00:00:00 → 00:00:03 แม่ปุ๊กนะคะแม่น้องอะตอมค่ะปัจจุบันน้อง
00:00:03 → 00:00:05 อตอมลูกชายอายุ 5 ขวบแล้วแต่ว่าคุณหมอ
00:00:05 → 00:00:08 ประเมินว่าน้องมีพัฒนาการล่าช้าเท่ากับ
00:00:08 → 00:00:11 เด็ก 1 ขวบทีนี้แม่มีคำถามค่ะก็คือน้อง
00:00:11 → 00:00:14 เนี่ยจะค่อนข้างซนมากแล้วก็ไม่ค่อยอยู่
00:00:14 → 00:00:16 นิ่งเลยอย่างเช่นให้น้องลองต่ออีกบล็อก
00:00:16 → 00:00:19 เนี่ยน้องก็จะต่อได้อยู่ประมาณ 2-3 ชิ้น
00:00:19 → 00:00:21 แล้วน้องก็จะเลิกน้องก็จะรู้สึกเบื่อหรือ
00:00:21 → 00:00:24 ว่าให้น้องลองรอยเชือกที่พัฒนากล้ามเนื้อ
00:00:24 → 00:00:26 นิ้วมือมัดเล็กเนี่ยน้องก็จะรอได้อยู่
00:00:26 → 00:00:28 ประมาณ 1-2 ชิ้นแล้วน้องก็จะเลิกเหมือน
00:00:28 → 00:00:31 กันเพราะว่าน้องอจะเบือ่ะก็เลยอยากจะทราบ
00:00:31 → 00:00:33 ว่าลักษณะแบบเนี้ยมันเข้าข่ายของเด็กที่
00:00:33 → 00:00:40 มีสมาธิสั้นหรรือ
00:00:40 → 00:00:49 [เพลง]
00:00:50 → 00:00:53 เปล่าค่ะจากอ่าสิ่งที่คุณแม่สงสัยแล้วก็
00:00:53 → 00:00:55 คำถามที่คุณแม่ถามมานะคะก่อนอื่นหมอก็
00:00:55 → 00:00:58 อยากให้คุณแม่เนี่ยเขพาลูกเข้ามาประเมิน
00:00:58 → 00:01:03 พัฒนาการค่ะเพเพดูว่าภาวะความซนหรือสมาธิ
00:01:03 → 00:01:05 สั้นที่คุณแม่สงสัยอ่ะค่ะมันเป็นความซน
00:01:05 → 00:01:09 สมาธิสั้นที่เขาเกิดขึ้นตามวัยในวัยของ
00:01:09 → 00:01:12 เค้าหรือว่าเป็นซนสมาธิสั้นที่เข้าขาย
00:01:12 → 00:01:15 ภาวะเป็นโรคซนสมาธิสั้นค่ะแต่ไม่ว่าอย่าง
00:01:15 → 00:01:17 ไรก็ตามเนาะไม่ว่าจะถูกวินิจฉัยว่าเป็น
00:01:17 → 00:01:21 โรคหรือเป็นแค่ภาวะที่เกิดขึ้นเป็นความซน
00:01:21 → 00:01:24 ที่เกิดขึ้นตามวัยค่ะวันนี้หมอก็มีเทคนิค
00:01:24 → 00:01:26 ดีๆเหมือนเป็นเอาง่ายๆเหมือนเป็นคาถา
00:01:26 → 00:01:29 มูเตรูแล้วกันมาฝากกันเนาะถ้าท่องเนาะก็
00:01:29 → 00:01:34 จะมี 8 อย่างนะคะก็เริ่มตั้งแต่ที่ย่อย
00:01:34 → 00:01:40 สั่งกลบชมเบนเดนแล้วก็เดลค่ะเดี๋ยวเราจะ
00:01:41 → 00:01:44 มาไล่เรียนรู้ไปตั้งแต่ตัวอักษรแต่ละตัว
00:01:44 → 00:01:47 เนาะอันแรกนะคะที่เนาะก็คือจัดสถานที่ให้
00:01:47 → 00:01:50 เป็นที่ค่ะที่สำหรับทำการบ้านก็ต้องเป็น
00:01:50 → 00:01:54 ที่สงบเนาะเสียงไม่ดังมีแสงไฟเพียงพอเนาะ
