00:00:00 → 00:00:03 ไมเกรนไม่ใช่แค่โรคปวดหัวมีอาการร่วมอื่น
00:00:03 → 00:00:07 ๆมากมายเลยผู้ป่วยหญิงนะคะอายุประมาณ 54
00:00:07 → 00:00:09 ปีคือคนไข้ก็เริ่มมีปัญหาหลายเริ่องขึ้น
00:00:09 → 00:00:13 มาเช่นรู้สึกว่าบ้านหมุนร้อนวูบวาบใจเต้น
00:00:13 → 00:00:17 รัวแขนขาชาใจสั่นแพนิคก็กำรกไปปรึกษาคุณ
00:00:17 → 00:00:20 หมอจิตแพทย์เ่อก็ได้ยาในกลุ่มที่รักษา
00:00:20 → 00:00:22 เรื่องซุมเศร้านอนไม่หลำมาตัวนึงปรากฏว่า
00:00:22 → 00:00:25 คนไข้กินยาแล้วก็คือปวดหัวดิ่งมากๆจนรู้
00:00:25 → 00:00:27 สึกแบบไม่อยากอยู่แล้วอะไรอย่างเงี้ยค่ะ
00:00:27 → 00:00:30 สมมุติจุดตั้งต้นมาจากไมเกรนอ่ะเรามันแยก
00:00:30 → 00:00:32 แตกออกเป็นอีก 7 อาการเนี่ยโกในการรักษา
00:00:32 → 00:00:35 คนไข้ไมเกรนจริงๆคือเราถึงต้องดูองค์รวม
00:00:36 → 00:00:39 ดูทั้งหมดมีโรคร่วมอะไรบ้างวิตกกังวลซึม
00:00:39 → 00:00:42 เศร้าไปแล้วหรือยังมีกล้ามเนื้อคอตึงไม
00:00:42 → 00:00:44 หรือมีปัจจัยอะไรบ้างที่มากระตุ้นเขาเรา
00:00:44 → 00:00:47 เรียกอันนึงได้ว่ามันเป็นเรื่องของ mbs
00:00:47 → 00:00:49 symptom ในไมเกรนนะคะถ้าเรามีอาการผิด
00:00:49 → 00:00:51 ปกติอื่นๆแล้วเนี่ยหาอะไรไม่เจอลองรักษา
00:00:52 → 00:00:54 ไมเกรนดูก่อนจากเดิมที่แบบวันที่แย่นี่
00:00:54 → 00:00:57 คือเกือบทั้งเดือนเลยแต่ตอนเนี้ยวันที่ดี
00:00:57 → 00:00:59 จะเหลือแค่ประมาณมันไม่กี่วันที่ที่มัน
00:00:59 → 00:01:01 แยกลงสวัสดีค่ะหมอนุ่มนะคะแพทย์หญิง
00:01:01 → 00:01:03 ศุภมาศวิบูรสุขสารแพทย์เฉพาะทางระบบ
00:01:03 → 00:01:06 ประสาทและสมองค่ะวันนี้หมออยากจะมาแชร์
00:01:06 → 00:01:09 เคสนะคะยกตัวอย่างเคสที่เป็นเคสไมเกรน
00:01:09 → 00:01:11 จริงๆนะคะแล้วก็มีอาการค่อนข้างเยอะแยะ
00:01:11 → 00:01:14 มากมายเลยรวมไปถึงว่าเออจริงๆแล้วพอเขา
00:01:14 → 00:01:16 รักษาเนี่ยอาการเหล่านั้นน่ะมันก็ดีขึ้น
00:01:16 → 00:01:19 ตามได้นะคะอันนี้นะคะก็จริงๆแล้วเนี่ยก็
00:01:19 → 00:01:21 มาจากเรื่องของไมเกรนเนี่ยจริงๆไม่ใช่แค่
00:01:21 → 00:01:25 โรคปวดหัวนะคะมีอาการร่วมแต่อื่นๆต่างๆ
00:01:25 → 00:01:28 มากมายเลยนะคะเหมือนอย่างที่หมอเคยเอ่อ
00:01:28 → 00:01:30 เขียนโพสต์ไว้นะคะว่าจริงๆแล้วไไมเกรน
00:01:30 → 00:01:32 เนี่ยเ่าถ้าถ้าดูจากรูปนี้นะคะก็จะเห็น
00:01:32 → 00:01:35 ว่าเออไมเกรนมีอาการแบบเยอะแยะมากมายที่
00:01:35 → 00:01:37 คนไข้บางทีก็แบบอธิบายออกมาไม่ถูกเลยนะคะ
00:01:37 → 00:01:41 ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของจิตใจไม่ปกติไม่
00:01:41 → 00:01:43 อยากออกไปไหนนะคะรู้สึกไวต่อกลิ่นต่อ
00:01:43 → 00:01:47 เสียงเวียนหัวมีอ่อนเพลียนะคะรู้สึกสมอง
00:01:47 → 00:01:49 ล้าคือถ้าเกิดให้บรรยายจริงๆเนี่ยมันเยอะ
00:01:49 → 00:01:53 มากซึ่งหลายคนก็จะรู้สึกว่าเป็นได้อย่าง
00:01:53 → 00:01:55 นั้นจริงๆเลยหรอนะคะคือเหมือนแบบเอ้ยไม่
00:01:55 → 00:01:58 มีใครเข้าใจว่ามันขนาดนั้นจริงๆเลยหรอวัน
00:01:58 → 00:02:00 นี้ก็เลยอยากจะลองแบบเอาตัวอย่างของคนไข้
00:02:00 → 00:02:04 คนเคสนึงนะคะซึ่งท่านเนี่ยเาจดบันทึกไว้
00:02:04 → 00:02:06 อย่างละเอียดมากๆเลยเป็นข้อดีมากๆเลยที่
00:02:06 → 00:02:08 เาบรรยายอาการไว้อย่างละเอียดทำให้หมอที่
00:02:08 → 00:02:11 รักษาเนี่ยเข้าใจอาการของคนไข้ได้ทุก
00:02:11 → 00:02:14 อาการนะคะแล้วก็หาความสัมพันธ์ของอาการ
00:02:14 → 00:02:17 ต่างๆกับโรคไมเกรนรวมถึงการที่เราจะ
00:02:17 → 00:02:20 ประเมินคนไข้แล้วก็จะนำไปสู่เรื่องของการ
00:02:20 → 00:02:23 ตัดสินใจการรักษาคนไข้ด้วยลองมาฟังเคสนี้
00:02:23 → 00:02:26 กันเลยนะคะว่าเรามีอาการแบบนี้หรือเปล่า
00:02:26 → 00:02:28 ค่ะนี้นะคะก็เป็นเคสนะคะผู้ป่วยหญิงอายุ
00:02:28 → 00:02:32 ประมาณ 54 4 ปีคนไข้เนี่ยก็มีประวัติการ
00:02:32 → 00:02:34 เป็นไมเกรนมากับเหมือนกับหลายๆเคสนะคะคือ
00:02:34 → 00:02:36 เขาไม่ได้มาเป็นไมเกรนที่แย่มากมาแต่ไหน
00:02:36 → 00:02:40 แต่รายเดิมทีเนี่ยตั้งต้นก็เริ่มมีปวดหัว
00:02:40 → 00:02:42 เล็กๆน้อยๆตั้งแต่สมัยเป็นวัยรุ่นนะคะ
00:02:42 → 00:02:44 ช่วงอายุประมาณ 10 กว่าๆก็เริ่มมีอาการ
00:02:44 → 00:02:47 ปวดตุ๊บๆละปวดไมเกรนนะคะอาจจะช่วงมีรอบ
00:02:47 → 00:02:49 เดือนรอบประจำเดือนอะไรก็แล้วแต่แต่ว่า
00:02:49 → 00:02:51 ตอนนั้นเนี่ยเขาก็ไม่รู้หรอกว่าเนี่ยยคือ
00:02:51 → 00:02:53 ไมเกรนก็ไม่ได้ไปรักษาที่ไหนด้วยแล้วก็
00:02:53 → 00:02:55 ไม่ได้กินยาอะไรด้วยนะคะก็คือเป็นน้อยๆ
00:02:55 → 00:02:58 มากๆผ่านเวลาผ่านไปนะคะก็ไปสู่ช่วงวัยทำ
00:02:58 → 00:03:01 งานก็เหมือนหลายๆเคสเลยพอเป็นวัยทำงาน
00:03:01 → 00:03:03 ปึ๊บเริ่มมีความเครียดมากขึ้นเริ่มอดนอน
00:03:03 → 00:03:06 มากขึ้นหรือว่าอ่าตัวไมเกรนเองเนี่ยก็
00:03:06 → 00:03:08 เหมือนถูกกระตุ้นมาเรื่อยๆนะคะจนมันก็
00:03:08 → 00:03:10 เริ่มสั่งสมมากขึ้นนะคะทำให้อาการปวด
00:03:10 → 00:03:13 ไมเกรนเริ่มมาแบบสม่ำเสมอมากยิ่งขึ้นนะคะ
00:03:13 → 00:03:15 ก็คือเริ่มมาเดือนนึงเนี่ยประมาณ 2 ครั้ง
00:03:15 → 00:03:17 บ้าง 3 ครั้งบ้าง 4 ครั้งบ้างซึ่งถึงตอน
00:03:17 → 00:03:19 เนี้ยเา้าก็ได้มีไปตรวจแล้วก็เริ่มรู้
00:03:19 → 00:03:21 แล้วล่ะว่าเป็นไมเกรนแต่ว่ายังเป็นไมเกรน
00:03:21 → 00:03:24 น้อยๆนะคะก็คือใช้ยาแค่แก้ปวดทั่วไปพวก
00:03:24 → 00:03:27 ไอบูโพรเฟนเนี่ยอาการก็หายดีไม่ได้ถึงกับ
00:03:27 → 00:03:29 แบบเป็นไมเกรนที่แบบเป็นอาเจียนหรืออะไร
00:03:29 → 00:03:31 นะคะไม่ได้มีผลต่อการใช้ชีวิตอาการทุก
00:03:31 → 00:03:34 อย่างเนี่ยก็จะมาแย่ลงในช่วงที่เป็นช่วง
00:03:34 → 00:03:37 อ่าเข้าใกล้วัยหมดประจำเดือนนะคะสักช่วง
00:03:37 → 00:03:39 ประมาณ 50 ปีคือคนไข้ก็เริ่มมีปัญหาหลาย
00:03:39 → 00:03:42 เรื่องขึ้นมาเช่นรู้สึกว่าอมีร้อนวูบวาบ
00:03:42 → 00:03:45 นอนไม่หลับอารมณ์เปลี่ยนแปลงมีใจสั่นคน
00:03:45 → 00:03:47 ไข้เนี่ยก็รู้สึกว่าเออแบบอาการมันแบบ
00:03:48 → 00:03:50 เหมือนไปทางโรคหัวใจมากกว่าก็ได้ไปตรวจ
00:03:50 → 00:03:53 กับคุณหมอหัวใจได้กินนยารักษาเรื่องใจ
00:03:53 → 00:03:55 สั่นอะไรมานะคะแล้วก็คนไข้ก็ได้รับการ
00:03:55 → 00:03:58 วิสัยว่ามีแบบแพนิคนิดๆมีความกังวลแล้วก็
00:03:59 → 00:04:01 เครียดคข้างง่ายนะคะซึ่งในระระหว่างนั้น
00:04:01 → 00:04:03 เองเนี่ยไมเกรนก็อาจจะดูเหมือนเป็นบ่อย
00:04:03 → 00:04:05 ขึ้นแล้วก็ถีขึ้นนะคะแต่ก็ยังไม่ได้แบบ
00:04:05 → 00:04:08 ถึงขั้นแบบรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันอะไร
00:04:08 → 00:04:12 นะคะจนกระทั่งแบบมาแย่มากๆเนี่ยก็ในช่วง
00:04:12 → 00:04:14 ประมาณสัก 1 เดือนให้หลังนะคะคือคนไข้ก็
00:04:14 → 00:04:16 เริ่มมีปัญหาเรื่องเหมือนนอนไม่หลับอะไร
00:04:17 → 00:04:19 อย่างเงี้ยนะคะก็ไปปรึกษาคุณหมอจิตแพทย์
00:04:19 → 00:04:21 เ่อก็ได้ยาในกลุ่มที่รักษาเรื่องซุมเศร้า
00:04:21 → 00:04:24 นอนไม่หลับมาตัวนึงปรากฏว่าหลังจากนั้น
00:04:24 → 00:04:26 เนี่ยพอกินยาไปแล้วเหมือนมีผลข้างเคียง
00:04:26 → 00:04:28 ค่อนข้างมากอ่ะค่ะคนไข้กินยาแล้วก็คือปวด
00:04:28 → 00:04:30 หัวขึ้นมาทันทีเลยไปเหมือนไปกระตุ้น
00:04:30 → 00:04:32 ไมเกรนที่เขาเป็นอยู่แล้วเนี่ยให้มันแย่
00:04:32 → 00:04:35 ลงนะคะจากวันนั้นก็คือคนไข้ปวดหัวทุกวัน
00:04:35 → 00:04:39 เลยแล้วรู้สึกว่าแบบมันแบบไม่มีความสุขนะ
00:04:39 → 00:04:42 คะแบบเวียนหัวตื่นมาก็ปวดหัวเลยต้องกินยา
00:04:42 → 00:04:45 แก้วปวดทุกวันนะคะแล้วก็พอเวียนหัวก็เลย
00:04:45 → 00:04:47 ได้ไปกินยาแก้วเวียนหัวอีกตัวนึงด้วยซึ่ง
00:04:47 → 00:04:50 ยาแก้วเวียนหัวตัวนั้นเนี่ยก็เ่อก็อยู่ใน
00:04:50 → 00:04:52 กลุ่มแก้วเวียนหัวเทาวแดงที่เป็นยารักษา
00:04:52 → 00:04:55 ไมเกรนนะคะซึ่งบางคนเนี่ยแบบที่อาจจะมีผล
00:04:55 → 00:04:57 ข้างเคียงว่าทำให้อารมณ์มันดาวหรือว่า
00:04:57 → 00:05:00 deess มากขึ้นได้นะคะซึ่งคนนี้ก็เป็นก็
00:05:00 → 00:05:03 คือแบบพอกินยาเสร็จปุ๊บนะคะก็คนไข้รู้สึก
00:05:03 → 00:05:06 ว่าดิ่งมากๆจนรู้สึกแบบมีความคิดที่จะทำ
00:05:06 → 00:05:08 ร้ายตัวเองไม่ไม่ได้ทำร้ายตัวเองแต่มี
00:05:08 → 00:05:10 ความคิดที่รู้สึกว่าไม่อยากอยู่แล้วอะไร
00:05:10 → 00:05:12 อย่างเงี้ยค่ะซึ่งสิ่งเยไม่เคยเกิดขึ้น
00:05:12 → 00:05:16 กับเค้านะคะก็ทำให้ในช่วงตลอดประมาณซัก
00:05:16 → 00:05:18 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมาก่อนที่จะมาเจอกัน
00:05:18 → 00:05:21 เนี่ยคือคนไข้อ่ะค่อนข้างเอ่อเครียดกับ
00:05:21 → 00:05:23 เรื่องโรคไมเกรนมากๆว่ามันปวดหัวไมเกรน
00:05:23 → 00:05:27 มากๆแล้วก็กินยาทุกวันนะคะรวมไปถึงอารมณ์
00:05:27 → 00:05:30 ที่มันแย่ลงมากๆด้วยนะคะตอนตอนนั้นเนี่ย
00:05:30 → 00:05:32 คนไข้ก็เหมือนไม่รู้จะบรรยายยังไงนะคะก็
00:05:32 → 00:05:35 เลยแบบวาดรูปออกมาเลยนะคะว่าเคอ่ะรู้สึก
00:05:35 → 00:05:37 ยังไงเพราะว่ากลัวเดี๋ยวหมอจะไม่เข้าใจ
00:05:37 → 00:05:40 ว่าแบบมันมีออาการอะไรบ้างนะคะคือตอนนั้น
00:05:40 → 00:05:42 คนไข้ก็เลยแบบว่าเขียนเลยว่าแบบเอออาการ
00:05:42 → 00:05:45 หลักๆเนี่ยมันจะมี 1 นะคะเขาเรียกว่า
00:05:45 → 00:05:48 เหมือนเป็นปวดหัวปวดแบบไม่ใช่แบบแค่ตุ๊บๆ
00:05:48 → 00:05:53 ะแต่มันมีความอึนความแบบหัวไม่โล่งความ
00:05:53 → 00:05:56 รู้สึกว่าเบนมันฟอ่ะค่ะคนหลายคนจะเคยได้
00:05:56 → 00:05:59 ยินคำว่าเนฟใช่ไหมมคะคืออาการสมองล้านะนะ
00:05:59 → 00:06:02 คะก็คือเป็นความรู้สึกที่เหมือนมันไม่ใช่
00:06:02 → 00:06:05 หลงลืมแต่มันเป็นความรู้สึกที่มันคิดไม่
00:06:05 → 00:06:09 ออกเหมือนมีอะไรมาบังมีหมอกมาบังนะคะแล้ว
00:06:09 → 00:06:13 ก็เหมือนสมาธิไม่ดีนะคะแล้วนอกจากนั้น
00:06:13 → 00:06:16 เนี่ยเค้าก็รู้สึกว่าเค้าตราพร่ามากสู้
00:06:16 → 00:06:19 แสงไม่ได้เลยนะคะรวมไปถึงแบบกลิ่นด้วย
00:06:19 → 00:06:23 กลิ่นอาหารเนี่ยก็คือไม่ได้เลยนะคะมีชาชา
00:06:23 → 00:06:29 บ้านหมุนร้อนวูบวาบใจเต้นรัวแขนขาชาใจ
00:06:30 → 00:06:32 สั่นอีกแล้วพอมีอาการทุกอย่างก็รู้สึกว่า
00:06:32 → 00:06:36 แพนิคก็กำเริบนะคะคือจะเห็นว่าแบบที่เขา
00:06:36 → 00:06:40 บรรยายทั้งหมดอ่ะมันทั้งตัวเออมันมันมัน
00:06:40 → 00:06:43 ไม่ไม่ไม่ปกติเลยอ่ะจนกระทั่งที่คนไข้
00:06:43 → 00:06:46 เอ่อประมาณในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมาก็
00:06:46 → 00:06:48 คือคนไข้ไม่ออกจากบ้านเลยนะคะก็คือเขา
00:06:48 → 00:06:50 กลัวการออกไปข้างนอกเลยแล้วก็รู้สึกว่า
00:06:50 → 00:06:52 ไม่อยากจะไปกินอะไรไม่อยากจะไปทำอะไรแล้ว
00:06:52 → 00:06:56 นะคะอารมณ์ก็ยิ่งดิ่งลงไปอีกนะคะคือจริงๆ
00:06:56 → 00:06:58 เนี่ยคนเนี้ยเอ่อน่ารักมากเลยในการที่เขา
00:06:58 → 00:07:01 บรรยายบรรยายอาการของเา้ามาทั้งหมดนะคะ
00:07:01 → 00:07:04 เพราะว่าเอาจริงๆถ้าเกิดสมมุติว่าเราอ่ะ
00:07:04 → 00:07:07 แบบเหมือนบางทีเราไม่ได้เขียนมันออกมาค่ะ
00:07:07 → 00:07:10 เวลามาเล่าให้หมอฟังเนี่ยบางทีมันก็อ่า
00:07:10 → 00:07:14 วันนั้นตื่นเต้นเล่าไม่หมดหรืออาจจะแบบ
00:07:14 → 00:07:17 นึกไม่ออกะเช่นบางอย่างมันผ่านไป 2-3
00:07:17 → 00:07:21 สัปดาห์ละก็อาจจะไม่ได้ไม่ได้จำได้หมดทุก
00:07:21 → 00:07:23 รายละเอียดขนาดนั้นนะคะแต่ว่าพอเขียนมัน
00:07:23 → 00:07:26 ออกมาเนี่ยเอ่อหมอก็ได้ทำความเข้าใจแล้ว
00:07:26 → 00:07:29 ก็พยายามแบบลิสออกมาว่าเออจริงๆแล้วเนี่ย
00:07:29 → 00:07:31 อาการเหล่านี้นะคะคนของคนไข้เนี่ยเรา
00:07:31 → 00:07:34 เรียกอันนึงได้ว่ามันเป็นเรื่องของ mbs
00:07:34 → 00:07:37 symptom ในไมเกรนนะคะ mbs ก็คือมาจากโส
00:07:37 → 00:07:41 butters symptom นะคะของไมเกรนนะคะแปล
00:07:41 → 00:07:43 เป็นภาษาไทยก็เหมือนเป็นอาการที่ทำให้คน
00:07:43 → 00:07:46 ไข้ไมเกรนเนี่ยรู้สึกไม่สุขสบายหรือว่า
00:07:46 → 00:07:49 รู้สึกรำคาญหรือว่าเป็นอาการที่ทำให้เขา
00:07:49 → 00:07:53 ซัฟเฟอร์รู้สึกแย่แค่ไม่ใช่ที่ไม่ใช่แค่
00:07:53 → 00:07:56 ปวดหัวนะคะซึ่งเ่อ mbs symptom ในไมเกรน
00:07:56 → 00:08:00 เนี่ยมีเยอะมากๆเลยนะคะในคนนี้นะคะที่ริ
00:08:00 → 00:08:04 ออกมาได้เนี่ยก็จะมีอันนึงก็อ่ะอันแรกเลย
00:08:04 → 00:08:06 ก็คือ difficult in concentration ก็
00:08:06 → 00:08:10 คือรู้สึกว่าหัวมันไม่โล่งสมาธิไม่ดีนะคะ
00:08:10 → 00:08:13 ก็คือสมองเนี่ยความจำแย่ลงอันที่ 2 ก็คือ
00:08:13 → 00:08:17 มีการมองเห็นที่ผิดปกตินะคะเพตราพร่านะคะ
00:08:17 → 00:08:20 ไวต่อแสงมากกว่าปกตินะคะอันที่ 3 ก็คือมี
00:08:20 → 00:08:24 เรื่องของโฟเบียก็คือตราสู้แสงไม่ได้นะคะ
00:08:24 → 00:08:28 มีอาการคื่นไส้เวียนหัวบ้านหมุนรวมไปถึง
00:08:28 → 00:08:30 มีอาการที่รู้สึกว่ามีพาร้อนวูบวาบระปบ
00:08:30 → 00:08:33 ประสาทอัตโนมัติที่ทำงานผิดปกติด้วยก็คือ
00:08:33 → 00:08:35 ริสออกมาได้ประมาณนี้ซึ่งจริงๆมันก็ถือ
00:08:35 → 00:08:38 ว่าเป็นิ่งหนึ่งใน mbs symptom ในไมเกรน
00:08:38 → 00:08:40 ได้เลยอาจจะต้องแยกจากสาเหตุโรคอื่นๆไป
00:08:40 → 00:08:42 ก่อนด้วยนะคะเช่นบางคนมีเวียนหัวบ้านหมุน
00:08:42 → 00:08:45 แต่เขามีสาเหตุอื่นๆเช่นมีเอ่อเรื่องของ
00:08:45 → 00:08:47 ฮินปูนชั้นในหูชั้นในหลุดหรืออะไรอย่าง
00:08:47 → 00:08:49 เงี้ยนะคะแต่ว่าในกรณีนี้เนี่ยหมอจะพูด
00:08:49 → 00:08:52 ถึงในกรณีที่ว่าคือแยกโลกอย่างอื่นออกไป
00:08:52 → 00:08:54 หมดแล้วอ่ะแล้วก็รักษาอย่างอื่นมาแล้ว
00:08:54 → 00:08:57 ด้วยคือคนเนี้ก็ไปรักษาบ้านหมุนกินยาอ่า
00:08:57 → 00:08:59 รักษาบ้านหมุนทั่วไปหรืออะไรแล้วมันมันก็
00:08:59 → 00:09:02 ไม่ดีขึ้นนะคะเพราะฉะนั้นก็เหมือนแบบพอ
00:09:02 → 00:09:04 มันเหลือเป็นอาการที่มันมาร่วมกับไมเกรน
00:09:04 → 00:09:05 แล้วะเราก็จะคิดว่าน่าจะเป็นอาการร่วมของ
00:09:06 → 00:09:10 ไมเกรนนะคะอันนี้ก็เป็นไดอารี่ของคนไข้
00:09:10 → 00:09:14 ที่คนไข้อ่าเขียนมานะคะซึ่งคนไข้ก็จะ
00:09:14 → 00:09:17 เขียนใส่ปฏิทินเลยว่าแบบในแต่ละวันเนี่ย
00:09:17 → 00:09:19 เขามีอาการอะไรบ้างนะคะก็จะเห็นว่าแบบ
00:09:19 → 00:09:21 อาการแย่ลงเนี่ยตั้งแต่เริ่มเริ่มที่ได้
00:09:21 → 00:09:25 ไปกินยาตัวนึงมาแล้วรู้สึกว่ามันมันมี
00:09:25 → 00:09:27 Side เอฟเฟคมีผลข้างเคียงค่อนข้างเยอะ
00:09:27 → 00:09:29 แล้วหลังจากนั้นเนี่ยเค้าก็ตุ๊บๆๆมาตลอด
00:09:29 → 00:09:33 นะคะแล้วก็จะมีความที่ไวต่ออาหารมากๆกิน
00:09:33 → 00:09:36 อะไรก็ไม่ได้เลยนะคะผงชูโรสอกอฮอลนี่คือ
00:09:36 → 00:09:38 ไม่ต้องกินนะแค่ได้กลิ่นก็เป็นแล้วนะคะ
00:09:38 → 00:09:41 กล้วยนะคะหรือว่าพวกของดองผักดองอะไรต่าง
00:09:41 → 00:09:44 ๆพอไมเกนเขากำเริบหนักมากๆเข้าแล้วอ่ะเขา
00:09:44 → 00:09:47 ได้กลิ่นก็ไม่ได้เลยยังไม่ทันกินเลยก็ปวด
00:09:47 → 00:09:50 หัวแล้วนะคะแล้วก็เด่นๆเลยที่คนไข้รู้สึก
00:09:50 → 00:09:53 ก็คือคนไข้จะรู้สึกว่าเอ่อมีอาการตาลายตา
00:09:53 → 00:09:57 มัวตาพร่าสู้แสงไม่ได้จมูกตันด้วยนะคะรู้
00:09:57 → 00:09:59 สึกว่าหัวมันไม่โล่งแล้วก็แบบแรงดันสมอง
00:09:59 → 00:10:02 เนี่ยมันเหมือนเพิ่มขึ้นคือคนค่อยจะรู้
00:10:02 → 00:10:04 สึกเหมือนหัวมันจะระเบิดอ่ะค่ะก็ไม่รู้จะ
00:10:04 → 00:10:06 ใช้คำว่าอะไรก็เหมือนแบบรู้สึกว่าในสมอง
00:10:06 → 00:10:09 มันมีแรงดันเพิ่มขึ้นนอกจากนี้นะคะก็คือ
00:10:09 → 00:10:13 จะรู้สึกว่ามีอาการชาด้วยชาตัวนะคะจะเห็น
00:10:13 → 00:10:16 ว่าในปฏิทินของเขาคนะคะถ้าเกิดคนเรามี
00:10:16 → 00:10:19 อาการแบบนี้ทั้งเดือนนะคะคือก็น่าจะมี
00:10:19 → 00:10:22 เรื่องวิตกกังวลมีเรื่องซึมเศร้าเพราะว่า
00:10:22 → 00:10:24 มันก็เหมือนเราทำอะไรไม่ได้เลยอ่ะค่ะออก
00:10:24 → 00:10:27 ไปไหนก็ไม่ได้ไม่อยากเจอใครนะคะถ้าทำงาน
00:10:27 → 00:10:30 ก็คือทำงานไม่ได้นะคะก็เหมือนต้องลางาน
00:10:31 → 00:10:33 อีกนะคะเพราะฉะนั้นก็ค่อนข้างจะจะค่อน
00:10:33 → 00:10:36 ข้างจะแบบรบกวนการใช้ชีวิตพอสมควรเลยอัน
00:10:36 → 00:10:39 นี้ก็เป็นอาการอย่างละเอียดของคนไข้อีกที
00:10:39 → 00:10:42 นึงเขาก็ลิสต์ออกมาเต็มๆเลยว่าแบบก่อนนอน
00:10:42 → 00:10:45 อาการเป็นยังไงกินยาแล้วเป็นยังไงนะคะมี
00:10:45 → 00:10:49 อาการหัวทึบๆแน่นๆบางวันหัวโล่งบางวันหัว
