00:00:00 → 00:00:03 สวัสดีครับผมเชื่อว่าหลายๆคนคงจะเคยได้
00:00:03 → 00:00:05 ยินเรื่องของปากกาลดน้ำหนักนะครับวันนี้
00:00:05 → 00:00:07 ผมก็เลยอยากจะมาเล่าว่าเอ๊ะปากกาลดน้ำ
00:00:07 → 00:00:10 หนักเนี่ยมันคืออะไรมันทำงานอย่างไรมี
00:00:10 → 00:00:13 ปัญหาอะไรมที่เราจะต้องระวังนะครับแล้ว
00:00:13 → 00:00:16 ราคามันแค่ไหนนะครับเราใช้ไปแล้วมันจะได้
00:00:16 → 00:00:19 ผลแค่ไหนนะครับก็เดี๋ยวจะมาเล่าให้ฟังนะ
00:00:19 → 00:00:21 ครับพบกับผมนะครับนายแพทย์ธนีธนียวันนะ
00:00:21 → 00:00:23 ครับเป็นอาจารย์แพทย์อยู่ที่ประเทศสหรัฐ
00:00:23 → 00:00:25 อเมริกานะครับเชี่ยวชาญโรคปอดการปลูกถ่าย
00:00:25 → 00:00:28 ปอดและวิกฤตบำบัดนะครับก่อนอื่นเลยนะครับ
00:00:28 → 00:00:31 ปากกาลดน้ำหนักเนี่จริงๆมันเป็นยาที่ใช้
00:00:31 → 00:00:33 ในเบาหวานนะครับมันไม่ใช่เป็นปากกาที่เรา
00:00:33 → 00:00:35 เอามาเขียนนะครับปากกาเนี่ยมันก็จะมีตัว
00:00:35 → 00:00:38 ยาอยู่ในนั้นแล้วก็จะมีเข็มให้เราเอาไป
00:00:38 → 00:00:40 ฉีดเองที่บ้านนะครับอ่าอันนี้มันไม่ใช่
00:00:40 → 00:00:43 เป็นปากกาปกตินะครับไม่ใช่ว่าเราถือปากกา
00:00:43 → 00:00:45 แล้วโอ้ยน้ำหนักเรามันลดลงมาไม่ใช่นะครับ
00:00:45 → 00:00:48 มันเป็นยาฉีดนะครับทีนี้ไอ้ยาฉีดตัวนี้
00:00:49 → 00:00:52 เนี่ยมันเป็นยาที่อยู่ในกลุ่มที่เรียกที่
00:00:52 → 00:00:55 เราเรียกว่ากลู caron Like peptide 1
00:00:55 → 00:00:57 นะครับมันเป็นยาอยู่ในกลุ่มที่เรียกว่า
00:00:57 → 00:01:00 gluon Light peptide 1 หรือ GL P1
00:01:00 → 00:01:02 นั่นเองนะครับตัวนี้นี่มันเป็นสารชนิด
00:01:02 → 00:01:05 หนึ่งในร่างกายนั่นแหละครับมันมีหน้าที่
00:01:05 → 00:01:07 หลากหลายนะครับแต่หลักๆของมันก็คือทำให้
00:01:07 → 00:01:11 เราอิ่มนะครับมันไปออกฤทธิ์ในการหลั่ง
00:01:11 → 00:01:15 อินซูลินในร่างกายถ้าเกิดว่าเรามีการรับ
00:01:15 → 00:01:17 ประทานน้ำตาลเข้าไปมันก็จะทำให้ฮอร์โมน
00:01:17 → 00:01:19 ตัวเนี้ยหลั่งได้ดีขึ้นดังนั้นเเลยจะใช้
00:01:19 → 00:01:22 ในกรณีที่เป็นเบาหวานนะครับมันยังไปยับ
00:01:22 → 00:01:25 ยั้งการหลั่งฮอร์โมนชื่อว่ากลูคากอนนะ
00:01:25 → 00:01:27 ครับเพราะว่าการที่เรามีลูคาริโอๆเนี่ย
00:01:27 → 00:01:30 มันจะทำให้น้ำตาลในเลือดของเราสูงขึ้นนะ
00:01:30 → 00:01:33 ครับยาตัวนี้มันก็จะไปยับยั้งการหลั่งของ
00:01:33 → 00:01:36 กลูคากอนนะครับนอกเหนือจากนี้มันยังส่งผล
00:01:36 → 00:01:38 ต่อฮอร์โมนซึ่งเกี่ยวข้องกับความอิ่มของ
00:01:38 → 00:01:42 สมองนะครับแล้วทำให้การเคลื่อนตัวของทาง
00:01:42 → 00:01:44 เรินอาหารของเรานะครับการบีบตัวของ
00:01:44 → 00:01:47 กระเพาะลำไส้ของเรามันช้าลงนะครับบีบตัว
00:01:47 → 00:01:49 ช้าลงมันก็เลยทำให้เรารู้สึกอิ่มง่ายทำ
00:01:49 → 00:01:52 ให้เรารู้สึกอืดขึ้นมานะครับมันก็เป็น
00:01:52 → 00:01:55 กลไกในการทำงานของมันอย่างหนึ่งนะครับนอก
00:01:55 → 00:01:58 เหนือจากนี้มันยังไปทำให้เซลล์ตับอ่อน
00:01:58 → 00:02:00 ซึ่งเรียกว่าเบต้าเซลล์นะนะครับเซลล์ตัว
00:02:00 → 00:02:02 นี้เนี่ยมีหน้าที่ในการหลั่งอินซูลินนะ
00:02:02 → 00:02:04 ครับมันจะทำให้เซลล์เหล่านี้แบ่งตัวเพิ่ม
00:02:04 → 00:02:07 ขึ้นนะครับแล้วก็เจริญเติบโตได้ดีขึ้นนะ
00:02:07 → 00:02:10 ฮะนี่ก็เป็นหน้าที่คร่าวๆของฮอร์โมนที่
00:02:10 → 00:02:13 เรียกว่า glp 1 นั่นเองนะครับแล้วยาที่
