00:00:07 → 00:00:11 มีการวิจัยครับ ว่านักท่องเที่ยวที่มาเชิงสุขภาพ
00:00:11 → 00:00:13 จะใช้จ่ายต่อหัว ต่อครั้ง ต่อทริป
00:00:13 → 00:00:19 ประมาณ 50,000 กว่าบาท สูงกว่านักท่องเที่ยวทั่วไปถึง 53%
00:00:33 → 00:00:37 สวัสดีครับ พบกับรายการ Dr.Amp Podcast กับผมหมอแอมป์
00:00:37 → 00:00:40 นายแพทย์ตนุพล วิรุฬหการุญ
00:00:40 → 00:00:47 วันนี้หมอจะมาเล่าสู่กันฟังในหัวข้อชื่อตอนที่ว่า Wellness Tourism
00:00:47 → 00:00:53 การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ยูนิคอร์นใหม่เศรษฐกิจไทยในยุคโควิด
00:00:53 → 00:00:59 วันนี้หมอจะมาแลกเปลี่ยนความรู้ เรื่องเศรษฐกิจกันบ้าง
00:00:59 → 00:01:04 หลังจากหลายตอน เราพูดกันไปถึงเรื่องสุขภาพมาเยอะแล้ว
00:01:04 → 00:01:10 วันนี้หมอถึงอยากจะเปิดประตูบานใหม่เข้าไปดูว่าเรื่องสุขภาพ
00:01:10 → 00:01:15 กับภาพเศรษฐกิจใหญ่จะเกี่ยวข้องกันอย่างไรบ้าง
00:01:15 → 00:01:21 วันนี้ครับ ภาพที่ใหญ่ขึ้นไปตั้งแต่ระดับตัวเรา ระดับครอบครัวเรา
00:01:21 → 00:01:26 ระดับธุรกิจเราไปจนถึงระดับประเทศ และระดับโลก
00:01:26 → 00:01:34 ว่าสุขภาพและการดูแล มีส่วนเกี่ยวข้องในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมได้อย่างไรบ้าง
00:01:34 → 00:01:40 มนุษย์เราหันมาสนใจเรื่องสุขภาพดีกันมากขึ้น
00:01:40 → 00:01:46 จริงๆเรื่องสุขภาพ ตั้งแต่อดีตอันไกลโพ้นจนถึงปัจจุบัน
00:01:46 → 00:01:53 หมอก็ยังเชื่อว่ามนุษย์เรา ก็ยังควานหาวิธี หายาอายุวัฒนะ
00:01:53 → 00:02:00 มาทำให้มนุษย์ แก่ช้า ตายช้า หรือให้สาวขึ้นหนุ่มขึ้น
00:02:00 → 00:02:04 เป็นกันมานาน เราไปดูในปัจจุบันกันหน่อย
00:02:04 → 00:02:09 ตั้งแต่ก่อนโควิดจะระบาด คนเราก็รักสุขภาพมากอยู่แล้ว
00:02:09 → 00:02:14 และเมื่อเกิดโรคโควิดระบาดขึ้นมา ยิ่งทำให้เป็นตัวกระตุ้น
00:02:14 → 00:02:20 กระแสรักสุขภาพ ก็เลยแพร่หลายมากขึ้นเป็นเท่าทวีคูณไปทั่วโลก
00:02:20 → 00:02:28 เพราะว่ามนุษย์เริ่มตระหนักว่า หนึ่งในวิธีสำคัญในการต่อสู้กับเชื้อโรคผู้รุกรานตัวเรา
00:02:28 → 00:02:35 ก็คือการทำให้ตัวเราแข็งแรง มีเกราะป้องกันที่มีคุณภาพที่สุด
00:02:35 → 00:02:40 มีภูมิต้านทานสูงขึ้น และแน่นอนครับการมีสุขภาพแข็งแรง
00:02:40 → 00:02:46 ไม่สามารถทำได้ในชั่วข้ามคืน ต้องอาศัยความมีวินัย
00:02:46 → 00:02:52 ความรู้ความพยายาม ในการค่อยๆบำรุงดูแลตัวเรา
00:02:52 → 00:02:57 ร่างกายเราและคนที่เรารัก กว่าจะได้รับสุขภาพดี
00:02:57 → 00:03:02 เปรียบเสมือนเราปลูกต้นไม้ เราไม่สามารถที่จะปลูกต้นไม้วันนี้
00:03:02 → 00:03:06 วันพรุ่งนี้ต้นใหญ่ แล้วก็เก็บผล ผลิดอก
00:03:06 → 00:03:10 นำมาใช้การได้เลยไม่ได้ เช่นเดียวกับร่างกายเรา
00:03:10 → 00:03:16 เราต้องค่อยๆทะนุถนอมวางแผน มีการรักตัวเรามีการรักผู้อื่น
00:03:16 → 00:03:20 แปลว่ากว่าจะได้สุขภาพดีนั้น ต้องใช้เวลา
00:03:20 → 00:03:27 ทั้งหมดที่กล่าวมา เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้กระแสโควิด
00:03:27 → 00:03:32 การดูแลสุขภาพ จึงเป็นเทรนด์ที่แพร่หลายไปทั่วโลกในเวลานี้
00:03:32 → 00:03:38 ปัจจัยอีกข้อหนึ่ง ที่ทำให้การดูแลสุขภาพเป็นสิ่งสำคัญมากขึ้น
00:03:38 → 00:03:43 และมากขึ้นเรื่อยๆ นั่นก็คือประเทศต่างๆทั่วโลก
00:03:43 → 00:03:47 กำลังทยอยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ
00:03:47 → 00:03:51 ข้อมูลจากองค์การสหประชาชาติหรือ UN
00:03:51 → 00:03:55 ในปีคริสต์ศักราช 2020 เขาทำวิจัยไว้ว่า
00:03:55 → 00:04:02 มีประชากรผู้สูงอายุเกิน 60 ปีทั่วโลก เฉลี่ยประมาณ 13.5%
00:04:02 → 00:04:09 หรือเป็นจำนวนประมาณ 1,049 ล้านคนทั่วโลก เยอะมากนะครับ
00:04:09 → 00:04:18 และจะเพิ่มเป็น 21% หรือเกือบ 2,100 ล้านคน ในปีคริสต์ศักราช 2050
00:04:18 → 00:04:23 สำหรับประเทศไทยครับในปี พ.ศ. 2564 ที่ผ่านมา
00:04:23 → 00:04:35 เรามีผู้สูงอายุ ที่อายุเกิน 60 ปี สูงถึง 13 ล้านคน เฉลี่ยประมาณ 20% ของประชากรทั้งประเทศ
00:04:35 → 00:04:41 ถือว่าสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลก ประชากรผู้สูงอายุของเมืองไทย
00:04:41 → 00:04:49 และมีการประเมินไว้ครับว่าในอีก 10 ปีข้างหน้าหรือปี พ.ศ. 2574
00:04:49 → 00:04:56 ประเทศไทยจะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุระดับสูงสุด หรือระดับสุดยอด
00:04:56 → 00:05:01 ก็คือมีคนอายุเกิน 60 ปี สูงถึง 28%
00:05:01 → 00:05:06 ซึ่งแน่นอนครับ ย่อมส่งผลกระทบต่อประเทศไปในวงกว้างเลย
00:05:06 → 00:05:11 ทั้งภาคเศรษฐกิจ ภาคสังคม และระดับครอบครัว
00:05:11 → 00:05:17 เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ เพราะเมื่อผู้สูงอายุมากขึ้นคนเกิดก็น้อยลง
00:05:17 → 00:05:21 คนวัยทำงานจะเป็นอย่างไรครับ คนวัยทำงานก็จะจำนวนน้อย
00:05:21 → 00:05:25 เทียบกับพีระมิดที่เคยเป็นในสมัยอดีต
00:05:25 → 00:05:29 ทำให้คนวัยทำงาน ต้องทำงานหนักขึ้น
00:05:29 → 00:05:36 ปกติทำงานดูแลสามี ทำงานดูแลภรรยา ดูแลลูกๆ และตัวเรา
00:05:36 → 00:05:39 ถ้าสังคมผู้สูงอายุมา จะไม่ใช่แค่นั้น
00:05:39 → 00:05:45 เราต้องดูแล ในมุมของคนทำงานต้องดูแลคุณพ่อคุณแม่
00:05:45 → 00:05:48 อาจจะเป็นคุณพ่อตาด้วย คุณแม่ยายด้วย
00:05:48 → 00:05:53 ไปจนถึงคุณปู่คุณย่าของเรา คุณตาคุณยายของเรา
00:05:53 → 00:05:59 เนื่องจากสังคมผู้สูงอายุมาใช่ไหมครับ ประชากรผู้สูงอายุก็จะมากขึ้น
00:05:59 → 00:06:04 นั่นแหละครับคือผลกระทบในระดับตัวเรา และระดับครอบครัว
00:06:04 → 00:06:10 ในภาพใหญ่ ถ้าประเทศมีคนทำงานน้อยลงมีคนเกิดน้อยลง
00:06:10 → 00:06:20 ปีที่ผ่านมา 2564 นี้ ประเทศไทยมีอัตราคนเกิดน้อยกว่าอัตราผู้เสียชีวิต
00:06:20 → 00:06:24 ยิ่งทำให้ภาพนี้ชัดขึ้นไปอีก
00:06:24 → 00:06:31 ว่าจะส่งผลกระทบในวงกว้าง ตั้งแต่ระดับเล็กไปถึงระดับใหญ่
00:06:31 → 00:06:33 เมื่อประเทศมีคนทำงานน้อยลง
00:06:33 → 00:06:37 ศักยภาพในการเดินหน้าผลักดันก็จะน้อยลง
00:06:37 → 00:06:41 การจัดเก็บภาษี การจัดเก็บรายได้ก็จะน้อยลง
00:06:41 → 00:06:45 ต้องพึ่งพาการนำเข้าแรงงานจากต่างประเทศมากขึ้น
00:06:45 → 00:06:47 เริ่มมีผลกระทบเยอะใช่ไหมครับ
00:06:47 → 00:06:54 ดังนั้นครับย่อมดีกว่าแน่ถ้าพวกเรารู้อย่างนี้ เราต้องยิ่งช่วยกันวางแผน
00:06:54 → 00:06:58 การดูแลสุขภาพตัวเรา ผู้ใหญ่ในบ้านเรา
00:06:58 → 00:07:02 คุณพ่อ คุณแม่ คุณปู่ คุณย่า คุณตา คุณยาย คุณลุง คุณป้า
