00:00:00 → 00:00:03 สวัสดีครับผมเชื่อว่าทุกคนที่เกิดมาเนี่ย
00:00:03 → 00:00:05 นะครับน่าจะมีสักครั้งในชีวิตที่มีอาการ
00:00:05 → 00:00:08 คลื่นไส้อาเจียนไม่ว่าจะเป็นการกินอาหาร
00:00:09 → 00:00:12 เข้าไปแล้วเกิดเป็นพิษขึ้นมาการแพ้ท้องใน
00:00:12 → 00:00:15 ระหว่างตั้งครรภ์การกินยาบางอย่างหรือกิน
00:00:15 → 00:00:18 เหล้าจนเมาแล้วก็คลื่นไส้อาเจียนบางคนเมา
00:00:18 → 00:00:22 รถเมาเรือเมาเครื่องบินก็คลื่นไส้อาเจียน
00:00:22 → 00:00:27 คำถามก็คือทำไมเราถึงคลื่นแส้เจียนมันมี
00:00:27 → 00:00:30 เหตุผลอะไรมันมีข้อดีมยการคลื่นแอาเจียน
00:00:30 → 00:00:33 เนี่ยนะครับนอกจากความทรมานที่จะเกิดขึ้น
00:00:33 → 00:00:36 กับผู้ที่เป็นวันนี้เดี๋ยวเราจะมาเล่า
00:00:36 → 00:00:39 เรื่องนี้ลงลึกกันเลยนะครับและที่สำคัญมี
00:00:39 → 00:00:41 คนสอบถามผมเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องของ
00:00:41 → 00:00:44 โรคที่ชื่อว่า cyclic vomiting Syndrome
00:00:44 → 00:00:48 ซึ่งผู้ที่เป็นเนี่ยจะมีอาการอ้วกรุนแรง
00:00:48 → 00:00:52 บางคนเป็นชั่วโมงบางคนเป็นวันโดยหาสาเหตุ
00:00:52 → 00:00:55 อะไรก็ไม่เจอแล้วเวลามันจะหายมันก็หาย
00:00:55 → 00:00:57 สนิทเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแต่เดี๋ยวก็
00:00:57 → 00:01:00 จะเป็นใหม่ทำให้การใช้ชีวิตเนี่ยมันลำบาก
00:01:00 → 00:01:03 ลำบลมากเดี๋ยววันเนี้ยเราจะมาเล่าเรื่อง
00:01:03 → 00:01:06 ของโรคนี้ให้ฟังแล้วจะแก้ไขมันได้ยังไงนะ
00:01:06 → 00:01:09 ครับพบกับผมนะครับนายแพทย์ธานีธนียวัน
00:01:09 → 00:01:10 เป็นอาจารย์แพทย์อยู่ที่ประเทศสหรัฐ
00:01:10 → 00:01:13 อเมริกาเชี่ยวชาญโรคปอดการปลูกถ่ายปอดและ
00:01:13 → 00:01:17 วิกฤตบำบัดนะครับวันนี้ผมต้องขออภัยไว้
00:01:17 → 00:01:20 ก่อนว่าคลิปอาจจะมีการลงลึกแล้วก็เยอะนิด
00:01:20 → 00:01:23 นึงเนื่องจากว่าผมต้องการให้เข้าใจกลไก
00:01:23 → 00:01:26 จริงๆของการอาเจียนการอ้วกเราเราจะได้รู้
00:01:26 → 00:01:29 ว่ามันเกิดเพราะอะไรแล้วเราทำอะไรกับมัน
00:01:29 → 00:01:33 ได้บ้างนะครับผมขอเริ่มอย่างนี้ก่อนคนเรา
00:01:33 → 00:01:36 เนี่ยโดยวิวัฒนาการนะครับมันจะต้องมีการ
00:01:36 → 00:01:39 ป้องกันสิ่งแปลกปลอมเข้าสู่ร่างกายเพราะ
00:01:39 → 00:01:43 ว่ามันอาจจะทำให้เราตายได้ดังนั้นร่างกาย
00:01:43 → 00:01:46 ของเราจึงคิดค้นระบบการอาเจียนขึ้นมา
00:01:46 → 00:01:48 เพราะว่าถ้าเกิดสมมุติมีสารพิษเข้าไปใน
00:01:48 → 00:01:51 ร่างกายเราเนี่ยแล้วเราอ้วกมันออกมาทัน
00:01:51 → 00:01:55 เราก็จะไม่ค่อยเจ็บไม่ค่อยป่วยนะครับที่
00:01:55 → 00:01:57 สำคัญการอ้วกยังเป็นการป้องกันไม่ให้เรา
00:01:57 → 00:02:02 รับสารพิษโดยการกินเข้าไปเพิ่มด้วยแล้วคน
00:02:02 → 00:02:06 ท้องการที่เค้าแพ้ท้องอาเจียนเนี่ยง่าย
00:02:06 → 00:02:09 กว่าคนปกตินะครับเค้าจะมีความไวต่อกลิ่น
00:02:09 → 00:02:12 ความไวต่อเสียงหรือความไวต่อของต่างๆ
00:02:12 → 00:02:15 เนี่ยมากกว่าปกติเพราะว่าตอนนั้นต้องอย่า
00:02:15 → 00:02:18 ลืมนะครับว่าเรามีมากกว่า 1 ชีวิตอยู่ใน
00:02:18 → 00:02:23 ตัวคนๆนึงการที่เราต้องดูแลลูกน้อยเนี่ย
00:02:23 → 00:02:26 ซึ่งลูกของเราจะมีความไวต่อสารพิษมากกว่า
00:02:26 → 00:02:30 แม่อยู่แล้วดังนั้นจึงจำเป็นจะต้องมีการ
00:02:30 → 00:02:35 พัฒนากลไกของร่างกายให้ไวมากๆต่อสารพิษ
00:02:35 → 00:02:37 ซึ่งสารพิษเนี่ยบางทีอาจจะไม่ได้มีปัญหา
00:02:37 → 00:02:40 ต่อแม่นะแต่มีปัญหาต่อลูกได้ดังนั้นถ้า
00:02:40 → 00:02:44 เกิดว่าแม่ได้รับสารพิษนั้นแล้วก็เฉยๆแม่
00:02:44 → 00:02:47 ก็จะกินต่อไปลูกก็ได้รับไปเต็มๆผลกระทบ
00:02:47 → 00:02:51 ของมันร่างกายจึงมีการสร้างให้มีความไว
00:02:51 → 00:02:55 ต่อการคลื่นไส้อเจนมากขึ้นนะครับทั้งหมด
00:02:55 → 00:02:58 ทั้งมวลเนี่ยคือกลไกการป้องกันร่างกายตัว
00:02:58 → 00:03:01 เองไม่ให้เจ็บป่วยแล้วก็ไม่ให้รับสารพิษ
00:03:01 → 00:03:06 เข้ามาแต่เดี๋ยวเราไปลองดูว่ามันเกิดอะไร
00:03:06 → 00:03:09 ขึ้นทำไมเราถึงอาเจียนแล้วกันนะครับตอน
00:03:09 → 00:03:13 นี้เรารู้แล้วนะว่าเหตุผลจริงๆคือการป้อง
00:03:13 → 00:03:17 กันการรับพิษเข้าไปในร่างกายแล้วร่างกาย
00:03:17 → 00:03:19 เรามันรู้ได้ยังไงว่ามันควรจะเกิดการ
00:03:19 → 00:03:23 อาเจียนขึ้นมาแล้วนะครับต้องบอกอย่างนี้
00:03:23 → 00:03:25 ก่อนว่าศูนย์ที่ทำให้เราอาเจียนเนี่ยมัน
00:03:25 → 00:03:28 อยู่ในก้านสมองศูนย์ที่เรียกว่าเมลอลอง
00:03:28 → 00:03:31 กาตานะครับศูนย์เนี่ยมันเป็นศูนย์บัญชา
00:03:31 → 00:03:34 การสั่งให้เราอ้วกแต่ว่ามันก็จะต้องมี
00:03:35 → 00:03:38 สิ่งที่บอกว่าเฮ้ยตอนเนี้ควรจะอ้วกแล้วนะ
