00:00:00 → 00:00:02 สวัสดีครับผมว่าทุกกคนนะครับตอนนี้น่าจะ
00:00:02 → 00:00:05 รู้จักคำว่าโรคติดต่อแล้วก็โรคไม่ติดต่อ
00:00:05 → 00:00:08 เป็นอย่างดีใช่ไหมมครับโรคติดต่อก็ยกตัว
00:00:08 → 00:00:12 อย่างเช่นโควิดไข้หวัดใหญ่วัณโรคซึ่ง
00:00:12 → 00:00:15 สามารถแพร่จากคนนึงไปอีกคนนึงได้โดยตรง
00:00:15 → 00:00:18 ส่วนโรคไม่ติดต่อเดี๋ยวนี้เราเรียกมันว่า
00:00:18 → 00:00:21 ncd noncommunicable disease นะครับ
00:00:21 → 00:00:25 เช่นเบาหวานความดันโรคหัวใจโรคอ้วนรวมไป
00:00:25 → 00:00:29 ทั้งถึงโรคมะเร็งด้วยนะครับแต่โรคมะเร็ง
00:00:29 → 00:00:31 บางคนก็อาจจะบอกว่าเอ๊ะในครอบครัวของเรา
00:00:31 → 00:00:34 มีประวัตินะพ่อแม่เป็นปู่ย่าตายายเป็น
00:00:34 → 00:00:36 แล้วฉันก็จะเป็นอันนี้มันก็เป็นโรคติดต่อ
00:00:36 → 00:00:40 สิอ่ามันไม่ใช่โรคติดต่อซึ่งสามารถกระโดด
00:00:40 → 00:00:42 จากคนนึงไปอีกคนนึงได้ครับอันนี้คือเป็น
00:00:42 → 00:00:46 การส่งถ่ายยีนจากรุ่นบรรพบุรุษมาถึงรุ่น
00:00:46 → 00:00:50 เรานะครับมันไม่ใช่กรณีที่สมมุติว่าคุณ
00:00:50 → 00:00:53 ปู่คุณเป็นมะเร็งลำไส้แล้ววันนี้คุณไปดู
00:00:53 → 00:00:56 แลท่านนะครับดูแลใกล้ชิดอยู่ทุกวันเลยนะ
00:00:56 → 00:00:59 ครับเป็นเดือนเลยมะเร็งลำไส้ของคุณปู่คุณ
00:00:59 → 00:01:01 จะไม่สามารถกระโดดเข้ามาในตัวคุณทำให้คุณ
00:01:01 → 00:01:04 เป็นมะเร็งลำไส้ได้แบบนั้นนะครับแต่วัน
00:01:04 → 00:01:08 นี้ครับผมจะเล่าเคสเคสนึงซึ่งน่าสนใจมาก
00:01:08 → 00:01:13 เป็นเคสที่หมอติดมะเร็งจากคนไข้ครับฟัง
00:01:13 → 00:01:15 ไม่ผิดครับหมอติดมะเร็งจากคนไข้เป็นยังไง
00:01:16 → 00:01:18 นะครับเดี๋ยวจะเล่าให้ฟังพบกับผมนะครับ
00:01:18 → 00:01:20 นายแพทย์ธนีธนียวันเป็นอาจารย์แพทย์อยู่
00:01:20 → 00:01:23 ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาเชี่ยวชาญโรคปอดการ
00:01:23 → 00:01:26 ปลูกถ่ายปอดและวิกฤตบำบัดนะครับเคสเนี่ย
00:01:26 → 00:01:28 ต้องบอกว่าเป็นเคสหนึ่งในพันล้านเลยที
00:01:28 → 00:01:32 เดียวนะครับดโดยตัวเคสเนี่ยเาตีพิมพ์ใน
00:01:32 → 00:01:34 วารสารทางการแพทย์ระดับโลกอย่าง New
00:01:34 → 00:01:38 england jal Medicine ในปี 1996 นะ
00:01:38 → 00:01:41 ครับเรื่องของเรื่องคือมีผู้ชายคนนึงอายุ
00:01:41 → 00:01:43 32 ปีเาเป็นมะเร็งช่องท้องชนิดหนึ่งนะ
00:01:44 → 00:01:47 ครับอ่าซึ่งซึ่งมีชื่อเรียกว่าตัวอ่าลิก
00:01:47 → 00:01:52 นั้นไฟัซทนะครับแล้วคุณหมอคนเนี้ยเขาก็ไป
00:01:52 → 00:01:55 ผ่าตัดช่องท้องตอนแรกก็ผ่าตัดก็ไม่มีอะไร
00:01:55 → 00:01:59 หรอกแต่ว่าตอนที่เขาจะใส่สายระบายเลือด
00:01:59 → 00:02:03 เนี่ยบังเอิญเขาไปถูกของมีคมน่าจะเป็นมีด
00:02:03 → 00:02:05 หรืออะไรสักอย่างบาดเข้าที่ตรงโคนนิ้ว
00:02:05 → 00:02:10 กลางข้างซ้ายนะครับหมอเก็รีบล้างแผลฆ่า
00:02:10 → 00:02:13 เชื้อทุกอย่างนะครับแล้วก็รักษาแผลมันก็
00:02:13 → 00:02:14 หาย
00:02:14 → 00:02:18 ละแต่ปรากฏว่า 5 เดือนหลังจากนั้นเนี่ย
00:02:18 → 00:02:21 ไอ้ตรงเนี้ยมันกลายเป็นก้อนกลมๆขึ้นมา
00:02:21 → 00:02:25 ขนาด 3 ซมก็ตรวจการติดเชื้อตรวจทุกอย่าง
00:02:25 → 00:02:30 ไม่เจออะไรเลยนะครับก็เลยไปผ่าตัดออกมา
00:02:30 → 00:02:33 ปรากฏว่ามันเป็นเนื้องอกชนิดเดียวกันกับ
00:02:33 → 00:02:37 คนไข้เลยคือเเลกนั้นไฟั
00:02:37 → 00:02:41 ซทนะครับต้องบอกว่าไอ้เนื้องอกชนิดเนี้ย
00:02:41 → 00:02:45 หรือมะเร็งชนิดเนี้ยเจอได้ยากมากๆเลยอ่ะ
00:02:45 → 00:02:50 เจอได้ยากสุดๆเลยนะครับเคสเนี้ยตัวคนไข้
00:02:50 → 00:02:52 ที่ได้รับการผ่าตัดเนี่ยสุดท้ายเเสีย
00:02:52 → 00:02:54 ชีวิตจากภาวะแทรกซ้อนสักอย่างซึ่งเขาไม่
00:02:54 → 00:02:57 ได้กล่าวไว้ในงานวิจัยชิ้นนี้นะเดี๋ยวผม
00:02:57 → 00:03:00 จะทิ้งลิงก์ของอ่า Case Report เคสเให้
00:03:00 → 00:03:03 ทุกคนไปอ่านได้ด้วยตัวเองนะครับส่วนคุณ
00:03:03 → 00:03:08 หมอเค้าเนี่ยผ่าไปแล้วก็ติดตามอาการต่อ 2
00:03:09 → 00:03:11 ปีหลังจากนั้นเนี่ยไม่มีเนื้องอกเหลืออีก