00:01:54 → 00:01:57 ที่สำหรับกินก็ใช้สำหรับกินเนาะเราจะไม่
00:01:57 → 00:02:00 เอาการบ้านมานั่งทำบนโต๊ะอาหารหหรือว่า
00:02:00 → 00:02:04 อ่าการบ้านไปทำบนที่นอนเนาะต่อมาย่อยค่ะ
00:02:04 → 00:02:07 ย่อยก็คือการย่อยงานเนาะเวลาลูกๆไปโรง
00:02:07 → 00:02:09 เรียนน่ะอาจจะมีการบ้านกลับมา 3 อย่าง
00:02:09 → 00:02:12 หรือ 4 อย่างถ้าเราให้เขาทำพร้อมกันที
00:02:12 → 00:02:14 เดียว 3 อย่างหรือ 4 อย่างเลยอ่ะหมอว่า
00:02:14 → 00:02:16 มันเป็นไปไม่ได้ที่ลูกจะทำได้เสร็จทั้ง
00:02:16 → 00:02:19 หมดเนาะมันจะยิ่งทำให้แบบเด็กเขารู้สึก
00:02:19 → 00:02:22 ว่าโอ้มันเยอะจังหรือท้อเนาคะเราแนะนำว่า
00:02:22 → 00:02:24 ให้คุณพ่อคุณแม่เนี่ยทำทีละอย่างเนาะให้
00:02:24 → 00:02:27 งานเขไปทำทีละ 1 อย่างอ่ะทำเสร็จให้พัก
00:02:27 → 00:02:30 แป๊บนึงอ่ะไปเดินเล่นก่อนก็ได้หรือว่ากิน
00:02:30 → 00:02:33 น้ำกินคุกกี้นิดนึงแล้วก็กลับมาทำชิ้นที่
00:02:33 → 00:02:35 2 ต่อไปเนาะนอกจากทำให้ลูกเขาไม่รู้สึก
00:02:35 → 00:02:37 เบื่อแล้วก็ยังทำให้รู้สึกว่าเอ่อเขามี
00:02:37 → 00:02:39 ความภาคภูมิใจในตนเองที่เอ้อเขาคทำงาน
00:02:39 → 00:02:43 สำเร็จเนาะต่อมาคือสั่งค่ะสั่งก็คือการ
00:02:43 → 00:02:46 ใช้คำสั่งที่สั้นค่ะเวลาลูกเขาจะให้เขาทำ
00:02:46 → 00:02:48 อะไรอ่ะค่ะพยายามสั่งเขาด้วยประโยคที่
00:02:48 → 00:02:51 สั้นเนาะเพราะด้วยความที่เคยังเด็กอ่ะค่ะ
00:02:51 → 00:02:55 เขาไม่ได้มีสมาธิเพียงพอที่จะอ่ามานั่งจำ
00:02:55 → 00:02:57 คำสั่งยาวๆหรือว่ามาจับประเด็นว่าเอ๊ะ
00:02:57 → 00:03:00 สิ่งเนี้ยสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่พูดเนี่ยอัน
00:03:00 → 00:03:03 ไหนมันคือคำสั่งจริงๆเนาะอ่าสมมุติเช่น
00:03:03 → 00:03:06 เราอยากจะให้เค้าอ่าไปหยิบน้ำในตู้เย็นมา
00:03:06 → 00:03:08 ให้เราเนาะเราก็อาจจะพูดแค่ว่าไปหยิบน้ำ
00:03:08 → 00:03:10 ในตู้เย็นมาให้แม่หน่อยจ้ะเนาะเราจะไม่
00:03:10 → 00:03:13 ได้สั่งยาวๆเหมือนเป็นหมีบ่นเช่นอ่ะลูก
00:03:13 → 00:03:16 เดินไปที่ตู้เย็นนะเปิดตู้เย็นนะแล้วหยิบ
00:03:16 → 00:03:19 น้ำแล้วเดินมาให้แม่นะอย่างเงี้ยค่ะเขา
00:03:19 → 00:03:21 ไม่ได้มีสมาธิเพียงพอที่จะฟังได้แบบนั้น
