00:00:00 → 00:00:02 โรคร้ายที่ผู้คนเสียชีวิตมากที่สุดในโลก
00:00:02 → 00:00:05 คือโรคหัวใจในปี 2000 เนี่ยมีผู้คนเสีย
00:00:05 → 00:00:08 ชีวิตจากโรคหัวใจเนี่ยประมาณ 2.7 ล้านคน
00:00:08 → 00:00:11 แต่พอเปลี่ยนมาเป็นปี 2021 เนี่ยคนเสีย
00:00:11 → 00:00:14 ชีวิตจากโรคหัวใจเนี่ยประมาณ 9 ล้านคน
00:00:14 → 00:00:17 ซึ่งเยอะมากกว่าโรคโควิดในปีนั้นซะด้วย
00:00:17 → 00:00:19 ซ้ำโควิดเนี่ยเสียชีวิตประมาณ 8.8 ล้านคน
00:00:19 → 00:00:22 เพราะฉะนั้นเนี่ยขอมาทำความเข้าใจก่อนว่า
00:00:22 → 00:00:26 โรคหัวใจเนี่ยคืออะไรโรคหัวใจคืออะไรก็
00:00:26 → 00:00:28 ได้ที่มันมาส่งผลกระทบต่อหัวใจของเราทำ
00:00:28 → 00:00:31 ให้การสูบฉีดเลือดเนี่ยมันไม่ทั่วถึงใน
00:00:31 → 00:00:34 ร่างกายของเราอันแรกคือที่คนน่ะเข้าใจกัน
00:00:34 → 00:00:36 เยอะๆมากที่สุดคือโรคหลอดเลือดและหัวใจ
00:00:36 → 00:00:39 คือหัวใจตีบตันมันขาดเลือดนะครับอันแรก
00:00:39 → 00:00:42 คือหัวใจขาดเลือดอันที่ 2 คือโรคลิ้นหัว
00:00:43 → 00:00:45 ใจนะครับอันนี้ก็อาจจะเกิดมาตั้งแต่เด็ก
00:00:45 → 00:00:47 แล้วหรือเพิ่งมาเป็นตอนโตก็ได้นะครับเนาะ
00:00:47 → 00:00:49 อันที่ 3 คือโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะอาจจะ
00:00:49 → 00:00:53 จังหวะเร็วจังหวะช้าทำให้หัวใจคุณน่ะเต้น
00:00:53 → 00:00:55 ไม่เต็มที่แล้วกันนะครับนะอันที่ 4 คือ
00:00:55 → 00:00:57 โรคหัวใจพิการตั้งแต่เด็กก็เป็นตั้งแต่ใน
00:00:58 → 00:01:00 ท้องแม่และและอันสุดท้ายคือโรคติดเชื้อ
00:01:00 → 00:01:03 ของหัวใจจนะครับซึ่งส่วนมากมาเกิดเกิดจาก
00:01:03 → 00:01:05 เชื้อไวรัสนะครับเนาะวันเนี้ยที่เราจะมา
00:01:05 → 00:01:08 พูดถึงคือประเภทแรกที่คนเป็นเยอะมากที่
00:01:08 → 00:01:10 สุดและก็เสียชีวิตมากที่สุดในโลกคราวนี้
00:01:10 → 00:01:13 เรามาดูเรื่องของปัจจัยอะไรบ้างที่ทำให้
00:01:13 → 00:01:16 เราเป็นโรคหัวใจปัจจัยเนี่ยแบ่งเป็น 2
00:01:16 → 00:01:17 อย่างแล้วกันนะครับเนาะอันหนึ่งคือ
00:01:17 → 00:01:20 เปลี่ยนแปลงไม่ได้อันหนึ่งคือคุณควบคุม
00:01:20 → 00:01:22 ได้เปลี่ยนแปลงไม่ได้เช่นอายุอ่าอายุมาก
00:01:22 → 00:01:25 ขึ้นมีความเสี่ยงมากขึ้นอันที่ 2 เรื่อง
00:01:25 → 00:01:28 เพศหมอเอ็มว่าผู้ชายหรือผู้หญิงมีความใคร
00:01:28 → 00:01:30 มีความเสี่ยงโรคหัวใจมากกว่ากันมันต้อง
00:01:30 → 00:01:32 อยู่ที่ช่วงอายุด้วยอ่าถูกต้องนะครับเนาะ
00:01:32 → 00:01:36 5 เราไม่ยังไม่ดูผู้สูงวัยอือผู้ชายมี
