00:00:04 → 00:00:05 [ปรบมือ]
00:00:05 → 00:00:06 [เพลง]
00:00:06 → 00:00:08 [ปรบมือ]
00:00:08 → 00:00:11 [เพลง]
00:00:11 → 00:00:14 [ปรบมือ]
00:00:14 → 00:00:16 [เพลง]
00:00:16 → 00:00:19 อ
00:00:19 → 00:00:19 [เพลง]
00:00:19 → 00:00:20 [ปรบมือ]
00:00:20 → 00:00:23 [เพลง]
00:00:23 → 00:00:24 [ปรบมือ]
00:00:24 → 00:00:30 [เพลง]
00:00:30 → 00:00:31 [ปรบมือ]
00:00:31 → 00:00:32 [เพลง]
00:00:32 → 00:00:35 [ปรบมือ]
00:00:35 → 00:00:41 [เพลง]
00:00:41 → 00:00:44 วันนี้รายการศิริราช the Life จะชวนคุณ
00:00:44 → 00:00:46 มารู้จักกับ
00:00:46 → 00:00:49 เสียงใช่แล้วครับเสียงที่เราใช้ๆกันอยู่
00:00:49 → 00:00:52 นี่แหละครับวันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับ
00:00:52 → 00:00:55 เสียงของตัวเองให้มากขึ้นรับรองว่าดูราย
00:00:55 → 00:00:58 การวันนี้เราจะรักเสียงของเรามากขึ้นแน่
00:00:58 → 00:01:00 นอนครับ
00:01:00 → 00:01:03 [เพลง]
00:01:04 → 00:01:06 สวัสดีครับอาจารย์ครับคุณผู้ชมครับตอนนี้
00:01:06 → 00:01:09 ผมอยู่กับหัวหน้าภาควิชาโสดนาสิกลลิง
00:01:09 → 00:01:11 วิทยาคณะแพทยยาศาสตร์ศิราชพยาบาล
00:01:12 → 00:01:14 มหาวิทยาลัยมหิดลครับรองศาสตราจารย์แพทย์
00:01:14 → 00:01:18 หญิงจีระสุขจงคลวัฒนาครับที่มาพบอาจารย์
00:01:18 → 00:01:20 ในวันนี้เนี่ยเพราะว่ามีความสงสัยเรื่อง
00:01:20 → 00:01:22 เสียงเหลือเกินคือเสียงปกติคนที่ออกเสียง
00:01:23 → 00:01:25 ได้พูดได้ก็ใช้เสียงอยู่ทุกวันแต่อาจจะ
00:01:25 → 00:01:28 ไม่รู้เลยว่าเสียงเนี้ยต้นตอมมาจากไหน
00:01:28 → 00:01:30 อย่างไรกระบวนการของเสียงกว่าจะผ่านออกมา
00:01:30 → 00:01:32 เป็นยังไงอยากให้อาจารย์เล่าให้ฟังหน่อย
00:01:32 → 00:01:35 ครับเสียงประมาที่ยังไงฮะค่ะคือเสียง
00:01:35 → 00:01:37 เนี่ยออกมาจากอวัยวะที่เราเรียกว่ากล่อง
00:01:37 → 00:01:40 เสียงนะคะกล่องเสียงก่อนนะฮะกล่องเสียง
00:01:40 → 00:01:42 เนี่ยก็คืออยู่ตรงนี้อยู่ประมาณตรงนี้ค่ะ
00:01:42 → 00:01:44 กล่องเสียงอยู่แถวนี้ขออนุญาตนะคะก็คือ
00:01:44 → 00:01:46 ตรงนี้นะคะตรงที่เราเรียกลูกกระเดือก
00:01:46 → 00:01:47 เนี่ยค่ะลูกกระเดือกอ๋อก็คือตรงนี้เป็น
00:01:47 → 00:01:49 กล่องเสียงแล้วแล้วไอ้ลูกกระเดือกโนโปนมา
00:01:49 → 00:01:51 ก็คือส่วนของกล่องเสียงมั้ยฮะใช่ค่ะเป็น
00:01:51 → 00:01:54 กระดูกอ่อนอันนี้ค่ะแหลมนี้แหละค่ะแล้วก็
00:01:54 → 00:01:57 อันนี้พอนึกออกนะคะคือหลอดลมหลอดลมไล่ลง
00:01:57 → 00:02:00 มาหลอดลมแล้วก็แยกเป็นซ้ายขวาก็ไปต่อกับ
00:02:00 → 00:02:02 เนื้อปอดซ้ายเนื้อปอดขวาออ 2 ข้างนี้ก็
00:02:02 → 00:02:05 ปอดใช่ค่ะหัวใจตับไตไส้พรุงเลยว่าก็อยู่
00:02:05 → 00:02:08 แถวนี้ครับในปอดเนี่ยเราหายใจเข้าหายใจ
00:02:08 → 00:02:12 ออกครับั้นก็จะมีลมอยู่ในปอดครับในจังหวะ
00:02:12 → 00:02:15 หายใจออกฮะนะคะเอ่อลมก็จะผ่านเข้าออกนี่
00:02:15 → 00:02:18 ก็คือหายใจจากจมูกผ่านช่องคอผ่านกล่อง
00:02:18 → 00:02:21 เสียงลงมาหลอดลมไปที่ปอดมีทั้งขาเข้าแล้ว
00:02:21 → 00:02:25 ก็ขาออกนะคะทีนี้ในช่วงขาออกเนี่ย
00:02:25 → 00:02:28 เอ่อร่างกายสำหรับการเปล่งเสียงเนี่ยร่าง
00:02:28 → 00:02:31 กายจะมีการปิดนี้นะฮะิ้นข้างในหรือที่เรา
00:02:31 → 00:02:34 เรียกว่าสายเสียงนะคะคุณชวัฒน์ดูตรงนี้นะ
00:02:34 → 00:02:36 คะมองเห็นเส้นเล็กๆ 2 เส้นสายเสียงเป็น
00:02:36 → 00:02:39 ขาวๆใช่ค่ะใช่ค่ะเอ้หน้าตาเหมือนเป็นเป็น
00:02:39 → 00:02:42 แผ่นเป็นแผ่น 2 แผ่นแผ่น 2 แผ่นนั้นใช่
00:02:42 → 00:02:44 มั้ยบางคนเรียกเส้นเสียงบางคนเรียกสาย
00:02:44 → 00:02:46 เสียงนะก็คืออันนี้แอฮะใช่คไอ้แผ่น 2
00:02:46 → 00:02:49 แผ่นเนี่ยอ่าในคนที่มีชีวิตจริงเนี่ยมัน
00:02:49 → 00:02:51 จะเมื่อกี้เห็นเป็น2สเส้นอย่างนี้ใช่มั้ย
00:02:51 → 00:02:54 คะอ่ามันจะปิดได้เปิดได้ใช่ลักษณะแบบนี้
00:02:54 → 00:02:56 เลยมั้ยฮะคือใชปิดปิดลักษณะปิดลักษณะแบบ
00:02:56 → 00:03:00 เยค่ะยึดบนแล้วก็ข้างล่างไม่อยากได้อกระ
00:03:00 → 00:03:03 ให้เิดครับผมเปิดปิดเมื่อไหร่ังไงฮะ
00:03:03 → 00:03:06 อาจารย์ตอนเราออกเสียงเนี่ยเราจะปิดออก
00:03:06 → 00:03:09 เสียงปิดใช่ค่ะพอปิดแล้วเนี่ยขอบสายเสียง
00:03:09 → 00:03:12 ซึ่งมีลักษณะพิเศษเนี่ยพอลมผ่านมันจะ
00:03:12 → 00:03:14 ปล่อยให้ลมผ่านออกมามันจะตัดคลื่นเสียง
00:03:14 → 00:03:17 ออกเป็นอย่างเงี้ยฮฮะนะคะตัดคลื้นเสียง
00:03:17 → 00:03:19 ออกเป็นจังหวะจังวะแสงว่าตัวมันก็ขยับ
