00:00:00 → 00:00:03 Single Being podcast about Living
00:00:03 → 00:00:07 your Best Single Life โดยหมอผิง
00:00:07 → 00:00:12 แพทย์หญิงธิดารุจิพัฒนกุล
00:00:12 → 00:00:15 เราจะมาพูดถึงในเรื่องของเทรน skin care
00:00:15 → 00:00:18 ในปีหน้าค่ะมันมีเทรนด์อะไรบ้างที่น่าสน
00:00:18 → 00:00:21 ใจและสารตัวไหนที่กำลังจะมานะคะโดยคอนเซป
00:00:21 → 00:00:24 ของนโรคอสเมติเนี่ยเขาพูดถึงว่าจริงๆแล้ว
00:00:24 → 00:00:26 เนี่ยผิวกับสมองของเราเนี่ยมันเชื่อมกัน
00:00:26 → 00:00:30 อยู่นะเวลาที่สมองเรามีความสุขแบบเยครับอ
00:00:30 → 00:00:33 ก็จะดีสิแี้ครับอาจารย์หนูทาแล้วแบบผิวมี
00:00:33 → 00:00:36 ความสุขเอิการอะไรอย่างงนี้ครับอาจารย์ผม
00:00:36 → 00:00:39 ไปเจออันนึงมาน่าสนใจมากเลยอาจารย์เขาบอก
00:00:39 → 00:00:41 ว่ามันเป็นพรีไบโอติกนะครับเป็นอาหาร
00:00:41 → 00:00:45 สำหรับแบบเชื้อไมโครบผิวแต่ว่านอกเหนือ
00:00:45 → 00:00:47 จากการเป็นพรีไบโอติกเนี่ยเขามีผลใน
00:00:47 → 00:00:49 เรื่องของการเป็น brightening ด้วยผมว่า
00:00:49 → 00:00:55 เี่น่าสนใจดีที่อยู่เดียว Presented by
00:00:55 → 00:01:00 ไทยประกันชีวิต
00:01:00 → 00:01:02 สวัสดีค่ะทุกคนยินดีต้อนรับเข้าสู่ Single
00:01:02 → 00:01:04 beeing podcast ที่อยากให้คุณฟังตอนไหน
00:01:05 → 00:01:08 ก็ตามนะคะก็จะรู้สึกสนุกมีความสุขและสวย
00:01:08 → 00:01:11 นะคะได้สาระความรู้ไปด้วยกันค่ะแน่นอนค่ะ
00:01:11 → 00:01:14 ที่บอกว่าสวยนะคะเพราะว่าตอนเนี้ยเราจะมา
00:01:14 → 00:01:17 พูดถึงในเรื่องของเทรนด์ skin care ในปี
00:01:17 → 00:01:20 หน้าค่ะซึ่งไม่ใช่แค่แบบว่าเทรนด์ผิวเผล
00:01:20 → 00:01:23 นะแต่ว่าเราจะเจาะลึกไปเลยว่ามันมีเทรนด์
00:01:23 → 00:01:25 อะไรบ้างที่น่าสนใจและสารตัวไหนที่กำลัง
00:01:25 → 00:01:28 จะมานะคะฟังแล้วได้ความรู้ได้สาระแน่นๆ
00:01:28 → 00:01:31 เต็มๆอย่างแน่นอนค่ะ Single be นะคะขอ
00:01:31 → 00:01:35 ยินดีต้อนรับผู้ช่วยศาสตราจารย์ดรเภสัชกร
00:01:35 → 00:01:38 กวินด้วงมีอาจารย์สาขาบริบาลทางเภสัชกรรม
00:01:38 → 00:01:41 คณะเภสัชศาสตร์มหาวิทยาลัยศิลปากรค่ะ
00:01:41 → 00:01:44 สวัสดีค่ะอาจารย์ครับสวัสดีครับอาจารย์
00:01:44 → 00:01:47 ผิงเจอกันอีกแล้วครับเจอกันอีกแล้วนะคะก็
00:01:47 → 00:01:49 ถ้าเกิดใครฟังนะคะพแสตอนที่แล้วที่
00:01:49 → 00:01:51 อาจารย์มาเล่าให้ฟังถึงเรื่องของเรตินอล
00:01:51 → 00:01:54 นะคะก็จะต้องมาฟังต่อกันเลยห้ามพลาดกัน
00:01:54 → 00:01:56 เลยกับตอนนี้นะคะถึงเรื่องของเทรน skin
00:01:56 → 00:01:59 care นะคะขออนุญาตต่อยอดจากเริอตอนที่
00:01:59 → 00:02:03 แล้วนะคะอาจารย์ปีเนี้ยมันจะมีอะไรที่แบบ
00:02:03 → 00:02:06 น่าสนใจเกี่ยวกับ retinoid Alternative
00:02:06 → 00:02:08 อะไรต่างๆเนี่ยออกมาให้เราได้ลองใช้กันใน
00:02:08 → 00:02:11 ปี 2025 มั้ยคะอาจารย์ต้องบอกว่ามันเริ่ม
00:02:11 → 00:02:14 เป็นเทรนด์มาเรื่อยๆเลยครับอาจารย์จึงมา
00:02:14 → 00:02:16 ตั้งแต่ปีที่แล้วแล้วครับเพราะว่าอย่าง
00:02:16 → 00:02:17 ที่เราบอกครับพแสที่แล้วเนี่ยเราพูดถึง
00:02:17 → 00:02:20 reginal เยอะแยะเลยแน่นอนครับว่ามีคนใช้
00:02:20 → 00:02:23 ได้ก็ต้องมีคนใช้ไม่ได้ถึงแม้จะทำตามทริป