00:03:21 → 00:03:25 เนาะต่อมากบกบก็คือคอยประกบค่ะในงานที่
00:03:25 → 00:03:28 หรือในการบ้านที่เรารู้สึกว่าโอ๋มันต้อง
00:03:28 → 00:03:30 ใช้สมาธิค่อนข้างเยอะเหรืองานที่มันมี
00:03:30 → 00:03:33 ความละเอียดเนาะเราคอยนั่งประกบอยู่ใกล้ๆ
00:03:33 → 00:03:35 เป็นกำลังใจอยู่ใกล้ๆเนาะถ้าเไหรก็ตามเรา
00:03:36 → 00:03:38 สังเกตแล้วโอ๊ะเคดูพยายามแล้วนะแต่ว่ามัน
00:03:38 → 00:03:41 ยังมันทำไม่ได้จริงๆอ่ะอันนี้มันยากจริงๆ
00:03:41 → 00:03:43 อย่างเงี้ยค่ะเราก็ให้ความช่วยเหลือเขาค
00:03:43 → 00:03:48 เท่าที่จำเป็นเนาะต่อมาชมค่ะอ่าด้วย
00:03:48 → 00:03:50 ธรรมชาติของคนไทยอ่ะคิดว่าเราชมกันน้อย
00:03:50 → 00:03:53 เนาะส่วนใหญ่อ่ะคุณพ่อคุณแม่อ่ะจะให้ความ
00:03:53 → 00:03:56 สนใจก็ต่อเมื่อเขาทำอะไรผิดพลาดเช่นลูก
00:03:56 → 00:03:58 นั่งเล่นกันดีๆอ่ะเล่น 2 คนกระหนุง
00:03:58 → 00:04:00 กระหนิงด้านเราก็จะไม่ได้ไปยุ่งกับเาก็
00:04:00 → 00:04:02 อ่ะเราก็อาจจะชมในใจแต่เราไม่ได้ชมออกมา
00:04:02 → 00:04:04 ถูกมั้ยคะแต่เมื่อไหร่ก็ตามอ่ะเอาและมีลง
00:04:04 → 00:04:07 ไม้ลงมือหรือมีตีกันแล้วะเราก็จะแบบเอ๊
00:04:07 → 00:04:10 หยุดสิทำอะไรอย่าเสี่ยงดังอะไรอย่างเงี้ย
00:04:10 → 00:04:13 ค่ะจริงๆหมออยากให้เราอ่ะจับจุดแล้วก็ชม
00:04:13 → 00:04:15 เ้าตั้งแต่ตอนที่เขานั่งเล่นกันดีๆเลย
00:04:16 → 00:04:18 เนาะแล้วอีกอย่างนึงอ่ะในด็กกลุ่มที่มี
00:04:18 → 00:04:20 ภาวะซนสมาธิสั้นไม่ว่าจะเป็นโรคหรือว่า
00:04:20 → 00:04:24 เป็นแค่ภาวะซนตามวัยอ่ะเขาจะถูกประโยคที่
00:04:24 → 00:04:26 มันเป็นประโยคเชิงปฏิเสธหรือประโยคเชิงลบ
00:04:26 → 00:04:29 เนี่ยค่อนข้างบ่อยเช่นอย่าวิ่งสิอย่า
00:04:29 → 00:04:32 เสี่งได้ังอย่าทะเลาะกันอย่าเงี้ยค่ะซึ่ง
00:04:32 → 00:04:35 ประโยคเหล่าเนี้ยมันทำให้ความภาคภูมิใจใน
00:04:35 → 00:04:37 ตนเองตอนที่เขาโตขึ้นน่ะค่ะมันลดลงเนาะ
00:04:37 → 00:04:39 อันนี้เป็นสิ่งสำคัญที่หมออยากพยายามให้
00:04:39 → 00:04:41 คุณพ่อคุณแม่เนี่ยหาจุดชมของลูกให้ได้
00:04:41 → 00:04:45 เนาะต่อมาเบนเบนก็คือเบี่ยงเบนความสนใจ
00:04:45 → 00:04:48 ค่ะถ้าเกิดว่ามีสิ่งอันไหนที่เขาต้องทำ
00:04:48 → 00:04:51 เนาะแต่ว่าเอ๊เขาแบบเหยเกหรือเบี่ยงเบน
