00:00:00 → 00:00:02 คุณหมอครับเรื่องของตุ่มน้ำพองเนี่ยฮคุณ
00:00:02 → 00:00:06 หมอครับคือมันเป็นเรื่องเราเราก็คงเคยได้
00:00:06 → 00:00:10 ยินแหละจากจากอาการที่ใช่ดาราขุณวินัยอ่า
00:00:10 → 00:00:12 ที่เป็นกันแล้วก็เป็นกันอย่างยาวนานแล้ว
00:00:12 → 00:00:17 ก็มีความน่ากังวลหลายจุดมากจากภาพที่เรา
00:00:17 → 00:00:19 เห็นภายนอกเนี่ยอาการของโรคตุ่มน้ำพอง
00:00:19 → 00:00:22 เนี่ยมันแรกเริ่มเดิมทีมันเริ่มต้นจาก
00:00:22 → 00:00:26 อะไรยังไงครับคุณหมอครับคือโรคหนุ่มน้ำ
00:00:26 → 00:00:29 พองค่ะเป็นอาการรวมๆเพราะว่ามันมีได้หลาย
00:00:29 → 00:00:32 ชนิดนะค่ะส่วนใหญ่คำว่าโรคตุ่มน้ำพองเวลา
00:00:32 → 00:00:35 ใช้เนี่ยจะหมายถึงโรคภูมิคุ้มกันผิดปกติ
00:00:35 → 00:00:38 ที่มีต่อเ่อการยึดเกาะอ่าโครงสร้างที่
00:00:38 → 00:00:41 เกี่ยวข้องกับการยึดเกาะของผิวหนังนะคะ
00:00:41 → 00:00:44 เพราะฉะนั้นเนี่ยมันก็จะทำให้อ่าผิวหนัง
00:00:44 → 00:00:47 มีการแยกตัวนะคะเกิดเป็นตุ่มน้ำซึ่งอ่า
00:00:47 → 00:00:51 สามารถมีได้ทั้งตุ่มน้ำที่บริเวณของร่าง
00:00:51 → 00:00:54 กายอ่ะค่ะแล้วก็อาจจะมีในเยื่อบุเช่นใน
00:00:54 → 00:00:58 ช่องปากนะคะโดยที่ตุ่มน้ำนะคะบางครั้งก็
00:00:58 → 00:01:02 อาจจะแตกแล้วก็กกายเป็นแผลมีการตกสะเก็ด
00:01:02 → 00:01:06 ได้ค่ะออืมันจะแยกยังไงครับคุณหมอครับกับ
00:01:06 → 00:01:09 อาการแบบว่าตุ่มน้ำที่บางทีอาจจะเกิดจาก
00:01:09 → 00:01:12 การเสียดสีเวลาเราใส่รองเท้าใส่เสื้อพ่ง
00:01:12 → 00:01:15 เสื้อผ้ามันก็จะมีตุ่มน้ำขึ้นได้เหมือน
00:01:15 → 00:01:18 กันนะครับคุณหมอครับค่ะมันต่างกันยังไงคะ
00:01:18 → 00:01:21 คุณหมอถ้าเกิดจากการเสียสีค่ะส่วนใหญ่จะ
00:01:21 → 00:01:23 เป็นประวัติจะได้ค่อนข้างชัดอย่างเช่นเ่อ
00:01:23 → 00:01:26 สกลุ่มที่แบบเปลี่ยนรองเท้าใหม่รองเท้าจะ
00:01:26 → 00:01:29 กัดหรือเป็นตำแหน่งที่มีการเสียสีเยอะๆ
00:01:29 → 00:01:32 หรือการถูกอ่าน้ำร้อนลวกไฟไหม้อะไรอย่าง
00:01:32 → 00:01:34 เงี้ยค่ะก็สามารถมีตุ่มน้ำได้แต่มันจะคน
00:01:34 → 00:01:38 ลักษณะคนละลักษณะกับอ่าโรคตุ่มน้ำพอง
00:01:38 → 00:01:41 เพราะลูกตุ่มน้ำพองค่ะจะเกิดตำแหน่งผิว
00:01:41 → 00:01:44 หนังส่วนไหนก็ได้ของร่างกายแล้วก็อ่าจะ
00:01:44 → 00:01:47 คล้ายๆกับว่าผิวหนังจะมีความอ่าเปราะบาง
00:01:47 → 00:01:51 กว่าปกติคือจากที่ถ้าสมมุติว่าการเสียดสี
00:01:51 → 00:01:53 เนี่ยมันต้องมีการซ้ำๆเยอะๆอย่างเช่นเรา
00:01:53 → 00:01:57 ใส่รองเท้าที่มันกัดคู่เยค่ะเดินสักใช้
00:01:57 → 00:02:00 เวลาระยะนึงมันถึงจะเกิดแต่ขณะที่เอ่อถ้า
00:02:00 → 00:02:02 เป็นโรคตุ่มน้ำพองอ่ะค่ะแค่เราถูๆผิวหนัง
00:02:02 → 00:02:06 เบาๆมันก็อาจจะขึ้นเป็นตุ่มน้ำได้ค่ะโอ
00:02:06 → 00:02:10 แค่ถูเบาๆถูๆเบาๆแต่อย่างที่พี่นกเคยเป็น
00:02:10 → 00:02:13 นะคะคุณหมอคะเรื่องของตรงข้อถุงเท้าที่
00:02:13 → 00:02:16 เราใส่ใส่รองเท้าแล้วก็ใส่ถุงเท้าเนี่ย
00:02:16 → 00:02:20 มันก็จะอาจจะสัมผัสแล้วก็พอเราเราโดน
00:02:20 → 00:02:22 เสียดสีเนี่ยมันก็เป็นตุ่มน้ำเข้ามาได้
00:02:22 → 00:02:24 เล็กๆแต่มันก็ไม่ได้ว่าเป็นทุกครั้งนะคะ
00:02:24 → 00:02:26 อย่างเงี้ก็เป็นตุ่มน้ำเหมือนกันนะคะแล้ว
00:02:26 → 00:02:30 ก็พอทายามันก็หายค่ะคุณหมออันนี้ก็น่าจ
00:02:30 → 00:02:33 ไม่ใช่ตุ่มน้ำพองค่ะเพราะว่าตุ่มน้ำพอง
00:02:33 → 00:02:36 เนี่ยผิวหนังจะมีความเปราะบางมากกว่าปกติ
00:02:36 → 00:02:38 ทีนี้อาจจะต้องระวังนิดนึงเพราะว่าการ
00:02:38 → 00:02:40 เกิดตุ่มน้ำค่ะไม่ได้แปลว่าเป็นโรคตุ่ม
00:02:40 → 00:02:43 น้ำคลองเสมือไปบางทีมันอาจจะเกิดในช่วง
00:02:43 → 00:02:46 ระยะต้นๆของกลุ่มผิวหนังอักเสบก็ได้อย่าง
00:02:47 → 00:02:49 เช่นถ้าเราโดนอ่าเป็นภูมิแพ้นะคะหรือเรา
00:02:49 → 00:02:51 โดนสารลักค่ายเครื่องเช่นน้ยาซักผ้าล้าจา
00:02:51 → 00:02:54 ลังห้องน้ำซ้ำๆๆๆเนี่ยบางทีอาจจะมีตุ่ม
00:02:54 → 00:02:57 น้ำเล็กๆคล้ายๆเม็ดสาคูขึ้นตามนิ้วมืออ่ะ
00:02:57 → 00:02:59 ค่ะอันนี้มันก็จะเป็นลักษณะตุ่มน้ำที่
00:02:59 → 00:03:02 เกิดเกิดจากผิวหนังอักเสบไม่ใช่ตัวของเ่า
00:03:02 → 00:03:05 โรคตลุ่มน้ำพองค่ะอ๋อผิวหนังอักเสบผิว
00:03:05 → 00:03:07 หนังอักเสบเกิดอาการสัมผัสกับสผิวหนัง
00:03:07 → 00:03:10 อักเสบในระยะแรกๆก็สามารถเป็นตุ่มแดงหรือ
00:03:10 → 00:03:12 ตุ่มน้ำก็ได้เช่นเดียวกันคะแต่ว่าขนาดของ
00:03:12 → 00:03:15 ตุ่มน้ำมันจะไม่เหมือนในโรกตุ่มน้ำพองนะ
00:03:15 → 00:03:18 มันจะเป็นผดตุ่มน้ำขนาดเล็กๆเล็กๆเหมือน
00:03:18 → 00:03:21 เม็ดสาครูเล็กๆใต้ผิวหนังเนี่ยค่ะที่โรก
00:03:21 → 00:03:23 ตุ่มน้ำพองค่ะอาจจะเป็นตุ่มน้ำที่มีความ
00:03:23 → 00:03:26 อ่าเรียกว่าความย่นหรือว่าจะเป็นตุ่มน้ำ
00:03:27 → 00:03:30 ที่มีความตึงก็ได้แต่ว่ามันจะมีขณะที่ให
00:03:30 → 00:03:33 กว่าอ๋อขนาดที่ใหญ่อเราสังเกตลักษณะที่
00:03:33 → 00:03:35 ใหญ่ของเขาคแล้วกันนะคะคำว่าตุ่มน้ำพอง
00:03:35 → 00:03:38 ที่เอ่อเราพูดกันถึงเนี่ยนะคะอือือตุ่ม
00:03:39 → 00:03:41 น้ำพองเนี่ยมักจะเกิดขึ้นกับบุคคลกลุ่ม
00:03:41 → 00:03:43 ไหนเป็นพิเศษนะครับคุณหมอครับมันมีช่วง
