00:00:00 → 00:00:03 ขอต้อนรับสู่หมอพัทรพcส
00:00:03 → 00:00:06 ความรู้สุขภาพลึกและฟรีมีที่นี่
00:00:06 → 00:00:09 >> สวัสดีครับเรื่องค่า LDL สูงเนี่ยหลายคน
00:00:09 → 00:00:11 กังวลใช่ไหมครับแต่เคยสงสัยกันมั้ว่าไอ้
00:00:11 → 00:00:14 ตัวเลขสูงๆเนี่ยมันแปลว่าข้างในร่างกาย
00:00:14 → 00:00:16 เรามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่วันนี้แหละเราจะ
00:00:16 → 00:00:18 มาเจาะลึกเรื่องนี้กันเลยพร้อมกับแผนที่
00:00:18 → 00:00:21 ทำตามได้จริงเพื่อให้หลอดเลือดของเรากลับ
00:00:21 → 00:00:23 มาแข็งแรงครับสำหรับเนื้อหาในครั้งนี้เรา
00:00:23 → 00:00:26 จะไล่ดูกันไป 5 ส่วนหลักๆเลยนะครับเริ่ม
00:00:26 → 00:00:29 จาก LDL มันไปสร้างปัญหาได้ยังไงแล้วไข
00:00:29 → 00:00:32 มันตัวไหนกันแน่ที่เป็นตัวร้ายจากนั้นก็
00:00:32 → 00:00:34 มาดูแผนการกินแบบใหม่ๆการปรับไลฟ์สไตล์
00:00:34 → 00:00:37 ที่หลายคนมองข้ามและปิดท้ายด้วยสุดยอด
00:00:37 → 00:00:39 อาหารที่ช่วยจัดการคราบพลักในหลอดเลือด
00:00:39 → 00:00:43 ครับไปกันเลยโอเคครับมาเริ่มกันที่ส่วน
00:00:43 → 00:00:47 แรกเลยทำความเข้าใจกันก่อนว่าไอ้ภาวะ LDL
00:00:47 → 00:00:50 สูงเนี่ยจริงๆแล้วมันคืออะไรคำถามที่น่า
00:00:50 → 00:00:53 สนใจมากก็คือไอ้คอเลสเตอรอลตัวร้ายที่เรา
00:00:53 → 00:00:56 พูดถึงกันเนี่ยมันไม่ใช่แค่ตัวเลขลอยๆใน
00:00:56 → 00:00:59 ใบรายงานผลเลือดนะครับแต่มันกำลังทำอะไร
00:00:59 → 00:01:02 บางอย่างอยู่ข้างในหลอดเลือดของเราคำถาม
00:01:02 → 00:01:05 คือมันทำอะไรกันแน่มาดูที่กลไกหลักเลยนะ
00:01:05 → 00:01:08 ครับลองลึกภาพตามแบบนี้นะครับบนเซลล์ตัก
00:01:08 → 00:01:10 ของเราเนี่ยมันมีเหมือนกับท่าเรือพิเศษ
00:01:10 → 00:01:13 อยู่เต็มไปหมดเลยเขาเรียกว่าตัวรับ LDL
00:01:14 → 00:01:16 หน้าที่ของมันก็คือคอยดึงคอเลสเตอรอล LDL
00:01:16 → 00:01:18 ที่ลอยอยู่ในเลือดเนี่ยให้เข้ามาจอดเทียบ
00:01:18 → 00:01:21 ท่าเพื่อเอาไปจัดการต่อทีนี้ลองคิดดูสิ
00:01:21 → 00:01:24 ครับว่าถ้าจู่ๆท่าเรือพวกนี้มันหายไปหรือ
00:01:24 → 00:01:27 มีน้อยลงจะเกิดอะไรขึ้นใช่เลยครับมันก็จะ
00:01:27 → 00:01:30 เกิดภาวะรสติดครั้งใหญ่ในกระแสเลือดของ
00:01:30 → 00:01:33 เรานั่นเองแล้วนี่แหละครับคือประเด็น
00:01:33 → 00:01:36 สำคัญเลยมันมีไขมันอิ่มตัวบางชนิดที่เรา
00:01:36 → 00:01:39 กินเข้าไปนี่แหละที่มันดันไปส่งสัญญาณบอก
00:01:39 → 00:01:42 ตับว่าเฮ้ยไม่ต้องสร้างท่าเรือเพิ่มแล้ว
00:01:42 → 00:01:45 นะลดๆลงไปเลยพอท่าเรือมันน้อยลงไอ้เจ้า
00:01:45 → 00:01:48 LDL ก็เลยไม่มีที่จอดครับก็เลยต้องลอย
00:01:48 → 00:01:51 เคว้งคว้างอยู่ในกระแสเลือดของเรายิ่งลอย
00:01:51 → 00:01:53 นานเท่าไหร่ก็ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงมากขึ้น
00:01:54 → 00:01:57 เท่านั้นครับพอเรารู้แล้วว่าไขมันอิ่มตัว
00:01:57 → 00:01:58 บางชนิดเป็นตัว
00:01:58 → 00:02:01 คำถามต่อไปก็คือแล้วมันคือตัวไหนกันแน่
00:02:01 → 00:02:04 ล่ะในส่วนที่ 2 นี้เราจะมาเปิดหน้ากากไข
00:02:04 → 00:02:07 มันตัวปัญหากันครับอ่ะมาดูกันชัดๆในตาราง
00:02:07 → 00:02:10 นี้เลยนะครับจะเห็นเลยว่าใครเป็นใคร
00:02:10 → 00:02:13 สังเกต 3 ตัวบนนะครับปมิติไisticแล้วก็
00:02:13 → 00:02:16 Laorิ 3 ตัวนี้แหละครับคือตัวกันหลักที่
00:02:16 → 00:02:19 ไปสั่งลดท่าเรือหรือตัวรับ LDL ของเราแต่
00:02:19 → 00:02:22 พอมองลงมาที่ตัวล่างๆอย่างกรดสเตอริกหรือ
00:02:22 → 00:02:25 พวกไขมันไม่อิ่มตัวอย่างมูฟ่ากับพูฟ่าแทบ
00:02:25 → 00:02:27 ไม่มีผลอะไรเลยเห็นมั้ยครับว่ามันไม่ได้
00:02:27 → 00:02:30 แย่ไปซะทั้งหมดและในบรรดาผู้ราย 3 ตัว
00:02:30 → 00:02:33 นั้นนะครับตัวที่ต้องจับตาดูเป็นพิเศษเลย
00:02:33 → 00:02:36 คือเจ้ากรดปามิติกหรือ C16 นี่แหละครับ
00:02:36 → 00:02:39 เพราะว่ามันแฝงตัวอยู่ในอาหารที่เรากิน
00:02:39 → 00:02:42 กันอยู่ทุกวันเยอะกว่าที่คิดเลยครับแล้ว
00:02:42 → 00:02:44 เจ้ากรดปลาติกนี่มันซ่อนอยู่ตรงไหนบ้าง
00:02:44 → 00:02:47 หลักๆเลยนะครับ 1 คือไขมันจากสัตว์บกตัว