00:02:23 → 00:02:25 ที่ผมแนะนำไปแล้วนะครับแบบพาวันเว้นวัน
00:02:25 → 00:02:27 แล้วอะไรแล้วเนี่ยก็ยังใช้ไม่ได้อยู่นะ
00:02:27 → 00:02:30 ครับเพราะฉะนั้นเนี่ยก็ยังแห้งอยู่ดีใช่
00:02:30 → 00:02:32 ฮะดังนั้นเนี่ยในส่วนของคนที่เขาผลิตสารเ
00:02:32 → 00:02:35 ก็ต้องพยายามหาอะไรที่มันเป็นทางเลือกให้
00:02:35 → 00:02:38 กับคนที่ไม่สามารถใช้ได้ครับมันก็เลยจะ
00:02:38 → 00:02:40 กลายมาเป็นสารที่เขาจะพยายามเรียกว่าเป็น
00:02:40 → 00:02:42 retinoid Alternative หรือว่าเป็นทาง
00:02:42 → 00:02:44 เลือกให้กับคนที่ใช้กลุ่มของเรีอยไม่ได้
00:02:44 → 00:02:47 อ่ายกตัวอย่างเช่นสารที่จะเป็นกลุ่มนะ
00:02:47 → 00:02:49 ครับที่เราจะเรียกว่าเป็นเหมือน retinoic
00:02:49 → 00:02:52 Acid Boost คือต้องบอกอีครับว่าในผิว
00:02:52 → 00:02:54 ของเราอ่ะจริงๆมันมีสารเหล่านี้อยู่แล้ว
00:02:54 → 00:02:57 แหละเพียงแต่ว่ามันมีการสร้างสารมันก็
00:02:57 → 00:03:00 ต้องมีการทำลายสารไปใช่มยครับอการที่เรา
00:03:00 → 00:03:03 ทาพวกเริอลงไปมันเหมือนเป็นการเพิ่ม
00:03:03 → 00:03:06 ปริมาณของสารเหล่านี้ที่ผิวทีนี้ถ้าคนที่
00:03:06 → 00:03:09 ไม่สามารถทาลงไปได้เนี่ยแล้วจะทำยังไงเขา
00:03:09 → 00:03:13 ก็บอกว่างั้นก็ทาสารที่มันจะไป OST ไอ้
00:03:13 → 00:03:15 สิ่งที่มันมีอยู่แล้วน่ะให้มันทำงานได้
00:03:15 → 00:03:18 มากขึ้นไปสิอ่ามันก็เลยเกิดเป็นคอนเซปอัน
00:03:18 → 00:03:20 นี้มาครับอาจารย์ซึ่งกลไกหลักๆเนี่ยจะ
00:03:20 → 00:03:23 แบ่งได้ 2 อย่างครับอันที่ 1 ก็คือลดการ
00:03:23 → 00:03:27 ทำลายของตัว retinoic Acid ที่อยู่ในผิว
00:03:27 → 00:03:30 ของเรากับอีกอันนึงคือทำให้เขาขยันทำงาน
00:03:30 → 00:03:33 มากขึ้นครับอาจารย์อือ่าพวกนี้เนี่ยมันจะ
00:03:33 → 00:03:35 ไปออกฤทธิ์ที่ตัวของเอนไซมอย่างเช่นศาร
00:03:35 → 00:03:37 ตัวแรกนะครับเขาก็จะมีสตอรี่นะครับว่า
00:03:37 → 00:03:40 อุ๊ยเป็นสารสกัดจากเหมือนเป็นยางเป็น
00:03:40 → 00:03:43 เรซินของต้นไม้ที่อยู่ในประเทศนั้นประเทศ
00:03:43 → 00:03:45 นี้พวกนี้เขาจะสตอรี่อยู่ครับแต่ว่าสุด
00:03:45 → 00:03:48 ท้ายเนี่ยสารที่เขาสกัดมาได้ครับอาจารย์
00:03:48 → 00:03:50 เขาบอกว่ามันสามารถไปยับยั้งเอนไซม์ที่
00:03:51 → 00:03:56 ชื่อว่า cyp 26 A1 ครับก็คือออ่า
00:03:56 → 00:03:58 เอนไซม์ตัวนี้จะเป็นเอนไซม์ที่เหมือนเป็น
00:03:58 → 00:04:00 ตัวย่อยสลายตัว retinoic Acid ตาม
00:04:00 → 00:04:03 ธรรมชาติของเราเพราะฉะนั้นข่าสารตัวเนี้ย
00:04:03 → 00:04:06 มันไปยับยั้งตัวทำลายได้ก็หมายถึงว่ามัน
00:04:06 → 00:04:09 ก็เลยทำให้เพิ่ม rin ได้อ่าให้อยู่ในแส่
00:04:09 → 00:04:11 เลือดของเราอยู่ในผิวของเราได้นานขึ้น
00:04:11 → 00:04:14 ครับอาจารย์อ่าค่ะกับอีกอันนึงจะเป็น
00:04:14 → 00:04:16 กลุ่มที่ได้มาจากพืชเหมือนกันฮะอันนี้ก็
00:04:16 → 00:04:19 เป็นอีกสอรี่นึงฮะอันนี้จะเป็นตัวของ
00:04:19 → 00:04:21 ปริ้นจินเส็งครับจากของทางฝั่งประเทศจีน
00:04:21 → 00:04:24 คือพวกเยครับอาจารย์เขามักจะอ้างอิงมาจาก
00:04:24 → 00:04:27 ตำราพวก ur vedic Medicine ครับเป็นแบบ
00:04:27 → 00:04:30 อ่าแบบพืชที่มีการใช้มาลายพันปีอะไร