00:02:13 → 00:02:16 เราใช้เนี่ยก็จะไปเลียนแบบไอ้ glp 1 ตัว
00:02:16 → 00:02:19 นี้แครับยามีทั้งหมด 2 อย่างด้วยกันนะ
00:02:19 → 00:02:23 ครับยาตัวแรกก็คือยาชื่อว่า lir glut นะ
00:02:23 → 00:02:27 ครับมันจะมีอาจจะมีชื่อการค้าตตัวอื่นๆนะ
00:02:27 → 00:02:29 ครับเช่นอ่า saxenda นะครับที่รู้สึกว่า
00:02:29 → 00:02:32 ที่เมืองไทยจะเป็น senda นะครับแต่จริงๆ
00:02:32 → 00:02:35 ก็คือชื่อ lera glai นะครับตัวนี้เนี่ย
00:02:35 → 00:02:39 มันเป็นยาฉีดที่ต้องฉีดทุกวันนะครับฉีด
00:02:39 → 00:02:41 ทุกวันนะครับจะมีการค่อยๆเพิ่มขนาดยาไป
00:02:41 → 00:02:45 เรื่อยๆจนกระทั่งเราสามารถที่จะใช้ยาขนาด
00:02:45 → 00:02:48 สูงที่สุดแล้วก็ดูประโยชน์ของมันนะครับยา
00:02:48 → 00:02:50 อีกตัวนึงซึ่งผมไม่แน่ใจว่าที่ประเทศไทย
00:02:50 → 00:02:53 มีหรือเปล่านะครับตัวนี้ชื่อ zim glut
00:02:53 → 00:02:56 นะครับหรือถ้าเป็นยี่ห้อก็อาจจะยี่ห้อ
00:02:56 → 00:02:59 โซมินะครับอ่าตัวเนี้ยตัวนี้เป็นยาฉีด
00:02:59 → 00:03:01 เหมือนเหมือนกันนะครับแต่ว่าจะฉีดทุก
00:03:01 → 00:03:04 อาทิตย์นะครับอาทิตย์ละ 1 ครั้งนะครับไม่
00:03:04 → 00:03:06 ใช่ฉีดทุกวันเหมือนกับตัวแรกนะครับตัวนี้
00:03:06 → 00:03:10 จะฉีดอาทิตย์ละ 1 ครั้งนะครับมันได้ผลแค่
00:03:10 → 00:03:14 ไหนนะครับแล้วมันได้ผลได้ยังไงนะครับยา
00:03:14 → 00:03:17 เหล่านี้เนี่ยมันออกผลให้ทำให้เรามีความ
00:03:17 → 00:03:20 รู้สึกอิ่มทำให้เรารู้สึกท้องอืดไม่อยาก
00:03:20 → 00:03:23 อาหารนะครับนี่คือกลไกการทำงานหลักๆของ
00:03:24 → 00:03:26 มันเลยนะครับพูดง่ายๆก็คือถ้าเกิดว่าเรา
00:03:26 → 00:03:29 ไม่อยากจะเสียตังค์ซื้อไอ้ยาไอ้ตัวปากกา
00:03:29 → 00:03:31 ลดน้ำหนักมาใช้เนี่ยถ้าเราสามารถควบคุม
00:03:31 → 00:03:34 การกินของเราได้น้ำหนักเรามันก็ลดนะครับ
00:03:34 → 00:03:38 มันไม่ใช่ยาไปเร่งเบอิของร่างกายทำให้โอ
00:03:38 → 00:03:40 มีการเผาผลาญแคลอรี่หรืออะไรก็แล้วแต่นะ
00:03:40 → 00:03:42 ครับมันไม่ใช่ทำงานแบบนั้นนะครับแต่มันไป
00:03:42 → 00:03:45 ลดความอยากอาหารของเราทำให้เรารู้สึกท้อง
00:03:45 → 00:03:47 อืดนะครับไม่อยากกินอาหารนั่นเองนั่นคือ
00:03:47 → 00:03:52 กลไกการทำงานของยากลุ่มนี้นะครับทีนี้มัน
00:03:53 → 00:03:56 มีอะไรบ้างที่ถ้าเราจะใช้ยากลุ่มเนี้ยเรา
00:03:56 → 00:03:59 จะต้องระวังนะครับอ่าข้อแรกมันเป็นยาที่
00:03:59 → 00:04:01 ใช้ในคนที่เป็นโรคเบาหวานมาก่อนดังนั้น
00:04:01 → 00:04:04 มันจำเป็นจะต้องถ้าคนที่มีโรคเบาหวานนะ
00:04:04 → 00:04:06 ครับแล้วใช้ยาตัวเนี้ยร่วมกับยาเบาหวาน
00:04:06 → 00:04:09 ตัวอื่นๆมันอาจจะทำให้น้ำตาลของท่านต่ำจน
00:04:09 → 00:04:11 เกินเหตุได้นะครับดังนั้นก็จะต้องระวังใน
00:04:11 → 00:04:14 ส่วนนี้นะครับแต่ในคนทั่วๆไปโอกาสที่จะ
00:04:14 → 00:04:17 น้ำตาลต่ำเนี่ยมันเป็นไปได้น้อยมากดัง
00:04:17 → 00:04:19 นั้นตรงนี้ไม่จำเป็นจะต้องไปกังวลอะไรมัน
00:04:19 → 00:04:22 มากนะครับอ่านี่คือประการแรกนะครับที่เรา
00:04:22 → 00:04:25 ต้องทราบนะครับผลข้างเคียงที่จะเจอได้นะ
00:04:25 → 00:04:28 ครับแน่นอนมันก็มีอาการท้องอืดนะครับบาง
00:04:28 → 00:04:31 คนมีอาการคลื่นไส้อาเจียนโดยเฉพาะถ้าเรา
00:04:31 → 00:04:33 เริ่มใช้ใหม่ๆนะครับดังนั้นเวลาที่หมอใจ
00:04:33 → 00:04:36 ยากลุ่มนี้เนี่ยก็จะต้องให้ขนาดน้อยๆก่อน
00:04:36 → 00:04:38 แล้วก็รอดูอาการนะครับบางคนมีอาการท้อง