00:10:49 → 00:10:52 ไม่โล่งเ่าถ้าวันไหนมีอาการอ่าดีขึ้นหรือ
00:10:52 → 00:10:54 อะไรอย่างเงี้ยเขาคก็จะเขียนไว้หมดเลยนะ
00:10:54 → 00:10:56 คะซึ่งอันเนี้ยช่วยในการที่แบบติดตามการ
00:10:56 → 00:10:59 รักษาแล้วก็เหมือนเห็นภาพคนไข้มากขึ้นนะ
00:10:59 → 00:11:01 ค่ะบางทีเราเราดูแค่วันที่ปวดหัวไม่ได้
00:11:01 → 00:11:03 เช่นบางทีเราจะรู้สึกว่าเอ้ยๆคนไข้ไม่
00:11:03 → 00:11:06 เห็นปวดหัวเลยเนี่ยถ้ามานั่งอ่านจริงๆอ่ะ
00:11:06 → 00:11:08 วันที่ปวดหัวจริงๆเดูน้อยนะคะแต่ว่าอ
00:11:08 → 00:11:12 อาการอื่นๆของเขาคเนี่ยเยอะนะคะซึ่งอัน
00:11:12 → 00:11:15 นี้นะคะก็จะเห็นว่าแบบเอ่ออาการเด่นๆเลย
00:11:15 → 00:11:18 ก็คือเรื่องของแบบพวกหัวทึบๆแน่นๆนะคะหัว
00:11:18 → 00:11:20 มีหมอกนิดๆอะไรอย่างเงี้ยค่ะเราเรียกว่า
00:11:20 → 00:11:24 กลุ่มอาการเนฟนะคะหมอเจอบ่อยนะว่าคนไข้
00:11:24 → 00:11:27 ไมเกรนน่ะมาด้วยบอกว่าความจำแย่ลงนะคะ
00:11:27 → 00:11:30 แล้วก็หลายคนหๆเคสเลยอ่ะค่ะไม่มาด้วยไม่
00:11:30 → 00:11:33 ได้มาบอกด้วยว่าเป็นไมเกรนค่ะแล้วมีความ
00:11:33 → 00:11:35 จำแย่ลงค่ะแต่ว่าคนไข้จะมาตรวจด้วยว่า
00:11:35 → 00:11:38 ช่วงเนี้ยรู้สึกว่าความจำมันแย่ลงแบบคิด
00:11:38 → 00:11:42 คำไม่ออกบางทีจะเรียกคำอะไรเช่นแบบเอ่อจะ
00:11:42 → 00:11:44 เรียกเดินผ่านจะเรียกคำว่าสะพานลอยอย่าง
00:11:44 → 00:11:46 เงี้ยนึกคำว่าสะพานลอยไม่ออกโดยเฉพาะเป็น
00:11:46 → 00:11:48 คำที่เราเหมือนแบบไม่ได้ใช้บ่อยๆอย่าง
00:11:48 → 00:11:51 เงี้ยค่ะแต่ว่าถามว่าความจำโดยภาพรวมก็ก็
00:11:51 → 00:11:54 ดูเหมือนจะยังโอเคก็ทำงานได้ปกติแต่ว่า
00:11:54 → 00:11:56 สมองมันไม่เหมือนเดิมซึ่งจริงๆอ่ะคนไข้
00:11:56 → 00:11:59 อ่ะไม่ได้มาด้วยบอกด้วยว่าว่ามาด้วย
00:11:59 → 00:12:01 ไมเกรนเลยนะคะคนไข้มาด้วยบอกว่าเนี่ยความ
00:12:01 → 00:12:03 จำมันแย่ลงสมาธิไม่ดีหรืออะไรอย่างเงี้ย
00:12:03 → 00:12:06 ค่ะซึ่งคนไข้ก็จะกังวลเรื่องของพวกเรื่อง
00:12:06 → 00:12:09 โรคความจำเสื่อมมากกว่าเช่นเอ่อเป็น
00:12:09 → 00:12:11 อัลไซเมอร์มั้ยนะคะหรือบางคนที่อย่าง
00:12:11 → 00:12:13 เงี้ยพอมีปวดหัวด้วยก็จะกลัวเรื่องแบบ
00:12:13 → 00:12:15 เป็นเนื้องอกในสมองมยอะไรอย่างเงี้ยค่ะ
00:12:15 → 00:12:17 กลุ่มเนี้ยเรามาตรวจกันจริงๆแล้วอ่ะค่ะพอ
00:12:17 → 00:12:20 มาทำเทสของความจำจริงๆเรามักจะพบว่าคนไข้
00:12:20 → 00:12:23 เนี่ยคะแนนยังปกตินะคะหรือบางคนก็ได้อาจ
00:12:23 → 00:12:26 จะได้ไปทำตรวจ CT สแกนมาแล้วหรือว่า MRI
00:12:26 → 00:12:29 มาแล้วนะคะก็พบว่าเอก็ปกติอีกเหมือนกัน
00:12:29 → 00:12:32 แต่คนไข้ความจำไม่ดีขึ้นนะคะก็ยิ่งกังวล
00:12:32 → 00:12:35 ไปใหญ่เลยว่าเราเกิดอะไรล่ะบางทีไปหา
00:12:35 → 00:12:37 อย่างเงี้ยค่ะพอเราพอเรากังวลเรื่องความ
00:12:37 → 00:12:39 จำแล้วอ่ะบางทีไปหาหมอก็ได้รับการ
00:12:39 → 00:12:42 วินิจฉัยมาอีกว่าอ๋อเป็นโรควิตกกังวลไปละ
00:12:42 → 00:12:44 อะไรอย่างเงี้ยค่ะซึ่งก็ไปได้ยากลุ่ม
00:12:44 → 00:12:46 รักษาโรควิตกกังวลมาแล้วก็บางทีก็มีผล
00:12:46 → 00:12:47 ข้างเคียงความจ้ำแยะลงไปอีกอะไรอย่าง
00:12:47 → 00:12:49 เงี้ยค่ะคืออันนี้เล่าให้เห็นภาพว่าเออ
00:12:49 → 00:12:52 แบบบางทีอ่ะเราลืมนึกไปเลยนะว่าไอ้ไอ้พวก
00:12:52 → 00:12:55 กลุ่มอาการความจำที่มันแย่ลงหรือว่าสมาธิ
00:12:55 → 00:12:57 มันเสียหรือว่าเนฟเนี่ยสุดท้ายมันมาจาก
00:12:57 → 00:12:59 ไมเกรนก็ได้อย่างเคสที่ที่หมเล่าให้ฟังก็
00:12:59 → 00:13:02 คือว่าพอคนไข้รักษาไมเกรนปุ๊บหัวโล่งเลย
00:13:02 → 00:13:04 ความจำดีขึ้นนะคะก็คนเก็เหมือนกันอาการ
00:13:04 → 00:13:07 เด่นๆของเขาเลยตอนหลังอ่ะมันไม่ใช่ปวดหัว
00:13:07 → 00:13:09 นะแต่มันเป็นเรื่องของที่เขารู้สึกว่า
00:13:09 → 00:13:11 สมองเขาไม่เหมือนเดิมคือด้วยความที่คนไข้
00:13:11 → 00:13:15 อ่ะได้ยารับประทานมานะคะแล้วก็มีผลข้าง
00:13:15 → 00:13:17 เคียงจากยาเพราะฉะนั้นคนไข้เนี่ยจะกลัว
00:13:17 → 00:13:19 การใช้ยารับประทานเอ่อตอนนั้นหมอก็เลย
00:13:19 → 00:13:22 รักษาไปโดยการใช้ยาฉีดนะคะรักษาไมเกรนนะ
00:13:22 → 00:13:26 คะที่เป็นยาในกลุ่มยับยั้งสาร cgrp ผ่าน
00:13:26 → 00:13:29 ไป 1 เดือนหลังจากที่เอ่อฉีดยาไปนะคะคะก็
00:13:29 → 00:13:32 จะเห็นว่าคนไข้เนี่ยเริ่มเริ่มโอเคขึ้นนะ
00:13:33 → 00:13:35 คะจริงๆคนไข้เริ่มบอกว่าดีขึ้นตั้งแต่ 5
00:13:35 → 00:13:39 สิงหาคม 2-3 อาทิตย์หลังจากรักษาครั้งแรก
00:13:39 → 00:13:41 นะคะก็เริ่มก็เริ่มโอเคขึ้นแล้วก็มีวัน
00:13:41 → 00:13:43 ที่ดีมากขึ้นจะเห็นว่า
00:13:43 → 00:13:46 เอ่อจากเดิมที่รู้สึกว่ามันอะไรก็ไม่รู้
00:13:47 → 00:13:50 อ่ะทั้งเดือนเลยนะคะเริ่มมีวันที่ดูช่อง
00:13:50 → 00:13:54 โล่งๆเป็นวันที่ดูแบบจะสดใสขึ้นนะคะแต่
00:13:54 → 00:13:57 ถามว่าหายสนิทมั้ยก็ยังไม่ได้หายสนิทนะคะ
00:13:57 → 00:14:00 เพราะว่าต่อให้เรารักษายาปปกันไมเกรนไป
00:14:00 → 00:14:02 เนี่ยยามันไม่ใช่ยาแบบโอ้โหฉีดแล้วหายทัน
00:14:02 → 00:14:06 ทีนะคะยาไม่ใช่ยาแก้ปวดยาคือการที่ไปยับ
00:14:06 → 00:14:08 ยั้งสารที่จะกระตุ้นไมเกรนนะคะเพราะ
00:14:08 → 00:14:11 ฉะนั้นเนี่ยมันต้องใช้เวลาในการออกฤทธิ์
00:14:11 → 00:14:13 นะคะแต่ละตัวก็ออกฤทธิ์ไม่เท่ากันแล้วก็
00:14:13 → 00:14:16 เราก็ต้องคุมปัจจัยเสียงอื่นๆของคนไข้
00:14:16 → 00:14:18 ด้วยนะคะเพราะฉะนั้นเนี่ยเ่าเดือนแรกหลัง
00:14:18 → 00:14:21 การรักษานะคะให้ดีขึ้นได้อย่างน้อยสัก
00:14:21 → 00:14:23 ประมาณครึ่งนึงอย่างเงี้ยก็ถือว่าโอเคะ
00:14:23 → 00:14:25 หรือว่าบางทีเราไม่ได้วัดเป็นจำนวนวันที่
00:14:25 → 00:14:28 คนไข้มีอาการปวดหัวหรือว่าการกินยาแก้ปวด
00:14:28 → 00:14:30 อย่างเดียวค่ะแต่ว่าเราดูภาพรวมของคนไข้
00:14:30 → 00:14:32 ทั้งหมดเลยว่าหลังรักษาไปแล้วว่าคนไข้
00:14:32 → 00:14:36 แฮปปี้ขึ้นมนะคะชีวิตดีขึ้นมนะคะอย่างคน
00:14:36 → 00:14:39 นี้นะคะก็เอ่อหลังจากที่ฉีดยารักษาไปแล้ว
00:14:39 → 00:14:41 เนี่ยความคิดที่รู้สึกว่ามันไม่อยากจะ
00:14:41 → 00:14:44 อยู่ตรงนั้นมันหายไปละอยากจะออกไปข้างนอก
00:14:44 → 00:14:47 แต่ก็ยังไวกับตัวกระตุ้นบางอย่างอยู่เช่น
00:14:47 → 00:14:49 เวลาแบบฝนจะตกหรือว่าอาหารบางอย่างอาหาร
00:14:49 → 00:14:51 ดองเนี่ยอันเนี้ยก็ยังมีความไวต่อตัว
00:14:51 → 00:14:54 กระตุ้นได้บ้างแต่ว่าโดยรวมอาการก็ดีขึ้น
00:14:54 → 00:14:56 พอหมอใช้ยาไปสักประมาณ 3 เดือนนะคะแล้ว
00:14:56 → 00:15:00 เรารู้สึกว่าอืมจริงๆอ่ะคนคนไข้ไมเกรนอ่ะ
00:15:00 → 00:15:02 ดีขึ้นได้กว่านี้อีกนะอะไรอย่างเงี้ยค่ะ
00:15:02 → 00:15:04 เพราะว่าเคสที่ตอบสนองกับไมเกรนดีจริงๆ
00:15:04 → 00:15:08 อ่ะแทบจะแบบหายได้แบบ 8 90% หรือว่าบาง
00:15:08 → 00:15:11 คนก็คือแทบเกือบจะแบบไม่ไม่มีอาการเลยอ่ะ
00:15:11 → 00:15:14 ได้นะคะเพราะฉะนั้นหมอก็สวิชยาค่ะก็
00:15:14 → 00:15:16 เปลี่ยนไปใช้อีกตัวนึงเคสนี้ก็เหมือนกัน
00:15:16 → 00:15:18 ค่ะท่านนี้ก็เหมือนกันหมอก็ได้สวิชยา
00:15:18 → 00:15:21 เพื่อให้คนไข้อ่ะเอ่อตอบสนองกับยามากขึ้น
00:15:21 → 00:15:23 นะคะหลังจากฉีดยาเปลี่ยนนเป็นฉีดยาวตัว
00:15:23 → 00:15:26 ที่ 2 ไปนะคะก็ปรากฏว่าเอ่อไอ้อาการที่
00:15:26 → 00:15:29 รู้สึกว่าแบบออนแรงสันต้าอะไอะไรอย่าง
00:15:29 → 00:15:32 เงี้ยค่ะหรือว่ามีเสียงวิ้งเวียนหัวค่ะ
00:15:32 → 00:15:36 แล้วก็เนฟเนี่ยแทบจะแบบดีๆๆขึ้นมากๆนะคะ
00:15:36 → 00:15:38 เนาะอย่างอันเนี้ยคนไข้ก็จะเขียนวันที่ดี
00:15:38 → 00:15:42 แล้วก็วันที่แย่นะคะแล้วก็อันที่คนไข้บอก
00:15:42 → 00:15:45 ว่าเด่นเลยอ่ะคือเนฟอ่ะเา้ารู้สึกดีขึ้น
00:15:45 → 00:15:47 จริงๆแล้วอ่ะเวลาเรารู้สึกว่าเราความจำ
00:15:48 → 00:15:49 ไม่ดีอ่ะเราอย่าเพิ่งโทษอัลไซเมอร์อย่าง
00:15:49 → 00:15:52 เดียวนะมันมีหลายปัจจัยมากๆเลยนะคะอันนึง
00:15:52 → 00:15:54 เลยที่แบบเหมือนพอคนไข้แบบแก้ทุกอย่าง
00:15:54 → 00:15:56 อะไรแล้วก็ไม่หายอ่ะพอมานั่งซักประวัติ
00:15:56 → 00:15:59 จริงกันจริงๆอ่ะปรากฏว่าเออเขาคเป็นไมเก
00:15:59 → 00:16:01 ที่เป็นค่อนข้างเยอะนะคะมันก็เลยทำให้เขา
00:16:01 → 00:16:05 รู้สึกว่าสมองอ่ะมันไม่ไม่เ่อไม่สามารถทำ
00:16:05 → 00:16:07 งานได้ปกตินะคะแล้วพอรักษาไมเกรนก็ปรากฏ
00:16:07 → 00:16:09 ว่าเออมันก็ดีขึ้นจริงๆนะคะเพราะว่า
00:16:09 → 00:16:11 ไมเกรนอ่ะเหมือนเวลาเรากำเริมขึ้นมาแต่ละ
00:16:12 → 00:16:14 ทีอ่ะให้นึกภาพว่าเหมือนสมองมันก็เหมือน
00:16:14 → 00:16:16 มีไฟช็อตอ่ะค่ะสมมุติว่าเราปวดไมเกรนวัน
00:16:16 → 00:16:18 เนี้ยหรือว่ามีอาการไมเกรนกำเเริ่มวัน
00:16:18 → 00:16:21 เนี้ยปปกโดยธรรมชาติของไมเกรนก็ต้องใช้
00:16:21 → 00:16:23 เวลาอย่างหน้อยประมาณ 1-2 วันในการที่จะ
00:16:23 → 00:16:25 ทำให้เรารู้สึกว่าเรากลับมาปกติอ่ะค่ะคน
00:16:25 → 00:16:29 ปวดไมเกรนจะรู้รู้ว่าเออเวลาเราปวดหัวต่อ
00:16:29 → 00:16:30 ให้หายปวดหัวไปแล้วอ่ะวันรุ่งขึ้นเรายัง
00:16:30 → 00:16:33 ไม่ได้ปกติ 100% นะคะฉะนั้นเนี่ยพอเราปวด
00:16:33 → 00:16:36 วันนึงเราก็จะมึนๆอึนๆไปอีก 2-3 วันนะคะ
00:16:36 → 00:16:39 แล้วพออีก 2-3 วันปวดใหม่อีกละนะคะมันก็
00:16:39 → 00:16:42 จะอึนๆนะคะก็จะเห็นว่าแบบมันก็จะเหมือน
00:16:42 → 00:16:45 เรารู้สึกว่าแบบเราเอ่อมีอาการผิดปกติ
00:16:45 → 00:16:47 ทั้งเดือนได้เลยใครที่เป็นไมเกรนบ่อยๆอ่ะ
00:16:47 → 00:16:51 จะมีอาการนี้ร่วมด้วยค่อนข้างเยอะเลยนะคะ
00:16:51 → 00:16:54 นี่พอหลังรักษาไปนะคะไดอารี่ที่คนไข้สด
00:16:54 → 00:16:58 มันก็โล่งขึ้นนะคะเห็นว่ามีวันที่วันที่
00:16:58 → 00:17:02 ที่ดีมากขึ้นแล้ววันที่แย่เนี่ยน้อยลงจาก
00:17:02 → 00:17:04 เดิมที่แบบวันที่แย่นี่คือเกือบทั้งเดือน
00:17:04 → 00:17:07 เลยแต่ตอนเนี้ยวันที่ดีก็คือแบบว่าเป็น
00:17:07 → 00:17:10 ส่วนใหญ่และแล้วก็จะเหลือแค่ประมาณ 1 2
00:17:10 → 00:17:13 3 4 5 5 ประมาณไม่กี่วันที่ที่มันแย่
00:17:13 → 00:17:15 ลงหลังจากที่เราได้แบบเหมือนให้ความรู้
00:17:15 → 00:17:17 educate ไปเนี่ยเราก็จะพยายามให้คนไข้
00:17:17 → 00:17:20 เนี่ยไปหาตัวกระตุ้นนะคะหรือว่าสังเกต
00:17:20 → 00:17:21 อาการตัวเองมากยิ่งขึ้นว่าอะไรที่ทำให้
00:17:22 → 00:17:24 เขามีอาการแย่ลงนะคะอย่างอย่างเคสนี้ก็
00:17:24 → 00:17:27 รู้สึกว่าเออพอลองไปเปลี่ยนหมอนนะคะปรากฏ
00:17:27 → 00:17:29 ว่าอาการปวดหัวดีขึ้นเลยแสดงว่าส่วนหนึ่ง
00:17:29 → 00:17:31 เนี่ยไอ้ความมึนๆอื่นๆของเขาเนี่ยก็อาจจะ
00:17:31 → 00:17:35 มาจากหมอนที่ไม่เหมาะสมหรือว่าท่านอนที่
00:17:35 → 00:17:38 ทำให้บางทีแหงนคอมากเกินไปคอตึงมากเกินไป
00:17:38 → 00:17:39 แล้วก็มากระตุ้นไมเกรนด้วยก็ได้นะคะเพราะ
00:17:40 → 00:17:42 ฉะนั้นไมเกรนเนี่ยเราต้องค่อนข้างแบบ
00:17:42 → 00:17:44 สังเกตตัวเองให้ดีๆเลยว่าเออจริงๆแล้ว
00:17:44 → 00:17:46 เนี่ยอาการอะไรที่มันมากระตุ้นเราบ้างนะ
00:17:46 → 00:17:49 คะเราก็จะได้พยายามหลีกเลี่ยงอันนั้นๆนะ
00:17:49 → 00:17:51 คะหลังจากวันนี้ก็นะคะคนไข้ก็ถามว่าคือ
00:17:51 → 00:17:54 หายสนิทเลยมยก็ยังนะคะแต่ว่าดีขึ้นมาก
00:17:54 → 00:17:56 แล้วก็ยังมีตัวกระตุ้นเมื่อไร่ที่ไปเจอ
00:17:56 → 00:17:57 ตัวกระตุ้นเช่นอาหารบางอย่างเนี่ยก็จะยัง
00:17:57 → 00:18:00 มีการกระตุ้นอารได้อยู่นะคะแต่อย่างน้อย
00:18:00 → 00:18:03 เนี่ยก็คือกลับไปใช้ชีวิตได้ปกติมากยิ่ง
00:18:03 → 00:18:05 ขึ้นแล้วก็มีการอ่าออกไปนอกบ้านอะไรได้
00:18:05 → 00:18:08 ปกติมากยิ่งขึ้นแล้วก็รู้และว่าอะไรที่จะ
00:18:08 → 00:18:10 มากระตุ้นแล้วก็พยายามหลีกเลี่ยงถ้า
00:18:10 → 00:18:13 เลี่ยงไม่ได้จริงๆก็รู้วิธีการจัดการ
00:18:13 → 00:18:16 อาการไมเกรนเบื้องต้นนะคะแล้วก็สิ่งหนึ่ง
00:18:16 → 00:18:18 ที่สำคัญเลยก็คือว่าจากเดิมที่เขารู้สึก
00:18:18 → 00:18:21 ว่าอาการมันเป็นอะไรก็ไม่รู้เนี่ยชาๆอึนๆ
00:18:21 → 00:18:24 มึนๆเวียนหัวสมองไม่โล่งตรวจอะไรก็ไม่เจอ
00:18:24 → 00:18:26 อะไรอย่างเงี้ยค่ะแบบว่าตรวจ MRI ก็ดู
00:18:26 → 00:18:28 ปกติดีอะไรอย่างเงี้ยแล้วมันก็เป็นความ
00:18:28 → 00:18:30 กังวลนะคะว่าเอ้ยแล้วเราเป็นอะไรอะไร
00:18:30 → 00:18:32 อย่างเงี้ยอย่างน้อยพอมันได้รู้ว่าแบบ
00:18:32 → 00:18:34 เอ่อจริงๆแล้วเนี่ยทั้งหมดเนี่ยก็คือ
00:18:34 → 00:18:36 อาการหนึ่งในอาการของไมเกรนนี่แหละแล้วพอ
00:18:36 → 00:18:39 รักษาไมเกรนแล้วอาการต่างๆเนี่ยตามมาดี
00:18:39 → 00:18:42 ขึ้นเนี่ยก็ทำให้คนไข้สบายใจได้ขึ้นขึ้น
00:18:42 → 00:18:45 ได้นะคะแต่ว่าทั้งหมดของคนไข้นะคะคือจะ
00:18:45 → 00:18:47 เห็นว่าอาการร่วมของไมเกรนน่ะมันเป็น
00:18:47 → 00:18:49 อาการที่ไม่จำเพาะเลยเนาะไม่ว่าจะเป็น
00:18:49 → 00:18:52 เวียนหัวบ้านหมุนชาหรืออะไรเงี้ยค่ะเพราะ
00:18:52 → 00:18:54 ฉะนั้นเนี่ยทุกครั้งเราก็จะไม่ได้โทษ
00:18:54 → 00:18:56 ไมเกรนอย่างเดียวนะคะเราต้องพยายามมองหา
00:18:56 → 00:18:59 โรคอื่นๆไว้เสมอตลอดนะคะคะว่าเออคนไข้มี
00:18:59 → 00:19:02 อาการหรือมีโรคร่วมอื่นอ่าที่มาอธิบาย
00:19:02 → 00:19:05 อาการเหล่านี้ด้วยมยแล้วก็ต้องทำการรักษา
00:19:05 → 00:19:08 ควบคู่กันไปนะคะไม่ใช่ว่าแบบว่าเออะโทษไม
00:19:08 → 00:19:11 เกนทั้งหมดเลยแบบนั้นนะคะจะเป็นกรณีว่า
00:19:11 → 00:19:13 เรารักษาอย่างอื่นมาแล้วหาสาเหตุอย่าง
00:19:13 → 00:19:15 อื่นมาแล้วไม่เจอมากกว่าแล้วก็เอ่อพอสุด
00:19:15 → 00:19:17 ท้ายเรารักษาไมเกรนแล้วอาการต่างๆมันดี
00:19:17 → 00:19:19 ขึ้นไปตามกันไปเนี่ยเราก็จะคิดว่าเ่า
00:19:19 → 00:19:23 เนี่ยอาการร่วมของไมเกรนละนะคะอันนี้นะคะ
00:19:23 → 00:19:25 หมอก็ลองรวบรวมนะคะว่าแบบเออจริงๆแล้ว
00:19:25 → 00:19:28 อาการร่วมของไมเกรนเนี่ยเอ่อมีอะไรบ้างนะ
00:19:28 → 00:19:30 คะอันนี้ก็จะมีแบบงานวิจัยนึงที่เขาก็
00:19:30 → 00:19:32 เก็บคนไข้ว่าส่วนใหญ่คนไข้ที่เวลาปวดหัว
00:19:32 → 00:19:35 ขึ้นมาจริงๆแล้วเนี่ยมันไม่ใช่แค่ปวดหัว
00:19:35 → 00:19:39 นะที่เขาเค้าอ่อทำให้เขาคแบบอ่ามีชีวิต
00:19:39 → 00:19:41 ที่ไม่ดีหรือว่ามีคุณภาพชีวิตที่ไม่ดีนะ
00:19:41 → 00:19:45 คะแต่ว่าอันที่แบบว่าเจอบ่อยๆเลยนะคะลอง
00:19:45 → 00:19:47 ลงมาจากอาการปวดหัวนะก็คือจะเห็นว่าเป็น
00:19:47 → 00:19:50 เรื่องของเนี่ย concentration สมาธิที่
00:19:50 → 00:19:53 มันแบบไม่ดีอ่ะค่ะรู้สึกว่าความจำแย่ลงนะ
00:19:53 → 00:19:56 คะหรือว่าแบบสมองไม่โล่งนะคะไม่สามารถคิด
00:19:56 → 00:19:58 อะไรได้แบบ Flow หรือว่าได้คล่องเหมือน
00:19:58 → 00:20:00 เดิมเราองลงไปนะคะก็จะเห็นว่าเป็นไวต
00:20:00 → 00:20:03 เสียงมากๆนะคะคนไข้ไมเกรนจะไม่ชอบเสียง
00:20:03 → 00:20:06 ดังเลยคนปกติจะรู้สึกว่าเสียงเยอาจจะปกติ
00:20:06 → 00:20:08 เช่นแบบเสียงดนตรีที่ดังมากๆอย่างเงี้ย
00:20:08 → 00:20:10 บางคนก็เออชอบอะไรอย่างเงี้ยแต่ว่าถ้า
00:20:10 → 00:20:12 เป็นคนไข้ไมเกนจะรู้สึกว่ามันแบบมัน
00:20:12 → 00:20:15 วุ่นวายหรือเสียงที่มันเป็นแบบเสียงคนคุย
00:20:15 → 00:20:17 กันแล้วแทรกคุยกันหรือการตะโกนคุยกัน
00:20:17 → 00:20:19 อย่างเงี้ยค่ะคนไมเกรนเขาจะ sensitive
00:20:19 → 00:20:22 มากๆนะคะลองลงไปก็คือสู้แสงไม่ได้สู้แสง
00:20:22 → 00:20:23 ไม่ได้จริงๆสู้แสงไม่ได้อ่าแล้วแต่
00:20:23 → 00:20:25 เปเปอร์เลยนะจริงๆสู้แสงไม่ได้หมอว่ามา
00:20:25 → 00:20:27 เป็นอันดับ 1 เลยเหมือนกันนะคะเพราะว่า
00:20:27 → 00:20:30 มันเจอเยอะมากๆนะคะประมาณ 4 50% เลยนะคะ
00:20:30 → 00:20:33 อื่นๆที่เหลือก็จะเป็นพวกคลื่นไส้อาเจียน
00:20:33 → 00:20:36 นะคะแพ้กลิ่นกลิ่นเนี่ยก็จะค่อนข้างชัด
00:20:36 → 00:20:38 ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นที่หอมหรือกลิ่นที่
00:20:38 → 00:20:40 เหม็นแต่ถ้ามันเป็นกลิ่นที่ฉุนเกินไปเช่น
00:20:40 → 00:20:44 น้ำหอมน้ำมันควันกลิ่นบุหรี่อะไรอย่าง
00:20:44 → 00:20:47 เงี้ยค่ะอันเนี้ยไมเกรนไม่ได้เลยนะคะแล้ว
00:20:47 → 00:20:50 ก็เรื่องของการมองเห็นที่ผิดปกตินะคะอัน
00:20:50 → 00:20:51 นี้ก็เจอบ่อยไม่ว่าจะเป็นทั้งเรื่องของ
00:20:52 → 00:20:55 ออร่าเองที่เห็นเป็นแสงซิกแซกแสงสีรุ้ง
00:20:55 → 00:20:58 หรือว่าเป็นความที่รู้สึกว่าตามันพล่าๆ