00:04:30 → 00:04:32 ประมาณนั้นครับแล้วก็มาศึกษาเพิ่มเติม
00:04:32 → 00:04:35 ซึ่งในนั้นนะครับอย่างตัวเนี้ยมันจะมีสาร
00:04:35 → 00:04:39 ที่ชื่อว่าเิิ B ครับไอ้สารตัวเนี้ยมันจะ
00:04:39 → 00:04:41 มีโครงสร้างเป็นเหมือนเป็นไซโคลครับเป็น
00:04:41 → 00:04:45 วงอ่าแล้วก็เขาบอกว่าตัวเนี้ยแทนที่มันจะ
00:04:45 → 00:04:47 ไปทำเป็นเหมือนเรตินอลเนาะเขาสามารถ
00:04:47 → 00:04:50 กระตุ้นให้เรตินอลเนี่ยมันขยันขึ้นก็คือ
00:04:50 → 00:04:53 ปกติอย่างที่ผมบอกใน podcast ก่อนนะครับ
00:04:53 → 00:04:55 ว่าตัวเรนเนี่ยมันจะต้องมีการแปลงร่างใช่
00:04:55 → 00:04:57 มั้ยครับอาจารย์ก็คือก่อนที่เขาจะออกฤทธิ
00:04:57 → 00:05:00 เขาจะต้องแปลงเป็น retinoic aid ทีนี้
00:05:00 → 00:05:02 เนี่ยไอ้ขั้นตอนการแปลงร่างของเขาเนี่ย
00:05:02 → 00:05:04 มันก็ต้องใช้เอนไซม์ในการเปลี่ยนแปลงใช่
00:05:04 → 00:05:07 มั้ยครับเพราะฉะนั้นเนี่ยไอ้ตัวสารไอ้
00:05:07 → 00:05:10 เจ้าเิิ B เนี่ยมันสามารถไปกระตุ้นให้
00:05:10 → 00:05:13 เอนไซม์ตรงเนี้ยมันขยันมากขึ้นก็เหมือน
00:05:13 → 00:05:16 เป็นการทำให้ ral เนี่ยมันมีการเปลี่ยนไป
00:05:16 → 00:05:18 เป็น retinoic Acid มากขึ้นนั่นเองครับ
00:05:18 → 00:05:23 อืน่าสนใจมากๆเลยนะคะซึ่งคนที่ใช้เริอไม่
00:05:23 → 00:05:26 ได้นะก็มีความหวังนะคะว่าในปีหน้าก็รอที่
00:05:26 → 00:05:29 จะใช้พวกกลุ่มเหล่านี้นะคะใช่ครับรวมถึง
00:05:29 → 00:05:32 พวกแบบเปบทายก็มาแรงนะครับอาจารย์พเปบทาย
00:05:32 → 00:05:34 เนี่ยมาแรงเรื่อยๆเลยครับเพราะว่ามาแรง
00:05:34 → 00:05:37 เรื่อยๆเนาะอือใช่ครับเริ่มมีการผลิตมาก
00:05:37 → 00:05:39 ขึ้นครับเป็นแบบหลายโมเลกุลเลยครับแล้วก็
00:05:39 → 00:05:42 พวกเนี้ยเขามักจะใส่ร่วมกับตำรับที่มัน
00:05:42 → 00:05:44 เป็นพวกเรตินอยด์คือเหมือนประมาณว่านอก
00:05:44 → 00:05:47 เหนือจากเราใช้ตัวของเรอยแล้วเนี่ยเราก็
00:05:47 → 00:05:50 เสริมตัวเบทไปด้วยบวกเปทเข้าไปด้วยอ่ามัน
00:05:50 → 00:05:52 ก็จะเสริมพลังความเป็นแบบ Anti aging
00:05:52 → 00:05:54 มากขึ้นครับอาจารย์ก็แบบเราทาทีเดียวเรา
00:05:54 → 00:05:57 ก็จะแบบว่าได้ทั้งคู่เลยแต่ว่าแน่นอนครับ
00:05:57 → 00:06:01 สำหรับคนที่ใช้ RN ไม่ได้เนี่ยมัน
00:06:01 → 00:06:04 เหมือนกันซึ่งอันเราก็สามาใชได้แต่ทีผม
00:06:04 → 00:06:07 ฝากนิดนึงในเรื่องของเนี่ยเนื่องจากว่า
00:06:07 → 00:06:10 มันไม่ใช่สารเคมีฮะมันเป็นสารที่เป็นไบโอ
00:06:10 → 00:06:13 มันเป็นโปรตีนใช่มครับดังนั้นเนี่ยโปรตีน
00:06:13 → 00:06:15 เนี่ยเขาค่อนข้างมีการเสื่อมสลายได้ง่าย
00:06:15 → 00:06:18 ดังนั้นจึงไม่แปลกครับอาจารย์ว่าทำไมฉัน
00:06:18 → 00:06:22 ใช้ครีมของยี่ห้อนี้เป็นเปปไทนะไม่เห็นผล
00:06:22 → 00:06:26 แต่ทำไมพอไปใช้ยี่ห้อนึงมันเห็นผลมันอาจ
00:06:26 → 00:06:29 จะมาจากตัวของเปปไทที่ได้มาจากซอสที่มัน
00:06:29 → 00:06:31 แตกต่างกันก็ได้ครับอาจารย์อมาตรฐานมัน
00:06:31 → 00:06:35 ไม่เหมือนกันครับอค่ะ่ะทีนี้นะคะนอกจากใน
00:06:35 → 00:06:38 เรื่องของเริอแล้วเนี่ยอีกเทรนที่เข้าใจ
00:06:38 → 00:06:40 ว่าก็น่าจะมาแรงเหมือนกันเพราะว่า
00:06:40 → 00:06:42 ปัจจุบันเนาะนอกจากเรื่องความเสวยความงาม
