00:00:00 → 00:00:02 สวัสดีครับวันนี้ผมจะมาเล่าเกี่ยวข้องกับ
00:00:02 → 00:00:04 อาหารเสริมยอดฮิตตัวนึงนะครับซึ่งมีชื่อ
00:00:04 → 00:00:08 ว่า Apple Cider vinegar นะครับตัวนี้
00:00:08 → 00:00:10 เนี่ยมันมีสรรพคุณมากมายหลากหลายนะครับ
00:00:10 → 00:00:12 แล้วก็หลายๆคนก็คงสงสัยว่าเอ๊ะมันจะเป็น
00:00:12 → 00:00:14 จริงแบบนั้นหรือเปล่าแล้วถ้าเรากินเข้าไป
00:00:14 → 00:00:18 เนี่ยมันจะมีโทษอะไรไนะครับในระยะยาวแล้ว
00:00:18 → 00:00:21 เราจะต้องมีการระวังอย่างไรในการกินนะ
00:00:21 → 00:00:23 ครับวันนี้ผมก็จะเล่าเรื่องนี้ให้ฟังกัน
00:00:23 → 00:00:25 เลยนะครับพบกับผมนะครับนายแพทย์ธานี
00:00:25 → 00:00:27 ธนียวันนะครับเป็นอาจารย์แพทย์อยู่ที่
00:00:27 → 00:00:29 ประเทศสหรัฐอเมริกาเชี่ยวชาญโรคปอดการ
00:00:29 → 00:00:32 ปลูกถ่ายปอดและวิกฤตบำบัดนะครับเรื่องของ
00:00:32 → 00:00:35 Apple Cider maker นะครับคนที่กิน
00:00:35 → 00:00:38 เนี่ยก็คงจะได้ยินสรรพคุณมามากมายเช่นลด
00:00:38 → 00:00:40 ความอยากอาหารนะครับช่วยของเรื่องช่ว
00:00:40 → 00:00:43 เรื่องเบาหวานนะครับลดน้ำตาลช่วเรื่องของ
00:00:43 → 00:00:46 ความดาอหตสูงลดคอเลสเตอรอลนะครับบางคนก็
00:00:46 → 00:00:50 มีในแง่ของการช่วยย่อยนะครับช่วยเรื่อง
00:00:50 → 00:00:52 ต่างๆอะไรมากมายนะครับเต็มไปหมดบางคนพูด
00:00:52 → 00:00:55 ถึงในแง่ของการช่วยรักษามะเร็งนะครับช่วย
00:00:55 → 00:01:00 ป้องกันมะเร็งช่วยทำให้เอ่อเรามีระบบภูมิ
00:01:00 → 00:01:02 กันต่างๆที่ดีลดโลหิตจางอะไรต่างๆเหล่า
00:01:02 → 00:01:05 เนี้ยก็แล้วแต่ว่าเราไปฟังจากแหล่งไหนมา
00:01:05 → 00:01:08 นะครับแต่ผมต้องบอกก่อนว่าทั้งหมดที่พูด
00:01:08 → 00:01:11 มาเนี่ยนะครับหลักฐานทางการแพทย์เนี่ยมัน
00:01:11 → 00:01:14 ไม่ชัดเจนเลยนะครับมีหลักฐานบางอย่างใน
00:01:14 → 00:01:16 หนูเท่านั้นเองนะครับในคนก็มีบ้างแต่มัน
00:01:17 → 00:01:19 ไม่ได้ชัดเจนขนาดนั้นนะครับดังนั้นเนี่ย
00:01:19 → 00:01:22 ถ้าท่านจะทานเนี่ยท่านก็จะต้องอยู่บนพื้น
00:01:22 → 00:01:25 ฐานของความเข้าใจตรงนี้ก่อนนะครับว่ามัน
00:01:25 → 00:01:27 อาจจะไม่ได้ผลอย่างที่ท่านต้องการให้ได้
