล้วไปช่วยที่ทำให้พอน้ำมัน
00:15:32 → 00:15:35 เพิ่มขึ้นการทดลองนี้มาแสดงให้เห็นว่ามัน
00:15:35 → 00:15:37 ให้เห็นปฏิสัมพันธ์นะครับระหว่างไปเที่ยว
00:15:37 → 00:15:39 ในลำไส้ของเรากับห่านที่เรากินหมายความ
00:15:39 → 00:15:42 ว่าสมุดนะครับเราเป็นคนอ้วนนะครับแล้วเรา
00:15:42 → 00:15:45 ได้แบคทีเรียจากคนผอมเนี่ยเข้ามาใส่ในลำ
00:15:45 → 00:15:48 ไส้ของเราไม่ได้แปลว่าแบบที่เรานั้นจะทำ
00:15:48 → 00:15:50 ให้เราผอมเหลือแต่โนมัติและเราสามารถกิน
00:15:50 → 00:15:53 อะไรก็ได้ตามใจปากเรากินอาหารมันๆก็ได้
00:15:53 → 00:15:55 กินหวานก็ได้นะครับแล้วเราจะพออยู่อย่าง
00:15:55 → 00:15:58 นั้นไปเรื่อยๆเพราะว่าสิ่งที่เราต้องทำ
00:15:58 → 00:16:00 คือว่าเราจะต้องเลี้ยงจุลินทรีย์เหล่า
00:16:00 → 00:16:02 นั้นเอาไว้เลี้ยงแบคทีเรียเหล่านั้นเอา
00:16:02 → 00:16:05 ไว้ด้วยอาหารที่มันชอบกินให้อาหารที่
00:16:05 → 00:16:07 เหมาะกับจุลินทรีย์เหล่านี้ก็คืออาหารที่
00:16:07 → 00:16:10 มีกากใยต่างๆนะครับอาหารเรียกว่า
00:16:10 → 00:16:13 พรีไบโอติกซึ่งก็คือพวกผักผลไม้ต่างๆ
00:16:13 → 00:16:15 เพราะเราคุยกันแห่งตรงนี้นะครับก็คิดว่า
00:16:15 → 00:16:17 เรามีข้อมูลมากพอแล้วนะคะที่เราจะไปตอบคำ
00:16:17 → 00:16:20 ถามที่เราเริ่มต้นกันไว้ตอนช่วงแรกของไอ้
00:16:20 → 00:16:22 ที่โสดนะครับก็คือคำถามที่ว่าทำไมคนสองคน
00:16:23 → 00:16:24 นะครับที่ทำอะไรหลายๆอย่างคล้ายๆกันนะ
00:16:24 → 00:16:28 ครับกินคล้ายๆกันเนี่ยทำไมคนควรคนนึงผอม
00:16:28 → 00:16:30 ข้ามอธิบายนึงนะครับที่เป็นไปได้นะครับก็
00:16:30 → 00:16:33 คือว่าออกคนสองคนนี้ก็จะมีประเทศในลำไส้
00:16:33 → 00:16:36 ในที่ต่างกันไปนะครับทำให้ตอบสนองต่อ
00:16:36 → 00:16:39 อาหารที่กินเข้าไปในต่างกันคนบางคนนะครับ
00:16:39 → 00:16:41 กินมันเป็นผักผลไม้เยอะเนี่ยแต่ก็ไม่
00:16:41 → 00:16:43 สามารถที่จะผอมลงได้เพราะว่าก็จะมีแบ็ก
00:16:43 → 00:16:45 ที่ทำให้ผอมเนี่ยค่อนข้างน้อยนะครับในทาง
00:16:45 → 00:16:48 เดินอาหารซึ่งพวกนี้นะครับเราก็คงไม่รู้
00:16:48 → 00:16:50 นะครับจังหวัดเราจะเดียวกันได้ทวนไปช่วย
00:16:50 → 00:16:52 ของในลำไส้ของเราดูนะครับว่าอยู่ในสภาวะ
00:16:52 → 00:16:55 ลำไหนนะครับสำหรับเรื่องของยาปฏิชีวนะนะ
00:16:55 → 00:16:57 ครับว่าทำให้อ้วนได้ยังไงนะครับคำอธิบาย
00:16:57 → 00:16:59 เนี่ยก็คงจะให้คล้ายกันนะครับก็คือว่ายา