00:03:43 → 00:03:48 อายุที่เรามีโอกาสจะพบเจอบ่อยเจอมากกว่า
00:03:48 → 00:03:50 ค่ะหลากหลายช่วงอายุอื่นๆมั้ยครับคุณหมอ
00:03:50 → 00:03:54 ครับคือแล้วแต่ชนิดของโรกตุ่มน้ำพองค่ะ
00:03:54 → 00:03:56 เนื่องจากที่เกริ่นไปเมื่อสักครู่ว่ามัน
00:03:56 → 00:04:00 มีชนิดย่อยๆได้หลายชนิดบางชนิดเนี่ยก็จะ
00:04:00 → 00:04:03 เกิดในวัยกลางคนหรือวัยทำงานแต่ว่าถ้าพูด
00:04:03 → 00:04:06 ถึงอ่าโรคตลุ่มน้ำทองที่ที่คนไทยชอบนึก
00:04:06 → 00:04:09 ถึงก็จะเป็นเอ่อขออนุญาตอ้างอิงอ่าของคุณ
00:04:09 → 00:04:12 นิยไกบุอันนี้จะเป็นโรคตุ่มน้ำทองที่เรา
00:04:12 → 00:04:16 เรียกว่าบูรัเกอยอันนี้จะอ่าเป็นในส่วน
00:04:16 → 00:04:21 ของผู้สูงอายุเป็นส่วนใหญ่ค่ะบูเกอยนะ
00:04:21 → 00:04:24 ครับคือถ้าบอกว่าเกิดในผู้สูงอายุเป็น
00:04:24 → 00:04:26 ส่วนใหญ่แต่ว่าถ้าอย่างในกรณีของคุณวินัย
00:04:26 → 00:04:29 อ่ะเท่าที่ดูอ่ะช่วงอายุก็ยังไม่ได้ไม่
00:04:29 → 00:04:32 ได้เยอะมากอ่ะครับคุณหมอครับคือมัน 50
00:04:33 → 00:04:35 ยังไม่ถึงยังไม่ถึงเออไม่แน่ใจเหมือนกัน
00:04:35 → 00:04:37 น่ะแต่ว่าน่าดูยังไม่เยอะน่าจะปลายๆ 40
00:04:37 → 00:04:40 ปลายๆนะคใช่คุณหมอครับมันมันเกิดขึ้นได้
00:04:40 → 00:04:43 ยังไงครับคุณหมอครับอันนี้ก็เกิดจากภูมิ
00:04:43 → 00:04:46 คุ้มกันผิดปกติค่ะที่ไปทำลายโครงสร้างที่
00:04:46 → 00:04:49 ยึดเกาะระหว่างเ่อตัวชั้นผิวหนังอ่ะค่ะทำ
00:04:49 → 00:04:52 ให้ผิวหนังนไม่สามารถเกาะด้วยกันได้ก็คือ
00:04:52 → 00:04:56 มีการแยกอจิจินตนาการง่ายๆอ่ะค่ะก็คือมัน
00:04:56 → 00:04:58 มีการแยกพอมีการแยกเนี่ยมันสามารถมีของ
00:04:58 → 00:05:02 เหลวซึ่งเป็นอ่าลักษณะของตัวของเหลวไป
00:05:02 → 00:05:04 แทรกอยู่ข้างในก็เป็นตุมน้ำนอกจากนั้นก็
00:05:04 → 00:05:08 จะมีในส่วนของเซลล์อักเสบชนิดต่างๆเข้าไป
00:05:08 → 00:05:11 อยู่ในบริเวณนั้นได้ค่ะอือันนี้เกิดจาก
00:05:11 → 00:05:14 ภูมิคุ้มกันที่ผิดปกติค่ะแต่ว่าถามว่า
00:05:14 → 00:05:17 อะไรเป็นสาเหตุของภูมิคุ้มกันที่ผิดปกติ
00:05:18 → 00:05:20 แล้วไปทำลายเซลล์ของตัวเราเองอันนี้บอก
00:05:20 → 00:05:23 ไม่ได้ค่ะมันก็จะคล้ายกับกลุ่มคนที่เป็น
00:05:23 → 00:05:26 โรคของ sle มันอาจจะมีปัจจัยกระตุ้นแต่
00:05:26 → 00:05:29 ว่ามันไม่สามารถบอกได้ชัดเจนว่าใครจะเกิด
00:05:29 → 00:05:31 โรคนี้แล้วก็เพราะอะไรเถึงได้รับการ
00:05:31 → 00:05:35 กระตุ้นลเป็นค่ะแสดงว่าในปัจจุบันนี้คน
00:05:35 → 00:05:38 ที่เป็นโรคตุ่มน้ำพองเนี่ยด้วยลักษณะ
00:05:38 → 00:05:42 อาการของเขาที่มาพบแพทย์ที่อาจจะคุณหมอ
00:05:42 → 00:05:44 เจอพบเจอที่สถาบันโรคผิวหนังเนี่ยส่วนมาก
00:05:44 → 00:05:49 เเป็นจากอะไรคุณหมอคะก็จะเป็นภูมิเอ่อ
00:05:49 → 00:05:51 ภูมิคุ้มกันผิดปกติที่ต่อต้านตนเองค่ะแต่
00:05:51 → 00:05:54 ว่าอันเนี้ยเราไม่สามารถทราบได้ว่าเ่ามัน
00:05:54 → 00:05:57 มีปัจจัยอะไรกระตุ้นทำให้พรมคุ้มกันเขามี
00:05:57 → 00:06:00 ความผิดปกติแล้วมาทำลายอืส่วนโครงสร้าง
00:06:00 → 00:06:06 ของอ่าผิวหนังของตัวเองค่ะออคือเป็นเป็น
00:06:06 → 00:06:09 โรคที่เกิดขึ้นจากแพ้ภูมิตัวเองเออภูมิ S
00:06:09 → 00:06:12 แพเออภูมิแพ้ตัวเองใช่มออาจจะคล้ายๆกัน
00:06:13 → 00:06:16 แต่ว่าเป็นคนละกลุ่มโลกค่ะออคือถ้าโว่า
00:06:16 → 00:06:19 ภูมิแพ้ตัวเองเนี่ก็คือเราจะนึกถึงโรคที่
00:06:19 → 00:06:21 คนไทยมักจะเรียกว่าโรคพุ่มพวงใช่มั้ยคุณ
00:06:21 → 00:06:24 หมอฮะพมวใช่ค่ะแต่เอ่อเป็นกลุ่มที่มีความ
00:06:24 → 00:06:28 คล้ายคลึงกันแต่ว่าตัวเป้าของที่ภูมิคุ้ม
00:06:28 → 00:06:30 กันไปทำลายเนี่ยเป็นคนละส่วนกันถ้าเป็น
00:06:31 → 00:06:34 ตุ่มน้ำพองเนี่ยเขาจะอ่าทำลายเฉพาะตัว
00:06:34 → 00:06:38 เซลล์ผิวหนังค่ะอืโอ้โหก็ก็อาจจะเป็น
00:06:38 → 00:06:43 เยื่อบุเซลล์เยื่อบุค่ะคือพแต่ว่าตัว sle
00:06:43 → 00:06:46 เนี่ยเขาจะมีความอ่าเกี่ยวข้องกับระบบภาย
00:06:46 → 00:06:48 ในมากกว่านั้นอย่างเช่นคุณพกันที่ผิดปกติ
00:06:48 → 00:06:51 อาจจะไปทำลายระบบเลือดหรือว่าไปทำลายตัว
00:06:51 → 00:06:54 ของไตอ่ะค่ะอาจจะมีเรื่องของผิวหนังบ้าง
00:06:54 → 00:06:57 แต่ว่า sle ที่เมื่อเราพูดถึงมันก็จะเป็น
00:06:57 → 00:07:02 ระบบภายในด้วยค่ะออืคือมันเลือกเฉพาะที่
00:07:02 → 00:07:04 ผิวหนังคือความรุนแรงอ่ะครับที่มันเกิด
00:07:04 → 00:07:06 ขึ้นบนผิวหนังอ่ะคุณหมอคือมันจะลามไปทั้ง
00:07:06 → 00:07:09 ตัวเลยอย่างนี้เลยฮะอๆมันจะมีเว้นช่วงไหน
00:07:09 → 00:07:13 มหรือว่าทุกอวัยวะบนผิวหนังของเรานี่มัน
00:07:13 → 00:07:16 มันจะเกิดขึ้นตุ่มน้ำได้ดเลยอนี้อันนี้
00:07:16 → 00:07:19 ถ้าหมายถึงโรคตุ่มน้ำพองใช่ๆๆฮตุ่มน้ำพอง
00:07:19 → 00:07:22 อ๋อใช่เพราว่าเป้าเป้าหมายของเอ่อภูมิ
00:07:22 → 00:07:25 คุ้มกันที่ผิดปกติเนี่ยเขาทำลายเ่อโครง
00:07:25 → 00:07:27 สร้างที่ยุดเกาะระหว่างเซลล์ผิวหนังหรือ
00:07:27 → 00:07:30 เซลล์เยื่อบุเพราะเพราะฉะนั้นเนี่ยเขาจะ
00:07:30 → 00:07:33 ไม่เ่าโดยปกติเขาจะไม่เข้าระบบภายในเช่น
00:07:33 → 00:07:36 ไม่มีความเกี่ยวข้องกับระบบไตปอดหัวใจ
