00:00:01 → 00:00:06 [เพลง]
00:00:06 → 00:00:08 สำหรับสัปดาห์นี้นะคะเราจะมาพูดคุยกัน
00:00:09 → 00:00:12 เรื่องของโรคเส้นเลือดผิดปกติค่ะหลายคนนะ
00:00:12 → 00:00:15 คะจะเคยได้ยินคำว่าโรคเส้นเลือดสมองไม่
00:00:15 → 00:00:19 ว่าจะเป็นเส้นเลือดสมองแตกตีบตันแต่อย่าง
00:00:19 → 00:00:21 ไรเสียนะคะยังมีอีกโรคนึงซึ่งถึงแม้ไม่
00:00:22 → 00:00:24 คุ้นเคยแต่เป็นอันตรายถึงชีวิตได้ไปฟัง
00:00:25 → 00:00:28 เรื่องราวของโรคเส้นเลือดผิดปกติกันค่ะ
00:00:28 → 00:00:31 โรคเส้นเลือดผิดปกติหรือที่เรารู้จักกัน
00:00:31 → 00:00:34 ว่า cerebral arteriovenous
00:00:34 → 00:00:37 malformation หรือ cerebral avm หรือ
00:00:37 → 00:00:40 เรียกสั้นๆว่าโรค avm นั้นพบได้ไม่บ่อย
00:00:40 → 00:00:44 นักโดยมีอัตราการเกิดโรคนี้มีเพียง 15-18
00:00:44 → 00:00:48 รายต่อประชากร 1,000 คนแต่จะแสดงอาการ
00:00:48 → 00:00:50 เพียงประมาณร้อยละ 2-10 ของผู้ป่วยที่
00:00:51 → 00:00:54 เป็นโรคนี้ทั้งหมดโรคเส้นเลือดผิดปกติ
00:00:54 → 00:00:56 เป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติของหลอด
00:00:56 → 00:00:59 เลือดที่มีลักษณะเป็นกลุ่มของหลอดเลือด
00:00:59 → 00:01:03 ที่มีมีขนาดผิดปกติโดยมีองค์ประกอบสำคัญ 3
00:01:03 → 00:01:06 ส่วนคือหลอดเลือดแดงหลอดเลือดคอรดและหลอด
00:01:06 → 00:01:09 เลือดดำที่สัมพันธ์กันโดยหลอดเลือดดแดงจะ
00:01:09 → 00:01:11 นำเลือดไปสู่บริเวณหลอดเลือดคอดและไหล
00:01:11 → 00:01:14 เวียนออกไปทางหลอดเลือดดำนอกจากจะพบใน
00:01:14 → 00:01:18 สมองแล้วโรคหลอดเลือดผิดปกติสามารถพบใน
00:01:18 → 00:01:21 ตำแหน่งใดส่วนใดของร่างกายก็ได้โดยอัตรา
00:01:21 → 00:01:24 การเกิดโรคนี้มีไม่มากนักเมื่อเปรียบ
00:01:24 → 00:01:27 เทียบกับโรคทางหลอดเลือดสมองชนิดอื่นๆ
00:01:27 → 00:01:30 เช่นโรคเส้นเลือดโปงพองโรคโเส้นเลือดตีบ
00:01:30 → 00:01:35 ตัโรคเส้นเลือดผิดปกติมีสาเหตุมาจาก
00:01:35 → 00:01:39 อะไรสาเหตุของการเกิดโรคเส้นเลือดผิดปกติ
00:01:39 → 00:01:42 นั้นยังไม่ทราบชัดเจนสำหรับโรคเส้นเลือด
00:01:42 → 00:01:46 ผิดปกติเป็นที่ยอมรับโดยทั่วไปว่าเกิดจาก
00:01:46 → 00:01:49 ความผิดปกติแต่กำเนิดซึ่งอาจจะเกิดในระยะ
00:01:49 → 00:01:52 ตั้งแต่เป็นตัวอ่อนภายในคันมารดานอกจาก
00:01:52 → 00:01:55 นี้พบว่าหลอดเลือดคอดบางชนิดมีความ
00:01:55 → 00:01:58 สัมพันธ์กับโรคที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้
00:01:58 → 00:02:01 สำหรับสาเหตุอื่นอืเช่นการติดเชื้อ
00:02:01 → 00:02:04 อุบัติเหตุพบได้เช่นกันแต่ไม่มากนักจึง
00:02:04 → 00:02:08 สรุปได้ว่าเป็นโรคทางพัธุกรรมได้โดยเฉพาะ