00:16:59 → 00:17:02 ปฏิชีวนะเนี่ยมันไปรบกวนสมดุลของไนโตรเจน
00:17:02 → 00:17:04 ในลำไส้นะครับแล้ว 3 รุ่นใหม่ที่เกิดขึ้น
00:17:04 → 00:17:07 เนี่ยมันก็ทำให้สัตว์เนี่ยมีแนวโน้มที่จะ
00:17:07 → 00:17:09 อ้วนขึ้นแล้วทั้งหมดนี้นะครับก็คือเรื่อง
00:17:09 → 00:17:11 ราวของแบคทีเรียที่อยากจะเล่าให้ฟังนะ
00:17:11 → 00:17:13 ครับเรื่องของมันที่เรียกว่าความอ้วนนะ
00:17:13 → 00:17:15 ครับแต่ก่อนที่จะจดพิเศษนี้นะครับผมก็
00:17:15 → 00:17:17 อยากจะขอสรุปเรื่องราวทั้งหมดที่เราคุย
00:17:17 → 00:17:19 กันใหม่สักครั้งนะครับเป็นข้อข้อนะครับ
00:17:19 → 00:17:21 เหมือนเป็นแท็กโค Message นะครับให้จำได้
00:17:21 → 00:17:24 ง่ายขึ้นนะครับข้อไรนะครับโดยจะเห็นว่า
00:17:24 → 00:17:25 แบคทีเรียบางชนิดเนี่ยมันมีร้านนมที่ทำ
00:17:25 → 00:17:29 ให้เราอ้วนหรือผอมได้นะครับข้อที่ 2 เรา
00:17:29 → 00:17:30 ได้เห็นว่าการเป็นรบกวนสมดุลของไปช่วยใน
00:17:30 → 00:17:33 ลำไส้เนี่ยมันอาจจะมีผลขอให้เรามีไปธุระ
00:17:33 → 00:17:36 ที่ทำให้อ้วนเพิ่มมากขึ้นได้ทุกอย่างที่
00:17:36 → 00:17:37 เราเห็น Episode นี้ก็คือเรื่องของยา
00:17:37 → 00:17:40 ปฏิชีวนะที่เราใช้ในปศุสัตว์นะครับยา
00:17:40 → 00:17:43 ปฏิชีวนะนี่มันชำระจะเร่งการเติบโตและทำ
00:17:43 → 00:17:45 ให้สัตว์อ้วนขึ้นได้ซึ่งในคนเองเนี่ย
00:17:45 → 00:17:47 ปัจจุบันก็มีข้อมูลบ้างเหมือนกันว่าการ
00:17:47 → 00:17:49 ใช้ยาปฏิชีวนะที่มากเกินไปเนี่ยหรือว่า
00:17:49 → 00:17:52 ใช้นานเกินไปเนี่ยอาจจะมีผลต่อความอ้วน
00:17:52 → 00:17:55 ความผอมของคนได้เหมือนกันข้อที่ 3 นะครับ
00:17:55 → 00:17:57 เราได้เห็นว่าอาหารที่เรากินเข้าไปมัน
00:17:57 → 00:18:00 สามารถเป็นสมดุลของไปเทรนลำไส้ได้ด้วยนะ
00:18:00 → 00:18:03 ครับต้องเดี๋ยวจากนั้นก็จะมีปัจจัยอื่นๆ
00:18:03 → 00:18:05 อีกมากมายที่สามารถที่จะไปเปลี่ยนสมดุล
00:18:05 → 00:18:08 ได้ว่าจะเรื่องของความเครียดนะครับความ
00:18:08 → 00:18:09 วิตกกังวลต่างๆหรือว่ากิจกรรมอย่างเช่น
00:18:09 → 00:18:12 การออกกำลังกายเนี่ยก็เปลี่ยนไปเคยนำไส้
00:18:12 → 00:18:14 ของเราได้ซึ่งเรื่องนี้เดี๋ยวเราจะได้คุย
00:18:14 → 00:18:17 กันต่อไปใน Episode ต่อๆไปนะครับโดยเฉพาะ
00:18:17 → 00:18:19 ตอนที่เราคือเรื่องของมั้ยควีนนำไส้กับ
00:18:19 → 00:18:22 สมองเพราะจะได้คุยเรื่องนี้กันข้อที่ 4
00:18:22 → 00:18:24 นะครับอันนี้เป็นของแถมนะครับแต่ว่าเป็น