00:03:19 → 00:03:21 ด้วยถึงปิดแต่มันก็ขยับใช่ค่ะผิวมันจะ
00:03:21 → 00:03:25 ขยับด้วยความถี่เป็น 100 ครั้งต่อวินาที
00:03:25 → 00:03:30 โหแต่ทีนี้ถ้าเราพูดเสียงเสียงหนักเสียงเ
00:03:30 → 00:03:32 สายเสียงมันเปิดเท่ากันมั้ยฮะหรือมันจะ
00:03:32 → 00:03:35 เป็นยังไงฮะเอ่อสายเสียงเนี่ยมันมีความ
00:03:35 → 00:03:38 สามารถในการปรับปรับหลายอย่างนะคะอันที่ 1
00:03:38 → 00:03:41 ก็คือปรับเปิดมากเปิดน้อยครับยกตัวอย่าง
00:03:41 → 00:03:45 ว่าเราจะพูดเบาๆพูดเบาๆ 1 2 3 4 5
00:03:45 → 00:03:48 ครับเราก็ปล่อยลมออกจากปอดให้น้อยหน่อยคะ
00:03:48 → 00:03:50 สายเสียงไม่ต้องปิดแน่นมากปล่อยมันรั่ว
00:03:50 → 00:03:54 หน่อยหรือเราตั้งใจพูดให้อเอ่อเสียงลม
00:03:54 → 00:03:58 รั่วนะคะเสียงลมรั่วอย่างเช 1 2 3 4 5
00:03:58 → 00:04:02 เราอาไว้นิดนึงนิดนึงนิดนิดนึงเอนิดนึง
00:04:02 → 00:04:04 แต่ถ้าเสียงหนักแน่นหนักแน่นเราปิดเต็ม
00:04:04 → 00:04:07 ที่เลยค่ะปิดเต็มที่เลยค่ะ 1 2 3 4
00:04:07 → 00:04:10 อันนี้คือปิดแน่นเลยเหรอฮะปิดแน่นเลยแล้ว
00:04:10 → 00:04:12 ก็ปล่อยลมออกจากปอดเต็มที่เลยค่ะให้ลม
00:04:12 → 00:04:14 ผ่านเร็วอแต่มันตรงกันข้ามกับความเข้าใจ
00:04:14 → 00:04:17 ทีแรกนะครับคิดว่าถ้าเสียงหนักนี่แปลว่า
00:04:17 → 00:04:19 ลมต้องออกมาเยอะด้วยกันก็น่าจะเปิดด้วย
00:04:19 → 00:04:22 กันแต่จริงๆกปิดแน่นปิดแน่นแล้วก็ปล่อยลม
00:04:22 → 00:04:25 เยอะงั้นสายเสียงก็จะในจังหวะที่เปิดก็จะ
00:04:25 → 00:04:28 มีการกระแทกมากขึ้นด้วยกระแทกมากขึ้นค่ะ
00:04:28 → 00:04:31 ไอ้การกระแทกนี่กระแทกอย่างงี้มั้ยฮะเรา
00:04:31 → 00:04:33 เห็นกระแทกอย่างงี้อย่างงี้เมองอย่างงั้น
00:04:33 → 00:04:35 ก็ได้ค่ะแต่ว่าก็คือตัวขอบมันจะกระแทกมาก
00:04:35 → 00:04:38 ขึ้นใส่เสียง 2 เส้นเนี่ยมันเหมือนหนัง
00:04:38 → 00:04:41 สติ๊กนะคะคุณขึงเอาาไว้แล้วคุณดีดจุดตรง
00:04:41 → 00:04:44 กลางมันน่ะก็จะสะบัดมากที่สุดเพราะงั้น
00:04:44 → 00:04:46 ถ้าเรากระแทกแรงเนี่ย 2 ข้างกระแทกปึ้งๆๆ
00:04:46 → 00:04:50 ๆอ่ะอ่าในที่สุดมันเกิดตุ่มเกิดห้อเลือด
00:04:51 → 00:04:54 เกิดปัญหาระยะยาวได้เหมือนกันอ๋อแล้ว
00:04:54 → 00:04:56 เนื่องจากว่าตัวขอบสายเสียงเนี่ยมันจะ
00:04:56 → 00:05:00 ต้องพริ้วเพื่อตัดเสียงให้มีคุณภาพดีครับ
00:05:00 → 00:05:02 เมื่อไหร่มันไม่เรียบเมื่อนั้นเสียงแหบ
00:05:02 → 00:05:05 อ๋อก็เป็นที่มาของเสียงแหบบ้างหรือว่าบาง
00:05:05 → 00:05:09 ทีใช้เสียงเยอะๆพูดดังๆนานๆก็จะก็จะมี
00:05:09 → 00:05:12 ปัญหาเจ็บคอเจ็บอะไรรู้สึกอะไรแบบนี้ใช
00:05:12 → 00:05:15 เอ่อที่จริงๆเวลาเราคิดว่าเราเจ็บคอมันก็
00:05:15 → 00:05:17 เป็นบริเวณคอหอยนะคะเหรอฮะตัวใายเสียงแท้
00:05:17 → 00:05:19 ๆไม่มีความรู้สึกเจ็บอ้าวเหรอครับเพราะ
00:05:19 → 00:05:22 ฉะนั้นเราไปตะโกนเชียร์กีฬาจนห้อเลือดมัน
00:05:22 → 00:05:25 ก็ไม่ได้เจ็บแต่เราเสียงแหบอ๋อเหรอฮะที่
00:05:25 → 00:05:26 เจ็บคือกล้ามเนื้อรอบๆไม่ได้ไม่ได้เป็น
00:05:26 → 00:05:28 ตัวเส้นเสียงตัวเส้นเสียงไม่ไม่รู้สึก
00:05:28 → 00:05:30 เจ็บนะจริงๆเสียงเรามีหน้าที่เท่านี้มั้ย
00:05:30 → 00:05:33 ฮะคือสื่อสารพูดคุยร้องเพลงอะไรงี้เท่า
00:05:33 → 00:05:36 นั้นมั้ยฮะเอ่อจริงๆก็ใช่นะคะคือเสียง
00:05:36 → 00:05:39 เนี่ยมันเป็นเรื่องของสื่ออารมณ์สื่อความ
00:05:39 → 00:05:42 รู้สึกแต่จริงๆที่สำคัญที่สุดก็คือเสียง
00:05:42 → 00:05:45 มันเป็นการสื่อสารนะคะครับอันนี้การสื่อ
00:05:45 → 00:05:49 สารเนี่ยคำต่างๆเนี่ยมันถ้าสื่อได้แค่
00:05:49 → 00:05:53 เสียงสูงเสียงต่ำครับเสียงร้องเสียงแหลม
00:05:53 → 00:05:56 เราคงบอกไม่ได้ว่าอุ๊ยมนุษย์สมัยก่อนเค้า
00:05:56 → 00:05:59 จุดไฟกันยังไงนะเค้าอยู่ในถ้ำเใช้ชีวิต
00:05:59 → 00:06:02 ยังไงเย็บเสื้อผ้าล่าสัตว์ยังไงครับมัน
00:06:02 → 00:06:06 ต้องมีการลงรายละเอียดของเนื้อหาคำอืซึ่ง
00:06:06 → 00:06:08 รายละเอียดของเนื้อหาคำเนี่ยอันที่ 1 ก็
00:06:09 → 00:06:12 คือสายเสียงเนี่ยจะเปล่งเสียงแค่สูงต่ำ
00:06:12 → 00:06:15 ครับมคะงั้นยกตัวอย่างง่ายๆจะพูดว่าคุณ
00:06:15 → 00:06:16 ชัยวัฒน์แต่ดิฉันอ้าปากเอาไว้นะคะ
00:06:16 → 00:06:19 ชัยวัฒน์อ้าปากไว้ก็ได้เป็น
00:06:19 → 00:06:21 ออ
00:06:21 → 00:06:26 อออไม่ขับหน้าปากโดยไม่ขยับลิ้นอ๋อฮะ
00:06:26 → 00:06:28 เพราะฉะนั้นเราได้เสียงสูงต่ำละได้ความ
00:06:28 → 00:06:30 ดังอาจจะที่เราต้องการอันนี้มาจากสาย
