00:00:00 → 00:00:04 5 โรคร้ายรักษาง่ายๆ ด้วยการทานโยเกิร์ต
00:00:11 → 00:00:14 สวัสดีครับ ผมหมอท๊อป และนี่คือ DOCTOR TOP Channel
00:00:14 → 00:00:17 รายการสุขภาพที่ทั้งสนุกและมีสาระ
00:00:18 → 00:00:22 วันนี้เราจะมาคุยกันเรื่องอาหารที่เจ๋งมากๆ
00:00:22 → 00:00:27 ที่จะรักษาโรคร้ายต่างๆ ของท่านได้ นั่นก็คือโยเกิร์ตเอง
00:00:27 → 00:00:31 5 โรคร้ายรักษาง่ายๆ ด้วยการทานโยเกิร์ต
00:00:31 → 00:00:32 ก่อนไปอย่าลืมกด Like กด Share
00:00:32 → 00:00:34 กด Subscribe และกดกระดิ่ง ขอบคุณครับ
00:00:34 → 00:00:36 สำหรับท่านที่มีเวลาน้อย
00:00:36 → 00:00:38 ผมขออนุญาตให้กระโดดไปที่ 3 นาทีหลังเลย
00:00:38 → 00:00:41 มีสรุปไว้ให้เรียบร้อย แล้วเมื่อท่านมีเวลากลับมาดูใหม่
00:00:41 → 00:00:46 เพื่อประโยชน์และชีวิตที่แฮปปี้ มีความสุขของท่านเอง
00:00:46 → 00:00:48 สำหรับท่านที่พร้อมแล้ว เราไปพร้อมๆ กันเลย
00:00:49 → 00:00:53 5 โรคร้ายรักษาง่ายๆ แค่ทานโยเกิร์ต
00:00:53 → 00:00:56 คือโยเกิร์ตต้องบอกว่าเป็นผลิตมันจะนม
00:00:56 → 00:01:01 ที่เกิดจากการหมักโดยใช้แบคทีเรียกลุ่มโปรไบโอติกมากกว่าหนึ่งชนิด
00:01:01 → 00:01:07 บางทีมัน 5 ชนิด 7 ชนิด 10 ชนิดก็ช่างมัน แต่ต้องหลายชนิด
00:01:07 → 00:01:10 พวกแบคทีเรียพวกนี้มีประโยชน์มากๆ
00:01:10 → 00:01:15 โดยเฉพาะระบบย่อยอาหารและระบบอวัยวะของเพศหญิง
00:01:15 → 00:01:17 เดี๋ยวเรามาดูกันว่ามันมีประโยชน์อะไรบ้าง
00:01:17 → 00:01:20 แบคทีเรียมีหลายชนิดเลย เช่น แลคโตบาซิลลัส
00:01:20 → 00:01:23 แอนเทโลคอกคัส สเตรปโตคอกคัส
00:01:23 → 00:01:26 เยอะแยะเลย แต่ไม่ต้องจำเพราะเราไม่ต้องไปสอบ
00:01:26 → 00:01:29 เราแค่รู้ว่ามันมีประโยชน์มากๆ
00:01:29 → 00:01:34 มาดูโรคร้ายโรคแรกที่สามารถรักษาได้ด้วยโยเกิร์ต
00:01:34 → 00:01:36 หรือว่าช่วยด้วยโยเกิร์ต คงไม่ใช่รักษาทั้งหมด
00:01:36 → 00:01:41 ข้อแรก คือลดอาการท้องเสียจากยาปฏิชีวนะหรือยาฆ่าเชื้อนั่นเอง
00:01:41 → 00:01:47 ต้องบอกว่ามีหลายๆ ท่านเลย พอไม่สบายมีติดเชื้อแบคทีเรีย
00:01:47 → 00:01:50 คุณหมอสั่งยาฆ่าเชื้อ ยาปฏิชีวนะให้ทาน
00:01:50 → 00:01:53 พอทานเสร็จปุ๊บ ท้องเสียเลย
00:01:53 → 00:01:57 กลุ่มเพนนิซิลินบางตัวมี บางทีผมก็ท้องเสียเวลาทาน
00:01:57 → 00:02:01 คราวนี้เวลาท้องเสียพวกนี้ มันมักจะแก้ได้ยาฆ่าเชื้อไม่ได้เพราะไร
