00:00:00 → 00:00:03 ค่ะก็วันนี้ก็เป็นอีกโอกาสนึงนะคะโอ๊ค
00:00:03 → 00:00:06 เพราะว่าเอ่อวันที่วันพฤหัสบดีที่ 2 ของ
00:00:06 → 00:00:09 เดือนมีนาคมทุกปีใช่มั้ยคะที่จะถูกกำหนด
00:00:09 → 00:00:12 ให้เป็นวันไตโลกพี่ก็เลยอยากจะมาพูดคุย
00:00:12 → 00:00:15 เกี่ยวกับเรื่องโรคไตว่าทุกวันเเนี่ยมี
00:00:15 → 00:00:18 อัตราการผู้ป่วยที่เป็นโรคไตในประเทศไทย
00:00:18 → 00:00:21 เนี่ยน่าห่วงกังวลมากน้อยแค่ไหนการใช้
00:00:21 → 00:00:25 ชีวิตไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ที่มันแบบ
00:00:25 → 00:00:28 สามารถเข้าถึงอาหารได้ง่ายแล้วบางครั้ง
00:00:28 → 00:00:31 การทำงานก็ติดต่อแบบเอ่อหลายชั่วโมง
00:00:31 → 00:00:34 ชั่วโมงการออกกำลังกายก็น้อยลงตรงนี้มัน
00:00:34 → 00:00:37 จะเป็นปัจจัยให้คนเราเนี่ยป่วยเกี่ยวกับ
00:00:37 → 00:00:40 โรคไตมากขึ้นหรือเปล่าหรือถ้าเป็นแล้วมี
00:00:41 → 00:00:44 วิธีการรักษาอย่างไรบ้างวันนี้นะคะได้รับ
00:00:44 → 00:00:47 เกียรติจากนายแพทย์ศิรวิทย์บันทรวันค่ะ
00:00:47 → 00:00:50 แพทย์อายุรกรรมโรคไตโรงพยาบาลไทยนครินทร์
00:00:50 → 00:00:52 ตอนนี้คุณหมออยู่ในสายกับเราแล้วนะคะ
00:00:52 → 00:00:55 สวัสดีค่ะคุณหมอคะสวัสดีครับคุณหมอครับ
00:00:55 → 00:00:57 สวัสดีครับผมหมอศิรวิทย์นะครับสวัสดีคุณ
00:00:57 → 00:01:00 ขวัญคุณโอ๊คแล้วก็ผู้ฟังทางบ้านทุกท่าน
00:01:00 → 00:01:03 ครับค่ะสวัสดีครับคุณหมอครับสวัสดีค่ะคุณ
00:01:03 → 00:01:07 หมอคะโรคไตเนี่ยในปัจจุบันเนี่ยเอ่อมีแบบ
00:01:07 → 00:01:09 อัตราของผู้ป่วยที่เข้าไปในโรงพยาบาลที่
00:01:09 → 00:01:12 คุณหมอประสบเจอมาเนี่ยเยอะกว่าก่อนหน้า
00:01:12 → 00:01:15 นี้หรือในอดีตมากน้อยแค่ไหนคะอ๋อใช่ครับ
00:01:15 → 00:01:19 ผมคือสถานการณ์โรกไตในปัจจุบันของประเทศ
00:01:19 → 00:01:22 ไทยนะครับข้อมูลจากอ่าสมาคมโลกไตแห่ง
00:01:22 → 00:01:26 ประเทศไทยทำการศึกษาไว้เนี่ยพบว่าคนไทย
00:01:26 → 00:01:28 เนี่ยป่วยเป็นโรคทรายเรื้อรังประมาณร้อย
00:01:28 → 00:01:31 ละ 17 นะครับค่ะซึ่งคิดเป็นผู้ป่วยราว
00:01:32 → 00:01:35 ประมาณ 8 ล้านคนนะครับทั่วประเทศแล้วก็ใน
00:01:35 → 00:01:38 จำนวน 8 ล้านคนเนี้ยมี 80,000 คนที่เ่อ
00:01:38 → 00:01:41 กำลังเข้าสู่ไตวายเรื้อหลังระยะสุดท้าย
00:01:41 → 00:01:45 และต้องการอ่าต้องการรับการบำบัดทดแทนไป
00:01:45 → 00:01:47 ตัวเลขนี้มีแนวโน้มค่อยๆเพิ่มขึ้นทุกปี
00:01:47 → 00:01:52 ทุกปีครับผมค่ะอืแสดงว่ามันก็มีแนวโน้ม
00:01:52 → 00:01:56 ที่น่าห่วงกังวลนะคะก็พูดถึงเมื่อกี้ขวัญ
00:01:56 → 00:01:59 พูดถึงไลฟ์สไตล์ของคนที่อาจจะเข้าถึง
00:01:59 → 00:02:02 อาหารได้ง่ายอาหารที่เราคุ้นชินนกันอาจจะ
00:02:02 → 00:02:06 เป็นพระความเค็มหรือเรื่องของการที่แบบ
00:02:06 → 00:02:10 เอ่ออาหารหวานอย่างที่เราตั้งหัวข้อไว้
00:02:10 → 00:02:13 เกี่ยวกับเรื่องของถ้าเรากินชาบูบุฟเฟ่ต
00:02:13 → 00:02:16 ชานมไข่มุกทุกวันเนี่ยให้รักไตรักไตให้
00:02:16 → 00:02:19 มากๆก่อนที่จบที่โรงพยาบาลสำหรับหัวข้อ
00:02:19 → 00:02:22 นี้เนี่ยการเข้าถึงอาหารพวกเนี้ยมันเป็น
00:02:22 → 00:02:24 อันตรายมากน้อยแค่ไหนถ้ารับประทานทุกวัน
00:02:24 → 00:02:29 น่ะคะคุณหมอคะอ๋อครับการรับประทานอาหารใน
00:02:29 → 00:02:32 เ่อเ่อตามหัวข้อนะครับมีชาบูบุฟเฟ่ต์ครับ
00:02:32 → 00:02:35 ซึ่งเป็นการรับประทานอาหารในปริมาณที่มาก
00:02:35 → 00:02:38 ๆนะครับชานมทุกวันแบบเนี้ยครับเป็นการรับ
00:02:38 → 00:02:42 ประทานอาหารเอ่อที่มีปริมาณมากเกินไปครับ
00:02:42 → 00:02:45 ค่ะอย่างเช่นชาบูเนี่ยก็คือเราก็ต้อง
00:02:45 → 00:02:48 พยายามรับประทานเนื้อสัตว์หรือว่ารับ
00:02:48 → 00:02:50 ประทานน้ำซุปของเขาคเข้าไปนะครับซึ่งตรง
00:02:50 → 00:02:53 เนี้ยมีทั้งโซเดียมมีทั้งผงชูรสซึ่งเป็น
00:02:53 → 00:02:56 อันตรายกับไตนะครับนอกจากนี้การรับประทาน
00:02:56 → 00:02:59 อาหารหวานอย่างเช่นชานมเนี่ยให้แคลอรีสูง
00:02:59 → 00:03:01 มากนะครับครับอ่าการรับประทานเป็นประจำ
00:03:01 → 00:03:04 ทุกวันเนี่ยจะทำให้น้ำหนักเกินได้แล้วก็
00:03:04 → 00:03:07 การที่เรารับประทานอาหารปริมาณมากเข้าไป
00:03:07 → 00:03:10 ย่อมเป็นภาระของร่างกายในการที่จะกำจัด
00:03:10 → 00:03:13 ของเสียออกไปซึ่งอวัยวะที่ต้องคอยทำหน้า
00:03:13 → 00:03:15 ที่กำจัดของเสียออกจากร่างกายก็คือไตครับ
00:03:15 → 00:03:17 อืค่ะ
00:03:17 → 00:03:21 ครับเพราะว่าจริงๆเป็นหนวยงานที่พิทักษ์
00:03:21 → 00:03:24 นะพิทักษ์ร่างกายส่วนสำคัญเลยที่แบบจะ
00:03:24 → 00:03:27 ต้องกรองสิ่งที่เราเอาเข้าสู่ร่างกายนะ
00:03:27 → 00:03:32 คุณหมอนะอ๋อใช่ครับผมก็คือไตเนี่ยอ่าเป็น
00:03:32 → 00:03:36 อวัยวะรูปเหมือนถั่วนะครับอยู่ที่บริเวณ
00:03:36 → 00:03:39 ด้านหลังของคนเรานะครับมี 2 ข้างนะครับ
00:03:39 → 00:03:42 ข้างนึงเนี่ยขนาดประมาณสัก 10-11 ซมนะ
00:03:42 → 00:03:45 ครับเป็นอวัยวะขนาดเล็กๆแต่ว่าอวัยวะเล็ก
00:03:45 → 00:03:49 ๆ 2 ข้างเนี้ยต้องรับภาระจากเซลล์ทั้ง
00:03:49 → 00:03:52 ร่างกายจากมวลน้ำหนักตัวทั้งร่างกายทั้ง
00:03:52 → 00:03:55 หมดที่จะคอยสร้างของเสียออกมานะครับเพราะ
00:03:55 → 00:03:58 ว่าเซลล์ต้องมีการใช้พลังงานอ่าต้องมีการ
00:03:58 → 00:04:01 หายใจนะครับเรางงี้ล้วนทำให้เกิดของเสีย
00:04:01 → 00:04:03 ขึ้นในกระแสเลือดแล้วก็ไตเนี่ยเป็นคนที่
00:04:03 → 00:04:07 คอยทำหน้าที่ขับของเสียออกจากร่างกายนะ
00:04:07 → 00:04:12 ครับอค่ะครับก็นอกจากนี้นะครับเซซเนี่ย
00:04:12 → 00:04:15 ยังมีหน้าที่อย่างอื่นๆอีกนะครับเช่นควบ
00:04:15 → 00:04:18 คุมสมดุลน้ำและเกลือแร่นอกจากขับของเสีย
00:04:18 → 00:04:21 แล้วถ้ามีเกลือแร่มากผิดปกติก็จะขับออก
00:04:21 → 00:04:25 ทางปัสสาวะเช่นกันถ้ามีเกลือแร่ไหนที่
00:04:25 → 00:04:28 ร่างกายมีน้อยนะครับไตก็จะพยายามเก็บไว้
00:04:28 → 00:04:32 ในร่างกายนะครับก็ไม่ขับออกตายยังมีบทบาท
00:04:32 → 00:04:34 นะครับในการสร้างฮอร์โมนออกมาควบคุมความ
00:04:34 → 00:04:37 ดันโลหิตด้วยนะครับในคนที่เป็นความดัน
00:04:37 → 00:04:40 โลหิตสูงเนี่ยก็ต้องสงสัยว่าเอ๊ะมีปัญหา
00:04:40 → 00:04:43 ที่ตายร่วมด้วยหรือเปล่านะครับอนอกจากนี้
00:04:43 → 00:04:47 ยังควบคุมการสร้างเม็ดเลือดแดงนะครับแล้ว
00:04:47 → 00:04:50 ก็มีผลต่อวิตามินดีครับกระดูกครับ
00:04:50 → 00:04:53 แคลเซียมนะครับก็หน้าที่ของไตมีหลายอย่าง
00:04:53 → 00:04:58 เลยครับผมอืค่ะเพราะว่าจริงๆแล้วเนี่ยตาม
00:04:58 → 00:05:03 อัตราที่เอ่อตามสถิติที่คุณหมอพบอ่ะค่ะคน
00:05:03 → 00:05:06 ที่ป่วยโรคไตเนี่ยมักจะเป็นผู้สูงอายุ
00:05:06 → 00:05:08 อย่างเดียวหรือเปล่าหรือกลุ่มเสี่ยงมี
00:05:08 → 00:05:12 กลุ่มอื่นๆด้วยเหรอคะออ้ครับอันนี้เราถ้า
00:05:12 → 00:05:15 เกิดการข้อมูลจากสมาคมโลกไตนะครับตามตาม
00:05:15 → 00:05:19 สถิติของคนไข้ที่เป็นไรเรื้อรังในประเทศ
00:05:19 → 00:05:21 ไทยเนี่ยเพราะว่าสาเหตุอันดับ 1 กับ
00:05:21 → 00:05:24 อันดับ 2 นะครับก็คือเบาหวานและความดัน
00:05:24 → 00:05:27 โลหิตสูงเป็นสาเหตุถึง 70% นะครับที่เป็น
00:05:27 → 00:05:30 ทำให้เกิดไตเรื้อรังนะครับอันนี้ก็จะเป็น
00:05:30 → 00:05:33 หลักเลยนะครับ 2 อันนี้ส่วนเรื่องอายุ
00:05:33 → 00:05:38 เนี่ยก็เราค้นพบว่าอายุที่มีความเสี่ยง
00:05:38 → 00:05:40 สูงครับต่อโรกไตเลื้อรังคืออายุตั้งแต่ 60
00:05:40 → 00:05:46 ปีขึ้นไปครับอืค่ะก็แสดงว่าเอ่อเช่าที่
00:05:46 → 00:05:49 เราเราๆหลายๆคนนะเอารวมถึงคงด้วก็ได้พี่
00:05:49 → 00:05:54 ขวัญคุณหมอเอ่อเราคิดว่าใครจะเป็นโรคไต
00:05:54 → 00:05:57 สักักคนสักครั้งนึงเนี่ยไม่ใช่สักครั้งจะ
00:05:57 → 00:06:01 เป็นโรคไตกันได้เนี่ยนะครับมันจะต้องกิน
00:06:01 → 00:06:03 เฉพาะเขาเรียกว่าอะไรอ่ะเน้นไปทางเรื่อง
00:06:03 → 00:06:06 ของความเค็มเรื่องเป็นของความเป็นโซเดียม
00:06:07 → 00:06:11 เยอะๆเท่านั้นถึงจะไปในทิศทางที่เสี่ยงจะ