00:06:30 → 00:06:32 เสียงใช่ค่ะแต่ถ้าเราต้องการคำโดยละเอียด
00:06:32 → 00:06:37 เนี่ยชัวัดต้องเอาลิ้มแตะไปดันปากอพอจะ
00:06:37 → 00:06:41 วัดต้องห่อป่านิดนึงวัดวัดออใช่วัดลิ้น
00:06:41 → 00:06:44 ต้องช่วยมั้ยคะใช่ใช่ฮะทั้งๆงจริงๆไม่ใช่
00:06:44 → 00:06:48 แค่ลิ้นด้วยนะทั้งโพรงในปากอะไรทุกอย่าง
00:06:48 → 00:06:51 จะต้องเปลี่ยนรูปไปใช่คเพราะฉะนั้นเสียง
00:06:51 → 00:06:54 ที่กล่องเสียงสร้างออกมาเนี่ยจะต้องออกมา
00:06:54 → 00:06:57 ทางปากครับแล้วเราก็มีอวัยวะในช่องปาก
00:06:57 → 00:07:02 จำนวนมากมายอืที่สร้างพยัญชนะต่างๆนะคะ
00:07:02 → 00:07:04 แต่คนที่มีปัญหาลครับอย่างเช่นคนที่พูด
00:07:04 → 00:07:08 ไม่ได้คนที่พูดไม่ได้หรือคนที่เป็นใบ้
00:07:08 → 00:07:10 เนี่ยครับผมมีหลายสาเหตุก็จริงนะคะแต่
00:07:10 → 00:07:13 สาเหตุจริงๆแล้วที่เราเจอบ่อยอ่ะคือคนไข้
00:07:13 → 00:07:16 ที่หูหนวกจะยกตัวอย่างนะคะอย่างเช่นอ่า
00:07:16 → 00:07:19 เด็กคนนึงตอนเด็กอาจจะยังพอได้ยินบ้างเคย
00:07:19 → 00:07:22 ได้ยินพอพูดได้อือพออายุมากขึ้นเกิดหู
00:07:22 → 00:07:24 หนวกมากขึ้นแล้วก็จนจนไม่ได้ยินอะไรเลย
00:07:24 → 00:07:27 เนี่ยเาอาจจะพูดเสียงอย่างที่เราเรียก
00:07:27 → 00:07:30 โหวกเหวกอืเ้ยนมามาเหรอหรืออะไรอย่าง
00:07:30 → 00:07:33 เงี้ยนะคะก็คือพยายามพูดอย่างที่เขาเคย
00:07:33 → 00:07:37 พูดแต่เนื่องจากหูไม่สามารถรับเสียงที่
00:07:37 → 00:07:39 ต้องการได้ก็ไม่รู้ว่าควรจะสูงต่ำอย่างไร
00:07:39 → 00:07:42 หรือควรจะออกเสียงอย่างไรโรคอื่นๆที่ทำ
00:07:42 → 00:07:44 ให้พูดไม่ได้ก็อาจจะเป็นปัญหาทางด้านสมอง
00:07:44 → 00:07:48 ได้ครับผมอ่าถ้าทางด้านสมองเนี่ยอาจจะมี
00:07:48 → 00:07:51 พื้นที่บางพื้นที่ในสมองซึ่งควบคุมการพูด
00:07:51 → 00:07:53 แทบส่วนนั้นเสียก็อาจจะพูดไม่ได้ทั้งๆที่
00:07:53 → 00:07:57 เขยังคงได้ยินอยู่ก็มีนะคะหรือว่าอวัยวะ
00:07:57 → 00:07:59 เสียยกตัวอย่างอย่างเช่นกล่องเสียงมันมี
00:08:00 → 00:08:03 ปัญหาครับอ่าสายเสียงมีปัญหาหรือไม่มี
00:08:03 → 00:08:06 กล่องเสียงเลยถูกตัดออกไปหรืออะไรก็ตาม
00:08:06 → 00:08:09 อันเนี้ยก็จะมาถึงจุดที่ว่าไม่มีเสียง
00:08:09 → 00:08:12 ครับค่ะอาจารย์ครับกล่องเสียงกับสายเสียง
00:08:12 → 00:08:14 เนี่ยอยู่ข้างในคอฮะแล้วเราเราจะรู้ได้
00:08:14 → 00:08:17 ยังไงว่าเนี่ยกำลังจะมีปัญหานะร่างกายจะ
00:08:17 → 00:08:20 เตือนเรามั้ยฮะค่ะก็คือกลัวกล่องเสียง
00:08:20 → 00:08:23 อยู่ตรงนี้นะคะครับผมอ่าตรงนี้เป็นฝาปิด
00:08:23 → 00:08:25 กล่องเสียงมีเส้นเสียงที่คุณชัยวัฒน์เห็น
00:08:25 → 00:08:28 แล้วอยู่ด้านในใช่ค่ะนี่อาหารก็ผ่านมาทาง
00:08:28 → 00:08:30 นี้อาหารก็ผ่านมารอบๆแล้วลงไปข้างหลังแต่
00:08:30 → 00:08:33 จะไม่ลงนี่นะฮะใช่ค่ะเราต้องปิดไว้ค่ะตอน
00:08:33 → 00:08:35 จังหวะจังหวะกลืนเราปิดไว้ค่ะเ่อร่างกาย
00:08:35 → 00:08:38 ก็มีวิธีการมีทั้งปิดและยกตัวขึ้นเพื่อจะ
00:08:38 → 00:08:41 ปิดตรงนี้ไว้ค่ะออาหารผ่านไปไม่เกี่ยวเพ
00:08:41 → 00:08:44 ฉะนั้นถ้าเป็นโรคโดยรอบๆแถวๆขอบๆเนี่ยก็
00:08:44 → 00:08:47 อาจจะมีการเจ็บได้อย่างเช่นฝาปิดกองเสียง
00:08:47 → 00:08:50 อักเสบอาจจะเคยได้ยินบ้างนะคะออันนี้ถ้า
00:08:50 → 00:08:53 เป็นโรคที่ตัวใายเสียงโดยตรงหนึซึ่งเข้า
00:08:53 → 00:08:55 ไปตรงด้านในเนี่ยตรงสายเสียงเนี่ยเไม่ได้
00:08:55 → 00:08:58 เจ็บและอาหารก็ไม่ได้ผ่านเขาโดยตรงอเพราะ
00:08:58 → 00:09:03 ฉะนั้นมันก็จะมีเสียงแหบได้ครับนะคะอ่าก็
00:09:03 → 00:09:05 จะออกมาในรูปเสียงแหบอ่ะค่ะเสียงแหบนี่ก็
00:09:05 → 00:09:08 อาจจะบอกะใช่มฮะว่าจะมีปัญหาที่ใสเสียง
00:09:08 → 00:09:11 ครับแต่ปัญหาอื่นๆก็คืออย่างเช่นเรื่อง
00:09:11 → 00:09:14 สำลักเนี่ยก็มีปัญหาที่กล่องเสียงหรือบาง
00:09:14 → 00:09:16 ครั้งใส่เสียงเป็นอัมพาทข้างนึงอาจจะมี
00:09:16 → 00:09:18 สำลักได้เหมือนกันจะรู้ได้ไงว่ากล่อง
00:09:18 → 00:09:20 เสียงเราหรือสายเสียงเราอยู่ในสภาพปกติม
00:09:20 → 00:09:24 โลดูยังไงฮะเอ่อเรามีวิธีการตรวจนะคะจริง
00:09:24 → 00:09:27 ๆถ้ามองงี้รู้สึกเออจริงๆถ้าอ้าอันนี้คือ
00:09:27 → 00:09:30 เล้นนะคะถ้าอ้าป่าจริงก็คงไม่เห็นครับออ
00:09:30 → 00:09:33 ใช่เพราะว่าอยู่ข้างในใช่ค่ะเพราะใส่สี
00:09:33 → 00:09:35 แต่ว่าเรามีเครื่องมือเครื่องมือตรวจง่าย
00:09:35 → 00:09:37 ๆเนี่ยซึ่งได้รับการคิ้คดกันมาตั้งนาน
00:09:37 → 00:09:41 แล้วเนี่ยก็คือจะเห็นว่าหมอหูเขจมูกบาง
