00:00:00 → 00:00:03 This Is tha PBS podcast View the
00:00:03 → 00:00:05 world vi The
00:00:05 → 00:00:08 Voice ท้าบวมเนี่ยอาจจะตั้งแต่ปลายเท้า
00:00:08 → 00:00:11 ขึ้นไปจนถึงหน้าแข้งแน่ะบางรายก็มีข้อ
00:00:11 → 00:00:14 เท้าบวมร่วมด้วยอาการบวมอาจจะเป็นข้าง
00:00:14 → 00:00:17 เดียวหรือ 2 ข้างพร้อมกันก็ได้สามารถหาย
00:00:17 → 00:00:20 ไปได้เองนะคะหรือว่าถ้ารุนแรงไม่หายสักที
00:00:20 → 00:00:23 เนี่ยก็ต้องไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุ
00:00:23 → 00:00:26 แล้วก็เข้ารับการรักษาเพื่อบรรเทาอาการ
00:00:26 → 00:00:28 ถึงแม้ว่าเท้าบวมเนี่ยจะหายได้เองโดยไม่
00:00:28 → 00:00:32 ต้องรักษาแต่ก็ไม่ควรมองข้ามอาการนี้นะคะ
00:00:32 → 00:00:34 เพราะว่าการเท้าบวมเนี่ยจะเป็นสัญญาณ
00:00:34 → 00:00:38 เตือนของปัญหาสุขภาพที่คุณคาดไม่ถึง
00:00:38 → 00:00:42 ได้ฟังทุกเรื่องสุขภาพอัปเดตทุกโรคไทยฟัง
00:00:42 → 00:00:46 รายการโรงหมอกับดิฉันสุรีพรวงสถิตพรค่ะ
00:00:46 → 00:00:48 This Is Toy PBS
00:00:48 → 00:00:51 podcast มาติดตามกันค่ะสำหรับในวันนี้นะ
00:00:52 → 00:00:55 คะกับรายการโรงหมอเรื่องทำไมเท้าบวมเคย
00:00:55 → 00:00:58 สงสัยกันบ้างั้คะอันนี้ก็ต้องอาจจะเป็น
00:00:58 → 00:01:00 อีกเรื่องนึงที่เราเราต้องคอยสังเกตตัว
00:01:00 → 00:01:03 เองด้วยเว้ยว่าการเท้าบวมเนี่ยมันเกิดจาก
00:01:03 → 00:01:05 สาเหตุอะไรได้บ้างเดี๋ยววันนี้คุยกับ
00:01:05 → 00:01:08 แพทย์หญิงกิตยาศรีเลิศฟ้าแพทย์อายุรกรรม
00:01:08 → 00:01:11 ฝ่ายการแพทย์ AIA ค่ะสวัสดีค่ะคุณหมอคะ
00:01:11 → 00:01:14 ค่ะสวัสดีค่ะค่ะทำไมเท้าวบวมถามก่อนเลย
00:01:14 → 00:01:17 เริ่มต้นตั้งแต่ช่วงต้นรายการเลยอืไม่ยัง
00:01:17 → 00:01:22 ไม่บอกอ้าวค่ะค่ะเรามาบอกเราจะพูดกัน
00:01:22 → 00:01:24 เรื่องอาการเท้าบวมก่อนเอออ่ะมันบวมตั้ง
00:01:24 → 00:01:27 แต่ตรงไหนถึงตรงไหนเรียกว่าเท้าบวมอืใช่
00:01:27 → 00:01:31 มั้ยคะค่ะอ่าเท้าบวมเนี่ยอาจจะตั้งแต่
00:01:31 → 00:01:35 ปลายเท้าขึ้นไปจนถึงหน้าแข้งแน่ะหาะอืจริ
00:01:35 → 00:01:38 หน้าแข้งเลยหรอใช่ค่ะวันเนี้ยเราพูดไปถึง
00:01:38 → 00:01:42 หน้าแข้งนะอ๋อเพราะว่าถ้าเกิดบอกว่าเท้า
00:01:42 → 00:01:45 บวมเราก็จะนึกถึงแค่ช่วงเท้าของเราใช่ใช่
00:01:45 → 00:01:49 ใช่ๆแต่บางคนเนี่ยตั้งแต่ปลายเท้าขึ้นไป
00:01:49 → 00:01:52 จนถึงหน้าแข้งเนาะอือ่ะบางรายก็มีข้อเท้า
00:01:53 → 00:01:56 บวมร่วมด้วยออาการบวมอาจจะเป็นข้างเดียว
00:01:56 → 00:01:59 หรือ 2 ข้างพร้อมกันก็ได้นะขึ้นอยู่กับ
00:01:59 → 00:02:02 ความรุนแรงแล้วก็สาเหตุค่ะอาการเท้าบวม
00:02:02 → 00:02:05 เนี่ยสามารถหายไปได้เองนะคะหรือว่าถ้า
00:02:05 → 00:02:07 รุนแรงไม่หายสักทีเนี่ยก็ต้องไปพบแพทย์
00:02:07 → 00:02:10 เพื่อตรวจหาสาเหตุแล้วก็เข้ารับการรักษา
00:02:10 → 00:02:14 เพื่อบรรเทาอาการอืถึงแม้ว่าเท้าบวมเนี่ย
00:02:14 → 00:02:17 จะหายได้เองโดยไม่ต้องรักษาแต่ก็ไม่ควร
00:02:17 → 00:02:20 มองข้ามอาการนี้นะคะเพราะว่าการเท้าบวม
00:02:20 → 00:02:23 เนี่ยจะเป็นสัญญาณเตือนของปัญหาสุขภาพที่
00:02:23 → 00:02:26 คุณคาดไม่ถึงได้อืเหมือนเหมือนเคสที่เคย
00:02:26 → 00:02:28 เจอของคุณพ่อนะคะอนี้เล่าให้คุณผู้ฟังฟัง
00:02:28 → 00:02:31 ด้วยเพราะว่าคือก่อนก่อนหน้าเนี้ยคุณพ่อ
00:02:31 → 00:02:34 มีโรคประจำตัวอยู่แต่ว่าไม่ได้มีโรคอะไร
00:02:34 → 00:02:37 ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของไตหรือมีอาการ
00:02:37 → 00:02:40 เท้าบวมมาก่อนวันนั้นพอดีเดินทางไปต่าง
00:02:40 → 00:02:44 ประเทศแล้วอยู่ๆเท้าบวมเลยค่ะแบบบวมเห็น
00:02:44 → 00:02:46 ได้ชัดว่ามันไม่เท่ากันแล้วมันบวมทั้ง 2
00:02:46 → 00:02:49 ข้างอย่างที่คุณหมอบอกเลยว่าอาการเท้าบวม
00:02:49 → 00:02:51 มันเกิดได้ทั้ง 2 ข้างอย่างเงี้ยค่ะจริงๆ
00:02:51 → 00:02:53 กดขึ้นไปถึงหน้าแข้งหน้าแข้งบวมอือา
00:02:53 → 00:02:56 เหมือนทั้งเท้าเลยตอนแรกอุยเป็นเท้าช้าง
00:02:56 → 00:02:58 หรือเปล่าเพราะว่ามันมันไปทั้งหมดเลย
00:02:58 → 00:03:01 อย่างเงี้ยปรากฏว่าพอหลังจากนั้นกลายเป็น
00:03:01 → 00:03:05 ว่าอ้าวคุณพ่อเป็นโรคไตด้วย่ะจากที่เรา
00:03:05 → 00:03:07 ไม่เคยรู้มาก่อนเลยมามารู้ได้เพราะว่า
00:03:07 → 00:03:10 เท้าบวมในวันนั้นแล้วก็เลยส่งหมอที่ต่าง
00:03:10 → 00:03:12 ประเทศเลยเพราะว่ามันอาการมันผิดปกติมาก
00:03:12 → 00:03:16 อ่ะอยู่ๆคือมันบวมขึ้นมาโดยไม่มีสาเหตุ
00:03:16 → 00:03:18 เราก็ไม่รู้ว่ามันเกิดจากอะไรตอนนั้นก็
00:03:18 → 00:03:21 เลยเข้าโรงพยาบาลไปเลยค่ะค่ะท่านผู้ฟัง
00:03:21 → 00:03:24 ต้องฟังไปเรื่อยๆนะคะเพราะสาเหตุมันเยอะ
00:03:24 → 00:03:28 มากโอเยอะมากจริงๆเรื่องเท้าบวมนะคะอืที