00:02:47 → 00:02:51 ใหญ่ๆเนื้อวัวเนื้อแกะเนื้อหมู 2 คือน้ำ
00:02:51 → 00:02:54 มันปาล์ม 3 คือผลิตภัณฑ์นมแบบไขมันเต็ม
00:02:54 → 00:02:58 ส่วนนึกถึงเนยชีสและสุดท้ายที่ต้องบอกว่า
00:02:58 → 00:03:01 ต้องกำจัดออกไปให้หมดเลยก็คือพวกอาหารแปร
00:03:01 → 00:03:05 รูปกับไขมันทรานครับโอเคเรารู้จักปัญหา
00:03:05 → 00:03:07 รู้จักผู้ร้ายกันไปแล้วทีนี้ก็มาถึงส่วน
00:03:07 → 00:03:11 ที่สำคัญที่สุดนั่นก็คือทางออกครับในส่วน
00:03:11 → 00:03:14 นี้เราจะมาวางพิมพ์เขียวการกินแบบใหม่กัน
00:03:14 → 00:03:17 เลยนี่คือกลยุทธ์หลัก 5 ข้อที่เราจะทำตาม
00:03:17 → 00:03:21 กันนะครับ 1 ปรับมื้อเช้าใหม่หมดเลยตัด
00:03:21 → 00:03:24 น้ำตาลกับแป้งขัดขาวออกไปก่อน 2 เพิ่ม
00:03:24 → 00:03:27 โปรตีนจากพืชเข้าไป 3 แทนที่ไขมันตัว
00:03:27 → 00:03:31 ปัญหาด้วยไขมันดี 4. กินผักให้เยอะขึ้น
00:03:31 → 00:03:34 ทั้งผักใบผักหัวผักดองและข้อสุดท้ายออก
00:03:34 → 00:03:38 กำลังกายแบบผสมผสานทั้งเingและคดิโอครับ
00:03:38 → 00:03:41 มาเริ่มที่ฝั่งที่ต้องลดกันก่อนชัดๆเลยนะ
00:03:41 → 00:03:43 ครับก็คือกลุ่มอาหารที่เราเพิ่งคุยกันไป
00:03:43 → 00:03:45 เมื่อกี้นี้แหละเนื้อสัตว์สีขาตัวใหญ่ๆ
00:03:45 → 00:03:48 ผลิตภัณฑ์นมไขมันเต็มส่วนอย่างนมเนยชีส
00:03:49 → 00:03:50 แล้วก็น้ำมันมะพร้าวกับน้ำมันปาล์มแล้ว
00:03:51 → 00:03:54 พวกไขมันแปรรูปกับไขมันทรานครับพอลดของ
00:03:54 → 00:03:57 ที่ไม่ดีออกไปแล้วเราก็ต้องหาของดีๆมา
00:03:57 → 00:04:00 เติมแทนที่ใช่มั้ยครับมาดูกันที่ฟังเพิ่ม
00:04:00 → 00:04:03 บ้างนี่คือสิ่งที่เราอยากให้มีในจานมาก
00:04:03 → 00:04:06 ขึ้นครับโปรตีนพืชหมักอย่างเทมเป้นัโตะ
00:04:06 → 00:04:09 เต้าหู้หรือจะเป็นโปรตีนพืชแบบผงก็ได้
00:04:09 → 00:04:12 แล้วก็อาหารที่มีไฟเบอร์ละลายน้ำเยอะๆและ
00:04:12 → 00:04:15 ที่ขาดไม่ได้เลยคือไขมันดีๆจากน้ำมัน
00:04:15 → 00:04:18 มะกอกอะโวคาโดหรือพวกถั่วต่างๆครับแล้ว
00:04:18 → 00:04:20 เรื่องสัดส่วนโปรตีนก็น่าสนใจนะครับคือ
00:04:20 → 00:04:23 มันปรับได้ตามสภาพร่างกายสำหรับคนที่มี
00:04:23 → 00:04:25 น้ำหนักเกินอาจจะเริ่มที่สัดส่วนโปรตีน
00:04:25 → 00:04:28 สัตว์ 70 ต่อโปรตีนพืช 30 แต่ถ้าใครที่
00:04:28 → 00:04:30 ฟิตอยู่แล้วอาจจะปรับเป็น 50-50 ไปเลยก็
00:04:30 → 00:04:33 ได้เหตุผลก็เพราะว่าการเพิ่มโปรตีนพืชนี่
00:04:33 → 00:04:35 แหละครับมันไปช่วยให้ตับของเราสร้างท่า
00:04:35 → 00:04:38 เรือหรือตัวรับ LDL ได้ดีขึ้นนั่นเอง
00:04:38 → 00:04:40 เรื่องกินนี่สำคัญมากครับแต่ว่ามันยังไม่
00:04:40 → 00:04:43 ใช่ทั้งหมดของเรื่องนะในส่วนที่ 4 นี้เรา
00:04:43 → 00:04:45 จะมาดูกันต่อว่าไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของ
00:04:45 → 00:04:49 เราเนี่ยมันส่งผลกับเรื่องนี้ยังไงบ้างมี
00:04:49 → 00:04:51 อีกเรื่องที่หลายคนอาจจะนึกไม่ถึงนะครับ
00:04:51 → 00:04:54 นั่นก็คือเรื่องของความเครียดฮอร์โมนที่
00:04:54 → 00:04:57 ชื่อว่าคอิซอลเนี่ยแหละครับมันมีผลโดยตรง
00:04:57 → 00:05:01 กับสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดของเราเลยโดย
00:05:01 → 00:05:03 เฉพาะช่วงเช้าหลังตื่นนอนดังนั้นการจัด
00:05:03 → 00:05:06 การเจ้าฮอร์โมนตัวนี้ถือเป็นอีกหนึ่ง
00:05:06 → 00:05:09 กุญแจดอกสำคัญเลยครับแล้วจะจัดการมันยัง
00:05:09 → 00:05:12 ไงลองปรับกิจวัตรตอนเช้าตามนี้ดูนะครับทำ
00:05:12 → 00:05:15 ง่ายๆเลยตื่นมาปุ๊บคิดเรื่องดีๆก่อนออกไป
00:05:16 → 00:05:18 รับแดดอ่อนๆยามเช้าขยับตัวออกกำลังกายเบา
00:05:19 → 00:05:22 ๆก่อนกินมื้อแรกแล้วก็ลองยืดเวลามื้อแรก
00:05:22 → 00:05:24 ออกไปสักชั่วโมง 2 ชั่วโมงที่เรียกว่า dry
00:05:24 → 00:05:27 fast นั่นแหละครับและที่สำคัญมากๆคือ
00:05:27 → 00:05:30 มื้อแรกของวันต้องไม่มีขาบกับน้ำตาลครับ
00:05:30 → 00:05:32 เอาล่ะครับเดินทางมาถึงสูตรสุดท้ายกัน
00:05:32 → 00:05:34 แล้วในส่วนนี้เราจะมาแนะนำทีม
00:05:34 → 00:05:37 ซุปเปอร์ฮีโร่ครับเป็นสุดยอดอาหารและสาร
00:05:37 → 00:05:39 อาหารที่จะมาช่วยดูแลหลอดเลือดของเราเป็น