00:01:27 → 00:01:31 ผลนะครับงั้นอันเนี้ยเนี่ยต้องรีบเคลียร์
00:01:31 → 00:01:35 กันก่อนนะครับถ้าเป็นผมนะครับผมก็คิดว่า
00:01:35 → 00:01:37 แล้วแต่คนนะครับถ้าเกิดคนไหนเชื่อมากๆคิด
00:01:37 → 00:01:39 ว่าทานแล้วมีประโยชน์ก็ทานไปนะครับแต่ถ้า
00:01:39 → 00:01:42 คิดว่าเอ้ยมันไม่เห็นมีหลักฐานอะไรทานไป
00:01:42 → 00:01:44 แล้วมันจะมีปัญหาอะไรหรือเปล่าก็ต้องฟัง
00:01:44 → 00:01:47 ต่อนะครับว่าเฮ้ย Apple Cider vena ตัว
00:01:47 → 00:01:51 เนี้ยมันมีปัญหาอะไรบ้างนะครับตัว Apple
00:01:51 → 00:01:53 Cider VEGA มันทำยังไงต้องทราบตรงนี้
00:01:53 → 00:01:55 ก่อนมันก็คือเอาไอ้ตัว Apple นี่แหละครับ
00:01:56 → 00:01:58 มาหมักจนกระทั่งหมักกับยีสอ่ะนะครับจน
00:01:58 → 00:02:00 กระทั่งมันให้เป็นแอลกอฮอล์ออกมานะครับ
00:02:00 → 00:02:02 แล้วก็แอลกอฮอล์ตัวเนี้ยไปผสมกับ
00:02:02 → 00:02:05 แบคทีเรียอีกรอบนึงนะครับให้มันสร้างกรด
00:02:05 → 00:02:08 อันนึงขึ้นมาซึ่งกรดเนี้ยนะครับจะเรียก
00:02:08 → 00:02:11 ว่า atic Acid ซึ่งเป็นกรดน้ำส้มสายชูนะ
00:02:11 → 00:02:13 ครับแล้วตัว atic Acid ตัวนี้แหละครับ
00:02:13 → 00:02:15 เป็นตัวออกฤทธิ์หลักใน Apple Cider
00:02:16 → 00:02:18 veger นะครับแต่ว่าในนั้นมันก็มีอย่าง
00:02:18 → 00:02:20 อื่นปนนะครับเพราะเนื่องมาจากมันทำมาจาก
00:02:20 → 00:02:23 Apple นะครับมันก็จะมีเรื่องของ
00:02:23 → 00:02:26 พรีไบโอติกนะครับอ่าซึ่งเป็นอาหารของ
00:02:26 → 00:02:29 โปรไบโอติกอีกทีนึงนะฮะโปรไบโอติกคืออะไร
00:02:29 → 00:02:31 พรีไบโอติกคืออะไรผมก็ได้พุไว้ในคลิป
00:02:31 → 00:02:33 เรื่องโปรไบโอติกกับ prebiotic ของผมแล้ว
00:02:33 → 00:02:37 นะครับถ้าท่านสนใจก็กลับไปฟังได้นะครับ
00:02:37 → 00:02:40 เรื่องของเอ่อนอกเหนือจากนั้นในในตัว
00:02:40 → 00:02:43 Apple Cider veger นะครับก็ยังมีแร่
00:02:43 → 00:02:45 ธาตุอื่นๆมีวิตามินมีอ่าเกลือแร่ต่างๆ
00:02:45 → 00:02:49 อยู่ในนั้นนะครับเนี่ยนี่ทั้งหมดก็คือ
00:02:49 → 00:02:50 สิ่งที่ประกอบกันเป็น Apple Cider
00:02:50 → 00:02:52 vinegar นะครับ
00:02:52 → 00:02:56 โดยการที่มันมีกรดน้ำส้มใายชูหรือ aic