00:03:28 → 00:03:31 นี้แบบไหนเรียกว่าเท้าบวมน้องเรรจ๋าแบบ
00:03:31 → 00:03:35 ไหนคะมันโอมันหลายอย่างมากเลยนะอาการมี
00:03:35 → 00:03:38 อ่าอาจจะมีอาการตึงที่เท้าร่องรอยย่นของ
00:03:38 → 00:03:41 ผิวหนังตรงเท้าเนี่ยหายไปเลยนะหรือว่าบาง
00:03:41 → 00:03:44 รายเนี่ยไม่รู้หรอกว่ามันบวมแต่ว่าเอ๊ะ
00:03:44 → 00:03:46 ทำไมใส่รองเท้าแล้วคับอ่ะก็ใส่มาทุกวัน
00:03:46 → 00:03:49 นี่นาใส่รองเท้าแล้วคับหรือว่าใส่กางเกง
00:03:49 → 00:03:53 เนี่ยแล้วก็ติดขานะคะดึงสมมุติใส่กางเกง
00:03:53 → 00:03:56 ยีนหรืออะไรเนี่ยดึงแล้วก็ติดขายังไม่เคย
00:03:56 → 00:03:58 เป็นมาก่อนเลยอันนี้ไม่ใช่อ้วนใช่มั้ยอ่ะ
00:03:58 → 00:04:02 ไม่ใช่อ้วนเออไม่แน่ออบางทีแบบเราอาจจะ
00:04:02 → 00:04:04 น้ำหนักขึ้นแล้วไม่แต่มันไม่ขึ้นทันทีทัน
00:04:04 → 00:04:07 ใดนะน้องรีเออหรือว่าข้อเท้าหรือเท้าทั้ง
00:04:08 → 00:04:11 2 ข้างขยายขึ้นอันนั้นเราสังเกตได้จน
00:04:11 → 00:04:14 เห็นชัดเลยค่ะหรือว่าเมื่อสัมผัสบริเวณ
00:04:14 → 00:04:17 เท้าแล้วน่ะรู้สึกจะนิ่มผิดปกติกดกดลงไป
00:04:17 → 00:04:20 กดลงไปก็จะได้รอยบุ๋มที่เห็นชัดเจนเลยพอ
00:04:20 → 00:04:23 ยกนิ้วขึ้นเนี่ยรอยบุ๋มก็จะค่อยๆคืนสู่
00:04:23 → 00:04:27 สภาพอย่างช้าๆนะคะกดบุ๋มก็ได้อืนะเพราะ
00:04:27 → 00:04:30 มันบวมขึ้นมาไงค่ะแล้วก็อาจจะเกิดรอยพับ
00:04:30 → 00:04:33 ที่เห็นได้ชัดบนผิวหนังที่บวมเมื่อถอดรอง
00:04:33 → 00:04:37 เท้าแล้วหรือว่าถุงเท้าออกนะคะสีของผิว
00:04:37 → 00:04:40 หนังที่เท้าที่บวมเนี่ยอาจปกติหรือซีด
00:04:40 → 00:04:44 กว่าปกติอือันนี้ก็มีก็คือมีหลายแบบหลาย
00:04:45 → 00:04:48 แบบมีให้สังเกตเยอะเลยมีให้สังเกตก่อนแต่
00:04:48 → 00:04:50 ว่าเอาจริงๆคือส่วนใหญ่เราจะไม่ค่อยได้
00:04:50 → 00:04:53 สังเกตเท้าเราเค้ามีหน้าที่เดินอ่าอย่าง
00:04:53 → 00:04:56 เดียวปวดเมื่อยค่อยว่ากันแต่แบบถ้าให้
00:04:56 → 00:04:59 ปกตินี่ไม่ค่อยได้สังเกตเหมือนครั้งหนึง
00:04:59 → 00:05:02 ที่ที่เคยนอนนั่งนอนกึ่งนั่งกึ่งนอนดู
00:05:02 → 00:05:06 ซีรีส์อยู่เงี้ยค่ะแล้วเอาเท้าเทิรน
00:05:06 → 00:05:08 เทิร์นหมอนไว้ค่ะคุณผู้ฟังแล้วหันไปเห็น
00:05:08 → 00:05:12 เท้าตัวเองมันบวมเออเนี่ยมันไม่เห็นรอย
00:05:12 → 00:05:16 ย่นเลยใช่เอ๊ะทำไมมันตึงจังเฮ้ยตกใจมันตก
00:05:16 → 00:05:18 ใจเลยค่ะแบบเฮ้ยเป็นอะไรหรือเปล่าหรือ
00:05:19 → 00:05:21 เป็นไตหรือเปล่าหรืออะไรยังไงนะคะปรากฏ
00:05:21 → 00:05:24 ว่าโซเดียมเยอะเกินพอ 2-3 วันมามันก็กลับ
00:05:25 → 00:05:28 คืนสู่สภาพอออืชบไปแล้วตอนนั้นน่ะใช่ค่ะ
00:05:28 → 00:05:31 ตกใจมันมีอาการอย่างที่คุณหมอบอกมาเลยคือ
00:05:31 → 00:05:33 ต้องสังเกตถ้าไม่ยกเท้ามาวันนั้นไม่เห็น
00:05:33 → 00:05:37 นะใช่ใช่ๆอืแสดงว่ามันมีแล้วมันก็ไม่ได้
00:05:37 → 00:05:39 มีสาเหตุอยู่แค่นี้ด้วยอุยสาเหตุเยอะแยะ
00:05:39 → 00:05:41 มากเลยเมื่อกี้ที่น้องรีถามนะเอาสาเหตุ
00:05:41 → 00:05:45 แรกก่อนนะที่พบบ่อยที่สุดนะเท้าบวมที่
00:05:45 → 00:05:48 เกิดจากอาการบาดเจ็บก็คืออะไรก็คืออาจจะ
00:05:48 → 00:05:52 มีเดินแล้วเท้าแพลงจากอุบัติเหตุนะสะดุด
00:05:52 → 00:05:55 ล้มนะฮะก็จะทำให้เส้นเอ็นบริเวณข้อเท้า
00:05:55 → 00:05:58 เนี่ยอักเสบส่งผลให้ข้อเท้าบวมนะคราว
00:05:58 → 00:06:00 เนี้ยถ้าเราหยุดจุดพักการใช้ข้อเท้าหรือ
00:06:00 → 00:06:03 เท้าข้างที่บาดเจ็บเนี่ยแล้วก็ประคบเย็น
00:06:03 → 00:06:06 นะประคบเย็นในระยะแรกเนี่ยหรือแล้วก็ใช้
00:06:06 → 00:06:09 ผ้าพันธุ์ตรงข้อเท้าเพื่อลดการเคลื่อนไหว
00:06:09 → 00:06:11 ของข้อเท้าเนี่ยจะช่วยให้อาการดีขึ้นอาจ
00:06:12 → 00:06:14 จะไม่ต้องหาหมอค่ะแต่ว่าถ้าอาการไม่ดี
00:06:14 → 00:06:17 ขึ้นเลยอาการเจ็บปวดมากขึ้นเรื่อยๆแล้วก็
00:06:17 → 00:06:21 ยังบวมอยู่อาจจะต้องพบคุณหมอเพื่อดู
00:06:21 → 00:06:24 เซเรย์ว่ามีกระดูกเท้าหักร่วมด้วยหรือ
00:06:24 → 00:06:27 เปล่าบางคนเท้าแพลงอ่ะมันมีหลายระดับอค่ะ
00:06:27 → 00:06:30 อ่าอันเนี้ยพบบ่อยที่สุดแต่ซึ่งึก็ได้จาก
00:06:30 → 00:06:33 ประวัติอ๋อต้องดูประวัติก่อนแล้วแล้วไปทำ
00:06:33 → 00:06:36 อะไรมารอยู่ใช่ค่ะอาจจะเล่นกีฬาหรืออะไร
00:06:36 → 00:06:38 อย่างเล่นกีฬาเล่นฟุตบอลหรือว่าเดิน
00:06:38 → 00:06:41 ธรรมดานี่แหละใส่ส้นสูงสาวๆใส่ส้นสูงเยอะ
00:06:42 → 00:06:46 แเดินเท้าพลิกเท้าแพลงอันนั้นเป็นสาเหตุ
00:06:46 → 00:06:49 นึงคือก็ต้องประคบเย็นนะคะอันนี้ต้องต้อง
00:06:49 → 00:06:52 ต้องจำไว้เพราะว่าเดี๋ยวบางคนไปประคบผิด
00:06:52 → 00:06:54 บางทีก็สับสนประคบร้อใชจะร้อนหรือจะเย็น
00:06:54 → 00:06:57 ดีจะยังไงดีคือประคบเย็นในระยะแรกแล้วก็
00:06:57 → 00:07:00 อ่ะเดี๋ยวมันถ้าเกิดว่ามันได้ถกระดูกหัก
