00:00:00 → 00:00:02 ดู
00:00:02 → 00:00:06 คลิปนี้เนี่ยเป็นคลิปภาคต่อของเมื่อญาติ
00:00:06 → 00:00:12 หมอเป็นสัตว์รออกมาดูกันว่าเมื่อชีวิต
00:00:12 → 00:00:13 ต้องเป็นอัมพาต
00:00:13 → 00:00:18 ภายหลังจากการเป็นสต๊อก 3 เดือนจะมีความ
00:00:18 → 00:00:24 เปลี่ยนแปลงอะไรบ้างมาฟังกันนะครับ
00:00:24 → 00:00:28 สวัสดีครับทุกท่านเพจหมอ swot ทางบาท
00:00:28 → 00:00:30 เดียวและ YouTube Channel หมอ Tong บาท
00:00:30 → 00:00:33 เชียวนะครับก็วันนี้เนี่ยก็ถือว่าเป็น
00:00:33 → 00:00:36 ทริปที่สองนะครับนะต่อเนื่องจากเมื่อญาติ
00:00:36 → 00:00:40 หมอเป็นสโต๊คนะครับคือการที่ทำคลิปนี้
00:00:40 → 00:00:44 ขึ้นมาเนี่ยมีเหตุผลนี้คือว่าอ่าคลิป
00:00:44 → 00:00:48 เมื่อย่างหมอเป็นสัตว์โรงเนี่ยมีคนไข้
00:00:48 → 00:00:51 หลายท่านรวมถึงญาติของผู้ป่วยเองเนี้ยเอา
00:00:51 → 00:00:55 ไปแชร์ในกรุ๊ปของคนไข้ที่เป็นเส้นเลือด
00:00:55 → 00:01:00 สมองติดแตกต่างนะเนาะก็เอ่อเรียกว่าไงแต่
00:01:00 → 00:01:03 หลายคนก็ฝั่งและหมอคิดว่าเพิ่มได้
00:01:03 → 00:01:06 ประโยชน์คือแน่นอนว่า
00:01:06 → 00:01:10 คลิปก่อนหน้านี้เป็นคลิปที่ว่าลิเกิดเหตุ
00:01:10 → 00:01:13 การณ์อะไรขึ้นมาบ้างก่อนที่คนไข้จะกลายมา
00:01:13 → 00:01:15 เป็นอัมพาต
00:01:15 → 00:01:19 นอกใช่ไหมครับและลงท้ายด้วยว่าเล้ยถ้า
00:01:19 → 00:01:22 สมมติว่าเรามีโอกาสเลือกได้เลือกได้ว่า
00:01:22 → 00:01:27 เลิกที่จะฉีดยาหรือไม่ฉีดยานะครับผลลัพธ์
00:01:27 → 00:01:30 จะเกิดมาเป็นอะไรเกิดขึ้นบ้างอ่ะแต่เรา
00:01:30 → 00:01:33 เลือกเองไม่ได้ใช่ไหมคุณหมอเขาเป็นคน
00:01:33 → 00:01:37 เลือกให้อ่ะคราวนี้ชีวิตหลังการเป็นสต็อก
00:01:37 → 00:01:40 เกิดอะไรขึ้นบ้างเมื่อเราเป็นอัมพาตเมื่อ
00:01:40 → 00:01:41 เราพิการ
00:01:41 → 00:01:45 มีอะไรที่เราเปลี่ยนแปลงไปบ้างนะครับนะ
00:01:45 → 00:01:47 อ่ะ
00:01:47 → 00:01:50 เดี๋ยวจะมาให้ปะ
00:01:50 → 00:01:55 วันแรกเลยเนี่ยที่เราเริ่มรู้สึกตัวเรา
00:01:55 → 00:01:59 พิการอาการมันจะเป็นอย่างไรนะครับนะเราจะ
00:01:59 → 00:02:02 เริ่มชามีอาการช้าอาจจะเริ่มที่ขาหรือที่
00:02:02 → 00:02:06 แขนก่อนจากนั้นเนี่ยเราจะเริ่มรู้สึกว่า
00:02:06 → 00:02:10 มันยกแขนหรือขาไม่ขึ้น
00:02:10 → 00:02:15 น้ำลายที่เราเคยคืนได้มันจะคืนไม่ได้เรา
00:02:15 → 00:02:19 จะเริ่มสำหรับสักพักหนึ่งแขนขาที่จะรู้
00:02:19 → 00:02:24 ที่รู้สึกช้าความรู้สึกช้าไม่รู้สึกแล้ว
00:02:24 → 00:02:29 และไม่รู้สึกอะไรเลยอีกต่อไป
00:02:29 → 00:02:31 เขานี้
00:02:31 → 00:02:34 หลายคนก็สงสัยว่าเอ๊ย
00:02:34 → 00:02:38 อาการช้าข้างในเส้นเลือดในสมองตีบเนี่ย
00:02:38 → 00:02:43 มันก็แบ่งเป็น 2 ส่วนนะถ้า thip ร่างกาย
00:02:43 → 00:02:48 ซีกซ้ายก็เกิดเหตุขาดเลือดที่สมองสิขวา
00:02:48 → 00:02:53 ถ้าสมมติว่าร่างกายซีกขวาขยับไม่ได้ก็
00:02:53 → 00:02:58 เกิดเหตุที่สมองซีกซ้ายที่ขาดเลือดซึ่ง
00:02:58 → 00:03:04 สมองแต่ละฟ้าถ้ามันทำงานแตกต่างกันมันมี
00:03:04 → 00:03:08 ผลแตกต่างกันด้วยนะเพราะอะไรเพราะสมองแต่
00:03:08 → 00:03:11 ละข้างเนี่ยซ้ายกับขวานั้นอย่างที่บอกว่า
00:03:11 → 00:03:15 เอ๊ยเราคงเคยได้ยินว่าคนถนัดซ้ายจะมีความ
00:03:15 → 00:03:19 คิดสร้างสรรค์นะใช่มะคนถนัดขวาจะคิดเลข
00:03:19 → 00:03:22 เก่งอะไรเงี้ยคราวนี้เมื่อสมองมันขาด
00:03:22 → 00:03:26 เลือดด้านซ้ายหรือด้านขวานอกจากมีผลใน
00:03:26 → 00:03:30 เรื่องของการขยับตัวแล้วยังมีผลในเรื่อง
00:03:30 → 00:03:36 ของความคิดการกระทำอีกด้วยนะครับนะชุดรก
00:03:36 → 00:03:42 เคยมีคนทำเตเปอร์ไว้ว่างสโต๊คเกี่ยวข้อง