00:20:58 → 00:21:00 มัวๆอันนี้ก็เจอได้เหมือนกันนะคะอื่นๆก็
00:21:01 → 00:21:03 อย่างเช่นเรื่องของแบบพวกความไวของระบบ
00:21:03 → 00:21:05 ประสาทบางอย่างที่มากกว่าปกติเช่นดิสซี่
00:21:05 → 00:21:08 มึนงงเวียนหัวพวกเนี้ยเป็นอาการร่วมที่
00:21:08 → 00:21:11 เจอได้บ่อยเลยเนี่ยค่ะอารมณ์ด้วยนะอารมณ์
00:21:11 → 00:21:14 ที่เปลี่ยนแปลงไปนะคะแล้วก็อีกอันนึงนะคะ
00:21:15 → 00:21:18 ก็คือเรื่องของกล้ามเนื้อตึงอันนี้เป็น
00:21:18 → 00:21:22 อาการร่วมไมเกรนที่เจอแทบทุกเคสเลยค่ะก็
00:21:22 → 00:21:24 คือตัวกล้ามเนื้อตึงหรือว่าอย่างกลุ่ม
00:21:24 → 00:21:26 ออฟิ Syndrome เองเนี่ยก็เป็นหนึ่งในตัว
00:21:26 → 00:21:29 กระตุ้นไมเกรนคนที่ปวดหัวปวดคอมากๆนะคะ
00:21:29 → 00:21:32 บางทีก็เป็นตัวกระตุ้นไมเกรนเองหรือรวมไป
00:21:32 → 00:21:35 ถึงตอนที่ไมเกรนเรากำเริบนี่แหละนะคะตอน
00:21:35 → 00:21:37 ที่เราปวดหัวไมเกรนอยู่ตุบๆอ่ะตอนแรกคอ
00:21:37 → 00:21:39 ไม่ได้ตึงเลยนะนั่งทำงานอะไรก็ปกติแต่พอไ
00:21:39 → 00:21:43 ไมเกนกำเริบปึ๊บนะคะการที่มันมีการหลัสาร
00:21:43 → 00:21:45 การอักเสบหรือว่าอ่าสันอะไรต่างๆออกมา
00:21:45 → 00:21:48 เนี่ยมันจะทำให้มีภาวะ next stif หรือ
00:21:48 → 00:21:51 ว่ากล้ามเนื้อคอเนี่ยที่มันแข็งตึงเพิ่ม
00:21:51 → 00:21:54 มากขึ้นด้วยนะคะเพราะฉะนั้นเนี่ยไมเกรนก็
00:21:54 → 00:21:57 จะรู้สึกว่าอืมคอตึงก็ปวดหัวปวดหัวแล้วก็
00:21:57 → 00:22:00 กล้ามเนื้อคอตึงนะคะสิ่งที่เจอบ่อยก็คือ
00:22:00 → 00:22:04 ว่าบางทีเนี่ยคนไข้ไปรักษาแตกกล้ามเนื้อ
00:22:04 → 00:22:07 คออ่ะค่ะเช่นแบบว่าทำทุกอย่างกับกล้าม
00:22:07 → 00:22:10 เนื้อคอมาและไม่ว่าจะกายภาพฝังเข็มคอบ
00:22:10 → 00:22:14 แก้วนวดทุกวิถีทางแต่มันจะคลายได้แค่แป๊บ
00:22:14 → 00:22:16 เดียวแล้วพอเสร็จก็ตึงใหม่อีกแล้วนะคะ
00:22:16 → 00:22:18 หรือว่าบางคนก็จะบอกว่าหมอนวดบอกว่าอะไร
00:22:18 → 00:22:20 เนี่ยตึงอีกะบางคนเขาต้องอยู่ได้เป็น
00:22:20 → 00:22:22 อาทิตย์แต่อันนี้แบบ 2 วันก็ตึงแล้วนะคะ
00:22:22 → 00:22:24 ส่วนหนึ่งก็เลยเป็นเพราะว่าไมเกรนนี่แหละ
00:22:24 → 00:22:27 เราเป็นเยอะมากพอไมพอเราคลายกล้ามเนื้อคอ
00:22:27 → 00:22:29 ไปแต่พอไมเกรนกำเเริมนะคะคะมันก็ทำให้
00:22:29 → 00:22:31 กล้ามเนื้อคอเราเนี่ยกลับมาตึงขึ้นใหม่นะ
00:22:31 → 00:22:33 คะเพราะฉะนั้นในกรณีแบบเนี้ยมันรถึงต้อง
00:22:33 → 00:22:36 รักษาควบคู่กันไปเคลียร์กล้ามเนื้อคอด้วย
00:22:36 → 00:22:37 แล้วก็ต้องรักษาป้องกันไม่ให้ไมเกรน
00:22:37 → 00:22:39 กำเริบด้วยนะคะเพื่อกันไม่ให้กล้ามเนื้อ
00:22:39 → 00:22:42 เนี่ยเรากลับมาตึงมากๆนะคะนอกจากนี้นะคะ
00:22:42 → 00:22:46 บางคนก็จะมีเรื่องของนึกคำเอ่าพูดแบบเ่อ
00:22:47 → 00:22:49 ใช้คำพูดไม่ได้เหมือนตอนเหมือนเหมหมอเป็น
00:22:49 → 00:22:51 ตอนนี้คือจะเป็น Speech difficulty นะคะ
00:22:51 → 00:22:53 ก็คือไม่รู้จะพูดอะไรแบบนึกนึกไม่ออก
00:22:53 → 00:22:55 เหมือนติดอยู่ที่ปากอะไรอย่างเงี้ยค่ะ
00:22:55 → 00:22:57 เป็นหนึ่งในอาการร่วมไมเกรนได้ได้บ่อยนะ
00:22:57 → 00:23:01 คะการการรักษาไมเกรนจริงๆนะคะก็มันไม่ใช่
00:23:01 → 00:23:04 แค่แค่โรคปวดหัวแล้วก็ไม่ได้รักษาแค่ปวด
00:23:04 → 00:23:07 หัวอ่ะค่ะไม่ใช่เราแค่จะเอาให้คนไข้หาย
00:23:07 → 00:23:09 ปวดสมมุติคนไข้ปวด 10 วันเอาให้เหลือปวด 1
00:23:09 → 00:23:12 วันน่ะแต่ว่ามันต้องดูภาพรวมของคนไข้ทั้ง
00:23:12 → 00:23:14 หมดว่าเออจริงๆแล้วอะไรบ้างที่มันทำให้
00:23:14 → 00:23:17 เขาแบบซัฟเฟอร์หรือว่าทำให้เขาใช้ชีวิต
00:23:17 → 00:23:19 ลำบากหรือทำให้ใช้ชีวิตไม่ได้นะคะเพราะ
00:23:19 → 00:23:22 ฉะนั้นเนี่ยโกในการรักษาคนไข้ไมเกรนจริงๆ
00:23:22 → 00:23:25 คือเราถึงต้องดูองค์รวมดูทั้งหมดมีโรค
00:23:25 → 00:23:28 ร่วมอะไรบ้างวิตกกังวลซึมเศร้าไปแล้วหรือ
00:23:28 → 00:23:31 ยังมีกล้ามเนื้อคอตึงมหรือมีปัจจัยอะไร
00:23:31 → 00:23:34 บ้างที่มากระตุ้นเขาเพราะว่าจริงๆเป้า
00:23:34 → 00:23:37 หมายของการรักษาจริงๆก็คือทำให้เรารักษา
00:23:37 → 00:23:39 ที่คนไข้อ่ะค่ะเรารักษาคนเราไม่ได้รักษา
00:23:39 → 00:23:43 ไมเกรนนะคะต่อให้ไมเกรนหายปวดหัวแต่ถ้าคน
00:23:43 → 00:23:45 ไข้ไม่มีความสุขหรือยังมีอาการอื่นๆที่
00:23:45 → 00:23:47 เขายังใช้ชีวิตไม่ได้ปกติอันนั้นก็คือถือ
00:23:47 → 00:23:50 ว่าไม่ประสบความสำเร็จนะคะงั้นเราต้องการ
00:23:50 → 00:23:52 ให้คนไข้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นนะคะกลับ
00:23:52 → 00:23:54 ไปใช้ชีวิตปกติได้เหมือนคนอื่นมากยิ่ง
00:23:55 → 00:23:57 ขึ้นนะคะรวมไปถึงอีกอันนึงเลยก็คือเรื่อง
00:23:57 → 00:24:01 ของความเข้าเข้าใจในตัวโลกอ่ะค่ะหลายคน
00:24:01 → 00:24:04 ที่พอเป็นเยอะๆเป็นนานๆเข้าเนี่ย
00:24:04 → 00:24:07 เอ่อมันจะเริ่มท้อว่าเออสงสัยมันจะไม่หาย
00:24:07 → 00:24:10 แล้วแหละหรือแม้กระทั่งกับคนใกล้ตัวเองก็
00:24:10 → 00:24:12 เหมือนกันนะคะก็จะรู้สึกว่าเป็นอะไรเนี่ย
00:24:12 → 00:24:17 แล้วก็จะโดนตราหน้านะคะเป็นไมเกรนสิมาต้า
00:24:17 → 00:24:20 ไปว่าเออจริงๆก็แค่เครียดแหละเครียดหรือ
00:24:20 → 00:24:23 เปล่าแบบนอนไม่พอหรือเปล่าคิดไปเองหรือ
00:24:23 → 00:24:24 เปล่าอะไรอย่างเงี้ยค่ะอันเนี้ยเป็นสิ่ง
00:24:24 → 00:24:27 ที่คนไข้ไมเกรนเขาจะได้รับคำพูดเหล่า
00:24:27 → 00:24:31 เนี้ยมามาบ่อยจากแรกๆก็คืออ่ะยังคิดว่า
00:24:31 → 00:24:34 เออเราเป็นไมเกรนเรามีอาการนี้ๆๆๆพอโดน
00:24:34 → 00:24:37 บ่อยๆเข้าเ้าก็จะเริ่มแบบไม่อยากจะบอกใคร
00:24:37 → 00:24:40 ละเก็บไว้คนเดียวดีกว่าเพราะว่าบอกไปใคร
00:24:40 → 00:24:44 ก็ไม่เข้าใจก็โดนหาว่าแบบเอ่อสำออยบ้าง
00:24:44 → 00:24:47 แกล้งบ้างหรือว่าก็ไปโทษเรื่องของความ
00:24:47 → 00:24:49 เครียดโรคเครียดโรควิตกกังวลอะไรซะเป็น
00:24:50 → 00:24:52 หลักมากกว่านะคะก็ทำให้เขาเหมือนแบบวน
00:24:52 → 00:24:55 เวียนอยู่ในวงจรนี้แล้วก็ไม่ได้รักษานะคะ
00:24:55 → 00:24:58 ก็ทำให้เอ่อสุดท้ายอ่ะก็นำไปสืซุมเศร้าใน
00:24:58 → 00:25:01 ที่สุดจริงๆนะคะเพราะว่าคืออาการวิตก
00:25:01 → 00:25:03 กังวลซุมเช่ากับไมเกรนเป็นอะไรที่แบบเป็น
00:25:03 → 00:25:05 ของคู่กันอีก 1 อย่างอีกเลยอ่ะแบบว่าเจอ
00:25:05 → 00:25:08 กันเยอะมากๆถ้าเป็นไมเกรนที่เป็นไม่บ่อย
00:25:08 → 00:25:10 ก็อาจจะเจอได้สักประมาณ 20-30 per นะคะ
00:25:10 → 00:25:12 แต่ถ้าเกิดเป็นไมเกรนเรื้อรังนะคะเมื่อ
00:25:12 → 00:25:15 ไหร่ปุ๊บเป็นมาหลายๆปีเดือนนึงเป็นหลายๆ
00:25:15 → 00:25:18 วันนะคะเจอซึมเศร้าเกิน 50% เลยนะคะซึ่ง
00:25:18 → 00:25:20 ก็ต้องรักษาควบคู่กันไปเพราะว่าถ้ารักษา
00:25:20 → 00:25:22 แค่ไมเกรนอย่างเดียวแต่ว่าพอเราไม่รักษา
00:25:22 → 00:25:24 เรื่องอารมณ์เนี่ยเดี๋ยวสุดท้ายโรคซึม
00:25:24 → 00:25:26 เช่าก็มากระตุ้นไมเกรนอีกนะคะหมอจะเจอคำ
00:25:27 → 00:25:29 ถามจากคนไข้หลายเคสเลยเลยบอกว่าทำไมคือ
00:25:30 → 00:25:32 เค้าถึงต้องเป็นอะไรแบบเยอะขนาดเนี้ยพอ
00:25:32 → 00:25:35 เวลาลิสมาจริงๆอ่ะคนส่วนใหญ่ก็จะบอกว่า
00:25:35 → 00:25:38 เป็นแพนิคปวดตัวปวดกล้ามเนื้อนอนไม่หลับ
00:25:39 → 00:25:42 ซึมเศร้าวิตกกังวลบางทีแบบความจำแย่ลงอีก
00:25:42 → 00:25:44 สมองเสื่อมอีกทำไมเราเป็นตั้ง 7-8 โลกนะ
00:25:44 → 00:25:47 คะทั้งๆที่จริงๆแล้วะทุกอย่างอ่ะมันอาจจะ
00:25:47 → 00:25:51 เป็นเรื่องเดียวกันนะคะคือจุดตั้งต้นจริง
00:25:51 → 00:25:53 ๆมันก็เริ่มมาจากอะไรสัก 1 อย่างแหละอัน
00:25:53 → 00:25:54 นี้หมอพูดในกรณีของไมเกรนแล้วะกันไม่ได้
00:25:54 → 00:25:56 บอกว่าที่มีอาการทั้งหมดนี้มันจะต้องเป็น
00:25:56 → 00:25:58 ไมเกรนอย่างเดียวแต่ว่าในมุมของคนไข้
00:25:59 → 00:26:01 ไมเกรนอ่ะจุดเริ่มต้นจริงๆอ่ะมันมักจะมา
00:26:01 → 00:26:03 จากไมเกรนก่อนนั่นแหละมีอาการปวดหัวบ่อย
00:26:03 → 00:26:06 ปวดไม่หายมีตัวกระตุ้นเยอะใช้ชีวิตไม่ได้
00:26:06 → 00:26:08 ตามมาด้วยการใช้ยาแก้ปวดเยอะตามมาด้วยที่
00:26:08 → 00:26:11 ปวดตัวเรื้อรังตามมาด้วยโรควิตกกังวลซึม
00:26:11 → 00:26:14 เศร้าเรื่องการนอนไม่หลับความจำแย่ลงอะไร
00:26:14 → 00:26:16 อย่าเงี้ยค่ะแต่พอเวลาเราไปรักษาจริงๆอ่ะ
00:26:16 → 00:26:19 บางทีเราไปรักษาที่ปลายอ่ะค่ะสมมุติจุด
00:26:19 → 00:26:21 ตั้งต้นมาจากไมเกรนอ่ะแล้วมันแยกแตกออก
00:26:21 → 00:26:23 เป็นอีก 7 อาการเนี่ยบางทีเราไปตรวจแล้ว
00:26:23 → 00:26:26 ก็ไปโฟกัสแค่ว่าไจสันเป็นอะไรอ่ะไปตรวจ
00:26:26 → 00:26:29 หัวใจแล้วปกติความจำแย่ลงอัลไซเมอร์หรือ
00:26:29 → 00:26:31 เปล่าไปตรวจแล้วปกติดูแค่ปลายเหตุรักษา
00:26:31 → 00:26:34 แค่ตรงปลายทั้งๆที่จริงๆแล้วพอเราย้อนมา
00:26:34 → 00:26:36 รักษาอาการไมเกรนจริงๆที่ทำให้ความไวของ
00:26:36 → 00:26:39 สมองเราเนี่ยไม่ไวต่อตัวกระตุ้นจนเกินไป
00:26:39 → 00:26:41 อ่ะอาการทุกอย่างโดยรวมเนี่ยมันก็ดีขึ้น
00:26:41 → 00:26:44 ตามๆกันมาได้เลยนะคะเพราะฉะนั้นเนี่ยอยาก
00:26:44 → 00:26:47 ให้คนไข้ที่ใครที่ฟังอยู่รู้สึกว่าเรา
00:26:47 → 00:26:51 เป็นแบบนี้คนใกล้ตัวเราเป็นแบบนี้นะคะ
00:26:51 → 00:26:53 อยากให้รู้ไว้ว่าไมเกรนเนี่ยมันเป็นโรค
00:26:54 → 00:26:57 ถือว่ามันเป็นโรคสมองที่มันแบบมันมีมันมี
00:26:57 → 00:27:00 กลไกที่มันมันซับซ้อนมากๆจริงๆแล้วอาการ
00:27:00 → 00:27:03 แสดงเนี่ยมันหลากหลายมากๆจริงๆนะคะอาการ
00:27:03 → 00:27:07 ร่วมก็เยอะมากๆนะคะอย่าเพิ่งโทษว่าเป็น
00:27:07 → 00:27:09 จากตัวเราหรือเปล่าที่เราคิดไปเองหรือว่า
00:27:09 → 00:27:12 เป็นจากความกังวลหรือความเครียดไปเองหรือ
00:27:12 → 00:27:16 เปล่านะคะให้ลองดูกะอ่ารักษาดูก่อนนะคะ
00:27:16 → 00:27:19 โอเคถ้ารักษาแล้วไมเกรนมันหายไปแล้วแล้ว
00:27:19 → 00:27:22 มันยังเหลืออะไรที่มันแบบว่ามันแก้ไม่ได้
00:27:22 → 00:27:25 จริงๆอันนั้นก็ว่ากันอีกทีนึงนะคะเนาะรวม
00:27:25 → 00:27:28 ไปถึงนะคะแบบว่าอยากให้รู้ว่าเอออาการ
00:27:28 → 00:27:30 ต่างๆที่เรารู้สึกว่าบางทีเราท้อไปแล้ว
00:27:30 → 00:27:32 อ่ะอย่างเวียนหัวบ้านหมุนหรืออะไรที่เรา
00:27:32 → 00:27:34 รู้สึกว่าเราทำอะไรก็ไม่ดีขึ้นน่ะบาง
00:27:34 → 00:27:37 ครั้งอ่ะเราแค่รักษาไมเกรนน่ะค่ะอาการ
00:27:37 → 00:27:41 อื่นๆมันก็ดีขึ้นได้นะคะเนาะแล้วก็สิ่ง
00:27:41 → 00:27:43 สำคัญที่สุดเลยอ่ะก็คือจะเป็นเรื่องของ
00:27:43 → 00:27:46 การจดบันทึกอาการจดไดอารี่ของเรานี่แหละ
00:27:46 → 00:27:49 อาการเราเนี่ยมีอะไรบ้างเพราะว่าสุดท้าย
00:27:49 → 00:27:52 คือมันแบบไม่มีใครเข้าใจอ่ะอาการของเรา
00:27:52 → 00:27:54 ได้เท่าตัวเราเองนะคะหรือแม้แต่หมอเองก็
00:27:54 → 00:27:56 ตามอ่ะถ้าคนไข้ไม่ได้จดวยละเอียดแบบเนี้ย
00:27:57 → 00:27:59 หมอก็ไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขาบ้าง
00:27:59 → 00:28:02 อ่ะค่ะอาการที่มันมาทั้งหมดมันเกิดอะไร
00:28:02 → 00:28:05 บ้างแต่ว่าพอเราเขียนบันทึกไว้ทั้งหมดมัน
00:28:05 → 00:28:07 จะทำให้เราอ่ะมองเห็นภาพรวมจับความ
00:28:07 → 00:28:10 สัมพันธ์อะไรเป็นตัวกระตุ้นอะไรเป็นเหตุ
00:28:10 → 00:28:13 อะไรเป็นผลที่ตามมาได้ดียิ่งขึ้นนะคะการ
00:28:13 → 00:28:16 จดเนี่ยเราก็จะจดเรื่องของการใช้ยาแก้ปวด
00:28:16 → 00:28:19 นะคะหรือว่าตัวที่มากระตุ้นอย่างการใช้ยา
00:28:19 → 00:28:21 แก้ปวดเราก็จะได้คอยรีมตัวเองด้วยว่าคอย
00:28:21 → 00:28:24 นึกด้วยว่าเออเราอ่ะใช้ยาเกินไปแล้วหรือ
00:28:24 → 00:28:27 ยังนะคะโดยปกติเนี่ยถ้าเป็นไมเกรนน่ะค่ะ
00:28:27 → 00:28:30 หมอไม่อยากให้กลัวการใช้ยากินยาแก้ปวดนะ
00:28:30 → 00:28:31 เพราะว่ายิ่งปล่อยไว้นานน่ะมันจะยิ่งปวด
00:28:31 → 00:28:34 แรงแล้วต่อให้แบบพอเราไปกินยาตอนนั้นน่ะ
00:28:34 → 00:28:36 มันไม่หายะเพราะฉะนั้นเป็นไมเกรนเราต้อง
00:28:36 → 00:28:38 กินยาค่อนข้างเร็วนะคะปกติแล้วไมเกรน
00:28:38 → 00:28:40 เนี่ยถ้าเริ่มตูกถูกกระตุ้นขึ้นมาแล้วไม่
00:28:40 → 00:28:42 เกินประมาณ 1-2 ชั่วโมงคุณไข้จะปวดหนัก
00:28:43 → 00:28:45 และรุนแรงแล้วไปจนถึงขึ้นไส้อาเจียนได้นะ
00:28:45 → 00:28:47 คะเพราะฉะนั้นมันเลยถึงต้องรีบค่อนข้าง
00:28:47 → 00:28:49 รีบกินยาแต่เราจะปวดทุกครั้งกินยาทุก
00:28:49 → 00:28:52 ครั้งอเนี่ยไม่ได้เพราะว่าสมองก็จะเกิด
00:28:52 → 00:28:55 การเปลี่ยนแปลงนะคะโครงสร้างแล้วก็ยิ่งไว
00:28:55 → 00:28:57 ต่อความปวดมากยิ่งขึ้นสุดท้ายกลายเป็น
00:28:57 → 00:28:59 สมองติดยาแก้ปวดแล้วก็กลายเป็นไมเกรน
00:28:59 → 00:29:01 เรื้อร่างนะคะเพราะฉนั้นก็เลยต้องดูว่า
00:29:01 → 00:29:04 เออเราอ่ะอยู่ในจุดที่แบบเราแค่กินยาแก้
00:29:04 → 00:29:07 ปวดหรือว่าเราใช้ยาแก้ปดปวดบ่อยไปแล้วจน
00:29:07 → 00:29:09 ต้องไปใช้ยาป้องกันแล้วนะนะคะสิ่งเราเ
00:29:09 → 00:29:11 เนี่ยยถ้าเราไม่จดอ่ะเราไม่รู้เลยบางที
00:29:11 → 00:29:14 แบบเดือนนี้เราใช้ไป 4 เม็ดเดือนหน้า 6
00:29:14 → 00:29:18 เดือนถัดไป 8 กลับมาเดือนนี้ 2 อ่ะถามว่า
00:29:19 → 00:29:21 ผ่านไปสัก 3-4 เดือนเราจะจำได้หรอว่าเรา
00:29:21 → 00:29:23 กินยาอะไรไปบ้างไม่ได้เด็ดขาดนะคะแต่ถ้า
00:29:23 → 00:29:25 เราจดเอาไว้เนี่ยเราก็จะรู้เลยว่าเอออะไร
00:29:25 → 00:29:27 มันเป็นตัวกระตุ้นเรากินอะไรไปบ้างนะคะ
00:29:27 → 00:29:28 กินเยอะเกินไปเราหือยังต้องหาเหมาะแล้ว
00:29:28 → 00:29:30 หรือยังนะคะเพราะฉะนั้นการโจทย์บันทึกของ
00:29:30 → 00:29:33 ไมเกรนถึงเป็นอะไรที่แบบสำคัญมากๆมันเป็น
00:29:33 → 00:29:35 หนึ่งในการรักษาแล้วก็การวินิจฉัยไมเกรน
00:29:35 → 00:29:38 เลยที่เขารนลงให้เราทำกันเราจะได้เข้าใจ
00:29:38 → 00:29:41 โรคของเรามากยิ่งขึ้นสรุป 3 ข้อวันนี้นะ
00:29:41 → 00:29:45 คะอันแรกนะไมเกรนไม่ใช่แค่โรคปวดหัวมี
00:29:45 → 00:29:48 อาการร่วมอื่นๆมากมายเลยอันที่ 2 นะคะถ้า
00:29:48 → 00:29:50 เรามีอาการผิดปกติอื่นๆแล้วเนี่ยหาอะไร
00:29:50 → 00:29:53 ไม่เจอลองรักษาไมเกรนดูก่อนอาการอื่นๆดี
00:29:54 → 00:29:56 ขึ้นได้ด้วยแล้วก็สุดท้ายเลยอันที่ 3 ก็
00:29:56 → 00:29:59 คืออยากให้ทุกคนนะคะจดบันทึกอาการของตัว
00:29:59 → 00:30:01 เองไว้นะคะจะได้เป็นข้อมูลนะคะว่าเราเป็น
00:30:01 → 00:30:06 ไมเกรนระดับไหนแล้วนะ
00:30:06 → 00:30:11 คะเอ่อสวัสดีค่ะคุณอาชิสาเป็นหนึ่งในผู้
00:30:11 → 00:30:14 ป่วยไมเกรนที่ทานยาแก้ปวดทุกครั้งที่ปวด
00:30:14 → 00:30:17 การปวดไมเกรนแล้วกินยาแก้ปวดเนี่ย
00:30:17 → 00:30:19 อันเนี้ยไม่ได้ผิดเราอย่าไปกลัวยาแก้ปวด
00:30:19 → 00:30:21 ยาแก้ปวดยังมีความจำเป็นเพราะว่าไมเกรนมี
00:30:21 → 00:30:24 หลายระดับปวดน้อยๆปวดน้อยๆเนี่ยนอนพัก
00:30:24 → 00:30:27 ประคบเย็นหายพาราเซตามอลหายแต่ถ้าปวด
00:30:27 → 00:30:30 รุนแรงที่แบบมันเกิดจากการกระตุ้นสมองที่
00:30:30 → 00:30:32 สุดท้ายมันจะส่งสัญญาณไปกระตุ้นระบบ
00:30:32 → 00:30:34 ประสาทต่างๆมากมายแล้วเนี่ยอันนั้นคนไข้
00:30:34 → 00:30:36 ไม่หายค่ะแล้วยิ่งปล่อยทิ้งไว้นานเท่า
00:30:36 → 00:30:38 ไหร่จะยิ่งเกิดการอักเสบมากยิ่งขึ้นนะคะ
00:30:38 → 00:30:41 โดยทั่วไปเนี่ยถ้ามันตุ๊บๆๆๆมาถึงตรงนี้
00:30:41 → 00:30:44 ละแล้วปวดเกินประมาณสัก 2 ชั่วโมงละไม่
00:30:44 → 00:30:46 ค่อยหายเองแล้วนะคะอันเนี้ยอาจจะต้องใช้
00:30:46 → 00:30:49 ยาระงับปวดไม่ใช่แค่แก้ปวดนะบางคนแบบอื
00:30:49 → 00:30:52 ไม่เป็นไรทนได้ไม่เอาไม่คะไม่เพราะมันไม่
00:30:52 → 00:30:54 ใช่แค่แก้ปวดแต่มันคือการลดการอักเสบแล้ว
00:30:54 → 00:30:57 ก็การป้องกันไม่ให้ไมเกรนของเราเนี่ยเป็น
00:30:57 → 00:31:00 หนักหรือว่าเป็นรุนแรงมากยิ่งขึ้นนะคะ
00:31:00 → 00:31:03 ฉะนั้นการกินยาแก้ปวดที่เอ่อเหมาะสมไม่
00:31:03 → 00:31:06 ได้ผิดนะคะแต่ถ้าบอกว่ากินทุกครั้งที่ปวด
00:31:06 → 00:31:11 เลยแล้วปวดบ่อยๆนะคะบ่อยในที่นี้นะคะจริง
00:31:11 → 00:31:14 ๆก็จะแบ่งออกเป็นระดับเลยก็คือตั้งแต่
00:31:14 → 00:31:16 เกิน 4 ครั้งขึ้นไปควรจะเริ่มปรึกษาและ
00:31:16 → 00:31:19 ได้รับยาป้องกันและแต่ว่าอาจจะเป็นแบบ
00:31:19 → 00:31:21 กลุ่มที่ยังเป็นไม่รุนแรงแต่ถ้าไปเริ่ม
00:31:21 → 00:31:24 ถี่ขึ้นกว่านั้นเช่นปวดประมาณ 8-10 ครั้ง
00:31:24 → 00:31:26 นะคะต้องได้ยาป้องกันแน่ๆนะคะหรือถ้าเกิด