00:07:00 → 00:07:04 มันจะค่อยๆยุบเองใช่มคะใช่ค่ะใช่ๆยเแต่
00:07:04 → 00:07:06 ถ้าแบบเฮ้ยมันนานเกินไปแล้วอ่ะมันยังบวน
00:07:06 → 00:07:10 อยู่ออหลายวเจ็บก็ไม่หาเจ็บซะทีค่ะค่ะอาจ
00:07:10 → 00:07:14 จะมีกระดูกหักร่วมด้วยอ๋อโอเคต้องระวังนะ
00:07:14 → 00:07:17 คะนี้สาเหตุที่ 2 นะท้าบวมจากการอักเสบ
00:07:17 → 00:07:21 ติดเชื้อเช่นการติดเชื้อที่บริเวณผิวหนัง
00:07:21 → 00:07:24 หรือว่าเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังนะฮะก็อาจจะ
00:07:24 → 00:07:28 เกิดจากแบคทีเรียที่บริเวณผิวหนังเอ่อจาก
00:07:28 → 00:07:31 การที่มีบัตรแผลเช่นเหยียบของมีคมถูก
00:07:31 → 00:07:34 สัตว์กัดหรือถูกบาตรด้วยของมีคมอะไรแบบ
00:07:34 → 00:07:37 นี้นะก็เราก็จะรู้มีประวัติอยู่ใช่มั้ย
00:07:37 → 00:07:41 ค่ะก็จะมีการติดเชื้อแบคทีเรียตรงเท้าตรง
00:07:41 → 00:07:44 ที่บวมก็จะมีอุ่นๆจะมีอุณหภูมิสูงกว่า
00:07:44 → 00:07:48 ปกติไปไปคลำดูนะคะอถ้าการติดเชื้อที่
00:07:48 → 00:07:52 รุนแรงเนี่ยจำเป็นต้องใช้ต้องทานยารับ
00:07:52 → 00:07:55 ประทานยาปฏิชีวนะเพื่อฆ่าเชื้อนะแล้วก็
00:07:55 → 00:07:58 จำเป็นต้องให้คุณหมอดูแลค่ะนะคะเดี๋ยวมัน
00:07:58 → 00:08:01 ลุกลามมากขึ้นจะเป็นอันตรายมันจะเซาะขึ้น
00:08:01 → 00:08:05 ไปถึงขาถึงอะไรเข้ากระแสเลือดได้ถ้าถ้า
00:08:05 → 00:08:08 เอ่อคนนั้นเนี่ยมีอย่างเป็นบาหวุงใบหวาน
00:08:08 → 00:08:11 อยู่อะไรแบบเนี้ยอาจจะเป็นมากแล้วก็
00:08:11 → 00:08:14 รุนแรงอืค่ะเพราะว่ามันติดเชื้อนั่นเอง
00:08:15 → 00:08:17 อันนี้คือเรื่องของการติดเชื้อต่อไป
00:08:17 → 00:08:20 สาเหตุที่ทำให้ท้าบวมอีกอันนึงก็คือหลอด
00:08:20 → 00:08:23 เลือดดำบกพร่องคือพวกเส้นเลือดขอดอะไร
00:08:23 → 00:08:25 ประมาณนี้ซึ่งปกติแล้วเนี่ยหลอดเลือดดำ
00:08:25 → 00:08:27 เนี่ยจะมีการไหลเวียนของเลือดเราเคยพูด
00:08:27 → 00:08:30 เรื่องเส้นเลือดขอดแล้วนะจะมีการไหลเวียน
00:08:30 → 00:08:33 ของเลือดขึ้นไปที่หัวใจในลักษณะไหลเวียน
00:08:33 → 00:08:36 ไปทางเดียวคือขึ้นอย่างเดียวนะคะเพราะว่า
00:08:36 → 00:08:38 ในหลอดเลือดดำเนี่ยจะมีลิ้นคอยกั้นไม่ให้
00:08:38 → 00:08:41 เลือดมันย้อนกลับลงมาแต่ว่าถ้าลิ้นดัง
00:08:41 → 00:08:44 กล่าวเนี่ยเสียหายเอ่อก็จะทำให้หลอดเลือด
00:08:44 → 00:08:47 ดำทำงานผิดปกติเลือดจะไหลย้อนกลับลงมาที่
00:08:47 → 00:08:50 เท้าและขาก็จะเกิดอาการบวมที่เท้าได้อื
00:08:50 → 00:08:54 อันนี้คือเรื่องของหลอดเลือดดำบกพร่องค่ะ
00:08:54 → 00:08:59 ค่ะต่อไปภาวะลิ่มเลือดอุตันนี่ค่อนข้าง
00:08:59 → 00:09:02 อันตรายก็มักจะพบในคนที่ไม่ค่อยได้ขยับขา
00:09:02 → 00:09:05 โดยเฉพาะคนไข้ที่นอนติดเตียงนะถ้าเรามี
00:09:05 → 00:09:08 ญาติที่นอนติดเตียงอยู่ต้องคอยดูนะคะค่ะ
00:09:08 → 00:09:11 คนไข้หลังผ่าตัดหรือว่าคนที่รับประทานยา
00:09:11 → 00:09:14 คุมกำเนิดถ้ามีการมีลิ่มเลือดอุดตันใน
00:09:15 → 00:09:18 หลอดเลือดดำบริเวณขาเนี่ยจะทำให้เท้าบวม
00:09:18 → 00:09:22 ได้นะฮะภาวะลิ่มเลือดอุตตันเนี่ยจะมีทั้ง
00:09:22 → 00:09:26 รุนแรงไม่รุนแรงถ้าในรายที่รุนแรงเนี่ยนะ
00:09:26 → 00:09:29 ถ้าไม่รีบรักษาเนี่ยลิ่มเลือดเนี่ยอาจจะ
00:09:29 → 00:09:32 หลุดไปอุดตันเส้นเลือดดำที่ปอดโอ้โหาวนี้
00:09:32 → 00:09:36 อันตรายถึงชีวิตเลยค่ะค่ะอืนี่แบบลิ่ม
00:09:36 → 00:09:39 เลือดนะลิมเลือดตันนะคะต่อไปภาวะบวมน้ำ
00:09:39 → 00:09:42 เหลืองอืก็ไม่ได้พบได้บ่อยหรอกเป็นอาการ
00:09:42 → 00:09:45 ที่เกิดการคั่งของน้ำเหลืองบริเวณใต้ผิว
00:09:45 → 00:09:48 หนังนะเนื่องจากการไหลเวียนของน้ำเหลือง
00:09:48 → 00:09:52 เนี่ยจะโดนขัดขวางเ่อจะทำให้มีอาการบวม
00:09:52 → 00:09:54 บริเวณเท้าถ้าไม่รักษาเนี่ยจะเสี่ยงต่อ
00:09:54 → 00:09:58 การติดเชื้อต่อไปค่ะภาวะไอ้การไหลเวียน
00:09:58 → 00:10:00 เนี่ยของน้ำเหลือเหลืองเนี่ยอาจจะเกิดจาก
00:10:00 → 00:10:04 โรคมะเร็งที่มันไปอุดตันทำให้ทำให้การไหล
00:10:04 → 00:10:07 เวียน้ำเหลืองไม่ดีเพราะฉะนั้นอาจจะต้อง
00:10:07 → 00:10:09 รักษาด้วยการฉายรังสีหรือการผ่าตัดเพื่อ
00:10:10 → 00:10:13 นำต่อมน้ำเหลืองออกอือันนี้เรียกภาวะบวม
00:10:13 → 00:10:15 น้ำเหลืองอันนี้ไม่ค่อยได้เจอใช่มั้ยคะก็
00:10:16 → 00:10:20 ไม่ไม่บ่อยไม่บ่อยอ๋อต่อไปที่เราอาจจะพบ
00:10:20 → 00:10:23 ได้บ่อยนะได้แก่โรคต่างๆเลยทั้งหัวใจตับ
00:10:23 → 00:10:28 ไตอ๋ออ่าบางคนเป็นครบเลยนะค่ะทั้งหัวใจ
00:10:28 → 00:10:32 ตับไตเนี่ยนะอืซึ่งอาการมวมจากสาเหตุ
00:10:32 → 00:10:34 เนี้ยก็เกิดจากการที่ร่างกายเนี่ยไม่
00:10:34 → 00:10:37 สามารถกำจัดน้ำและเกลือออกจากร่างกายได้
00:10:37 → 00:10:41 ตามปกตินะคะร่างกายก็จะมีของเหลวส่วนเกิน
