00:00:00 → 00:00:02 อุ้ยอย่าผ่าตัดกระเพาะเพื่อลดน้ำหนักถ้า
00:00:02 → 00:00:06 คุณยังไม่ได้ฟังคลิปนี้หลายๆคนกำลังสงสัย
00:00:06 → 00:00:09 แล้วก็ลังเลอยู่เค้าว่าคนอย่างฉันเนี่ย
00:00:09 → 00:00:12 ควรจะผ่าตัดกระเพาะเพื่อลดน้ำหนักมั้ย
00:00:12 → 00:00:15 เพราะว่าก่อนหน้านี้เนี่ยฉันก็ลองมาหลาย
00:00:15 → 00:00:18 วิธีแล้วนะมันไม่สำเร็จสักทีแล้วก็เหลือบ
00:00:18 → 00:00:21 ไปเห็นคนที่ผ่าตัดกระเพาะครับเฮ้ยของรถ
00:00:21 → 00:00:23 กันได้ที่หลายสิบกิโลเลยนะแล้วก็โพสต์
00:00:23 → 00:00:26 Before After มาคุณสวยๆกันทั้งนั้นเลย
00:00:26 → 00:00:29 ฉันก็อยากจะทำบ้างคราวนี้ครับมาแบงค์จะ
00:00:29 → 00:00:32 ให้ข้อมูลคุณอีกด้านนึงครับว่าหลังการผ่า
00:00:32 → 00:00:34 ตัดของคุณเนี่ยคุณจะเจออะไรบ้างทั้งใน
00:00:34 → 00:00:37 ระยะสั้นและในระยะยาวเพื่อช่วยคุณในการ
00:00:37 → 00:00:41 ประกอบการตัดสินใจครับก่อนอื่นเลยหาใครชม
00:00:41 → 00:00:43 คลิปมาแบงค์ผ่านทาง facebook สามารถกดติด
00:00:43 → 00:00:47 ตามได้ทางวิธีการนี้ครับหากใครชมคลิปมา
00:00:47 → 00:00:49 แบงค์พันทาง YouTube สามารถกดไลค์กดติด
00:00:49 → 00:00:52 ตามและกดสั่นกระดิ่งเพื่อที่จะไม่พลาด
00:00:52 → 00:00:55 คลิปดีๆครับผมเรามาเริ่มต้นกันแบบนี้กัน
00:00:55 → 00:00:58 เลยดีกว่าครับในทางการแพทย์เนี่ยเขาจะทำ
00:00:58 → 00:01:01 การผ่าตัดกระเพาะในคนมีกลุ่มไหนบ้างก็คือ
00:01:01 → 00:01:04 มี 2 กลุ่มครับทุกคนกลุ่มแรกเนี่ยก็คือ
00:01:04 → 00:01:08 กลุ่มที่มี BMI มากกว่า 40 ครับวิธีการ
00:01:08 → 00:01:10 คำนวณ BMI เนี่ยลองเสิร์ชใน Google ก็ได้
00:01:10 → 00:01:13 นะครับใส่แค่ส่วนสูงกับน้ำหนักตัวไปคุณก็
00:01:13 → 00:01:16 จะได้ BMI ของคุณแล้วถ้าคุณเบียร์ไหมเกิน
00:01:16 → 00:01:19 40 เนี่ยหมอเขาก็จะแนะนำเลยคำว่าอ้าคุณ
00:01:19 → 00:01:22 สามารถผ่าตัดกระเพาะได้แล้วนะครับหรือใน
00:01:22 → 00:01:25 กรณีที่ 2 ครับก็คือคุณมี BMI มากกว่า 35
00:01:25 → 00:01:28 ครับแต่มีโรคร่วมด้วยครับอย่างเช่นเป็น
00:01:28 → 00:01:32 เบาหวานรวมด้วยเนี่ยคุณหมอเขาก็จะสามารถ
00:01:32 → 00:01:34 ผ่าตัดให้คุณได้แล้วอันนี้คือข้อบ่งชี้
00:01:34 → 00:01:38 ทางการแพทย์นะครับเวลาเราจะผ่าตัดอะไรสัก
00:01:38 → 00:01:39 อย่างนึงเนี่ยให้คุณคำนึงถึง 2 เรื่อง
00:01:39 → 00:01:43 ครับว่ามันมีประโยชน์ด้านใดบ้างนะครับ
00:01:43 → 00:01:47 แล้วมีโทษด้านใดบ้างคราวนี้เนี่ยถ้า
00:01:47 → 00:01:50 ประโยชน์มันมากกว่าโทษคุณก็สมควรที่จะผ่า
00:01:50 → 00:01:53 ตัดครับแต่ถ้าเกิดว่าโทษเนี่ยมันมีมาก
00:01:53 → 00:01:56 กว่าแล้วคุณไม่สามารถรับผลข้างเคียงได้
00:01:56 → 00:02:00 รับโทษของมันได้นะครับก็ไม่ควรจะผ่านนะ
00:02:00 → 00:02:02 ครับเพราะคุณจะต้องอยู่กับร่างกายเนี่ยไป
00:02:02 → 00:02:05 ทั้งชีวิตครับในเรื่องของประโยชน์หมอก็
00:02:05 → 00:02:07 เชื่อว่าหลายๆคนก็คงเห็นกันมาเยอะแล้ว
00:02:07 → 00:02:11 ครับผ่าตัดไปเนี่ยก็คืออ้าเราผอมลงนะครับ
00:02:11 → 00:02:14 เราไม่ได้รับความเสี่ยงจากโรคอ้วนเราจะ
00:02:14 → 00:02:16 สวยขึ้นครับเราเห็น Before After มาเยอะ
00:02:16 → 00:02:20 เลยครับรุ่นพี่เนี่ยทำมานะครับแต่ข้อมูล
00:02:20 → 00:02:22 อีกด้านนึงครับที่ช่วยคุณในการประกอบการ
00:02:22 → 00:02:24 ตัดสินใจครับและให้คุณชั่งน้ำหนักเอาเอง
00:02:24 → 00:02:28 นะครับก็คือความเสี่ยงครับที่วันนี้หมอ
00:02:28 → 00:02:30 แบงค์จะเอาข้อมูลตรงนี้มาให้ทุกคนในการ
00:02:30 → 00:02:33 ประกอบการตัดสินใจครับมาดูอันนี้ครับยัง
00:02:33 → 00:02:36 วิจัยนี้เขาบอกเลยครับว่าการโฆษณาเรื่อง
00:02:36 → 00:02:39 ของการผ่าตัดกระเพาะอาหารเนี่ยมันดู
00:02:39 → 00:02:41 เหมือนภาพซินเดอเรลล่ามากไปหน่อยนะครับ
00:02:41 → 00:02:44 มันเป็นยังไงหมอแบงค์นะซินเดอเรลล่าเนี่ย
00:02:44 → 00:02:47 ก็คือหลังจากภาพคุณก็จะสวยแล้วก็แฮปปี้
00:02:47 → 00:02:50 แบบตลอดทั้งชีวิตครับจบแบบ Happy Ending
00:02:50 → 00:02:53 ครับอันนี้คือสิ่งที่คนทั่วไปมองเห็นและ
00:02:53 → 00:02:56 การโฆษณาเนี่ยทำให้คุณรู้สึกแบบนั้นครับ
00:02:56 → 00:02:59 แต่สิ่งที่คุณต้องเจอครับคือเรื่องของ
00:02:59 → 00:03:02 ความมีเสียงนั่นเองครับคุณเนี่ยมีสิทธิ์
00:03:02 → 00:03:05 ที่จะได้รู้ครับว่าร่างกายของคุณเนี่ยถูก
00:03:05 → 00:03:08 ทำอะไรไปบ้างถูกผ่าตัดตรงไหนต่อตรงไหน
00:03:08 → 00:03:10 ครับเพราะว่าคุณจะต้องอยู่กับร่างกาย
00:03:10 → 00:03:13 เนี่ยไปทั้งชีวิตแล้วก็หลังจากนี้อีก 5
00:03:13 → 00:03:15 ปี 10 ปีหรือทั้งชีวิตเนี่ยคุณจะเจออะไร
