00:00:00 → 00:00:03 This Is Thai PBS podcast View the
00:00:03 → 00:00:04 world vi The
00:00:04 → 00:00:08 Voice ผมว่าจริงๆแล้วคำว่าตัวเองเป็นตัว
00:00:08 → 00:00:09 ของตัวเองเป็นตัวตนของตัวเองอะไรอย่า
00:00:09 → 00:00:11 เงี้ยครับมันเป็นคำที่แทนกันได้ซึ่งเรา
00:00:11 → 00:00:14 กำลังพูดถึงธรรมชาติความเป็นตัวเราโดย
00:00:14 → 00:00:16 ธรรมชาติตัวตนเนี่ยครับมันจะล้อไปกับคำ
00:00:16 → 00:00:19 ว่าวิถีตามปกติที่ตัวเราเป็นแบบรู้สึกไม่
00:00:19 → 00:00:21 ฝืนและเป็นไปโดยธรรมชาติผมว่าในสังคมมัน
00:00:22 → 00:00:23 จะมีอยู่แล้วครับคนที่สามารถยอมรับผู้
00:00:23 → 00:00:26 อื่นได้โดยที่ไม่ตัดสินแล้วก็ Welcome
00:00:26 → 00:00:28 ยินดีที่เขาเป็นอย่างนั้นถ้าใครมีมิตร
00:00:28 → 00:00:30 สหายหรือมีคนในครอบครหรือคนรอบตัวที่มี
00:00:31 → 00:00:32 อย่างนี้ถือว่าโชคดีมากสมมุติการเป็นตัว
00:00:32 → 00:00:35 เองคือทรัพย์สินบางอย่างการที่เรายอมสูญ
00:00:35 → 00:00:38 เสียทรัพย์สินบางอย่างแสดงว่ามันมีทรัพย์
00:00:38 → 00:00:40 สินชิ้นอื่นที่เราคิดว่ามีมูลค่าเหมือน
00:00:40 → 00:00:42 กันเรายอมแลกความเป็นตัวเองอครับแต่ตัว
00:00:42 → 00:00:45 เรา่ะครับคิดว่าเราต้องยอมแลกแหละเพื่อ
00:00:45 → 00:00:48 ได้บางอย่างแต่ได้จริงมไม่รู้
00:00:48 → 00:00:52 นะฟังทุกเรื่องสุขภาพอัปเดตทุกโรคไทยฟัง
00:00:52 → 00:00:56 รายการโรงหมอกับดิฉันสุรีพรวงสถิตพรค่ะ
00:00:56 → 00:01:00 This Is tha PBS podcast มาค่ะคุณ
00:01:00 → 00:01:03 ผู้ฟังติดตามรายการของเราในวันนี้นะคะเรา
00:01:03 → 00:01:07 จะคุยกันถึงเรื่องทำไมทำไมเราถึงยอมสูญ
00:01:07 → 00:01:11 เสียความเป็นตัวเองไปเอ๊ะสูญเสียความเป็น
00:01:11 → 00:01:15 ตัวเองคืออะไรมันยังไงกันนะคะเดี๋ยวลองมา
00:01:15 → 00:01:17 ฟังกันดูแล้วกันเนาะว่ายังไงกันบ้างนะคะ
00:01:18 → 00:01:21 แล้วก็จะมีวิธีการที่จะไม่สูญเสียความ
00:01:21 → 00:01:24 เป็นตัวเองได้ไหมคุยกับดรสุววุฒิวงษ์ทาง
00:01:24 → 00:01:26 สวัสดิ์นักจิตวิทยากรปรึกษาคุณเอิ้น
00:01:26 → 00:01:28 สวัสดีค่ะครับสวัสดีครับคุณรีสวัสดีครับ
00:01:28 → 00:01:31 คุณผู้ฟังอืมทำไมเราจึงยอมสูญเสียความ
00:01:31 → 00:01:35 เป็นตัวเองครับผมเป็นปริศนาเอปริศนาทำไม
00:01:35 → 00:01:37 เกิดอะไรแล้วความเป็นตัวเองคือมันยังไง
00:01:37 → 00:01:41 ตัวเองหรือตัวตนหรือยังไงอมันต่างกันมั้ย
00:01:41 → 00:01:44 ตัวเองกับตัวตนอตัวเองกับตัวตนแล้วแต่
00:01:44 → 00:01:46 แล้วแต่นัยยะที่เรากำลังทำความเข้าใจมัน
00:01:46 → 00:01:49 เนาะผมว่าจริงๆแล้วคำว่าตัวเองเป็นตัวของ
00:01:49 → 00:01:51 ตัวเองเป็นตัวตนของตัวเองอะไรเงี้ยครับ
00:01:51 → 00:01:54 มันเป็นคำที่แทนกันได้ซึ่งซึ่งเรากำลัง
00:01:54 → 00:01:57 พูดถึงธรรมชาติความเป็นธรรมชาติไม่ใช่
00:01:57 → 00:02:00 ธรรมชาติสรรพสิ่งนะว่าถึงตัวเราตัวเราโดย
00:02:00 → 00:02:04 ธรรมชาตินั่นหมายถึงว่าตัวตนเนี่ยครับมัน
00:02:04 → 00:02:07 จะล้อไปกับคำว่าวิถีวิถีตามปกติที่ตัวเรา
00:02:07 → 00:02:10 เป็นแบบรู้สึกไม่ฝืนและเป็นไปโดยธรรมชาติ
00:02:10 → 00:02:13 ก็ก็ที่ที่เราเป็นอยู่ทุกวันนี้แหละก็คือ
00:02:13 → 00:02:15 ความเป็นธรรมชาติคุณเอิ้นเป็นสไตล์นี้อ
00:02:15 → 00:02:18 ครับอ่าสุรีพรเป็นสไตล์นี้นี่คือตัวตนของ
00:02:18 → 00:02:21 เราอใช่ครับอ่าแต่แต่ตัวตนของเราจะมีตัว
00:02:21 → 00:02:24 ตนของเราที่ไม่ยุ่งกับใครกับตัวตนของเรา
00:02:24 → 00:02:25 ที่เมื่อปรับตัวอยู่กับคน
00:02:25 → 00:02:28 อื่นอีกร่างนึงอีกร่างนึงแต่ก็ยังเป็นตัว
00:02:28 → 00:02:32 ตนเรานะแต่เป็นตัวอตที่ถูกถูกเหมือนคล้าย
00:02:32 → 00:02:35 ๆประนีประนอมหรือหาจุดพอดีให้เข้ากับการ
00:02:35 → 00:02:37 ใช้ชีวิตในสังคมและการที่อยู่ร่วมกับผู้
00:02:37 → 00:02:40 อื่นอืคือถ้าอยู่กับตัวเองอ่ะมันสามารถจะ
00:02:40 → 00:02:43 ทำอะไรทำอะไรก็ได้ไม่มีไม่มีใครตัดสินไม่
00:02:43 → 00:02:45 มีอะไรเลยคืออยากเป็นอะไรก็เป็นเงี้ยใช่
00:02:45 → 00:02:47 แต่พอเข้าไปในสังคมจะหน้าที่การงานจะ
00:02:47 → 00:02:50 เรียนจะอะไรก็แล้วแต่เนี่ยมันก็ต้องปรับ
00:02:50 → 00:02:53 ตัวมันจะปรับตัวคือจะมาเป็นตัวตนตัวเอง
00:02:53 → 00:02:55 อยู่ตลอดเวลาศูนย์กลางจักรวาลแบบนั้นไม่
00:02:55 → 00:02:58 ได้อ่าใช่ครับเออฮึอืนอกจากว่ามันจะมีจะ
00:02:58 → 00:03:00 มีความสัมพันธ์บางแบบที่เรารู้สึกว่าว่า
00:03:00 → 00:03:03 เฮ้ยฉันยังคงเป็นตัวเองเพี้ยวๆได้อะไร
00:03:03 → 00:03:05 เงี้ยฮะก็มีเหมือนกันเช่นก็คือเราอยู่กับ
00:03:05 → 00:03:07 เพื่อนอยู่กับแฟนอยู่กับใครสักคนที่รู้
00:03:07 → 00:03:09 สึกว่ายอมรับความเป็นเราแบบ 100% โดที่
00:03:09 → 00:03:11 เขาไม่ตัดสินหรือตอนให้เค้าเห็นเราเค้าก็
00:03:11 → 00:03:13 แบบไม่มีปัญหาอะไรเงี้ยครับยังมีอยู่มั้ย
00:03:13 → 00:03:17 ยมีมีอยู่แล้วครับมีผมว่าในสังคมมันจะมี
00:03:17 → 00:03:19 อยู่แล้วครับคนที่สามารถยอมรับผู้อื่นได้
00:03:19 → 00:03:22 โดยที่ไม่ตัดสินแล้วก็ Welcome ยินดีที่
00:03:22 → 00:03:25 เขาเป็นอย่างนั้นอืเออถ้าใครถ้าใครมีมิตร
00:03:25 → 00:03:27 สหายหรือมีคนในครอบครัวหรือคนรอบตัวที่มี
00:03:27 → 00:03:30 อย่างนี้ถือว่าโชคดีมากเออเพราะที่เราถูก
00:03:30 → 00:03:33 ยอมรับใช่ครับใช่มคะคือเถึงบอกว่าการถูก
00:03:33 → 00:03:36 ยอมรับเห็นคุณค่าในตัวเราเนี่ยมันมันโอเค
00:03:36 → 00:03:39 กว่าในสิ่งที่เราเป็นโดยในสิ่งที่เราเป็น