00:10:41 → 00:10:44 สะสมอยู่มากเกินไปทำให้เท้าบวมอ๋อเหมือน
00:10:44 → 00:10:47 ที่คุณพ่อเป็นแล้วแต่ตอนนั้นไม่รู้นี้ใช่
00:10:48 → 00:10:50 คราวนี้เรายกตัวอย่างโรคหัวใจโรคหัวใจที่
00:10:50 → 00:10:53 จะท้าบวมนี่อาจจะเป็นในภาวะหัวใจวายน้ำ
00:10:53 → 00:10:58 ท่วมปอดด้วยนะคะก็จะมีขาบวม 2 ข้างค่ะอาจ
00:10:58 → 00:11:00 จะมีอาการหนเหนื่อยหอบนอนราบไม่ได้ต้อง
00:11:00 → 00:11:03 ใช้หมอนหลายใบร่วมด้วยอันนี้คือโรคหัวใจ
00:11:03 → 00:11:08 อืก็จะมีขาบวมโรคไตเอ่อในภาวะของไตวาย
00:11:08 → 00:11:12 เรื้อรังเนี่ยจะมีน้ำเกินนะขาบวม 2 ข้าง
00:11:12 → 00:11:14 เหนื่อยหอบนอนร่าบไม่ได้เหมือนกันเหมือน
00:11:14 → 00:11:16 โรคหัวใจเลยอาจจะแย่งไม่ได้ตอนแรกนะ
00:11:16 → 00:11:21 ปัสสาวะออกน้อยอค่ะก็หรือว่าาจะมีหนังตา
00:11:21 → 00:11:25 บวมด้วยก็ได้หนังตาบวม 2 ข้างเลยค่ะอ่อ
00:11:25 → 00:11:28 ตรวจปัสสาวะก็จะพบโปรตีนในปัสสาวะอันนี้
00:11:28 → 00:11:29 ก็
00:11:29 → 00:11:32 อยู่ในกลุ่มของโรคไตต่อไปโรคตับโรคตับ
00:11:32 → 00:11:35 เนี่ยที่ขาบวม 2 ข้างเลยเนี่ยมักเกิดขึ้น
00:11:35 → 00:11:38 ในระยะท้ายของโรคนะคะแล้วก็จะมีอาการบวม
00:11:38 → 00:11:41 ที่ท้องด้วยเรียกว่าท้องมารอืท้องโตด้วย
00:11:41 → 00:11:46 ขาบวมด้วยนะคะจะพบได้บ่อยในพวกที่เป็นตับ
00:11:46 → 00:11:49 แข็งมะเร็งตับอะไรแบบนี้อ๋อเพราะฉะนั้น
00:11:49 → 00:11:53 คือทั้งคนที่เป็นโรคหัวใจโรคไตโรคตับก็
00:11:53 → 00:11:57 อาจจะมีโอกาสที่จะบวขาบวมได้ใช่มาถึงแบบ
00:11:57 → 00:11:59 คือบวมทั้ง 2 ข้างก็ได้ได้หรือข้างใข้าง
00:11:59 → 00:12:03 หนึ่งก็ได้คคือบวมทั้งขาเลยค่ะฟังดูแล้ว
00:12:03 → 00:12:06 เนี่ยนะคะแต่ว่าใช่อาจจะเริ่มคราวนี้ถ้า
00:12:06 → 00:12:09 ญาติถ้าญาติดูแลคนไข้ดีๆเนี่ยค่ะถ้าเขาค
00:12:10 → 00:12:13 เริ่มบวมเท้าก่อนเนี่ยอาจจะสังเกตคนที่
00:12:13 → 00:12:16 สังเกตดีๆเนี่ยเฮ้ยทำไมคุณพ่อคุณแม่เฮ้ย
00:12:16 → 00:12:20 ทำไมวันนี้ขาเท้านะเท้ากดบุ๋มจังเลยอัน
00:12:20 → 00:12:22 นั้นน่ะอาจจะรีบหาคุณหมอบอกก่อนก่อนที่
00:12:22 → 00:12:26 มันจะบวมขึ้นขา 2 ข้างอืเออมันจะเริ่มที่
00:12:26 → 00:12:28 เท้าก่อนคือต้องสังเกตแหละเพราะว่าถ้า
00:12:28 → 00:12:30 อย่างที่บอกว่าคือถ้าเราไม่ได้เห็นไม่ได้
00:12:30 → 00:12:33 ปกติเราไม่ค่อยได้สังเกตเท้าตัวเองอยู่
00:12:33 → 00:12:36 มันอาจจะมีอาการอย่างใดอย่างหนึ่งของคน
00:12:36 → 00:12:38 ที่เป็นโรคต่างๆเหล่านี้หรือแม้กระทั่ง
00:12:38 → 00:12:40 อย่างบางทีเราโซเดียมเยอะเกินไปหรืออะไร
00:12:40 → 00:12:43 เงี้ยมันก็ทำให้บวมได้แต่ห่วงคนเป็นโรค
00:12:43 → 00:12:47 หัวใจโรคไตโรคต่ำนี่แหละใช่เพราะว่าจริงๆ
00:12:47 → 00:12:51 เค้าก็เป็นเคก็ทานยาของเขาคอยู่นะเออคราว
00:12:51 → 00:12:54 นี้ถ้าเกิดภาวะวันดีคืนดีวันดีคืนร้าย
00:12:54 → 00:12:56 เกิดหัวใจวายขึ้นมาอย่าเงี้ยสมมุตินะที่
00:12:56 → 00:12:59 เป็นโรคหัวใจอยู่ก็จะมีมีอาการบวมมากขึ้น
00:12:59 → 00:13:02 บวมแล้วก็เหนื่อยหอบนอนลาบไม่ได้ต้องใช้
00:13:02 → 00:13:06 หมอนหลายใบอันนี้เป็นอาการของหัวใจวายแบบ
00:13:06 → 00:13:10 กึ่งนั่งกึ่งนอนนคือจะนอนราบไปเลยก็ไม่
00:13:10 → 00:13:12 ได้ไม่ได้เลยพวกนี้นอนราบหมอนใบเดียวไม่
00:13:12 → 00:13:15 ได้เลยแล้วอย่างงี้ทำไงให้หายบวมก็ต้อง
00:13:15 → 00:13:17 บอกคุณหมออย่างเดียวใช่มั้ยคะเพื่อใช่ค่ะ
00:13:17 → 00:13:19 อันนี้อันนี้รักษาเองไม่ได้แล้วนะคะ
00:13:19 → 00:13:23 เดี๋ยวเราจะต้องพบคุณหมอยกเท้าขึ้นเดี๋ยว
00:13:23 → 00:13:26 ไม่ๆๆไม่ได้แล้วออค่ะต้องต้องอาศัยยาช่วย
00:13:26 → 00:13:30 ละค่ะค่ะอือครานี้ข้อที่ 7 คืออันเนี้ย
00:13:30 → 00:13:33 ค่อยดีหน่อยถ้าเราทราบเนี่ยว่าเกิดจากผล
00:13:33 → 00:13:35 ข้างเคียงจากการใช้ยาเนี่ยถ้าหยุดยาหรือ
00:13:35 → 00:13:39 เปลี่ยนยาเนี่ยเท้าบวมหายไปเลยเช่นอ้าไม่
00:13:39 → 00:13:43 น่าเชื่อมยยาหลายตัวที่ทำให้เท้าบวมได้
00:13:43 → 00:13:47 เช่นฮอร์โมนต่างๆคนที่คุณหมอจ่ายฮอร์โมน
00:13:47 → 00:13:50 มาเอสโตรเจนหรือฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนนะคะ
00:13:50 → 00:13:53 พวกแคลเซียม Channel บอกเกอร์ซึ่งเป็นยา
00:13:53 → 00:13:58 ในการรักษาโรคความดันสูงอือยาเซรอยยาซึม
00:13:58 → 00:14:04 ซ้นะคะพวกนทินเอิทิทินยาเอนเสดยาต้านการ
00:14:04 → 00:14:07 อักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ที่เวลาปวดขา
00:14:07 → 00:14:10 ปวดเกาอะไรคุณหมอก็จ่ายมานะคะค่ะแล้วก็ยา
00:14:10 → 00:14:14 รักษาโรคเบาหวานบางชนิดอ๋อกินยาก็ต้อง
00:14:14 → 00:14:17 สังเกตตัวเองด้วยอ่ะเนาะยาที่พูดเนี่ยไม่
00:14:17 → 00:14:21 ใช่ทุกคนรับประทานแล้วเท้าวัวหมดค่ะมี
00:14:21 → 00:14:23 อยู่ไม่กี่เปอร์เซ็นต์ที่เกิดผลข้างเคียง