00:03:38 → 00:03:42 ครับก็เป็นส่วนต่างๆของร่างกายมีทั้งหมด 4
00:03:42 → 00:03:47 ส่วนด้วยกันที่จะนำพาสาลมาบอกส่วนเนี้ย
00:03:47 → 00:03:50 ว่าเฮ้ยอ้วกได้และนะครับอันแรกนะครับใน
00:03:50 → 00:03:53 ทางเดินอาหารครับทางเดินอาหารของเราเนี่ย
00:03:53 → 00:03:56 จะมีเส้นประสาทเส้นหนึ่งเป็นเส้นประสาท
00:03:56 → 00:03:58 สมองเรียกว่า vegus nerve นะครับโดย
00:03:58 → 00:04:01 vegus nve เนี่ยมันมีหน้าที่ในการรับ
00:04:02 → 00:04:04 รู้ความรู้สึกที่อยู่ในทางเดินอาหารของ
00:04:04 → 00:04:07 เราทั้งหมดแล้วก็จริงๆรับรู้ความรู้สึก
00:04:08 → 00:04:10 ที่อยู่ในอวัยวะภายในของเราเกือบจะทั้ง
00:04:10 → 00:04:14 หมดด้วยแล้วมันก็มีการสั่งการไปที่อวัยวะ
00:04:14 → 00:04:16 เหล่านั้นได้ทีนี้พอมันรับสารเข้ามาคือมี
00:04:16 → 00:04:19 การระคายเคืองจากทานเนินอาหารเส้นประสาท
00:04:19 → 00:04:22 นี้ก็รับสารเอามาแล้วก็ไปบอกก้านสมองตรง
00:04:22 → 00:04:25 นี้ให้ทำการอาเจียนนี่คือทางที่ 1 ทางที่
00:04:25 → 00:04:29 2 คนเราเนี่ยเมารถเมาเรือเมาเครื่องบิน
00:04:29 → 00:04:30 ได้
00:04:30 → 00:04:34 ตัวรับมันก็อยู่ที่ระบบการทรงตัวหรือที่
00:04:34 → 00:04:37 เรียกว่า vestibular System ที่หูของเรา
00:04:37 → 00:04:40 นะครับที่หูของเรา 2 ข้างนี่แหละนะมันก็
00:04:40 → 00:04:43 มีตัวรับถ้ามีความผิดปกติปุ๊บมันก็ส่ง
00:04:43 → 00:04:47 กระแสประสาทไปที่ก้านสมองเลยทำให้อ้วกทาง
00:04:47 → 00:04:50 ที่ 3 นะครับเป็นส่วนของก้านสมองโดยตรง
00:04:50 → 00:04:53 อยู่ข้างหลังเรียกว่า area tima นะครับ
00:04:53 → 00:04:56 บริเวณนี้เนี่ยเป็นหนึ่งในบริเวณเพียงไม่
00:04:56 → 00:05:00 กี่บริเวณของสมองที่มันจะติดต่อกับเลือด
00:05:00 → 00:05:04 โดยตรงนะครับปกติแล้วสมองกับเลือดมันจะมี
00:05:04 → 00:05:07 ตัวขั้นกลางเรียกว่า Blood Brain
00:05:07 → 00:05:10 barrier เพื่อป้องกันไม่ให้ของผิดปกติ
00:05:10 → 00:05:12 จากเลือดเนี่ยเข้าสู่สมองโดยตรงแล้วเกิด
00:05:12 → 00:05:15 ปัญหาขึ้นมาได้แต่บริเวณนี้เนี่ยมันเป็น
00:05:15 → 00:05:20 บริเวณที่ทางสมองอนุโลมให้เอาบาเรียตรง
00:05:20 → 00:05:23 นี้ออกไปได้และมันจะไวมากเป็นพิเศษกับสาร
00:05:23 → 00:05:24 พิษ
00:05:24 → 00:05:30 เช่นถ้าเราเป็นคนที่เป็นโรคไตแล้วมีตวาย
00:05:30 → 00:05:33 สารพิษคั่งในร่างกายมากๆบางคนก็จะเริ่ม
00:05:33 → 00:05:36 จากการสะอึกบางคนก็อ้วกออกมาเลยนะครับ
00:05:36 → 00:05:42 หรือยาบางตัวนะครับยานำสลบนะที่ใช้ในการ
00:05:42 → 00:05:44 ผ่าตัดบางคนตื่นขึ้นมาแล้วอ้วกอาเจียนนะ
00:05:44 → 00:05:47 ครับแล้วก็มียาอตั้งหลายตัวที่ทำให้พวก
00:05:47 → 00:05:50 อาเจียนได้เพราะมันไปยุ่งกับบริเวณนี้ของ
00:05:50 → 00:05:54 สมองของเราและส่วนที่ 4 ก็คือสมองส่วน
00:05:54 → 00:05:58 ด้านบนนะครับหรือเซเรบรัมตัวนี้นี่แหละ
00:05:58 → 00:06:03 ที่มันมีการประมวลผลในเรื่องของ
00:06:03 → 00:06:07 อารมณ์เช่นถ้าเราเครียดเรากลัวเราตื่น
00:06:07 → 00:06:10 เต้นมากบางคนอ้วกนะครับเพราะว่ามันส่ง
00:06:10 → 00:06:14 สัญญาณมาที่ก้านสมองส่วน medal of lata
00:06:14 → 00:06:17 งั้น 4 ทางที่ทำให้เราอ้วกได้ก็คือมีทาง
00:06:17 → 00:06:21 เดินอาหารอวัยวะทรงตัวในหูก้านสมองส่วน
00:06:21 → 00:06:24 ที่เอาไว้รับเรื่องของสารเคมีจริงๆตรง
00:06:24 → 00:06:26 เนี้ยเราเรียกว่า area poa ซึ่งมี
00:06:26 → 00:06:28 chemoreceptor Trigger Zone อยู่
00:06:28 → 00:06:30 chemoreceptor ก็คือตัวรับสารเคมีแล้ว
00:06:30 → 00:06:33 มันก็ทำให้เราอ้วกนะครับทางสุดท้ายก็คือ
00:06:33 → 00:06:36 สมองด้านบน 4 ทางนี้แหละที่ทำให้เราอ้วก
00:06:36 → 00:06:42 นะแล้วในกลไกของมันเนี่ยกลไกการสืบประสาท
00:06:42 → 00:06:44 ทั้งหมดจนกระทั่งเราอ้วกเนี่ยสิ่งที่เกิด
00:06:44 → 00:06:47 ขึ้นนะครับมันจะมีสารสืบประสาทตามตำแหน่ง
00:06:47 → 00:06:50 ต่างๆและยาของเราทั้งหมดนี่แหละที่เราจะ
00:06:50 → 00:06:54 ใช้เนี่ยก็จะไปทำหน้าที่ยับยั้งกระบวนการ
00:06:54 → 00:06:57 ของสารสื่อประสาทตามตำแหน่งต่างๆทำให้เรา
00:06:57 → 00:07:00 ไม่อ้วกครับนะแล้วอ้วกตอนอ้วกเกิดอะไร
00:07:00 → 00:07:03 ขึ้นอ่าเมื่อกี้เราบอกแล้วว่ามี 4 ทางที่
00:07:03 → 00:07:06 จะนำกระแสประสาทเข้าไปสู่ก้านสมองตรงนี้
00:07:06 → 00:07:08 พอมันเข้าไปสู่ตรงนั้นเสร็จปุ๊บการสมอง
00:07:08 → 00:07:11 ส่วนนี้นี่แหละมันจะส่งกระแสประสาทไปตาม
00:07:11 → 00:07:15 ร่างกายเราให้เกิดสิ่งต่างๆตามต่อไปนี้ 1
00:07:15 → 00:07:19 กระเพาะเราหยุดเคลื่อนไหวอันที่ 2 ลำไส้
00:07:19 → 00:07:22 เล็กเราเคลื่อนไหวมากขึ้นแต่แทนที่จะบีบ