00:04:38 → 00:04:41 เสียส่วนบางคนมีอาการท้องผูกนะครับจะไม่
00:04:41 → 00:04:44 เหมือนกันนะฮะบางคนจะมีอาการปวดหัวมี
00:04:44 → 00:04:47 อาการเจ็บบริเวณที่ฉีดได้นะครับมีอาการใจ
00:04:47 → 00:04:50 สั่นได้นะครับมีความดันที่อาจจะตกก็ได้นะ
00:04:50 → 00:04:52 ครับในบางคนไม่ได้เป็นทุกคนนะครับแล้ว
00:04:52 → 00:04:54 โอกาสเจอพวกเนี้ยน้อยนะครับนี่คือเป็น
00:04:54 → 00:04:56 สิ่งที่เ่อเราจะต้องระวังนะครับสิ่งที่
00:04:56 → 00:04:58 เราเจอชัดๆเลยก็คือเรื่องของคลื่นไส้
00:04:58 → 00:05:01 อาเจียนนะครับแล้วก็อาการทางระบบทางเดิน
00:05:01 → 00:05:03 อาหารซึ่งเราจะต้องเตือนก่อนนะครับเพราะ
00:05:03 → 00:05:06 หลายๆคนเจอนะครับแต่ส่วนมากแล้วมันก็จะดี
00:05:06 → 00:05:09 ขึ้นตามระยะเวลานะครับมันจะค่อยๆดีขึ้น
00:05:09 → 00:05:12 เองนะฮะอันนี้ก็เป็นสิ่งนึงซึ่งเราเอามา
00:05:12 → 00:05:16 เพื่อบอกไว้ใช้นะครับอ่าทีนี้ยาเหล่านี้
00:05:17 → 00:05:20 เนี่ยนะครับมันก็ทำให้เราน้ำหนักลงได้นะ
00:05:20 → 00:05:22 ฮะอาจจะถึงประมาณ 4-5 กลใน 1 เดือนเลย
00:05:22 → 00:05:25 ด้วยซ้ำไปนะครับแล้วแต่ว่าใครที่อ่าใช้
00:05:25 → 00:05:28 แล้วได้ผลมากแค่ไหนนะครับส่วนใหญ่ตรงนี้
00:05:28 → 00:05:31 ก็จะเป็นสิ่งหนึ่งนะแต่สิ่งข้อควรระวัง
00:05:31 → 00:05:33 เลยก็คือมันจะมีบางอย่างที่เราไม่สามารถ
00:05:33 → 00:05:37 ใช้ยากลุ่มนี้ได้โดยเด็ดขาดนะครับคืออะไร
00:05:37 → 00:05:40 บ้างนะคนที่มีประวัติเป็นมะเร็งไทรรอยด์
00:05:40 → 00:05:43 นะครับหรือเป็นมะเร็งไทรรอยด์ในครอบครัว
00:05:43 → 00:05:45 นะครับกลุ่มเนี้ยไม่ควรใช้มะเร็งไทรรอยด์
00:05:45 → 00:05:48 จะต้องเป็นชนิดที่เรียกว่าเป็น medal
00:05:48 → 00:05:51 thyroid carcinoma medal thyroid
00:05:51 → 00:05:54 carcinoma นะครับหรือซล carcinoma นั่น
00:05:54 → 00:05:56 เองนะครับมันเป็นมะเร็งไทรรอยด์ชนิดหนึ่ง
00:05:56 → 00:05:59 นะครับคือไม่ใช่มะเร็งไทรรอยด์ทุกกชนิด
00:05:59 → 00:06:01 ไม่สามารถใช้มันได้นะครับเเรนไทรอยดชนิด
00:06:01 → 00:06:03 อื่นเช่นอ่า papillary thyroid
00:06:03 → 00:06:05 carcinoma หรือจะเป็น follicular
00:06:05 → 00:06:07 thyroid carcinoma นะครับพวกนี้ไม่
00:06:07 → 00:06:10 เกี่ยวอะไรกับยานี้นะครับยานี้มีปัญหากับ
00:06:10 → 00:06:14 แค่ medal thyroid carcinoma ซึ่งที่มา
00:06:14 → 00:06:16 ที่ไปมันมาจากไหนนะครับมันมาจากการที่เรา
00:06:16 → 00:06:19 ใช้ยากลุ่มเนี้ยในหนูทดลองแล้วพบว่าหนู
00:06:19 → 00:06:22 เนี่ยกลุ่มนึงมันมีมะเร็งไทรรอยด์ชนิด
00:06:22 → 00:06:25 medal thyroid carcinoma เพิ่มขึ้นนะ
00:06:25 → 00:06:27 ครับก็ไม่มีใครอยากจะเอามาเสี่ยงในคนนะ
00:06:27 → 00:06:30 ครับดังนั้นก็เลยเป็นที่มาของขห้ามข้อนี้
00:06:30 → 00:06:32 นะครับไอ้ medal thyroid carcinoma
00:06:32 → 00:06:35 เนี่ยนะครับมันก็เป็นมะเร็งซึ่งเราเจอได้
00:06:35 → 00:06:37 ในโรคบางโรคโดยเฉพาะโรคที่ถ่ายทอดทาง
00:06:37 → 00:06:40 พันธุกรรมนะครับเอ่ออันนี้คุณหมอหลายๆคน
00:06:41 → 00:06:42 เขาอาจจะไม่ได้เตือนท่านแต่ว่าผมจะเตือน
00:06:43 → 00:06:45 ท่านไว้เลยนะครับมันอาจจะเป็นภาษาทางการ
00:06:45 → 00:06:47 แพทย์ไปหน่อยนะครับแต่ว่าผมคิดว่าท่านรู้
00:06:47 → 00:06:49 ไว้ดีกว่าไม่รู้นะครับแล้วส่วนถ้าท่านจำ
00:06:49 → 00:06:52 ไม่ได้ไม่เป็นไรนะครับผมพูดเล่นๆนะครับ
