00:00:00 → 00:00:03 รู้ทันป้องกันโรคกระเพาะอาหารอาการเจ็บ
00:00:03 → 00:00:06 ป่วยที่ไม่ควรมองข้ามในช่วงนี้นะคะเดี๋ยว
00:00:06 → 00:00:08 เราจะไปพูดคุยกับอาจารย์หมอจาก
00:00:08 → 00:00:10 แอปพลิเคชันหมอดีกัน
00:00:10 → 00:00:19 [เพลง]
00:00:19 → 00:00:22 ค่ะสวัสดีค่ะอาจารย์ขอเริ่มที่คำถามแรก
00:00:22 → 00:00:25 เลยนะคะโรคกระเพาะอาหารค่ะมักเกิดขึ้นกับ
00:00:25 → 00:00:28 คนกลุ่มใดคะอาจารย์รกระเพาะอาหารนะครับนะ
00:00:29 → 00:00:31 สามารถเกิดกับคนกลุ่มใดนะครับนะคำตอบคือ
00:00:31 → 00:00:34 เกิดกับทนทุกกลุ่มเลยนะครับนะโดยมักจะ
00:00:34 → 00:00:37 เกิดบ่อยในกลุ่มคนไวทำงานนะครับนะกับคน
00:00:37 → 00:00:39 สูงอายุวัยทำงานเนี่ยครับเป็นวัยที่ทำงาน
00:00:39 → 00:00:42 หนักนะครับกินข้าวไม่ตรงเวลาข้าวเช้าไม่
00:00:42 → 00:00:44 กินกินกาแฟเป็นต้นนะครับนะซึ่งอันเนี้ย
00:00:44 → 00:00:46 คือความสสิงอย่างหนึนะครับนะในคนที่เป็น
00:00:46 → 00:00:48 ไปทำงานเนี่ยจะมีโรคของกระเพาะได้ง่าย
00:00:48 → 00:00:51 เนื่องจากว่ากินข้าวแบบเช้าไม่กินข้าว
00:00:51 → 00:00:53 อย่าเงี้ยร่างกายแบบกินกาแฟแทนก็ได้อ่ะ
00:00:53 → 00:00:56 คิดว่าแทแทนได้แต่เปล่าเลยกาแฟเนี่ยเป็น
00:00:56 → 00:01:00 การสร้างกดมากขึ้นได้ทำให้เกิดการปดทององ
00:01:00 → 00:01:02 ได้ง่ายแล้วก็เรื่องของการกินมื้อเที่ยง
00:01:02 → 00:01:04 อ่ะมื้อเที่ยงเงี้ยเรทไปเยอะเลยเพราะว่า
00:01:04 → 00:01:07 ขยันเกินทำงานไม่ทแบบปั่นงานไครับก็คือ
00:01:07 → 00:01:09 กินเมื่อเที่ยงตอน 13:00 น 14:00 น 14:00
00:01:09 → 00:01:12 นงี้ครับจะมีการปลดท้องได้เหมือนกันแล้ว
00:01:12 → 00:01:14 ก็เรื่องของคนอ่าสูงอายุนะครับนะเรื่อง
00:01:14 → 00:01:17 ของตัวอ่าปัจจัยความเสี่ยงต่างๆเช่นพก
00:01:17 → 00:01:20 ประจำตัวเยอะหรือว่าการใช้ยาหลายตัวนะ
00:01:20 → 00:01:22 ครับนะแล้วก็เรื่องของความเสื่อมของร่าง
00:01:22 → 00:01:25 กายการย่อยอาหารในการสร้างกดเนี่ยมันแบบ
00:01:25 → 00:01:27 ผิดแปลกไปจากเดิมเลยเกิดอาการรกกระเพาะ
00:01:27 → 00:01:29 ได้ง่ายครับผมในเด็กนะครับจะมีรกกระเพาะ
00:01:29 → 00:01:32 เหมือนเหมนกันแต่เด็กเนี่ยอาการจะออกเป็น