00:07:22 → 00:07:26 ตัวเอาอาหารลงไปทางก้นของเรามันบีบย้อน
00:07:26 → 00:07:29 กลับครับเพื่อที่จะไล่อาหารมาไว้ใน
00:07:29 → 00:07:31 กระเพาะแล้วเราก็จะได้อาเจียนออกมาต่อมา
00:07:32 → 00:07:36 คือหูรูดของกระเพาะและหูรูดของหลอดอาหาร
00:07:36 → 00:07:40 มันเปิดออกพอเปิดออกมันก็ได้พร้อมที่จะ
00:07:40 → 00:07:43 ให้อาหารผ่านออกมาข้างนอกได้และกระบังลม
00:07:43 → 00:07:45 กับกล้ามเนื้อหน้าท้องของเราจะมีการหด
00:07:46 → 00:07:50 เกร็งอย่างรุนแรงเพื่อไล่และดันอาหาร
00:07:50 → 00:07:53 เหล่าเนี้ยออกมาทางปากนะครับให้อาเจียน
00:07:54 → 00:07:57 ออกมานี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วอย่างที่
00:07:57 → 00:08:00 บอกคือในขั้นตอนต่างๆของของการรับรู้
00:08:00 → 00:08:02 กระแสประสาทพวกเนี้ยมันมีสารที่เกี่ยว
00:08:02 → 00:08:05 ข้องผมจะยกตัวอย่างบางสารเท่านั้นนะครับ
00:08:05 → 00:08:09 เช่นในทางเดินอาหารของเราเนี่ยมันจะมี
00:08:09 → 00:08:13 ซีโรโทนินออกมาจากเซลล์ตรงนั้นด้วยนะครับ
00:08:14 → 00:08:18 เซลล์ตรงนั้นน่ะเวลากระตุ้นจะมีซีโรอมอไป
00:08:18 → 00:08:21 จับกับตัวรับชื่อชื่อว่า F hydroxy tram
00:08:21 → 00:08:25 หรือ 5 ht3 นะครับตัวนี้เนี่ยถ้าไปจับ
00:08:25 → 00:08:28 ปุ๊บเราจะคลืนไส้อาเจนเราก็มียาไปยับยั้ง
00:08:28 → 00:08:32 มันครับเช่นยาออนซอนยากิอนที่ใช้เวลาคน
00:08:32 → 00:08:35 คลื่นไส้อจินมากๆหรือเวลาที่ได้รับเคมี
00:08:35 → 00:08:37 บำบัดนะครับก็จะคลื่นไส้จากตรงนี้มากเคมี
00:08:38 → 00:08:39 บำบัดเนี่ยมันไปยุ่งอะไรกับเซลล์ในทาง
00:08:40 → 00:08:42 เดินอาหารของเราเยอะนะมันเซลล์ตายก็อาจจะ
00:08:42 → 00:08:44 มีการกระทบกระเทือนแล้วก็ทำให้เราคลื่น
00:08:44 → 00:08:47 ไส้อาเจียนเพราะมันกระตุ้นเส้นปราสาทเวกั
00:08:47 → 00:08:50 เนฟในทางเดินอหารของเรานะครับที่หูของเรา
00:08:51 → 00:08:56 ตรงนี้อ่ามีิสนกับ muscarinic receptor
00:08:56 → 00:08:59 หรือ anic receptor ถ้าเราไปบล็อกมันล่ะ
00:08:59 → 00:09:03 การคื้นแส่อเจนของเราก็หายเช่นคนที่เมารถ
00:09:03 → 00:09:05 นะครับเมารถเมาเรือเมาเครื่องบินเราก็จะ
00:09:05 → 00:09:08 อาจจะให้เ่อไดเฟนไฮดรามีนนะครับ
00:09:08 → 00:09:12 ไดเมนไฮดริเนตพวกเนี้ยไปบล็อกตัวฮิสตามีน
00:09:12 → 00:09:14 ตรงนี้ทำให้เราไม่คลื้นไส้แอเจียนหรือเรา
00:09:14 → 00:09:17 ไปบล็อกมาสิ receptor เมื่อตะกี้ก็ได้มัน
00:09:17 → 00:09:20 จะมีแผ่นแปะอันนึงนะครับชื่อสโคโปลามีน
00:09:20 → 00:09:23 เราแปะตรงข้างๆตรงคอตรงนี้ก็ได้นะครับตัว
00:09:23 → 00:09:26 เนี้ยก็จะช่วยลดอาการคลื่นไส้อาเจียนของ
00:09:26 → 00:09:29 เราได้ถ้าเป็นบริเวณอื่นนะครับในสมองของ
00:09:29 → 00:09:33 เรานะฮะตรงบริเวณที่มันรับสารเคมีเมื่อ
00:09:33 → 00:09:35 ตะกี้นะชื่อว่า are prema หรือ
00:09:35 → 00:09:37 chemoreceptor Trigger Zone ตรงเยมัน
00:09:37 → 00:09:41 จะมีโดปามีน receptor อยู่ถ้าเราไปบล็อก
00:09:41 → 00:09:45 มันเราก็จะแก้ไขเรื่องของการคลื่นไส้อเจน
00:09:45 → 00:09:49 ได้นะครับเช่นยาเคมยา D พีนก็จะไปบล็อก
00:09:50 → 00:09:53 ตรงนี้และบริเวณนั้นยังมีอีกตัวนึงซึ่ง
00:09:53 → 00:09:57 มันมีปัญหามากๆนะครับถ้าเราไปกระตุ้นมัน
00:09:57 → 00:10:00 มันจะทำให้เราขึ้นไส้อเจนมามากๆเลยเรา
00:10:00 → 00:10:04 เรียกตัวนี้ว่าตัวรับนโรค 1 ซึ่งสิ่งที่
00:10:04 → 00:10:07 จะไปจับกับมันคือสารที่ทำให้เกิดความเจ็บ
00:10:07 → 00:10:10 ปวดหรือ substance Pain substance P
00:10:10 → 00:10:12 ไปจับปุ๊บเราอ้วงเลยเราก็มียาตัวใหม่ๆไป
00:10:12 → 00:10:16 ยับยั้งตรงนี้เช่นยาชื่อว่า aprepitant
00:10:16 → 00:10:19 หรือ Force aprepitant ตัวเนี้ยยาดีมากๆ
00:10:19 → 00:10:21 นะฮะแต่มันแพงมากเช่น
00:10:21 → 00:10:25 กันและถ้าเกิดว่าเอ้ยมันมาจากสมองของเรา
00:10:25 → 00:10:28 อ่ะเช่นเรากลัวเรากลัวไปเองเราถึงคลื่น
00:10:28 → 00:10:31 ไส้อเจนเราตตื่นเต้นนะครับเราเครียดมาก
00:10:31 → 00:10:33 เราถึงอ้วกไอ้ยาเมื่อกี้ไม่เห็นเกี่ยวกับ
00:10:33 → 00:10:36 อะไรเนี่ยมันบล็อกไม่ได้มีครับยาไปบล็อก
00:10:36 → 00:10:39 ข้างบนคือยากลุ่มยานอนหลับเซไดซีนของเรา
00:10:39 → 00:10:43 นี่แหละนะฮะแล้วก็มียาคลายกังวลต่างๆเช่น
00:10:43 → 00:10:47 ิทินเป็นต้นนะครับนี่คือเหตุผลทั้งหมดที่
00:10:47 → 00:10:50 ว่าทำไมคนเราถึงเกิดการคลื่นไส้อาเจียนมา
00:10:50 → 00:10:54 ได้นะครับในคนท้องผมขออธิบายเพิ่มอีกนิด
00:10:54 → 00:10:57 นึงแล้วกันช่วงที่จะอาเจียนมากๆเนี่ยมัน
00:10:57 → 00:11:00 จะเป็นช่วงไตรมาสแรกซะส่วนใหญ่นะครับช่วง
00:11:00 → 00:11:02 ไตรมาสแรกซะส่วนใหญ่เหตุผลก็คือมันมี
00:11:03 → 00:11:05 ฮอร์โมนอันนึงจากรกชื่อว่า Human