00:06:52 → 00:06:55 มันจะเป็นโรคกลุ่มที่เรียกว่า multiple
00:06:55 → 00:06:57 endocrine
00:06:57 → 00:07:01 neoplasia type 2 นะครับหรือ Men Men
00:07:01 → 00:07:02 Syndrome type 2 นะครับ multiple
00:07:03 → 00:07:05 endocrine neer Syndrome type 2 นะ
00:07:05 → 00:07:08 ครับคือชนิดที่ 2 นะครับไอ้นี่มันคืออะไร
00:07:08 → 00:07:10 นะครับเอ่อในทางการแพทย์เราก็จะต้องมา
00:07:10 → 00:07:12 นั่งท่องว่ามันมีอะไรบ้างนะครับมันจะแบ่ง
00:07:12 → 00:07:16 เป็น Men 2 a กับ Men 2 B นะครับอ่า
00:07:16 → 00:07:19 คือ Men 2a นี่ก็จะต้องมี Metal ไทรอย
00:07:19 → 00:07:22 carcinoma อ่ะมีมะเร็งไทรอยด์ละนะครับมี
00:07:22 → 00:07:25 ต่อมพาราไทรอยด์ทำงานมากจนเกินไปหรือต่อม
00:07:25 → 00:07:27 พาราไทรอยด์เป็นพิษนะครับไม่ใช่ต่อม
00:07:27 → 00:07:29 ไทรรอยด์นะครับต่อมพาราไทรรอยด์นะครับ
00:07:29 → 00:07:32 ซึ่งมันเป็นต่อมเล็กๆนะฮะไทรรอยเราจะอยู่
00:07:32 → 00:07:34 ตรงบริเวณคอลักษณะมันเหมือนเป็นผีเสื้อนะ
00:07:34 → 00:07:37 ครับแล้วตรงปีกผีเสื้อปีกผีเสื้อมันจะมี
00:07:37 → 00:07:40 ข้างหน้ากับข้างหลังถูกมั้ยครับอ่าข้าง
00:07:40 → 00:07:41 หน้าเนี่ยจะมีต่อมเล็กๆอยู่ 2 อันแล้วก็
00:07:41 → 00:07:43 ข้างหลังจะมีต่อมเล็กๆอีก 2 อันที่แปะ
00:07:43 → 00:07:45 อยู่ไอ้ต่อมพวกเนี้ยเราเรียกว่าพาไทรอยด์
00:07:46 → 00:07:47 นะครับต่อมพาราไทรรอยด์มีอยู่ 4 ต่อมนะ
00:07:47 → 00:07:50 ครับอยู่ตรงเนี้ยนะครับตรงคอถ้าต่อมพารา
00:07:50 → 00:07:52 ไทรรอยด์มันทำงานผิดปกติเราจะเรียกว่า
00:07:52 → 00:07:57 ไฮเปอร par thyroidism นะครับอ่ะ Men 2a
00:07:57 → 00:08:00 ก็จะต้องมีปัญหาเรื่อง med thyroid
00:08:01 → 00:08:03 carcinoma มี hyperparathyroid นะครับ
00:08:03 → 00:08:06 ที่เข้ามาเกี่ยวข้องนะครับตรงเนี้ยเป็น
00:08:06 → 00:08:09 หลักๆเลยนะครับแล้วก็มีอีกอย่างนึงซึ่ง
00:08:09 → 00:08:12 เราจะเจอก็คือเป็นมะเร็งชนิดหนึ่งของอ่า
00:08:12 → 00:08:16 ตัวต่อมหมวกไตเรียกว่าฟีโอโมไซนะครับตัว
00:08:16 → 00:08:18 นี้มะเร็งชนิดนี้มันจะทำให้ท่านมีความ
00:08:18 → 00:08:21 ดลหิตสูงแบบมหาศาลมากมายบางคนอาจจะมี
00:08:21 → 00:08:25 อาการเอ่อปวดหัวแบบรุนแรงเรื้อรังนะครับ
00:08:25 → 00:08:29 หรือบางคนมีโรคแปลกๆที่ปัสสาวะแล้วเป็นล
00:08:29 → 00:08:31 ไปเลยนะครับอ่าอันนี้ก็จะมีบางคนเป็น
00:08:31 → 00:08:33 อย่างนั้นนะครับจะเรียกว่าเป็น mixtures
00:08:33 → 00:08:36 Sync นะครับ murat แปลว่าปัสสาวะนะครับ
00:08:36 → 00:08:40 incopy แปลว่าการเ่าสูญเสียสติสัมปชัญญะ
00:08:40 → 00:08:42 แล้วก็หมดสติไปนะครับอ่าอันนี้ก็แต่ว่า
00:08:42 → 00:08:44 รายละเอียดไม่พูดกันแล้วกันนะครับเดี๋ยว
00:08:44 → 00:08:46 จะเข้าใจยากไปก่อนนี้นะครับดังนั้น Men
00:08:46 → 00:08:49 2a ก็คือมี met thyroid carcinoma นะ
00:08:49 → 00:08:51 ครับมี Hyper par thyroid หรือพรอยทำ
00:08:51 → 00:08:55 งานมากผิดปกตินะครับแล้วก็มีประวัติว่าเอ
00:08:55 → 00:08:57 หรือกำลังเป็นอยู่นะครับเรื่องของฟีโอ
00:08:57 → 00:09:01 โมไซนะครับนี่คือเมน 2a Men 2B คล้ายๆ
00:09:01 → 00:09:05 กันนะครับแต่ว่า Men 2B เนี่ย 1 มันจะมี
00:09:05 → 00:09:07 Metal thyroid carcinoma นะครับมเร็ง
00:09:07 → 00:09:11 ไทรอยด์ชนิด Metal นะครับอันที่ 2 มีโมไซ
00:09:11 → 00:09:15 ได้อันที่ 3 มันจะไม่มี Hyper พรอยแต่มัน