00:03:39 → 00:03:41 เลยอ่ะมันไม่ได้ต้องมานั่งปรับเพื่ออะไร
00:03:42 → 00:03:44 เพราะว่าเอ่อมันมีคำพูดเหมือนกันเนาะคุณ
00:03:44 → 00:03:47 เอิ้นเนาะว่าเราคงจะไม่สามารถจะเปลี่ยน
00:03:47 → 00:03:51 ตัวเองได้ทั้งหมด 100% ออะไรขนาดนั้นเออ
00:03:51 → 00:03:53 เพราะฉะนั้นก็เพราะมันยังไงมันยังมีความ
00:03:53 → 00:03:56 เป็นตัวเราอยู่อมันเป็นวิถีอ่ะครับคือมัน
00:03:56 → 00:03:58 เป็นวิถีการขับเคลื่อนโดยธรรมชาติของจิต
00:03:58 → 00:04:01 ใจของตัวตนของทิศทางที่ตัวเรารู้สึกว่า
00:04:01 → 00:04:03 ขยับไปทางไหนหรือว่าจิตจะขยับไปไหนอ่ะ
00:04:03 → 00:04:07 แล้วมันรู้สึกไม่ฝืนน่ะฮะผมว่าสำคัญสำคัญ
00:04:07 → 00:04:09 ของการเช็คว่าสิ่งนี้เป็นตัวตนเรามอ่ะ
00:04:09 → 00:04:12 ครับอือมันมันต้องดูที่คำว่ารู้สึกฝืน
00:04:12 → 00:04:15 หรือเปล่าหรือรู้สึกแย้งรู้สึกขัดรู้สึก
00:04:15 → 00:04:19 ฝืดอึดอัดอึดอัดอ่าหรือต้องแบบเปลี่ยน
00:04:19 → 00:04:21 อะไรเงี้ยฮะเปลี่ยนไม่ใช่ในทางที่ดีนะแต่
00:04:21 → 00:04:23 เปลี่ยนในมุมที่แบบรู้สึกว่าเพื่อเพื่อ
00:04:23 → 00:04:26 เอาใจคนอื่นแต่แบบตัวเองรู้สึกเหมือนอึด
00:04:26 → 00:04:29 อัดกว่าเดิมมันก็เชิงลบอ่ะเนาะใช่ครับการ
00:04:29 → 00:04:31 เสียความเป็นตัวเองมันมักจะเกี่ยวข้องกับ
00:04:31 → 00:04:34 เรื่องเชิงลบออมันมันจะไม่เหมือนกันจงใจ
00:04:34 → 00:04:37 เล่นละครนะอันนี้ตั้งเอ่ออันนี้อันนี้จง
00:04:37 → 00:04:39 ใจเล่นละครหรือจงใจปรับตัวเนี่ยจะเป็นการ
00:04:39 → 00:04:43 ปรับด้วยสติโดยโดยรู้ว่าเราปรับสิ่งนี้
00:04:43 → 00:04:46 ทำไมเพื่ออะไรเพื่ออะไรอาจจะมีความอึดอัด
00:04:46 → 00:04:49 บ้างแต่แต่มันจะยังรู้จักว่าตัวเองมีเส้น
00:04:49 → 00:04:52 แค่ไหนก็คือก็คือยังพอยอมรับได้ใช่ยอมรับ
00:04:52 → 00:04:54 ได้เป็นเรื่องของการเจรจาต่อรองเป็นการ
00:04:54 → 00:04:56 เทรดอ่ะครับองั้นจริงๆแล้วเรื่องของการ
00:04:57 → 00:05:00 สูญเสียความเป็นตัวเองเนี่ยหมายความว่า
00:05:00 → 00:05:01 จริงๆตัวเราอ่ะครับสมมุติผมลองเปรียบ
00:05:02 → 00:05:04 เทียบเนาะอือสมมุติการเป็นตัวเองคือ
00:05:04 → 00:05:07 ทรัพย์สินบางอย่างการที่เรายอมสูญเสีย
00:05:07 → 00:05:10 ทรัพย์สินบางอย่างแสดงว่ามันมีทรัพย์สิน
00:05:10 → 00:05:12 ชิ้นอื่นที่เราคิดว่ามีมูลค่าเหมือนกัน
00:05:12 → 00:05:16 อือเราเลยต้องไปแลกอืเรายอมแลกความเป็น
00:05:16 → 00:05:19 ตัวเองอ่ะครับเพื่อได้บางสิ่งสิ่งอือฮึ
00:05:19 → 00:05:22 แต่แต่ได้จริงมั้ยไม่รู้นะแต่ตัวเรา่ะ
00:05:22 → 00:05:26 ครับคิดว่าเราต้องยอมแลกแหละเพื่อได้บาง
00:05:26 → 00:05:29 อย่างมันมันบางอย่างอาจจะจำเป็นต้องยอม
00:05:30 → 00:05:32 แลกอ่าใช่ครับบางอย่างบางอย่างเช่นอ่ะ
00:05:32 → 00:05:34 สมมุติสมมุติจำเป็นยอมแลกเช่นตอนนี้เรา
00:05:34 → 00:05:38 แบบโอ้โหเราไม่มีงานทำเลยนะสมมติเออแล้ว
00:05:38 → 00:05:40 แบบเราต้องไปรับจ้างทำอะไรบางอย่างอาจจะ
00:05:40 → 00:05:43 โดนลูกค้ากดดันอาจจะโดนลูกค้าพูดไม่ดีแต่
00:05:44 → 00:05:47 ก็ต้องทำแต่ก็ต้องทำตัวเรารู้ดีว่าต้องมี
00:05:47 → 00:05:51 เงินกินข้าวอ่ะอือเพราะงั้นเรายอมยอมอดทน
00:05:51 → 00:05:53 โดนพูดไม่ดีอะไรช่างมันช่างมันช่างมันแต่
00:05:54 → 00:05:56 เราต้องมีเงินกินข้าว
00:05:56 → 00:05:59 อืแลกแบบหนักมากเลยนะแบบเนี้ยอใช่แต่แต่
00:05:59 → 00:06:00 ถ้าสมมติว่าว่าแบบเรามีเงินนะครับเราจะ
00:06:00 → 00:06:03 ไม่มานั่งแลกกับไอ้สิ่งเนี้ยจริงมั้จะไป
00:06:03 → 00:06:05 ยอมให้ใครด่าทำไมเออจะไปยอมด่าทำไมแต่
00:06:05 → 00:06:08 อันเนี้ยมันเป็นเหตุจำเป็นเพราะฉะนั้นการ
00:06:08 → 00:06:10 มาทำสิ่งเนี้ยครับเรายังไม่ได้เสียตัวตน
00:06:10 → 00:06:13 นะแต่แค่อาจจะรู้สึกถูกถูกดูหมิ่นได้รู้
00:06:14 → 00:06:16 สึกเจ็บปวดได้รู้สึกเหมือนเกียรติเราถูก
00:06:16 → 00:06:18 หยามอะไรเงี้ยได้แต่ตัวตนยังไม่เสียเพราะ
00:06:18 → 00:06:21 เยังรู้จักตัวเองดีพอว่าเคืออะไรก็เหมือน
00:06:21 → 00:06:24 กับรู้แหลว่าอ่ะเราต้องทำเพื่ออะไรแล้วก็
00:06:24 → 00:06:26 รู้ว่าเออสิ่งที่เพูดมาฉันไม่ได้เป็น
00:06:26 → 00:06:29 อย่างงั้นหรอกแต่เอาแล้วแต่อย่าพูดๆไป
00:06:29 → 00:06:31 ครับแต่เขจะรู้สึกโกรไม่ชอบใจได้แต่เขไม่
00:06:31 → 00:06:34 ได้เสียตัวตนถูกมยครับแต่อีกแบบนึงอสมมติ
00:06:34 → 00:06:37 ยกตัวอย่างแบบคลาสสิคมากลองนึกภาพสมัยเรา
00:06:37 → 00:06:39 เป็นเด็กๆวัยรุ่นอย่างเงี้ยฮะอือตนเราจะ
00:06:39 → 00:06:42 อยากถูกยอมรับจากกลุ่มเพื่อนอ่าใช่แล้ว
00:06:42 → 00:06:45 เราจะสังเกตว่าเพื่อนชอบอะไรหรือเพื่อนจะ
00:06:45 → 00:06:48 แบบสรรเสริญอะไรอย่างเงี้ยตัวเราก็จะ
00:06:48 → 00:06:50 พยายามกี Cool หรือเป็นอะไรบางอย่างเพื่อ
00:06:50 → 00:06:54 ให้เพื่อนรู้สึกชอบเราอืในขณะที่จริงๆตัว
00:06:54 → 00:06:56 เราอาจจะไม่ได้อยากเป็นสมมุติถ้าแบบไม่
00:06:56 → 00:06:58 เกี่ยวกับเพื่อนไม่เจอไม่ต้องเจอเพื่อน
00:06:58 → 00:07:00 เราอาจจะไม่ได้แบบอยากทำสิ่งนี้ก็ได้นะ
00:07:00 → 00:07:03 อืออะไรเงี้ยฮะแต่พอเรารู้สึกว่าตัวเรา
00:07:03 → 00:07:06 ต้องการการถูกยอมรับจากเพื่อนตัวเราอยาก
00:07:06 → 00:07:08 เป็นคนที่เป็นวเป็นใครสักคนที่เพื่อนมอง
00:07:08 → 00:07:11 เห็นค่ะเราอาจจะต้องทำอะไรบางอย่างหรือ
00:07:11 → 00:07:13 ขวนขวทำอะไรบางอย่างเพื่อให้เพื่อนเห็นอ
00:07:13 → 00:07:16 ในขณะที่จริงๆเราอาจจะไม่อยากทำสิ่งนั้น