00:03:11 → 00:03:14 เลยไม่ได้แพร่กระจาดไปที่ไหนนะครับก็ถือ
00:03:14 → 00:03:19 ว่าโชคดีมากๆนะฮะทีนี้คนก็เลยสงสัยว่า
00:03:19 → 00:03:22 เฮ้ยแล้วหมอเนี่ยเค้ามีปัญหาอะไรหรือ
00:03:22 → 00:03:24 เปล่าทำให้ไอ้เมมะเร็งตัวเนี้ยมันมาที่
00:03:24 → 00:03:27 มือได้แล้วมันใช่มะเร็งของคนไข้จริงหรือ
00:03:27 → 00:03:29 เปล่าหรือมันเป็นมะเร็งของหมอคือเป็นโชค
00:03:29 → 00:03:33 ร้ายที่หมอก็เป็นคนไข้ก็เป็นนะครับแต่
00:03:33 → 00:03:35 เป็นมะเร็งของแต่ละคนไม่เกี่ยวข้องกับการ
00:03:35 → 00:03:38 ที่มะเร็งของอีกคนนึงมันข้ามมาสู่อีกคน
00:03:38 → 00:03:44 นึงนะครับที่เนี่ยเค้าก็เลยเอาไอ้ชิ้น
00:03:44 → 00:03:46 มะเร็งเนี่ยไปพิสูจน์เลยครับนะเค้า
00:03:46 → 00:03:50 พิสูจน์ดูระดับยีนดูว่ามันเป็น hoa เป็น
00:03:50 → 00:03:53 อะไรยังไงบ้างนะครับเค้าก็พบว่า hoa ของ
00:03:53 → 00:03:57 ไอ้ก้อนก้อนเนี้ยนะครับมันมาจากคนไข้เป๊ะ
00:03:57 → 00:04:00 เลยมันเหมือนคนไข้เป๊ะเลยในขณะที่ H หรือ
00:04:00 → 00:04:03 ยีนของหมอตัวนึงเนี่ยมันมันคนละตัวกันเลย
00:04:03 → 00:04:05 อ่ะมันไม่ใช่ตัวเดียวกับไอ้ไอ้ก้อนนี้ดัง
00:04:06 → 00:04:09 นั้นจึงบอกได้ว่าก้อนเนี้ยมันมาจากคนไข้
00:04:10 → 00:04:13 ล้วนๆนะครับมาจากคนไข้ล้วนๆเลยไม่ได้
00:04:14 → 00:04:17 เกี่ยวข้องอะไรกับหมอเพราะถ้าเกิดว่าก้อน
00:04:17 → 00:04:20 เนี้ยมันเกิดขึ้นจากหมออย่างน้อย hoa มัน
00:04:20 → 00:04:22 ต้องหน้าตาเหมือนของหมอไม่ใช่เหมือนของคน
00:04:22 → 00:04:27 ไข้ครับนะฮะแล้วทีนี้เค้าก็สงสัยแล้วเฮ้ย
00:04:27 → 00:04:30 ปกติเนี่ยเนื้อเยื่อจากคนนึงฆ่ามาอีกคน
00:04:30 → 00:04:32 นึงอ่ะมันต้องโดนทำลายทิ้งไปแล้วสิทำไม
00:04:32 → 00:04:35 ของหมอเค้านี่ไม่สามารถทำลายมะเร็งชนิด
00:04:35 → 00:04:38 นี้ได้เนี่ยเค้าก็เลยลองไปตรวจดูว่าเอ๊ะ
00:04:38 → 00:04:41 ภูมิต้านทานของหมอเค้าปกติดีหรือเปล่านะ
00:04:41 → 00:04:43 ครับหมอคนนี้อายุ 53 ปีนะครับที่เขาตรวจ
00:04:43 → 00:04:46 มาเนี่ยเค้าก็บอกว่าเอ๊ะมันมีอะไรเป็น
00:04:46 → 00:04:48 ปัญหาของไอ้ตัวภูมิต้านทานเค้ามั้ยก็
00:04:48 → 00:04:51 ปรากฏว่าไม่ได้เจออะไรที่ผิดปกติเลยสัก
00:04:51 → 00:04:54 นิดเดียวนะครับงานวิจัยชิ้นเนี้ยเค้าเลย
00:04:54 → 00:04:58 บอกว่ามันน่าจะเป็นภูมิต้านทานต่อเนื้อ
00:04:58 → 00:05:02 งอกของคุณหมหมอนั่นแหละที่มีปัญหาอะไรัก
00:05:02 → 00:05:06 อย่างแต่เราหาไม่เจอนะครับแล้วก็สรุปเป็น
00:05:06 → 00:05:08 ว่าเออน่าจะเป็นเพราะว่าภูมิต้านทานต่อ
00:05:08 → 00:05:12 ก้อนที่มีปัญหาของหมอมันเลยทำให้เขาติด
00:05:12 → 00:05:16 เข้าไปได้ซึ่งอันนี้เนี่ยถ้าเราอยู่ในยุค
00:05:16 → 00:05:19 สมัยใหม่เราคงฟังแล้วขัดหูขัดตานิดนึงนะ
00:05:19 → 00:05:21 ครับเพราะว่าเอ๊สรุปแบบนี้มันอาจจะไม่ได้
00:05:21 → 00:05:24 ใช่ 100% นะครับเราต้องมีการตรวจอย่าง
00:05:24 → 00:05:27 อื่นมากกว่านั้นอีกเยอะเลยทีเดียวนะครับ
00:05:27 → 00:05:29 แล้วทำไมมันถึงเป็นอย่างงั้นมันเป็นได้
00:05:29 → 00:05:34 ยังไงนะครับผมจะเล่าเออย่างให้ฟังปกติ
00:05:34 → 00:05:37 เนี่ยเราจะคิดว่ามะเร็งไม่ใช่โรคที่
00:05:37 → 00:05:40 สามารถติดต่อจากคนนึงไปอีกคนนึงได้นะเหตุ
00:05:40 → 00:05:43 ผลหลักๆนะครับต้องเข้าใจทางด้านของภูมิ
00:05:43 → 00:05:48 ต้านทานวิทยานิดนึงเวลาที่เราปลูกถ่ายปอด
00:05:48 → 00:05:52 ปลูกถ่ายตับถ่ายไตให้กับอีกคนนึงโดยเอามา
00:05:52 → 00:05:56 จากอีกคนนึงเนี่ยนะฮะร่างกายของผู้ที่รับ
00:05:56 → 00:05:58 อวัยวะเนี่ยเขาจะเห็นว่าของพวกเนี้ยเป็น
00:05:58 → 00:06:02 ของแปลกปลอมที่เข้ามาในร่างกายเขาแล้วจะ
00:06:02 → 00:06:05 ทำให้ภูมิต้านทานของเขาเนี่ยตรงเข้าไป
00:06:05 → 00:06:10 ทำลายอวัยวะนั้นทิ้งทั้งหมดเลยนะครับนี่
00:06:10 → 00:06:14 คือปัญหาอย่างใหญ่หลวงของการปลูกไถอวัยวะ
00:06:14 → 00:06:16 ในสมัยก่อนมันทำให้สำเร็จเพราะว่าภูมิ
00:06:16 → 00:06:20 ต้านทานมันแข็งแกร่งมากจนกระทั่งเขาไปค้น