00:06:11 → 00:06:16 เป็นโรคไตแต่จริงๆแล้วเอ่อหวานมันไปก็ทำ
00:06:16 → 00:06:20 ให้ไตได้รับผลกระทบได้เหมือนกันเหมือนกับ
00:06:20 → 00:06:24 การกินโซเดียมเยอะๆอันนี้เข้าใจถูกแล้ว
00:06:24 → 00:06:26 หรือยังครับคุณหมอครับใช่ครับเข้าใจถูก
00:06:26 → 00:06:30 แล้วครับเพราะว่าอ่าอาหารหวานเยอะหรือมัน
00:06:30 → 00:06:34 เยอะหรือว่าเค็มเยอะเยมีผลต่อเบาหวานนะ
00:06:34 → 00:06:36 ครับทำให้เสี่ยงต่อเบาหวานแล้วก็ความดัน
00:06:36 → 00:06:39 โลหิตสูงซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคไต
00:06:39 → 00:06:43 เรื้อรังตามมาอนอกจากนี้นะครับไตเนี่ยก็
00:06:43 → 00:06:48 ทำงานสัมพันธ์กับระบบอวัยวะอื่นๆของร่าง
00:06:48 → 00:06:51 กายด้วยนะครับโดยเฉพาะระบบไหลเวียนโลหิต
00:06:51 → 00:06:54 ก็คือไตจะกรองของเสี่ยวมาได้เนี่ยต้องมี
00:06:54 → 00:06:57 เลือดที่ไหลมาตามเส้นเลือดแล้วก็มาผ่านอง
00:06:57 → 00:07:00 ที่ไตนะครับถึงจะขับของเสียมาได้ดังนั้น
00:07:00 → 00:07:03 ผู้ที่มีโรคหัวใจและหลอดเลือดเนี่ยก็จัด
00:07:03 → 00:07:06 อยู่ในกลุ่มนะที่เสี่ยงต่อโรคไตเรื้อรัง
00:07:06 → 00:07:09 เช่นกันครับอือครับอย่างงี้อย่างงี้เอง
00:07:10 → 00:07:14 เนี่ยเอ่ออะไรที่ทำให้ไปเอ่อเสื่อมสภาพ
00:07:14 → 00:07:18 หรือว่าเอ่อมุ่งไปทางการเป็นโรคไตเรื้อ
00:07:18 → 00:07:22 รังได้ได้ไวกว่ากันครับไม่เอ่อระหว่าง
00:07:22 → 00:07:25 เอ่อกินหวานกินมันกินเค็มของคุณหมอหรือ
00:07:25 → 00:07:30 ว่าอืมันต้องผสมผสานอย่างไร
00:07:30 → 00:07:35 ครับก็อ่ามักจะผสมผสานกันครับผมก็คือ
00:07:35 → 00:07:41 ประกอบด้วยทั้งเค็มหวานมันแล้วก็อ่ามีโรค
00:07:41 → 00:07:43 ประจำตัวด้วยนะครับเป็นกลุ่มเสี่ยงมีโรค
00:07:43 → 00:07:48 หัวใจและหลอดเลือดด้วยครับเอิ่มแต่ที่ถ้า
00:07:48 → 00:07:51 เป็นข้อมูลทางสถิติที่เก็บรวบรวมก็จะเป็น
00:07:51 → 00:07:54 ว่าหวานหวานนะครับเปาหวานเนี่ยเกิดจาก
00:07:54 → 00:07:56 อาหารที่หวานหรือว่ารับประทานหวานหรือ
00:07:56 → 00:07:58 คาร์โบไฮเดรตมากเกินไปเนี่ยเป็นอันดับหนึ
00:07:58 → 00:08:02 ครับอ่าส่เรื่องเค็มเนี่ยเป็นเป็นที่ทราบ
00:08:02 → 00:08:04 กันดีอยู่แล้วว่าเอ่อเค็มเนี่ยโซเดียมนะ
00:08:04 → 00:08:08 ครับโซเดียมทำให้ไตเนี่ยทำงานทำงานหนัก
00:08:08 → 00:08:09 ครับ
00:08:09 → 00:08:13 ออเพราะปกติเนี่ยความคุ้นเคยที่เราจะมัก
00:08:13 → 00:08:17 ได้ยินกันอยู่เสมอคือไปกับอาหารที่มีรส
00:08:17 → 00:08:21 ชาติเค็มหรือโซเดียมสูงแต่ลักษณะของหวาน
00:08:21 → 00:08:24 เนี่ยบางครั้งเนี่ยหลายๆคนก็ขาดความระมัด
00:08:24 → 00:08:27 ระวังในเรื่องของการรับประทานอาหารรสหวาน
00:08:27 → 00:08:30 เหมือนกันนะคะแล้วถ้ารับประทานอาหารรส
00:08:30 → 00:08:35 หวานจริงแหละแต่ว่าออกกำลังกายถึงเอ่อ 3
00:08:35 → 00:08:39 ครั้งต่ออาทิตย์แบบออกกำลังกายแบบ Heavy
00:08:39 → 00:08:42 เลยเต็มที่เลยค่ะคุณหมอมันพอจะแก้ต่างกัน
00:08:42 → 00:08:45 ได้มั้ยหรือมันไม่เกี่ยวกันมันมันเออใช่
00:08:45 → 00:08:51 ชดเชยกันได้มยออออครับก็เบาหวานเนี่ยก็
00:08:51 → 00:08:54 คือภาวะอ่าคนขออนุญาตเก่นกลไกการเกิดนะ
00:08:54 → 00:08:57 ครับเบาหวานเนี่ยคือภาวะน้ำตาลที่สูงใน
00:08:57 → 00:09:00 เส้นอ่าในกระแสเลือดเนี่ยค่ะทำให้เส้น
00:09:00 → 00:09:03 เลือดเกิดความเสื่อมนะครับเส้นเลือดเราจะ
00:09:03 → 00:09:05 แบ่งเป็นเส้นเลือดขนาดเล็กเส้นเลือดอย
00:09:05 → 00:09:07 แล้วก็ขนาดใหญ่โดยของไตเนี่ยเป็นเส้น
00:09:07 → 00:09:10 เลือดฝอยภาวะน้ำตาลที่สูงเนี่ยทำให้เส้น
00:09:10 → 00:09:13 เลือดฝอยที่ตเนี่ยเกิดอ่าความผิดปกติแข็ง
00:09:13 → 00:09:17 ตัวแล้วก็เสื่อมหรือว่าเ่ออุดตันไปนะครับ
00:09:17 → 00:09:21 จากเบาหวานเนี่ยแหละก็ครับดังนั้นก็
00:09:21 → 00:09:24 เ่อหลักการก็คือถ้าไปออกกำลังกายแล้วว่า
00:09:24 → 00:09:28 จะทดแทนการกินหวานได้ไค่ะในทางการแพทย์
00:09:28 → 00:09:31 เราพยายามวัดเป็นตัวเลขด้วยการตรวจวัดเ่อ
00:09:31 → 00:09:33 ระดับน้ำตาลในเลือดเลยนะครับว่าตัวเลข
00:09:33 → 00:09:36 เท่าไหร่แล้วก็ตัวเลขที่มีการใช้กันอย่าง
00:09:36 → 00:09:39 แค่หลายในการช่วยชะลอการเกือบของไตสำหรับ
00:09:39 → 00:09:42 คนเป็นเบาหวานก็คือน้ำตาลสะสมควรจะน้อย
00:09:42 → 00:09:47 กว่า 7 นะครับบิ a1c ควนจะน้อยกว่า 7%
00:09:47 → 00:09:50 ครับก็จะช่วยชะลอการเสือบของไตได้ส่วน
00:09:50 → 00:09:54 เรื่องการออกกำลังกายจะทำให้สุขภาพคนไข้
00:09:54 → 00:09:56 เนี่ยดีโดยภาพรวมอยู่แล้วซึ่งผมเห็นด้วย
00:09:56 → 00:09:59 เลยเพราะว่าทำให้ระบบหัวใจแล้วก็หเลือด
00:09:59 → 00:10:02 เนี่ยแข็งแรงการสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงไตได้
00:10:02 → 00:10:06 ดีสุขภาพโดยรวมของคนไข้ดีก็จะส่งผลดีต่อ
00:10:06 → 00:10:10 ไตไปด้วยครับอืค่ะเราคุยกันมาตั้งแต่ช่วง
00:10:10 → 00:10:13 ต้นรายการอาการของโรคไตเนี่ยมักจะเกิดจาก
00:10:13 → 00:10:16 เอ่อตัวพฤติกรรมการรับประทานอาหารการออก
00:10:16 → 00:10:22 กำลังกายที่อาจจะไม่ไม่ไม่ไม่สม่ำเสมอมัน
00:10:22 → 00:10:25 มีสาเหตุอื่นๆมพันธุกรรมเกี่ยวข้องด้วย
00:10:25 → 00:10:27 หรือเปล่าหรือมีอะไรที่คุณหมออยากจะเพิ่ม
00:10:27 → 00:10:31 เติมตรงนี้ยคะอ้อครับผมเอ่อเมื่อกี้ตอน
00:10:31 → 00:10:35 เริ่มต้นของกล่าวว่าเอ่อ 70% ของไตเรื้อ
00:10:35 → 00:10:38 รังเกิดจากเบาหวานแล้วก็ความดันโลหิตสูง
00:10:38 → 00:10:41 นะครับค่ะส่วนอีก 30% ที่เหลือจะเป็น
00:10:41 → 00:10:43 สาเหตุรองลงมายิบย่อยนะครับผมยกตัวอย่าง
00:10:43 → 00:10:47 เช่นเป็นโรคกลุ่มโรคไตอักเสบจากภูมิแพ้ตน
00:10:47 → 00:10:51 เองนะครับเช่น sle นะครับหรือว่า iga ne
00:10:51 → 00:10:53 Property นะครับชื่อเป็นภาษาอังกฤษหรือ
00:10:53 → 00:10:57 ว่าเป็นเ่อเป็นโรคนิ่วในไตหรือทางเดิน
00:10:57 → 00:11:01 ปัสสาวะนะครับแล้วก็เป็นกลุ่มโรคถุงน้ำใน
00:11:01 → 00:11:04 ไตที่มักจะเป็นจากพันธุกรรมนะครับแต่ก็มี
00:11:04 → 00:11:07 บางท่านที่เป็นไม่ได้ถ่ายทอดทางพันธุกรรม
00:11:07 → 00:11:12 ก็ได้นะครับอ่าพฤติกรรมที่ได้รับยาแก้ปวด
00:11:13 → 00:11:15 นะครับโดยเฉพาะกลุ่มเอ็นเสดหรือสารที่มี
00:11:15 → 00:11:18 พิษต่อไตเป็นประจำนะครับการติดเชื้อทาง
00:11:18 → 00:11:21 ปัสสาวะที่ติดซ้ำแล้วซ้ำอีกนะครับติด
00:11:21 → 00:11:24 เชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะที่กรวยไตหรือ
00:11:24 → 00:11:27 ว่าที่กระเพาะปัสสาวะบ่อยๆจนเกิดไตอักเสบ
00:11:27 → 00:11:31 ตามมาก็ทำให้เกิดไตเรื้อลักได้ค่ะโรคเก๊า
00:11:31 → 00:11:34 นะครับหรือระดับปดยูริกในเลือดสูงนะครับ
00:11:34 → 00:11:37 ก็ทำให้เกิดนิ่วที่เป็นยูริกในระบบทาง
00:11:37 → 00:11:39 เดิมปัสสาวะได้นะครับเกิดโรคตายเรื้อรัง
00:11:39 → 00:11:43 ตามมาได้นะครับค่ะอมีส่วนน้อยที่ไม่ทราบ
00:11:43 → 00:11:46 สาเหตุอาจจะพบประวัติเป็นโรคไตเรื้อรังใน
00:11:46 → 00:11:50 ครอบครัวโดยไม่มีสาเหตุก็ได้เช่นกันแสดง
00:11:50 → 00:11:52 ว่าโรคไตนี้ไม่ได้ส่งต่อทางพันธุกรรมใช่
00:11:52 → 00:11:56 มั้ยคะคุณหมอทางพันธุกรรมเป็นเพียงน้อย
00:11:56 → 00:12:00 ครับมีมีทางพันธุกรรมได้ได้เช่นโรคถุงน้ำ
00:12:00 → 00:12:04 ทางอ่าโรคถุงน้ำที่ตายชนิดอ่าดินเด่นก็มี
00:12:04 → 00:12:09 ครับอืค่ะถ้าหลายๆคนฟังอยู่ตอนนี้อยากจะ
00:12:09 → 00:12:13 เช็คอัพตัวเองว่าเอ๊ะฉันมีความเสี่ยงเป็น
00:12:13 → 00:12:16 โรคไตหรือเปล่าหรือไตฉันอยู่ในภาวะที่
00:12:16 → 00:12:20 เอ่อต้องรีบได้รับการตรวจสอบเนี่ยมันมี
00:12:20 → 00:12:22 สัญญาณเตือนอะไรเล็กๆน้อยๆที่พอจะสังเกต
00:12:22 → 00:12:25 ตัวเองได้บ้างมั้ยคะะ
00:12:25 → 00:12:30 โอครับส่วนใหญ่โกไเรื้อรังเราอ่าทางการ
00:12:30 → 00:12:34 แพทย์เราแบ่งเป็นระยะ 5 ระยะนะครับระยะ
00:12:34 → 00:12:37 ที่ 1 ก็คือเป็นน้อยระยะที่ 5 ก็คือเป็น
00:12:37 → 00:12:41 มากนะครับโดยแบ่งตามเ่าการตรวจเลือกดู
00:12:41 → 00:12:45 อัตรากรองของไตถ้าโรคไตในระยะแรกนะครับ 1
