00:00:00 → 00:00:05 เสมหะพันคอคันคอมีเสมหะติดคอหมอวินิจฉัย
00:00:05 → 00:00:08 ให้ก็แล้วกินยามาก็แล้วปรับพฤติกรรมอย่าง
00:00:08 → 00:00:11 ที่คุณหมอว่าแล้วในคลิปก่อนหน้านี้แต่
00:00:11 → 00:00:16 ทำไมรักษาไม่หายขาดเลยครับ
00:00:16 → 00:00:19 สวัสดีครับหมอวินัยนะครับเสมหะพันคออาการ
00:00:19 → 00:00:23 เสมหะติดคอหรือมีเสมหะอยู่ในลำคอเรื้อรัง
00:00:23 → 00:00:28 เป็นปัญหายอดนิยมนะฮะหลายคนบอกผมว่า
00:00:28 → 00:00:32 ปฏิบัติตามที่คุณหมอแนะนำแล้วใช้ยาก็แล้ว
00:00:32 → 00:00:36 แต่มันดูเหมือนกับมันหายไม่สนิทมันไม่ไป
00:00:36 → 00:00:40 จากเราเลยมันเกิดอะไรขึ้นครับหมอหมอ
00:00:40 → 00:00:43 วินิจฉัยผิดหรือเปล่าหรือยาไม่ดีพอหรือ
00:00:43 → 00:00:46 เปล่ามียาที่ดีกว่านี้มั้ยหรือต้องทำ
00:00:46 → 00:00:49 อย่างอื่นมยวันนี้เรามาลองดูกันครับวัน
00:00:49 → 00:00:55 นี้ผมจะยกตัวอย่างนะฮะ 2 เคสล่าสุดนะฮะผม
00:00:55 → 00:00:57 คัดมาหลายเคสแต่คิดว่า 2 เคสเนี่ยน่าจะ
00:00:57 → 00:01:00 ตอบโจทย์ทำให้ให้เราเห็นภาพได้มากที่สุด
00:01:00 → 00:01:04 นะฮะเคสที่ 1 ก็คือเป็น
00:01:04 → 00:01:08 เทรนเนอร์นะฮะวัย 40 ปลายๆนะฮะเป็น
00:01:08 → 00:01:11 เทรนเนอร์หุ่นดีนะฮะไม่สูบบุหรี่ไม่กิน
00:01:11 → 00:01:16 เหล้าไม่ค่อยปาร์ตี้นะฮะมีเสมหะในลำคอ
00:01:16 → 00:01:21 เรื้อรังนะฮะขนาดเทรนเนอร์นะครับกินก็ดี
00:01:21 → 00:01:24 นะฮะเดี๋ยวเรามาดูเคสนี้กันเคสที่ 2 เป็น
00:01:24 → 00:01:27 เคสนักกอล์ฟนะฮะเป็นมืออาชีพ
00:01:27 → 00:01:31 Profปessionalของประเทศไทยนะฮะวัย 25 ก็
00:01:31 → 00:01:34 มาด้วยเรื่องเสมหะในลำคอเรื้อรังมาประมาณ
00:01:34 → 00:01:38 3 ปีนะฮะรักษาแล้วก็ไม่ดีขึ้นมาดูกัน
00:01:38 → 00:01:41 ครับ 2 เคสนี้ก่อนอื่นนะครับก่อนที่จะไป
00:01:41 → 00:01:45 เข้ารายละเอียดผมอยากจะบอกว่า
00:01:45 → 00:01:51 รู้มั้ครับโรคปอดและทางเดินหายใจเนี่ย
00:01:51 → 00:01:54 การรักษาที่ยากที่สุด
00:01:54 → 00:01:57 เห็นผลยากที่สุดประสบความสำเร็จยากที่สุด
00:01:57 → 00:02:01 ให้ทานตายว่าเป็นโรคอะไรครับถูกต้องแล้ว
00:02:01 → 00:02:05 ครับโรคนั้นแหละครับเสมหัดในลำคอ
00:02:05 → 00:02:09 ในสายผมนะฮะจากประสบการณ์ผมเนี่ย
00:02:09 → 00:02:13 กลุ่มโลกที่สัมพันธ์กับภูมิแพ้เรื้อรัง
00:02:13 → 00:02:17 ที่ทำให้เกิดเสมหะในลำคอเรื้อรังเนี่ย
00:02:17 → 00:02:21 วินิจฉัยง่ายนะครับแต่ผลการรักษาเนี่ยยาก
00:02:21 → 00:02:24 นะครับที่จะประสบความสำเร็จคนไข้ที่รักษา
00:02:24 → 00:02:27 กับผมเนี่ยส่วนใหญ่ผมจะกำหนดเป้าแค่ 80%
00:02:27 → 00:02:31 นะไม่ค่อย 100% เดี๋ยวมาดูว่าทำไมแต่ไม่
00:02:31 → 00:02:35 แปลกนะครับผมว่าในสายอาชีพแพทย์อื่น
00:02:35 → 00:02:39 ศาสตร์อื่นนะฮะก็จะมีโรคเราเรียกโรคที่
00:02:39 → 00:02:42 วินิจฉัยง่ายแต่รักษายากมากนะเช่นอะไรฮะ
00:02:42 → 00:02:46 ในกลุ่มสายระบบประสาทก็เป็นโรคปวดหัวนะฮะ
00:02:46 → 00:02:49 กลุ่มสายทางเดินอาหารก็จะเป็นลมในช่อง
00:02:49 → 00:02:53 ท้องมีลมมีแน่นมีจุกอยู่ตลอดเวลานะฮะสาย
00:02:53 → 00:02:57 เอ่อหมอผิวหนังก็จะเป็นพวกคันผื่นนะฮะ
00:02:57 → 00:03:00 สายหมอกระดูกก็พวกปวดหลังอะไรอย่างเงี้ย