00:09:15 → 00:09:18 จะมีชนิดอื่นขึ้นมาคืออะไรบ้างนะครับก็
00:09:18 → 00:09:20 คือเป็นคำว่า mucosal neuroma นะครับ
00:09:20 → 00:09:22 neuroma เป็นเนื้องอกของระบบประสาทชนิด
00:09:22 → 00:09:25 หนึ่งนะครับมันจะเป็นตุ่มๆขึ้นมาโคอก็มัก
00:09:25 → 00:09:28 จะเป็นที่อ่าเนื้อเยื่อบุนะครับโดยเฉพาะ
00:09:28 → 00:09:30 ในริมฝีปากแล้วแล้วก็ในลิ้นเนี่ยจะเป็น
00:09:30 → 00:09:33 ตุ่มๆขึ้นมานะฮะท่านไปหา Google ดูได้ว่า
00:09:33 → 00:09:35 หน้าตามันเป็นยังไงนะครับคือ mucosal
00:09:35 → 00:09:38 neuroma นะครับแล้วก็มีพวกเนี่ย neuroma
00:09:38 → 00:09:40 หรือแงก noma คือแกงเกลี่ยนก็คือเป็นปม
00:09:40 → 00:09:42 ประสาทแล้วมันเป็นตุ่มอะไรพวกนี้ขึ้นมา
00:09:43 → 00:09:46 เจอในทางเดินอาหารนะครับ intestinal goma
00:09:46 → 00:09:48 นะครับอ่าเราเจอได้นะครับเอ่อกลุ่มพวกนี้
00:09:49 → 00:09:52 ก็จะมีอันนึงซึ่งมี corneal nerve
00:09:52 → 00:09:56 corneal ก็คือเป็นจอเอ้ยเป็นเป็นกระจกตา
00:09:56 → 00:09:58 นะครับมันจะมีเส้นประสาทตรงนั้นแต่ว่า
00:09:58 → 00:10:00 เส้นประสาทนี้มันจะมีความปิดปกติอย่างนึง
00:10:00 → 00:10:01 ซึ่งเรียกเรียกว่าเป็น
00:10:01 → 00:10:04 marinated นะครับ marinated corneal
00:10:04 → 00:10:06 nerve นะครับ myin ก็คือเป็นตัวปลอก
00:10:06 → 00:10:09 ประสาทะกันนะมันเป็นปลอกเยี่ยวหุ้มไอ้
00:10:09 → 00:10:12 ปลอกเนี่ยปกติมันจะไม่ควรมีที่ Coral
00:10:12 → 00:10:14 nerve มันก็ดันมามีนะครับทำให้สายตามัน
00:10:14 → 00:10:17 มีปัญหาเรื่องจอตามันมีปัญหาได้นะครับพวก
00:10:17 → 00:10:20 นี้นะครับแล้วในคนที่เป็น Men tob เนี่ย
00:10:20 → 00:10:22 ในทางการแพทย์นะครับอันนี้ผมเสริมให้นิด
00:10:22 → 00:10:25 นึงถ้าเป็นคนเป็นแพทย์เข้ามาฟังนะครับเ
00:10:25 → 00:10:27 ไอ้พวกเยมันจะมีคำว่า marhen habitus นะ
00:10:27 → 00:10:30 ครับคือลักษณะของเขาเนี่ยเหมือนมาแฟนนะ
00:10:30 → 00:10:34 ครับแแฟนเนี่ยก็คือจะเป็นคนที่เอ่อลักษณะ
00:10:34 → 00:10:37 สูงๆตัวสูงยาวๆนะครับแล้วก็มือเนี่ยจะ
00:10:37 → 00:10:40 ใหญ่นิ้วจะยาวๆนิ้วจะแบบเอ่อถ้าเราเอา
00:10:41 → 00:10:43 นิ้วก้อยกับนิ้วโป้งนะครับ
00:10:43 → 00:10:48 มามาเนี่ยทำให้มันมาติดกันนะครับในคนที่
00:10:48 → 00:10:51 มันมาแฟนนะครับเอ่อมันจะไม่ใช่แค่ติดกัน
00:10:51 → 00:10:53 ได้แค่เยนะครับคือนิ้วมันจะยาวจนกระทั่ง
00:10:53 → 00:10:55 แบบมันสามารถเอามาซ้อนกันได้แบบเนี้ยนะ
00:10:55 → 00:10:59 ครับที่ข้อมือนะฮะแล้วก็แต่แต่คนพวกนี้
00:10:59 → 00:11:01 ไม่ใช่ marfan นะครับเ้าเป็น Men To Be
00:11:01 → 00:11:03 ก็คือเป็นลักษณะ marfil habitus ก็คือมี
00:11:03 → 00:11:06 ลักษณะคล้าย marfan คือตัวสูงแล้วก็มี
00:11:06 → 00:11:08 นิ้วมยาวๆอะไรพวกเนี้ยแล้วก็จะมีหลังคด
00:11:08 → 00:11:12 คือเรียกว่า kyphoscoliosis นะครับมีอ่า
00:11:12 → 00:11:14 สัดส่วนของตัวช่วงบนนะครับก็คือตั้งตั้ง
00:11:14 → 00:11:17 แต่หัวจนถึงหัวแนวแล้วก็เมื่อเทียบกับหัว
00:11:17 → 00:11:21 แนวจนถึงปลายเท้าเนี่ยตัวจะสั้นๆขายจะยาว
00:11:21 → 00:11:24 ๆนะครับในคนพวกที่เป็นเม 2B พวกเนะฮะแต่
00:11:24 → 00:11:26 ก็มีลักษณะอื่นๆอีกเยอะแยะไปหมดนะครับแต่
00:11:26 → 00:11:30 ว่าเราไม่พูดถึงแล้วกันนะครับคนพวกนี้มัก
00:11:30 → 00:11:32 จะมีลักษณะอะไรที่ผิดปกติตั้งแต่แรกนะ