00:12:45 → 00:12:49 โดยประมาณก็คือ 1-3 ระยะที่ 1 ถึงระยะที่
00:12:49 → 00:12:52 3 อัตรากรองไตยังค่อนข้างดีอยู่ส่วนใหญ่
00:12:52 → 00:12:54 จะไม่มีอาการหรือไม่มีสัญญาณเตือนให้เรา
00:12:54 → 00:12:57 ทราบนะครับแต่ว่าถ้าเป็นระยะที่ 4 หรือ
00:12:57 → 00:12:59 ระยะที่ 5 ซึ่งเป็นระยะสุดสุดท้ายแล้วจะ
00:12:59 → 00:13:04 มีอาการอ่อให้ให้เห็นเยอะนะครับเช่นเ่อ
00:13:04 → 00:13:07 เท้าบวมหรือว่ามีของเสียข้างในเลือดนะ
00:13:07 → 00:13:11 ครับปัสสาวะผิดปกติแต่คำถามคือถ้าสัญญาณ
00:13:11 → 00:13:14 เกือนแรกของอ่าโรคไตคนทั่วไปเ่าอาจจะมอง
00:13:14 → 00:13:17 ข้ามหรือไม่ทราบเนี่ยคืออะไรคือบางท่านก็
00:13:17 → 00:13:20 จะกังวลสงสัยมากครับก็จากประสบการณ์ครับ
00:13:20 → 00:13:23 ตอนี้ขอตอบในความเห็นส่วนตัวว่าเ่าบาง
00:13:23 → 00:13:25 ท่านเนี่ยก็คือปัสสาวะเป็นฟองเก็จะสงสัย
00:13:25 → 00:13:28 แล้วว่าเเป็นโรคไตมั้ยซึ่งมันก็มีส่วนของ
00:13:28 → 00:13:31 ความจริงจริงอยู่บ้างว่าปัสสาวะเป็นฟอง
00:13:31 → 00:13:34 อาจจะเกิดจากโปรตีนรั่วในปัสสาวะหรือว่า
00:13:34 → 00:13:38 บางท่านมีขาบวมหรือเท้าบวมทั้ง 2 ข้างก็
00:13:38 → 00:13:40 จะสงสัยว่าตนเองเป็นโรคไตซึ่งก็มีความ
00:13:41 → 00:13:44 จริงบางส่วนเช่นกันเพราะว่าการเป็นโรคไต
00:13:44 → 00:13:47 ที่ไตขับน้ำหรือขับของเสียไม่ออกก็จะมี
00:13:47 → 00:13:51 ภาวะบวมขึ้นมาอ่าครับก็คือสรุปว่าส่วน
00:13:51 → 00:13:55 ใหญ่ไม่มีอาการครับค่ะส่วนน้อยจะมีอาการ
00:13:55 → 00:13:57 เมื่อเป็นมากแล้วกว่าจะเจอว่าเป็นเนี่ยก็
00:13:57 → 00:14:00 คือระยะที่ 4 ระยะที่ 5 ไปแล้วใช่มคะคุณ
00:14:00 → 00:14:06 หมอใช่ครับผมอค่ะเอ่อการเจอลักษณะไตไต
00:14:06 → 00:14:10 เสื่อมไตโรคไตเรืออะไรครับสงสัยไตเรามี 2
00:14:10 → 00:14:13 ข้างใช่มยคุณหมออย่างที่คุณหมอบอกมาครับ
00:14:13 → 00:14:17 อืเขาเขาเสื่อมทีละข้างหรือเขาเสื่อม
00:14:17 → 00:14:22 พร้อมๆกันครับเ่อเวลาเสื่อมก็
00:14:22 → 00:14:26 คือสาเหตุของอ่าไตเรื้อรังนะครับก็เป็น
00:14:26 → 00:14:30 จากโรคในเอ่อที่กระทบอวัยวะไปทั้งตัวนะ
00:14:30 → 00:14:33 ครับดังนั้นเวลาเสื่อมจะเสื่อมทั้ง 2
00:14:33 → 00:14:38 ข้างค่ะแต่อย่างไรก็ตามนะครับเอ่อโรคบาง
00:14:38 → 00:14:40 อย่างที่มีผลกับไตข้างเดียวเช่นเป็นนิ่ว
00:14:40 → 00:14:45 ที่ไตข้างเดียวแต่อีกข้างนึงไม่มีนิ่วอ่า
00:14:45 → 00:14:49 ผลการตรวจเลือดเนี่ยเก็จะพบว่าอัตรากรอง
00:14:49 → 00:14:52 ของไตยังดีอยู่เพราะว่าไตที่เหลือ 1 ข้าง
00:14:52 → 00:14:56 เนี่ยทำงานชดเชยอีกข้างนึงได้อือค่ะก็มี
00:14:56 → 00:15:00 จะมีเหตุการณ์แบบนี้ได้ครับอืค่ะอือส่วน
00:15:00 → 00:15:04 ใหญ่คนไข้ที่เดินเข้ามาหาคุณหมอที่โรง
00:15:04 → 00:15:06 พยาบาลแล้วเอ่อได้รับการวินิจฉัยว่าเป็น
00:15:06 → 00:15:10 โรคตตเนี่ยเข้ามาหาคุณหมอด้วยอาการเอ่อ
00:15:10 → 00:15:12 แบบไหนอย่างไรบ้าง
00:15:12 → 00:15:16 คะครับก็
00:15:16 → 00:15:18 เอิ่ม
00:15:18 → 00:15:22 เอิ่มส่วนใหญ่ก็จะมาคัดรองนะครับในคนที่
00:15:23 → 00:15:26 สงสัยหรือเป็นกลุ่มเสี่ยงเช่นคนที่มีโรค
00:15:26 → 00:15:28 ประจำตัวเป็นเบาหวานหรือความดันโลหิตสูง
00:15:29 → 00:15:32 ในทางการแพทยก็จะแนะนำให้คัดรองโรคไตใน
00:15:32 → 00:15:35 ผู้สูงอายุที่อายุมากกว่า 60 ปีหรือว่ามี
00:15:35 → 00:15:38 กลุ่มโรคไตอักเสบภูมิแพ้ตนเองโรคหัวใจและ
00:15:38 → 00:15:41 หลดเลือดก็จะแนะนำให้คัดกรองโรคไท
00:15:42 → 00:15:44 ประสบการณ์ผมส่วนใหญ่จะเจอจากการคัดกรอง
00:15:44 → 00:15:48 ครับก็คือยังไม่ทันได้มีอาการเลยครับผม
00:15:48 → 00:15:51 แต่ว่าส่วนน้อยที่ผมพบก็คือมีอาการแล้วนะ
00:15:51 → 00:15:54 ครับก็ปัสสาวะเป็นสีน้ำล้างเนื้อปัสสาวะ
00:15:54 → 00:15:58 เป็นฟองมากผิดปกติปัสสาวะปล่อยกลางคืนนอน
00:15:58 → 00:16:00 หลับไปแล้วตื่นปัสสาวะ 3-4 ครั้งต่อคืน
00:16:00 → 00:16:05 อ่ามีบวมที่เท้าทั้ง 2 ข้างบวมใบหน้าบวม
00:16:05 → 00:16:09 ที่หนังตาอ่อนเพลียไม่ทราบสาเหตุซีดลง
00:16:10 → 00:16:12 หรือว่ามีคนทักว่าซีดลงนะครับเบื่ออาหาร
00:16:12 → 00:16:16 คลื่นไส้อาเจียนนะครับปวดปั้นเอวปัสสาวะ
00:16:16 → 00:16:20 เป็นเลือดคันตามร่างกายก็ครับผมพบแทบจะ
00:16:20 → 00:16:26 ทุกอาการเลยครับอืค่ะก็เป็นอาการที่ส่วน
00:16:26 → 00:16:31 ใหญ่เจอจากการคัดกรองนะคะแล้วแล้วคือการ
00:16:31 → 00:16:33 เกี่ยวกับโรคไตเนี่ยที่คุณหมอเจอเนี่ย
00:16:33 → 00:16:37 ความเข้าใจผิดที่แบบอาจจะมักเจอว่ากินน้ำ
00:16:37 → 00:16:42 เยอะๆไปล้างไตสารพิษในไตอันเนี้ยมันมี
00:16:42 → 00:16:45 ความเชื่อหรือว่าแนวคิดแบบนี้มั้ยคะที่คน
00:16:45 → 00:16:47 ไข้สื่อสารกับคุณหมออ่ะค่ะ
00:16:47 → 00:16:52 อ้อใช่ครับมีครับคนไข้กล่าวถึงเรื่องดื่ม
00:16:52 → 00:16:55 น้ำเยอะช่วยล้างไจนี่พบจำนวนนึงเลยครับ
00:16:55 → 00:16:59 บางท่านก็จะดื่มน้ำทั้งวันเลยขเจริงเป็น
00:16:59 → 00:17:02 ยังไงคะครับก็คือดื่มมากเกินไปเช่นเกิน
00:17:02 → 00:17:06 วันละ 5 ลิตรก็ก็จะไม่ไม่ดีกับไตนะครับ
00:17:06 → 00:17:09 ค่ะเอ่อควรดื่มน้ำแต่เพียงพอดีเท่านั้น
00:17:09 → 00:17:11 วันนึงประมาณ 1 ลิตรครึ่ง - 2 ลิตรต่อ
00:17:11 → 00:17:14 วันแล้วก็ดื่มชดเชยเพิ่มมากกว่านั้นใน
00:17:14 → 00:17:17 กรณีที่มีการเสียน้ำอ่าหรือเสียเกลืออไป
00:17:17 → 00:17:19 จากร่างกายเช่นออกกำลังกายหนักเสียเหงื่อ
00:17:19 → 00:17:21 หรือว่ามีภาวะท้องร่วงท้องเสียอาเจียนก็
00:17:21 → 00:17:25 อาจจะอ่าเพิ่มปริมาณน้ำดื่มเข้าไปได้แต่
00:17:25 → 00:17:28 ว่าการดื่มน้ำเยอะก็ร่างกายก็เพียงแค่ขับ
00:17:28 → 00:17:32 น้ำออกนั้นเองครับถ้าไตปกติอิมแต่มีข้อ
00:17:32 → 00:17:36 ควรระวังในคนที่เป็นไตเรื้อรังระยะที่
00:17:36 → 00:17:40 เป็นมากแล้วเช่นระยะที่ 4 หรือระยะที่ 5
00:17:40 → 00:17:43 ความสามารถในการขับน้ำของไตจะไม่เท่ากับ
00:17:43 → 00:17:47 คนที่ไตปกติหรือเป็นในระยะต้นๆระยะที่ 1
00:17:47 → 00:17:50 ระยะที่ 2 การดื่มน้ำมากเกินไปอาจทำให้
00:17:50 → 00:17:53 น้ำเกินในร่างกายมีบวมตามร่างกายหรือแม้
00:17:53 → 00:17:57 กระทั่งน้ำท่วมปอดได้ดังนั้นควรดื่มน้ำ
00:17:57 → 00:18:02 แต่เพียงพอพอดีให้เหมาะสมกับสภาวะที่เป็น
00:18:02 → 00:18:05 อยู่หมายถึงโรคประจำตัวที่ที่ท่านเป็น
00:18:05 → 00:18:08 อยู่หรือว่าโรคไตเรื้อรังในระยะที่ท่าน
00:18:08 → 00:18:11 เป็นอยู่ค่ะก็คือให้ดื่มตามคำแนะนำของ
00:18:11 → 00:18:13 แพทย์นั่นเองนะครับนี้เป็นความเข้าใจผิด
00:18:13 → 00:18:16 อันที่ 1 นะครับดื่มน้ำก็คือไม่ต้องเยอะ
00:18:16 → 00:18:19 นะครับแต่ว่าให้เพียงพอแล้วก็ให้พอดีตาม
00:18:19 → 00:18:23 ตามเ่อความสามารถของคนไข้แต่ละรายแล้วก็
00:18:23 → 00:18:27 สิ่งที่ความเข้าใจผิดอื่นๆเกี่ยวกับอ่า
00:18:27 → 00:18:30 โรคตายเช่นเ่าทางภาคอีสานหรือต่างจังหวัด
00:18:30 → 00:18:34 หรือชายแดนเนี่ยจะมีการเ่อโฆษณาขายยาล้าง
00:18:34 → 00:18:38 ไตอ่ะครับให้คนไข้เนี่ยเกินยาแล้วล้างไต
00:18:38 → 00:18:41 กินแล้วปัสสาวะจะออกมาเป็นสีเขียวสีฟ้า
00:18:41 → 00:18:44 แล้วบอกว่าไทได้รับการชำระล้างให้สะอาด
00:18:44 → 00:18:47 แบบเนี้ยซึ่งก็เป็นความเข้าใจที่ผิดแล้ว
00:18:47 → 00:18:50 ก็เป็นอ่าเป็นเรื่องที่ไม่ควรทำนะครับก็
00:18:50 → 00:18:54 อันตรายนอกจากนี้ยังมีการโฆษณาขายอาหาร
00:18:54 → 00:18:57 เสริมหรือว่าเครื่องดื่มบำรุงไตนะครับ
00:18:57 → 00:19:01 ซึ่งในทางการแพทย์เรายังไม่มีนะครับยัง
00:19:01 → 00:19:04 ไม่มีนะครับอือค่ะงน้องผมเห็นบ่อยเลยแผม
00:19:04 → 00:19:08 เห็นบ่อยในช่องทางที่ถ้าตอนเเราเราดู
00:19:08 → 00:19:11 YouTube กันนะพี่ขวัญนะก็จะมีเป็นโฆษณา
00:19:11 → 00:19:15 ใช่มั้ยมีแอดโฆษณาที่แบบแล้วพอเข้าไปดู
00:19:15 → 00:19:18 แบบแหล่งที่มาที่ปล่อยปล่อยปล่อยคลิป
00:19:18 → 00:19:21 เนี่ยคือมาจากต่างประเทศทั้งนั้นเลยนะแต่
00:19:21 → 00:19:25 ว่าเสียงภาคก็เป็นภาษาไทยเออมันก็ใช้