00:03:15 → 00:03:18 บ้างวันนี้หมอแบงค์เอาตัวนี้มาให้ทุกคนดู
00:03:18 → 00:03:20 นะครับก็นั้นวันนี้เรามาเริ่มต้นกันแบบ
00:03:20 → 00:03:22 ง่ายๆนะครับเพื่อจะได้ประกอบการตัดสินใจ
00:03:22 → 00:03:25 ได้เวลาเรากินอาหารครับอาหารเนี่ยจะเข้า
00:03:25 → 00:03:28 ทางปากถูกต้องไหมหลังจากนั้นครับจะผ่านลง
00:03:28 → 00:03:32 สู่หลอดอาหารก็คือเบอร์ 1 อันนี้อย่างที่
00:03:32 → 00:03:35 ทุกคนเห็นนะครับอาหารหลังจะผ่านหลอดอาหาร
00:03:35 → 00:03:37 มาแล้วครับไปที่เบอร์ 2 ครับคืออะไรครับ
00:03:37 → 00:03:40 เป็นกระเพาะอาหารครับตรงนี้แหละจะเป็นตัว
00:03:40 → 00:03:44 ที่รับอาหารมาเยอะครับแล้วเขาก็จะหลั่ง
00:03:44 → 00:03:46 กรดออกมาครับเพื่อช่วยย่อยอาหารหลังจาก
00:03:46 → 00:03:49 นั้นอาหารก็โมเลกุลจะเล็กลงเล็กลงครับ
00:03:49 → 00:03:52 แล้วก็ถูกส่งไปยังเบอร์ 3 เบอร์ 4 เบอร์ 5
00:03:52 → 00:03:57 ครับก็คือลำไส้เล็กแล้วก็ลำไส้ใหญ่นั่น
00:03:57 → 00:03:59 เองครับเพราะผ่านไปที่เบอร์ 6 และเบอร์ 7
00:03:59 → 00:04:02 ครับหมอลำไส้ใหญ่ในก็ดูดซึมสารอาหารไป
00:04:02 → 00:04:05 ปุ๊บเหลือแต่กากใหญ่ครับออกมาทางเบอร์ 7
00:04:05 → 00:04:08 ครับก็คือกลายเป็นอุจจาระนั่นเองครับคราว
00:04:08 → 00:04:11 นี้ครับการผ่าตัดกระเพาะอาหารเนี่ยหรือ
00:04:11 → 00:04:14 ผ่าตัดเพื่อลดความอ้วนเขาทำยังไงครับหมอ
00:04:14 → 00:04:16 แบงค์ให้ดูอย่างนี้เลยนะการผ่าตัดกระเพาะ
00:04:16 → 00:04:19 หรือว่าผ่าตัดลดความอ้วนเนี่ยเกิดขึ้น
00:04:19 → 00:04:23 ครั้งแรกในยุคปี 1963 ครับผมอ้าในยุคนั้น
00:04:23 → 00:04:27 นะเขาในยังไม่รู้วิธีในการผ่าตัดครับเขา
00:04:27 → 00:04:30 คิดว่าเฮ้ยลำไส้เนี่ยน่าจะเป็นตัวที่ทำ
00:04:30 → 00:04:33 ให้คุณอ้วนมากกว่าเพราะเนื่องจากว่าลำไส้
00:04:33 → 00:04:35 เป็นตัวดูดซึมอาหารอาจถูกต้องแนะถ้ายิ่ง
00:04:35 → 00:04:38 ลำไส้ดูดซึมคุณก็จะอ้วนแต่ถ้าเกิดเรา
00:04:38 → 00:04:40 เนี่ยสามารถทำให้ลำไส้ไม่สามารถดูดซึมได้
00:04:40 → 00:04:44 คุณก็จะผอมลงเขาคิดแบบนี้ครับเขาเลยทำการ
00:04:44 → 00:04:48 ผ่าตัดแบบนี้ครับทุกคนตัดลำไส้ส่วนต้นของ
00:04:48 → 00:04:51 คุณครับปุ๊บไปต่อกับลำไส้ส่วนปลายเลยครับ
00:04:51 → 00:04:55 คือผ่านลำไส้เล็กไปประมาณ 80% เนี่ยไม่
00:04:55 → 00:04:58 ให้เขาดูดซึมเลยครับไม่มีอาหารผ่านตรงนี้
00:04:58 → 00:05:00 เลยครับตรงนี้เขาเรียกว่า t test สินอล
00:05:00 → 00:05:04 บายพาสครับค่อยๆไปตามหมอนะ intestine
00:05:04 → 00:05:07 เนี่ยแปลว่าลำไส้ครับบายพาสคือไม่ผ่านลำ
00:05:07 → 00:05:10 ไส้ครับคือเอาอาหารของคุณเนี่ยลงกระเพาะ
00:05:10 → 00:05:13 อาหารแล้วไปสู่ลำไส้นิดหน่อยครับหลังจาก
00:05:13 → 00:05:16 นั้นเข้าสู่ลำไส้ใหญ่เลยครับอามันเกิด
00:05:16 → 00:05:20 อะไรขึ้นนะครับผลปรากฏว่าครับเขาเนี่ยเจอ
00:05:20 → 00:05:23 ผลข้างเคียงรุนแรงตามมาครับคนไข้เนี่ยะ
00:05:23 → 00:05:27 ขาดสารอาหารอย่างรุนแรงครับจนเนื้อตับเขา
00:05:27 → 00:05:29 เน่าเลยครับภาวะทางการแพทย์เนี่ยเขาเรียก
00:05:29 → 00:05:33 ว่า Face ถ้า้ปติก necrosis ครับคือเนื้อ
00:05:33 → 00:05:35 ตับเนี่ยเน่ายุ้ยเลยครับผมเพราะขาดสาร
00:05:35 → 00:05:39 อาหารในยุคนั้นเนี่ยเขาเลยมีคำพูดนึงครับ
00:05:39 → 00:05:42 บอกว่า This Is The One of the ดรอด
00:05:42 → 00:05:45 in the history of surgery หมายความ
00:05:45 → 00:05:48 ว่าอะไรครับหมายความว่าว่าเฮ้ยนี่แหละ
00:05:48 → 00:05:52 เป็นจุดด่างพลอยของวงการผ่าตัดเลยก็ว่า
00:05:52 → 00:05:54 ได้ครับเพราะว่าอะไรครับเพราะว่าเป็นที่
00:05:54 → 00:05:57 น่าตกใจมากเลยที่การผ่าตัดชนิดใหม่ๆเนี่ย
00:05:58 → 00:06:01 เอามาทำกับคนเลยคะโดยที่ยังไม่ได้รับการ
00:06:01 → 00:06:04 ยืนยันและความปลอดภัยจากองค์การอาหารและ
00:06:04 → 00:06:06 ยาของสหรัฐอเมริกาอันนี้ก็เลยเป็นประเด็น
00:06:06 → 00:06:09 ถกเถียงในเรื่องของจริยธรรมในการผ่าตัด
00:06:09 → 00:06:15 ครับผมก็ในช่วงปี 1960 1970 มานะครับเขา
00:06:15 → 00:06:19 ผ่าตัดไปประมาณ 30,000 นะครับก่อนที่จะ
00:06:19 → 00:06:22 รู้ว่าผลข้างเคียงมันเป็นยังไงนะครับอ่า
00:06:22 → 00:06:26 นี่คือความจริงบนโลกใบนี้นะแต่ยุค
00:06:26 → 00:06:28 ปัจจุบันครับเขาได้ทดลองมาเยอะนะครับว่า
00:06:28 → 00:06:31 จะเอาส่วนไหนตัดออกจะเอาต่อจากส่วนไหนดี
00:06:31 → 00:06:35 จนเหลือความเสี่ยงเนี่ยอยู่ที่ประมาณครับ
00:06:35 → 00:06:39 500 คนจะมีโอกาสเสียชีวิตประมาณคนนึง
00:06:39 → 00:06:43 ครับอ่ะหรือว่าอีกงานวิจัยครับก็คือ 300
