00:00:00 → 00:00:04 ปวดท้องตรงนี้มันบอกอะไรเราสัญญาณจากร่าง
00:00:04 → 00:00:07 กายที่หลายคนอาจมองข้ามคุณเคยสงสัยมั้คะ
00:00:07 → 00:00:11 ว่าทำไมบางทีก็ปวดจี๊ดๆตรงชายโครงขวาบาง
00:00:11 → 00:00:15 ทีก็ปวดแสบลิ้นปี่หรือบางครั้งก็ปวดหน่วง
00:00:15 → 00:00:18 ท้องน้อยอาการปวดท้องไม่ใช่เรื่องเล็กๆ
00:00:18 → 00:00:21 น้อยๆที่จะมองข้ามได้เลยค่ะเพราะแต่ละ
00:00:21 → 00:00:24 ตำแหน่งที่ปวดอาจกำลังบอกใบ้ถึงปัญหาที่
00:00:24 → 00:00:27 เราไม่เคยรู้มาก่อนก็ได้นะคะครับและที่
00:00:27 → 00:00:30 น่าตกใจคือบางครั้งความปวดท้องเล็กๆน้อยๆ
00:00:30 → 00:00:32 เนี่ยกลับเป็นสัญญาณเตือนของโรคร้ายแรง
00:00:32 → 00:00:35 ที่เราคาดไม่ถึงนะครับเพราะฉะนั้นการรู้
00:00:35 → 00:00:39 ว่าปวดตรงไหนบอกโรคอะไรจึงสำคัญอย่างยิ่ง
00:00:39 → 00:00:42 เลยครับสุขภาพสนทนาสร้างสุขภาพดีที่เริ่ม
00:00:42 → 00:00:46 ต้นจากความเข้าใจค่ะและในวันนี้เราจะมา
00:00:46 → 00:00:49 ถอดรหัสสัญญาณจากร่างกายไปพร้อมๆกันครับ
00:00:49 → 00:00:51 ถ้าคุณไม่อยากพลาดทุกเรื่องราวสุขภาพที่
00:00:52 → 00:00:55 เข้าใจง่ายและอ้างอิงได้อย่าลืมกดติดตาม
00:00:55 → 00:00:58 ช่องสุขภาพสนทนาของเรานะครับและกดกระดิ่ง
00:00:58 → 00:01:00 แจ้งเตือนไว้ด้วยครับใช่ค่ะวันนี้เราจะพา
00:01:00 → 00:01:03 คุณผู้ฟังและคุณผู้ชมไปเช็คด่วนด้วยตัว
00:01:03 → 00:01:07 เองว่าปวดท้องตรงไหนอาจจะบอกโรคอะไรและ
00:01:07 → 00:01:10 ที่สำคัญกว่านั้นคือจะได้รู้ว่าเมื่อไหร่
00:01:10 → 00:01:13 ที่เราควรรีบไปพบแพทย์นะคะครับเพราะการ
00:01:13 → 00:01:15 ที่ร่างกายส่งสัญญาณเตือนออกมาเป็นอาการ
00:01:15 → 00:01:18 ปวดท้องเนี่ยมันมีความสำคัญมากนะครับยิ่ง
00:01:18 → 00:01:21 เรารู้เร็วเท่าไหร่ว่าความผิดปกติเกิดจาก
00:01:21 → 00:01:24 อะไรเราก็จะยิ่งจัดการได้ไวป้องกันไม่ให้
00:01:24 → 00:01:26 อาการลุกลามและช่วยให้การรักษามี
00:01:26 → 00:01:29 ประสิทธิภาพมากขึ้นครับถูกถูกต้องเลยค่ะ
00:01:29 → 00:01:32 วันนี้เราจะมาเป็นคู่มือปวดท้องฉบับคน
00:01:32 → 00:01:35 อยากสุขภาพดีให้ทุกท่านได้เข้าใจสัญญาณ
00:01:35 → 00:01:38 จากร่างกายตัวเองได้ง่ายๆค่ะพร้อมแล้วเรา
00:01:38 → 00:01:40 มาเริ่มสำรวจกันเลยดีไหมคะว่าแต่ละ