00:19:25 → 00:19:29 เสียง AI ใช่มั้ยโอ๊คใช่ๆแล้วก็ผมเชื่อ
00:19:29 → 00:19:33 ว่าคนคนที่แบบไม่รู้เท่าทันน่ะการสื่อ
00:19:33 → 00:19:35 ด้วยโฆษณาพูดเขาเขาเชื่อไปแล้วไเพราะว่า
00:19:35 → 00:19:38 ส่วนใหญ่อ่ะคุณหมอน่าจะเคยเห็นแหละแล้ว
00:19:38 → 00:19:41 เขาจะใช้แบบเหมือนบุคลากรทางการแพทย์มา
00:19:41 → 00:19:43 เป็นแบบเป็นภาพอเตอ่ะแล้วมันดูสร้างความ
00:19:43 → 00:19:47 น่าเชื่อถือแบบเยอะมากๆมันชวนเชื่อไง
00:19:47 → 00:19:50 อันเนี้ยเป็นเป็นเป็นเป็นโจทย์สำคัญ
00:19:50 → 00:19:53 สำหรับแบบสาธารณสุขเหมือนกันนะว่าจะจัด
00:19:53 → 00:19:57 การกเรื่พวกนี้ยังไงเห็นบ่อยมากเลยคือถ้า
00:19:57 → 00:20:01 เรายิ่งเห็นบบ่อยแล้วเอ่อคนที่ไม่เท่าทัน
00:20:01 → 00:20:03 เอ่อตัวของเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป
00:20:03 → 00:20:06 เนี่ยแล้วเห็นบ่อยเห็นซ้ำมันเลยเกิดความ
00:20:06 → 00:20:09 เชื่อแล้วเขาก็เชื่อไปว่ามันสามารถที่จะ
00:20:09 → 00:20:13 ช่วยดูแลสุขภาพได้จริงเกิดคำสั่งซื้อคราว
00:20:13 → 00:20:16 นี้แหละมันก็จะกระทบกับสุขภาพเพราะว่ายา
00:20:16 → 00:20:19 เหล่าเนี้ไม่ได้รับหก็ต้องมาช่วยเออมันก็
00:20:19 → 00:20:22 เป็นหน้าที่ของคุณหมออีกเนาะเออคุณหมอก็
00:20:22 → 00:20:24 ต้องมารักษากันต่ออีกต่อเนื่องอีกใช่มั้ย
00:20:24 → 00:20:28 คุณหมออ่าใช่ครับังนั้นถ้าเกิดว่าสงสัย
00:20:28 → 00:20:33 ภาวะโรคไตก็ควรอ่าก็ไปโรงพยาบาลนะครับพบ
00:20:33 → 00:20:36 แพทย์แผนปัจจุบันแล้วก็ได้รับคำแนะนำที่
00:20:36 → 00:20:41 ถูกต้องค่ะแล้วก็โรคไตก็อ่าพอพูดชื่อว่า
00:20:41 → 00:20:44 โรคไตเนี่ยเราก็เหมือนจะบอกว่าอก็เป็นที่
00:20:44 → 00:20:47 ไตแต่จริงๆแล้วเราต้องหาสาเหตุว่าสาเหตุ
00:20:47 → 00:20:50 ที่ทำให้เกิดโรคไตนั้นในคนไข้แต่ละราย
00:20:50 → 00:20:53 เนี่ยไม่เหมือนกันเช่นบางท่านก็ไปซื้อยา
00:20:53 → 00:20:56 กินหรือกินยาผิดยาที่ตัวเองแพ้หรือว่ายา
00:20:56 → 00:21:00 เอเสยาแก้ปวดยาชุดหรือสมุนไพรที่ไม่เหมาะ
00:21:00 → 00:21:03 สมก็คือแก้สาเหตุก็หยุดยาที่อันตรายก็จะ
00:21:03 → 00:21:05 ทำให้ไตเนี่ยดีขึ้นได้หรือว่าบางท่านเป็น
00:21:05 → 00:21:08 โรคไตที่เกิดจากความดันโลหิตสูงควบคุมไม่
00:21:08 → 00:21:12 ได้ก็ควรได้รับการควบคำควบคุมความดันให้
00:21:12 → 00:21:15 ดีแบบนี้ก็จะช่วยชะลอการเสื่อมของไตได้อื
00:21:15 → 00:21:18 ค่ะเมื่อสักครู่อ่าโอ๊คจะมีอะไรคุยก่อน
00:21:18 → 00:21:23 มั้ยครับอย่าสงสัยอย่างนึงคุณหมอเอ่อเคส
00:21:23 → 00:21:27 เคสที่แบบเอ่อที่คุณหมอเจอมาส่วนใหญ่อ่ะ
00:21:27 → 00:21:29 เขาา
00:21:29 → 00:21:34 เขาเชื่อหรือว่ากินอะไรที่แบบมันผิดไปจาก
00:21:34 → 00:21:37 การรักษาแล้วค่อยมาหาคุณหมอเเยอะเยอะมั้ย
00:21:37 → 00:21:38 คุณ
00:21:38 → 00:21:40 ห
00:21:41 → 00:21:43 เอิ่มก็
00:21:43 → 00:21:48 มีมีอยู่บ้างครับก็มักจะเป็นกลุ่มสมุนไพร
00:21:48 → 00:21:52 นะครับที่คนไมักจะเชื่อถืออมักจะบอกต่อๆ
00:21:52 → 00:21:57 กันมาแล้วก็เชื่อถือเชเอ่อสมุนไพรเ่อเห็ด
00:21:57 → 00:22:00 หลินจือนะครับเป็นต้นหรือว่าสมุนไพรช่อ
00:22:00 → 00:22:03 ฟ้าที่เจอเมื่อวันก่อนเป็นต้นนะครับก็
00:22:03 → 00:22:06 ประทานไปแล้วเนี่ยบางท่านเนี่ยผลผลของ
00:22:06 → 00:22:09 สมุนไพรเหล่านี้ในคนไข้แต่ละคนเนี่ยตอบ
00:22:09 → 00:22:12 สนองไม่เหมือนกันนะครับบางท่านอ่าคนไข้
00:22:12 → 00:22:14 บางคนกินไปก็อาจจะเป็นพิษต่อตับนะครับทำ
00:22:14 → 00:22:17 ให้ตับอักเสบตับวายแต่บางคนเนี่ยรับ
00:22:17 → 00:22:21 ประทานไปแล้วก็เป็นพิษต่อไตทำให้ไตวายนะ
00:22:21 → 00:22:23 ครับเพราะว่าส่วนประกอบของสมุนไพรเหล่า
00:22:23 → 00:22:26 เนี้ยไม่คงที่ไม่แน่นอนนะครับส่วนผสมอาจ
00:22:26 → 00:22:31 จะมีสารกันบูดหรือสารเคมีที่ไม่เหมือนกัน
00:22:31 → 00:22:33 นะครับในแต่ละถุงหรือปริมาณแต่ละถุงก็ไม่
00:22:33 → 00:22:36 เท่ากันนะครับทำให้เกิดคิศในอวัยวะต่างๆ
00:22:36 → 00:22:40 ไม่เท่ากันซึ่งเป็นเป็นปัญหาครับเพราะว่า
00:22:40 → 00:22:45 ก็ข้อมูลทางสุขภาพก็ยังเข้าถึงเ่อได้ไม่
00:22:45 → 00:22:50 ทั่วถึงครับอืค่ะก็อันนี้พูดถึงในกรณีการ
00:22:50 → 00:22:53 ใช้สมุนไพรที่อาจจะไม่เอ่อไม่ได้รับการ
00:22:53 → 00:22:56 รับรองจากกระทรวงสาธารณสุขนะคะแล้วก็ใน
00:22:56 → 00:23:00 ส่วนของเอ่อยาต้มยาหม้ออะไรต่างๆอีก
00:23:00 → 00:23:03 เรื่องนึงที่ขวัญสงสัยค่ะคุณหมอเดี๋ยว
00:23:03 → 00:23:07 เนี้ยหลายๆคนเลือกที่จะดูแลสุขภาพด้วยการ
00:23:07 → 00:23:10 ที่รับประทานวิตามินหรือว่าอาหารเสริม
00:23:10 → 00:23:14 ต่างๆเอ่อเพื่อที่จะชดเชยชันมีไลฟ์สไตล์
00:23:14 → 00:23:17 อุ๊ยกินอาหารหมวดหมู่นั้นไม่พอเกลือแร่
00:23:17 → 00:23:21 ไม่พอใช้วิธีทานอาหารที่เป็นอาหารเสริม
00:23:21 → 00:23:24 เข้าไปเนี่ยอาหารเหล่าเนี้ยถ้ารับประทาน
00:23:24 → 00:23:29 ไปจำนวนเยอะๆต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน
00:23:29 → 00:23:33 เนี่ยจะส่งผลต่อไตหรือไม่อย่างไรคะ
00:23:33 → 00:23:39 เอ่อส่งผลครับอาหารเอ่อถ้าเป็นวิตามินนะ
00:23:39 → 00:23:42 ครับวิตามินปัจจุบันเนี่ยถ้าเกิดเป็น
00:23:42 → 00:23:46 วิตามินที่อ่ามีส่วนประกอบของวิตามินชัด
00:23:46 → 00:23:52 เจนก็รับประทานได้ตามปริมาณที่แนะนำหรือ
00:23:52 → 00:23:55 กำหนดโดยแพทย์นะครับเพราะว่าแม้กระทั่งจะ
00:23:55 → 00:23:59 เป็นวิตามินตามมาตรฐานเช่น a b c d อี
00:23:59 → 00:24:02 ต่างๆเนี่ยยมีทั้งชนิดที่ละลายในไขมันนะ
00:24:02 → 00:24:06 ครับก็จะสะสมในไขมันในร่างกายทำให้สะสมจน
00:24:06 → 00:24:08 เกินและเกิดพิษได้ค่ะหรือแม้กระทั่ง
00:24:09 → 00:24:12 วิตามินที่ละลายในน้ำบางตัวก็อาจเกิดพิษ
00:24:12 → 00:24:16 ต่อระบบเส้นประสาสได้นะครับ
00:24:16 → 00:24:20 อ่ามวิตามินที่เป็นมาตรฐานเหล่านี้มักจะ
00:24:20 → 00:24:23 ไม่มีพิษต่อไปแต่จะเป็นพิษต่อตับแล้วก็
00:24:23 → 00:24:27 อวัยวะในระบบอื่นๆนะครับอย่างไรก็ตามก็ก็
00:24:27 → 00:24:29 ไม่ควรรับทานมากเกินไปอันนี้คือ 1 คือ
00:24:29 → 00:24:32 วิตามินนะครับ 2 ถ้าเป็นอาหารเสริม
00:24:32 → 00:24:36 ปัจจุบันมีออกมาหลายอย่างมากนะครับผมยก
00:24:36 → 00:24:39 ตัวอย่างเช่นคอลลาเจนค่ะอาหารเสริมเนี่ย
00:24:39 → 00:24:42 เขาจะพยายามทำให้มันมีความเข้มข้นสูงๆของ
00:24:42 → 00:24:46 สารอาหารนั้นๆซึ่งมันมากเกินไปนะครับเช่น
00:24:46 → 00:24:49 คอลลาเจนจะเป็นโปรตีนอ่ากับคาร์โบไฮเดรต
00:24:49 → 00:24:52 นะครับปริมาณสูงส่วนที่เป็นปัญหาของ
00:24:52 → 00:24:55 คอลลาเจนคือกินเข้าไปแล้วเนี่ยโปรตีนมัน
00:24:55 → 00:24:59 เข้มข้นสูงมากทำให้ไตเนี่ยงั้นน่ะแล้วก็
00:24:59 → 00:25:02 ทำให้ค่าไตเนี่ยถึงกับผิดปกติได้เลยครับ
00:25:02 → 00:25:06 อืค่ะแสดงว่าถ้ารับประทานไปต่อเนื่องก็
00:25:06 → 00:25:09 อาจจะเป็นสาเหตุทำให้เราเสี่ยงที่จะเป็น
00:25:09 → 00:25:12 โรคไตก็ได้ใช่มั้ยคะคุณหมอใช่ครับการรับ
00:25:12 → 00:25:16 ประทานอาหารเสริมครับโดยเฉพาะอาหารเสริม
00:25:16 → 00:25:19 เนี่ยมีความเข้มข้นของสารอาหารสูงนะต่อ
00:25:19 → 00:25:22 เนื่องเป็นเวลานานไตก็ทำงานหนักเป็นเวลา
00:25:22 → 00:25:24 นานไตที่ทำงานหนักนะครับหน่วยไตหรือ
00:25:24 → 00:25:28 เนฟรอนเนี่ยเขาจะอ่าสเคลอโรซิสนะนะครับ
00:25:28 → 00:25:30 ภาษาอังกฤษหรือกลายเป็นผังผืดไปนะครับก็
00:25:30 → 00:25:34 คือดับไปเลยนะครับหน่วยหน่วยนั้นพออ่าไมี
00:25:34 → 00:25:37 ผังผืดเกิดขึ้นเยอะๆเนี่ยก็คือเกิดเป็นไต
00:25:37 → 00:25:41 เสือบไตเรื้อหลังครับอืค่ะโอ้เมื่อกี้คุณ
00:25:41 → 00:25:44 หมอบอกว่ากว่าจะเจอว่าเอ๊ะเราเป็นโรคไต
00:25:44 → 00:25:47 หรือเปล่าสัญญาณกว่าจะมาที่เราตั้งเอ๊ะ
00:25:47 → 00:25:51 กับตัวเองเนี่ยระยะ 4 ระยะ 5 แต่หลายๆคน
00:25:51 → 00:25:56 มีโอกาสในการที่ตรวจสุขภาพประจำปีเอ่อเรา
00:25:56 → 00:25:59 จะสื่อสารยังไงกับเอ่อบุคลากรทางการแพทย์
00:25:59 → 00:26:01 ว่าเราอยากตรวจตรงเนี้ยเพื่อที่จะได้ทราบ