00:06:43 → 00:06:46 คนเนี่ยจะเสียชีวิตประมาณคนนึงเขาบอกว่า
00:06:46 → 00:06:48 ความเสี่ยงต่ำแล้วนะครับซึ่งหมอแบงค์ก็
00:06:48 → 00:06:51 คิดว่าเฮ้ยหลักร้อยคนแล้วมันตายได้คนนึง
00:06:51 → 00:06:56 นะคือหมอคิดว่าน่าจะน่าจะไม่ต่ำนะครับก็
00:06:56 → 00:07:00 ก็เราคงไม่อยากเป็นผู้โชคดี 1 ใน 500 ดี
00:07:00 → 00:07:02 จริงไหมครับก็นี่เป็นความเสี่ยงที่เกิด
00:07:02 → 00:07:04 ขึ้นจากการเก็บงานวิจัยมานะครับในยุค
00:07:04 → 00:07:07 ปัจจุบันเนี่ยเขาเหลือวิธีการผ่าตัดอยู่
00:07:07 → 00:07:11 แค่ 2 แบบเท่านั้นหลักๆนะครับก็คือ 1
00:07:11 → 00:07:14 เรียกว่าสลิปแก๊สพริก tomei อะก็ค่อยไป
00:07:14 → 00:07:17 ตามหมอนะครับสลิปแก๊สใครโตมี่เนี่ยหมาย
00:07:17 → 00:07:19 ความว่าอะไรหมายความว่าว่าเขาเชื่อว่า
00:07:19 → 00:07:21 กระเพาะของคุณมันรับอาหารได้เยอะก็เลยทำ
00:07:21 → 00:07:25 ให้คุณอ้วนครับหลักการง่ายเลยผ่าตัด
00:07:25 → 00:07:28 กระเพาะให้เหลือเป็นแค่ท่อเฉยๆครับรับ
00:07:28 → 00:07:31 อาหารเล่นนิดเดียวนะครับในทางทฤษฎีนะครับ
00:07:31 → 00:07:34 เขาบอกว่าก็เพราะคุณเนี่ยจะรับอาหารได้
00:07:34 → 00:07:37 ประมาณแค่ครึ่งลูกเทนนิสเท่านั้นครับอ่ะ
00:07:37 → 00:07:40 เอากระเพาะส่วนใหญ่ของคุณออกไปเลยนะครับ
00:07:40 → 00:07:43 แล้วเย็บส่วนที่เหลือเป็นแบบนี้นะครับ
00:07:43 → 00:07:46 ส่วนแบบที่ 2 ครับเรียกว่าแก๊สพริกบายพาส
00:07:46 → 00:07:49 ครับมันเป็นยังไงหมอแบงค์คำว่าแก๊สติดก็
00:07:49 → 00:07:52 คือกราบเพราะอาหารครับบายพาสคือไม่เอา
00:07:52 → 00:07:55 อาหารผ่านกระเพาะนั่นเองครับเขาก็จะตัด
00:07:55 → 00:07:57 กระเพาะคุณออกเหมือนกันครับเป็นเหลือแค่
00:07:57 → 00:08:00 เท่ากับครึ่งลูกปิงปองนะครับอันนี้คือ
00:08:00 → 00:08:03 ไนน์เทคเค้าเขียนไว้นะครับหลังจากนั้น
00:08:03 → 00:08:05 เนี่ยกระเพาะก็รับอาหารมาเล่นนิดหน่อย
00:08:05 → 00:08:08 แล้วก็ลงสู่ลำไส้เล็กเลยครับอันนี้เรียก
00:08:08 → 00:08:14 ว่าบายพาสนะครับ
00:08:14 → 00:08:18 การผ่าตัดแบบที่ 3 ครับที่ถูกทำกันเยอะ
00:08:18 → 00:08:21 เลยก็คือเรื่องการผ่าตัดแก้ไขครับหลังจาก
00:08:21 → 00:08:24 ที่คุณผ่านไปสองแบบแล้วเนี่ยมันมักจะมี
00:08:24 → 00:08:28 ภาวะแทรกซ้อนมาด้วยครับก็เลยจำเป็นจะต้อง
00:08:28 → 00:08:30 ไปเปิดท้องคุณอีกทีครับเพื่อแก้ไขภาวะ
00:08:30 → 00:08:34 แทรกซ้อนนั้นอ้าหลายคนก็มีคำถามนะครับมา
00:08:34 → 00:08:36 แบงค์แล้วภาวะแทรกซ้อนมันเกิดขึ้นได้เยอะ
00:08:36 → 00:08:39 ไหมนะครับเพราะเราก็กลัวเหมือนกันเราคิด
00:08:39 → 00:08:41 ว่าผ่าตัดไปทุกครั้งนั้นมันจะต้อง
00:08:41 → 00:08:44 เพอร์เฟคทุกครั้งหมอบอกเลยว่าไม่ใช่นะ
00:08:44 → 00:08:47 ครับผ่าตัดทุกครั้งมีความเสี่ยงทุกครั้ง
00:08:47 → 00:08:48 ครับอ่ะ
00:08:48 → 00:08:52 ในงานนี้ครับเขาได้ดูครับว่าการผ่าตัด
00:08:52 → 00:08:55 เนี่ยมีภาวะแทรกซ้อนเยอะแค่ไหนเขาบอกเลย
00:08:55 → 00:08:57 เขาว่า up to 25 เปอร์เซ็นต์นะครับ
00:08:57 → 00:09:00 รีวิวชั่น to Pickup previous มีโปร
00:09:00 → 00:09:02 cedar นะครับหมายความว่าอะไรหมายความว่า
00:09:02 → 00:09:07 มันมีโอกาสมากถึง 25% ครับในการที่คุณจะ
00:09:07 → 00:09:11 ถูกนำไปผ่าตัดอีกรอบนึงเพื่อแก้ไขภาวะบาง
00:09:11 → 00:09:14 อย่างอ่ะนะซึ่งการผ่าตัดแก้ไขเนี่ย
00:09:14 → 00:09:18 อันตรายมากกว่าการผ่าตัดรอบแรกครับเขาพูด
00:09:18 → 00:09:21 เลยคําว่าอัตราการตายเนี่ยเพิ่มขึ้นมาก
00:09:21 → 00:09:25 ถึง 10 เท่าด้วยกันโอ้โหนะเยอะขึ้นจริงๆ
00:09:25 → 00:09:28 นะเราก็ไม่การันตีด้วยครับว่าจะประสบความ
00:09:28 → 00:09:31 สำเร็จคราวนี้คุณก็อยากรู้นะครับมาภาวะ
00:09:31 → 00:09:34 แทรกซ้อนมันมีอะไรบ้างนะครับก็อย่างเช่น
00:09:34 → 00:09:38 นะครับเกิดภาวะรั่วของการที่เราผ่าตัด
00:09:38 → 00:09:41 แล้วก็เย็บอวัยวะข้างในเราไปนะครับเกิดรู
00:09:41 → 00:09:44 ขึ้นมาครับเกิดแผลกดทับขึ้นมาเกิดแผลหด
00:09:44 → 00:09:47 รัดขึ้นมานะครับเป็นแผลเป็นนะก็ต้องไปผ่า
00:09:47 → 00:09:51 ตัดแก้ไขหรือว่าเกิดภาวะอุดตันขึ้นมาพาไป
00:09:51 → 00:09:53 แล้วเนี่ยมันเกิดสกาครับหรือว่าเกิดแผล
00:09:53 → 00:09:56 เป็นแล้วมันทำให้ทางเดินอาหารมันอุดตันก็
00:09:57 → 00:10:00 ต้องไปผ่าตัดแก้ไขครับแล้วก็อาจจะจะเจอ
00:10:00 → 00:10:03 ภาวะกดไหลย้อนรุนแรงได้ครับก็ต้องไปผ่า
00:10:03 → 00:10:06 ตัดแก้ไขกันอยู่ดีนะแล้วอย่างนี้เราจะ
00:10:06 → 00:10:10 มั่นใจได้ยังไงนะครับเรามาดูกันครับในงาน
00:10:10 → 00:10:13 วิจัยนี้นะครับเขาบอกว่าการผ่าตัดเพื่อลด