00:07:36 → 00:07:38 อะไรเงี้ยค่ะเขก็จะอยู่แค่ผิวหนังกับเยื
00:07:38 → 00:07:42 บุแต่ว่าเยื่อบุเนี่ยมันเ่อคือแล้วแต่
00:07:42 → 00:07:45 ชนิดของโรคตุ่มน้ำพองอ่ะคะบางชนิดที่เขา
00:07:45 → 00:07:47 มีอ่าปัญหาที่เยื่อบุได้สูงมันก็อาจจะมี
00:07:48 → 00:07:50 ที่เยื่อบุตาเยื่อบุโพงจมูกเยื่อบุทาง
00:07:50 → 00:07:53 หลอดลมหรือหลอดอาหารได้ค่ะแต่ว่ามันก็จะ
00:07:53 → 00:07:56 ไม่ได้เหมือน sle ที่เขาจะไปเน้นเรื่องโค
00:07:56 → 00:07:59 อ่าทางเรื่องตหรือว่าเรื่องเรืองเลือด
00:07:59 → 00:08:02 หรือทางค้ออะไรเป็นพิเศษคืออันนี้มันก็จะ
00:08:02 → 00:08:05 เป็นผิวหนังและเยื่อบุค่ะตำแหน่งที่เป็น
00:08:05 → 00:08:07 เยื่อบุก็เกิดได้แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นมัน
00:08:07 → 00:08:09 ขึ้นอยู่กับชนิดของโรคตุ่มน้ำพองเพราะมัน
00:08:09 → 00:08:12 มีชนิดย่อยหลายชนิดค่ะอหูคืออย่างที่มัก
00:08:12 → 00:08:15 จะเจอกันน่ะคุณหมอมเรามักจะเจอกันกี่กี่
00:08:15 → 00:08:17 ชนิดอ่ะครับในประเทศไทยในบ้านเราอ่ะครับ
00:08:17 → 00:08:22 คุณมันตุ่มน้ำพองเป็นโรคที่แบบพบได้พบได้
00:08:22 → 00:08:27 น้อยนะคะไม่ไม่ค่อยจะพบเท่าไหร่ใช่ค่ะคือ
00:08:28 → 00:08:30 จริงๆมันเป็นโรคที่พบได้ไม่บ่อยแต่ว่า
00:08:30 → 00:08:34 เนื่องจากมันมีความรุนแรงของโรคค่อนข้าง
00:08:34 → 00:08:38 จะสูงอ่ะค่ะคือหมายถึงว่าเนื่องจากมัน
00:08:38 → 00:08:40 เป็นที่ผิวหนังเวลาคนมีอาการมันก็จะมีการ
00:08:40 → 00:08:44 เจ็บบริเวณผิวนะคะหรือว่ามีอ่าบาดแผลตาม
00:08:44 → 00:08:46 ผิวหนังถึงเกิดจากตุ่มน้ำที่แตกเพราะ
00:08:46 → 00:08:48 ฉะนั้นเนี่ยอาการแสดงของโรกเนี่ยค่อนข้าง
00:08:48 → 00:08:51 ชัดแลผู้ป่วยจะมีความอ่าทุกข์ทรมานจากตัว
00:08:51 → 00:08:55 โรคค่อนข้างสูงนะคะอันนี้มันทำให้เอ่อคน
00:08:55 → 00:08:57 จะมีความค่อนข้างกังวลเกี่ยวกับโลคแต่
00:08:57 → 00:09:01 จริงๆแล้วบน้อยนะคะออเพราะฉะนั้นถ้าเรา
00:09:01 → 00:09:04 เป็นตุ่มน้ำใสตุ่มน้ำตามเอ่อผิวสัมผัส
00:09:04 → 00:09:08 ต่างๆเนี่ยถ้าเราไปพบคุณหมอเนี่ยคุณหมอจะ
00:09:08 → 00:09:10 บอกเราได้เลยใช่มั้ยคะว่าเราไม่ใช่ตุ่ม
00:09:10 → 00:09:13 น้ำพองวิเคราะห์ได้เลยมั้ยคะคุณหมอคะค่อน
00:09:13 → 00:09:17 ข้างจะวิเคราะห์ได้นะคะถ้าับแพทย์อ่ามี
00:09:17 → 00:09:20 ความคุ้นเคยกับตัวโลกอ่ะค่ะอือก็จะ
00:09:20 → 00:09:24 วิเคราะห์ได้จากอ่าจากการมองลอยโรคเพราะ
00:09:24 → 00:09:26 ว่าโรคผิวหนังเนี่ยจะเห็นได้ค่อนข้างชัด
00:09:26 → 00:09:30 คือถ้าสมมุติว่าอ่าแพทย์ความคุ้นเคยกับ
00:09:30 → 00:09:32 ตัวโลกเวลาดูจากตัวโลกอ่ะค่ะหมายถึงว่า
00:09:32 → 00:09:35 อาการแสดงอ่ะก็อาจจะมีคำแนะนำว่าอันนี้
00:09:35 → 00:09:38 คุณหมอสงสัยนะคะแนะนำให้ทำการตรวจเพิ่ม
00:09:38 → 00:09:42 เช่นตัดชิ้นเนื้อต่อเลือดนะคะอ๋อเพราะ
00:09:42 → 00:09:44 ฉะนั้นถ้าเราเริ่มเป็นหรืออย่างไรก็ตาม
00:09:44 → 00:09:47 ที่มีตุ่มน้ำใสเนี่ยทำยังไงดีก่อนคะคุณ
00:09:47 → 00:09:51 หมอคะเราคือถ้าไม่แน่ใจก็มาพบคุณหมอก็ได้
00:09:51 → 00:09:54 ค่ะเพราะว่าเ่าอาจจะให้คำแนะนำได้ดีกว่า
00:09:54 → 00:09:57 ค่ะเพราะว่าอย่างที่บอกค่ะการมีตุ่มน้ำ
00:09:57 → 00:10:00 ไม่ไม่ได้แปลว่าจะเป็นโรคตุ่มน้ำห้องสมไป
00:10:00 → 00:10:04 ค่ะอือคืออาการที่มันเริ่มต้นเลยคุณหมอ
00:10:04 → 00:10:07 ครับนอกจากการเป็นตุ่มน้ำแล้วคือจุดไหน
00:10:07 → 00:10:11 บริเวณไหนบนร่างกายของเราที่เราจะสังเกต
00:10:11 → 00:10:16 ได้ได้ง่ายแล้วก็พอจะวินิจฉัยเบื้องต้น
00:10:16 → 00:10:19 ได้ได้ด้วยตัวเองครับว่าเนี่ยอาการเนี่ย
00:10:19 → 00:10:22 มันมันมาแล้วนะตุ่มน้ำพองเนี่ยคุณหมอครับ
00:10:22 → 00:10:24 มันไม่ใช่แค่ตุ่มน้ำปกติธรรมดาทั่วไปอ่ะ
00:10:24 → 00:10:30 ฮะออมันจะค่อนข้าง
00:10:30 → 00:10:32 บอกยากเหรอคะเออบอกยากค่ะเพราะว่ามันมี
00:10:32 → 00:10:35 หลายชนิดอย่างบูรัเมพิกอยส่วนใหญ่ก็จะ
00:10:35 → 00:10:38 เป็นที่ลำตัวแล้วก็ตามมาตขาอมีลำตัวด้วย
00:10:39 → 00:10:42 บริเวณอ่าคอพับอะไรเงี้ยค่ะอูยแต่ว่าถ้า
00:10:42 → 00:10:46 เป็นบางชนิดเขาก็จะเน้นเด่นที่แบบอ่า
00:10:46 → 00:10:49 บริเวณเยื้อบุในช่องปากหรืออาจจะมาด้วย
00:10:49 → 00:10:52 แบบเถลอกบริเวณเหงือกอะไรอย่าเงี้ค่ะมัน
00:10:52 → 00:10:56 แล้วแต่แล้วแต่ชนิดค่ะอันนี้มว่าใบอกว่า
00:10:56 → 00:10:59 จะขึ้นตรงไหนก่อนอันนี้อาจจะบอกได้ยากอืม
00:11:00 → 00:11:03 อันนี้มองว่าถ้าคุณคุณที่เป็นเป็นรสตุ่ม
00:11:03 → 00:11:06 น้ำพองเนี่ยจะสังเกตได้เลยว่ามันมาเยอะ
00:11:06 → 00:11:09 แล้วเนี่ยอย่างเช่นในปากอย่างเช่นตามข้อ
00:11:09 → 00:11:12 พับมันไม่ใช่ปกติแล้วมันน่าจะมาแบบจู่โจม
00:11:12 → 00:11:16 พอสมควรใช่มั้ยคะคุณหมอคะคือเยอะพอควรอ
00:11:16 → 00:11:19 อันนี้อีกอันนึงที่จะช่วยบอกได้คือมัน
00:11:19 → 00:11:22 ค่อยๆรามขยายแล้วก็ค่อนข้างจะเรื้อรังค่ะ
00:11:22 → 00:11:26 ส่วนใหญ่แล้วมันจะไม่ค่อยหายง่ายอ่ะค่ะ
00:11:26 → 00:11:31 หายทีนี้เอ่อแต่ถ้าให้แบบนิจฉัยด้วยตัว
00:11:31 → 00:11:35 ผู้ป่วยเองหรือว่าคนที่เอ่อมีตุ่มน้ำเอง