00:01:32 → 00:01:34 รูปแบบของท้องอืดมากกว่าอยากถ่ายถ่ายไม่
00:01:35 → 00:01:36 ออกงครับผมพวกเนี้ยมันเกิดจากการที่เขา
00:01:36 → 00:01:39 อ่ะกินนมแล้วก็นอนกินแล้วนอนเลยอย่าเงี้ย
00:01:39 → 00:01:41 ทำให้เกิดอาการแบบพวกกระเพาะอาหารบีบตัว
00:01:41 → 00:01:43 ได้ไม่ดีหรือว่าการย่อยเนี่ยแย่ลงครับดัง
00:01:43 → 00:01:45 นั้นเด็กเนี่ยครับก็คือมีรถกระเพาะได้
00:01:45 → 00:01:48 เหมือนกันเพียงแต่ว่าอาการจะไม่รุนแรงมาก
00:01:48 → 00:01:50 สำหรับการดื่มนมนะครับนมเนี่ยจะมีเอนไซม์
00:01:50 → 00:01:52 ในการย่อยตัวนึงนะครับนั้นในการย่อยนม
00:01:52 → 00:01:54 อยู่ซึ่งนมเนี่ยถือว่าย่อยช้าค่ะอาจารย์
00:01:54 → 00:01:58 คะแล้วทำไมเชื้อโรค H P เนี่ยทำให้เกิด
00:01:58 → 00:02:00 โรคกระเพาะอาหารได้คะเชื้อโรคนะครับที่
00:02:00 → 00:02:04 ชื่อว่าบกต p ครับนะเป็นปัจจัยหนึ่งที่
00:02:04 → 00:02:06 เกิดโรคกระพาะอาหารได้ตัวเชื้อนี้นะครับ
00:02:07 → 00:02:09 สามารถพบได้ทั่วๆไปเลยครับครึ่งนึงของ
00:02:09 → 00:02:12 ชากรโลกเนี่ยสามารถพบเชื้อนะครับในร่าง
00:02:12 → 00:02:14 กายได้โดยเชื้อนะครับจะปนเปื้อนมากับ
00:02:14 → 00:02:16 อาหารและน้ำได้แต่ส่วนใหญ่เนี่ยไม่มี
00:02:16 → 00:02:18 อาการครับตัวเชื้อเนี้ยเป็นเชื้อ
00:02:18 → 00:02:20 แบคทีเรียแกรมลบนะครับตัวเองเนี่ยจะสร้าง
00:02:20 → 00:02:23 เบสเข้ามาคุมตัวเองไว้ทำให้ตัวเชื้อเครับ
00:02:23 → 00:02:26 ทนทานต่อกดในเพาะอาหารได้ดังนั้นจึงอยู่
00:02:26 → 00:02:29 ได้นานแล้วก็ตัวมันเองเนี่ยจะสร้างพวก
00:02:29 → 00:02:32 เอนไซม์พวกท็อกซินต่างๆทำให้เกิดการ
00:02:32 → 00:02:34 อักเสบที่ผิวของบาอาหารได้ครับเมื่อ
00:02:34 → 00:02:36 อักเสบนานๆๆเนี่ยก็คือจะกลายเป็นพวกโรค
00:02:36 → 00:02:38 กระเพาะตามมาได้และอาจจะเกิดแผลนะะอาหาร
00:02:39 → 00:02:41 ตามมาได้แล้วตัวเราจะรู้ได้อย่างไรคะว่า
00:02:41 → 00:02:43 นี่คืออาการปวดท้องที่มาจากโรคกระเพาะ
00:02:43 → 00:02:46 อาหารไม่ใช่มาจากสาเหตุอื่นนะค่ะอาการปวด
00:02:46 → 00:02:48 ทองนะครับเกิดจากหลายอย่างมากๆเลยเราจะ
00:02:48 → 00:02:50 รู้ได้ไงว่าโรคกระเพาะคืออะไรเนาะโรค
00:02:50 → 00:02:53 กระเพาะเนี่ยนิยามเลยครับคือโรคที่มี