00:01:36 → 00:01:39 ความเสี่ยงมากกว่าแต่เมื่อไหร่ที่ผู้หญิง
00:01:39 → 00:01:42 หมดประจำเดือนผู้หญิงสลับกันนะครับผู้
00:01:42 → 00:01:43 หญิงก็จะมีความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจมากกว่า
00:01:44 → 00:01:46 นะครับเนาะอันที่ 3 ก็คือเรื่องของกรรม
00:01:46 → 00:01:48 พันธ์และนะครับถ้ามีปู่ย่าตายายใครเป็น
00:01:48 → 00:01:51 โรคหัวใจคุณก็มีความเสี่ยงมากขึ้นนะครับ
00:01:51 → 00:01:54 อันนี้คือปัจจัยที่แก้ไม่ได้อือันที่ 2
00:01:54 → 00:01:57 เรามาดูปัจจัยที่คุณสามารถแก้ได้แน่นอน
00:01:57 → 00:02:01 อาหารการกินไม่ออกกำลังกายไม่ออกกำลังกาย
00:02:01 → 00:02:03 เป็นปัจจัยเนาะที่ทำให้เกิดโรคหัวใจได้นะ
00:02:03 → 00:02:06 ครับเนาะไขมันแน่นอนนะครับเบาหวานนะครับ
00:02:07 → 00:02:08 เนาะแล้วอันสุดท้ายก็คือเรื่องของการสุบ
00:02:08 → 00:02:10 บุหรี่เพราะมันทำให้หลอดเลือดหัวใจเนี่ย
00:02:10 → 00:02:13 ไม่ยืดหยุ่นและมีสารเคมีมากมายที่ไปทำลาย
00:02:13 → 00:02:16 ในร่างกายของเราคราวนี้อาการล่ะอาการโรค
00:02:17 → 00:02:19 หล่อเลือดหัวใจมีอะไรบ้างอ่ะหมอเอมี่ก็
00:02:19 → 00:02:22 ปกติก็บอกว่าใจสานแน่นหน้าอกเหนื่อยอะไร
00:02:22 → 00:02:24 อย่างงี้มย่าถูกต้องถูกต้องก็จะมีใจสั่น
00:02:24 → 00:02:27 แน่นหน้าอกหายใจไม่เต็มที่บางคนอาจจะหน้า
00:02:27 → 00:02:31 มืดเป็นลมได้หรือนอนลักไม่ได้นะครับเนาะ
00:02:31 → 00:02:33 แต่บางคนอาจจะไม่มีอาการเลยซะด้วยซ้ำ
00:02:33 → 00:02:36 เพราะฉะนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดคือตรวจอือ
00:02:36 → 00:02:39 การตรวจที่โรงพยาบาลเนี่ยสามารถ detect
00:02:39 → 00:02:41 ได้ว่าเออคุณเริ่มเป็นโรคหัวใจหรือเปล่า
00:02:41 → 00:02:44 นะครับเนาะเพราะปัจจุบันเนี่ยการตรวจมัน
00:02:44 → 00:02:47 พัฒนาการไปยะมากๆไปมากเลยแต่ว่าวันนี้ขอ
00:02:47 → 00:02:50 มาพูดถึงเรื่องการตรวจแบบธรรมดาเบสิคที่
00:02:50 → 00:02:52 เกือบทุกโรงพยาบาลทำได้หมดอย่างแรกคือการ
00:02:52 → 00:02:56 ตรวจ ekg หรือการดูว่าจังหวะเต้นของหัวใจ
00:02:56 → 00:02:59 ของคุณเป็นยังไงนะครับเนาะอันที่ 2 คือ
00:02:59 → 00:03:01 เรียกว่า Exercise stress Test
00:03:01 → 00:03:02 Exercise stress Test คือการตรวจวิ่ง
00:03:02 → 00:03:06 บนสายพานว่าขณะที่คุณออกกำลังกายเนี่ยหัว
00:03:06 → 00:03:08 ใจคุณเต้นเป็นยังไงมีประสิทธิภาพเพียงพอ
00:03:09 → 00:03:11 หรือเปล่านะครับและอันที่ 3 แบบง่ายๆก็