00:11:35 → 00:11:38 อันนี้อาจจะค่อนข้างยากนิดนึงอ่ะค่ะเพราะ
00:11:38 → 00:11:42 ว่าเอ่อมันมีความเฉพาะโรคสูงพอสมควร
00:11:42 → 00:11:45 เหมือนกันค่ะถ้าไปพบแพทย์แล้วแพทย์จะ
00:11:45 → 00:11:47 สามารถต้องเจาะตุ่มน้ำไปดูแล้วก็รู้เลย
00:11:47 → 00:11:50 มั้ยคะคุณหมอคะเจาะยเอการวินิจฉัยต้องตัด
00:11:50 → 00:11:53 ชิ้นเนื้อนะคะอ่าไม่ไม่สามารถที่จะเจาะ
00:11:53 → 00:11:56 ตุ่มเฉยๆแล้วบอกชนิดได้ค่ะส่วนใหญ่ต้องมี
00:11:56 → 00:11:59 การตัดชิ้นเนื้อการตัดชิ้นเนื้อนี่จะเป็น
00:11:59 → 00:12:01 การตัดแล้วมีแผ่าเย็บอ่ะคะนื่องจากต้อง
00:12:01 → 00:12:04 เอาชิ้นเนื้อเนี่ยไปทำกระบวนการเพื่อจะดู
00:12:04 → 00:12:07 ลักษณะของการแยกอ่าของเซลล์ผิวหนังแล้วก็
00:12:07 → 00:12:10 ลักษณะของเซลล์อ่ะค่ะอือนอกจากนี้ก็อาจจะ
00:12:10 → 00:12:14 ต้องเจาะเลือดเพื่ออ่าดูว่าอ่าเป็นชนิด
00:12:14 → 00:12:16 ไหนอย่างไรค่ะ
00:12:16 → 00:12:20 ออการรักษาคุณหมอครับคือพอเป็นแล้วเนี่ย
00:12:20 → 00:12:23 มันรักษายากมครับเพราะว่าเราอ่ะมีภาพจำ
00:12:23 → 00:12:27 จากคุณวินัยไกรบุตรคือการรักษาไม่หายคือ
00:12:27 → 00:12:31 เออใช่แล้วคือใช้ทุกวิถีทางจริงๆไม่ว่าจะ
00:12:31 → 00:12:36 ในทางการแพทยในทางพื้นบ้านในทางเล้นลับ
00:12:36 → 00:12:39 อะไรก็เรียกว่าทุกวิสีทางจริงๆอ่ะคุณหมอ
00:12:39 → 00:12:43 ครับเป็นปีๆเลยอ่ะคุณหมออใช่คือเอ่อขึ้น
00:12:43 → 00:12:46 อยู่กับชนิดของโรคตุ่มน้ำพองอีกเช่นเดียว
00:12:46 → 00:12:49 กันค่ะบางชนิดก็มีความยุ่งยากสับซ้อนใน
00:12:49 → 00:12:53 การรักษาบางชนิดก็อ่ามีความรุนแรงต่ำค่ะ
00:12:53 → 00:12:55 ทีนี้ส่วนใหญ่เนื่องจากเป็นโรคที่เกิดจาก
00:12:55 → 00:12:58 ภูมคุ้มกันผิดปกติส่วนใหญ่นะคะก็อาจจะ
00:12:58 → 00:13:01 เริ่มต้นด้วยการรักษาด้วยสเตียรอยด์ค่ะ
00:13:01 → 00:13:04 อาจจะเป็นทาแล้วก็รับประทานร่วมกับเอ่อยา
00:13:04 → 00:13:07 กดขมขมกันหรือมียาฉีดที่เป็นกลุ่มโอลิที
00:13:07 → 00:13:10 นี้แล้วแต่ชนิดของโรคตุ่มน้ำพองเพราะแต่
00:13:10 → 00:13:12 ละชนิดเนี่ยมียาที่เราเรียกว่า First L
00:13:12 → 00:13:17 Treatment นะคะแตกต่างกันค่ะอืแต่ถามว่า
00:13:17 → 00:13:20 หายขาดได้หรือไม่เนื่องจากเป็นโรคที่เกิด
00:13:20 → 00:13:23 จากภูมิคุ้มกันผิดปกติส่วนใหญ่แล้วค่ะ
00:13:23 → 00:13:26 สามารถหายขาดได้นะคะถ้าสมมุติว่าได้รับ
00:13:26 → 00:13:30 การษาที่ที่เหมาะสมแต่ว่ามักจะไม่ได้หาย
00:13:30 → 00:13:33 ขาดในเวลาสั้นๆนะค่ะส่วนใหญ่ก็ใช้เวลานาน
00:13:33 → 00:13:38 คือนับเป็นอ่าปีหรือหลายๆปีค่ะโอ
00:13:38 → 00:13:42 โอหโอกาสเจอเถ้าถ้าฟังแบบนี้แล้วเนี่ยคุณ
00:13:42 → 00:13:45 หมอครับโอกาสที่จะเจอในบ้านเราเนี่ยมัน
00:13:46 → 00:13:48 มากน้อยกันขนาดไหนครับคุณหมอครับคืออ่ะ
00:13:48 → 00:13:52 สมมุติถ้าตีว่าซัก 1 1 คนที่เจอโรคถุม
00:13:52 → 00:13:54 น้ำพองเนี่ยต่อประชากรสักเท่าไหร่เราถึง
00:13:54 → 00:13:57 จะเจอครับคณหมอครับอถ้าเป็นเอ่อแล้วแต่
00:13:57 → 00:14:00 ชนิดถ้าเป็นอย่างเอ่อกรัเพมพิกอยนี่เขาก็
00:14:00 → 00:14:04 ตีว่าอินคืออุบัติการมัน 2.4 -22 เคสต่อ
00:14:04 → 00:14:08 ล้านก็คือน้อยอ่ะค่ะโอ้ยน้อยไม่ไม่ได้แบบ
00:14:08 → 00:14:11 ไม่ได้แบบเดินถนน 10 คนแล้วจะเจอ 2 คน
00:14:11 → 00:14:15 อย่างไม่ใช่ใช่ค่ะมันเจอแบบน้อยนะคะเป็น
00:14:15 → 00:14:17 โรคที่แบบเจอไม่บ่อยอุบัติการณ์นี่หมาย
00:14:17 → 00:14:20 ถึงเกิดเกิดใหม่นะคะค่ะแต่ว่าไม่ได้เพิ่ม
00:14:20 → 00:14:23 ไม่ได้นับคนที่เป็นอยู่แล้วหมายถึงว่านิ
00:14:23 → 00:14:27 เคสอะไรเงี้ยค่ะก็คือสถิตินี้มาตรฐานอยู่
00:14:27 → 00:14:29 คงที่มีเพิ่มขึ้น
00:14:29 → 00:14:32 ก็จะแวรี่เกิดขึ้นอยู่กับกลุ่มประชากรนะ
00:14:32 → 00:14:35 คะแต่ปัญหาคืออ่าของประเทศไทยเองเราไม่
00:14:35 → 00:14:38 น่าจะได้เก็บอ่าตัวของอุบัติการที่เป็น
00:14:38 → 00:14:41 ตัวเลขที่ชัดเจนนะคะเพราะว่าเราอาจจะยัง
00:14:41 → 00:14:48 มีการอ่าขาดข้อมูลในส่วนนี้ใช่อืโอ 22 คน
00:14:48 → 00:14:51 ต่อล้านโอนี่แสดงว่าโอกาสโอกาสเจอเนี่ย
00:14:51 → 00:14:54 ถือว่าน้อยมากๆเลยนะคุณหมอแต่ว่าเราก็ยัง
00:14:54 → 00:14:56 เห็นเพราะว่าสิ่งที่มันเกิดขึ้นมันเกิด
00:14:56 → 00:15:00 ขึ้นกับคนดังไงมันดังมันก็เลยหลายคนก็อาจ
00:15:00 → 00:15:04 ตามมันติดตาติดตามมันก็เลยเกิดความกังวล
00:15:04 → 00:15:07 ว่าเอ๊ะมันมีโอกาสจะเจอกันมากน้อยขนาดไหน
00:15:07 → 00:15:11 คุณหมอก็คือวิธีการรักษาก็คือจะต้องต้อง
00:15:11 → 00:15:13 ใช้สเตรอยด์ในการที่แบบว่าในแพทย์แผน
00:15:13 → 00:15:16 ปัจจุบันเนี่ยเป็นหลักเลยใช่มครับคุณหมอ
00:15:16 → 00:15:17 ครับไอ้เรื่องของการใช้
00:15:17 → 00:15:22 สมุนไพรเอาไปทาเอาไปอาบอะไรอย่างเงี้ยมัน
00:15:22 → 00:15:24 อันนี้ต้องเรียนให้ทราบว่าข้อมูลด้าน
00:15:24 → 00:15:28 สมุนไพรคือคือของทางหมอเองอ่ะค่ะไม่ไม่มี
00:15:28 → 00:15:31 ข้อมูลในส่วนนี้ก็เลยจะไม่สามารถแนะนำใน
00:15:31 → 00:15:35 ส่วนที่เ่อไม่ไม่มีข้อมูลได้นะคะเก็ยัง
00:15:35 → 00:15:38 ไม่ได้มีข้อมูลการศึกษาวิจัยว่าเราเอา
00:15:38 → 00:15:40 สมุนไพรชนิดไหนมาใช้ในกลุ่มโรคตน้ำพอง
