00:00:00 → 00:00:05 บนโซเชียลแชร์ข้อความเกี่ยวกับไข้ทับระดูว่า ไข้ทับระดูมี 2 แบบ
00:00:05 → 00:00:08 คือ ไข้ทับระดูที่ไม่มีสภาวะอื่นแอบแฝง
00:00:08 → 00:00:11 และไข้ทับระดูที่มีสภาวะโรคแอบแฝง
00:00:12 → 00:00:13 หืม! ชัวร์เหรอ ?
00:00:19 → 00:00:22 เรื่องนี้ถ้าจริงก็มีประโยชน์และควรรีบบอกกันครับ
00:00:22 → 00:00:24 แต่ก่อนจะแชร์ต่อต้องเช็กให้ถูกชัวร์
00:00:24 → 00:00:26 ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ สำนักข่าวไทย อสมท
00:00:27 → 00:00:28 สอบถามกับสูตินรีเแพทย์ครับ
00:00:28 → 00:00:32 ไข้ทับระดูมี 2 แบบ คือ ไข้ทับระดู ที่ไม่มีสภาวะอื่นแอบแฝง
00:00:33 → 00:00:37 และไข้ทับระดู ที่มีสภาวะโรคแอบแฝงแบบที่เขาแชร์กันนี้ จริงไหมครับ
00:00:37 → 00:00:39 ข้อความนี้จริงนะครับ
00:00:39 → 00:00:43 เขายังบอกอีกว่า ไข้ทับระดู ที่ไม่มีสภาวะอื่นแอบแฝง
00:00:43 → 00:00:46 จะมีอาการคล้ายไข้หวัดทั่วไป ไม่รุนแรง มีไข้
00:00:46 → 00:00:49 ปวดหัว ตัวร้อนและอ่อนเพลีย เป็นยังไงครับ
00:00:49 → 00:00:52 อาการทั่วไปจะคล้าย ๆ กับเวลาเราเป็นไข้หวัด
00:00:52 → 00:00:54 อาการก็จะมีการมีไข้ก็คือตัวร้อนขึ้น
00:00:54 → 00:00:57 มีการปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว
00:00:57 → 00:01:02 รู้สึกไม่สบายอ่อนเพลียจะนอน อาการเหล่านี้คล้ายกัน
00:01:02 → 00:01:04 เพราะฉะนั้นก็บางทีเราก็จะสังเกตได้เลยว่า
00:01:04 → 00:01:07 อาการถ้ามีเพียงเท่านี้ก็น่าจะเป็นไข้ทับระดูชนิดปกติ
00:01:07 → 00:01:10 ก็คือชนิดที่ไม่ได้มีภาวะแทรกซ้อนอะไร
00:01:10 → 00:01:13 แล้วการรักษาที่เขาบอกว่า ให้กินยาแก้ไข้หวัด
00:01:13 → 00:01:17 ยาแก้ปวดลดไข้ หากมีอาการไข้หวัด นอนหลับพักผ่อนมาก ๆ
00:01:17 → 00:01:21 เปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อย ๆ หรือ เมื่อเริ่มรู้สึกเปียกชื้น
00:01:21 → 00:01:23 รวมถึงรักษาความสะอาดอวัยวะเพศ
00:01:23 → 00:01:25 ช่องคลอด เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
00:01:25 → 00:01:27 หรืออาการเจ็บป่วยอื่น ๆ นี่เป็นยังไงครับ
00:01:28 → 00:01:31 จริง ๆ แล้วเป็นการดูแลทั่ว ๆ ไปเหมือนกับเวลาเราเป็นไข้
00:01:31 → 00:01:33 ก็คือพักผ่อนให้เพียงพอนอนให้หัวค่ำขึ้น
00:01:33 → 00:01:35 แน่นอนเราต้องทานอาหารให้มีประโยชน์