00:06:20 → 00:06:23 พบว่ามันมียากดภูมิต้านทานครับพอเราให้ยา
00:06:23 → 00:06:26 กดภูมิต้านทานเนี่ยเราก็จะทำให้ของแปลก
00:06:26 → 00:06:29 ปลอมที่เข้าไปในผู้รับของเราเนี่ยนะครับ
00:06:29 → 00:06:32 รู้สึกว่าเฮ้ยเออมันไม่แปลกปลอมอีกต่อไป
00:06:32 → 00:06:34 เราไม่ต้องไปทำลายมันมากก็ได้นะครับไปลด
00:06:34 → 00:06:36 กำลังทหารที่เราจะไปทำลายของแปลกปลอมพวก
00:06:36 → 00:06:39 นั้นลงนะครับก็เลยทำให้การปลูกถ่ายอวัยวะ
00:06:39 → 00:06:43 ไม่ว่าจะเป็นตับไตหัวใจปอดสำเร็จได้ในทุก
00:06:43 → 00:06:47 วันนี้นะครับแต่ก็ต้องแลกมาด้วยปัญหา
00:06:47 → 00:06:50 เพิ่มเติมอีกมากมายนะครับเช่นถ้าเรากด
00:06:50 → 00:06:53 ภูมิต้านทานเราก็จะติดเชื้อได้ง่ายขึ้น
00:06:53 → 00:06:55 เรากดภูมิต้านทานเราก็จะเป็นมะเร็งได้
00:06:55 → 00:06:59 ง่ายขึ้นเรากดภูมิต้านทานยากดภูมิต้านทาน
00:06:59 → 00:07:01 ก็มีผลข้างเคี่ยงอย่างอื่นเช่นทำให้เกิด
00:07:01 → 00:07:04 เป็นเบาหวานเป็นความดันสูงเป็นโรคไตแล้ว
00:07:04 → 00:07:06 ก็อื่นๆอีกมากมายนะ
00:07:06 → 00:07:11 ครับทีนี้คำถามก็มีมาข้อนึงและว่าเอ๊แล้ว
00:07:11 → 00:07:14 หมอคนเนี้ยเาตรวจไม่เจอว่ามีภูมิต้านทาน
00:07:14 → 00:07:17 ผิดปกติเไม่ได้เป็นโรคอะไรแล้วเขก็ไม่ได้
00:07:17 → 00:07:18 กินยากวด
00:07:18 → 00:07:21 ภูมิถ้าไม่ได้กินยากวดภูมิภูมิต้านทาน
00:07:21 → 00:07:25 ปกติแล้วเขาจะไปสรุปว่าเอ๊ะภูมิต้านทาน
00:07:25 → 00:07:28 ของคุณหมอคนเนี้ต่อมะเร็งมันแย่อันเนี้ย
00:07:28 → 00:07:31 ผมว่าสรุปไม่ค่อยได้นะครับเหตุผลที่ผมคิด
00:07:31 → 00:07:34 ว่าไม่ได้ก็คือข้อแรกหมอเาอายุ 53 ปีถ้า
00:07:34 → 00:07:36 เขาจะมีปัญหาที่ภูมิต้านทานของเขาไม่
00:07:36 → 00:07:39 สามารถทำลายมะเร็งต่างๆได้เนี่ยผมว่าเค้า
00:07:39 → 00:07:42 อยู่ไม่ถึงอายุ 53 ปีก็คงจะเสียชีวิตไป
00:07:42 → 00:07:45 ก่อนหน้านั้นแล้วล่ะครับเพราะว่าเวลาที่
00:07:45 → 00:07:49 เราเจอสิ่งที่มาทำล้ายร่างกายเราเช่นแสง
00:07:49 → 00:07:51 แดดเช่นอาหารบางชนิดนะครับเซลล์ของเรามัน
00:07:51 → 00:07:54 อาจจะมีการกลายพันพอมันมีการกลายขวันเล็ก
00:07:54 → 00:07:56 ๆน้อยๆเนี่ยร่างกายเราจะรีบกำจัดมันทิ้ง
00:07:56 → 00:08:00 นะครับเลยไม่กลายไปเป็นมะเร็งดังนั้น
00:08:00 → 00:08:02 เนี่ยไอ้สิ่งต่างๆเหล่าเนี้ไม่ว่าจะเป็น
00:08:02 → 00:08:06 PM 2.5 แดดแสงอะไรมากมายทั้งเราเจอตลอด
00:08:06 → 00:08:08 ชีวิตตั้งแต่เด็กจนโตอ่ะครับดังนั้นถ้า
00:08:08 → 00:08:10 เกิดว่าภูมิต้านทานของเราไม่สามารถทำลาย
00:08:10 → 00:08:13 มะเร็งได้นะครับผมว่าคุณหมอคงเป็นมะเร็ง
00:08:13 → 00:08:15 ตั้งแต่ก่อนอายุ 53 เขาเรียบร้อยแล้วนะ
00:08:15 → 00:08:17 ครับดังนั้นอันเนี้ยผมว่าข้อสรุปอันนี้
00:08:17 → 00:08:20 มันอาจจะดูไม่ค่อยถูกต้องซักทีเดียวเท่า
00:08:20 → 00:08:26 ไหร่นะครับนี่แหละคือปัญหานะทีนี้ถ้ามัน
00:08:26 → 00:08:28 ไม่ใช่กรณีนี้ล่ะถ้าสมมุติภูมิต้านทานของ
00:08:28 → 00:08:31 คุณหมอเปกติอย่างที่ผมคิดล่ะแล้วมันเป็น
00:08:31 → 00:08:34 ไปได้ยังไงที่มะเร็งของคนไข้เข้ามาในตัว
00:08:34 → 00:08:36 หมอแล้วมันไม่โดนทำลายทิ้งเพราะอย่างที่
00:08:36 → 00:08:39 บอกเมื่อกี้ถ้าคุณปลูกถ่ายอวัยวะเอาเอาไต
00:08:39 → 00:08:41 จากคนนึงเข้ามาอีกคนนึงโดยไม่ให้กินยากด
00:08:41 → 00:08:45 ภูมินะไตนั่นก็พังไปเลยพังทันทีเลยนะ
00:08:46 → 00:08:51 ฮะอันนี้เนี่ยมันมีอีกอย่างนึงครับคือหมอ
00:08:51 → 00:08:55 คนคนไข้เนี่ยระบบพันธุกรรมทุกชนิดต้อง
00:08:55 → 00:08:59 เหมือนกันเป๊ะต้องเหมือนกันเป๊ะเลยคือ
00:08:59 → 00:09:02 เหมือนกันเป๊ะเนี่ยมีกรณีมีได้ 2 กรณี
00:09:02 → 00:09:06 กรณีแรกนะคนไข้กับหมอเนี่ยโคลนมาจากที่
00:09:06 → 00:09:09 เดียวกันคือหมอเกิดมาก่อนเาเอาเซลล์หมอไป
00:09:09 → 00:09:11 เพาะแล้วโคลนขึ้นมาเป็นคนอีกคนนึงนะครับ
00:09:11 → 00:09:13 แต่หน้าตามันต้องเหมือนกันครับข้อแรกเลย
00:09:13 → 00:09:15 ซึ่งนี้เไม่ได้บอกว่าหน้าตาเหมือนกันหรือ