00:07:02 → 00:07:07 ให้อายุมากขึ้น แบบมีคุณภาพแบบแข็งแรง
00:07:07 → 00:07:10 เราก็ต้องเริ่มดูแลก่อนจะป่วยถูกไหมครับ
00:07:10 → 00:07:14 ดังสุภาษิตที่ว่า "กันไว้ ดีกว่าแก้" นะครับ
00:07:14 → 00:07:21 เมื่อทำให้ผู้ใหญ่อายุมากขึ้น แบบมีคุณภาพแข็งแรงไม่มีโรครุมเร้า
00:07:21 → 00:07:26 ช่วยเหลือตัวเองได้ ครอบครัวก็จะมีความสุข
00:07:26 → 00:07:29 อีกข้อหนึ่งครับ ที่ไม่พูดถึงก็คงไม่ได้
00:07:29 → 00:07:31 ปัจจัยที่ผลักดันให้มนุษย์หลายคน
00:07:31 → 00:07:36 หันกลับมาวางแผนดูแลสุขภาพ ตั้งแต่ยังไม่เจ็บป่วยเลย
00:07:36 → 00:07:42 ก็คือโรคที่เกิดจากน้ำมือตัวเรา หรือที่หมอพูดไว้ในหลายตอนมากเลย
00:07:42 → 00:07:46 คือโรคที่เรียกว่า โรค NCDs : Non-Communicable Diseases
00:07:46 → 00:07:54 หรือกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง กลุ่มโรคกลุ่มนี้เป็นปัจจัยที่มากระตุ้น
00:07:54 → 00:07:58 ให้คนทั้งโลกเริ่มหันมาใส่ใจสุขภาพ
00:07:58 → 00:08:02 เพราะอะไรครับ เพราะกลุ่มโรค NCDs นี้ดุร้าย
00:08:02 → 00:08:08 แล้วก็โจมตีเป็นภัยเงียบหรือเพชฌฆาตเงียบ ค่อยๆคืบคลานเข้ามา
00:08:08 → 00:08:14 แอบซ่อนเข้ามากับความอร่อยของเรา ความประมาทของเรา
00:08:14 → 00:08:19 การนอนน้อยของเรา การลืมออกกำลังกายของเรา
00:08:19 → 00:08:22 การขยับตัวน้อยๆ หลายปัจจัย
00:08:22 → 00:08:32 ไปจนถึงสิ่งแวดล้อมที่เป็นพิษ ควันพิษต่างๆ PM2.5 สุรา สูบบุหรี่
00:08:32 → 00:08:36 อาหารหวานจัด อาหารมันจัด อาหารเค็มจัด
00:08:36 → 00:08:43 ของทอด เนื้อสัตว์แปรรูป น้ำตาลไฮฟรุกโตสคอร์นไซรัป (High Fructose Corn Syrup – HFCS)
00:08:43 → 00:08:47 ทรานส์แฟต(Trans Fat) ไขมันอิ่มตัว เป็นต้น
00:08:47 → 00:08:49 ล้วนแล้วแต่เป็นศัตรูตัวฉกาจ
00:08:49 → 00:08:54 ที่มาทำให้โรค NCDs นี้โจมตีพวกเราเยอะมาก
00:08:54 → 00:08:58 ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลกหรือ WHO
00:08:58 → 00:09:02 รายงานว่าในปีพุทธศักราช 2563
00:09:02 → 00:09:10 มีผู้เสียชีวิตทั่วโลกจากกลุ่มโรค NCDs สูงถึง 71% ทั้งโลก
00:09:10 → 00:09:15 เป็นจำนวนประมาณ 41 ล้านคนทั่วโลก
00:09:15 → 00:09:22 เสียชีวิตในปี 2563 ด้วยกลุ่มโรค NCDs เห็นไหมครับเป็นเรื่องใหญ่มาก
00:09:22 → 00:09:28 ในประเทศไทย ข้อมูลในปีพุทธศักราช 2562
00:09:28 → 00:09:37 เรามีประชากรเสียชีวิตด้วยกลุ่มโรค NCDs สูงถึง 76.58%
00:09:37 → 00:09:45 มากกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกอีกนะครับ นับเป็นจำนวนก็ 351,880 คน
00:09:45 → 00:09:48 3 แสน 5 หมื่น กว่าคน ท่านผู้ฟังคิดดู
00:09:48 → 00:09:54 ต่อปีที่ประชากรเราเสียชีวิตไป หรือคำนวณง่ายๆครับ
00:09:54 → 00:10:01 ทุกๆ 1 ชั่วโมง จะมีผู้เสียชีวิตจากกลุ่มโรค NCDs นี้สูงถึง 44 คน
00:10:01 → 00:10:05 1 ชั่วโมง 44 คน 1 ชั่วโมง 44 คน
00:10:05 → 00:10:10 ถ้าเราไม่ร่วมกันวางแผน เราก็จะเต็มไปด้วยสังคมผู้สูงอายุ
00:10:10 → 00:10:15 ที่มีโรคประจำตัวมากมาย โดยเฉพาะกลุ่มโรค NCDs
00:10:15 → 00:10:18 ซึ่งสร้างผลกระทบต่อตัวเรา ครอบครัวเรา
00:10:18 → 00:10:21 เศรษฐกิจสังคม และประเทศเราอย่างแน่นอน
00:10:21 → 00:10:27 ดังนั้นครับ วันนี้หมอแอมป์เลยอยากจะมาเชิญชวน
00:10:27 → 00:10:33 จริงๆเชิญชวนมาตลอดให้ทุกท่าน ที่รักกันทุกคน
00:10:33 → 00:10:37 มาร่วมกันคนละไม้คนละมือ สร้างสังคมสุขภาพดี
00:10:37 → 00:10:42 สุขภาพดีนั้นไม่มีขาย ถ้าอยากได้ต้องลงมือทำ
00:10:42 → 00:10:44 เพราะฉะนั้นแล้วไม่ได้เสียสะตุ้งสตางค์
00:10:44 → 00:10:47 แต่ต้องใช้วินัย และใช้การจุดชนวนทางความคิด
00:10:47 → 00:10:53 ว่าเราถึงเวลาหรือยังที่จะเริ่มต้นมารักสุขภาพตัวเรา
00:10:53 → 00:10:59 ถ้าตัวเราแข็งแรงไม่เจ็บไม่ป่วย เราก็มีพลังเรี่ยวแรงเหลือ
00:10:59 → 00:11:04 ในการไปดูแลครอบครัวเรา และอยู่กับคนที่เรารักจะไปนานๆ
00:11:04 → 00:11:10 โดยไม่ต้องเป็นภาระลูกหลาน ได้มีความสุขที่เกิดมาแล้วก็ได้แบ่งปัน
00:11:10 → 00:11:14 นั่นคือประเด็นสำคัญของหมอในวันนี้
00:11:14 → 00:11:24 มาต่อกันที่กลุ่มโรค NCDs กลุ่มโรค NCDs หรือกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรังนี้ ประกอบไปด้วยโรคต่างๆหลายโรค
00:11:24 → 00:11:28 ส่วนใหญ่เกิดมาจากหลายปัจจัย พันธุกรรมนี้ก็เกี่ยวข้อง
00:11:28 → 00:11:33 สิ่งแวดล้อมก็เกี่ยวข้อง วิถีชีวิตก็เกี่ยวข้อง
00:11:33 → 00:11:38 วันนี้หมอจะเน้นไปที่เรื่องวิถีชีวิต จริงๆเกี่ยวข้องทุกอย่าง
00:11:38 → 00:11:43 แต่พันธุกรรมนี้เราไปเปลี่ยนรหัสพันธุกรรมคุณพ่อคุณแม่เรา
00:11:43 → 00:11:47 พูดง่ายๆคือ เราเปลี่ยนคุณพ่อ คุณแม่ คุณปู่ คุณย่า บรรพบุรุษเราไม่ได้
00:11:47 → 00:11:54 เราก็ต้องเลือกหัวข้อที่เราเปลี่ยนได้ ด้วยน้ำมือเราก็คือ การประพฤติปฏิบัติตัว
00:11:54 → 00:12:00 กลุ่มโรค NCDs ครับหรือกลุ่มโรคทำเองเป็นส่วนใหญ่ ประกอบไปด้วย
00:12:00 → 00:12:06 1 โรคหลอดเลือดในสมองตีบหรือแตกหรือที่เรียกกันว่า Stroke
00:12:06 → 00:12:15 สำหรับคนไทย โรค Stroke คร่าชีวิตประชากรคนไทยเป็นอันดับ 1 ในตระกูล NCDs
00:12:15 → 00:12:22 2 โรคเบาหวาน 3 โรคความดันโลหิตสูง 4 โรคหลอดเลือดหัวใจ
00:12:22 → 00:12:28 5 โรคมะเร็งหลายชนิด 6 โรคทางเดินหายใจและปอด
00:12:28 → 00:12:33 และโรคสุดท้ายแสบที่สุด หมอแอมป์พยายามสู้กันมานาน
00:12:33 → 00:12:35 กับโรคนี้ก็คือ โรคอ้วน
00:12:35 → 00:12:41 ซึ่งหมอจะขยายความโดยละเอียดในตอนโรค NCDs
00:12:41 → 00:12:46 วันนี้เราจะไปต่อเพราะภารกิจเราวันนี้คือการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ
00:12:46 → 00:12:49 จากข้อมูลทั้งหมดที่กล่าวมา
00:12:49 → 00:12:54 ทำให้กระแสการดูแลสุขภาพจึงเติบโตไปทั่วโลก
00:12:54 → 00:13:00 เรามาดูภาพใหญ่ระดับโลกกัน ข้อมูลจาก Global Wellness Institute
00:13:00 → 00:13:05 หรือที่เรียกว่า GWI ประเมินไว้ว่ามูลค่า
00:13:05 → 00:13:11 เศรษฐกิจทางด้านสุขภาพทั่วโลกหรือที่เรียกว่า Global Wellness Economy
00:13:11 → 00:13:18 เติบโตขึ้นอย่างมาก ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เติบโตทุกปี ทุกปี ทุกปี
00:13:18 → 00:13:21 เยอะกว่าค่าเฉลี่ย GDP (Gross Domestic Product) ของโลกซะอีก
00:13:21 → 00:13:35 มูลค่าการตลาดทางด้านสุขภาพทั่วโลก ในปีพุทธศักราช 2560 อยู่ที่ 4.2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐต่อปี