00:07:16 → 00:07:18 อันนั้นมันอาจจะเป็นตอนในวันวัยเด็กที่
00:07:18 → 00:07:23 เราจำเป็นจะต้องแบบเพื่อให้อยู่รอดในตรง
00:07:23 → 00:07:25 นั้นได้ใช่แต่ถ้าโตขึ้นมาบางทีก็เป็น
00:07:25 → 00:07:27 เรื่องความรักก็มีนะฉันยอมเปลี่ยนตัวเอง
00:07:27 → 00:07:30 ฉันยอมสูญเสียความเป็นตัวเองเพื่อให้ผู้
00:07:30 → 00:07:33 ชายคนนี้ยอมรับในตัวฉันเออฮะเออให้ผู้ชาย
00:07:33 → 00:07:35 คนนี้ไม่ทิ้งฉันอย่างเงี้ยคือพอเปรียบกับ
00:07:35 → 00:07:38 ความรักมันเห็นชัดมากมากๆเลยนะเพราะว่า
00:07:38 → 00:07:40 เชื่อว่าหลายคนก็ยอมเปลี่ยนตัวเองหรือทำ
00:07:40 → 00:07:43 ในสิ่งที่แบบไม่คิดว่าจะทำได้มาก่อนเพื่อ
00:07:43 → 00:07:45 คนคนนึงอะไรอย่างเงี้ยเออให้ความสัมพันธ์
00:07:45 → 00:07:47 นี้มันยังอยู่ต่อให้มันจะสูญเสียความเป็น
00:07:48 → 00:07:50 ตัวตนหรือแนวความคิดที่ฉันเคยตั้งใจว่าจะ
00:07:50 → 00:07:53 ต้องอย่างงั้นอย่างงี้มาลายหายสิ้นไปก็
00:07:53 → 00:07:55 ใช่ครับแต่เรื่องนี้ต้องแยกให้ดีเพราะว่า
00:07:55 → 00:07:58 คนบางคนสูญเสียตัวตนเดิมที่ไม่ค่อยดีแล้ว
00:07:58 → 00:08:00 พัฒนาเป็นคนที่ดีขึ้นอันนี้โอเคอันนี้
00:08:00 → 00:08:02 โอเคเราเราจะใช้คำว่าสูญเสียตัวตนเนี่ย
00:08:03 → 00:08:04 ได้ไม่ค่อยฟิตเท่าไหร่ไม่ค่อยพอดีเท่า
00:08:04 → 00:08:07 ไหร่อันนั้นเรียกว่าเป็นการพัฒนาตัวตนมาก
00:08:07 → 00:08:09 กว่าอือฮึเพราะฉะนั้นเกิดการเปลี่ยนผ่าน
00:08:09 → 00:08:11 จากอันนึงเป็นอันนึงแต่ถ้าเกิดเป็นการ
00:08:11 → 00:08:14 พัฒนาตัวตนเนี่ยตัวตนเดิมที่อาจจะแบบไม่
00:08:14 → 00:08:17 ค่อยน่ารักอาจจะได้หายไปะแล้วเพัฒนาเป็น
00:08:17 → 00:08:19 คนเวอร์ชั่นที่ดีกว่าอือไอ้เวอร์ชั่นที่
00:08:19 → 00:08:21 ดีกว่าเนี่ยหมายถึงว่ามันช่วยยกระดับ
00:08:21 → 00:08:24 คุณภาพชีวิตเขาด้วยอือยกระดับความรู้สึก
00:08:24 → 00:08:27 นับถือตระเวณเาด้วยหรือยกระดับอะไรก็ตาม
00:08:27 → 00:08:29 ที่มันเป็นเรื่องของคุณภาพที่มันเป็นเชิง
00:08:29 → 00:08:32 บวกเพราะฉะนั้นการเปลี่ยนแปลงตัวตนในแบบ
00:08:32 → 00:08:34 เนี้ยครับคนที่เปลี่ยนแปลงตัวตนมักจะไม่
00:08:34 → 00:08:37 รู้สึกเป็นปัญหาอือเพราะเขาจะรู้สึกชอบ
00:08:37 → 00:08:39 ตัวเองมากขึ้นเขาจะรู้สึกนับถือตัวเองได้
00:08:39 → 00:08:41 มากขึ้นค่ะอันเนี้ยจะไม่เรียกว่าสูญเสีย
00:08:41 → 00:08:44 ตัวตนอ่าแต่ถ้าเราใช้คำสูญเสียตัวตนที่
00:08:44 → 00:08:46 เราเข้าใจกันเนี่ยครับมันคือการที่ไปทำ
00:08:46 → 00:08:49 อะไรสักอย่างแล้วชีวิตมันติดลบอ่ะอือฮึ
00:08:49 → 00:08:52 จากตัวตนที่เคยแบบสนุกกับตัวเองได้เคยแบบ
00:08:52 → 00:08:55 มีความสุขด้วยตัวเองได้กลายเป็นคนที่แบบ
00:08:55 → 00:08:58 จะสุขจะทุกข์ขึ้นกับเครู้สึกยังไงออขึ้น
00:08:58 → 00:09:00 กับคนอื่นรู้สึกรู้สึกยังไงกับเราหรือคน
00:09:00 → 00:09:03 อื่นเคปฏิบัติกับเรายังไงค่ะอย่างเงี้ยฮะ
00:09:03 → 00:09:06 พวกเนี้ยมันคือการที่ตัวเราเหมือนสูญเสีย
00:09:06 → 00:09:09 ความรู้สึกสบายใจส่วนตัวเพื่อเพื่อได้มา
00:09:09 → 00:09:11 บางสิ่งแต่กลายเป็นว่าไอ้สิ่งที่ได้มา
00:09:11 → 00:09:13 นั้นก็ไม่ได้ทำให้เราชอบตัวเองมากขึ้นเลย
00:09:13 → 00:09:16 อือแค่แค่รู้สึกเหมือนได้มาอย่างเงี้ย
00:09:16 → 00:09:18 ครับเหมือนอย่างเช่นตะกี้ที่เป็นเรื่อง
00:09:18 → 00:09:21 ความรักเราอยากจะดึงคนคนนี้ไว้เราก็เลย
00:09:21 → 00:09:23 ยอมเสียความเป็นตัวเวงบางอย่างจากคนที่
00:09:23 → 00:09:25 เคยปกป้องตัวเองเวลาถูกลบหลูกเนี่ยกลาย
00:09:25 → 00:09:28 เป็นว่าเรายอมให้เาด่าเช็ด
00:09:28 → 00:09:31 เลยมยมทำไม่ดีกับเราไปนอกใจเราก็ยอมอย่าง
00:09:31 → 00:09:33 เงี้ยฮอ่าโดนทุบตีโดนทำร้ายอะไรอย่าง
00:09:33 → 00:09:35 เงี้ยเนาะเออใช่ครับมันเลยกายเป็นว่าการ
00:09:35 → 00:09:39 การรู้สึกเคารพตัวเองมันก็หายไปด้วยอืไอ้
00:09:39 → 00:09:41 พวกนี้แหละคือการสูญเสียตัวตนที่เรากำลัง
00:09:41 → 00:09:44 พูดถึงค่ะอ่าซึ่งมันไม่ได้ช่วยให้เรามี
00:09:44 → 00:09:46 ความสุขขึ้นเลยอือฮึแล้วอย่างเรื่องของ
00:09:46 → 00:09:49 การทำงานอย่างเงี้ยในบางระบบอ่ะเนาะมันก็
00:09:49 → 00:09:52 ต้องแบบว่าเอ่อพี่น่อพี่เทาพะเน้าพนออะไร
00:09:52 → 00:09:54 อย่างเงี้เนาะมันก็สูญเสียตัวตนได้เหมือน
00:09:55 → 00:09:56 กันนะทั้งถ้าเกิดว่าตัวเองถ้านานถ้านาน
00:09:56 → 00:09:59 เกินไปก็ไม่ค่อยดีครับเอออุดมการณ์อาจจะ
00:09:59 → 00:10:01 มีอยู่แต่อุดมการณ์เค้าก็บอกว่ากินไม่ได้
00:10:01 → 00:10:03 อยู่ดีอใช่มั้ยคะมันก็เลยทำให้ต้องสูญ
00:10:03 → 00:10:06 เสียตัวตนไปเพื่ออครับการบางอย่างอันนี้
00:10:06 → 00:10:09 อาจจะเรียกว่าสูนเสียอุดมการณ์ก็ได้ออเออ
00:10:09 → 00:10:10 เพราะว่าอุดมการณ์บางครั้งมันคือการที่
00:10:10 → 00:10:12 เราเชื่อมั่นในบางสิ่งเนาะแล้วก็เห็นว่า
00:10:12 → 00:10:15 สิ่งนี้น่าจะเป็นสิ่งที่ดีงามทีนี้พอเรา
00:10:15 → 00:10:18 อยู่กับระบบบางระบบบางระบบที่เรารู้กัน
00:10:18 → 00:10:23 หันหน้ามองตารู้กันเงี้ยเราก็อาจจะรู้สึก
00:10:23 → 00:10:26 ว่าสุดท้ายเนาะอุดมการณ์ไม่ได้ช่วยให้เรา
00:10:26 → 00:10:29 มีกินอืแล้วคนอื่นที่มันพูดให้เราค่ำเข้ม
00:10:29 → 00:10:31 ค่ำเคร่งในอุดมการณ์มันก็ไม่ได้มายื่นมือ
00:10:31 → 00:10:34 ช่วยเราเออสุดท้ายเราอาจจะต้องเป็นคนที่
00:10:34 → 00:10:38 พึ่งตัวเองอืเพราะงั้นช่างอุดมการณ์เถอะ
00:10:38 → 00:10:40 อันนี้ก็อาจจะคล้ายๆเสียอุดมการณ์บาง