00:02:56 → 00:02:59 Acid นะครับตัวนี้นี่แหละครับที่มันทำ
00:02:59 → 00:03:02 ให้เกิดสิ่งต่างๆนะครับยกตัวอย่างเช่นมัน
00:03:02 → 00:03:04 อาจจะไปลดความอยากอาหารได้นะครับการกิน
00:03:04 → 00:03:08 ของบนนี้เข้าไปนะครับมันมีงานวิจัยบาง
00:03:08 → 00:03:10 อย่างต้องบอกว่าบางอย่างแล้วหลักฐานยัง
00:03:10 → 00:03:13 ไม่ชัดเจนนะครับในการช่วยทำให้ร่างกายไม่
00:03:13 → 00:03:16 สามารถดูดซึมคาร์โบไฮเดรตได้มากเท่าไหร่
00:03:16 → 00:03:19 นะครับแล้วก็เพิ่ม insulin sensitivity
00:03:19 → 00:03:22 หรือความไวต่ออินซูลินลดการสร้างน้ำตาล
00:03:22 → 00:03:24 ขึ้นมาในร่างกายดังนั้นจึงมีคนเชื่อว่า
00:03:24 → 00:03:27 เอ้ยถ้ามันทำแบบนี้ได้เนี่ยน่าจะช่วย
00:03:27 → 00:03:30 รักษาโรคเบาหวานได้นะนะครับแต่ว่าต้องบอก
00:03:30 → 00:03:31 อย่างงี้ครับหลักฐานยังไม่ชัดเจนแล้วถ้า
00:03:31 → 00:03:34 เอาไอ้ตัว Apple Cider veger เนี่ยครับ
00:03:34 → 00:03:36 ไปรักษาเบาหวานอย่างเดียวเนี่ยไม่สำเร็จ
00:03:36 → 00:03:39 หรอกครับนะใช้ไปยังไงเบาหวานก็ยังเหมือน
00:03:39 → 00:03:41 เดิมนะครับนะงั้นต้องไปแก้ไขอย่างอื่นที่
00:03:41 → 00:03:45 สาเหตุของเบาหวานซะมากกว่านะครับแล้วการ
00:03:45 → 00:03:47 ที่เรากินตัวกรดเข้าไปมากๆนะครับอาจจะไป
00:03:47 → 00:03:50 ช่วยเรื่องพวกนี้แต่อีกสิ่งหนึ่งซึ่งจะ
00:03:50 → 00:03:52 ตามมาก็คือว่าการที่ร่างกายของเราเนี่ยมี
00:03:52 → 00:03:55 ความเป็นกรดสูงมากขึ้นนะครับมันจะทำให้
00:03:55 → 00:03:58 เราสูญเสียเกลือแรกตัวนึงออกไปกับปัสสาวะ
00:03:58 → 00:04:01 นั่นก็คือโพแทสเซียมนะครับมันอาจจะทำให้
00:04:01 → 00:04:04 โพแทสเซียมเนี่ยต่ำได้นะครับโดยคนทั่วไป
00:04:04 → 00:04:06 ที่กินในปริมาณเหมาะสมเนี่ยไม่ค่อยเกิด
00:04:06 → 00:04:09 ปัญหานี้หรอกครับแต่คนที่กินมากเกินไป
00:04:09 → 00:04:11 หรือคนที่มีโรคประจำตัวที่มีปัญหาทางด้าน
00:04:11 → 00:04:14 กรดด่างของร่างกายเนี่ยอาจจะมีปัญหาได้คน
00:04:15 → 00:04:18 เหล่านั้นเช่นเช่นใครบ้างนะครับเช่นคนที่
00:04:18 → 00:04:21 มีโรคไตนะครับคนที่มีโรคไตโดยเฉพาะโรคไต
00:04:21 → 00:04:25 ขั้นท้ายๆเช่นขั้น 3 B ขั้น 4 อะไรขั้น 5