00:01:40 → 00:01:43 ตำแหน่งของการปวดท้องมีความหมายว่าอย่าง
00:01:43 → 00:01:46 ไรบ้างเรามาเริ่มกันที่ตำแหน่งแรกเลยนะคะ
00:01:46 → 00:01:49 คือบริเวณขวาบนหรือใต้ชายโครงขวาค่ะ
00:01:49 → 00:01:52 บริเวณนี้เนี่ยเป็นที่อยู่ของอวัยวะสำคัญ
00:01:52 → 00:01:56 หลายอย่างเลยนะคะเช่นตับถุงน้ำดีและส่วน
00:01:56 → 00:02:00 นึงของลำไส้ใหญ่ค่ะครับถ้ามีอาการปวดท้อง
00:02:00 → 00:02:02 บริเวณนี้เนี่ยโรคแรกๆที่แพทย์มักจะนึก
00:02:02 → 00:02:06 ถึงเลยก็คือนิ่วในถุงน้ำดีหรือถุงน้ำดี
00:02:06 → 00:02:09 อักเสบครับอาการปวดมักจะมาแบบจี๊ดๆหรือ
00:02:09 → 00:02:12 ปวดแน่นๆบริเวณใต้ชายโครงขวาอาจจะร้าวไป
00:02:12 → 00:02:15 ที่สะบักขวาหรือไหล่ขวาได้ด้วยครับใช่ค่ะ
00:02:16 → 00:02:18 โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากการทานอาหารที่
00:02:18 → 00:02:22 มีไขมันสูงหรือของทอดของมันจัดๆจะยิ่ง
00:02:22 → 00:02:24 กระตุ้นให้เกิดอาการปวดได้ง่ายขึ้นเลยนะ
00:02:24 → 00:02:28 คะบางคนอาจจะมีอาการคลื่นไส้อาจเจียนท้อง
00:02:28 → 00:02:30 อืดหรือรู้สึกอึดอัดแน่นๆใต้ชายโครงร่วม
00:02:30 → 00:02:33 ด้วยซึ่งนี่คือสัญญาณชัดเจนของปัญหาที่
00:02:33 → 00:02:37 ถุงน้ำดีเลยค่ะนอกจากนี้บริเวณขวาบนยัง
00:02:37 → 00:02:39 เป็นที่อยู่ของตับด้วยนะครับเพราะฉะนั้น
00:02:39 → 00:02:42 ถ้ามีอาการปวดตื้อๆแน่นๆหรือมีอาการอ่อน
00:02:42 → 00:02:46 เพลียตัวเหลืองตาเหลืองก็อาจบ่งชี้ถึงตับ
00:02:46 → 00:02:48 อักเสบหรือปัญหาเกี่ยวกับตับได้ครับซึ่ง
00:02:48 → 00:02:51 ตับอักเสบอาจเกิดใจจากหลายสาเหตุไม่ว่าจะ
00:02:51 → 00:02:55 เป็นการติดเชื้อไวรัสเช่นไวรัสตับอักเสบ B
00:02:55 → 00:02:57 หรือ C หรือจากพฤติกรรมการดื่มแอลกอฮอล์
00:02:57 → 00:03:01 หนักๆหรือบางคนอาจจะเป็นตับจากไขมันพอก
00:03:01 → 00:03:04 ตับก็ได้นะคะครับดังนั้นถ้ามีอาการปวด
00:03:04 → 00:03:07 ท้องบริเวณขวาบนโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ามี
00:03:07 → 00:03:10 อาการร่วมที่ชัดเจนเช่นปวดหลังทานของมัน
00:03:10 → 00:03:13 มากๆคลื่นไส้หรือตัวเหลืองเนี่ยแนะนำว่า
00:03:13 → 00:03:16 ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจวินิจฉัย
00:03:16 → 00:03:18 เพิ่มเติมนะครับใช่ค่ะโดยเฉพาะการทำ