00:05:39 → 00:05:43 พิเศษเลยในทีมนี้มีใครบ้างก็จะมีอิซินจาก
00:05:43 → 00:05:45 กระเทียมสดหรือกระเทียมดองตัวนี้ช่วยให้
00:05:45 → 00:05:49 หลอดเลือดเรายืดหยุ่นวิตามิน K2 จากนัโตะ
00:05:49 → 00:05:51 tempมปมิโสะช่วยจัดการแคลเซียมไม่ให้ไป
00:05:51 → 00:05:54 เกาะผิดที่ผิดทางโพแทสเซียมจากผักใบเขียว
00:05:54 → 00:05:58 ผักหัวต่างๆพาเพญจากมะละกอดิบหรือจะเป็น
00:05:58 → 00:06:00 โอเมก้า 3 จากแม่มันตับปลาหรือถั่วดาว in
00:06:00 → 00:06:03 car ทั้งหมดนี้คือทีมเสริมทัพชั้นดีเลย
00:06:03 → 00:06:06 ครับเพื่อให้เห็นภาพชัดขึ้นลองดู
00:06:06 → 00:06:08 เช็คลิสต์ประจำวันนี้เป็นไอเดียก็ได้ครับ
00:06:08 → 00:06:11 ในแต่ละวันลองตั้งเป้าดูว่าเรากินผักใบ
00:06:11 → 00:06:14 ผักหัวได้ 3-5 ส่วนมยมีมะนาวสัก 1-2 ลูก
00:06:14 → 00:06:17 กระเทียมสดสัก 5 กรัมคาเคาดิบสัก 5-10
00:06:17 → 00:06:21 กรัมแล้วก็ใช้น้ำมันดีๆอย่างน้ำมันมะกอก
00:06:21 → 00:06:24 อะโวกาโด้สัก 3-4 ช้อนโต๊ะแค่นี้ก็เหมือน
00:06:24 → 00:06:25 เราได้สร้างกรอบป้องกันให้หลอดเลือดทุก
00:06:25 → 00:06:29 วันแล้วครับพอได้ฟังข้อมูลทั้งหมดนี้แล้ว
00:06:29 → 00:06:32 คำถามสำคัญก็คือเราพร้อมที่จะเริ่มก้าว
00:06:32 → 00:06:34 แรกเพื่อสุขภาพหัวใจที่ดีขึ้นกันหรือยัง
00:06:34 → 00:06:37 ครับไม่ต้องทำทั้งหมดทีเดียวนะครับแค่การ
00:06:37 → 00:06:40 เปลี่ยนแปลงเล็กๆน้อยๆในวันนี้มันสามารถ
00:06:40 → 00:06:42 สร้างความแตกต่างที่ยิ่งใหญ่ในอนาคตได้
00:06:42 → 00:06:45 เลยสุดท้ายนี้อยากจะฝากข้อคิดไว้อย่างนึง
00:06:45 → 00:06:48 ครับว่าพลังในการเปลี่ยนแปลงสุขภาพของเรา
00:06:48 → 00:06:51 เนี่ยมันอยู่ในมือเราเองนี่แหละครับเพราะ
00:06:51 → 00:06:54 อาหารมื้อต่อไปอาจจะเป็นยาที่ดีที่สุด
00:06:54 → 00:06:56 สำหรับร่างกายของเราก็ได้ขอบคุณที่ติดตาม
00:06:57 → 00:06:59 ครับ
00:06:59 → 00:07:02 >> สวัสดีค่ะกลับมาเจาะลึกข้อมูลสุขภาพกัน
00:07:02 → 00:07:05 อีกครั้งนะคะวันนี้เราจะมาเอ่อคุยกัน
00:07:05 → 00:07:08 เรื่องที่หลายคนน่าจะกังวลอยู่คือเรื่อง
00:07:08 → 00:07:12 คอเลสเตอรอลชนิดไม่ดีหรือ LDL เจ้า LDL
00:07:12 → 00:07:13 ตัวนี้เนี่ยมันไปเกี่ยวกับเรื่องลิ่ม
00:07:13 → 00:07:16 เลือดหรือว่าคราบไขมันในหลอดเลือดที่
00:07:16 → 00:07:19 เรียกว่าแพคยังไงบ้างวันนี้เรามีข้อมูล
00:07:19 → 00:07:22 จากเอ่อคู่มือปรับอาหารลด LDL ลิ่มเลือด
00:07:22 → 00:07:25 และแพล็กแล้วก็มีงานวิจัยอื่นๆที่เกี่ยว
00:07:25 → 00:07:28 ข้องมาลองแกะดูกันค่ะเป้าหมายวันนี้ก็คือ
00:07:28 → 00:07:31 อยากจะทำความเข้าใจกลไกของ LDL ให้มันชัด
00:07:31 → 00:07:34 ขึ้นอีกนิดนึงแล้วก็สกัดเอาวิธีปฏิบัติ
00:07:34 → 00:07:37 จริงๆที่เราเอาไปปรับใช้ได้เลยทั้งเรื่อง
00:07:37 → 00:07:39 กินเรื่องปรับพฤติกรรมเพื่อให้หลอดเลือด
00:07:39 → 00:07:42 เราสุขภาพดีขึ้นนะคะคำถามที่อยากชวนคิด
00:07:42 → 00:07:46 ตามกันไปก่อนเลยคือเคยสงสัยมั้คะว่าทำไม
00:07:46 → 00:07:49 เอ๊ะบางคนก็ดูแข็งแรงดีนะแต่ทำไมค่า LDL
00:07:49 → 00:07:52 สูงจังแล้วไขมันที่เรากินๆกันอยู่ทุกวัน
00:07:52 → 00:07:55 เนี่ยเอ่อตัวไหนกันแน่ที่มันส่งผลเยอะที่
00:07:55 → 00:07:56 สุดคะ
00:07:56 → 00:07:59 >> ครับเป็นคำถามที่ดีมากเลยครับเพราะว่าหัว
00:08:00 → 00:08:03 ใจสำคัญเลยคือเราต้องเข้าใจก่อนว่าไขมัน
00:08:03 → 00:08:06 แต่ละชนิดเนี่ยมันส่งผลกับร่างกายเราไม่
00:08:06 → 00:08:09 เหมือนกันโดยเฉพาะอย่างยิ่งผลต่อตัวเขา
00:08:09 → 00:08:13 เรียกว่าประตูรับ LDL ที่ตับหรือว่า LDL
00:08:13 → 00:08:15 Receptors นะครับซึ่งอันนี้เป็นกลไกหลัก
00:08:15 → 00:08:18 เลยที่ร่างกายใช้กำจัด LDL ออกจากเลือด
00:08:18 → 00:08:19 ของเรา
00:08:19 → 00:08:22 >> อ๋อค่ะประตูรับ LDL ที่ตับงั้นเรามาเริ่ม
00:08:22 → 00:08:25 กันที่ตัวที่คนพูดถึงใบบ่อยๆก่อนเลยนะคะ
00:08:25 → 00:08:28 พูดต้องสงสัยอันดับต้นๆไขมันอิ่มตัวหรือ
00:08:28 → 00:08:31 saturated fat เนี่ยค่ะแหล่งที่มาก็
00:08:31 → 00:08:33 คุ้นๆกันอยู่แล้วใช่มั้ยคะ
00:08:33 → 00:08:37 >> ครับผมก็พวกน้ำมันมะพร้าวน้ำมันปาล์มกะทิ