00:13:35 → 00:13:46 ใหญ่มากครับ ในปี พ.ศ.2562 ขยับสูงขึ้นมาที่ 4.8 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ
00:13:46 → 00:13:56 หรือ 4.8 Trillions US Dollar เฉลี่ยเติบโต 6.4% ทุกปี ติดต่อกันมา 10 ปี
00:13:56 → 00:14:02 นี่แหละครับคือ พลังของกระแสการดูแลสุขภาพทั่วโลก
00:14:02 → 00:14:07 จนมาถึงช่วงที่โควิดระบาด ทำให้การเดินทางยากใช่ไหมครับ
00:14:07 → 00:14:13 หลายประเทศมีการล็อกดาวน์ มีการปิดเส้นทางการเดินทาง
00:14:13 → 00:14:17 มนุษย์ต้องอยู่ในประเทศตัวเอง ในบ้านตัวเองนะครับ
00:14:17 → 00:14:21 เพื่อควบคุมต่อสู้กับเชื้อโรคตัวนี้
00:14:21 → 00:14:25 ทำให้มูลค่ารวมของกระแสธุรกิจ
00:14:25 → 00:14:30 ทางด้านสุขภาพที่ขึ้นมาตลอด 10 ปี ร่วงลงไป
00:14:30 → 00:14:37 ในปีพุทธศักราช 2563 จาก 4.8 ล้านล้านเหรียญ ปี 2562
00:14:37 → 00:14:42 ร่วงลงมาอยู่ที่ 4.4 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ
00:14:42 → 00:14:49 จะเห็นว่าแม้ว่าจะร่วงลงมา แต่ลงมาเพราะมีสาเหตุก็คือเดินทางกันไม่ได้
00:14:49 → 00:14:53 ถ้าเดินทางได้ ก็ออกมาอีกรูปแบบหนึ่งแน่นอน
00:14:53 → 00:14:56 ฉะนั้นครับ แม้ว่าภาพรวมจะตกลง
00:14:56 → 00:15:02 แต่ยังมีสาขา ที่เติบโตสวนกระแสแม้กระทั่งในช่วงโควิด
00:15:02 → 00:15:06 มีอยู่ 4 สาขาที่ยังคงเติบโต
00:15:06 → 00:15:11 ประกอบไปด้วยสาขาที่ 1 ที่โตสวนกระแสมากๆเลย
00:15:11 → 00:15:16 ก็คือสาขาที่ชื่อว่า Wellness Real Estate
00:15:16 → 00:15:21 หรืออสังหาริมทรัพย์ที่เกี่ยวกับเรื่องสุขภาพ
00:15:21 → 00:15:32 เติบโตขนาดไหน เติบโตขึ้นมาในปี 2563 มูลค่าสูงถึง 275,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
00:15:32 → 00:15:39 เติบโตกว่าปีก่อนหน้าถึง 22.1% เรื่องนี้เป็นเรื่องที่มีความสำคัญ
00:15:39 → 00:15:46 เพราะว่าอะไรครับ เพราะว่าทุกท่าน ถ้าอ่านจากในข่าวจะเห็นว่าเมื่อโควิดระบาด
00:15:46 → 00:15:51 นักท่องเที่ยวต่างชาติมาไม่ได้ แต่ละประเทศต้องล็อคดาวน์อยู่กันเอง
00:15:51 → 00:15:54 ทำให้ธุรกิจโรงแรมรายได้ตกลงหมดเลย
00:15:54 → 00:15:59 เพราะไม่มีนักท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวภายในประเทศก็น้อยลง
00:15:59 → 00:16:03 ธุรกิจโรงแรม เป็นธุรกิจที่ได้รับผลกระทบสูงมาก
00:16:03 → 00:16:07 แต่ภาพออกมากลับกัน ธุรกิจ Real Estate
00:16:07 → 00:16:14 หรืออสังหาริมทรัพย์หลายอย่างหลายที่ได้ปรับไป ไปปรับตัวเอง
00:16:14 → 00:16:19 ให้เอื้อไปทางด้านสุขภาพมากขึ้น ซึ่งหมอจะมีรายละเอียดมาแชร์
00:16:19 → 00:16:25 เพราะฉะนั้น Wellness Real Estate ก็คือการปรับตัวของภาคโรงแรม เกสท์เฮ้าส์
00:16:25 → 00:16:32 ภาคที่อยู่อาศัย ภาคคอนโดมิเนียม ให้ไปเอื้อกับระบบเรื่องสุขภาพ
00:16:32 → 00:16:36 ไม่ว่าจะเป็นการกรองอากาศ การฆ่าเชื้อ
00:16:36 → 00:16:41 อสังหาริมทรัพย์ที่เอื้อกับผู้สูงอายุ นั่นคือหลักการ
00:16:41 → 00:16:54 ที่ทำให้แขนงนี้หรือสาขานี้เติบโตทั่วโลกสูงเป็นอันดับ 1 ในตระกูลของการดูแลสุขภาพ ถึง 22.1% ในปีที่ผ่านมา
00:16:54 → 00:16:59 อันดับ 2 ที่เติบโตขึ้นมากก็คือ Mental Wellness
00:16:59 → 00:17:03 หรือสาขาที่เกี่ยวกับการลดความเครียด
00:17:03 → 00:17:10 การลดความกังวล สุขภาพจิต การนอนที่มีคุณภาพ การนั่งสมาธิ
00:17:10 → 00:17:17 หรือหลายๆอย่างที่ทำให้มนุษย์เรา พอเจอกับการระบาดของโรคภัยไข้เจ็บ
00:17:17 → 00:17:21 บวกกับโซเชียลมีเดียต่างๆ ที่เราเสพข่าวเยอะๆเข้าไป
00:17:21 → 00:17:28 ทำให้มนุษย์ในปัจจุบัน มีความเครียดขึ้นมาก มากกว่าสมัยก่อนเยอะ
00:17:28 → 00:17:32 ทำให้การดูแลสุขภาพจิต เป็นสาขาที่เมื่อก่อนไม่มี
00:17:32 → 00:17:36 แต่เพิ่งจะมีขึ้นมาแล้วเติบโตไวมาก
00:17:36 → 00:17:42 แสดงว่าอะไรครับ แสดงว่ามีจำนวนประชากรมากขึ้นเรื่อยๆ
00:17:42 → 00:17:45 ที่ต้องการความช่วยเหลือทางด้านสุขภาพจิต
00:17:45 → 00:17:49 มูลค่าในปีที่ผ่านมา 2563 ประเมินว่า
00:17:49 → 00:17:53 มูลค่าของ Mental Wellness Economy
00:17:53 → 00:18:00 สูงถึง 131,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เติบโต 7.2%
00:18:00 → 00:18:04 นี่ก็เป็นสาขาที่เติบโตสวนกระแสโควิด เพราะอะไรครับ
00:18:04 → 00:18:07 เพราะเมื่อโรคระบาด หมอเองยังเครียดเลย
00:18:07 → 00:18:11 ต้องหาวิธีในการจัดการ ควบคุม
00:18:11 → 00:18:15 ระบายความเครียดต่างๆ ความกังวลต่างๆออกไป
00:18:15 → 00:18:18 จะพูดว่าไม่เครียดเลย ก็คงจะพูดไม่ได้
00:18:18 → 00:18:22 แต่ใครที่จะเครียดแล้ว ปล่อยวางได้ไว
00:18:22 → 00:18:28 จับขึ้นมารู้ว่าร้อน รู้ว่ากังวล รู้ว่าไม่สบายใจ
00:18:28 → 00:18:35 ก็รีบวางซะใครวางก่อนก็ได้เปรียบ ใครถือไว้นานก็กัดกินตัวเอง
00:18:35 → 00:18:40 ข้อที่ 3 ครับ เป็นสาขาที่เติบโตสวนกระแสเช่นกันในยุคโควิด
00:18:40 → 00:18:46 สาขานี้ก็คือ การแพทย์เชิงเวชศาสตร์ป้องกันด้านสาธารณสุข
00:18:46 → 00:18:54 การแพทย์เฉพาะเจาะจงกับหรือที่เรียกว่า Preventive and Precision medicine (เวชศาสตร์ป้องกัน) และ Public Health (สาธารณสุข)
00:18:54 → 00:18:58 แน่นอนครับเมื่อโควิดมาอย่างที่หมอบอก
00:18:58 → 00:19:02 คนที่เมื่อก่อน ป่วยแล้วค่อยไปรักษา
00:19:02 → 00:19:04 รอให้ป่วยแล้วค่อยไปโรงพยาบาล
00:19:04 → 00:19:08 บางคนโชคดีหน่อย ป่วยเล็กน้อยรู้ตัวก่อนรีบไป
00:19:08 → 00:19:17 บางคนโชคร้ายหน่อย ป่วยเยอะเลย แต่ไม่มีอาการไม่รู้สึกตัว พอไปปุ๊บก็อาการหนักแล้ว
00:19:17 → 00:19:22 ฉะนั้นเวชศาสตร์ป้องกัน ก็คือการป้องกันไว้ดีกว่าแก้
00:19:22 → 00:19:26 การตรวจ เช่นเดียวกันกับคล้ายกับรถยนต์ครับ
00:19:26 → 00:19:32 การนำรถไปเช็คระยะ เพื่อดูว่ามีน็อตตรงไหนหลวม
00:19:32 → 00:19:37 น้ำมันเครื่องพอหรือเปล่า หล่อลื่นต่างๆ
00:19:37 → 00:19:40 ข้อต่อต่างๆโช๊คอัพต่างๆ เป็นอย่างไร
00:19:40 → 00:19:46 ก็เช่นเดียวกันกับคนนี่แหละครับ มนุษย์เราใช้ตัวเราในการทำทุกอย่าง
00:19:46 → 00:19:50 ทั้งดูแลครอบครัว ทั้งหาสะตุ้งสตางค์
00:19:50 → 00:19:56 ทั้งทำงานตามหน้าที่ ก็ย่อมมีความสึกหรอเกิดขึ้นเป็นธรรมดา
00:19:56 → 00:20:01 เพราะฉะนั้นการเช็คอัพการตรวจร่างกายก่อนเราจะป่วย เป็นสิ่งสำคัญ
00:20:01 → 00:20:06 แล้วก็เป็นหนึ่งในส่วนประกอบสำคัญของการแพทย์สาขานี้
00:20:06 → 00:20:13 ทำให้ครับเวชศาสตร์ป้องกัน นำขบวนเติบโตทั่วโลกสูงถึง 4.5%
00:20:13 → 00:20:21 มูลค่าในปี 2563 อยู่ที่ 375,000 กว่าล้านเหรียญทั่วโลก
00:20:21 → 00:20:25 เติบโตทุกปี เพราะว่าถ้าเลือกได้นะครับ
