00:00:00 → 00:00:02 อาจารย์ขาเลยต้องขอรบกวนอาจารย์แบบนี้
00:00:02 → 00:00:06 หน่อยค่ะว่าภาวะหัวใจอักเสบเนี่ยค่ะมัน
00:00:06 → 00:00:08 เกิดขึ้นได้ยังไงคะมันอยู่กับเราแต่
00:00:08 → 00:00:10 กำเนิดหรือว่าอยู่ดีๆมันก็อักเสบเหมือน
00:00:10 → 00:00:14 อวัยวะต่างๆของร่างกายได้อ่ะคะอาจารย์ค่ะ
00:00:14 → 00:00:18 ก็ต้องขอเรียนก่อนนะคะว่าขอใช้คำให้ชัด
00:00:18 → 00:00:21 เจนมากยิ่งขึ้นนะคะส่วนใหญ่ที่เราพูดถึง
00:00:21 → 00:00:25 กันในปัจจุบันนี้ว่าโรคหัวใจอักเสบเราพูด
00:00:25 → 00:00:29 ถึงมักจะพูดถึงกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบนะคะ
00:00:29 → 00:00:32 เราก็อาจจะมีบางท่านพอเป็นกล้ามเนื้อหัว
00:00:32 → 00:00:35 ใจอักเสบก็อาจจะตามมาด้วยเยื่อหุ้มหัวใจ
00:00:35 → 00:00:37 อักเสบอันนี้ขอพูดให้ชัดเจนมากขึ้นนิดนึง
00:00:37 → 00:00:40 นะคะส่วนคำถามที่ว่าเป็นตั้งแต่กำเนิด
00:00:40 → 00:00:43 หรือว่าเป็นภายหลังก็ต้องเรียนว่าเป็นภาย
00:00:43 → 00:00:46 หลังนะคะไม่ได้เป็นตั้งแต่กำเนิดค่ะ
00:00:46 → 00:00:51 แล้วมันมีในแง่สาเหตุใช่ไหมคะก็ส่วนใหญ่
00:00:51 → 00:00:55 ก็จะเป็นหลักๆอีก 2 สาเหตุก็คืออาจจะเกิด
00:00:55 → 00:00:58 จากการติดเชื้อค่ะแล้วก็จากเหตุที่ไม่ใช่
00:00:58 → 00:00:59 การติดเชื้อ
00:00:59 → 00:01:04 ติดเชื้อนี่คือติดเชื้อยังไงฮะจากอะไร
00:01:04 → 00:01:08 ถ้าในแง่สาเหตุหลักเนี่ยส่วนใหญ่ติดเชื้อ
00:01:08 → 00:01:11 ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของเชื้อไวรัสค่ะโดย
00:01:11 → 00:01:14 อาจจะเป็นไวรัสโดยตรงหรือว่าจากการตอบ
00:01:14 → 00:01:17 สนองของระบบภูมิคุ้มกันร่างกายต่อการติด
00:01:17 → 00:01:21 เชื้อไวรัสชนิดต่างๆยกตัวอย่างเช่นไวรัส
00:01:21 → 00:01:24 จริงๆมีหลายชนิดแต่ว่าที่หลายท่านอาจจะ
00:01:24 → 00:01:28 รู้จักก็คือเช่นเชื้อไข้หวัดใหญ่หรือที่
00:01:28 → 00:01:31 เรียกว่า inforenza นะคะหรือในยุค
00:01:31 → 00:01:33 ปัจจุบันนี้ที่พูดถึงกันมากๆก็คือเชื้อ
00:01:33 → 00:01:35 ไวรัสโควิด 19 ค่ะ
00:01:36 → 00:01:37 [เพลง]
00:01:37 → 00:01:41 แล้วทำให้กล้ามเนื้อหัวใจก็มีรายงานว่าคน
00:01:41 → 00:01:46 ที่ติดเชื้อไวรัสเรานี้นะคะสามารถกระตุ้น
00:01:46 → 00:01:49 ให้เกิดการอักเสบของกล้ามเนื้อหัวใจได้
00:01:49 → 00:01:52 ค่ะ
00:01:52 → 00:01:55 อือตายดูแล้วก็ยิ่งใกล้ตัวเข้าไปอีกนะคะ
00:01:55 → 00:01:58 อาจารย์ครับเราเริ่มรู้จากสาเหตุนะคะว่า
00:01:58 → 00:02:01 มาจากอันนี้มาจากเชื้อไวรัสและที่มันไม่
00:02:01 → 00:02:03 ได้ติดเชื้อจากเชื้อไวรัสมันเป็นยังไงคะ
00:02:03 → 00:02:04 อาจารย์
00:02:04 → 00:02:08 ถ้าเหตุไม่ใช่จากการติดเชื้อก็ยกตัวอย่าง
00:02:08 → 00:02:11 เช่นผู้ที่มีภาวะ
00:02:11 → 00:02:16 ภูมิคุ้มกันผิดปกติอย่างเช่นภูมิคุ้มกัน
00:02:16 → 00:02:19 อย่างเช่น sle นะคะภูมิคุ้มกันไวเกิน
00:02:19 → 00:02:23 อย่างนี้ค่ะหรือว่าได้รับยาบางประเภทนะคะ
00:02:23 → 00:02:26 ที่มากระตุ้นให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายมี
00:02:26 → 00:02:35 การตอบสนองที่ผิดปกติค่ะ
00:02:35 → 00:02:38 คุณหมอใช่ค่ะ
00:02:38 → 00:02:41 [เพลง]
00:02:41 → 00:02:46 มันน่าจะมาจากเรื่องของอาการป่วยอื่นๆต้น
00:02:46 → 00:02:50 ต่อไหมฮะหรือว่ามันจะไวรัสเอ่อจากลักษณะ
00:02:50 → 00:02:57 ของแบบไหนครับ
00:02:57 → 00:03:00 ชนิดไหนนะคะ
00:03:00 → 00:03:04 แต่ว่าถ้าได้รับการตรวจอย่างเช่นคือมี
00:03:04 → 00:03:08 อาการที่เข้ามาแล้วสงสัยว่าติดเชื้อจาก
00:03:08 → 00:03:11 ไวรัสเนี่ยคุณหมอก็จะมีวิธีตรวจเช็คจาก
00:03:11 → 00:03:14 พื้นทางร่างกายนะคะว่าเป็นเชื้อชนิดไหน
00:03:14 → 00:03:17 แต่ว่าหลักๆแล้วก็คือเมื่อมีการติดเชื้อ
00:03:17 → 00:03:21 มาแล้วไม่ใช่ทุกท่านจะเป็นต้องเรียนก่อน
00:03:21 → 00:03:25 นะคะเดี๋ยวจะตกใจจะไปใหญ่ว่าฉันเป็นเด็ก
00:03:25 → 00:03:27 ไวรัสแบบเหมือนเป็นหวัดหรืออะไรอย่างนี้
00:03:27 → 00:03:30 ค่ะแล้วฉันจะต้องมีกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ
00:03:30 → 00:03:34 อย่างนี้ค่ะก็อาจจะมีแค่บางท่านเท่านั้น
00:03:34 → 00:03:38 นะคะคืออย่างเช่นถ้าพูดถึงว่าสถิติของคน
00:03:38 → 00:03:41 ที่มาถือว่าภาพรวมทั้งหมดว่าโอกาสจะเกิด