00:11:32 → 00:11:34 ครับแล้วก็มักจะมีประวัติครอบครัวรวมทั้ง
00:11:34 → 00:11:37 บางคนเนี่ยถ้าไม่มีประวัติครอบครัวก็มัก
00:11:37 → 00:11:39 จะเป็นมะเร็งบางอย่างชนิดตั้งแต่อายุน้อย
00:11:39 → 00:11:42 ๆน้อยกว่า 35 ปีนะครับดังนั้นในคนกลุ่ม
00:11:42 → 00:11:45 ที่เป็น Men 2 a Men 2 B หรือมี
00:11:45 → 00:11:47 ประวัติมะเร็งไทรอยด medal ไทรอยด
00:11:47 → 00:11:52 carcinoma ห้ามใช้ยาพวกนี้เด็ดขาดห้าม
00:11:52 → 00:11:56 ใช้เด็ดขาดนะครับคนที่มีเรื่องของโอกาสจะ
00:11:56 → 00:11:59 ตั้งครรภ์หรือมีประวัติตั้งคันตั้งคัน
00:11:59 → 00:12:02 อยู่ห้ามใช้ยากลุ่มนี้นะครับในคนที่เป็น
00:12:02 → 00:12:05 โรคตับอันนี้ไม่มีปัญหาสามารถใช้ได้อ่านะ
00:12:05 → 00:12:08 ครับตับสามารถใช้ได้ไตสามารถใช้ได้เหมือน
00:12:08 → 00:12:10 กันนะครับแต่ว่าควรจะต้องปรึกษาแพทย์
00:12:10 → 00:12:12 เพราะว่ามันจะมีปัญหาบางอย่างนะครับเช่น
00:12:12 → 00:12:14 ว่าถ้าท่านทานอะไรไม่ลงเลยคลื่นไส้
00:12:14 → 00:12:15 อาเจียนจากยาพวกเนี้ยมันจะทำให้ไตของท่าน
00:12:15 → 00:12:19 วายมากกว่าเดิมได้อีกนะครับอนอกเหนือจาก
00:12:19 → 00:12:22 นี้มีบางอย่างซึ่งในเว็บไซต์เท่าที่ผมไป
00:12:22 → 00:12:26 เปิดดูนะครับเ่อไม่มีหมอที่เตือนท่านครับ
00:12:26 → 00:12:30 คืออะไรเราพบว่าเกิดตับอ่ออักเสบได้เพิ่ม
00:12:30 → 00:12:32 ขึ้นนะครับตับอ่อนอักเสบหรือว่านิ่วในถุม
00:12:32 → 00:12:35 นักิวในบางคนได้นะครับดังนั้นท่านที่มี
00:12:35 → 00:12:37 ประวัติว่ามีตับอ่อนอักเสบมาก่อนนะครับ
00:12:37 → 00:12:39 ไม่ว่าจะเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ที่ทำให้ตำอ
00:12:39 → 00:12:42 อักเสบเช่นท่านเป็นนิ่วในในถุงน้ำดีแล้ว
00:12:42 → 00:12:44 นิ่วหลุดไปทำให้ตำอนอักเสบบางคนมี
00:12:44 → 00:12:47 ไตรกีสไลสูงจนตับอ่อนอักเสบบางคนเกิดกิน
00:12:47 → 00:12:50 เหล้าเยอะๆตับอ่อนอักเสบหรืออะไรเหตุผล
00:12:50 → 00:12:52 อะไรก็แล้วแต่นะครับที่ตับอ่อนมันอักเสบ
00:12:52 → 00:12:55 ได้ท่านห้ามใช้ยากลุ่มนี้เด็ดขาดนะครับ
00:12:55 → 00:12:57 ห้ามใช้เด็ดขาดแล้วถ้าใช้ไปแล้วเกิดตับ
00:12:57 → 00:12:59 อ่อนอักเสบก็ห้ามใช้ซ้ำนะครับก็ต้องหยุด
00:12:59 → 00:13:02 ยาทันทีนะครับตามรองอักเสพมีอาการยังไง
00:13:02 → 00:13:06 อ่ะก็มันจะมีอาการปวดจุกบริเวณลิ้นปี่ปวด
00:13:06 → 00:13:08 มากๆมีอาการคลื่นแส่เจียนสุดๆเลยแล้ว
00:13:08 → 00:13:11 อาการปวดเนี่ยมันจะร้าวทะลุไปถึงหลังเลย
00:13:11 → 00:13:13 นะครับพวกเนี้ยเป็นลักษณะของอาการตับอ่อน
00:13:13 → 00:13:15 อักเสบนะครับแต่ว่าก็มีหลายโรคที่ลักษณะ
00:13:15 → 00:13:17 อาการมันเป็นแบบนี้เหมือนกันันนี้ผมพูด
00:13:17 → 00:13:18 คร่าวๆให้ฟังถ้าใครมีอาการแบบเนี้ยแล้ว
00:13:19 → 00:13:20 มันไม่หายต้องไปตรวจกับหมอนะครับถามผม
00:13:20 → 00:13:23 แล้วผมอาจจะตอบท่านไม่ได้ก็ได้นะครับท่าน
00:13:23 → 00:13:26 ต้องไปปรึกษาแพทย์เองนะครับอ่านี่คือข้อ
00:13:26 → 00:13:31 ห้ามของยากลุ่มนี้นะครับอ่าแล้วผมก็อีก
00:13:31 → 00:13:34 อย่างนึงซึ่งอยากจะบอกก็คือเรื่องของราคา
00:13:34 → 00:13:37 นะครับราคาผมไม่ทราบของเมืองไทยนะครับแต่
00:13:37 → 00:13:40 ผมทราบของอเมริกานะครับยาของอเมริกาเนี่ย
00:13:40 → 00:13:44 ตัวแรกคือ lir กูซึ่งจะต้องฉีดทุกวันนะ
00:13:44 → 00:13:47 ครับเราจะมีการค่อยๆเพิ่มขนาดจนกระทั่ง
00:13:47 → 00:13:49 สูงที่สุดนะครับต่อวันก็คือประมาณสัก 3