00:09:41 → 00:09:43 ที่ีมีไฟหรือกระจกที่ศีษะสะท้อนไปสะท้อน
00:09:43 → 00:09:45 มาเรามีกระจกอันเล็กๆเข้ามาตรงเยค่ะแต่
00:09:45 → 00:09:48 ว่าอันนี้เครื่องมือพื้นฐานอันนึงนะคะอ่า
00:09:48 → 00:09:50 แสดงให้ดูแล้วกันว่าเราสามารถเอากระจก
00:09:50 → 00:09:53 ส่องอย่างเงี้ยค่ะนะคะแล้วก็เรามองเห็น
00:09:53 → 00:09:56 สายเสียงได้โดยไฟตรงนี้ก็สะท้อนองให้มอง
00:09:56 → 00:09:58 เห็นข้างในใชค่ะลองดูมั้ยคะอ่าคุณลองโม
00:09:58 → 00:10:01 อ่าแล้วเราเอกระจกนะคะแล้วพอมองมองไปมอง
00:10:01 → 00:10:05 มาในที่สุดคุณจะเห็นอ๋อใช่เห็นแล้วอ้อใช่
00:10:05 → 00:10:07 เห็นชัดเลยครับเห็นคใช่ค่ะนี่เพราะสะท้อน
00:10:07 → 00:10:10 จากกระจกที่ 2 ลงไปใช่ค่ะแต่ว่าปัจจุบัน
00:10:10 → 00:10:13 เนี่ยเราก็จะมีกล้องนานาชนิดนะคะอาจจะ
00:10:13 → 00:10:16 เป็นแท่งแล้วมีมุม 90 องศเข้าไปสอกดูสาย
00:10:16 → 00:10:19 เสียงออกมาหรือมีกล้องสายอ่อนเข้าทางจมูก
00:10:19 → 00:10:21 แล้วก็มีเครื่องบางงอย่างซึ่งจะทำให้การ
00:10:21 → 00:10:24 เคลื่อนไหวของสายเสียงเนี่ยดูเสมือนเป็น
00:10:24 → 00:10:27 สโลว์โมชั่นอ๋อเป็นภาพช้าทำให้เห็นการห้ว
00:10:27 → 00:10:29 ของขอบอันเนี้ยปัจจุบันก็จะทำได้หมดขอ
00:10:29 → 00:10:31 ตรวจบ้างได้มั้ยครับอาจารย์ค่ะว่ากล่อง
00:10:31 → 00:10:34 เสียงสายเสียงผมเป็นยังไงบ้างได้ค่ะเอา
00:10:34 → 00:10:37 เลยนะฮะได้ค่ะช่วงหน้าเราจะมาดูกันสิครับ
00:10:37 → 00:10:41 ว่าเวลาคุณหมอตรวจกล่องเสียงของเราเ้ามี
00:10:41 → 00:10:44 วิธีการอย่าง
00:10:44 → 00:10:47 ไรเครื่องไม้เครื่องมือเยอะเหมือนกันนะฮะ
00:10:47 → 00:10:50 ตรงนี้ค่ะอันนี้ห้องตรวจหูคอจมูกค่ะแต่
00:10:50 → 00:10:52 ว่าวันนี้เราจะตรวจเฉพาะกล่องเสียงอันนี้
00:10:52 → 00:10:56 ก็คือที่กล่าวถึงไว้เมื่อกี้นะคะก็คือมี
00:10:56 → 00:10:59 ไฟที่สุยสะนะคะแล้วก็อันนี้เนี่ยเราจะ
00:10:59 → 00:11:02 ส่องเข้าไปในคอเพื่อที่จะดูภาพสายเสียง
00:11:02 → 00:11:05 นี้วิธีวิธีเดิมใช่ค่ะซึ่งก็ยังคงใช้กัน
00:11:05 → 00:11:07 อยู่แต่เนื่องจากว่าวันนี้เราอยากจะออก
00:11:07 → 00:11:10 ทีวีกันด้วยเพราะฉะนั้นก็จะมีกล้อง
00:11:10 → 00:11:13 เทเลสโคปนะสเลยนี่ถ่ายทอดสดกล่องเสียงผม
00:11:13 → 00:11:16 ออกอากาศไปเลยใช่มั้ยฮะถึงไส้ถึงพุงเลย
00:11:16 → 00:11:18 ถึงไส้ถึงพุงเลยนะฮะต้องทำอะไรครับ
00:11:18 → 00:11:20 อาจารย์ค่ะเดี๋ยวขอตรวจกล่องเสียงนะคะ
00:11:20 → 00:11:22 ด้วยวิธีการผมต้องทำอะไรบ้างฮะแลบลิ้นค่ะ
00:11:22 → 00:11:26 แลบลิ้ฮะค่ะอ้าปากแลมลิ้นค่ะเดี๋ยวๆบอก
00:11:26 → 00:11:30 ไม่เจ็บเลยค่ะ
00:11:30 → 00:11:33 ร้องแอร์นะ
00:11:33 → 00:11:37 คะหายใจค่ะอ่ะ
00:11:37 → 00:11:42 เออใค่ะโอเคค่ะเรียบร้อยเฮ้ยนี่อะไรฮะ
00:11:42 → 00:11:44 อาจารย์โคนลิ้นโคนลิ้นของผมตรงนี้เหรอฮะ
00:11:44 → 00:11:46 ถูกค่ะอย่างงี้เป็นปกติค่ะอุ้ยนี่อะไรน้ำ
00:11:46 → 00:11:49 ลายเหรอครับใช่ค่ะเกันน้ำท่วมอันนี้อะไร
00:11:49 → 00:11:52 ครับอาจารย์ฟ้าปิดกล่องเสียงค่ะอ๋อที่เรา
00:11:52 → 00:11:56 เห็นในใช่เหในโมเดลแล้วสายเสียงสายเสียง
00:11:56 → 00:11:58 คือเส้นขาวๆข้างล่างแต่ว่ามันเห็นเฉพาะ
00:11:58 → 00:12:00 ครึ่งหลังนิดเดียวอันนี้ใช่มั้ยฮะ 2 อัน
00:12:00 → 00:12:03 นี้ใช่ค่ะเป็นไงบ้างครับสภาพเป็นไงฮะก็
00:12:03 → 00:12:06 สวยค่ะสวยอยู่หล่อเหมือนตัวฮะทนี้ถ้าเกิด
00:12:06 → 00:12:09 มีปัญหาเนี่ยภาพนี้จะเห็นเป็นยังไงบ้างฮะ
00:12:09 → 00:12:12 เราก็อาจจะเห็นมีตุ่มที่เส้นเสียงมีห้อ
00:12:12 → 00:12:15 เลือดอาจจะเห็นขยับข้างเดียวอ๋อคือนี้
00:12:15 → 00:12:18 อาจารย์หยุดภาพไว้ฟรีซเอาไว้ใช่ค่ะแต่
00:12:18 → 00:12:21 เวลาชีวิตจริงเ่อปกติเราจะถ่ายเป็นวิดีโอ
00:12:21 → 00:12:25 เก็บไว้ได้อ๋อฮะก็คือจะบันทึกไว้ได้หมด
00:12:25 → 00:12:27 ว่าเวลาส่องเข้าไปเห็นตรงไหนไอ้ตุ่มอะไร
00:12:27 → 00:12:31 จะเห็นชัดมั้ยฮะชัดค่ะชัดเลยใช่มฮะอืการ
00:12:31 → 00:12:33 การตรวจแบบนี้เป็นการตรวจเบื้องต้นเท่า
00:12:33 → 00:12:35 นั้นมั้ยฮะหรือว่าจะสามารถวินิจฉัยต่อไป
00:12:35 → 00:12:38 ได้อาจารยอปกติเนี่ยจริงๆถ้าใช้เวลานาน
00:12:38 → 00:12:41 หน่อยเนี่ยแม้แต่การตรวจด้วยกระจกธรรมดา
00:12:41 → 00:12:43 เราก็เห็นรายละเอียดของโรกที่ใสเสี่ยงนะ
00:12:43 → 00:12:45 คะแต่เราบันทึกไม่ได้อส่วนกล้องอันนี้
00:12:45 → 00:12:48 เนี่ยอ่าความคมชัดจะไม่มากแล้วก็เอ่ออัน
00:12:48 → 00:12:51 นี้บันทึกภาพเคลื่อนไหวไม่ได้งั้นเราก็จะ
