00:00:00 → 00:00:02 เอาจริงๆเนี่ยเรื่องไขมันเนี่ยมันไม่ใช่
00:00:02 → 00:00:04 แค่ความอ้วนนะนะครับเพราะว่าไขมันที่อยู่
00:00:04 → 00:00:07 ในร่างกายของคุณเนี่ยมันไม่ใช่อยู่แค่ตาม
00:00:07 → 00:00:10 เหนียงตามคอตามพุงตามหน้าท้องไม่ใช่แต่
00:00:10 → 00:00:13 มันอยู่ในอวัยวะภายในด้วยนะครับการที่คุณ
00:00:13 → 00:00:15 ปล่อยให้ตัวเองอ้วนไปนานๆเนี่ยมันจะทำให้
00:00:15 → 00:00:17 ร่างกายเกิดการอักเสบเยอะบางคนเนี่ยเป็น
00:00:17 → 00:00:20 เส้นเลือดสมองตีบนอนๆอยู่วันรุ่งขึ้นตื่น
00:00:20 → 00:00:22 มาเป็นอัมพาตขยับแขนขาไม่ได้ปากเบี้ยวพูด
00:00:22 → 00:00:25 ไม่ชัดบางคนเนี่ยหัวใจวายฉับพลันนะครับ
00:00:25 → 00:00:27 บางคนปล่อยไว้นานๆเนี่ยเจ้าไขมันพวกนี้
00:00:27 → 00:00:30 เวลาคุณอ้วนเยอะๆเนี่ยความเสี่ยงเการเป็น
00:00:30 → 00:00:32 มะเร็งอ่ะมันเพิ่มขึ้นนะโดยที่คุณน่ะไม่
00:00:32 → 00:00:35 รู้ตัวเลยนะครับเนาะเพราะฉะนั้นสิ่งสำคัญ
00:00:35 → 00:00:37 ที่หมอหนึ่งจะบอกก็คือหมอหนึ่งจะสอนคนที่
00:00:37 → 00:00:39 เป็นนักเรียนของหมอ 1 หรือคนไข้ของหมอ 1
00:00:39 → 00:00:42 ตลอดเลยนะว่าถ้าคุณอยากจะออกจากความอ้วน
00:00:42 → 00:00:45 อยากจะลดน้ำหนักแต่ไม่รู้จะทำยังไงไม่
00:00:45 → 00:00:48 มั่นใจในตัวเองเนี่ยให้เริ่มทำง่ายๆแค่ 3
00:00:48 → 00:00:50 ข้อก่อนก็ได้จริงๆคนที่ลดน้ำหนักไม่
00:00:50 → 00:00:53 สำเร็จส่วนใหญ่เนี่ยมันเกิดจากการที่เค้า
00:00:53 → 00:00:55 เนี่ยคิดว่าลดน้ำหนักต้องทำนู่นทำนี่ทำ
00:00:55 → 00:00:58 นั่นทำเยอะไปหมดเลยทุกอย่างสุดท้ายไม่ได้
00:00:58 → 00:01:00 ทำอะไรแม้แต่อย่างเดียวเลยเพราะมันเยอะไป
00:01:00 → 00:01:03 หมดไม่รู้จะเริ่มอะไรเอาง่ายๆ 3 ข้อนะข้อ
00:01:03 → 00:01:06 ที่ 1 นะครับการที่คุณอ้วนมันไม่ได้อ้วน
00:01:06 → 00:01:09 จากของมันของทอดหรอกมันอ้วนจากน้ำตาล
00:01:09 → 00:01:12 สังเกตเลยสมัยนี้เราเดินไปทางไหนก็จะมี
00:01:12 → 00:01:15 แต่นมน้ำตาล 0% ชานมไข่มุก 0% น้ำตาล
00:01:15 → 00:01:18 เพราะเรู้แล้วว่าตอนเนี้ยอยากผอมเต้องลด
00:01:18 → 00:01:20 น้ำตาลเพราะฉะนั้นไปงดน้ำตาลจากพวก
00:01:20 → 00:01:23 เครื่องดื่มกับขนมให้ได้ทำแค่ข้อ 1 นะ 7
00:01:23 → 00:01:26 วันพุงยุบเลยไม่เชื่อลองทำดูนะครับนะคราว