00:10:40 → 00:10:43 อย่างเสียเสียคุณค่าบางอย่างที่เราเคยให้
00:10:43 → 00:10:45 มันก็กลายเป็นคนที่ยอมแลกอ่ะครับทั้งช่าง
00:10:45 → 00:10:48 มันเริ่มแบบกลายเป็นคนปล่อยปะละเลยเริ่ม
00:10:48 → 00:10:49 เป็นคนที่แบบไม่ค่ำเข่งกับเรื่องกฎ
00:10:49 → 00:10:51 ระเบียบหรือความยุติธรรมก็คือช่างมันหลับ
00:10:51 → 00:10:55 ตาข้างนึงแต่ถ้าคนบางคนที่แบบว่ามีความ
00:10:55 → 00:10:58 เป็นตัวตนสูงสูงสูงมากสูงริ่วอย่างเงี้ยอ
00:10:58 → 00:11:01 ครับการสูญเสียตัวตนของเาเนี่ยระดับเวล
00:11:01 → 00:11:03 หรืออะไรอย่างเงี้ยมันอย่างๆถ้าเป็นคน
00:11:03 → 00:11:06 ปกติทั่วไปสูญเสียตัวตนมันก็เริ่มรู้สึก
00:11:06 → 00:11:09 และแต่บางคนที่แบบโอ้โหเยอะๆนเป็นคนเสียว
00:11:09 → 00:11:14 จัดมั่นใจี่ละฮะน่าจะแบบไม่ยอมสูญเสียตัว
00:11:14 → 00:11:17 ตนง่ายๆใช่ครับทีนี้ทีนี้เรื่องการการสวน
00:11:17 → 00:11:20 เสียตัวตนมันเป็นเรื่องของทางเลือกบางที
00:11:20 → 00:11:22 คนที่แข็งจัดตะกี้เาอาจจะเลือกที่จะไม่
00:11:22 → 00:11:25 สวนเสียตัวตนก็ได้อืทีนี้คำว่าแข็งจัดก็
00:11:25 → 00:11:27 มีหลายแบบครับแข็งจัดแบบมั่นใจตัวเองสูง
00:11:27 → 00:11:29 เกินเหตุกับเป็นคนที่ให้น้ำหนักกับความ
00:11:30 → 00:11:32 เป็นตัวเองสูงมากบางทีคนที่ให้น้ำหนักกับ
00:11:32 → 00:11:34 ความเป็นตัวเองสูงมากอ่ะครับเค้าอาจจะ
00:11:34 → 00:11:36 เลือกไม่ประนีประนอมก็ได้อือเค้าอาจจะ
00:11:36 → 00:11:38 เลือกพาตัวเองออกจากสภาพแวดล้อมที่ทำให้
00:11:38 → 00:11:41 เขาเสียตัวตนก็ได้ไม่ยอมฉันไม่ยอมสูญเสีย
00:11:41 → 00:11:43 ตัวตนแน่นอนอยอมยอมเช่นเช่นรู้สึกว่าถ้า
00:11:43 → 00:11:45 เกิดไปทำงานแล้วเจอคนกลุ่มนี้ที่มันกำลัง
00:11:45 → 00:11:47 จะแบบทำให้เราเปลี่ยนเป็นคนที่เราไม่ชอบ
00:11:47 → 00:11:50 ตัวเองเราอาจจะเลือกที่จะไม่ลดลาวาสอกก็
00:11:50 → 00:11:53 ได้ไม่ต่อรองขอลาออกดีกว่าอื้อหือมันก็มี
00:11:53 → 00:11:54 คนที่เลือกจะรักษาอุดมการณ์กับตัวเอง
00:11:55 → 00:11:56 อย่างนั้นไว้เหมือนกันเพราะงั้นเรื่อง
00:11:56 → 00:11:59 เนี้ยครับมันไม่มีผิดไม่มีถูกมันแล้วแต่
00:11:59 → 00:12:01 แต่ว่าบริบทหน้างานตรงนั้นน่ะใครเจออะไร
00:12:01 → 00:12:04 และอะไรจำเป็นอะไรสำคัญนะเบ้างอืหรือบาง
00:12:04 → 00:12:06 คนอาจจะบอกว่าโธ่ไม่ต้องแบบเค้าเรียกอะไร
00:12:07 → 00:12:09 ก็ผ่อนๆลงมาบ้างหรืออะไรเงี้มันก็จะทำไป
00:12:09 → 00:12:13 ทำให้เขาแบบความเป็นสูญเสียตัวตนไปในตาม
00:12:13 → 00:12:16 คำบ้างสุดท้ายชีวิตทุกอย่างมันคือการ
00:12:16 → 00:12:19 ประนีประนอมอ่ะคือคือถ้าคุณมีพื้นที่ที่
00:12:19 → 00:12:21 คุณตัวเองเป็นตัวเองสุดๆได้โดยที่ไม่ต้อง
00:12:21 → 00:12:23 เปลี่ยนอ่ะแล้วแล้วถ้าเกิดสิ่งที่คุณเป็น
00:12:23 → 00:12:26 มันไม่ได้เป็นภัยกับใครนะเป็นไปเถอะผมคิด
00:12:26 → 00:12:29 ว่ามันไม่ใช่ปัญหาครับคือถ้าถ้าความเป็น
00:12:29 → 00:12:32 ตัวเองของเราไม่ทำร้ายใครเลยและตัวเรามี
00:12:32 → 00:12:36 ทางเลือกที่จะมีพื้นที่นั้นเป็นไปเถอะอื
00:12:36 → 00:12:39 อืน่าสนใจตรงที่ว่าถ้าเรามีพื้นที่ตรง
00:12:39 → 00:12:43 นั้นครับถ้ามีถ้ามีไงถ้ามีอย่างเช่นอ่ะ
00:12:43 → 00:12:45 สมมุติอ่ะผมยกเรื่องตัวเองก็
00:12:45 → 00:12:49 ได้ผมผมเนี่ยอาจจะแบบเมื่อก่อนเนาะตอนเรา
00:12:49 → 00:12:51 เรียนเรียนมาถึงปเอกเงี้ยครับเราคิดว่า
00:12:51 → 00:12:53 เราอยากเป็นอาจารย์อะไรเงี้ยฮะความเป็น
00:12:53 → 00:12:55 อาจารย์เนี่ยโดยโดยเนื้อเนี่ยเรารู้สึก
00:12:55 → 00:12:58 เราอยากเป็นผู้ถ่ายทอดอ่ะใช้คำนี้การจะ
00:12:58 → 00:13:00 เป็นอาจารย์เพราะเราอยากเป็นผู้ถ่ายทอด
00:13:00 → 00:13:02 ความรู้ที่เราเข้าถึงมาเรื่องเกี่ยวกับ
00:13:02 → 00:13:04 จิตจิตวิทยาการใช้ชีวิตอย่างเงี้ยครับถ้า
00:13:04 → 00:13:07 ถ่ายทอดให้นักศึกษาได้รู้เ้าก็จะได้ไม่
00:13:07 → 00:13:09 ต้องมานั่งงมชีวิตที่แบบงงๆๆแล้วก็มี
00:13:09 → 00:13:12 ปัญหาชีวิตกันอือถ้าเราได้มีวิชาบางอย่าง
00:13:12 → 00:13:13 ที่สอนเขาได้อย่างเงี้ยครับเา้าก็น่าจะ
00:13:14 → 00:13:15 แบบไม่ต้องเจอปัญหาชีวิตเยอะนี่คือ
00:13:15 → 00:13:20 อุดมการณ์เนาะทีเนี้ยพอยุคสมัยเปลี่ยนไป
00:13:20 → 00:13:22 มหาวิทยาลัยก็ไม่ใช่ไม่ใช่อยู่ในระบบและ
00:13:22 → 00:13:25 เป็นออกนอกระบบก็จะเป็นเหมือนอะไรนะ
00:13:25 → 00:13:27 พนักงานมหาวิทยาลัยถูกมั้ยฮะจะไม่ได้เป็น
00:13:27 → 00:13:30 ข้าราชการอาจารย์อือ่าทีนี้พอมหาวิทยาลัย
00:13:30 → 00:13:33 เกิดการแข่งขันด้วยมหาวิยาลัยนี้อยู่
00:13:33 → 00:13:35 อันดับนี้อันดับโน้นอ๋อมีการวัดระดับอ่า
00:13:35 → 00:13:37 แล้วก็จะมีเรื่องของการให้อาจารย์อย่าง
00:13:37 → 00:13:41 เงี้ยครับต้องทำผลงานวิจัยแต่งตำราอ่ะ
00:13:41 → 00:13:44 อื่นๆมากกว่านั้นที่เราทราบกันคือมันก็จะ
00:13:44 → 00:13:46 มีเรื่องการเมืองภายในอยู่บ้างอือๆเนี่ย
00:13:47 → 00:13:48 ฮะบางครั้งก็จะมีแบบอาจารย์ฝั่งนี้
00:13:48 → 00:13:51 อาจารย์ฝั่งนั้นอาวุโสคนนี้คนนั้นใครเด็ก
00:13:51 → 00:13:53 ใครใครซุ้มใครอย่างเงี้ยฮะอเอซึ่งแบบ
00:13:53 → 00:13:56 โอ้โหมันน่าปวดหัวเหมือนกันนะใช่ๆถูกมั้ย
00:13:56 → 00:13:59 ฮะทีเนี้ยพอพอด้วยความที่เรารู้จากตัวเอง
00:13:59 → 00:14:02 ประมาณนึงว่าตัวเราเนี่ยเหมือนสไตล์
00:14:02 → 00:14:05 อาร์ติสอ่ะเราไม่ค่อยชอบแบบเป็นคนอื่น
00:14:05 → 00:14:07 หรือทำตามที่คนอื่นบอกหรือต้องไปอยู่ซุ้ม