00:31:26 → 00:31:29 คนที่ปวดเกินแบบประมาณ 15 ครั้งต่อเดือน
00:31:29 → 00:31:31 ขึ้นไปเลยแบบนั้นก็จะเรียกว่าเป็นไมเกรน
00:31:31 → 00:31:34 เรื้อรังละนะคะซึ่งคนไข้กลุ่มเนี้ยจะมี
00:31:34 → 00:31:36 ความเสี่ยงที่จะใช้ยาแก้ปวดเยอะเกินขนาด
00:31:37 → 00:31:39 นะคะอย่างยาบางตัวก็ให้แค่ 10 เม็ดต่อ
00:31:39 → 00:31:41 เดือนเองอย่างบางตัวก็ให้ถึง 15 อะไร
00:31:41 → 00:31:43 เงี้ยหรือถ้าเป็นการใช้ยาหลายๆตัวรวมกัน
00:31:43 → 00:31:45 ก็อ่ะประมาณสัก 10 เมตอะไรอย่างเงี้ยค่ะ
00:31:45 → 00:31:47 ถ้าเมื่อไหร่เราใช้ยาเกินเนี่ยสมองของเรา
00:31:47 → 00:31:49 จะจะไวต่อความปวดมากยิ่งขึ้นนะคะก็จะทำ
00:31:50 → 00:31:52 ให้ไมเกรนของเราเนี่ยแย่ลงนะคะคุณเล็ก
00:31:53 → 00:31:55 สวัสดีค่ะเวลาปวดไมเกรนทานพาราไม่หายต้อง
00:31:55 → 00:31:58 ทานเรวแคเลยค่ะคุณหมอการทานยาแก้ปดของ
00:31:58 → 00:31:59 ไมเกรนเนี่ยเราก็จะมีสเต็ปของการปวด
00:31:59 → 00:32:01 เหมือนกันนะคะอันอันนี้หมอยกตัวอย่างจาก
00:32:01 → 00:32:04 ในไดอารี่เลยแล้วกันนะคะเนาะคือหมออ่ะจะ
00:32:04 → 00:32:06 ให้คนไข้อ่ะจัดระดับอาการปวดของตัวเอง
00:32:06 → 00:32:08 เพื่อจะได้เลือกยาแก้ปวดได้อย่างเหมาะสม
00:32:08 → 00:32:12 อาการปวดของไมเกรนของเราเนี่ยก็จะมีตั้ง
00:32:12 → 00:32:15 แต่ปวดน้อยนะหมอแทนด้วยสีแบบเป็นสีเหลือง
00:32:15 → 00:32:19 ส้มแดงตั้งแต่ปวดน้อยปวดปานกลางแล้วก็ปวด
00:32:20 → 00:32:22 รุนแรงปวดน้อยแบบไหนปวดน้อยก็คือวันเนี้ย
00:32:22 → 00:32:25 รู้สึกไม่โอเคแบบเหมือนๆจะมานิดนึงตึงๆ
00:32:26 → 00:32:29 หน่อยๆแต่ก็ยังไม่ถึงกับปวดตุบรู้สึกว่า
00:32:29 → 00:32:31 ความรู้สึกเยถ้ากินยาก็น่าจะหายเร็วแต่
00:32:31 → 00:32:34 ไม่กินยาก็ยังพอทนไหวซึ่งส่วนใหญ่ถ้าปวด
00:32:34 → 00:32:37 ระดับหนึ่งนี้นะคะหมออาจจะให้คนไข้อ่า
00:32:37 → 00:32:40 เหมือนกินยาแก้ปวดประมาณ 3 ระดับอันแรก
00:32:40 → 00:32:41 เลยเนี่ยเป็น
00:32:41 → 00:32:44 พาราเซตามอลนะคะกลุ่มที่ 2 เนี่ยเราหมอ
00:32:44 → 00:32:47 ให้คำรวมๆว่าเป็นกลุ่มเอเสพาราอันแรก
00:32:47 → 00:32:50 เนี่ยจะรวมไปถึงคลายกล้ามเนื้อนะจริงๆหมอ
00:32:50 → 00:32:54 ทำคลิปวิธีการกินยาแก้ปวดไว้นะคะไปฟังใน
00:32:54 → 00:32:56 คลิปนั้นได้แต่ว่าไม่เป็นไรอันนี้จะได้
00:32:56 → 00:32:58 อธิบายให้คุณเล็กเข้าใจด้วยเลยนะนะคะส่วน
00:32:58 → 00:33:00 กลุ่มสุดท้ายเนี่ยก็คือจะเป็นกลุ่มที่ปวด
00:33:00 → 00:33:03 จำเพาะกับไมเกรนมากยิ่งขึ้นก็คือตัวพวก
00:33:03 → 00:33:06 เอกออ่ะค่ะพวกคฟกอ AV ไกนอะไรพวกเยนะคะ
00:33:06 → 00:33:08 แล้วก็กลุ่มเรล Pack เองก็คือกลุ่มทริป
00:33:08 → 00:33:11 แทนนะคะก็คือเราเรียกว่ากลุ่มทิปแทนเวลา
00:33:11 → 00:33:13 เราปวดเลเวลไหนอ่ะเราเลือกให้เหมาะสมเช่น
00:33:13 → 00:33:15 สมมุติว่าวันเนี้เรารู้สึกแค่ตึงๆใช่มั้ย
00:33:15 → 00:33:17 คะเราปวดสีเหลืองเรายังไม่จำเป็นต้องกิน
00:33:17 → 00:33:20 เรคก็ได้นะคะหรือ trp แนก็ได้นะคะเรากิน
00:33:20 → 00:33:23 ลองกินแค่พาราเซตามอลก่อนได้ส่วนใหญ่บาง
00:33:23 → 00:33:26 ทีหายแต่ถ้าวันเนี้เราปวดมาเลเวล 2 แล้ว
00:33:26 → 00:33:28 เลเวล 2 สีส้มเนี่ยก็คือประมาณว่าส่วน
00:33:28 → 00:33:30 ใหญ่คนไข้เปวดไมเกนจะรู้ว่ามันไม่ได้ตึง
00:33:30 → 00:33:33 แค่ทอยแล้วนะมันเริ่มมาขมับนะคะเริ่มมา
00:33:33 → 00:33:36 ขมับเริ่มมากระบอกตาเริ่มตุบๆนะคะ
00:33:36 → 00:33:38 อันเนี้ยส่วนใหญ่จะเริ่มปวดปานกลางเป็น
00:33:38 → 00:33:41 ต้นไปละแต่ยังไม่มีอาการอื่นๆเช่นยังไม่
00:33:41 → 00:33:43 ได้ถึงกับรู้สึกว่าสู้แสงไม่ได้ยังไม่ได้
00:33:43 → 00:33:46 ถึงกับคลื่นไส้อาเจียนนะคะแต่เริ่มตุ๊บๆ
00:33:46 → 00:33:49 ตรงนี้ส่วนใหญ่อันเนี้ยหมอจะให้เป็นระดับ
00:33:49 → 00:33:52 ประมาณกลางๆนะคะคะแนนก็ประมาณ 50 - 70%
00:33:52 → 00:33:55 ละกันกลุ่มนี้เราเลือกใช้ยาจากกลุ่มที่ 2
00:33:55 → 00:33:57 ได้กลุ่มที่ 2 ก็คือเป็นพวกกลุ่มเอเซตนะ
00:33:57 → 00:33:59 คะก็คือคือกลุ่มยาแก้ปวดทั่วไปเลยที่ไม่
00:33:59 → 00:34:03 ใช่สเตียรอยด์เช่นไอบูเฟนนาพรอกเซนเอทิ
00:34:03 → 00:34:05 ออกซิอะไรพวกนี้นะคะซึ่งข้อดีของกลุ่มนี้
00:34:05 → 00:34:08 นะคะก็คือมันจะลดการอักเสบมากยิ่งขึ้นนะ
00:34:08 → 00:34:10 คะส่วนใหญ่บางทีก็เอาอยู่นะไม่ถึงกับต้อง
00:34:10 → 00:34:12 ไปกุนกินทริปแทนต่อแต่ข้อระวังนะคะก็คือ
00:34:13 → 00:34:14 จะกัดกระเพาะได้ค่อนข้างง่ายแล้วก็อาจจะ
00:34:14 → 00:34:17 มีผลกับฆ่าไตได้อาจจะแบบกินท้องว่างไม่
00:34:17 → 00:34:19 ได้นะคะทีนี้พอบอกว่าไปใช้กลุ่มอื่นได้
00:34:19 → 00:34:21 ไหมมที่มันไม่ค่อยกัดกระเพาะมันก็จะออก
00:34:21 → 00:34:23 ฤทธิ์ช้าก็จะไม่ค่อยกับเหมาะกับไมเกรนละ
00:34:23 → 00:34:26 ไมเกรนต้องการยาที่ออกดิดเร็วนะคะมันก็จะ
00:34:26 → 00:34:29 ต้องบบาซความเสี่ยงกับประโยชน์ตรงนี้กัน
00:34:29 → 00:34:33 ทีนี้ถ้าเกิดวันไหนปวดมากปวดแบบอื้อหือ
00:34:33 → 00:34:36 เลเวล 3 นะคะปวดสีแดงนี่เป็นความรู้สึก
00:34:36 → 00:34:40 ที่ต้องนั่งพักและทำอะไรต่อไม่ได้ตุ๊บๆๆๆ
00:34:40 → 00:34:43 ๆเลยนะคะแล้วมีคลื่นไส้มีอาจอาจมีอาการ
00:34:43 → 00:34:46 ร่วมไมเกนังมีเวียนหัวมีอะไรพวกนี้นะคะ
00:34:46 → 00:34:49 ตรงนี้นะคะอย่างเงี้ยอย่าไปเริ่มที่พารา
00:34:49 → 00:34:52 ไม่หายแน่ๆค่ะนะคะก็อาจจะต้องใช้ยาที่
00:34:52 → 00:34:55 เป็นกลุ่มจำเพาะไมเกรนไปเลยนะคะกับพวก
00:34:55 → 00:34:57 เอกอหรือว่าทริปแทนไปเลยนะคะงั้นคุณเล็ก
00:34:57 → 00:34:59 ลองลองสังเกตอาการตัวเองดูนะคะวันไหนที่
00:34:59 → 00:35:02 แบบบางทีเราปวดน้อยๆอย่างเงี้ยพาราซิมมัน
00:35:02 → 00:35:04 ก็อาจจะยังพอช่วยได้นะคะแต่ว่าถ้าเกิดเรา
00:35:04 → 00:35:07 ปวดแรงไปแล้วนะคะเราก็ต้องใช้ยาที่จำเพาะ
00:35:07 → 00:35:09 มากขึ้นไปเลยนะคะที่สำคัญก็คือว่าอย่าง
00:35:09 → 00:35:12 เช่นกลุ่มตัว rpx หรือว่าทริปแทนเองนะคะ
00:35:12 → 00:35:16 ห้ามใช้เกินจริงๆอ่ะมีตั้งแต่เกินในวัน
00:35:16 → 00:35:20 เกินในสัปดาห์แล้วก็เกินในเดือนนะคะเกิน
00:35:20 → 00:35:22 ต่อวันนะคะถ้าเป็นอิแทน de Pack เมี 2
00:35:22 → 00:35:24 เม็ดก็คือห้ามใช้เกิน 2 เม็ดต่อวันอัน
00:35:24 → 00:35:26 อื่นูทิปแทนเ้าจะเป็นกล่องละ 4 เม็ดก็คือ
00:35:26 → 00:35:28 ห้ามใช้เกิน 4 เม็ดต่อวันต่อสัปดาห์นะคะ
00:35:28 → 00:35:31 ห้ามเกิน 10 เม็ดต่อสัปดาห์นะคะกลุ่มพวก
00:35:31 → 00:35:33 นี้เพราะว่าอาจจะทำให้เพิ่มความเสี่ยงของ
00:35:33 → 00:35:35 พวกหลอดเลือดตีบมากขึ้นและสุดท้ายก็คือ 10
00:35:35 → 00:35:38 เม็ดต่อเดือนด้วยเช่นสัปดาห์เนี้ยกินไปละ
00:35:38 → 00:35:40 8 เม็ดสัปดาห์หน้าอีก 8 ไม่ได้นะคะก็คือ
00:35:40 → 00:35:42 เหลือได้อีกแค่ 2 ในเดือนนี้เพราะไม่งั้น
00:35:42 → 00:35:44 สมองจะติดยาแก้ปวดนะคะเพราะฉะนั้นกลุ่ม
00:35:44 → 00:35:46 เนี้ยข้อดีคือหายปวดเร็วมากนะคะแล้วก็
00:35:46 → 00:35:49 จำเพาะมากๆนะคะแต่ว่าก็ต้องระมัดระวังการ
00:35:49 → 00:35:51 ใช้ด้วยถ้าเกิดเริ่มใช้บ่อยไปใช้ยาป้อง
00:35:51 → 00:35:55 กันยารักษานะคะก็จะดีกว่าเพราะว่าเราจะลด
00:35:55 → 00:35:57 ความถี่แล้วก็ลดความรุนแรงลงไปนะคะก็ก็จะ
00:35:57 → 00:36:01 ทำให้เราชยากลุ่มเนี้ยน้อยลงมากๆเลยนะคะ
00:36:01 → 00:36:05 สวัสดีค่ะคุณอาดัอ่อนนุชนะคะเอ่อสวัสดี
00:36:05 → 00:36:07 ครับคุณหมอผมปวดหัวบ่อยมากครับปวดเกือบ
00:36:07 → 00:36:10 ทุกวันหนักสุดแล้วก็ต้องฉีดยาเลยครับนะคะ
00:36:10 → 00:36:13 ฉีดยาในที่นี่น่าจะเป็นยาแก้ปวดใช่มั้ยคะ
00:36:13 → 00:36:15 อันเนี้ยถือว่าเป็นกลุ่มปวดหัวเรื้อรังไป
00:36:15 → 00:36:17 แล้วนะคะที่ปวดหัวทุกวันอาจจะเป็นไมเกรน
00:36:17 → 00:36:19 ก็ได้หรือเป็นปวดหัวเรื้อรังมาจากอย่าง
00:36:19 → 00:36:21 อื่นก็ได้นะคะเช่นกลุ่มพวกปวดเทนชั่นก็
00:36:21 → 00:36:23 ได้แต่ว่าส่วนใหญ่อ่ะปวดที่ปวดเยอะๆแล้ว
00:36:23 → 00:36:25 ปวดบ่อยๆแล้วปวดทุกวันได้ส่วนใหญ่ก็
00:36:25 → 00:36:28 ไมเกรนนี่แหละค่ะเนาะถ้าถึงขั้นต้องไปฉีด
00:36:28 → 00:36:31 ยาบ่อยๆนะคะจริงๆนะคะลองแค่รักษานะคะการ
00:36:31 → 00:36:34 ใช้ยาป้องกันไมเกรนเนี่ยมันลดแบบอย่าง
00:36:34 → 00:36:37 น้อยลดความทีอ่ะจากปวดทุกวันอ่ะอย่างน้อย
00:36:37 → 00:36:40 เหลือวันเว้นวันหรือที่บอกว่าหนักจนต้อง
00:36:40 → 00:36:44 ไปฉีดยาหลังจากรักษาจะลดการไปฉีดยาที่โรง
00:36:44 → 00:36:47 พยาบาลได้เยอะนะคะอย่างน้อยก็จะเป็นการ
00:36:47 → 00:36:51 ปวดเลเวลที่เรากินยาแก้ปวดแล้วหายนะคะ
00:36:51 → 00:36:53 ซึ่งการรักษาในปัจจุบันเนี่ยยาป้องกันมี
00:36:53 → 00:36:56 หลากหลายมากนะคะมีทั้งยากินนะคะแบบเดิม
00:36:56 → 00:36:59 เลยที่เราใช้ใช้กันมานานๆมีทั้งยาอมใต้
00:36:59 → 00:37:01 ลิ้นด้วยนะคะแล้วก็รวมไปถึงยาฉีดป้องกัน
00:37:01 → 00:37:04 นะคะจะไม่ใช่ยาฉีดแก้ปวดแต่เป็นยาฉีดป้อง
00:37:04 → 00:37:06 กันหรือคนที่เป็นหนักๆมากๆเนี่ยบางทีเรา
00:37:06 → 00:37:08 ก็เอา urin ทอกซินนะคะมาใช้ในการรักษา
00:37:08 → 00:37:11 ไมเกรนเรื้อรังด้วยเหมือนกันฉะนั้นมันมี
00:37:11 → 00:37:13 เยอะแยะมากมายแล้วก็หลากหลายมากๆอยากให้
00:37:13 → 00:37:16 ลองปรึกษาคุณหมอดูนะคะสวัสดีค่ะคุณกันดา
00:37:16 → 00:37:18 ส่วนใหญ่เนี่ยเป็นไมเกรนสัมพันธ์กับช่วง
00:37:18 → 00:37:20 ที่มีประจำเดือนแล้วก็จะปวดข้างซ้ายสัก
00:37:20 → 00:37:24 2-3 วันแล้วย้ายข้างมาปวดข้างขวาอีก 2-3
00:37:24 → 00:37:27 วันแบบนี้ค่ะทานพอนสแตนแล้วนอนพักบางทีก็
00:37:27 → 00:37:30 ดีขึ้นแต่บางทีก็ไม่ค่อยหายค่ะประเด็นแรก
00:37:30 → 00:37:33 เลยก็คือปวดไมเกรนสัมพันธ์กับช่วงที่มี
00:37:33 → 00:37:35 ประจำเดือนเราเรียกว่าเป็น menstrual
00:37:35 → 00:37:37 ไมเกรน menstruation ก็คือประจำเดือนเนาะ
00:37:37 → 00:37:40 ก็คือเป็นเมไมเกรนเลยเป็นไทปนึงของไมเกรน
00:37:40 → 00:37:43 นะคะเกิดจากการที่ช่วงประจำเดือนเ่อช่วง
00:37:43 → 00:37:44 มีประจำเดือนเนี่ยฮอร์โมนเรามีการเปลี่ยน
00:37:44 → 00:37:47 แปลงอันนี้ให้แยก 2 อย่างถ้าเกิดเป็นแค่
00:37:47 → 00:37:49 ตอนเป็นประจำเดือนจริงๆเราจะถือว่าคนไข้
00:37:49 → 00:37:52 เป็นไมเกรนช่วงรอบเดือนก็จะเป็น type นึง
00:37:52 → 00:37:55 นะคะแต่อีกอันนึงก็คือจริงๆไม่ใช่แค่ช่วง
00:37:55 → 00:37:58 รอบเดือนนะอากาศร้อนกลิ่นเสียงอาหารแสงก็
00:37:58 → 00:38:00 กระตุ้นได้แบบนี้เราก็จะเรียกว่าเป็นปวด
00:38:00 → 00:38:03 ไมเกรนแต่ว่าโอเคมีอาการเด่นที่ตอนช่วง
00:38:03 → 00:38:05 รอบเดือนเหมือนกันนะคะความแตกต่างกันยัง
00:38:05 → 00:38:08 ไงคือถ้าเกิดสมมุติว่าเป็นแค่ไมเกรนช่วง
00:38:08 → 00:38:10 รอบเดือนจริงๆอ่ะเราจะเน้นการรักษาหรือ
00:38:10 → 00:38:12 การป้องกันแค่เฉพาะช่วงที่มีฮอร์โมน
00:38:12 → 00:38:14 เปลี่ยนแปลงแต่ถ้าคนไข้มีความไวต่อตัว
00:38:14 → 00:38:17 กระตุ้นอื่นๆด้วยเช่นแสงสีกลิ่นเสียง
00:38:17 → 00:38:18 อาหารอะไรอย่างเงี้ยค่ะอันนั้นก็จะรักษา
00:38:18 → 00:38:21 เหมือนเป็นไมเกรนทั่วไปเลยเพราะว่าเราไม่
00:38:21 → 00:38:23 รู้ว่าคนไข้จะไปเจอแดดร้อนเมื่ออะไหร่จะ
00:38:23 → 00:38:26 เจอตัวกระตุ้นอะไรเมื่อไหร่บ้างนะคะส่วน
00:38:26 → 00:38:28 ใหญ่คนไข้ที่เป็นไมเกรนตอนรอบเดือนจริงๆ
00:38:28 → 00:38:30 อ่ะเขาจะไม่ได้ปวดตอนประจำเดือนมานะเขาจะ
00:38:30 → 00:38:33 ปวดก่อนช่วงที่เอสโตรเจนมันตกอ่ะค่ะก็จะ
00:38:33 → 00:38:36 ปวดก่อนประมาณ 1-2 วันก่อนประจำเดือนมา
00:38:36 → 00:38:38 แล้วก็พอมาแล้วก็อาจจะหายปวดหรือบางคนก็
00:38:38 → 00:38:41 อาจจะปวดต่อไปได้อีก 2-3 วันก็เป็นแบบนี้
00:38:41 → 00:38:45 เลยนะคะเอ่อสำหรับการทานยาพอนสแตนที่เอ่อ
00:38:45 → 00:38:47 บางทีดีขึ้นแล้วก็บางทีไม่ค่อยหายนะคะ
00:38:47 → 00:38:51 เอ่อให้ให้สังเกตว่าเราทานช้าไปหรือเปล่า
00:38:51 → 00:38:53 นะคะเพราะถ้าเกิดเป็นไมเกรนช่วงรอบเดือน
00:38:53 → 00:38:56 จริงๆอ่ะค่ะบางทีเรามีการให้คนไข้กินป้อง
00:38:56 → 00:38:58 กัน 1-2 วันวันก่อนประจำเดือนมาเราให้คน
00:38:58 → 00:39:01 ไข้กินยากลุ่มเอนเสดนี่แหละค่ะกลุ่มพสน
00:39:01 → 00:39:04 นี่แหละนะคะดักไว้ได้เลยนะคะหรือบางทีก็
00:39:04 → 00:39:07 จะใช้เป็นเอ่อยาป้องกันอื่นๆนะคะที่หมอ
00:39:07 → 00:39:10 ชอบใช้บางทีก็อาจจะเป็นพวกแมกนีเซียมนะคะ
00:39:10 → 00:39:12 แมกนีเซียมขนาดที่สูงพอเนี่ยสามารถช่วยลด
00:39:12 → 00:39:14 อาการไมเกรนได้หรือบางทีก็จะใช้เป็นยา
00:39:14 → 00:39:18 ป้องกันเอ่อเช่นพวกฟูนาซีนแคปซูลเทาแดง
00:39:18 → 00:39:19 อะไรเงี้ยค่ะให้คนไข้กินในช่วงที่แบบ
00:39:19 → 00:39:22 ประจำเดือนมานะคะหรือบางทีเราก็จะใช้ยา
00:39:22 → 00:39:25 ใหม่นะคะยาอมใต้ลิ้นอะไรอย่างเงี้ยค่ะกิน
00:39:25 → 00:39:27 ป้องกันไว้ก่อนก็ได้เหมือนกันนะคะแต่ว่า
00:39:28 → 00:39:31 ความเอ่อความสำคัญก็คือให้กินเหมือนป้อง
00:39:31 → 00:39:33 กันก่อนที่จะกำเริบหนักอ่ะค่ะเพราะว่าถ้า
00:39:33 → 00:39:36 เวลาเป็นไมเกรนตอนรอบเดือนไปแล้วบางทีกำ
00:39:36 → 00:39:39 เริ่มหนักๆไปแล้วเนี่ยยาแก้ปวดแค่พอนสแตน
00:39:39 → 00:39:41 ก็คือกลุ่มเอเซตเนี่ยถือว่าเป็นกลุ่ม
00:39:41 → 00:39:43 เอเซตบางทีเอาไม่อยู่ล่ะค่ะอาจจะต้องไป
00:39:43 → 00:39:46 ใช้ยาที่กลุ่มจำเพาะมากขึ้นนะคะอย่างเช่น
00:39:46 → 00:39:49 กลุ่มเออกอตหรือว่ากลุ่มทิปแทนนะคะลองคุณ
00:39:49 → 00:39:52 กดาลองดูนะคะว่าแบบเอ่อถ้ากินพสนไม่หาย
00:39:52 → 00:39:55 อย่างเงี้ยเราไม่ควรซ้ำพสนไปเรื่อยๆแล้ว
00:39:55 → 00:39:57 นะบางคนก็คือกินไปแบบ 1 เมด 2 เม 4 เม็ด
00:39:57 → 00:39:59 อย่างเงี้ยค่ะอันนี้เสี่ยงต่อแบบการกัด
00:39:59 → 00:40:02 กระเพาะมากเกินไปนะคะลองไปใช้ยาที่จำเพาะ
00:40:02 → 00:40:05 กับไมเกรนมากยิ่งขึ้นดูนะคะเพราะว่าตอน
00:40:05 → 00:40:08 เป็นเ่อประจำเดือนเนี่ยไมเกรนของเรานะคะ
00:40:08 → 00:40:12 จะมาหนักกว่าปกตินะคะมาแรงกว่าปกตินะคะ
00:40:12 → 00:40:15 มันจะแบบอ่าคนไข้แมเกนหลายคนจะรู้อ่ะว่า
00:40:15 → 00:40:17 โอเคปวดจากแสงเนี่ยมันจะปวดเลเวลประมาณ
00:40:17 → 00:40:19 นี้แต่ถ้าเกิดตอนประจำเดือนมาเนี่ยส่วน
00:40:19 → 00:40:21 ใหญ่จะเป็นอาการปวดที่ค่อนข้างหนักแล้วก็
00:40:21 → 00:40:24 ค่อนข้างรุนแรงใช้ยาแก้ปวดเยอะกว่าทั่วๆ
00:40:24 → 00:40:27 ไปนะคะทีนี้ถ้าเกิดรู้สึกว่าเป็นแบบนี้
00:40:27 → 00:40:29 นี้ทุกเดือนจริงๆนะคะหมอแนะนำนะลองให้
00:40:29 → 00:40:31 ปรึกษาคุณหมออีกเหมือนกันนะคะเพราะว่าเรา
00:40:31 → 00:40:35 อ่ะสามารถมีวิธีการป้องกันได้นะว่าเราจะ
00:40:35 → 00:40:37 ทำยังไงให้ตอนช่วงรอบเดือนเราไม่จะต้อง
00:40:37 → 00:40:40 แบบมามาอัดยาเยอะๆอ่ะค่ะเพราะบางคนเนี่ย
00:40:40 → 00:40:43 อย่างพอเป็นประจำเดือนเนี่ยปวดไปประมาณ
00:40:43 → 00:40:46 สมมุติว่าปวด 2 วันข้างหน้าแล้วก็ปวดอีก 2
00:40:46 → 00:40:48 วันข้างหลังก็คือ 4 วันน่ะแล้วถ้าเรากิน
00:40:48 → 00:40:52 ยาวันละ 2-3 เม็ดอ่ะค่ะต่อให้เราปวดแค่ 4
00:40:52 → 00:40:54 วันตรงเนี้ยแต่คนไข้มีความเสี่ยงใช้ยาแก้
00:40:54 → 00:40:56 ปวดเกินขนาดได้เหมือนกันใช้ยาป้องกันก็
00:40:56 → 00:40:59 น่าจะดีดีกว่านะคะแล้วก็อีกวิธีนึงนะคะ
00:40:59 → 00:41:02 อ่าอันนี้ถ้ายังไม่ได้มามาๆพบแพทย์อย่าง
00:41:02 → 00:41:04 เงี้ยเวลาเป็นประจำเดือนอย่างเงี้ยค่ะที่
00:41:04 → 00:41:07 ช่วยได้เลยแน่ๆนะคะแล้วก็ช่วยลดอาการช่วง
00:41:07 → 00:41:08 มีประจำเดือนด้วยก็คือเรื่องของการออก
00:41:08 → 00:41:12 กำลังกายนะคะคือพอเรารู้แล้วแหละว่าตอน
00:41:12 → 00:41:14 นั้นน่ะเดี๋ยวมันจะมีอาการก่อนเป็นประจำ
00:41:14 → 00:41:16 เดือนมาแล้วก็กระตุ้นไมเกรนเรานะคะเรา
00:41:16 → 00:41:19 ต้องพยายามแบบเหมือนอ่าออกกำลังกายอย่าง
00:41:19 → 00:41:22 สม่ำเสมอมากขึ้นต้องนอนนอนให้พอนะคะดื่ม
00:41:22 → 00:41:25 น้ำให้พอเพราะขาดน้ำเนี่ยก็ก็กระตุ้น
00:41:25 → 00:41:27 ไมเกรนเหมือนกันนะคะแล้วก็ทานอาหารให้ตรง
00:41:27 → 00:41:30 เวลานะคะคือช่วงเวลาอื่นอาจจะทำไม่ได้แต่
00:41:30 → 00:41:32 ว่าถ้าเป็นช่วงเวลานั้นเนี่ยพยายามทำให้
00:41:32 → 00:41:36 ได้ก็จะลดอาการลงไปได้บางส่วนนะคะสำหรับ
00:41:36 → 00:41:39 วันนี้ก็ขอบคุณมากนะคะที่ดูไลฟ์กันนะคะก็
00:41:39 → 00:41:42 ฝากกดไลค์กดติดตามให้หมอด้วยนะคะสวัสดี
00:41:42 → 00:41:45 ค่ะ