00:12:51 → 00:12:54 ใช้ดูคร่าวๆก่อนอ๋อถ้าเผื่อว่าสงสัยว่ามี
00:12:54 → 00:12:57 พญาที่ิสภาพอยากจะดูรายละเอียดเพิ่มเติม
00:12:57 → 00:13:00 ก็จะมีกล้องที่อยู่ในอีกห้องอ๋อฮะค่ะแล้ว
00:13:00 → 00:13:03 ก็คนไข้เองจะเข้าใจมากขึ้นอืเพราะบางที
00:13:03 → 00:13:06 บอกตุ่มสายเสียงคนไข้ก็แบบตุ่มอะไรยังไง
00:13:06 → 00:13:08 ใช่ค่ะมันงั้นถ้าเผื่อเห็นปุ๊บเนี่ยคนไข้
00:13:08 → 00:13:12 จะเข้าใจทันทีอ๋อตุ่มอยู่ตรงนี้เองหมอจะ
00:13:12 → 00:13:14 ตัดตรงนี้หรือว่าใายเสียงเป็นอัมพาตหมอจะ
00:13:14 → 00:13:16 แก้ไขตรงนี้ให้ปิดได้อะไรอย่างเงี้ยคนไข้
00:13:16 → 00:13:18 จะมีความเข้าใจมากขึ้นครับค่ะงั้นเดี๋ยว
00:13:18 → 00:13:21 เราขอไปดูที่ห้องนั้นกันได้แ
00:13:21 → 00:13:28 [เพลง]
00:13:28 → 00:13:30 ค่ะเครื่องมือนี้เรียกว่าอะไรครับอาจารย์
00:13:30 → 00:13:36 เ่าวิโอสโคปค่ะครับก็คือจะมีกล้องซึ่งดู
00:13:36 → 00:13:38 กล่องเสียงอนะคะอาจจะตัวใหญ่กว่าเชี้นิด
00:13:38 → 00:13:40 นึงเมื่อกี้เยอะเหมือนกันนะภาพจะคมชัด
00:13:40 → 00:13:44 ขึ้นค่ะแล้วก็เป็นระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งจะ
00:13:44 → 00:13:47 ทำให้เราเก็บภาพเป็นภาพเคลื่อนไหวแล้วก็
00:13:47 → 00:13:50 ไปวิเคราะห์ได้อครับอันนี้เป็นตัวอย่าง
00:13:50 → 00:13:53 ของสายเสียงซึ่งค่อนข้างปกตินะคะมีการ
00:13:53 → 00:13:55 เคลื่อนไหวปกติแต่ตอนนี้กำลังออกเสียง
00:13:55 → 00:13:57 อยู่นะคะแล้วก็ในช่วงจังหวะที่เขาหายใจ
00:13:58 → 00:14:01 เี่ก็จะเห็นอ้าออกนิดนึงนะคะได้แล้วก็อ่า
00:14:01 → 00:14:05 ตรงนี้หายใจนะคะออออย่างงี้ถือว่าปกติก็
00:14:05 → 00:14:07 ค่อนข้างปกติอ่ะค่ะแต่ว่าอาจจะกดไลย้อน
00:14:07 → 00:14:10 นิดหน่อยอะไรเงี้ยค่ะออเหรออย่างดได้อาจ
00:14:10 → 00:14:13 จะคอันนี้มีสายเสียงด้านซ้ายขยับไม่ค่อย
00:14:13 → 00:14:17 ดีนะคะฝั่งฝั่งนี้ค่ะฝั่งซ้ายค่ะแล้วก็
00:14:17 → 00:14:19 ฝั่งนี้จะ
00:14:19 → 00:14:22 เป็นจะเห็นบางจังหวะเราจะเห็นสายเสียง
00:14:22 → 00:14:25 ขยับตัวเป็นคลื่นอย่างรายนี้ผิดปกติอะไร
00:14:25 → 00:14:28 บ้างครับก็มีสายเสียงข้างซ้ายเป็นอัมพาต
00:14:28 → 00:14:33 อ๋อค่ะแล้วก็มีอ่าลักษณะเหมือนกันกระแทก
00:14:33 → 00:14:36 ของบริเวณด้านหลังของกล่องเสียงนิดนึงทำ
00:14:36 → 00:14:38 ให้มีเนื้ออักเสบขึ้นตรงเนี้ยนี่เหรอฮะ
00:14:38 → 00:14:41 ค่าจุดเล็กๆเนี่ยค่ะอู้หูแทบจะเล็กมากเลย
00:14:41 → 00:14:43 นะครับแต่จากเครื่องมือนี้ถ้าคิดว่ากล่อง
00:14:43 → 00:14:45 เสียงสายเสียงอเล็กนิดเดียวอันนี้ก็ถือ
00:14:45 → 00:14:47 ว่าเล็กค่ะเป็นอัมพาทแบบนี้เนี่ยมันจะมี
00:14:47 → 00:14:50 ผลยังไงบ้างฮะกับการพูดการใช้ชีวิตของคน
00:14:50 → 00:14:53 ไข้เอ่อจริงๆเวลาคนไข้มาหาเรื่องสายเซียง
00:14:53 → 00:14:55 เป็นอัมพาตอ่ะที่สำคัญที่สุดก็คือเราต้อง
00:14:55 → 00:14:59 รู้สาเหตุก่อนครับค่ะคนไข้จำนวนนึงอ่าอาจ
00:14:59 → 00:15:02 จะมีเนื้องอกบางอย่างมากดเส้นประสาทอืตัว
00:15:02 → 00:15:04 อย่างเช่นมีเนื้องอกที่ต่อมไทรอยด์มี
00:15:05 → 00:15:07 เนื้องอกในปอดบางคนเป็นมะเร็งปอดด้วยซ้ำ
00:15:07 → 00:15:09 งั้นต้องหาสาเหตุให้ได้ก่อนอันที่ 1 ก็
00:15:09 → 00:15:13 คือเสียงแหบครับแล้วจะมีบาลายที่สบางราย
00:15:13 → 00:15:16 สำลักน้ำได้อืสำลักอาหารหรือสำลักน้้ำได้
00:15:17 → 00:15:19 การเปิดปิดไม่ไม่เอ่อจังหวะปิดไม่สมบูรณ์
00:15:19 → 00:15:22 เพราะว่าอาหารเจะต้องผ่านอ้อมกรองเสียง
00:15:22 → 00:15:24 แล้วคลงหลอดอาหารอซึ่งในจังหวะที่ผ่าน
00:15:24 → 00:15:27 อ้อมเนี่ยมันมันอ้อมออกไปด้านเยค่ะ 2
00:15:27 → 00:15:29 ข้างค่ะเพรางั้นถ้าข้างเยปิดไม่สนิทบางที
00:15:29 → 00:15:32 มันเสียจังหวะเทเข้าไปได้นิดหน่อยอ๋อย้อน
00:15:32 → 00:15:35 เพราะฉะนั้นการรักษาเองของเราเนี่ยถ้าตัว
00:15:35 → 00:15:39 เส้นประสาทเสียเราทำให้เขากลับคืนไม่ได้
00:15:39 → 00:15:42 อืแต่เรารักษาให้มันปิดสนิทได้ด้วยวิธี
00:15:42 → 00:15:46 อะไรฮะอ่าอาจจะมีการฉีดสารบางอย่างที่ใส่
00:15:46 → 00:15:49 เสี่ยงนะคะยกตัวอย่างอาจจะเป็นเช่นเ่อมี
00:15:49 → 00:15:52 ไขมันของตัวเราเองหรือเป็นสารสังเคราะห์
00:15:52 → 00:15:55 บางอย่างออค่ะหรือเป็นเนื้อเยื่อของตัว
00:15:55 → 00:15:57 เองมาฉีดก็ได้แล้วถ้าเผื่อบางคนเป็นมาก
00:15:57 → 00:16:00 สำลักเยอะบางทีเราผ่าตัดจากด้านนอกแล้วก็
00:16:00 → 00:16:06 มีการหนุนด้วยอ่าเป็นวัสดุเป็นซิลิโคนค่ะ
00:16:06 → 00:16:08 ครับโอซับซ้อนมากนะฮะซับซ้อนมากค่ะก็