00:14:07 → 00:14:09 ใครใช่ไม่อยากอยู่ซุ้มใครคือเราแค่อยาก
00:14:09 → 00:14:12 เป็นตัวเองเฉยๆอ่ะแต่แต่ในสนามการทำงาน
00:14:12 → 00:14:16 นั้นนครับมันไม่อนุญาตให้เราแบบอิสระอื
00:14:16 → 00:14:18 สุดท้ายถ้าคุณจะอยู่อ่ะครับมันก็ต้องมี
00:14:18 → 00:14:20 ซุ้มใครสักคนน่ะเพราะว่าไม่ไม่อยู่ซุ้ม
00:14:20 → 00:14:23 ไม่ได้อ่าเออแล้วมันอาจจะมีผลต่อการ
00:14:23 → 00:14:26 ประเมินต่อสัญญาด้วยอ่าใช่หรือความอยู่
00:14:26 → 00:14:30 แบบอยู่แบบคล้ายๆว่าไม่มีปัญหาทำไมเราใจ
00:14:30 → 00:14:33 ผมว่าหลายวงการเจอหมดนะฮะมันคล้ายๆกันเอ
00:14:33 → 00:14:36 มีมันมีการเมืองอยู่ในทุกวงการใช่ครับแค่
00:14:36 → 00:14:38 ชื่ออาชีพมันเปลี่ยนไปแต่แต่ความแบบความ
00:14:38 → 00:14:41 เป็นมนุษย์ไม่ได้ต่างจากเดิมถูกต้องอะไร
00:14:41 → 00:14:44 เงี้ยฮะเพราะฉะนั้นผมผมเลยรู้สึกว่าแบบอื
00:14:44 → 00:14:46 ถ้าเราเป็นอาจารย์วนเงื่อนไขนี้นะเราซึม
00:14:46 → 00:14:49 เศร้าแน่เลยเออเราก็จะสูญเสียความเป็นตัว
00:14:49 → 00:14:51 เองความตั้งใจอุดมการณ์ตั้งแต่ตอนแรกที่
00:14:51 → 00:14:55 เราต้องการถ่ายทอดความรู้ให้ให้คนที่
00:14:55 → 00:14:57 มาเรียนนักศึกษาอะไรพวกเนี้ยเได้สามารถ
00:14:57 → 00:14:59 เอาไปใช้ในชีวิตแล้วเไม่ต้องต้องแบบใช่
00:14:59 → 00:15:01 ครับแล้วมากกว่านั้นคือจริงๆพาระพาระงาน
00:15:01 → 00:15:04 นะครับของการเป็นอาจารย์ไม่ได้มีแค่สอนนะ
00:15:04 → 00:15:06 อือสอนอาจจะเป็นแค่ 1 อย่างต้องประเมิน
00:15:06 → 00:15:08 ต้องมีงานวิจอีกประมาณ 10 20 อย่างคือ
00:15:08 → 00:15:12 อย่างอื่นอย่าเงี้เหนื่อยนะเอาแค่นี้ก็
00:15:12 → 00:15:14 เหนื่อยแล้วยังต้องไปแบบฉันต้องไปอยู่
00:15:14 → 00:15:17 ซุ้มนั้นซุ้มนี้หรือถ้าเกิดว่าอยู่ซุ้ม
00:15:17 → 00:15:20 ถูกฉันก็รอดแต่ถ้าซุ้มไม่ถูกฉันก็มันต้อง
00:15:21 → 00:15:23 มาแขวนอยู่บนเส้นได้ดอะไรกับพวกใช่ครับ
00:15:23 → 00:15:25 แล้วสุดท้ายตัวเราก็ต้องคล้อยตามแนวคิด
00:15:25 → 00:15:27 ของผู้ใหญ่ท่านอื่นหรืออาจะเป็นคนอื่นที่
00:15:27 → 00:15:30 เขามีความความแข็งทางความคิดิดมากกว่าอือ
00:15:30 → 00:15:32 ตัวเราก็จะสวนเสียความเป็นตัวเองเหมือน
00:15:32 → 00:15:34 กันเพราะเราไม่สามารถปฏิบัติหรือทำอะไร
00:15:34 → 00:15:36 ตามที่เรารู้สึกอยากจะทำได้อือมันเลยต้อง
00:15:36 → 00:15:39 ยอมมาครับเพราะงั้นรู้รู้เลยว่าเราน่าจะ
00:15:39 → 00:15:41 ต้องเสียพื้นที่ในการเป็นตัวเองแน่นอน
00:15:41 → 00:15:44 เพื่อเพื่อแค่อยู่รอดในการทำงานออฮะก็เลย
00:15:44 → 00:15:47 ตัดสินใจเปิดอิสระเลยไม่ไม่ไม่ทำงาน
00:15:47 → 00:15:50 อาจารย์ะไม่เป็นอาจารย์ก็ได้แต่ตัดสินใจ
00:15:50 → 00:15:51 ว่างั้นเราเปิดเป็นหน่วยบริการของเรา
00:15:51 → 00:15:53 อิสระแล้วกันโดยที่ไม่ต้องมีเพื่อนร่วม
00:15:53 → 00:15:56 งานหมายถึงก็ยังอยู่ในองค์กรนั้นมั้ยหรือ
00:15:56 → 00:15:59 ว่าออกมาผมอิระส้างออกมาแล้วออกมาแล้วใช่
00:15:59 → 00:16:00 ครับไม่ไม่ได้ออกด้วยเพราะว่าไม่เคยเข้า
00:16:00 → 00:16:02 ไปอ๋อยังไม่เข้าไปไม่เคยเข้าไปเกือบจะ
00:16:02 → 00:16:05 เข้าไปแล้วเกือบจะแต่เห็นก่อนว่าแต่รู้
00:16:05 → 00:16:08 สึกได้ว่าถ้าเกิดเราเรียนจบปึ๊บแล้วเข้า
00:16:08 → 00:16:11 ไปอยู่ในระบบประมาณเนี้ยเราเศร้าแน่เลย
00:16:11 → 00:16:13 อย่างเงี้ยนะเพราะงั้นเหมือนที่ผมพูดตอน
00:16:13 → 00:16:16 ต้นว่าถ้าตัวเรามีทางเลือกและการเป็นตัว
00:16:16 → 00:16:20 เองไม่ได้สร้างปัญหาให้ใครอือทำเลยมีพื้น
00:16:20 → 00:16:23 ที่คุณทำเลยเพราะงั้นผมก็เลยเป็นนักจิตคน
00:16:23 → 00:16:26 เดียวที่ทำอิสระเนี่ยถูกมั้ยฮะไม่มีเพื่อ
00:16:26 → 00:16:28 ร่วมงานเพราะฉะนั้นไอเดียผมในการทำเคส
00:16:28 → 00:16:30 หรือว่าในการรับงานเงี้ยครับมันคือไอเดีย
00:16:31 → 00:16:33 ผมและมันไม่ได้สร้างปัญหาให้ใครไม่ต้อง
00:16:33 → 00:16:35 ขึ้นตรงกับใครไม่ต้องไปแบบว่าอะไรใครด้วย
00:16:35 → 00:16:38 เอตรการจะเปลี่ยนใจทำอะไรไม่ทำอะไรเนี่ย
00:16:38 → 00:16:40 ครับมันไม่กระทบใครเลยอือมันกระทบผมคน
00:16:40 → 00:16:43 เดียวนี่แหละเพราะงั้นผมจะเป็นผู้เลือกอื
00:16:43 → 00:16:45 พอเลือกได้ปึ๊บมันก็ไม่สร้างปัญหาให้ใคร
00:16:46 → 00:16:48 แล้วมัน Impact กับเราคนเดียวค่ะแล้วผมก็
00:16:48 → 00:16:50 ได้สร้างพื้นที่ที่แบบมันก็สร้างประโยชน์
00:16:50 → 00:16:52 ได้ต่อเพราะงั้นผมก็จะไม่ยึดติดแล้วว่า
00:16:52 → 00:16:54 การเป็นอาจารย์จะต้องเข้าคลาสต้องมีนัก
00:16:54 → 00:16:56 ศึกษาใส่ชุดนักศึกษาเท่านั้นมาเรียนแต่
00:16:57 → 00:17:00 การเป็นนักศึกษาหมายถึงผู้ใดก็ได้ก็ได้
00:17:00 → 00:17:03 ที่มีจิตใจพร้อมจะเรียนรู้ผู้นั้นเป็นนัก
00:17:03 → 00:17:06 เรียนได้หมดออือฮึไม่ต้องเป็นเด็กอายุ 18
00:17:06 → 00:17:09 19 20 นักศึกษาก็ได้ตั้งแต่เด็กปฐม
00:17:09 → 00:17:11 มัธยมมหาวิลัยได้หมดหรือเป็นคนอายุมากๆ
00:17:11 → 00:17:13 ที่เขามีความพร้อมจะเรียนรู้เรื่องจิต
00:17:13 → 00:17:15 วิทยาคนกลุ่มนี้สามารถเป็นนักเรียนของเรา
00:17:15 → 00:17:18 ได้หมดอือืและเราไม่จำเป็นต้องอยู่ในคลาส
00:17:18 → 00:17:21 เราสามารถใช้คลาสออนไลน์ก็ได้เป็น Zoom
00:17:21 → 00:17:24 เป็นแบบเอ่อเป็นไลฟอะไรอย่าเงี้ยก็ได้
00:17:24 → 00:17:26 หรือถ้าเป็นองค์กรเเชิญเราไปบรรยายคน
00:17:26 → 00:17:28 กลุ่มนั้นก็สามารถเป็นผู้เรียนของเราได้
00:17:28 → 00:17:31 อืเนี่ยฮเพราะฉะนั้นผมเลยมองในจุดนี้ว่า
00:17:31 → 00:17:35 เฮ้ยเราก็มีพื้นที่ที่สามารถสร้างได้และ