00:03:00 → 00:03:04 นะฮะคือการวินิจฉัยง่ายนะครับแต่การรักษา
00:03:04 → 00:03:07 มันยากเพราะว่าอาการดังกล่าวเนี่ยมันไม่
00:03:07 → 00:03:11 ได้ขึ้นอยู่กับปัจจัยใดปัจจัยหนึ่ง
00:03:11 → 00:03:15 มันมีมากกว่า 1 ปัจจัยและปัจจัยดังกล่าว
00:03:15 → 00:03:18 ส่วนใหญ่เราควบคุมไม่ได้ 100% หรอกครับ
00:03:18 → 00:03:21 อ่ะยกตัวอย่างกลับมาที่ภูมิแพ้ผมนะฮะเป็น
00:03:21 → 00:03:24 ไงครับจริงๆแล้วเราวินิจฉัยถูกก็ตามแต่
00:03:24 → 00:03:28 ปัจจัยมีอะไรฮะตั้งแต่นอนของเขานอนเพียง
00:03:28 → 00:03:33 พอมั้ย 2 ปัจจัยห้องนอนเค้าความชื้นฝุ่น
00:03:33 → 00:03:36 นะฮะอย่างที่ผมเคยพูดไปอันที่ 3 คือ
00:03:37 → 00:03:40 ปัจจัยสุขภาพเค้านะฮะปัจจัยเบื้องหลัง
00:03:40 → 00:03:43 เค้าสุขภาพเค้าเป็นยังไงภูมิต้านทานเเป็น
00:03:43 → 00:03:47 ยังไงปัจจัยที่ 4 คือดินฟ้าอากาศดินที่
00:03:47 → 00:03:51 เขา้าอยู่ฟ้าที่เขาอยู่เช่นฝุ่นเป็นยังไง
00:03:51 → 00:03:54 เมฆเป็นยังไงความร้อนเป็นยังไงนะฮะเป็นไง
00:03:54 → 00:03:58 ฮะต่อไปปัจจัยในออฟฟิศเปัจจัยต่อไปคือ
00:03:58 → 00:04:01 อาหารการกินของเขาเห็นมั้ฮะถึงแม้เราจะ
00:04:01 → 00:04:04 จ่ายยาที่ดีเนี่ยแต่ถ้าปัจจัยพวกนี้นี่
00:04:04 → 00:04:07 มันควบคุมไม่ได้มันก็จะทำให้คนไข้มีทั้ง
00:04:07 → 00:04:10 วันดีและวันร้ายเราเรียก good days and
00:04:10 → 00:04:13 bad days ใช่มดังนั้นการรักษาพวกนี้มัน
00:04:13 → 00:04:17 ค่อนข้างซับซ้อนดังนั้นหมอจะปวดหัวมากเลย
00:04:17 → 00:04:20 นะฮะแล้วคนไข้ก็จะปวดหัวแล้วคนไข้ก็จะ
00:04:20 → 00:04:23 เปลี่ยนหมอบ่อยนะฮะสุดท้ายพวกนี้ก็จะมา
00:04:23 → 00:04:25 ด้วยประวัติไม่น้อยกว่า 1 เดือนส่วนมา
00:04:25 → 00:04:28 ประวัติหลายๆปีรักษาหมอท่านนู้นแล้วท่าน
00:04:28 → 00:04:31 นี้แล้วงั้นพวกนี้เราควบคุมไม่ได้ 100%
00:04:31 → 00:04:34 หรอกครับมันเป็นปัจจัยตัวกวน
00:04:34 → 00:04:36 ดังนั้นจะค่อนข้างปวดหัวมากเลยฮะเวลาคน
00:04:37 → 00:04:39 ไข้กลับมาแล้วแบบหมอที่ผ่านมาก็ดูเหมือน
00:04:39 → 00:04:43 จะดีนะแต่กลับมาเป็นอีกละอ่ะมาดูเคสแรก
00:04:43 → 00:04:46 ของผมก็คือที่ผมบอกเป็นเทรนเนอร์ท่านนี้
00:04:46 → 00:04:48 เทรนเนอร์ท่านนี้ก็ค่อนข้างดังนะฮะใน
00:04:48 → 00:04:51 เมืองไทยก็คือมีชื่อเสียงแล้วก็ท่านเองก็
00:04:51 → 00:04:54 ฟิตมากเลยนะผมว่าเฟิตนะเท่าที่ผมรู้จัก
00:04:54 → 00:04:55 เค้า
00:04:55 → 00:04:57 อาหารการกินเ้าไม่ได้เทรนแค่ออกกำลังกาย
00:04:57 → 00:05:01 นะเเทรนไดเอตด้วยวางแผนอาหารให้กับชาว
00:05:01 → 00:05:04 ต่างชาติอะไรอย่างเงี้ยอาหารแต่ละอย่าง
00:05:04 → 00:05:07 ที่เขากินโอโหไม่ต้องพูดถึงนะฮะพวกน้ำมัน
00:05:07 → 00:05:09 อะไรปัจจัยพวกนี้ตัดออกได้แต่ทำไมเขายัง
00:05:10 → 00:05:12 เป็นได้อ่ะย้อนกลับไปนิดนึงเทรนเนอร์ท่าน
00:05:12 → 00:05:15 นี้ก็ได้มีโอกาสมานั่งปรึกษากับผมเรื่อง
00:05:15 → 00:05:18 แกเริ่มจากแกคัดจมูกแน่นจมูกตื่นมาหนัก
00:05:18 → 00:05:20 หัวนะฮะมีน้ำมูกไหลลงคอนี่ประวัติค่อน
00:05:20 → 00:05:23 ข้างชัดหลังจากการซักประวัติตรวจร่างกาย
00:05:23 → 00:05:25 และดูปัจจัยเสี่ยงอะไรทั้งหลายละก็