00:02:08 → 00:02:10 ผู้ป่วยที่มีความผิดปกติของหลอดเลือดหลาย
00:02:10 → 00:02:14 ตำแหน่งในร่างกายเช่นที่ปอดและในสมองหรือ
00:02:14 → 00:02:17 พบหลอดเลือดขอดหลายตำแหน่งซึ่งมากกว่า 2
00:02:17 → 00:02:21 ตำแหน่งในสมองโดยความผิดปกติของหลอดเลือด
00:02:21 → 00:02:24 อาจพบบริเวณผิวสมองเนื้อสมองส่วนนอกหรือ
00:02:24 → 00:02:28 อยู่ลึกลงไปในเนื้อสมองซึ่งอาจเกิดรอยโรค
00:02:28 → 00:02:30 เพียงตำแหน่งเดียวหรือเกิดได้พร้อมๆกัน
00:02:30 → 00:02:34 หลายตำแหน่งและแต่ละรอยโรคอาจมีขนาดเล็ก
00:02:34 → 00:02:38 ใหญ่ไม่เท่ากันโรคเส้นเลือดผิดปกตินั้น
00:02:38 → 00:02:41 สามารถพบได้ในทุกกลุ่มอายุค่ะนับตั้งแต่
00:02:41 → 00:02:44 ทารกที่อยู่ในคครภ์มารดาจนถึงผู้ที่มี
00:02:44 → 00:02:48 อายุ 60 ปีโรคเส้นเลือดผิดปกติเป็นได้
00:02:48 → 00:02:51 ทั้งเพศชายและเพศหญิงที่สังเกตเห็นได้จะ
00:02:51 → 00:02:54 แยกตามกลุ่มอายุดังนี้ในผู้ป่วยเด็กอาการ
00:02:54 → 00:02:58 ผิดปกติที่พบได้เช่นศีรษะขนาดใหญ่ขึ้นมี
00:02:58 → 00:03:02 เสื้อเลือดซีลบริเวณใบหน้าหรือมีอาการหัว
00:03:02 → 00:03:05 ใจล้มเหลวแต่อาการทั้งหลายเหล่านี้ไม่มี
00:03:05 → 00:03:08 ความจำเพาะสำหรับโรคเส้นเลือดผิดปกติซึ่ง
00:03:08 → 00:03:11 ไม่สามารถนำมาสรุปได้ทันทีว่าเป็นโรคเส้น
00:03:11 → 00:03:14 เลือดผิดปกติในผู้ป่วยผู้ใหญ่อาการที่
00:03:15 → 00:03:18 ปรากฏภายนอกในกลุ่มนี้ไม่ชัดเจนยกเว้นอาจ
00:03:18 → 00:03:22 มีปานแดงบริเวณใบหน้าและลำคอสำหรับอาการ
00:03:22 → 00:03:25 ของโรคเส้นเลือดผิดปกติประกอบด้วย 3
00:03:25 → 00:03:31 กลุ่มอาการหลักดังนี้คือ 1 ชักพบมากกว่า
00:03:31 → 00:03:34 ร้อยละ 50 ของผู้ป่วยกลุ่มอาการชักเนื่อง
00:03:34 → 00:03:37 จากกลุ่มหลอดเลือดสมองที่ผิดปกตินี้เกิด
00:03:37 → 00:03:40 อยู่ในตำแหน่งของผิวเนื้อสมองส่วนนอกส่ง
00:03:40 → 00:03:43 ผลให้มีอาการชักเกิดขึ้นเนื่องมาจากมีการ
00:03:43 → 00:03:46 ระคายเคืองต่อผิวสมองทำให้เกิดกระแสไฟฟ้า
00:03:46 → 00:03:51 ผิดปกติในสมอง 2 มีอาการปวดศีรษะพบได้ถึง
00:03:51 → 00:03:54 ร้อยละ 30 ของผู้ป่วยผู้ป่วยโรคเส้นเลือด
00:03:54 → 00:03:57 ผิดปกติมักแสดงอาการปวดศีรษะแล้วอาเจียน
00:03:57 → 00:04:01 ทันทีหมดสติแขนขาอแรงพูดไม่ได้อาจเสีย
00:04:01 → 00:04:04 ชีวิตได้ทันทีหากก้อนเลือดจากเลือดออกมี
00:04:04 → 00:04:07 ขนาดใหญ่มากหรือเมื่อเกิดการแตกเข้าไปใน
00:04:07 → 00:04:10 โพรงน้ำในสมองที่ก่อให้เกิดการอุดตันของ
00:04:10 → 00:04:12 การไหลของน้ำหล่อเลี้ยงสมองและขายสั่น
00:04:12 → 00:04:17 หลัง 3 มีอาการทางสมองเช่นหมดสติจากเส้น