00:03:42 → 00:03:46 กับโดมิเนต Hand หรือเปล่าคือคุณถนัดแขน
00:03:46 → 00:03:49 ด้านไหนสต๊อกจะเกิดด้านนั้นหมายคือคุณจะ
00:03:49 → 00:03:51 พิการด้านนั้นไหมเขาบอกอย่างนี้ก็บอกว่า
00:03:51 → 00:03:54 แทบจะไม่แตกต่างคือ 60 เปอร์เซ็นต์แล้ว
00:03:54 → 00:04:00 กันสมมุติว่าคุณเป็นคนถนัดแข็ง 3 แข็งขวา
00:04:00 → 00:04:03 ถ้าคุณจะเป็น Stock ที่แขนขวาน้ำน่ะก็
00:04:03 → 00:04:04 ประมาณ 60%
00:04:04 → 00:04:10 ถึงเกือบ 50 50 นะครั้งนี้มาดูต่อ
00:04:10 → 00:04:15 อย่างที่พูดสมองแต่ละด้านก็มีผลต่อการทำ
00:04:15 → 00:04:19 งานความนึกคิดและอารมณ์แตกต่างกันไปสะมุด
00:04:19 → 00:04:26 ว่าเราเป็นอัมพาตซีกขวาสิขวานะคนส่วนใหญ่
00:04:26 → 00:04:30 อ่ะสมมุตินะถนัดขวาด้านขวาทำงานไม่ได้
00:04:30 → 00:04:35 แสดงว่าสมองที่ขาดเลือกสีซ้ายใช่มะเพราะ
00:04:35 → 00:04:38 นั้นเมื่อสมองขาดเลือดที่ซ้ายเกิดอะไร
00:04:38 → 00:04:43 ขึ้นการวิเคราะห์เสียไปความคิดแบบเป็น
00:04:43 → 00:04:48 เหตุเป็นผลเสียไปบางคนโชคร้ายความลับรู้
00:04:48 → 00:04:51 เรื่องภาษาเหมือนวูดวิน L สนะที่เหมาะกับ
00:04:51 → 00:04:54 เฟรเซียในคือเขาพูดอะไรมาฟังไม่รู้เรื่อง
00:04:54 → 00:05:00 ก็เสียไปบางคนนะความคิดแบบเป็นเหตุเป็นผล
00:05:00 → 00:05:03 ก็เป็นขั้นเป็นตอนเสียไปยกตัวอย่างเช่น
00:05:03 → 00:05:06 ว่าสุดเราเคยคิดว่าให้เราจะต้องเก็บเงิน
00:05:06 → 00:05:10 เอาไว้ตอนแก่ตอนนี้ล่ะจะมีความรู้สึกมั้ย
00:05:10 → 00:05:12 ฉันอยากแจกจ่ายเงิน
00:05:12 → 00:05:17 หมอบางคนก็มองว่ามันเป็นการทางด้านจิตเวช
00:05:17 → 00:05:20 ด้วยหรือเปล่ามีส่วนเกี่ยวข้องนะคะนั้น
00:05:20 → 00:05:22 อย่างที่บอกว่า
00:05:22 → 00:05:26 สมองแต่ละซี่ทำงานแตกต่างกันเมื่อเกิดการ
00:05:26 → 00:05:30 ขาดเลือดก็จะส่งผลต่อความนึกคิดแตกต่าง
00:05:30 → 00:05:36 กันซึ่งมีผลมากไปกว่าการที่ร่างกายซี่ใด
00:05:36 → 00:05:40 ซี่หนึ่งทำงานไม่ได้ด้วยอันนี้เข้าใจนะ
00:05:40 → 00:05:45 บางคนมีญาติจะได้เข้าใจญาติว่าทำไมญาติ
00:05:45 → 00:05:49 เป็นแบบนี้หลังจากที่เกิดสัตว์รกนอกไหม
00:05:49 → 00:05:53 อ่ะคราวนี้มาดูต่อ
00:05:53 → 00:05:57 ในโรงพยาบาลเกิดอะไรขึ้นบ้างอย่างที่บอก
00:05:57 → 00:06:01 ว่าเมื่อเราเริ่มชาให้มันขยับแขนขาไม่ได้
00:06:01 → 00:06:05 จนอาการรู้สึกชาๆหายไปจนไม่รู้สึก
00:06:05 → 00:06:09 การกลืนน้ำลายของเราจะเริ่มผิดปกติ
00:06:09 → 00:06:13 คืนอาหารไม่ได้คืนอาหารและสำรักอย่างที่
00:06:13 → 00:06:17 บอกแค่น้ำลายอย่างคืนไม่ลงเพราะอะไรเพราะ
00:06:17 → 00:06:18 ว่า
00:06:18 → 00:06:23 อ่ารอดทหารเนี่ยมันทำงานด้วยตัวเส้น
00:06:23 → 00:06:27 ประสาท Love 9 nerve 10 ซึ่งสมองจะ
00:06:27 → 00:06:31 เลี้ยงอยู่นอกมะเส้นประสาทพวกนะทำให้คืน
00:06:31 → 00:06:35 ลำบากสำลักบางคนกินน้ำสำลักลงปลอดกิน
00:06:35 → 00:06:40 อาหารและสำนักลงปอดปอดติดเชื้อก็มีมี
00:06:40 → 00:06:42 อาการปวดเมื่อยตามตัวนอนไม่หลับน้ำลาย
00:06:42 → 00:06:47 เหนียวก็มีเหตุผลคืออะไรยกตัวอย่างให้ฟัง
00:06:47 → 00:06:51 คนไข้บางคนเอาคนเอาคนไข้ที่เป็น Store
00:06:51 → 00:06:56 กันก่อนหน้าเป็นโต๊ะสูบบุหรี่จัดอยู่ดีๆ
00:06:56 → 00:07:00 เอาเข้าโรงพยาบาลไม่ได้สูบบุหรี่เลยอ่ะมี
00:07:00 → 00:07:04 อาการขาดบุหรี่อาการขาดเหล้ามันออกนะ
00:07:04 → 00:07:09 เนี่ยออกนะอยู่ดีคุณเอาคนที่เคยได้รับสาร
00:07:09 → 00:07:12 นิโคตินหรือคนที่ได้รักอ่ะพอไปไปอยู่ใน
00:07:12 → 00:07:16 โรงพยาบาลแค่อาทิตย์เดียวเกิดปัญหาคงเคย
00:07:16 → 00:07:19 ได้ยินใช่ไหมที่เขาบอกว่าเอ๊ยหยุดเหล้า
00:07:19 → 00:07:21 เข้าพรรษาอยู่ดีหยุดเลยกินมาทุกวันทุกวัน