00:00:00 → 00:00:03 ไมเกรนไม่ใช่แค่โรคปวดหัวมีอาการร่วมอื่น
00:00:03 → 00:00:07 ๆมากมายเลยผู้ป่วยหญิงนะคะอายุประมาณ 54
00:00:07 → 00:00:09 ปีคือคนไข้ก็เริ่มมีปัญหาหลายเริ่องขึ้น
00:00:09 → 00:00:13 มาเช่นรู้สึกว่าบ้านหมุนร้อนวูบวาบใจเต้น
00:00:13 → 00:00:17 รัวแขนขาชาใจสั่นแพนิคก็กำรกไปปรึกษาคุณ
00:00:17 → 00:00:20 หมอจิตแพทย์เ่อก็ได้ยาในกลุ่มที่รักษา
00:00:20 → 00:00:22 เรื่องซุมเศร้านอนไม่หลำมาตัวนึงปรากฏว่า
00:00:22 → 00:00:25 คนไข้กินยาแล้วก็คือปวดหัวดิ่งมากๆจนรู้
00:00:25 → 00:00:27 สึกแบบไม่อยากอยู่แล้วอะไรอย่างเงี้ยค่ะ
00:00:27 → 00:00:30 สมมุติจุดตั้งต้นมาจากไมเกรนอ่ะเรามันแยก
00:00:30 → 00:00:32 แตกออกเป็นอีก 7 อาการเนี่ยโกในการรักษา
00:00:32 → 00:00:35 คนไข้ไมเกรนจริงๆคือเราถึงต้องดูองค์รวม
00:00:36 → 00:00:39 ดูทั้งหมดมีโรคร่วมอะไรบ้างวิตกกังวลซึม
00:00:39 → 00:00:42 เศร้าไปแล้วหรือยังมีกล้ามเนื้อคอตึงไม
00:00:42 → 00:00:44 หรือมีปัจจัยอะไรบ้างที่มากระตุ้นเขาเรา
00:00:44 → 00:00:47 เรียกอันนึงได้ว่ามันเป็นเรื่องของ mbs
00:00:47 → 00:00:49 symptom ในไมเกรนนะคะถ้าเรามีอาการผิด
00:00:49 → 00:00:51 ปกติอื่นๆแล้วเนี่ยหาอะไรไม่เจอลองรักษา
00:00:52 → 00:00:54 ไมเกรนดูก่อนจากเดิมที่แบบวันที่แย่นี่
00:00:54 → 00:00:57 คือเกือบทั้งเดือนเลยแต่ตอนเนี้ยวันที่ดี
00:00:57 → 00:00:59 จะเหลือแค่ประมาณมันไม่กี่วันที่ที่มัน
00:00:59 → 00:01:01 แยกลงสวัสดีค่ะหมอนุ่มนะคะแพทย์หญิง
00:01:01 → 00:01:03 ศุภมาศวิบูรสุขสารแพทย์เฉพาะทางระบบ
00:01:03 → 00:01:06 ประสาทและสมองค่ะวันนี้หมออยากจะมาแชร์
00:01:06 → 00:01:09 เคสนะคะยกตัวอย่างเคสที่เป็นเคสไมเกรน
00:01:09 → 00:01:11 จริงๆนะคะแล้วก็มีอาการค่อนข้างเยอะแยะ
00:01:11 → 00:01:14 มากมายเลยรวมไปถึงว่าเออจริงๆแล้วพอเขา
00:01:14 → 00:01:16 รักษาเนี่ยอาการเหล่านั้นน่ะมันก็ดีขึ้น
00:01:16 → 00:01:19 ตามได้นะคะอันนี้นะคะก็จริงๆแล้วเนี่ยก็
00:01:19 → 00:01:21 มาจากเรื่องของไมเกรนเนี่ยจริงๆไม่ใช่แค่
00:01:21 → 00:01:25 โรคปวดหัวนะคะมีอาการร่วมแต่อื่นๆต่างๆ
00:01:25 → 00:01:28 มากมายเลยนะคะเหมือนอย่างที่หมอเคยเอ่อ
00:01:28 → 00:01:30 เขียนโพสต์ไว้นะคะว่าจริงๆแล้วไไมเกรน
00:01:30 → 00:01:32 เนี่ยเ่าถ้าถ้าดูจากรูปนี้นะคะก็จะเห็น
00:01:32 → 00:01:35 ว่าเออไมเกรนมีอาการแบบเยอะแยะมากมายที่
00:01:35 → 00:01:37 คนไข้บางทีก็แบบอธิบายออกมาไม่ถูกเลยนะคะ
00:01:37 → 00:01:41 ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของจิตใจไม่ปกติไม่
00:01:41 → 00:01:43 อยากออกไปไหนนะคะรู้สึกไวต่อกลิ่นต่อ
00:01:43 → 00:01:47 เสียงเวียนหัวมีอ่อนเพลียนะคะรู้สึกสมอง
00:01:47 → 00:01:49 ล้าคือถ้าเกิดให้บรรยายจริงๆเนี่ยมันเยอะ
00:01:49 → 00:01:53 มากซึ่งหลายคนก็จะรู้สึกว่าเป็นได้อย่าง
00:01:53 → 00:01:55 นั้นจริงๆเลยหรอนะคะคือเหมือนแบบเอ้ยไม่
00:01:55 → 00:01:58 มีใครเข้าใจว่ามันขนาดนั้นจริงๆเลยหรอวัน
00:01:58 → 00:02:00 นี้ก็เลยอยากจะลองแบบเอาตัวอย่างของคนไข้
00:02:00 → 00:02:04 คนเคสนึงนะคะซึ่งท่านเนี่ยเาจดบันทึกไว้
00:02:04 → 00:02:06 อย่างละเอียดมากๆเลยเป็นข้อดีมากๆเลยที่
00:02:06 → 00:02:08 เาบรรยายอาการไว้อย่างละเอียดทำให้หมอที่
00:02:08 → 00:02:11 รักษาเนี่ยเข้าใจอาการของคนไข้ได้ทุก
00:02:11 → 00:02:14 อาการนะคะแล้วก็หาความสัมพันธ์ของอาการ
00:02:14 → 00:02:17 ต่างๆกับโรคไมเกรนรวมถึงการที่เราจะ
00:02:17 → 00:02:20 ประเมินคนไข้แล้วก็จะนำไปสู่เรื่องของการ
00:02:20 → 00:02:23 ตัดสินใจการรักษาคนไข้ด้วยลองมาฟังเคสนี้
00:02:23 → 00:02:26 กันเลยนะคะว่าเรามีอาการแบบนี้หรือเปล่า
00:02:26 → 00:02:28 ค่ะนี้นะคะก็เป็นเคสนะคะผู้ป่วยหญิงอายุ
00:02:28 → 00:02:32 ประมาณ 54 4 ปีคนไข้เนี่ยก็มีประวัติการ
00:02:32 → 00:02:34 เป็นไมเกรนมากับเหมือนกับหลายๆเคสนะคะคือ
00:02:34 → 00:02:36 เขาไม่ได้มาเป็นไมเกรนที่แย่มากมาแต่ไหน
00:02:36 → 00:02:40 แต่รายเดิมทีเนี่ยตั้งต้นก็เริ่มมีปวดหัว
00:02:40 → 00:02:42 เล็กๆน้อยๆตั้งแต่สมัยเป็นวัยรุ่นนะคะ
00:02:42 → 00:02:44 ช่วงอายุประมาณ 10 กว่าๆก็เริ่มมีอาการ
00:02:44 → 00:02:47 ปวดตุ๊บๆละปวดไมเกรนนะคะอาจจะช่วงมีรอบ
00:02:47 → 00:02:49 เดือนรอบประจำเดือนอะไรก็แล้วแต่แต่ว่า
00:02:49 → 00:02:51 ตอนนั้นเนี่ยเขาก็ไม่รู้หรอกว่าเนี่ยยคือ
00:02:51 → 00:02:53 ไมเกรนก็ไม่ได้ไปรักษาที่ไหนด้วยแล้วก็
00:02:53 → 00:02:55 ไม่ได้กินยาอะไรด้วยนะคะก็คือเป็นน้อยๆ
00:02:55 → 00:02:58 มากๆผ่านเวลาผ่านไปนะคะก็ไปสู่ช่วงวัยทำ
00:02:58 → 00:03:01 งานก็เหมือนหลายๆเคสเลยพอเป็นวัยทำงาน
00:03:01 → 00:03:03 ปึ๊บเริ่มมีความเครียดมากขึ้นเริ่มอดนอน
00:03:03 → 00:03:06 มากขึ้นหรือว่าอ่าตัวไมเกรนเองเนี่ยก็
00:03:06 → 00:03:08 เหมือนถูกกระตุ้นมาเรื่อยๆนะคะจนมันก็
00:03:08 → 00:03:10 เริ่มสั่งสมมากขึ้นนะคะทำให้อาการปวด
00:03:10 → 00:03:13 ไมเกรนเริ่มมาแบบสม่ำเสมอมากยิ่งขึ้นนะคะ
00:03:13 → 00:03:15 ก็คือเริ่มมาเดือนนึงเนี่ยประมาณ 2 ครั้ง
00:03:15 → 00:03:17 บ้าง 3 ครั้งบ้าง 4 ครั้งบ้างซึ่งถึงตอน
00:03:17 → 00:03:19 เนี้ยเา้าก็ได้มีไปตรวจแล้วก็เริ่มรู้
00:03:19 → 00:03:21 แล้วล่ะว่าเป็นไมเกรนแต่ว่ายังเป็นไมเกรน
00:03:21 → 00:03:24 น้อยๆนะคะก็คือใช้ยาแค่แก้ปวดทั่วไปพวก
00:03:24 → 00:03:27 ไอบูโพรเฟนเนี่ยอาการก็หายดีไม่ได้ถึงกับ
00:03:27 → 00:03:29 แบบเป็นไมเกรนที่แบบเป็นอาเจียนหรืออะไร
00:03:29 → 00:03:31 นะคะไม่ได้มีผลต่อการใช้ชีวิตอาการทุก
00:03:31 → 00:03:34 อย่างเนี่ยก็จะมาแย่ลงในช่วงที่เป็นช่วง
00:03:34 → 00:03:37 อ่าเข้าใกล้วัยหมดประจำเดือนนะคะสักช่วง
00:03:37 → 00:03:39 ประมาณ 50 ปีคือคนไข้ก็เริ่มมีปัญหาหลาย
00:03:39 → 00:03:42 เรื่องขึ้นมาเช่นรู้สึกว่าอมีร้อนวูบวาบ
00:03:42 → 00:03:45 นอนไม่หลับอารมณ์เปลี่ยนแปลงมีใจสั่นคน
00:03:45 → 00:03:47 ไข้เนี่ยก็รู้สึกว่าเออแบบอาการมันแบบ
00:03:48 → 00:03:50 เหมือนไปทางโรคหัวใจมากกว่าก็ได้ไปตรวจ
00:03:50 → 00:03:53 กับคุณหมอหัวใจได้กินนยารักษาเรื่องใจ
00:03:53 → 00:03:55 สั่นอะไรมานะคะแล้วก็คนไข้ก็ได้รับการ
00:03:55 → 00:03:58 วิสัยว่ามีแบบแพนิคนิดๆมีความกังวลแล้วก็
00:03:59 → 00:04:01 เครียดคข้างง่ายนะคะซึ่งในระระหว่างนั้น
00:04:01 → 00:04:03 เองเนี่ยไมเกรนก็อาจจะดูเหมือนเป็นบ่อย
00:04:03 → 00:04:05 ขึ้นแล้วก็ถีขึ้นนะคะแต่ก็ยังไม่ได้แบบ
00:04:05 → 00:04:08 ถึงขั้นแบบรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันอะไร
00:04:08 → 00:04:12 นะคะจนกระทั่งแบบมาแย่มากๆเนี่ยก็ในช่วง
00:04:12 → 00:04:14 ประมาณสัก 1 เดือนให้หลังนะคะคือคนไข้ก็
00:04:14 → 00:04:16 เริ่มมีปัญหาเรื่องเหมือนนอนไม่หลับอะไร
00:04:17 → 00:04:19 อย่างเงี้ยนะคะก็ไปปรึกษาคุณหมอจิตแพทย์
00:04:19 → 00:04:21 เ่อก็ได้ยาในกลุ่มที่รักษาเรื่องซุมเศร้า
00:04:21 → 00:04:24 นอนไม่หลับมาตัวนึงปรากฏว่าหลังจากนั้น
00:04:24 → 00:04:26 เนี่ยพอกินยาไปแล้วเหมือนมีผลข้างเคียง
00:04:26 → 00:04:28 ค่อนข้างมากอ่ะค่ะคนไข้กินยาแล้วก็คือปวด
00:04:28 → 00:04:30 หัวขึ้นมาทันทีเลยไปเหมือนไปกระตุ้น
00:04:30 → 00:04:32 ไมเกรนที่เขาเป็นอยู่แล้วเนี่ยให้มันแย่
00:04:32 → 00:04:35 ลงนะคะจากวันนั้นก็คือคนไข้ปวดหัวทุกวัน
00:04:35 → 00:04:39 เลยแล้วรู้สึกว่าแบบมันแบบไม่มีความสุขนะ
00:04:39 → 00:04:42 คะแบบเวียนหัวตื่นมาก็ปวดหัวเลยต้องกินยา
00:04:42 → 00:04:45 แก้วปวดทุกวันนะคะแล้วก็พอเวียนหัวก็เลย
00:04:45 → 00:04:47 ได้ไปกินยาแก้วเวียนหัวอีกตัวนึงด้วยซึ่ง
00:04:47 → 00:04:50 ยาแก้วเวียนหัวตัวนั้นเนี่ยก็เ่อก็อยู่ใน
00:04:50 → 00:04:52 กลุ่มแก้วเวียนหัวเทาวแดงที่เป็นยารักษา
00:04:52 → 00:04:55 ไมเกรนนะคะซึ่งบางคนเนี่ยแบบที่อาจจะมีผล
00:04:55 → 00:04:57 ข้างเคียงว่าทำให้อารมณ์มันดาวหรือว่า
00:04:57 → 00:05:00 deess มากขึ้นได้นะคะซึ่งคนนี้ก็เป็นก็
00:05:00 → 00:05:03 คือแบบพอกินยาเสร็จปุ๊บนะคะก็คนไข้รู้สึก
00:05:03 → 00:05:06 ว่าดิ่งมากๆจนรู้สึกแบบมีความคิดที่จะทำ
00:05:06 → 00:05:08 ร้ายตัวเองไม่ไม่ได้ทำร้ายตัวเองแต่มี
00:05:08 → 00:05:10 ความคิดที่รู้สึกว่าไม่อยากอยู่แล้วอะไร
00:05:10 → 00:05:12 อย่างเงี้ยค่ะซึ่งสิ่งเยไม่เคยเกิดขึ้น
00:05:12 → 00:05:16 กับเค้านะคะก็ทำให้ในช่วงตลอดประมาณซัก
00:05:16 → 00:05:18 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมาก่อนที่จะมาเจอกัน
00:05:18 → 00:05:21 เนี่ยคือคนไข้อ่ะค่อนข้างเอ่อเครียดกับ
00:05:21 → 00:05:23 เรื่องโรคไมเกรนมากๆว่ามันปวดหัวไมเกรน
00:05:23 → 00:05:27 มากๆแล้วก็กินยาทุกวันนะคะรวมไปถึงอารมณ์
00:05:27 → 00:05:30 ที่มันแย่ลงมากๆด้วยนะคะตอนตอนนั้นเนี่ย
00:05:30 → 00:05:32 คนไข้ก็เหมือนไม่รู้จะบรรยายยังไงนะคะก็
00:05:32 → 00:05:35 เลยแบบวาดรูปออกมาเลยนะคะว่าเคอ่ะรู้สึก
00:05:35 → 00:05:37 ยังไงเพราะว่ากลัวเดี๋ยวหมอจะไม่เข้าใจ
00:05:37 → 00:05:40 ว่าแบบมันมีออาการอะไรบ้างนะคะคือตอนนั้น
00:05:40 → 00:05:42 คนไข้ก็เลยแบบว่าเขียนเลยว่าแบบเอออาการ
00:05:42 → 00:05:45 หลักๆเนี่ยมันจะมี 1 นะคะเขาเรียกว่า
00:05:45 → 00:05:48 เหมือนเป็นปวดหัวปวดแบบไม่ใช่แบบแค่ตุ๊บๆ
00:05:48 → 00:05:53 ะแต่มันมีความอึนความแบบหัวไม่โล่งความ
00:05:53 → 00:05:56 รู้สึกว่าเบนมันฟอ่ะค่ะคนหลายคนจะเคยได้
00:05:56 → 00:05:59 ยินคำว่าเนฟใช่ไหมมคะคืออาการสมองล้านะนะ
00:05:59 → 00:06:02 คะก็คือเป็นความรู้สึกที่เหมือนมันไม่ใช่
00:06:02 → 00:06:05 หลงลืมแต่มันเป็นความรู้สึกที่มันคิดไม่
00:06:05 → 00:06:09 ออกเหมือนมีอะไรมาบังมีหมอกมาบังนะคะแล้ว
00:06:09 → 00:06:13 ก็เหมือนสมาธิไม่ดีนะคะแล้วนอกจากนั้น
00:06:13 → 00:06:16 เนี่ยเค้าก็รู้สึกว่าเค้าตราพร่ามากสู้
00:06:16 → 00:06:19 แสงไม่ได้เลยนะคะรวมไปถึงแบบกลิ่นด้วย
00:06:19 → 00:06:23 กลิ่นอาหารเนี่ยก็คือไม่ได้เลยนะคะมีชาชา
00:06:23 → 00:06:29 บ้านหมุนร้อนวูบวาบใจเต้นรัวแขนขาชาใจ
00:06:30 → 00:06:32 สั่นอีกแล้วพอมีอาการทุกอย่างก็รู้สึกว่า
00:06:32 → 00:06:36 แพนิคก็กำเริบนะคะคือจะเห็นว่าแบบที่เขา
00:06:36 → 00:06:40 บรรยายทั้งหมดอ่ะมันทั้งตัวเออมันมันมัน
00:06:40 → 00:06:43 ไม่ไม่ไม่ปกติเลยอ่ะจนกระทั่งที่คนไข้
00:06:43 → 00:06:46 เอ่อประมาณในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมาก็
00:06:46 → 00:06:48 คือคนไข้ไม่ออกจากบ้านเลยนะคะก็คือเขา
00:06:48 → 00:06:50 กลัวการออกไปข้างนอกเลยแล้วก็รู้สึกว่า
00:06:50 → 00:06:52 ไม่อยากจะไปกินอะไรไม่อยากจะไปทำอะไรแล้ว
00:06:52 → 00:06:56 นะคะอารมณ์ก็ยิ่งดิ่งลงไปอีกนะคะคือจริงๆ
00:06:56 → 00:06:58 เนี่ยคนเนี้ยเอ่อน่ารักมากเลยในการที่เขา
00:06:58 → 00:07:01 บรรยายบรรยายอาการของเา้ามาทั้งหมดนะคะ
00:07:01 → 00:07:04 เพราะว่าเอาจริงๆถ้าเกิดสมมุติว่าเราอ่ะ
00:07:04 → 00:07:07 แบบเหมือนบางทีเราไม่ได้เขียนมันออกมาค่ะ
00:07:07 → 00:07:10 เวลามาเล่าให้หมอฟังเนี่ยบางทีมันก็อ่า
00:07:10 → 00:07:14 วันนั้นตื่นเต้นเล่าไม่หมดหรืออาจจะแบบ
00:07:14 → 00:07:17 นึกไม่ออกะเช่นบางอย่างมันผ่านไป 2-3
00:07:17 → 00:07:21 สัปดาห์ละก็อาจจะไม่ได้ไม่ได้จำได้หมดทุก
00:07:21 → 00:07:23 รายละเอียดขนาดนั้นนะคะแต่ว่าพอเขียนมัน
00:07:23 → 00:07:26 ออกมาเนี่ยเอ่อหมอก็ได้ทำความเข้าใจแล้ว
00:07:26 → 00:07:29 ก็พยายามแบบลิสออกมาว่าเออจริงๆแล้วเนี่ย
00:07:29 → 00:07:31 อาการเหล่านี้นะคะคนของคนไข้เนี่ยเรา
00:07:31 → 00:07:34 เรียกอันนึงได้ว่ามันเป็นเรื่องของ mbs
00:07:34 → 00:07:37 symptom ในไมเกรนนะคะ mbs ก็คือมาจากโส
00:07:37 → 00:07:41 butters symptom นะคะของไมเกรนนะคะแปล
00:07:41 → 00:07:43 เป็นภาษาไทยก็เหมือนเป็นอาการที่ทำให้คน
00:07:43 → 00:07:46 ไข้ไมเกรนเนี่ยรู้สึกไม่สุขสบายหรือว่า
00:07:46 → 00:07:49 รู้สึกรำคาญหรือว่าเป็นอาการที่ทำให้เขา
00:07:49 → 00:07:53 ซัฟเฟอร์รู้สึกแย่แค่ไม่ใช่ที่ไม่ใช่แค่
00:07:53 → 00:07:56 ปวดหัวนะคะซึ่งเ่อ mbs symptom ในไมเกรน
00:07:56 → 00:08:00 เนี่ยมีเยอะมากๆเลยนะคะในคนนี้นะคะที่ริ
00:08:00 → 00:08:04 ออกมาได้เนี่ยก็จะมีอันนึงก็อ่ะอันแรกเลย
00:08:04 → 00:08:06 ก็คือ difficult in concentration ก็
00:08:06 → 00:08:10 คือรู้สึกว่าหัวมันไม่โล่งสมาธิไม่ดีนะคะ
00:08:10 → 00:08:13 ก็คือสมองเนี่ยความจำแย่ลงอันที่ 2 ก็คือ
00:08:13 → 00:08:17 มีการมองเห็นที่ผิดปกตินะคะเพตราพร่านะคะ
00:08:17 → 00:08:20 ไวต่อแสงมากกว่าปกตินะคะอันที่ 3 ก็คือมี
00:08:20 → 00:08:24 เรื่องของโฟเบียก็คือตราสู้แสงไม่ได้นะคะ
00:08:24 → 00:08:28 มีอาการคื่นไส้เวียนหัวบ้านหมุนรวมไปถึง
00:08:28 → 00:08:30 มีอาการที่รู้สึกว่ามีพาร้อนวูบวาบระปบ
00:08:30 → 00:08:33 ประสาทอัตโนมัติที่ทำงานผิดปกติด้วยก็คือ
00:08:33 → 00:08:35 ริสออกมาได้ประมาณนี้ซึ่งจริงๆมันก็ถือ
00:08:35 → 00:08:38 ว่าเป็นิ่งหนึ่งใน mbs symptom ในไมเกรน
00:08:38 → 00:08:40 ได้เลยอาจจะต้องแยกจากสาเหตุโรคอื่นๆไป
00:08:40 → 00:08:42 ก่อนด้วยนะคะเช่นบางคนมีเวียนหัวบ้านหมุน
00:08:42 → 00:08:45 แต่เขามีสาเหตุอื่นๆเช่นมีเอ่อเรื่องของ
00:08:45 → 00:08:47 ฮินปูนชั้นในหูชั้นในหลุดหรืออะไรอย่าง
00:08:47 → 00:08:49 เงี้ยนะคะแต่ว่าในกรณีนี้เนี่ยหมอจะพูด
00:08:49 → 00:08:52 ถึงในกรณีที่ว่าคือแยกโลกอย่างอื่นออกไป
00:08:52 → 00:08:54 หมดแล้วอ่ะแล้วก็รักษาอย่างอื่นมาแล้ว
00:08:54 → 00:08:57 ด้วยคือคนเนี้ก็ไปรักษาบ้านหมุนกินยาอ่า
00:08:57 → 00:08:59 รักษาบ้านหมุนทั่วไปหรืออะไรแล้วมันมันก็
00:08:59 → 00:09:02 ไม่ดีขึ้นนะคะเพราะฉะนั้นก็เหมือนแบบพอ
00:09:02 → 00:09:04 มันเหลือเป็นอาการที่มันมาร่วมกับไมเกรน
00:09:04 → 00:09:05 แล้วะเราก็จะคิดว่าน่าจะเป็นอาการร่วมของ
00:09:06 → 00:09:10 ไมเกรนนะคะอันนี้ก็เป็นไดอารี่ของคนไข้
00:09:10 → 00:09:14 ที่คนไข้อ่าเขียนมานะคะซึ่งคนไข้ก็จะ
00:09:14 → 00:09:17 เขียนใส่ปฏิทินเลยว่าแบบในแต่ละวันเนี่ย
00:09:17 → 00:09:19 เขามีอาการอะไรบ้างนะคะก็จะเห็นว่าแบบ
00:09:19 → 00:09:21 อาการแย่ลงเนี่ยตั้งแต่เริ่มเริ่มที่ได้
00:09:21 → 00:09:25 ไปกินยาตัวนึงมาแล้วรู้สึกว่ามันมันมี
00:09:25 → 00:09:27 Side เอฟเฟคมีผลข้างเคียงค่อนข้างเยอะ
00:09:27 → 00:09:29 แล้วหลังจากนั้นเนี่ยเค้าก็ตุ๊บๆๆมาตลอด
00:09:29 → 00:09:33 นะคะแล้วก็จะมีความที่ไวต่ออาหารมากๆกิน
00:09:33 → 00:09:36 อะไรก็ไม่ได้เลยนะคะผงชูโรสอกอฮอลนี่คือ
00:09:36 → 00:09:38 ไม่ต้องกินนะแค่ได้กลิ่นก็เป็นแล้วนะคะ
00:09:38 → 00:09:41 กล้วยนะคะหรือว่าพวกของดองผักดองอะไรต่าง
00:09:41 → 00:09:44 ๆพอไมเกนเขากำเริบหนักมากๆเข้าแล้วอ่ะเขา
00:09:44 → 00:09:47 ได้กลิ่นก็ไม่ได้เลยยังไม่ทันกินเลยก็ปวด
00:09:47 → 00:09:50 หัวแล้วนะคะแล้วก็เด่นๆเลยที่คนไข้รู้สึก
00:09:50 → 00:09:53 ก็คือคนไข้จะรู้สึกว่าเอ่อมีอาการตาลายตา
00:09:53 → 00:09:57 มัวตาพร่าสู้แสงไม่ได้จมูกตันด้วยนะคะรู้
00:09:57 → 00:09:59 สึกว่าหัวมันไม่โล่งแล้วก็แบบแรงดันสมอง
00:09:59 → 00:10:02 เนี่ยมันเหมือนเพิ่มขึ้นคือคนค่อยจะรู้
00:10:02 → 00:10:04 สึกเหมือนหัวมันจะระเบิดอ่ะค่ะก็ไม่รู้จะ
00:10:04 → 00:10:06 ใช้คำว่าอะไรก็เหมือนแบบรู้สึกว่าในสมอง
00:10:06 → 00:10:09 มันมีแรงดันเพิ่มขึ้นนอกจากนี้นะคะก็คือ
00:10:09 → 00:10:13 จะรู้สึกว่ามีอาการชาด้วยชาตัวนะคะจะเห็น
00:10:13 → 00:10:16 ว่าในปฏิทินของเขาคนะคะถ้าเกิดคนเรามี
00:10:16 → 00:10:19 อาการแบบนี้ทั้งเดือนนะคะคือก็น่าจะมี
00:10:19 → 00:10:22 เรื่องวิตกกังวลมีเรื่องซึมเศร้าเพราะว่า
00:10:22 → 00:10:24 มันก็เหมือนเราทำอะไรไม่ได้เลยอ่ะค่ะออก
00:10:24 → 00:10:27 ไปไหนก็ไม่ได้ไม่อยากเจอใครนะคะถ้าทำงาน
00:10:27 → 00:10:30 ก็คือทำงานไม่ได้นะคะก็เหมือนต้องลางาน
00:10:31 → 00:10:33 อีกนะคะเพราะฉะนั้นก็ค่อนข้างจะจะค่อน
00:10:33 → 00:10:36 ข้างจะแบบรบกวนการใช้ชีวิตพอสมควรเลยอัน
00:10:36 → 00:10:39 นี้ก็เป็นอาการอย่างละเอียดของคนไข้อีกที
00:10:39 → 00:10:42 นึงเขาก็ลิสต์ออกมาเต็มๆเลยว่าแบบก่อนนอน
00:10:42 → 00:10:45 อาการเป็นยังไงกินยาแล้วเป็นยังไงนะคะมี
00:10:45 → 00:10:49 อาการหัวทึบๆแน่นๆบางวันหัวโล่งบางวันหัว