00:09:15 → 00:09:18 เปล่านะฮแต่อายุไม่เหมือนกันแต่ผมคิดว่า
00:09:18 → 00:09:20 เทคโนโลยีโลนิในสมัยนั้นคงยังทำไม่ได้นะ
00:09:20 → 00:09:23 ฮะแล้วคงไม่มีใครทำด้วยข้อที่ 2 ที่พอ
00:09:23 → 00:09:28 เป็นไปได้คือคุณหมอคนไข้ต้องเป็นฝาแฝดไข่
00:09:28 → 00:09:31 ใบเดียวกัน
00:09:31 → 00:09:36 อืแค่นั้นเลยแต่มันเป็นไปไม่ได้ครับคนไข้
00:09:36 → 00:09:39 อายุ 32 หมออายุ 53 มันมาจากไข่ใบเดียว
00:09:39 → 00:09:41 กันไม่ได้อยู่แล้วเป็นไปไม่ได้
00:09:41 → 00:09:47 นะดังนั้นถ้ามันมาจากไข่ใบเดียวกันไม่ได้
00:09:47 → 00:09:50 แล้วหลักฐานอีกอย่างนึงก็คือเราตรวจที่
00:09:50 → 00:09:55 ตัวก้อนเนี่ยมันมี H แบบหนึนะครับของคน
00:09:55 → 00:09:58 ไข้เนี่ยมันมี hoa แบบนึงเลือดของหมอ
00:09:58 → 00:10:00 เนี่ยมันมีเอีกแบบหนึหน้าตาไม่เหมือนกัน
00:10:00 → 00:10:03 ดังนั้นบอกได้แล้วว่าหมอคนไข้ไม่ใช่คนคน
00:10:03 → 00:10:05 เดียวกันไม่ใช่สิ่งในชีวิตเหมือนกันไม่
00:10:05 → 00:10:08 ได้โคลนมาจากที่เดียวกันเอ๊ะถ้าอย่างงั้น
00:10:08 → 00:10:10 แล้วทำไมมันถึงแพร่ไปได้ในเมื่อระบบภูมิ
00:10:10 → 00:10:16 ต้านทานน่าจะปกติหมอคนไข้เนี่ยระบบต่างๆ
00:10:16 → 00:10:20 มันไม่เหมือนกันมันก็ต้องต่อต้านกันสิผม
00:10:20 → 00:10:24 ว่ามันอยู่ที่ตัวมะเร็งนี้ครับมะเร็งชนิด
00:10:24 → 00:10:28 นี้เนี่ยนะฮะมันมีชื่อสมัยก่อนนะครับก็
00:10:28 → 00:10:31 คือคือตัวเนี่ยมลกนั้น Fus histiocytoma
00:10:31 → 00:10:34 ซึ่งเดี๋ยวเนี้ยมันมีอีกชื่อนึงเป็นชื่อ
00:10:34 → 00:10:37 ใหม่เราเรียกว่า undifferentiated
00:10:37 → 00:10:40 cpic sarcoma นะครับชื่อเนี่ยมันบอก
00:10:40 → 00:10:43 อะไรหลายอย่างมากโดยเฉพาะคำสุดท้ายครับคำ
00:10:43 → 00:10:44 ว่า
00:10:44 → 00:10:48 ซาคปกติมะเร็งเราเนี้ยนะครับบางคนอาจจะ
00:10:48 → 00:10:52 เคยได้ยินโคลอน carcinoma นะครับเปต
00:10:52 → 00:10:56 Cellular carcinoma เอเราซาโมกับคาซิโน
00:10:56 → 00:10:57 ไม่เหมือนกันยังไงครับมะเร็งของเราเนี่ย
00:10:57 → 00:11:01 มันมี 2 อย่างคาซิโนกับซาโมนะครับอันนี้
00:11:01 → 00:11:05 คือถือว่าเป็นมะเร็งของอวัยวะต่างๆนะครับ
00:11:05 → 00:11:09 เช่นกระดูกกล้ามเนื้ออ่าปอดตับไตอะไร
00:11:09 → 00:11:12 เงี้ยนะฮะมันจะแบ่งเป็น 2 อย่างนี่ไม่นับ
00:11:12 → 00:11:15 รวมลิวคีเมียนะพวกเนี้ยเขาจะเรียกว่า
00:11:15 → 00:11:19 solid tumor solid ก็คือเป็นก้อนแข็ง
00:11:19 → 00:11:22 นะครับก็จะแบ่งเป็น 2 อย่างคาซิโนกับซาโม
00:11:22 → 00:11:27 คาซิโนเนี่ยมันจะเป็นมะเร็งของพวกเยื่อบุ
00:11:27 → 00:11:29 ต่างๆนะครับส่วนซาโมเนี่ยจะเป็นเนื้อ
00:11:29 → 00:11:32 เยื่อเกี่ยวพันธุ์ที่อยู่ตรงกลางเวลาเรา
00:11:32 → 00:11:36 เกิดมาตอนเป็นไข่ผสมกับอสุจิใหม่ๆแล้ว
00:11:36 → 00:11:37 กลายไปเป็นเอมบริโอเนี่ยเราจะประกอบไป
00:11:38 → 00:11:41 ด้วย 3 ชั้นนะครับชั้นนอกเตเดิมนะครับ
00:11:41 → 00:11:44 เอโตแปลว่าข้างนอกนะฮะเดิมก็คือเป็นชั้น
00:11:44 → 00:11:48 นะครับชั้นผิวหนังชั้นกลางโซเดิร์มชั้นใน
00:11:48 → 00:11:51 เอนโดเดิร์มนะครับถ้าเป็นมะเร็งที่เกิด
00:11:51 → 00:11:54 จากเอโตเดิมกับเอนโดเดิร์มเนี่ยเราจะ
00:11:54 → 00:11:55 เรียกว่า
00:11:55 → 00:11:58 คาซิโนแล้วมะเร็งพวกนั้นเนี่ยเราจะเรียก
00:11:58 → 00:12:02 ตามอวะเช่นมะเร็งเต้านมมะเร็งต่อมลูกหมาก
00:12:02 → 00:12:06 มะเร็งอ่าลำไส้อย่างนี้เป็นต้นส่วนถ้า
00:12:06 → 00:12:09 มะเร็งนั้นเกิดจากโซเดิร์มหรือไอ้ชั้น
00:12:09 → 00:12:11 กลางของมันเนี่ยเราจะเรียกมันว่า
00:12:12 → 00:12:15 ซาโกความแตกต่างของมันเนี่ยคือซาโมอย่าง
00:12:15 → 00:12:17 นึงนะครับเวลาที่เป็นเราไม่เรียกตาม
00:12:17 → 00:12:22 อวัยวะแต่เราเรียกตามลักษณะพิเศษที่เวลา
00:12:22 → 00:12:24 เราส่องกล้องเข้าไปแล้วมันเป็นแบบไหนนะ
00:12:24 → 00:12:27 ครับเราจะไม่เรียกตามอวัยวะนะครับทีนี้
00:12:27 → 00:12:31 ไอ้มะเร็งของคนๆนี้เนี่ยมันเป็นซาโซาโกับ