00:08:37 → 00:08:40 >> ใช่ค่ะหรือจากสัตว์ก็มีพวกไขมันจากเนื้อ
00:08:40 → 00:08:42 นมเนยหรือว่าไข่แดง
00:08:42 → 00:08:43 >> ครับ
00:08:43 → 00:08:46 >> แต่ทีนี้ข้อมูลที่เราดูกันมาเนี่ยมันเจาะ
00:08:46 → 00:08:49 ลึดลงไปกว่านั้นอีกค่ะคือบอกว่าไขมันอิ่ม
00:08:49 → 00:08:52 ตัวจากสัตว์บกโดยเฉพาะส่วนที่เป็นไขมัน
00:08:52 → 00:08:55 หรือน้ำมันจากสัตว์บก 6 เนี่ยดูจะมีผลกับ
00:08:55 → 00:08:56 LDL มากเป็นพิเศษเลย
00:08:57 → 00:08:57 >> อืครับ
00:08:57 → 00:09:00 >> แล้วในกลุ่มนี้เองก็ยังมีกดไผมันสายยาว
00:09:00 → 00:09:03 หรือ Long Chain Faty Acid บางตัวที่
00:09:03 → 00:09:07 ต้องจับตาเป็นพิเศษคือมีกรดLaurิ C12 กรด
00:09:07 → 00:09:11 ไมติ C14 แล้วก็ตัวที่ข้อมูลเน้นมากๆเลย
00:09:11 → 00:09:13 คือกรดปามิติก C16 ค่ะ
00:09:13 → 00:09:16 >> ครับตัว C16 นี่สำคัญ
00:09:16 → 00:09:20 >> ค่ะจุดที่แบบว่าน่าสนใจมากๆก็คือข้อมูล
00:09:20 → 00:09:23 บอกว่าเจ้า C16 เนี่ยที่เจอเยอะๆในไขมัน
00:09:23 → 00:09:26 สัตว์บกอย่างวัวอย่างหมูหรือน้ำมันปาล์ม
00:09:26 → 00:09:26 ด้วย
00:09:26 → 00:09:28 >> ใช่ครับน้ำมันปาล์มก็มีเยอะ
00:09:28 → 00:09:32 >> มันมีผลมากที่สุดเลยหรอคะกับการเพิ่ม LDL
00:09:32 → 00:09:36 >> ครับถือว่าเป็นตัวหลักตัวนึงที่ส่งผลชัด
00:09:36 → 00:09:36 เจน
00:09:36 → 00:09:40 >> ถึงขั้นแนะนำว่าถ้าจะลด LDL จริงๆจังๆคือ
00:09:40 → 00:09:42 ควรงดตัวนี้ไปก่อนเลย
00:09:42 → 00:09:45 >> เออในช่วงแรกๆของการปรับพฤติกรรมก็อาจจะ
00:09:45 → 00:09:47 ต้องพิจารณาเรื่องนี้เป็นพิเศษครับ
00:09:47 → 00:09:51 >> ค่ะแล้วเอ่อทำไมมันถึงส่งผลไร้กัดขนาด
00:09:51 → 00:09:53 นั้นล่ะคะกลไกมันคืออะไรพอจะอธิอธิบายให้
00:09:53 → 00:09:54 ฟังง่ายๆได้มั้คะ
00:09:54 → 00:09:58 >> ได้ครับกลไกมันน่าสนใจตรงนี้ครับคือต้อง
00:09:59 → 00:10:01 บอกก่อนว่าในคนบางกลุ่มนะครับไม่ใช่ทุกคน
00:10:01 → 00:10:04 พอเรากิงกรดไขมันอิ่มตัวสายยาวพวกนี้เข้า
00:10:04 → 00:10:08 ไปโดยเฉพาะ 46 ที่ว่าเนี่ยร่างกายของบาง
00:10:08 → 00:10:12 คนจะส่งสัญญาณไปที่เอ่อ DNA ในเซลล์ตับทำ
00:10:13 → 00:10:15 ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงคำสั่งหรือที่เรียก
00:10:15 → 00:10:18 ว่า Genan Expression นะครับผลก็คือตับ
00:10:18 → 00:10:22 จะสร้างประตูรับ LDL หรือ LDL Receptors
00:10:22 → 00:10:24 ที่ผิวเซลล์ตับเนี่ยน้อยลง
00:10:24 → 00:10:28 >> อ๋อคือเหมือนปกติมีประตูเยอะๆไว้คอยดึง
00:10:28 → 00:10:32 LDL ออกจากเลือดใช่ครับลงนึกภาพเหมือน
00:10:32 → 00:10:36 ตับมีท่าเทียบเรือเยอะๆไว้คอยดึงเรือขน
00:10:36 → 00:10:39 ส่งคอเลสเตอรอลหรือ LDL ออกจากกระแสเลือด
00:10:39 → 00:10:40 >> ค่ะ
00:10:40 → 00:10:43 >> พอเรากิน C16 เข้าไปเยอะๆในบางคนนะครับ
00:10:43 → 00:10:46 มันเหมือนไปสั่งให้ตับลดการสร้างท่าเทียบ
00:10:46 → 00:10:46 เรือลง
00:10:46 → 00:10:48 >> เข้าใจแล้วค่ะ
00:10:48 → 00:10:50 >> พอท่าเทียบเรือน้อยลงเรือ LDL มันก็เลย
00:10:50 → 00:10:54 ต้องลอยอยู่ในกระแสเลือดนานขึ้นอาจจะ 5-7
00:10:54 → 00:10:57 วันหรือมากกว่านั้นแทนที่จะถูกตับดึงไป
00:10:57 → 00:10:58 จัดการเร็วๆ
00:10:58 → 00:10:59 >> อื
00:10:59 → 00:11:02 >> การที่มันค้างอยู่ในเลือดนานๆนี้แหละครับ
00:11:02 → 00:11:05 คือความเสี่ยงที่ทำให้ไขมันพวกนี้มีโอกาส
00:11:05 → 00:11:08 ไปเกาะตามผนังหลอดเลือดได้ง่ายขึ้นจนอาจ
00:11:08 → 00:11:11 จะเกิดเป็นโรคหลอดเลือดแข็งหรือ ASCVD
00:11:11 → 00:11:12 ตามมาได้
00:11:12 → 00:11:15 >> โหฟังดูน่ากลัวเหมือนกันนะคะการที่มัน
00:11:15 → 00:11:17 ค้างนานๆเนี่ย
00:11:17 → 00:11:20 >> ครับแต่ว่าเรื่องนี้ก็มีข้อยกเว้นนะครับ
00:11:20 → 00:11:22 คือไม่ใช่ว่าไขมันอิ่มอิ่มตัวทุกตัวจะ
00:11:22 → 00:11:26 เหมือนกันหมดมันมีกรดไขมันอิ่มตัวอีกตัว
00:11:26 → 00:11:28 คือกรดสิริกหรือ C18
00:11:28 → 00:11:30 >> C18 นะคะ
00:11:30 → 00:11:34 >> ครับตัวนี้จะพบในพวกโกโก้เนยโกโก้หรือไข
00:11:34 → 00:11:37 มาจากสัตว์ปีกสัตว์น้ำบางชนิดตัว C18