00:03:41 → 00:03:44 โรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบก็อาจจะประมาณ
00:03:44 → 00:03:48 ไม่ถึง 10 คนในจำนวนแสนคนอย่างนี้ค่ะก็
00:03:48 → 00:03:51 คือไม่ได้ว่าจำนวนมากๆเดี๋ยวฟังจะตกใจ
00:03:51 → 00:03:55 เพียงแต่ว่าถ้าเป็นขึ้นมาเนี่ยอ่าอันนี้
00:03:55 → 00:04:00 อาจจะต้องมีการได้รับการดูแลเป็นพิเศษค่ะ
00:04:00 → 00:04:04 [เพลง]
00:04:04 → 00:04:07 เป็นป่วยเป็นอันนี้แล้วโอกาสที่จะเป็น
00:04:07 → 00:04:10 กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบจะเป็นเป็นไปด้วย
00:04:10 → 00:04:17 ตามไปด้วยได้มันๆไม่ได้บ่งบอกขนาดนั้น
00:04:17 → 00:04:21 กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบค่ะมันจะมีอาการ
00:04:21 → 00:04:24 เป็นยังไงบ้างคะอาจารย์อย่างที่เราจะดู
00:04:24 → 00:04:29 ละครมันก็จะแบบ
00:04:29 → 00:04:32 เหมือนละครชอบจับปุ๊บแปลว่าเจ็บอันนี้จะ
00:04:32 → 00:04:35 ใช่เลยหรือเปล่าหรือว่ามันมีอาการนำมา
00:04:35 → 00:04:38 ก่อนหน้านั้นเพื่อจะได้คนจะได้เข้าใจค่ะ
00:04:38 → 00:04:39 อาจารย์
00:04:39 → 00:04:42 ก็ต้องเรียนว่าในแง่อาการเนี่ยเรียกว่า
00:04:42 → 00:04:46 อาการไม่ได้จำเพาะเจาะจงนะคะมีอาการได้
00:04:46 → 00:04:50 ตั้งแต่ไม่มีอาการจนไปถึงมีอาการอันได้
00:04:50 → 00:04:54 แก่รู้สึกเหนื่อยง่ายใจสั่นอย่างนี้นะคะ
00:04:54 → 00:04:58 หรือเป็นมากๆจนถึงขั้นมีหัวใจเต้นผิด
00:04:58 → 00:05:03 จังหวะรุนแรงซึ่งนำไปถึงมีการหมดสติหัวใจ
00:05:03 → 00:05:07 หยุดเต้นนะคะได้หรือว่าบางท่านอาจจะมา
00:05:07 → 00:05:10 ด้วยเจ็บแน่นหน้าอกที่คล้ายกับอาการหัวใจ
00:05:10 → 00:05:13 ขาดเลือดเฉียบพลันที่เรียกว่าธาตุรู้จัก
00:05:13 → 00:05:16 กันก็เช่นหาแอดแขกอาจจะเป็นกลุ่มนั้นก็
00:05:16 → 00:05:20 ได้ค่ะครูเรียกว่าคนคนทั่วไปก็มีอาการ
00:05:20 → 00:05:23 เหล่านี้ก็ต้องมาปรึกษาแพทย์เพราะว่าท่าน
00:05:23 → 00:05:27 คงไม่สามารถแยกได้ว่าท่านเป็นโรคอะไร
00:05:27 → 00:05:30 อาการที่แสดงออกทั้งหมดนี้ค่ะมันเป็น
00:05:30 → 00:05:33 เฉียบพลันหรือมันจะเป็นแบบเรื้อรังแบบ
00:05:33 → 00:05:35 เป็นแป๊บๆแล้วมันก็หายไปแล้วมันก็กลับมา
00:05:35 → 00:05:37 เป็นอีกหรือว่ามันเป็นที่มันเป็นหนักเลย
00:05:37 → 00:05:40 นะคะอาจารย์ส่วนใหญ่ที่เราพูดถึงกันเรา
00:05:40 → 00:05:43 มักจะพูดถึงกลุ่มเฉียบพลันนะคะเพราะว่า
00:05:43 → 00:05:47 ครั้งแรกที่มีเหตุมากระตุ้นแล้วเกิดการ
00:05:47 → 00:05:49 อักเสบของกล้ามเนื้อหัวใจก็ย่อมจะทำให้
00:05:49 → 00:05:53 เกิดอาการเฉียบพลันขึ้นมานะคะแต่เพียงแต่
00:05:53 → 00:05:57 ว่าคนไข้กลุ่มหนึ่งที่ผ่านการเกิดกล้าม
00:05:57 → 00:06:01 เนื้อหัวใจอักเสบเมื่อผ่านเวลาไปแล้วส่วน
00:06:01 → 00:06:05 หนึ่งก็อาจจะหายดีเป็นปกติเลยแต่ก็อาจจะ
00:06:05 → 00:06:08 มีคนไข้ส่วนหนึ่งที่อาจจะยังมีการอักเสบ
00:06:08 → 00:06:10 ของกล้ามเนื้อต่อเนื่องไปอย่างเช่นใน
00:06:10 → 00:06:13 กลุ่มคนไข้ที่เป็นภูมิคุ้มกันไวเกินกลุ่ม
00:06:13 → 00:06:17 นั้นก็จะเป็นกลุ่มพิเศษแต่ยังมีคูณในร่าง
00:06:17 → 00:06:20 กายที่ยังคงมีความผิดปกติต่อเนื่องกลุ่ม
00:06:20 → 00:06:23 นั้นก็จะผ่านช่วงวิกฤตช่วงแรกไปแล้วก็ยัง
00:06:23 → 00:06:29 เป็นต่อเนื่องไปเรื่อยๆนะคะ
00:06:29 → 00:06:33 ค่อนข้างที่จะอยู่ดีๆอยู่ดีๆมันก็เป็นเลย
00:06:33 → 00:06:36 ได้ได้อย่างนั้นเลยไหมฮะคุณหมอพูดได้
00:06:36 → 00:06:39 อย่างงั้นเลยไหมฮะคือมันไม่มีสัญญาณเตือน
00:06:39 → 00:06:42 คือเขาก็มีพูดเหมือนกันว่าบางท่านอาจจะมี
00:06:42 → 00:06:46 อาการเตือนมาก่อนเช่นถ้าเกินครึ่งอย่าง
00:06:46 → 00:06:49 นี้ค่ะอาจจะมีอาการเหมือนไข้หวัดก็อย่าง
00:06:49 → 00:06:51 ที่เรียนเบื้องต้นว่าบางท่านผ่านการติด
00:06:51 → 00:06:53 เชื้อไวรัสใช่ไหมคะซึ่งบางครั้งเราก็อาจ
00:06:53 → 00:06:56 จะไม่ทราบหรอกว่าเป็นเชื้อชนิดไหนแต่ว่า
00:06:56 → 00:06:58 อาจจะแสดงออกด้วยอาการเหมือนเป็นไข้หวัด
00:06:58 → 00:07:02 อย่างมีน้ำมูกมีไข้มีไออย่างนี้เป็นต้นนะ
00:07:02 → 00:07:07 คะเมื่อเวลาผ่านไปอาจจะเป็นภายในเขาก็มี
00:07:07 → 00:07:09 เขียนได้ตั้งแต่ภายในช่วงแรกของการเป็น
00:07:09 → 00:07:12 ภายใน 7 วันหรือมากกว่านั้นแล้วตามมาด้วย
00:07:12 → 00:07:15 อาการอย่างที่กล่าวนะคะว่ามีอาการทางหัว
00:07:15 → 00:07:19 ใจต่อเนื่องมาค่ะแต่คนที่เป็นเองก็ค่อน