00:12:31 → 00:12:35 คาซิโนมีความแตกต่างกันอย่างมากอันนึงเลย
00:12:35 → 00:12:40 ก็คือถ้าเป็นตัวมะเร็ง
00:12:40 → 00:12:45 เนี่ยมันมักจะมีหลายๆอย่างที่พิเศษนะครับ
00:12:45 → 00:12:49 อย่างแรกที่มันพิเศษเลยก็คือว่ามันมี
00:12:49 → 00:12:52 cancer STEM เซลลก็เหมือนกับสเตมเซลล์
00:12:52 → 00:12:54 ที่เรารู้จักนะครับ cancer STEM เซลล์
00:12:55 → 00:12:58 เนี่ยมันเจอได้ได้เยอะในมะเร็งชนิดเนี้ย
00:12:58 → 00:13:00 นะครับมันมะเร็งชนิดอื่นที่เกอแคนเซอร์
00:13:00 → 00:13:03 สเตมเซลล์ก็ยกตัวอย่างเช่นอ่าในลิวคีเมีย
00:13:03 → 00:13:08 ในมะเร็งสมองในเมลาโนนะครับอ่าพวกเนี้ย
00:13:08 → 00:13:10 เจอเยอะนะครับ cancer STEM เซลล์เนี่ย
00:13:10 → 00:13:14 มันทำให้มะเร็งพวกเนี้ยมันมันสามารถสร้าง
00:13:14 → 00:13:16 ตัวเองออกมาได้เรื่อยๆนะครับแล้วมันก็ทน
00:13:16 → 00:13:21 ทานซะด้วยนะฮะยีนของมะเร็งชนิดเนี้ยมันมี
00:13:21 → 00:13:23 Mutation หรือการกายพันธุ์บ่อยมากนะครับ
00:13:23 → 00:13:26 ถ้ามันมีการกายพันธุ์บ่อยมากมันจะสามารถ
00:13:26 → 00:13:29 ปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมต่างๆได้ดีมาก
00:13:29 → 00:13:34 นะฮะปรับตัวเข้าได้ดีมากๆนะแล้วก็ไม่
00:13:34 → 00:13:37 เพียงแค่นั้นมันยัง
00:13:37 → 00:13:41 มีมันมันยังมีปัญหาอย่างนึงก็คือปกติแล้ว
00:13:41 → 00:13:44 เนี่ยถ้าเราไม่สามารถแสดงแอนติเจนอะไร
00:13:44 → 00:13:46 ต่างๆออกมาได้นะครับแอนติเจนเนี่ยหมาย
00:13:46 → 00:13:51 ความว่ามันเหมือนเซลล์ๆลนึงแล้วเรารู้สึก
00:13:51 → 00:13:53 ว่าเราเป็นผู้ร้ายเราเข้ามาในร่างกายคน
00:13:53 → 00:13:57 อื่นเนี่ยถ้าเรายังคงใส่หมวกสีเหลืองคน
00:13:57 → 00:13:59 ให้เห็นเฮ้ยนั่นไงผู้เราต้องรีบเข้ามา
00:13:59 → 00:14:02 ทำลายนะครับเราถอดหมวกออกอ่ะเคก็อาจจะจำ
00:14:02 → 00:14:05 เราไม่ได้แล้วนะครับนี่คือแอนติเจนก็คือ
00:14:05 → 00:14:07 คล้ายๆกับหมวกสีเหลืองที่อยู่บนหัวเรานะ
00:14:07 → 00:14:10 ครับไอ้มะเร็งชนิดเนี้ยไม่ค่อยมีแอนติเจน
00:14:10 → 00:14:15 เท่าไหร่มันก็เคยก็คือคนเอ่อเซลล์ภูมิ
00:14:15 → 00:14:17 ด้านทางเราเดินผ่านมาเอ๊ะมันก็ปกติดีอย่า
00:14:17 → 00:14:21 ไปยุ่งกับมันเลยนะครับเนี่ยและที่สำคัญ
00:14:21 → 00:14:25 คือปกติแอนติเจนเนี่ยมันจะมีอีกวิธีนึง
00:14:25 → 00:14:28 ที่จะเอามาแปะไว้บนผิวเซลล์ของเราก็คือ
00:14:28 → 00:14:32 ผ่านทาง hoa Class 1 นะครับอ่า hoa ของ
00:14:32 → 00:14:35 เราเนี่ยมันมันมี 2 2 คลาสหลังจริงๆก็มี
00:14:35 → 00:14:37 3 คลาส 1 2 3 แต่ 3 ไม่ค่อยเกี่ยวแล้ว
00:14:37 → 00:14:40 กันเอา 1 กับ 2 แล้วกัน 1 เนี่ยมันมีอยู่
00:14:40 → 00:14:43 ในทุกๆเซลล์ที่มีนิวเคลียสนะครับมีอยู่บน
00:14:43 → 00:14:47 หัวมันมีไว้ทำไมมันมีไว้เพื่อถ้าสมมุติ
00:14:47 → 00:14:49 เกิดความผิดปกติขึ้นในเซลล์ของเราเช่นมี
00:14:49 → 00:14:51 การติดเชื้อไวรัสเข้าไปในเซลล์หรือมัน
00:14:51 → 00:14:54 กำลังจะกลายไปเป็นมะเร็งเนี่ยนะครับมันจะ
00:14:54 → 00:14:56 เอาแอนติเจนแปลกประหลาดซึ่งเกี่ยวข้องกับ
00:14:56 → 00:14:59 กระบวนการเนี้ยมาแปะไว้ที่ hoa Class 1
00:14:59 → 00:15:01 แปะไว้บนหัวอย่างงี้ให้ชัดเจนนะครับเพื่อ
00:15:01 → 00:15:04 บอกว่าเฮ้ยเออฉันกำลังป่วยนะรีบมาจัดการ
00:15:04 → 00:15:07 กับฉันซะนะครับร่างกายก็จะส่งเซลล์เข้ามา
00:15:07 → 00:15:10 จัดการเซลล์พวกนี้ก็จะตายไปก็จะไม่กลายไป
00:15:10 → 00:15:12 เป็นมะเร็งก้อนใหญ่นะครับทีนี้ไอ้มะเร็ง
00:15:12 → 00:15:16 ชนิดเนี้ยนะครับมันฉลาดครับมันก็บอกว่า
00:15:17 → 00:15:19 เฮ้ยเอานี่ลงมาด้วยเลยไม่ต้องไปแสดงให้
00:15:19 → 00:15:23 เขารู้ว่าฉันเป็นมะเร็งนะครับมันจะมีสิ่ง
00:15:23 → 00:15:26 นึงซึ่งเรียกว่า Down regulation ของ hoa
00:15:26 → 00:15:29 Class 1 ครับก็ยิ่งทำให้ตัวมันเองไม่
00:15:29 → 00:15:34 โดนทำลายเออไม่โดนทำลายมีการเปลี่ยนแปลง
00:15:34 → 00:15:36 พันธุกรรมบ่อยเร็วมีความลักษณะเป็น