00:11:37 → 00:11:40 เนี่ยกลับไม่มีผลไปลดจำนวน LDL receptตor
00:11:40 → 00:11:42 เหมือนที่ C16 ทำ
00:11:42 → 00:11:45 >> อ้าวจริงหรอคะต่างกันเลย
00:11:45 → 00:11:48 >> ครับผมแล้วก็เช่นเดียวกันพวกไขมันดีอย่าง
00:11:48 → 00:11:51 ไขมันไม่อิ่มตัวทั้งเชิงเดี่ยว MUFA FA
00:11:51 → 00:11:54 ที่อยู่ในน้ำมันมะกอกอะโวคาโดหรือไขมัน
00:11:54 → 00:11:57 ไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน PUFA อย่างในน้ำมัน
00:11:57 → 00:12:01 ปลาน้ำมันพืชต่างๆพวกนี้ก็ไม่ได้มีผลไปลด
00:12:01 → 00:12:03 จำนวน LDL receptor ครับ
00:12:03 → 00:12:07 >> โอ้โหอันนี้คือจุดสำคัญมากเลยนะคะแสดงว่า
00:12:07 → 00:12:10 เราจะเหมารวมว่าไขมันอิ่มตัวไม่ดีทั้งหมด
00:12:10 → 00:12:12 ไม่ได้แล้วต้องดูละเอียดลงไปถึงชนิดของ
00:12:13 → 00:12:16 กรดไขมันเลยว่าเป็น 46 หรือ 48 เพราะผล
00:12:16 → 00:12:17 มันต่างกันชัดเจนมาก
00:12:17 → 00:12:20 >> ถูกต้องครับการเลือกกินจึงสำคัญมากครับ
00:12:21 → 00:12:24 >> ค่ะทีนี้พอเราเข้าใจเรื่องไขมันตัวที่
00:12:24 → 00:12:27 ต้องระวังเป็นพิเศษแล้วแนวทางการปรับ
00:12:27 → 00:12:30 อาหารเพื่อจะลด LDL จริงๆโดยเฉพาะตัว LDL
00:12:30 → 00:12:33 Particle หรือ Airp ที่เขาบอกว่าเป็นตัว
00:12:33 → 00:12:36 บ่งชี้จำนวนอนุภาค LDL เนี่ยตามคำแนะนำ
00:12:36 → 00:12:39 ที่อ้างอิงจากสมาคมแพทย์โรคหัวใจสหรัฐ
00:12:39 → 00:12:42 เา้ามีหลักการกว้างๆอยู่ 2 ข้อใช่มั้ยคะ
00:12:42 → 00:12:46 >> ครับหลักๆก็คือ 1 ลดโปรตีนจากสัตว์ลงแล้ว
00:12:46 → 00:12:48 ก็เพิ่มโปรตีนจากพืชเข้าไปแทน
00:12:48 → 00:12:53 >> ค่ะพวกเทมเพเท่นัโตะถั่วต่างๆหรือโปรตีน
00:12:53 → 00:12:56 ผงจากพืชแล้วก็เน้นกินใยอาหารเยอะๆ
00:12:56 → 00:13:00 >> ใช่ครับข้อ 2 ก็คือลดไขมันอิ่มตัวโดย
00:13:00 → 00:13:03 เฉพาะตัว C16 ที่เราคุยกันไปแล้วก็แทนที่
00:13:03 → 00:13:07 ด้วยไขมันไม่อิ่มตัว UFA PUFA พวกนั้น
00:13:07 → 00:13:11 >> ค่ะประเด็นเรื่องโปรตีนนี่ก็น่าสนใจนะคะ
00:13:11 → 00:13:13 การที่เราลดโปรตีนสัตว์แล้วหันไปเน้น
00:13:13 → 00:13:16 โปรตีนจากพืชมากขึ้นเนี่ยมันจะมาช่วย
00:13:16 → 00:13:19 เรื่อง LDL ได้ยังไงคะแล้วเราต้องเลือก
00:13:19 → 00:13:22 แบบไหนปริมาณแค่ไหนถึงจะเรียกว่าพอดีค่ะ
00:13:22 → 00:13:25 >> ครับการเพิ่มสัดส่วนโปรตีนจากพื้นนี่มี
00:13:25 → 00:13:27 ข้อดีหลายอย่างเลยครับที่เกี่ยวกับ LDL
00:13:27 → 00:13:30 อย่างแรกเลยคือโปรตีนพืชมักจะมาพร้อมกับ
00:13:30 → 00:13:33 ใยอาหารแล้วก็ไม่มีคอเลสเตอรอลโดยตรง
00:13:33 → 00:13:33 เหมือนในสัตว์
00:13:33 → 00:13:35 >> อืมค่ะ
00:13:35 → 00:13:38 >> อย่างที่ 2 คือโปรตีนพืชบางชนิดเนี่ยมีผล
00:13:38 → 00:13:40 กระตุ้นอินซูลินน้อยกว่าโปรตีนจากสัตว์
00:13:40 → 00:13:43 บางอย่างซึ่งอันเนี้จะช่วยเรื่องสมดุล
00:13:43 → 00:13:44 ฮอร์โมนโดยรวม
00:13:44 → 00:13:44 >> ค่ะ
00:13:44 → 00:13:47 >> และที่สำคัญนะครับมีข้อมูลว่าโปรตีนจาก
00:13:47 → 00:13:48 พืชบางชนิดเนี่ย
00:13:49 → 00:13:51 อาจจะช่วยกระตุ้นให้ตับสร้าง LDL
00:13:51 → 00:13:53 receptors หรือท่าเทียบเรือเพิ่มขึ้นได้
00:13:53 → 00:13:53 ด้วย
00:13:53 → 00:13:56 >> อ๋อช่วยเพิ่มประตูรับ LDL หรอคะ
00:13:56 → 00:13:59 >> ใช่ครับทำให้ตับสามารถดึง LDL ออกจาก
00:13:59 → 00:14:02 เลือดไปกำจัดได้ดีขึ้นแล้วก็ยังมีข้อมูล
00:14:02 → 00:14:05 อีกว่าอาจจะช่วยลดการสร้างapโพีที่ตับ
00:14:05 → 00:14:08 ด้วยซึ่งก็คือโปรตีนที่เป็นโครงสร้างหลัก
00:14:08 → 00:14:10 ของอนุภาค LDL นั่นเองครับ
00:14:10 → 00:14:12 >> โหดีหลายต่อเลยนะคะเนี่ย
00:14:12 → 00:14:15 >> ครับส่วนเรื่องปริมาณกับสัดส่วนในข้อมูล
00:14:15 → 00:14:19 ก็มีไกไลคร่าวๆไว้นะครับเช่นถ้าเป็นคนที่
00:14:19 → 00:14:21 มีน้ำหนักเกินอาจจะต้องการโปรตีนรวมๆแล้ว
00:14:21 → 00:14:25 ประมาณ 20% ของพลังงานทั้งบวกต่อวันโดย
00:14:25 → 00:14:28 อาจจะเน้นผสมผสานกันไปอาจจะสัตว์สัก
00:14:28 → 00:14:30 70-80%
00:14:30 → 00:14:32 พืชสัก 20-30%