00:15:41 → 00:15:44 แล้วดีขึ้นแต่ว่าเอ่อการใช้สารสเตียรอยด์
00:15:44 → 00:15:47 อ่ะค่ะชนิดทาก็เป็นการรักษาแบบนึงแล้วก็
00:15:47 → 00:15:50 การรับประทานเนี่ยก็ขึ้นอยู่กับชนิดของ
00:15:50 → 00:15:53 ตุ่มน้ำพองเหมือนกันเพราะว่าบางชนิดเนี่ย
00:15:53 → 00:15:56 ใช้อ่าสเตรอยด์รักษาแล้วได้ดีบางชนิด
00:15:56 → 00:15:59 เนี่ยอาจจะมีแนะนำยาตัวอื่นที่เหมาะสม
00:15:59 → 00:16:04 กว่าค่ะอโออืคุณหมอคะเท่าที่มีการพบผู้
00:16:04 → 00:16:06 ป่วยมาเนี่ยเป็นโรคนี้แล้วก็เข้ารับการ
00:16:06 → 00:16:09 รักษาอย่างที่สถาบันโรคผิวหนังเนี่ยเ
00:16:09 → 00:16:13 สามารถเอ่อประคับประคองดูแลใช้ยาไปเรื่อย
00:16:13 → 00:16:16 ๆจนเาหายเรว่าหายขาดอย่างน้อยๆก็คือเป็น
00:16:16 → 00:16:21 ปีได้มั้ยคะคุณหมอคะรักษาได้มั้ยคะก็ก็มี
00:16:21 → 00:16:24 รายที่หายขาด่ะคะแต่ว่าส่วนใหญ่เคสที่เรา
00:16:24 → 00:16:28 ดูแลอยู่ค่ะก็สามารถอยู่ในระยะที่เรียก
00:16:28 → 00:16:31 ว่าสังงบอ่ะคะก็คืออาจจะไม่ค่อยมีตุ่มน้ำ
00:16:31 → 00:16:34 หรือมีเล็กน้อยคือมีขึ้นบ้างแต่ว่าไม่ได้
00:16:34 → 00:16:40 เยอะอ่ะค่ะด้วยการควบคุมด้วยยาค่ะอืสงบ
00:16:40 → 00:16:42 เหมือนอย่างที่เราเคยได้ยินในหลายๆโรคเน
00:16:42 → 00:16:45 ดรีมเนาะที่บอกว่าโรคสงบลงเหมือนสะเกด
00:16:45 → 00:16:48 เงินใช่มั้ยคะคุณหมอที่สงบลงอ่าใช่ค่ะก็
00:16:48 → 00:16:52 คือสงบก็คืออาจจะมีผื่นน้อยหรือไม่มีเลย
00:16:52 → 00:16:55 อะไรอย่าเงี้ยค่ะแต่ว่าอ่าอันนี้ในความ
00:16:55 → 00:16:57 หมายที่ที่ส่วนใหญ่เคสที่เราดูแลอยู่ค่ะ
00:16:57 → 00:17:02 แล้วจะเป็นเคที่สงบด้วยอ่าการรักษาค่ะ
00:17:02 → 00:17:05 อยู่ระหว่างการรักษาแต่ว่ารายที่หายขาดก็
00:17:05 → 00:17:08 มีบ้างค่ะเพียงแต่ว่าส่วนใหญ่เราใช้เวลา
00:17:08 → 00:17:11 ในการรักษาค่อนข้างนานค่ะอทีนี้ถ้าเราไม่
00:17:11 → 00:17:15 อยากที่จะไปสัมผัสกับโรคนี้เราไม่น่าจะมี
00:17:15 → 00:17:18 เค้าเรียกว่ามันส่งผลทางกรพันธ์มั้ยคะ
00:17:18 → 00:17:20 อย่างเช่นเอ่อสายตรงเราเนี่ยไม่ได้เป็น
00:17:20 → 00:17:22 โรคนี้มาเนี่ยเราก็ไม่อยากเป็นเนี่ยหรือ
00:17:23 → 00:17:25 ว่าอาจจะมีมาบ้างเนี่ยเราจะต้องมีการ
00:17:25 → 00:17:28 ระวังป้องกันสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย
00:17:28 → 00:17:31 เราเนี่ยแข็งแรงก่อนเกิดโรคนี้ทำยังไงดี
00:17:31 → 00:17:34 คะคุณหมอคะอันนี้จะค่อนข้างป้องกันได้ยาก
00:17:34 → 00:17:37 อ่ะค่ะเพราะว่าเราไม่รู้ว่าภุมคุมกันที่
00:17:37 → 00:17:41 ผิดปกติจะเมายังไงใช่ส่วนเรื่องข้อมูล
00:17:41 → 00:17:44 ด้านกรรมพันธ์ค่ะอันนี้เก็มีความเชื่อว่า
00:17:44 → 00:17:47 เอ่อโรคภูมิคุ้มกันผิดปกติเนี่ยอาจจะมี
00:17:47 → 00:17:50 เบสที่กรรมพันธ์แต่ว่าไม่ใช่สาเหตุหลัก
00:17:50 → 00:17:55 ค่ะอ๋ออืค่ะอันนี้ก็คิดว่ามันไม่สามารถ
00:17:55 → 00:17:59 ป้องกันได้ 100% คือการดูแลรักษาสุขภาพ
00:17:59 → 00:18:02 ที่ดีก็คืออาจจะทำให้ร่างกายเรามีสุขภาพ
00:18:02 → 00:18:05 ที่ดีแต่ว่าเ่าโรคกลุ่มแพ้ภูมิตนเองเนี่ย
00:18:05 → 00:18:09 บอกไม่ได้ว่าจะเกิดกับใครได้คะแต่ในราย
00:18:09 → 00:18:11 ที่มีอ่าร่างกายที่แข็งแรงค่ะโอกาสที่จะ
00:18:11 → 00:18:15 สู้กับโลกก็จะน่าจะดีกว่าในลายที่ร่างกาย
00:18:15 → 00:18:20 ไม่แข็งแรงอยู่เดิค่ะอืก็ถ้าเขาเป็นคนที่
00:18:20 → 00:18:23 ใช้ชีวิตดีนะคะออกกำลังร่างกายแข็งแรงกิน
00:18:23 → 00:18:27 อาหารครบ 5 หมู่เอ่อไม่มีโรคภแค้เจ็บอะไร
00:18:27 → 00:18:30 แต่ว่าเขาใช้ยาบางอย่างสมมุติว่าทานอะไร
00:18:30 → 00:18:33 มากเกินไปอย่างเงี้ยเขาบอกว่ายาเนี่ยบาง
00:18:33 → 00:18:35 ชนิดส่งผลให้เกิดโรคนี้จริงจริงมั้ยคะคุณ
00:18:36 → 00:18:40 หมอคะมียาบางชนิดเหมือนกันค่ะที่สามารถ
00:18:40 → 00:18:43 ที่จะกระตุ้นให้เกิดโรคตุ่มน้ำพ้องได้แต่
00:18:43 → 00:18:46 ว่าก็ไม่ได้เป็นยาที่ใช้กันอยู่ทั่วไปอ่ะ
00:18:46 → 00:18:49 ค่ะยาที่จะเกิดบ่อยก็อาจจะเป็นยาลดความ
00:18:49 → 00:18:53 ดันบางตัวที่อ่อไม่ไม่ได้ใช้กันทั่วไปใน
00:18:53 → 00:18:58 ท้องตลาดค่ะยาอะไรคะคุณบอคะเอ่อมันก็จะมี
00:18:58 → 00:19:01 พูดถึงกลุ่มของแคปติซึ่งเป็นยาลดความดัน
00:19:01 → 00:19:04 อ่าที่ออกิบสั้นหรือมาตจริงๆเราไม่ค่อย
00:19:04 → 00:19:07 ได้ไม่ค่อยได้ใช้ในประชากรทั่วไปค่ะอีก
00:19:07 → 00:19:11 อันก็อาจะเป็นพวกดีเพนิซิลินแต่ว่าก็ไม่
00:19:11 → 00:19:12 ใช่
00:19:12 → 00:19:16 อ่ายาที่ใช้ในชีวิตประจำวันนะคะไม่ได้
00:19:16 → 00:19:18 เป็นยา
00:19:18 → 00:19:21 สม้อหรืออะไรอย่างเงี้ยเอค่ะเพราะฉะนั้น
00:19:21 → 00:19:24 ก็ไม่ต้องวิตกกังวลนะต้องวิตกกังวลค่ะถ้า
00:19:24 → 00:19:26 สงสัยว่าเกิดจากยาจริงส่วนใหญ่การหยุดยา
00:19:26 → 00:19:31 ค่ะของไข้ก็จะกลับมาเป็นปกติได้ค่ะอืก็
00:19:31 → 00:19:34 มันมันมันจะต้องมีช่วงระยะเวลามั้ยครับ
00:19:34 → 00:19:38 คุณหมอครับสมมุติว่าถ้าอ่ะอเกิดเกิดตุ่ม
00:19:38 → 00:19:43 ขึ้นแล้วก็คิดว่าเอ้ยมันมันอาจจะเป็นตุ่ม
00:19:43 → 00:19:47 น้ำพองตำควรจะต้องรีบไปพบแพทย์ภายในระยะ
00:19:47 → 00:19:49 เวลาเท่าไหร่ยังไงคือคือเผื่อบางคนอาจจะ