00:02:01 → 00:02:03 ก็เราทานยาฆ่าเชื้อแล้วท้องเสีย
00:02:03 → 00:02:04 จะกินยาฆ่าเชื้อเพื่อแก้ท้องเสียได้ไหม
00:02:04 → 00:02:08 มันก็ไม่ได้ใช่ไหม แต่ตัวโยเกิร์ตตัวนี้ช่วยได้
00:02:08 → 00:02:13 ตัวโยเกิร์ตสามารถที่จะไปทำให้เกิดแบคทีเรียชั้นดีในลำไส้
00:02:13 → 00:02:19 ช่วยให้ภาวะระบบขับถ่ายจากการท้องเสียของยาปฏิชีวนะดีขึ้น
00:02:19 → 00:02:25 พวกเซลล์ต่างๆ พวกเซลล์ผนังลำไส้ สามารถดูดซึมของเหลวได้ดีขึ้น
00:02:25 → 00:02:29 ตัวแบคทีเรียที่ช่วยย่อยสลายสารที่ไม่ดีต่างๆ
00:02:29 → 00:02:38 ที่เกิดจากการปฏิกิริยาจากยาปฏิชีวนะที่ทำกับพวกในช่องท้องได้ดีขึ้น
00:02:38 → 00:02:40 พวกนี้ก็จะทำให้อาการท้องเสียลดลง
00:02:40 → 00:02:43 เพราะฉะนั้นสามารถทานได้ โยเกิร์ตพวกนี้
00:02:43 → 00:02:47 ก็แนะนำเป็นโยเกิร์ตรสธรรมชาติ อาจจะหวานนิดหน่อยได้
00:02:47 → 00:02:51 แต่ไม่แนะนำพวกโยเกิร์ตที่ใส่น้ำตาลมากๆ หรือปรุงแต่งมากๆ
00:02:51 → 00:02:57 เพราะว่าบางทีมันก็อาจจะแบบ ทำให้เรายิ่งเสียดท้องมากกว่าเดิม
00:02:57 → 00:03:02 มาต่อกันที่โรคที่ 2 ที่ตัวโยเกิร์ตสามารถที่จะบรรเทาอาการได้
00:03:02 → 00:03:08 นั่นก็คือสามารถที่จะป้องกันหรือลดภาวะการติดเชื้อราในช่องคลอดได้
00:03:08 → 00:03:13 เพราะว่ามีการวิจัยเลยว่าผู้ที่ทานโยเกิร์ตกับไม่ทานโยเกิร์ต
00:03:13 → 00:03:17 การทำโยเกิร์ตสามารถลดปริมาณเชื้อรา
00:03:17 → 00:03:22 ที่เป็นเชื้อราที่ก่อโรคในอวัยวะเพศหญิงได้เป็นอย่างดี
00:03:22 → 00:03:26 ก็ต้องบอกว่าการติดเชื้อในช่องคลอดอวัยวะเพศหญิง
00:03:26 → 00:03:30 ก็เป็นโรคที่พบได้เรื่อยๆ ในเพศหญิง
00:03:30 → 00:03:32 เพราะฉะนั้นการทานโยเกิร์ตเป็นประจำก็จะลดความเสี่ยง
00:03:32 → 00:03:36 แต่ไม่ได้บอกว่ามันจะไม่เป็น มันก็แค่ลดความเสี่ยง
00:03:36 → 00:03:40 เพราะฉะนั้นถ้าเกิดท่านมีภาวะติดเชื้อราในช่องคลอด
00:03:40 → 00:03:45 การทานโยเกิร์ตร่วมกับการรักษาด้วยยาแผนปัจจุบัน
00:03:45 → 00:03:49 และการรักษาความสะอาด อาการก็จะหายเร็วขึ้นดีขึ้น
00:03:49 → 00:03:52 และการกลับเป็นซ้ำน้อยลงนั่นเอง
00:03:52 → 00:03:57 มาดูกันที่โรคที่ 3 อันนี้เจ๋งมากๆ เลย
00:03:57 → 00:04:03 ที่โยเกิร์ตสามารถช่วยรักษาได้นั่น ก็คือโรคกระเพาะอาหารนั่นเอง
00:04:03 → 00:04:05 ซึ่งโรคกระเพาะอาหาร ทำไมโยเกิร์ตรักษาได้