00:17:35 → 00:17:37 ยังคงเป็นตัวเองได้เต็มที่แล้วไม่กระทบ
00:17:37 → 00:17:40 ใครแล้วก็ยังคงสร้างประโยชน์ได้มันก็เป็น
00:17:40 → 00:17:42 การพัฒนาตัวตนให้ตัวเองแบบต่อยอดจากจาก
00:17:42 → 00:17:45 จุดที่ตัวเองเป็นอือแล้วก็เป็นคนที่ดี
00:17:45 → 00:17:47 ขึ้นได้อีกในขอบเขตงานที่เราสร้างอย่าง
00:17:47 → 00:17:49 เงี้ยครับแต่ทุกแต่ทุกคนก็ไม่สามารถจะ
00:17:49 → 00:17:51 เป็นอย่างที่เอิ้นเป็นได้เพราะว่าบางคน
00:17:51 → 00:17:54 คือโอเคเราอยากจะออกมาเป็นแบบ Freedom
00:17:54 → 00:17:57 แบบอิสระแบบเนี้ยแต่พอถึงเวลาพอมาเผชิญ
00:17:57 → 00:17:59 ความเป็นจริงเฮ้ยมันไปไปไม่ถึงว่ะมันไป
00:17:59 → 00:18:02 ไม่ได้เว้ยมันติดนู่นนี่นั่นหรือมันแม้
00:18:02 → 00:18:04 กระทั่งจะก้าวเดินไปก้าวแรกยังทำไม่ได้
00:18:04 → 00:18:06 เลยเงี้ยมันอาจจะต้องกลับไปอยู่ในวังบน
00:18:06 → 00:18:09 ระบบหรืออาจจะแบบใช่ครับเป็นไปได้เป็นไป
00:18:09 → 00:18:11 ได้เี่ยนไปเลยทีนี้ทีนี้ก่อนจะเข้าระบบนะ
00:18:11 → 00:18:13 ครับผมต้องบอกว่าจริงๆคนเรามันจะมีช่วง
00:18:13 → 00:18:16 ก่อนจะเข้าระบบถูกมยมันไม่ได้จุดๆปุ๊บปั๊
00:18:16 → 00:18:17 เกิดมาเข้าระบบ
00:18:18 → 00:18:21 เลยนอกจากว่าเกิดมาเป็นคนไทยนะเปิดปุ๊บ
00:18:21 → 00:18:23 เกิดในประเทศไหนก็เข้าระบบเลยเอออันนี้
00:18:23 → 00:18:25 เราอาจจะต่อรองไม่ได้เพราะว่าเกิดแล้ว
00:18:25 → 00:18:27 เป็นเลยถูกมั้ยฮะแต่ในชีวิตจริงมันจะมี
00:18:27 → 00:18:30 บางอันที่ก่อนจะเข้าระบบก่อนผมจะเข้าไป
00:18:31 → 00:18:33 เรียนปริญญาตรีก่อนผมจะเป็นนักจิตวิทยา
00:18:33 → 00:18:35 ก่อนพี่รีจะแบบเป็นตำรวจอะไรเงี้ยฮะหรือ
00:18:35 → 00:18:38 ทุกๆคนก่อนจะทำอาชีพใดอาชีพหนึ่งมันจะมี
00:18:38 → 00:18:40 ช่วงก่อนจะเข้าสู่วางบนนั้นอ่าฮะทีนี้
00:18:40 → 00:18:43 ประเด็นคือตัวเรา่ะครับมองภาพได้ไกลแค่
00:18:43 → 00:18:47 ไหนถ้าเรายิ่งมองภาพได้ไกลไว้ก่อนบาง
00:18:47 → 00:18:49 อย่างเราจะเตรียมตัวไว้ก่อนที่จะเกิดเหตุ
00:18:49 → 00:18:53 การณ์นั้นอีกอืก่อนที่จะเข้าระบบถูกมั้ย
00:18:53 → 00:18:56 ฮะทีนี้พอหลายๆคนนะครับไม่ทันได้มองว่า
00:18:56 → 00:18:59 มันกำลังจะเกิดขึ้นอะไรในอนาคตเราก็เลย
00:18:59 → 00:19:02 ปล่อยตัวเองไหลแล้วก็เข้าระบบไปเลยอ่าโดย
00:19:02 → 00:19:04 ที่ไม่มีโอกาสได้ช้างทางเลือกให้ตัวเอง
00:19:04 → 00:19:07 ค่ะทีเนี้ยอาจอย่างตะกี้ผมเล่าเรื่องที่
00:19:07 → 00:19:10 ทำของตัวเองเนาะเอ่อพอเรียนจบปึ๊บมันเป็น
00:19:10 → 00:19:12 เรื่องของการต้องทำอาชีพแล้วถูกมั้ยครับ
00:19:12 → 00:19:15 ทีเนี้ยตอนนั้นผมยังอยู่บนทางทางแยก 2
00:19:15 → 00:19:18 ทางระหว่างเข้าระบบไปเลยเป็นอาจารย์ไปเลย
00:19:18 → 00:19:21 ค่ะกับอันที่ 2 ขอลองทำอิสระก่อนอือฮะอ่า
00:19:21 → 00:19:23 ตรงเนี้ยครับมันเลยเป็นจุดที่เรียกว่า
00:19:23 → 00:19:25 บัฟเฟอร์หรือเป็นจุดขั้นก่อนจะเข้าระบบ
00:19:25 → 00:19:30 อ๋อซึ่งซึผมเลยบอกตัวเองว่าผมมีเวลาทดสอบ
00:19:30 → 00:19:33 ถนนเส้นใหม่ที่ผมตัดเองเนี่ยแค่ 1 ปี
00:19:33 → 00:19:36 เพราะถ้า 1 ปีเจ๊งคือเงินหมดแล้วก็จะได้
00:19:36 → 00:19:38 เป็นอาจาร์คือคือเรามีลิมิตไว้ของเราไม่
00:19:39 → 00:19:41 ใช่ว่าปล่อยไปตามไปเรื่อยเปื่อยขนาดนั้น
00:19:41 → 00:19:44 อืใช่ซึ่งซึ่งก่อนจะเข้าระบบผมเลยคุยกับ
00:19:44 → 00:19:47 กับพ่อแม่เนาะว่าเนี่ยมันมีแนวคิดของการ
00:19:47 → 00:19:49 ที่แบบเราสร้างเองได้เพราะต่างประเทศก็ทำ
00:19:49 → 00:19:52 เยอะครับแต่คนไทยเหมือนจุดนั้นนักจิต
00:19:52 → 00:19:53 วิทยาอาจจะยังไม่ได้มีความเข้าใจเรื่อง
00:19:53 → 00:19:56 เกี่ยวกับตลาดหรือว่าอาจจะเป็นเรื่องความ
00:19:56 → 00:19:59 มั่นใจในการจะเปิดเองเงี้ยครับอืทีนี้พอ
00:19:59 → 00:20:01 พอผมรู้สึกว่าเฮ้ยมันน่าลองอืก็เลยก็เลย
00:20:01 → 00:20:04 ตัดสินใจว่าลองสร้างดูแล้วกลายเป็นว่า
00:20:04 → 00:20:07 เฮ้ยมันมันไปได้มันเลยกลายเป็นว่าไอ้ช่วง
00:20:07 → 00:20:09 ก่อนจะเข้าระบบเนี่ยผมก็ได้สร้างถนนเส้น
00:20:09 → 00:20:12 อื่นแยกไปก่อนแล้วดันโชคดีว่าถนนเส้น
00:20:12 → 00:20:14 เนี้ยไปได้ผมก็เลยไม่ต้องวิ่งเข้าระบบอ
00:20:14 → 00:20:17 แต่แต่เหมือนที่ผมบอกอ่ะครับว่าจริงๆแล้ว
00:20:17 → 00:20:19 อ่ะถ้างานนี้ไม่รอดอ่ะผมเลี้ยวกลับมาใน
00:20:19 → 00:20:22 ระบบก็ได้แน่นอนเออทีนี้ถ้าคนเรามีทาง
00:20:22 → 00:20:25 เลือกใช้คำนี้ครับถ้าคนเรารู้อนาคตว่าจะ
00:20:25 → 00:20:27 เกิดอะไรขึ้นและเราพอจะเห็นว่าตัวเรามี
00:20:27 → 00:20:30 ทรัพยากรบางอย่างที่สร้างทางเลือกได้อือ
00:20:30 → 00:20:34 ผมแนะนำให้สร้างก่อนอืแต่ถ้าเกิดตอนนี้
00:20:34 → 00:20:36 ไม่มีต้นทุนไม่มีอะไรเลยนะครับมันต้องคิด
00:20:36 → 00:20:39 เป็นกลยุทธ์ว่าเราจะเข้าระบบไปนานแค่ไหน
00:20:40 → 00:20:42 เพื่อเก็บวัตถุดิบต้นทุนให้มากพอจะไป
00:20:42 → 00:20:45 สร้างถนนเองอืเพราะว่าจริงๆมันก็อาจจะยัง
00:20:45 → 00:20:48 มีอีกหลายคนนะที่บางทีก็ต้องเข้าสู่ระบบ
00:20:48 → 00:20:50 หรือว่าในเออเข้าแล้วก็ไปสร้างตัวตนใน
00:20:50 → 00:20:53 นั้นพอมันมีตัวตนปุ๊บมันจะมีทางเลือกอื่น
00:20:53 → 00:20:55 ออกมาให้เราได้เห็นเพราะว่าตอนแรกอ่ะอาจ
00:20:55 → 00:20:58 จะยังไม่ได้มีใครมองได้ได้ไกลที่เอินมอง
00:20:58 → 00:21:00 อ่ะเอิ้นอาจจะเรียนเรื่องจิวิยามาเรื่อง
00:21:00 → 00:21:02 อะไรอย่างเงี้ยใช่มั้ยอาจจะมองได้ได้มาก