00:10:13 → 00:10:17 น้ำหนักเนี่ยมันเป็นกระบวนการที่ซับซ้อน
00:10:17 → 00:10:20 มากครับเหมือนกับนักดนตรีเล่นเพลงที่ซับ
00:10:20 → 00:10:23 ซ้อนครับคือมันยากครับมันต้องมี
00:10:23 → 00:10:25 ประสบการณ์แล้วก็มีความสามารถระดับหนึ่ง
00:10:25 → 00:10:29 นะเขาบอกเลยว่าถ้าหมอเนี่ยผ่าตัดไม่ถึง
00:10:29 → 00:10:33 500 เคสครับจะมีภาวะแทรกซ้อนสูงมากอ่ะ
00:10:33 → 00:10:37 500 เคสแรกเนี่ยเหมือนเป็นภาวะกันเรียน
00:10:37 → 00:10:40 รู้นะครับความชำนาญของหมอที่พึ่งพาตัดนะ
00:10:40 → 00:10:44 ก็งานนี้เขาบอกเลยครับว่าประมาณ 500 เคส
00:10:44 → 00:10:46 เนี่ยหมอก็จะเริ่มเก่งขึ้นแล้วครับและ
00:10:46 → 00:10:49 อัตราการตายจะเริ่มต่ำลงภาวะแทรกซ้อนจะ
00:10:49 → 00:10:53 เริ่มต่ำลงนะครับก็เขาบอกเลยว่าตัวเลข 6
00:10:53 → 00:10:56 ร้อยเคสนะครับก็คืออัตราการตายต่ำที่สุด
00:10:56 → 00:10:59 แล้วนะแต่หมอก็เข้าใจคำว่าเวลาคุณไป
00:10:59 → 00:11:02 ปรึกษาแม่แพ้เนี่ยคุณก็จะไม่กล้าถามแพทย์
00:11:02 → 00:11:05 เขาว่าคุณหมอคุณหมอผ่าตัดมาถึง 600 เคส
00:11:05 → 00:11:08 แล้วหรือยังนะครับเราก็จะกระอักกระอ่วนใจ
00:11:08 → 00:11:12 เหมือนกับเอ่อเหมือนไม่ไว้ใจคุณหมออย่าง
00:11:12 → 00:11:15 นี้มันก็จะไม่ดีในสำหรับประเทศไทยนะครับ
00:11:15 → 00:11:18 แต่ว่าในต่างประเทศเนี่ยเขาถามเลยนะครับ
00:11:18 → 00:11:20 ต่างประเทศเนี่ยถามเลยหมอคุณผ่านมากี่เคส
00:11:20 → 00:11:23 แล้วนะครับแล้วโอกาสการเกิดจะเป็นอะไร
00:11:23 → 00:11:26 บ้างนะต้องคุยกับหมออย่างอย่างแบบลึกซึ้ง
00:11:26 → 00:11:30 นะครับต้องวางแผนผ่าตัดกันนะแต่คนที่ตัด
00:11:30 → 00:11:33 สินใจผ่าตัดเนี่ยะต้องเป็นตัวคุณนะครับมี
00:11:33 → 00:11:35 งานวิจัยหนึ่งในอังกฤษนะครับ New england
00:11:35 → 00:11:38 journal of Medicine นะเขาบอกว่าเขา
00:11:38 → 00:11:41 เนี่ยเอาหมอที่ยังไม่ได้ยังไม่ได้เก่งมาก
00:11:41 → 00:11:44 นะครับมามาติดกล้องวีดีโอแล้วเพื่อดูนะคะ
00:11:44 → 00:11:46 ว่าเขาผ่าตัดไปแล้วมีภาวะแทรกซ้อนอะไร
00:11:46 → 00:11:50 บ้างปรากฏว่าหมอที่ยังไม่เก่งครับกูยัง
00:11:50 → 00:11:53 ผ่าตัดไม่ได้เยอะเนี่ยมีภาวะแทรกซ้อนมาก
00:11:53 → 00:11:55 กว่าหมอที่เก่งแล้วนะถึงประมาณ 3 เท่า
00:11:55 → 00:11:58 ครับอัตราการตายมากกว่าหมอที่เก่งแล้ว
00:11:58 → 00:12:01 เนี่ย 5 เท่าครับเพราะมีสิทธิ์ของคุณนะ
00:12:01 → 00:12:04 ครับที่คุณจะเลือกคุณหมอที่ผ่าตัดมาเยอะ
00:12:04 → 00:12:08 แล้วนะครับในการมาผ่าตัดให้เรานะมันก็จะ
00:12:08 → 00:12:12 สองแง่สองหน้ามาเนาะเพราะว่าคุณหมอที่เขา
00:12:12 → 00:12:16 ยังไม่ได้ผ่าตัดเยอะเนี่ยก่อนจะเก่งก็
00:12:16 → 00:12:19 ต้องผ่าตัดมาเยอะๆก่อนถึงจะเก่งใช่ไหม
00:12:19 → 00:12:21 ครับการที่เราจะเก่งขึ้นได้มันเรียนรู้
00:12:21 → 00:12:24 จากความผิดพลาดเนี้ยแต่ว่าการผิดพลาดใน
00:12:24 → 00:12:26 เรื่องของร่างกายมนุษย์โดยเฉพาะการผ่าตัด
00:12:26 → 00:12:28 ใหญ่แล้วเนี่ยมันเรื่องใหญ่นะครับเพราะ
00:12:28 → 00:12:31 ฉะนั้นคุณเนี่ยก็ต้องก็ต้องเลือกนะครับ
00:12:31 → 00:12:36 แล้วถ้าไม่กล้าถามนะครับหมอก็แนะนำว่าแบบ
00:12:36 → 00:12:38 นี้ครับในต่างประเทศเนี่ยเขาจะมีสถาบัน
00:12:38 → 00:12:41 นึงนะครับที่เรียกว่า bala surgery
00:12:41 → 00:12:43 Center of excellence ครับหมายความว่า
00:12:43 → 00:12:46 เออถ้าเกิดว่าเป็นคุณหมอที่ได้รับการอบรม
00:12:46 → 00:12:49 หรือว่าได้รับการรับรองมาจากสถาบันนะครับ
00:12:49 → 00:12:53 อัตราการตายจะลดลง 2 ถึง 3 เท่าครับอาหมอ
00:12:53 → 00:12:56 ไม่แน่ใจนะคะว่าในประเทศไทยเนี่ยเขาส่งไป
00:12:56 → 00:12:59 อบรมแล้วก็ได้รับเซอร์ติฟายด์นี้ไหมลอง
00:12:59 → 00:13:02 อาจจะปรึกษาหมอคุณหมอที่ดูแลคุณอยู่ก็ได้
00:13:02 → 00:13:05 ครับว่าว่ามีเซอร์ติฟายด์นี้ไหมคุณก็จะ
00:13:05 → 00:13:09 มั่นใจได้ 1 1 แล้วนะครับอ่ะคราวนี้มาดู
00:13:09 → 00:13:11 ผลข้างเคียงที่มาที่เกิดขึ้นตามมาครับข้อ
00:13:11 → 00:13:15 แรกเลยคือคุณจะอ้วกครับแบงค์ในมันง่วงอ่ะ
00:13:15 → 00:13:18 ก็คุณเล่นเอากระเพาะอาหารของคุณไปแล้วมัน
00:13:18 → 00:13:21 เหลือเท่าลูกเทนนิสลูกปิงปองนะครับแล้ว
00:13:21 → 00:13:23 เวลาเราพยายามจะใส่อาหารเข้าไปนะครับมัน
00:13:23 → 00:13:26 ใส่ได้นิดเดียวครับกินได้คำนึงสองคำคุณก็
00:13:26 → 00:13:30 จะรู้สึกแน่นจุกแล้วก็จะอ้วกออกมา 60% นะ
00:13:30 → 00:13:35 ครับเจอแบบนี้นะก็คุณต้องไปดูรีวิวรุ่น
00:13:35 → 00:13:38 พี่อ่ะคนเค้าจะบอกคลื่นไส้อ้วกอันนี้คือ