00:04:05 → 00:04:10 เพราะว่าโรคกระเพาะอาหารเราได้พิสูจน์กันมาแล้วว่า
00:04:10 → 00:04:13 มีเชื้อตัวหนึ่งที่ชื่อว่า เอชไรโลไร
00:04:13 → 00:04:19 เป็นเชื้อที่ทำให้เราเป็นกระเพาะอาหาร โรคกระเพาะอาหารไม่หายสักที
00:04:19 → 00:04:22 ซึ่งเจ้าตัวแบคทีเรียในโยเกิร์ตที่เป็นแบคทีเรียชั้นดี
00:04:22 → 00:04:27 จะเข้าไปช่วยต่อสู้กับเชื้อตัวเอชไพโลไรนี้เป็นอย่างดี
00:04:27 → 00:04:30 โดยการกินโยเกิร์ตนี้ จะกินเวลาไหนก็เอาแต่สะดวก
00:04:30 → 00:04:34 กินเช้า กินเที่ยง กินเย็น ก็แล้วแต่ท่านโอเค ไม่ซีเรียส
00:04:34 → 00:04:37 แต่ไม่ใช่กินโยเกิร์ตแล้วรักษาโรคกระเพาะได้
00:04:37 → 00:04:40 ต้องกินโยเกิร์ตร่วมกับการรักษาแผนปัจจุบัน
00:04:40 → 00:04:44 จะทำให้ผลการรักษานั้นดีขึ้นและหายเร็วขึ้น
00:04:44 → 00:04:48 โอกาสเป็นซ้ำ กลับมาเป็นซ้ำน้อยลงนั่นเอง
00:04:48 → 00:04:51 อันนี้ก็แนะนำสำหรับเรื่องของผู้ที่เป็นโรคกระเพาะ
00:04:51 → 00:04:57 แล้วก็มีเชื้อเอชไพโลไร สามารถที่จะทานโยเกิร์ตเพื่อบรรเทาอาการได้
00:04:57 → 00:05:00 มาต่อกันที่โรคชนิดที่ 4 บ้าง
00:05:00 → 00:05:05 ที่โยเกิร์ตสามารถที่จะช่วยให้อาการของโรคนี้ดีขึ้นได้
00:05:05 → 00:05:09 นั่นก็คือภาวะไขมันในเลือดสูงนั่นเอง
00:05:09 → 00:05:12 ตัวโยเกิร์ตมีการวิจัยเลยว่า
00:05:12 → 00:05:18 การให้โยเกิร์ตให้กับผู้ป่วยที่เป็นเบาหวานชนิดที่ 2 ทาน
00:05:18 → 00:05:23 เบาหวานชนิดที่ 2 ก็คือเบาหวานที่เกิดขึ้นเองจากตับอ่อนเสื่อม
00:05:23 → 00:05:27 พวกนี้เขาให้ลองทานโยเกิร์ตดู แล้วก็เช็คเลือด เช็คอะไรต่างๆ
00:05:27 → 00:05:32 แล้วก็ไปเช็คเลือดไขมัน พบว่าไขมันลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญเลย
00:05:32 → 00:05:35 คือตัวโยเกิร์ตมีตัวแบคทีเรียชนิดดี
00:05:35 → 00:05:40 ซึ่งก็อาจจะมีผลต่อเนื่องทำให้ไขมันในเลือดก็สามารถลดลงได้
00:05:40 → 00:05:47 รวมทั้งตัวโยเกิร์ตยังมีโปรตีนชั้นดี ทำให้ระบบขับถ่ายดีระบบดูดซึมดี
00:05:47 → 00:05:52 ร่างกายของเราก็จะมีไขมันดี ส่วนไขมันไม่ดีก็โดนขับออก
00:05:52 → 00:05:54 ตัวโยเกิร์ตก็สามารถที่จะช่วยได้
00:05:54 → 00:05:58 และลดไขมันที่ไม่ดีในเลือดได้เป็นอย่างดี
00:05:58 → 00:06:04 พร้อมทั้งบางครั้งพบว่ามีการเพิ่มไขมันในเลือดชนิดดีขึ้น
00:06:04 → 00:06:07 ไขมันมันมีทั้งชนิดดีแล้วทั้งชนิดไม่ดี