00:16:08 → 00:16:12 สามารถแก้ปัญหานี้ได้แต่ยังไงก็ตามสมมุติ
00:16:12 → 00:16:16 ว่าเคยเต็มร้อยร้องเพลงเราทำแล้วคงไม่ได้
00:16:16 → 00:16:19 ถึงขนาดนั้นเหรอฮะแต่ก็สามารถสื่อสารได้
00:16:19 → 00:16:22 คุยมือถือได้อะไรได้ค่ะครับอืสำหรับอัน
00:16:22 → 00:16:24 นี้เนี่ยเกิดจากการที่เค้าช่วงที่เ้าเป็น
00:16:24 → 00:16:27 หวัดแล้วเาใช้เสียงเยอะครับมันเกิดการห้อ
00:16:27 → 00:16:30 เลือดที่สายเสียงออ๋อแล้วก็ยังคงเป็นถุง
00:16:30 → 00:16:32 ห้อเลือดเล็กๆอยู่ที่สายเสียงเหรอฮะหน้า
00:16:32 → 00:16:34 ตาเป็นไงฮะติ่งเนื้อหรือห้อเลือดที่สาย
00:16:34 → 00:16:37 เสียงค่ะอ่าอันนี้เห็นมั้ยคะเมดเบอเรอเลย
00:16:37 → 00:16:42 นะฮะค่ะค่ะอ๋อเป็นตรงขอบ
00:16:42 → 00:16:45 เลยค่ะแต่เป็นข้างเดียวค่ะอย่างงี้ถือว่า
00:16:45 → 00:16:48 ขนาดใหญ่มยฮะแบบนี้ไม่ใหญ่ค่ะอ๋อเหรอครับ
00:16:48 → 00:16:51 มีใหญ่กว่านี้อีกเหรอฮะมีค่ะอู้แต่แค่
00:16:51 → 00:16:53 เนี้ยก็จะเห็นว่าเมื่อกี้ได้ยินเสียงมั้ย
00:16:53 → 00:16:56 คะเสียงคนไข้ไม่ใสเพราะว่าตุ่มเนี้ยมันจะ
00:16:56 → 00:16:59 รบกวนการเคลื่อนไหวที่ปกติของสายครับทำ
00:16:59 → 00:17:01 ให้ตัดคลื่นเสียงออกมาไม่ดีก็ออกมาเป็นใน
00:17:01 → 00:17:04 รูปเสียงแหบอ๋อจะเป็นอ๋อเสียงแหบออกมาใช่
00:17:04 → 00:17:07 ค่ะถ้าเสียงหายหมดเลยเนี่ยมันมันเทำไมถึง
00:17:07 → 00:17:11 คนเราจะเสียงหายไปหมดนะอาจารย์บางคนเนี่ย
00:17:11 → 00:17:14 สายเสียงปิดไม่ได้นะคะคืออ้าอยู่อาจจะ
00:17:14 → 00:17:16 เป็นเพราะเป็นอัมภาต 2 ข้างหรือเป็น
00:17:17 → 00:17:20 อัมพาตข้างเดียวก็ได้แต่ว่าเส้นประสาทมัน
00:17:20 → 00:17:22 เสียหายหนักอืหรือเสียหายตั้งแต่บริเวณ
00:17:22 → 00:17:25 กั้นสมองลงมาทำให้มันช่องมันกว้างมากพูด
00:17:25 → 00:17:29 แล้วมีแต่ลมครับจะพูด 1 2 3 ก็มี 2 3
00:17:29 → 00:17:32 มันออกมาแค่นี้มีนะคะครับวิธีรักษาปล่อย
00:17:32 → 00:17:35 ให้บางทีหายไปเองได้เหรอครับบางครั้งหาย
00:17:35 → 00:17:38 เองได้แต่ว่าต้องไม่ไปทำอันตรายต่อมันซ้ำ
00:17:38 → 00:17:41 ซ้อนก็คือก็คือพักเสียงใช้เสียงที่เ
00:17:41 → 00:17:45 จำเป็นแล้วก็มีเหมือนกันบางรายเนี่ยพอใช้
00:17:45 → 00:17:47 เสียงถูกต้องแล้วมันยุบหายไปเกือบหมดได้
00:17:47 → 00:17:50 แต่ถ้ามันยุบหายไม่หมดเนี่ยเราก็ไปตัดออก
00:17:50 → 00:17:53 อโตัดยังไงฮอาจารย์เปิดตรงไหนฮะไม่ค่ะ
00:17:53 → 00:17:55 เข้าเข้าจากทางด้านปากค่ะต้องลมยสลบอ๋อ
00:17:55 → 00:17:57 ไม่ต้องเปิดอะไรตรงแถวนี้ใช่แต่คงนึกออก
00:17:57 → 00:17:59 ว่าใายเสียงมันเล็กนิดเดียวเพราะฉะนั้น
00:17:59 → 00:18:02 ตุ่มเยมันสักมิลลิเมตรอือเพราะฉะนั้น
00:18:02 → 00:18:04 เครื่องมือก็จะเล็กมากกรรไกรเล็กมาก
00:18:04 → 00:18:07 เครื่องมือเล็กมากก็จำเป็นต้องใช้กล้อง
00:18:07 → 00:18:10 ขยายเพื่อทำการผัดตัดเพื่อจะให้คุณภาพที่
00:18:10 → 00:18:15 ดีนะคะเพราะฉะนั้นอย่าไปใช้จนมันมีอาการ
00:18:15 → 00:18:17 แบบนี้ใช่มั้ใช่
00:18:17 → 00:18:22 [เพลง]
00:18:22 → 00:18:26 คโอ้โหนี่เป็นครั้งแรกนะครับที่ได้รู้จัก
00:18:26 → 00:18:29 กล่องเสียงตัวเองแล้วก็เส้นเสียงว่าเป็น
00:18:29 → 00:18:33 ยังไงทำหน้าที่ยังไงมีอีกกลุ่มนึงที่เค้า
00:18:33 → 00:18:36 ไม่มีกล่องเสียงถูกตัดกล่องเสียงออกไปค่ะ
00:18:36 → 00:18:39 ทำไมถึงเกิดยงงั้นได้ครับอาจารย์เอ่อคือ
00:18:39 → 00:18:41 กลุ่มใหญ่ของคนไข้ที่ต้องตัดกล่องเสียง
00:18:41 → 00:18:43 ออกไปเนี่ยจะเป็นคนไข้ที่เป็นมะเร็งกล่อง
00:18:43 → 00:18:46 เสียงนะคะครับแล้วก็มะเร็งกล่องเสียง
00:18:46 → 00:18:50 เนี่ยส่วนใหญ่เรียกว่า 99% เนี่ยอืเกิด
00:18:50 → 00:18:54 จากการที่สูบบุหรี่จัดอ๋อแล้วถ้าทานเหล้า
00:18:54 → 00:18:57 ด้วยก็ยิ่งมีโอกาสสูงขึ้นไปอีกเพราะ
00:18:57 → 00:19:00 ฉะนั้นพูดได้เลยว่าถ้าเราลดบุหรี่ลดเหล้า
00:19:00 → 00:19:02 อืมะเร็งอันนึงที่เราจะป้องกันได้ก็คือ
00:19:02 → 00:19:05 อันนี้แหละค่ะมะเร็งกล่องเสียงจากการสูบ
00:19:05 → 00:19:07 บุหรี่จัดเป็นหลักก่อนเลยนะใช่ค่ะคราวนี้
00:19:07 → 00:19:10 มะเร็งกล่องเสียงเนี่ยถ้าคนไข้มาระยะต้น
00:19:10 → 00:19:13 ครับเราสามารถรักษาให้หายขาดโดยไม่ต้อง
00:19:13 → 00:19:17 ตัดกล่องเสียงออกทั้งอันได้นะคะตัวอย่าง
00:19:17 → 00:19:21 เช่นการตัดกล่องเสียงแบบครึ่งนึงเสี้ยว
00:19:21 → 00:19:24 เดียวนะฮะทำได้สมมุติจากอันนี้
00:19:24 → 00:19:27 ว่าว่าอันเนี้ยค่ะเหมือเอาออกไปเสี้ยวนึง