00:14:32 → 00:14:34 แล้วก็ร่วมกับการออกกำลังกายแบบ
00:14:34 → 00:14:35 คาร์ดิโอโซน 2
00:14:35 → 00:14:36 >> ค่ะ
00:14:36 → 00:14:38 >> แต่ถ้าเป็นคนที่รูปร่างสมส่วนอยู่แล้ว
00:14:39 → 00:14:41 หรือว่าต้องการสร้างกล้างเนื้ออาจจะ
00:14:41 → 00:14:45 ต้องการโปรตีนสูงขึ้นหน่อยเป็น 25-30%
00:14:45 → 00:14:48 โดยอาจจะเพิ่มสัดส่วนโปรตีนจากพืชให้มาก
00:14:48 → 00:14:51 ขึ้นเช่นสัตว์ 50-60%
00:14:51 → 00:14:53 พืช 40-50%
00:14:53 → 00:14:55 แล้วก็เน้นออกกำลังกายแบบ training หรือ
00:14:55 → 00:14:57 ฮิต IIT ไป
00:14:57 → 00:15:01 >> อืมสัดส่วนก็ปรับตามเป้าหมายแต่ละคนนะคะ
00:15:01 → 00:15:04 >> ใช่ครับแต่จุดสำคัญที่เน้นย้ำคือเรื่อง
00:15:04 → 00:15:07 คุณภาพแล้วก็ความหลากหลายคือพยายามผสม
00:15:07 → 00:15:10 ผสานโปรตีนจากหลายๆแหล่งทั้งจากพืชดีๆ
00:15:10 → 00:15:13 เช่นพวกถั่วหมักอย่างนัโตะเทมเป้หรือ
00:15:13 → 00:15:17 โปรตีนสกัดจากพืชเช่นดาวอินคาถั่วล้างเตา
00:15:17 → 00:15:19 แล้วก็จากสัตว์ก็เลือกส่วนที่ไม่ติดมัน
00:15:19 → 00:15:22 มากหรือเลือกเป็นปลาก็จะได้กดอะมิโนที่
00:15:22 → 00:15:23 ครบถ้วนครับ
00:15:23 → 00:15:24 >> ค่ะ
00:15:24 → 00:15:26 >> แต่ก็มีข้อควรระวังนิดนึงสำหรับผู้ที่
00:15:26 → 00:15:28 เป็นเบาหวานนะครับคือโปรตีนจากพืชหลายๆ
00:15:28 → 00:15:30 อย่างเนี่ยมันก็มีคาร์โบไฮเดรตปนมาด้วย
00:15:31 → 00:15:34 เสมออาจจะต้องมองว่าเป็นแป้งในรูปโปรตีน
00:15:34 → 00:15:37 ก็ได้ก็ต้องคำนึงถึงปริมาณขาบตรงนี้ด้วย
00:15:37 → 00:15:40 >> อ๋อค่ะเป็นข้อควรระวังพี่สำคัญเลยค่ะฟัง
00:15:40 → 00:15:44 ดูแล้วการเลือกกินโปรตีนให้ดีให้หลากหลาย
00:15:44 → 00:15:46 ควบคู่ไปกับการเลือกไขมันให้ถูกชนิด
00:15:46 → 00:15:50 เลี่ยง C16 เพิ่มพู่าแล้วก็ออกกำลังกาย
00:15:50 → 00:15:52 สม่ำเสมอมันเหมือนเป็นการปรับสมดุลร่าง
00:15:52 → 00:15:55 กายจากข้างในเลยนะคะไม่ใช่แค่เรื่องลด LDL
00:15:55 → 00:15:58 อย่างเดียวแต่ดูจะส่งผลดีไปถึงกล้ามเนื้อ
00:15:58 → 00:16:01 ฮอร์โมนการเผาผลาญโดยรวมด้วย
00:16:01 → 00:16:04 >> ถูกต้องครับเป็นการดูแลแบบองค์รวมเลย
00:16:04 → 00:16:07 >> ค่ะทีนี้นอกจากเรื่องไขมันกับโปรตีนแล้ว
00:16:07 → 00:16:10 ยังมีสารอาหารหรือเทคนิคอื่นๆอีกมั้ยคะ
00:16:10 → 00:16:12 ที่ข้อมูลเขาเน้นว่าสำคัญกับสุขภาพหลอด
00:16:12 → 00:16:14 เลือดอาจจะไม่ต้องไล่ทั้งหมดแต่ขอดึงตัว
00:16:14 → 00:16:16 ที่น่าสนใจมากๆมาคุยกันสักสักหน่อยได้มั้
00:16:16 → 00:16:19 คะตัวแรกที่เห็นพูดถึงบ่อยๆคือวิตามิน K2
00:16:19 → 00:16:23 ค่ะโดยเฉพาะฟอร์ม MK7 ที่ได้จากพวกนัโตะ
00:16:23 → 00:16:25 เทมเป้อะไรพวกเนี้ยมันไปช่วยเรื่องหลอด
00:16:25 → 00:16:26 เลือดยังไงคะ
00:16:26 → 00:16:30 >> ครับวิตามิน K2 โดยเฉพาะ MK7 เนี่ยสำคัญ
00:16:30 → 00:16:34 มากครับบทบาทหลักๆของมันเลยก็คือช่วยนำพา
00:16:34 → 00:16:37 แคลเซียมให้ไปอยู่ในที่ที่มันควรจะอยู่ก็
00:16:37 → 00:16:39 คือในกระดูกและฟัน
00:16:39 → 00:16:42 >> อ๋อพาแคลเซียมไปเก็บให้ถูกที่
00:16:42 → 00:16:45 >> ใช่ครับแล้วก็ป้องกันไม่ให้แคลเซียมเนี่ย
00:16:45 → 00:16:49 เนี่ยมันไปเกาะผิดที่ผิดทางโดยเฉพาะอย่าง
00:16:49 → 00:16:51 ยิ่งคือที่ผนังหลอดเลือดของเรา
00:16:51 → 00:16:51 >> ค่ะ
00:16:51 → 00:16:54 >> การที่มีแคลเซียมไปเกาะที่หลอดเลือดหรือ
00:16:54 → 00:16:57 ที่เรียกว่าแคลcify plk เนี่ยก็เป็น
00:16:57 → 00:16:59 สาเหตุหนึ่งที่ทำให้หลอดเลือดมันแข็งแล้ว
00:16:59 → 00:17:01 ก็ตีบตันได้
00:17:01 → 00:17:02 >> อื
00:17:02 → 00:17:05 >> ดังนั้นการได้รับวิตามิน K2 เพียงพอซึ่ง
00:17:05 → 00:17:08 ข้อมูลแนะนำไว้ประมาณ 300 ไมโครกรัมต่อ
00:17:08 → 00:17:11 วันสำหรับ MK7 นะครับก็จะช่วยลดความ
00:17:11 → 00:17:13 เสี่ยงตรงนี้ได้โดยตรงเลย
00:17:13 → 00:17:16 >> เข้าใจเลยค่ะเหมือนเป็นตำรวจตรวจจราจรคอย
00:17:16 → 00:17:19 คุมแคลเซียมไม่ให้วิ่งไปผิดเลนส์ไปเกาะ
00:17:19 → 00:17:20 ผิดที่
00:17:20 → 00:17:22 >> ครับผมประมาณนั้นเลยครับ
00:17:22 → 00:17:24 >> แล้วอีกตัวที่น่าสนใจคืออลิซินจาก