00:26:01 → 00:26:04 ว่าเรามีความเสี่ยงเป็นโรคไตหรือเปล่าตรง
00:26:04 → 00:26:07 เนี้ค่ะคุณหมอสื่อสารยังไงแล้วก็บอกว่า
00:26:07 → 00:26:09 เราอยากจะรับการดูแลตรงนี้ยังไงได้บ้าง
00:26:09 → 00:26:12 อ่ะคะ
00:26:12 → 00:26:18 เอิ่มปัจจุบันในเอ่อเขาจะนิยมตรวจสุขภาพ
00:26:18 → 00:26:22 กันเป็นแพ็คเกจนะครับค่ะแต่ว่าของสุขภาพ
00:26:22 → 00:26:25 ตายเราตรวจไม่ยากครับเพียงแค่ 1 ก็คือมี
00:26:25 → 00:26:28 การตรวจปัสสาวะนะครับตรวจปัสสาวะเนี่ยก็
00:26:28 → 00:26:31 จะพอบอกคัดกรองโรคไตได้ระดับหนึ่งแล้ว
00:26:31 → 00:26:35 ครับแต่ว่าถ้าจะให้ครบถ้วนอีก 1 อย่างก็
00:26:35 → 00:26:38 คือตรวจเลือดดูเตินหรืออัตรากองของไตด้วย
00:26:39 → 00:26:42 ก็จะได้ข้อมูลที่เกือบครบถ้วนกว่า 80
00:26:42 → 00:26:46 หรือ 90% แล้วนะครับแล้วก็ส่วนน้อยอีกนิด
00:26:46 → 00:26:50 นึงก็คือภาพรังสีของระบบไตหรืออัลตร้าซาว
00:26:50 → 00:26:53 ระบบไตค่ะอ่าอันนี้ก็จะเป็นคัดกรองสุขภาพ
00:26:53 → 00:26:58 ของไตที่ที่อ่อค่อนข้างจะครบถ้วนสมบูรณ์
00:26:58 → 00:27:00 นะครับในการดูสุขภาพ
00:27:00 → 00:27:05 ไทครับส่วนเ่อถ้าสื่อสารในเอ่อหมายถึงใน
00:27:05 → 00:27:10 บุคลากรทางการแพทย์ค่ะถ้ามันก็เอ่อเรา
00:27:10 → 00:27:14 ค่อนข้างดูระมัดระวังกับผลตรวจเหล่านี้
00:27:14 → 00:27:18 อยู่แล้วครับถ้าเพียงแค่คนไข้เนี่ยเอ่อมี
00:27:18 → 00:27:21 ข้อสงสัยหรือว่าสงสัยแล้วก็กังวลโรคใด
00:27:21 → 00:27:24 เนี่ยทางบุคคลากรทางการแพทย์เนี่ยก็ยินดี
00:27:24 → 00:27:27 ที่จะแนะนำแล้วก็ตรวจให้อยู่แล้วครับ
00:27:27 → 00:27:30 เพราะว่าการตรวจไม่ซับซ้อนนะครับค่ะใช้
00:27:30 → 00:27:34 เวลารอผลเ่อก็ไม่นานนะครับประมาณ 50 นาที
00:27:34 → 00:27:37 ถึง 1 ชมมครับประมาณอืเพราะว่าเมื่อสัก
00:27:37 → 00:27:39 ครู่คุณหมอบอกว่าส่วนใหญ่ที่เจอว่าเอ๊ะ
00:27:39 → 00:27:41 ป่วยเป็นโรคไตหรือเปล่าหรือมีความเสี่ยง
00:27:41 → 00:27:44 เนี่ยเกิดขึ้นจากแบบฟอร์มการตรวจสุขภาพ
00:27:44 → 00:27:48 ใช่มั้ยคะที่ที่รู้กรู้ว่าเอ๊ะคนเนี้น่า
00:27:48 → 00:27:52 จะเป็นโรคไตส่วนใหญ่ที่คุณหมอเอ่อบอกว่า
00:27:52 → 00:27:55 เกิดจากแบบการแบบเหมือนเขาทำแบบฟอร์มตรวจ
00:27:55 → 00:27:59 สุขภาพเอ่อเช็คสุขภาพแล้วก็พอเอ่ออ่านจาก
00:27:59 → 00:28:02 แบบฟอร์มนั้นๆเนี่ยก็เห็นว่าเอ๊ะคนนี้มี
00:28:02 → 00:28:05 ความเสี่ยงอาจจะในขั้นตอนต่อไปก็อาจจะไป
00:28:05 → 00:28:08 ตรวจให้ละเอียดยิ่งขึ้นใช่มั้ยคะใช่ครับ
00:28:08 → 00:28:12 ถูกต้องก็ที่ผมพบเนี่ยก็คือเ่อประสบการณ์
00:28:12 → 00:28:16 ของผมนะก็พบจากการคัดกรองนะคัดกรองอ่าจาก
00:28:16 → 00:28:20 ตรวจสุขภาพครับพบค่ะพบอยู่เป็นระยะๆะครับ
00:28:20 → 00:28:24 อืส่วนใหญ่พอมาคัดกรองแล้วเนี่ยเอ่อระยะ
00:28:24 → 00:28:27 ที่พบเนี่ยส่วนใหญ่จะอยู่ในขั้นตอนไหน
00:28:27 → 00:28:30 เริ่มต้นเลยหรือว่ามีความเสี่ยงเฉยๆครับ
00:28:30 → 00:28:34 คุณหมอเริ่มต้นครับส่วนใหญ่ที่พบจากระยะ
00:28:34 → 00:28:36 คัดกรองเป็นระยะเริ่มต้นคนไข้ไม่มีอาการ
00:28:36 → 00:28:40 ใดๆทั้งสิ้นแต่ว่าพบโดยโดยบังเอิญมาตรวจ
00:28:40 → 00:28:44 สุขภาพแล้วพบหรือว่าคนไข้บางท่านก็มีข้อ
00:28:44 → 00:28:47 สงสัยเช่นเอ๊ะปัสสาวะเป็นฟองมากผิดปกติ
00:28:47 → 00:28:51 หรือว่าเอ๊ะทำไมเท้าบวม 2 ข้างใส่รองเท้า
00:28:51 → 00:28:53 แล้วรองเท้ามันคับแน่นขึ้นแบบเนี้ยครับ
00:28:53 → 00:28:56 อันนี้ก็เป็นเรื่องข้อสงสัยของคนไข้ทำให้
00:28:56 → 00:29:01 เขามาตรวจอิมส่วนถ้าจะแนะนำในประชากรโดย
00:29:01 → 00:29:05 ภาพรวมกับหลายๆคนในแง่สาธารณสุขทั้ง
00:29:05 → 00:29:08 ประเทศเนี่ยครับเจะแนะนำให้คัดกรองในคน
00:29:08 → 00:29:12 ที่อ่า 1 ก็มีโรคประจำตัวเบาหวานความดัน
00:29:12 → 00:29:15 สูงโรคภูมิแพ้ตนเอง sle ประวัตินมิวหรือ
00:29:16 → 00:29:17 ว่าเป็นโรคไตในครอบครัวแล้วก็กลุ่มโรคหัว
00:29:18 → 00:29:21 ใจและหลอดเพือดครับก็คือในแง่ของของของ
00:29:21 → 00:29:26 คัดกรองในประชาในประชาชนทั่วไปเลยค่ะคุณ
00:29:26 → 00:29:31 หมอขะมีคุณศุภลักษ์ค่ะถามมาว่าเอ่อเวลา
00:29:31 → 00:29:34 รับประทานหน่อไม้ฝรั่งทุกครั้งปัสสาวะจะ
00:29:34 → 00:29:39 มีสีขาวแบบน้ำนมแต่ไม่ข้นนะคะเคยสังเกตพบ
00:29:39 → 00:29:42 ทุกครั้งหลังจากงดรับประทานหน่อไม้ฝรั่ง
00:29:42 → 00:29:46 เนี่ยเอ่อก็เอ่อน่าจะหลังจากงดรับประทาน
00:29:46 → 00:29:49 เนี่ยน่าจะไม่มีเรื่องของแบบเอ่อปัสสาวะ
00:29:49 → 00:29:52 ที่เป็นสีขาวข้นแบบน้ำนมเอ่อคุณหมอให้คำ
00:29:52 → 00:29:55 แนะนำเรื่องนี้ได้มยตอนนี้อายุ 66 ปีแล้ว
00:29:55 → 00:29:59 ค่ะอันนี้การหน่อไม้ฝรั่งมีผลเกี่ยวกับไต
00:29:59 → 00:30:03 มยหรือว่าอาหารอะไรมีผลกับไตบ้างคะคุณหมอ
00:30:03 → 00:30:07 เอิ่มถ้าอ่าก็อันนี้เป็นลักษณะความผิด
00:30:07 → 00:30:11 ปกติเ่อของปัสสาวะชนิดนึงนะครับค่ะ
00:30:11 → 00:30:15 ปัสสาวะเป็นสีขาวหรือสีน้ำนมสาเหตุเนี่ย
00:30:15 → 00:30:18 เป็นได้หลากหลายนะครับแต่ว่าถ้าสังเกตว่า
00:30:18 → 00:30:22 สัมพันธกับอาหารอ่าก็อาจจะเกิดจากอาหาร
00:30:22 → 00:30:26 นั้นๆได้เพราะว่าปัสสาวะเนี่ยอ่าถ้าเรา
00:30:26 → 00:30:28 รับประทานอาหารบางอย่างเนี่ยปัสวะมันก็จะ
00:30:28 → 00:30:31 ออกมาคล้ายๆอย่างนั้นยกตัวอย่างเช่นถ้า
00:30:31 → 00:30:33 เราไปดื่มกาแฟแล้วเราดื่มกาแฟมากเนี่ย
00:30:33 → 00:30:36 ปัสสาวะมาก็จะมีกลิ่นกาแฟอันนี้ถ้าเกิด
00:30:36 → 00:30:40 ว่าอ่าแต่ว่าปัสสาวะเป็นสีขาวเหมือนน้ำนม
00:30:40 → 00:30:43 เนี่ยผมแนะนำว่าควรจะตรวจปัสสาวะดูว่ามี
00:30:43 → 00:30:46 สารอย่างอื่นที่ทำให้เป็นสีขาวปนมาหรือ
00:30:46 → 00:30:50 เปล่าเช่นอ่อโปรตีนหรือว่าไขมันนะครับ
00:30:50 → 00:30:53 ครับเพราะว่าหน่อไม้ฝรั่งก็ไม่ได้เป็นสี
00:30:53 → 00:30:57 ขาวเอ่อแต่อย่างใดนะครับครับอออืหรือว่า
00:30:57 → 00:31:00 เป็นหน่อไม้ฝรั่งที่เป็นแบบหน่อไม้ที่แบบ
00:31:00 → 00:31:04 เขาเรียกว่าครอบครอบครอบครอบครอบตัวหน
00:31:05 → 00:31:07 หน่อไม้ที่มันออกมามันจะเป็นสีขาวๆเคย
00:31:07 → 00:31:10 เห็นมั้ยกที่มันจะเป็นหน่อไม้อ่อนหรือ
00:31:10 → 00:31:12 อะไรสักอย่างเนี่ยมันเป็นสีมันหน่อไม้
00:31:12 → 00:31:14 ฝรั่งมันสีเขียวไม่ใช่เหรอโอ๊มีๆแบบที่
00:31:14 → 00:31:17 แบบเขาจะเป็นแบบอีเกดพรีเมี่ยมหน่อยมันจะ
00:31:17 → 00:31:20 แบบขออภัยเขถึงในสิ่งนี้ไม่แน่ใจนะอันนี้
00:31:20 → 00:31:23 อันนี้ผมก็เดาเดาเอานะเดาตที่เคยเห็นนะค
00:31:23 → 00:31:26 มอกแต่อาจจะแต่ส่วนใหญ่ก็จะเป็นสีเขียว้า
00:31:26 → 00:31:29 ส่วนใหญ่นั่นแหละใช่ครับใช่นี่เป็นข้อ
00:31:29 → 00:31:32 สงสัยเล็กๆน้อยๆผมก็มักจะพบในคนไข่ที่เขา
00:31:32 → 00:31:35 แบบสนใจสุขภาพของตัวเองแล้วเขาก็จะพยายาม
00:31:35 → 00:31:38 สังเกตต่างๆว่าปัสสาวะเเป็นยังไงนะ
00:31:38 → 00:31:41 ปัสสาวะเป็นสีเขียวสีม่วงหรือว่ายังไงแต่
00:31:42 → 00:31:44 ว่าเราก็อย่างที่แจ้งให้ทราบก็คือการคัด
00:31:44 → 00:31:46 กรองหรือตรวจปัสสาวะของโรงพยาบาลเนี่ก็จะ
00:31:46 → 00:31:52 ช่วยบอกได้ว่าเอ่อมันเป็นแบบพยาธิสภาพ
00:31:52 → 00:31:55 หรือว่าเป็นปกติครับอืเพราะเป็นข้อสังเกต
00:31:56 → 00:31:58 เหมือนกันนะถ้าที่คุณผู้ฟังส่งมาก็คือ
00:31:58 → 00:32:02 เหมบเหมือนว่าเป็นทุกครั้งที่ทานหน่อไม้
00:32:02 → 00:32:05 ฝรั่งฝ่งผัดหน่อไม้ฝรั่งเออก็ไม่แน่นะมัน
00:32:05 → 00:32:08 อาจจะเกี่ยวกับหมอไม้ฝรั่งหรือเอ่อตัว
00:32:08 → 00:32:11 วัตถุดิบอื่นในการปรุงก็เป็นได้อันนี้อัน
00:32:11 → 00:32:15 นี้ก็ต้องไปเช็คเช็คละเอียดจากเอ่อหมออีก
00:32:16 → 00:32:20 ทีครับครับครับใช่ครับผมค่ะเอ่อมีอีกท่าน
00:32:20 → 00:32:24 นึงค่ะเอ่อสอบถามเข้ามาว่าถ้าเป็นเบาหวาน
00:32:24 → 00:32:28 เนี่ยแล้วก็คุมไม่ดีจะมีอาการโรคตเสื่อม
00:32:28 → 00:32:32 เมื่อไหร่นานมั้ยหรือมันเป็นแบบภาวะโรค
00:32:32 → 00:32:37 ที่คลืบคลานมาอย่างเงียบๆเมื่อไหร่นะครับ
00:32:37 → 00:32:42 ครับคืบคานมาอย่างเงียบๆครับถ้าเป็นไต