00:13:38 → 00:13:41 สิ่งที่เจอได้นะครับอันที่สองเลยคุณจะขาด
00:13:41 → 00:13:44 วิตามินและเกลือแร่ครับวิตามินและเกลือ
00:13:44 → 00:13:46 แร่เนี่ยมันถูกเรื่องของการดูดซึมเรื่อง
00:13:46 → 00:13:49 ของเอนไซม์เนี่ยมันเปลี่ยนไปนะครับคุณ
00:13:49 → 00:13:51 เนี่ยจะต้องกินวิตามินเม็ดเนี่ยทั้งชีวิต
00:13:51 → 00:13:54 ครับอ้านะอันนี้คือหลายสไตล์ใหม่ที่คุณจะ
00:13:54 → 00:13:57 ได้รับเลยนะแล้วก็ยังเสียงเรื่องนี้ครับ
00:13:57 → 00:14:01 โลหิตจางกระดูกพรุนและถ้าผมร่วงครับ
00:14:01 → 00:14:03 เนื่องจากว่าวิตามินเกลือแร่คุณมันดูดซึม
00:14:03 → 00:14:06 ได้ไม่เหมือนเดิมนั่นเองครับอันที่ 3
00:14:06 → 00:14:09 ครับอันนี้แหละเรียกว่ารุนแรงครับคือคุณ
00:14:09 → 00:14:13 จะขาดวิตามินขั้นรุนแรงนะครับอย่างเช่นนะ
00:14:13 → 00:14:15 อันนี้คือเรียกว่าโรคเหน็บชาโรคเหน็บชา
00:14:15 → 00:14:18 มันดูแบบดูในน้อยๆที่จอยนะแต่อันนี้พอ
00:14:18 → 00:14:21 เวลาคุณขาดวิตามินครับคุณนึกภาพนะอวัยวะ
00:14:21 → 00:14:24 ทุกส่วนเราอ่ะมันต้องการวิตามินและเกลือ
00:14:24 → 00:14:26 แร่กอ่ะถ้ามันขาดนะครับมันส่งผลกับทุก
00:14:26 → 00:14:29 ร่างกายเลยนะอันนี้เรียกว่าขาดวิตามินบี 1
00:14:29 → 00:14:32 นะครับก็คือเป็นเรียกว่า Berry Berry นะ
00:14:32 → 00:14:35 ครับกล้ามเนื้อคุณจะรีบครับคุณจะอ่อน
00:14:35 → 00:14:37 เพลียครับเกิดการอักเสบในร่างกายเกิดหัว
00:14:37 → 00:14:41 ใจโตได้บวมน้ำได้แบบนี้ลองไปหาข้อมูล
00:14:41 → 00:14:43 เพิ่มนะว่า Berry Berry เนี่ยมันเป็น
00:14:43 → 00:14:46 อาการยังไงนะแล้วลองดูว่าว่าถ้าเจอเนี่ย
00:14:46 → 00:14:49 รับได้ไหมนะอีกอันนึงคือขาดวิตามินดี 3
00:14:49 → 00:14:52 ครับในทางการแพทย์เขาจะเรียกว่าเพลากล้า
00:14:52 → 00:14:55 ครับไอ้แบบนี้เจออะไรบ้างบอกแบงค์คือผิว
00:14:55 → 00:14:57 หนังคุณจะอักเสบเหมือนในรูปนะครับคุณอาจ
00:14:57 → 00:15:01 จะท้องเสียได้สมองเสื่อมได้มีหลายแรงที่
00:15:01 → 00:15:03 สุดก็คือตายครับมันขาดวิตามินอ่ะร่างกาย
00:15:03 → 00:15:06 มันอยู่ไม่ได้นะครับหรือว่าคุณจะเจอภาวะ
00:15:06 → 00:15:09 สมองอักเสบครับที่เกิดจากการขาดบีหนึ่ง
00:15:09 → 00:15:12 ครับอันนี้น่ากลัวมากเลยนะเพราะว่าเขา
00:15:12 → 00:15:16 เนี่ยในงานวิจัยบอกเลยเขาว่ามี 1 ใน 3
00:15:16 → 00:15:18 ของผู้ป่วยครับที่สมองถูกทำลายแบบถาวร
00:15:18 → 00:15:22 แล้วก่อนได้รับการวินิจฉัยซะอิหน้าคุณลอง
00:15:22 → 00:15:25 ดูสิครับเพราะคุณไม่ได้เจาะวิตามินเรื่อย
00:15:25 → 00:15:28 ๆจริงไหมแล้วก็สิ่งที่คุณจะเจอได้ครับเขา
00:15:28 → 00:15:31 เรียกภาวะนี้ว่าดำปิ้ง syndome ครับมัน
00:15:31 → 00:15:34 คืออะไรหมอแบงค์ดำปิ้งซินโดมันคือคุ้นๆนะ
00:15:34 → 00:15:38 อะมาดูกันแบบนี้ครับภาวะดำปิ้งเนี่ยมัน
00:15:38 → 00:15:42 เหมือนกับว่าคุณน่ะเอาเอากระเพาะอาหารคุณ
00:15:42 → 00:15:44 ออกใช่ไหมครับและเวลาคุณกินอาหารเข้าไป
00:15:44 → 00:15:47 ครับอาหารคุณเนี่ยมันตรงเข้าไปสู่ลำไส้
00:15:47 → 00:15:50 เล็กเลยครับในทางธรรมชาติของร่างกาย
00:15:50 → 00:15:52 มนุษย์เราเนี่ยร่างกายเราไม่ได้ถูกสร้าง
00:15:52 → 00:15:55 มาให้อาหารมันตรงเข้าไปสู่ลำไส้เล็กเลย
00:15:55 → 00:15:58 มันต้องไปพักในกระเพาะก่อนซักประมาณ 2-3
00:15:58 → 00:16:00 ชั่วโมงแล้วมันค่อยย่อยแล้วค่อยปล่อยไป
00:16:00 → 00:16:04 ค่อยๆย่อยและดูดซึมเป็นแบบนี้ครับแต่คราว
00:16:04 → 00:16:07 นี้เนี่ยคุณไม่มีกระเพาะแล้วนะครับอาหาร
00:16:07 → 00:16:11 มันก็เลยตรงไปสู่ลำไส้เล็กปุ๊บอ่ะยิ่งได้
00:16:11 → 00:16:13 คุณกินของไทยแคลอรี่ด้วยแล้วเนี่ยแคลอรี่
00:16:13 → 00:16:15 สูงครับจะเกิดภาวะนี้เลยครับคุณจะรู้สึก
00:16:15 → 00:16:18 กระอักกระอ่วนครับรู้สึกแบบปวดท้องทุก
00:16:18 → 00:16:21 ครั้งที่กินครับรู้สึกคลื่นไส้ท้องเสีย
00:16:21 → 00:16:26 หมดแรงใจสั่งเป็นแบบนี้ครับจนจนงานงานนี้
00:16:26 → 00:16:30 นะครับเขาบอกเลยว่าดำปิ้ง syndome is an
00:16:30 → 00:16:33 ex tests and Design Part of the
00:16:33 → 00:16:35 Behavior modification Course by
00:16:35 → 00:16:37 แก๊สติกบายพาส surgery หมายความว่าอะไร
00:16:37 → 00:16:42 ครับน้ำปิง syndome เจอได้เป็นปกติครับ
00:16:42 → 00:16:47 ท่านผู้ชมเฮ้ยมันเจอปกติได้ยังไงนะครับก็
00:16:47 → 00:16:50 หมอแบงค์ก็ไม่รู้สินะหมอแบงค์คิดว่ามัน
00:16:50 → 00:16:53 ไม่ปกตินะเพราะว่าการที่คุณเนี่ยมี
00:16:53 → 00:16:57 กระเพาะอยู่แล้วนะคุณไปป่าตัดมันเนี่ยน้ำ
00:16:57 → 00:17:00 มันเจอแบบเนี้ยมันต้องไม่ปกติครับหมอเขา