00:14:23 → 00:14:27 เข้าใจมั้ยอืเออมันไม่ได้เกิดทุกคนค่ะ่ะ
00:14:27 → 00:14:31 อย่างเจอพบญาตินะคุณหมอเปลี่ยนยาเบาหวาน
00:14:31 → 00:14:36 ทานไปสักเดือนนึงเนี่ยเท้าบวมเชื่อมยจัก
00:14:36 → 00:14:42 ยาค่ะคนไข้ก็กลัวตายะเราเป็นเบาหวานลงไต
00:14:42 → 00:14:45 หรือเปล่าอุ้ยทำไมเริ่มบวมแล้วอะไรงี้
00:14:45 → 00:14:47 ปรากฏว่าเปลี่ยนยาแล้วก็หยุดยาอะไรประมาณ
00:14:47 → 00:14:52 นี้ก็หายอุยอ้าจริงๆคือถ้างั้นเต้อง
00:14:52 → 00:14:55 สังเกตใช่ๆคือเท่าที่ฟังมาคือเรื่องของ
00:14:55 → 00:14:59 การสังเกตเป็นหลักเลยใช่อืมันค่ะผิดปกติ
00:14:59 → 00:15:04 ไปต่อไปอ่าที่พบได้ก็คือภาวะแทรกซ้อนจาก
00:15:04 → 00:15:08 การตั้งครรภ์เออเชื่อมั้ยคนที่ที่ตั้ง
00:15:08 → 00:15:11 ครรภ์นะคะถ้าจะบวมนะส่วนใหญ่มักจะเกิดใน
00:15:11 → 00:15:14 ช่วงไตรมาสที่ 3 หรือว่าสัปดาห์ที่ 28
00:15:14 → 00:15:19 สัปดาห์ที่ 28 ขึ้นไปของของคนที่ท้องนะ
00:15:19 → 00:15:21 เนื่องจากเอ่อร่างกายเนี่ยมีฮอร์โมนใน
00:15:21 → 00:15:23 ร่างกายเปลี่ยนแปลงหลายอย่างเลยนะฮะแต่
00:15:23 → 00:15:26 ว่าถ้าอาการบวมเนี่ยอยู่ดีๆปุ๊บปั๊บบวม
00:15:26 → 00:15:30 ขึ้นมานะเอ่ออาจจะมีสาเหตุจากคันเป็นพิษ
00:15:30 → 00:15:33 ค่ะนะอันเนี้ยอันตรายคันเป็นพิษจะเป็นยัง
00:15:33 → 00:15:37 ไงก็จะมีความดันสูงด้วยนะคะมีโปรตีนรั่ว
00:15:37 → 00:15:39 ในปัสสาวะอาจจะพบได้ตั้งแต่อายุครรภ์ 20
00:15:39 → 00:15:44 สัปดาห์นะเอ่อคนไข้ก็จะมีปวดท้องปวดปวด
00:15:44 → 00:15:46 ศีรษะเพราะว่าความดันขึ้นอปัสสาวะบ่อย
00:15:46 → 00:15:50 ขึ้นไส้อาเจียนการมองเห็นผิดปกติตามัวค่ะ
00:15:50 → 00:15:54 อันนี้ต้องรีบพบแพทย์เลยค่ะเพื่อความปลอด
00:15:54 → 00:15:57 ภัยของรดาแล้วก็ทารกในครรภ์อโอมีความ
00:15:57 → 00:16:00 เสี่งสูงเนาะบวมในคนท้องก็สำคัญค่ะใช่
00:16:00 → 00:16:04 มั้ยคะค่ะต่อไปโรคเก๊าเอ้อโรคเก๊านี่ก็
00:16:04 → 00:16:07 เท้าบวมได้นะคนไม่เคยเป็นไม่รู้หรอกนะคน
00:16:07 → 00:16:11 อาการของเก๊าก็คือบางคนอาจจะเจ็บเฉยๆนะ
00:16:11 → 00:16:14 เจ็บข้อเท้าหรือว่าข้อต่อหัวแม่เท้าเนี่ย
00:16:14 → 00:16:18 เขาจะมาด้วยเรื่องเจ็บหัวแม่เท้าคนไข้โรค
00:16:18 → 00:16:21 เก๊าเนี่ยอืบางคนไม่ได้มาเจ็บหัวแม่เท้า
00:16:21 → 00:16:24 บางคนมาด้วยเรื่องปวดข้อเท้าข้อเท้าบวม
00:16:24 → 00:16:28 ค่ะเออมันก็มาได้หลายประการคราวนี้ถ้าจะ
00:16:28 → 00:16:31 ทราบว่าเป็นกาวไม้ก็ต้องเจาะเลือดหาระดับ
00:16:31 → 00:16:35 ยูริกก็จะพบว่าระดับยูริกในเลือดสูงอืค่ะ
00:16:35 → 00:16:38 ตอนนี้คนอายุน้อยๆก็เป็นเกาได้นะคะคุณ
00:16:38 → 00:16:40 เป็นได้ค่ะเป็นได้เลยเออไม่ได้บอกว่าจะ
00:16:40 → 00:16:44 ต้องแบบรออายุมากๆออใช่เจาะเลือดเนี่ยโอ
00:16:44 → 00:16:50 ยูริก 78 อะไรแบบนี้โหค่ะค่ะต่อไปอันสุด
00:16:50 → 00:16:52 ท้ายก็คือโรคเท้าช้างที่น้องนีพูดเมื่อ
00:16:52 → 00:16:54 ตะกี้โรกเท้าช้างเนี่ยไม่เป็นกันง่ายๆ
00:16:54 → 00:16:57 แล้วน้องีจ๋าเพราะว่าภบน้อยเนื่องจากอะไร
00:16:57 → 00:17:01 เนื่องจากว่ามันเป็นโรคที่เกิดจากยุงนะ
00:17:01 → 00:17:03 ยุงที่มีเชื้อพยาธเท้าช้างเนี่ยมันกัด
00:17:03 → 00:17:07 หลายๆครั้งโออ่ากัดหลายๆครั้งเสร็จมันก็
00:17:07 → 00:17:10 มันจะก็จะมีการอักเสบของต่อมน้ำเหลืองและ
00:17:11 → 00:17:14 ท่อน้ำเหลืองต่อมน้ำเหลืองบริเวณไหนบ้าง
00:17:14 → 00:17:17 ล่ะักแแลขาหนีบหรืออันทะเนื่องจากพยาธตัว
00:17:17 → 00:17:20 แก่เนี่ยมันจะอยู่ในท่อน้ำเหลืองแล้วก็
00:17:20 → 00:17:23 สร้างความระคายเคืองแก่เนื้อเยื่อภายในอ
00:17:23 → 00:17:26 รวมทั้งเจ้าพยาธเนี่ยก็จะมีการปล่อยสาร
00:17:26 → 00:17:30 พิษออกมาค่ะนะการอักเสเสก็จะเป็นๆหายๆนะ
00:17:30 → 00:17:33 คะแล้วก็กระตุ้นให้มีการบวมถ้าเป็นหลายปี
00:17:33 → 00:17:37 เนี่ยก็จะทำให้อวัยวะนั้นบวมอย่างถาวรค่ะ
00:17:37 → 00:17:40 นะที่เราเห็นในรูปมันน่ากลัวเชียวนะผิว
00:17:40 → 00:17:43 หนังจะหนาแข็งขึ้นลักษณะขรุขะแล้วก็ต่อม
00:17:43 → 00:17:47 น้ำเหลืองบริเวณขาอาจจะบวมแดงด้วยนะฮะ
00:17:47 → 00:17:50 แล้วก็ขาจะโตขึ้นเรื่อยๆอันนี้เรียกโรค
00:17:50 → 00:17:53 เท้าช้างค่ะพบน้อยทกน้อยเดี๋ยวนี้อืแต่
00:17:53 → 00:17:56 ว่าเมื่อก่อนตอนเด็กๆเนี่ยยังมีเคเจอใช่ๆ
00:17:56 → 00:17:59 ยังมียังมีอยู่เหมือนเท้าช้างจริงๆเลยอ่ะ
00:17:59 → 00:18:03 เหมือนหนาแบบอเหมือเออใช่มันใหญ่มากตั้ง
00:18:03 → 00:18:06 ชื่อได้แบบว่าใช่เหมาะเหมาะกับโรคมากคือ
00:18:06 → 00:18:08 แต่พวกนี้เรื้อลังคือมันเป็นมาตั้งนาน
00:18:08 → 00:18:12 แล้วไงมันไม่ใช่ปุ๊บปั๊บบวมโตขนาดนั้นใช่
00:18:12 → 00:18:15 แล้วแบบคือตกใจมากกับการที่มียุงที่มี
00:18:15 → 00:18:18 เชื้อพยาธิเท้าช้างเนี่ยมันกัดซ้ำหลาย