00:32:42 → 00:32:44 เรื้อรังจะคืบคลานมาอย่างเงียบๆไม่กระตก
00:32:44 → 00:32:48 กระตากนะคะครับแต่จะมีส่วนน้อยของเบาหวาน
00:32:48 → 00:32:51 ที่เป็นไตบาดเจ็บหรือไตวายเฉียบพันธเกิด
00:32:51 → 00:32:56 ขึ้นซ้อนทับบนใวายเรื้อรังได้หรือมีโรค
00:32:56 → 00:33:00 แทรกซ้อนอย่างอื่นอ่ายกตัวอย่างเช่นอ่า
00:33:00 → 00:33:05 โรคไตอักเสบโคมัสแทรกซ้อนบนบนเบาหวานแต่
00:33:05 → 00:33:08 ถ้าเกิดนับแต่เบาหวานอย่างเดียวจะค่อยๆ
00:33:08 → 00:33:13 คึบคันมาช้าๆนะครับโดยจะ
00:33:13 → 00:33:16 อ่าเป็นเป็นเร็วหรือเป็นมากกรณีควบคุมน้ำ
00:33:16 → 00:33:19 ตาลระดับน้ำตาลได้ไม่ดีนะครับระดับน้ำตาล
00:33:19 → 00:33:22 ที่สูงจะทำให้เส้นเลือดปอยของไตเสื่อม
00:33:22 → 00:33:25 แล้วก็ทำให้หน่วยไตเนี่ยเส้นเลือดตีดแข็ง
00:33:25 → 00:33:29 แล้วก็ดับไปนะครับอื่าครับไตมักจะค่อยๆมี
00:33:29 → 00:33:33 อัตรากรองลดลงอ่าช้า
00:33:33 → 00:33:38 ๆในไตเรื้อรังจากเบาหวานถ้าเ่อลดลงเกินปี
00:33:38 → 00:33:43 ละ 5 ซีซีต่อนาทีเนี่ยเราจะถือว่าเ่อต้อง
00:33:43 → 00:33:46 ต้องควบคุมให้ดีละนะเราต้องระมัดระวังดัง
00:33:46 → 00:33:49 นั้นก็เป็นเบาหวานควรไปคัดกรองโรคไตแล้ว
00:33:49 → 00:33:53 ก็รู้อัตราการกรองของของของท่านของตัวเอง
00:33:53 → 00:33:57 ครับผมอืค่ะมีโรคอื่นๆอีกมั้ยคะคุณหมอ
00:33:57 → 00:34:00 เมื่อกี้ความดันอะไรพวกเที่แบบจะนำพระพา
00:34:00 → 00:34:03 มาซึ่งโลกไตในระยะหลังอ่ะค่ะใช่ครับความ
00:34:03 → 00:34:07 ดันสูงเป็นปัญหาเช่นกันครับก็คล้ายๆเบา
00:34:07 → 00:34:11 หวานเลยคือแรงดันเลือดที่สูงเนี่ยเ่าจะทำ
00:34:11 → 00:34:14 ให้เส้นเลือดเนี่ยอ่าผนังเส้นเลือดหนา
00:34:14 → 00:34:17 ขึ้นปีบแข็งขึ้นหนาจนกระทั่งอ่าไม่มี
00:34:17 → 00:34:20 เลือดไปที่หน่วยไตหน่วยไตเล็กๆหน่วยนั้น
00:34:20 → 00:34:23 ก็จะดับไปนะครับค่อยๆดับไปเกิดไตเรื้อรัง
00:34:23 → 00:34:27 ตามมานะครับลักษณะการเกิดโรคคล้ายๆกันนะ
00:34:27 → 00:34:30 ครับการควบคุมความดันเ่อโลหิตให้ปกตินะ
00:34:30 → 00:34:34 ครับที่ช่วยชะลอการเสื่อมของไตก็คือดู
00:34:34 → 00:34:38 ความดันตัวบนควรจะน้อยกว่า 130 มมตลอด
00:34:38 → 00:34:40 แล้วก็ความดันตัวล่างควรจะน้อยกว่า 80 มม
00:34:41 → 00:34:44 ตลอดอันนี้จะได้ประโยชน์ในแง่ของการชะลอง
00:34:44 → 00:34:47 การเสื่อมของไตสำหรับผู้ป่วยความดันโลหิต
00:34:47 → 00:34:51 สูงนอกจากนี้ยาที่รักษาความดันโลหิตสูง
00:34:51 → 00:34:54 บางกลุ่มจะช่วยชะลอการเสื่อมของไตโดย
00:34:54 → 00:34:58 เพิ่มเลือดไปเลี้ยงไตผ่านทางเส้นเลือดฝอย
00:34:58 → 00:35:01 เล็กๆของไตนะฮะช่วยขยายเส้นเลือดเมื่อมี
00:35:01 → 00:35:03 เลือดไปเลี้ยงไตเยอะเซลล์ของหน่วยไตก็จะ
00:35:04 → 00:35:07 ไม่ไม่ดับไม่ตายนะครับก็จะช่วยชะลอการของ
00:35:07 → 00:35:11 ไตไปได้ยาวนานออกไปอีกช่วยลดโปรตีนที่
00:35:11 → 00:35:14 รั่วอ่าจากภาวะความดันโลหิตสูงหรือเบา
00:35:14 → 00:35:18 หวานนะครับภาวะ 2 อย่างเนี้ยจะทำให้เกิด
00:35:18 → 00:35:20 โปรตีนรั่วออกมาทางทางปัสสาวะซึ่งไม่ดี
00:35:20 → 00:35:24 กับไตนะครับยาบางกลุ่มนะถ้าคุณหมอเาปรับ
00:35:24 → 00:35:27 ใช้ตามความเหมาะสมเนี่ยก็จะช่วยชะลอการ
00:35:27 → 00:35:30 เสื่อมของสทยไปได้มากครับอ๋อเพราะฉะนั้น
00:35:30 → 00:35:35 การไปตรวจสุขภาพเพื่อเอ่อดูแลทั้งเรื่อง
00:35:35 → 00:35:39 ของเบาหวานความดันต่างๆรวมถึงโรคอื่นๆ
00:35:39 → 00:35:43 เนี่ยมันเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยเอ่อชะลอ
00:35:43 → 00:35:47 เรื่องของโรคไตเรือรังไต่เสื่อมเรือรังไป
00:35:47 → 00:35:50 ด้วยในตัวใช่ถูกต้องครับเพราะว่าการรักษา
00:35:51 → 00:35:54 แต่ละอย่างก็คือพยายามให้ได้เป้าหมายใน
00:35:54 → 00:35:57 จุดที่จะช่วยชะลอการเสื่อมของอวัยวะต่าง
00:35:57 → 00:36:00 ครับอันนี้ที่ตัวเลขที่พูดต่างๆไปก็เป็น
00:36:00 → 00:36:03 ตัวเลขในแง่ของที่จะได้เป้าหมายที่ที่มี
00:36:03 → 00:36:07 นัยยะสำคัญทางคลินิกในการชะลอการเสื่อม
00:36:07 → 00:36:11 ของไตนะครับแต่ว่าเ่อไม่ใช่แต่ว่าและถ้า
00:36:12 → 00:36:15 เกิดว่าเ่อไปพบหมอที่เป็นหมอเฉพาะทางทาง
00:36:15 → 00:36:19 ด้านหัวใจและหลอดเลือดหรือหมอทางด้านสมอง
00:36:19 → 00:36:23 เขาก็จะมีงานวิจัยที่เป็นเป้าหมายของเา้า
00:36:23 → 00:36:27 นะเช่นตัวเลขเท่านี้จะช่วยชะลอการเสื่อม
00:36:27 → 00:36:30 ของสมองตัวเลขเท่านี้จะช่วยชะลอการเสื่อม
00:36:31 → 00:36:33 หัวใจหรือลดการเกิดโรคหัวใจอย่าเงี้ยครับ
00:36:33 → 00:36:36 ผมแต่วันนี้เราพูดึงโรคไจเราก็จะมีตัวเลข
00:36:36 → 00:36:40 ของเราครับค่ะเป็นสถิติที่มันบ่งบอกใช
00:36:40 → 00:36:44 วิทยาศาสตร์ใช่ครับเลยใช่ครับ
00:36:44 → 00:36:48 อค่ะคุณหมอคะขวัญเคยได้ยินว่าเอ๊ะถ้าเรา
00:36:48 → 00:36:50 เป็นไขมันพอกตับเนี่ยเรายังสามารถเปลี่ยน
00:36:50 → 00:36:54 แปลงพฤติกรรมกู้สถานการณ์วิกฤตกลับมาได้
00:36:54 → 00:36:58 จากสถานการณ์ไขมันพอกตับแต่ถ้าไตล่ะไต
00:36:58 → 00:37:00 เสื่อมแล้วเสื่อมเลยหรือเปล่ากู้ได้ไหม
00:37:00 → 00:37:04 วิกฤตนครั้งนี้ทำทำได้ไหหรือถ้ามันได้ทำ
00:37:04 → 00:37:09 อย่างไรมันถึงแก้ได้คะหรือมันแบบมันมัน
00:37:09 → 00:37:12 มันแบบถ้าเขคงอนเราแล้วเราง้อไม่ได้แล้ว
00:37:12 → 00:37:16 ่ะคะครับเอ่ออันนั้นก็คือไขมันคอกกับนะก็
00:37:16 → 00:37:21 จะคือเป็นอ่าเป็นสารอ่าไขมันนะครับเนเกิน
00:37:21 → 00:37:23 นะคอกที่ตับนะครับมักจะเริ่มจาก
00:37:23 → 00:37:26 คาร์โบไฮเดรตก่อนแต่ของไตจะต่างออกไปนะ
00:37:26 → 00:37:29 ครับอ่อไตไเรื้อรังเนี่ยเกิดจากการที่
00:37:29 → 00:37:32 หน่วยไตเล็กๆหรือเนฟรอนเนี่ยมันมันดับไป
00:37:32 → 00:37:36 ซึ่งการจะเปิดเส้นเลือดฝอยที่ไปที่หน่วย
00:37:36 → 00:37:38 ไตเล็กๆเหล่านี้ให้กลับมาเนี่ยโดยทฤษฎี
00:37:38 → 00:37:42 แล้วก็คือไม่ไม่เป็นไปไม่ได้นะครับถ้าไต
00:37:42 → 00:37:45 เสื่อมแล้วดังนั้นส่วนใหญ่เนี่ยก็จะฟื้น
00:37:45 → 00:37:48 ฟูกลับมาไม่ได้นะครับถ้าเป็นไตเรื้อรัง
00:37:48 → 00:37:50 ที่ค่อยๆเสื่อมอย่างชัดเจนเนี่ยฟื้นฟูไม่
00:37:50 → 00:37:53 ได้แต่จะมีส่วนน้อยที่ไตเนี่ยฟื้นได้บาง
00:37:53 → 00:37:56 ส่วนกรณีที่มีไตบาดเจ็บเฉียบพันธุซ้อนทับ
00:37:56 → 00:37:59 บนไตเรือลังนะครับนี้ก็จะฟื้นฟูกลับมาได้
00:38:00 → 00:38:04 บางส่วนแลอีกกรณีนึงก็คืออ่าหน่วยไตที่
00:38:04 → 00:38:08 เหลืออยู่นะครับทำงานทดแทนหน่วยไตที่ดับ
00:38:08 → 00:38:11 ไปแล้วก็คือหน่วยไตที่เหลืออยู่ก็ก็อาจจะ
00:38:11 → 00:38:15 มีขนาดโตขึ้นเล็กน้อยอะไรอย่าเงี้ยเอ่อ
00:38:15 → 00:38:18 เหล่านี้จะทำให้ตัวเลขการตรวจอัตรากรอง
00:38:18 → 00:38:22 ของไตดีขึ้นบ้างนะครับค่ะครับแต่ว่าเ่อ
00:38:22 → 00:38:26 การที่เราชะลอการเสื่อมของไทให้ดีให้ดี
00:38:26 → 00:38:30 ที่สุดเนี่ยก็ครับไที่ทำงานเหลือน้อยอยู่
00:38:30 → 00:38:33 แล้วเนี่ยก็เอิ่มก็อาจจะไม่จำเป็นต้องฟอก
00:38:34 → 00:38:37 เลือดล้างไตก็ได้นะครับถ้าเราชะลอกันไได้
00:38:37 → 00:38:40 ดีไตที่เหลือน้อยอยู่เาก็จะทำงานขับของ
00:38:40 → 00:38:43 เสียทดแทนไปส่วนที่ที่ดับไปแล้วที่สูญ
00:38:43 → 00:38:46 เสียไปแล้วได้ครับอืค่ะอือโอ๊ถ้าอย่าง
00:38:46 → 00:38:49 งั้นถ้าไตเราเหลือน้อยอยู่แล้วเรายิ่ง
00:38:49 → 00:38:52 ต้องเปลี่ยนพฤติกรรมรับการรับประทานการ
00:38:52 → 00:38:56 เลือกอาหารเข้าไปในร่างกายอันนั้นยิ่ง
00:38:56 → 00:38:58 ต้องแบบใช้ความ
00:38:58 → 00:39:01 ระมัดระวังมากมันระมัดระวังเพิ่มขึ้นมากๆ
00:39:01 → 00:39:06 เลยนะคะครับขนาดถึงต้องมานั่งช่างตวงวัด
00:39:06 → 00:39:09 เกลือเอ่อน้ำปลาหรือว่าน้ำตาลอะไรขนาด
00:39:09 → 00:39:12 นั้นเลยมั้ยคะคุณหมอ
00:39:12 → 00:39:16 เอิ่มใช่ครับท่าเทางวิทยาศาสตร์เลยเนี่ย
00:39:16 → 00:39:20 ในคลินิกโรคไทเรื้อรังเราเนี่ยจะมีเอ่อ
00:39:20 → 00:39:22 ผู้ทำหน้าที่นี้ผู้เชี่ยวชาญที่ทำหน้าที่
00:39:22 → 00:39:26 นี้คือนักกำหนดอาหารหรือหรือนักโฆษณาก็