00:05:25 → 00:05:28 วินิจฉัยว่าแกเป็นภูมิแพ้นะฮะภูมิแพ้อัน
00:05:28 → 00:05:31 เนื่องมาจากสภาพอากาศนะฮะตอนปลายปีอากาศ
00:05:31 → 00:05:36 ก็เย็นฝุ่นก็เยอะนะฮะก็เบื้องต้นก็รักษา
00:05:36 → 00:05:39 ระยะนึงก็เริ่มดีนะฮะก็จะเหลือแค่น้ำมุก
00:05:39 → 00:05:43 ไหลลงคอบ้างแต่ต่อมากลับมาวิสิทิที่ 2
00:05:43 → 00:05:47 บอกเอ๊ะไม่ดีเลยหมอกลับมามีจมูกบวมคัด
00:05:47 → 00:05:52 จมูกน้ำมุกไหลลงคออย่างนี้อยู่ตลอดเวลา
00:05:52 → 00:05:54 เอ๊ผมก็เอ๊ยาเราก็ให้แรงแงแล้วนะเราก็ให้
00:05:54 → 00:05:57 ถูกละวินิจฉัยเราก็ไม่น่าจะพลาดส่องกล้อง
00:05:57 → 00:06:01 อะไรหมดละก็ซักเพิ่มว่าเกิดอะไรขึ้นใน 1
00:06:01 → 00:06:03 เดือนที่ผ่านมาซักไปซักมาสิ่งที่เราพบก็
00:06:04 → 00:06:07 คือไงฮะเทนเนอร์ท่านนี้ย้ายคอนโดก็คือคง
00:06:07 → 00:06:09 ไปซื้อคอนโดใหม่ซื้อที่พักใหม่ซื้อ
00:06:09 → 00:06:12 เฟอร์นิเจอร์ใหม่หมดนอกเหนือจากนั้นท่าน
00:06:12 → 00:06:16 ลงมือทาสีเองในห้องนะทำเองหมดครับทุก
00:06:16 → 00:06:20 อย่างเพราะว่าชอบเป็นคนชอบสนุกกับการทำ
00:06:20 → 00:06:23 เองนะเห็นผลงานตนเองก็ไม่ผิดนะฮะแต่ว่า
00:06:23 → 00:06:25 ปัญหาที่เกิดขึ้นก็คือเรารู้อยู่แล้ว
00:06:25 → 00:06:29 เฟอร์นิเจอร์ปัจจุบันนะฮะก็จะมีน้ำยาหรือ
00:06:29 → 00:06:32 มีสารแช่นะที่ทำให้เราเนี่ยมีอาการภูมิ
00:06:32 → 00:06:36 แพ้ง่ายสีที่มาก็ทำให้เราแพ้สีได้นะฮะเคย
00:06:36 → 00:06:38 มั้ครับไปเดินในห้างอะไรอย่างเงี้ยฮะที่
00:06:38 → 00:06:41 เขา้ามีเฟอร์นิเจอร์กำลังเจ้าหน้าที่
00:06:41 → 00:06:44 กำลังประกอบอยู่เรารู้สึกแสบตามั้ฮะแสบ
00:06:44 → 00:06:48 จมูกแสบคอมั้ฮะนั่นแหละฮะเป็นสารที่เขา้า
00:06:48 → 00:06:52 เอาไว้เอ่อเอาไว้แช่ให้ไม้มันแข็งไม้มัน
00:06:52 → 00:06:57 สวยนะฮะก็เท่าที่ซักไปก็คิดว่าน่าจะเป็น
00:06:57 → 00:07:00 จากปัจจัยนั้นก็เลยบอกเค้าว่าอาจจะต้อง
00:07:00 → 00:07:04 ช่วยระบายฝุ่นหรือระบายอากาศหรือสารเคมี
00:07:04 → 00:07:06 จากห้องโดยการเปิดหน้าต่างใช้เครื่องดูด
00:07:06 → 00:07:09 ฝุ่นนะฮะหรือว่าใช้absorอเบอร์ทั้งหลาย
00:07:09 → 00:07:12 ใช้ถ่านใช้อะไรแล้วส่วนผมก็ปรับยาไปก็ตอน
00:07:12 → 00:07:14 นี้ก็อยู่ในระหว่างการติดตามแต่เท่าที่ดู
00:07:14 → 00:07:17 Facebook แก 2-3 วันนี้ก็น่าจะปกติละ
00:07:17 → 00:07:21 เห็นกลับไปเริ่มเทรนคนอื่นละอ่ะมาดูคนที่
00:07:21 → 00:07:26 2 คือนักกอล์ฟอายุ 25 ไม่สูบบุหรี่เป็น
00:07:26 → 00:07:29 แนวไฮโซก็คือไendนะอาหารการกินผมว่าไม่
00:07:29 → 00:07:31 ต้องพูดนะเค้าน่าจะกินอาหารดีอยู่ล่ะแล้ว
00:07:31 → 00:07:35 ก็พวกนี้เ้าค่อนข้างโฟกัสมากมีdiscipลine
00:07:35 → 00:07:39 มีระเบียบมากนะฮะนอนเร็วตื่นเช้าลงสนาม
00:07:39 → 00:07:42 ฝึกแข่งเพราะเขาแพลนจะไปแข่งระดับชาติ
00:07:42 → 00:07:45 อะไรเงี้ยนะอาหารการกินอะไรก็ผ่านแต่
00:07:45 → 00:07:47 ประวัติที่ได้คืออะไรฮะว่าหมอตกกลางวัน
00:07:47 → 00:07:51 เนี่ยจะต้องมีเสมหะติดอยู่ในกออยู่ตลอด
00:07:51 → 00:07:55 ตลอดเวลาซักประวัติไปเนี่ยคัดจมูกกดระย้อ
00:07:55 → 00:07:57 อะไรไม่มีนะครับตรวจร่างกายเบื้องต้นก็