00:07:19 → 00:07:22 ข้างที่จะสังเกตตัวเองยากเหมือนกัน
00:07:22 → 00:07:26 พูดถึงแล้วเพราะว่าเอาตรงๆอาการก็อาจจะ
00:07:26 → 00:07:29 คล้ายโรคที่จริงๆก็อาจจะรู้จักกันมากกว่า
00:07:29 → 00:07:34 เช่นหัวใจขาดเลือดหลอดเลือดอุดตันใช่ไหม
00:07:34 → 00:07:37 คะว่าอันนั้นก็เรียกว่าเป็นโรคที่ถ้าท่าน
00:07:37 → 00:07:38 มีอาการ
00:07:38 → 00:07:41 ควรจะรีบเข้ามาปรึกษาแพทย์ไม่ควรจะกินยา
00:07:41 → 00:07:44 แล้วก็สังเกตอาการอยู่กับบ้านเช่นถ้ามี
00:07:44 → 00:07:48 อาการแน่นหน้าอกหายใจไม่ออกอย่างนี้ค่ะ
00:07:48 → 00:07:50 บางท่านบอกคล้ายโรคกระเพาะอย่างนี้ค่ะแต่
00:07:50 → 00:07:55 ว่ามันไม่หายเป็นมากจนรู้สึกไม่สบายทน
00:07:55 → 00:07:58 อยู่ไม่ได้อย่างเงี้ยค่ะอย่างเงี้ยไม่ควร
00:07:58 → 00:08:01 รอเพราะว่าบางครั้งท่านรองเนี่ยโรคมันก็
00:08:01 → 00:08:06 อาจจะดำเนินไปจนอาจจะนำไปสู่การเป็นมากจน
00:08:06 → 00:08:09 เกินเรียกว่ารักษาไม่ทันท่วงทีนะคะ
00:08:09 → 00:08:13 อาจารย์คะแล้วคนที่แบบอย่างร่างกายแข็ง
00:08:13 → 00:08:15 แรงดีอย่างหยกกับโอ๊คเราไม่เคยเป็นโรค
00:08:15 → 00:08:17 หรือว่าเราไม่มีพันธุกรรมว่าครอบครัวเรา
00:08:17 → 00:08:19 เป็นมาก่อนหรืออะไรอย่างนี้ค่ะเรามีโอกาส
00:08:19 → 00:08:22 เป็นได้น้อยแค่ไหนถ้าเทียบเท่ากับแบบคน
00:08:22 → 00:08:24 ที่เขาอาจจะมีโรคประจำตัวอื่นๆอะไรอย่าง
00:08:24 → 00:08:29 นี้ค่ะจริงๆต้องเรียนว่าอันนี้เขาก็เกิด
00:08:29 → 00:08:33 กับใครก็ได้นะคะเพียงแต่ว่าถ้าจะป้องกัน
00:08:33 → 00:08:36 ยังไงเนี่ยก็คืออาจจะต้องว่าถ้าพูดตาม
00:08:36 → 00:08:38 สถิติเนี่ยเหตุมันเกิดจากการติดเชื้อ
00:08:38 → 00:08:41 ไวรัสเพราะฉะนั้นถ้าท่านจะติดเชื้อไวรัส
00:08:41 → 00:08:44 ก็แปลว่าร่างกายท่านก็อาจจะไม่แข็งแรง
00:08:44 → 00:08:48 เช่นยกตัวอย่างบางท่านทำงานหนักพักผ่อน
00:08:48 → 00:08:51 น้อยอย่างเงี้ยค่ะอาจจะไม่ค่อยได้ออก
00:08:51 → 00:08:53 กำลังกายเหมือนคิดเหมือนคนทั่วไปว่าช่วง
00:08:53 → 00:08:56 ไหนที่ท่านไม่สบายเป็นหวัดก็มักจะเป็น
00:08:56 → 00:08:59 ช่วงที่ท่านอ่อนแอใช่ไหมคะนอนน้อยพักผ่อน
00:08:59 → 00:09:02 ไม่พอมักจะเป็นแบบนั้นอย่างเงี้ยเป็นต้น
00:09:02 → 00:09:05 หรือว่าทำตัวเสี่ยงเช่นท่านไปในสถานที่
00:09:05 → 00:09:09 แอร์อาจที่ไปอยู่ใกล้ชิดคนที่ไม่สบายแบบ
00:09:09 → 00:09:12 อาจจะเป็นไข้หวัดอยู่อย่างเงี้ยค่ะเราไม่
00:09:12 → 00:09:16 ได้ต้องการหน้ากากอนามัยอย่างเงี้ยก็อาจ
00:09:16 → 00:09:18 จะทำให้ท่านแม้แต่แข็งแรงแต่ไปอยู่ในที่
00:09:18 → 00:09:22 ที่เชื้อหนาแน่นอ่อนแออัดไม่ว่าท่านจะ
00:09:22 → 00:09:26 แข็งแรงยังไงก็ย่อมมีโอกาสติดเชื้อ
00:09:26 → 00:09:30 พอพูดถึงว่าเป็นภาวะอักเสบนี้ค่ะอย่าง
00:09:30 → 00:09:33 สมมุติว่าส่วนใหญ่ถ้าเรามีภาวะอักเสบเรา
00:09:33 → 00:09:34 ก็กินยาแก้อักเสบหรือว่าอย่างนู้นอย่าง
00:09:34 → 00:09:37 นี้หายได้แต่ถ้าสำหรับเป็นกล้ามเนื้อหัว
00:09:37 → 00:09:40 ใจอักเสบแล้วเนี่ยค่ะการรักษาเราต้อง
00:09:40 → 00:09:42 รักษายังไงคะกินยาหรือว่าเราทำยังไงให้
00:09:42 → 00:09:46 ภาวะการอักเสบของหัวใจมันหายไปหรือมันจะ
00:09:46 → 00:09:49 ยังไงคะอาจารย์ต้องเรียนว่าเป็นโรคที่
00:09:49 → 00:09:52 จริงๆวินิจฉัยไม่ได้ง่ายอย่างเช่นที่เก่า
00:09:52 → 00:09:55 กล่าวเป็นเบื้องต้นว่าตัวท่านคนไข้เอง
00:09:55 → 00:09:57 เนี่ยไม่สามารถบอกได้หรอกค่ะว่าตัวเอง
00:09:57 → 00:10:01 เป็นอะไรอย่างเช่นสถิติส่วนใหญ่ก็จะมา
00:10:01 → 00:10:05 ด้วยเจ็บแน่นหน้าอกใช่ไหมคะหรือบางท่านจะ
00:10:05 → 00:10:07 เหมือนกับท็อปหมดสติจนถึงขั้นต้องช่วย
00:10:07 → 00:10:11 ฟื้นคืนชีพเพราะฉะนั้นเหตุส่วนใหญ่ของคน
00:10:11 → 00:10:13 ไข้ที่เป็นอาการอย่างนั้นเนี่ยก็คือเป็น
00:10:13 → 00:10:17 หลอดเลือดหัวใจอุดตันเฉียบพลันอันเนี้ยก็
00:10:17 → 00:10:19 ควรให้แพทย์วินิจฉัยใช่ไหมคะอย่างแพทย์ก็
00:10:19 → 00:10:23 จะมีวิธีการตรวจซึ่งไฟฟ้าหัวใจเอกซเรย์ดู
00:10:23 → 00:10:28 หัวใจและปอดรวมถึงที่การตรวจที่วัยที่สุด
00:10:28 → 00:10:31 ในการวินิจฉัยว่ากล้ามเนื้อหดหัวใจท่านมี
00:10:31 → 00:10:34 การขาดเลือดหรือมีการอักเสบหรือเปล่าหรือ
00:10:34 → 00:10:36 บ่งถือว่าการมีการถูกทำลายของกล้ามเนื้อ