00:02:53 → 00:02:57 อาการปวดท้องแน่นท้องมวลท้องไม่สบายท้อง
00:02:57 → 00:03:00 แบบมีเรอขึ้นไส้อาเจียนกินอาหารแล้วแบบ
00:03:00 → 00:03:03 อิ่มเร็วขึ้นนะครับโดยอาการปวดเนี่ยมักจะ
00:03:03 → 00:03:06 เป็นตรงบริเวณใต้ลิ้นปี่จนถึงเหนือดือ
00:03:06 → 00:03:08 ครับโดยอาการปวดเนี่ยครับมักจะเป็นเป็น
00:03:08 → 00:03:11 หายๆมักจะมีโรคอื่นเข้ามาร่วมด้วยนะครับ
00:03:11 → 00:03:14 เช่นกดไหลย้อนลำไส้แปรป่วนได้ครับโดย
00:03:14 → 00:03:17 อาการที่ปวดเนี่ยจะต้องไม่มีสัญญาณเตือน
00:03:17 → 00:03:19 โรคอันตรายเช่นมีประวัติครอบครัวเป็น
00:03:19 → 00:03:21 มะเร็งเพะอาหารมีประวัติเรื่องของการถ่าย
00:03:21 → 00:03:24 ดำอาจจะเป็นเลือดนะครับเบื่ออาหารมากๆกิน
00:03:24 → 00:03:27 ข้าวไม่ได้เลยน้ำหนักลด 5% ใน 1 เดือนนะ
00:03:27 → 00:03:29 ครับรวมถึงคนที่เรื่องของมีอารเส้ไปปน
00:03:29 → 00:03:31 หนักๆนะครับจำเป็นต้องตรวจเพิ่มเติมก่อน
00:03:31 → 00:03:35 โดยในคนที่รกระเพาะมาเนี่ยหมอจะทำการตรวจ
00:03:35 → 00:03:38 เพิ่มเติมได้เพื่อเช็คส่วนอื่นๆด้วยเช่น
00:03:38 → 00:03:42 หลอดอาหารตับลำไส้ถูงน้ำดีครับผมเพราะว่า
00:03:42 → 00:03:45 มักเกี่ยวข้องกันอาจารย์ขาและผู้ป่วยโรค
00:03:45 → 00:03:48 กระเพาะอาหารเนี่ยมีโอกาสที่จะเสียชีวิต
00:03:48 → 00:03:52 จากโรคนี้ได้ยคะมีโอกาสเสียชีวิตได้จาก
00:03:52 → 00:03:54 โรคแทรกซ้อนนะครับที่บอกไปเมื่อกี้อีก 2
00:03:54 → 00:03:56 โรคเนาะอันแรกนะครับนะคือโรคกระเพาะทะลุ
00:03:56 → 00:03:59 นะครับจากแผลกระเพาะอาหารเนี่ยที่มันเป็น
00:03:59 → 00:04:01 การกัดก่อนเรื่อยๆนะคครับก็จนเป็นรูขึ้น
00:04:01 → 00:04:04 มาตัวน้ำย่อยตัวกดต่างๆเข้าสู่ร่างกาย
00:04:04 → 00:04:07 เกิดการอักเสบอย่างรุนแรงเกิดการติดเชื้อ
00:04:07 → 00:04:10 เกิดภาวะช็อกได้ครับจำเป็นต้องภโรงพยาบาล
00:04:10 → 00:04:13 เพื่อทำการผ่าตัดเย็บซ่อมปิดแผนนั้นไป
00:04:13 → 00:04:16 ครับผมหรือว่า 2 โลกมะเร็งนะครับครับที่
00:04:17 → 00:04:19 เกิดขึ้นเรื่อยๆช้าๆนะครับร่างกายก็จะสูญ
00:04:19 → 00:04:22 เสียเลือดไปทางการขับถ่ายที่ผิดปกติไป
00:04:22 → 00:04:26 หรือว่าการกินที่แย่ลงก็ได้ค่อยๆผอมซุปลง