00:06:42 → 00:06:44 อีกเรื่องนึงที่คนให้ความสำคัญมากๆก็คือ
00:06:44 → 00:06:47 เรื่องของอารมณ์เรื่องของ mood อะไรต่างๆ
00:06:47 → 00:06:49 ใช่มั้ยคะครับผมเนี่ยมันก็จะมีเทรนด์
00:06:49 → 00:06:52 เรื่องของนโร Cosmetic ที่เข้าใจว่าใน
00:06:52 → 00:06:54 ต่างประเทศเนี่ยค่อนข้างมาแรงแต่ในเมือง
00:06:54 → 00:06:56 ไทยก็ยังไม่ค่อยเห็นใครพูดถึงเยอะนะคะ
00:06:56 → 00:06:58 อาจารย์เล่าเกี่ยวกับเทรนด์นี้ให้ฟัง
00:06:58 → 00:07:00 หน่อยได้มั้ยคะจริงๆผมว่ามันกำลังมา
00:07:00 → 00:07:02 เรื่อยๆเลยครับอาจารย์ที่ว่าคนพูดถึงไม่
00:07:02 → 00:07:04 เยอะเนี่ยเพราะว่ามันอาจจะยังไม่ได้มี
00:07:04 → 00:07:06 นิยามหรืออะไรชัดเจนมากครับแต่ว่าโดย
00:07:06 → 00:07:09 คอนเซปของนโรคอสเมติเนี่ยเขาพูดถึงว่า
00:07:09 → 00:07:12 จริงๆแล้วเนี่ยผิวกับสมองของเราเนี่ยมัน
00:07:12 → 00:07:14 เชื่อมกันอยู่นะฮะอ่าแล้วก็ถ้าใครเคย
00:07:14 → 00:07:16 เรียนสมัยตั้งแต่แบบนานมากนะครับอาจารย์
00:07:16 → 00:07:19 ก็คือไอ้ตัวเซลล์เวลาที่เราเป็นตัวอ่อน
00:07:19 → 00:07:22 เราจะพัฒนามันมาจากเซลล์เดียวกันใช่มั้ย
00:07:22 → 00:07:24 อ่ามันมาจากเซลล์เดียวกันใช่ครับอาจารย์
00:07:24 → 00:07:27 สมองกับผิวหนังเนี่ยนิวรอนกับตัวของเซลล์
00:07:27 → 00:07:28 ผิวเนี่ยมันมาด้วยกันเพราะฉะนั้นเก็เลย
00:07:28 → 00:07:31 บอกว่าอาจจะมีการเชื่อมโยงกันก็ได้หรือ
00:07:31 → 00:07:35 ว่าเวลาที่สมองเรามีความสุขแบบเยครับผิว
00:07:35 → 00:07:37 เราก็จะดีอ่าอะไรแบบนั้นครับมันก็เลยเกิด
00:07:38 → 00:07:41 คอนเซปของนโรคอสเมติขึ้นมาซึ่งเท่าที่ผม
00:07:41 → 00:07:43 ดูอ่ะนะครับอาจารย์เวลาที่เขาพูดถึงนโรค
00:07:43 → 00:07:45 คอสเมติเนี่ยมันจะมีทั้งในแง่มุมของ
00:07:45 → 00:07:48 เรื่องสารสื่อประสาทหรือว่าพวกฮอร์โมน
00:07:48 → 00:07:50 ต่างๆโดยเฉพาะฮอร์โมนแห่งความสุขหรือว่า
00:07:50 → 00:07:53 ฮอร์โมนแห่งความเครียดอย่างคอร์ติซอลหรือ
00:07:53 → 00:07:56 ว่าดอฟินพวกนั้นครับมันก็จะเป็นทาแล้วสวย
00:07:56 → 00:07:58 ด้วยหายเครียดด้วยอะไรเงี้อะไรประมาณนั้น
00:07:58 → 00:08:01 เจะใช้คำว่าคว่า Skin Happy ครับอาจารย์
00:08:01 → 00:08:04 หทาแล้วแบบผิวมีความสุขเอิ๊กักอะไรอย่าง
00:08:04 → 00:08:06 งี้ครับอาจารย์กับอีกอันนึงก็คือจะเป็นใน
00:08:06 → 00:08:10 แง่ของ sensory neuron ครับก็คือพวกเป็น
00:08:10 → 00:08:12 เซลล์ประสาทรับความรู้สึกพวกนี้เนี่ยก็จะ
00:08:12 → 00:08:15 ไปเกี่ยวกับเรื่องของการลดการระคายเคือง
00:08:15 → 00:08:17 ครับอาจารย์เขาก็จะเหมือนจะลิงกันนะครับ
00:08:17 → 00:08:19 บางเจ้าบางแบรนด์นะครับเขาจะใช้คำว่าเป็น
00:08:19 → 00:08:22 เหมือนนโร inflammation อะไรประมาณนี้เลย
00:08:22 → 00:08:24 ครับเกี่ยวกับเหมือนการอักเสบที่มัน
00:08:24 → 00:08:26 เกี่ยวกับสัญญาณสารสืบประสาทต่างๆซึ่ง
00:08:26 → 00:08:29 เจ้าสารที่มันมีผลเกี่ยวข้องกับพวกนโรค
00:08:29 → 00:08:31 คอสเมติกเนี่ยมันก็จะมีผลตรงนี้ครับ
00:08:31 → 00:08:35 อาจารย์อืซึ่งพี่ว่าเห็นด้วยเลยนะเพราะ
00:08:35 → 00:08:38 ว่าจริงๆอย่างโรคของทางผิวหนังหลายๆโรค
00:08:38 → 00:08:40 มันก็เกี่ยวข้องกับอารมณ์เกี่ยวกับความ