00:11:05 → 00:11:09 chorionic grin นะครับตัวนี้นี่แหละมัน
00:11:09 → 00:11:12 จะไปทำให้เรามีความไวต่อการคลื่นไส้อเจน
00:11:12 → 00:11:15 มากขึ้นนะครับเอสโตรเจนกับโปรเจสเตอโรน
00:11:15 → 00:11:18 ที่มันเยอะในช่วงเนี้ยแล้วก็คนที่กินยา
00:11:18 → 00:11:22 คุมมันจะมีฮอร์โมนพวกนี้เยอะเอสโตรเจนทำ
00:11:22 → 00:11:25 ให้เราเนี่ยไวต่อสิ่งกระตุ้นเยอะขึ้นโดย
00:11:26 → 00:11:28 เฉพาะในส่วนที่อยู่ที่ก้านสมองเมื่อกี้นะ
00:11:28 → 00:11:29 ครับ
00:11:29 → 00:11:33 ไวต่อสารพิษนิดนึงมันก็อ้วกละนะครับแล้ว
00:11:33 → 00:11:35 ก็ไปทำให้เราไวต่อกลิ่นมันก็จะอ้วกง่าย
00:11:35 → 00:11:38 ขึ้นนะฮะโปรเจสเตอโรนเนี่ยมันไปทำให้ลำ
00:11:38 → 00:11:41 ไส้เราไม่เคลื่อนไหวด้วยลำไส้ไม่เคลื่อน
00:11:41 → 00:11:46 ไหวหูรูดกระเพาะเปิดอันเนี้ยอาเจนง่ายและ
00:11:46 → 00:11:48 มันก็เกิดกรดไหลย้อนง่ายขึ้นด้วยเพราะว่า
00:11:48 → 00:11:50 กระเพาะเรามันควรจะบีบตัวลงไปข้างล่างใช่
00:11:50 → 00:11:52 มั้ยฮะถ้าโปรเจสเตอโรนเยอะในช่วงตั้ง
00:11:52 → 00:11:54 ครรภ์มันไม่บีบมันอยู่ของมันอย่างงั้นเรา
00:11:54 → 00:11:57 กินอะไรเข้าไปก็นั่งอยู่ตรงนั้นนะฮะร่วม
00:11:57 → 00:12:00 กับเราที่มีลูกตัวตัวใหญ่ขึ้นทุกวันก็
00:12:00 → 00:12:02 สามารถกดตรงนี้แล้วเราคลื่นไส้เอเจนออกมา
00:12:02 → 00:12:05 ก็ได้นะครับนี่คือเหตุผลที่มันเกิดขึ้นนะ
00:12:05 → 00:12:10 ฮะอ่ะทีนี้มาถึงเรื่องไฮไลท์และ cyclic
00:12:10 → 00:12:13 vomiting Syndrome คืออะไรนะครับ cyclic
00:12:13 → 00:12:17 vomiting Syndrome เนี่ยมันคือการอ้วก
00:12:17 → 00:12:20 ที่รุนแรงมากนะครับเป็นทีเป็นชั่วโมงเลย
00:12:20 → 00:12:22 ชั่วโมงนึงก็หลายครั้งด้วยแล้วบางคนก็
00:12:22 → 00:12:26 เป็นเป็นวันแต่พอมันหายเนี่ยหายสนิทเลย
00:12:26 → 00:12:28 เหมือนกับไม่เกิดอะไรขึ้นนะครับเป็นได้
00:12:28 → 00:12:31 ตั้งแต่ในเด็กยันผู้ใหญ่เลยนะครับเด็กก็
00:12:32 → 00:12:35 เป็นได้ผู้ใหญ่ก็เป็นได้นะฮะเหตุผลที่มัน
00:12:35 → 00:12:37 เกิดขึ้นเนี่ยนะ
00:12:37 → 00:12:41 ครับมีหลากหลายสาเหตุมากแต่เายังไม่แน่ใจ
00:12:41 → 00:12:43 สิ่งนึงซึ่งมีความเกี่ยวข้องกันค่อนข้าง
00:12:43 → 00:12:45 ที่จะชัดเจนก็คือ
00:12:45 → 00:12:50 ไมเกรนไมเกรนใช่ครับเด็กเนี่ยหลายคนที่
00:12:50 → 00:12:53 เป็นโรคนี้เนี่ยไปหาหมอก็หาอะไไม่เจอนะ
00:12:53 → 00:12:56 ครับแต่โตขึ้นมาไอ้อ้วกหายแต่กลายมาเป็น
00:12:56 → 00:12:59 ไมเกรนแทนใช่มในผู้ใหญ่บางคนก็มีอาการ
00:12:59 → 00:13:02 ไมเกรนหรือบางครั้งใช้ยารักษาไมเกรนแล้ว
00:13:02 → 00:13:06 มันดีขึ้นนะครับมันดีขึ้นได้ด้วยนี่ก็เลย
00:13:06 → 00:13:10 มีความเกี่ยวข้องกันนะครับบางอย่างนะครับ
00:13:10 → 00:13:13 ก็สิ่งที่เราจะต้องเข้าใจในเรื่องนี้
00:13:13 → 00:13:17 เนี่ยไม่ใช่ไมเกรนอย่างเดียวและบางคนมี
00:13:17 → 00:13:20 เรื่องของสิ่งหนึ่งซึ่งเรียกว่า hyp
00:13:20 → 00:13:23 thalamus pituitary adrenal AIS นะ
00:13:23 → 00:13:27 ครับพวกเนี้ยเป็นต่อมใต้สมองแล้วก็มีการ
00:13:28 → 00:13:30 สื่อสารกับต่อมหมวกไตเกี่ยวข้องกับความ
00:13:30 → 00:13:33 เครียดบางคนถ้าเครียดมากแล้วไอ้เนี่ยทำ
00:13:33 → 00:13:36 งานเยอะก็จะอ้วกได้ง่ายกว่าคนอื่นเขานะ
00:13:36 → 00:13:40 ครับก็เลยทำให้เราต้องมารู้ว่าบางคนจริงๆ
00:13:40 → 00:13:44 มันมีเหตุกระตุ้นแต่เราเนี่ยอาจจะรู้หรือ
00:13:44 → 00:13:46 ไม่รู้ก็อีกเรื่องหนึ่งเรามีหน้าที่ต้อง
00:13:46 → 00:13:50 ไปถามคนไข้แล้วก็หามันออกมาให้ได้นะครับ
00:13:50 → 00:13:53 อีกอย่างนึงซึ่งมีความเกี่ยวข้องก็คือ
00:13:53 → 00:13:57 เรื่องของปัญหาของไมโทคอนเดรียนะครับ
00:13:57 → 00:13:59 เรื่องนี้เนี่ยเค้าก็ยังไม่แน่ใจแต่เาพบ
00:13:59 → 00:14:02 ว่าการกลายพันธของ DNA ในไมโทคอนเดรียบาง
00:14:02 → 00:14:05 อย่างนะครับมันทำให้เกิดโรคนี้ขึ้นมาได้
00:14:05 → 00:14:08 แล้วมันก็ไม่ได้ตรวจกันง่ายๆด้วยนะครับ
00:14:08 → 00:14:10 ส่วนใหญ่ก็ตรวจกันไม่เจอนะฮะยกเว้นในบาง
00:14:10 → 00:14:13 สถาบันที่มีการตรวจตรงนี้ได้ก็อาจจะเจอ
00:14:13 → 00:14:16 ได้นะครับเนี่ยก็คือเป็นสาเหตุหลักๆแต่ก็
00:14:17 → 00:14:19 ยังมีเหตุผลอย่างอื่นๆที่เขาคิดว่ามันอาจ
00:14:19 → 00:14:21 จะเกี่ยวข้องกับการเกิดโรคนี้ขึ้นมาด้วย
00:14:21 → 00:14:24 นะครับอย่างไรก็ตามก่อนที่เราจะไปโทษโรค
00:14:24 → 00:14:28 นี้สังคมไทยตอนเนี้ยมีการใช้กัญชาค่อน
00:14:28 → 00:14:31 ข้างเยอะการใช้กัญชาก็เป็นสาเหตุหลักของ
00:14:31 → 00:14:32 การอ้วกเรื้อ
00:14:32 → 00:14:37 รังเราเรียกว่า Cannabis hyperemesis
00:14:37 → 00:14:41 Syndrome นะครับถ้าเราใช้กัญชามานานๆไม่