00:39:26 → 00:39:29 ตามแล้วแต่แล้วแต่เิของโรงพยาบาลหรือ
00:39:29 → 00:39:33 คลินิกนั้นเขาจะมาค่อยๆแนะนำเลยครับว่า
00:39:33 → 00:39:36 เอ่อคุณควรจะทานอาหารโปรตีนปริมาณเท่า
00:39:36 → 00:39:40 ไหร่คุณจะวัดปริมาณโปรตีนในอาหารแต่ละ
00:39:41 → 00:39:44 ชนิดเนี่ยยังไงจะนับจำนวนแคลอรี่อย่างไร
00:39:44 → 00:39:46 จะนับโปรตีน
00:39:46 → 00:39:50 คาร์โบไฮเดรตไขมันอย่างไรจะเลือกกินไขมัน
00:39:50 → 00:39:54 ชนิดไหนถึงจะดีอ่าปริมาณเกลือจะวัดอย่าง
00:39:54 → 00:39:58 ไรจะใช้อะไรวัดอย่างเงี้ยก็คือจะมีผู้
00:39:58 → 00:40:02 เชี่ยวชาญเป็นนักกำหนดอาหารให้คำแนะนำอ่า
00:40:02 → 00:40:05 เหล่านี้ครับอค่ะเพื่อผลอ่าการชะลอการ
00:40:05 → 00:40:09 เสื่อมไปที่ดีที่สุดครับอืคือเราแก้มัน
00:40:09 → 00:40:11 ไม่ได้กู้วิกฤตไม่ได้เราต้องชะลอความ
00:40:12 → 00:40:15 เสื่อมของมันให้เกิดช้าที่สุดอ่ะนะคะใช่
00:40:15 → 00:40:18 ครับผมค่ะอืพอชะลอแล้วเนี่ยอ่ะสงสัยต่อ
00:40:18 → 00:40:22 ถ้าชะลอแล้วเนี่ยเราพยายามปรับทั้งเรื่อง
00:40:22 → 00:40:26 กินทั้งเรื่องเอ่อผลที่จะทำให้ไตมันสสภาพ
00:40:26 → 00:40:32 ลงแล้วเอ่อเขาจะยังมีอัตราการทำงานที่ถด
00:40:32 → 00:40:35 ถอยลงอยู่หรือไม่ครับคุณหมอหรือว่ามันก็
00:40:35 → 00:40:39 จะแบบดีขึ้นบ้างหรือว่าเ่อทรงตัวมันมันจะ
00:40:39 → 00:40:43 เป็นลักษณะของแบบไหนครับครับก็คือถ้าควบ
00:40:43 → 00:40:48 คุมได้ดีดีมากเลยที่สุดเนี่ยก็อาจจะคงที่
00:40:49 → 00:40:52 ได้ตากการกรองของไซหรือระยะของไตจะคงที่
00:40:52 → 00:40:57 อยู่ค่ะอ่าแต่ถ้าเกิดว่าเ่าจะเสื่อมตาม
00:40:57 → 00:41:01 อายุด้วยตามอืตามวัยตามตามความเสื่อมของ
00:41:01 → 00:41:05 ร่างกายด้วยอาจจะยอมรับให้เสื่อมได้เ่อ
00:41:05 → 00:41:08 ขึ้นกับตำรานะครับแนวทางปีนึงไม่ควรเกิน
00:41:08 → 00:41:12 อ่า 1 -3% อ่ะผมให้เป็น Range ไว้แล้ว
00:41:12 → 00:41:15 กันว่าไม่ควรจะเสื่อมเกินนี้ต่อ 1 ปีนะค
00:41:15 → 00:41:20 ค่ะเช่นเอ่ออัตรากองตั้งต้นอยู่ที่ 60
00:41:20 → 00:41:23 ผ่านไป 1 ปีถ้าอยู่ที่ 60 เท่าเดิมก็ก็
00:41:24 → 00:41:27 นับว่าควบคุมชะลอเสื่อมได้ดีแต่ถ้าเสื่อม
00:41:27 → 00:41:31 อไปไม่เกิน 1-3 หน่วยเช่นลงไปอยู่ 58 ก็
00:41:31 → 00:41:35 ยังพอบอกได้ว่าน่าจะดีนะครับอือแต่ว่าถ้า
00:41:35 → 00:41:39 เสื่อมไปเกิน 3 หรือเกิน 5% ไปแล้วก็ถือ
00:41:39 → 00:41:42 ว่าควบคุมหรือลอการเสื่อมไได้ไม่ค่อยดี
00:41:42 → 00:41:47 นักครับอืค่ะอืพอถึงตรงนี้เราพูดถึงความ
00:41:47 → 00:41:51 เสื่อมคุณหมอคะในการรักษาโรคไตเนี่ยเมี
00:41:51 → 00:41:55 สเต็ปในการรักษาอย่างไรบ้างแล้วก็เอ่อทุก
00:41:55 → 00:41:59 คนที่ไตเสื่อมต้องเดินไปสู่การฟอกไตหรือ
00:41:59 → 00:42:03 เปล่าหรือมันมันสามารถรักษาด้วยวิธีอื่น
00:42:03 → 00:42:08 ได้มคะเอ่อครับการดูแลตัวเองเพื่อชะลอการ
00:42:08 → 00:42:11 เสื่อมไม่ให้ไตเสื่อมเร็วนะครับค่ะโดยถ้า
00:42:11 → 00:42:15 เป็นผู้ที่ตตเรื้อรังในระยะแรกเริ่มต้นนะ
00:42:15 → 00:42:19 ครับ 1 2 3 เนี่ยเอ่อก็ต้องควบคุมทั้ง
00:42:19 → 00:42:21 การรับประทานอาหารที่พอดีทั้งปริมาณ
00:42:21 → 00:42:24 แคลอรีแล้วก็รสชาติเนี่ยไม่เค็มเกินไปไม่
00:42:24 → 00:42:27 หวานเกินไปนะครับไม่รับประทานปมาณมากเกิน
00:42:27 → 00:42:30 ไปแล้วก็ดื่มน้ำให้เพียงพอวันละประมาณ 2
00:42:30 → 00:42:33 ลิตรต่อวันหรือ 8 แก้วน้ำต่อวันนะครับออก
00:42:33 → 00:42:36 กำลังกายสม่ำเสมอนะครับพักผ่อนให้เพียงพอ
00:42:36 → 00:42:40 งดสูบบุหรี่งดเดื่มแอลกอฮอล์แล้วก็งดยา
00:42:40 → 00:42:43 ชุดหรือยาที่อันตรายต่อทราทุกชนิดนะครับ
00:42:43 → 00:42:46 แล้วก็ตรวจคัดกรองสุขภาพเป็นประจำทุกปี
00:42:46 → 00:42:50 อันนี้ก็จะเป็นวิธีชะลอไจเสื่อมในระยะแรก
00:42:50 → 00:42:55 เริ่มนะครับระยะ 2 3 แต่ถ้าเกิดเข้าสู่
00:42:55 → 00:42:59 ระยะที่มีสมดของเสียหรือเกลือแร่ผิดปกติ
00:42:59 → 00:43:04 จากผลการตรวจเลือดคุณหมอเขาก็จะให้ยาปรับ
00:43:04 → 00:43:06 สมดุลเกลือแร่นั้นนั้นหรือปรับสมดุลน้ำ
00:43:07 → 00:43:09 หรือปรับสมดุลของเสียที่เหมาะสมกับไใน
00:43:09 → 00:43:12 ระยะนั้นเช่นในระยะที่ 4 หรือระยะที่ 5
00:43:12 → 00:43:15 หรือถ้ามีความผิดปกติเกี่ยวกับระบบ
00:43:15 → 00:43:18 ฮอร์โมนที่ไตควบคุมอยู่เช่นแคลเซียม
00:43:18 → 00:43:22 ฟอสเฟตหรือว่ากระดูกหรือว่าเม็ดเลือดแดง
00:43:22 → 00:43:26 ก็จะมียาที่ช่วยทดแทนตรงนั้นด้วยเพื่อ
00:43:26 → 00:43:29 ช่วยให้ไตทำงานหนักแล้วก็ชะลอการเสื่อม
00:43:29 → 00:43:33 ของไตออกไปให้ได้นานที่สุดเพราะว่าอ่าก็
00:43:33 → 00:43:36 ไม่มีใครที่อยากจะเข้าสู่การปอกเลือดล้าง
00:43:36 → 00:43:41 ไตครับก็ปัจจุบันก็เราก็มียานะครับสำหรับ
00:43:41 → 00:43:43 ที่จะช่วยชะลอการเสื่อมของไต
00:43:43 → 00:43:47 อ่อทุกระยะนะครับก็จะพยายามชะลอให้ให้ได้
00:43:47 → 00:43:50 นานที่สุดถ้าระยะแรกเริ่มที่ยังไม่ต้อง
00:43:50 → 00:43:54 ใช้ยาก็ใช้การปฏิบัติตัวนะคุมอาหารดื่ม
00:43:54 → 00:43:57 น้ำให้เพียงพอออกกำลังกายพักผ่อนแล้วก็
00:43:57 → 00:44:00 หลีกเลี่ยงสารหรือยาที่เป็นติดกตนะครับ
00:44:00 → 00:44:04 แล้วก็คัดรองหรือตรวจติดตามดูเ่าปัสสาวะ
00:44:04 → 00:44:07 แล้วก็ดูเลือดตามแพทย์แนะนำครับก็จะช่วย
00:44:07 → 00:44:12 ชะลอการเสื่อมของไายไฟได้ครับค่ะครับอื
00:44:12 → 00:44:14 แสดงว่าทุกคนไม่จำเป็นที่จะต้องเข้าสู่
00:44:14 → 00:44:18 กระบวนการฟอกไตใช่ไหมคะคุณหมอครับกระบวน
00:44:18 → 00:44:22 การบำบัดฟอกไตเราจะทำเมื่อเ่อคนไข้ก็ต้อง
00:44:22 → 00:44:26 เข้าสู่ไตรวายเรื้อรังระยะสุดท้ายและก็มี
00:44:26 → 00:44:28 ข้อบ่งชิ
00:44:28 → 00:44:31 อย่างชัดเจนที่ควบคุมด้วยยาไม่ได้นะฮะใช้
00:44:31 → 00:44:34 ยารักษาสมดุลเกลือแร่สมดุลน้ำอย่างเต็ม
00:44:34 → 00:44:38 ที่แล้วแต่ว่ายาไม่ได้ผลเราก็จะถึงจะทำ
00:44:38 → 00:44:43 บำบัดทดแทนไตครับอือืซึ่งตัวของไตเนี่ย
00:44:43 → 00:44:48 ถ้าเสียหายเยอะๆเนี่ยเอ่อสามารถรับบริจาค
00:44:48 → 00:44:51 จากผู้ให้บริจาคหรือว่าในบรรดาญาติพี่
00:44:51 → 00:44:54 น้องเนี่ยเอ่อถ้าเข้ากันได้เนี่ยญาติพี่
00:44:54 → 00:44:58 น้องบริจาคไตให้กันได้ใช่มั้ยคะค่ะอ่า
00:44:58 → 00:45:03 ครับใช่อ่าในเมืองไทยก็ญาติพี่น้องบริจาค
00:45:03 → 00:45:06 ไปได้ครับต้องดูว่าเบื้องต้นก็ต้องดูหมู่
00:45:06 → 00:45:11 เลือดเข้ากันได้หรือไม่คอก็การปลูกถ่ายไต
00:45:11 → 00:45:14 นะครับหรือให้ไตหรือรับบริจาคไตก็คือการ
00:45:14 → 00:45:18 พูดรวมๆก็คือการปลูกถ่ายปลูกถ่ายไตเนาะก็
00:45:18 → 00:45:21 เป็นวิธีการบำบัดทดแทนไตชนิดนึงนะครับ
00:45:21 → 00:45:26 บำบัดทดแปงไปก็มี 3 วิธีวิธีที่อ่าทำให้
00:45:26 → 00:45:28 คุณภาพชีวิตคนไข้ดีที่สุดก็คือการปลูก
00:45:28 → 00:45:32 ถ่ายไตนะครับอือีก 2 วิธีก็ได้แก่การฟอก
00:45:32 → 00:45:35 เลือดด้วยเครื่องไตเทียมก็ที่ 3 ก็คือการ
00:45:35 → 00:45:39 ล้างไตทางช่องท้องอก็วิธีทั้ง 3 นี้ก็
00:45:39 → 00:45:43 เหมาะสมเอ่อกับผู้ป่วยแต่ละรายตามสภาวะ
00:45:43 → 00:45:47 ต่างๆกันขึ้นอยู่กับอ่ากับวิธีการดำเนิน
00:45:47 → 00:45:52 ชีวิตของคนไข้ด้วยครับค่ะอือคุณหมอคุณหมอ
00:45:52 → 00:45:54 เมื่อกี้คุณหมอคุณหมอคุณหมอบอกว่าเอ่อใน
00:45:55 → 00:46:00 เมืองไทยสามารถบริจ้ะเออได้แสดงว่าไม่ใช่
00:46:00 → 00:46:03 ทั่วโลกที่เขาที่เขาสามารถทำได้อย่างเงี้
00:46:03 → 00:46:07 ะครับอ่อถ้ารายละเอียดเจาะลึกน้ำประเทศก็
00:46:07 → 00:46:11 อันนี้ผมไม่แน่ใจนะแต่ว่าวิธีการถูก่ายไต
00:46:11 → 00:46:14 ของเราเอ่อเราก็รับมาจากทางอเมริกาและ
00:46:14 → 00:46:18 ยุโรปอ่าครับส่วนกฎหมายเกี่ยวกับการว่า
00:46:18 → 00:46:21 ใครจะบริจาคไตให้กับใครได้เนี่ยขึ้นกับ
00:46:21 → 00:46:25 อ่าวัฒนธรรมของกฎหมายแต่ละประเทศอ่าอย่าง
00:46:25 → 00:46:28 ของเมืองไทยเมืองไทยเรายอมรับ
00:46:28 → 00:46:32 อ่าถ้าเป็นผู้บริจาคผู้คนให้ไตนะครับที่
00:46:32 → 00:46:35 ยังมีชีวิตเนี่ยก็คือเป็นต้องเป็นญาติพี่