00:06:07 → 00:06:11 เราไม่ได้ว่าต้องลดไขมันอย่างเดียว ไขมันที่ดีเราก็ต้องทาน
00:06:11 → 00:06:14 ไขมันที่ไม่ดีเราเอาออกไป ไขมันที่ดีมันอยู่ในไหนบ้าง
00:06:14 → 00:06:18 เช่น มีในถั่ว มีในปลา ไขมันที่ไม่ดีมีในหนังไก่
00:06:18 → 00:06:21 มีในน้ำมันปาล์ม น้ำมันหมู อย่างนี้ไม่ค่อยดี
00:06:21 → 00:06:27 อันนี้ก็แนะนำลองทานกันดู น้ำมันที่ดีมีไหม ก็เช่นน้ำมันมะกอกก็โอเค
00:06:27 → 00:06:31 พวกนี้ก็จะลดภาวะไขมันที่ไม่ดีในเลือดได้เป็นอย่างดี
00:06:31 → 00:06:35 และโยเกิร์ตเป็นส่วนช่วย ถ้าท่านบอกท่านโยเกิร์ตอย่างเดียว
00:06:35 → 00:06:37 มีอย่างอื่นเสริมไหม บอกมี
00:06:37 → 00:06:40 สามารถใส่พวกเป็นกราโนล่า เป็นธัญพืช
00:06:40 → 00:06:43 พวกนี้ก็จะยิ่งลดน้ำหนัก ลดไขมันในเลือดได้เป็นอย่างดี
00:06:43 → 00:06:48 ลองทานกันดู ผมชอบทานมากๆ และอาจจะแถมผลไม้ต่างๆ ที่ไม่อ้วน
00:06:48 → 00:06:52 เช่น ฝรั่ง ชมพู่ เป็นต้น อันนี้ก็ชอบทานเหมือนกัน
00:06:52 → 00:06:58 มาต่อกันที่โรคที่ 5 ที่โยเกิร์ตสามารถช่วยรักษาและช่วยป้องกันได้
00:06:58 → 00:07:03 นั่นก็คือลดความเสี่ยงของภาวะมะเร็งลำไส้ใหญ่
00:07:03 → 00:07:07 ต้องเข้าใจก่อนว่ามะเร็งลำไส้ใหญ่ ความเสี่ยงอันนึงที่สำคัญคือ
00:07:07 → 00:07:13 มีภาวะท้องผูกมายาวนาน หรือว่าการขับถ่ายไม่ค่อยดี
00:07:13 → 00:07:16 แบบนี้จะมีความเสี่ยงเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่
00:07:16 → 00:07:21 สูงกว่าคนที่มีภาวะการขับถ่ายดี ขับถ่ายเป็นประจำ ขับถ่ายตรงเวลา
00:07:21 → 00:07:26 ตัวโยเกิร์ตจะทำให้การขับถ่ายของเราดี
00:07:26 → 00:07:30 ไม่ท้องผูกเป็นระยะเวลายาวนานและขับถ่ายได้ตรงเวลา
00:07:30 → 00:07:32 พวกแบคทีเรียชั้นดีในโยเกิร์ต
00:07:32 → 00:07:36 จะมีหน้าที่ทำให้การขับถ่ายของเรามันโอเค มันแฮปปี้
00:07:36 → 00:07:39 เพราะฉะนั้นความเสี่ยงโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่จึงลดลง
00:07:39 → 00:07:41 เป็นไง เพียงแค่ทานโยเกิร์ตแค่นี้
00:07:41 → 00:07:45 โรคทั้ง 5 โรคที่ผมบอกมา ซึ่งเป็นโรคที่แบบน่ากลัวมาก
00:07:45 → 00:07:50 ก็สามารถที่จะลดลงได้อย่างมีนัยยะสำคัญ
00:07:50 → 00:07:53 คราวนี้ผมขออนุญาตสรุป
00:07:53 → 00:07:58 5 โรคร้ายรักษาง่ายๆ แค่ทานโยเกิร์ต
00:07:58 → 00:08:03 มาเริ่มกันที่โรคแรกก่อนเลย นั่นก็คือลดอาการท้องเสียจากยาปฏิชีวนะ