00:19:27 → 00:19:29 ค่ะฮุ้ยค่ะาครึ่งเลยนะฮฮอ่าแล้วเราเอา
00:19:29 → 00:19:32 กล้ามเนื้อเข้าไปเข้าไปคลุมแทนคราวนี้ถ้า
00:19:32 → 00:19:34 เผื่อมันกินเยอะเป็นมากนะคะตัดเสี้ยว
00:19:34 → 00:19:36 เดียวก็ไม่หมดเราก็จะยกอันนี้ออกทั้งอัน
00:19:36 → 00:19:39 นะคะทีนี้ยกออกยกออกยังไงครับอาจารย์ถ้า
00:19:39 → 00:19:43 ดูตามเยนะคะครับข้างหลังเนี่ยมันจะมีมี
00:19:43 → 00:19:48 ผนังคอหอยอยู่อ่าด้านหลังงั้นพอเรายกข้าง
00:19:48 → 00:19:50 หน้านี้ออกไปเราก็เย็บผนังคอหอยปิดเข้าก
00:19:50 → 00:19:53 หากันลงมาจากช่องปากก็ลงหลอดอาหารเลยตรง
00:19:53 → 00:19:57 นี้หายไปเลยค่ะอุ้ยแล้วเราก็จัด
00:19:57 → 00:20:01 การเลี้ยวเอาหลอดลมอันเนี้ยมาเปิดรูตรงคอ
00:20:01 → 00:20:04 อ๋อยกอันนี้ออกไปเลยทั้งอันนะคะข้างหลัง
00:20:04 → 00:20:08 ก็เย็บปิดไปเลยเหายใจทางทางรูที่คอใช่
00:20:08 → 00:20:11 จมูกไม่ใช่ะไม่ใช่ค่ะเวลาทางปากก็คือรับ
00:20:11 → 00:20:14 ประทานอาหารกืก็ลงหลอดอาหารไปเลยโดยตรง
00:20:14 → 00:20:16 เลยไม่อ้อมผ่านกล่องเสียงอีกต่อไปค่ะอ๋อ
00:20:16 → 00:20:19 อันนี้ในกรณีที่เป็นมากฮะค่ะพอตัดออกไป
00:20:19 → 00:20:23 เนี่ยฮะผลที่เกิดขึ้นคืออะไรฮะก็พูดไม่
00:20:23 → 00:20:25 ได้แน่ๆเลยพูดไม่ได้ไม่มีตัวเปล่งเสียงนะ
00:20:25 → 00:20:29 คะแล้วก็มีรูอยู่ตรงคอตรงเนี้ยนะคะซึ่งก็
00:20:29 → 00:20:32 แน่นอนว่าบางทีมันก็มีน้ำลายมีเสียมผ่า
00:20:32 → 00:20:36 ออกมาแล้วก็มันจะแห้งครับเวลาหน้าหนาวก็
00:20:36 → 00:20:39 จะแห้งบางทีมีเลือดออกจะไม่ได้กลิ่นอีก
00:20:39 → 00:20:42 เลยไม่ได้กลิ่นอีกเลยเหใช่ค่ะการไม่ได้
00:20:42 → 00:20:46 กลิ่นเนี่ยกินอะไรก็ไม่อร่อยนะคะออเพราะ
00:20:46 → 00:20:49 ฉะนั้นเอ่อชีวิตเปลี่ยนแปลงเยอะครับผมแต่
00:20:49 → 00:20:51 ว่าเรื่องที่สำคัญที่สุดก็คือการสื่อสาร
00:20:51 → 00:20:54 ซึ่งจริงๆปัจจุบันก็มีหลายเทคนิคนะคะอ
00:20:54 → 00:20:58 อย่างเช่นอ่อการพูดด้วยหลอดอาหารครับการ
00:20:58 → 00:21:02 ใช้เครื่องมาจอดให้ท่านพอนะคะค่ะเอ่อเค้า
00:21:02 → 00:21:06 เรียก electrol แล้วก็อีกอันนึงก็คือทำ
00:21:06 → 00:21:09 เว้าคือเจาะช่องอันเล็กๆระหว่างหลอดลมกับ
00:21:09 → 00:21:12 หลอดหลอดกับหลอดอาหารที่แยกออกจากกัน
00:21:12 → 00:21:15 เนี่ยเจาะช่องเล็กๆเพื่อให้ลมจากปอดเนี่ย
00:21:15 → 00:21:17 เลี้ยวเข้าไปทางช่องปากแล้วใช้พูดตามเดิม
00:21:17 → 00:21:19 อันนั้นก็จะเป็นอีกขั้นอีกอีกเป็นการผ่า
00:21:19 → 00:21:22 ตัดอีกอันนึงซึ่งเราจะเลือกวิธีไหนนี่
00:21:22 → 00:21:25 ขึ้นกับอะไรบ้างครับก็คงหลายๆปัจจัยอ่ะ
00:21:25 → 00:21:27 ค่ะแต่ว่าทางของโรงพยาบาลศิริราชเองเนี่ย
00:21:27 → 00:21:30 ที่เราฝึกพูดด้วยหลอดอาหารเยอะเพราะว่า
00:21:30 → 00:21:33 การพูดด้วยหลอดอาหารเนี่ยข้อดีก็คือมัน
00:21:33 → 00:21:35 ไม่ต้องมีอุปกรณ์พิเศษไม่ต้องซื้ออะไรอีก
00:21:35 → 00:21:37 แล้วไม่ต้องเจาะอะไรอีกแล้วแต่ข้อด้อยก็
00:21:37 → 00:21:40 คือมันฝึกยากค่ะฝึกยากค่ะมันก็จะเหมือน
00:21:40 → 00:21:45 คุณชีวิตนี้จะหัดพูดภาษาออใหม่เลยอ่ะ
00:21:45 → 00:21:47 เหมือนเริ่มใหม่เลยาร่ใหม่มันยากมั้ยฮะ
00:21:48 → 00:21:49 พูดด้วยหลอดอาหารแล้วมันต้องอย่างอย่า
00:21:49 → 00:21:52 อย่างเราคนทั่วไปเราฝึกได้มั้ยฮะหรือคุณ
00:21:52 → 00:21:54 ต้องบังคับให้ตัวเองเรอได้ทุกครั้งที่
00:21:54 → 00:22:03 ต้องการเรอเป็นไงอาจารย์เช่น
00:22:03 → 00:22:04 ต้องบังคับให้ตัวเองเรอได้ทุกครั้งที่
00:22:04 → 00:22:07 ต้องการก่อนแล้วเสียงเรอเนี่ยค่ะจะใช้แทน
00:22:07 → 00:22:09 เสียงเสียงออกเสียงเสียง
00:22:09 → 00:22:13 [เพลง]
00:22:13 → 00:22:18 องั้นเวลาพูดในหลอดอาหารก็อย่าดันออกมา
00:22:18 → 00:22:20 แบบนี้ให้พูด
00:22:20 → 00:22:25 ธรรมดาอเห็นเงี้เบาๆเบาๆ
00:22:25 → 00:22:30 อ่าอ่ะ
00:22:30 → 00:22:35 อ่าจะอ่าเหมือนเจะเลยหุบปากแล้วก็คืนแล้ว
00:22:35 → 00:22:38 ค่ะอเราไป
00:22:38 → 00:22:42 เก่งไป
00:22:42 → 00:22:45 เก่งแต่ว่าจะไม่ว่าจะใช้วิธีไหนก็ตาม
00:22:45 → 00:22:48 เนี่ยมันก็จะมีข้อดีข้อเสียทั้งนั้นนะคะ
00:22:48 → 00:22:51 ทางศิริราชเนี่ยได้มีชมรมผู้ไร้กล่องเสีย
00:22:51 → 00:22:55 มาเป็นเวลานานมากมีทั้งนักแก้ไขการพูดของ
00:22:55 → 00:22:58 เราแล้วก็มีทั้งคนที่ตัดกองเสียงแล้วพูด
00:22:58 → 00:23:03 ได้มาเป็นผู้สอนในลักษณะจิตอาสาไม่ได้ได้
00:23:03 → 00:23:05 เงินเดือนเลยนะคะฮะมาทุกสัปดาห์เลยค่ะ
00:23:05 → 00:23:08 เป็นการทำให้รู้เลยว่ามนุษย์เราเนี่ยมี