00:04:25 → 00:04:28 อะไรอย่างเงี้ยนะครับจะมีปัญหาเพราะว่าไต
00:04:28 → 00:04:30 เนี่ยขับกรดไม่ค่อยได้อยู่แล้วด้วยด้วยนะ
00:04:30 → 00:04:33 ครับถ้าเรากินของที่ทำให้ร่างกายเป็นกรด
00:04:33 → 00:04:35 เข้าไปใหญ่อันเนี้ยก็ยิ่งเกิดปัญหานะครับ
00:04:35 → 00:04:38 แล้วปัญหาอะไรที่ตามมานะครับถ้าเกิดมี
00:04:38 → 00:04:40 เลือดเป็นกรดสูงมันจะยิ่งทำให้เราเกิด
00:04:40 → 00:04:43 กระดูกพรุนนะครับดังนั้นคนที่มีโรคกระดูก
00:04:43 → 00:04:45 พรุนอยู่เก่านะครับถ้าท่านคิดจะกิน Apple
00:04:45 → 00:04:48 Cider vra นี่ก็คิดดีๆนะครับว่าจะกินดี
00:04:49 → 00:04:51 หรือไม่กินดีมันไม่มีหลักฐานชัดเจนว่ามัน
00:04:51 → 00:04:53 ทำให้เกิดกระดูกพรุนนะครับแต่ว่าด้วยกลไก
00:04:54 → 00:04:56 ทางการแพทย์ที่เราเข้าใจนั้นมันอาจจะทำ
00:04:56 → 00:04:58 ให้กระดูกพรุนของท่านเป็นมากขึ้นก็ได้นะ
00:04:59 → 00:05:01 ครับคนที่เป็นโรคไตก็อย่างที่ผมบอกต้อง
00:05:01 → 00:05:04 ระวังให้ดีนะครับหรือคนที่รับประทานยาที่
00:05:04 → 00:05:06 มีความเกี่ยวข้องกับโพแทสเซียมนะครับ
00:05:06 → 00:05:09 เพราะว่าถ้าเรากินไอ้ตัว Apple Cider
00:05:09 → 00:05:12 veger ที่มันมีอิิ Acid เนี่ยนะครับมัน
00:05:12 → 00:05:14 อาจจะทำให้เราสูญเสียโปแทสเซียมถ้าเรากิน
00:05:14 → 00:05:16 ยาที่ทำให้ขับโปแทสเซียมล่ะเช่นยาขับ
00:05:16 → 00:05:20 ปัสสาวะต่างๆนะครับฟริ rasic นะครับ
00:05:20 → 00:05:23 ไฮโดรคลอไรด์ต่างๆพวกเนี้ยมันขับ
00:05:23 → 00:05:25 โพแทสเซียมออกทางปัสสาวะท่านก็อาจจะมีการ
00:05:25 → 00:05:28 สูญเสียโพแทสเซียมออกไปมากขึ้นก็ได้นะ
00:05:28 → 00:05:31 ครับอ้าพวกเก็ต้องระวังเป็นอย่างดีนะครับ
00:05:31 → 00:05:34 หรือคนที่กินยาโรคหัวใจตัวนึงชื่อว่าจิน
00:05:34 → 00:05:38 นะครับิทินหรือยอกินตัวนี้เนี่ยมันอาจจะ
00:05:38 → 00:05:40 แสดงอาการเป็นพิษได้โดยเฉพาะในคนที่มี
00:05:41 → 00:05:43 โพแทสเซียมในเลือดต่ำนะครับตรงนี้ก็ต้อง
00:05:43 → 00:05:46 ระวังให้ดีเหมือนกันนะครับนี่ก็คือเป็น
00:05:46 → 00:05:49 ข้อที่ควรระวังนะฮะนอกเหนือจากนี้การที่
00:05:49 → 00:05:52 ท่านกินกรดเข้าไปเนี่ยแน่นอนว่ามันก็
00:05:52 → 00:05:55 สามารถทำลายเคลือบฟันได้มันสามารถกัด