00:17:01 → 00:17:03 บอกว่าจะได้เป็นปกติก็อันนี้แล้วแล้วแต่
00:17:03 → 00:17:07 คุณจะคิดนะผ่าตัดแขนก็เจอได้เป็นปกติที่
00:17:07 → 00:17:10 เลือดคุณจะไหลอ้ะมันคือตัดกะนี้ครับเพราะ
00:17:10 → 00:17:13 ฉะนั้นหมอแบงค์คิดว่าอันนี้คือสิ่งที่คุณ
00:17:13 → 00:17:17 จะต้องไปเจอนะแล้วก็ก็ต้องดูว่าคุณจะรับ
00:17:17 → 00:17:20 แบบนี้ได้ทั้งชีวิตหรือเปล่าาานะความสุข
00:17:20 → 00:17:22 ในการกินคุณแน่นอนจะไม่เหมือนเดิมครับเบา
00:17:22 → 00:17:26 หวานหายได้นะอ้าอาหมอนะครับแบงค์ต้องบอก
00:17:26 → 00:17:28 แบบนี้ครับคำว่าหายในทางของเบาหวานครับ
00:17:28 → 00:17:32 ถ้าเกิดว่าเราดูแค่ระดับน้ำตาลอ้าถ้าเรา
00:17:32 → 00:17:34 ดูแค่ระดับน้ำตาแล้วมันรถกลับมาปกติได้นะ
00:17:34 → 00:17:36 ครับแล้วโดยที่คุณไม่ต้องใช้ยาเนี่ยเขา
00:17:36 → 00:17:39 ใช้คำว่าโลกสงบครับหรือว่ารี Mission เฉย
00:17:39 → 00:17:42 ๆครับจะไม่ได้เรียกว่าหายแบบร้อย
00:17:42 → 00:17:44 เปอร์เซ็นต์ทันทีโอเคไหมครับอ่ะคราวนี้
00:17:44 → 00:17:47 ครับเขาก็มีการทดสอบเขาว่าไอ้ผ่าตัด
00:17:47 → 00:17:50 กระเพาะเนี้ยกับการควบคุมอาหารอย่างเดียว
00:17:50 → 00:17:53 เนี่ยมันส่งผลกับเบาหวานแตกต่างกันมาก
00:17:53 → 00:17:57 น้อยแค่ไหนเออนะเขาเลยเอาคนที่กำลังจะผ่า
00:17:57 → 00:18:00 ตัดกระเพาะเนี่ยมาดูครับมาแอดมิดมาเลยนะ
00:18:00 → 00:18:04 แล้วปรับอาหารครับให้เหมือนกับหลังการผ่า
00:18:04 → 00:18:08 ตัดอ่ะนับอาหารปุ๊บแล้วเจาะเลือดดูคำว่า
00:18:08 → 00:18:12 เบาหวานคุณเนี่ยดีขึ้นไหมอ่ะหลังจากนั้น
00:18:12 → 00:18:15 ครับเขาก็ไปปล่อยให้คุณอ้วนอีกประมาณ 2-3
00:18:15 → 00:18:18 เดือนครับแล้วก็นัดมาผ่าตัดครับหลังจาก
00:18:18 → 00:18:21 นั้นก็เจาะเลือดเช่นเดียวกันครับเพื่อ
00:18:21 → 00:18:24 เทียบกันคำว่าอาหารอย่างเดียวกับการผ่า
00:18:24 → 00:18:27 ตัดเนี่ยอันไหนส่งผลดีกับเบาหวานมากกว่า
00:18:27 → 00:18:30 กันครับคุณจะสังเกตเห็นนะครับว่างานวิจัย
00:18:30 → 00:18:34 นี้เขาทำในคนคนเดียวกันนะเพราะฉะนั้นความ
00:18:34 → 00:18:36 คลาดเคลื่อนมันจะน้อยมากผลปรากฏว่านะครับ
00:18:36 → 00:18:39 ลดน้ำหนักจากการปรับอาหารครับทำให้โลก
00:18:39 → 00:18:42 ประวัติสงบได้มีประสิทธิภาพมากกว่าการผ่า
00:18:42 → 00:18:46 ตัดถึง 2-3 เท่าครับ
00:18:46 → 00:18:50 อ่านะ 2-3 เท่าเลยอาหารเนี่ยดีที่สุดนะ
00:18:50 → 00:18:54 สำหรับเรื่องของเบาหวานนะครับแต่สิ่งที่
00:18:54 → 00:18:57 คุณจะต้องรู้เพิ่มนะครับก็คือยั่งยืนไหม
00:18:57 → 00:19:01 หมอแบงค์อ่ะมาดูกันนะครับการผ่าตัดผล
00:19:01 → 00:19:04 ปรากฏว่าใน 1-2 ปีแรกครับน้ำหนักคุณ
00:19:04 → 00:19:07 สามารถเด้งขึ้นมาได้เล็กน้อยบางคนลงไป 10
00:19:07 → 00:19:09 โลครับแล้วก็เจอภาวะตันแล้วก็จะงงคำว่า
00:19:09 → 00:19:12 เฮ้ยเอ้าผ่าตัดก็พอมาแล้วรถตันได้ด้วยหรอ
00:19:12 → 00:19:16 นึกว่าผ่าแล้วมันจะสวยเลยนะครับไม่ครับ
00:19:16 → 00:19:20 ผ่าตัดไปปุ๊บมันเจอภาวะตันได้ครับเพราะ
00:19:20 → 00:19:23 ร่างกายคุณปรับตัวปรับสภาพเด้งขึ้นได้
00:19:23 → 00:19:28 เล็กน้อยครับใน 5 ปีครับมี 75% ของคนไข้
00:19:28 → 00:19:31 นะครับที่ผ่าตัดไปแล้วยังสามารถคงน้ำหนัก
00:19:31 → 00:19:34 ตัวที่ลดลงไปได้เนี่ยประมาณ 20% ครับหมาย
00:19:34 → 00:19:37 ความว่าถ้าคุณน้ำหนัก 100 ครับคุณก็จะ
00:19:37 → 00:19:41 เหลือประมาณ 80 80 กิโลได้อ้านั้นใน 5
00:19:41 → 00:19:45 ปีทันผ่านไปคุณก็จะรู้สึกว่าเฮ้ยทำไมมัน
00:19:45 → 00:19:47 ลดน้อยจังเลยนะไม่เหมือนกับที่คาดหวังว่า
00:19:47 → 00:19:51 เลยอยากจะลดลงเหลือสัก 50 60 แบบนี้อ่ะ
00:19:51 → 00:19:54 และแน่นอนครับก็เพราะคุณมันมันจำกัดแล้ว
00:19:54 → 00:19:56 มันจะปรับอะไรก็ยากครับอันนี้คือสิ่งที่
00:19:56 → 00:19:58 คุณต้องเจอนะครับถ้าคุณน้ำหนัก 120 ครับ
00:19:58 → 00:20:01 คุณก็จะเหลือประมาณ 96 อ่ะแล้วก็จะตันแบบ
00:20:01 → 00:20:05 นี้แล้วอาจจะเด้งขึ้นมานะก็ในงานวิจัยอีก
00:20:05 → 00:20:07 อันนึงครับเขาบอกเลยว่าถ้าคุณเริ่มต้นที่
00:20:07 → 00:20:10 ร้อยสามสิบกิโล 2 ปีหลังผ่าครับคุณจะ
00:20:10 → 00:20:12 เหลือประมาณ 80 แต่หลังจากนั้นจะเด้งมา
00:20:12 → 00:20:15 ประมาณ 93 กิโลกรัมครับอันนี้คือสิ่งที่
00:20:15 → 00:20:18 คุณต้องเจอมันไม่ใช่ลดแล้วมันลดลงไปเลยนะ
00:20:18 → 00:20:20 ครับถ้าวะที่เด้งขึ้นมาเนี่ยขึ้นอยู่กับ
00:20:20 → 00:20:24 สิ่งที่คุณกินอยู่ดีนะครับสิ่งที่คุณต้อง
00:20:24 → 00:20:27 จำครับถ้าคุณกินไม่ดีเหมือนเดิมครับยัง
00:20:27 → 00:20:30 ไม่ได้ปรับที่สมองเนี่ยคุณก็เด้งทำแล้ว