00:07:21 → 00:07:27 อยู่ดีหยุดเลยชักก็มีเข้าใจนะคนสูบบุหรี่
00:07:27 → 00:07:30 ก็เหมือนกันจะเกิดภาวะรู้สึกขาดนี้ก็เต็ม
00:07:30 → 00:07:33 มันอดบุหรี่น้ำลายเหนียวอยู่เดียวจะเข้า
00:07:33 → 00:07:36 อดปวดเมื่อยตามตัว
00:07:36 → 00:07:40 หลายคนต้องติดแผ่นนิคติดเพื่อช่วยบรรเทา
00:07:40 → 00:07:43 อากาศพนะเนี่ยที่บอกว่าญาติบางคนที่เริ่ม
00:07:43 → 00:07:47 มีอาการใหม่ๆเนี่ยมีอาการพาไว้แบบนี้ให้
00:07:47 → 00:07:51 นึกถึงด้วยนะว่าอาจจะมีการขาดสารนิโคติน
00:07:51 → 00:07:54 ไปซื้อแผ่น 8 มาติดและมันก็ช่วยเขาเลิก
00:07:54 → 00:07:58 สูบบุหรี่ได้ด้วยเลยนะคะนะเพราะว่าห้าม
00:07:58 → 00:08:01 สูบบุหรี่ตลอดกาลแต่หลังจากที่เป็นสต๊อก
00:08:01 → 00:08:02 แล้วอ่ะ
00:08:02 → 00:08:07 ข้อที่ 3 ปัสสะวะอุจจาระกันไม่ได้
00:08:07 → 00:08:11 รู้แหละว่ามันกำลังจะถ่ายแต่ไม่สามารถฆ่า
00:08:11 → 00:08:14 หนูจะได้อุจจาระราด
00:08:14 → 00:08:18 ความรู้สึกนะเอาพูดให้เข้าใจ
00:08:18 → 00:08:20 คนที่เป็นอัมพาต
00:08:20 → 00:08:24 ปกติเปิดปากเครียดก่อนหน้าที่จะเป็นภาพ
00:08:24 → 00:08:27 เวลาเราถ่ายเราไปห้องน้ำเนาะแต่เนี่ยเรา
00:08:27 → 00:08:30 ต้องถ่ายแล้วมันก็เลยเอ้อในธรรมเพิส
00:08:30 → 00:08:35 ความรู้สึกแย่แล้วล่ะขี่ก็เลิกยังไงทำพาส
00:08:35 → 00:08:39 แย่แค่ไหนอ่ะทั้งน้ำทั้งอุจจาระ
00:08:39 → 00:08:46 น่ะเกิดภาวะเครียดบางคนจากภาวะทางสมองทำ
00:08:46 → 00:08:49 ให้นอนไม่หลับหรือไม่หลับไม่นอน
00:08:49 → 00:08:54 มันเครียดด้วยและก็เป็นเรื่องของการขาด
00:08:54 → 00:08:57 เลือดไปเลี้ยงในส่วนสมองที่สำคัญทำให้
00:08:57 → 00:09:00 สมองมันทำงานผิดปกติ
00:09:00 → 00:09:05 ถ้าไม่หลับแม่นอนตื่นอยู่ตลอดเวลา
00:09:05 → 00:09:10 จริงๆนะลองคิดดูว่าเราเราอาจจะทดลองเป็น
00:09:10 → 00:09:15 อัมพาตครึ่งซีกอยู่ได้เอาเชือกมามัดไว้
00:09:15 → 00:09:19 กับแขนตัวเองเนาะแล้วก็เอาขามัดกับข้าง
00:09:19 → 00:09:23 อีกข้างหนึ่งยกแค่นั่งเนี่ยบางคนยังนั่ง
00:09:23 → 00:09:26 ไม่ได้เลยนะเพราะว่าอะไรเพราะว่าโทนความ
00:09:26 → 00:09:31 แข็งแรงของกล้ามเนื้อซิ่ง 110 เสียไปจะไป
00:09:31 → 00:09:32 นั่งนั่งก็หลาย
00:09:32 → 00:09:36 แล้วจากคนที่เคยทำนู่นทำนี่ได้ตามปกติ
00:09:36 → 00:09:41 อยู่ดีๆเป็นสัตว์รกจะหงุดหงิดแค่ไหนอัน
00:09:41 → 00:09:44 นี้ญาติต้องทำความเข้าใจว่าลิหลายครั้ง
00:09:44 → 00:09:48 ที่เขาเป็นเขาหงุดหงิดเค้าไม่พอใจอาจจะ
00:09:48 → 00:09:52 เป็นเรื่องนี้ด้วยใจเขาใจเราอันนี้หมอพูด
00:09:52 → 00:09:54 ให้ฟังเนาะ
00:09:54 → 00:09:57 ต่อไปก็บอกว่าอะไร
00:09:57 → 00:10:01 อย่างเครียดย่านหมอเนี่ยหมอหมอบอก 3
00:10:01 → 00:10:04 เพื่อนๆนะจานอยู่โรงเรียนแพทย์นะเก่ง
00:10:04 → 00:10:07 ระดับเหรียญทองตลอดหลักสูตรบอกว่าเฮ้ย
00:10:07 → 00:10:11 โอเคเรื่องมันเกิดขึ้นไปแล้วคนไข้ไม่ได้
00:10:11 → 00:10:16 ฉีดยาถามหน่อยเถอะทำยังไงถึงจะทำให้พิการ
00:10:16 → 00:10:21 หรืออัมพาตน้อยที่สุดเพื่อนหมอบอกว่าเฮ้ย
00:10:21 → 00:10:24 ภายใน 90 วันเนี้ยถือว่าเป็น Golden
00:10:24 → 00:10:25 พรีเมียร์
00:10:25 → 00:10:31 จะทำอะไรต้องรีบทำท่าสมองมันฟื้นภายใน 90
00:10:31 → 00:10:33 วันนี้แหละมันจะฟื้น
00:10:33 → 00:10:38 ถ้าทำไปภาพบำบัดได้ให้รีบทำโอ้โห
00:10:38 → 00:10:44 หมอบอกแบบนี้เรามีเวลา 90 วัน 3 เดือน
00:10:44 → 00:10:48 อะไรดีอย่างที่บอกเบาะอยู่โรงพยาบาลเนี่ย
00:10:48 → 00:10:51 ประมาณสักสิบวันเก้าวัน 10 วันหมอให้ริ
00:10:51 → 00:10:54 ชาร์ดกับบ้านบ้านที่อยู่ปัจจุบันอยู่ไม่
00:10:54 → 00:10:57 ได้แล้วนะกุบปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้