00:10:36 → 00:10:39 เนี่ยค่ะเราจะเช็คเขาเรียกเอนไซม์หัวใจ
00:10:39 → 00:10:43 ซึ่งการตรวจอันนี้เรียกว่ามีความวายแล้ว
00:10:43 → 00:10:47 ก็มีความจำเพาะสูงที่ตรงวินิจฉัยภาวะนี้
00:10:47 → 00:10:48 ค่ะ
00:10:48 → 00:10:50 [เพลง]
00:10:50 → 00:10:53 ไม่แนะนำให้ท่านแบบว่ามีอาการแน่นหน้าอก
00:10:53 → 00:10:58 แล้วก็รับประทานยากินแก้อักเสบเองเหมือนๆ
00:10:58 → 00:11:01 กับเป็นกล้ามเหมือนกับว่าไป
00:11:01 → 00:11:05 ยกของหนักเราก็เสร็จแล้วก็กินยาก็ไม่ได้
00:11:05 → 00:11:07 แนะนำแบบนั้น
00:11:07 → 00:11:11 แสดงว่าหลายๆครั้งที่เราป่วยเองจริงๆแล้ว
00:11:11 → 00:11:14 การดูแลตัวเองเบื้องต้นทำได้เพียงระยะ
00:11:15 → 00:11:18 หนึ่งถ้าเป็นเป็นระยะที่เกินกว่าที่คุณ
00:11:18 → 00:11:20 หมอแนะนำ 5 วัน 7 วันก็แล้วแต่เนี่ยอัน
00:11:20 → 00:11:23 นี้ควรจะต้องต้องเช็คความผิดปกติอื่นๆของ
00:11:23 → 00:11:26 ร่างกายเพิ่มเติมเพื่อไม่ให้เกิดปัญหา
00:11:26 → 00:11:30 คือบางทีฟังอาจจะยังสรุปเมื่อไหร่จะต้อง
00:11:30 → 00:11:35 มาเผยแพร่ใช่ไหมคะเอาเป็นว่าอย่างพูดถึง
00:11:35 → 00:11:37 เรื่องแน่นหน้าอกก่อนที่เกี่ยวกับหัวใจ
00:11:37 → 00:11:42 คือถ้าเป็นลักษณะของการเจ็บแน่นหน้าอกที่
00:11:42 → 00:11:45 เป็นเหตุกับหัวใจขอใช้คำนี้หมดแล้วนะคะคำ
00:11:45 → 00:11:47 ว่าหัวใจจะเป็นหลอดเลือดหรือกล้ามเนื้อ
00:11:47 → 00:11:52 หัวใจนะคะอาการเจ็บก็มักจะเป็นแน่นอึดอัด
00:11:52 → 00:11:57 นะคะอาจจะร้าวไปที่กรามอาจจะร้าวไปที่แขน
00:11:57 → 00:12:02 ด้านในด้านซ้ายหรือบางท่านอาจจะร้าวลงไป
00:12:02 → 00:12:06 ใต้ลิ้นปี่ซึ่งเรียนตรงๆว่ายากนะอาจจะ
00:12:06 → 00:12:09 เป็นบางท่านคิดว่าลิ้นปี่นี่อาจจะเป็นโรค
00:12:09 → 00:12:13 กระเพาะอย่างนี้ใช่ไหมคะแต่มันมักจะมา
00:12:13 → 00:12:17 ด้วยอาจจะรู้สึกเหนื่อยกว่าเดิมบางท่าน
00:12:17 → 00:12:21 บอกนอนแล้วปกติก็นอนสบายหลับได้เอ๊ะทำไม
00:12:21 → 00:12:23 นอนแล้วมันเหนื่อยนะต้องลุกมานั่งหายใจ
00:12:24 → 00:12:27 เหนื่อยหรือว่ามันคือถ้าเดินปกติเดินได้
00:12:27 → 00:12:30 เท่าเนี้ยเดี๋ยวนี้ทำไมเดินแค่นี้มัน
00:12:30 → 00:12:33 เหนื่อยกว่าเดิมนะคะหรือบางครั้งรู้สึกใจ
00:12:33 → 00:12:36 มันสั่นแน่นกว่าปกติอันเนี้ยค่ะคือสัญญาณ
00:12:36 → 00:12:38 เตือนว่าไม่ควรรอ
00:12:38 → 00:12:43 ฟังจากว่าถ้าเจ็บที่ไม่ใช่จากหัวใจที่ไม่
00:12:43 → 00:12:46 ใช่จากหัวใจเช่นแต่กล้ามเนื้ออันนี้หลาย
00:12:46 → 00:12:50 ท่านมาหาหมอหัวใจบ่อยๆก็จะเจ็บแผลถ้าบาง
00:12:50 → 00:12:53 คนกลัวแปปๆคุณหมอจะเป็นโรคหัวใจไหมมา
00:12:53 → 00:12:56 ปรึกษาได้ค่ะอยากให้ความรู้เบื้องต้นว่า
00:12:56 → 00:12:59 ส่วนใหญ่แปล๊บๆ
00:12:59 → 00:13:04 มักจะไม่ใช่จากเหตุจากหัวใจหรือถ้ากดตรง
00:13:04 → 00:13:07 หน้าอกเจ็บอย่างเช่นบางท่านบอกว่าคุณหมอ
00:13:07 → 00:13:09 หน้าอกด้านซ้ายเลยเนี่ยตรงตำแหน่งหัวใจ
00:13:09 → 00:13:13 เลยแต่พอกดหน้าอกแล้วเจ็บจี๊ดขึ้นมาเลย
00:13:13 → 00:13:16 อย่างนี้ค่ะอันนี้ถ้าจะกดเสร็จก็เป็น
00:13:16 → 00:13:19 กล้ามเนื้อเป็นข้างนอกเพราะหัวใจอยู่ข้าง
00:13:19 → 00:13:23 ในช่องอกกดยังไงก็ต้องไม่เจ็บท้องมีซี่
00:13:23 → 00:13:26 โครงอยู่ใช่ไหมคะมีกระดูก
00:13:26 → 00:13:30 เรียกว่าวิธีเจ็บของหัวใจเขาก็จะมีลักษณะ
00:13:30 → 00:13:33 ค่อนข้างจำเพาะแต่ก็ต้องเรียนว่ามันไม่มี
00:13:33 → 00:13:36 อะไรตายตัวเพราะฉะนั้นอยากให้ดูตัวเองว่า
00:13:36 → 00:13:40 ถ้าดูตัวเองแล้วอยู่ไม่สุขสบายดีกว่ารู้
00:13:40 → 00:13:44 สึกว่าชักไม่ดีไม่แน่ใจอยากให้เข้ามา
00:13:44 → 00:13:47 ปรึกษาแพทย์ค่ะเรามีวิธีตรวจวินิจฉัยให้
00:13:47 → 00:13:50 แม่นยำมากยิ่งขึ้น
00:13:50 → 00:13:53 อาจารย์พูดถึงลักษณะอาการหรือว่าความอึด
00:13:53 → 00:13:56 อัดที่อาจารย์บอกนี่นึกถึงน้องดาราช่อง
00:13:56 → 00:13:59 นั้นเลยนะคะที่ว่าเขาแบบเออมีภาวะแบบนี้
00:13:59 → 00:14:02 ทันทีก็เลยมีความรู้สึกว่าเออเราจะมาแยก
00:14:02 → 00:14:05 จากละครไม่ได้ที่แบบโอ๊ะโอ๊ยเจ็บอย่างนี้
00:14:05 → 00:14:08 ไม่ได้ทำท่าเจ็บอย่างงั้นไม่ไม่ใช่มันมัน
00:14:08 → 00:14:12 มากมายกว่านั้นอย่างที่เออพี่พี่นึกถึง
00:14:12 → 00:14:14 ละครไทยที่บางครั้งแบบว่าให้วินิจฉัยปุ๊บ
00:14:14 → 00:14:17 แล้วก็จะมีคุณหมอหรือบางคนหยิบยาและอมใต้