00:18:18 → 00:18:21 ครั้งอ่ะใช่เเอยู่ในพื้นที่แบบนั้นไงฮะ
00:18:21 → 00:18:24 พื้นที่ส่วนใหญ่จะเป็นแล้วแต่ค่ะแต่
00:18:24 → 00:18:27 เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยเจออยู่ในดงเค่ะอืมก็
00:18:27 → 00:18:30 น้อยลงไปเยอะมากกรุงเทพมันไม่ค่อยมีหรอก
00:18:30 → 00:18:32 ค่ะแต่ต่างจังหวัดอาจจะยังมีอยู่บ้างใช่ค
00:18:33 → 00:18:36 ก็ต้องระวังเรื่องยุงเนาะมันก็สารพัดพาหะ
00:18:36 → 00:18:40 ของการนำเชื้อมาสู่เรานะไวรัสต่างๆนะต้อง
00:18:40 → 00:18:43 ระวังกำจัดยุงได้ก็กำจัดยุงไปเลยนะคะอ่า
00:18:43 → 00:18:46 อันนี้คือทเท้าบวมที่เกิดจากโรคเราพูดไป
00:18:46 → 00:18:50 10 อย่างแเออเยอะมาเยอะ่ะก็ต้องมาสังเกต
00:18:50 → 00:18:53 แล้วก็แยกอาการว่ามันเข้าขายอันไหนอ่ะ
00:18:53 → 00:18:56 เนาะใช่มั้ยคะค่ะทีนี้เท้าบวมที่ไม่ได้
00:18:56 → 00:18:58 เกิดจากโรคนี่ก็มีนะโอห
00:18:59 → 00:19:02 เช่นเอ่อเท้าบวมที่คนที่อยู่ในท่ายืนเป็น
00:19:02 → 00:19:04 เวลานานๆโดยเฉพาะอาชีพที่ต้องยืนทั้งวัน
00:19:04 → 00:19:08 เลยฮะอืแล้วก็พวกที่นั่งหย่อนขานานๆเช่น
00:19:08 → 00:19:11 นั่งเครื่องบินหรือว่านั่งรถหลายๆชั่วโมง
00:19:11 → 00:19:15 ค่ะอ๋อนั่งหย่อนขาคือไม่ได้แบบว่าเอานั่ง
00:19:15 → 00:19:18 แล้วก็แบบขาแกว่งไปแกว่งมาแบบไม่ไม่ได้มี
00:19:18 → 00:19:21 ที่รองรับก็คือนั่งปกติแต่นั่งนานสมมตใช่
00:19:21 → 00:19:24 อย่างไฟทยุโรปหรืออะไรพวกนี้ที่นั่ง 10
00:19:24 → 00:19:27 กว่าชั่วโมงใช่มั้ยถ้าอเมริกานี่ก็เป็น 22
00:19:27 → 00:19:30 ชั่วโมงอะไรประมาณนี้ออหรือว่าคนที่ขับรถ
00:19:30 → 00:19:34 มีอาชีพขับรถนานๆขับรถบรรทุกระยะทางไกลๆ
00:19:34 → 00:19:39 หรือว่าเรานั่งรถรถบัสไปนู่นไปมาเลไปใต้
00:19:40 → 00:19:44 อะไรประมาณนั้นหประมาณนี้เคยหรือว่ายัง
00:19:44 → 00:19:48 เคยไปสมมุติว่าไปเที่ยวญี่ปุ่นเกาหลีอะไร
00:19:48 → 00:19:51 ประมาณนี้ก็ช้อปปิ้งทั้งวันถูกมั้ยต้อง
00:19:51 → 00:19:53 ใช้เวลาให้เกิดประโยชน์ค่ะเดินเดิทั้งวัน
00:19:54 → 00:19:58 ก็คืออืกลับมาตอนเย็นนี่ขาบวมเลยนะหะอ้า
00:19:58 → 00:20:02 จากการเดินใช่มั้ยคะใช่อุ้ยเมื่อกี้มีคน
00:20:02 → 00:20:04 ถามอ้วนอ่ะอ้วนอ้วนเท้าบวมได้มั้ยได้ๆๆ
00:20:04 → 00:20:06 เมื่อกี้ใส่กางเกงไม่ขึ้นไงอุแต่มันต้อง
00:20:06 → 00:20:09 น้ำหนักเยอะเหมือนกันนะเพราะว่าเพราะว่า
00:20:09 → 00:20:11 เท้าเราเนี่ยต้องแบกรับน้ำหนักร่างกายที่
00:20:11 → 00:20:14 มากขึ้นก็จะทำให้บวมได้เหมือนกันต่อไป
00:20:14 → 00:20:17 ภาวะก่อนมีประจำเดือนบางคนบางคนเท่านั้น
00:20:17 → 00:20:20 ไม่ใช่ไม่ใช่ทุกคนนะสาวๆที่อยู่ในช่วง
00:20:20 → 00:20:22 ใกล้ประจำเดือนมาก็จะมีหน้าอกใหญ่ขึ้น
00:20:22 → 00:20:25 เจ็บหน้าอกพุงเอ๊รู้สึกพุงมันท้องมันอืดๆ
00:20:26 → 00:20:29 ป่องๆเนาะแขนขาเท้าก็อาจจะขยายขึ้นได้
00:20:29 → 00:20:32 เล็กน้อยอันนี้เรียกไอ้ premal Syndrome
00:20:32 → 00:20:34 เนี่ยภาว่าะก่อนมีประจำเดือนก็เจอได้อัน
00:20:34 → 00:20:38 นี้ก็คือแม้กระทั่งจะอายุเกินรุ่นสาวๆ
00:20:38 → 00:20:41 แล้วก็ยังเป็นได้ใช่มยหมายถึงบวมได้ได้
00:20:41 → 00:20:44 ค่ะค่ะอ๋อแสดงว่าอย่างนี้เราก็ไม่ได้อ้วน
00:20:44 → 00:20:48 ผิดปกติไม่ได้อ้วนและอาจจะเป็นเหตุนี้ไม่
00:20:48 → 00:20:50 แต่ว่าถ้าเกิดว่าเลยช่วงเวลาที่มีประจำ
00:20:50 → 00:20:54 เดือนไปก็ปกติมันจะเป็นสมะก่อนช่วงมี
00:20:54 → 00:20:55 ประจำเดือนอใชใช่ถ้าถ้าเลยประจำเดือน
00:20:55 → 00:20:58 ประจำเอ่อประจำเดือนหมดตั้งหลายวันวัน
00:20:58 → 00:21:01 เฮ้ยยังเท้าบวมอยู่เลยอต้องสังเกตละออัน
00:21:01 → 00:21:04 นั้นอ้วนของจริงใช่อันนี้ดูซิเอ้ยเราก็
00:21:04 → 00:21:07 ไม่ได้อ้วนขึ้นนี่นาน้ำหนักก็ไม่ได้ว่า 80
00:21:07 → 00:21:10 ก 100 กอะไรที่ไหนก็ไปดู 10 อย่างที่เรา
00:21:10 → 00:21:13 พูดไปซิเราจะเป็นสาเหตุเท้าบวมจากไหนล่ะ
00:21:13 → 00:21:16 ไม่อยากเป็นไม่อยากเป็นสะค้อเลยเออนั่น
00:21:16 → 00:21:20 แหละอืก็ต้องดูนะคะต่อไปประการที่ 4 ก็
00:21:20 → 00:21:23 เท้าบวมจากการผ่าตัดเช่นมีการผ่าตัด
00:21:23 → 00:21:26 บริเวณขาหรือเท้านะคะมีการเข้าเฝือกนานๆ
00:21:26 → 00:21:29 ก็ทำให้การเคลื่อนไหวคาและเท้าเนี่ยลำบาก
00:21:29 → 00:21:32 อืเอ่อมีระบบไหลเวียนเลือดก็ก็จะไหลเวียน
00:21:32 → 00:21:35 ไม่ค่อยดีนะก็อาจจะมีเท้าบวมได้ค่ะอันนี้
00:21:35 → 00:21:37 มันก็เป็นจากการผ่าตัดที่อาจจะเกิดขึ้น
00:21:37 → 00:21:40 ได้ในบางคนไม่ได้บอกว่าจะเป็นทุกคนนะคะ
00:21:40 → 00:21:44 ค่ะอือแต่ว่าทีเนี้ยคุณหมอไม่แน่ใจว่า
00:21:44 → 00:21:48 เฮ้ยมันต้องบวมแบบไหนหรืออะไรยังไงมยที่
00:21:48 → 00:21:52 แบบว่ามันแบบเอ้ยผิดสังเกตนะคุณจะมาแบบ