00:01:27 → 00:01:29 นี้หลายคนก็คิดว่าคุณหมอคะแล้วอะไรบ้าง
00:01:29 → 00:01:31 ล่ะที่ที่มันเป็นเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล
00:01:31 → 00:01:34 นะกาแฟเดี๋ยวนี้ก็ใส่น้ำตาลใส่ครีมเทียม
00:01:34 → 00:01:36 เยอะพวกกาแฟ TE in one ชานมต่างๆ
00:01:36 → 00:01:38 เครื่องดื่มต่างๆโดยเฉพาะพวกน้ำอัดลมบาง
00:01:38 → 00:01:41 คนน่ะกินนนมเปรี้ยวคุณหมอคะชื่อมันนม
00:01:41 → 00:01:43 เปรี้ยวนะคริงๆนมเปรี้ยวก็นมหวานหรืออีก
00:01:43 → 00:01:45 อันนึงที่อันตรายมากแต่หลายคนไม่รู้เลยก็
00:01:45 → 00:01:48 คือพวกน้ำผลไม้กล่องน้ำผลไม้กล่องเนี่ย
00:01:48 → 00:01:51 อันเนี้ยน้ำตาลเยอะมากจริงๆถ้าอยากกิน
00:01:51 → 00:01:54 ผลไม้นะกินผลไม้ไปเลยนะครับเพราะมันมีใย
00:01:54 → 00:01:56 อาหารอยู่ในนั้นด้วยมันจะช่วยชะลอการดูด
00:01:56 → 00:01:58 ซึมน้ำตาลได้แต่ถ้าคุณกินน้ำผลไม้กล่อง
00:01:58 → 00:02:01 พวกเยมีแต่น้ำตาลแต่ยายอาหารมันไม่มีเห็น
00:02:01 → 00:02:03 มั้ยว่าความรู้สำคัญเนาะนะเพราะฉะนั้นงด
00:02:03 → 00:02:07 พวกนี้ไปก่อนกินพวกน้ำเปล่าชาชาดำนะครับ
00:02:07 → 00:02:10 นะกาแฟดำชาไม่มีน้ำตาลพวกเนี้ยนะจะช่วยลด
00:02:10 → 00:02:12 การเอาน้ำตาลเข้าร่างกายคุณได้แล้วคุณก็
00:02:12 → 00:02:14 จะค่อยๆผอมลงเพอร่างกายใช้ไขมันได้มาก
00:02:14 → 00:02:17 ขึ้นเนาะข้อที่ 2 นะอันเนี้ยเกี่ยวกับ
00:02:17 → 00:02:20 เรื่องของอาหารง่ายสุดๆเลยคนไทยเนี่ยติด
00:02:20 → 00:02:24 นิสัยว่ากินข้าวเยอะกินกับน้อยถ้าคุณไม่
00:02:24 → 00:02:26 ได้มีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของไตเสื่อมนะ
00:02:26 → 00:02:29 จริงๆคุณสามารถกินโปรตีนได้จนอิ่มเพราะ
00:02:29 → 00:02:32 ฉะนนั้นถ้าอยากจะอิ่มอยากลดน้ำหนักได้ไม่
00:02:32 → 00:02:36 อยากตะบะแตกนะครับคุณต้องกินกับให้เยอะ
00:02:36 → 00:02:38 กินข้าวน้อยหน่อยพูดง่ายๆวันแรกๆถ้า
00:02:38 → 00:02:40 สมมุติว่าหมอหนึ่งลดน้ำหนักแล้วหมอหนึไป
00:02:40 → 00:02:42 สั่งกะเพราบอหนึ่งก็บอกว่าเอาข้าวกะเพรา
00:02:42 → 00:02:47 หมูสับใส่ไข่ดาวก็ได้นะแต่ขอพิเศษหมูสับ
00:02:47 → 00:02:49 หมูเยอะข้าวน้อยวันแรกๆคุณจะไม่ชินหรอก
00:02:49 → 00:02:51 เพราะไม่ค้าจะตักข้าวให้คุณเยอะมากนะครับ
00:02:51 → 00:02:54 แต่ข้าวเหลือช่างมันคุณจะเริ่มรู้ว่า