00:03:11 → 00:03:15 คือเอคคาริมเอคก็คือดูว่ามันใช้คลื่นถี่
00:03:15 → 00:03:18 สูงเนาะความถคือความถี่เนี่ยไปดูว่า
00:03:18 → 00:03:22 จังหวะบีบรูปร่างการสูบฉีดในห้องหัวใจของ
00:03:22 → 00:03:24 คุณเนี่ยการทำงานมันดีหรือเปล่านะครับ
00:03:24 → 00:03:28 เนาะแต่พอตรวจแล้วแน่นอนคุณต้องป้องกัน
00:03:28 → 00:03:32 ด้วยการป้องกันไม่มีใครรู้หรอกว่ามันจะ
00:03:32 → 00:03:34 เกิดเมื่อไหร่แต่คุณป้องกันเอาไว้ดีที่
00:03:34 → 00:03:37 สุดแน่นอน 1 คือเรื่องของการออกกำลังกาย
00:03:37 → 00:03:40 นะครับเนาะแล้วก็เรื่องของอาหารการกินอัน
00:03:40 → 00:03:43 ที่ 3 ความเครียดนะครับเนาะความเครียดก็
00:03:43 → 00:03:45 เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคหัวใจ
00:03:45 → 00:03:48 ได้นะครับอันที่ 4 ก็คือควบคุมน้ำหนักตัว
00:03:48 → 00:03:50 ของคุณอยู่ในมาตรฐานนะครับและอันที่ 5
00:03:50 → 00:03:52 แน่นอนก็คือหลีกเลี่ยงการดื่มเหล้าสู
00:03:52 → 00:03:54 บุหรี่ที่มันไม่ดีต่อร่างกายของเราคราว
00:03:54 → 00:03:57 เนี้เราต้องมาเข้าใจของคำว่าโรคหัวใจเต้น
00:03:57 → 00:04:00 ผิดจังหวะก่อนนะครับเนาะจังหวะเของหัวใจ
00:04:00 → 00:04:02 ของเราเนี่ยเต้นกี่ครั้งต่อนาทีครับหมอ
00:04:02 → 00:04:04 เอมี่ก็มันแล้วแต่คนแต่ปกติแล้วก็อยู่
00:04:04 → 00:04:07 ประมาณแบบ 70 9 80 90 ใช่ก็คือ Range
00:04:07 → 00:04:09 ปกติเราจะเอาอยู่ที่ประมาณ 60 -100 นะ
00:04:09 → 00:04:12 ครับเนาะเพราะฉะนั้นเนี่ยถ้ามากไปกว่านี้
00:04:12 → 00:04:14 หรือน้อยไปกว่านี้เนี่ยก็คือผิดปกตินะ
00:04:14 → 00:04:17 ครับเนาะเอ่อในภาวะของโลกเยเราก็จะแบ่ง
00:04:17 → 00:04:19 เป็น 3 ประเภทด้วยกันแล้วกันนะครับเนาะ
00:04:19 → 00:04:22 อันแรกคือเร็วไปนะครับเนาะทิ caria นั่น
00:04:22 → 00:04:24 เองทิ caria ก็คือจังหวะเต้นของหัวใจ
00:04:24 → 00:04:27 เนี่ยมากกว่า 100 ครั้งต่อนาทีนะครับแบบ
00:04:27 → 00:04:31 ที่ 2 ก็คือตรงกันข้ามช้าขึ้น
00:04:31 → 00:04:34 ก็คือนอยกว่า 60 ครั้งต่อนาทีนะครับอัน
00:04:34 → 00:04:37 สุดท้ายคือไม่สม่ำเสมอไม่เข้าพวกเลย
00:04:37 → 00:04:40 อันเนี้ยเต้นยังไงก็มั่วไปหมดนะครับก็จะ
00:04:40 → 00:04:43 แบ่งเป็น 3 ประเภทคราวเนี้ยสาเหตุของการ
00:04:43 → 00:04:46 เป็นโรคนี้เนี่ยเราอาจจะบางครั้งอาจจะไม่
00:04:46 → 00:04:48 มีสาเหตุเลยก็ได้อยู่ดีเป็นขึ้นมานะครับ
00:04:48 → 00:04:51 เนาะแต่อย่างอื่นก็จะเป็นเรื่องของการสูบ