00:46:35 → 00:46:40 น้องกันอืเป็นสามีภรรยาที่จดทะเบียนตามกฎ
00:46:40 → 00:46:43 หมายหรือมีบุตรด้วยกันรายละเอียดเ่อผมไม่
00:46:44 → 00:46:47 ได้ลงลึกนะประมาณนี้ครับแต่ถ้าเป็นในต่าง
00:46:47 → 00:46:51 ประเทศเนี่ยเเ่าถ้าอย่างเช่นอเมริกัน
00:46:51 → 00:46:54 เนี่ยสามารถถึงขั้นว่ามีมีข้อกฎหมายบาง
00:46:54 → 00:46:57 อย่างที่บริจาคไทยให้คนที่เป็นแค่เพื่อน
00:46:57 → 00:47:02 กันก็ได้ครับผมเคยได้ยินข่าวอืแต่มันมี
00:47:02 → 00:47:04 ความเชื่อนี้เรื่องนึงคุณหมอคุณหมอเคยได้
00:47:04 → 00:47:08 ยินมั้ยคะว่าบริจาคไตไปแล้วเนี่ยจะทำให้
00:47:08 → 00:47:12 ผู้บริจาคเนี่ยอายุสั้นกว่าคนปกติทั่วๆไป
00:47:12 → 00:47:17 อ๋อยเยได้ยินี่ขวาเออออก็ตรงนี้เรื่อง
00:47:17 → 00:47:21 อายุไขยของผู้ที่ให้ไตไปแล้วค่ะเอ่อจาก
00:47:21 → 00:47:24 ข้อมูลที่รวบรวมคืออายุไขไม่ต่างจาก
00:47:25 → 00:47:28 ประชากรปกติครับที่ไม่ได้บริจาคไตที่ไม่
00:47:28 → 00:47:31 ได้ให้ไถึงอายุขเนี่ยเท่าเดิมแต่ว่า
00:47:31 → 00:47:34 เรื่องที่จะเสี่ยงเพิ่มขึ้นก็คือเสี่ยง
00:47:34 → 00:47:37 ต่อการเข้าสู่ไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย
00:47:37 → 00:47:42 มากกว่าคนปกติไ 2 ข้างครับผมออืค่ะอืหมาย
00:47:42 → 00:47:45 ถึงว่าทั้งคนทที่รับบริจาคหรือทั้งคนที่
00:47:45 → 00:47:48 บริจาคครับคุณหอันนี้พูดในแง่ของผู้ให้
00:47:48 → 00:47:53 ผู้ให้ไปคนบริจาคอๆผู้ให้เนี่ยถ้าให้ไตไป
00:47:53 → 00:47:57 แล้ว 1 ข้างการปฏิบัติตัวของผู้ให้ให้อ่ะ
00:47:57 → 00:48:01 ค่ะต้องดูแลสุขภาพขนาดไหนอย่างไรบ้างคะ
00:48:01 → 00:48:02 คุณ
00:48:02 → 00:48:06 หมอต้องเช็คสุขภาพไปอย่างน้อยปีละ 1
00:48:06 → 00:48:08 ครั้งนะครับแต่ด้วยการตรวจเลือดแล้วก็
00:48:08 → 00:48:12 ตรวจปัสสาวะอ่ามีการคัดกรองความดันโลหิต
00:48:12 → 00:48:15 เป็นประจำเพราะว่าเมื่อเหลือตายข้างเดียว
00:48:15 → 00:48:18 โอกาสที่จะเกิดบความดันโลหิตสูงจะเกิดได้
00:48:18 → 00:48:23 มากกว่าประชากรปกติอืค่ะส่วนเรื่องอ่าการ
00:48:23 → 00:48:27 ดำเนินชีวิตก็อ่อก็
00:48:27 → 00:48:30 เหมือนกันก็คือก็ไม่ต้องอ่าอย่าอย่าไปรับ
00:48:30 → 00:48:33 ประทานอะไรมากเกินไปที่เป็นที่ทำให้เกิด
00:48:33 → 00:48:37 ปัญหากับไตจะอืคือถ้ามีไตข้างเดียวเราก็
00:48:37 → 00:48:41 ต้องคิดเสมือนว่าเป็นไตเรือหลังชนิดหนึ่ง
00:48:41 → 00:48:44 อยู่แม้ว่าไตข้างเดียวที่เหลืออยู่นั้นนะ
00:48:44 → 00:48:46 ครับถ้าไปเจาะเลือดดูเนี่ยจะเพราะว่า
00:48:46 → 00:48:50 อัตรากรองไตเนี่ยจะปกติเลยก็ได้ค่ะอืว่า
00:48:50 → 00:48:53 แต่ทั้งๆที่มีไตข้างเดียวนะดังนั้นมีไต
00:48:53 → 00:48:56 ข้างเดียวเราก็ต้องต้องตระหนักว่าเราจะ
00:48:57 → 00:49:00 เอาไปกินของมากๆจนเกินไปจนไตทำงานหนักเก็
00:49:00 → 00:49:02 จะไม่ดีกับไตที่เหลืออยู่เพียงข้างเดียว
00:49:02 → 00:49:05 เพราะไตเที่เหลือข้างเดียวจะรับภาระหนัก
00:49:05 → 00:49:11 เกินไปอืค่ะครับก็แน่นอนว่าเอ่อพอการ
00:49:11 → 00:49:15 บริจาคเอ่อหรือว่าการเขาเรียกว่าอ่าให้ไต
00:49:15 → 00:49:18 กันเนี่ยเอ่อทั้งผู้ให้และผู้รับหลังจาก
00:49:18 → 00:49:22 นั้นจะต้องดูแลตัวเองมากเป็นพิเศษและต้อง
00:49:22 → 00:49:26 ถนอมถนอมไตที่เหลือเพียงข้างเดียวพูด
00:49:26 → 00:49:29 อย่างงี้ได้ได้ใช่มั้ยช่างเดียวไว้ให้ดี
00:49:29 → 00:49:32 ที่สุดเอ่อคุณหมอครับถ้าอย่างงั้นเอ่อ
00:49:32 → 00:49:35 แล้วเ่อถ้าถ้าเราไม่
00:49:35 → 00:49:39 สามารถรอไตจากคนอื่นได้ก็คือต้องไปเข้า
00:49:39 → 00:49:42 กระบวนการที่เรียกว่าฟอกไตหรือว่าไตเทียม
00:49:42 → 00:49:44 นั้นถูกต้องมั้ยอ่าอย่างเดียวเลยหรือ
00:49:44 → 00:49:47 เปล่าอย่างเดียวเลยใช่มั้ยคุณหมอครับก็
00:49:47 → 00:49:50 คือถ้าไม่มีญาติที่บริจาคหรือว่าญาติที่
00:49:50 → 00:49:54 หมู่เลือดหรือบริจาคให้กันได้เงี้ยก็ช้
00:49:54 → 00:49:57 ที่ 2 ก็เป็นรอไตบริจาคสัจากกาชาตนะครับ
00:49:57 → 00:50:01 กาชาตของประเทศไทยเนี่ยจะเป็นผู้อ่าใช่
00:50:01 → 00:50:05 จัดสรรไตบริจาคจากผู้ที่สมองตายแล้วนะ
00:50:05 → 00:50:09 ครับากผู้ที่สมองสมองตายแล้วคือเสียชีวิต
00:50:09 → 00:50:13 อตายแล้วอเก็จะมีเ่อครับกาชาตก็จะเป็นผู้
00:50:13 → 00:50:17 จับสรรให้อันนี้ก็ก็อันนี้ก็จะทำตาม
00:50:17 → 00:50:20 นโยบายของกาชาตครับระหว่างที่รอไบริจาค
00:50:20 → 00:50:24 นี้คนไ้ที่เป็นตายเลืลังก็ให้ทำการฟอก
00:50:24 → 00:50:28 เลือดล้างไตไปตามปกติก่อแล้วก็รักษา
00:50:28 → 00:50:32 สุขภาพให้แข็งแรงเพราะว่าการที่จะรับการ
00:50:32 → 00:50:35 ปลูกต่ายปลูกถ่ายไตได้เนี่ยต้องรับการผ่า
00:50:35 → 00:50:38 ตัดซึ่งนับเป็นการผ่าตัดใหญ่มีการต่อเส้น
00:50:38 → 00:50:41 เลือดมีการต่อท่อปัสสาวะต้องดมยาสลบก็
00:50:41 → 00:50:44 ร่างกายต้องแข็งแรงถึงจะทนการผ่าตัดเหล่า
00:50:44 → 00:50:45 นั้นได้ค่ะ
00:50:45 → 00:50:49 อ๋อมีผู้ฟังถามมาคุณหมอว่าที่ไทยนครินทร์
00:50:49 → 00:50:56 มีรับปลูกถ่ายไตด้วยมั้ยคะเอ่อมีครับผมมี
00:50:56 → 00:51:00 ครับไทนครินสามารถทำการผ่าตัดปลูกถ่ายไป
00:51:00 → 00:51:04 ได้ครับแล้วเราก็ทำมาหลายปีแล้วนะครับก็
00:51:04 → 00:51:08 มีประสบการณ์เรามีทีมผ่าตัดที่มี
00:51:08 → 00:51:11 ประสิทธิภาพมีฝีมือนะครับประกอบด้วยอ่า
00:51:11 → 00:51:14 ศัลยแพทย์หลอดเลือดนะครับเป็นผู้ต่อหลอด
00:51:14 → 00:51:17 เลือดแดงแล้วก็หลอดเลือดดำที่จะเข้าสู่ไ
00:51:17 → 00:51:21 ประกอบด้วยสัพทางเดินปัสสาวะที่มาต่อท่อ
00:51:21 → 00:51:24 ไตโดยเฉพาะเลยนะครับอแล้วก็จะมี
00:51:24 → 00:51:29 อายุรแพทย์อ่าโรคไตนะครับที่ดูเรื่องการ
00:51:29 → 00:51:34 ปรับยาภูมิคุ้มกันป้องกันให้เกิดการสลัด
00:51:34 → 00:51:38 ไตหรือภูมิคุ้มกันต่อต้านไตนะครับค่ะก็จะ
00:51:38 → 00:51:43 มีอ่าทีมพยาบาลวิชาชีพที่ดูแลเฉพาะเ่า
00:51:43 → 00:51:47 ปลูกถ่ายไตเลยครับออือค่ะก็คือมีมีครบเลย
00:51:48 → 00:51:50 แล้วก็มีประสบการณ์ในการผ่าตัดปลูกถ่ายไต
00:51:50 → 00:51:54 มาเอ่อมานานหลายปีแล้วครับค่ะช่วงท้ายค่ะ
00:51:54 → 00:51:57 คุณหมอคะเอ่ออยากให้คุณหมอฝากถึงคุณผู้
00:51:57 → 00:52:00 ฟังที่ฟังอยู่ในคืนนี้หรือมาฟังตอนทหลัง
00:52:00 → 00:52:03 ที่เป็นแบบอ่ารีรันของเราแล้วนะคะว่าเอ่อ
00:52:03 → 00:52:06 อยากให้คนไทยเนี่ยตระหนักเรื่องโรคไตอะไร
00:52:06 → 00:52:11 มากที่สุดคะครับส่วนใหญ่โรคไตไม่มีอาการ
00:52:11 → 00:52:14 นะครับแล้วก็ประชากรไทยเนี่ยป่วยเป็นโรค
00:52:14 → 00:52:18 ไตประมาณ 8 ล้านคนดังนั้นที่ท่านที่เดิน
00:52:18 → 00:52:23 ไปเดินมาอาการทั่วไปปกติจริงๆอาจจะมีโรค
00:52:23 → 00:52:26 ไตเรื้อรังซ่อนอยู่ก็ได้นะครับซึ่งปีนึง
00:52:26 → 00:52:29 ประมาณ 80,000 คนนเนี่ยต้องไปรับการฟอก
00:52:29 → 00:52:33 เลือดล้างไตซึ่งเสียอ่าเสียเสียเงินนะ
00:52:33 → 00:52:36 ครับเป็นภาระทางการเงินแล้วก็ต้องใช้เวลา
00:52:36 → 00:52:39 ในการที่จะไปบำบัดทดแทนไตฟอกเลือดล้างไต
00:52:39 → 00:52:42 แต่ละครั้งนะครับทำให้คนไข้เนี่ยเ่อเสีย
00:52:42 → 00:52:46 โอกาสและมีคุณภาพชีวิตที่แย่ลงนะครับอือ
00:52:46 → 00:52:49 ค่ะเอ่อในสัปดาห์นี้ก็จะมีวันไตรโลกนะ
00:52:49 → 00:52:53 ครับก็ขอยกคำขวัญวันไตรโลกอ่ามาวันนี้นะ
00:52:53 → 00:52:57 ครับก็คือหมั่นดูแลไตใส่ใจคัดกรองกป้อง
00:52:57 → 00:53:00 กันโรคไตนะครับโรคไตเนี่ยเป็นแล้วมันไม่
00:53:00 → 00:53:04 หายขาดดังนั้นคัดกรองก่อนรู้ก่อนก็รักษา
00:53:04 → 00:53:07 ได้แล้วก็ชะลอไม่ให้ไตเสื่อมจนเกิดไตวาเ
00:53:07 → 00:53:11 รังยะสุดท้ายครับผมค่ะวันนี้ขอบคุณคุณหมอ
00:53:11 → 00:53:13 มากเลยนะคะที่ให้เกียรติกับรายการสุขภาพ
00:53:13 → 00:53:16 ดี 22 นค่ะครับขอบคุณคุณขวัญคุณโอ๊คแล้ว
00:53:16 → 00:53:20 ก็ผู้ฟังทางบ้านเช่นกันครับค่ะขอบคุณคมาก
00:53:20 → 00:53:22 ครับสวัสดีครับคุณหมอครับนายแพทย์
00:53:22 → 00:53:25 ศิรวิทย์บันทรนะครับแพทย์อายุรกรรมโรคตาย
00:53:25 → 00:53:29 โรงพยาบาลไทยนค่ะเดี๋ยว