00:03:18 → 00:03:21 อัลตซาวด์ช่องท้องส่วนบนจะช่วยให้แพทย์
00:03:21 → 00:03:24 มองเห็นความผิดปกติของถุงน้ำดีตับและ
00:03:24 → 00:03:27 อวัยวะใกล้เคียงได้อย่างชัดเจนเลยค่ะส่วน
00:03:27 → 00:03:30 การดูแลตัวเองเบื้องต้นเพื่อลดความเสี่ยง
00:03:30 → 00:03:32 ก็คือการหลีกเลื่องการทานอาหารที่มีไขมัน
00:03:32 → 00:03:35 สูงเกินไปเพื่อลดภาระการทำงานของถุงน้ำดี
00:03:35 → 00:03:38 และตับค่ะถูกต้องเลยครับการปรับเปลี่ยน
00:03:38 → 00:03:41 พฤติกรรมการกินเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งใน
00:03:41 → 00:03:44 การดูแลสุขภาพอวัยวะในช่องท้องส่วนบนนี้
00:03:44 → 00:03:47 ครับขยับลงมาตรงกลางกันบ้างนะคะตำแหน่ง
00:03:47 → 00:03:50 ที่ 2 คือบริเวณกลางบนหรือลิ้นปี่ค่ะ
00:03:50 → 00:03:53 บริเวณนี้เป็นตำแหน่งที่ใครหลายคนมักจะ
00:03:53 → 00:03:56 ปวดบ่อยๆเลยค่ะครับการปวดบริเวณเป็นลิ้น
00:03:56 → 00:03:59 ปี่เนี่ยมักจะเกี่ยวข้องกับอวัยวะในระบบ
00:03:59 → 00:04:01 ทางเดินอาหารส่วนบนโดยตรงเลยครับไม่ว่าจะ
00:04:01 → 00:04:05 เป็นกระเพาะอาหารหรือหลอดอาหารครับโรคที่
00:04:05 → 00:04:07 พบบ่อยที่สุดเลยก็คือโรคกระเพาะอาหาร
00:04:07 → 00:04:11 อักเสบหรือแผลในกระเพาะอาหารค่ะอาการเด่น
00:04:11 → 00:04:14 ๆก็คือจะมีอาการแสบลิ้นปี่อาจจะรู้สึกปวด
00:04:14 → 00:04:18 แน่นๆหรือจุกๆบริเวณลิ้นปี่ซึ่งมักจะเป็น
00:04:18 → 00:04:21 อาการที่สัมพันธ์กับมื้ออาหารนะคะบางคน
00:04:21 → 00:04:24 อาจจะปวดเวลาหิวจัดๆเพราะไม่มีอาหารใน
00:04:24 → 00:04:26 กระเพาะให้กรดได้ย่อย
00:04:26 → 00:04:28 หรือบางคนก็ปวดจุกเสียดแน่นหลังทานอาหาร
00:04:28 → 00:04:32 อิ่มใหม่ๆครับนอกจากนี้ยังมีอาการเรอบ่อย
00:04:32 → 00:04:35 คลื่นไส้หรือท้องอื่นร่วมด้วยได้นะครับ
00:04:35 → 00:04:38 อีกโรคนึงที่พบบ่อยไม่แพ้กันเลยและมักจะ
00:04:38 → 00:04:41 มีอาการปวดแสบลิ้นปีกคล้ายๆกันก็คือโรค
00:04:41 → 00:04:44 กรดไหลย้อนค่ะอาการของกรดไหลย้อนที่เด่น
00:04:44 → 00:04:47 ชัดคือมักจะรู้สึกแสบร้อนจากลิ้นปีกขึ้น
00:04:48 → 00:04:52 มาที่หน้าอกบางคนอาจจะมีอาการเจ็บคอแสบคอ
00:04:52 → 00:04:55 ไอเรื้อรังหรือมีรสข่มเปรี้ยวในปากร่วม
00:04:55 → 00:04:58 ด้วยโดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลานอนราบหรือหลัง
00:04:58 → 00:05:01 ทานอาหารอิ่มๆค่ะครับโรคกรดไหลย้อนเนี่ย
00:05:01 → 00:05:04 เกิดขึ้นเมื่อกรดในกระเพาะอาหารไหลย้อน
00:05:04 → 00:05:07 กลับขึ้นมาในหลอดอาหารทำให้เกิดการระคาย
00:05:07 → 00:05:10 เคืองและอักเสบขึ้นมาได้ครับสำหรับการดู
00:05:10 → 00:05:13 แลเบื้องต้นเมื่อมีอาการปวดบริเวณลิ้นปี่
00:05:13 → 00:05:15 ไม่ว่าจะเป็นโรคกระเพาะหรือกรดไหลย้อนนะ
00:05:15 → 00:05:18 คะสิ่งสำคัญคือการงดอาหารที่กระตุ้นการ
00:05:18 → 00:05:21 หลังกรดหรือทำให้เกิดการระคายเคืองค่ะ
00:05:21 → 00:05:25 เช่นอาหารรสจัดเผ็ดจัดเปรี้ยวจัดชากาแฟ
00:05:26 → 00:05:29 น้ำอัดลมหรือแอลกอฮอล์ค่ะใช่เลยครับและ
00:05:29 → 00:05:31 การแบ่งมื้ออาหารเป็นมื้อเล็กๆแต่บ่อย
00:05:31 → 00:05:34 ขึ้นก็ช่วยลดภาระของกระเพาะอาหารได้นะ
00:05:34 → 00:05:37 ครับการทานยาเคลือบกระเพาะหรือยาลดกรดที่
00:05:37 → 00:05:40 หาซื้อได้ทั่วไปก็สามารถช่วยบรรเทาอาการ
00:05:40 → 00:05:43 เบื้องต้นได้ครับแต่ถ้าอาการไม่ดีขึ้น
00:05:43 → 00:05:45 หรือเป็นบ่อยๆก็ควรไปพบแพทย์เพื่อ
00:05:45 → 00:05:48 วินิจฉัยและรับการรักษาที่เหมาะสมนะครับ
00:05:48 → 00:05:51 โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าอาการปวดรุนแรงขึ้น
00:05:51 → 00:05:54 เรื่อยๆมีอาการอาเจียนเป็นเลือดหรือไถยดำ
00:05:54 → 00:05:56 เหมือนยางมะตอยซึ่งเป็นสัญญาณของเลือดออก
00:05:56 → 00:05:59 ในระบบทางเดินอาหารควรรีบไปโรงพยาบาลทัน
00:05:59 → 00:06:02 ทีเลยค่ะมาดูที่อีกฝั่งหนึ่งกันบ้างนะคะ
00:06:02 → 00:06:06 คือบริเวณซ้ายบนหรือใต้ชายโครงซ้ายค่ะ
00:06:06 → 00:06:09 บริเวณนี้ก็เป็นที่อยู่ของอวัยวะสำคัญ
00:06:09 → 00:06:12 เช่นกันค่ะนั่นก็คือม้าตับอ่อนและส่วน
00:06:12 → 00:06:15 หนึ่งของกระเพาะอาหารและลำไส้ใหญ่ค่ะครับ
00:06:16 → 00:06:19 ถ้ามีการปวดบริเวณซ้ายบนลึกๆหน่วงเนี่ย
00:06:19 → 00:06:23 สิ่งแรกๆที่หลายคนอาจจะนึกถึงก็คือโรคมว
00:06:23 → 00:06:26 ที่ม้าน้ำโตหรืออักเสบครับซึ่งอาจเกิดได้
00:06:26 → 00:06:30 จากหลายสาเหตุเช่นการติดเชื้อบางชนิดโรค
00:06:30 → 00:06:33 เรียดบางอย่างหรือภาวะอื่นๆที่ส่งให้ม้าม
00:06:33 → 00:06:35 ทำงานหนักขึ้นและมีขนาดใหญ่ขึ้นนั่นเอง