00:10:57 → 00:11:00 มันไม่มีเตียง
00:11:00 → 00:11:03 เหมาะสำหรับคนเป็นภาพไม่มี
00:11:03 → 00:11:07 บางทีมาไว้หมอเวอร์หรือเปล่าบ้านผมไม่
00:11:07 → 00:11:09 เห็นต้องไปซื้อเตียงนู่นนี่นั่นแหละบ่
00:11:09 → 00:11:12 เหมาะจะเว่อร์ก็ได้แต่คนที่ไปนอนภาคต้อง
00:11:12 → 00:11:15 มีคนดูแลเกือบ 24 ชั่วโมงถ้าปล่อยให้เขา
00:11:15 → 00:11:19 นอนอยู่เฉยๆเกิดแผลกดทับนะต้องไปซื้อ
00:11:19 → 00:11:23 เตียงลงเตียงคนไข้ก็ว่ากันแต่แต่เตียงลม
00:11:23 → 00:11:27 เนี่ยมันก็มีความจำเป็นนอกนะไม่งั้นเกิด
00:11:27 → 00:11:31 แผลกดทับแผนที่จะได้ทำกายภาพเกิดปัญหาอีก
00:11:31 → 00:11:36 นอกแม่อ่ะห้องน้ำห้องท่าอย่างที่บอก
00:11:36 → 00:11:40 ไม่มีใครอยากถ่ายอยู่กับแพมเพิสเตอร์
00:11:40 → 00:11:43 บางทีคนที่เป็นอัมพาตเองอยากจะไปเข้าลุก
00:11:43 → 00:11:49 เข้าห้องน้ำนอกมาแต่ร่างกายมันมันอัมพาต
00:11:49 → 00:11:53 ไปแล้วครึ่งซีกมันก็ไม่สะดวกก็ต้องทำห้อง
00:11:53 → 00:11:57 น้ำสำหรับคนที่เป็นเอามาเผื่อกับมาพาดนะ
00:11:57 → 00:12:00 ฮะ 2
00:12:00 → 00:12:02 แก้ปัญหาไอเต้นวิเศษ
00:12:02 → 00:12:05 อันนี้ต้องบอกอย่างหนึ่งบอกว่าเป็นทุกข์
00:12:05 → 00:12:06 บ้าง
00:12:06 → 00:12:09 เพราะหมอก็บอกว่าเอ๊ย
00:12:09 → 00:12:13 ถ้าจะฟื้นกลับมาเป็นเกือบปกติ
00:12:13 → 00:12:17 90 วันแรกเป็นโกลเด้นทรีเรียนเป็นช่วง
00:12:17 → 00:12:22 เวลาเวลาทองโมโหคราวนี้ก็สรรหาสิใครบอก
00:12:22 → 00:12:26 ว่ายาอะไรดี 4 แล้วกระตุ้นสมองให้ทำงานดี
00:12:26 → 00:12:27 มั้งนี้จริงๆนะ
00:12:27 → 00:12:31 ก็รีบไปหามาบอกว่าต้องฉีดต่อเนื่องกี่วัน
00:12:31 → 00:12:35 กี่เข็มนู่นนี่น่ะนะไม่บอกว่าชื่อยาอะไร
00:12:35 → 00:12:39 เพราะว่าหมอบางคนเชื่อหมอบางคนไม่เชื่อ
00:12:39 → 00:12:45 ค่ะนะอ่ะอันที่ 2 บอกอุ้ยเอาหัวไปกระตุ้น
00:12:45 → 00:12:49 ขึ้นแม่เหล็กไม่ใช่ am MRI นะแต่ไป
00:12:49 → 00:12:53 กระตุ้นขึ้นมากเลยเขาบอกว่าดีเวิร์คก็
00:12:53 → 00:12:58 ต้องพาไปทำบางคนบอกกระตุ้นไฟฟ้าก็ใช้ได้
00:12:58 → 00:13:02 ขาไปกระตุ้นไฟฟ้าคะหรือบางคนบอกว่าเฮ้ย
00:13:02 → 00:13:06 ฝังเข็มฝังเข็มและตุ้นไฟฟ้าร่วมด้วยผ่าน
00:13:06 → 00:13:07 เข็มนี่แหละ
00:13:07 → 00:13:12 เวิร์คก็ต้องพาไปทำคือเรียกง่ายๆว่าใคร
00:13:12 → 00:13:16 เพราะว่าดีใครก็ว่าได้ผลเนี่ยช่วงเนี้ย
00:13:16 → 00:13:22 ส่วนใหญ่ญาติลูกถ้าทำให้ได้ก็จะทำแต่ถ้า
00:13:22 → 00:13:26 มุดเป็นแบบบ้านๆหน่อยก็จะต้องเป็นแบบ
00:13:26 → 00:13:31 หมอพระที่ไหนดีไม่ใช่หมอปลานะหมอพระที่
00:13:31 → 00:13:37 ไหนดีนะหรือพระวัดไหนดีพาไปรดน้ำมนต์พาไป
00:13:37 → 00:13:43 หาหมอบ้านเขาว่าหายนอกนะอันนี้มันเป็น
00:13:43 → 00:13:47 ความพยายามของญาติที่อยากที่จะให้ผู้ป่วย
00:13:47 → 00:13:50 กลับมาเป็นปกติ
00:13:50 → 00:13:53 อย่างที่บอกขายไม่หายไม่รู้แต่พยายามหา
00:13:53 → 00:13:57 ไอ้เต้นวิเศษนะครับนะแต่อันนี้มาดูอย่าง
00:13:57 → 00:14:01 ที่บอกว่าภายในถ้ามันใช่ไหมถ้าสมมติกลับ
00:14:01 → 00:14:06 มาจะกลับมาได้เร็วแต่ถ้าบอกว่าไปภายใน 90
00:14:06 → 00:14:10 วันเนี่ยเฒ่ากลับมากับมาได้เร็วแต่ก็ไม่
00:14:10 → 00:14:14 ต้องซีเรียสสี่ถึงหกเดือนมันก็กลับมาได้
00:14:14 → 00:14:18 แต่ว่าช้าหน่อยนะ
00:14:18 → 00:14:20 คราวนี้
00:14:20 → 00:14:25 เคสของหมอเกิดอะไรขึ้นเคสของหมอเนี่ยคน
00:14:25 → 00:14:28 ไข้อยู่โรงพยาบาล 10 วันกลับบ้านมาประมาณ
00:14:28 → 00:14:32 10 วันตอนกลับมาเนี่ยคนไข้ยังกลืนไม่ได้
00:14:32 → 00:14:37 หมอเขาก็จะใส่สายยางให้อาหาร ng ทิ้วเนาะ
00:14:37 → 00:14:41 ให้ช่วยอ่ะให้อาหารอาหารก็เป็นพวกอาหาร