00:04:51 → 00:04:53 บุหรี่กินเหล้าบ้างหรือกินกาแฟที่ปริมาณ
00:04:53 → 00:04:56 มากเกินไปคาเฟอินเยอะเกินนะครับความ
00:04:56 → 00:04:59 เครียดบ้างหรือคนที่มีโรคประจำตัวอย่างเช
00:04:59 → 00:05:02 โรไรอยนะครับแล้วก็สารเสพติดต่างๆพวก
00:05:02 → 00:05:04 เนี้ยก็ทำให้จังหวะเต้นของหัวใจอ่ะมันผิด
00:05:04 → 00:05:08 ปกติไปแล้วอาการอาการที่เราเเจอขึ้นได้คน
00:05:08 → 00:05:11 ที่เต้นเร็วก็จะรู้สึกหัวใจเต้นเร็วคนที่
00:05:11 → 00:05:13 เต้นช้าก็รู้สึกหัวใจเต้นช้าตรกันข้ามกัน
00:05:13 → 00:05:16 นะครับเนาะแต่งอาการอื่นๆอาจจะผสมกันก็
00:05:16 → 00:05:20 ได้เช่นหน้ามืดจะเป็นลมเจ็บหน้าอกรู้สึก
00:05:20 → 00:05:22 เหงื่อแตกใจสั่นอันเนี้ยเจอได้หมดเลยนะ
00:05:22 → 00:05:25 ครับคราวนี้ภาวะแทรกซ้อนที่เรากลัวจากโรค
00:05:25 → 00:05:27 ภาวะหัวใจเต้นเร็วเนี่ยก็คือเรื่องของหัว
00:05:27 → 00:05:30 ใจวายหรือหัวใจล้มเหลวซึ่งอันเนี้ยเป็น
00:05:31 → 00:05:33 อันตรายมากๆครับแต่อย่างที่บอกมาเนี่ยบาง
00:05:33 → 00:05:35 คนอาจจะยังไม่รู้ตัวะได้ยซ้ำว่าเป็นโรค
00:05:35 → 00:05:37 นี้อยู่เพราะใน 1,000 คนน่ะมีคนเป็นโรค
00:05:37 → 00:05:40 หัวใจเต้นผิดจังหวะถึง 40 คนโรคหัวใจเต้น
00:05:40 → 00:05:42 ผิดจังหวะเนี่ยที่จริงมันมีหลากหลาย
00:05:42 → 00:05:44 ประเภทมากไม่ต่ำกว่า 10 อันะกันแต่อันที่
00:05:44 → 00:05:47 smart watch เนี่ยสามารถจับได้ก็คือโรค
00:05:47 → 00:05:50 หัวใจห้องบนเต้นสั่นพริ้วหรือที่หมอๆ
00:05:50 → 00:05:52 เรียกกันว่า aip นั่นเองโรคหัวใจห้องบน
00:05:52 → 00:05:54 เต้นสั่นพริ้วถ้าปล่อยไว้นานสามารถนำไป
00:05:54 → 00:05:57 สู่โลดหลอดเลือดสมองภาวะหัวใจล้มเหลวและ
00:05:57 → 00:05:59 บางคนยังไม่รู้ตัวว่าเป็นซะด้วยซ้ำแล้ว
00:05:59 → 00:06:01 หัวใจห้องบนเต้นสั่นพริ้วขอเรียกสั้นๆว่า
00:06:01 → 00:06:03 aip แล้วกันเพราะอันนั้นมันยาวเกินจำไม่
00:06:03 → 00:06:06 ค่อยได้เนาะก่อนเข้าใจ aip เนี่ยเราต้อง
00:06:06 → 00:06:08 มาดูว่าหัวใจเราทำงานกันยังไงนะครับเนาะ
00:06:08 → 00:06:11 อย่างแรกหัวใจเราแบ่งทั้งหมดเป็น 4 ห้อง
00:06:11 → 00:06:14 ข้างบน 2 ข้างล่าง 2 ข้างบนเนี่ยมีหน้า
00:06:14 → 00:06:16 ที่ส่งเลือดจากห้องข้างบนมาสู่ห้องด้าน
00:06:16 → 00:06:18 ล่างแล้วหลังจากนั้นห้องด้านล่างเนี่ยก็
00:06:18 → 00:06:20 จะส่งเลือดไปสู่ต่างๆอวัยวะในร่างกายของ
00:06:21 → 00:06:23 เราถูกมั้ยครับแต่ในภาวะของ A เนี่ยไอ้
00:06:23 → 00:06:26 ห้องข้างบนเนี่ยมันไม่ยอมส่งเลือดไปห้อง