00:04:51 → 00:04:53 ไม่ยอมทำเนาะเราก็พยายามดึงเขากลับมาค่ะ
00:04:53 → 00:04:56 เบี่ยงเบนความสนใจเกลับมาทำเนาะในเด็ก
00:04:56 → 00:04:58 ช่วงวัยเล็กๆอ่ะเรายังพอหลอกลอกเาได้อยู่
00:04:58 → 00:05:01 เนาะแล้วก็ใช้เทคนิคนี้ช่วยได้ค่ะต่อมา
00:05:02 → 00:05:05 เดนเนก็คือเดนพลังงานค่ะเป็นไปไม่ได้เลย
00:05:05 → 00:05:08 ที่กลับบ้านมาปุ๊บคุณพ่อคุณแม่จะให้เด็ก
00:05:08 → 00:05:12 ที่เหมือนกับเามีพลังเยอะเนาะพลังเขาล้น
00:05:12 → 00:05:14 เนาะเหมือนเครื่องยนต์ที่มันถูกติดตลอด
00:05:14 → 00:05:16 เนาะให้มานั่งทำการบ้านเลยหมอคิดว่าเป็น
00:05:17 → 00:05:20 ไปได้ยากค่ะถ้าอยากจะแนะนำก็คือสมมุติถ้า
00:05:20 → 00:05:22 กลับบ้านมาก็อาจจะอ่ะไปเล่นปล่อยพลังก่อน
00:05:22 → 00:05:25 ไปปั่นจักรยานมั้ยไปเล่นรถละเบสมั้ยหรือ
00:05:25 → 00:05:27 ไปเล่นสนามเด็กเล่นก่อนเนาะพอพลังงาน
00:05:27 → 00:05:30 เริ่มลดลงแล้วอ่ะคราวนี้ค่อยมาอ่ะอาบน้ำ
00:05:30 → 00:05:33 กินข้าวแล้วก็ค่อยเริ่มนั่งทำการบ้านค่ะ
00:05:33 → 00:05:35 แล้วก็สุดท้ายก็คือเดลเนาะเดลก็คือการ
00:05:35 → 00:05:39 เป็นโมเดลที่ดีค่ะเด็กๆอ่ะแม้ว่าเขาจะตัว
00:05:39 → 00:05:41 เล็กก็จริงเนาะแต่จริงๆคุณพ่อคุณแม่รู้มย
00:05:41 → 00:05:43 คะว่าจริงๆเขาสังเกตเราตลอดเนาะนอกจากเขา
00:05:43 → 00:05:46 สังเกตแล้วอ่ะเขายังเลียนแบบเราด้วยเพราะ
00:05:46 → 00:05:48 ฉะนั้นถ้าเกิดว่าคุณพ่อคุณแม่อยากให้ลูก
00:05:48 → 00:05:50 เป็นยังไงคุณพ่อคุณแม่ก็ต้องเป็นแบบอย่าง
00:05:50 → 00:05:53 ที่ดีให้เขาด้วยค่ะจบคาถามูเตรู 8 อย่าง
00:05:53 → 00:05:58 ไปแล้วเนาะมีที่ย่อยสั่งกลบเนาะชมเบนเดน
00:05:58 → 00:06:01 แล้วก็เดลเนาะตอนต่อมาสุดท้ายแล้วค่ะเป็น
00:06:01 → 00:06:05 2 ดีตัวสุดท้ายค่ะเป็น 2 ดีที่จะสามารถ
00:06:05 → 00:06:07 ใช้ได้ในทุกมิติการเลี้ยงลูกเลยรวมถึง
00:06:07 → 00:06:10 สามารถใช้ในเอ่อตัวคุณพ่อคุณแม่เองก็ได้
00:06:10 → 00:06:13 เนาะโดยที่ 2 ดีเนาะดีตัวแรกก็คือ Daily
00:06:13 → 00:06:16 Routine activity แล้วก็ดีตัวที่ 2 นะ
00:06:16 → 00:06:20 คะก็คือ discipline ค่ะ Daily Routine
00:06:20 → 00:06:22 activity ค่ะก็คือกิจวัตรประจำวันนั่น
00:06:22 → 00:06:25 เองคือหมออยากให้เค้าทำอะไรที่มันมี
00:06:25 → 00:06:27 กิจวัตรประจำวันที่แน่นอนแต่ละวันให้มัน