00:06:35 → 00:06:39 ครับใช่ค่ะและนอกจากอาการปวดหน่วงแล้วบาง
00:06:39 → 00:06:42 คนอาจจะมีอาการเหนื่อยง่ายรู้สึกอ่อน
00:06:42 → 00:06:45 เพลียผิดปกติร่วมด้วยได้นะคะซึ่งอาจจะ
00:06:45 → 00:06:47 เกี่ยวข้องกับภาวะโลหิตจางที่เกิดจากการ
00:06:47 → 00:06:51 ทำงานที่ผิดปกติของม้าได้ค่ะอย่างไรก็ตาม
00:06:51 → 00:06:55 นอกจากมเวซ้ายบนยังเป็นที่อยู่ของตับอ่อน
00:06:55 → 00:06:57 ด้วยนะครับและโรคที่เกี่ยวข้องกับตับอ่อน
00:06:57 → 00:07:00 ที่ทำให้เกิดอาการปวดรุนแรงได้ก็คือตับ
00:07:00 → 00:07:04 อ่อนอักเสบครับซึ่งมักจะมีอาการปวดรุนแรง
00:07:04 → 00:07:07 ปวดร้าวไปที่หลังเคลื่อนไส้อาเจียนและมัก
00:07:07 → 00:07:10 จะสัมพันธ์กับการดื่มแอลกอฮอล์หนักๆหรือ
00:07:10 → 00:07:13 มีภาวะนิ่วในถุงน้ำดีมาก่อนครับค่ะหรือ
00:07:13 → 00:07:16 บางครั้งอาการปวดบริเวณซ้ายบนก็อาจจะมา
00:07:16 → 00:07:19 จากปัญหาของกระเพาะอาหารส่วนบนหรือลำไส้
00:07:19 → 00:07:22 ใหญ่ส่วนต้นก็เป็นได้นะคะดังนั้นการ
00:07:22 → 00:07:25 วินิจฉัยที่แม่นยำจึงเป็นสิ่งสำคัญค่ะ
00:07:25 → 00:07:28 ครับสำหรับคำแนะนำเบื้องต้นเมื่อมีอาการ
00:07:28 → 00:07:31 ปวดบริเวณสายบนนี้โดยเฉพาะถ้ามีอาการปวด
00:07:31 → 00:07:34 ลึกๆหน่วงหรือเหนื่อยง่ายผิดปกติเนี่ยควร
00:07:34 → 00:07:37 หลีกเลี่ยงการออกแรงหนักที่อาจไปกระเทือน
00:07:37 → 00:07:40 บริเวณท้องและที่สำคัญคือควรพบแพทย์เพื่อ
00:07:41 → 00:07:43 ตรวจเลือดหรือทำการตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติม
00:07:43 → 00:07:46 ครับใช่ค่ะการตรวจเลือดจะช่วยให้แพทย์
00:07:46 → 00:07:49 ประเมินการทำงานของน้ำและตับอ่อนรวมถึงหา
00:07:49 → 00:07:51 ความผิดปกติอื่นๆที่อาจเป็นสาเหตุของ
00:07:51 → 00:07:55 อาการปวดได้ค่ะอย่าปล่อยทิ้งไว้นะคะหากมี
00:07:55 → 00:07:58 อาการเหล่านี้เพราะบางภาวะก็ต้องการการดู
00:07:58 → 00:08:01 แลรักษาที่เฉพาะเจาะจงค่ะมาถึงตำแหน่งตรง
00:08:01 → 00:08:04 กลางตัวกันบ้างนะคะนั่นคือบริเวณขวากลาง
00:08:04 → 00:08:07 หรือข้างสะดือด้านขวาค่ะบริเวณนี้เป็นที่
00:08:07 → 00:08:10 อยู่ของลำไส้ใหญ่ส่วนต้นและยังเกี่ยวข้อง
00:08:10 → 00:08:13 กับไต่ด้านขวาด้วยค่ะครับอาการปวดบริเวณ
00:08:13 → 00:08:16 ขวากลางที่พบบ่อยก็คืออาการที่เกี่ยวข้อง
