00:00:01 → 00:00:05 โรคต้อหินเป็นภาวะเสื่อมของเส้นประสาทตา
00:00:05 → 00:00:08 มักสัมพันธ์กับภาวะความดันในลูกตาที่สูง
00:00:08 → 00:00:10 ผิดปกติจนทำให้เกิดการทำลายเส้นประสาทและ
00:00:10 → 00:00:13 ส่งผลต่อการมองเห็นในที่สุดโรคต้อหินเป็น
00:00:13 → 00:00:16 หนึ่งในสาเหตุหลักของภาวะตาบอดถาวรที่พบ
00:00:16 → 00:00:20 ได้บ่อยคนไทยกว่า 2 ล้านคนและคนทั่วโลก
00:00:20 → 00:00:23 กว่า 76 ล้านคนป่วยด้วยโรคนี้วันนี้เราจะ
00:00:23 → 00:00:26 มาทำความเข้าใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับโรคนี้
00:00:26 → 00:00:29 กันเลยครับโรคต่อหินในระยะแรกมักไม่แสดง
00:00:29 → 00:00:32 อาการจะมีอาการตามมัวต่อเมื่อเข้าสู่ระยะ
00:00:32 → 00:00:35 สุดท้ายดังนั้นการตรวจคัดกองในกลุ่ม
00:00:35 → 00:00:38 เสี่ยงจะทำให้ตรวจพบโรคตั้งแต่ในระยะ
00:00:38 → 00:00:41 เริ่มต้นสามารถรักษาและป้องกันภาวะตาบอด
00:00:41 → 00:00:44 จากต้อหินได้แล้วใครเป็นกลุ่มเสี่ยงของ
00:00:44 → 00:00:47 โรคต้อหินบ้างกลุ่มคนที่มีอายุ 40 ปีขึ้น
00:00:47 → 00:00:52 ไปมีหญ้าสายตรงที่เป็นต้อหินเคยสายตาสั้น
00:00:52 → 00:00:56 หรือยาวมากเคยมีอุบัติเหตุทางตาใช้ยา
00:00:56 → 00:00:59 สเตียรอยเป็นประจำผู้ที่มีความเสี่ยง
00:00:59 → 00:01:02 เหล่านี้ควรพบจสุแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพตา
00:01:02 → 00:01:06 อย่างน้อยปีละ 1 ครั้งสำหรับโรคต้อหิน
00:01:06 → 00:01:09 นั้นเป็นโรคที่สามารถรักษาและควบคุมได้
00:01:09 → 00:01:12 ด้วยวิธีต่างๆเหล่านี้ 1 การใช้ยาหยอดลด
00:01:12 → 00:01:16 ความดันลูกตาตามใบสั่งแพทย์ 2 การใช้
00:01:16 → 00:01:19 เลเซอร์เพื่อลดความดันลูกตา 3 การผ่าตัด
00:01:19 → 00:01:23 ระบายน้ำในลูกตาและที่สำคัญต้องจำไว้ว่า
00:01:23 → 00:01:27 สมุนไพรอาหารเสริมและการนวดตาไม่สามารถ
00:01:27 → 00:01:30 รักษาโรคต้อหินได้ดังนั้นหากใครมีปัญหา
00:01:30 → 00:01:33 การมองเห็นหรืออยู่ในกลุ่มเสียงที่กล่าว
00:01:33 → 00:01:36 มาแนะนำให้รีบไปพบแพทย์เพื่อรับการ
00:01:36 → 00:01:45 วินิจฉัยและรักษาโรคให้ทันท่วงทีดีกว่านะ
00:01:45 → 00:01:50 ครับเพราะสุขภาพที่ดีเราสร้างได้โรง
00:01:50 → 00:01:54 พยาบาลจุฬาลงกรณ์สภากาชาตไทย