00:08:03 → 00:08:07 ยาปฏิชีวนะหรือยาฆ่าเชื้อมีหลายตัวเลย
00:08:07 → 00:08:10 ถ้าทานเข้าไปแล้วจะมีอาการท้องเสีย
00:08:10 → 00:08:13 ซึ่งโดยปกติถ้าเราท้องเสียจากการติดเชื้อ เราก็ต้องทานอะไร
00:08:13 → 00:08:17 ยาฆ่าเชื้อ ยาปฏิชีวนะ แต่คราวนี้ไอ้ตัวยานี่แหละ
00:08:17 → 00:08:19 มันทำให้เราท้องเสียซะเอง
00:08:19 → 00:08:24 พวกยาแก้เจ็บคอ ยาแก้อักเสบต่างๆ มันทำให้เราท้องเสียซะเอง
00:08:24 → 00:08:29 แต่ตัวโยเกิร์ตจะไปปรับสมดุลจากแบคทีเรียชนิดดีจะไปปรับสมดุลต่างๆ
00:08:29 → 00:08:36 การดูดซึมน้ำในลำไส้ การย่อยสลายต่างๆ ทำให้ภาวะท้องเสียนั้นดีขึ้น
00:08:36 → 00:08:40 ก็ลองดูสำหรับผู้ที่ทานยาปฏิชีวนะแล้วท้องเสีย
00:08:40 → 00:08:44 การทานโยเกิร์ตเพิ่มไปวันละ 1 ถ้วย ก็จะทำให้อาการดีขึ้น
00:08:44 → 00:08:49 ก็แนะนำเป็นโยเกิร์ตรสธรรมชาติ หรือว่าอาจจะหวานนิดหน่อยได้
00:08:49 → 00:08:52 แต่ยังเป็นโยเกิร์ตที่ผสมอะไรแบบเยอะแยะจนเกินไป
00:08:52 → 00:08:55 เพราะว่าเราท้องเสียอยู่เนาะ
00:08:55 → 00:08:58 มาต่อกันที่โรคร้ายโรคที่ 2 นั่นเองคือ
00:08:58 → 00:09:02 โยเกิร์ตสามารถป้องกันการติดเชื้อราในช่องคลอดได้
00:09:02 → 00:09:07 หรือช่วยลดเชื้อราที่ทำให้เกิดโรคในช่องคลอดได้ดีเลย
00:09:07 → 00:09:12 ตัวโยเกิร์ตนั้นมีความสามารถ มีการวิจัยว่าผู้ที่ทำโยเกิร์ตกับไม่ท่น
00:09:12 → 00:09:14 เชื้อราในช่องคลอดนั้นต่างกัน
00:09:14 → 00:09:18 ผู้ที่ทานโยเกิร์ตจะมีเชื้อราในช่องคลอดที่ต่ำกว่าเชื้อราที่ก่อโรค
00:09:18 → 00:09:23 เพราะฉะนั้นโอกาสที่จะเป็นเชื้อราในช่องคลอดติดเชื้อราก็จะลดลง
00:09:23 → 00:09:27 ส่วนผู้ที่ติดเชื้อราอยู่แล้ว ก็ควรใช้การรักษาแบบแผนปัจจุบัน
00:09:27 → 00:09:31 กินยาฆ่าเชื้อ รักษาความสะอาด รวมทั้งการทานโยเกิร์ตเพิ่มเข้าไป
00:09:31 → 00:09:34 ก็จะทำให้หายเร็วขึ้นนั่นเอง
00:09:35 → 00:09:37 มาต่อกันที่ข้อที่ 3
00:09:37 → 00:09:41 โยเกิร์ตสามารถที่จะช่วยลดภาวะโรคกระเพาะอาหาร
00:09:41 → 00:09:44 ที่เกิดจากเชื้อเอชไพโลไร เป็นต้น
00:09:44 → 00:09:48 คือปัจจุบันเราพอทราบแล้วว่าโรคกระเพาะอาหารที่ไม่ยอมหายสักที
00:09:48 → 00:09:53 มักเกิดจากเชื้อเอชไพโลไรติดเชื้อบริเวณในกระเพาะอาหาร
00:09:53 → 00:09:55 และตัวโยเกิร์ตนี้จะมีแบคทีเรียชั้นดี
00:09:55 → 00:09:59 ไปต่อสู้กับเชื้อเอชไพโลไร ให้ตัวเชื้อมันลดน้อยลง