00:06:26 → 00:06:29 ข้างล่างแล้วมันสั่นเต้นผิดจังหวะคือ
00:06:29 → 00:06:32 กระแสไฟฟ้าข้างบนน่ะมันรวนไปหมดพูดง่ายๆ
00:06:32 → 00:06:34 แล้วเลือดมันก็เลยคั่งอยู่ในนั้นบางคน
00:06:34 → 00:06:37 เนี่ยจังหวะเต้นแค่ห้องข้างบนน่ะสูงไปได้
00:06:37 → 00:06:40 ถึง 400 ครั้งเลยนะอือเพราะฉะนั้นเนี่ย
00:06:40 → 00:06:42 โลกนี้เนี่ยมันก็จะทำให้เลือดที่มันควรลง
00:06:42 → 00:06:45 ไปด้านล่างไม่ลงไปแล้วเลือดมันก็เลยไม่
00:06:45 → 00:06:48 ประจัดกระจายในร่างกายของเราก็เป็นลมหรือ
00:06:48 → 00:06:51 มดสติได้เลยทีเดียวคราวนี้เนี่ยสิ่งที่
00:06:51 → 00:06:53 น่ากลัวคือมันอาจเกิดลิ่มเลือดในห้องบน
00:06:53 → 00:06:56 ตรงนั้นได้แล้วส่งไปที่สมองของเราเพราะ
00:06:56 → 00:06:58 ฉะนั้นเนี่ยคนที่เป็นโรคเอิเนี่ยอาจจะมี
00:06:58 → 00:07:00 ความเสี่ยงที่จะเป็นเป็นโรคหลอดเรือวสมอง
00:07:00 → 00:07:03 หรือเป็นสตกอ่ะได้ถึง 5 เท่าเลยทีเดียว
00:07:03 → 00:07:05 แล้วอัตราความเสียชีวิตอ่ะได้ถึง 3 เท่า
00:07:05 → 00:07:08 เพราะฉะนั้นเนี่ยสิ่งที่สำคัญคือคุณต้อง
00:07:08 → 00:07:10 ป้องกันไว้ก่อนคราวนี้มันอาจจะฟังดูน่า
00:07:10 → 00:07:12 กลัวมากเรื่องของเป็นโรค afif เนี่ยแต่
00:07:12 → 00:07:14 จริงๆแล้วเราก็สามารถป้องกันมันก่อนได้
00:07:14 → 00:07:17 สำหรับคนที่เป็นโรคนี้อยู่แล้วก็หมออยาก
00:07:17 → 00:07:19 บอกว่าคุณควรทานยาที่หมอเขาให้มาอย่าง
00:07:19 → 00:07:22 สม่ำเสมอนะครับแต่อย่างที่เราพูดไปหลายคน
00:07:22 → 00:07:25 ไม่รู้ตัวเพราะฉะนั้นเนี่ยลองไปตรวจก่อน
00:07:25 → 00:07:27 นะครับด้วยคลื่นหัวใจหรือว่าเทคโนโลยี
00:07:27 → 00:07:29 สมัยเนี้ยมันสามารถดีทคได้ว่าคุณน่ะมี
00:07:30 → 00:07:32 โอกาสเสี่ยงหรือเป็นภาวะนี้หรือเปล่า
00:07:32 → 00:07:35 เพื่อจะเราจะได้ป้องกันนะครับเนาะไม่ให้
00:07:35 → 00:07:37 เกิดโรคนี้ขึ้นได้แต่นอกเหนือจากนั้นแล้ว
00:07:37 → 00:07:40 เนี่ยคุณก็สามารถมอนิเตอรทุกๆวันเวลาคุณ
00:07:40 → 00:07:42 อยู่บ้านคุณเวลาคุณนอนคุณนั่งหรือคุณออก
00:07:42 → 00:07:45 กำลังกายเนี่ยว่ามันมีจังหวะการเต้นหัว
00:07:45 → 00:07:48 ของหัวใจที่ผิดปกติหรือเปล่าก็คือการใส่
00:07:48 → 00:07:50 อุปกรณ์อย่างเช่น smart watch นั่นเองนะ
00:07:50 → 00:07:52 ครับเพราะว่าอุปกรณ์เนี้ยมันสามารถ detect
00:07:52 → 00:07:54 เรื่องของ afif ได้ครับมีอีกอันนึงที่
00:07:54 → 00:07:57 สำคัญเนาะก็คือว่าดูว่าหัวใจคุณน่ะในการ