00:08:40 → 00:08:43 เครียดไปหมดเนาะอาจารย์เนาะไม่ว่าจะแบบ
00:08:43 → 00:08:46 สิวอย่างเงี้ยเซปเดิมอย่างเงี้ยโซริเนี่ย
00:08:46 → 00:08:49 ก็คือเครียดอะไรมันก็เป็นตัวกระตุ้นได้
00:08:49 → 00:08:52 ดังนั้นเนี่ยพี่ว่ามันก็น่าสนใจมากๆแล้ว
00:08:52 → 00:08:55 ก็เข้าใจว่าที่เมืองนอกหลายๆแบรนด์ที่
00:08:55 → 00:08:57 เป็นแบรนด์สกินแครใหม่ๆก็จะมาจับใน
00:08:57 → 00:09:00 ประเด็นเรื่องนี้กันใช่มยคะใช่ทีนี้ถ้าใน
00:09:00 → 00:09:02 กลุ่มของเนี่ยอาจารย์ว่ามีสารสำคัญตัวไหน
00:09:02 → 00:09:06 บ้างที่มันโดดเด่นค่ะจริงๆมีหลากหลายเลย
00:09:06 → 00:09:07 นะครับอย่างเช่นอันนึงเนี่ยจะเป็นสารจาก
00:09:07 → 00:09:11 เมล็ดไอินดิครับสารตัวเเขาบอกว่าพอทายไป
00:09:11 → 00:09:13 แล้วเนี่ยอาจจะไปกระตุ้นการหลังของเจ้า
00:09:13 → 00:09:16 เบต้าฟินอย่างที่บอกไปครับว่าเป็นสัความ
00:09:16 → 00:09:19 สุขอ่ามันก็จะบอกว่าพอทาไปแล้วปุ๊บอ่าผิว
00:09:19 → 00:09:22 เราแฮปปี้มีความสุขมากขึ้นอะไรประมาณนั้น
00:09:22 → 00:09:25 ครับมันก็จะเกิดความสมดุลมากขึ้นอะไรแบบ
00:09:25 → 00:09:29 นั้นหรือว่าอาจจะมีสารบางตัวครับที่เบอก
00:09:29 → 00:09:31 ว่าอย่างงี้ฮะมันจะไม่ใช่แค่สมองและแต่
00:09:31 → 00:09:34 มันจะไปลิงก์กับพวกระบบกล้ามเนื้อของเรา
00:09:34 → 00:09:36 อ่าประมาณนั้นเหมือนประมาณว่ามันจะมีสาร
00:09:37 → 00:09:39 บางชนิดครับที่มันหลั่งออกมาตอนที่เราออก
00:09:39 → 00:09:42 กำลังกายไอ้เจ้าสารตัวเนี้ยเวลาทาไปอ่ะ
00:09:42 → 00:09:44 เหมือนว่าผิวเราได้ออกกำลังกายอยู่อะไร
00:09:44 → 00:09:47 แบบนี้ก็มีครับแต่ว่าก็ต้องยอมรับว่าข้อ
00:09:47 → 00:09:51 มูลยังน้อยอยู่ครับค่ะค่ะน่าสนใจมากๆเลยค
00:09:51 → 00:09:54 ทีเนี้ยนอกจากในฝั่งของนโรค Cosmetic
00:09:54 → 00:09:56 แล้วอีกเทรนด์นึงที่จริงๆเรื่องของ
00:09:56 → 00:09:59 epigenetic ในทางเรื่องของไสลเรืื่องของ
00:09:59 → 00:10:01 การกินเรื่องของไดเอตเนี่ยคุยกันมายาวนาน
00:10:01 → 00:10:04 ละแต่ว่าได้ยินมาว่าปีหน้าเนี่ยเรื่องของ
00:10:04 → 00:10:07 epigenetic Cosmetic ค่ะหรือว่าการ skin
00:10:07 → 00:10:09 care ที่แก้ปัญหาถึงระดับยีนเนี่ยก็
00:10:09 → 00:10:11 กำลังจะมาเช่นกันอาจารย์มีความเห็นใน
00:10:11 → 00:10:14 เรื่องนี้ว่ายังไงคะจริงๆต้องบอกก่อนว่า
00:10:14 → 00:10:16 epigenetics เนี่ยบางคนอาจจะยังไม่รู้
00:10:16 → 00:10:18 จักครับคือถ้าเราแปลเป็นภาษาไทยตรงตัวเขา
00:10:18 → 00:10:20 ก็จะเรียกว่าเป็นเหนือพันธุกรรมเขาก็แปล
00:10:20 → 00:10:22 กันตรงตัวอย่างเงี้แหละนะครับซึ่งโดย
00:10:22 → 00:10:24 นิยามของคำว่า eptic มันหมายถึงการ
00:10:24 → 00:10:27 เปลี่ยนแปลงการแสดงออกของยีนโดยที่ไม่ไป
00:10:27 → 00:10:30 เปลี่ยนแปลงลำดับเบสเพราะว่าบางคนเนี่ยพอ
00:10:30 → 00:10:32 พูดถึงการเปลี่ยนแปลงธุกรรมบางคนกลัวนะฮะ
00:10:33 → 00:10:35 คิดว่าอุ้ยฉันจะเป็น mutant เป็น x-men
00:10:35 → 00:10:37 หรือเปล่าปล่อยไฟเป็นอะไรอย่างงี้นะฮะไม่
00:10:38 → 00:10:40 ถึงระดับนั้นนะครับเพราะว่าพวกนี้เนี่ย
00:10:40 → 00:10:42 มันไม่ได้ไปเปลี่ยนแปลงในส่วนของลำดับเบส
00:10:42 → 00:10:45 หรืออะไรแต่ว่ามันเปลี่ยนแปลงในการแสดง