00:09:59 → 00:10:01 แต่อย่างไรก็ดี การทำโยเกิร์ตอย่างเดียว
00:10:01 → 00:10:04 ก็คงไม่ช่วยให้โรคกระเพาะนี้หายไป
00:10:04 → 00:10:06 ก็คงจะต้องรักษาโดยแผนปัจจุบันด้วย
00:10:06 → 00:10:10 ซึ่งแผนปัจจุบันจะมียาให้ทานใน 2 อาทิตย์ ถึง 1 เดือน
00:10:10 → 00:10:11 เราก็ทานคู่กับโยเกิร์ตนี่แหละ
00:10:11 → 00:10:17 ก็จะทำให้ภาวะโรคกระเพาะของเรานี้ดีขึ้นและหายขาดนั่นเอง
00:10:17 → 00:10:24 มาต่อกันที่ข้อที่ 4 ก็คือโยเกิร์ตสามารถช่วยลดภาวะไขมันในเลือดสูง
00:10:24 → 00:10:29 อันนี้มีวิจัยเลยให้ผู้ป่วยที่เป็นเบาหวานชนิดที่ 2
00:10:29 → 00:10:32 และมีภาวะไขมันในเลือดสูงทานโยเกิร์ต
00:10:32 → 00:10:34 เอา 2 กลุ่มมาเปรียบเทียบกัน
00:10:34 → 00:10:38 กลุ่มที่ทานโยเกิร์ตพบเลยว่ามีไขมันในเลือดลดลง
00:10:38 → 00:10:43 และถ้าให้แนะนำเพิ่ม ให้โยเกิร์ตนี้ใส่ธัญพืชเพิ่มเข้าไป
00:10:43 → 00:10:48 จะได้ทั้งกากใย ได้ทั้งสารอาหารที่ดีก็จะทำให้ยิ่งควบคุมน้ำหนักได้
00:10:48 → 00:10:52 ภาวะไขมันในเลือดก็ดีขึ้น ภาวะเบาหวานก็ดีขึ้น
00:10:52 → 00:10:59 มาต่อกันที่ข้อที่ 5 โรคชนิดที่ 5 ก็คือลดความเสี่ยงมะเร็งลำไส้ใหญ่
00:10:59 → 00:11:03 มะเร็งลำไส้ใหญ่นั้นมีความเสี่ยงอันเด่นๆ เลย
00:11:03 → 00:11:08 เกิดจากท้องผูกยาวนานหรือภาวะขับถ่ายไม่ปกติ
00:11:08 → 00:11:11 ตัวโยเกิร์ตนั้นมีแบคทีเรียชนิดดี
00:11:11 → 00:11:15 ซึ่งสามารถที่จะทำให้การขับถ่ายของเรานั้นเป็นปกติ
00:11:15 → 00:11:24 ถ่ายตรงเวลาทุกวัน ถ่ายได้ทุกวัน มีภาวะการขับถ่ายดีงาม
00:11:24 → 00:11:27 ก็จะทำให้ความเสี่ยงของมะเร็งลำไส้ใหญ่ลดลง
00:11:27 → 00:11:30 แต่ไม่ใช่เป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่แล้วไปทานโยเกิร์ตเพื่อรักษาอันนี้ไม่ใช่
00:11:30 → 00:11:34 ก็แนะนำให้รักษาตามระบบระเบียบการรักษาแผนปัจจุบัน
00:11:34 → 00:11:38 เพราะมะเร็งลำไส้ใหญ่ในปัจจุบัน รักษาได้เป็นอย่างดีแล้ว
00:11:38 → 00:11:42 ถ้าเกิดมาระยะแรกๆ จะพูดว่ารักษาหายขาดเลย มันก็พูดได้ไม่เต็มปาก
00:11:42 → 00:11:47 แต่มันแบบอยู่ได้นานมากๆ หลายๆ 10 ปี ก็ลองดูกัน
00:11:47 → 00:11:51 และนี่ก็คือ 5 โรคร้ายรักษาง่ายๆ แค่ทานโยเกิร์ต
00:11:51 → 00:11:52 ก่อนไปอย่าลืมกด Like กด Share
00:11:52 → 00:11:55 กด Subscribe และกดกระดิ่ง ขอบคุณครับ