00:14:17 → 00:14:20 ลิ้นมันมันช่วยได้หรอคะอาจารย์หรือว่า
00:14:20 → 00:14:23 หรือว่าไม่ล่ะอย่านิ่งนอนใจพาไปหาหมอดี
00:14:23 → 00:14:27 กว่าอะไรอย่างเงี้ยค่ะคือเรื่องขอบคุณที่
00:14:27 → 00:14:30 คุณหยกพูดถึงเรื่องยาอมใต้ลิ้นนะคะคืออัน
00:14:30 → 00:14:31 นี้ก็อาจจะเหมาะกับ
00:14:32 → 00:14:35 ท่านที่มีประวัติว่าเป็นโรคหัวใจโดยเฉพาะ
00:14:35 → 00:14:38 หลอดเลือดหัวใจของเธอการใช้ยาอมใต้ลิ้น
00:14:38 → 00:14:41 เบื้องต้นเนี่ยก็เป็นวิธีที่ดีค่ะแต่ว่า
00:14:41 → 00:14:44 เอาเอ่อก็เรียนตามตรงว่าไม่ได้แนะนำให้
00:14:44 → 00:14:48 ใช้สำหรับคนทั่วไปที่ท่านอาจจะยังไม่ทราบ
00:14:48 → 00:14:50 ว่าเอ๊ะจริงๆแล้วเนี่ยท่าน
00:14:50 → 00:14:52 เขตครั้งนี้เป็นแบบหัวใจจริงๆหรือเปล่า
00:14:52 → 00:14:56 เหตุผลเพราะว่าถ้าท่านไปอมยาใต้ลิ้นเนี่ย
00:14:56 → 00:14:59 ผลข้างเคียงของเขาเนี่ยก็คือทำให้ความดัน
00:14:59 → 00:15:02 ตกเคยมีคนไข้อ่ะค่ะแม้แต่เป็นคนไข้โรคหัว
00:15:02 → 00:15:05 ใจก็ตามไปอมยาให้ลิ้นอาจจะโอมติดๆกันหลาย
00:15:05 → 00:15:09 เม็ดเกินแล้วก็ไปเดินก็ความดันตกล้มหัว
00:15:09 → 00:15:12 ฟาดพื้นแบบนี้ก็มีเช่นกันค่ะเพราะฉะนั้น
00:15:12 → 00:15:16 ก็อาจจะต้องเป็นคนไข้ที่รู้ว่าตัวเองเป็น
00:15:16 → 00:15:18 โรคหัวใจแล้วก็อาจจะได้รับคำแนะนำจากคุณ
00:15:18 → 00:15:20 หมอประจำตัวมาแล้วเบื้องต้นแล้วค่อยโอน
00:15:20 → 00:15:23 อย่างนี้อาจจะเหมาะสมกว่าหรือเมื่อเกิด
00:15:23 → 00:15:27 เหตุฉุกเฉินท่านโทรเรียก 1669 เขาจะมีทีม
00:15:27 → 00:15:31 ให้คำปรึกษาเบื้องต้นและฟังอาการถ้าท่าน
00:15:31 → 00:15:34 มียาณเวลานั้นอาจจะให้ไปเบื้องต้นได้แต่
00:15:34 → 00:15:37 ว่าไม่ได้แนะนำให้ใช้หรือตัดสินใจให้ยา
00:15:37 → 00:15:41 เองทุกรายค่ะอาจารย์ค่ะการตรวจสุขภาพ
00:15:41 → 00:15:44 ประจำปีอย่างเช่นการตรวจ ekg หรือว่าตรวจ
00:15:44 → 00:15:46 Echo อะไรอย่างนี้ค่ะหนูไม่ทราบว่าหนู
00:15:46 → 00:15:49 เรียกถูกไหมว่ามันจะสามารถทำให้เรารู้ได้
00:15:49 → 00:15:52 ไหมว่าเรามีภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ
00:15:52 → 00:15:54 หรือเปล่าอะไรเงี้ยค่ะอาจารย์ต้องเรียน
00:15:54 → 00:15:55 ตามตรงว่า
00:15:56 → 00:15:59 ไม่สามารถวินิจฉัยได้ค่ะอย่างที่เรียน
00:15:59 → 00:16:01 เบื้องต้นก็คือส่วนใหญ่มักจะเป็นเฉียบ
00:16:01 → 00:16:05 พลันนะคะอาการก็จะต้องมีอาการแล้วก็มาถึง
00:16:05 → 00:16:08 ก็ตรวจเจอแต่ถามว่าการตรวจวินิจฉัยทางหัว
00:16:08 → 00:16:12 ใจเอ่ออย่างเช่นขึ้นไฟหัวใจท่านสามารถทำ
00:16:12 → 00:16:15 ได้ไหมท่านสามารถทำได้ค่ะแต่ที่แนะนำมาก
00:16:15 → 00:16:19 กว่านั้นก็คือเช็คปัจจัยเสี่ยงของท่านเอง
00:16:19 → 00:16:21 อย่างเช่นการตรวจเลือดสุขภาพประจำปีอัน
00:16:21 → 00:16:24 นี้เป็นสิ่งที่เวลาหมอได้รับการไปเชิญ
00:16:24 → 00:16:26 บรรยายก็จะแนะนำตลอดเลยว่าอยากให้ตรวจ
00:16:27 → 00:16:30 เพื่อว่าจะได้ทราบว่าพื้นฐานตัวท่านเองมี
00:16:30 → 00:16:34 โรคอะไรเช่นโรคที่จะมากับโรคหัวใจได้บ่อย
00:16:34 → 00:16:38 ๆก็คือเบาหวานโรคไตไขมันในเลือดสูงอย่าง
00:16:38 → 00:16:41 นี้เป็นต้นใช่ไหมคะท่านจะได้ดูแลตัวเอง
00:16:41 → 00:16:44 ได้ดีมากยิ่งขึ้นส่วนการตรวจคลื่นไฟฟ้า
00:16:44 → 00:16:48 หัวใจไม่สามารถวินิจฉัยโรคหัวใจแบบ
00:16:48 → 00:16:52 เรื้อรังได้ทุกรายนะคะมันใช้ได้ชัดในกรณี
00:16:52 → 00:16:55 ที่มีอาการแบบเฉียบพลันมาอันนี้อาจจะช่วย
00:16:55 → 00:16:58 แยกโรคได้มากกว่าถามว่าเกิดได้ไหมตรวจได้
00:16:58 → 00:17:01 ส่วนในแง่ Echo เนี่ยไม่ได้แนะนำให้ทำ
00:17:01 → 00:17:03 ธุระไอ้โคตรต้องเรียนท่านผู้ฟังก่อนนะคะ
00:17:03 → 00:17:06 ก็คือการพูดให้เข้าใจง่ายๆก็คือการเอา
00:17:06 → 00:17:10 เจ้าสาวหัวใจนะคะก็เพื่อดูการบีบตัวดู
00:17:10 → 00:17:14 หน้าตาหัวใจดูลิ้นหัวใจอาจจะมองไม่เห็น
00:17:14 → 00:17:17 หลอดเลือดหัวใจอันนี้ก็สามารถใช้ได้ใน
00:17:17 → 00:17:21 กรณีที่อย่างเช่นเอกซเรย์ดูขนาดหัวใจและ
00:17:21 → 00:17:24 หัวใจโตหรือว่าคุณหมอตรวจฟังเสียงหัวใจ
00:17:24 → 00:17:28 แล้วมีความผิดปกตินะคะหรือว่าคลื่นหัวใจ
00:17:28 → 00:17:31 มีอะไรผิดปกติแล้วไปตรวจต่ออาจจะได้
00:17:31 → 00:17:35 ประโยชน์ในการวินิจฉัยเพิ่มเติมมากขึ้น
00:17:35 → 00:17:36 ค่ะ
00:17:36 → 00:17:41 อาจารย์คะเราก็สมมุติเรื่องของการรักษา