00:13:49 → 00:13:53 มิลกรัมต่อวันที่เราฉีดนะครับยากลุ่มนี้
00:13:53 → 00:13:56 เนี่ยก็จะตกสักประมาณอาทิตย์ละ 3,000
00:13:56 → 00:13:58 กว่าบาทนะครับถ้าตีเป็นเงินไทย 3,000
00:13:58 → 00:14:01 กว่าบาทถถึง 4,000 นะครับอ่าแต่ผมไม่รู้
00:14:01 → 00:14:02 ว่าเมืองไทยจะเอาไปบวกให้มันมากกว่านั้น
00:14:02 → 00:14:04 หรือเปล่าอนี้ไม่แน่ใจนะครับผมไม่ทราบ
00:14:04 → 00:14:08 เหมือนกันนะครับแล้วก็ยาอีกชนิดนึงคือ Sim
00:14:08 → 00:14:12 glut นะครับตัวนี้ก็คือยาที่ยี่ห้อโอมิ
00:14:12 → 00:14:14 นะครับตัวนี้เนี่ยจะฉีดอาทิตย์ละครั้ง
00:14:14 → 00:14:17 ราคาประมาณเดียวกันเลยครับนะประมาณเดียว
00:14:17 → 00:14:19 กันเลยนะครับแต่มันฉีดน้อยกว่าดังนั้นบาง
00:14:19 → 00:14:21 คนอาจจะบอกว่าเอ้ยอย่างงั้นเราฉีดตัวนี้
00:14:21 → 00:14:23 ดีกว่านะครับแต่อย่างไรก็ตามมันก็แพงอยู่
00:14:23 → 00:14:25 ดีนะครับอาทิตย์ละ 3,000 5,000 บาทอย่าง
00:14:25 → 00:14:27 เงี้ยนะครับท่านเอาไปทำอย่างอื่นได้เยอะ
00:14:27 → 00:14:29 แยะแล้วกลไกการทำงานของก็คือทำให้ท่าน
00:14:29 → 00:14:32 เบื่ออาหารท่านไม่กินไงครับถูกมั้ยฮะดัง
00:14:32 → 00:14:35 นั้นถ้าเกิดว่าสุดท้ายแล้วท่านอยากจะจ่าย
00:14:35 → 00:14:38 จ่ายเงินเพื่อให้ท่านไม่กินอาหารโอเคหรือ
00:14:38 → 00:14:41 เปล่าครับถ้าท่านมีเงินเพียงพอไม่มีข้อ
00:14:41 → 00:14:44 ห้ามในการใช้ยาเหลหลุ่มเหล่านี้นะครับ
00:14:44 → 00:14:47 แล้วก็เอ่อโอเคในการฉีดยาให้กับตัวเองไม่
00:14:47 → 00:14:49 มีปัญหาครับท่านสามารถใช้ได้มันก็ได้ผล
00:14:49 → 00:14:52 จริงๆนะครับคนไข้ของผมที่เป็นคนที่มีโรค
00:14:52 → 00:14:54 อ้วนมากๆนะครับผมให้ใช้ยากลุ่มเนี้ยในบาง
00:14:54 → 00:14:57 กรณีก็สามารถที่จะลดน้ำหนักลงมาได้แบบรวด
00:14:57 → 00:15:01 เร็วคนที่ผมใช้คนนึงเป็นคนที่หนักแบบเอ่อ
00:15:01 → 00:15:04 200 กกนะแล้วเต้องการปลูกถ่ายปอดแต่ผม
00:15:04 → 00:15:06 ปลูกให้ไม่ได้นะครับเพราะว่าน้ำหนักมัน
00:15:06 → 00:15:08 เยอะเกินเราก็จะต้องรีบๆลดน้ำหนักผมก็
00:15:08 → 00:15:11 จ่ายไอ้ตัวนี้เลยนะครับ zim กูนะครับแล้ว
00:15:11 → 00:15:15 ก็ทำให้เค้าลดน้ำหนักขึ้นมาได้ลดไป 30 กล
00:15:15 → 00:15:17 ใน 1 เดือนน่ะเร็วมากๆเลยอจนกระทั่งผมรู้
00:15:17 → 00:15:20 สึกว่ามันมากเกินไปหรือเปล่านะครับก็ต้อง
00:15:20 → 00:15:23 มาดูนะครับแต่ว่ามันได้ผลจริงๆนะครับเ่อ
00:15:23 → 00:15:26 แต่ก็ต้องระวังภาวะอื่นๆอย่างที่ผมเล่าไป
00:15:26 → 00:15:28 เมื่อกี้ก็แน่นอนคนนี้ก็มีคลื่นไส้แอด
00:15:28 → 00:15:31 เจียนมีท้องเสียนะครับมีอการปวดท้องนะ
00:15:31 → 00:15:33 ครับเอเจอนะครับแต่ว่าเขาก็ค่อยๆใช้ไป
00:15:33 → 00:15:35 แล้วอาการพวกนั้นก็ค่อนค่อนข้างที่จะดี
00:15:36 → 00:15:38 ขึ้นในการที่เรามาตรวจติดตามนะครับอ่า
00:15:38 → 00:15:40 แล้วไม่มีโรคตับโรคไตอะไรเอามาแทรกนะครับ
00:15:40 → 00:15:44 เราก็จะต้องดูตรงนี้ด้วยนะครับดังนั้นก็
00:15:44 → 00:15:48 แล้วแต่นะครับถ้าใครจะใช้โดยสรุปก็คือยา
00:15:48 → 00:15:51 กลุ่มนี้นะครับี glut กับ ler glut นะ
00:15:51 → 00:15:53 ครับเป็นยากลุ่มที่เรียกว่า glucagon
00:15:53 → 00:15:55 Light peptide One agonist นะครับคือ
00:15:55 → 00:15:57 ทำหน้าที่เหมือนกับฮอร์โมนตัวนี้มันไปทำ
00:15:57 → 00:16:00 ให้เราหลั่งอสุรินมาได้ง่ายขึ้นนะครับยับ
00:16:00 → 00:16:03 ยั้งการหลักลูคากอนทำให้น้ำตาลในเลือดไม่