00:15:36 → 00:15:38 สเต็มเซลแบ่งตัวได้เร็วมากเปลี่ยนแปลงตัว
00:15:38 → 00:15:42 ได้บ่อยมันก็เลยตายยากตายเย็นนะครับแล้ว
00:15:42 → 00:15:45 อีกอย่างนึงก็คือมันสามารถ
00:15:45 → 00:15:49 แสดงสัญญาณพิเศษซึ่งเอาไว้ทำลาย T เซลล์
00:15:49 → 00:15:51 หรือเซลล์ภูมิต้านทานเราโดยเฉพาะนั่น
00:15:51 → 00:15:55 สัญญาณนั้นก็คือโปรแกรมเ Death ไลแกน 1
00:15:55 → 00:16:00 นะครับ pdl1 นะครับอยู่บนหัวแปะอย่างงี้
00:16:00 → 00:16:02 สมมุติมีเซลล์ภูมิต้านทานที่ตอนแรกเอ้อ
00:16:02 → 00:16:05 มันมันมองไม่เห็นเราแต่บรรเเอิญมันสนใจ
00:16:05 → 00:16:08 เราขึ้นมาเนี่ยเราดันเห็นพอดีมาถึงปุ๊บ
00:16:08 → 00:16:10 เรายื่นสัญญาณเฮ้ยตายซะอ่ะยื่นให้มันมัน
00:16:10 → 00:16:13 ตายเลยนะครับยื่นให้เซลล์ T เซล์ T เซลล์
00:16:13 → 00:16:16 มันเจ๊งไปเลยอย่างเงี้ยนะครับก็เลยทำให้
00:16:16 → 00:16:20 ไม่มีใครสามารถทำอันตรายมาได้แต่ไม่เพียง
00:16:20 → 00:16:23 แค่นั้นครับมันยังเรียกภูมิต้านทานของเรา
00:16:24 → 00:16:27 อ่ะมาเป็นพวกมันอีกนะครับภูมิต้านทานที่
00:16:27 → 00:16:30 ว่าคือแครานะครับแคราเนี่ยมันจะมี 2
00:16:30 → 00:16:34 อย่างลักๆ M1 กับ M2 M2 เนี่ยคือตัวที่
00:16:34 → 00:16:37 มันเรียกมาเป็นเพื่อน M2 เนี่ยมันมีความ
00:16:37 → 00:16:40 พิเศษอย่างนึงคือมันสามารถกดภูมิต้านทาน
00:16:40 → 00:16:43 ไม่ให้เกิดการอักเสบได้ไอ้มะเร็งชนิด
00:16:43 → 00:16:45 เนี้ยมันชอบมันดึงเข้ามาเป็นพวกดึงๆๆๆ
00:16:45 → 00:16:47 แล้วมันบอกว่าถ้าภูมิต้านทานเราเข้ามานะ
00:16:47 → 00:16:51 แกก็คอยไปบอกมันว่าอย่ามายุ่งกับฉันอ่ะ
00:16:51 → 00:16:53 นิ่งๆไม่ต้องอักเสบไม่ต้องทำเป็นเรื่อง
00:16:53 → 00:16:55 ใหญ่โตฉันเป็นมะเร็งอยู่ตรงนี้แหละเออให้
00:16:55 → 00:16:59 มันโตไปนะครับเนี่ย
00:16:59 → 00:17:02 คือลักษณะพิเศษหลายๆอย่างของมันแถมถ้า
00:17:02 → 00:17:04 ร่างกายบอกว่าเออฉันจะไม่ให้เลือดแกกิน
00:17:04 → 00:17:07 เดี๋ยวจะได้ไม่ต้องโตไม่ครับมะเร็งตัว
00:17:07 → 00:17:09 เนี้มันมีความพิเศษมันสามารถสร้างหลอด
00:17:09 → 00:17:12 เลือดของมันเองได้ด้วยโดยมีการหลั่งสาร
00:17:12 → 00:17:14 ตัวนึงชื่อว่า vascular enderal Growth
00:17:14 → 00:17:17 Factor vegf ดึงเลือดเข้ามาไที่ตัวเอง
00:17:17 → 00:17:21 อีกฉลาดขนาดนั้นเลยนะฮะแถมมีการหลั่งสาร
00:17:21 → 00:17:22 ตัวนึง
00:17:22 → 00:17:26 อ่าผมจำชื่อมันไม่ได้ละแต่มันมีชื่อยาวๆ
00:17:26 → 00:17:30 เหมือนกันนะครับแต่ว่ามันเอาเอาไว้ทำให้
00:17:30 → 00:17:33 บริเวณรอบๆข้างเนี่ยเหมือนปรับพื้นที่ให้
00:17:33 → 00:17:37 เหมาะกับการที่มันจะอยู่ได้นะครับอ่าใน
00:17:37 → 00:17:40 นี้ผมเคยเคยค้นไว้ก็หามันไม่เจอละนะแต่
00:17:40 → 00:17:44 ว่ามันมันสามารถปรับเออใช่น่าจะเป็นสาร
00:17:44 → 00:17:48 ชื่อว่าเปรสนะครับเออเปรสมันจะทำเหมือน
00:17:48 → 00:17:51 กับปรับพื้นที่ให้มันสามารถอยู่กับเราได้
00:17:51 → 00:17:54 ดังนั้นมะเร็งชนิดเนี้ยหลุดเข้าไปในมือ
00:17:54 → 00:17:57 ของหมอเค้าโดยปกติถ้าเราไปไว้ในเนี้ยมัน
00:17:58 → 00:18:00 ต้องโดนทำลายมะเร็งชนิดนเข้าไปมันก็ปรับ
00:18:00 → 00:18:02 พื้นที่ก่อนปรับพื้นที่หยุดยั้งภูมิต้าน
00:18:02 → 00:18:05 ทานไม่ทำตัวให้กระโตกกระตากเซลล์ภูมิต้าน
00:18:05 → 00:18:08 ทานเรามันก็ไม่มายุ่งนะครับแล้วในกรณี
00:18:08 → 00:18:11 เนี้ยเา้าเอารอบๆชิ้นเนื้อของมะเร็งของ
00:18:11 → 00:18:13 หมอไปตรวจก็เพราะว่ามันมีการอักเสบอยู่
00:18:13 → 00:18:16 รอบๆนะแต่มันเข้าไปข้างในไม่ได้เออนะฮะ
00:18:16 → 00:18:20 ดังนั้นโส่วนตัวผมนะผมคิดว่ามันน่าจะเป็น
00:18:20 → 00:18:23 เพราะไอ้มะเร็งตัวนี้นี่แหละแล้วมันเข้า
00:18:23 → 00:18:26 ไปสู่ในเลือดได้โดยตรงเข้าไปสู่ในชั้นลึก
00:18:26 → 00:18:29 ๆได้โดยตรงและด้วยความพิเศษของมันทำให้
00:18:29 → 00:18:32 มันไม่ตายไม่โดนทำลายจากภูมิต้านทานของ
00:18:32 → 00:18:36 ร่างกายแล้วมันก็เป็นอย่างนนั้นอยู่ตลอด
00:18:36 → 00:18:39 ไปนะครับนี่คือส่วนส่วนตัวผมคิดอย่างนี้