00:21:52 → 00:21:56 ปล่อยใจไปเรื่อยๆอย่างเงี้ยไม่ได้ต้องแบบ
00:21:56 → 00:21:59 ว่าระมัดระวังอย่างเงี้ยค่ะมันต้องมีวิธี
00:21:59 → 00:22:03 ในการที่จะแบบเฮ้ยไม่ได้ะต้องไปหาหมอแล้ว
00:22:03 → 00:22:06 หาหาคุณหมอแล้วใช่มั้ยก็อสมมุติว่าเราไป
00:22:06 → 00:22:09 กดๆดูอุ๊ยตายแล้วทำไมเท้าบวมเดินเยอะก็
00:22:09 → 00:22:12 ไม่ได้เดินเนาะค่ะเ้ยเท้าบวมทำไมมันเท้า
00:22:12 → 00:22:17 มันอุ่นๆเท้ามันบวมแดงร้อนนะคะค่ะแล้วก็
00:22:17 → 00:22:21 อาจจะมีไข้ร่วมด้วยนะอันเนี้ยต้องหาคุณ
00:22:21 → 00:22:24 หมอค่ะเอ่อหรือว่าคนท้องที่มีอยู่ดีๆปุ๊บ
00:22:24 → 00:22:27 ปั๊บบวมขึ้นมาปวดซีสะอะไรที่เราพูดมาแล้ว
00:22:27 → 00:22:32 อันก็ต้องรีบหาหมอนะคอส่วนคนที่เมียเป็น
00:22:32 → 00:22:35 โรคหัวใจตับตอยู่แล้วเนี่ยถ้าเกิดโดย
00:22:35 → 00:22:38 เฉพาะถ้ามีแน่นหน้าอกหายใจผิดปกติร่วม
00:22:39 → 00:22:42 ด้วยนะค่ะเวียนศีรษะมึนงงเหมือนจะเป็นลม
00:22:43 → 00:22:46 หายใจหอบเหนื่อยเนี่ยหาหมอได้แล้วอือัน
00:22:46 → 00:22:49 นี้อันตรายแล้วออ๋อมันมันอารออกแล้วอ่ะ
00:22:49 → 00:22:53 เออเพรางั้นก็ต้องไปหาหมอส่วนการวินิจฉัย
00:22:53 → 00:22:55 ก็เป็นหน้าที่ของคุณหมอว่าใช่เราก็ต้อง
00:22:55 → 00:22:58 อุ้ยคุณหมอก็จะซักประวัตินานหน่อยนะอย่า
00:22:58 → 00:23:01 หงุดหงิดนะอืซักประวัติตรวจร่างกายเสร็จ
00:23:01 → 00:23:04 ยังไม่ทราบเอ๊มันเกิดจากอะไรนะก็ต้องเจาะ
00:23:04 → 00:23:09 เลือดเจาะเลือดดูเม็ดเลือดนะฮะดูค่าตับไต
00:23:09 → 00:23:13 อ่าดูตรวจปัสสาวะที่มีโปรตีนรั่วมั้
00:23:13 → 00:23:17 เอ็กซเรย์หัวใจโตมั้ยค่ะอะไรแบบโอ้พอได้
00:23:17 → 00:23:21 จากแลบพวกเนี้ยพอจะบอกได้ละว่าเป็นอะไรอ
00:23:21 → 00:23:25 ค่ะค่ะ่าตับไม่ดี่าไตไม่ดียูริกขึ้นอะไร
00:23:25 → 00:23:29 อย่างงี้ก็บอกสาเหตุได้ละก็ก็ก็รักษาตาม
00:23:29 → 00:23:32 โรคนั้นๆไปตามโรคไปอุ๊ยโดยเฉพาะถ้ามียานะ
00:23:32 → 00:23:36 อุ๊ยหอบยาไปให้คุณหมอดูเลยเท้าบวมฉันเกิด
00:23:36 → 00:23:39 จากยาคุณหมอหรือเปล่าอ๋ออ่าอันนี้ถ้าหยุด
00:23:39 → 00:23:42 หรือเปลี่ยนยาหรือลดขนาดยาเนี่ยมันหายไป
00:23:42 → 00:23:47 เลยอือันนี้ดีคือเบื้องต้นก็อ่าสันนิษฐาน
00:23:47 → 00:23:49 ไว้ก่อนอย่าไปอย่าเพิ่งไปท้อใจว่าเฮ้ยฉัน
00:23:49 → 00:23:53 จะเป็นอะไรร้ายแรงรือเปล่านจะแบบเปดแรงพอ
00:23:53 → 00:23:57 ดีก็อาจจะเป็นจากยาก็เป็นไปได้หรือว่าแบบ
00:23:57 → 00:23:59 เราอาจจะมีมีพฤติกรรมบางอย่างทำให้มีความ
00:23:59 → 00:24:01 เสี่ยงในการเท้าบวมได้จากพฤติกรรมบาง
00:24:02 → 00:24:04 อย่างได้เหมือนกันแต่ถ้าอย่างงี้ยังไม่
00:24:04 → 00:24:07 ได้ไปหาหมอมันแบบอ่ะเอาง่ายๆเลยช่วยเหลือ
00:24:07 → 00:24:10 ตัวเองไปก่อนอุ๊ยฉันอ่ะเรารู้แล้วเฮ้ยฉัน
00:24:10 → 00:24:13 อ้วนขึ้นเยอะเลยนะตอนนี้นะลดน้ำหนักก่อน
00:24:13 → 00:24:17 ลดน้ำหนักออกกำลังคุมอาหารดูซิเท้ามันหาย
00:24:17 → 00:24:20 บวมมั้ยนะฮะแล้วก็เคลื่อนไหวร่างกายเป็น
00:24:20 → 00:24:22 ประจำเพื่อให้เลือดไหลเวียนได้ดีออกกำลัง
00:24:22 → 00:24:26 วันละอย่างน้อยครึ่งถึง 45 นาทีนะคะทุก
00:24:26 → 00:24:29 วันนะก็จะทำให้กล้ามเนื้อแล้วก็หลอดเลือด
00:24:29 → 00:24:32 แข็งแรงอืไคนที่ต้องยืนหรือนั่งนานๆก็
00:24:32 → 00:24:34 ต้องขยับกล้ามเนื้อบริเวณน่องบ่อยๆนะ
00:24:35 → 00:24:38 เพื่อดันเลือดให้ไหลกลับขึ้นด้านบนนะฮะ
00:24:38 → 00:24:41 ส่วนคนที่ยืนนิ่งอยู่เป็นเวลานานๆอย่ายืน
00:24:41 → 00:24:45 นิ่งต้องเปลี่ยนอิริยาบถบ่อยๆค่ะนะฮะอาจ
00:24:45 → 00:24:48 จะต้องสวมถุงน่องที่ช่วยพยุงกระชับกล้าม
00:24:48 → 00:24:51 เนื้อขาถุงน่องที่ใช้ได้จริงๆนะไม่ใช่ถุง
00:24:51 → 00:24:55 น่องบางๆอ๋อถุงน่องหนาๆอ๋อเคยเห็นเคยเห็น
00:24:55 → 00:24:57 ใชถุงน่องทางการแพทย์อย่างงั้นนะคะหลีก
00:24:57 → 00:25:00 เลกเี่ยงการนั่งห้อยขาถ้าต้องนั่งห้อยขา
00:25:00 → 00:25:02 เป็นเวลานานๆก็สลับยกขาหรือเปลี่ยน
00:25:02 → 00:25:06 อิริยาบถมาพาดขากับหมอนอิงหรือว่าเก้าอี้
00:25:06 → 00:25:09 ให้สูงกว่าระดับตะโพกเพื่อป้องกันไม่ให้
00:25:09 → 00:25:12 เลือดเนี่ยไปอยู่ที่เท้ามากเกินไปลดการ
00:25:12 → 00:25:15 กินเค็มนี่สำคัญอเมื่อกี้น้องรีบอกน้องรี
00:25:15 → 00:25:18 ทานเค็มค่ะลดโซเดียมจากเพราะว่าโซเดียม
00:25:18 → 00:25:20 จากความเค็มเป็นสาเหตุนึงของอาการบวมค่ะ
00:25:20 → 00:25:24 นะคะอือยกเท้าสูงขณะนอนหงายเพื่อให้เลือด
00:25:24 → 00:25:27 ไหลเวียนได้สะดวกอะไรพวกนี้ยืดเหยียดขา
00:25:27 → 00:25:30 อยู่เสมอก็จะทำให้เลือดไหลเวียนได้ดีอัน
00:25:30 → 00:25:32 นี้นะคะถ้านั่งอยู่ในรถเป็นเวลานานก็ให้
00:25:32 → 00:25:35 หมุนข้อเท้ายกข้อเท้าขึ้นลงเพื่อให้เท้า
00:25:36 → 00:25:41 เคลื่อนไหวอืค่ะอันนี้คือเบาๆช่วยเหลือ