00:20:30 → 00:20:33 สุขภาพไม่ดีเหมือนเดิมนะสิ่งที่ต้องจำเลย
00:20:33 → 00:20:37 นครที่ 1 กระเพาะคุณเนี่ยสามารถขยายได้
00:20:37 → 00:20:40 หลังจากการผ่าตัดครับแรกๆคุณอาจจะกินได้
00:20:40 → 00:20:42 แค่สองคำจริงครับน้ำหนักคุณลดไปปึ๊บจะเจอ
00:20:42 → 00:20:45 จุดตันครับหลังจากนั้นก็เพราะคุณเนี่ยก็
00:20:45 → 00:20:47 จะปรับตัวให้คุณกินได้เยอะขึ้นนะเพราะสาร
00:20:47 → 00:20:51 อาหารต้องให้รับก็เพราะคุณก็กะจั่งขยายนะ
00:20:51 → 00:20:54 ครับคุณก็จะกินได้มากกว่าเดิมครับแต่ไม่
00:20:54 → 00:20:57 ได้เท่าเดิมจะกินได้มากกว่าเดิมนะแต่หลัง
00:20:57 → 00:20:59 จากนั้นเนี่ยคุณก็สามารถกลับมาอ้วนได้
00:20:59 → 00:21:03 ครับถ้าใส่ของไม่ดีลงไปในกระเพาะที่จำกัด
00:21:03 → 00:21:08 อ่ะโอเคไหมเพราะคุณเนี่ยไม่ได้ไปแก้ที่
00:21:08 → 00:21:10 สมองครับไม่ได้ไปแก้ที่ภาวะเสพติดคุณก็จะ
00:21:10 → 00:21:14 ยังอยากอาหารที่มันแปรรูปอาหารหวานอยู่
00:21:14 → 00:21:17 นั่นเองนะเพื่อติกรรมการกินคุณจะเปลี่ยน
00:21:17 → 00:21:20 ไปครับจากที่คุณเนี่ยเป็นคนนึงที่กินมากๆ
00:21:20 → 00:21:23 เอ่อกินแบบยับยั้งชั่งใจตัวเองไม่อยู่คุณ
00:21:23 → 00:21:27 จะเป็นกินแบบน้อยน้อยครับครั้งละน้อยๆแต่
00:21:27 → 00:21:29 กินทั้งวันครับเพราะมันรู้สึกไม่พอใจครับ
00:21:29 → 00:21:33 มันรู้สึกแบบอยากตลอดเลยสมองคุณไม่ได้รับ
00:21:33 → 00:21:35 อาหารที่เพียงพออ่ะคุณก็จะไปหากินเนี่ย
00:21:35 → 00:21:39 ทั้งวันครับเลยทำให้ไม่ลดต่อนั่นเองนะอัน
00:21:39 → 00:21:42 นี้เริ่มเป็นภาวะทางสมองแล้วนะครับ 8 ปี
00:21:42 → 00:21:45 ผ่านไปครับหลังจากการผ่าตัดพบว่าคนไข้
00:21:45 → 00:21:48 ประมาณครึ่งนึงเลยนะ 50% พบภาวะผิดปกติ
00:21:48 → 00:21:52 ของการกินครับอันนี้เป็นจะทำการผ่าตัดใน
00:21:52 → 00:21:55 เด็กนะครับจนที่จนคุณหมอที่ผ่าตัดเด็ก
00:21:55 → 00:21:59 เค้าเขาบอกเลยนะครับว่าเขาเนี่ยเห็นคนไข้
00:21:59 → 00:22:02 หลายคนเลยครับที่มีปัญหาทางจิตในการกิน
00:22:02 → 00:22:05 เพราะก็พอเขาถูกจำกัดเนี่ยเขาก็อยากได้
00:22:05 → 00:22:08 รับอาหารที่มันแบบพึงพอใจเขามากที่สุดเขา
00:22:08 → 00:22:11 เห็นคนไข้เนี่ยะไปเอาช็อกโกแลตแท่งครับ
00:22:11 → 00:22:14 กับครีมเนี่ยมาปั่นด้วยกันครับปั่นบ้าน
00:22:14 → 00:22:17 แล้วก็พยายามยัดลงไปในกระเพาะที่จำกัด
00:22:17 → 00:22:20 เพราะว่าจะตอบสนองตัวเองไงอยากแบบเออฉัน
00:22:20 → 00:22:23 กินได้น้อยแล้วอยากจะมีความสุขมีเป็นภาวะ
00:22:23 → 00:22:26 ทางจิตเลยนะครับผม
00:22:26 → 00:22:28 มีกระเพาะคุณน้อยอยู่แล้วนะไม่ใส่ของที่
00:22:28 → 00:22:32 มีประโยชน์เข้าไปอีกคุณก็จะป่วยเร็วและก็
00:22:32 → 00:22:35 ตายไว้นั่นเองครับหมอบอกแบบนี้เลยนะแล้ว
00:22:35 → 00:22:38 ก็สิ่งที่คุณจะต้องเจอครับก็คือเรื่องของ
00:22:38 → 00:22:41 ภาวะซึมเศร้าและโอกาสการฆ่าตัวตายเนี่ยจะ
00:22:41 → 00:22:45 สูงขึ้นครับเอาจริงๆนะแค่แค่มีภาวะโรค
00:22:45 → 00:22:48 อ้วนเนี่ยก็เสี่ยงโรคซึมเศร้าแล้วนะอัน
00:22:48 → 00:22:51 นี้งานวิจัยบอกเลยนะแต่การที่คุณผ่าตัด
00:22:51 → 00:22:55 แล้วเนี่ยแล้วพบว่ามันลดน้ำหนักไม่ลงตาม
00:22:55 → 00:22:57 ที่คุณคาดหวังนะครับลดไปแล้วยังเด้งขึ้น
00:22:57 → 00:23:01 มาได้อีกฉันเดิมพันทั้งชีวิตเลยนะในการ
00:23:01 → 00:23:04 ที่จะจะเอาความสุขในการกินหน่อฉันไปแรก
00:23:04 → 00:23:08 เพื่อที่ฉันจะผอมแต่กลับพบว่าเฮ้ยมันไม่
00:23:08 → 00:23:11 ได้ลดเหมือนตามที่ใจหวังครับคุณก็จะยิ่ง
00:23:11 → 00:23:14 เครียดครับเขาเลยพบว่าเฮ้ยมีโอกาสการ
00:23:14 → 00:23:17 เสี่ยงฆ่าตัวตายมากขึ้นถึง 4 เท่าครับใน
00:23:17 → 00:23:21 คนที่ผ่าตัดไปแล้วผิดหวังอ่ะเราก็ไม่ได้
00:23:21 → 00:23:25 ลดได้ดั่งใจครับคุณลองนึกภาพดูดิคุณผ่า
00:23:25 → 00:23:28 ตัดไปแล้วนะกินก็เหมือนเดิมนะแถมไม่ได้ลด
00:23:28 → 00:23:32 ได้ดั่งใจด้วยคุณรับได้ไหมนะครับอันนี้
00:23:32 → 00:23:35 อันสุดท้ายครับคุณจะเสี่ยงมะเร็งลำไส้
00:23:35 → 00:23:38 เพิ่มขึ้น 3 เท่าครับจากการผ่าตัดเพื่อลด
00:23:38 → 00:23:42 น้ำหนักครับมะเร็งนะมะเร็งในลำไส้ใหญ่
00:23:42 → 00:23:45 เพิ่มขึ้นถึง 3 เท่าข้าวนี้ครับคุณก็ได้
00:23:45 → 00:23:47 รับข้อมูลอีกด้านนึงนะครับคือเรื่องของ
00:23:47 → 00:23:50 ความเสี่ยงและสิ่งที่คุณจะได้เจอหลังจาก
00:23:50 → 00:23:53 การผ่าตัดไปแล้วนะครับก็ให้คุณชั่งน้ำ
00:23:53 → 00:23:56 หนักเอาเองครับว่าประโยชน์ที่คุณจะได้รับ
00:23:56 → 00:23:59 เนี่ยที่คุณเห็นรีวิวเห็นโฆษณามาเนี่ย