00:10:45 → 00:10:48 ออกของยีนเฉยๆคือกลไกพวกนี้ครับมันเหมือน
00:10:48 → 00:10:52 เป็นกลไกที่บอกว่าเซลล์เนี่ยจะอ่อนเยาวนะ
00:10:52 → 00:10:54 ฮะหรือว่าเซลล์ของเราจะเก่เหมือนเป็นการ
00:10:54 → 00:10:56 เปิดสวิต์เซลล์ปิดสวิต์เซลล์ประมาณนั้น
00:10:56 → 00:10:59 ครับซึ่งมันจะมีกระบวนการนึงครับที่สำคัญ
00:10:59 → 00:11:02 เราเรียกว่า DNA mation ก็คือเหมือนเป็น
00:11:02 → 00:11:05 การเติมหมู่เมิลให้กับ DNA ซึ่งกระบวนการ
00:11:05 → 00:11:08 ตรงเยครับอาจารย์ถ้าเกิดว่ามันเกิดขึ้น
00:11:08 → 00:11:10 เนี่ยมันจะทำให้เหมือนเซลล์เนี่ยมันแก่
00:11:10 → 00:11:12 แต่ถ้าเกิดว่าเรายับยั้งกระบวนการตรงนี้
00:11:12 → 00:11:15 ได้นะครับก็เหมือนกับทำให้เซลล์เรามัน
00:11:15 → 00:11:17 อ่อนยาวมากขึ้นนั่นเองเพราะฉะนั้นเนี่ยพอ
00:11:18 → 00:11:20 หลังๆนะครับที่เริ่มมีการศึกษามากขึ้น
00:11:20 → 00:11:23 เนาะมันก็จะมีการพูดถึงว่าสารบางชนิดนะ
00:11:23 → 00:11:28 ครับอาจจะไปยับยั้งกระบวนการ DNA mation
00:11:28 → 00:11:31 นี้ได้ครับอาจารย์อือ่าโดยอาจจะไปยับยั้ง
00:11:31 → 00:11:34 ตัวเอนไซมที่ชื่อว่า dn MTI อะไรแบบ
00:11:34 → 00:11:37 เนี้ยครับแล้วก็ทำให้เหมือนกระบวนการนี้
00:11:37 → 00:11:40 มันน้อยลงพอกระบวนการนี้มันน้อยลงก็ทำให้
00:11:40 → 00:11:43 เซลล์ผิวของเรามันมีความอ่อนยาวมากขึ้น
00:11:43 → 00:11:45 อะไรประมาณนั้นครับอันนี้เป็นแค่ตัวอย่าง
00:11:45 → 00:11:49 แบบอืน่าสนใจมากๆใช่ฮะแต่ว่าคอนเซิร์นของ
00:11:49 → 00:11:51 ผมอย่างนึงก็คือพวกนี้นะครับเราจะต้อง
00:11:51 → 00:11:55 question ว่ามันสามารถซึมลงไปที่เซลล์
00:11:55 → 00:11:58 หรือว่ามากน้อยแค่ไหนอ่าที่ผิวเราได้มาก
00:11:58 → 00:12:00 น้อยแค่ไหนซึ่งอันนี้นี้เนี่ยก็ต้องขึ้น
00:12:00 → 00:12:03 อยู่กับการทำตำรับหรือว่าการศึกษาของแต่
00:12:03 → 00:12:06 ละแบรนด์ด้วยครับค่ะสำหรับจริงๆใครที่สน
00:12:06 → 00:12:08 ใจเกี่ยวกับเรื่องของ EP genetic หรือ
00:12:08 → 00:12:10 ว่าเรื่องของ Lifestyle กับยนกับการแสดง
00:12:10 → 00:12:12 ออกของยีนนะจริงๆทาง Single beeing เรา
00:12:12 → 00:12:14 ก็เคยมีตอนนึงที่เจาะเรื่องนี้เลยเหมือน
00:12:14 → 00:12:18 กันนะคะใน EP ที่ 37 นะคะก็นานมากมาแล้ว
00:12:19 → 00:12:21 แต่ลองกดฟังได้นะคะคิดว่าน่าจะเป็น
00:12:21 → 00:12:24 ประโยชน์ถ้าเกิดสนใจในเรื่องนี้นะคะที
00:12:24 → 00:12:26 เนี้ยกลับมาอีกเรื่องนึงซึ่งจริงๆอ่ะเป็น
00:12:26 → 00:12:29 เรื่องที่ต้องเรียนอาจารย์เฟิสเพะพี่ก็
00:12:29 → 00:12:30 เป็นคนที่ชอบเรื่องนี้แล้วก็พูดถึงบ่อย
00:12:30 → 00:12:33 เนาะก็คือเรื่องของพวกไมโครไบโอมผมผม
00:12:33 → 00:12:35 เชื่อครับเพราะว่าผมเป็นแฟนหนังสือ
00:12:35 → 00:12:40 อาจารย์ผิงขอบคุณมากเออพี่ก็ชอบเรื่องนี้
00:12:40 → 00:12:42 นะแล้วก็พี่ก็ว่าเรื่องของ skin care ไบ
00:12:42 → 00:12:46 อ่ะโอก็ยังมีที่มาที่ไปที่น่าสนใจอีกเยอะ
00:12:46 → 00:12:48 นะคะถึงแม้ว่ามันก็มีการพูดถึงมาเยอะแล้ว
00:12:48 → 00:12:51 แหละในปีนี้ปีหน้ามันจะมีอะไรใหม่มั้ยคะ
00:12:51 → 00:12:53 ในเรื่องนี้จริงๆต้องบอกว่าอันเนี้ยเมื่อ
00:12:53 → 00:12:56 ปีที่แล้วกับปีนี้ครับมาแรงมากฮะทีนี้พอ