00:18:39 → 00:18:42 นะแล้วพวกนี้จริงๆมันทดสอบได้ด้วยนะครับ
00:18:42 → 00:18:45 ไปทดสอบหาสารเมื่อตะกี้มี pdl1 มั้ยมี
00:18:45 → 00:18:48 แครา type 2 อยู่ในนั้นหรือเปล่านะครับ
00:18:48 → 00:18:50 หรือว่ามีลักษณะพิเศษอะไรอย่างอื่นมั้ย
00:18:50 → 00:18:52 เจอแคนเซอร์เ่อสเตมเซลล์มั้แคนเซอร์
00:18:52 → 00:18:55 Stemcell เนี่ยอย่างที่บอกฮะคือจริงๆมัน
00:18:55 → 00:18:59 มีวิธีในการหามันเหมือนกันนะครับเอ่อมัน
00:18:59 → 00:19:01 จะมีเราต้องไปดู cluster of
00:19:01 → 00:19:03 differentiation ของพวกเนี้ยนะซึ่งผมจำ
00:19:03 → 00:19:06 ไม่ได้แล้วว่ามันมีตัวไหนบ้างแต่ว่ามันจะ
00:19:06 → 00:19:09 มีลักษณะพิเศษของมันเลยที่ไอ้แบบเนี้ยคือ
00:19:09 → 00:19:11 cancer STEM เซลลก็สามารถพิสูจน์ได้ว่า
00:19:11 → 00:19:14 ถ้ามันมีไอ้ของพวกที่ผมพูดไปทั้งหมดนะครบ
00:19:14 → 00:19:17 ทุกอย่างนะครับไอ้มะเร็งชนิดนี้แหละมัน
00:19:17 → 00:19:20 แพร่ได้เหตุผลก็คือแบบที่ผมว่าไปมันต้อง
00:19:21 → 00:19:23 มีครบทุกอย่างแต่ท่านไม่ต้องกลัวครับมัน
00:19:23 → 00:19:25 ไม่สามารถที่จะเอามาแปะผิวหนังแล้วเข้าไป
00:19:25 → 00:19:27 ในผิวหนังเราได้ครับเพราะผิวหนังเรามันมี
00:19:27 → 00:19:30 ตัวกั้นไว้อยู่แล้วต้องเข้าไปในเลือดลึกๆ
00:19:30 → 00:19:34 ถึงจะสามารถติดต่อได้นะครับทีนี้หลายคนก็
00:19:34 → 00:19:36 คงจะสงสัยละเอ๊ะแล้วมันมีมะเร็งอย่างอื่น
00:19:36 → 00:19:41 มั้ยที่มันเป็นอย่างนี้ได้มีครับมีมะเร็ง
00:19:41 → 00:19:43 ตัวนึงเลยที่เป็นตัวชั่วร้ายที่สุดในโลก
00:19:43 → 00:19:46 เลยที่มันสามารถแพร่จากคนสู่คนได้ก็คือ
00:19:46 → 00:19:49 เมลาโนมาครับเป็นมะเร็งเม็ดสีที่ผิวหนัง
00:19:49 → 00:19:53 นะฮะไอ้ตัวนี้นี่แหละเป็นตัวที่มันมี
00:19:53 → 00:19:57 ปัญหามากๆนะครับคือมันมีแคนเซอร์
00:19:57 → 00:19:59 สเตมเซลล์อยู่ในนั้นเยอะนะครับมีการกลาย
00:19:59 → 00:20:03 พันธได้รวดเร็วมากเลยนะครับแล้วถ้าหมอผ่า
00:20:03 → 00:20:06 ตัดไม่ระวังแล้วเอาไอเนี่ยใส่เข้าไปในตัว
00:20:06 → 00:20:10 เองนะมีโอกาสที่มันจะแพร่กระจายได้อย่าง
00:20:10 → 00:20:13 รวดเร็วถึงแม้ว่าภูมิต้านทานของคุณจะปกติ
00:20:13 → 00:20:17 ก็ตามแล้วเมลาโนเนี่ยมันเป็นมะเร็งที่หมอ
00:20:17 → 00:20:19 หลายคนจะเกลียดมันมากเพราะว่ามันดูเหมือน
00:20:19 → 00:20:21 ไม่มีอะไรมันดูเหมือนไฝธรรมดานี่แหละนะ
00:20:21 → 00:20:25 ครับเออแต่จริงๆก็ไฝลักษณะไม่ธรรมดานะถ้า
00:20:25 → 00:20:30 คุณมีไฝที่มันมีลักษณะใหญ่ขึ้นโตขึ้นนะ
00:20:30 → 00:20:33 ครับหรือสีมันกระดำกระด่างเดี๋ยวแดง
00:20:33 → 00:20:34 เดี๋ยวดำเดี๋ยวน้ำตาลไม่เท่ากันสักอย่าง
00:20:34 → 00:20:37 นึงไอ้พวกเต้องไปตรวจนะหรือขอบมันไม่
00:20:37 → 00:20:40 เรียบนะครับปกติขอบไฝมันจะกลมๆกลมๆเรียบๆ
00:20:40 → 00:20:43 ใช่มั้ยถ้าขอบมันหยักๆๆๆเหมือนดวงเหมือน
00:20:43 → 00:20:45 แบบเป็นดาวอย่าเงี้ยยักๆออกมาไอ้นี่ต้อง
00:20:45 → 00:20:48 ไปตรวจเหมือนกันหรือถ้ามันเจ็บมันคันมัน
00:20:48 → 00:20:50 มีเลือดออกเนี่ยต้องไปตรวจเดี๋ยวนั้นเลย
00:20:50 → 00:20:52 นะครับเพราะถ้าเป็นเมลาโนแล้วไม่รักษา
00:20:52 → 00:20:55 เนี่ยตายแน่นอนนะครับจะดูว่ามันเป็นเอ๊ะ
00:20:55 → 00:20:57 มันไสธรรมดาไม่นะฮะแล้วพวกนี้นะครับถ้า
00:20:57 → 00:21:00 เจอต้องควาคว้านเนื้อออกให้เยอะๆเลยงั้น
00:21:00 → 00:21:02 บางทีเราจะเห็นว่าเฮ้ยถ้าไปไปหาหมอแล้ว
00:21:02 → 00:21:05 มันเนี่ยมันจุดอยู่อันเดียวหมอก็คว้าน
00:21:05 → 00:21:08 กล้ามเนื้อลงไปหายหมดมือเราพิการเลยมัน
00:21:08 → 00:21:10 ต้องทำงั้นครับไม่งั้นเนี่ยเราเสียชีวิต
00:21:10 → 00:21:13 ได้นะฮะแล้วพวกเนี้ยแค่มันลงเข้าไปลึกไม่
00:21:14 → 00:21:16 กี่มิลลิเมตรน่ะมันแพร่ได้ข้างร่างกาย
00:21:16 → 00:21:20 แล้วครับบางคนผ่าตัดผ่านไปแล้ว 5 ปีอยู่ๆ
00:21:20 → 00:21:23 เกิดมาเจออีกทีในปอดเจออีกทีในหัวใจเจอ
00:21:23 → 00:21:26 อีชีในสมองอย่างเงี้ยนี่คือเมลาโนมามัน