00:08:16 → 00:08:19 กับลำไส้ใหญ่อักเสบครับอาจจะมีอาการปวด
00:08:19 → 00:08:23 บิดๆปวดหน่วงรวมกับอาการท้องเสียหรือท้อง
00:08:23 → 00:08:27 ผูกสลับกันไปนะครับใช่ค่ะและที่สำคัญอีก
00:08:27 → 00:08:29 สาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดอาการปวดจี๊ดๆ
00:08:29 → 00:08:32 ข้างลำตัวบริเวณนี้หรือปวดร้าวลงไปที่
00:08:32 → 00:08:35 หลังด้านขวาก็ขืนนิ่วในไต่ด้านขวานั่นเอง
00:08:35 → 00:08:39 ค่ะซึ่งเป็นอาการปวดที่รุนแรงมากและมักจะ
00:08:39 → 00:08:42 ปวดเป็นพักๆคล้ายปวดดิครับถ้าเป็นนิ่้วใน
00:08:42 → 00:08:45 ไตเนี่ยนอกจากอาการปวดที่รุนแรงแล้วก็อาจ
00:08:45 → 00:08:48 จะมีอาการปัสสาวะแสบขัดปัสสาวะบ่อย
00:08:48 → 00:08:51 ปัสสาวะมีเลือดปนหรือมีไข้หนาวสั่นร่วม
00:08:51 → 00:08:54 ด้วยได้นะครับดังนั้นหากมีอาการปวดบริเวณ
00:08:54 → 00:08:57 ขวากลางโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าปวดร้าวไปที่
00:08:57 → 00:09:00 หลังหรือมีอาการผิดปกติเกี่ยวกับการ
00:09:00 → 00:09:03 ปัสสาวะคำแนะนำเบื้องต้นคือดื่มน้ำให้
00:09:03 → 00:09:06 เพียงพอเพื่อช่วยขับของเสียและลดโอกาสการ
00:09:07 → 00:09:10 เกิดนิ่วครับและควรลดการทานอาหารรสเค็ม
00:09:10 → 00:09:13 จัดเพราะโซเดียมที่สูงเกินไปอาจเพิ่มความ
00:09:13 → 00:09:15 เสี่ยงในการเกิดนิ่วในไตได้นะครับที่
00:09:15 → 00:09:19 สำคัญคือควรรีบไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจ
00:09:19 → 00:09:22 ปัสสาวะและอัลตราซาวด์ไตเพื่อยืยืนยันการ
00:09:22 → 00:09:25 วินิจฉัยครับใช้เลยค่ะการตรวจเหล่านี้จะ
00:09:25 → 00:09:28 ช่วยให้แพทย์สามารถระบุได้ว่าอาการปวดมา
00:09:28 → 00:09:31 จากลำไส้หรือมาจากนิ้วในไตเพื่อให้ได้รับ
00:09:31 → 00:09:34 การรักษาที่ตรงจุดค่ะขยับเข้ามาตรงกลางลำ
00:09:34 → 00:09:38 ตัวเลยนะคะนั่นก็คือบริเวณกลางพุงหรือรอบ
00:09:38 → 00:09:41 สะดือค่ะตำแหน่งนี้ก็เป็นอีกจุดที่มักจะ
00:09:41 → 00:09:44 ทำให้เราเกิดความกังวลได้ง่ายๆเลยค่ะครับ
00:09:44 → 00:09:46 การปวดบริเวณรอบสะดือมักจะเกี่ยวข้องกับ
00:09:46 → 00:09:49 ลำไส้เล็กครับและโรคที่น่าเป็นห่วงเมื่อ
00:09:49 → 00:09:52 มีอาการปวดบริเวณนี้ก็คือลำไส้อักเสบ