00:05:55 → 00:05:58 กร่อนเยื่อบุปากเยื่อบุคอเยื่อบุหลอด
00:05:58 → 00:06:02 อาหารได้นะนะครับดังนั้นสมมุติว่าท่านคิด
00:06:02 → 00:06:05 แล้วว่าเฮ้ยเราอยากกิน Apple Cider VEGA
00:06:05 → 00:06:08 นี่แหละเพราะว่าเรามีความเชื่อมั่นใน
00:06:08 → 00:06:10 โฆษณาที่บอกว่ามันสามารถช่วยเรื่องของเบา
00:06:10 → 00:06:13 หวานช่วยลดน้ำหนักช่วยลดความอยากอาหารนะ
00:06:13 → 00:06:16 ครับกระตุ้นภูมิคุ้มกันช่วยป้องกันมะเร็ง
00:06:16 → 00:06:18 ช่วยโน่นช่วยนี่เต็มไปหมดท่านอยากจะกินะ
00:06:18 → 00:06:24 ทำยังไงดีนะครับถ้าจะกินนะครับแนะนำว่าก็
00:06:24 → 00:06:28 กินวันละ 1-2 ช้อนโต๊ะนะครับผสมกับน้ำ 240
00:06:28 → 00:06:30 มลก็คือแก้วโตๆแก้วนึงเนะครับอย่ากินเข้า
00:06:30 → 00:06:32 ไปทั้งชอตนะครับเพราะว่ามันจะเป็นกรดสูง
00:06:32 → 00:06:34 มากแล้วมันไปกัดเคลือบฟันของท่านกัดปาก
00:06:34 → 00:06:37 กัดทุกอย่างหมดนะครับแล้วเกิดปัญหาได้
00:06:37 → 00:06:39 ท่านต้องผสมเข้าไปในน้ำแล้วถึงกินนะครับ
00:06:39 → 00:06:42 ไม่ฉะนั้นกรดมันเข้มข้นเกินไปก็มีปัญหานะ
00:06:42 → 00:06:46 ครับอันนี้คือวิธีในการกินที่น่าจะไม่ทำ
00:06:46 → 00:06:50 ให้เกิดปัญหานะฮะแต่มีคนไหนบ้างที่ต้อง
00:06:50 → 00:06:53 ระวังการกิน Apple cer vinegar นะครับ
00:06:53 → 00:06:55 อ่ะแน่นอนถ้าท่านมีปัญหาเรื่องฟันเยอะๆนะ
00:06:55 → 00:06:58 ครับกินไของพวกที่เป็นกรดเข้าไปก็ยิ่งมี
00:06:58 → 00:07:01 ปัญหานะครับคนที่มีโรคกระเพาะมีกรดไหลาย
00:07:01 → 00:07:04 ย้อนอ้ากิน Apple ไการที่มันกดเข้าไปก็ก็
00:07:04 → 00:07:06 กดกัดกระเพาะครับเป็นแผลในกระเพาะก็ยิ่ง
00:07:06 → 00:07:08 แย่ใหญ่นะครับกรดไหลย้อนก็ยิ่งไหลย้อน
00:07:08 → 00:07:12 ใหญ่อันนี้ต้องระวังนะครับคนที่มีโรค
00:07:12 → 00:07:16 ประจำตัวต่างๆนะครับเช่นถ้ารับประทานยา
00:07:16 → 00:07:18 อย่างที่ผมบอกไปยาขับปัสสาวะต่างๆเพราะ
00:07:18 → 00:07:21 ท่านอาจจะมีโพแทสเซียมในเลือดต่ำได้คนที่
00:07:21 → 00:07:24 อ่าถ้าคนที่รับประทานยากันการแข็งตัวของ
00:07:24 → 00:07:26 เลือดเช่นยาวาฟารินนะครับ Apple S
00:07:26 → 00:07:29 vtiger เนี่ยอาจจะไปทำให้วาฟารินของท่าน