00:23:59 → 00:24:02 เอ้อผ่าตัดแล้วผอมลดได้หลายสิบกิโลกรัม
00:24:02 → 00:24:05 เนี่ยมันคุ้มกับการที่คุณจะต้องเจอสิ่ง
00:24:05 → 00:24:08 นี้ไหมเพราะคุณจะกลับตัวไม่ได้แล้วครับก็
00:24:08 → 00:24:12 พอคุณมีอันเดียวนะลำไส้คุณมีครั้งเดียวนะ
00:24:12 → 00:24:15 ครับอำนาจในการตัดสินใจเนี่ยเป็นของคุณ
00:24:15 → 00:24:18 ครับหมอทุกคนให้ได้แต่ข้อมูลนะครับและ
00:24:18 → 00:24:21 อำนวยความสะดวกให้คุณอ่าอ่ะเป็นสิ่งที่
00:24:21 → 00:24:24 คุณจะต้องไปทำการบ้านด้วยตัวเองนะครับบ่
00:24:24 → 00:24:26 แบงค์ก็มีหน้าที่ให้ข้อมูลเช่นมีการครับ
00:24:26 → 00:24:29 ข้าวนี้ครับหลายคนก็จะบอกแล้วหมอแบงค์คิด
00:24:29 → 00:24:32 ดูแล้วมันน่ากลัวจังเลยนะไม่อยากไปเสี่ยง
00:24:32 → 00:24:36 เลยมีแบบลองดูได้ไหมว่าฉันจะไหวไหมจากการ
00:24:36 → 00:24:39 ผ่าตัดมีครับทุกคนอ่ะมาดู
00:24:39 → 00:24:42 สิ่งนี้ครับเขาเรียกว่าแก๊สฤทธิ์ bandung
00:24:42 → 00:24:44 ครับก็คือกันรัดกระเพาะครับด้วยเครื่อง
00:24:44 → 00:24:47 มือที่สามารถเอาออกได้อันนี้ก็คือจะจำลอง
00:24:47 → 00:24:50 ครับว่ากระเพาะคุณเล็กลงแล้วเนี่ยคุณจะ
00:24:50 → 00:24:52 รู้สึกยังไงคุณพลได้มั้ยทั้งชีวิตอันนี้
00:24:52 → 00:24:56 จะจะจะกลับตัวได้ครับกับตัวทันนะถ้าใคร
00:24:56 → 00:24:58 อยากผ่าตัดกระเพาะยังไม่มั่นใจหมอแบงค์
00:24:58 → 00:25:01 อาจจะแนะนำเรื่องของแก๊สติก branding
00:25:01 → 00:25:03 ก่อนนะครับรัดกระเพาะอาหารแล้วทดสอบดูว่า
00:25:03 → 00:25:07 คุณทนไหวไหมถ้าไม่ใช่ทางคุณยังแก้ได้แต่
00:25:07 → 00:25:10 ถ้าคุณผ่านไปแล้วเนี่ยหมดสิทธิ์ครับมา
00:25:10 → 00:25:13 แบงค์ก็ช่วยคุณไม่ได้นะหรือไปทำบอลลูนก็
00:25:13 → 00:25:16 ได้ครับอันนี้คือจำลองภาวะที่กระเพาะมัน
00:25:16 → 00:25:19 เหลือเล็กลงนะแล้วคุณจะทนได้ไหมคุณจะทน
00:25:19 → 00:25:23 ภาวะอ้วกทนภวกินน้อยแบบนี้ได้มั้ยคุณ
00:25:23 → 00:25:26 เครียดไหมลองดูครับแล้วถ้าเกิดมันไม่ถ้า
00:25:26 → 00:25:29 คุณก็แค่เอาบอลลูนออกเท่านั้นเองนะก็เสีย
00:25:29 → 00:25:31 ค่าใช้จ่ายเยอะเหมือนกันนะครับแต่หมอว่า
00:25:31 → 00:25:35 คุ้มกับการที่คุณจะไม่ต้องไปเสี่ยงที
00:25:35 → 00:25:38 เดียวในการที่คุณคุณเอากระเพาะคนออกไปเลย
00:25:38 → 00:25:41 อ่ะแล้วแก้ไขไม่ได้นะครับแต่วันนี้ครับใน
00:25:41 → 00:25:43 เมื่อทุกคนฟังมาถึงตรงนี้หมอแบงค์มีของ
00:25:43 → 00:25:47 ขวัญพิเศษให้กับคุณนะหมอแบงค์จะให้วิธี
00:25:47 → 00:25:50 การเรียนแบบการผ่าตัดกระเพาะด้วยการกิน
00:25:50 → 00:25:54 อาหารครับในส่วนตัวของหมอแบงค์นะหมอแบงค์
00:25:54 → 00:25:57 ไม่เชื่อว่าการผ่าตัดจะเป็นทางออกที่ดี
00:25:57 → 00:25:59 สำหรับทุกคนครับ
00:25:59 → 00:26:02 อยู่บ่แบงค์เชื่อว่าการลดน้ำหนักด้วยวิธี
00:26:02 → 00:26:06 ธรรมชาติเนี่ยจะช่วยคุณได้นะครับก็คุณลอง
00:26:06 → 00:26:08 ดูแบบนี้นะอ่ะ
00:26:08 → 00:26:59 [เพลง]
00:26:59 → 00:27:02 ก็ไม่ต้องเสียตังค์ไม่ต้องเจ็บตัวอะไรเลย
00:27:02 → 00:27:05 เทคนิคของหมอแบงค์เนี่ยชื่อว่า Pre
00:27:05 → 00:27:08 loading เทคนิคกับ Post it Tips
00:27:08 → 00:27:11 นิวทริชั่นครับถ้าเกิดว่าใครเนี่ยอยากจะ
00:27:11 → 00:27:14 เรียนรู้เพิ่มเติมกับเทคนิคนี้นะครับแล้ว
00:27:14 → 00:27:17 ไม่อยากป6เสี่ยงกับภาวะที่หมอแบงค์บอกมา
00:27:17 → 00:27:21 ตั้งแต่ต้นเนี่ยบ่แบงค์จะแนะนำคลิปนี้ให้
00:27:21 → 00:27:24 กับคุณครับ 3 เคล็ดลับความผอมที่คน 99
00:27:24 → 00:27:27 เปอร์เซ็นต์ไม่รู้นะครับไปติดตามได้แบงค์
00:27:27 → 00:27:30 ปักหมุดไว้ให้ทั้งในยูทูปและก็ใน Facebook
00:27:30 → 00:27:33 นะครับบ่แม่นชื่อว่าใน 1 ชั่วโมงของคลิป
00:27:33 → 00:27:35 นี้จะช่วยคุณเนี่ย
00:27:35 → 00:27:38 ถ้าปราศจากความทุกข์ครับและมีความสุขใน
00:27:38 → 00:27:42 การลดน้ำหนักนะครับแล้วก็สุดท้ายนี้นะหมอ
00:27:42 → 00:27:45 แบงค์หวังว่าคลิปนี้เนี่ยจะช่วยให้คุณนะ
00:27:45 → 00:27:48 ครับมีข้อมูลที่มากขึ้นมีข้อมูลที่ครบ
00:27:48 → 00:27:52 ขึ้นก่อนการตัดสินใจครับในทางที่คุณเนี่ย
00:27:52 → 00:27:55 ไม่สามารถย้อนกลับไปได้แล้วนะให้คุณ
00:27:55 → 00:27:58 สามารถเลือกทางที่เหมาะสมกับตัวเองได้นะ
00:27:58 → 00:28:03 เพราะว่าร่างกายนี้ครับคือของของคุณถ้า
00:28:03 → 00:28:06 คุณตอบแทนร่างกายคุณดีครับร่างกายจะตอบ
00:28:06 → 00:28:10 แทนคุณดีเช่นเดียวกันครับแบงค์หวังว่าคุณ
00:28:10 → 00:28:12 จะมีความสุขในการลดน้ำหนักครับแล้วเราเจอ
00:28:12 → 00:28:14 กันในคลิปถัดไปอยู่กับผมหมอแบงค์
00:28:14 → 00:28:18 ดอกเกอร์แบงก์ Food Doctor