00:21:02 → 00:21:05 กว่าในคนอื่นจริงๆตัวผมโดยพื้นฐานไม่ได้
00:21:05 → 00:21:08 มองไกลนะแต่แต่ผมคิดว่าระหว่างที่เรียนนะ
00:21:08 → 00:21:10 ครับด้วยความที่อาชีพเรามีโอกาสได้ฟัง
00:21:10 → 00:21:13 ชีวิตคนเยอะอืมันเลยมีหลายอย่างที่เราพอ
00:21:13 → 00:21:16 นั่งฟังทั้งูปชีวิตเค้าอ่ะครับเราจะเห็น
00:21:16 → 00:21:18 เลยว่าโอถ้าไอ้ช็อตเนี้ยถ้าเขาคไม่ตัดสิน
00:21:18 → 00:21:20 ใจอย่างนี้นะชีวิตไม่เป็นอย่างนี้เลยมัน
00:21:20 → 00:21:22 คือเหมือนกับได้ดึงประสบการณ์คนอื่นมา
00:21:22 → 00:21:24 เพื่อมาให้เราแบบคิดว่าเอ้ยจริงๆมันมีทาง
00:21:24 → 00:21:27 คอ่นใช่ครับเออแล้วพอเราได้ฟังเยอะๆเราจะ
00:21:27 → 00:21:30 เห็นตัวอย่างของหลายๆคนที่แบบเข้าไปเข้า
00:21:30 → 00:21:33 ไปแบบถลำเข้าไปอ่ะแล้วไม่มีทางออกสูญเสีย
00:21:33 → 00:21:35 ความเป็นตัวตนใช่ครับเข้าไปแล้วมันเงื่อน
00:21:35 → 00:21:37 ไขมันมันรัดตัวทำให้แบบไม่สามารถออกได้
00:21:37 → 00:21:39 อือพอเราเห็นชีวิตคนอื่นเป็นตัวแบบแล้ว
00:21:39 → 00:21:41 อ่ะครับมันเลยเป็นจุดที่ย้อนกลับมาถามตัว
00:21:42 → 00:21:44 เองว่าตัวเรากำลังจะเข้าไปในแพทเทิร์น
00:21:44 → 00:21:47 เดียวกับเค้ายนะอืแล้วตัวเรามีทางเลือก
00:21:47 → 00:21:48 อะไรบ้างนะเพื่อให้เราไม่ต้องเป็น
00:21:48 → 00:21:51 แพทเทิร์นเดียวกับคนอื่นโอหเพราะงั้น
00:21:51 → 00:21:53 เพราะงั้นทุกๆชีวิตนะครับจะมีเคสให้เรา
00:21:53 → 00:21:56 เรียนรู้เสมอแล้วแล้วเอามาคิดกับตัวเอง
00:21:56 → 00:21:59 ว่าเราจะไม่เป็นเเสได้ยังไงไอ้ตรงเนี้ย
00:21:59 → 00:22:01 ครับมันก็จะสร้างความเข้าใจบางอย่างขึ้น
00:22:01 → 00:22:03 มาในเชิงเทคนิคการใช้ชีวิตอย่างมีกลยุทธ์
00:22:03 → 00:22:06 อืตรงเนี้ยมันถึงจะเป็นส่วนที่เอ่อเรียก
00:22:06 → 00:22:09 ว่าเอาไปช่วยให้คนอื่นสามารถคิดคิดวางแผน
00:22:09 → 00:22:12 อนาคตหรือมองเเรียกว่าทำนายอนาคตล่วงหน้า
00:22:12 → 00:22:14 ว่าถ้าไปทางนี้เจออะไรอะไรเงี้ยฮะแต่ที
00:22:14 → 00:22:16 เนี้ยต้องบอกว่ากว่าจะคิดได้ผมคิดได้
00:22:16 → 00:22:20 ประมาณ 28-29 เลยนะอืประมาณ 2930 อ่ะครับ
00:22:20 → 00:22:22 เพราะว่ามันเป็นช่วงที่ผมเรียนตีโทเอกยาว
00:22:22 → 00:22:24 มากยาวเลยยังไม่เคยได้ทดลองออกมาทำงานใช่
00:22:24 → 00:22:26 มั้ยอยวยแล้วแล้วเดิมผมก็คิดว่าจะเข้า
00:22:26 → 00:22:29 ระบบนี่แหละอือฮึเออแต่กลายเป็นว่าพอใกล้
00:22:29 → 00:22:31 ๆปลายๆที่จะต้องทำอาชีพแล้วเงี้ยครับมัน
00:22:31 → 00:22:34 เริ่มเกิดการฉุกคิดว่าจะเข้าไปจริงๆดิไม่
00:22:34 → 00:22:36 ได้บอกอาชีพอาจารย์ไม่ดีนะแต่แค่กำลังพูด
00:22:37 → 00:22:40 ว่าในความเป็นตัวตนผมอ่ะครับมันจะมีพื้น
00:22:40 → 00:22:42 ที่เฉพาะที่เหมาะกับตัวเองอยู่อืเออมัน
00:22:42 → 00:22:44 ไม่ได้หมายความว่าความเป็นผมจะไปอยู่ทุก
00:22:44 → 00:22:47 ที่ได้หมดแต่มันจะมีพื้นที่ที่แบบเราไม่
00:22:47 → 00:22:50 ต้องปรับตัวอยู่อืทีนี้ขึ้นกับว่าตัวเรา
00:22:50 → 00:22:53 มีมีต้นทุนมากพอที่จะสร้างพื้นที่นั้นได้
00:22:53 → 00:22:55 มั้ยอืเพราะงั้นทุกท่านนะครับก็จะบอกงี้
00:22:56 → 00:22:58 ถ้าท่านใดเนาะฟังอยู่แล้วยังรู้สึกว่ามี
00:22:58 → 00:23:01 โอกาสได้ช่างของตัวเองก่อนอ่าผมแนะนำให้
00:23:01 → 00:23:04 ทำก่อนถ้าเราไม่ต่อให้ไม่ใช่เรื่องอาชีพ
00:23:04 → 00:23:06 ก็ตามคนที่เราคบหาแฟนที่เราจะครบอย่าง
00:23:06 → 00:23:09 เงี้ยครับถ้าเป็นคนที่ฟิตกับเรานิสัย
00:23:09 → 00:23:12 อุปนิสัยพอดีกับเราอือเลือกได้เลือกคนที่
00:23:12 → 00:23:15 พอดีกับเราจะได้ไม่ต้องมานั่งปรับตัวเอา
00:23:16 → 00:23:18 จริงๆอาถ้าในมุมมองความรักอ่ะนะมันอาจจะ
00:23:18 → 00:23:22 ผ่านตกตะกอนมาพอสมควรว่าเอ่อ 1 ถ้าเรา
00:23:22 → 00:23:24 เห็นคุณค่าในตัวเองอ่ะเราก็เราจะมีความ
00:23:24 → 00:23:27 เออไม่อยากดึงอะไรที่แบบถูกอะไรไม่รู้
00:23:27 → 00:23:29 เข้ามาใช่ๆอะไรที่มันคือทุกอย่างมันต้อง
00:23:29 → 00:23:31 ไม่ยากอ่ะไม่ซับซ้อนคือทุกอย่างมันจะต้อง
00:23:31 → 00:23:35 แบบเฮ้ยมันก็แค่นี้เองนี่หว่าง่ายๆแค่
00:23:35 → 00:23:37 นั้นเองใช่ๆเพราะงั้นเรื่องเใช้กับทุก
00:23:37 → 00:23:40 อย่างครับใช้กับการเลือกงานเลือกคบเพื่อน
00:23:40 → 00:23:42 เลือกความรักเรื่องที่อยู่อาศัยเรื่องทุก
00:23:42 → 00:23:45 อย่างนะครับคือถ้าถ้าเรามีโอกาสเลือกได้
00:23:45 → 00:23:47 เลือกก่อนอือฮึจะได้ไม่ต้องปรับตัวแล้ว
00:23:47 → 00:23:50 ถ้าเกิดไม่มีโอกาสเลือกก็เลือกอชที่รองลง
00:23:50 → 00:23:53 มาอ่ะที่แบบไม่ต้องสูญเสียความเป็นตัวเอง
00:23:53 → 00:23:55 มากเกินไปต้องแยมากอย่าไปเลือกโหดๆเลือก
00:23:55 → 00:23:58 ที่แบบมันไม่ห่างไกลจากตัวเองเลือกได้
00:23:58 → 00:24:00 เลือกก่อนครับแล้วเดี๋ยวค่อยว่ากันอนาคต
00:24:00 → 00:24:02 ถ้าเกิดมีอะไรที่ขยับให้มันดีขึ้นได้ใช่
00:24:02 → 00:24:05 เอ่อจริงๆมันยังมีระยะทางมีระยะเวลาแต่
00:24:05 → 00:24:08 ถ้าเกิดว่าในระหว่างทางเนี่ยคือโอเคตอน
00:24:08 → 00:24:10 ต้นอาจจะยังไม่ได้มีทางเลือกมากนักไม่
00:24:10 → 00:24:14 เป็นไรทำไปก่อนนะคะแล้วก็ถ้ามันมีทาง
00:24:14 → 00:24:16 เลือกอื่นๆหรือหรือที่เรารู้สึกว่ามันมัน
00:24:16 → 00:24:19 ดีกว่าแล้วเราสบายใจมีความสุขแฮปปี้กว่า
00:24:19 → 00:24:21 เราไม่ได้เดือดร้อนคนอื่นก็ไม่เดือดร้อน
00:24:21 → 00:24:25 จากความเป็นตัวตนของเราก็ค่อยขยับขยายใช่
00:24:25 → 00:24:28 ๆครับอมันยังไม่สายเกินไปเพราะงบางคนกว่า