00:10:49 → 00:10:52 ไม่โล่งเ่าถ้าวันไหนมีอาการอ่าดีขึ้นหรือ
00:10:52 → 00:10:54 อะไรอย่างเงี้ยเขาคก็จะเขียนไว้หมดเลยนะ
00:10:54 → 00:10:56 คะซึ่งอันเนี้ยช่วยในการที่แบบติดตามการ
00:10:56 → 00:10:59 รักษาแล้วก็เหมือนเห็นภาพคนไข้มากขึ้นนะ
00:10:59 → 00:11:01 ค่ะบางทีเราเราดูแค่วันที่ปวดหัวไม่ได้
00:11:01 → 00:11:03 เช่นบางทีเราจะรู้สึกว่าเอ้ยๆคนไข้ไม่
00:11:03 → 00:11:06 เห็นปวดหัวเลยเนี่ยถ้ามานั่งอ่านจริงๆอ่ะ
00:11:06 → 00:11:08 วันที่ปวดหัวจริงๆเดูน้อยนะคะแต่ว่าอ
00:11:08 → 00:11:12 อาการอื่นๆของเขาคเนี่ยเยอะนะคะซึ่งอัน
00:11:12 → 00:11:15 นี้นะคะก็จะเห็นว่าแบบเอ่ออาการเด่นๆเลย
00:11:15 → 00:11:18 ก็คือเรื่องของแบบพวกหัวทึบๆแน่นๆนะคะหัว
00:11:18 → 00:11:20 มีหมอกนิดๆอะไรอย่างเงี้ยค่ะเราเรียกว่า
00:11:20 → 00:11:24 กลุ่มอาการเนฟนะคะหมอเจอบ่อยนะว่าคนไข้
00:11:24 → 00:11:27 ไมเกรนน่ะมาด้วยบอกว่าความจำแย่ลงนะคะ
00:11:27 → 00:11:30 แล้วก็หลายคนหๆเคสเลยอ่ะค่ะไม่มาด้วยไม่
00:11:30 → 00:11:33 ได้มาบอกด้วยว่าเป็นไมเกรนค่ะแล้วมีความ
00:11:33 → 00:11:35 จำแย่ลงค่ะแต่ว่าคนไข้จะมาตรวจด้วยว่า
00:11:35 → 00:11:38 ช่วงเนี้ยรู้สึกว่าความจำมันแย่ลงแบบคิด
00:11:38 → 00:11:42 คำไม่ออกบางทีจะเรียกคำอะไรเช่นแบบเอ่อจะ
00:11:42 → 00:11:44 เรียกเดินผ่านจะเรียกคำว่าสะพานลอยอย่าง
00:11:44 → 00:11:46 เงี้ยนึกคำว่าสะพานลอยไม่ออกโดยเฉพาะเป็น
00:11:46 → 00:11:48 คำที่เราเหมือนแบบไม่ได้ใช้บ่อยๆอย่าง
00:11:48 → 00:11:51 เงี้ยค่ะแต่ว่าถามว่าความจำโดยภาพรวมก็ก็
00:11:51 → 00:11:54 ดูเหมือนจะยังโอเคก็ทำงานได้ปกติแต่ว่า
00:11:54 → 00:11:56 สมองมันไม่เหมือนเดิมซึ่งจริงๆอ่ะคนไข้
00:11:56 → 00:11:59 อ่ะไม่ได้มาด้วยบอกด้วยว่าว่ามาด้วย
00:11:59 → 00:12:01 ไมเกรนเลยนะคะคนไข้มาด้วยบอกว่าเนี่ยความ
00:12:01 → 00:12:03 จำมันแย่ลงสมาธิไม่ดีหรืออะไรอย่างเงี้ย
00:12:03 → 00:12:06 ค่ะซึ่งคนไข้ก็จะกังวลเรื่องของพวกเรื่อง
00:12:06 → 00:12:09 โรคความจำเสื่อมมากกว่าเช่นเอ่อเป็น
00:12:09 → 00:12:11 อัลไซเมอร์มั้ยนะคะหรือบางคนที่อย่าง
00:12:11 → 00:12:13 เงี้ยพอมีปวดหัวด้วยก็จะกลัวเรื่องแบบ
00:12:13 → 00:12:15 เป็นเนื้องอกในสมองมยอะไรอย่างเงี้ยค่ะ
00:12:15 → 00:12:17 กลุ่มเนี้ยเรามาตรวจกันจริงๆแล้วอ่ะค่ะพอ
00:12:17 → 00:12:20 มาทำเทสของความจำจริงๆเรามักจะพบว่าคนไข้
00:12:20 → 00:12:23 เนี่ยคะแนนยังปกตินะคะหรือบางคนก็ได้อาจ
00:12:23 → 00:12:26 จะได้ไปทำตรวจ CT สแกนมาแล้วหรือว่า MRI
00:12:26 → 00:12:29 มาแล้วนะคะก็พบว่าเอก็ปกติอีกเหมือนกัน
00:12:29 → 00:12:32 แต่คนไข้ความจำไม่ดีขึ้นนะคะก็ยิ่งกังวล
00:12:32 → 00:12:35 ไปใหญ่เลยว่าเราเกิดอะไรล่ะบางทีไปหา
00:12:35 → 00:12:37 อย่างเงี้ยค่ะพอเราพอเรากังวลเรื่องความ
00:12:37 → 00:12:39 จำแล้วอ่ะบางทีไปหาหมอก็ได้รับการ
00:12:39 → 00:12:42 วินิจฉัยมาอีกว่าอ๋อเป็นโรควิตกกังวลไปละ
00:12:42 → 00:12:44 อะไรอย่างเงี้ยค่ะซึ่งก็ไปได้ยากลุ่ม
00:12:44 → 00:12:46 รักษาโรควิตกกังวลมาแล้วก็บางทีก็มีผล
00:12:46 → 00:12:47 ข้างเคียงความจ้ำแยะลงไปอีกอะไรอย่าง
00:12:47 → 00:12:49 เงี้ยค่ะคืออันนี้เล่าให้เห็นภาพว่าเออ
00:12:49 → 00:12:52 แบบบางทีอ่ะเราลืมนึกไปเลยนะว่าไอ้ไอ้พวก
00:12:52 → 00:12:55 กลุ่มอาการความจำที่มันแย่ลงหรือว่าสมาธิ
00:12:55 → 00:12:57 มันเสียหรือว่าเนฟเนี่ยสุดท้ายมันมาจาก
00:12:57 → 00:12:59 ไมเกรนก็ได้อย่างเคสที่ที่หมเล่าให้ฟังก็
00:12:59 → 00:13:02 คือว่าพอคนไข้รักษาไมเกรนปุ๊บหัวโล่งเลย
00:13:02 → 00:13:04 ความจำดีขึ้นนะคะก็คนเก็เหมือนกันอาการ
00:13:04 → 00:13:07 เด่นๆของเขาเลยตอนหลังอ่ะมันไม่ใช่ปวดหัว
00:13:07 → 00:13:09 นะแต่มันเป็นเรื่องของที่เขารู้สึกว่า
00:13:09 → 00:13:11 สมองเขาไม่เหมือนเดิมคือด้วยความที่คนไข้
00:13:11 → 00:13:15 อ่ะได้ยารับประทานมานะคะแล้วก็มีผลข้าง
00:13:15 → 00:13:17 เคียงจากยาเพราะฉะนั้นคนไข้เนี่ยจะกลัว
00:13:17 → 00:13:19 การใช้ยารับประทานเอ่อตอนนั้นหมอก็เลย
00:13:19 → 00:13:22 รักษาไปโดยการใช้ยาฉีดนะคะรักษาไมเกรนนะ
00:13:22 → 00:13:26 คะที่เป็นยาในกลุ่มยับยั้งสาร cgrp ผ่าน
00:13:26 → 00:13:29 ไป 1 เดือนหลังจากที่เอ่อฉีดยาไปนะคะคะก็
00:13:29 → 00:13:32 จะเห็นว่าคนไข้เนี่ยเริ่มเริ่มโอเคขึ้นนะ
00:13:33 → 00:13:35 คะจริงๆคนไข้เริ่มบอกว่าดีขึ้นตั้งแต่ 5
00:13:35 → 00:13:39 สิงหาคม 2-3 อาทิตย์หลังจากรักษาครั้งแรก
00:13:39 → 00:13:41 นะคะก็เริ่มก็เริ่มโอเคขึ้นแล้วก็มีวัน
00:13:41 → 00:13:43 ที่ดีมากขึ้นจะเห็นว่า
00:13:43 → 00:13:46 เอ่อจากเดิมที่รู้สึกว่ามันอะไรก็ไม่รู้
00:13:47 → 00:13:50 อ่ะทั้งเดือนเลยนะคะเริ่มมีวันที่ดูช่อง
00:13:50 → 00:13:54 โล่งๆเป็นวันที่ดูแบบจะสดใสขึ้นนะคะแต่
00:13:54 → 00:13:57 ถามว่าหายสนิทมั้ยก็ยังไม่ได้หายสนิทนะคะ
00:13:57 → 00:14:00 เพราะว่าต่อให้เรารักษายาปปกันไมเกรนไป
00:14:00 → 00:14:02 เนี่ยยามันไม่ใช่ยาแบบโอ้โหฉีดแล้วหายทัน
00:14:02 → 00:14:06 ทีนะคะยาไม่ใช่ยาแก้ปวดยาคือการที่ไปยับ
00:14:06 → 00:14:08 ยั้งสารที่จะกระตุ้นไมเกรนนะคะเพราะ
00:14:08 → 00:14:11 ฉะนั้นเนี่ยมันต้องใช้เวลาในการออกฤทธิ์
00:14:11 → 00:14:13 นะคะแต่ละตัวก็ออกฤทธิ์ไม่เท่ากันแล้วก็
00:14:13 → 00:14:16 เราก็ต้องคุมปัจจัยเสียงอื่นๆของคนไข้
00:14:16 → 00:14:18 ด้วยนะคะเพราะฉะนั้นเนี่ยเ่าเดือนแรกหลัง
00:14:18 → 00:14:21 การรักษานะคะให้ดีขึ้นได้อย่างน้อยสัก
00:14:21 → 00:14:23 ประมาณครึ่งนึงอย่างเงี้ยก็ถือว่าโอเคะ
00:14:23 → 00:14:25 หรือว่าบางทีเราไม่ได้วัดเป็นจำนวนวันที่
00:14:25 → 00:14:28 คนไข้มีอาการปวดหัวหรือว่าการกินยาแก้ปวด
00:14:28 → 00:14:30 อย่างเดียวค่ะแต่ว่าเราดูภาพรวมของคนไข้
00:14:30 → 00:14:32 ทั้งหมดเลยว่าหลังรักษาไปแล้วว่าคนไข้
00:14:32 → 00:14:36 แฮปปี้ขึ้นมนะคะชีวิตดีขึ้นมนะคะอย่างคน
00:14:36 → 00:14:39 นี้นะคะก็เอ่อหลังจากที่ฉีดยารักษาไปแล้ว
00:14:39 → 00:14:41 เนี่ยความคิดที่รู้สึกว่ามันไม่อยากจะ
00:14:41 → 00:14:44 อยู่ตรงนั้นมันหายไปละอยากจะออกไปข้างนอก
00:14:44 → 00:14:47 แต่ก็ยังไวกับตัวกระตุ้นบางอย่างอยู่เช่น
00:14:47 → 00:14:49 เวลาแบบฝนจะตกหรือว่าอาหารบางอย่างอาหาร
00:14:49 → 00:14:51 ดองเนี่ยอันเนี้ยก็ยังมีความไวต่อตัว
00:14:51 → 00:14:54 กระตุ้นได้บ้างแต่ว่าโดยรวมอาการก็ดีขึ้น
00:14:54 → 00:14:56 พอหมอใช้ยาไปสักประมาณ 3 เดือนนะคะแล้ว
00:14:56 → 00:15:00 เรารู้สึกว่าอืมจริงๆอ่ะคนคนไข้ไมเกรนอ่ะ
00:15:00 → 00:15:02 ดีขึ้นได้กว่านี้อีกนะอะไรอย่างเงี้ยค่ะ
00:15:02 → 00:15:04 เพราะว่าเคสที่ตอบสนองกับไมเกรนดีจริงๆ
00:15:04 → 00:15:08 อ่ะแทบจะแบบหายได้แบบ 8 90% หรือว่าบาง
00:15:08 → 00:15:11 คนก็คือแทบเกือบจะแบบไม่ไม่มีอาการเลยอ่ะ
00:15:11 → 00:15:14 ได้นะคะเพราะฉะนั้นหมอก็สวิชยาค่ะก็
00:15:14 → 00:15:16 เปลี่ยนไปใช้อีกตัวนึงเคสนี้ก็เหมือนกัน
00:15:16 → 00:15:18 ค่ะท่านนี้ก็เหมือนกันหมอก็ได้สวิชยา
00:15:18 → 00:15:21 เพื่อให้คนไข้อ่ะเอ่อตอบสนองกับยามากขึ้น
00:15:21 → 00:15:23 นะคะหลังจากฉีดยาเปลี่ยนนเป็นฉีดยาวตัว
00:15:23 → 00:15:26 ที่ 2 ไปนะคะก็ปรากฏว่าเอ่อไอ้อาการที่
00:15:26 → 00:15:29 รู้สึกว่าแบบออนแรงสันต้าอะไอะไรอย่าง
00:15:29 → 00:15:32 เงี้ยค่ะหรือว่ามีเสียงวิ้งเวียนหัวค่ะ
00:15:32 → 00:15:36 แล้วก็เนฟเนี่ยแทบจะแบบดีๆๆขึ้นมากๆนะคะ
00:15:36 → 00:15:38 เนาะอย่างอันเนี้ยคนไข้ก็จะเขียนวันที่ดี
00:15:38 → 00:15:42 แล้วก็วันที่แย่นะคะแล้วก็อันที่คนไข้บอก
00:15:42 → 00:15:45 ว่าเด่นเลยอ่ะคือเนฟอ่ะเา้ารู้สึกดีขึ้น
00:15:45 → 00:15:47 จริงๆแล้วอ่ะเวลาเรารู้สึกว่าเราความจำ
00:15:48 → 00:15:49 ไม่ดีอ่ะเราอย่าเพิ่งโทษอัลไซเมอร์อย่าง
00:15:49 → 00:15:52 เดียวนะมันมีหลายปัจจัยมากๆเลยนะคะอันนึง
00:15:52 → 00:15:54 เลยที่แบบเหมือนพอคนไข้แบบแก้ทุกอย่าง
00:15:54 → 00:15:56 อะไรแล้วก็ไม่หายอ่ะพอมานั่งซักประวัติ
00:15:56 → 00:15:59 จริงกันจริงๆอ่ะปรากฏว่าเออเขาคเป็นไมเก
00:15:59 → 00:16:01 ที่เป็นค่อนข้างเยอะนะคะมันก็เลยทำให้เขา
00:16:01 → 00:16:05 รู้สึกว่าสมองอ่ะมันไม่ไม่เ่อไม่สามารถทำ
00:16:05 → 00:16:07 งานได้ปกตินะคะแล้วพอรักษาไมเกรนก็ปรากฏ
00:16:07 → 00:16:09 ว่าเออมันก็ดีขึ้นจริงๆนะคะเพราะว่า
00:16:09 → 00:16:11 ไมเกรนอ่ะเหมือนเวลาเรากำเริมขึ้นมาแต่ละ
00:16:12 → 00:16:14 ทีอ่ะให้นึกภาพว่าเหมือนสมองมันก็เหมือน
00:16:14 → 00:16:16 มีไฟช็อตอ่ะค่ะสมมุติว่าเราปวดไมเกรนวัน
00:16:16 → 00:16:18 เนี้ยหรือว่ามีอาการไมเกรนกำเเริ่มวัน
00:16:18 → 00:16:21 เนี้ยปปกโดยธรรมชาติของไมเกรนก็ต้องใช้
00:16:21 → 00:16:23 เวลาอย่างหน้อยประมาณ 1-2 วันในการที่จะ
00:16:23 → 00:16:25 ทำให้เรารู้สึกว่าเรากลับมาปกติอ่ะค่ะคน
00:16:25 → 00:16:29 ปวดไมเกรนจะรู้รู้ว่าเออเวลาเราปวดหัวต่อ
00:16:29 → 00:16:30 ให้หายปวดหัวไปแล้วอ่ะวันรุ่งขึ้นเรายัง
00:16:30 → 00:16:33 ไม่ได้ปกติ 100% นะคะฉะนั้นเนี่ยพอเราปวด
00:16:33 → 00:16:36 วันนึงเราก็จะมึนๆอึนๆไปอีก 2-3 วันนะคะ
00:16:36 → 00:16:39 แล้วพออีก 2-3 วันปวดใหม่อีกละนะคะมันก็
00:16:39 → 00:16:42 จะอึนๆนะคะก็จะเห็นว่าแบบมันก็จะเหมือน
00:16:42 → 00:16:45 เรารู้สึกว่าแบบเราเอ่อมีอาการผิดปกติ
00:16:45 → 00:16:47 ทั้งเดือนได้เลยใครที่เป็นไมเกรนบ่อยๆอ่ะ
00:16:47 → 00:16:51 จะมีอาการนี้ร่วมด้วยค่อนข้างเยอะเลยนะคะ
00:16:51 → 00:16:54 นี่พอหลังรักษาไปนะคะไดอารี่ที่คนไข้สด
00:16:54 → 00:16:58 มันก็โล่งขึ้นนะคะเห็นว่ามีวันที่วันที่
00:16:58 → 00:17:02 ที่ดีมากขึ้นแล้ววันที่แย่เนี่ยน้อยลงจาก
00:17:02 → 00:17:04 เดิมที่แบบวันที่แย่นี่คือเกือบทั้งเดือน
00:17:04 → 00:17:07 เลยแต่ตอนเนี้ยวันที่ดีก็คือแบบว่าเป็น
00:17:07 → 00:17:10 ส่วนใหญ่และแล้วก็จะเหลือแค่ประมาณ 1 2
00:17:10 → 00:17:13 3 4 5 5 ประมาณไม่กี่วันที่ที่มันแย่
00:17:13 → 00:17:15 ลงหลังจากที่เราได้แบบเหมือนให้ความรู้
00:17:15 → 00:17:17 educate ไปเนี่ยเราก็จะพยายามให้คนไข้
00:17:17 → 00:17:20 เนี่ยไปหาตัวกระตุ้นนะคะหรือว่าสังเกต
00:17:20 → 00:17:21 อาการตัวเองมากยิ่งขึ้นว่าอะไรที่ทำให้
00:17:22 → 00:17:24 เขามีอาการแย่ลงนะคะอย่างอย่างเคสนี้ก็
00:17:24 → 00:17:27 รู้สึกว่าเออพอลองไปเปลี่ยนหมอนนะคะปรากฏ
00:17:27 → 00:17:29 ว่าอาการปวดหัวดีขึ้นเลยแสดงว่าส่วนหนึ่ง
00:17:29 → 00:17:31 เนี่ยไอ้ความมึนๆอื่นๆของเขาเนี่ยก็อาจจะ
00:17:31 → 00:17:35 มาจากหมอนที่ไม่เหมาะสมหรือว่าท่านอนที่
00:17:35 → 00:17:38 ทำให้บางทีแหงนคอมากเกินไปคอตึงมากเกินไป
00:17:38 → 00:17:39 แล้วก็มากระตุ้นไมเกรนด้วยก็ได้นะคะเพราะ
00:17:40 → 00:17:42 ฉะนั้นไมเกรนเนี่ยเราต้องค่อนข้างแบบ
00:17:42 → 00:17:44 สังเกตตัวเองให้ดีๆเลยว่าเออจริงๆแล้ว
00:17:44 → 00:17:46 เนี่ยอาการอะไรที่มันมากระตุ้นเราบ้างนะ
00:17:46 → 00:17:49 คะเราก็จะได้พยายามหลีกเลี่ยงอันนั้นๆนะ
00:17:49 → 00:17:51 คะหลังจากวันนี้ก็นะคะคนไข้ก็ถามว่าคือ
00:17:51 → 00:17:54 หายสนิทเลยมยก็ยังนะคะแต่ว่าดีขึ้นมาก
00:17:54 → 00:17:56 แล้วก็ยังมีตัวกระตุ้นเมื่อไร่ที่ไปเจอ
00:17:56 → 00:17:57 ตัวกระตุ้นเช่นอาหารบางอย่างเนี่ยก็จะยัง
00:17:57 → 00:18:00 มีการกระตุ้นอารได้อยู่นะคะแต่อย่างน้อย
00:18:00 → 00:18:03 เนี่ยก็คือกลับไปใช้ชีวิตได้ปกติมากยิ่ง
00:18:03 → 00:18:05 ขึ้นแล้วก็มีการอ่าออกไปนอกบ้านอะไรได้
00:18:05 → 00:18:08 ปกติมากยิ่งขึ้นแล้วก็รู้และว่าอะไรที่จะ
00:18:08 → 00:18:10 มากระตุ้นแล้วก็พยายามหลีกเลี่ยงถ้า
00:18:10 → 00:18:13 เลี่ยงไม่ได้จริงๆก็รู้วิธีการจัดการ
00:18:13 → 00:18:16 อาการไมเกรนเบื้องต้นนะคะแล้วก็สิ่งหนึ่ง
00:18:16 → 00:18:18 ที่สำคัญเลยก็คือว่าจากเดิมที่เขารู้สึก
00:18:18 → 00:18:21 ว่าอาการมันเป็นอะไรก็ไม่รู้เนี่ยชาๆอึนๆ
00:18:21 → 00:18:24 มึนๆเวียนหัวสมองไม่โล่งตรวจอะไรก็ไม่เจอ
00:18:24 → 00:18:26 อะไรอย่างเงี้ยค่ะแบบว่าตรวจ MRI ก็ดู
00:18:26 → 00:18:28 ปกติดีอะไรอย่างเงี้ยแล้วมันก็เป็นความ
00:18:28 → 00:18:30 กังวลนะคะว่าเอ้ยแล้วเราเป็นอะไรอะไร
00:18:30 → 00:18:32 อย่างเงี้ยอย่างน้อยพอมันได้รู้ว่าแบบ
00:18:32 → 00:18:34 เอ่อจริงๆแล้วเนี่ยทั้งหมดเนี่ยก็คือ
00:18:34 → 00:18:36 อาการหนึ่งในอาการของไมเกรนนี่แหละแล้วพอ
00:18:36 → 00:18:39 รักษาไมเกรนแล้วอาการต่างๆเนี่ยตามมาดี
00:18:39 → 00:18:42 ขึ้นเนี่ยก็ทำให้คนไข้สบายใจได้ขึ้นขึ้น
00:18:42 → 00:18:45 ได้นะคะแต่ว่าทั้งหมดของคนไข้นะคะคือจะ
00:18:45 → 00:18:47 เห็นว่าอาการร่วมของไมเกรนน่ะมันเป็น
00:18:47 → 00:18:49 อาการที่ไม่จำเพาะเลยเนาะไม่ว่าจะเป็น
00:18:49 → 00:18:52 เวียนหัวบ้านหมุนชาหรืออะไรเงี้ยค่ะเพราะ
00:18:52 → 00:18:54 ฉะนั้นเนี่ยทุกครั้งเราก็จะไม่ได้โทษ
00:18:54 → 00:18:56 ไมเกรนอย่างเดียวนะคะเราต้องพยายามมองหา
00:18:56 → 00:18:59 โรคอื่นๆไว้เสมอตลอดนะคะคะว่าเออคนไข้มี
00:18:59 → 00:19:02 อาการหรือมีโรคร่วมอื่นอ่าที่มาอธิบาย
00:19:02 → 00:19:05 อาการเหล่านี้ด้วยมยแล้วก็ต้องทำการรักษา
00:19:05 → 00:19:08 ควบคู่กันไปนะคะไม่ใช่ว่าแบบว่าเออะโทษไม
00:19:08 → 00:19:11 เกนทั้งหมดเลยแบบนั้นนะคะจะเป็นกรณีว่า
00:19:11 → 00:19:13 เรารักษาอย่างอื่นมาแล้วหาสาเหตุอย่าง
00:19:13 → 00:19:15 อื่นมาแล้วไม่เจอมากกว่าแล้วก็เอ่อพอสุด
00:19:15 → 00:19:17 ท้ายเรารักษาไมเกรนแล้วอาการต่างๆมันดี
00:19:17 → 00:19:19 ขึ้นไปตามกันไปเนี่ยเราก็จะคิดว่าเ่า
00:19:19 → 00:19:23 เนี่ยอาการร่วมของไมเกรนละนะคะอันนี้นะคะ
00:19:23 → 00:19:25 หมอก็ลองรวบรวมนะคะว่าแบบเออจริงๆแล้ว
00:19:25 → 00:19:28 อาการร่วมของไมเกรนเนี่ยเอ่อมีอะไรบ้างนะ
00:19:28 → 00:19:30 คะอันนี้ก็จะมีแบบงานวิจัยนึงที่เขาก็
00:19:30 → 00:19:32 เก็บคนไข้ว่าส่วนใหญ่คนไข้ที่เวลาปวดหัว
00:19:32 → 00:19:35 ขึ้นมาจริงๆแล้วเนี่ยมันไม่ใช่แค่ปวดหัว
00:19:35 → 00:19:39 นะที่เขาเค้าอ่อทำให้เขาคแบบอ่ามีชีวิต
00:19:39 → 00:19:41 ที่ไม่ดีหรือว่ามีคุณภาพชีวิตที่ไม่ดีนะ
00:19:41 → 00:19:45 คะแต่ว่าอันที่แบบว่าเจอบ่อยๆเลยนะคะลอง
00:19:45 → 00:19:47 ลงมาจากอาการปวดหัวนะก็คือจะเห็นว่าเป็น
00:19:47 → 00:19:50 เรื่องของเนี่ย concentration สมาธิที่
00:19:50 → 00:19:53 มันแบบไม่ดีอ่ะค่ะรู้สึกว่าความจำแย่ลงนะ
00:19:53 → 00:19:56 คะหรือว่าแบบสมองไม่โล่งนะคะไม่สามารถคิด
00:19:56 → 00:19:58 อะไรได้แบบ Flow หรือว่าได้คล่องเหมือน
00:19:58 → 00:20:00 เดิมเราองลงไปนะคะก็จะเห็นว่าเป็นไวต
00:20:00 → 00:20:03 เสียงมากๆนะคะคนไข้ไมเกรนจะไม่ชอบเสียง
00:20:03 → 00:20:06 ดังเลยคนปกติจะรู้สึกว่าเสียงเยอาจจะปกติ
00:20:06 → 00:20:08 เช่นแบบเสียงดนตรีที่ดังมากๆอย่างเงี้ย
00:20:08 → 00:20:10 บางคนก็เออชอบอะไรอย่างเงี้ยแต่ว่าถ้า
00:20:10 → 00:20:12 เป็นคนไข้ไมเกนจะรู้สึกว่ามันแบบมัน
00:20:12 → 00:20:15 วุ่นวายหรือเสียงที่มันเป็นแบบเสียงคนคุย
00:20:15 → 00:20:17 กันแล้วแทรกคุยกันหรือการตะโกนคุยกัน
00:20:17 → 00:20:19 อย่างเงี้ยค่ะคนไมเกรนเขาจะ sensitive
00:20:19 → 00:20:22 มากๆนะคะลองลงไปก็คือสู้แสงไม่ได้สู้แสง
00:20:22 → 00:20:23 ไม่ได้จริงๆสู้แสงไม่ได้อ่าแล้วแต่
00:20:23 → 00:20:25 เปเปอร์เลยนะจริงๆสู้แสงไม่ได้หมอว่ามา
00:20:25 → 00:20:27 เป็นอันดับ 1 เลยเหมือนกันนะคะเพราะว่า
00:20:27 → 00:20:30 มันเจอเยอะมากๆนะคะประมาณ 4 50% เลยนะคะ
00:20:30 → 00:20:33 อื่นๆที่เหลือก็จะเป็นพวกคลื่นไส้อาเจียน
00:20:33 → 00:20:36 นะคะแพ้กลิ่นกลิ่นเนี่ยก็จะค่อนข้างชัด
00:20:36 → 00:20:38 ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นที่หอมหรือกลิ่นที่
00:20:38 → 00:20:40 เหม็นแต่ถ้ามันเป็นกลิ่นที่ฉุนเกินไปเช่น
00:20:40 → 00:20:44 น้ำหอมน้ำมันควันกลิ่นบุหรี่อะไรอย่าง
00:20:44 → 00:20:47 เงี้ยค่ะอันเนี้ยไมเกรนไม่ได้เลยนะคะแล้ว
00:20:47 → 00:20:50 ก็เรื่องของการมองเห็นที่ผิดปกตินะคะอัน
00:20:50 → 00:20:51 นี้ก็เจอบ่อยไม่ว่าจะเป็นทั้งเรื่องของ
00:20:52 → 00:20:55 ออร่าเองที่เห็นเป็นแสงซิกแซกแสงสีรุ้ง
00:20:55 → 00:20:58 หรือว่าเป็นความที่รู้สึกว่าตามันพล่าๆ