00:14:41 → 00:14:46 ตัดนาอาหารต่างกันไปกดอินเตอร์เน็ตดูได้
00:14:46 → 00:14:48 นะสูตรอาหารต่างสำหรับคนเป็นอัมพาตเนี่ย
00:14:48 → 00:14:52 หรือคนเป็นสัตว์ตรงไหนเขามีมีการคำนวณ
00:14:52 → 00:14:56 แคลอรี่ให้เสร็จมีบางที่ขายเป็นชุดๆเลยก็
00:14:56 → 00:15:00 มีนั้นอาหารต่ำเนี่ยให้มาใส่ทาง ng ทิ้ว
00:15:00 → 00:15:02 คือสายสายยางให้อาหาร
00:15:02 → 00:15:06 ก็ปรากฏว่าอย่างที่บอกว่าหลังจากออกโรง
00:15:06 → 00:15:10 พยาบาลเนี้ยยังคืนเองได้ไม่ค่อยดีนะก็
00:15:10 → 00:15:14 แล้วก็ให้อาหารปั่นก็กดโชคดีเพื่อนอย่าง
00:15:14 → 00:15:18 ที่บอกว่าเป็นอาจารย์แพทย์ใช่มะเขาก็
00:15:18 → 00:15:21 พยายามหาขึ้นจริงๆตื๊อเขาแหละซื้อบอกช่วย
00:15:21 → 00:15:26 หน่อยนะนู้นมีหนังหาเตียงเพื่อที่จะเอาคน
00:15:26 → 00:15:30 ไข้ไปทำกายภาพต้องบากเข้าโปรแกรมกายภาพ
00:15:30 → 00:15:31 บำบัด
00:15:32 → 00:15:38 นะปรากฏว่าอะไรปรากฏว่า
00:15:38 → 00:15:42 โรงพยาบาลก็โทรศัพท์มาตามมาอ้ะมีเตียง
00:15:42 → 00:15:43 ว่างละ
00:15:43 → 00:15:45 มานอนได้
00:15:45 → 00:15:51 มานอนได้เข้าโปรแกรมกายภาพบำบัดนะตอนแรก
00:15:51 → 00:15:56 เราก็ยังกังวลว่าแบบเด้เจ้าคนไข้เข้า
00:15:56 → 00:16:00 โปรแกรมดีไหมแต่เราคิดว่าเฮ้ยมันดีมาหา
00:16:00 → 00:16:03 เราไปหาไอ้เต้นพิเศษอย่างที่บอกว่าเป็นทำ
00:16:03 → 00:16:07 นู่นทำนี่มันก็ไม่ได้ตามตำราเลยตามตำราดี
00:16:07 → 00:16:11 ที่สุดคือทำกายภาพบำบัดทางโปรแกรม 1 2 3
00:16:11 → 00:16:15 4 ที่โรงพยาบาลเขามีอะไรไหมวันนั้นนี้
00:16:15 → 00:16:20 เป็นโอกาสอันดีที่เราจะพาคนไข้เข้าไปทำ
00:16:20 → 00:16:25 ตามโปรแกรมไก่ภาพบำบัดนะปรากฏว่าพอไปถึง
00:16:25 → 00:16:29 ปุ๊บโรงพยาบาลก็ประเมินว่าคนไข้เนี่ยะ
00:16:29 → 00:16:35 ผ่านมาละสามอาทิตย์นะกลืนได้หรือยังหน้า
00:16:35 → 00:16:38 คืนได้หรือยังเพราะเขาบอกว่าการกลืนเนี่ย
00:16:38 → 00:16:41 มันจะกลับมาก่อน
00:16:41 → 00:16:45 ภาพที่เห็นก็คือการประเมินการเกินนะเขา
00:16:45 → 00:16:50 บอกว่าอันที่ 1 ต้องนั่งทรงตัวได้แล้วนะ
00:16:50 → 00:16:56 2 สื่อสารทำตามสั่งได้นะ 3 มีการประเมิน
00:16:56 → 00:17:00 Just โคมาสกอจริงมันเป็นประเมินแบบมี
00:17:00 → 00:17:04 ความรู้น่ะความรู้สึกแต่ทำยังไงทำเชื่อ
00:17:04 → 00:17:09 สัมพันธ์เชื่อก็คือสติว่าโอเคไหมหาสมมติ
00:17:09 → 00:17:13 เกินสิ้นเองขึ้นไปพร้อมและที่จะทำการ
00:17:13 → 00:17:17 ประเมินการกลืนนะเค้าก็จะบอกว่าให้เราทด
00:17:17 → 00:17:21 ลองจิบน้ำตาม 1 ชั้นชาก่อนมีน้ำไหลออกไหม
00:17:21 → 00:17:25 นะ 50 10 ตาน้ำเปล่าช้อนชาที่ 2 noodee
00:17:25 → 00:17:29 หนังก็มีหลักการชัดเจนนะเราก็เอาเอาเข้า
00:17:29 → 00:17:33 ไปคนไข้จบประเมินผ่านหน้าประเมินผ่านแบบ
00:17:33 → 00:17:38 นี้ก็โชคดีสิว่าอย่างนี้ progress ของโลก
00:17:38 → 00:17:42 คนไข้น่าจะหายไวปรากฏว่า
00:17:42 → 00:17:46 เขาก็เลยพอเขาก็เลยเอา NT ออกโรงพยาบาล
00:17:46 → 00:17:50 9เย็นซีออกสายอย่างให้กินเอก
00:17:50 → 00:17:54 กินเองยังดีกว่าอยู่แล้วน้ำแต่ปรากฏว่า
00:17:54 → 00:17:58 อะไรก็คือพอกินเองเนี่ยมันต้องใช้มือข้าง
00:17:58 → 00:18:02 ที่ไม่ถนัดรับประทานนะคะอย่าลืมอย่าว่า
00:18:02 → 00:18:04 สโต๊คอย่างที่บอกว่าโอกาสเกิดด้านที่ถนัด
00:18:04 → 00:18:07 60 เปอร์เซ็นต์นะอ้า
00:18:07 → 00:18:11 คราวนี้ใช้มือด้านที่ไม่ถนัดกินใครเคยกิน
00:18:11 → 00:18:16 ข้าวมือด้านไม่ถนัดบ้างสะดวกมาก
00:18:16 → 00:18:20 นักใส่ปากในยิ่งรู้ไหมว่าปากอยู่ดังตรง
00:18:20 → 00:18:22 ไหนฮ่าๆๆ
00:18:22 → 00:18:27 ประเด็นคือตรงนี้เมื่อคนไข้ลองทดลองกิน