00:21:26 → 00:21:29 โหดร้ายขนาดนั้นนะครับตัวเนี้ยผมว่าน่าจะ
00:21:29 → 00:21:32 เป็นมะเร็งชนิดหนึ่งซึ่งมันแพร่จากคนสู่
00:21:32 → 00:21:34 คนได้แล้วมันก็มีรายงานด้วยครับว่าแพร่
00:21:34 → 00:21:38 จากแม่สู่ลูกผ่านทางรกครับอันนี้มีมาแล้ว
00:21:38 → 00:21:39 นะ
00:21:39 → 00:21:43 ฮะส่วนอีกอย่างนึงซึ่งน่าจะแพร่ได้ก็คือ
00:21:43 → 00:21:47 พวกลิวคีเมียหรือลิฟเป็นมะเร็งของเม็ด
00:21:47 → 00:21:50 เลือดแล้วก็ต่อมเหลืองพวกเนี้ยนะฮะมีราย
00:21:50 → 00:21:53 งานมาแล้วครับคนที่ปลูกถ่ายสเต็มเซลล์
00:21:53 → 00:21:56 ปลูกถ่ายสเตมเซลล์นะครับปลูกถ่ายไข่
00:21:56 → 00:21:59 กระดูกมันดันเอาไข่กระดูกของคนที่แบบมี
00:21:59 → 00:22:03 เซลล์มะเร็งซ่อนอยู่ข้างในไปปลูกถ่ายแล้ว
00:22:03 → 00:22:06 ก็แพร่กระจายทั้งตัวเลยนะครับแต่ว่าคนพวก
00:22:06 → 00:22:09 เนี้ยจะต้องได้ยากดภูมิต้านทานบ้างบาง
00:22:09 → 00:22:11 ส่วนดังนั้นอันนี้อาจจะเป็นเหตุผลที่ทำ
00:22:11 → 00:22:13 ให้มะเร็งมันออกมาเยอะก็ได้นะครับแต่
00:22:13 → 00:22:16 เมลาโนเนี่ยคุณไม่จำเป็นต้องมีการกดภูมิ
00:22:16 → 00:22:20 ต้านทานนะจากแม่แพร่ไปให้ลูกคือตอนนั้นก็
00:22:20 → 00:22:22 ไม่ได้มีปัญหาอะไรมันแพร่ไปสู่ลูกแต่ว่าอ
00:22:22 → 00:22:24 เราอาจจะเถียงได้ว่าเออลูกเนี่ยภูมิต้าน
00:22:24 → 00:22:26 ทานก็ยังไม่โตเต็มที่เนาะเคก็อาจจะไม่
00:22:26 → 00:22:28 สามารถทำลายมะเร็งชนิดนี้ได้หรือเปล่านะ
00:22:28 → 00:22:30 ครับผมว่าเออมันก็อาจจะเป็นอย่างนั้นก็
00:22:30 → 00:22:35 ได้แต่ถ้าถามผมนะลักษณะของมะเร็งเมื่อกี้
00:22:35 → 00:22:38 นะครับเมลาโนมาแล้วก็ลักษณะของมะเร็งที่
00:22:38 → 00:22:40 เป็น undifferentiated
00:22:40 → 00:22:43 เ่า pleomorphic sarcoma หรือชื่อเก่า
00:22:43 → 00:22:46 ของมันก็คือ malignant Fus histiocytoma
00:22:46 → 00:22:50 พวกนี้เนี่ยมันมีลักษณะบางอย่างที่ดูน่า
00:22:50 → 00:22:53 กลัวถ้ามันเข้าไปในร่างกายคนผ่านทางแผล
00:22:53 → 00:22:57 ตรงๆเนี่ยมันน่าจะหรืออาจจะทำให้เกิดการ
00:22:57 → 00:23:01 ติดมะเร็งเข้าไปตรงๆได้นะครับโอเควันนี้
00:23:01 → 00:23:04 ก็เล่าให้ฟังในรายละเอียดลึกๆนิดนึงนะ
00:23:04 → 00:23:06 ครับเผื่อว่าใครจะเอาไปคิดต่อผมว่าความ
00:23:06 → 00:23:09 รู้ทางการแพทย์หลายๆอย่างนะครับถ้าเรารู้
00:23:09 → 00:23:12 พื้นฐานดีๆเนี่ยมันสามารถไปคิดต่อยอดได้
00:23:12 → 00:23:14 เยอะแยะเลยนะครับแล้วอันเนี้ยก็ต้องบอก
00:23:14 → 00:23:17 ทุกคนเลยนะครับว่าโอกาสเกิดมันหนึ่งใน
00:23:17 → 00:23:20 เป็นพันล้านอ่ะไม่ต้องกลัวขนาดนั้นนะครับ
00:23:20 → 00:23:23 แล้วก็คือมันจะต้องเอาตัวมะเร็งเข้าไปใน
00:23:23 → 00:23:26 แผลในร่างกายตรงๆมันถึงจะติดได้นะครับไม่
00:23:26 → 00:23:28 ใช่ว่าเราไปจับก้อนมะเร็งแล้วมันจะติดไม่
00:23:28 → 00:23:30 ที่มืออันนั้นไม่ติดแน่ๆนะครับบอกเลยไม่
00:23:30 → 00:23:33 ติดถ้าเราเผลอกินเนื้อที่เราไม่รู้อ้า
00:23:33 → 00:23:35 เนี่ยเนื้อวัวมันมีมะเร็งอยู่ก้อนนึงเรา
00:23:35 → 00:23:37 มองไม่เห็นเรากินเข้าไปเราเป็นมะเร็ง
00:23:37 → 00:23:39 เปล่าไม่เป็นครับมะเร็งพวกเนี้ยถ้ามันโดน
00:23:39 → 00:23:41 เผามันตายไปเรียบร้อยแล้วเข้าไปในทางเดิน
00:23:41 → 00:23:43 อาหารเรามันโดนน้ำย่อยมันก็ตายไปเรียบ
00:23:43 → 00:23:45 ร้อยมันไม่สามารถทะลุทะลวงเข้าไปในร่าง
00:23:45 → 00:23:47 กายเราจนกระทั่งเราเป็นมะเร็งได้นะครับ
00:23:47 → 00:23:50 ดังนั้นก็สบายใจในเรื่องนี้การดูแลผู้
00:23:51 → 00:23:53 ป่วยมะเร็งก็ไม่ได้ทำให้คุณติดมะเร็งเข้า
00:23:53 → 00:23:56 ไปนะครับวันนี้เอามาเล่าเพื่อให้ทุกคนได้
00:23:56 → 00:23:59 คิดไปพร้อมๆกันว่ามันมีกลไกอะไรยังไงบ้าง
00:23:59 → 00:24:03 นะครับที่ทำให้คนๆนึงสามารถที่จะได้รับ
00:24:03 → 00:24:05 มะเร็งจากอีกคนนึงเข้าไปในร่างกายตัวเอง
00:24:05 → 00:24:07 ได้นะครับโอเควันนี้ผมก็มาเล่าให้ฟัง
00:24:07 → 00:24:09 เพียงเท่านี้นะครับขอบคุณมากครับสวัสดี
00:24:09 → 00:24:12 ครับ