00:01:35 → 00:01:39 แล้วก็แนะนำว่าให้ดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อไม่ให้ร่างกายขาดน้ำ
00:01:39 → 00:01:42 นอกจากนี้การดูแลตัวเองในเรื่องของสุขอนามัย
00:01:42 → 00:01:45 เพราะว่าในช่วงที่มีระดูแน่นอนเรามีเลือดออกมา
00:01:45 → 00:01:48 เปรอะเปี้อนบริเวณช่องคลอดแล้วก็บริเวณอวัยวะเพศ
00:01:48 → 00:01:51 ซึ่งอาจจะเป็นตัวต้นเหตุที่นำไปสู่การติดเชื้อที่รุนแรงตามมา
00:01:52 → 00:01:56 เขายังบอกด้วยว่า ไข้ทับระดูที่มีสภาวะอื่นแอบแฝง
00:01:56 → 00:02:00 จะมีอาการไข้ขึ้นสูง หนาวสั่น ปวดหลัง คลื่นไส้ อาเจียน
00:02:00 → 00:02:03 ปวดท้องน้อย อาจเป็นได้ทั้ง 1 หรือ 2 ข้าง
00:02:03 → 00:02:06 มีตกขาวปนหนองออกมาระหว่างมีประจำเดือน
00:02:06 → 00:02:08 และอาการเจ็บลึก ๆ ขณะมีเพศสัมพันธ์
00:02:09 → 00:02:10 เลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด
00:02:11 → 00:02:14 ประจำเดือนอาจมากผิดปกติและมีกลิ่นเหม็น เป็นยังไงครับ
00:02:14 → 00:02:19 อาการที่เราสังเกตได้คือจะไข้สูง ไข้สูงบางครั้งถึงขั้นหนาวสั่น
00:02:19 → 00:02:22 ไข้ที่เป็นเวลาเราทานยาลดไข้ไข้จะลงเพียงชั่วคราว
00:02:22 → 00:02:24 พอหมดฤทธิ์ยาก็กลับมามีไข้สูงใหม่
00:02:24 → 00:02:27 อาการปวดเมื่อยตามตัวจะเป็นรุนแรงอ่อนเพลียอย่างรุนแรง
00:02:27 → 00:02:31 จะมีอาการปวดที่บริเวณท้องน้อยปวดร้าวไปที่หลัง
00:02:31 → 00:02:33 มีอาการปวดอาจจะรุนแรงไปถึงอุ้งเชิงกราน
00:02:33 → 00:02:36 แล้วก็จะมีลักษณะที่สังเกตได้คือ เลือดประจำเดือน
00:02:36 → 00:02:40 ที่ออกมาจะมีลักษณะที่มีเหมือนกับคล้าย ๆ สีเหลือง ๆ
00:02:40 → 00:02:42 เหมือนเป็นหนองมีกลิ่นเหม็นรุนแรงออกมา
00:02:42 → 00:02:45 แล้วก็ในช่วงนี้อาการหนึ่งที่สังเกตได้ก็คือ
00:02:45 → 00:02:48 หากไปมีเพศสัมพันธ์ในช่วงนี้ซึ่งเราก็ไม่แนะนำอยู่แล้ว
00:02:48 → 00:02:51 จะพบว่ามีอาการเจ็บบริเวณในอุ้งเชิงกราน
00:02:51 → 00:02:53 เจ็บในท้องน้อยอย่างรุนแรงมากนะครับ
00:02:53 → 00:02:58 หากมีอาการรุนแรงของไข้ทับระดู อาจเป็นสัญญาณของโรคที่แอบแฝง
00:02:58 → 00:03:01 เช่น ภาวะอุ้งเชิงกรานอักเสบ คือ ภาวะที่มีการติดเชื้อ
00:03:01 → 00:03:04 ในระบบสืบพันธุ์เพศหญิงส่วนบน คือ บริเวณมดลูก
00:03:04 → 00:03:08 ท่อนำไข่ รังไข่และเยื่อบุช่องท้องในอุ้งเชิงกราน