00:20:58 → 00:21:00 มัวๆอันนี้ก็เจอได้เหมือนกันนะคะอื่นๆก็
00:21:01 → 00:21:03 อย่างเช่นเรื่องของแบบพวกความไวของระบบ
00:21:03 → 00:21:05 ประสาทบางอย่างที่มากกว่าปกติเช่นดิสซี่
00:21:05 → 00:21:08 มึนงงเวียนหัวพวกเนี้ยเป็นอาการร่วมที่
00:21:08 → 00:21:11 เจอได้บ่อยเลยเนี่ยค่ะอารมณ์ด้วยนะอารมณ์
00:21:11 → 00:21:14 ที่เปลี่ยนแปลงไปนะคะแล้วก็อีกอันนึงนะคะ
00:21:15 → 00:21:18 ก็คือเรื่องของกล้ามเนื้อตึงอันนี้เป็น
00:21:18 → 00:21:22 อาการร่วมไมเกรนที่เจอแทบทุกเคสเลยค่ะก็
00:21:22 → 00:21:24 คือตัวกล้ามเนื้อตึงหรือว่าอย่างกลุ่ม
00:21:24 → 00:21:26 ออฟิ Syndrome เองเนี่ยก็เป็นหนึ่งในตัว
00:21:26 → 00:21:29 กระตุ้นไมเกรนคนที่ปวดหัวปวดคอมากๆนะคะ
00:21:29 → 00:21:32 บางทีก็เป็นตัวกระตุ้นไมเกรนเองหรือรวมไป
00:21:32 → 00:21:35 ถึงตอนที่ไมเกรนเรากำเริบนี่แหละนะคะตอน
00:21:35 → 00:21:37 ที่เราปวดหัวไมเกรนอยู่ตุบๆอ่ะตอนแรกคอ
00:21:37 → 00:21:39 ไม่ได้ตึงเลยนะนั่งทำงานอะไรก็ปกติแต่พอไ
00:21:39 → 00:21:43 ไมเกนกำเริบปึ๊บนะคะการที่มันมีการหลัสาร
00:21:43 → 00:21:45 การอักเสบหรือว่าอ่าสันอะไรต่างๆออกมา
00:21:45 → 00:21:48 เนี่ยมันจะทำให้มีภาวะ next stif หรือ
00:21:48 → 00:21:51 ว่ากล้ามเนื้อคอเนี่ยที่มันแข็งตึงเพิ่ม
00:21:51 → 00:21:54 มากขึ้นด้วยนะคะเพราะฉะนั้นเนี่ยไมเกรนก็
00:21:54 → 00:21:57 จะรู้สึกว่าอืมคอตึงก็ปวดหัวปวดหัวแล้วก็
00:21:57 → 00:22:00 กล้ามเนื้อคอตึงนะคะสิ่งที่เจอบ่อยก็คือ
00:22:00 → 00:22:04 ว่าบางทีเนี่ยคนไข้ไปรักษาแตกกล้ามเนื้อ
00:22:04 → 00:22:07 คออ่ะค่ะเช่นแบบว่าทำทุกอย่างกับกล้าม
00:22:07 → 00:22:10 เนื้อคอมาและไม่ว่าจะกายภาพฝังเข็มคอบ
00:22:10 → 00:22:14 แก้วนวดทุกวิถีทางแต่มันจะคลายได้แค่แป๊บ
00:22:14 → 00:22:16 เดียวแล้วพอเสร็จก็ตึงใหม่อีกแล้วนะคะ
00:22:16 → 00:22:18 หรือว่าบางคนก็จะบอกว่าหมอนวดบอกว่าอะไร
00:22:18 → 00:22:20 เนี่ยตึงอีกะบางคนเขาต้องอยู่ได้เป็น
00:22:20 → 00:22:22 อาทิตย์แต่อันนี้แบบ 2 วันก็ตึงแล้วนะคะ
00:22:22 → 00:22:24 ส่วนหนึ่งก็เลยเป็นเพราะว่าไมเกรนนี่แหละ
00:22:24 → 00:22:27 เราเป็นเยอะมากพอไมพอเราคลายกล้ามเนื้อคอ
00:22:27 → 00:22:29 ไปแต่พอไมเกรนกำเเริมนะคะคะมันก็ทำให้
00:22:29 → 00:22:31 กล้ามเนื้อคอเราเนี่ยกลับมาตึงขึ้นใหม่นะ
00:22:31 → 00:22:33 คะเพราะฉะนั้นในกรณีแบบเนี้ยมันรถึงต้อง
00:22:33 → 00:22:36 รักษาควบคู่กันไปเคลียร์กล้ามเนื้อคอด้วย
00:22:36 → 00:22:37 แล้วก็ต้องรักษาป้องกันไม่ให้ไมเกรน
00:22:37 → 00:22:39 กำเริบด้วยนะคะเพื่อกันไม่ให้กล้ามเนื้อ
00:22:39 → 00:22:42 เนี่ยเรากลับมาตึงมากๆนะคะนอกจากนี้นะคะ
00:22:42 → 00:22:46 บางคนก็จะมีเรื่องของนึกคำเอ่าพูดแบบเ่อ
00:22:47 → 00:22:49 ใช้คำพูดไม่ได้เหมือนตอนเหมือนเหมหมอเป็น
00:22:49 → 00:22:51 ตอนนี้คือจะเป็น Speech difficulty นะคะ
00:22:51 → 00:22:53 ก็คือไม่รู้จะพูดอะไรแบบนึกนึกไม่ออก
00:22:53 → 00:22:55 เหมือนติดอยู่ที่ปากอะไรอย่างเงี้ยค่ะ
00:22:55 → 00:22:57 เป็นหนึ่งในอาการร่วมไมเกรนได้ได้บ่อยนะ
00:22:57 → 00:23:01 คะการการรักษาไมเกรนจริงๆนะคะก็มันไม่ใช่
00:23:01 → 00:23:04 แค่แค่โรคปวดหัวแล้วก็ไม่ได้รักษาแค่ปวด
00:23:04 → 00:23:07 หัวอ่ะค่ะไม่ใช่เราแค่จะเอาให้คนไข้หาย
00:23:07 → 00:23:09 ปวดสมมุติคนไข้ปวด 10 วันเอาให้เหลือปวด 1
00:23:09 → 00:23:12 วันน่ะแต่ว่ามันต้องดูภาพรวมของคนไข้ทั้ง
00:23:12 → 00:23:14 หมดว่าเออจริงๆแล้วอะไรบ้างที่มันทำให้
00:23:14 → 00:23:17 เขาแบบซัฟเฟอร์หรือว่าทำให้เขาใช้ชีวิต
00:23:17 → 00:23:19 ลำบากหรือทำให้ใช้ชีวิตไม่ได้นะคะเพราะ
00:23:19 → 00:23:22 ฉะนั้นเนี่ยโกในการรักษาคนไข้ไมเกรนจริงๆ
00:23:22 → 00:23:25 คือเราถึงต้องดูองค์รวมดูทั้งหมดมีโรค
00:23:25 → 00:23:28 ร่วมอะไรบ้างวิตกกังวลซึมเศร้าไปแล้วหรือ
00:23:28 → 00:23:31 ยังมีกล้ามเนื้อคอตึงมหรือมีปัจจัยอะไร
00:23:31 → 00:23:34 บ้างที่มากระตุ้นเขาเพราะว่าจริงๆเป้า
00:23:34 → 00:23:37 หมายของการรักษาจริงๆก็คือทำให้เรารักษา
00:23:37 → 00:23:39 ที่คนไข้อ่ะค่ะเรารักษาคนเราไม่ได้รักษา
00:23:39 → 00:23:43 ไมเกรนนะคะต่อให้ไมเกรนหายปวดหัวแต่ถ้าคน
00:23:43 → 00:23:45 ไข้ไม่มีความสุขหรือยังมีอาการอื่นๆที่
00:23:45 → 00:23:47 เขายังใช้ชีวิตไม่ได้ปกติอันนั้นก็คือถือ
00:23:47 → 00:23:50 ว่าไม่ประสบความสำเร็จนะคะงั้นเราต้องการ
00:23:50 → 00:23:52 ให้คนไข้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นนะคะกลับ
00:23:52 → 00:23:54 ไปใช้ชีวิตปกติได้เหมือนคนอื่นมากยิ่ง
00:23:55 → 00:23:57 ขึ้นนะคะรวมไปถึงอีกอันนึงเลยก็คือเรื่อง
00:23:57 → 00:24:01 ของความเข้าเข้าใจในตัวโลกอ่ะค่ะหลายคน
00:24:01 → 00:24:04 ที่พอเป็นเยอะๆเป็นนานๆเข้าเนี่ย
00:24:04 → 00:24:07 เอ่อมันจะเริ่มท้อว่าเออสงสัยมันจะไม่หาย
00:24:07 → 00:24:10 แล้วแหละหรือแม้กระทั่งกับคนใกล้ตัวเองก็
00:24:10 → 00:24:12 เหมือนกันนะคะก็จะรู้สึกว่าเป็นอะไรเนี่ย
00:24:12 → 00:24:17 แล้วก็จะโดนตราหน้านะคะเป็นไมเกรนสิมาต้า
00:24:17 → 00:24:20 ไปว่าเออจริงๆก็แค่เครียดแหละเครียดหรือ
00:24:20 → 00:24:23 เปล่าแบบนอนไม่พอหรือเปล่าคิดไปเองหรือ
00:24:23 → 00:24:24 เปล่าอะไรอย่างเงี้ยค่ะอันเนี้ยเป็นสิ่ง
00:24:24 → 00:24:27 ที่คนไข้ไมเกรนเขาจะได้รับคำพูดเหล่า
00:24:27 → 00:24:31 เนี้ยมามาบ่อยจากแรกๆก็คืออ่ะยังคิดว่า
00:24:31 → 00:24:34 เออเราเป็นไมเกรนเรามีอาการนี้ๆๆๆพอโดน
00:24:34 → 00:24:37 บ่อยๆเข้าเ้าก็จะเริ่มแบบไม่อยากจะบอกใคร
00:24:37 → 00:24:40 ละเก็บไว้คนเดียวดีกว่าเพราะว่าบอกไปใคร
00:24:40 → 00:24:44 ก็ไม่เข้าใจก็โดนหาว่าแบบเอ่อสำออยบ้าง
00:24:44 → 00:24:47 แกล้งบ้างหรือว่าก็ไปโทษเรื่องของความ
00:24:47 → 00:24:49 เครียดโรคเครียดโรควิตกกังวลอะไรซะเป็น
00:24:50 → 00:24:52 หลักมากกว่านะคะก็ทำให้เขาเหมือนแบบวน
00:24:52 → 00:24:55 เวียนอยู่ในวงจรนี้แล้วก็ไม่ได้รักษานะคะ
00:24:55 → 00:24:58 ก็ทำให้เอ่อสุดท้ายอ่ะก็นำไปสืซุมเศร้าใน
00:24:58 → 00:25:01 ที่สุดจริงๆนะคะเพราะว่าคืออาการวิตก
00:25:01 → 00:25:03 กังวลซุมเช่ากับไมเกรนเป็นอะไรที่แบบเป็น
00:25:03 → 00:25:05 ของคู่กันอีก 1 อย่างอีกเลยอ่ะแบบว่าเจอ
00:25:05 → 00:25:08 กันเยอะมากๆถ้าเป็นไมเกรนที่เป็นไม่บ่อย
00:25:08 → 00:25:10 ก็อาจจะเจอได้สักประมาณ 20-30 per นะคะ
00:25:10 → 00:25:12 แต่ถ้าเกิดเป็นไมเกรนเรื้อรังนะคะเมื่อ
00:25:12 → 00:25:15 ไหร่ปุ๊บเป็นมาหลายๆปีเดือนนึงเป็นหลายๆ
00:25:15 → 00:25:18 วันนะคะเจอซึมเศร้าเกิน 50% เลยนะคะซึ่ง
00:25:18 → 00:25:20 ก็ต้องรักษาควบคู่กันไปเพราะว่าถ้ารักษา
00:25:20 → 00:25:22 แค่ไมเกรนอย่างเดียวแต่ว่าพอเราไม่รักษา
00:25:22 → 00:25:24 เรื่องอารมณ์เนี่ยเดี๋ยวสุดท้ายโรคซึม
00:25:24 → 00:25:26 เช่าก็มากระตุ้นไมเกรนอีกนะคะหมอจะเจอคำ
00:25:27 → 00:25:29 ถามจากคนไข้หลายเคสเลยเลยบอกว่าทำไมคือ
00:25:30 → 00:25:32 เค้าถึงต้องเป็นอะไรแบบเยอะขนาดเนี้ยพอ
00:25:32 → 00:25:35 เวลาลิสมาจริงๆอ่ะคนส่วนใหญ่ก็จะบอกว่า
00:25:35 → 00:25:38 เป็นแพนิคปวดตัวปวดกล้ามเนื้อนอนไม่หลับ
00:25:39 → 00:25:42 ซึมเศร้าวิตกกังวลบางทีแบบความจำแย่ลงอีก
00:25:42 → 00:25:44 สมองเสื่อมอีกทำไมเราเป็นตั้ง 7-8 โลกนะ
00:25:44 → 00:25:47 คะทั้งๆที่จริงๆแล้วะทุกอย่างอ่ะมันอาจจะ
00:25:47 → 00:25:51 เป็นเรื่องเดียวกันนะคะคือจุดตั้งต้นจริง
00:25:51 → 00:25:53 ๆมันก็เริ่มมาจากอะไรสัก 1 อย่างแหละอัน
00:25:53 → 00:25:54 นี้หมอพูดในกรณีของไมเกรนแล้วะกันไม่ได้
00:25:54 → 00:25:56 บอกว่าที่มีอาการทั้งหมดนี้มันจะต้องเป็น
00:25:56 → 00:25:58 ไมเกรนอย่างเดียวแต่ว่าในมุมของคนไข้
00:25:59 → 00:26:01 ไมเกรนอ่ะจุดเริ่มต้นจริงๆอ่ะมันมักจะมา
00:26:01 → 00:26:03 จากไมเกรนก่อนนั่นแหละมีอาการปวดหัวบ่อย
00:26:03 → 00:26:06 ปวดไม่หายมีตัวกระตุ้นเยอะใช้ชีวิตไม่ได้
00:26:06 → 00:26:08 ตามมาด้วยการใช้ยาแก้ปวดเยอะตามมาด้วยที่
00:26:08 → 00:26:11 ปวดตัวเรื้อรังตามมาด้วยโรควิตกกังวลซึม
00:26:11 → 00:26:14 เศร้าเรื่องการนอนไม่หลับความจำแย่ลงอะไร
00:26:14 → 00:26:16 อย่าเงี้ยค่ะแต่พอเวลาเราไปรักษาจริงๆอ่ะ
00:26:16 → 00:26:19 บางทีเราไปรักษาที่ปลายอ่ะค่ะสมมุติจุด
00:26:19 → 00:26:21 ตั้งต้นมาจากไมเกรนอ่ะแล้วมันแยกแตกออก
00:26:21 → 00:26:23 เป็นอีก 7 อาการเนี่ยบางทีเราไปตรวจแล้ว
00:26:23 → 00:26:26 ก็ไปโฟกัสแค่ว่าไจสันเป็นอะไรอ่ะไปตรวจ
00:26:26 → 00:26:29 หัวใจแล้วปกติความจำแย่ลงอัลไซเมอร์หรือ
00:26:29 → 00:26:31 เปล่าไปตรวจแล้วปกติดูแค่ปลายเหตุรักษา
00:26:31 → 00:26:34 แค่ตรงปลายทั้งๆที่จริงๆแล้วพอเราย้อนมา
00:26:34 → 00:26:36 รักษาอาการไมเกรนจริงๆที่ทำให้ความไวของ
00:26:36 → 00:26:39 สมองเราเนี่ยไม่ไวต่อตัวกระตุ้นจนเกินไป
00:26:39 → 00:26:41 อ่ะอาการทุกอย่างโดยรวมเนี่ยมันก็ดีขึ้น
00:26:41 → 00:26:44 ตามๆกันมาได้เลยนะคะเพราะฉะนั้นเนี่ยอยาก
00:26:44 → 00:26:47 ให้คนไข้ที่ใครที่ฟังอยู่รู้สึกว่าเรา
00:26:47 → 00:26:51 เป็นแบบนี้คนใกล้ตัวเราเป็นแบบนี้นะคะ
00:26:51 → 00:26:53 อยากให้รู้ไว้ว่าไมเกรนเนี่ยมันเป็นโรค
00:26:54 → 00:26:57 ถือว่ามันเป็นโรคสมองที่มันแบบมันมีมันมี
00:26:57 → 00:27:00 กลไกที่มันมันซับซ้อนมากๆจริงๆแล้วอาการ
00:27:00 → 00:27:03 แสดงเนี่ยมันหลากหลายมากๆจริงๆนะคะอาการ
00:27:03 → 00:27:07 ร่วมก็เยอะมากๆนะคะอย่าเพิ่งโทษว่าเป็น
00:27:07 → 00:27:09 จากตัวเราหรือเปล่าที่เราคิดไปเองหรือว่า
00:27:09 → 00:27:12 เป็นจากความกังวลหรือความเครียดไปเองหรือ
00:27:12 → 00:27:16 เปล่านะคะให้ลองดูกะอ่ารักษาดูก่อนนะคะ
00:27:16 → 00:27:19 โอเคถ้ารักษาแล้วไมเกรนมันหายไปแล้วแล้ว
00:27:19 → 00:27:22 มันยังเหลืออะไรที่มันแบบว่ามันแก้ไม่ได้
00:27:22 → 00:27:25 จริงๆอันนั้นก็ว่ากันอีกทีนึงนะคะเนาะรวม
00:27:25 → 00:27:28 ไปถึงนะคะแบบว่าอยากให้รู้ว่าเอออาการ
00:27:28 → 00:27:30 ต่างๆที่เรารู้สึกว่าบางทีเราท้อไปแล้ว
00:27:30 → 00:27:32 อ่ะอย่างเวียนหัวบ้านหมุนหรืออะไรที่เรา
00:27:32 → 00:27:34 รู้สึกว่าเราทำอะไรก็ไม่ดีขึ้นน่ะบาง
00:27:34 → 00:27:37 ครั้งอ่ะเราแค่รักษาไมเกรนน่ะค่ะอาการ
00:27:37 → 00:27:41 อื่นๆมันก็ดีขึ้นได้นะคะเนาะแล้วก็สิ่ง
00:27:41 → 00:27:43 สำคัญที่สุดเลยอ่ะก็คือจะเป็นเรื่องของ
00:27:43 → 00:27:46 การจดบันทึกอาการจดไดอารี่ของเรานี่แหละ
00:27:46 → 00:27:49 อาการเราเนี่ยมีอะไรบ้างเพราะว่าสุดท้าย
00:27:49 → 00:27:52 คือมันแบบไม่มีใครเข้าใจอ่ะอาการของเรา
00:27:52 → 00:27:54 ได้เท่าตัวเราเองนะคะหรือแม้แต่หมอเองก็
00:27:54 → 00:27:56 ตามอ่ะถ้าคนไข้ไม่ได้จดวยละเอียดแบบเนี้ย
00:27:57 → 00:27:59 หมอก็ไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขาบ้าง
00:27:59 → 00:28:02 อ่ะค่ะอาการที่มันมาทั้งหมดมันเกิดอะไร
00:28:02 → 00:28:05 บ้างแต่ว่าพอเราเขียนบันทึกไว้ทั้งหมดมัน
00:28:05 → 00:28:07 จะทำให้เราอ่ะมองเห็นภาพรวมจับความ
00:28:07 → 00:28:10 สัมพันธ์อะไรเป็นตัวกระตุ้นอะไรเป็นเหตุ
00:28:10 → 00:28:13 อะไรเป็นผลที่ตามมาได้ดียิ่งขึ้นนะคะการ
00:28:13 → 00:28:16 จดเนี่ยเราก็จะจดเรื่องของการใช้ยาแก้ปวด
00:28:16 → 00:28:19 นะคะหรือว่าตัวที่มากระตุ้นอย่างการใช้ยา
00:28:19 → 00:28:21 แก้ปวดเราก็จะได้คอยรีมตัวเองด้วยว่าคอย
00:28:21 → 00:28:24 นึกด้วยว่าเออเราอ่ะใช้ยาเกินไปแล้วหรือ
00:28:24 → 00:28:27 ยังนะคะโดยปกติเนี่ยถ้าเป็นไมเกรนน่ะค่ะ
00:28:27 → 00:28:30 หมอไม่อยากให้กลัวการใช้ยากินยาแก้ปวดนะ
00:28:30 → 00:28:31 เพราะว่ายิ่งปล่อยไว้นานน่ะมันจะยิ่งปวด
00:28:31 → 00:28:34 แรงแล้วต่อให้แบบพอเราไปกินยาตอนนั้นน่ะ
00:28:34 → 00:28:36 มันไม่หายะเพราะฉะนั้นเป็นไมเกรนเราต้อง
00:28:36 → 00:28:38 กินยาค่อนข้างเร็วนะคะปกติแล้วไมเกรน
00:28:38 → 00:28:40 เนี่ยถ้าเริ่มตูกถูกกระตุ้นขึ้นมาแล้วไม่
00:28:40 → 00:28:42 เกินประมาณ 1-2 ชั่วโมงคุณไข้จะปวดหนัก
00:28:43 → 00:28:45 และรุนแรงแล้วไปจนถึงขึ้นไส้อาเจียนได้นะ
00:28:45 → 00:28:47 คะเพราะฉะนั้นมันเลยถึงต้องรีบค่อนข้าง
00:28:47 → 00:28:49 รีบกินยาแต่เราจะปวดทุกครั้งกินยาทุก
00:28:49 → 00:28:52 ครั้งอเนี่ยไม่ได้เพราะว่าสมองก็จะเกิด
00:28:52 → 00:28:55 การเปลี่ยนแปลงนะคะโครงสร้างแล้วก็ยิ่งไว
00:28:55 → 00:28:57 ต่อความปวดมากยิ่งขึ้นสุดท้ายกลายเป็น
00:28:57 → 00:28:59 สมองติดยาแก้ปวดแล้วก็กลายเป็นไมเกรน
00:28:59 → 00:29:01 เรื้อร่างนะคะเพราะฉนั้นก็เลยต้องดูว่า
00:29:01 → 00:29:04 เออเราอ่ะอยู่ในจุดที่แบบเราแค่กินยาแก้
00:29:04 → 00:29:07 ปวดหรือว่าเราใช้ยาแก้ปดปวดบ่อยไปแล้วจน
00:29:07 → 00:29:09 ต้องไปใช้ยาป้องกันแล้วนะนะคะสิ่งเราเ
00:29:09 → 00:29:11 เนี่ยยถ้าเราไม่จดอ่ะเราไม่รู้เลยบางที
00:29:11 → 00:29:14 แบบเดือนนี้เราใช้ไป 4 เม็ดเดือนหน้า 6
00:29:14 → 00:29:18 เดือนถัดไป 8 กลับมาเดือนนี้ 2 อ่ะถามว่า
00:29:19 → 00:29:21 ผ่านไปสัก 3-4 เดือนเราจะจำได้หรอว่าเรา
00:29:21 → 00:29:23 กินยาอะไรไปบ้างไม่ได้เด็ดขาดนะคะแต่ถ้า
00:29:23 → 00:29:25 เราจดเอาไว้เนี่ยเราก็จะรู้เลยว่าเอออะไร
00:29:25 → 00:29:27 มันเป็นตัวกระตุ้นเรากินอะไรไปบ้างนะคะ
00:29:27 → 00:29:28 กินเยอะเกินไปเราหือยังต้องหาเหมาะแล้ว
00:29:28 → 00:29:30 หรือยังนะคะเพราะฉะนั้นการโจทย์บันทึกของ
00:29:30 → 00:29:33 ไมเกรนถึงเป็นอะไรที่แบบสำคัญมากๆมันเป็น
00:29:33 → 00:29:35 หนึ่งในการรักษาแล้วก็การวินิจฉัยไมเกรน
00:29:35 → 00:29:38 เลยที่เขารนลงให้เราทำกันเราจะได้เข้าใจ
00:29:38 → 00:29:41 โรคของเรามากยิ่งขึ้นสรุป 3 ข้อวันนี้นะ
00:29:41 → 00:29:45 คะอันแรกนะไมเกรนไม่ใช่แค่โรคปวดหัวมี
00:29:45 → 00:29:48 อาการร่วมอื่นๆมากมายเลยอันที่ 2 นะคะถ้า
00:29:48 → 00:29:50 เรามีอาการผิดปกติอื่นๆแล้วเนี่ยหาอะไร
00:29:50 → 00:29:53 ไม่เจอลองรักษาไมเกรนดูก่อนอาการอื่นๆดี
00:29:54 → 00:29:56 ขึ้นได้ด้วยแล้วก็สุดท้ายเลยอันที่ 3 ก็
00:29:56 → 00:29:59 คืออยากให้ทุกคนนะคะจดบันทึกอาการของตัว
00:29:59 → 00:30:01 เองไว้นะคะจะได้เป็นข้อมูลนะคะว่าเราเป็น
00:30:01 → 00:30:06 ไมเกรนระดับไหนแล้วนะ
00:30:06 → 00:30:11 คะเอ่อสวัสดีค่ะคุณอาชิสาเป็นหนึ่งในผู้
00:30:11 → 00:30:14 ป่วยไมเกรนที่ทานยาแก้ปวดทุกครั้งที่ปวด
00:30:14 → 00:30:17 การปวดไมเกรนแล้วกินยาแก้ปวดเนี่ย
00:30:17 → 00:30:19 อันเนี้ยไม่ได้ผิดเราอย่าไปกลัวยาแก้ปวด
00:30:19 → 00:30:21 ยาแก้ปวดยังมีความจำเป็นเพราะว่าไมเกรนมี
00:30:21 → 00:30:24 หลายระดับปวดน้อยๆปวดน้อยๆเนี่ยนอนพัก
00:30:24 → 00:30:27 ประคบเย็นหายพาราเซตามอลหายแต่ถ้าปวด
00:30:27 → 00:30:30 รุนแรงที่แบบมันเกิดจากการกระตุ้นสมองที่
00:30:30 → 00:30:32 สุดท้ายมันจะส่งสัญญาณไปกระตุ้นระบบ
00:30:32 → 00:30:34 ประสาทต่างๆมากมายแล้วเนี่ยอันนั้นคนไข้
00:30:34 → 00:30:36 ไม่หายค่ะแล้วยิ่งปล่อยทิ้งไว้นานเท่า
00:30:36 → 00:30:38 ไหร่จะยิ่งเกิดการอักเสบมากยิ่งขึ้นนะคะ
00:30:38 → 00:30:41 โดยทั่วไปเนี่ยถ้ามันตุ๊บๆๆๆมาถึงตรงนี้
00:30:41 → 00:30:44 ละแล้วปวดเกินประมาณสัก 2 ชั่วโมงละไม่
00:30:44 → 00:30:46 ค่อยหายเองแล้วนะคะอันเนี้ยอาจจะต้องใช้
00:30:46 → 00:30:49 ยาระงับปวดไม่ใช่แค่แก้ปวดนะบางคนแบบอื
00:30:49 → 00:30:52 ไม่เป็นไรทนได้ไม่เอาไม่คะไม่เพราะมันไม่
00:30:52 → 00:30:54 ใช่แค่แก้ปวดแต่มันคือการลดการอักเสบแล้ว
00:30:54 → 00:30:57 ก็การป้องกันไม่ให้ไมเกรนของเราเนี่ยเป็น
00:30:57 → 00:31:00 หนักหรือว่าเป็นรุนแรงมากยิ่งขึ้นนะคะ
00:31:00 → 00:31:03 ฉะนั้นการกินยาแก้ปวดที่เอ่อเหมาะสมไม่
00:31:03 → 00:31:06 ได้ผิดนะคะแต่ถ้าบอกว่ากินทุกครั้งที่ปวด
00:31:06 → 00:31:11 เลยแล้วปวดบ่อยๆนะคะบ่อยในที่นี้นะคะจริง
00:31:11 → 00:31:14 ๆก็จะแบ่งออกเป็นระดับเลยก็คือตั้งแต่
00:31:14 → 00:31:16 เกิน 4 ครั้งขึ้นไปควรจะเริ่มปรึกษาและ
00:31:16 → 00:31:19 ได้รับยาป้องกันและแต่ว่าอาจจะเป็นแบบ
00:31:19 → 00:31:21 กลุ่มที่ยังเป็นไม่รุนแรงแต่ถ้าไปเริ่ม
00:31:21 → 00:31:24 ถี่ขึ้นกว่านั้นเช่นปวดประมาณ 8-10 ครั้ง
00:31:24 → 00:31:26 นะคะต้องได้ยาป้องกันแน่ๆนะคะหรือถ้าเกิด