00:14:41 → 00:14:45 ว่าจะเป็นแบบกินแบบหยอดใต้ลิ้นหรือแบบสูบ
00:14:45 → 00:14:48 หรืออะไรก็แล้วแต่นะครับใช้มานานๆบางคนมี
00:14:48 → 00:14:50 อาการคลื่นไส้อาเจียนอย่างเงี้ยเป็นรอบๆ
00:14:50 → 00:14:53 ทำยังไงก็ไม่หายแต่มันจะดีขึ้นได้ด้วยการ
00:14:53 → 00:14:54 หยุด
00:14:54 → 00:14:58 กัญชาและทำให้อาการลดลงได้ด้วยการอาบน้ำ
00:14:58 → 00:15:02 ร้อนพวกนี้ถ้าไปเข้าไปอาบน้ำร้อนเฮะแช่
00:15:02 → 00:15:04 น้ำร้อนหรือเปิดฝักบัวร้อนๆเนี่ยอาการมัน
00:15:04 → 00:15:07 จะค่อนข้างดีขึ้นนะครับเเชื่อว่ามันเกิด
00:15:07 → 00:15:11 จากสาร thc ซึ่งเป็นสารกระตุ้นประสาทของ
00:15:11 → 00:15:14 กัญชาเนี่ยมันไปทำให้เราเกิดพิษขึ้นมาจาก
00:15:14 → 00:15:17 การที่มันไปจับกับตัวรับของมันชื่อว่า cb1
00:15:17 → 00:15:20 นะครับแต่ถ้าเป็นตัว
00:15:20 → 00:15:23 cannabinoid นะครับหรือ cannabinol cbd
00:15:23 → 00:15:26 ตัวเนี้ยมักจะไม่ทำให้เกิดปัญหานี้มักจะ
00:15:26 → 00:15:31 นะครับแต่ถ้าระดับสูงๆก็อาจจะก็ได้นะที
00:15:31 → 00:15:33 นี้ปัญหาคือเราไม่มีทางรู้หรอกครับว่าที่
00:15:33 → 00:15:37 เราใช้กันเนี่ยมันมี thc เยอะแค่ไหนบางที
00:15:37 → 00:15:40 เขาบอกว่ามีแต่ CB แต่มี TSC ปนเปื้อนมา
00:15:40 → 00:15:43 ด้วยคุณก็ไม่รู้ก็อาจจะมีอาการคลืนแส้เจน
00:15:43 → 00:15:45 แบบนี้ดังนั้นถ้าเกิดว่าใครที่ใช้กัญชา
00:15:46 → 00:15:48 แล้วมันมีอาการคลื่นไส้อาเจนแบบเนี้ยก็
00:15:48 → 00:15:50 โทษกัญชาก่อนเลยครับมันไม่ใช่ cyclic
00:15:50 → 00:15:52 ting Syndrome ที่ต้องไปรักษายังไงหรอก
00:15:52 → 00:15:57 ครับนะฮะอ่ะทีนี้เรื่อง cyclic warming
00:15:57 → 00:16:00 Syndrome เนี่ยหรือพวกที่มันเป็นบ่อยๆ
00:16:00 → 00:16:02 เนี่ยนะครับต้องบอกอย่างนี้ก่อนว่าเรา
00:16:02 → 00:16:06 ต้องไปหาเหตุผลอื่นให้เรียบร้อยซะก่อนบาง
00:16:06 → 00:16:10 คนเนี่ยมีทางเดินอาหารอุดกั้นนะครับมันก็
00:16:10 → 00:16:14 อ้วกได้เรื่อยๆบางคนเป็นเพราะยาบางตัวบาง
00:16:14 → 00:16:17 คนเป็นเพราะโรคประจำตัวบางอย่างนะครับบาง
00:16:17 → 00:16:20 คนเป็นโรคไมเกรนอย่างชัดเจนก็อ้วกได้บาง
00:16:20 → 00:16:23 คนใช้ยาคุมกำเนิดไม่ว่าจะเป็นยาคุมแบบแบบ
00:16:24 → 00:16:26 ฝังแบบกินแบบฉีดหรือแบบไหนก็แล้วแต่บางคน
00:16:26 → 00:16:29 จะมีการคลื่นไส้อาเจียนซึ่งความคไวต่อยา
00:16:29 → 00:16:31 พวกเนี้ยแต่ละคนก็ไม่เหมือนกันบางคนไวมาก
00:16:32 → 00:16:34 บางคนไวน้อยนะครับคนที่ไวมากก็จะมีโอกาส
00:16:34 → 00:16:36 ที่จะเกิดผลข้างเคียงคลื่นจนได้มากกว่า
00:16:36 → 00:16:39 ปกตินะครับหรือบางครั้งก็แน่นอนผู้หญิง
00:16:39 → 00:16:42 ถ้าเกิดว่าประจำเดือนไม่มาก็ต้องสงสัยการ
00:16:42 → 00:16:45 ตั้งครรภ์ไว้ก่อนถูกมยครับเหล่าเนี้ยคือ
00:16:45 → 00:16:48 สิ่งที่เราต้องหาให้เรียบร้อยซะก่อนว่า
00:16:48 → 00:16:52 มันไม่มีเหตุผลที่ทำให้เราอ้วกนอกเหนือไป
00:16:52 → 00:16:55 จาก cyclic moring Syndrome แล้วค่อยไป
00:16:55 → 00:16:59 โทษโรคนี้ถ้าเป็นโรคนี้ขึ้นมาแล้วเนี่ยนะ
00:16:59 → 00:17:02 ฮะออกก่อนอื่นนะเวลาไปหาหมอหมอเจะต้อง
00:17:02 → 00:17:04 ตรวจให้ครบทุกอย่างถ้าไม่เจออะไรสักโรค
00:17:04 → 00:17:06 เนี่ยค่อยบอกว่าเป็นโรคนี้นะครับถ้าเป็น
00:17:06 → 00:17:10 โรคนี้เออแล้วทำยังไงนะครับโรคนี้เนี่ย
00:17:11 → 00:17:14 มันมียาที่ใช้ในตอนที่อาการมันกำเริบแล้ว
00:17:14 → 00:17:17 ก็ยากลุ่มนึงใช้ในการป้องกันไม่ให้เกิด
00:17:17 → 00:17:21 อาการขึ้นมานะครับถ้ามีการกำเริบบ่อยมาก
00:17:21 → 00:17:23 เลยทุกเดือนเลยไอ้อย่างเงี้ยจะต้องกินยา
00:17:23 → 00:17:25 ป้องกันไว้เลยตั้งแต่แรกยาป้องกันหมาย
00:17:25 → 00:17:28 ความว่าต่อให้ไม่มีการคลื่นไส้อาเจียนก็
00:17:28 → 00:17:29 ต้องกิน
00:17:29 → 00:17:34 นะครับอ่าเวลารักษาเนี่ยขั้นตอนแรกนะครับ
00:17:34 → 00:17:39 เราจะมีการซักประวัติคนไข้ก่อนว่าอะไรที่
00:17:39 → 00:17:41 มันทำให้เขาอ้วกให้ลองคิดดีๆบางทีมันมี
00:17:42 → 00:17:44 เหตุผลเเช่นอาหารบางอย่างมันทำให้เขาอ้วก
00:17:44 → 00:17:48 การอดอับอดนอนการไม่สบายการติดเชื้อความ
00:17:48 → 00:17:51 เครียดพวกเนี้ยหลายครั้งนะครับทำให้เขาค
00:17:51 → 00:17:54 อ้วกได้อย่างนึงก็คือเราต้องพยายามให้
00:17:54 → 00:17:56 เขาคหลีกเลี่ยงตัวกระตุ้นเหล่านั้นนะครับ
00:17:56 → 00:18:00 วิธีการรักษาเนี่ยเราต้องใช้ใช้ยาประกอบ
00:18:00 → 00:18:02 กับการรักษาทางด้านจิตใจที่เราเรียกว่า
00:18:02 → 00:18:04 cognitive behavioral therapy ซึ่ง
00:18:04 → 00:18:06 เดี๋ยวผมจะพูดต่อไปว่าทำยังไงนะครับใน
00:18:06 → 00:18:11 กรณีนี้โดยเฉพาะเลยนะยาเนี่ยนะครับยาที่