00:20:25 → 00:20:32 หมอเองก็อยากจะรู้ อยากจะรู้วิธี อยากจะป้องกันก่อนจะเจ็บป่วย
00:20:32 → 00:20:35 เช่นเดียวกันกับที่หมอมาบอกท่านผู้ฟังที่น่ารักทุกคน
00:20:35 → 00:20:41 ว่าเราอยากจะรู้แหละ ว่าเส้นทางที่เราจะเดินไปข้างหน้า
00:20:41 → 00:20:46 อะไรคืออุปสรรค อะไรคือความเสี่ยง อะไรคือกับระเบิดเราจะได้วางแผน
00:20:46 → 00:20:52 เรายังไงทุกคนก็ต้องแก่ แต่จะแก่อย่างไรให้มีคุณภาพ
00:20:52 → 00:20:57 เจ็บป่วยน้อยที่สุด เป็นภาระลูกหลานให้น้อยที่สุด
00:20:57 → 00:21:00 เราต้องเริ่มต้นตั้งแต่วันนี้ ตั้งแต่เรายังหนุ่มยังสาวเลย
00:21:00 → 00:21:04 แล้วเราก็จะประสบกับสิ่งที่ดีแน่นอน
00:21:04 → 00:21:10 แม้ว่าเราจะเผลอป่วยไป แต่เรารู้อยู่แก่ใจว่าเราทำดีที่สุดแล้ว
00:21:10 → 00:21:14 ดีกว่าเราประมาทนะครับปล่อยไปยังไง ก็ปล่อยไป
00:21:14 → 00:21:18 วันหนึ่งเผลอป่วยขึ้นมามันก็จะเสียหายหลายส่วน
00:21:18 → 00:21:25 ข้อที่ 4 สาขาที่เติบโตสวนกระแสก็คือ เรื่องอาหารสุขภาพ
00:21:25 → 00:21:33 อาหารสุขภาพอาหารที่กินแล้วดี ดีกับร่างกายต่อสู้กับโรค NCDs
00:21:33 → 00:21:38 อาหารน้ำตาลต่ำ อาหารออร์แกนิค อาหารเกลือน้อย
00:21:38 → 00:21:42 มูลค่าเติบโตสูงมาก ในปี พศ.2563
00:21:42 → 00:21:47 สาขานี้มีมูลค่าถึง 945,000 กว่าล้านเหรียญสหรัฐ
00:21:47 → 00:21:52 เกือบแตะ 1 ล้านล้านเหรียญ เติบโตขึ้น 3.6%
00:21:52 → 00:21:59 อันนี้คือทั้งหมด 4 สาขา ที่เติบโตแม้กระทั่งเจอกระแสโควิด
00:21:59 → 00:22:08 ส่วนสาขาในตระกูลเวลเนส หรือเศรษฐกิจเวลเนสหรือสุขภาพทั่วโลกที่ตกลงเยอะที่สุดแน่นอนครับ
00:22:08 → 00:22:13 คือสาขาที่เรามาคุยกันวันนี้ที่เรียกว่า Wellness Tourism
00:22:13 → 00:22:15 แต่ที่ตกลงเพราะมีสาเหตุ
00:22:15 → 00:22:20 ไม่ใช่ความใส่ใจความสนใจหรือกระแสตกลง
00:22:20 → 00:22:25 แต่เป็นเพราะข้อจำกัดทางด้านการเดินทาง การควบคุมโรคระบาด
00:22:25 → 00:22:31 เลยทำให้อินดัสตรี(Industry)หรือธุรกิจนี้ตกลงไปในปีที่ผ่านมา
00:22:31 → 00:22:39 วันนี้ครับเราจะมาขยายความกัน และเจาะลึกในสาขาที่ชื่อว่า "ตลาดสุขภาพทั่วโลก"
00:22:39 → 00:22:42 เพราะฉะนั้นการท่องเที่ยวสุขภาพ
00:22:42 → 00:22:45 เป็นหนึ่งในสาขาของตลาดสุขภาพทั่วโลก
00:22:45 → 00:22:50 ภาษาอังกฤษชื่อว่า Wellness Tourism
00:22:50 → 00:22:57 W-e-l-l-n-e-s-s T-o-u-r-i-s-m
00:22:57 → 00:22:59 Wellness แปลว่า สุขภาพ
00:22:59 → 00:23:01 Tourism แปลว่า นักท่องเที่ยว
00:23:01 → 00:23:05 นักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพนี้คืออะไร
00:23:05 → 00:23:06 ก่อนจะลงไปดูรายละเอียด
00:23:06 → 00:23:13 เราไปดูขนาดของสาขานี้กันก่อน ว่าทั่วโลกใหญ่ขนาดไหน
00:23:13 → 00:23:19 มูลค่าของ Wellness Tourism ในปี พ.ศ. 2561
00:23:19 → 00:23:24 มีมูลค่าสูงถึง 617,000 กว่าล้านเหรียญสหรัฐ
00:23:24 → 00:23:33 ในปี พ.ศ.2562 ปีต่อมาโตขึ้นมาที่ 720,000 กว่าล้านเหรียญสหรัฐ
00:23:33 → 00:23:37 จะเห็นว่าเติบโตสูงกว่าค่าเฉลี่ย
00:23:37 → 00:23:41 ค่าเฉลี่ยใน Wellness เริ่มโตปีละ 6.4%
00:23:41 → 00:23:46 สาขาการท่องเที่ยวเติบโตปีละ 8.1%
00:23:46 → 00:23:51 มาในปี พศ.2563 เจอกับมาตรการควบคุมโควิด
00:23:51 → 00:23:58 ทำให้มูลค่าตลาดเล็กลง เหลืออยู่ที่ 435,000 กว่าล้านเหรียญสหรัฐ
00:23:58 → 00:24:04 ตกลงมาถึง 39% แต่มีการคาดการณ์ว่า
00:24:04 → 00:24:09 ในปีพุทธศักราช 2564 ที่ผ่านมานี้ปีที่แล้ว
00:24:09 → 00:24:15 มูลค่าได้กลับมาแล้ว กลับมาโตขึ้นมาที่ 652,000 กว่าล้านเหรียญสหรัฐ
00:24:15 → 00:24:21 หรือเติบโตขึ้นมา 20% จะเห็นเลยครับว่าถ้าเมื่อไหร่เปิดประเทศ
00:24:21 → 00:24:28 หรือโรคระบาด มีการฉีดวัคซีนเยอะในปริมาณที่สมควร
00:24:28 → 00:24:33 ทำให้ความอันตรายลดลง หลายประเทศเริ่มกลับมา
00:24:33 → 00:24:37 เปิดประเทศมากขึ้น ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาในประเทศ
00:24:37 → 00:24:40 กระแสการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ กลับมาแน่นะครับ
00:24:40 → 00:24:45 เพราะฉะนั้นครับ GWI หรือ Global Wellness Institute
00:24:45 → 00:24:49 เลยคาดการณ์ว่าการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ
00:24:49 → 00:24:55 จะกลับมาเติบโตแบบก้าวกระโดดตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป
00:24:55 → 00:25:00 อีก 5 ปี จะเจริญเติบโตขึ้นถึงปีละ 20.9%
00:25:00 → 00:25:04 สูงมากนะครับที่ในยุคเศรษฐกิจไม่ดี
00:25:04 → 00:25:08 อะไรจะกลับมาเติบโตได้เกินว่า 10% ต่อปีนี้
00:25:08 → 00:25:11 ก็ถือว่าสุดยอด การเติบโตกว่า 20% นี้
00:25:11 → 00:25:14 ถือว่าเป็นอะไรที่ทั่วโลกสนใจกันมากๆ
00:25:14 → 00:25:19 และประเมินไว้ครับว่า มูลค่าตลาดการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ
00:25:19 → 00:25:23 จะทะลุ 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ
00:25:23 → 00:25:31 ในปี 2567 อีก 2 ปีเอง ไม่นานเลย ทุกท่านครับที่ฟังอยู่
00:25:31 → 00:25:36 ถ้าเป็นผู้ประกอบการเริ่มคิดได้เลยครับ วันนี้หมอจะเอาเคล็ดลับมาแชร์
00:25:36 → 00:25:40 มาเล่าให้ฟัง มาแลกเปลี่ยนกัน
00:25:40 → 00:25:44 ส่วนในคอมเมนต์ ใครเป็นผู้ประกอบการมีไอเดียดีๆ
00:25:44 → 00:25:48 เอามาแชร์ให้เพื่อนๆฟัง โอ้โห เราได้ช่วยกันครับ
00:25:48 → 00:25:51 ทำคนเดียวทำไม่ไหว ประเทศเราใหญ่
00:25:51 → 00:25:56 นักท่องเที่ยวจะมาเยอะ ถ้าเราร่วมกันทำเราก็จะดีขึ้น
00:25:56 → 00:26:02 ทวีปเอเชียมีการเติบโตทางด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ
00:26:02 → 00:26:05 เติบโตเป็นอันดับ 1 ของโลก (2015-2017)
00:26:05 → 00:26:14 เติบโต 33% ใน 2 ปี จากข้อมูลในปีคริสต์ศักราช 2018
00:26:14 → 00:26:23 มีนักท่องเที่ยวมาทวีปเอเชีย ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพสูงถึง 258 ล้านทริป/ครั้ง (อันดับ 2 ของโลกด้านจำนวน)
00:26:23 → 00:26:29 258 ล้านเที่ยวเยอะมาก การเติบโตเป็นอันดับ 1 ของโลกเลย (วัดเป็น % การเติบโต)
00:26:29 → 00:26:35 สำหรับทวีปเอเชียเรานี้ แล้วประเทศไทยล่ะครับเราก็ต้องมานั่งช่วยกัน
00:26:35 → 00:26:38 สร้างกันคนละไม้คนละมือ สร้างบรรยากาศ
00:26:38 → 00:26:42 ให้ชาวต่างชาติอยากจะมาเที่ยวเมืองไทย
00:26:42 → 00:26:44 แล้วก็เป็นนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ
00:26:44 → 00:26:50 ใช้จ่ายเยอะ เพื่อสร้างหลายๆสิ่งให้กับแผ่นดินเรา