00:07:57 → 00:08:00 นอนเป็นยังไงใช่มยหายหายใจเพียงพอหรือ
00:08:00 → 00:08:03 เปล่าหรืออีกอันนึงก็คือดูพวก HRV HRV
00:08:03 → 00:08:06 คือ heart rate viability ก็คือดูว่า
00:08:06 → 00:08:08 ร่างกายของคุณเนี่ยเมื่อมีการเปลี่ยน
00:08:08 → 00:08:10 กิจกรรมหัวใจของคุณมีการเต้นแลเปลี่ยน
00:08:10 → 00:08:13 แปลงมากน้อยแค่ไหนเพราะว่าเมื่อคุณมี HRV
00:08:13 → 00:08:15 ที่สูงก็หมายถึงว่าร่างกายคุณ adap หรือ
00:08:15 → 00:08:17 เปลี่ยนแปลงกับกิจกรรมเหล่านั้นได้ดีแป
00:08:17 → 00:08:20 ว่ารงาคุณค่อนข้างแข็งแรงแต่ถ้าคุณมี HRV
00:08:20 → 00:08:23 ที่ต่ำเช่นแบบแทนที่แบบคุณไปวิ่งแล้วหัว
00:08:23 → 00:08:25 ใจมันจะเต้นสูงขึ้นแล้วก็มันต่ำลงถ้าคุณ
00:08:25 → 00:08:27 พักอย่างรวดเร็วแล้วมันมีการเปลี่ยนแปลง
00:08:27 → 00:08:29 ค่อนข้างน้อยนหมายวว่าร่างกายคุณน่ะมี
00:08:29 → 00:08:31 ภาวะความเครียดค่อนข้างเยอะอันนี้ก็เป็น
00:08:31 → 00:08:33 หนึ่งในตัวที่เราสามารถบอกได้ว่าเออร่าง
00:08:33 → 00:08:35 กายเราตอนนี้ฟิตพอมยหรือเรามีภาวะความ
00:08:36 → 00:08:37 เครียดมากหรือเปล่าเพราะทุกอย่างอ่ะมัน
00:08:37 → 00:08:39 กระทบกับสุขภาพเราหมดเลยคราวนี้หมออยาก
00:08:39 → 00:08:42 เจาะลึกเกี่ยวกับการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ
00:08:42 → 00:08:44 หรือว่า ecg นิดนึงขอเรียกว่า ecg แล้ว
00:08:44 → 00:08:46 กันเนาะเพราะว่าอะไรเพราะว่าจริงๆแล้ว
00:08:46 → 00:08:48 เมื่อเราอายุ 20 ปีขึ้นไปอ่ะทุกคนควรตรวจ
00:08:48 → 00:08:50 ecg เพราะว่าเราอ่ะอาจจะไม่รู้ว่าเรามี
00:08:50 → 00:08:52 การเต้นหัวใจที่ผิดปกติหรือเปล่าเพราะ
00:08:52 → 00:08:54 อย่างที่หมอจิมมี่พูดไปว่าบางคนน่ะมี
00:08:54 → 00:08:57 อาการหัวใจเต้นผิดปกตินะแต่ไม่รู้ตัวเลย
00:08:57 → 00:08:59 ฉะนั้นถ้าคุณตรวจนิดนึงก็ช่วยได้มันเป็น
00:08:59 → 00:09:01 แบบ basic screening Test มากที่คุณควร
00:09:01 → 00:09:04 จะตรวจคุณก็แค่เข้าไปที่โรงพยาบาลใช่ไหมม
00:09:04 → 00:09:07 แล้วก็นอนบนเตียงติดแป๊ะๆๆนิดนึงชาเจลอ่า
00:09:07 → 00:09:10 แล้วภายใน 5 นาทีมันก็ส่งสัญญาณคลื่นออก
00:09:10 → 00:09:12 มาเป็นกราฟให้คุณดูเลยกราฟเหล่าเนี้ยเป็น
00:09:12 → 00:09:15 การบอกว่าสัญญาณคลื่นหัวใจของคุณน่ะในหัว
00:09:15 → 00:09:18 ใจทำงานเป็นยังไงบ้างมันส่งสัญญาณไปที่
00:09:18 → 00:09:21 หัวใจห้องบนหัวใจห้องล่างเต้นพร้อมกันม
00:09:21 → 00:09:24 จังหวะเป็นยังไงเร็วหรือช้าไปหรือเปล่า