00:12:56 → 00:12:58 เป็นปีหน้าเนี่ยเนื่องจากศาลมันเริ่มออก
00:12:58 → 00:13:01 มาเยอะฮะนั่นแปลว่าเขาก็ต้องพยายามหาอะไร
00:13:01 → 00:13:05 ใหม่ๆทีนี้ผมไปเจออันนึงใช่ครับไปเจออัน
00:13:05 → 00:13:07 นึงที่น่าสนใจครับพอดีว่า The เรลเนี่ย
00:13:07 → 00:13:09 มันเพิ่งมีงานที่เราเรียกว่า in Cosmetic
00:13:09 → 00:13:12 ครับงานเเขาก็จะมีเหมือน suly ที่เขาผลิต
00:13:12 → 00:13:15 สารมารวมกันเยอะมากเลยครับซึ่งผมไปเจออัน
00:13:15 → 00:13:18 นึงมาน่าสนใจมากเลยอาจารย์เขาบอกว่ามัน
00:13:18 → 00:13:21 เป็นพรีไบโอติกนะครับเป็นอาหารสำหรับแบบ
00:13:21 → 00:13:23 เชื้อไมโครบที่ผิวแต่ว่านอกเหนือจากการ
00:13:24 → 00:13:26 เป็นพรีไบโอติกเนี่ยเขามีผลในเรื่องของ
00:13:26 → 00:13:29 การเป็น brightening ด้วยผมว่าล่าสุดใ
00:13:29 → 00:13:32 เพราะว่าปกติเวลาเราพูดถึงพวกสิไบโอมจะ
00:13:32 → 00:13:35 เน้นในเรื่องของ Skin ความแข็งแรงของผิว
00:13:35 → 00:13:37 อะไรอย่างเงี้ใช่มครับแต่อันเนี้ยเเหมือน
00:13:37 → 00:13:40 นี่ได้ถึง 2 อ่าแตกยอดไปในเรื่องของการ
00:13:40 → 00:13:41 เป็น wiing แต่ว่าเท่าที่ดูอ่ะครับ
00:13:41 → 00:13:44 อาจารย์มันจะเป็นเหมือนเป็นสารสกัดจากชา
00:13:44 → 00:13:47 เขียวซึ่งทุกคนก็จะรู้ดีว่าชาเขียวเนี่ย
00:13:47 → 00:13:51 มันมีเป็นพวกสารต้านอนุมูลอิสระที่แบบดีๆ
00:13:51 → 00:13:54 เยอะอ่าเขาก็เลยเหมือนใช้ตรงนั้นนะครับมา
00:13:54 → 00:13:56 ช่วยในเรื่องของความกระจ่างใสในกลไกของ
00:13:56 → 00:13:59 การเป็นสารต้านอนุมูลอิระส่วน
00:13:59 → 00:14:01 [เพลง]
00:14:01 → 00:14:05 อมีการเหมือนต่อมลกุลไปฟอร์มกับพวกน้ำตาล
00:14:05 → 00:14:06 พวกอะไรอย่าเงี้ยครับเพื่อให้มันกลายเป็น
00:14:06 → 00:14:10 พวกปีติแล้วก็เขาบอกว่าไอ้ตรงเนี้ยพอ
00:14:10 → 00:14:13 เชื้อหรือว่าไมโครไบโอมกินเข้าไปนะครับ
00:14:13 → 00:14:17 มันอาจจะไปมีผลต่อการสร้างสารบางชนิดที่
00:14:17 → 00:14:20 ผิวของเราด้วยครับอาจารย์อือ่าประมาณว่า
00:14:20 → 00:14:22 แบบฉันได้เรื่องของความกระจังใสด้วย
00:14:22 → 00:14:24 เรื่องพวกนี้ด้วยก็คือต้องบอกว่ามันมาแรง
00:14:24 → 00:14:27 มานานแล้วฮะดังนั้นเนี่ยพอมีอะไรใหม่ๆเ
00:14:27 → 00:14:30 เขาก็พยายามไปหาในข้อบกใช้หรือข้อมูลอื่น
00:14:30 → 00:14:33 ๆครับอาจารย์อค่ะฟังแล้วก็มีความหวังเลย
00:14:33 → 00:14:36 นะคะเราจะมีสกินแครที่ทั้งแบบว่าแก้ลึก
00:14:36 → 00:14:39 ระดับยีนทาแล้วแบบผิว
00:14:39 → 00:14:42 แฮปปี้นะแล้วก็ยังเสริมไมโครไบโอมแถมหน้า
00:14:42 → 00:14:45 กระจ่างใสอีกในหลายๆเทรนด์ที่เล่ามาทั้ง
00:14:45 → 00:14:47 หมดเนี่ยอาจารย์ว่าเทรนด์ไหนน่าจะมาแรง
00:14:47 → 00:14:51 สุดคะเรามาเดากันดีกว่าอืถ้าให้ผมเดานะผม
00:14:51 → 00:14:54 ว่าิติมากับนโรอ่ะถ้าให้เลือกอันเดียวนะ
00:14:54 → 00:14:57 ผมจะเลือกนโรคอสเมติครับเพราะว่าจริงๆอ่ะ
00:14:57 → 00:15:00 ต้องบอกว่า eptic ออ่ะมันมาเงียบๆเรื่อยๆ
00:15:00 → 00:15:02 แต่ว่าเขาจะอยู่กับพวกซูจะอยู่กับแบรนด์
00:15:02 → 00:15:04 ที่เป็นซูครับอาจารย์เราจะไม่ค่อยมีข้อ
00:15:04 → 00:15:07 มูลเาเท่าไหร่แต่ว่าพอตอนเนี้ยความรู้มัน
00:15:07 → 00:15:09 เริ่มมากขึ้นเราก็จะเริ่มเจอเขามากขึ้น