00:26:50 → 00:26:56 เริ่มเห็นภาพนะครับ ว่าทำไมใครๆก็จับตามอง
00:26:56 → 00:26:59 และวางแผนเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวเหล่านี้
00:26:59 → 00:27:03 อะไรคือ"การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ" หรือ "Wellness Tourism"
00:27:03 → 00:27:08 อันนี้เราจะลงรายละเอียดแล้วนะ ที่หมอจะเล่าให้ฟัง
00:27:08 → 00:27:14 ปกติครับก่อนโควิด ประเทศไทยเราเป็นแหล่งท่องเที่ยวชั้นนำเลย
00:27:14 → 00:27:20 ที่นักท่องเที่ยวหลายประเทศ หลายกลุ่มอยากจะมา
00:27:20 → 00:27:24 มีหลายแบบ แบบกำลังซื้อสูง แบบนักท่องเที่ยวปรกติ
00:27:24 → 00:27:26 แบบแบ็คแพ็คเกอร์ (Backpacker) แบกเป้มา
00:27:26 → 00:27:34 แบบนักธุรกิจ แบบญาติๆพาคนในครอบครัวมารักษาโรค และตัวเองก็เที่ยวด้วย
00:27:34 → 00:27:39 ไม่ว่าแบบไหนก็ตาม ถือว่าดีต่อประเทศ
00:27:39 → 00:27:42 แล้วก็ผู้ประกอบการ แต่พอมีโควิดเป็นอย่างไรครับ
00:27:42 → 00:27:45 1 นักท่องเที่ยว เท่ากับ 1 ความเสี่ยง
00:27:45 → 00:27:52 หมอไม่ได้หมายความว่า นักท่องเที่ยวที่จ่ายเยอะ จะดีกว่านักท่องเที่ยวที่จ่ายน้อย ไม่ใช่ประเด็นนั้น
00:27:52 → 00:27:57 แต่หมอจะเล่าให้เห็นภาพว่า เมื่อ 1 คน เท่ากับ 1 ความเสี่ยง
00:27:57 → 00:28:00 หลายๆประเทศทั่วโลกนี้ จึงต้องปรับแผนว่า
00:28:00 → 00:28:04 ที่อยากจะให้ในช่วงต้นความเสี่ยงไม่เยอะ
00:28:04 → 00:28:07 เมื่อความเสี่ยงไม่เยอะจำนวนนักท่องเที่ยวก็ต้องไม่มาก
00:28:07 → 00:28:13 ถ้าไม่มากจะทำอย่างไรให้ดี ก็ต้องใช้จ่ายต่อหัวเยอะกว่าปกติ
00:28:13 → 00:28:19 ก็เลยเป็นที่มาว่า หลายประเทศปรับแผนดึงนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ
00:28:19 → 00:28:25 เพราะว่าใช้จ่ายสูง มีการวิจัยว่านักท่องเที่ยวที่มาเชิงสุขภาพ
00:28:25 → 00:28:30 จะใช้จ่ายต่อหัว ต่อครั้ง ต่อทริป ประมาณ 50,000 กว่าบาท
00:28:30 → 00:28:34 สูงกว่านักท่องเที่ยวทั่วไปถึง 53%
00:28:34 → 00:28:38 คิดภาพตามถ้า 1 คน เท่ากับ 1 ความเสี่ยง
00:28:38 → 00:28:44 ถ้าเราได้ค่าใช้จ่ายต่อหัวที่มีคุณภาพ ความเสี่ยงเราก็น้อยลง
00:28:44 → 00:28:47 อะไรครับคือ นักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ
00:28:47 → 00:28:50 เป็นอย่างไร เล่ามาเริ่มเห็นภาพแล้ว
00:28:50 → 00:28:53 ติดตามแล้ววาดภาพตามแล้ว เริ่มเข้าใจหน่อยแล้ว
00:28:53 → 00:28:56 แต่ก็ยังอยากทราบว่านักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ
00:28:56 → 00:29:00 เข้ามาแล้วเขาทำอะไรกัน เขาเป็นอย่างไร
00:29:00 → 00:29:03 ทั้งหมดที่หมอกล่าวนี้ ก็จะมีรายละเอียดปลีกย่อย
00:29:03 → 00:29:05 ในแต่ละประเทศนี้ที่ต่างกัน
00:29:05 → 00:29:10 แต่เวลาพูดคุยกันในการประชุมวิชาการระดับโลก
00:29:10 → 00:29:17 จะพูดหลักๆคล้ายๆกัน ดังนี้ คือ การมาเที่ยวที่ดูแลสุขภาพไปด้วย
00:29:17 → 00:29:23 เช่น มาเที่ยวเมืองไทยแล้วมีการไปปรึกษาแพทย์
00:29:23 → 00:29:26 ตัวคนมาเที่ยวก็ไม่ได้ป่วย แต่ปรึกษาแพทย์
00:29:26 → 00:29:30 เช่น แพทย์ทางด้านเวชศาสตร์ป้องกัน ช่วยตรวจร่างกายประจำปี
00:29:30 → 00:29:35 ว่าผมมีน้ำตาลเป็นอย่างไร ไขมันเป็นอย่างไร หลอดเลือดเป็นอย่างไร
00:29:35 → 00:29:40 ไขมันพอกตับมีหรือยัง ร่างกายแพ้อาหารชนิดไหน
00:29:40 → 00:29:42 มีโอกาสมีความเสี่ยง รหัสพันธุกรรม (Genetic)
00:29:42 → 00:29:46 จะเป็นมะเร็งไหมในอนาคต หลายๆอย่างเหล่านี้
00:29:46 → 00:29:49 เราเรียกว่า "การแพทย์เชิงสุขภาพ"
00:29:49 → 00:29:54 เพราะฉะนั้นครับบางคน เขามาเที่ยวเสร็จ เขามาเจอแพทย์ด้วย
00:29:54 → 00:29:56 เขาเจาะเลือดตรวจร่างกายเสร็จ
00:29:56 → 00:30:00 แล้วก็ไปเที่ยวต่อ ก่อนกลับก็มาฟังผลกับแพทย์
00:30:00 → 00:30:06 เพื่อวางแผนการดูแลตัวเอง เมื่อกลับไปประเทศจะดูแลอย่างไร
00:30:06 → 00:30:09 อย่างนี้ก็เรียกนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพครับ
00:30:09 → 00:30:13 ต่อไปครับ นักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพบางกลุ่ม
00:30:13 → 00:30:17 ก็จะมาแล้วต้องการรับประทานอาหารที่ดี
00:30:17 → 00:30:24 ที่มีคุณภาพดีต่อสุขภาพ เช่น อาหารออร์แกนิค (Organic Foods) เกษตรอินทรีย์
00:30:24 → 00:30:29 อาหาร Healthy อาหารสุขภาพดี ไม่ใช่อาหาร Junk food (อาหารขยะ)
00:30:29 → 00:30:36 อาหารท้องถิ่นที่มีเรื่องราวดีต่อสุขภาพ มีการปลูกมีสตอรี่ (Storytelling)
00:30:36 → 00:30:41 โอ้โห ผู้ประกอบการทุกท่านเลย สามารถเพิ่มมูลค่าได้
00:30:41 → 00:30:48 สำหรับอาหารต่างๆของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการปลูกที่ไม่ใส่สารเคมี
00:30:48 → 00:30:51 ที่เป็นการปลูกแบบอินทรีย์
00:30:51 → 00:30:55 หมอว่าหัวข้อนี้ใหญ่มาก หลายๆท่านสามารถไปประยุกต์ได้เลย
00:30:55 → 00:30:59 แล้วก็สามารถสร้างเรื่องราวของอาหารตัวเอง (Soft Power)
00:30:59 → 00:31:06 ซึ่งเวลาเราไปประเทศอื่น เวลาเขามีสตอรี่หรือว่ามีเรื่องราวมา
00:31:06 → 00:31:12 เราก็จะรู้สึก โอ้โห น่าสนใจน่ารับประทาน บ้านเราก็เช่นเดียวกัน
00:31:12 → 00:31:14 ทุกท่านสามารถไปต่อยอดได้
00:31:14 → 00:31:19 นักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เขาก็จะไม่ค่อยชอบของหวานจัด
00:31:19 → 00:31:25 ของมันจัด ของไม่ดี ของทอด อาหารแปรรูปต่างๆ (Processed Foods)
00:31:25 → 00:31:30 ต้องระมัดระวังด้วย ควรจะเป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพ
00:31:30 → 00:31:35 น้ำตาลน้อย เค็มน้อย หวานน้อย มันน้อย อย่างนั้นเป็นต้น
00:31:35 → 00:31:43 ต่อไปครับ นักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ บางกลุ่ม ต้องการมาเพื่อที่จะดูแล ลดความเครียด
00:31:43 → 00:31:47 มาเที่ยวแล้วผ่อนคลายไปด้วย บำรุงสุขภาพจิตไปด้วย
00:31:47 → 00:31:52 บ้านเราก็ โอ้โห ถือว่าเป็นประเทศที่พร้อมมาก
00:31:52 → 00:31:55 เรื่องเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นมาเที่ยวเสร็จ
00:31:55 → 00:32:01 เขาอาจจะหาคอร์ส สอนการนั่งสมาธิ (Meditation) การปฏิบัติธรรม
00:32:01 → 00:32:05 การเดินจงกรม (Walking Meditation) การเล่นโยคะ (Yoga)
00:32:05 → 00:32:11 การเล่นไท้เก๊ก (Tai Chi) ไปจนถึงการนวดไทยแพทย์แผนไทย (Thai Traditional Massage)
00:32:11 → 00:32:14 ลูกประคบ สิ่งต่างๆเหล่านี้ครับ
00:32:14 → 00:32:19 สามารถดูแลสุขภาพจิตของนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวได้