00:31:26 → 00:31:29 คนที่ปวดเกินแบบประมาณ 15 ครั้งต่อเดือน
00:31:29 → 00:31:31 ขึ้นไปเลยแบบนั้นก็จะเรียกว่าเป็นไมเกรน
00:31:31 → 00:31:34 เรื้อรังละนะคะซึ่งคนไข้กลุ่มเนี้ยจะมี
00:31:34 → 00:31:36 ความเสี่ยงที่จะใช้ยาแก้ปวดเยอะเกินขนาด
00:31:37 → 00:31:39 นะคะอย่างยาบางตัวก็ให้แค่ 10 เม็ดต่อ
00:31:39 → 00:31:41 เดือนเองอย่างบางตัวก็ให้ถึง 15 อะไร
00:31:41 → 00:31:43 เงี้ยหรือถ้าเป็นการใช้ยาหลายๆตัวรวมกัน
00:31:43 → 00:31:45 ก็อ่ะประมาณสัก 10 เมตอะไรอย่างเงี้ยค่ะ
00:31:45 → 00:31:47 ถ้าเมื่อไหร่เราใช้ยาเกินเนี่ยสมองของเรา
00:31:47 → 00:31:49 จะจะไวต่อความปวดมากยิ่งขึ้นนะคะก็จะทำ
00:31:50 → 00:31:52 ให้ไมเกรนของเราเนี่ยแย่ลงนะคะคุณเล็ก
00:31:53 → 00:31:55 สวัสดีค่ะเวลาปวดไมเกรนทานพาราไม่หายต้อง
00:31:55 → 00:31:58 ทานเรวแคเลยค่ะคุณหมอการทานยาแก้ปดของ
00:31:58 → 00:31:59 ไมเกรนเนี่ยเราก็จะมีสเต็ปของการปวด
00:31:59 → 00:32:01 เหมือนกันนะคะอันอันนี้หมอยกตัวอย่างจาก
00:32:01 → 00:32:04 ในไดอารี่เลยแล้วกันนะคะเนาะคือหมออ่ะจะ
00:32:04 → 00:32:06 ให้คนไข้อ่ะจัดระดับอาการปวดของตัวเอง
00:32:06 → 00:32:08 เพื่อจะได้เลือกยาแก้ปวดได้อย่างเหมาะสม
00:32:08 → 00:32:12 อาการปวดของไมเกรนของเราเนี่ยก็จะมีตั้ง
00:32:12 → 00:32:15 แต่ปวดน้อยนะหมอแทนด้วยสีแบบเป็นสีเหลือง
00:32:15 → 00:32:19 ส้มแดงตั้งแต่ปวดน้อยปวดปานกลางแล้วก็ปวด
00:32:20 → 00:32:22 รุนแรงปวดน้อยแบบไหนปวดน้อยก็คือวันเนี้ย
00:32:22 → 00:32:25 รู้สึกไม่โอเคแบบเหมือนๆจะมานิดนึงตึงๆ
00:32:26 → 00:32:29 หน่อยๆแต่ก็ยังไม่ถึงกับปวดตุบรู้สึกว่า
00:32:29 → 00:32:31 ความรู้สึกเยถ้ากินยาก็น่าจะหายเร็วแต่
00:32:31 → 00:32:34 ไม่กินยาก็ยังพอทนไหวซึ่งส่วนใหญ่ถ้าปวด
00:32:34 → 00:32:37 ระดับหนึ่งนี้นะคะหมออาจจะให้คนไข้อ่า
00:32:37 → 00:32:40 เหมือนกินยาแก้ปวดประมาณ 3 ระดับอันแรก
00:32:40 → 00:32:41 เลยเนี่ยเป็น
00:32:41 → 00:32:44 พาราเซตามอลนะคะกลุ่มที่ 2 เนี่ยเราหมอ
00:32:44 → 00:32:47 ให้คำรวมๆว่าเป็นกลุ่มเอเสพาราอันแรก
00:32:47 → 00:32:50 เนี่ยจะรวมไปถึงคลายกล้ามเนื้อนะจริงๆหมอ
00:32:50 → 00:32:54 ทำคลิปวิธีการกินยาแก้ปวดไว้นะคะไปฟังใน
00:32:54 → 00:32:56 คลิปนั้นได้แต่ว่าไม่เป็นไรอันนี้จะได้
00:32:56 → 00:32:58 อธิบายให้คุณเล็กเข้าใจด้วยเลยนะนะคะส่วน
00:32:58 → 00:33:00 กลุ่มสุดท้ายเนี่ยก็คือจะเป็นกลุ่มที่ปวด
00:33:00 → 00:33:03 จำเพาะกับไมเกรนมากยิ่งขึ้นก็คือตัวพวก
00:33:03 → 00:33:06 เอกออ่ะค่ะพวกคฟกอ AV ไกนอะไรพวกเยนะคะ
00:33:06 → 00:33:08 แล้วก็กลุ่มเรล Pack เองก็คือกลุ่มทริป
00:33:08 → 00:33:11 แทนนะคะก็คือเราเรียกว่ากลุ่มทิปแทนเวลา
00:33:11 → 00:33:13 เราปวดเลเวลไหนอ่ะเราเลือกให้เหมาะสมเช่น
00:33:13 → 00:33:15 สมมุติว่าวันเนี้เรารู้สึกแค่ตึงๆใช่มั้ย
00:33:15 → 00:33:17 คะเราปวดสีเหลืองเรายังไม่จำเป็นต้องกิน
00:33:17 → 00:33:20 เรคก็ได้นะคะหรือ trp แนก็ได้นะคะเรากิน
00:33:20 → 00:33:23 ลองกินแค่พาราเซตามอลก่อนได้ส่วนใหญ่บาง
00:33:23 → 00:33:26 ทีหายแต่ถ้าวันเนี้เราปวดมาเลเวล 2 แล้ว
00:33:26 → 00:33:28 เลเวล 2 สีส้มเนี่ยก็คือประมาณว่าส่วน
00:33:28 → 00:33:30 ใหญ่คนไข้เปวดไมเกนจะรู้ว่ามันไม่ได้ตึง
00:33:30 → 00:33:33 แค่ทอยแล้วนะมันเริ่มมาขมับนะคะเริ่มมา
00:33:33 → 00:33:36 ขมับเริ่มมากระบอกตาเริ่มตุบๆนะคะ
00:33:36 → 00:33:38 อันเนี้ยส่วนใหญ่จะเริ่มปวดปานกลางเป็น
00:33:38 → 00:33:41 ต้นไปละแต่ยังไม่มีอาการอื่นๆเช่นยังไม่
00:33:41 → 00:33:43 ได้ถึงกับรู้สึกว่าสู้แสงไม่ได้ยังไม่ได้
00:33:43 → 00:33:46 ถึงกับคลื่นไส้อาเจียนนะคะแต่เริ่มตุ๊บๆ
00:33:46 → 00:33:49 ตรงนี้ส่วนใหญ่อันเนี้ยหมอจะให้เป็นระดับ
00:33:49 → 00:33:52 ประมาณกลางๆนะคะคะแนนก็ประมาณ 50 - 70%
00:33:52 → 00:33:55 ละกันกลุ่มนี้เราเลือกใช้ยาจากกลุ่มที่ 2
00:33:55 → 00:33:57 ได้กลุ่มที่ 2 ก็คือเป็นพวกกลุ่มเอเซตนะ
00:33:57 → 00:33:59 คะก็คือคือกลุ่มยาแก้ปวดทั่วไปเลยที่ไม่
00:33:59 → 00:34:03 ใช่สเตียรอยด์เช่นไอบูเฟนนาพรอกเซนเอทิ
00:34:03 → 00:34:05 ออกซิอะไรพวกนี้นะคะซึ่งข้อดีของกลุ่มนี้
00:34:05 → 00:34:08 นะคะก็คือมันจะลดการอักเสบมากยิ่งขึ้นนะ
00:34:08 → 00:34:10 คะส่วนใหญ่บางทีก็เอาอยู่นะไม่ถึงกับต้อง
00:34:10 → 00:34:12 ไปกุนกินทริปแทนต่อแต่ข้อระวังนะคะก็คือ
00:34:13 → 00:34:14 จะกัดกระเพาะได้ค่อนข้างง่ายแล้วก็อาจจะ
00:34:14 → 00:34:17 มีผลกับฆ่าไตได้อาจจะแบบกินท้องว่างไม่
00:34:17 → 00:34:19 ได้นะคะทีนี้พอบอกว่าไปใช้กลุ่มอื่นได้
00:34:19 → 00:34:21 ไหมมที่มันไม่ค่อยกัดกระเพาะมันก็จะออก
00:34:21 → 00:34:23 ฤทธิ์ช้าก็จะไม่ค่อยกับเหมาะกับไมเกรนละ
00:34:23 → 00:34:26 ไมเกรนต้องการยาที่ออกดิดเร็วนะคะมันก็จะ
00:34:26 → 00:34:29 ต้องบบาซความเสี่ยงกับประโยชน์ตรงนี้กัน
00:34:29 → 00:34:33 ทีนี้ถ้าเกิดวันไหนปวดมากปวดแบบอื้อหือ
00:34:33 → 00:34:36 เลเวล 3 นะคะปวดสีแดงนี่เป็นความรู้สึก
00:34:36 → 00:34:40 ที่ต้องนั่งพักและทำอะไรต่อไม่ได้ตุ๊บๆๆๆ
00:34:40 → 00:34:43 ๆเลยนะคะแล้วมีคลื่นไส้มีอาจอาจมีอาการ
00:34:43 → 00:34:46 ร่วมไมเกนังมีเวียนหัวมีอะไรพวกนี้นะคะ
00:34:46 → 00:34:49 ตรงนี้นะคะอย่างเงี้ยอย่าไปเริ่มที่พารา
00:34:49 → 00:34:52 ไม่หายแน่ๆค่ะนะคะก็อาจจะต้องใช้ยาที่
00:34:52 → 00:34:55 เป็นกลุ่มจำเพาะไมเกรนไปเลยนะคะกับพวก
00:34:55 → 00:34:57 เอกอหรือว่าทริปแทนไปเลยนะคะงั้นคุณเล็ก
00:34:57 → 00:34:59 ลองลองสังเกตอาการตัวเองดูนะคะวันไหนที่
00:34:59 → 00:35:02 แบบบางทีเราปวดน้อยๆอย่างเงี้ยพาราซิมมัน
00:35:02 → 00:35:04 ก็อาจจะยังพอช่วยได้นะคะแต่ว่าถ้าเกิดเรา
00:35:04 → 00:35:07 ปวดแรงไปแล้วนะคะเราก็ต้องใช้ยาที่จำเพาะ
00:35:07 → 00:35:09 มากขึ้นไปเลยนะคะที่สำคัญก็คือว่าอย่าง
00:35:09 → 00:35:12 เช่นกลุ่มตัว rpx หรือว่าทริปแทนเองนะคะ
00:35:12 → 00:35:16 ห้ามใช้เกินจริงๆอ่ะมีตั้งแต่เกินในวัน
00:35:16 → 00:35:20 เกินในสัปดาห์แล้วก็เกินในเดือนนะคะเกิน
00:35:20 → 00:35:22 ต่อวันนะคะถ้าเป็นอิแทน de Pack เมี 2
00:35:22 → 00:35:24 เม็ดก็คือห้ามใช้เกิน 2 เม็ดต่อวันอัน
00:35:24 → 00:35:26 อื่นูทิปแทนเ้าจะเป็นกล่องละ 4 เม็ดก็คือ
00:35:26 → 00:35:28 ห้ามใช้เกิน 4 เม็ดต่อวันต่อสัปดาห์นะคะ
00:35:28 → 00:35:31 ห้ามเกิน 10 เม็ดต่อสัปดาห์นะคะกลุ่มพวก
00:35:31 → 00:35:33 นี้เพราะว่าอาจจะทำให้เพิ่มความเสี่ยงของ
00:35:33 → 00:35:35 พวกหลอดเลือดตีบมากขึ้นและสุดท้ายก็คือ 10
00:35:35 → 00:35:38 เม็ดต่อเดือนด้วยเช่นสัปดาห์เนี้ยกินไปละ
00:35:38 → 00:35:40 8 เม็ดสัปดาห์หน้าอีก 8 ไม่ได้นะคะก็คือ
00:35:40 → 00:35:42 เหลือได้อีกแค่ 2 ในเดือนนี้เพราะไม่งั้น
00:35:42 → 00:35:44 สมองจะติดยาแก้ปวดนะคะเพราะฉะนั้นกลุ่ม
00:35:44 → 00:35:46 เนี้ยข้อดีคือหายปวดเร็วมากนะคะแล้วก็
00:35:46 → 00:35:49 จำเพาะมากๆนะคะแต่ว่าก็ต้องระมัดระวังการ
00:35:49 → 00:35:51 ใช้ด้วยถ้าเกิดเริ่มใช้บ่อยไปใช้ยาป้อง
00:35:51 → 00:35:55 กันยารักษานะคะก็จะดีกว่าเพราะว่าเราจะลด
00:35:55 → 00:35:57 ความถี่แล้วก็ลดความรุนแรงลงไปนะคะก็ก็จะ
00:35:57 → 00:36:01 ทำให้เราชยากลุ่มเนี้ยน้อยลงมากๆเลยนะคะ
00:36:01 → 00:36:05 สวัสดีค่ะคุณอาดัอ่อนนุชนะคะเอ่อสวัสดี
00:36:05 → 00:36:07 ครับคุณหมอผมปวดหัวบ่อยมากครับปวดเกือบ
00:36:07 → 00:36:10 ทุกวันหนักสุดแล้วก็ต้องฉีดยาเลยครับนะคะ
00:36:10 → 00:36:13 ฉีดยาในที่นี่น่าจะเป็นยาแก้ปวดใช่มั้ยคะ
00:36:13 → 00:36:15 อันเนี้ยถือว่าเป็นกลุ่มปวดหัวเรื้อรังไป
00:36:15 → 00:36:17 แล้วนะคะที่ปวดหัวทุกวันอาจจะเป็นไมเกรน
00:36:17 → 00:36:19 ก็ได้หรือเป็นปวดหัวเรื้อรังมาจากอย่าง
00:36:19 → 00:36:21 อื่นก็ได้นะคะเช่นกลุ่มพวกปวดเทนชั่นก็
00:36:21 → 00:36:23 ได้แต่ว่าส่วนใหญ่อ่ะปวดที่ปวดเยอะๆแล้ว
00:36:23 → 00:36:25 ปวดบ่อยๆแล้วปวดทุกวันได้ส่วนใหญ่ก็
00:36:25 → 00:36:28 ไมเกรนนี่แหละค่ะเนาะถ้าถึงขั้นต้องไปฉีด
00:36:28 → 00:36:31 ยาบ่อยๆนะคะจริงๆนะคะลองแค่รักษานะคะการ
00:36:31 → 00:36:34 ใช้ยาป้องกันไมเกรนเนี่ยมันลดแบบอย่าง
00:36:34 → 00:36:37 น้อยลดความทีอ่ะจากปวดทุกวันอ่ะอย่างน้อย
00:36:37 → 00:36:40 เหลือวันเว้นวันหรือที่บอกว่าหนักจนต้อง
00:36:40 → 00:36:44 ไปฉีดยาหลังจากรักษาจะลดการไปฉีดยาที่โรง
00:36:44 → 00:36:47 พยาบาลได้เยอะนะคะอย่างน้อยก็จะเป็นการ
00:36:47 → 00:36:51 ปวดเลเวลที่เรากินยาแก้ปวดแล้วหายนะคะ
00:36:51 → 00:36:53 ซึ่งการรักษาในปัจจุบันเนี่ยยาป้องกันมี
00:36:53 → 00:36:56 หลากหลายมากนะคะมีทั้งยากินนะคะแบบเดิม
00:36:56 → 00:36:59 เลยที่เราใช้ใช้กันมานานๆมีทั้งยาอมใต้
00:36:59 → 00:37:01 ลิ้นด้วยนะคะแล้วก็รวมไปถึงยาฉีดป้องกัน
00:37:01 → 00:37:04 นะคะจะไม่ใช่ยาฉีดแก้ปวดแต่เป็นยาฉีดป้อง
00:37:04 → 00:37:06 กันหรือคนที่เป็นหนักๆมากๆเนี่ยบางทีเรา
00:37:06 → 00:37:08 ก็เอา urin ทอกซินนะคะมาใช้ในการรักษา
00:37:08 → 00:37:11 ไมเกรนเรื้อรังด้วยเหมือนกันฉะนั้นมันมี
00:37:11 → 00:37:13 เยอะแยะมากมายแล้วก็หลากหลายมากๆอยากให้
00:37:13 → 00:37:16 ลองปรึกษาคุณหมอดูนะคะสวัสดีค่ะคุณกันดา
00:37:16 → 00:37:18 ส่วนใหญ่เนี่ยเป็นไมเกรนสัมพันธ์กับช่วง
00:37:18 → 00:37:20 ที่มีประจำเดือนแล้วก็จะปวดข้างซ้ายสัก
00:37:20 → 00:37:24 2-3 วันแล้วย้ายข้างมาปวดข้างขวาอีก 2-3
00:37:24 → 00:37:27 วันแบบนี้ค่ะทานพอนสแตนแล้วนอนพักบางทีก็
00:37:27 → 00:37:30 ดีขึ้นแต่บางทีก็ไม่ค่อยหายค่ะประเด็นแรก
00:37:30 → 00:37:33 เลยก็คือปวดไมเกรนสัมพันธ์กับช่วงที่มี
00:37:33 → 00:37:35 ประจำเดือนเราเรียกว่าเป็น menstrual
00:37:35 → 00:37:37 ไมเกรน menstruation ก็คือประจำเดือนเนาะ
00:37:37 → 00:37:40 ก็คือเป็นเมไมเกรนเลยเป็นไทปนึงของไมเกรน
00:37:40 → 00:37:43 นะคะเกิดจากการที่ช่วงประจำเดือนเ่อช่วง
00:37:43 → 00:37:44 มีประจำเดือนเนี่ยฮอร์โมนเรามีการเปลี่ยน
00:37:44 → 00:37:47 แปลงอันนี้ให้แยก 2 อย่างถ้าเกิดเป็นแค่
00:37:47 → 00:37:49 ตอนเป็นประจำเดือนจริงๆเราจะถือว่าคนไข้
00:37:49 → 00:37:52 เป็นไมเกรนช่วงรอบเดือนก็จะเป็น type นึง
00:37:52 → 00:37:55 นะคะแต่อีกอันนึงก็คือจริงๆไม่ใช่แค่ช่วง
00:37:55 → 00:37:58 รอบเดือนนะอากาศร้อนกลิ่นเสียงอาหารแสงก็
00:37:58 → 00:38:00 กระตุ้นได้แบบนี้เราก็จะเรียกว่าเป็นปวด
00:38:00 → 00:38:03 ไมเกรนแต่ว่าโอเคมีอาการเด่นที่ตอนช่วง
00:38:03 → 00:38:05 รอบเดือนเหมือนกันนะคะความแตกต่างกันยัง
00:38:05 → 00:38:08 ไงคือถ้าเกิดสมมุติว่าเป็นแค่ไมเกรนช่วง
00:38:08 → 00:38:10 รอบเดือนจริงๆอ่ะเราจะเน้นการรักษาหรือ
00:38:10 → 00:38:12 การป้องกันแค่เฉพาะช่วงที่มีฮอร์โมน
00:38:12 → 00:38:14 เปลี่ยนแปลงแต่ถ้าคนไข้มีความไวต่อตัว
00:38:14 → 00:38:17 กระตุ้นอื่นๆด้วยเช่นแสงสีกลิ่นเสียง
00:38:17 → 00:38:18 อาหารอะไรอย่างเงี้ยค่ะอันนั้นก็จะรักษา
00:38:18 → 00:38:21 เหมือนเป็นไมเกรนทั่วไปเลยเพราะว่าเราไม่
00:38:21 → 00:38:23 รู้ว่าคนไข้จะไปเจอแดดร้อนเมื่ออะไหร่จะ
00:38:23 → 00:38:26 เจอตัวกระตุ้นอะไรเมื่อไหร่บ้างนะคะส่วน
00:38:26 → 00:38:28 ใหญ่คนไข้ที่เป็นไมเกรนตอนรอบเดือนจริงๆ
00:38:28 → 00:38:30 อ่ะเขาจะไม่ได้ปวดตอนประจำเดือนมานะเขาจะ
00:38:30 → 00:38:33 ปวดก่อนช่วงที่เอสโตรเจนมันตกอ่ะค่ะก็จะ
00:38:33 → 00:38:36 ปวดก่อนประมาณ 1-2 วันก่อนประจำเดือนมา
00:38:36 → 00:38:38 แล้วก็พอมาแล้วก็อาจจะหายปวดหรือบางคนก็
00:38:38 → 00:38:41 อาจจะปวดต่อไปได้อีก 2-3 วันก็เป็นแบบนี้
00:38:41 → 00:38:45 เลยนะคะเอ่อสำหรับการทานยาพอนสแตนที่เอ่อ
00:38:45 → 00:38:47 บางทีดีขึ้นแล้วก็บางทีไม่ค่อยหายนะคะ
00:38:47 → 00:38:51 เอ่อให้ให้สังเกตว่าเราทานช้าไปหรือเปล่า
00:38:51 → 00:38:53 นะคะเพราะถ้าเกิดเป็นไมเกรนช่วงรอบเดือน
00:38:53 → 00:38:56 จริงๆอ่ะค่ะบางทีเรามีการให้คนไข้กินป้อง
00:38:56 → 00:38:58 กัน 1-2 วันวันก่อนประจำเดือนมาเราให้คน
00:38:58 → 00:39:01 ไข้กินยากลุ่มเอนเสดนี่แหละค่ะกลุ่มพสน
00:39:01 → 00:39:04 นี่แหละนะคะดักไว้ได้เลยนะคะหรือบางทีก็
00:39:04 → 00:39:07 จะใช้เป็นเอ่อยาป้องกันอื่นๆนะคะที่หมอ
00:39:07 → 00:39:10 ชอบใช้บางทีก็อาจจะเป็นพวกแมกนีเซียมนะคะ
00:39:10 → 00:39:12 แมกนีเซียมขนาดที่สูงพอเนี่ยสามารถช่วยลด
00:39:12 → 00:39:14 อาการไมเกรนได้หรือบางทีก็จะใช้เป็นยา
00:39:14 → 00:39:18 ป้องกันเอ่อเช่นพวกฟูนาซีนแคปซูลเทาแดง
00:39:18 → 00:39:19 อะไรเงี้ยค่ะให้คนไข้กินในช่วงที่แบบ
00:39:19 → 00:39:22 ประจำเดือนมานะคะหรือบางทีเราก็จะใช้ยา
00:39:22 → 00:39:25 ใหม่นะคะยาอมใต้ลิ้นอะไรอย่างเงี้ยค่ะกิน
00:39:25 → 00:39:27 ป้องกันไว้ก่อนก็ได้เหมือนกันนะคะแต่ว่า
00:39:28 → 00:39:31 ความเอ่อความสำคัญก็คือให้กินเหมือนป้อง
00:39:31 → 00:39:33 กันก่อนที่จะกำเริบหนักอ่ะค่ะเพราะว่าถ้า
00:39:33 → 00:39:36 เวลาเป็นไมเกรนตอนรอบเดือนไปแล้วบางทีกำ
00:39:36 → 00:39:39 เริ่มหนักๆไปแล้วเนี่ยยาแก้ปวดแค่พอนสแตน
00:39:39 → 00:39:41 ก็คือกลุ่มเอเซตเนี่ยถือว่าเป็นกลุ่ม
00:39:41 → 00:39:43 เอเซตบางทีเอาไม่อยู่ล่ะค่ะอาจจะต้องไป
00:39:43 → 00:39:46 ใช้ยาที่กลุ่มจำเพาะมากขึ้นนะคะอย่างเช่น
00:39:46 → 00:39:49 กลุ่มเออกอตหรือว่ากลุ่มทิปแทนนะคะลองคุณ
00:39:49 → 00:39:52 กดาลองดูนะคะว่าแบบเอ่อถ้ากินพสนไม่หาย
00:39:52 → 00:39:55 อย่างเงี้ยเราไม่ควรซ้ำพสนไปเรื่อยๆแล้ว
00:39:55 → 00:39:57 นะบางคนก็คือกินไปแบบ 1 เมด 2 เม 4 เม็ด
00:39:57 → 00:39:59 อย่างเงี้ยค่ะอันนี้เสี่ยงต่อแบบการกัด
00:39:59 → 00:40:02 กระเพาะมากเกินไปนะคะลองไปใช้ยาที่จำเพาะ
00:40:02 → 00:40:05 กับไมเกรนมากยิ่งขึ้นดูนะคะเพราะว่าตอน
00:40:05 → 00:40:08 เป็นเ่อประจำเดือนเนี่ยไมเกรนของเรานะคะ
00:40:08 → 00:40:12 จะมาหนักกว่าปกตินะคะมาแรงกว่าปกตินะคะ
00:40:12 → 00:40:15 มันจะแบบอ่าคนไข้แมเกนหลายคนจะรู้อ่ะว่า
00:40:15 → 00:40:17 โอเคปวดจากแสงเนี่ยมันจะปวดเลเวลประมาณ
00:40:17 → 00:40:19 นี้แต่ถ้าเกิดตอนประจำเดือนมาเนี่ยส่วน
00:40:19 → 00:40:21 ใหญ่จะเป็นอาการปวดที่ค่อนข้างหนักแล้วก็
00:40:21 → 00:40:24 ค่อนข้างรุนแรงใช้ยาแก้ปวดเยอะกว่าทั่วๆ
00:40:24 → 00:40:27 ไปนะคะทีนี้ถ้าเกิดรู้สึกว่าเป็นแบบนี้
00:40:27 → 00:40:29 นี้ทุกเดือนจริงๆนะคะหมอแนะนำนะลองให้
00:40:29 → 00:40:31 ปรึกษาคุณหมออีกเหมือนกันนะคะเพราะว่าเรา
00:40:31 → 00:40:35 อ่ะสามารถมีวิธีการป้องกันได้นะว่าเราจะ
00:40:35 → 00:40:37 ทำยังไงให้ตอนช่วงรอบเดือนเราไม่จะต้อง
00:40:37 → 00:40:40 แบบมามาอัดยาเยอะๆอ่ะค่ะเพราะบางคนเนี่ย
00:40:40 → 00:40:43 อย่างพอเป็นประจำเดือนเนี่ยปวดไปประมาณ
00:40:43 → 00:40:46 สมมุติว่าปวด 2 วันข้างหน้าแล้วก็ปวดอีก 2
00:40:46 → 00:40:48 วันข้างหลังก็คือ 4 วันน่ะแล้วถ้าเรากิน
00:40:48 → 00:40:52 ยาวันละ 2-3 เม็ดอ่ะค่ะต่อให้เราปวดแค่ 4
00:40:52 → 00:40:54 วันตรงเนี้ยแต่คนไข้มีความเสี่ยงใช้ยาแก้
00:40:54 → 00:40:56 ปวดเกินขนาดได้เหมือนกันใช้ยาป้องกันก็
00:40:56 → 00:40:59 น่าจะดีดีกว่านะคะแล้วก็อีกวิธีนึงนะคะ
00:40:59 → 00:41:02 อ่าอันนี้ถ้ายังไม่ได้มามาๆพบแพทย์อย่าง
00:41:02 → 00:41:04 เงี้ยเวลาเป็นประจำเดือนอย่างเงี้ยค่ะที่
00:41:04 → 00:41:07 ช่วยได้เลยแน่ๆนะคะแล้วก็ช่วยลดอาการช่วง
00:41:07 → 00:41:08 มีประจำเดือนด้วยก็คือเรื่องของการออก
00:41:08 → 00:41:12 กำลังกายนะคะคือพอเรารู้แล้วแหละว่าตอน
00:41:12 → 00:41:14 นั้นน่ะเดี๋ยวมันจะมีอาการก่อนเป็นประจำ
00:41:14 → 00:41:16 เดือนมาแล้วก็กระตุ้นไมเกรนเรานะคะเรา
00:41:16 → 00:41:19 ต้องพยายามแบบเหมือนอ่าออกกำลังกายอย่าง
00:41:19 → 00:41:22 สม่ำเสมอมากขึ้นต้องนอนนอนให้พอนะคะดื่ม
00:41:22 → 00:41:25 น้ำให้พอเพราะขาดน้ำเนี่ยก็ก็กระตุ้น
00:41:25 → 00:41:27 ไมเกรนเหมือนกันนะคะแล้วก็ทานอาหารให้ตรง
00:41:27 → 00:41:30 เวลานะคะคือช่วงเวลาอื่นอาจจะทำไม่ได้แต่
00:41:30 → 00:41:32 ว่าถ้าเป็นช่วงเวลานั้นเนี่ยพยายามทำให้
00:41:32 → 00:41:36 ได้ก็จะลดอาการลงไปได้บางส่วนนะคะสำหรับ
00:41:36 → 00:41:39 วันนี้ก็ขอบคุณมากนะคะที่ดูไลฟ์กันนะคะก็
00:41:39 → 00:41:42 ฝากกดไลค์กดติดตามให้หมอด้วยนะคะสวัสดี
00:41:42 → 00:41:45 ค่ะ