00:09:24 → 00:09:26 ถ้าเร็วเกินไปก็เป็นโรคหัวใจเต้นเร็วอย่า
00:09:26 → 00:09:28 หมอจิมมี่พูดช้าไปเป็นหัวใจที่เต้นช้าไป
00:09:29 → 00:09:31 หรือว่าถ้ามันเต้นแบบปกติไปเลยอย่างเงี้ย
00:09:31 → 00:09:33 เออก็เป็นอีก category นึงเนาะฉันเลยอยาก
00:09:33 → 00:09:36 บอกว่าการตรวจ ecg เป็นอะไรที่สำคัญแต่
00:09:36 → 00:09:38 ว่าถ้าเราจะไปโรงพยาบาลทุกๆครั้งเลยก็อาจ
00:09:38 → 00:09:40 จะยากก็เลยแบบว่าอาจจะมีอะไรสักอย่าง
00:09:40 → 00:09:42 smart watch ก็ได้ Smart D ก็ได้ที่
00:09:42 → 00:09:44 สามารถตรวจแบแค่ผิดปกตินิดนึงอ่ะก็สามารถ
00:09:44 → 00:09:46 ช่วยคุณได้แล้วว่าเออคุณน่ะควรจะไปโรง
00:09:46 → 00:09:48 พยาบาลแล้วนะอย่างเมื่อกี้ที่หมอเอมี่พูด
00:09:48 → 00:09:50 มาเรื่องของ Smart Device เนี่ยก็ไปอ่าน
00:09:50 → 00:09:53 มาเจอวิจัยนึงแล้วกันเขาบอกว่าเขาอยากดู
00:09:53 → 00:09:56 ว่าเรื่องของการใส่ Smart Watch เนี่ย
00:09:56 → 00:09:59 มันสามารถตรวจหรือ detect เรื่องของการ
00:09:59 → 00:10:01 ผิดปกติของจังหวะเต้นของหัวใจหรือเปล่านะ
00:10:01 → 00:10:04 ครับเขาก็เอาคนมาประมาณ 41,000 คนนะครับ
00:10:04 → 00:10:07 เนาะที่ไม่เคยเป็นโรคหัวใจมาก่อนนะอือ
00:10:07 → 00:10:11 แล้วใส่เครื่องเครื่องวซเนี้ยตลอดเวลาเลย
00:10:11 → 00:10:14 ระยะเวลาประมาณ 117 วันแล้วดูไปว่ามี
00:10:14 → 00:10:17 อาการอะไรหรือเปล่าสบาบคนที่ไม่มีอาการก็
00:10:17 → 00:10:20 ดีสำหรับเขาแปลว่าเขาไม่มีโรคนี้แต่ถ้ามี
00:10:21 → 00:10:23 การผิดปกติของจังหวะเต้นของหัวใจแบบไม่
00:10:23 → 00:10:27 ฉุกเฉินนะทางโรงพยาบาลก็จะส่งเครื่อง ecg
00:10:27 → 00:10:29 แบบ Real Time มาให้ที่บ้านแล้วติดดูดู
00:10:29 → 00:10:31 ว่าเป็นยังไงหรือเปล่าแต่สำหรับคนฉุกเฉิน
00:10:31 → 00:10:34 แน่นอนต้องไปโรงพยาบาลนะครับเนาะพอผ่านไป
00:10:34 → 00:10:37 ทั้งหมด 117 วันแล้วเนี่ยก็เลยเอาผลมาดู
00:10:37 → 00:10:40 สำหรับคนที่มีจังหวะเต้นหัวใจที่ผิดปกติ
00:10:40 → 00:10:42 ที่โชว์ในเรื่องของ smart watch เนี่ยก็
00:10:42 → 00:10:45 เอามา compare กับเครื่อง ecg ที่มันตรวจ
00:10:45 → 00:10:47 แบบเร Time จังหวะเต้นของหัวใจสรุปแล้ว
00:10:47 → 00:10:51 ว่ามันคล้ายและตรงกันมากถึง 84% เลยที
00:10:51 → 00:10:53 เดียวแล้วคราวนี้เราก็มาดูว่าเอ้ยมันเป็น
00:10:53 → 00:10:55 ประเภศไหนอีกของจังหวะเต้นของหัวใจที่ผิด
00:10:55 → 00:10:58 ปกติสรุปแล้วในตรงเนี้ยทั้งหมดเนี่ยมี
00:10:58 → 00:11:02 ทั้งหมด 3 15% ที่เป็นโรค afif นั่นเอง