00:09:52 → 00:09:55 เฉียบพลันหรือร้ายแรงที่สุดคือลำไส้
00:09:55 → 00:09:58 อุดตันครับอาการของลำไส้อักเสบเฉียบพลัน
00:09:58 → 00:10:01 มักจะมาพร้อมกับอาการปวดบิดเป็นพักๆรอบ
00:10:01 → 00:10:05 สะดืออาจจะมีอาการท้องอืดแน่นท้องร่วมกับ
00:10:05 → 00:10:08 ถ่ายผิดปกติเช่นท้องเสียหรือบางคนอาจจะ
00:10:08 → 00:10:12 ท้องผูกสลับท้องเสียได้ค่ะและอาจมีอาการ
00:10:12 → 00:10:15 อาเจียนร่วมด้วยได้นะคะครับส่วนถ้าเป็นลำ
00:10:15 → 00:10:17 ไส้อุดตันเนี่ยอาการปวดจะรุนแรงมากขึ้น
00:10:17 → 00:10:21 เรื่อยๆปวดบิดรุนแรงและที่สำคัญคือจะไม่
00:10:21 → 00:10:24 สามารถขับถ่ายได้เลยทั้งอุจจาระและลมอาจ
00:10:25 → 00:10:28 จะมีอาการท้องอืดมากคลื่นไส้อาเจียนเป็น
00:10:28 → 00:10:31 สีเขียวเหลืองหรือมีไข้ร่วมด้วยครับซึ่ง
00:10:31 → 00:10:34 ภาวะลำไส้อุดตันถือเป็นภาวะฉุกเฉินทางการ
00:10:34 → 00:10:36 แพทย์ที่ต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน
00:10:36 → 00:10:40 เลยนะคะดังนั้นถ้ามีอาการปวดบิดรุนแรง
00:10:40 → 00:10:43 ท้องอืดมากและที่สำคัญคือถ่ายไม่ได้เลย
00:10:43 → 00:10:47 แม้แต่ลมก็อย่ารอช้าค่ะครับคำแนะนำเบื้อง
00:10:47 → 00:10:49 ต้นถ้ามีอาการปวดกลางพุงที่สงสัยว่าจะ
00:10:49 → 00:10:53 เป็นลำลำไส้อักเสบคืองดอาหารระยะสั้นหรือ
00:10:53 → 00:10:56 ทานอาหารอ่อนๆเพื่อให้ลำไส้เดทักพับแต่
00:10:56 → 00:10:59 ย้ำอีกครั้งนะครับว่ารีบพบแพทย์ทันทีหาก
00:10:59 → 00:11:01 ถ่ายไม่ได้เลยหรือปวดรุนแรงมากเพราะอาจ
00:11:01 → 00:11:04 เป็นสัญญาณของลำไส้อุดตันซึ่งเป็นอันตราย
00:11:04 → 00:11:07 ถึงชีวิตได้ครับใช่ค่ะอย่าประเมินอาการ
00:11:07 → 00:11:10 ตัวเองต่ำไปนะคะโดยเฉพาะถ้ามีอาการรุนแรง
00:11:10 → 00:11:14 และผิดปกติไปจากที่เคยเป็นการไปพบแพทย์
00:11:14 → 00:11:16 เพื่อตรวจวินิจฉัยจะปลอดภัยที่สุดค่ะมาดู
00:11:16 → 00:11:19 ที่ฝั่งซ้ายของสะดือกันบ้างนะคะคือบริเวณ
00:11:19 → 00:11:22 เป็นซ้ายกลางหรือข้างสะดือด้านซ้ายค่ะ
00:11:22 → 00:11:25 ตำแหน่งนี้เป็นที่อยู่ของลำไส้ใหญ่ส่วน
00:11:25 → 00:11:28 ที่ลงและยังเกี่ยวข้องกับไตด้านซ้ายด้วย
00:11:28 → 00:11:31 ค่ะครับอาการปวดบริเวณซ้ายกลางเนี่ยมักจะ
00:11:31 → 00:11:33 เกี่ยวข้องกับลำไส้ใหญ่โดยเฉพาะกลุ่ม