00:18:24 → 00:18:27 เป็นเลขที่สำคัญมากเรื่องนึงนะครับก็คือ
00:18:27 → 00:18:31 เราได้เห็นว่าการที่คนสองคนเนี่ยตอบสนอง
00:18:31 → 00:18:33 ต่ออาหารต่างกันเช่นคนร้านอาหารแบบเดียว
00:18:33 → 00:18:36 กันแต่ว่าคนอ้วนคนผอมเนี่ยมันก็เก็บข้อง
00:18:36 → 00:18:39 ด้วยว่าเรามีแบคทีเรียแบบไหนอยู่ในลำไส้
00:18:39 → 00:18:41 ของเราแล้วอาหารเนี่ยเป็นแค่ตัวอย่างแรก
00:18:41 → 00:18:44 เท่านั้นนะครับเพราะไปช่วยที่ในลำไส้ของ
00:18:44 → 00:18:46 เราในมันทำให้คนเราเนี่ยมีความต่างกันไป
00:18:46 → 00:18:49 และความต่างเนี่ยมันทำให้เราตอบสนองต่อ
00:18:49 → 00:18:52 สิ่งต่างๆเนี่ยต่างกันไปด้วยไม่ว่าจะเป็น
00:18:52 → 00:18:55 เรื่องของเช่นความสามารถในการทนความ
00:18:55 → 00:18:57 เครียดนะครับการที่เรามีไปเชื่อแบบชนิด
00:18:57 → 00:18:59 นึงเนี่ยว่าทำให้เราทนความเครียดได้ดี
00:18:59 → 00:19:01 กว่าการที่เรามีแบคทีเรียชนิดหนึ่งอยู่ใน
00:19:01 → 00:19:04 ลำไส้หรือว่าเป็นเรื่องของการตอบสนองต่อ
00:19:04 → 00:19:06 การรักษาโรคนะครับก็เกี่ยวข้องด้วยเช่น
00:19:06 → 00:19:09 เพราะว่าคนที่มีแบคทีเรียในลำไส้ต่างกัน
00:19:09 → 00:19:13 เนี่ยจะมีการตอบสนองต่อการรักษาอ่อนแล้ว
00:19:13 → 00:19:15 ก็ตอบตัวยารักษาโรคเบาหวานเนี่ยต่างกัน
00:19:15 → 00:19:18 หรือว่าตอบสนองต่อยารักษาโรคมะเร็งบาง
00:19:18 → 00:19:20 ชนิดเนี่ยต่างกันด้วยแล้วทั้งหมดนี้นะ
00:19:20 → 00:19:22 ครับก็คือเรื่องราวนะครับในส่วนนี้นะครับ
00:19:22 → 00:19:25 ที่อยากจะเล่าให้ฟังนะครับคิดว่าน่าจะ
00:19:25 → 00:19:27 ช่วยให้เห็นภาพมากขึ้นนะครับว่าแบบเพลงนำ
00:19:27 → 00:19:30 ไส้มันเกี่ยวข้องกับความอ้วนเราความพร้อม
00:19:30 → 00:19:32 ของเราได้ยังไงระหว่างชั่วเหมือนกันนะ
00:19:32 → 00:19:34 ครับว่าที่จะจัดกันไปนะครับก็คือแนะนำให้
00:19:34 → 00:19:36 รู้จักกับผู้ 3 ซึ่งของเรานะครับเดี๋ยว
00:19:36 → 00:19:38 สปอนเซอร์ของเรานะครับบริษัทมดกัดนะครับ
00:19:38 → 00:19:41 แล้วก็ถึงช่วงเวลาที่สัญญากันไว้นะครับก็
00:19:41 → 00:19:43 คือจะเล่าเกี่ยวกับผู้สับสน Series ใน
00:19:43 → 00:19:46 คราวไบโอมของเรานะครับบริษัทมดกัดนะครับ
00:19:46 → 00:19:48 บริษัทรถการนะครับเป็นบริษัทที่ก่อตั้ง
00:19:48 → 00:19:50 ขึ้นโดยนักวิจัยนะคะเป็นชิ้นนะคะยศาสตร์
00:19:50 → 00:19:53 ที่เชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยี Micro Bio