00:11:02 → 00:11:05 เพราะฉะนั้นเขาก็เลยมีข้อสันนิษฐานว่าการ
00:11:05 → 00:11:07 ใส่พวก smart watch พวกนี้เนี่ยมัน
00:11:07 → 00:11:10 สามารถทำให้คุณติดตามสุขภาพของคุณและป้อง
00:11:10 → 00:11:13 กันไม่ให้เกิดโรคได้ในอนาคตครับอืส่วนของ
00:11:13 → 00:11:16 ทางพี่ที่ไปดูเหมือนกันเนาะก็คือว่าอย่าง
00:11:16 → 00:11:18 ของหมอไปดูก็จะพบว่ามันมีอีก study นึง
00:11:18 → 00:11:22 เหมือนกันที่ทำในคนไข้ประมาณ 100 คนคนไข้
00:11:22 → 00:11:24 100 คนเนี่ยคือแบบมีปัญหาเรื่องลิ้นหัว
00:11:24 → 00:11:26 ใจอ่ะมีปัญหาซึ่งลิ้นหัวใจต้องบอกก่อนว่า
00:11:26 → 00:11:28 เรามีหัวใจ 4 ห้องใช่มั้ยอันนี้เป็นลิ้น
00:11:28 → 00:11:31 หัวใจในห้องบนเนาะก็คือห้องบนมันเปิดปิด
00:11:31 → 00:11:33 ได้ไม่ดีทำให้หัวใจห้องบนส่งเลือดมาห้อง
00:11:33 → 00:11:35 ล่างได้ไม่ค่อยโอเคก็คือพอมีปัญหาปุ๊บ
00:11:35 → 00:11:37 เนี่ยเค้าก็เลยต้องเปลี่ยนใส่ลิ้นหัวใจ
00:11:37 → 00:11:40 เทียมใส่ลิ้นหัวใจเทียมโดยการใส่สายสวนก็
00:11:40 → 00:11:42 คือไม่ได้ผ่าตัดใหญ่ใส่สายสวนเข้าไปเลย
00:11:42 → 00:11:44 คราวนี้พอใส่สายสวนเสร็จปุ๊บเปลี่ยนลิ้น
00:11:44 → 00:11:47 หัวใจเสร็จปุ๊บเนี่ยเขาคก็เลยมาให้คนไข้
00:11:47 → 00:11:49 เนี่ยใส่พวก smart watch ดูเนาะเพื่อจะ
00:11:49 → 00:11:52 ดูว่าเอ๊ะคนไข้เนี่ยหัวใจเต้นเป็นยังไง
00:11:52 → 00:11:55 จังหวะถูกต้องมั้ยเร็วไปช้าไปหรือเปล่า
00:11:55 → 00:11:57 เพื่ออะไรเพื่อป้องกันการเกิดโรคแทรกซ้อน
00:11:57 → 00:12:00 อันนี้อันที่ 1 อันที่ที่ 2 เนี่ยการใส่
00:12:00 → 00:12:03 สิ่งเหล่าเนี้ยปรากฏพบว่ามันสามารถช่วย
00:12:03 → 00:12:05 ที่ไม่ให้หมอเนี่ยต้องต้องใส่เครื่องเค้า
00:12:05 → 00:12:08 เรียกเครื่อง Pac maker เนาะหรือเครื่อง
00:12:08 → 00:12:11 กระตุ้นไฟฟ้าหัวใจโดยที่ไม่จำเป็นอ่าคน
00:12:11 → 00:12:14 ที่เจอเต้นผิดปกติก็ค่อยใส่เพ maker ไง
00:12:14 → 00:12:16 ส่วนคนที่ไม่เจอคุณก็ไม่จำเป็นต้องใส่
00:12:16 → 00:12:18 แล้วพอมาเปรียบเทียบเนากับคนที่ใช้
00:12:18 → 00:12:21 เครื่อง ecg เนี่ยก็ไม่ค่อยต่างกันเลยก็
00:12:21 → 00:12:24 เห็นได้ว่าการที่เราใส่สรวเนี่ยแล้วกับคน
00:12:24 → 00:12:26 ไข้ที่เพิ่งผ่าตัดพวกลิ้นหัวใจมาเนี่ยก็
00:12:26 → 00:12:29 ทำให้มันได้ผลค่อนข้างดีประหยัดเงินได้
00:12:29 → 00:12:31 แล้วก็ป้องกันโลกในอนาคตได้ด้วยสำหรับ
00:12:31 → 00:12:36 คลิปเต็มๆสามารถดูตรงนี้ได้เลยนะครับ