00:15:09 → 00:15:12 แต่ผมว่าอันที่พูดถึงกันเยอะหรือว่าอย่าง
00:15:12 → 00:15:14 ในงานนะครับอาจารย์เขาจะมีการเหมือนแบบ
00:15:14 → 00:15:16 มอบรางวัลให้กับสารอะไเงี้ยตัวที่ได้
00:15:16 → 00:15:19 รางวัลเนี่ยก็จะเป็นพวกนโรคอสเมติกเคมิ
00:15:19 → 00:15:22 เนอใจตรงกันนะถ้าพี่เดานะพี่ก็ว่านโร
00:15:22 → 00:15:24 คอสเมติเหมือนกันเดี๋ยวเรามาดูกันว่ามัน
00:15:24 → 00:15:27 จะจริงมยผมว่าอีกสักปี 2 ปีอ่ะเดี๋ยว EP
00:15:27 → 00:15:31 เจติจะตามมาครับอาจารย์เนาะใช่ครับ่ครับ
00:15:31 → 00:15:34 ได้เลยค่ะโอยสนุกมากๆเลยค่ะพี่ว่าเดี๋ยว
00:15:34 → 00:15:36 ปลายปีหน้าพี่ต้องชวนอาจารย์มา predict
00:15:36 → 00:15:39 ปี 2026 อีกยินดีมากแล้วเดี๋ยวเรามาดูกัน
00:15:39 → 00:15:40 ว่าผมทายแม่นรึเปล่าครับอาจารย์อาจจะทาย
00:15:40 → 00:15:43 ไม่แม่นกันจริจๆครับอาจารย์นะคะแต่ยังไง
00:15:44 → 00:15:46 ก็ตามนะคะที่แม่นมากๆแบบแน่นมากๆก็คือ
00:15:46 → 00:15:49 ความรู้ที่ได้นะคะถ้าคนอยากจะติดตามความ
00:15:49 → 00:15:51 รู้เกี่ยวกับสกินแคร์อัปเดตใหม่ๆของ
00:15:51 → 00:15:52 อาจารย์เนี่ยติดตามได้ที่เพจอาจารย์ใช่
00:15:53 → 00:15:56 มั้ยคะใช่ครับผมก็ฝากเพจเล็กๆที่ตัวเองทำ
00:15:56 → 00:15:59 คือทำเองทีมงานมี 1 คนนะฮะก็คือผมเองนะ
00:15:59 → 00:16:01 มีเวลาบ้างไม่มีเวลาบ้างจะพยายามมาอัปเดต
00:16:01 → 00:16:04 ครับชื่อเพจว่า Who skin care ครับใน
00:16:04 → 00:16:07 Facebook หรือว่าใน Instagram นะครับ Who
00:16:07 → 00:16:10 und skin care ครับโอขอบคุณอาจารย์มาก
00:16:10 → 00:16:13 ๆเลยนะคะวันนี้นะคะได้ทั้งอัปเดตเน skin
00:16:13 → 00:16:15 care แล้วก็ข้อมูลที่น่าสนใจต่างๆมากมาย
00:16:15 → 00:16:17 เลยค่ะต้องขอขอบคุณนะคะผู้ช่วย
00:16:17 → 00:16:20 ศาสตราจารย์ดรเกรกวินด้วงมีค่ะขอบคุณ
00:16:20 → 00:16:23 อาจารย์มากๆเลยนะคะครับยินดีมากๆเลยครับ
00:16:23 → 00:16:25 สนุกมากเลยครับอาจารย์ผิงค่ะขอบคุณค่ะ
00:16:25 → 00:16:28 สวัสดีค่ะครับขอบคุณครับสวัสดีครับและ
00:16:28 → 00:16:31 ก่อนจากไปในวันนี้นะคะหมอขอฝากให้ทุกคน
00:16:31 → 00:16:33 ช่วยกดติดตาม Single Being podcast
00:16:33 → 00:16:35 ผ่านช่องทางที่คุณฟังอยู่ตอนนี้ด้วยค่ะ
00:16:36 → 00:16:39 เพื่อให้ไม่พลาดในทุกตอนใหม่ๆที่หมอจะนำ
00:16:39 → 00:16:40 มาฝากกัน
00:16:40 → 00:16:43 ค่ะแล้วก็อย่าลืมกดไลค์กดแชร์นะคะกด
00:16:43 → 00:16:46 คอมเมนต์เพื่อให้หมอรู้ว่าฟัง podcast EP
00:16:46 → 00:16:49 นี้แล้วเนี่ยรู้สึกยังไงบ้างนะคะแล้วก็
00:16:49 → 00:16:52 สุดท้ายนะคะต้องขอบคุณไทยประกันชีวิตค่ะ
00:16:52 → 00:16:54 ที่ช่วยให้หมอสามารถนำเรื่องราวดีๆมาให้
00:16:54 → 00:16:57 คุณฟังกันอย่างต่อเนื่องในทุก ep เลยนะคะ
00:16:57 → 00:16:59 รวมทั้งขอบคุณคุณผู้ฟังทุทุกท่านที่ติด
00:16:59 → 00:17:02 ตามแล้วก็สนับสนุน podcast ของเรามาตลอด
00:17:02 → 00:17:05 หลายปีด้วยค่ะขอบคุณค่ะสวัสดี
00:17:05 → 00:17:09 ค่ะ Single Being podcast about
00:17:09 → 00:17:13 Living your Best Single Life โดย
00:17:13 → 00:17:17 หมอผิงแพทย์หญิงธิดาการรุจิพัฒนกุล
00:17:17 → 00:17:21 ดีที่อยู่เดียว Presented by ไทยประกัน
00:17:22 → 00:17:25 ชีวิต