00:18:11 → 00:18:15 ใช้ในขณะที่เราเป็นอาการขึ้นมาเราจะหยุด
00:18:15 → 00:18:18 มันได้ยังไงนะครับมันก็จะมียาตัวนึงชื่อ
00:18:18 → 00:18:22 ว่า zum trp แทนตัวนี้เนี่ยเราจะใช้พ่น
00:18:22 → 00:18:24 เข้าจมูกนะครับเราไม่กินเข้าไปเพราะว่า
00:18:24 → 00:18:26 แน่นอนคุณกำลังอ้วงอยู่คุณกินเก็อ้วงมา
00:18:26 → 00:18:29 เหมือนเดิมไม่ทันก็จะมีแบบพ่นจมูกนะครับ
00:18:29 → 00:18:31 หรือไม่ก็ฉีดเข้าใต้ผิวหนังที่หน้าท้องก็
00:18:31 → 00:18:34 ได้นะฮะหรือหลังแขนตรงนี้ก็ได้ตรงไตรเซป
00:18:34 → 00:18:37 เนี่ยฉีดหลังแขน subcutaneous เข้าไปก็
00:18:37 → 00:18:40 ได้แล้วแต่ว่าเรามียาแบบไหนนะฮะตัวนี้ก็
00:18:40 → 00:18:42 จะทำให้เราหยุดอาเจียนได้แล้วมันเป็นยา
00:18:42 → 00:18:46 ที่ใช้ในโรคไมเกรนดังนั้นคิดว่าอาจจะมี
00:18:46 → 00:18:49 ความเกี่ยวข้องกันระหว่างโรคไมเกรนและโรค
00:18:49 → 00:18:51 cyclic vomiting Syndrome นะ
00:18:51 → 00:18:54 ครับอันนี้เป็นยาที่ใช้ยาอีกตัวนึงที่เรา
00:18:54 → 00:18:57 ใช้ก็คือ aprepitant
00:18:57 → 00:19:00 aprepitant หรือ bitan นี่มันมี 2 ตัวนะ
00:19:00 → 00:19:03 ไอ้ตัวเนี้มันเป็นยาแก้เจนที่ดีมากๆเลย
00:19:03 → 00:19:07 แต่มันแพงมันแพงแต่มันดีมากๆเลยคนไหนที่
00:19:07 → 00:19:10 เอ่อใช้ยาเคมีบำบัดแล้วอาการเคลื่อนแส้
00:19:10 → 00:19:12 เจียนเนี่ยมันเยอะมากจนกระทั่งยาธรรมดา
00:19:12 → 00:19:15 เช่น onon grison เอาไม่อยู่เนี่ยบางที
00:19:15 → 00:19:20 ตัวเเอาอยู่นะครับเอาอยู่ได้นะฮะก็อาจจะ
00:19:20 → 00:19:24 มีการใช้ตัวนี้เ่อร่วมด้วยในขณะที่กำลัง
00:19:24 → 00:19:29 มีอาการนะครับต่อมาคือยาที่ใช้เมื่อเรา
00:19:29 → 00:19:31 ไม่มีอาการแต่เราต้องการป้องกันไม่ให้
00:19:31 → 00:19:34 อาการมันเกิดขึ้นก็แบ่งเป็นแบบนี้ครับมี
00:19:34 → 00:19:37 ในเด็กและในผู้ใหญ่ถ้าเด็กอ่ะต่ำกว่า 5
00:19:37 → 00:19:39 ขวบมันจะมียาแอนติฮิสตามีนตัวหนึ่งชื่อ
00:19:39 → 00:19:42 ว่าไซโปรเฮปตาดีนตัวนี้เนี่ยมันมี
00:19:42 → 00:19:44 ประโยชน์ไม่ใช่แค่แอนติฮิสตามีนอย่าง
00:19:44 → 00:19:46 เดียวแต่มันช่วยทำให้เจริญอาหารด้วยนะ
00:19:46 → 00:19:49 ครับเออบางคนอายุเยอะๆเนี่ยอาจจะได้ตัว
00:19:49 → 00:19:52 นี้ไปกินก็จะเจริญอาหารได้บ้างบางคนก็กิน
00:19:53 → 00:19:55 เราอาจจะไม่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมนะครับ
00:19:55 → 00:19:57 แต่ก็เป็นยาตัวนึงซึ่งเราให้ในเด็กถ้า
00:19:57 → 00:20:00 เป็นคนที่โตขึ้นมาหน่อยเนี่ยมักจะให้ยา
00:20:00 → 00:20:02 กลุ่มที่เราเรียกว่า tricyclic
00:20:02 → 00:20:05 antidepressant หรือตัวที่ใช้บ่อยๆคือ
00:20:05 → 00:20:07 amitrip thine ตัวเนี้จะเป็นตัวป้องกัน
00:20:07 → 00:20:10 ไม่ให้เกิดขึ้นมาแต่ถ้าเกิดคนไหนเป็นจาก
00:20:10 → 00:20:13 ไมเกรนนะครับก็อาจจะใช้ยาในกลุ่มไมเกรน
00:20:13 → 00:20:17 ได้เช่น pral นะครับ prop พิมดอย่างเงี้ย
00:20:17 → 00:20:21 เป็นต้นบางคนก็อาจจะใช้ยาแก้เจียนกลุ่ม
00:20:21 → 00:20:25 อื่นจริงๆยาแก้อเจนตัวอื่นๆที่ผมบอกไป
00:20:25 → 00:20:27 เนี่ยมันมีที่ใช้ของมันแล้วบางตัวผมก็ยัง
00:20:27 → 00:20:30 ไม่ได้พูดเออไหนๆพูดก็พูดให้หมดเลยะกันนะ
00:20:30 → 00:20:34 ครับเมื่อกี้เราพูดถึงเรื่องของยาเมคานะ
00:20:34 → 00:20:37 ครับยาดอมพรีนนะครับที่มันจะช่วยเรื่อง
00:20:37 → 00:20:40 ของโดปามีนได้ดพนนี่มันมีตัวช่วยที่อยู่
00:20:40 → 00:20:42 ในทางเดินอาหารของเราด้วยนะมันช่วยให้มัน
00:20:42 → 00:20:44 บีบตัวลงไปนะครับ
00:20:44 → 00:20:48 อ่ายาตัวอื่นๆที่เราบอกไปเมื่อกี้และนะฮะ
00:20:48 → 00:20:50 ก็ยาแอนติฮิสตามีนที่ใช้ในหูนะครับ
00:20:50 → 00:20:51 ไดเฟนไฮดรามีน
00:20:52 → 00:20:54 ไดเมนไฮดริเนตนะครับยาสโคโปลามีนที่ช่วย
00:20:54 → 00:20:57 เรื่องของการเมารถเมาเรือเมาเครื่องบินนะ
00:20:57 → 00:21:00 ครับอ่านอกเหนือจากนี้ยมีสเตียรอยด์ที่
00:21:00 → 00:21:02 เราใช้ได้ในบางคนสมองบวมใช้สเตียรอยด์มัน
00:21:02 → 00:21:05 ก็จะลดการคลื่นไส้ไอเจนได้สเตียรอยด์ใช้
00:21:05 → 00:21:08 ลดการคลื่นไส้แอลเจจากเ่อยาเคมีบำบัดได้
00:21:08 → 00:21:10 นะครับจากมะเร็งก็สามารถใช้ได้เหมือนกัน
00:21:10 → 00:21:12 aprepitant Force aprepitant เมื่อที
00:21:12 → 00:21:16 ก็บอกไปแล้วนะครับออน grison นะครับ
00:21:16 → 00:21:19 สามารถป้องกันการสื่อประสาทในทางเรือน
00:21:19 → 00:21:21 อาหารของเราไม่ให้เราสื่อไปได้แล้วเราก็
00:21:21 → 00:21:24 จะได้ไม่คลื่นไส้อาเจียนนะครับนอกเหนือ
00:21:24 → 00:21:27 จากนี้มันยังมีโปรเมทาซีนมียากลุ่มกาบ
00:21:27 → 00:21:31 เพนินนะครับอ่าพีกาบินพวกเนี้ยก็จะไปช่วย