00:17:41 → 00:17:43 หรือว่าอะไรอย่างนี้ค่ะถ้าท้ายที่สุดแล้ว
00:17:43 → 00:17:45 สมมุติอ่านเราไปพบคุณหมอแล้วคุณหมออาจจะ
00:17:45 → 00:17:49 จ่ายยามันการรักษามันสามารถดำเนินไปถึง
00:17:49 → 00:17:51 ขั้นแบบต้องมีผ่าตัดหรืออะไรไหมคะเรื่อง
00:17:51 → 00:17:52 กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบหนูเลยอยากทานเป็น
00:17:52 → 00:17:55 ความรู้อ่ะค่ะหรือว่าการรับประทานยาการ
00:17:55 → 00:17:58 ปรับพฤติกรรมมันสามารถจะทำให้เราหายขาด
00:17:58 → 00:18:00 ได้
00:18:00 → 00:18:04 ในแง่ของโรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบที่เรา
00:18:04 → 00:18:07 พูดถึงกันในวันนี้นะคะต้องเรียนว่าส่วน
00:18:07 → 00:18:11 ใหญ่ในแง่ของการรักษาจะเป็นการรักษาผู้
00:18:11 → 00:18:14 ใช้คำว่าประคับประคองตามอาการที่คนไข้
00:18:15 → 00:18:15 เข้ามา
00:18:15 → 00:18:19 อย่างเช่นถ้าอาการมาด้วยเจ็บหน้าอกเราอาจ
00:18:19 → 00:18:21 จะให้ยากลุ่มต้านการอักเสบเพื่อลดการเจ็บ
00:18:21 → 00:18:25 แน่นหน้าอกหรือบางท่านมาด้วยหัวใจเต้นผิด
00:18:25 → 00:18:29 จังหวะเราก็จะมียาควบคุมการเต้นหัวใจท่าน
00:18:29 → 00:18:33 มาด้วยอาการหัวใจล้มเหลวสั่งง่ายๆก็เช่น
00:18:33 → 00:18:35 น้ำท่วมปอดยกตัวอย่างก็จะมียารักษาน้ำ
00:18:36 → 00:18:36 ท่วมปอด
00:18:36 → 00:18:41 หรือถ้าบางท่านเป็นเทวาหนักมากๆคือช็อคมา
00:18:41 → 00:18:44 ใช้ทำอย่างนี้เข้าใจง่ายขึ้นช็อกมาหัวใจ
00:18:44 → 00:18:47 หยุดเต้นนะคะได้รับการฟื้นคืนชีพและฟื้น
00:18:47 → 00:18:51 ขึ้นมามีช็อคอย่างนี้ค่ะก็อาจจะต้องใช้ยา
00:18:51 → 00:18:55 เพื่อพยุงการเต้นนะคะความดันหัวใจรวมถึง
00:18:55 → 00:19:00 บางท่านจะมีการผ่าตัดในแง่ของช่วยเขา
00:19:00 → 00:19:02 เรียกว่าใช้คำว่าเครื่อง
00:19:02 → 00:19:06 พยุงหัวใจนะคะใช้ปอดหัวใจเทียมอันนี้ก็
00:19:06 → 00:19:10 คือเรียกว่าหนักจริงๆต้องใช้ผ่าตัดเพื่อ
00:19:10 → 00:19:14 ใช้อุปกรณ์นี้มาประคับประคองให้ผ่านช่วง
00:19:14 → 00:19:17 วิกฤตไปได้ให้ทานให้หัวใจมันค่อยๆฟื้น
00:19:17 → 00:19:27 ขึ้นมาและอาจจะกลับเข้ามาได้ขึ้นมาได้
00:19:27 → 00:19:30 สมมุติว่าคนเราเนี่ยค่ะเขาบอกว่าการออก
00:19:30 → 00:19:33 กำลังกายเนี่ยเป็นสิ่งที่ดีสำหรับหัวใจ
00:19:33 → 00:19:37 แต่อันนี้แต่ถ้าเรามีภาวะหรือว่าคุณเคย
00:19:37 → 00:19:39 เป็นมาสักครั้งหนึ่งที่อาจารย์บอกว่าถ้า
00:19:39 → 00:19:41 คุณเคยเป็นมาแล้วคุณผ่านพ้นวิกฤตไปแล้วก็
00:19:41 → 00:19:43 ไม่แน่ว่าอาจจะมันอาจจะเป็นได้อีกไหมคะ
00:19:43 → 00:19:45 แล้วเราต้องดำเนินชีวิตยังไงดีคะอาจารย์
00:19:45 → 00:19:48 ขอบคุณที่คุณหยกถามนะคะประเด็นนี้สำคัญ
00:19:48 → 00:19:52 มากเลยค่ะคือในแง่ของการออกกำลังกายเนี่ย
00:19:52 → 00:19:55 ต้องเรียนว่าหมายความว่าท่านทำเพื่อป้อง
00:19:55 → 00:19:57 กันให้ท่านแข็งแรงดีไม่เป็นโรคหัวใจ
00:19:57 → 00:20:00 สุขภาพแข็งแรงใช่ไหมคะแต่ถ้าเมื่อไหร่
00:20:00 → 00:20:04 ท่านได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคกล้าม
00:20:04 → 00:20:07 เนื้อหัวใจอักเสบข้อแนะนำของแพทย์โรคหัว
00:20:07 → 00:20:10 ใจคือท่านต้องหลีกเลี่ยงการออกกำลังกาย
00:20:10 → 00:20:14 แบบหนักอย่างท่านเป็นนักกีฬาท่านต้องไป
00:20:14 → 00:20:17 แข่งขันคำว่าออกกำลังกายหนักอย่างเช่นไป
00:20:17 → 00:20:20 วิ่งเยอะๆนะคะเป็นหลายๆกิโลหรือว่าไปเล่น
00:20:20 → 00:20:24 บาสเกตบอลที่ต้องแข่งขันหรือเตะฟุตบอลเขา
00:20:24 → 00:20:28 แนะนำให้หลีกเลี่ยง 3-6 เดือนค่ะอืมอย่าง
00:20:28 → 00:20:30 น้อยนะคะแต่ก็อย่างไรก็ตามก็ต้องให้แพทย์
00:20:30 → 00:20:35 ที่ทำการรักษาประเมินอีกครั้งนึงว่านะตอน
00:20:35 → 00:20:38 นั้นเนี่ยท่านปลอดภัยดีหรือยังที่จะกลับ
00:20:38 → 00:20:41 ไปออกกำลังกายค่ะ
00:20:41 → 00:20:44 ออกไม่ได้เลยหรือว่าออกได้แบบเอ่อเล็กๆ
00:20:44 → 00:20:47 น้อยๆพอเหมาะพอสมเดินอะไรอย่างนี้
00:20:47 → 00:20:50 ต้องเรียนว่าขึ้นอยู่กับว่าเป็นมากน้อย
00:20:50 → 00:20:53 แค่ไหนดีกว่าค่ะอาจจะพูดกว้างๆว่าเรียก
00:20:54 → 00:20:58 ว่าเอ่อถ้าท่านเดินแบบทั่วไปก็อาจจะได้
00:20:58 → 00:21:00 แต่ว่าถ้าเป็นหนักเนี่ย
00:21:00 → 00:21:05 ไม่ได้แนะนำมากแต่ว่าคำที่เขาแนะนำก็คือ
00:21:05 → 00:21:08 ไม่ให้ออกกำลังกายแบบหนักเช่นที่ที่กล่าว