00:17:24 → 00:17:28 กระเทียมกับบิวตที่ลำไส้เราสร้างขึ้น 2
00:17:28 → 00:17:30 ตัวนี้มันเกี่ยวกันยังไงกับหลอดเลือดคะ
00:17:30 → 00:17:33 >> ครับตัวอิซินเนี่ยเป็นสารสำคัญที่อยู่ใน
00:17:33 → 00:17:36 กระเทียมสดนะครับมีงานวิจัยที่ชี้ว่าอาจ
00:17:36 → 00:17:39 จะมีส่วนช่วยลดการเกาะของแคลเซียมที่หลอด
00:17:39 → 00:17:40 เลือดได้เหมือนกัน
00:17:40 → 00:17:43 >> อ๋อกระเทียมก็ช่วยเรื่องแคลเซียมเกาะได้
00:17:43 → 00:17:48 >> ครับส่วนบูทิเรตเนี่ยเป็นกรดไขมันสายสั้น
00:17:48 → 00:17:50 ที่จุลินทรีย์ดีๆในลำไส้ของเราสร้างขึ้น
00:17:50 → 00:17:54 มาเวลาที่เรากินใยอาหารชนิดที่หมักได้
00:17:54 → 00:17:57 หรือ fermentable fiber เข้าไปเช่นผัก
00:17:57 → 00:18:00 บางชนิดหรือพวก Resistance Starch
00:18:00 → 00:18:00 >> ค่ะ
00:18:00 → 00:18:03 >> บทบาทของบูทิateนี่กว้างขวางมากเลยครับ
00:18:03 → 00:18:06 ทั้งเป็นแหล่งพลังงานให้เซลล์ลำไส้ช่วยลด
00:18:06 → 00:18:10 การอักเสบแล้วก็มีข้อมูลที่เชื่อมโยงว่า
00:18:10 → 00:18:12 อาจจะช่วยลดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือด
00:18:12 → 00:18:13 ส่วนปลายตีบได้ด้วย
00:18:14 → 00:18:17 >> โอ้โหโอนี่มันเชื่อมโยงสุขภาพลำไส้กับ
00:18:17 → 00:18:19 สุขภาพหลอดเลือดเข้าด้วยกันเลยนะคะน่าสน
00:18:19 → 00:18:20 ใจมาก
00:18:20 → 00:18:23 >> ใช่ครับเป็นประเด็นที่น่าสนใจมากครับและ
00:18:23 → 00:18:27 นอกจากนี้ก็ยังมีสารอื่นๆที่ช่วยเรื่องลด
00:18:27 → 00:18:30 การอักเสบซึ่งเป็นต้นตอสำคัญของปัญหาหลอด
00:18:30 → 00:18:32 เลือดได้เหมือนกันเช่นพวกโอเมก้า 3 จาก
00:18:32 → 00:18:36 ปลาหรือ GL จากน้ำมันing prim rose หรือ
00:18:36 → 00:18:39 tocotrianol ซึ่งเป็นวิตามิน E รูปแบบ
00:18:39 → 00:18:43 หนึ่งตัว toan นี่มีข้อมูลว่าอาจจะช่วยลด
00:18:43 → 00:18:46 ค่า CRP หรือค่าการอักเสบได้ค่อนข้างดี
00:18:46 → 00:18:47 เลยครับ
00:18:47 → 00:18:47 >> ค่ะ
00:18:47 → 00:18:50 >> และแน่นอนปัจจัยเสี่ยงสำคัญอีกอย่างที่
00:18:50 → 00:18:53 ต้องจัดการควบคู่กันไปก็คือภาวะด้วย
00:18:53 → 00:18:55 อินซูลินเพราะตัวนี้ก็เร่งให้เกิดปัญหา
00:18:56 → 00:18:57 หลอดเลือดได้เช่นกัน
00:18:57 → 00:19:00 >> ชัดเจนเลยค่ะว่ามันไม่ใช่แค่เรื่องlอย่าง
00:19:00 → 00:19:03 เดียวแล้วแต่ต้องดูเรื่องการอักเสบเรื่อง
00:19:03 → 00:19:06 แคลเซียมเกาะหรือแม้แต่สุขภาพลำไส้ด้วย
00:19:06 → 00:19:10 เชื่อมกันไปหมดเลยทีนี้มีอีกปัจจัยนึงที่
00:19:10 → 00:19:12 ข้อมูลก็ให้ความสำคัญไม่แพ้กันเลยคือ
00:19:12 → 00:19:15 เรื่องความเครียดค่ะโดยเฉพาะความเครียดใน
00:19:15 → 00:19:18 ช่วงเช้าหลังตื่นนอนเนี่ยมันส่งผลกระทบ
00:19:18 → 00:19:21 ได้ยังไงแล้วเราพอจะมีวิธีจัดการง่ายๆ
00:19:21 → 00:19:22 บ้างมั้คะ
00:19:22 → 00:19:25 >> ครับเรื่องความเครียดตอนเช้านี่สำคัญครับ
00:19:25 → 00:19:27 เพราะมันเกี่ยวกับฮอร์โมนคอร์ติซอลหรือ
00:19:27 → 00:19:30 ฮอร์โมนเครียดที่ปกติจะสูงขึ้นตาม
00:19:30 → 00:19:33 ธรรมชาติในตอนเช้าเพื่อปลุกเราแต่ถ้ามัน
00:19:33 → 00:19:36 สูงเกินไปหรือสูงนานเกินไปก็ส่งผลเสียได้
00:19:36 → 00:19:39 >> ค่ะแล้วเราจะจัดการมันยังไงดีคะข้อมูลมี
00:19:40 → 00:19:42 แนะนำเทคนิคลดเครียดช่วงเช้าไว้หลายอย่าง
00:19:42 → 00:19:45 เลยแต่ดูเหมือนหัวใจสำคัญจะอยู่ที่การจัด
00:19:45 → 00:19:48 การฮอร์โมน 2 ตัวคือคอร์ติซอลกับอินซูลิน
00:19:48 → 00:19:51 ไม่ให้มันพุ่งสูงผิดเวลาใช่มั้คะ
00:19:51 → 00:19:52 >> ใช่ครับ
00:19:52 → 00:19:55 >> เช่นการลองเอ่อเลื่อนเมื่อเช้าออกไปหน่อย
00:19:55 → 00:19:58 หรือที่เรียกว่าทำ dry fast คือยังไม่
00:19:58 → 00:20:01 ดื่มไม่กินอะไรเลยสัก 1-2 ช่โมงหลังตื่น
00:20:01 → 00:20:03 เพื่อให้ร่างกายได้ใช้ไขมั่นเกาก่อนเป็น
00:20:03 → 00:20:05 การพักตับด้วย
00:20:05 → 00:20:08 >> ครับการทำแบบนั้นช่วยให้ระบับคอร์ติซอล
00:20:08 → 00:20:11 ค่อยๆลดลงตามธรรมชาติและไม่ไปกระตุ้น
00:20:11 → 00:20:13 อินซูลินแต่เช้าตรุ
00:20:13 → 00:20:16 แล้วก็มีเรื่องการออกไปรับแสงแดดอ่อนๆยาม