00:07:57 → 00:08:01 ไม่มีอะไรจมูกไม่มวมนะแต่ทอนซิลโตเกด 2
00:08:01 → 00:08:05 นะแดงแล้วก็ปอดอะไรปกติตรวจร่างกายหอบ
00:08:05 → 00:08:09 เผิดอะไรปกตินะครับเท่าที่ทราบเอ่อเด็กคน
00:08:09 → 00:08:13 นี้เนี่ยได้รับการรักษาแบบหอบผืนนะฮะจาก
00:08:13 → 00:08:15 โรงพยาบาลโรงพยาบาลนึงที่ไม่ใช่เกี่ยว
00:08:15 → 00:08:17 ข้องกับโรคปอดอะไรอย่างเงี้ยครับซึ่งคุณ
00:08:17 → 00:08:19 แม่เค้าก็เหมือนไม่สบายใจเพราะต้องพ่น
00:08:20 → 00:08:21 สเตอยด์อะไรอย่างเงี้ยเยังคิดว่าลูกเค้า
00:08:22 → 00:08:26 ไม่น่าจะเป็นหอบอะไรเงี้โอเค anyway ก็
00:08:26 → 00:08:29 สุดท้ายเราซักประวัติตรวจร่างกายส่งเป่า
00:08:29 → 00:08:32 สมรรถภาพปอดอะไรอย่างเงี้ยเบื้องต้นผมยัง
00:08:32 → 00:08:36 ไม่เห็นหลักฐานที่จะบ่งบอกว่าเค้าน่าจะ
00:08:36 → 00:08:39 เป็นห่อผืดนะฮะจากอาการ
00:08:39 → 00:08:43 thic จากอาการขับเสมหะอยู่ในลำคอแต่ทั้ง
00:08:43 → 00:08:46 นี้ทั้งนั้นก็เฝ้าสังเกตอาการแต่สิ่งที่
00:08:46 → 00:08:49 ผมซักประวัติได้ก็คือว่า
00:08:49 → 00:08:52 ตัวเค้าเนี่ยเวลาลงสนามน้ำเนี่ยจะต้องกิน
00:08:52 → 00:08:56 น้ำเย็นๆเลยคือชิลคือน้ำแข็งคือเย็นเลยพอ
00:08:57 → 00:08:59 กินเสร็จปุ๊บเป็นสิ่งที่กระตุ้นที่เขารู้
00:08:59 → 00:09:03 สึกว่าจะเริ่มมีคึกคักๆคักในคอตามมา
00:09:04 → 00:09:07 นี่คือพฤติกรรมอันที่ 1 พฤติกรรมอันที่ 2
00:09:07 → 00:09:10 คือเขาชอบกินสเต็กมันใส่น้ำมันเนยอะไร
00:09:10 → 00:09:12 อย่างเงี้ย
00:09:12 → 00:09:14 ส่วนตัวผมก็
00:09:14 → 00:09:17 ไม่ได้ฟันธง 100% ว่า 2 อย่างนี้อาจจะ
00:09:17 → 00:09:20 เป็นสาเหตุที่ทำให้เมือกในลำคอเค้าเยอะ
00:09:20 → 00:09:23 แต่ผมเชื่อว่าเราควรจะลองปรับพฤติกรรมจุด
00:09:23 → 00:09:26 นี้ผมก็เลยกำหนดกับเขาว่าอย่างี้ผมขอ
00:09:26 → 00:09:29 อนุญาตหยุดยาทุกอย่างเลยนะครับมีพกติดตัว
00:09:29 → 00:09:32 เฉพาะยาขยายหลอดลมกรณีที่เขารู้สึกหอบ
00:09:32 → 00:09:35 เหนื่อยแต่อย่างงั้นล้มกระดานหมดเพราะเ
00:09:35 → 00:09:39 รักษามา 3 ปีละแต่ขอเขาว่าขอเป็นว่าเลิก
00:09:39 → 00:09:42 กินน้ำแข็งตอนกลางวันนะตอนแดดร้อนๆเงี้ย
00:09:42 → 00:09:45 กินน้ำแข็งไม่ได้นะแล้วก็เปลี่ยนเป็นอาจ
00:09:45 → 00:09:47 จะเป็นน้ำอุณหภูมิธรรมดาหรือเย็นนิดหน่อย
00:09:47 → 00:09:51 แต่ห้ามชินนะแล้วก็เปลี่ยนจากพวกอาหาร
00:09:51 → 00:09:54 ปิ้งย่างอะไรเงี้ยเป็นอาหารคลีนนะฮะเป็น
00:09:54 → 00:09:58 ไม่ต้องแบบใช้มันเป็นไม่ต้อง deep fry
00:09:58 → 00:10:01 อย่างเงี้ยนะโอเคก็เป็นที่รู้กันก็หลัง
00:10:01 → 00:10:04 จากทำไปอยู่ 2 อาทิตย์กลับมาก็บอกว่าดี
00:10:04 → 00:10:07 ขึ้นชัดเจนไม่ 100% แต่ชัดเจนเพียงแค่ 2
00:10:07 → 00:10:10 อาทิตย์ก็เป่าสมรรถภาพซ้ำก็ยังไม่เจอหลัก
00:10:10 → 00:10:13 ฐานนะว่าเป็นห่อผืดทั้งๆที่หยุดยา
00:10:13 → 00:10:16 สเตอรอยด์มา 2 อาทิตย์กว่าแล้วแต่ยังไงก็
00:10:16 → 00:10:20 อยู่ในขั้นตอนการติดตามเฝ้าระวังโอเคกรณี
00:10:20 → 00:10:23 2 ท่านนี้ยกมาให้ดูจริงๆมีมากกว่านี้นะ
00:10:23 → 00:10:26 ฮะแต่ว่าคิดว่า 2 ท่านนี้เนี่ยน่าจะทำให้