00:21:08 → 00:21:11 ไปข้างต้นนะคะเช่นแบบแข่งขันเด็กฟุตบอล
00:21:11 → 00:21:18 เล่นบาสเกตบอล
00:21:18 → 00:21:22 ติดตามข่าวกีฬาวงการกีฬาที่มีเหมือนกัน
00:21:22 → 00:21:26 ที่ที่นักกีฬาแบบเราเห็นแข็งแรงแข็งแรง
00:21:26 → 00:21:27 ร่างกาย
00:21:27 → 00:21:31 แข็งแกร่งนะฮะก็มีเสียชีวิตระหว่างแข่ง
00:21:31 → 00:21:34 ขันจากอาการของเนี่ยแหละกล้ามเนื้อหัวใจ
00:21:34 → 00:21:41 นี่แหละอักเสบเฉียบพลันเหมือนกัน
00:21:41 → 00:21:44 ทางต่างประเทศเขาพูดถึงเรื่องของ
00:21:44 → 00:21:47 พันธุกรรมอย่างพวกเอ่อ
00:21:47 → 00:21:50 แอฟริกาเชื้อชาติแอฟริกาอะไรเงี้ยเกี่ยว
00:21:50 → 00:21:54 ข้องมั้ยฮะ
00:21:54 → 00:21:58 ที่เป็นโรคของกล้ามเนื้อหัวใจที่มี
00:21:58 → 00:22:01 พันธุกรรมบางอย่างที่ทำให้มีความผิดปกติ
00:22:01 → 00:22:06 ในภายหลังแล้วก็จะตามมาด้วยการ
00:22:06 → 00:22:11 อักเสบหรือหัวใจทำงานอ่อนแรงลงทุนให้เกิด
00:22:11 → 00:22:14 หัวใจเต้นผิดจังหวะอันนี้อันนี้ก็มีราย
00:22:15 → 00:22:16 งานค่ะ
00:22:16 → 00:22:19 แต่ว่าในแง่ของบ้านบ้านคนไทยเราอย่างนี้
00:22:19 → 00:22:22 แล้วกันนะคะก็จะเป็นกลุ่มอย่างที่เราคุย
00:22:22 → 00:22:36 กันในวันนี้ล่ะค่ะ
00:22:36 → 00:22:39 อยากจะถามรบกวนถามนิดนึงค่ะเป็นความรู้
00:22:39 → 00:22:42 ว่าสำหรับเนี่ยค่ะสำหรับคนที่ชั่วโมงทอง
00:22:42 → 00:22:44 สมมุติเราเจอคนที่เขามีแบบนี้ค่ะเวลา
00:22:44 → 00:22:46 สมมุติเราต้องช่วยเขากู้ชีพใช่ไหมคะอย่าง
00:22:46 → 00:22:49 ที่อาจารย์บอกบางคนเป็นถึงขั้นแบบอ่ะสรุป
00:22:49 → 00:22:52 ไปแล้วไม่รู้สึกตัวไปแล้วชั่วโมงทองของ
00:22:52 → 00:22:55 การกู้ฟื้นคืนชีพนะคะเราต้องเร่งทำในช่วง
00:22:55 → 00:22:57 เวลาเท่าไหร่คะเพื่อให้เขากลับมาสมบูรณ์
00:22:57 → 00:23:01 100% แล้วก็ให้เขาแบบอะไรยังพอที่แข็ง
00:23:01 → 00:23:03 แรงหรือว่าจะดำเนินไปต่อช่วยเหลืออย่าง
00:23:03 → 00:23:06 อื่นได้อีกเนี่ยค่ะอันนี้ก็เป็นปู่ที่
00:23:06 → 00:23:10 อยากเน้นย้ำกับเอ่อทุกท่านนะคะว่า
00:23:10 → 00:23:13 เรื่องแบบเนี้ยเราก็ไม่รู้หรอกค่ะว่าจะ
00:23:13 → 00:23:15 เกิดกับใครใช่ไหมคะอาจจะไม่ได้พูดถึงโรค
00:23:15 → 00:23:19 ของกำเนิดนะคะเป็นโรคอื่นๆที่เกิดทำให้
00:23:19 → 00:23:22 อารมณ์หมดสติหรือว่าถึงขั้นหัวใจหยุดเต้น
00:23:22 → 00:23:23 ไป
00:23:23 → 00:23:28 นาทีทองนะคะหน้าที่ทองอวัยวะที่วัยต่อการ
00:23:28 → 00:23:31 ขาดออกซิเจนมากที่สุดก็คือสมอง
00:23:31 → 00:23:37 นาทีทองของสมอง 4 นาทีทีนี้สิ่งที่อยาก
00:23:37 → 00:23:39 ให้ทุกท่านทำอันดับแรกเลยเวลาเกิดเหตุ
00:23:39 → 00:23:44 ฉุกเฉินเนี่ยคือสติไม่มีสติก่อนว่าโอเค
00:23:44 → 00:23:48 นะคะมีมีคนที่หมดสติหรือว่าต้องการการ
00:23:48 → 00:23:52 ช่วยเหลือถ้าท่านมีความรู้ทางการแพทย์
00:23:52 → 00:23:55 สิ่งแรกประเมินเขาก่อนว่าเขาหมดสติจริง
00:23:55 → 00:23:59 หรือเปล่านะคะอาจจะเรียกก่อนว่าคุณๆอะไร
00:23:59 → 00:24:02 อย่างนี้ค่ะรู้ตัวไหมถ้าดูมีการตอบสนอง
00:24:02 → 00:24:05 ไม่ปกติอาจจะไม่ต้องถึงขั้นนิ่งแน่นิ่ง
00:24:05 → 00:24:07 อาจจะแค่
00:24:07 → 00:24:11 นั้นก็เรียกว่าเข้าเกณฑ์ที่ต้องได้รับการ
00:24:11 → 00:24:15 ช่วยเหลือเสียงตอบไม่เป็นคำละเริ่มแบบ
00:24:15 → 00:24:18 เล็กน้อย
00:24:18 → 00:24:22 อยากให้ท่านขอความช่วยเหลือก่อนค่ะคน
00:24:22 → 00:24:25 เพียงคนเดียวไม่สามารถทำให้การช่วยฟื้น
00:24:25 → 00:24:28 คืนชีพเบื้องต้นผ่านไปได้ค่ะเพราะว่าขอ
00:24:28 → 00:24:31 ความช่วยเหลืออาจจะมองไปรอบๆว่าแถวนั้นมี
00:24:31 → 00:24:34 ใครที่ช่วยกันได้นะคะแล้วก็อาจจะมีคนที่
00:24:34 → 00:24:37 เขาสามารถเก่งกว่าท่านนะคะมาช่วยกันแล้ว
00:24:37 → 00:24:42 ก็ให้โทรนะคะทันทีให้บุคลากรทางการแพทย์
00:24:42 → 00:24:46 มาถึงได้ไวที่สุดนะคะเบอร์ที่อยากให้ทุก
00:24:46 → 00:24:52 ท่านจำได้ขึ้นใจเลยก็คือ 1669
00:24:52 → 00:24:56 เขาจะมีทีมที่ว่าเข้ามาช่วยเหลือในทันที
00:24:56 → 00:24:59 ให้คำปรึกษาท่านปลดโทรศัพท์เปิด speaker
00:24:59 → 00:25:02 Phone ไปด้วยนะคะเราเปิดลำโพงไปด้วยแล้ว
00:25:02 → 00:25:07 ก็ทำการช่วยฟื้นคืนชีพได้เลยค่ะ
00:25:07 → 00:25:12 มีครูมีโค้ชที่บอกให้เราทำตามขั้นตอนเรา
00:25:12 → 00:25:14 จะได้แบบไม่ได้มีความรู้สึกว่าเหมือนเรา