00:18:27 → 00:18:32 เองเกิดปัญหาว่ากินได้ไม่เต็มที่
00:18:32 → 00:18:36 กินได้ไม่เต็มที่แล้วมันเกิดปัญหาอะไร
00:18:36 → 00:18:40 ก็กดว่าเมื่อกินได้ไม่เต็มที่เนี่ยโรง
00:18:40 → 00:18:43 พยาบาลเนาะเขาก็เจาะเริ่มตรวจเพราะว่าคน
00:18:43 → 00:18:46 ไข้เนี่ยะเอาไปทำอะไรภาพบำบัดแล้วคนไข้
00:18:46 → 00:18:50 บอกว่าไม่ค่อยมีแรงบอกไม่ค่อยมีแรง
00:18:50 → 00:18:54 เหนื่อยเพลีย
00:18:54 → 00:18:57 แผนกตรีหัดเขาก็แปลกใจขนาดไกลป้ามาตั้ง
00:18:57 → 00:19:02 แต่ใจทำไมคนไข้บ่ขอคอมเพลนจังว่าเหนื่อย
00:19:02 → 00:19:05 ไม่มีแล้วเขาก็ตรวจด้วยต้องกดว่าระดับ
00:19:05 → 00:19:09 โซเดียมระดับโซเดียมในเลือดต่ำลงข้ามปกติ
00:19:09 → 00:19:14 มันประมาณ 135 คนไข้คนเนี้ยเหลืออยู่
00:19:14 → 00:19:17 ประมาณสัก 120 บาทค่า
00:19:17 → 00:19:22 หมอเขาก็พยายามหาสาเหตุว่าทำไมโซเดียมต่ำ
00:19:22 → 00:19:24 นู่นนี่นั่นอะไรเยอะแยะเลยนะเพราะว่า
00:19:24 → 00:19:27 โซเดียมต่ำมากๆมันจะเกิดปัญหาให้มั้ย
00:19:27 → 00:19:31 กล้ามเนื้อเกร็งอ่อนเพลียสับสนและถ้าต่ำ
00:19:31 → 00:19:36 เหลือแค่ 5 110 อาจจะมีอาการชักได้
00:19:36 → 00:19:39 ตอนนี้สำคัญนะ
00:19:39 → 00:19:45 ก็กดว่าหมอเขาประเมินว่าโรงเรียนแพทย์เขา
00:19:45 → 00:19:50 ก็สงสัยว่าเป็นโรค s i a d s s i a
00:19:50 → 00:19:52 vs นะสาม
00:19:52 → 00:19:57 มันคืออะไรไอ้ s a d s ก็คือโลกที่มี
00:19:57 → 00:20:00 การหลั่งสาร
00:20:00 → 00:20:02 อาหารฮอร์โมนที่ชื่อว่า adsl stimulated
00:20:02 → 00:20:05 ฮอร์โมนซื้อหา
00:20:05 → 00:20:09 ข้อมูลที่เก็บน้ำไว้ในร่างกายแอนด์ตี้ไร
00:20:09 → 00:20:12 อยู่ในเต้นเร็วติดเนี่ยแปลว่าปัสสาวะขับ
00:20:12 → 00:20:15 น้ำออกแอนตี้คือไม่ขับน้ำในร่างกายคือเอา
00:20:15 → 00:20:19 ง่ายมันเก็บน้ำไว้แต่มันขับโซเดียมออก
00:20:19 → 00:20:23 โซเดียมเลยต่ำอะไรล่ะอ่า
00:20:23 → 00:20:28 ซึ่งโลกเนี้ยพบบ่อยในเคสที่เป็นเคสที่
00:20:28 → 00:20:32 เกิดอุบัติเหตุหรือมีเค้าเรียกที่โมเดล
00:20:32 → 00:20:36 จิกสโต๊คความดันสูงในสมองแล้วเส้นเลือดใน
00:20:36 → 00:20:41 สมองแตกไปเงี้ยมักจะเป็น sia DS ซึ่งเขา
00:20:41 → 00:20:44 บอกว่าส่วนใหญ่เนี่ยคนที่เป็นสโต๊คโดย
00:20:44 → 00:20:50 เฉพาะแตกเนี่ยจะมีโอกาสเกิด 80% ส่วนตีบ
00:20:50 → 00:20:53 เนี่ยจะน้อยกว่า
00:20:53 → 00:20:58 บางคนก็ไม่เป็นบางคนก็เป็นแต่ปรากฏว่า
00:20:58 → 00:21:01 Case เนี้ยอ่ะณโรงพยาบาลโรงเรียนแพทย์
00:21:01 → 00:21:05 เขาพยายามรักษาแบบ S size a d s
00:21:05 → 00:21:09 อาการไม่ดีขึ้นโซเดียมก็ต่ำไปเรื่อยๆ
00:21:09 → 00:21:11 เรื่อยๆง่ายๆนะ
00:21:11 → 00:21:16 การรักษาอย่างที่บอกก็คือเขาพยายามกำจัด
00:21:16 → 00:21:19 ปริมาณสารนั้นคือห้ามให้คนไข้กินน้ำคนไข้
00:21:20 → 00:21:25 ก็หิวน้ำแย่ลงอีกอาการยิ่งแย่ลงเรื่อยๆ
00:21:25 → 00:21:30 เรื่อยๆเรื่อยๆจนสุดท้ายโซเดียมต่ำถึง 110
00:21:30 → 00:21:34 และคนไข้มีอาการชักเกร็ง
00:21:34 → 00:21:37 แต่ตอนที่ชักเกร็งเนี่ย
00:21:37 → 00:21:42 โรงพยาบาลก็ยังไม่แน่ใจว่าเกิดจากโลก sia
00:21:42 → 00:21:46 DS เกิดจากสภาวะโซเดียมต่ำหรือเปล่าหรือ
00:21:46 → 00:21:53 เกิดจากสภาวะของเค้าเรื่องอะไรล่ะสมองขาด
00:21:53 → 00:21:56 เรื่องคือสมองเนี่ยเมื่อมันเกิดความเสีย
00:21:56 → 00:21:59 หายมันขาดเลือกเนี่ยมันจะเกิดแผลเป็นขึ้น
00:21:59 → 00:22:02 มาในมีกันและกันสมองส่วนที่ขาดเลือดเนี่ย
00:22:02 → 00:22:07 มันจะมีคล้ายๆพังผืดเกิดขึ้นและตัวนี้มัน
00:22:07 → 00:22:12 จะไปกระตุ้นให้เกิดอาการชักก็ได้อะนะ
00:22:12 → 00:22:16 เนี่ยโรงพยาบาลยังไม่มั่นใจว่า
00:22:16 → 00:22:20 ภาวะคะเกิดจากโซเดียมต่ำหรือเปล่าหรือ