00:04:26 → 00:04:29 ได้ครับโดยมะเร็งนะครับที่ไทยเนี่ยเราแย่
00:04:29 → 00:04:33 ลงเพราะว่าเราพบช้าคนที่มามักจะเป็นคนแก่
00:04:33 → 00:04:36 อาจารย์คะแล้วการรักษาโรคกระเพาะอาหาร
00:04:36 → 00:04:38 นั้นมีกี่วิธีคะสการรักษาเนี่ยจะมีอยู่ 3
00:04:39 → 00:04:41 ข้อหลักๆเลยนะครับข้อ 1 คือการปรับ
00:04:41 → 00:04:44 พฤติกรรมการกินและการใช้ชีวิตนะครับ 1 นะ
00:04:44 → 00:04:48 ครับปรับการกินใหม่หลีกเลี่ยงของมันของ
00:04:48 → 00:04:51 ทอดของรสจัดนะครับชากาแฟแอลกอฮอล์เนาะ 2
00:04:51 → 00:04:55 นะครับเป็นการใช้ยาเพื่อให้อาการดีขึ้นนะ
00:04:55 → 00:04:57 ครับโดยยาแบ่งเป็น 2 กลุ่มหลักๆกลุ่มแรก
00:04:57 → 00:05:00 คือยารถกดนะครับเรากินเพื่อเพื่อรักษาให้
00:05:00 → 00:05:04 ตัวกดไม่มากเกินไปการระคายเครืรหารน้อยๆ 2
00:05:04 → 00:05:07 เป็นยาช่วยให้อาการดีขึ้นพวกยาแก้อาการ
00:05:07 → 00:05:10 ต่างๆแก้ท้องอืดท้องเฟ้อแก้คลื่นไส้แก้
00:05:10 → 00:05:12 แดนท้องนะครับแก้ปลดท้องได้ข้อ 3 นะครับ
00:05:12 → 00:05:16 คือเคสกลุ่มคนที่ใช้ยาก็ไม่ดีขึ้นลองปรับ
00:05:16 → 00:05:19 พิรต่างๆก็ไม่ดีขึ้นควรจะส่องกล้องเพื่อ
00:05:19 → 00:05:22 ดูตั้งแต่ออกดอาหารลงไปเขอาหารถนำไส้ครับ
00:05:22 → 00:05:26 ดูว่ามีพวกแผลมยมีการติดเชื้อมนะครับซึ่ง
00:05:26 → 00:05:28 ส่วนใหญ่ครับนะมักจะเป็นแผลร่วมกับการติด
00:05:28 → 00:05:31 เชื้อ HP ด้วยอาจารย์ขาแล้วยากลุ่มใดที่
00:05:32 → 00:05:35 ผู้ป่วยโรคกระเพาะอาหารไม่ควรรับประทานคะ
00:05:35 → 00:05:37 ในคนที่โรคกระเพาะเนี่ยควรจะเลี่ยงยา 2
00:05:37 → 00:05:40 กลุ่มครับกลุ่มแรกเป็นยาแก้ปวดกลุ่มเอเซต
00:05:40 → 00:05:42 นะครับกลุ่มยาแก้ปวดที่ไม่ใช่สเตียรอยด์
00:05:42 → 00:05:47 เช่นยาบูเฟนโกเฟนต่างๆนะครับพวกยาพสนนะ
00:05:47 → 00:05:50 ครับนะหรือแบบพวกยาพวกไฟกแก้ปวดได้ 2 นะ
00:05:50 → 00:05:52 ครับเป็นยาแก้ปวดกลุ่มสเตียรอยด์นะครับ
00:05:52 → 00:05:55 เช่นเพรนยาแก้อักเสียบเป็นต้นเนาะยาเหล่า
00:05:55 → 00:05:57 นี้ถ้าเลี่ยงได้ควรเลี่ยงนะครับนะแล้วก็
00:05:57 → 00:06:00 ห้ามกินกับพวกสุราหรือว่าแอลกอฮอลด้วย
00:06:00 → 00:06:03 อาจารย์คะอาหารที่ผู้ป่วยโรคกระเพาะอาหาร
00:06:03 → 00:06:05 ควรรับประทานและไม่ควรรับประทานมีอะไร