00:07:29 → 00:07:31 นมีความเปลี่ยนแปลงได้นะครับดังนั้นถ้า
00:07:31 → 00:07:34 ท่านจะกินนะครับตอนที่เริ่มกินจะต้องบอก
00:07:34 → 00:07:37 หมอว่าเอ้ยเราจะเริ่มกินแล้วนะนะครับจะ
00:07:37 → 00:07:40 ต้องมีการตรวจระดับการแข็งตัวของเลือด
00:07:40 → 00:07:42 อยู่สม่ำเสมอนะครับแล้วถ้าจะกินเนี่ยก็
00:07:42 → 00:07:44 ต้องกินให้มันเท่ากันทุกวันสม่ำเสมอทุก
00:07:44 → 00:07:46 วันนะครับไม่ใช่วันนี้กินเยอะวันนี้กิน
00:07:46 → 00:07:49 น้อยวันต่อไปไม่กินมันจะทำให้ปรับระดับยา
00:07:49 → 00:07:51 ไม่ได้นะครับตรงเนี้ยเป็นสิ่งที่สำคัญถ้า
00:07:51 → 00:07:54 ท่านจะต้องการกินนะครับท่านที่กินยาดีจิ
00:07:54 → 00:07:57 อยู่ก็ต้องหมั่นตรวจร่างกายให้แน่ใจว่า
00:07:57 → 00:08:00 โปแทสเซียมของท่านไม่ต่ำนะครับไม่ฉะนั้น
00:08:00 → 00:08:03 ก็จะเกิดปัญหาขึ้นมาได้นะครับคนที่มีโรค
00:08:03 → 00:08:06 กระดูกพรุนอันนี้ต้องระวังละนะครับมันจะ
00:08:06 → 00:08:10 ต้องระวังเอ่อคนที่กินยาลิเธียมอยู่อัน
00:08:10 → 00:08:13 นี้อ่าอันนี้รู้สึกว่าอาจจะมีบางคนไม่ไม่
00:08:13 → 00:08:15 ทราบเหมือนกันนะครับลิเธียมเนี่ยมันเป็น
00:08:15 → 00:08:18 ยาที่เอาไว้ใช้ในคนที่มีโรคไบโพล่านะครับ
00:08:18 → 00:08:21 หรือโรคไทรรอยด์ซึ่งไม่สามารถใช้ยาตัว
00:08:21 → 00:08:23 อื่นได้เลยนานๆทีเราก็อาจจะใช้ยากลุ่ม
00:08:23 → 00:08:25 ลิเทียมคาร์บอเนตนะครับพวกนี้เพื่อไปช่วย
00:08:25 → 00:08:27 เรื่องของภาวะไทรรอยด์เป็นพิษนะครับแต่
00:08:27 → 00:08:29 ว่าปัจจุบันก็ไม่ค่อยมีคนใช้เท่าไหร่นะ
00:08:29 → 00:08:31 ครับแต่ว่าเอาเอาให้เราทราบไว้แล้วกันถ้า
00:08:31 → 00:08:34 ท่านกินลิเทียมอยู่นะครับแล้วไปกิน Apple
00:08:34 → 00:08:37 Cider vinegar สิ่งที่เกิดขึ้นในบางคน
00:08:37 → 00:08:39 นะครับ Apple sider amega เนี่ยมันจะไป
00:08:39 → 00:08:42 ขับลิเธียมออกมาทางปัสสาวะมากขึ้นทำให้
00:08:42 → 00:08:46 ระดับยามันลดลงแล้วก็โรคที่ท่านรักษาอยู่
00:08:46 → 00:08:49 มันอาจจะไม่ได้ผลนะครับงั้นคนที่มีโรค
00:08:49 → 00:08:52 ไบโพล่าที่ใช้ไอ้ตัวลิเธียมอยู่หรือคนที่
00:08:52 → 00:08:54 มีโรคไทรรอยด์แปลกแปลกที่หมอเขาจำเป็นจะ