00:10:26 → 00:10:30 เราเห็นว่าระดับนักก้ามคนที่เขาฟิตมากๆ
00:10:30 → 00:10:34 เขายังมีเสมหะในคอเรื้อรังได้เลยซึ่งอัน
00:10:34 → 00:10:36 เนื่องมาจากปัจจัยภายนอกไม่ว่าจะเป็นดิน
00:10:36 → 00:10:38 ฟ้าอากาศหรือเฟอร์นิเจอร์หรืออะไรในห้อง
00:10:38 → 00:10:42 เขาในทางกงข้ามเด็กวัยรุ่นที่เป็นนัก
00:10:42 → 00:10:46 กอล์ฟออกสนามโดนแดดเห็นมั้ฮะอากาศน่าจะดี
00:10:46 → 00:10:49 ใช่มั้ยฮะอยู่ในสนามกอล์ฟมีต้นไม้อาหาร
00:10:49 → 00:10:50 การกินก็ดีสูบบุหรี่ก็ไม่มีแอลกอฮอล์ก็
00:10:51 → 00:10:53 ไม่มีมีไวบ้างบางทีแต่ทำไมเค้าก็ยังเป็น
00:10:53 → 00:10:57 ได้ก็พฤติกรรมของเค้านี่แหละถามว่าคนอื่น
00:10:57 → 00:11:01 เป็นมั้ไม่เป็นแต่ทำไมเขาเป็นตอบไม่ได้
00:11:01 → 00:11:04 แต่ละคนการตอบสนองของร่างกายไม่เหมือนกัน
00:11:04 → 00:11:07 อันนี้เราพิสูจน์ไม่ได้จริงๆเถึงเรียกว่า
00:11:07 → 00:11:10 personalized medicine ก็คือว่าการ
00:11:10 → 00:11:15 รักษาแบบบุคคลนะฮะเพราะคนมีสรีระมีกายภาพ
00:11:15 → 00:11:19 มีมีการตอบสนองที่ไม่เหมือนกันใช่มั้ครับ
00:11:19 → 00:11:22 ดังนั้นแพทย์เนี่ยอาจจะต้องลงลึกในการซัก
00:11:22 → 00:11:26 ประวัติแต่ละแต่ละสาเหตุของแต่ละคนการเ
00:11:26 → 00:11:29 เรียก throat clearing การขับเสมหะหรือ
00:11:29 → 00:11:34 การพยายามขย่อนเคลียร์ช่องคอเนี่ยอันที่ 1
00:11:34 → 00:11:38 มักจะสัมพันธ์กับพฤติกรรมหรือนิสัยเรา
00:11:38 → 00:11:41 ซึ่งไม่เกี่ยวกับโรคเลยฟังดีๆนะครับไม่
00:11:41 → 00:11:44 เกี่ยวกับโรคเลยคือมันเป็นความเคยชินของ
00:11:44 → 00:11:49 เราไปละหรืออันที่ 2 คุณอาจจะมีโรคจริงๆ
00:11:49 → 00:11:52 โรคที่ต้องการการตรวจโรคที่ต้องการการ
00:11:52 → 00:11:54 รักษา
00:11:54 → 00:11:57 นำไปสู่หัวข้อที่ 3 ว่าเนี่ยแหละครับที่
00:11:57 → 00:11:59 คุณจะต้องเข้าไปพบแพทย์เมื่อไหร่ที่คุณ
00:11:59 → 00:12:02 ควรเข้าไปพบแพทย์ก็คือ 1 คุณมีเสมหะเรื้อ
00:12:02 → 00:12:08 รังในคอนะหรือ 2 นอกจากเสมหะคุณมีอาการไอ
00:12:08 → 00:12:12 เรื้อรังไอเป็นเลือดไอมีเสมหะเหลืองเขียว
00:12:12 → 00:12:16 ปนเลือดเหนื่อยหอบประวัติสัมผัสคนที่เป็น
00:12:16 → 00:12:19 มรณโรคหรือทำงานเสี่ยงหรือสูบบุหรี่อัน
00:12:19 → 00:12:22 นี้ก็ไปพบแพทย์
00:12:22 → 00:12:27 อันที่ 2 คุณมีเสมหะเรื้อรังในคอควบคู่
00:12:27 → 00:12:31 กับอาการคัดจมูกน้ำมูกไหลลงคอแน่นหัวแน่น
00:12:31 → 00:12:35 ไซนัสไซนัสอักเสบอยู่บ่อยๆปรึกษาแพทย์ที่
00:12:35 → 00:12:39 3 คือกลุ่มที่มีอาการเสมหะในลำคอเรื้อ
00:12:39 → 00:12:40 รัง
00:12:40 → 00:12:45 ควบคู่กับอาการแสบหน้าอกหรืออาการกดไหล
00:12:45 → 00:12:49 ย้อนจุกเสียดเจ็บท้องนะฮะที่ 4 คือกลุ่ม
00:12:49 → 00:12:53 ที่มีเสมหะเรื้อรังสัมพันธ์กับกลืนลำบาก
00:12:53 → 00:12:59 กลืนติดกลืนแล้วแน่นอกนะฮะมีกลิ่นลมหายใจ
00:12:59 → 00:13:02 ที่แปลกนะฮะกลุ่มที่ 5 กลุ่มที่สัมพันธ์
00:13:02 → 00:13:06 กับยาเช่นยาความดันคุณกินยาความดันอะไร
00:13:06 → 00:13:10 บางอย่างซึ่งยาเหล่านั้นอาจจะมีผลต่อการ
00:13:10 → 00:13:14 ที่กระตุ้นให้มีเสมหะในคอเยอะกลุ่มสุด
00:13:14 → 00:13:17 ท้ายกลุ่มที่สัมพันธ์กับโรคทางระบบประสาท