00:02:54 → 00:02:56 เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณกินกับอิ่มแล้วข้าว
00:02:56 → 00:02:58 ปริมาณเท่าไหร่ถึงเหมาะสมที่ครั้งหน้าบอก
00:02:58 → 00:03:01 แม่คะแม่คะคะเอาข้าวออกไปครึ่งนึงเลยนะ
00:03:01 → 00:03:03 เพราะว่าเสียดายกินไม่หมดเห็นภาพเนาะนะ
00:03:03 → 00:03:05 ครับแล้วก็อาจจะกินพวกผักร่วมด้วยมันจะทำ
00:03:05 → 00:03:08 ให้คุณน่ะอิ่มเร็วและเวลากินอย่ากินจน
00:03:08 → 00:03:11 อิ่มจัดนะปกติแล้วเวลาคุณกินเนี่ยถ้าอิ่ม
00:03:11 → 00:03:14 สักประมาณ 80% แล้วเนี่ยพักสัก 15 นาที
00:03:14 → 00:03:16 เดี๋ยวร่างกายมันจะส่งสัญญาณไปบอกสมองว่า
00:03:16 → 00:03:19 อิ่มแต่ถ้าคุณกินตะบี้ตะบันกินไปเลย
00:03:19 → 00:03:22 เรื่อยๆๆๆโดยที่รู้สึกอิ่ม 80% แล้วก็ยัง
00:03:22 → 00:03:24 ไม่หยุดเนี่ยมีโอกาสที่คุณจะได้แป้งเกิน
00:03:24 → 00:03:27 ได้นะโอเคมยนะครับ 2 ข้อแล้วเนาะนะข้อที่
00:03:27 → 00:03:30 3 พยายามกลับไปกินเหมือนคนที่เป็นคนยุค
00:03:30 → 00:03:33 หินคนยุคโบราณคนยุคโบราณเนี่ยเค้าไม่มี
00:03:33 → 00:03:36 ตู้เย็นเ้าไม่มีไรเดอร์ส่งอาหารยามค่ำคืน
00:03:36 → 00:03:40 นะถ้ากินแบบยุคโบราณได้คือพระอาทิตย์ขึ้น
00:03:40 → 00:03:42 กินพระอาทิตย์ตกดินหยุดกินแต่จริงๆแล้ว
00:03:42 → 00:03:46 สมัยนี้เราก็อนุโลมได้นะครับนะก็อาจจะ 19
00:03:46 → 00:03:48 นเนี่ยควรจะหยุดกินได้แล้วในกรณีที่เราทำ
00:03:48 → 00:03:50 งานค่อนข้างเป็นเวลาเนาะโอเคมั้ยใครที่ทำ
00:03:50 → 00:03:52 งานเป็นกะไม่เป็นเวลาก็จะมีเทคนิคต่างๆ
00:03:52 → 00:03:54 ที่หมอหนึงเคยพูดไว้ก็ค่อยไปดูย้อนหลัง
00:03:54 → 00:03:57 แต่ถ้าสมมุติเราเป็นคนที่ตื่นนอนกินนอน
00:03:57 → 00:04:00 เป็นเวลาเนี่ยดีที่สุดคือพยายามให้มื้อ
00:04:00 → 00:04:02 อาหารของเราอยู่ในช่วงที่พระอาทิตย์ขึ้น
00:04:02 → 00:04:04 มากที่สุดเพราะอะไรหลังพระอาทิตย์ตกดินไป
00:04:04 → 00:04:06 แล้วเราไม่ค่อยได้ใช้พลังงานจากอะไรเท่า
00:04:06 → 00:04:08 ไหร่หรอกนะครับเราจะได้มีช่วงเวลาที่เอา
00:04:08 → 00:04:11 ไขมันสะสมมาใช้บ้างลองเอาไปปรับใช้ดูนะ
00:04:11 → 00:04:13 หมอหนึ่งจะสอนนักเรียนสอนคนไข้แบบนี้ตลอด
00:04:13 → 00:04:15 นะครับแล้วลองดูว่า 1 อาทิตย์ร่างกาย
00:04:15 → 00:04:19 เปลี่ยนแปลงยังไงก็มาอัปเดตกันนะครับ