00:06:28 → 00:06:30 คล้ายๆกันแบบนี้ในช่วงเวลาที่คล้ายๆกัน
00:06:30 → 00:06:34 เช่นกลับมาบ้าน 18:00 นอ่ะออกไปเล่นก่อน
00:06:34 → 00:06:38 18:30 นกลับมานะมากินข้าวกันอมีเวลาของ
00:06:38 → 00:06:41 ครอบครัว 19:00 นไปอาบน้ำหลังจากนั้นทำ
00:06:41 → 00:06:44 การบ้านแล้วก็ 21:00 นเข้านอนค่ะคุณพ่อ
00:06:44 → 00:06:46 คุณแม่ก็อาจจะจัดสรรเรื่องตารางกิจวัต
00:06:46 → 00:06:49 ประจำวันให้มันเหมาะสมหรือว่าให้มันรู้
00:06:49 → 00:06:52 สึกว่าเอ่อเหมาะสมกับครอบครัวของเราค่ะ
00:06:52 → 00:06:54 ต่อมาตัวดีตัวสุดท้ายค่ะก็คือ discipline
00:06:54 → 00:06:56 discipline คืออะไร discipline ก็คือการ
00:06:56 → 00:06:58 ฝึกระเบียบวินัยค่ะแต่ไม่ได้ต้องถึงขั้น
00:06:58 → 00:07:01 ขนาดแบบคุณพี่ทหารคุณพี่ตำรวจนะคะการฝึก
00:07:01 → 00:07:04 วินัยก็ทำได้ง่ายๆเช่นสิ่งไหนที่จะต้องทำ
00:07:04 → 00:07:08 ก็ต้องทำไม่ให้ลูกหลีกเลี่ยงไม่งดสำหรับ
00:07:08 → 00:07:11 คุณพ่อคุณแม่คนไหนนะคะที่สงสัยว่าลูกตัว
00:07:11 → 00:07:14 เองเนี่ยมีภาวะเอ๊ะซนมยหรือว่าสมาธิสั้นม
00:07:14 → 00:07:18 ก็ถ้าอยากจะมาประเมินก็สามารถเข้ามาพบหมอ
00:07:18 → 00:07:20 ได้ค่ะที่คลินิกพัฒนาการและพฤติกรรมเด็ก
00:07:21 → 00:07:23 โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ค่ะการเลี้ยงลูกนะคะมัน
00:07:23 → 00:07:26 อาจจะยากหรือพ่อแม่บางคนจะรู้สึกว่าโอ๊
00:07:26 → 00:07:28 ทำไมมันเหนื่อยจังหรือทำไมมันละเอียดจัง
00:07:28 → 00:07:31 นะคะเอ่อแต่หมออยากให้เชื่ออย่างนึงว่าผล
00:07:31 → 00:07:34 ลัพธ์ที่เกิดขึ้นน่ะค่ะมันคุ้มค่ากับสิ่ง
00:07:34 → 00:07:37 ที่คุณพ่อคุณแม่ลงทั้งแรงลงทั้งใจไปแน่
00:07:37 → 00:07:40 นอนค่ะค่ะก็ขอบคุณแม่ปุ๊กมากๆเลยนะคะจาก
00:07:40 → 00:07:44 เพจอ่าแม่น้องอะตอมค่ะที่ส่งคำถามเข้ามา
00:07:44 → 00:07:46 ถามกันค่ะคุณพ่อคุณแม่ท่านไหนมีข้อคำถาม
00:07:47 → 00:07:49 หรือว่าสงสัยอะไรก็สามารถคอมเมนต์มาข้าง
00:07:49 → 00:07:53 ใต้ได้เลยนะคะก็ยังไงก็ฝากอ่าติดตามรับชม
00:07:53 → 00:07:56 รายการพบหมอเด็กจุฬาภรณนะคะเรามีเนื้อหา
00:07:56 → 00:07:59 ความรู้ดีๆอีกมากมายค่ะแล้วก็มี Ep ที่
00:07:59 → 00:08:04 น่าสนใจอีกหลายๆ EP เลยค่ะ