00:25:41 → 00:25:43 ตัวเองไปก่อนดูแลตัวเองไปก่อนแต่ยังไม่
00:25:43 → 00:25:46 ต้องทันยาถ้าจริงๆไม่ไหวคุณหมอจะจ่ายยา
00:25:46 → 00:25:49 ขับปัสสาวะให้ไม่ให้ไปซื้อกินเองนะคะยา
00:25:49 → 00:25:53 ขับปัสสาวะอันตรายนะต้องอยู่ภายใต้การดู
00:25:53 → 00:25:55 แลของแพทย์เท่านั้นอ๋ออันนี้ต้องระวังนะ
00:25:55 → 00:25:58 ไม่ไปเดินเข้าร้านขายยาของขอเองเลยักเไม่
00:25:58 → 00:26:01 ขายนะจ๊ะไม่ได้นะจ๊ะไม่ไม่ใช่นะคะไม่ใช่
00:26:01 → 00:26:04 ยาแก้หวัดนะคะนะคะก็ได้รู้กันไปวันนี้
00:26:04 → 00:26:09 เท้าบวมจากอะไรได้บ้างโหเยอะแยะเลยเยอะ
00:26:09 → 00:26:12 มากจริงๆนะคะก็ต้องหาสาเหตุกันแหละในบาง
00:26:12 → 00:26:14 อย่างนะคะอ้าวันนี้ต้องขอบคุณคุณหมอด้วย
00:26:14 → 00:26:17 ค่ะสวัสดีค่ะหมดเวลาแล้วค่ะคุณผู้ฟังพบ
00:26:17 → 00:26:20 กันใหม่ครั้งหน้ากับรายการโรงหมอทางไทย
00:26:20 → 00:26:22 PBS podcast ค่ะวันนี้ลาไปก่อนนะคะ
00:26:22 → 00:26:26 สวัสดีค่ะ This Is Toy PBS podcast
00:26:26 → 00:26:28 ถุงลมในปอดรวมมีชื่อเรียกเป็นอย่างอื่น
00:26:28 → 00:26:31 ว่าอะไรสาเหตุหลักๆที่ทำให้เกิดอาการนี้
00:26:31 → 00:26:33 คืออะไรผู้ช่วยศาสตราจารย์นายแพทย์ศีระ
00:26:33 → 00:26:35 ลาหไทัยแพทย์ศัลยกรรมประสาททรวงอกโรง
00:26:36 → 00:26:39 พยาบาลวชิรพยาบาลมาเล่าให้ฟังครับคำว่า
00:26:40 → 00:26:42 ปอดรั่วเนี่ยเราอาจจะมีคำพูดหลายคมอย่า
00:26:42 → 00:26:46 เช่นปอดรั่วปอดแตกลมรั่วในเยี่ยวหุ้มปอด
00:26:46 → 00:26:49 นะครับพวกนี้เนี่ยคือคล้ายๆกันนะครับคือ
00:26:49 → 00:26:54 เกิดจากการที่ที่มันมีถุงลมที่มันผิดปกติ
00:26:54 → 00:26:57 มันแตกออกอาจอยู่ในพงอากาศถ้าจะให้นึกภาพ
00:26:57 → 00:27:00 ก็คือลองนึกภาพในหนังเกาหลีที่อยู่ดีๆคน
00:27:00 → 00:27:03 ไข้ก็นอนอยู่แล้วก็แน่นหน้าอกแล้วก็มีอ่า
00:27:03 → 00:27:06 มีพระเอกเดินมาเป็นหมอแล้วก็เอาปากกาปัก
00:27:06 → 00:27:08 เข้าหน้าอกแล้วมีลมฟู่ออกมาแล้วคนไข้ก็
00:27:08 → 00:27:11 อ่าหายใจโล่งไอ้นั่นแหละคือภาวะปอดรั่ว
00:27:12 → 00:27:14 มันก็จะเป็นวิธีการนึงไว้สำหรับคนไข้ที่
00:27:14 → 00:27:17 มีภาวะฉุกเฉินในการภาวะปอดรัแต่ห้ามไม่ทำ
00:27:17 → 00:27:19 เองนะอันนี้ต้องอยู่ในของบุคลากรทงการ
00:27:20 → 00:27:22 แพทย์ที่ร่องวินิจฉัยไม่ใช่แบบปักปุ๊บปกด
00:27:22 → 00:27:25 ปอดปกตินี่ซวยเลยจริงๆแล้วปอดรั่วต้องบอก
00:27:25 → 00:27:28 เลยว่าสาเหตที่สำคัญนะครับก็คือสาเหตุของ
00:27:28 → 00:27:30 การสูบบุหรี่ไม่ว่าจะเป็นการสูบบุหรี่
00:27:30 → 00:27:34 ธรรมดาสูบบุหรี่ไฟฟ้าหรือว่าสูบอะไรก็ตาม
00:27:34 → 00:27:36 นะครับพวกนี้เนี่ยก็ทำให้เกิดภาวะปลอด
00:27:36 → 00:27:38 รั่วได้หมดฉะนั้นคุณอย่าคิดว่าคุณเปลี่ยน
00:27:38 → 00:27:40 เป็นบุหรี่ไฟฟ้าแล้วเอ้ยมันปลอดภัยขึ้น
00:27:40 → 00:27:43 ทุกอย่างขึ้นจริงๆแล้วไม่ใช่ผมก็มีคนไข้
00:27:43 → 00:27:45 หลายๆที่มีประวัติสูบุหรี่ไฟฟ้ามาแล้วก็
00:27:45 → 00:27:48 เกิดภาวะปอดรั่วนะครับแล้วก็ต้องเข้ารับ
00:27:48 → 00:27:51 การผ่าตัดค่อนข้างเยอะเหมือนกันนะฮะแล้ว
00:27:51 → 00:27:53 ไม่ไม่นับเฉพาะบุริไฟฟ้าด้วยเกลายเป็นคน
00:27:53 → 00:27:55 กลับไปดูบุรี่ธรรมดาไม่ใช่นะเกิดทั้งคู่
00:27:55 → 00:27:58 จริงๆแล้วเนี่ยโลกนี้เนี่ยเราเจอได้บ่อย
00:27:58 → 00:28:01 มากๆต้องบอกก่อนต้องต้องย้อนความกับมานิด
00:28:01 → 00:28:03 นึงว่าไอ้ตัวโรคปอดรั่วเนี่ยมันเกิดได้ 2
00:28:03 → 00:28:06 ส 2 อย่างนะครับอย่างแรกคือเกิดจากปอดที่
00:28:06 → 00:28:09 มันมีอ่าพยาที่ิสภาพผิดปกติอยู่แล้วเช่น
00:28:09 → 00:28:12 กลุ่มงไข้ไหนพวกกลุ่มถงลงป่งพองอืกลุ่มงล
00:28:12 → 00:28:14 ป่งพองเนี่ยเป็นกลุ่มคไข้ที่สุบบุหรี่จัด
00:28:14 → 00:28:17 ไปเวลานานนะครับจนกระทั่งปอบมันพังไปหมด
00:28:17 → 00:28:19 แล้วจนกลายเป็นโทลปงพๆให้เราเข้าใจกลุ่ม
00:28:19 → 00:28:21 พวกนี้มันจะมีความเสี่ยงที่ไม่เกิดปอรั่ว
00:28:22 → 00:28:24 ได้อยู่แล้วครับในขณะกับการในกลุ่มของใ
00:28:24 → 00:28:28 ที่อายุเด็กนะครับก่อนที่จะวิวัฒการบเป็น
00:28:28 → 00:28:30 ถงลงป่งพองหอบคืนอย่างนี้เป็นต้นกลุ่มพวก
00:28:30 → 00:28:33 นี้เนี่ยมีโอกาสที่จะให้เกิดปอรู้ได้ถ้า
00:28:33 → 00:28:36 มีการสุบบุดีเกิด
00:28:36 → 00:28:41 ขึ้น This Is Toy PBS
00:28:41 → 00:28:44 podcast ติดตามรายการทางเว็บไซต์และ
00:28:44 → 00:28:47 แอปพลิเคชันของ Thai PBS podcast
00:28:47 → 00:28:50 spotify soundcloud Google podcast
00:28:50 → 00:28:53 Apple podcast และ YouTube Channel
00:28:53 → 00:28:57 Thai PBS podcast Thai PBS podcast
00:28:57 → 00:29:00 View the world via The
00:29:00 → 00:29:09 [เพลง]
00:29:09 → 00:29:12 Voice