00:23:08 → 00:23:11 ความสามารถในการปรับตัวอย่างมากครับสูญ
00:23:11 → 00:23:13 เสียของไปอย่างหนึงก็พยายามปรับตัวจะเอา
00:23:14 → 00:23:16 อีกอย่างหนึ่งมาชุดแทนซึ่งถือว่าเป็นเป็น
00:23:16 → 00:23:19 สิ่งซึ่งเรามาดูเค้าเนี่ยเราสามารถเอา
00:23:19 → 00:23:23 กลับไปคิดได้เลยว่าใช่คนเราสามารถปรับตัว
00:23:23 → 00:23:26 แก้ไขได้ทุกปัญหาสู้ได้นะฮใช่ค่ะครับการ
00:23:26 → 00:23:29 เกิดชมรมนี้เนี่ยจุดประสงค์คือ
00:23:29 → 00:23:32 เพื่ออะไรบ้างก็เพื่อช่วยให้คนที่สูญเสีย
00:23:32 → 00:23:35 กล่องเสียงได้กลับมาใช้ชีวิตที่ปกตินะคะ
00:23:35 → 00:23:38 ครับผมเ่อการสื่อสารเป็นคุณสมบัติที่
00:23:38 → 00:23:40 สำคัญที่สุดอย่างนึงของมนุษย์เพื่อให้มี
00:23:40 → 00:23:43 ชีวิตที่ดีช่วยเหลือตัวเองได้กลับมาหลาย
00:23:43 → 00:23:46 คนกลับมาประกอบอาชีพได้ค่ะแล้วก็ที่สำคัญ
00:23:46 → 00:23:49 ที่สุดก็คือจิตใจอ่ะให้เขารู้สึกว่ามี
00:23:49 → 00:23:53 ความสุขครับอาจารย์ได้ทำงานแบบนี้กับผู้
00:23:53 → 00:23:57 ป่วยค่ะในช่วงเวลาหลายๆ 10 ปีอาจารย์เห็น
00:23:57 → 00:23:59 แล้วก็
00:23:59 → 00:24:01 คิดยังไงรู้สึกยังไงบ้างกับการทำหน้าที่
00:24:01 → 00:24:03 นี้ครับอาจารย์คือหมอมีหน้าที่รักษาคนไข้
00:24:03 → 00:24:06 ให้หายขาดนะคะเพราะฉะนั้นวัตถุประสงค์
00:24:06 → 00:24:10 หลักก็คือหายจากโรคก่อนครับความพิการหรือ
00:24:10 → 00:24:12 สิ่งที่เราต้องสูญเสียไปมันก็เป็นเรื่อง
00:24:12 → 00:24:15 รองที่ตามมาครับงั้นเวลาหมอทุกคนเนี่ย
00:24:15 → 00:24:18 เริ่มต้นชีวิตการเป็นแพทย์ก็จะมุ่งให้หาย
00:24:18 → 00:24:22 ก่อนครับแต่พอในที่สุดแล้วคนทั้งทั้งคน
00:24:22 → 00:24:27 เนี่ยจะต้องฟื้นฟูสมรรถภาพความรู้สึกอ
00:24:27 → 00:24:29 แล้วก็ให้เค้ากลับมาใช้ชีวิตคงเดิมเพราะ
00:24:29 → 00:24:32 ฉะนั้นแต่เดิมเราก็คิดแค่รักษาให้หายขาด
00:24:32 → 00:24:35 แต่ตอนเนี้เรามองคนไข้แบบครบวงจรอ๋อค่ะ
00:24:35 → 00:24:40 ต้องรักษาแล้วก็ฟื้นฟูให้เา้ากลับมีชีวิต
00:24:40 → 00:24:43 ที่ใกล้เคียงปกติมากที่สุดอแล้วเราจะดูแล
00:24:43 → 00:24:46 เสียงของเรายังไงดีครับให้ยังใช้ได้ไป
00:24:46 → 00:24:50 ตลอดให้อาการเจ็บป่วยหรืออาการอะไรที่จะ
00:24:50 → 00:24:51 เกิดขึ้นกับเส้นเสียงกล่องเสียงเราให้
00:24:51 → 00:24:54 น้อยที่สุดนะอาจารย์แนะนำไงบ้างครับจริงๆ
00:24:54 → 00:24:58 ก็ตรงไปตรงมานะคะก็คือใช้พอดีพอดีนะคะเรา
00:24:58 → 00:25:02 จะรู้ได้ไงว่ามันไม่พอดีดีนะฮะก็คือเรา
00:25:02 → 00:25:05 ใช้มันมากเกินไปเค้นเกินไปจำนวนพูด
00:25:05 → 00:25:08 ชั่วโมงต่อวันเยอะเกินไปเอ่อไปตะโกนมาก
00:25:08 → 00:25:12 เกินเสียงแหบแล้วก็การร้องเพลงอะไรก็ตาม
00:25:12 → 00:25:16 เนี่ยทุกคนก็รู้ว่าเราร้องได้ประมาณนี้นะ
00:25:17 → 00:25:20 คะการที่จะไปออกนอกคีตัวเองขอใช้คำนี้
00:25:20 → 00:25:22 แล้วกันเนี่ยบางทีมันทำให้สายเสียงเสีย
00:25:22 → 00:25:25 หายเหมือนกันนะคเใช่ค่ะหือบางคนอารม์ต่ำ
00:25:25 → 00:25:29 ค่ะหรือร้องช่วงยาวมากเพราะฉะนั้นทุก
00:25:29 → 00:25:32 อย่างเนี่ยถ้าจะทำให้มันดีที่สุดเนี่ยก็
00:25:32 → 00:25:35 ต้องมีการฝึกฝนอแล้วก็เสียงมาจากปอดต้อง
00:25:35 → 00:25:38 ออกกำลังให้แข็งแรงอเอ่อช่วงไม่สบายก็
00:25:38 → 00:25:41 ต้องพักผ่อนครับทันน้ำเยอะๆดูแลรักษาใาย
00:25:41 → 00:25:44 เสียงยาแก้แพ้แบบที่ทำให้คอแห้งเนี่ยช่วง
00:25:44 → 00:25:47 เป็นหวัดก็ไม่ควรทานนะคะตันน้ำให้เยอะ
00:25:47 → 00:25:50 แล้วก็อย่าใช้เสียงให้เกินกำลังครับนะคะ
00:25:50 → 00:25:54 เวลาไม่สบายมารักษาสิ่งที่รบกวนสายเสียง
00:25:54 → 00:25:57 อย่าไปยุ่งกับมันนะคะก็ทราบอยู่แล้วค่ะ
00:25:57 → 00:25:59 บุหรี่
00:25:59 → 00:26:02 แต่ยไงก็ตามเราควรจะดูแลเสียงกันทุกคนนะ
00:26:02 → 00:26:05 ครับและเสียงออกมาได้ก็จากหลายๆอวัยวะภาย
00:26:05 → 00:26:08 ในปากและคอของเราเี่กล่องเสียงเส้นเสียง
00:26:08 → 00:26:11 ก็สำคัญมากวันนี้รู้จักเสียงของเราไปแล้ว
00:26:11 → 00:26:13 อย่าลืมดูแลนะครับขอบคุณอาจารย์นะครับที่
00:26:13 → 00:26:18 ให้ความรู้กับเราในวันนี้ขอบคุณมากค่ะ
00:26:18 → 00:26:29 [เพลง]
00:26:29 → 00:26:32 ช่วง x-ray ใครที่เดินแล้วอาการเจ็บที่
00:26:32 → 00:26:35 ฝ่าเท้าจนต้องหยุดพักอยู่บ่อยๆไม่แน่นะ
00:26:35 → 00:26:38 ครับคุณอาจจะมีอาการที่เรียกว่าภาวะเท้า
00:26:39 → 00:26:41 แบนก็เป็นได้แต่จะเป็นอย่างไรต้องติดตาม
00:26:41 → 00:26:45 ช่วงหน้าครับ
00:26:45 → 00:26:48 [เพลง]