00:19:50 → 00:19:51 อาจจะไม่รู้จริงๆอ่ะครับคุณหมอครับว่า
00:19:51 → 00:19:53 เอ๊ะไอ้ที่เราเป็นอยู่เนี่ยมันอาจจะเป็น
00:19:53 → 00:19:56 ตุ่มปกติทั่วไปอาจจะทายยากินยาหรือว่า
00:19:56 → 00:19:59 เดี๋ยวปล่อยไว้เดี๋ยวมันก็คงจะจะหาหาย
00:19:59 → 00:20:01 อะไรอย่างเงี้ยคุณหมอครับสักเดือนนึงไว
00:20:01 → 00:20:05 มั้ยคะออันนี้บอกยากอ่ะค่ะว่าแต่ละคนมี
00:20:05 → 00:20:10 ความอ่าเาเรียกว่ารสของตัวโลกไม่ไม่เท่า
00:20:10 → 00:20:13 กันนะค่ะทีนี้ถ้าสมมุติว่าตุ่มน้ำมันอยู่
00:20:13 → 00:20:15 ดีๆมันขึ้นมากขึ้นเรื่อยๆแล้วมีการลามอัน
00:20:15 → 00:20:20 นี้ควรจะมาพบหมอ่ะค่ะออืก็คือมันมันมากจน
00:20:20 → 00:20:23 มันรับไม่ไหวแล้ววันนึงเพิ่มมาเยอะเหลือ
00:20:23 → 00:20:25 เกินไม่ว่าเราจะหมายถึงว่าถ้าแนวโน้มมัน
00:20:26 → 00:20:28 ดูแบบแทนที่ถ้าเกิดจากการเสษสีมันว่าจะ
00:20:29 → 00:20:31 เป็นตุ่มเดียวแล้วถ้าเราเลี่ยงปัจจัยที่
00:20:31 → 00:20:34 เอ่อเกิดจากการเสสีอ่ะค่ะมันก็ไม่ควรจะมี
00:20:34 → 00:20:37 เพิ่มใช่มั้ยคะแต่ถ้าสมมุติว่ามันขึ้นใน
00:20:37 → 00:20:39 ตำแหน่งที่ไม่ได้มีการเสียสีอะไรแล้วก็มี
00:20:39 → 00:20:43 การลามกระจายมากขึ้นนะคะอืออย่างเช่นอยู่
00:20:43 → 00:20:46 ดีๆอีวันนึงขึ้นอีก 10 ตุ่มอีกวันนึงขึ้น
00:20:46 → 00:20:48 อีก 10 ตุ่มอย่างงี้ก็ก็ควรมาหาคุณหมอได้
00:20:48 → 00:20:53 ล่ะค่ะน่ากลัวมามันมันจะมันจะขยับแบบก้าว
00:20:53 → 00:20:55 กระโดดแบบนั้นเลยใช่มั้ยครับคุณหมอไอ้ไอ้
00:20:55 → 00:20:58 ตุ่มที่มันจะเกิดขึ้นแล้วแต่แต่ละคนไม่
00:20:58 → 00:21:00 เหมือนกัน
00:21:00 → 00:21:03 อใหมน้ำที่เรากล
00:21:03 → 00:21:07 มันโรสุสงูสวังสวัใช่ฟังแล้วนึกถึงงู
00:21:07 → 00:21:11 สวัสดิ์เลยที่บางคนเป็นตามลำตัวแล้วก็มัน
00:21:11 → 00:21:13 แสบร้อนอันนั้นเป็นอาการงูสวัสดิ์เลยใช่
00:21:13 → 00:21:16 ไหมมคะที่มีลักษณะค่ะเราที่ตุ่มน้ำที่
00:21:16 → 00:21:18 ขึ้นตามตัวโดยเฉพาะในผู้สูงอายุแล้วก็
00:21:18 → 00:21:22 เป็นตามการกระจายเสื้นประสาทเี้อันนี้เจอ
00:21:22 → 00:21:25 บ่อยกว่าโรคตุ่มน้ำองมากเลยนะคะงูสวัสดิ์
00:21:25 → 00:21:29 นี่พบได้เยอะกว่ามากโอ่ะถ้าเทียบอัตรากัน
00:21:29 → 00:21:32 นะคุณหมอครับอ่าถ้าถ้าเทียบกันไยังตุ่ม
00:21:32 → 00:21:36 น้ำคอเนี่ย 1 ล้านคนจะเจอสัก 22 คนเอ่องู
00:21:36 → 00:21:39 สวัสดิ์ในบ้านเราตัวเลขนี่ถือว่าแตกต่าง
00:21:39 → 00:21:41 กันเยอะมากมครับคุณหมอครับเนเราน่าจะไม่
00:21:41 → 00:21:44 แน่ใจตัวเลขที่ชัดเจนแต่ว่ามันเป็นโลกที่
00:21:44 → 00:21:47 พบได้ค่อนข้างบ่อยค่ะค่อนข้างบ่อยภาพใน
00:21:47 → 00:21:51 พวกคลินิกโรงพยาบาลผิวหนังก็เจอทุกวันค่ะ
00:21:51 → 00:21:54 โอเจอทุกวันด้วยเป็นตุ่มน้ำลักษณะเดียว
00:21:54 → 00:21:58 คล้ายๆกันมั้ยคะงูสวัสดิ์เออไม่ได้เหมือน
00:21:58 → 00:22:01 กันทีเดียวค่ะก็เป็นตุ่มน้ำเหมือนกันแต่
00:22:01 → 00:22:03 ว่าเอ่ออันนี้
00:22:03 → 00:22:07 จะเค้าเรียกว่ายังไงดีคะมันจะเป็นอ่า
00:22:07 → 00:22:10 ลักษณะการกระจายตัวมันจะกระจายไปตามเ่อ
00:22:10 → 00:22:14 ตัวของเส้นประสาทแล้วก็ความบ่อยในการพบ
00:22:14 → 00:22:17 เนี่ยมันจะตกอยู่ระหว่างอ่าน่าจะเป็น
00:22:18 → 00:22:20 เอ่อประมาณ
00:22:20 → 00:22:23 2-3 คนต่อประชากรพันนึงนะคะไม่ใช่หลัก
00:22:23 → 00:22:26 ล้านแน่นอนนะค่ะแต่เจอบ่อยกว่าหลายเท่า
00:22:26 → 00:22:29 ค่ะโมูสวัสดีนี่มาเยอะมากก็หายไปเยอะ
00:22:29 → 00:22:32 เหมือนกันเคืออันนี้ได้ยินบ่อยคนสูงว
00:22:32 → 00:22:35 เนี่ยคนจะเป็นเยอะกว่ามากค่ะถ้าเป็นตุ่ม
00:22:35 → 00:22:38 น้ำนี้ผู้สูงอายุแล้วก็แนวโน้มที่มาเจอจะ
00:22:38 → 00:22:41 เป็นงูสวัดิ์มากกว่าค่ะไม่ไม่คุณหมอ
00:22:41 → 00:22:44 วินิจฉัยได้เลยถ้าเกิดมาพบแพทย์ใช่มั้ยคะ
00:22:44 → 00:22:47 ว่างูสวัดเนี่ยบางทีบางทีตัวผู้ป่วยเองก็
00:22:47 → 00:22:50 วินิจฉัยตัวเองได้เลยเหนะคะเพราะว่ามัน
00:22:50 → 00:22:53 อ่าประชาชนค่อนข้างจะมีความรู้ด้านนี้คือ
00:22:53 → 00:22:55 เขบางทีเขาจะบอกเองว่าเสงสัยเป็นงู
00:22:55 → 00:22:59 สวัสดิ์อือืงูสวัสดิ์คุณหมอมีคุณผู้ฟัง
00:22:59 → 00:23:02 ทางบ้านถามมาเหมือนกันว่าไอ้โรคตุ่มน้ำ
00:23:02 → 00:23:04 พองเนี่ยไอ้ตุ่มน้ำที่มันเกิดขึ้นน่ะคุณ
00:23:04 → 00:23:08 หมอครับคือมันจะเป็นตุ่มน้ำใสๆมั้ยหรือ
00:23:08 → 00:23:12 ว่ามันมีโอกาสที่จะพัฒนาเป็นตุ่มแข็งๆม
00:23:12 → 00:23:14 ครับคุณหมอครับไม่ค่ะจะเป็นตุ่มน้ำค่ะ
00:23:14 → 00:23:17 แล้วก็แตกออกเป็นแผลตกสะเก็ดแต่ที่ระวัง
00:23:17 → 00:23:19 ที่ต้องระวังก็คืออาจจะมีการติดเชื้อที่
00:23:19 → 00:23:22 ตำแหน่งแผลได้ค่ะอืโอ้โหแสดงว่ามันบางพอ
00:23:22 → 00:23:25 ควรที่เราจะใช่ๆค่ะมันจะเป็นความเปราะบาง
00:23:25 → 00:23:27 ของผิวเพราะฉะนั้นเนี่ยมันจะแตกมากกว่า
00:23:27 → 00:23:31 ที่มันจะกลายเป็นตัวแขนค่ะโอหฟังแล้วขนาด
00:23:31 → 00:23:33 ของมันนะคคุณหมอมันจะใหญ่จะเล็กแล้วแต่มี
00:23:33 → 00:23:37 ได้ทั้งใหญ่และเล็กเลยค่ะคือได้ทั้งทั้ง
00:23:37 → 00:23:41 ขนาดเป็นอ่าไม่กี่มิลลิเมตรไปจนถึงขนาด
00:23:41 → 00:23:46 เป็นแบบหลายๆเส้นนะค่ะออใหญ่นะคะเป็นใช่