00:21:31 → 00:21:33 ทำให้สมองของเรามันไม่รับรู้เรื่องของการ
00:21:33 → 00:21:36 คลืนไส้อเจนก็สามารถใช้ตัวพวกนี้ได้แต่
00:21:36 → 00:21:39 ว่าเราจะใช้ตัวไหนนั้นอันนี้อาจจะต้องไป
00:21:39 → 00:21:41 ปรึกษาคุณหมอว่าของเราเหมาะกับแบบไหน
00:21:41 → 00:21:43 เพราะว่าการใช้ยาแต่ละตัวเนี่ยมันขึ้นกับ
00:21:43 → 00:21:46 เหตุผลที่เราเป็นครับมันไม่ใช่บอกว่ามียา
00:21:46 → 00:21:48 ตัวไหนคลืนไส้อาเจียนแก้เคลื่อนไส้
00:21:48 → 00:21:51 อาเจียนที่ดีที่สุดมยไม่มีครับมันขึ้นกับ
00:21:51 → 00:21:53 ว่าเราเป็นอะไรมันต้องเอาให้เหมาะกับโรค
00:21:53 → 00:21:58 นั้นนะครับอ่ะทีนี้กลับมาสู่วิธีในการรัก
00:21:58 → 00:22:00 ษาแบบ cognitive behavioral therapy
00:22:00 → 00:22:03 เมื่อตะกี้เราบอกแล้วว่ายาเออมันใช้อะไร
00:22:03 → 00:22:05 ในตอนที่เรามีอาการแล้วก็ใช้อะไรในตอนที่
00:22:05 → 00:22:08 เราไม่มีอาการแต่ป้องกันไม่ให้อาการมัน
00:22:08 → 00:22:10 เกิดขึ้นนะครับ cognitive behavioral
00:22:10 → 00:22:13 therapy ในคนที่เป็นโรค cyclic vomiting
00:22:13 → 00:22:17 Syndrome เนี่ยสิ่งที่เขาจะทำนะครับคือ
00:22:17 → 00:22:20 ข้อแรกหาตัวกระตุ้นก่อนเมื่อตะกี้ที่บอก
00:22:20 → 00:22:24 อาหารอะไรมยเจ็บป่วยนอนน้อยนะครับเครียด
00:22:24 → 00:22:26 เรื่องอะไรหรือเปล่าหาให้ได้ก่อนคุยว่า
00:22:27 → 00:22:29 สภาพจิตใจของเราตอนเนี้ยเป็นอย่าง
00:22:29 → 00:22:33 ไรแล้วดูซิว่าเราเห็นยังไงกับการอาเจียน
00:22:33 → 00:22:36 บางคนอาจจะบอกว่าเนี่ยฉันเริ่มอาเจียน
00:22:36 → 00:22:37 แล้วมันหยุดไม่ได้แล้วแหละเดี๋ยวจะ
00:22:37 → 00:22:41 อาเจียนต่อไปเรื่อยๆเลยนะครับเราต้องมา
00:22:41 → 00:22:43 เจอตรงนี้ก่อนแล้วก็แก้ไขสิ่งที่เราต้อง
00:22:43 → 00:22:48 บอกคนไข้นะครับคือ mind Body Connection
00:22:48 → 00:22:52 มีจริงสมองเราถ้ามันคิดเยอะมันสั่งให้
00:22:52 → 00:22:56 ร่างกายเราผิดปกติได้และเราต้องแก้ตรงนี้
00:22:56 → 00:22:59 ต้องแก้ตรงนี้เป็นสิ่งที่เราทำได้นะครับ
00:22:59 → 00:23:02 นอกเหนือจากการใช้ยาดังนั้นเนี่ยต้อง
00:23:02 → 00:23:05 เปลี่ยนความคิดมุมมองเราใหม่ให้หมดข้อแรก
00:23:05 → 00:23:07 เราต้องบอกว่าโอเคถ้าเกิดคุณเจอสิ่ง
00:23:07 → 00:23:10 กระตุ้นเนี่ยนะเลี่ยงสิ่งกระตุ้นซะแต่บาง
00:23:10 → 00:23:12 อย่างมันเลี่ยงไม่ได้มันจะสอบมันเครียดก็
00:23:12 → 00:23:16 จะอ้วกได้นะครับหรือทำโปรเจคมันไม่ได้นอน
00:23:16 → 00:23:19 มันก็เป็นได้บางคนมันอยู่ๆก็เป็นขึ้นมา
00:23:19 → 00:23:21 อย่างเงี้ยนะครับหรือใช้ยาคุมหรืออะไรพวก
00:23:21 → 00:23:24 นี้ก็ต้องพยายามเลี่ยงยาพวกนี้ไปก่อนนะ
00:23:24 → 00:23:27 ครับการมองเรื่องเกี่ยวข้องกับการอาเจียน
00:23:27 → 00:23:30 อาจจะบางคนอาจจะบอกว่าชันอาเจียนแล้วอ่ะ
00:23:30 → 00:23:32 ฉันหยุดมันไม่ได้มันจะเป็นอีกแน่ๆเลยตอนเ
00:23:32 → 00:23:35 ตรงกันข้ามฉันมีวิธีหยุดมันต่อให้มัน
00:23:35 → 00:23:36 เริ่มแล้วฉันก็มีวิธีหยุดมันเพราะว่าฉัน
00:23:36 → 00:23:41 มียาอยู่ในมือแล้วไงฉันจะหยุดมันได้ต่อ
00:23:41 → 00:23:43 ให้มันเริ่มอาเจียนฉันก็จะหยุดมันได้เป็น
00:23:43 → 00:23:46 การเปลี่ยนความคิดของเราเปลี่ยนมุมมองของ
00:23:46 → 00:23:50 เราต่อตัวโรคนะครับแล้วต่อมาต้องสอนวิธี
00:23:50 → 00:23:54 ในการปล่อยความเครียดที่เกิดขึ้นให้มัน
00:23:54 → 00:23:58 หายไปซะนะครับบางคนอาจจะใช้วิธีในการหาย
00:23:58 → 00:24:00 ใจลึกๆเราเรียกว่า diaphragmatic
00:24:00 → 00:24:02 breathing หายใจ
00:24:02 → 00:24:05 แบบเข้าทางจมูกเต็มที่แล้วก็ปล่อยออกทาง
00:24:05 → 00:24:06 ปากช้า
00:24:06 → 00:24:11 ๆทำอย่างเงี้ยเรื่อยๆและเราจะแนะนำให้ทำ
00:24:11 → 00:24:15 ตอนที่ไม่มีอาการทำตอนที่คุณปกติไม่คลื่น
00:24:15 → 00:24:18 ไส้อาเจียนเพราะมันจะเป็นการทำให้คุณ
00:24:18 → 00:24:21 สามารถมี mind Body Connection ที่ดี
00:24:21 → 00:24:24 ขึ้นคุณจะรับรู้ร่างกายของคุณได้ดีขึ้น
00:24:24 → 00:24:27 เทคนิคต่อมาคือการคลายกล้ามเนื้อการผ่อน
00:24:27 → 00:24:31 คลายกล้ามเนื้อการรีกนะครับบางคนบอกว่า
00:24:31 → 00:24:33 เฮ้ยคลายกล้ามเนื้อซิผ่อนคลายผ่อนคลายมัน
00:24:33 → 00:24:37 ทำไม่ได้ทำให้เป็นวิธีที่ทำให้คนทำเป็นนะ
00:24:37 → 00:24:40 ครับคือคุณนอนลงนอนลงก่อนเลยแล้วเริ่มจาก
00:24:40 → 00:24:44 การเกร็งส่วนต่างๆเช่นลองกัดกรามแน่นๆ
00:24:44 → 00:24:48 เต็มที่แล้วก็ปล่อยนะครับการยักไหล่เต็ม
00:24:48 → 00:24:53 ที่เงี้ยหดให้เกรงเต็มที่เลยนับ 1-30
00:24:53 → 00:24:56 วินทีเลยก็ได้แล้วค่อยๆปล่อยลงมานะครับ
00:24:56 → 00:24:59 ต่อมาก็เริ่มไล่มาถึงกล้ามเนื้อแขนลองลอง