00:22:20 → 00:22:24 เกิดจากในสมองมันเกิดพังผืดเกิดขึ้นเกิด
00:22:24 → 00:22:28 แผลเป็นเกิดขึ้นเลยทำให้การพัก
00:22:28 → 00:22:32 สรุปว่าไปอยู่โรงพยาบาลเพื่อที่จะทำรี
00:22:32 → 00:22:35 have the ทำใจภาพบำบัดเดือนนึงสุดท้าย
00:22:35 → 00:22:39 คนไข้ชักไอ้ส่วนเดือนนึงที่จะได้ทำกายภาพ
00:22:39 → 00:22:42 บำบัดในก็ได้ทำบ้างไม่ทำบ้างเพราะคนไข้
00:22:42 → 00:22:45 เนี่ยะบ่นว่าไม่มีแรงเดี๋ยวมีแรงเดี๋ยว
00:22:45 → 00:22:50 ไม่มีแรงนอกมา
00:22:50 → 00:22:55 คราวนี้ญาติก็รู้สึกว่าไม่ไหวแล้วนะฮะไป
00:22:55 → 00:22:58 โรงพยาบาลโรงพยาบาลก็ไม่ให้เยี่ยมใช่ไหม
00:22:58 → 00:23:02 คุยกับหมอก็ค่าตัวหมอยากเหลือเกินนะคุณ
00:23:02 → 00:23:05 หมอ Residence เนี่ยและเส้นทางประจำบ้าน
00:23:05 → 00:23:10 เนี่ยตามตัวยากเหลือเกินนะคุยก็โอกาสคุย
00:23:10 → 00:23:14 ด้วยน้อยอ่าญาติก็เลยตัดสินใจใหม่ว่าเอา
00:23:14 → 00:23:17 ออกนะเว้ยยเอาออกเนี่ยเราไม่บอกเพื่อนเรา
00:23:17 → 00:23:21 หรอกมากว่าเขาออกเราเอามาเข้าเอกชน
00:23:21 → 00:23:25 เป็นเอกชนที่เราสนิทชิดเชื้อดีเพราะว่า
00:23:25 → 00:23:27 เราเคยทำงานอยู่ที่นั่น
00:23:27 → 00:23:32 เราเข้ามาหมอเอกชนวินิจฉัยใหม่เป็นโรคที่
00:23:32 → 00:23:35 ชื่อว่า Siri เบ้า West South หรือ
00:23:35 → 00:23:39 siebel ซาวเวด Syndrome คือเป็นโรคคนละ
00:23:39 → 00:23:43 ขั้วกับ SS DS เอาเป็นม่าสมองร่างกายนะ
00:23:43 → 00:23:47 ขาดโซเดียมเหมือนกันขับโซเดียมออกแต่การ
00:23:47 → 00:23:51 รักษาเนี่ยจะต้องเพิ่มปริมาณน้ำเข้าไป
00:23:51 → 00:23:54 รักษาคนละขั้วอะไรนะ
00:23:54 → 00:23:58 คราวนี้เอามารักษาโรงพยาบาลเอกชนหมอ
00:23:58 → 00:24:02 วินิจฉัยคนละด้านหมอรักษาคนละแบบหมอ
00:24:02 → 00:24:05 แสตมป์ size M G ทิวเข้าไปวัดตาลอ้าคน
00:24:05 → 00:24:08 ไข้เนี่ยะกินไม่ได้สั่งใส่อันอยู่ที่ว่า
00:24:08 → 00:24:12 ไป feat.ben อะไรนู่นนี่นั่นโหยอาการคน
00:24:12 → 00:24:15 ไข้ดีโซเดียมกลับมาเป็นปกติ
00:24:15 → 00:24:20 อยู่โรงพยาบาลเอกชนประมาณอาทิตย์นึงคนไข้
00:24:20 → 00:24:23 กลับมาเป็นปกติเลยมีแรงเลยนะ
00:24:23 → 00:24:28 ก็เอากลับบ้านก็เพราะว่าโรงพยาบาลเอกชน
00:24:28 → 00:24:33 แพงเหลือหลายแทงเหลือหลายอ่ะ
00:24:33 → 00:24:37 สรุปอย่างนี้ก็คือว่าในช่วง 3 เดือนที่
00:24:37 → 00:24:41 เกิดเหตุการณ์ทั้งหมดเนี่ยได้ทำดี Happy
00:24:41 → 00:24:43 Station หรือทำไฟฟ้าบำบัดจริงๆเดือน
00:24:43 → 00:24:48 เดียวคือเดือนที่ 2 เข้าเดือนที่ 3 เพราะ
00:24:48 → 00:24:52 2 เดือนแรกเนี่ยมัวแต่วุ่นอยู่กับคนไข้
00:24:52 → 00:24:56 คนไข้ไม่สเตเบิ้ลสักทีเน่าแม่มาฝึกเดื่อ
00:24:56 → 00:24:58 ได้เดือนสุดท้าย
00:24:58 → 00:25:01 มาฝึกเดือนสุดท้ายเต็มที่บอกว่าเขาก็บอก
00:25:01 → 00:25:04 ว่าเฮ้ยอยู่ก็ไม่ต้องซีเรียสยังมีโอกาส
00:25:04 → 00:25:07 เดือนที่ 4 เดือนที่ห้าเดือนที่ 6 ที่ทำ
00:25:07 → 00:25:13 ให้ร่างกายกลับมาเป็นปกติได้เข้าใจมาสิ่ง
00:25:13 → 00:25:16 ที่หมอจะพูดในคืออะไรก็คือว่านี่คือเหตุ
00:25:16 → 00:25:20 การณ์ที่เกิดขึ้นจากการเป็นสัด rogue พระ
00:25:20 → 00:25:24 นั้นอย่างที่บอกเมื่อเราเลือกฉีดยาหรือ
00:25:24 → 00:25:26 ไม่ฉีดยาหรือเราได้รับเลือกฉีดยาหรือ
00:25:26 → 00:25:29 ศิษย์อย่างมันไม่ได้จบแค่นั้นมันมีเหตุ
00:25:29 → 00:25:31 การณ์ต่อเนื่องต่อเนื่องต่อเนื่องกันไป
00:25:31 → 00:25:35 อีกนะครับเช้านี้
00:25:35 → 00:25:39 มาพูดยานจับตอนที่บอกว่า
00:25:39 → 00:25:44 ถ้าเราได้รับเลือกฉีดยาแล้วที่บอกว่าชีละ
00:25:44 → 00:25:49 บางคนก็ตายบ่ก็เลยไม่สิทธิ์ให้โอกาสตาย