00:24:28 → 00:24:30 จะมารู้ตัวเองนู่นอายุเยอะแล้วก็มีสุด
00:24:30 → 00:24:34 ท้ายก็มาเจอในตอนท้ายบ้านปลายชีวิตแล้วโห
00:24:34 → 00:24:37 นี่เราอยู่มาได้ยังไงนี่สุดท้ายเราสบายใจ
00:24:37 → 00:24:40 ในการที่จะเป็นแบบนี้ก็ได้ครับบางคนก็จบ
00:24:40 → 00:24:42 ที่แบบเออปล่อยวางเถอะได้หมดอครับจริงๆ
00:24:42 → 00:24:44 ชีวิตมันได้หมดอ่ะแล้วแต่เราเลือกเชื่อ
00:24:44 → 00:24:47 ว่าคือคือจริงๆอาจจะไม่ต้องรอให้แบบว่า
00:24:47 → 00:24:49 อายุมากๆแล้วค่อยมาตกตะกอนหรืออะไรเงี้ย
00:24:49 → 00:24:51 บางคนสามารถตกตะกอนได้เร็วนะมีความคิดได้
00:24:51 → 00:24:55 เร็วหรือว่ารู้จากตัวเองมากพออ่ะมันก็
00:24:55 → 00:24:58 สามารถจะมีหนทางให้กับตัวเองได้สเสียความ
00:24:58 → 00:25:01 เป็นตัวตนแต่ก็ไม่ทำร้ายตัวเองสูญเสียได้
00:25:01 → 00:25:04 แต่ก็ไม่ได้จนแย่จนไม่ใช่ตัวเองใช่ครับ
00:25:04 → 00:25:07 สุดท้ายทุกคนแค่อยากมีความสุขและพอใจกับ
00:25:07 → 00:25:11 ชีวิตน่ะถูกต้องออืเราก็หมดเวลาครับนะคะ
00:25:11 → 00:25:15 อ่ะขอบคุณคุณเอิ้นค่ะสดีสวัดีครับหมดเวลา
00:25:15 → 00:25:17 แล้วค่ะคุณผู้ฟังพบกันใหม่ครั้งหน้ากับ
00:25:17 → 00:25:19 รายการโรงหมอทางไทย PBS podcast นะคะวัน
00:25:19 → 00:25:23 นี้ลาไปก่อนสวัสดีค่ะ This Is tha PBS
00:25:23 → 00:25:26 podcast การขับถ่ายวาระหลายๆครั้งถือ
00:25:26 → 00:25:28 เป็นอาการลำไส้แปรปรวนหรือไม่อาการนี้หาก
00:25:28 → 00:25:31 เข้าข่ายอันตรายจะแสดงอาการอะไรออกมานาย
00:25:31 → 00:25:35 แพทย์มนตรีคุุรัสกุลจากโรงพยาบาลจุฬาภรณ์
00:25:35 → 00:25:38 มาเล่าให้ฟังครับลำไส้แปรปรวนนะครับก็คือ
00:25:38 → 00:25:41 การแปรปรวนของลำไส้นะครับจริงๆแล้วก็คือ
00:25:41 → 00:25:44 คนแข้ที่มีอาการปวดท้องปวดท้องง่ายท้อง
00:25:45 → 00:25:49 อืดท้องเสียแปรปัวในเรื่องบางทีบางทีใน
00:25:49 → 00:25:51 เรื่องท้องโผล่อย่างเงี้ยครับคำว่าลำไส้
00:25:51 → 00:25:53 แปรปัวจริงๆเราจะเน้นที่ลำไส้ใหญ่นะครับ
00:25:53 → 00:25:55 ก็คือคนใคสวมาจะมีอาการทางเรื่องการขับ
00:25:55 → 00:25:58 ถ่ายที่ผิดปกติอ่าอย่างเช่นว่าท้องผูก
00:25:58 → 00:26:00 หรือว่าท้องเสียหรือบางคนจะเป็นทั้ง 2
00:26:00 → 00:26:03 แบบเลยท้องผกสลับท้องเสียนะครับเวลามี
00:26:03 → 00:26:06 อาการก็จะทำให้มีอาการปวดท้องได้ด้วยอ่า
00:26:06 → 00:26:09 ปวดบิดบ้างปวดอืดบ้างนะครับค่ะอ่าซึ่ง
00:26:09 → 00:26:12 จริงๆแล้วโรคลำไส้แปรปรวนหรือเรื่องปวด
00:26:12 → 00:26:15 ท้องแบบนี้นะครับเป็นกันเยอะมากๆนะครับ
00:26:15 → 00:26:19 จริงๆ 25% ของของคนเราเนี่ยจะมีอาการแบบ
00:26:19 → 00:26:21 นี้อยู่แล้วะนะครับแค่ว่าจะเป็นหนักเป็น
00:26:21 → 00:26:24 เบาเท่านั้นเองอย่างบางคนจะจะบอกเลยโอ้
00:26:24 → 00:26:26 เป็นคนปวดท้องง่ายนะครับอ่าอาจจะเป็น
00:26:26 → 00:26:29 ครั้งอาทิตย์นึงสัก 1 1 ครั้งแต่ว่าไม่
00:26:29 → 00:26:32 ได้รุนแรงอะไรแล้วก็ไม่จำเป็นต้องไปหาไป
00:26:32 → 00:26:34 หาหมอเพราะว่าเป็นเองหาเองถ้าเกิดว่าเป็น
00:26:34 → 00:26:37 บ่อยๆเราต้องมาดูว่าเอ๊ะเราทานอะไรไปนะ
00:26:37 → 00:26:40 ครับแล้วมีอาการยังไงบ้างนะครับสำคัญที่
00:26:40 → 00:26:43 สุดเลยก่อนจะโทษว่าเป็นลำไส้แปรปรวนเนี่ย
00:26:44 → 00:26:46 ต้องชัวร์ว่าเป็นลำไส้แปรปวนไม่ใช่ว่า
00:26:46 → 00:26:49 เป็นอย่างอื่นที่ซีเรียสกว่านี้แต่เราดัน
00:26:49 → 00:26:51 เมาว่าเป็นลำไส้แปรปวดไม่เป็นไรหรอกมั้ง
00:26:51 → 00:26:53 ไม่ต้องเจอแพทย์คนส่วนมาตจะเป็นในผู้หญิง
00:26:53 → 00:26:55 นะครับผู้หญิงจะเป็นมากกว่าผู้ชายอายุ
00:26:55 → 00:26:58 น้อยจะเป็นมากกว่าอายุเยอะนะครับอ่าอลำ
00:26:58 → 00:27:01 ไส้จะค่อนข้าง sensitive จะไวแต่เมื่อ
00:27:01 → 00:27:03 ไหร่ที่เราต้องต้องคอนเซิร์นต้องเป็นห่วง
00:27:03 → 00:27:06 ต้องเจอแพศนะครับค่ะอ่า 1 คือถ้าเป็น
00:27:06 → 00:27:09 อาการใหม่ถ้าเป็นอย่างนี้มา 10 ปีตั้งแต่
00:27:09 → 00:27:12 อายุ 30 -40 แล้วยังเหมือนเดิมผมว่าไม่
00:27:12 → 00:27:14 มีอะไรที่ต้องเปลี่ยนแปลงนะครับแต่ถ้า
00:27:14 → 00:27:16 เกิดว่าแต่ถ้าเกิดว่าทุกอย่างเปลี่ยนแปลง
00:27:16 → 00:27:18 ไม่เคยเป็นอย่างนี้เลยแล้วมาเป็นต้องพบ
00:27:18 → 00:27:21 แพ่ละต้องดูแล้วว่าเอ้ยก่อนจะเหมาเป็นลำ
00:27:21 → 00:27:23 ไส้ปปรวนต้องมาดูแล้วเอ๊ะมีอะไรผิดปกติ
00:27:23 → 00:27:26 หรือเปล่าถ้ามีน้ำหนักลงนะครับถ้ามีการ
00:27:26 → 00:27:28 กันน้ำหนักลงร่มด้วยอย่างเงี้ยอแต่ไม่ใช่
00:27:28 → 00:27:31 ลำไส้แปปวนธรรมดาเรื่องท้องเสียก็เหมือน
00:27:31 → 00:27:34 กันครับอ่าสมมุติว่าเป็นคนถ่ายเหลวท้อง
00:27:34 → 00:27:36 เสียอยู่ะส่วนมากเลยลำไส้แปรปวนจะไม่รุน
00:27:36 → 00:27:40 แรงนะครับวันถ่าย 2 ึ 3 ครั้งอือฮึคนส่วน
00:27:40 → 00:27:43 มากเลยจะไม่มีการลุกขึ้นมาถ่ายเหลวกลาง
00:27:43 → 00:27:46 คืนมันจะมันจะไม่ปลุกเรากลางคืนก็คือยัง
00:27:46 → 00:27:49 สามารถนอนถึงเช้าได้นะครับแต่ถ้าเกิดว่า
00:27:49 → 00:27:52 ถ่ายทั้งคืนอ่ะอันนี้ผิดปกติละถ้าถ่ายถ้า
00:27:52 → 00:27:54 ถ่ายมีเลือดปนนะครับอันนี้ไม่ใช่แปรปรวน
00:27:54 → 00:27:56 นะอันนี้แปลว่าค่อนค่อนข้างซีเรียสต้อง
00:27:56 → 00:28:00 ต้องพบแพทย์
00:28:00 → 00:28:03 This Is Thai PBS
00:28:04 → 00:28:07 podcast ติดตามรายการของ Thai PBS
00:28:07 → 00:28:08 podcast ได้ทางเว็บไซต์
00:28:08 → 00:28:23 www.thaipbs.or.th
00:28:23 → 00:28:28 [เพลง]
00:28:28 → 00:28:31 อ