00:06:05 → 00:06:09 บ้างคะกลุ่มที่ควรครับควรกินอาหารที่ย่อย
00:06:09 → 00:06:12 ง่ายผักเี่ครับนะย่อยง่ายอยู่มีกากใหยสูง
00:06:12 → 00:06:15 ด้วยพวกปลาครับช่วยได้หรือว่าพวกอ่าอาหาร
00:06:15 → 00:06:17 ที่ช่วยเสริมสร้างการย่อยได้ครับเช่นพวก
00:06:17 → 00:06:20 นมเปรี้ยวโยเกิร์ตนะก็คือช่วยให้การกับ
00:06:20 → 00:06:22 ถ่ายดีขึ้นด้วยแล้วก็ช่วยให้ช่วยย่อยงงี้
00:06:22 → 00:06:24 ด้วยเหมือนกันนะครับห้ามอะไรบ้างห้ามนะ
00:06:24 → 00:06:26 ครับพวกของที่ย่อยยากๆเนื้อสัตว์พวกแบบ
00:06:26 → 00:06:30 เนื้อวัวครับติดมันงี้ที่ย่อยยากๆของมัน
00:06:30 → 00:06:32 ของทอดนะครับข้อ 3 ครับของรสจัดนะครับของ
00:06:32 → 00:06:35 รสจัดนะพวกแบบเเปี้ยวจัดเผ็ดจัดเนี่ยย
00:06:35 → 00:06:39 กระตุ้นการหลังกดได้ครับแอลกอฮอล์ชากาแฟ
00:06:39 → 00:06:41 นะครับคาเฟอีนแอลกอฮอลเนี่ยมีผลในการ
00:06:42 → 00:06:44 กระตุ้นการเกิดการรังกดได้ครับดังนั้นควร
00:06:44 → 00:06:48 จะีกเลี่ยงนะของเรานี้ด้วยอาจารย์คะคำถาม
00:06:48 → 00:06:52 นี้เอาใจคนที่ชอบรับประทานบุฟเฟ่ต์ค่ะมี
00:06:52 → 00:06:54 วิธีการนะคะหรือป้องกันอย่างไรสำหรับคน
00:06:54 → 00:06:57 ที่บุฟเฟ่ Lover หรือว่าชอบรับประทาน
00:06:57 → 00:06:59 อาหารบุฟเฟ่ต์ที่จะป้องกันไม่ให้เกิดโรค
00:06:59 → 00:07:02 กระเพาะอาหารขึ้นคะไลฟ์สไตล์ของไว
00:07:02 → 00:07:06 ปัจจุบันเนาะคนเราจะมีการกินที่แบบปิด
00:07:06 → 00:07:08 แปลกไปเช่นเน้นบุฟเฟ่เป็นหลักนะครับนะใน
00:07:08 → 00:07:10 การกินบุฟเฟ่เนี่ยเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่
00:07:10 → 00:07:13 ได้นะบางคนเนาะเออเจอเพื่อนสังสรอะไร
00:07:13 → 00:07:17 เงี้ยเราสามารถลดความรุนแรงได้ด้วยการที่
00:07:17 → 00:07:20 อ่าเพิ่มเพิ่มผักแต่ละมื้อครับเพิ่มน้ำ
00:07:20 → 00:07:22 นิดนึงนะครับลดเนื้อนิดนึงนะครับหรือว่า
00:07:22 → 00:07:25 เนื้อเนี่ยควรเป็นเนื้อที่ติดมันน้อยๆ
00:07:25 → 00:07:27 อยากจะฝากไว้ 5 ข้อนะครับข้อแรกครับกิน
00:07:27 → 00:07:30 ตรงเวลาครับกินตรงเวลาเนี่ยก็คือการปรับ
00:07:30 → 00:07:33 พฤติกรรมการกินข้าวเนาะเราควรจะกินข้าว