00:32:19 → 00:32:23 มากเลยทีเดียว บางกลุ่มมาท่องเที่ยวไปด้วย
00:32:23 → 00:32:31 เขาต้องการเสพ ศิลปะ ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมลงรายละเอียด
00:32:31 → 00:32:33 แทนที่จะเที่ยว 1 วัน 5 ที่ใช่ไหมครับ
00:32:33 → 00:32:39 อาจจะอยากเที่ยว 1 ที่ แต่ต้องการผู้รู้คนท้องถิ่น(ปราชญ์ชาวบ้าน)
00:32:39 → 00:32:43 ที่มีรายละเอียดเล่าให้ฟังถึงประวัติศาสตร์
00:32:43 → 00:32:47 แบบนั้นก็เรียกว่า การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพเหมือนกัน
00:32:47 → 00:32:51 ได้มีการผ่อนคลาย ไม่เร่งรีบจนเกินไป
00:32:51 → 00:32:57 ได้เสพศิลปะ แบบนี้ก็ทำให้สบายกายสบายใจไปด้วย
00:32:57 → 00:33:00 กลุ่มต่อไป นักท่องเที่ยวในเชิงสุขภาพ
00:33:00 → 00:33:07 ต้องการหรือมองหาที่พักที่ปลอดภัย แม้ในยามฉุกเฉิน
00:33:07 → 00:33:11 โรงแรมสามารถปรับกันได้ เดี๋ยวตอนท้ายหมอมีเทคนิคมาแนะนำ
00:33:11 → 00:33:15 ยกตัวอย่างน้อยๆก่อนครับ
00:33:15 → 00:33:20 โรงแรมที่พักที่มีที่จับกันลื่นในห้องน้ำหรือที่เรียกว่า Handle for Elderly and Handicapped
00:33:20 → 00:33:24 ในห้องอาบน้ำ ในเวลาอาบน้ำบางทีพื้นลื่น
00:33:24 → 00:33:30 ควรจะมีที่จับมีราวจับ เวลานั่งห้องน้ำก็จะมีที่จับ
00:33:30 → 00:33:34 เพราะบางครั้งผู้สูงอายุ นั่งห้องน้ำนานแล้วลุกไม่ไหว
00:33:34 → 00:33:39 ต้องมีช่วยดัน ช่วยประคองมีที่จับ อย่างนี้เป็นต้น
00:33:39 → 00:33:46 หรือเวลาตอนกลางคืนเดินไปเข้าห้องน้ำ เดี๋ยวนี้จะมีไฟส่องสว่างแบบเป็นเซนเซอร์
00:33:46 → 00:33:51 ถ้าเราไม่ขยับก็มืด พอเราขยับลงจากเตียงปุ๊บไฟก็ติด
00:33:51 → 00:33:56 เดินไปเข้าห้องน้ำ ก็จะลดโอกาสการสะดุดหกล้มได้ด้วย
00:33:56 → 00:34:01 หรือแม้กระทั่งยามเกิดเหตุฉุกเฉิน มีเครื่องกระตุกหัวใจ
00:34:01 → 00:34:06 ปัจจุบันเรียกว่าเครื่อง AED หรือ Automated External Defibrillator เป็นที่แพร่หลายมากครับ
00:34:06 → 00:34:11 ติดไว้ตามจุดต่างๆ ก็สามารถช่วยชีวิตได้ในยามฉุกเฉิน
00:34:11 → 00:34:15 ทั้งหมดนี้เรียกว่า การท่องเที่ยวในเชิงสุขภาพ
00:34:15 → 00:34:24 เราไปดูกันต่อ ในภาคประเทศไทยมีข้อมูลจากศูนย์วิจัยกสิกรไทย
00:34:24 → 00:34:29 เป็นข้อมูลตัวเลขของปี พศ.2560 ว่าประเทศไทยเรา
00:34:29 → 00:34:35 มีนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ สูงถึง 12.5 ล้านคน
00:34:35 → 00:34:42 สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวมูลค่า 400,000 กว่าล้านบาท
00:34:42 → 00:34:46 เกิดการจ้างงาน สูงถึง 530,000 กว่าคน
00:34:46 → 00:34:54 การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ประเทศเราติดอันดับ 4 ของเอเชีย
00:34:54 → 00:35:01 เป็นรองจากจีน ญี่ปุ่น และอินเดีย และเติบโตเป็นอันดับ 10 ของโลก
00:35:01 → 00:35:05 แสดงว่าถ้าพวกเราวางแผนช่วยกันดีๆ
00:35:05 → 00:35:07 เราสามารถไต่อันดับขึ้นมาได้อีกนะครับ
00:35:07 → 00:35:13 แล้วก็พร้อมที่จะรองรับนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพจากทั่วโลกอีกด้วย
00:35:13 → 00:35:23 เราไปดูกันต่อ ปัจจัยอื่นๆ ที่ทำให้ไทยมีศักยภาพในการดึงดูด นักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพมาประเทศเรา
00:35:23 → 00:35:27 ต้องมีปัจจัย เพราะเมื่อถ้าปัจจัยเอื้ออำนวย
00:35:27 → 00:35:32 ทุกท่านจะได้เชื่อหมอแอมป์ วันนี้ที่มาเล่าให้ฟังที่หมอแอมป์พูด
00:35:32 → 00:35:36 เริ่มคล้อยตามนะ เราจะเตรียมตัวรับนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้กัน
00:35:36 → 00:35:39 ไปดูปัจจัยสนับสนุนกันหน่อยนะครับ
00:35:39 → 00:35:44 1 ครับ มีการวิจัยจัดอันดับจากมหาวิทยาลัยจอห์นฮอปกินส์ (Johns Hopkins University)
00:35:44 → 00:35:53 ให้ประเทศไทยครับอยู่อันดับที่ 6 ของโลก หรือที่ 1 ของเอเชียจาก 195 ประเทศทั่วโลก
00:35:53 → 00:35:58 ในเรื่องดัชนีความมั่นคงทางด้านสุขภาพ (Health Security)
00:35:58 → 00:36:05 2 ครับ ประเทศไทยเป็น Medical Hub หรือศูนย์กลางทางการรักษา
00:36:05 → 00:36:12 ในการรักษาพยาบาลระดับโลก เรามีโรงพยาบาลที่ได้รับการรับรอง
00:36:12 → 00:36:16 หลักๆที่ดังๆก็คือ JCI (Joint Commission International) อย่างนี้เป็นต้น
00:36:16 → 00:36:19 สูงติดอันดับ 1 ใน 5 ของโลก
00:36:19 → 00:36:23 ทำให้นักท่องเที่ยว เวลาเข้ามาในเขาไม่ได้ป่วยใช่ไหมครับ
00:36:23 → 00:36:26 แต่เขาต้องคิดครับว่า ถ้าเกิดเจ็บป่วยขึ้นมา
00:36:26 → 00:36:32 ประเทศนั้นๆจะดูแลรักษาพยาบาลตัวเขา และครอบครัวเขาได้หรือเปล่า
00:36:32 → 00:36:39 เมืองไทยมุ่งมั่น ขึ้นเป็น Medical Hub ระดับโลกติดต่อกันมาหลายปี
00:36:39 → 00:36:43 เราก็โด่งดังในโลกใบนี้ เรื่องการรักษาทางการแพทย์
00:36:43 → 00:36:48 เพราะฉะนั้น ถ้าเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันหรือเจ็บป่วย
00:36:48 → 00:36:51 การรักษาพยาบาลในประเทศไทยมีคุณภาพ
00:36:51 → 00:36:55 ก็ยิ่งทำให้นักท่องเที่ยวมั่นใจที่อยากจะมา
00:36:55 → 00:36:58 โดยเฉพาะคนที่มีโรคประจำตัว
00:36:58 → 00:37:02 เช่น ใส่บอลลูนหัวใจอยู่หรือมีโรคประจำตัวต่างๆ
00:37:02 → 00:37:07 ถ้าไปเที่ยวแล้วเกิดเหตุการณ์ปะทุขึ้นมาจะไปรักษาดูแลที่ไหน
00:37:07 → 00:37:13 ถ้าคิดว่ามีคุณภาพดีดูแลได้ ก็มั่นใจอยากมามากขึ้น อย่างนั้นเป็นต้น
00:37:13 → 00:37:22 3 ครับ ประเทศไทยได้รับการจัดอันดับ จาก Wellness Tourism Initiative ในปี 2020 ว่า
00:37:22 → 00:37:31 โหวตให้ได้ที่ 2 ของโลกเลย ในด้านการเป็นเป้าหมายประเทศที่คนอยากมาท่องเที่ยวเชิงสุขภาพมากที่สุด
00:37:31 → 00:37:35 เป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากออสเตรเลีย
00:37:35 → 00:37:42 ข้อที่ 4 ครับ กรุงเทพฯ ได้รับการจัดอันดับให้เป็นอันดับ 1 ของโลก
00:37:42 → 00:37:47 สำหรับสถานที่ที่เหมาะสำหรับการทำงานไปด้วยแล้วก็ท่องเที่ยวไปด้วย
00:37:47 → 00:37:51 มีคำศัพท์ใหม่ในปัจจุบันเรียกว่า “Workation”
00:37:51 → 00:37:55 ก็คือทำงานด้วย แล้วก็พักผ่อนไปด้วย
00:37:55 → 00:37:59 ติดอันดับ 1 ของโลกเลยจะจาก Holidu Magazine U.K.
00:37:59 → 00:38:04 ตามมาด้วยเชียงใหม่ แล้วก็ภูเก็ต ได้อันดับ 10 ของโลก
00:38:04 → 00:38:07 ที่คนอยากจะมาทำงานไปด้วย ท่องเที่ยวไปด้วย
00:38:07 → 00:38:13 ข้อที่ 5 ครับ ประเทศไทยครับถูกจัดอันดับเป็นสถานที่ที่คนเกษียณ
00:38:13 → 00:38:20 อยากจะไปอยู่ที่สุด อันดับ 5 ของโลกจาก Money U.K.