00:04:17 → 00:04:20 เลือดขอดในสมองแตกหรือมีอาการอัมพฤก
00:04:20 → 00:04:24 อัมพาตของแขนขาซิกใดซิกหนึ่งเป็นต้นเช่น
00:04:24 → 00:04:27 กลุ่มอาการเลือดออกใต้เนื้อเยื่อชั้นอนอย
00:04:27 → 00:04:30 ของเยื่อหุ้มสมองเลือดออกใต้เยื่อหุ้ม
00:04:30 → 00:04:35 สมองชั้นกลางหรือส H เนื่องจากมีการแตก
00:04:35 → 00:04:38 ของกลุ่มหลอดเลือดสมองที่ผิดปกตินี้และแต
00:04:38 → 00:04:41 ออกในบริเวณผิวสมองใต้ต่อมชั้นเยื่อหุ้ม
00:04:41 → 00:04:43 สมองดังกล่าวซึ่งเป็นอาการเหมือนกับอาการ
00:04:43 → 00:04:46 ของกลุ่มโรคหล่อเลือดสมองหรือโรคอัมพาต
00:04:47 → 00:04:50 เช่นตาบอดเฉียบพลันหรือตาบอดเห็ดจากสมอง
00:04:50 → 00:04:53 พูดลำบากสื่อสารไม่ได้วิ่งเวียนศีรษะ
00:04:53 → 00:04:57 รุนแรงอาการชาแขนขาซึ่งกลุ่มอาการแสดงภาย
00:04:57 → 00:05:00 นอกเหล่านี้เพียงอย่างเดียวไม่สามารถจะ
00:05:00 → 00:05:02 ให้การวินิจฉัยผู้ป่วยว่าเป็นโรคเส้น
00:05:02 → 00:05:05 เลือดผิดปกติได้ทั้งนี้แม้จะเป็นโรคที่
00:05:05 → 00:05:08 มักเป็นตั้งแต่กำเนิดแต่มักแสดงอาการ
00:05:08 → 00:05:11 เมื่ออายุประมาณ 15-20 ปีขึ้นไปด้วยขนาด
00:05:11 → 00:05:14 รอยโรคที่โตขึ้นเรื่อยๆผู้ชายมีโอกาสเป็น
00:05:14 → 00:05:17 โรคนี้มากกว่าผู้หญิงและผู้ที่มีประวัติ
00:05:17 → 00:05:20 ครอบครัวเป็นโรคนี้มีโอกาสเป็นโรคนี้บ่อย
00:05:20 → 00:05:23 กว่าผู้ที่ไม่มีประวัติครอบครัวอย่างไรก็
00:05:23 → 00:05:26 ตามยังไม่พบสารพันธุกรรมที่ระบุถึงการ
00:05:26 → 00:05:29 ถ่ายทอดโรคนี้ทางพันธุกรรมอย่างชัดเจน
00:05:29 → 00:05:33 สำหรับปัจจัยที่มีผลกระตุ้นทำให้อาการของ
00:05:33 → 00:05:38 โรคเส้นเลือดผิดปกติมีอาการแสดงได้แก่
00:05:38 → 00:05:41 ตั้งแต่ความดันโลหิตสูงมากๆที่โดยปกติก็
00:05:41 → 00:05:44 อาจทำให้มีการแตกของหลอดเลือดได้อยู่แล้ว
00:05:44 → 00:05:47 แต่ถ้ามีอาการของโรคเส้นเลือดผิดปกติจะ
00:05:47 → 00:05:50 ยิ่งทำให้เกิดอาการรุนแรงมากขึ้นการไหล
00:05:50 → 00:05:52 เวียนของเลือดในร่างกายที่ลดลงอาจก่อให้
00:05:53 → 00:05:56 เกิดปัญหาเลือดเลี้ยงสมองลดลงส่งผลให้
00:05:56 → 00:05:59 เกิดสมองขาดเลือดและเกิดอาการชักหรือแม้
00:05:59 → 00:06:02 แต่แต่การออกแรงเบ่งอย่างแรงเป็นเวลานาน
00:06:02 → 00:06:04 ก็อาจทำให้หลอดเลือดแตก
00:06:04 → 00:06:08 ได้ขอบคุณนะคะสำหรับการรับชมรายการ TNN
00:06:08 → 00:06:11 Health ค่ะและอย่าลืมค่ะกด Subscribe กด
00:06:11 → 00:06:15 ไลคกดแชร์ในทุกช่องทางออนไลน์ของ TNN
00:06:15 → 00:06:18 ช่อง 16 ค่ะเพื่อที่จะไม่พลาดการรับชมราย
00:06:18 → 00:06:22 การสดคลิปวีดีโอที่น่าสนใจของทาง TNN นะ
00:06:22 → 00:06:25 คะ