00:13:17 → 00:13:22 ที่คุณมักจะมีอาการสะอึกหรือมีการขยับใบ
00:13:22 → 00:13:26 หน้าขยับฟันขยับเราเรียกทิกdisอเดอครับที
00:13:26 → 00:13:29 นี้เมื่อคุณมาหาแพทย์เนี่ยสิ่งที่แพทย์
00:13:29 → 00:13:32 เขาจะช่วยคุณหาสาเหตุโดยการหนึ่งซัก
00:13:32 → 00:13:35 ประวัติตรวจร่างกายลองไปดูนะครับว่าเาทำ
00:13:35 → 00:13:37 อะไรบ้างแต่ผมจะสรุปเลยว่าแพทย์เขาจะช่วย
00:13:37 → 00:13:40 ดูอะไรควบคู่ไปกับบอกคุณเลยว่าสาเหตุที่
00:13:41 → 00:13:45 ทำให้คุณมีเสมหะเรื้อรังในคอมาจากอวัยวะ
00:13:45 → 00:13:48 ไหนได้บ้างอันอันที่ 1 คือที่เจอบ่อยๆและ
00:13:48 → 00:13:53 เจอมากเลยนะก็คือภูมิแพ้จมูกจมูกบวมคัด
00:13:53 → 00:13:56 จมูกคุณอาจจะมีอาการหรือไม่มีอาการก็ได้
00:13:56 → 00:14:00 แต่มันบวมอยู่ข้างในทำให้น้ำมูกไหลลงคอ
00:14:00 → 00:14:04 โดยที่คุณรู้หรือไม่รู้ก็ได้แล้วจะไปกอง
00:14:04 → 00:14:08 อยู่ที่คอจุกอยู่ที่คอนะคุณก็จะมีเสมหะ
00:14:08 → 00:14:11 อยู่ในคอเรื้อลังนะก็จะเคลียร์แต่ต้นเหตุ
00:14:11 → 00:14:15 มันมาจากตรงนี้ดังนั้นการรักษาตรงนี้ที่
00:14:15 → 00:14:20 จมูกสำคัญมากล้างจมูกพ่นยากินยาภูมิแพ้
00:14:20 → 00:14:24 เป็นต้นอันนี้แพทย์จะบอกคุณในควบคู่กับ
00:14:24 → 00:14:28 การปรับพฤติกรรมและหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่
00:14:28 → 00:14:31 จะกระตุ้นให้เกิดภูมิแพ้นะฮะอันที่ 1 นะ
00:14:31 → 00:14:35 ฮะน้ำมูกย้อยมาจากข้างบนแพทย์เขาก็จะซัก
00:14:35 → 00:14:38 ประวัติตรวจร่างกายเสร็จปุ๊บพอเดูละจมูก
00:14:38 → 00:14:41 ไม่น่าจะอธิบายสเต็ปต่อไปเขาอาจจะเปิดปาก
00:14:41 → 00:14:45 หรือส่องกล้องดูที่กล่องเสียงคุณนะฮะว่า
00:14:45 → 00:14:48 กล่องเสียงเนี่ยมีปัญหามั้ยนะฮะเช่นมี
00:14:49 → 00:14:52 ติ่งมั้ยมีซิสมั้ยมีสัญญาณของกฎไหลย้อน
00:14:52 → 00:14:56 แอบแฝงมั้ยมีก้อนเนื้อนะฮะหรือ
00:14:56 → 00:14:59 กล่องเสียงผิดปกติมั้ยใต้กล่องเสียงมี
00:14:59 → 00:15:03 อะไรมั้นะครับสาเหตุตรงนี้ก็กระตุ้นให้มี
00:15:03 → 00:15:06 การหลังเมือกได้นะฮะแต่พวกนี้ก็จะมาด้วย
00:15:06 → 00:15:09 เรื่องเสียงผิดปกติได้สาเหตุกลุ่มที่ 3
00:15:09 → 00:15:14 คือหลอดลมส่วนล่างเช่นหอบหืดถุงลมโป่งพอง
00:15:14 → 00:15:17 ซึ่งแน่นอนการซักประวัติตรวจร่างกายเนี่ย
00:15:17 → 00:15:20 ก็จะชงไปทางนั้นอยู่ละก็จะรู้อยู่ละนะฮะ
00:15:20 → 00:15:23 ว่าไอ้จริงๆแล้วเมีหอบผืดหรือเปล่าหรือ
00:15:23 → 00:15:26 เป็นถุงลมโป่งพองหรือหลอดลมโป่งพองก็ได้
00:15:26 → 00:15:29 นะหรือหลอดลมอักเสบเรื้อรังก็ได้ซึ่งการ
00:15:29 → 00:15:32 รักษาก็จะทำให้
00:15:32 → 00:15:35 เมือกเนี่ยมันลดลงกลุ่มที่ 4 ก็คือกลุ่ม
00:15:35 → 00:15:38 ที่สัมพันธ์กับกดไหลย้อนนะหลายคนอาจจะไม่
00:15:38 → 00:15:42 รู้ว่ากดไหลย้อนเนี่ยกระตุ้นให้มีเสมหะ
00:15:42 → 00:15:46 อยู่ในคอเรื้อรังโดยที่คุณอาจจะไม่มี
00:15:46 → 00:15:49 อาการกดไหลย้อนเลยก็ได้กดไหลย้อนในที่นี้
00:15:49 → 00:15:53 ที่เรารู้กันก็คือแสบทรวงอกนะครับมีรส
00:15:53 → 00:15:56 ชาติเหมือนกรดขย่อนมาอยู่ที่คอจุกเสียด
00:15:56 → 00:15:59 ท้องกินข้าวแล้วไม่สบายท้องใช่มั้ครับ