00:38:20 → 00:38:25 เขาเรียกว่าเป็น The most retirement place คืออยากไปเกษียณ
00:38:25 → 00:38:28 นี่แหละครับ ข้อมูลระดับโลก
00:38:28 → 00:38:34 จะเห็นว่าประเทศเราน่าภูมิใจมาก ติดอันดับโลกหลายรายการ
00:38:34 → 00:38:40 ยิ่งเอื้อให้ดึงดูดคนต่างชาติว่าช่วยมา มาเที่ยว
00:38:40 → 00:38:46 มาสืบเสาะ มาสัมผัสประสบการณ์ที่ประเทศไทยเรา
00:38:46 → 00:38:50 คราวนี้ครับ ส่วนสุดท้ายของรายการ หมอมีข้อแนะนำครับ
00:38:50 → 00:38:55 ท่านผู้ฟังผู้ประกอบการคนที่สนใจ
00:38:55 → 00:39:00 สำหรับการวางแผนดึงดูดนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ
00:39:00 → 00:39:03 ใครทำอะไร ส่วนไหนอยู่จริงๆเป็นภาพใหญ่
00:39:03 → 00:39:06 ที่ต้องการความร่วมมือของทุกภาคส่วน
00:39:06 → 00:39:15 1 ครับ ภาคโรงแรม ที่พัก อสังหาริมทรัพย์ เกสท์เฮ้าส์ ที่พักต่างๆ
00:39:15 → 00:39:20 สามารถปรับสถานที่ให้เอื้อกับผู้มาพักทางด้านสุขภาพได้
00:39:20 → 00:39:28 มีหลายอย่างที่หมอเอามาแชร์ เช่น 1 มีที่จับ มีราวจับตามที่ต่างๆ
00:39:28 → 00:39:34 ในห้องน้ำตามพื้นต่างระดับ มีการติดสติกเกอร์ที่พื้น
00:39:34 → 00:39:38 สีสะท้อนแสงสำหรับอะไรที่เป็นขั้น(Step)หรือพื้นต่างระดับ
00:39:38 → 00:39:44 เพื่อป้องกันการหกล้ม ที่จับในห้องน้ำ ที่จับในห้องอาบน้ำ
00:39:44 → 00:39:50 ที่พยุงตัวขึ้นเวลานั่งห้องน้ำ ทางขึ้นลงบันได เป็นต้น
00:39:50 → 00:39:55 ต่อไปครับ ไฟส่องสว่างยามค่ำคืนแบบเซนเซอร์
00:39:55 → 00:40:00 ลุกมาจากเตียงใช่ไหมครับ มืดมาก ผู้ใหญ่แม้กระทั่งตัวเราวัยรุ่น
00:40:00 → 00:40:04 เผลอสะดุด ก็เคยเจอ เตะโต๊ะ เตะเตียง
00:40:04 → 00:40:09 เมื่อไฟเซนเซอร์เกิดขึ้น การเดินไปห้องน้ำก็จะปลอดภัยขึ้น
00:40:09 → 00:40:13 แล้วก็พยายามปรับ ให้พื้นไม่ลื่นจนเกินไป
00:40:13 → 00:40:19 แล้วก็ส่วนต่างระดับไม่เยอะ ก็จะเอื้อกับนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพได้
00:40:19 → 00:40:28 ต่อไปครับ เตียง ฟูก ที่นอน หมอนมีหลายระดับความแข็ง ความนุ่ม
00:40:28 → 00:40:31 เพราะอะไรครับ เพราะคนเราต่างกัน
00:40:31 → 00:40:36 บางคนปวดหลัง บางคนปวดคอ บางคนหมอนนิ่ม บางคนหมอนอ่อน
00:40:36 → 00:40:41 อะไรที่เกี่ยวกับสุขภาพการนอน (Sleep Wellness) ถือเป็นเรื่องสำคัญมากครับ
00:40:41 → 00:40:47 เกี่ยวกับสุขภาพ อาจจะมีการเพิ่มเติม มีฟูก มีที่นอนมีหลายระดับ
00:40:47 → 00:40:55 มีการแจกที่อุดหู (Ear Plug) เพื่อให้การนอนเสร็จแล้วเงียบ ไม่ถูกปลุก นอนหลับลึก
00:40:55 → 00:41:00 ผ้าม่านต่างๆพยายามทำให้กันแสงแดด
00:41:00 → 00:41:04 บางคนอาจจะทำงานดึก อยากจะตื่นสาย
00:41:04 → 00:41:08 เจอแสงแดดเข้ามาเยอะ ก็ตื่นเช้านอนหลับไม่พอเพียง
00:41:08 → 00:41:19 ถ้ามืดสนิท เงียบสนิท มีไฟส่องสว่าง ฟูกที่นอน หมอนมีหลายระดับความนุ่ม นี่เกี่ยวกับเรื่องสุขภาพหมดเลย
00:41:19 → 00:41:26 ข้อต่อไปครับ บางโรงแรมอาจจะมีหลายชั้น ถ้าเป็นคนหนุ่มคนสาว ขึ้นบันไดก็เป็นการออกกำลังที่ดี
00:41:26 → 00:41:32 แต่ผู้สูงอายุบางครั้งท่านอาจจะไม่ไหวอาจจะมีการติดตั้งลิฟท์
00:41:32 → 00:41:35 เพื่อให้เข้าถึงง่าย ขึ้นง่ายสะดวกง่าย
00:41:35 → 00:41:39 อันนี้ก็จะเอื้อกับเรื่องของสุขภาพของวัยผู้สูงอายุ (Elderly)
00:41:39 → 00:41:48 และข้อต่อไปครับ อาจมีการเพิ่มเติมอุปกรณ์กีฬาออกกำลังกายข้างเตียง เพราะบางครั้ง
00:41:48 → 00:41:51 การออกไปออกกำลังกายนอกบ้าน (Outdoor) ดีมากก็จริง
00:41:51 → 00:41:54 แต่บางคนอาจจะมาอยู่เมืองไทย
00:41:54 → 00:41:57 แล้วมาประชุม มาทำงานไปด้วย เที่ยวไปด้วย
00:41:57 → 00:42:02 การมีเครื่องออกกำลังกายอยู่ใกล้มือ อย่างน้อยก็ได้ทำบ้าง (Bedside Exercise)
00:42:02 → 00:42:09 เช่น มีลูกตุ้มยกน้ำหนักให้ในห้องพัก มีจักรยานปั่นอยู่กับที่ก็ดี
00:42:09 → 00:42:12 มีลู่เดินหรือลู่วิ่งอยู่กับที่ เดี๋ยวนี้มีตัวไม่ใหญ่
00:42:12 → 00:42:14 มีเบาะโยคะให้ อย่างนี้เป็นต้น
00:42:14 → 00:42:19 นักท่องเที่ยวที่เขามาเขาก็รู้สึกว่า อยู่ในห้องตัวเองก็ออกได้
00:42:19 → 00:42:24 เดี๋ยวเย็นๆออกไปออกข้างนอกด้วย ก็ได้หลายทอดหลายเด้ง
00:42:24 → 00:42:28 ข้อต่อไปครับ มีการฝึกพนักงาน หมอแนะนำ
00:42:28 → 00:42:34 ให้เข้าหลักสูตรการช่วยชีวิตการปั๊มหัวใจ
00:42:34 → 00:42:38 การใช้เครื่องกระตุกหัวใจหรือเครื่อง AED
00:42:38 → 00:42:41 เรื่องเหล่านี้สำคัญมากสามารถช่วยชีวิต (Save Life)
00:42:41 → 00:42:44 หรือช่วยชีวิตคนได้ในยามฉุกเฉิน
00:42:44 → 00:42:47 ถ้าโรงแรมเรามี ที่พักเรามี
00:42:47 → 00:42:49 เราติดสัญญาณเอาไว้เราติดเครื่องเอาไว้
00:42:49 → 00:42:54 ผู้ที่มาพักเขาก็รู้สึกว่าอุ่นใจ
00:42:54 → 00:43:00 ข้อต่อไปครับ มีรถเข็นไว้คอยบริการผู้สูงอายุ อันนี้ก็สำคัญ
00:43:00 → 00:43:04 ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในโรงแรมในที่พัก ถ้าเป็นมิตรกับธรรมชาติจะดีมาก
00:43:04 → 00:43:11 ปราศจากสารเคมี ใช่ไหมครับ เช่น สบู่ แชมพู ยาสีฟัน ออร์แกนิค
00:43:11 → 00:43:14 อันนี้ก็สามารถเพิ่มมูลค่าได้อีก
00:43:14 → 00:43:19 ลดการใช้พลาสติกเพื่อสุขภาพของคนทั้งโลก ของโลกเราด้วย
00:43:19 → 00:43:24 ใช้หลอดกระดาษ ใช้น้ำขวดแก้วอันนี้ก็เป็นตัวอย่าง
00:43:24 → 00:43:28 หมอว่าท่านผู้ฟังหลายท่าน น่าจะมีไอเดียเพิ่มเติมอีก
00:43:28 → 00:43:32 ใครมีไอเดียดีๆก็แลกเปลี่ยนไว้ในคอมเมนต์
00:43:32 → 00:43:38 เพื่อจะสร้างสังคม Wellness Tourism ให้มีคุณภาพ ให้ประเทศเราเป็น
00:43:38 → 00:43:41 ซึ่งใจจริงอยากให้ติดที่ 1 เลยครับ
00:43:41 → 00:43:45 สำหรับสถานที่ทุกคนอยากจะมาดูแลสุขภาพ
00:43:45 → 00:43:49 และมาเกษียณ แล้วมาทำงานที่ประเทศไทยเรา
00:43:49 → 00:43:52 เคล็ดลับต่อไป ข้อที่ 2 เกี่ยวกับร้านอาหาร
00:43:52 → 00:43:58 หรือผู้ประกอบการต่างๆสามารถปรับได้โดย
00:43:58 → 00:44:08 เช่น ใช้วัตถุดิบท้องถิ่น ของดีมีคุณภาพ ดีต่อสุขภาพ พืชผักสวนครัว ธัญพืชต่างๆ
00:44:08 → 00:44:16 ผลไม้ต่างๆ เกษตรอินทรีย์ ใช้ภูมิปัญญาชาวบ้านไม่ได้ใช้สารเคมี