00:16:03 → 00:16:06 สูงนะครับทำให้ทางเดินอาหารของเราบีบตัว
00:16:06 → 00:16:08 ช้าลงแล้วก็เราอิ่มง่ายขึ้นนะครับสรุป
00:16:08 → 00:16:10 แล้วก็คือมันทำให้เราไม่ค่อยกินอาหารนั่น
00:16:10 → 00:16:14 เองนะครับเอ่อคนที่ไม่ควรใช้เด็ดขาดก็คือ
00:16:14 → 00:16:16 คนที่ตั้งครรภ์หรือกำลังจะตั้งครรภ์นะ
00:16:17 → 00:16:19 ครับส่วนคนที่ให้นอมบุตรนี้ข้อมูลไม่ชัด
00:16:19 → 00:16:21 เจนถ้าท่านจะใช้ท่านก็ต้องเสี่ยงเอาเองนะ
00:16:21 → 00:16:23 ครับว่าจะโอเคหรือเปล่านี้ผมตอบไม่ได้นะ
00:16:23 → 00:16:27 ครับแต่ถ้าเป็นผมผมจะไม่ใช้นะครับแล้วก็
00:16:27 → 00:16:31 คนที่มีประวัติมะเร็ง medal ไทรอยนะครับ
00:16:31 → 00:16:34 ในครอบครัวแม้กระทั่งในครอบครัวนะครับ
00:16:34 → 00:16:36 ท่านก็ไม่ควรใช้นะครับแต่ถ้าท่านเป็นซะ
00:16:36 → 00:16:39 เองท่านห้ามใช้เด็ดขาดเลยนะครับหรือคนที่
00:16:39 → 00:16:42 มีโรคทางกลุ่มที่เรียกว่า multiple
00:16:42 → 00:16:45 endocrine neoplasia Syndrome type
00:16:45 → 00:16:48 to a และ to b นะครับห้ามใช้เด็ดขาด
00:16:48 → 00:16:50 ถ้าหมอเวินิฉัยว่าเป็นโรคพวกเนี้ยอย่าใช้
00:16:50 → 00:16:54 เด็ดขาดนะครับห้ามเด็ดขาดไม่งั้นท่านเป็น
00:16:54 → 00:16:56 อะไรมาผมก็บอกอะไท่านไม่ได้นะครับอ่านี่
00:16:56 → 00:17:00 คือข้อห้ามใช้นะครับใช้แล้วได้ผลมยได้ผล
00:17:00 → 00:17:02 ค่อนข้างที่จะดีอาจจะลดลงค่อนข้างที่จะ
00:17:02 → 00:17:04 เยอะโดยเฉพาะถ้าเกิดว่าท่านไปทำร่วมกับ
00:17:04 → 00:17:07 วิธีอื่นๆเช่นการควบคุมอาหารทานแต่ของที่
00:17:07 → 00:17:09 มันมีประโยชน์นะครับแล้วก็อาจจะทำ
00:17:09 → 00:17:12 intermittent fasting นะครับลดปริมาณ
00:17:12 → 00:17:14 แคลอรีที่ท่านทานลงอ่าอันนี้ก็อาจจะได้ผล
00:17:14 → 00:17:17 มากยิ่งขึ้นกว่าเดิมอีกนะครับตรงนี้แล้ว
00:17:17 → 00:17:20 ก็ราคานี่ผมไม่แน่ใจว่าที่ประเทศไทยเท่า
00:17:20 → 00:17:22 ไหร่แต่ที่อเมริกาก็จะตกสักประมาณอาทิตย์
00:17:22 → 00:17:24 ละประมาณ 3,000 กว่าบาทถึง 5,000 บาทนะ
00:17:25 → 00:17:27 ครับท่านอยากจะเอาเงินไปเสียกับเรื่องพวก
00:17:27 → 00:17:30 นี้ก็แล้วแต่ท่านนะครับส่วนตัวผมผมคิดว่า
00:17:30 → 00:17:32 การที่ผมจะจ่ายตังค์ผมอยากจะจ่ายตังค์
00:17:32 → 00:17:34 เพื่อที่จะผมได้กินอาหารอร่อยมากกว่าการ
00:17:34 → 00:17:36 ที่ผมจะจ่ายตังค์ไปเพื่อให้ผมไม่กินอาหาร
00:17:37 → 00:17:39 นะครับแต่ว่าอันนี้ก็แล้วแต่คนนะครับแล้ว
00:17:39 → 00:17:42 แต่ท่านเลยนะครับเหมือนกับบางคนก็อาจจะ
00:17:42 → 00:17:45 บอกว่าผมรู้แหละอ่ะออกกำลังกายมันดีแต่
00:17:45 → 00:17:49 เราไม่มีแรงจูงใจงั้นเราไปเอ่อเสียตังค์
00:17:49 → 00:17:51 เข้าคลาสออกกำลังกายเสียตังค์เข้าเอ่อ
00:17:51 → 00:17:53 จ้างเทรนเนอร์มาอันนี้ก็แล้วแต่ท่านนะ
00:17:53 → 00:17:55 ครับถ้าท่านมีเงินจ่ายนะครับแล้วท่านคิด
00:17:55 → 00:17:58 ว่าการจ้างเทรนเนอร์แล้วก็ช่วยให้ท่านมี
00:17:58 → 00:18:00 กำลังใจในการออกกำลังกายอันนั้นก็เป็น
00:18:00 → 00:18:02 สิ่งที่จะได้ประโยชน์ของท่านดังนั้นจะไม่
00:18:02 → 00:18:05 มีข้อห้ามที่ตายตัวแต่ท่านจะต้องพิจารณา
00:18:05 → 00:18:07 ในบริบทของตัวท่านเองนะครับว่ามันได้
00:18:07 → 00:18:09 ประโยชน์แค่ไหนนะครับโอเควันนี้ก็เท่านี้
00:18:09 → 00:18:11 นะครับใครสงสัยอะไรก็สอบถามมาได้นะครับ
00:18:11 → 00:18:15 ขอบคุณมากครับสวัสดีครับ