00:08:54 → 00:08:57 ต้องใช้ลิเธียมคาร์บอเนตเนี่ยก็อาจจะต้อง
00:08:57 → 00:08:59 ระวังนิดนึงในการกิน Apple ไอเวนเกอร์นะ
00:09:00 → 00:09:01 ครับเพราะว่าอาจจะทำให้โรคที่ท่านเป็น
00:09:01 → 00:09:04 อยู่มันแย่ลงก็ได้นะครับตรงนี้เป็นข้อควร
00:09:04 → 00:09:06 ระวังอย่างหนึ่งนะครับโรคกระดูกพรุนเมื่อ
00:09:06 → 00:09:09 กี้เราบอกไปแล้วว่าเฮ้ยเราต้องระวังอย่า
00:09:09 → 00:09:12 ไปกินคนที่มีโรคไตโดยเฉพาะโรคไตระยะท้ายๆ
00:09:12 → 00:09:15 ก็จะต้องอย่าไปกินนะครับเพราะไม่ฉะนั้น
00:09:15 → 00:09:17 เอ่อมันขับกรดไม่ออกเนี่ยก็อาจจะเกิด
00:09:17 → 00:09:20 ปัญหาต่างๆกับร่างกายตามมาได้นะครับตรง
00:09:20 → 00:09:23 นี้ก็เป็นสิ่งที่อยากจะเน้นย้ำให้เราเข้า
00:09:23 → 00:09:26 ใจก่อนที่เราจะไปเริ่มการรับประทาน Apple
00:09:26 → 00:09:28 Cider vinegar นะครับดังนั้นโดยสรุป
00:09:29 → 00:09:31 แล้ว Apple sider vra สำหรับผมนะครับ
00:09:31 → 00:09:34 มันไม่มีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ทางการวิจัย
00:09:34 → 00:09:36 ที่ชัดเจนว่ามันช่วยอะไรสักอย่างเลยนะ
00:09:36 → 00:09:39 ครับมีแต่คำโฆษณาอย่างเดียวและคำโฆษณา
00:09:39 → 00:09:42 เหล่านั้นสำหรับผมผมรู้สึกว่าน้ำหนักมัน
00:09:42 → 00:09:45 ยังไม่มากเพียงพอที่จะให้ผมไปเอา Apple S
00:09:45 → 00:09:48 Cider vena มากินนะครับแต่ถ้าท่านเชื่อ
00:09:48 → 00:09:51 นะครับท่านรู้สึกว่าใช้แล้วมันดีอ่ะเคย
00:09:51 → 00:09:54 ใช้แล้วใช้อยู่แล้วมันดีท่านก็ใช้ต่อไปนะ
00:09:54 → 00:09:56 ครับแต่ก็มีข้อควรระวังอย่างที่เมื่อกี้
00:09:56 → 00:09:59 ผมได้บอกไปแล้วนะครับอ่าแล้วถ้าสมมุติว่า
00:09:59 → 00:10:02 ใช้ไปแล้วมันเกิดปัญหาต่างๆขึ้นมาอย่าง
00:10:02 → 00:10:05 ที่ผมเคยเล่าไปก็พิจารณาเอาเองว่าท่านจะ
00:10:05 → 00:10:07 ทำยังไงกับ Apple Cider vag นะครับ
00:10:07 → 00:10:10 เพราะว่ามันก็แน่นอนก่อให้เกิดปัญหาต่างๆ
00:10:10 → 00:10:13 ได้ในทางการแพทย์นะครับโอเควันนี้ก็สั้นๆ
00:10:13 → 00:10:16 ง่ายๆเท่านี้นะครับใครมีอะไรที่สงสัยก็
00:10:16 → 00:10:18 สอบถามมาได้นะครับขอบคุณมากครับสวัสดี
00:10:18 → 00:10:21 ครับ