00:44:16 → 00:44:19 ให้เขารู้เลยว่าอาหารที่เรามาเสิร์ฟนี้เป็นออร์แกนิก (Organic foods)
00:44:19 → 00:44:23 กลุ่มนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ชอบมาก
00:44:23 → 00:44:26 ลดการใช้น้ำตาล หรือเกลือที่เค็มจนเกินไป
00:44:26 → 00:44:30 เราอาจจะเขียนว่าเป็นเค็มน้อย (Low Salt)
00:44:30 → 00:44:36 น้ำตาลน้อย (Low Sugar) เน้นนึ่ง ไม่เน้นทอด อย่างนี้เป็นต้น
00:44:36 → 00:44:40 เน้นผัก ธัญพืช ผลไม้ (Wholefoods) แทนของทอด ของมัน
00:44:40 → 00:44:44 พยายามหลีกเลี่ยงอาหารแปรรูป (Processed Foods) เนื้อสัตว์แปรรูป (Processed Meats)
00:44:44 → 00:44:50 น้ำตาล High Fructose Corn Syrup (HFCS) ซึ่งเป็นของอันตรายสำหรับคนรักสุขภาพ
00:44:50 → 00:44:56 เนื่องจากนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ส่วนใหญ่อายุจะค่อนข้างที่จะสูง
00:44:56 → 00:45:00 อายุเฉลี่ย หรือที่เขาเรียกว่ากลุ่ม Silver Age
00:45:00 → 00:45:03 กลุ่ม Silver Age ก็คือมีอายุ 50 ปีขึ้นไป
00:45:03 → 00:45:07 ผมเริ่มเป็นสีหงอก ใช่ไหมครับ สีเงิน เขาก็เรียก Silver Age
00:45:07 → 00:45:13 พูดให้เป็นแบบทันสมัย(Intrend) ก็เป็นวัยอิสระวัยที่มีสตางค์แล้ว
00:45:13 → 00:45:17 มีเวลาแล้ว ไปเที่ยวได้ ลูกหลานโตหมดแล้ว
00:45:17 → 00:45:20 กลุ่มนี้แหละครับ คือกลุ่มเป้าหมายที่จะมาท่องเที่ยว
00:45:20 → 00:45:23 มาหาทุกท่านเลยที่เตรียมตัวกันอยู่
00:45:23 → 00:45:30 ถ้าเป็นร้านอาหาร เราปรับอย่างไรดีครับ ถ้าคณะ ส.ว.เยอะ ผู้สูงวัย
00:45:30 → 00:45:33 เราก็ต้องปรับ จากเมนูตัวหนังสือเล็กๆ
00:45:33 → 00:45:39 ก็แนะนำว่าเมนูควรจะตัวหนังสือใหญ่ๆ มีรูปภาพเยอะๆ
00:45:39 → 00:45:45 มีข้อมูลทางโภชนาการจะดีมาก กี่แคลอรี น้ำตาลกี่กรัม
00:45:45 → 00:45:48 เกลือเท่าไหร่ ไขมันเท่าไหร่ เพียงเท่านี้ครับ
00:45:48 → 00:45:51 เราก็สร้างความแตกต่างของร้านเราได้แล้ว
00:45:51 → 00:45:55 ว่าเราเน้นสุขภาพ เราเน้นอาหารที่ดีต่อสุขภาพ
00:45:55 → 00:46:02 เอื้อต่อสุขภาพ แล้วคนที่มารับประทาน สามารถรู้ด้วยว่าตัวเองรับประทานอะไรไป
00:46:02 → 00:46:07 มาจากไหน แคลอรีเท่าไหร่ เกลือเท่าไหร่ ไขมันเท่าไหร่
00:46:07 → 00:46:11 น้ำตาลเท่าไหร่ เป็นไขมันแปรรูปหรือเปล่า แบบนี้เป็นต้น
00:46:11 → 00:46:15 ข้อที่ 3 ครับ การมาเที่ยวในเชิงสุขภาพ
00:46:15 → 00:46:19 เขาต้องการออกกำลังด้วย ต้องการดูแลเรื่องจิตใจด้วย
00:46:19 → 00:46:23 เพราะฉะนั้น เราสามารถแตกแขนงได้อีก
00:46:23 → 00:46:25 การท่องเที่ยวเชิงออกกำลังกาย (Physical Activity)
00:46:25 → 00:46:34 เช่น ไปเดินป่า ไปปีนเขา ไปดำน้ำ ไปเล่นไทเก๊ก ไปผจญภัย ไปพายเรือ มวยไทย เป็นต้น
00:46:34 → 00:46:40 โอ้โห หลายท่านที่ทำทางด้านนี้อยู่ ก็สามารถเติมเข้าไปใช่ไหมครับ
00:46:40 → 00:46:44 เช่น วันแรกเขามาไปเจอหมอเจาะเลือด
00:46:44 → 00:46:47 วันที่ 2 เขาว่างพาเขาไปกินอาหารดีๆ
00:46:47 → 00:46:52 พาเขาไปทำ Activity กิจกรรมที่ได้ออกกำลังกาย
00:46:52 → 00:46:56 ไปจนถึงการให้บริการทางด้านการดูแลสุขภาพจิต (Mental Wellness)
00:46:56 → 00:46:59 ไม่ว่าจะเป็นที่ผมบอกไปแล้ว
00:46:59 → 00:47:04 คอร์สนั่งสมาธิ คอร์สปฏิบัติธรรม การเดินจงกรม
00:47:04 → 00:47:09 การเล่นโยคะ การเล่นไท้เก๊ก สปาต่างๆ
00:47:09 → 00:47:13 บ่อน้ำพุร้อน เราสามารถเพิ่มมูลค่าได้หมดเลย
00:47:13 → 00:47:16 เมื่อเอาเรื่องสุขภาพมาเกี่ยวข้อง
00:47:16 → 00:47:20 ข้อที่ 4 ครับการท่องเที่ยวในเชิงประวัติศาสตร์
00:47:20 → 00:47:24 สำหรับประเทศเรา สิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม
00:47:24 → 00:47:29 ต่างชาติให้ความสนใจมาก ถือเป็นการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพด้วย
00:47:29 → 00:47:35 เพราะว่าดีต่อสุขภาพจิต เป็นการสร้างงานให้ชุมชน และท้องถิ่น
00:47:35 → 00:47:38 ไกด์ท้องถิ่นเอย คนในท้องถิ่นเอย
00:47:38 → 00:47:44 ที่มีความรู้ทางด้านศิลปวัฒนธรรมก็สามารถที่จะมานำเที่ยว
00:47:44 → 00:47:50 พาไปรู้ประวัติต่างๆ คนกลุ่มนี้เขาก็จะชอบมาก นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้
00:47:50 → 00:47:55 ข้อที่ 5 แพทย์แผนไทย สมุนไพรไทย
00:47:55 → 00:48:01 สามารถเสริม ยกระดับการท่องเที่ยวให้มีคุณภาพมากขึ้นในเชิงสุขภาพ
00:48:01 → 00:48:05 และสามารถเข้าถึงกลิ่นอายของประเทศเราได้อีก
00:48:05 → 00:48:11 ไม่ว่าจะเป็นการนวดไทย การนวดแผนโบราณ ลูกประคบ
00:48:11 → 00:48:15 สมุนไพรไทยบำรุงสุขภาพมีเยอะมากเลย
00:48:15 → 00:48:21 ตั้งแต่กระชาย ขมิ้นชัน มะขามป้อม มะกรูด กะเพรา
00:48:21 → 00:48:24 โอ้โห สิ่งเหล่านี้ดีต่อสุขภาพด้วย
00:48:24 → 00:48:30 แล้วก็มีเรื่องราวด้วย ทั้งหมดที่หมอกล่าวมาวันนี้
00:48:30 → 00:48:35 จะเห็นว่าเป็นการทำให้ประเทศไทยของเรานี้เป็นศูนย์กลาง
00:48:35 → 00:48:38 ของการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ
00:48:38 → 00:48:42 ในเรื่องเหล่านี้เราไม่สามารถทำได้ด้วยตัวคนเดียว
00:48:42 → 00:48:46 หมอแอมป์ก็ไม่สามารถทำได้ ด้วยตัวหมอแอมป์เองคนเดียว
00:48:46 → 00:48:49 หรือหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง เพียงหน่วยงานเดียว
00:48:49 → 00:48:53 แต่ต้องเป็นการร่วมมือกันของทุกคน ทุกฝ่าย
00:48:53 → 00:48:56 ไม่ว่าจะเป็นตัวเราเอง ครอบครัวเรา
00:48:56 → 00:49:01 ผู้ประกอบการธุรกิจ นักวิชาการ ประชาชน
00:49:01 → 00:49:05 เจ้าของพื้นที่ ท้องถิ่นนั้นๆ ภาครัฐบาล
00:49:05 → 00:49:10 รวมไปถึงนโยบายต่างๆ ร่วมกันคนละไม้คนละมือ
00:49:10 → 00:49:15 ผลักดันให้ประเทศเราครับ เป็นที่น่าดึงดูด
00:49:15 → 00:49:19 ให้คนทั้งโลกอยากจะมาเที่ยว อยากจะมาพัก
00:49:19 → 00:49:25 และได้รับสุขภาพที่ดีทั้งกายและใจกลับไปนั่นเอง
00:49:25 → 00:49:30 วันนี้ครับสมควรแก่เวลา หมอได้มาเล่าประสบการณ์
00:49:30 → 00:49:34 ความรู้เกี่ยวกับภาคเศรษฐกิจและสุขภาพ
00:49:34 → 00:49:38 หวังว่าจะก่อให้เกิดประโยชน์กับท่านผู้ฟังไม่มากก็น้อย
00:49:38 → 00:49:41 แล้วพบกันใหม่ในโอกาสหน้า
00:49:41 → 00:49:46 วันนี้ขอบคุณมากครับ สวัสดีครับ