00:25:49 → 00:25:54 หรือโอกาสที่ว่าเลือดออกหลังการฉีดสมมติ
00:25:54 → 00:25:56 ได้อย่างเรียกว่าอยากพิสูจน์ยาเลยเนี่ย
00:25:56 → 00:26:00 โอกาสฉีดยาแล้วเลือกเนี่ยมันจะออกเร็วสรอ
00:26:00 → 00:26:05 ของกี่เปอร์เซ็นต์เขาบอกว่าโอกาสที่จะ
00:26:05 → 00:26:07 เกิดขึ้นเรื่อง himura จิกทรานฟอร์เมชั่น
00:26:07 → 00:26:09 คือฉีดไปแล้ว
00:26:09 → 00:26:12 2 เป็นสต๊อกใหม่ๆแล้วนะและฉีดยาละลาย
00:26:12 → 00:26:17 ลิ่มเลือดแล้วเกิดเลือดออกในสมองประมาณ 6%
00:26:17 → 00:26:22 ไม่เยอะนักแต่ไม่ 6% เนี่ยโอกาสตายเนี่ย
00:26:22 → 00:26:26 40 ถึง 60 เปอร์เซ็นต์เอาค่า 10% ก็ได้
00:26:26 → 00:26:29 คือเอาง่ายๆถ้าคุณมีเลือดออกในสมองจัดการ
00:26:29 → 00:26:31 ฉีดยาเข้า
00:26:31 → 00:26:35 เพื่อที่สลายลิ่มเลือดจากสภาวะ Strong
00:26:35 → 00:26:40 ที่เป็นแบบปีบกัปตันโอกาสที่คุณจะตายก็
00:26:40 → 00:26:42 คือ 3 เปอร์เซ็นต์
00:26:42 → 00:26:48 ที่เหลือไม่ตายนะที่เหลือก็คือเป็นอัมพาต
00:26:48 → 00:26:52 กับโอกาสหายแต่หมอก็ไม่ได้โปรบอกว่าเฮ้ย
00:26:52 → 00:26:55 ถ้ามีอาการต้องฉีดนะรับเข้าไปถึงแล้ว
00:26:55 → 00:26:59 ปรากฏว่าไปทะเลาะกับหมอเขาที่ ER ว่าหมอ
00:26:59 → 00:27:02 เขาไม่ให้ฉีดก็กลับมาดูกันว่าถ้าคุณได้
00:27:02 → 00:27:03 ฉีด
00:27:03 → 00:27:06 นะโอกาสที่คุณจะหลุดพ้นจากการเป็นอัมพาต
00:27:06 → 00:27:10 กี่เปอร์เซ็นต์คะบอกแนะเขาบอกว่าถ้าเรา
00:27:10 → 00:27:15 ได้ฉีดนะภายใน 3 ชั่วโมงแรกเมื่อเข้าติด
00:27:15 → 00:27:20 ตามการรักษาต่อไปภายใน 3 เดือนเขาพบว่า
00:27:20 → 00:27:23 มีโอกาสเกือบเป็นปกติ
00:27:23 → 00:27:29 31 ถึง 50% นั่นหมายความว่าการฉีดยาก็
00:27:29 → 00:27:32 ไม่ได้บอกว่าคุณจะหายจากการเป็นอัมพาต
00:27:32 → 00:27:36 100% นะครึ่งหนึ่งคุณจะหายจากการเป็น
00:27:36 → 00:27:40 อัมพาต 100% อีกครึ่งหนึ่งไม่ใช่อีกครึ่ง
00:27:40 → 00:27:44 หนึ่งอย่าช่วยอะไรไม่ได้
00:27:44 → 00:27:49 เข้าใจนะแต่อย่างที่บอกว่าถ้าไม่ฉีด
00:27:49 → 00:27:52 โอกาสจะบอกว่าดีขึ้นเนี่ยเพียงแค่ 20-30
00:27:52 → 00:27:54 เปอร์เซ็นต์
00:27:54 → 00:27:57 เพราะฉะนั้นเนี่ยที่บอกนะ
00:27:57 → 00:28:02 ยังไงการฉีดยาเนี่ยแต่มันก็ยังดีกว่าถ้า
00:28:02 → 00:28:05 มันได้มีโอกาสฉีดไม่ได้มีข้อห้ามเข้าใจ
00:28:05 → 00:28:07 ไหมครับนะ
00:28:07 → 00:28:11 แต่ถ้าเลือกฉีดแล้วเสียชีวิตขึ้นมา
00:28:11 → 00:28:15 สิ่งที่มันเกิดขึ้นก็คือเราไม่ได้ร่ำลา
00:28:15 → 00:28:20 ญาติพี่น้องเพราะมันจะเร็วมากเลยเจอพอฉีด
00:28:20 → 00:28:24 ยาปุ๊บรับกดโชคร้ายเส้นเลือดแต่มีเรื่อง
00:28:24 → 00:28:29 ออกเลยสมองโอกาสที่เราจะตาย 3% นะมันมี
00:28:29 → 00:28:34 ข่าวนี้ถ้าสมมุติว่าเราเลือกที่ว่าไม่ฉีด
00:28:34 → 00:28:37 ยายอมเป็นอัมพาต
00:28:37 → 00:28:42 แน่นอนว่าโอกาสที่เราจะกลับมาเป็นปกติก็
00:28:42 → 00:28:47 จะมีเพียง 20-30 ประเสริฐเพราะฉะนั้นและ
00:28:47 → 00:28:50 อย่างที่บอกมาที่เล่าย้อนหลังกลับไปอ่ะ
00:28:50 → 00:28:54 มันมีโอกาสเกิดได้หมดทุกคนมันเป็นผลแทรก
00:28:54 → 00:28:56 ซ้อนจากการเป็นอัมพาต
00:28:56 → 00:29:00 ครับนะหวังว่าสาระความรู้นี้ก็จะเป็น
00:29:00 → 00:29:04 ประโยชน์กับคนไข้ที่เป็นอัมพาตเพิ่งเป็น
00:29:04 → 00:29:08 อวภาส์และมีโอกาสเกิดอัมพาต
00:29:08 → 00:29:12 ขอบคุณครับสาระความรู้ดีๆจากเพจหมอเฉพาะ
00:29:12 → 00:29:15 ทางบาทเจียวและ YouTube Channel มอสถาม
00:29:15 → 00:29:17 บาทเชียวนะครับสวัสดีครับ
00:29:17 → 00:29:20 [เพลง]
00:29:20 → 00:29:23 ฝากดติดตามและสั่นกระดิ่งเพื่อเป็นกำลัง
00:29:23 → 00:29:28 ใจให้หมอในคลิปถัดไปด้วยนะครับขอบคุณครับ