00:25:14 → 00:25:17 ต้องตั้งสติหรืออยู่คนเดียวใช่ไหมคะเพราะ
00:25:17 → 00:25:19 ว่าไม่งั้นเนี่ยบางครั้งสติมันหลุดแต่ว่า
00:25:19 → 00:25:21 มันจะได้ดำเนินการควบคู่ช่วยเหลือกันไป
00:25:21 → 00:25:24 เราอาจจะช่วยหน้างานหาคนอื่นมาช่วยแล้วก็
00:25:24 → 00:25:27 เจ้าหน้าที่เขาก็จะรีบส่งคนมาช่วยมันก็จะ
00:25:27 → 00:25:31 ได้สอบประสานกันทันใช่ไหมคะอาจารย์
00:25:31 → 00:25:35 ช่วยฟื้นคืนชีพก็ต้องเรียนว่าโดยเฉพาะจะ
00:25:35 → 00:25:37 กลัวเรื่องการ
00:25:37 → 00:25:40 ยิ่งยุคโควิดอะไรอย่างนี้ใช่ไหมคะแต่
00:25:40 → 00:25:42 ปัจจุบันเนี่ยท่านไม่จำเป็นต้องช่วยในการ
00:25:42 → 00:25:47 ต่อปากก็ได้สำหรับบุคคลทั่วไปประชาชนทั่ว
00:25:47 → 00:25:50 ไปเนี่ยเราแนะนำการช่วยที่อันดับแรกที่
00:25:50 → 00:25:53 อยากให้ทำเลยก็คือหาเครื่องกระตุกหัวใจ
00:25:53 → 00:25:55 ค่ะที่เรียกว่า aed
00:25:55 → 00:25:58 เพื่อช่วยกระตุกกระจายอันนี้อยากให้เรียก
00:25:58 → 00:26:00 ค่ะก่อนเพราะว่าเครื่องนี้สามารถช่วย
00:26:00 → 00:26:02 ประเมินได้ว่า
00:26:02 → 00:26:05 สิ่งนั้นเนี่ยต้องการการกระตุกหรือช็อก
00:26:05 → 00:26:09 หัวใจไหมถ้าได้รับการโรคหัวใจได้เร็วก็จะ
00:26:09 → 00:26:12 ยิ่งมีโอกาสรอดชีวิตหรือว่าฟื้นคืนชีพแบบ
00:26:12 → 00:26:16 ดีๆได้เร็วนะคะรวมถึงเครื่อง
00:26:16 → 00:26:19 ไกด์ไกด์หรือว่าแนะนำได้บ้างว่าหรือต้อง
00:26:19 → 00:26:45 ปั๊มจังหวะเท่าไหร่ยังไง
00:26:45 → 00:26:48 ขึ้นมาแบ่งครึ่งอย่างนี้ก็ได้ค่ะแล้วก็
00:26:48 → 00:26:53 ประสานมือกันนะคะแขนตั้งตรงแล้วก็กดจริงๆ
00:26:53 → 00:26:57 อยากให้จริงๆถ้าทุกท่านมีเวลาสามารถหาข้อ
00:26:57 → 00:27:01 มูลได้เลยนะคะคือจริงๆอยากให้ทำรู้ไว้
00:27:01 → 00:27:04 บ้างเพราะเวลาฉุกเฉินของเหล่านี้อาจจะมี
00:27:04 → 00:27:07 ประโยชน์แล้วท่านใช้ได้เบื้องต้นกดลึก
00:27:07 → 00:27:10 ประมาณ 2 นิ้วถ้าต้องถูกด้วยนะคะคือกดผิด
00:27:10 → 00:27:15 ก็กระดูกซี่โครงหัก
00:27:15 → 00:27:19 เบื้องต้นอย่างนี้แต่ว่าถ้าท่านใดสนใจ
00:27:19 → 00:27:22 สาขาข้อมูลเพิ่มเติมค่ะใน
00:27:22 → 00:27:26 ทางเว็บไซต์หรือว่าทาง YouTube มีสอน
00:27:26 → 00:27:28 เรื่องพวกนี้เยอะ
00:27:28 → 00:27:34 ไปขออบรมกับสมาคมหรือว่า
00:27:35 → 00:27:46 เคยลองค่ะ
00:27:46 → 00:27:50 ถึงว่าบุคคลเพียงคนเดียวไม่สามารถช่วย
00:27:50 → 00:27:54 ชีวิตคนได้ง่ายๆต้องตามขอความช่วยเหลือ
00:27:54 → 00:28:00 ค่ะ
00:28:00 → 00:28:06 เพราะว่าเราจะหมดแรงก่อน
00:28:06 → 00:28:08 ไม่มีประสิทธิภาพ
00:28:08 → 00:28:10 มันจะไม่เหมือนซีรีส์เกาหลีใช่ไหมคะที่
00:28:10 → 00:28:13 นางเอกเป็นคุณหมอเลือกตั้งข้อมูลใครแล้ว
00:28:13 → 00:28:15 ก็ปั๊มๆไปจนถึงอย่างนั้นใช่ไหมคะ
00:28:15 → 00:28:18 แรงหมดก่อนนะคะ
00:28:18 → 00:28:22 ฉะนั้นเรื่องนี้เราสอนให้รู้ว่าในละครกับ
00:28:22 → 00:28:23 ชีวิตจริงหรือซีรีย์มันไม่เหมือนกัน
00:28:23 → 00:28:25 ฉะนั้นให้เรียกคนอื่นช่วยนะคะอย่างที่
00:28:25 → 00:28:27 อาจารย์บอกว่าให้เริ่มตั้งสตินี่คุณผู้
00:28:27 → 00:28:30 ฟังทางบ้านบอกว่าชอบใจมากเลยค่ะที่คุณหมอ
00:28:30 → 00:28:32 บอกให้ตั้งสติบอกว่าเป็นเรื่องที่สนใจพอ
00:28:32 → 00:28:37 ดีนะคะเพราะว่าวันนี้ในแบบว่าต้องขอบพระ
00:28:37 → 00:28:39 คุณคุณหมอมากเลยนะคะที่แบบมาให้ความรู้
00:28:39 → 00:28:41 กับเรานะคะในเรื่องของกล้ามเนื้อหัวใจ
00:28:41 → 00:28:44 อักเสบนะว่าควรจะสนใจว่าเอ๊ะทำไมเขาพูด
00:28:44 → 00:28:46 กันว่าหัวใจอักเสบหัวใจอักเสบอ้อก็คือ
00:28:46 → 00:28:49 ชื่อคำเต็มๆก็คือกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ
00:28:49 → 00:28:52 นั่นแหละแต่ว่าทีนี้ว่าโอกาสจะเป็นมาก
00:28:52 → 00:28:55 น้อยแค่ไหนนี่ก็ขึ้นอยู่กับว่าจังหวะของ
00:28:55 → 00:28:57 คนเราด้วยไม่ใช่ว่าทุกคนจะเป็นใช่ไหมคะ
00:28:57 → 00:29:01 อาจารย์ที่อาจารย์นะคะวันนี้ต้องแบบ
00:29:01 → 00:29:03 ขอบพระคุณอาจารย์มากเลยนะคะที่ให้เกียรติ
00:29:03 → 00:29:06 รายการของเราแล้วก็มาให้ความรู้กับเราใน
00:29:06 → 00:29:08 ค่ำคืนนี้นะคะอาจารย์ขอบพระคุณมากเลยนะคะ
00:29:08 → 00:29:12 ขอบพระคุณค่ะคุณโอ๊คค่ะแล้วคุณผู้ฟังค่ะ
00:29:12 → 00:29:16 ยินดีค่ะขอบพระคุณนะคะสาธุสวัสดีค่ะ
00:29:16 → 00:29:19 สวัสดีค่ะ