00:07:33 → 00:07:35 ให้มันตรงมือครับนะแม้ว่าไม่หิวก็ตาม
00:07:35 → 00:07:37 เมื่อร่างกายหลั่งกดมาเป็นไซเคิลแล้ว
00:07:37 → 00:07:40 เนี่ยเมื่อเราไม่หิวปุ๊บเราจะไปกินนิดนึง
00:07:40 → 00:07:41 ให้ร่างกายมันรู้ว่าเนี่ยช่วงเนี้คือต้อง
00:07:42 → 00:07:44 กินและเพื่อให้ร่างกายทำงานปกติเหมือน
00:07:44 → 00:07:46 เดิมหลังจากกินเนี่ยควรจะมีเวลาไปทำอย่าง
00:07:47 → 00:07:49 อื่นเช่นแบบเดินเล่นหรือว่านั่งคุยน่งพัก
00:07:49 → 00:07:51 ผ่อนไปอีก 3 ชั่วโมงอย่างน้อยเพราะว่าถ้า
00:07:51 → 00:07:54 เรากินแล้วนอนเลยเนี่ยจะเกิดอาการกดไหล
00:07:54 → 00:07:57 ย้อนได้จะเกิดอาการท้องอืดท้องเฟอแน่นทอง
00:07:57 → 00:07:59 ได้ครับมื้อดึกที่ควรกินเนี่ยควรจะห่าง
00:07:59 → 00:08:02 จากก่อนนอนเนี่ย 3 ชมงนะครับนะหรือว่าถ้า
00:08:02 → 00:08:05 แบบกินแล้วง่วงมากอ่ะให้นั่งหลับได้เอน
00:08:05 → 00:08:07 หลังได้ครับแต่ว่าห้ามนอนหรือว่าถ้าแบบ
00:08:07 → 00:08:10 ว่าไม่ไหวจริงๆนอนก็ได้แต่ว่าคนนอนตะแคง
00:08:10 → 00:08:12 ทรายนะครับเพื่อป้องกันการเกิดกดไหลย้อน
00:08:12 → 00:08:15 เนาะข้อ 2 นะครับนะเป็นการปรับการกินกิน
00:08:15 → 00:08:18 ให้ดีกินให้ของที่มีประโยชน์กินของครบ 5
00:08:19 → 00:08:21 หมู่นะครับข้อที่ 3 นะครับการหลีกเลี่ยง
00:08:21 → 00:08:26 ปัจจัยเสี่ยงต่างๆเช่นบุหรี่เหล้ายาแก้
00:08:26 → 00:08:29 ปวดบางตัวข้อที่ 4 การลดความเครียดความ
00:08:29 → 00:08:32 เครียดทำให้เกิดการหลังกดมากขึ้นได้แล้ว
00:08:32 → 00:08:35 ก็ข้อ 5 เมื่อมีอาการเตือนแล้วเช่นจุก
00:08:35 → 00:08:40 แน่นท้องเลอบ่อยอาหารไม่ย่อยควรเริ่มใช้
00:08:40 → 00:08:42 ยาและพบแพทย์เบื้องต้นครับเพราะว่าถ้า
00:08:42 → 00:08:45 ทิ้งไว้จะเกิดอาการภาวะแทรกซ้อนได้ใน
00:08:45 → 00:08:48 อนาคตเช่นแผนเพาะอาหารหรือว่ามะเร็งเพาะ
00:08:48 → 00:08:51 อาหารได้ครับขอบคุณนะคะสำหรับการรับชมราย
00:08:51 → 00:08:54 การ TNN help ค่ะและอย่าลืมค่ะกด
00:08:55 → 00:08:58 Subscribe กดไลค์กดแชร์ในทุกช่องทาง
00:08:58 → 00:09:01 ออนไลน์ของ TNN ช่อง 16 ค่ะเพื่อที่จะไม่
00:09:01 → 00:09:05 พลาดการรับชมรายการสดคลิปวีีดีโอที่น่าสน
00:09:05 → 00:09:07 ใจของทาง TNN นะ
00:09:07 → 00:09:10 คะ