00:20:16 → 00:20:19 เช้าอันนี้ช่วยปรับนาฬิกาชีวิต
00:20:19 → 00:20:22 >> ครับช่วยให้สมองตื่นตัวลดคอร์ติซอลได้
00:20:22 → 00:20:23 เหมือนกัน
00:20:23 → 00:20:26 >> แล้วพอถึงเวลาจะกินมื้อแรกจริงๆก็เน้นกิน
00:20:26 → 00:20:30 โปรตีนกับไขมันดีไปก่อนพยายามงดหรือรดพวก
00:20:30 → 00:20:33 แป้งน้ำตาลผลไม้หวานๆไปก่อนในมื้อแรก
00:20:33 → 00:20:35 เพื่อไม่ให้อินซูลินมันพุ่งสูงปรี๊ดตั้ง
00:20:35 → 00:20:39 แต่ต้นการทำแบบเนี้ยมันช่วยปรับสมดุล
00:20:39 → 00:20:41 ฮอร์โมนโดยรวมเลยใช่ไหมคะ
00:20:41 → 00:20:43 >> ถูกต้องเลยครับการเริ่มต้นวันด้วยระดับ
00:20:43 → 00:20:46 คอร์ติและอินซูลินที่ค่อนข้างสงบและสมดุล
00:20:46 → 00:20:50 เนี่ยมันเหมือนเป็นการวางรากฐานที่ดีให้
00:20:50 → 00:20:52 กับระบบเผาผลาญแล้วก็การทำงานของฮอร์โมน
00:20:53 → 00:20:55 ตัวอื่นๆไปตลอดทั้งวันเลยครับการที่เรา
00:20:55 → 00:20:58 หลีกเลี่ยงการกระตุ้งอินซูลินแรงๆในมื้อ
00:20:58 → 00:21:01 แรกแล้วก็พยายามจัดการความเครดในช่วงเช้า
00:21:01 → 00:21:03 ให้ดีมันจะช่วยให้ร่างกายอยู่ในโหมดที่
00:21:03 → 00:21:06 เผาผลาญไขมันได้ดีขึ้นแล้วก็ลดการอักเสบ
00:21:06 → 00:21:09 เรื้อรังซึ่งแน่นอนว่าส่งผลดีต่อสุขภาพ
00:21:09 → 00:21:11 หลอดเลือดในระยะยาวด้วยครับ
00:21:11 → 00:21:14 >> ยอดเยี่ยมเลยค่ะวันนี้เราได้มุมมงที่แบบ
00:21:14 → 00:21:17 ว่าลึกขึ้นเยอะเลยนะคะสรุปหัวใจสำคัญก็
00:21:17 → 00:21:19 คือการดูแลเรื่อง LDL กับสุขภาพหลอดเลือด
00:21:19 → 00:21:22 เนี่ยต้องมองเป็นภาพรวมจริงๆทั้งเรื่อง
00:21:22 → 00:21:26 การเลือกชนิดไขมันให้ถูกคือลด 46 จาก
00:21:26 → 00:21:29 สัตว์บกหรือน้ำมันปาล์มแล้วก็เพิ่มไขมัน
00:21:29 → 00:21:32 ไม่อิ่มตัวดีๆเพิ่มสัดส่วนโปรตีนจากพืช
00:21:32 → 00:21:35 ที่มีคุณภาพเพิ่มใยอาหารแล้วก็ต้องใส่ใจ
00:21:35 → 00:21:38 สารอาหารสำคัญอื่นๆด้วยอย่างวิตามิน K2
00:21:38 → 00:21:42 จากนัโตะอิซิงจากกระเทียมโอเมก้า 3
00:21:42 → 00:21:42 >> ครับผม
00:21:43 → 00:21:45 >> รวมไปถึงการออกกำลังกายที่เหมาะสมแล้วก็
00:21:45 → 00:21:47 การจัดการเรื่องสมดุลฮอร์โมนและความ
00:21:47 → 00:21:49 เครียดโดยเฉพาะช่วงเช้าๆ
00:21:49 → 00:21:52 >> ใช่ครับทั้งหมดนี้เป็นแนวทางที่มีข้อมูล
00:21:52 → 00:21:54 วิชาการสนับสนุนค่อนข้างดีเลยครับแต่ก็
00:21:54 → 00:21:57 ต้องเน้นย้ำเหมือนเดิมนะครับว่าแต่ละคน
00:21:57 → 00:21:59 เรามีการตอบสนองไม่เหมือนกันอยู่แล้วข้อ
00:21:59 → 00:22:02 มูลเหล่านี้เป็นแนวทางเบื้องต้นที่ดีมากๆ
00:22:02 → 00:22:05 ครับแต่การจะนำไปปรับใช้จริงก็ควรคำนึง
00:22:05 → 00:22:07 ถึงสุขภาพพื้นฐานปัจจัยเฉพาะของแต่ละคน
00:22:07 → 00:22:10 ด้วยการปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญผ่าน
00:22:10 → 00:22:12 ด้านโภชนาการเพื่อวางแผนที่มันเหมาะสมกับ
00:22:12 → 00:22:14 ตัวเราจริงๆเนี่ยเป็นสิ่งที่แนะนำอย่าง
00:22:14 → 00:22:15 ยิ่งครับ
00:22:15 → 00:22:17 >> ขอทิ้งท้ายด้วยคำถามที่มันจุดประกายขึ้น
00:22:17 → 00:22:20 มาระหว่างที่เราคุยกันวันนี้นะคะคือจาก
00:22:20 → 00:22:23 ที่เราเห็นความเชื่อมโยงมันชัดขึ้นเรื่อย
00:22:23 → 00:22:27 ๆเลยระหว่างเรื่องอาหารที่เรากินอย่างที่
00:22:27 → 00:22:30 ลำไส้สร้างจากใยอาหารที่เรากินเข้าไป
00:22:30 → 00:22:32 เรื่องการอักเสบในร่างกายแล้วก็เรื่องการ
00:22:32 → 00:22:35 สะสมแคลเซียมในหลอดเลือดมันทำให้อดคิดต่อ
00:22:35 → 00:22:38 ไปไม่ได้ว่าหรือจริงๆแล้วเนี่ยการที่เรา
00:22:38 → 00:22:41 หันมาใส่ใจดูดูแลสุขภาพลำไส้ของเราให้ดี
00:22:41 → 00:22:44 ให้สมดุลให้แข็งแรงอาจจะเป็นอีกหนึ่ง
00:22:44 → 00:22:46 กุญแจดอกสำคัญที่เราอาจจะมองข้ามไปหรือ
00:22:46 → 00:22:49 เปล่าในการที่จะป้องกันแล้วก็จัดการกับ
00:22:49 → 00:22:51 ปัญหาสุขภาพหัวใจและหลอดเลือกได้อย่าง
00:22:51 → 00:22:54 ยั่งยืนจริงๆเรื่องนี้น่าสนใจมากๆเลยค่ะ
00:22:54 → 00:22:57 น่าจะลองไปค้นหาคำตอบกันต่อในอนาคตนะคะ
00:22:57 → 00:23:00 >> เป็นประเด็นที่น่าสนใจมากครับผม
00:23:00 → 00:23:17 [เพลง]