00:23:46 → 00:23:49 เป็นเเลยฟังแล้วเอ่อแอบแอบกลัวอยู่เหมือน
00:23:49 → 00:23:51 กันพื้นที่ของมันเนี่ยเป็นลำตัวส่วนมาก
00:23:51 → 00:23:55 มั้ยคะหรือว่าตรงไหนคะตรงไหนก็ได้ค่ะบาง
00:23:55 → 00:23:59 ส่วนใหญ่จะเป็นชุตัวค่ะใช่เป็นชอกิน
00:23:59 → 00:24:02 กระจายพื้นที่กันไปบางๆชนิดก็จะเด่นที่
00:24:02 → 00:24:05 หน้าหนังศีรษะหรือว่าอกหลังช่วงบนเงี้ย
00:24:05 → 00:24:09 ค่ะแล้วแต่ชนิดคือบางคนเนี่ยเขามักจะขนาน
00:24:09 → 00:24:13 นามโรคนี้ว่าเป็นโรคเร้นลักเป็นโรคเวรโรค
00:24:13 → 00:24:17 กรรมอคุณหมอเไม่รู้สาเหตุเนาะเออมองมอง
00:24:17 → 00:24:20 เรืื่องเรื่องคำพูดของคนที่เขนานนามโรค
00:24:20 → 00:24:23 นี้ว่าว่าเหล่านี้ว่ายังไงดีคุณหมอครับ
00:24:23 → 00:24:25 มันเป็นเรื่องของโลกเวรโลกกรรมมั้ยหรือ
00:24:25 → 00:24:28 ว่าเมันได้นนานที่จะเจออ่ะ
00:24:28 → 00:24:32 อืค่อนข้างจะยากแต่ไม่ไม่เคยได้ยินเอ่อ
00:24:32 → 00:24:35 ผู้ป่วยมาพูดให้ฟังในลักษณะนี้แต่เข้าใจ
00:24:35 → 00:24:38 ได้ค่ะว่าเอ่อเนื่องจากมันเป็นอ่าตุ่มน้ำ
00:24:38 → 00:24:40 แล้วแตกเป็นแผลตามผิวหนังแล้วบางคนมีรอย
00:24:40 → 00:24:43 โรคค่อนข้างเยอะอันนี้จะมีความทุกข์ทรมาน
00:24:43 → 00:24:46 ค่อนข้างจะมากอ่ะค่ะก็คือพอเข้าใจได้ว่า
00:24:47 → 00:24:49 อ่าเขาอาจจะมีความรู้สึกเจ็บปวดกับตัวโลค
00:24:49 → 00:24:53 เยทำให้เขารู้สึกว่ามันเป็นโรคเวรโรคกรรม
00:24:53 → 00:24:58 อืฟังแล้วก็รู้สึกแแอบกลัวเหมือนกัน
00:24:58 → 00:25:01 ก็สามารถควบคุมให้อาการสงบได้นะคะถ้าได้
00:25:01 → 00:25:04 รับการรักษาที่ถูกต้องใช่ก็เลยอยากจะพูด
00:25:04 → 00:25:06 ถึงสถาบันรูปผิวหนังที่พี่นกก็มี
00:25:07 → 00:25:11 ประสบการณ์กับตรงนี้ที่รักษาโรคของของคัน
00:25:11 → 00:25:15 นะคะในช่วงที่อาจจะแบบผิวแห้งอะไรอย่าง
00:25:15 → 00:25:18 เงี้ยค่ะแล้วก็ใช้ยาของสถาบันโรคผิวหนัง
00:25:18 → 00:25:21 แล้วก็ความรู้สึกว่าตอนนี้ก็ทาเป็นประจำ
00:25:21 → 00:25:24 แล้วก็ทิ้งช่วงห่างไปก็ก็ไม่กลับมาอย่าง
00:25:24 → 00:25:26 นั้นอีกไม่ว่าจะเป็นช่วงฤดูหนาวที่ผ่านไป
00:25:26 → 00:25:29 นะคะคุณหมอหรือว่าตอนนี้ก็จากก้าวเข้าสู่
00:25:29 → 00:25:32 ช่วงของฤดูร้อนแล้วเนี่ยก็มั่นใจว่าผิว
00:25:32 → 00:25:36 หนังเรามีมีภูมิคุ้มกันมีเกราะที่ดีทำยัง
00:25:36 → 00:25:39 ไงดีครับคุณหมอที่ผู้สูงอายุเนี่ยหลายคน
00:25:39 → 00:25:42 เนี่ยยังไม่รู้จักกับลักษณะของผิวหนังคุณ
00:25:42 → 00:25:44 หมอช่วยอธิบายให้นิดนึงว่ามีวิธีดูแลยัง
00:25:45 → 00:25:49 ไงดีค่ะอบางคนอาจจะใช้สบู่หรือการอาบน้ำ
00:25:49 → 00:25:52 ที่ผิดปกติค่ะคุณหมอคะที่อาจทำให้ผิวแห้ง
00:25:52 → 00:25:55 ได้อผิวถ้าช่วงหน้าหนาวก็จะเป็นผิวแห้ง
00:25:55 → 00:25:59 อ่ะค่ะส่วนช่วงหน้าร้อนจะมีปัญหาเรือืค่ะ
00:25:59 → 00:26:02 อืที่จริงแล้วเอ่อผิวเ่อถ้าเป็นผู้สูง
00:26:02 → 00:26:05 อายุผิวจะค่อนข้างเอ่อแห้งง่ายแล้วก็มี
00:26:05 → 00:26:10 ความางอ่ะคะถ้าให้แนะนำก็จะแนะนำการอาบ
00:26:10 → 00:26:12 น้ำที่อุณหภูมิปกติอย่าอาบน้ำนานมากไม่
00:26:12 → 00:26:15 อาบน้ำน้ำอุ่นจัดเกินไปไม่ดีเลยใช่มั้ยคะ
00:26:15 → 00:26:19 ไม่ไม่ควรอาบเป็นแบบน้ำร้อนเลยค่ะหรือ
00:26:19 → 00:26:21 อุณหภูมิห้องก็จะดีกว่าค่ะอุณหภูมิไม่ควร
00:26:21 → 00:26:25 สูงมากแล้วก็แนะนำเป็นกลุ่มสบู่เรวค่ะ PS
00:26:25 → 00:26:28 5 - 5.5 ได้ก็ดีค่ะแต่บางที
00:26:28 → 00:26:31 กลุ่มผู้สูงอายุจะชอบสบู่ก้อนหรือสบู่ที่
00:26:31 → 00:26:34 มีฟองข้างเยอะอันนี้อาจจะไม่ค่อยเหมาะกับ
00:26:34 → 00:26:37 ผิวอ่ะค่ะคือจะแนะนำเป็นสบู่เหลวที่อ่า
00:26:37 → 00:26:43 อาจจะไม่ค่อยมีฟ้องอ่ะค่ะหรืออืสบู่เด็ก 5
00:26:43 → 00:26:46 - 5.5 อย่างนี้ก็ได้ค่ะอืแล้วก็หลังอาบ
00:26:46 → 00:26:50 น้ำก็ควรจะทาพวกครีมบำรุงหรือโลชั่นทีนี้
00:26:50 → 00:26:53 ก็ไม่ไม่ได้ระบบยี่ห้อนะคะขอให้ทาชนิดที่
00:26:53 → 00:26:56 เราใช้เราไม่แพ้ค่ะก็คือแนะนำให้ทาดีกว่า
00:26:56 → 00:27:01 ไม่ทาค่ะอือืาันอื่นก็ถ้าหน้าร้อนก็จะมี
00:27:01 → 00:27:04 แสงแดดที่ค่อนข้างแรงนะคะก็แนะนำว่าอย่า
00:27:04 → 00:27:09 ลืมคิมกันแดดนะคะอือืก็ยังคงต้องเฝ้า
00:27:09 → 00:27:12 ระวังยิ่งเหมือนผิวเด็กๆยิ่งขึ้นไปอีกอ่ะ
00:27:12 → 00:27:16 เเมื่อเราสูงวัยมันก็บางลงไปอ่ะออเพราะ
00:27:16 → 00:27:19 ว่าคือหลายคนก็แอบกังวลอยู่เหมือนกันนะ
00:27:19 → 00:27:22 ว่าถ้าถ้ามันเกิดขึ้นมาอะไรอย่าเงี้ยสิ่ง
00:27:22 → 00:27:25 ที่มันตามมาก็คือความทรมานจากจากการเป็น
00:27:25 → 00:27:28 แผลที่มันพุพองแล้วเมก็แตกลงมาอะไรประมาณ
00:27:28 → 00:27:32 นี้นะฮะเออนั่นค่ะก็ควรที่จะดูแลผิวให้
00:27:32 → 00:27:35 ให้ดีอ่ะให้ให้มันทะนุถนอมกันมากนิดนึงนะ
00:27:35 → 00:27:37 คะแล้วก็ทำร่างกายให้แข็งแรงใช่มั้ยครับ
00:27:37 → 00:27:39 คุณหมอคืออย่างน้อยเคือถ้ามันเกิดอะไร
00:27:39 → 00:27:43 ขึ้นมาอย่างน้อยมันก็มีมีกำลังวังชาจาก
00:27:43 → 00:27:45 ภายในในการที่จะต่อสู้กับพวกเชื้อโรคต่าง
00:27:45 → 00:27:49 ๆนี้นะฮะคุณหมอครับค่ะเห็นด้วยค่ะอืใช่