00:15:59 → 00:16:02 หรือมักจะไอตอนการดึกนะกินแล้วนอนแล้วรู้
00:16:02 → 00:16:05 สึกแน่นอกไอ
00:16:05 → 00:16:09 แต่หลายคนก็ไม่มีอาการกรดไหลย้อนนะครับ
00:16:09 → 00:16:11 ซึ่งนี่ก็เป็นสาเหตุที่กระตุ้นให้มีเมือก
00:16:12 → 00:16:15 อยู่ที่ลำคอได้ตลอดเวลาซึ่งพอแพทย์ซัก
00:16:15 → 00:16:18 ประวัติตรวจร่างกายแล้วตัดประเด็นจมูก
00:16:18 → 00:16:21 ประเด็นคอเสร็จปุ๊บประเด็นปอเสร็จปุ๊บเขา
00:16:21 → 00:16:24 ก็จะไปดูอาจจะเป็นกดไหลย้อนอาจจะมีการลอง
00:16:24 → 00:16:26 ให้กินยาหรือส่งไปพบหมอทางเดินอาหารส่อง
00:16:26 → 00:16:29 ก๊อกไก็ว่ากันไปตามเนื้อภาพกลุ่มที่
00:16:29 → 00:16:31 สัมพันธ์กับยาอย่างที่ผมบอกนะฮะเมื่อไหร่
00:16:31 → 00:16:34 ที่เรามีเมือกนะฮะถึงแม้จะมีข้อมูลน้อย
00:16:34 → 00:16:37 ว่ายาตัวไหนกระตุ้นให้เกิดเมือกแต่ก็จะมี
00:16:37 → 00:16:40 กลุ่มยาความดันบางตัวที่แพทย์สันนิษฐาน
00:16:40 → 00:16:43 ว่าอาจจะเกิดจากยากลุ่มนี้พวกเอิ
00:16:43 → 00:16:46 inhibitor ซึ่งย้ำนะข้อมูลยังมีไม่เพียง
00:16:46 → 00:16:50 พอแต่ก็มีคนเขียนไว้พอสมควรว่ายากลุ่มนี้
00:16:50 → 00:16:53 อาจจะทำให้เกิดเมือกในลำคอได้ซึ่งแน่นอน
00:16:53 → 00:16:56 ครับแพทย์ก็ต้องหาสาเหตุอื่นก่อนถึงจะมา
00:16:56 → 00:16:59 โทษยาเพราะยาที่คุณกินก็สำคัญใช่มั้ครับ
00:17:00 → 00:17:02 ถ้าเขาไม่มีทางเลือกเขาอาจจะให้คุณกินยา
00:17:02 → 00:17:05 ตัวเดิมแต่ส่วนใหญ่ถ้ามีทางเลือกเราก็
00:17:05 → 00:17:08 เปลี่ยนกลุ่มยาได้ก่อนอื่นผมเท้าความก่อน
00:17:08 → 00:17:12 ว่าจริงๆแล้วเมือกในลำคอเราเนี่ยจริงๆ
00:17:12 → 00:17:15 แล้วมีไว้เพื่อป้องกันกล่องเสียงเรานะ
00:17:15 → 00:17:18 ครับมันเป็นประโยชน์นะครับปกติมนุษย์เรา
00:17:18 → 00:17:22 จะมีเมือกอยู่แล้วนะฮะเมือกนี้ก็เป็นสาร
00:17:22 → 00:17:25 เคลือบกล่องเสียงนะฮะให้เวลาเรากินเวลา
00:17:25 → 00:17:29 เรากลืนเวลาเราออกเสียงเนี่ยมันมีการเปิด
00:17:29 → 00:17:31 ปิดของกล่องเสียงเนี่ยมันจะได้ไม่เกิดบาด
00:17:32 → 00:17:35 แผลไม่เกิดการดึงลั้งหรือไม่เกิดการ
00:17:35 → 00:17:39 อักเสบนะมันก็เปรียบเสมือนน้ำยาหล่อลื่น
00:17:39 → 00:17:42 แต่เมื่อไหร่มีการอักเสบจะด้วยเหตุอะไรก็
00:17:42 → 00:17:46 ตามนะฮะกล่องเสียงพวกนี้เนี่ยก็จะผลิต
00:17:46 → 00:17:50 เมือกมากขึ้นเพื่อที่จะมาคุม
00:17:50 → 00:17:55 ปกป้องกล่องเสียงนะฮะผลิตเมือกที่หนาขึ้น
00:17:55 → 00:17:58 ข้นขึ้นเหนียวขึ้นมาคุมไม่ให้เกิด
00:17:58 → 00:18:01 อุบัติเหตุมากขึ้นไม่ให้เกิดการอักเสบมาก
00:18:01 → 00:18:05 ขึ้นนะครับมันเป็นการ
00:18:05 → 00:18:09 มันเป็นการซ่อมแซมมันเป็นการปกป้องมัน
00:18:09 → 00:18:13 เป็นการหลีกเลี่ยงไม่ใช่ให้เกิดเอ่อ
00:18:13 → 00:18:16 อุบัติเหตุหรือการอักเสบมากไปกว่าเดิมนะ
00:18:16 → 00:18:19 ฮะงั้นจริงๆแล้วมันมีประโยชน์ด้วยซ้ำ
00:18:19 → 00:18:21 กลุ่มสุดท้ายสัมพันธ์กับการกลืนผิดปกติ
00:18:21 → 00:18:24 กรณีที่เรากลืนลำบากกลืนติดหรือกลืนไม่
00:18:24 → 00:18:27 สุดกลืนแล้วแน่นเนี่ยนี่ก็เป็นอีกหนึ่งใน
00:18:27 → 00:18:29 สาเหตุที่ทำให้เรามีเมือกในลำคอเยอะขึ้น