00:03:08 → 00:03:11 ไข้ทับระดูชนิดที่มีภาวะแอบแฝงอยู่
00:03:11 → 00:03:15 จริง ๆ แล้วในความหมายนั้นก็คือการติดเชื้อในบริเวณอวัยวะสืบพันธุ์ส่วนบน
00:03:15 → 00:03:18 หรือเราเรียกว่า การติดเชื้ออักเสบของอุ้งเชิงกราน
00:03:19 → 00:03:22 ส่วนการรักษา เขาบอกว่า หากมีอาการไข้สูง
00:03:22 → 00:03:26 หรือ มีความผิดปกติบริเวณอวัยวะเพศ ช่องคลอดควรไปพบแพทย์
00:03:26 → 00:03:29 หากมีภาวะอุ้งเชิงกรานอักเสบจากการติดเชื้อ
00:03:29 → 00:03:31 สามารถรักษาได้ด้วยยาปฏิชีวนะ
00:03:32 → 00:03:34 งดมีเพศสัมพันธ์ จนกว่าจะรักษาหายขาด
00:03:35 → 00:03:38 พาคู่นอนไปรักษาด้วย เมื่อหายขาดแล้วจะได้ไม่กลับมาเป็นซ้ำอีก
00:03:39 → 00:03:41 ควรจะรีบไปรับการรักษาจากแพทย์โดยเร็วที่สุด
00:03:41 → 00:03:45 เพราะนี่ถือเป็นการติดเชื้อในอวัยวะสืบพันธุ์ส่วนบนซึ่งเป็นภาวะที่รุนแรง
00:03:45 → 00:03:48 หากไม่ได้ยาปฏิชีวนะหรือการดูแลรักษาที่เหมาะสม
00:03:48 → 00:03:51 การติดเชื้อนี้ก็จะกระจายเข้าไปสู่กระแสเลือด
00:03:51 → 00:03:54 แล้วก็เป็นสาเหตุหนึ่งทำให้เสียชีวิตได้
00:03:54 → 00:03:55 การรักษาเพียงตนเองนั้นไม่เพียงพอ
00:03:55 → 00:04:00 ควรจะนำสามีหรือคู่นอนนะครับหรือผู้ที่เรามีเพศสัมพันธ์ด้วย
00:04:00 → 00:04:03 ไปรับการรักษาด้วยเพราะบ่อยครั้งที่เชื้อนั้น
00:04:03 → 00:04:05 จริง ๆ มีสาเหตุมาจากคู่นอนของเราเอง
00:04:05 → 00:04:10 ดังนั้นสรุปแล้วเรื่องไข้ทับระดูมี 2 แบบ คือไข้ทับระดูที่ไม่มีสภาวะอื่นแอบแฝง
00:04:10 → 00:04:14 และไข้ทับระดูที่มีสภาวะโรคแอบแฝงแบบที่เขาแชร์กันนี้ เป็นยังไงครับ
00:04:14 → 00:04:17 อันนี้เป็นข้อความที่จริงนะครับ แชร์ได้นะครับ
00:04:17 → 00:04:20 หากพบอาการผิดปกติควรรีบพบแพทย์
00:04:20 → 00:04:22 เพื่อจะได้รักษาให้ทันท่วงทีนะครับ
00:04:22 → 00:04:23 พบกับชัวร์ก่อนแชร์ Membership
00:04:24 → 00:04:26 พื้นที่ใหม่ที่ให้คุณเรียนรู้ ตรวจสอบ ถามตอบ
00:04:26 → 00:04:28 สนับสนุนและใกล้ชิดกันมากขึ้น
00:04:28 → 00:04:30 พบกันที่ Youtube ชัวร์ก่อนแชร์นะครับ
00:04:31 → 00:04:33 ยังมีอีกหลายเรื่องน่าสงสัยบนสังคมออนไลน์
00:04:33 → 00:04:35 หากได้รับอะไรมาอย่าเพิ่งแชร์ต่อ
00:04:35 → 00:04:37 ร่วมตรวจสอบไปด้วยกันกับ
00:04:37 → 00:04:38 ชัวร์ก่อนแชร์