00:27:49 → 00:27:51 ครับคุณหมอช่วงท้ายแล้วครับอยากจะให้คุณ
00:27:51 → 00:27:55 หมอช่วยแนะนำหรือว่าย้ำเตือนอะไรกับคนที่
00:27:55 → 00:27:58 อาจจะยังกังวลหรือว่ากลัวกับเรื่องของการ
00:27:58 → 00:28:00 เป็นนโรคของตุ่มน้ำพองกันหน่อยครับเพราะ
00:28:00 → 00:28:03 ว่าโดยเฉพาะผู้สูงอายุค่ำคืนนี้ก็ฟังกัน
00:28:03 → 00:28:05 เยอะเหมือนกันก็แอบมีคำถามแล้วก็มีความ
00:28:05 → 00:28:08 กังวลกันเข้ามาพอตัวทีเดียว 22 22 ใน
00:28:08 → 00:28:12 ล้านเออก็อย่าวิตกมากเจอไม่ออันนี้หมาย
00:28:12 → 00:28:15 ถึงเฉพาะตัวบูรัเพมพี่กอยนะคะแต่ก็ชนิด
00:28:15 → 00:28:18 อื่นก็จะมีอุบัติการณ์ของแต่ละชนิดย่อย
00:28:18 → 00:28:22 ค่ะแต่ว่าอยากจะเรียนให้เอ่อท่านผู้ฟัง
00:28:22 → 00:28:25 อ่ะค่ะว่าโรคกลุ่มน้ำพองอ่ะค่ะเป็นโรค
00:28:25 → 00:28:28 ภูมิคุ้มกันผิดปกติที่มีมีการต่อต้าน
00:28:28 → 00:28:31 เซลล์ผิวหนังโครงสร้างที่ยึดเกาะของเซลล์
00:28:31 → 00:28:35 ผิวหนังของเราเองเนี่ยอันนี้เจอน้อยนะคะ
00:28:35 → 00:28:38 คือเป็นโรคที่แบบอุบัติการณ์น้อยนะคะไม่
00:28:38 → 00:28:41 ได้เจอบ่อยแต่ถ้าพบเจออ่ะค่ะเ่ออาจจะมี
00:28:41 → 00:28:44 ความรุนแรงของตัวโลกนี่ก็แล้วแต่ชนิดแล้ว
00:28:44 → 00:28:47 ก็อ่าแล้วแต่แต่ละคนความรุนแรงจะไม่เท่า
00:28:47 → 00:28:49 กันทีนี้บางคนอาจจะเป็นน้อยบางคนอาจจะ
00:28:49 → 00:28:52 เป็นมากไม่อยากให้กังวลเลยค่ะเพราะว่า
00:28:52 → 00:28:55 อย่างไรก็ตามในปัจจุบันเราก็มียาเ่อในการ
00:28:55 → 00:28:58 รักษานะคะซึ่งถึงแม้อาจจะไม่ได้หายขาดใน
00:28:58 → 00:29:01 ระยะเวลาอันสั้นๆคือต้องใช้เวลารักษานาน
00:29:01 → 00:29:04 แต่ว่าก็ผู้ป่วยส่วนใหญ่นะคะเราก็สามารถ
00:29:04 → 00:29:07 ที่จะควบคุมอาการของตัวโลกให้เขาได้อ่ะ
00:29:07 → 00:29:08 ค่ะ
00:29:08 → 00:29:12 อืยังยืนยันว่าให้เชื่อมั่นในอ่าองค์การ
00:29:12 → 00:29:15 สาธารณสุขของประเทศไทยค่ะว่าเรายังดูแลคน
00:29:15 → 00:29:18 ไข้ในโรคกลุ่มนี้ได้เป็นส่วนใหญ่นะคะอ
00:29:18 → 00:29:20 เยี่ยมเลยนะคะถ้ามีอาการอย่างไรรก็ไปที่
00:29:20 → 00:29:23 สถาบันโรคผิวหนังได้ใชอืนะผ่อนหนักเป็น
00:29:24 → 00:29:28 เบาได้คือถ้ามาพบสงบมาพบคุณหมอได้อย่างท
00:29:28 → 00:29:31 ท่วงทีนะคือโลคก็จะสงบได้นะครับผมวันนี้
00:29:31 → 00:29:33 ต้องขอกราบขอบพระคุณคุณหมอมากๆนะครับที่
00:29:33 → 00:29:35 มาให้ความรู้กับเราในค่ำคืนวันนี้นะครับ
00:29:35 → 00:29:37 คุณหมอครับขอบพระคุณมากค่ะคุณหมอค่ะ
00:29:37 → 00:29:39 ขอบพระคุณมากๆครับขอบคุณคุณนพกับคุณดีม
00:29:39 → 00:29:43 ค่ะขอบพระคุณครับคุณหมอครับสวัสดี
00:29:43 → 00:29:47 ครับก็คืออย่าวิตกกังวลไปเลยนะคะเพราะว่า
00:29:47 → 00:29:50 เป็นน้อยมากมันเป็นเรื่องของภูมิแพ้ด้วย
00:29:50 → 00:29:52 แล้วก็คนเป็นภูมิแพ้เอ่อแพ้ภูมิตัวเองบาง
00:29:52 → 00:29:55 ครั้งก็ไม่ใช่อาการนี้ก็มีอมัน 22 คนใน
00:29:55 → 00:29:58 ล้านคนมันน้อยมากๆเลยน้อยมากจริงๆนะติ
00:29:58 → 00:30:00 อาการของโรคต่างๆเนี่ยจะกำหนดด้วยที่แสน
00:30:00 → 00:30:02 คนแต่นี่เป็นล้านเลยนะ
00:30:02 → 00:30:07 โหเอ่อ 1 ล้านจะเจอ 22 คนแล้วก็ต้องเรา
00:30:07 → 00:30:10 ต้องขอขอบคุณคุณวินัยไกรบุตรด้วยนะที่
00:30:10 → 00:30:15 เอ่อคือเค้าเรียกว่าตีแผ่เรื่องของผิว
00:30:15 → 00:30:17 หนังเรื่องของการรักษาเรื่องของอาการต่าง
00:30:17 → 00:30:21 ๆแล้วก็ทำให้คุณผู้ฟังเเข้าใจขึ้นว่าเออ
00:30:21 → 00:30:24 อาการนี้มันมีโรคนี้อยู่นะบนโรคบนโรคใบ
00:30:24 → 00:30:27 เนี้ยคือหลายคนที่อาจจะไม่ไม่ได้ทราบข้อ
00:30:27 → 00:30:30 มูคืออาจคิดไปว่าคือเนี่ยเฮ้ยมันเป็นโรค
00:30:30 → 00:30:32 โรคเวโรคกรรมเราได้มั้ยเนี่ยเราจะเป็นมย
00:30:32 → 00:30:36 เนี่ยโรคเวรโรคกรรมโรคที่เกิดจากความเร้น
00:30:36 → 00:30:39 ลับอะไรอย่างงี้รึเปล่าคือคือคุณหมออาจจะ
00:30:39 → 00:30:42 ไม่เคยได้ยินนะจากคนไข้แต่ว่าเราเนี่ยใน
00:30:42 → 00:30:45 ฐานะคือในฐานะที่แบบว่าเราก็คุกเกับคนที่
00:30:45 → 00:30:48 แบบว่าหลากหลายอะไรเงี้ยเขาก็มักจะมาพูด
00:30:48 → 00:30:50 มักจะเข้าใจว่าไอ้สิ่งที่มันเกิดขึ้น
00:30:50 → 00:30:53 เนี่ยบอกอธิบายไม่ได้เออมันเฮ้ยมันมัน
00:30:53 → 00:30:57 เป็นยไงทำเวทำกรอะไรก็ดูสิเใช้ทุกวิถีทาง
00:30:57 → 00:30:59 แล้ว่หมอหมอ
00:30:59 → 00:31:03 วิทยาศาสตร์หมอบ้านหมอผีอขออภัยด้วยนะ
00:31:03 → 00:31:05 แล้วแกแล้วแกหายมาแล้วนะแล้วแกก็กลับไป
00:31:05 → 00:31:08 เป็นอีกนะในช่วงคุณวินัยเป็นน่ะคือที่เรา
00:31:08 → 00:31:11 ติดตามข่าวก็มันอย่าใช้คำว่าหายใช้คำว่า
00:31:11 → 00:31:14 โรคสงบดีกว่าอ่าโรคมันสงบอ่าแล้วมันก็
00:31:14 → 00:31:17 กลับมามีอาการใหม่นะครับค่ำคืนวันนี้จริง
00:31:17 → 00:31:19 ๆต้องขอขอบพระคุณคุณหมอปิ่นนรีนะครับ
00:31:19 → 00:31:22 ขัตติพัฒนาพงษ์นะครับนายแพทย์ชำนาญการ
00:31:22 → 00:31:25 พิเศษผู้ช่วยผู้อำนวยการด้านการฝึกอบรม
00:31:25 → 00:31:27 ของสถาบันโรคนั้นกรมการแพทยกระทวง
00:31:27 → 00:31:30 สาธารณสุคุณผู้ฟังชมมาว่าคุณหมอสวยนะคะ
00:31:30 → 00:31:32 คุณหมอน่ารักมากแล้วก็คุณหมออธิบายได้
00:31:32 → 00:31:35 อย่างชัดเจนจริงๆนะครับ