00:24:59 → 00:25:02 เบ่งกล้ามเต็มที่ซิแล้วคลายลองดันไปข้าง
00:25:02 → 00:25:06 หลังเต็มที่แล้วคลายนะครับเกรงหน้าอกเต็ม
00:25:06 → 00:25:09 ที่แล้วคลายต่อมาหน้าท้องแล้วก็ขาตาม
00:25:09 → 00:25:12 ลำดับทำอย่างเงี้ยซ้ำไปเป็นหลายๆรอบมันจะ
00:25:12 → 00:25:14 ทำให้เรา
00:25:14 → 00:25:17 เกิดการรับรู้ร่างกายเราแล้วพอเรารับรู้
00:25:17 → 00:25:20 ร่างกายเรารู้กล้ามเนื้อเราจะคลายมันได้
00:25:20 → 00:25:24 ครับอันเนี้ยให้ฝึกทำบ่อยๆมันจะทำให้เรา
00:25:24 → 00:25:28 เนี่ยมีการควบคุมเหนือจิตใจของเราต่อร่าง
00:25:28 → 00:25:31 กายถ้าจิตใจของเรามันส่งผลทำให้ร่างกาย
00:25:31 → 00:25:33 เราเกิดปัญหามากนักใช่มยเราไปควบคุมมัน
00:25:33 → 00:25:35 ได้อีกต่อนึงนะครับอันเนี้ยเป็นวิธีที่
00:25:35 → 00:25:38 เขาจะสอนกันในการทำ cognitive behavioral
00:25:38 → 00:25:42 therapy สำหรับโรคนี้ด้วยนะครับและแน่
00:25:42 → 00:25:45 นอนเค้าก็จะต้องสอนวิธีในการรับมือกับ
00:25:45 → 00:25:48 ปัญหาต่างๆที่มันจะเข้ามาในชีวิตประจำวัน
00:25:48 → 00:25:51 เช่นบางคนเครียดขึ้นมาทำยังไงเอ่อจะสอบ
00:25:51 → 00:25:53 แล้วทำยังไงประจำเดือนมาแล้วมันเป็นอย่าง
00:25:53 → 00:25:56 เงี้ยทำยังไงนะครับเค้าก็จะมีการสอนวิธี
00:25:56 → 00:25:58 พวกนี้ให้เราไปฝึกนะครับ
00:25:58 → 00:26:02 ทั้งหมดทั้งมวลเนี่ยถ้าเป็นในเด็กนะส่วน
00:26:02 → 00:26:05 ใหญ่โตขึ้นแล้วมันหายเองแต่ถ้าเป็นผู้
00:26:05 → 00:26:06 ใหญ่
00:26:06 → 00:26:09 เนี่ยถ้าเราทำ cognitive ral therapy
00:26:09 → 00:26:12 ดีๆแล้วล่ะก็ร่วมไปกับการใช้ยานะครับเรา
00:26:12 → 00:26:15 จะเริ่มดีขึ้นถ้าทำสม่ำเสมอนะเริ่มดีขึ้น
00:26:15 → 00:26:18 ที่ประมาณ 1 เดือนแต่ว่ามันจะเห็นผลชัดๆ
00:26:18 → 00:26:21 ที่ประมาณ 2-3 เดือนของการทำ cognitive
00:26:21 → 00:26:23 behavioral therapy แล้วต้องไปฝึกเอง
00:26:23 → 00:26:27 ที่บ้านยิ่งเราฝึกบ่อยมันก็จะดีขึ้นมาก
00:26:27 → 00:26:30 แต่ว่ามันกลับกลับมาเป็นใหม่ได้และมักจะ
00:26:30 → 00:26:33 กลับมาเป็นใหม่กับคนที่หาสาเหตุของการ
00:26:33 → 00:26:35 อาเจียนไม่
00:26:35 → 00:26:40 เจอดังนั้นเราต้องพยายามหาให้เจอเช่นบาง
00:26:40 → 00:26:43 คนเนี่ยเจอกลิ่นบางอย่างแล้วมันเป็นบางคน
00:26:43 → 00:26:45 กินไอ้ของบางอย่างแล้วมันเป็นนะครับบาง
00:26:45 → 00:26:48 อย่างบางคนเนี่ยไปเครียดเรื่องอะไรสัก
00:26:48 → 00:26:50 อย่างแล้วมันเป็นทุกทีเลยเราต้องหาทาง
00:26:50 → 00:26:53 ปล่อยวางความเครียดนะครับสุดท้ายแล้ว
00:26:53 → 00:26:56 เนี่ยกลับมาออกกำลังกายใช่มั้ยฮะทานอาหาร
00:26:56 → 00:26:59 ให้สมดุลนอนพักผ่อนให้เพียงพอพอรู้จักการ
00:26:59 → 00:27:02 รีกร่างกายการคิดวิเคราะห์ที่มันถูกต้อง
00:27:02 → 00:27:04 ไม่ได้เป็นการคิดวิเคราะห์ที่มันเอามาทำ
00:27:04 → 00:27:07 ร้ายตัวเองงดใช้ยาเสพติดทุกชนิดเลยโดย
00:27:07 → 00:27:10 เฉพาะกัญชามันทำให้เป็นโรคนี้นะครับคุณ
00:27:10 → 00:27:12 ต้องหยุดไปให้หมดนะ
00:27:12 → 00:27:16 ฮะคุยกับคนที่ควรคุยคบกับคนที่ควรคบใคร
00:27:16 → 00:27:18 ไม่ควรคบคุณเอามาไว้กับตัวมันก็กระตุ้น
00:27:18 → 00:27:20 ความเครียดคุณก็จะเกิดภาวานี้ขึ้นมาอีกนะ
00:27:20 → 00:27:23 ฮะสุดท้ายคือการไปอยู่กับธรรมชาติบ้างบาง
00:27:23 → 00:27:25 คนเครียดเพราะว่าเล่นโซเชียลเยอะเกินไป
00:27:25 → 00:27:27 เราดูมือถือเราตื่นมากลางดึกแล้วก็ไถแล้ว
00:27:27 → 00:27:29 ตื่นมาตอนเช้าเราก็ไถแล้วก็รับรู้ข้อมูล
00:27:29 → 00:27:31 เหล่านี้เข้าไปในสมองโดยที่คุณไม่รู้ตัว
00:27:32 → 00:27:34 บางทีคุณอาจจะบอกว่าคุณไม่เครียดแต่สิ่ง
00:27:34 → 00:27:36 เหล่านั้นมันทำให้คุณคิดทำให้คุณเครียด
00:27:36 → 00:27:39 โดยที่คุณไม่รู้ตัวก็ได้นะครับอ่าวันนี้
00:27:39 → 00:27:42 ผมก็เล่ามาขณะนี้หวังว่าเราจะเข้าใจกลไก
00:27:42 → 00:27:45 ของการเคลืนไส้ไอเจนมากพอสมควรนะครับอาจ
00:27:45 → 00:27:48 จะมียาบางตัวที่ผมไม่ได้พูดถึงนะครับก็
00:27:48 → 00:27:50 ถ้าสงสัยก็ถามมาเป็นตัวๆแล้วกันแต่อย่าง
00:27:50 → 00:27:53 ที่บอกนะครับไม่มียาตัวไหนที่ดีที่สุด
00:27:53 → 00:27:56 สำหรับทุกภาวะมันขึ้นกับคุณเป็นอะไรนะ
00:27:56 → 00:27:59 ครับแล้วเราไม่ได้เริ่มเร่ต้นด้วยยาที่
00:27:59 → 00:28:01 แรงที่สุดแพงที่สุดเสมอเราต้องเริ่มด้วย
00:28:01 → 00:28:04 ยาที่มันราคาถูกแล้วก็เหมาะสมกับโรคของ
00:28:04 → 00:28:08 คุณโดยผลค้างเคียงต่ำที่สุดเสมอนะครับถ้า
00:28:08 → 00:28:11 มีปัญหาอะไรก็แนะนำปรึกษาคุณหมอที่เขา
00:28:11 → 00:28:14 รักษาคุณแล้วก็ลองดูด้วยว่าคุณเหมาะกับ
00:28:14 → 00:28:17 การรักษาแบบไหนนะครับโอเควันนี้เท่านี้นะ
00:28:17 → 00:28:21 ครับขอบคุณมากครับสวัสดีครับ