00:19:53 → 00:19:55 นะครับจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยี
00:19:55 → 00:19:58 พระจอมเกล้าธนบุรีบางมดนะครับโดยทางทีม
00:19:58 → 00:20:00 ของนักเรียนศาสตร์ของมหาวิทยาลัยนะครับ
00:20:00 → 00:20:03 ของบางบอนนะครับร่วมมือกับภาคเอกชนก็คือ
00:20:03 → 00:20:06 บริษัทไบโอเทค Global survey ชั่นนะครับ
00:20:06 → 00:20:09 ตั้งบริษัทใหม่ขึ้นมานะครับแล้วก็ให้ชื่อ
00:20:09 → 00:20:11 ว่าเป็นบริษัทมดกัดนะครับเขาหมดเนี่ยมา
00:20:11 → 00:20:14 จากคำว่าบางมดนะครับสกัดนะครับจะอยู่ที่
00:20:14 → 00:20:17 กัดเนี่ยเป็นคำในภาษาอังกฤษนะครับที่นิยม
00:20:17 → 00:20:19 ใช้ในทางการแพทย์จะมีความหมายว่าลำไส้จะ
00:20:19 → 00:20:22 นี่บริษัทมดกัดทำอะไรนะครับทั้งหมดการ์ด
00:20:22 → 00:20:24 เนี่ยก็คือเปิดให้บริการนะครับตรวจแล้วก็
00:20:24 → 00:20:26 วิเคราะห์จุลินทรีย์ในลำไส้แก่คนทั่วไป
00:20:26 → 00:20:29 เพื่อให้คนที่ไปตรวจนะครับแล้วตัวคุณ
00:20:29 → 00:20:32 เนี้ยได้รู้ว่าสภาวะของจุลินทรีย์นำไส้
00:20:32 → 00:20:35 ของตัวช่วงเนี้ยอยู่ในสภาวะแบบไหนสำหรับ
00:20:35 → 00:20:37 ท่านไหนนะครับที่สนใจแล้วก็อยากจะได้ข้อ
00:20:37 → 00:20:39 มูลเพิ่มเติมจะว่าบริษัทหมดครับนะครับ
00:20:39 → 00:20:41 เช่นประโยชน์ที่จะได้จากการตัวนั้นมีอะไร
00:20:41 → 00:20:43 บ้างนะครับแล้วก็ในการถั่วแดงมีราย
00:20:43 → 00:20:46 ละเอียดอะไรบ้างยังไงบ้างนะครับหรือว่า
00:20:46 → 00:20:49 ขั้นตอนในการตรวจมันมีไปเรื่อยอะไรบ้างผม
00:20:49 → 00:20:51 จะแปะลิงค์ไว้ได้จะแคปชั่นนะครับหรือว่า
00:20:51 → 00:20:54 เอาไว้ในช่องคอมเม้นต์นะครับใครสนใจในก็
00:20:54 → 00:20:56 ลองติดต่อไปคุยเพิ่มเติมดูได้นะครับเพราะ
00:20:56 → 00:20:58 ว่าเขาบอกความรู้ทางด้านนี้มันเปลี่ยน
00:20:58 → 00:21:00 เร็วมากนะครับท่านที่มาดูคลิปเนี่ย 3
00:21:00 → 00:21:02 เดือน 6 เดือนแล้วว่าปีหนึ่งจากที่ผมโพส
00:21:02 → 00:21:04 หรือว่าลงคลิปไว้เนี่ยอาจจะมีความรู้ใหม่
00:21:04 → 00:21:08 ๆเนี้ยที่ต่างไปจากเดิมในออกมามากมายนะ
00:21:08 → 00:21:11 ครับถ้าสนใจก็ลองติดต่อดูนะครับมดกัดนะ
00:21:11 → 00:21:13 ครับสิ่งเล็กๆที่สร้างให้ชีวิตเราต่างกัน
00:21:13 → 00:21:16 สำหรับวันนี้ผมขอลาไปก่อนนะครับว่าเรามา
00:21:16 → 00:21:18 พบกันใหม่ในโซนหน้านะครับเป็นซีรีส์ของ
00:21:18 → 00:21:23 ไม่ค่อยโอ่งส่วนดีครับอ่ะ