00:18:29 → 00:18:32 ได้นะฮะอันนี้แพทย์ก็จะช่วยคุณในการหา
00:18:32 → 00:18:36 สาเหตุกลับมานะครับหลายคนที่รักษาเมือกใน
00:18:36 → 00:18:40 คอไม่หายหรือหายแล้วไม่หายสนิท 1 ก็อาจจะ
00:18:40 → 00:18:45 เป็นจากโรคของคุณที่มันมีตัวกวนเยอะนะโดย
00:18:45 → 00:18:48 เฉพาะภูมิแพ้ผมบอกแล้วนะอัตราสำเร็จไม่
00:18:48 → 00:18:52 สูงนะครับ 80% นี่ก็หรูละหรือ 2 จริงๆคุณ
00:18:52 → 00:18:55 อาจจะมีโรคอื่นหรือโรคที่ 2 ก็ได้หรือ 3
00:18:55 → 00:18:57 จริงๆวินิจฉัยผิดก็ได้แต่วินิจฉัยผิด
00:18:58 → 00:19:00 เนี่ยค่อนข้างยากอันนี้พูดตรงๆเพราะว่า
00:19:00 → 00:19:04 เมือกในลำคอมันค่อนข้างตรงไปตรงมาไม่ได้
00:19:04 → 00:19:07 ยากอะไรมากแต่ยังไงก็ตามก็ปรึกษากับหมอ
00:19:07 → 00:19:12 ท่านนะฮะว่ามีเหตุให้ชวนคิดถึงโรคฝืนนอก
00:19:12 → 00:19:15 เหนือจากโรคเดิมที่รักษาอยู่หรือไม่นะ
00:19:15 → 00:19:19 ครับสุดท้ายสำคัญที่สุดผมพูดไปตอนเนิ่น
00:19:19 → 00:19:21 ว่า
00:19:21 → 00:19:23 throw clearing จริงๆเนี่ยอาจจะไม่
00:19:23 → 00:19:27 สัมพันธ์กับโรคก็ได้อาจจะเป็นนิสัยของเรา
00:19:27 → 00:19:30 ก็ได้นะครับอันนี้เจอเยอะไม่น้อยเลยนะ
00:19:30 → 00:19:35 ครับเพราะว่าเราหาสาเหตุจนจบลองรักษาภูมิ
00:19:35 → 00:19:38 แพ้ก็แล้วแต่คุณแม่หรือคุณป้าคุณยายก็จะ
00:19:38 → 00:19:40 ต้องมีนิสัย
00:19:40 → 00:19:45 อยู่ตลอดเวลาทีนี้การกระแทกหรือการขับ
00:19:45 → 00:19:49 เสมหะแรงๆอย่างเงี้ยมันมีผลดีหรือผลเสีย
00:19:49 → 00:19:52 ยังไงผลดีก็คือแน่นอนครับมันช่วยขับเสมหะ
00:19:52 → 00:19:55 ออกแต่คุณรู้หรือไม่ว่าการที่เรากระแทก
00:19:55 → 00:19:57 แรงๆ
00:19:57 → 00:20:00 สิ่งที่เกิดขึ้นคือมันจะทำให้กล่องเสียง
00:20:00 → 00:20:04 หรือช่วงบริเวณช่องคอตรงนี้เราบวมพอมัน
00:20:04 → 00:20:09 บวมมากขึ้นเราจะเริ่มรู้สึกจุกพอเรารู้
00:20:09 → 00:20:12 สึกจุกเราก็จะเข้าใจว่ามันมีเสมหะติดอยู่
00:20:12 → 00:20:16 ในคอเราก็จะพยายามเค้นมันออกอีกดังนั้น
00:20:16 → 00:20:20 มันก็เป็นห่วงโซ่ที่ไม่มีวันจบดังนั้นบาง
00:20:20 → 00:20:25 ทีผมจะต้องฝึกคนไข้ว่าอย่ากระแทกแรงไม่
00:20:25 → 00:20:28 ให้เกิดการบาดเจ็บของกล่องเสียงหรือช่อง
00:20:28 → 00:20:33 คอนะฮะแต่อยากให้เรารู้ว่าหลายคนนะฮะทำจน
00:20:33 → 00:20:37 เคยชินทำจนเป็นนิสัยจนเกิดหลอดเสียงหรือ
00:20:38 → 00:20:40 กล่องเสียงมันบวมจนเข้าใจว่ามันมีเมือก
00:20:40 → 00:20:43 แต่จริงๆมันไม่มีอะไรที่ Facebook Live
00:20:43 → 00:20:45 อะไรอย่างเงี้ยก็จะชอบมาเห็นมั้ยฮะใช้
00:20:45 → 00:20:48 เสียงมากติดต่อกันเป็นชั่วโมงพวกนี่ก็จะ
00:20:48 → 00:20:51 มีเสมหะในคอเรื้อหลังอาชีพอีกอาชีพนึงก็
00:20:51 → 00:20:55 คือนักร้องนักร้องเสียงสูงเสียงกลางเงี้ย
00:20:55 → 00:20:59 นะฮะก็จะมีเสมหะในคอเรืเรื้อรังได้นะฮะ
00:20:59 → 00:21:01 งั้นพฤติกรรมดังกล่าวเห็นมั้ฮะอาจจะไม่
00:21:01 → 00:21:03 ได้สัมพันธ์กับโลกแต่เป็นพฤติกรรมที่ทำ
00:21:03 → 00:21:06 ให้เรามีเมือกในคอเยอะขึ้นได้อ่ะหวังว่า
00:21:07 → 00:21:09 คงได้ประโยชน์นะครับขอให้โชคดีครับสวัสดี
00:21:09 → 00:21:12 ครับ
00:21:12 → 00:21:19 [เพลง]