00:11:33 → 00:11:38 อาการที่เรียกว่าลำไส้แปรปรวนหรือ IBS
00:11:38 → 00:11:40 irritable Bowel Syndrome ครับซึ่งจะ
00:11:40 → 00:11:44 มีอาการปวดเป็นพักๆคล้ายลมในท้องปวดเสียด
00:11:44 → 00:11:47 ท้องท้องอืดท้องเฟ้อและมักจะสัมพันธ์กับ
00:11:47 → 00:11:51 พฤติกรรมการขับถ่ายเช่นถ่ายเหลวบ่อยหรือ
00:11:51 → 00:11:54 ท้องผูกสลับท้องเสียครับใช่เลยค่ะกลุ่ม
00:11:54 → 00:11:57 อาการลำไส้แปรปรวนนี้มักจะเกิดจากความผิด
00:11:57 → 00:11:59 ปกติในการทำงานของลำไส้เองหรือความ
00:11:59 → 00:12:03 สัมพันธ์ระหว่างสมองกับลำไส้ที่ผิดปกติไป
00:12:03 → 00:12:05 ซึ่งมักจะถูกกระตุ้นด้วยความเครียดหรือ
00:12:05 → 00:12:08 อาหารบางชนิดนะคะนอกจากลำไส้แปรปรวนแล้ว
00:12:08 → 00:12:12 อาการปวดบริเวณซ้ายกลางก็อาจมาจากนิ่้วใน
00:12:12 → 00:12:15 ไต่ด้านซ้ายได้เช่นกันครับอาการจะคล้าย
00:12:15 → 00:12:19 กับนิ่้วในไต่ด้านขวาคือปวดจี๊ดๆเร้าไป
00:12:19 → 00:12:22 หลังปัสสาวะแสบขัดหรือมีเลือดปนได้ครับ
00:12:22 → 00:12:25 และในผู้สูงอายุโดยเฉพาะถ้ามีอาการปวด
00:12:25 → 00:12:28 ท้องซ้ายล่างหรือซ้ายกลางมีไข้อาจจะต้อง
00:12:28 → 00:12:32 นึกถึงถุงผนังลำไส้อักเสบไดเวอร์คูไลติ
00:12:32 → 00:12:35 ด้วยนะคะซึ่งเป็นภาวะที่ถุงเล็กๆในผนังลำ
00:12:35 → 00:12:38 ไส้ใหญ่อักเสบติดเชื้อค่ะครับสำหรับคำแนะ
00:12:38 → 00:12:40 นำเบื้องต้นเมื่อมีอาการปวดบริเวณซ้าย
00:12:41 → 00:12:44 กลางนี้โดยเฉพาะถ้าสงสัยว่าเป็นลำไส้แปร
00:12:44 → 00:12:47 ปรวนควรสังเกตพฤติกรรมการกินของตัวเองว่า
00:12:47 → 00:12:50 อาหารชนิดใดกระตุ้นให้เกิดอาการเพื่อหลีก
00:12:50 → 00:12:53 เลี่ยงอาหารเหล่านั้นครับและควรดื่มน้ำ
00:12:53 → 00:12:56 ให้เพียงพอรวมถึงลดความเครียดด้วยครับ
00:12:56 → 00:12:59 เพราะความเครียดมีผลอย่างมากต่ออาการลำ
00:12:59 → 00:13:02 ไส้แปรปรวนนะครับถูกต้องเลยค่ะการจัดการ
00:13:02 → 00:13:05 ความเครียดและการปรับพฤติกรรมการกินเป็น
00:13:05 → 00:13:08 หัวใจสำคัญของการดูแลลำไส้แปรปรวนเลยค่ะ
00:13:08 → 00:13:11 แต่ถ้าอาการปวดรุนแรงขึ้นเรื่อยๆหรือมี
00:13:11 → 00:13:14 อาการผิดปกติอื่นๆร่วมด้วยก็ควรไปพบแพทย์
00:13:14 → 00:13:16 เพื่อตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียดนะคะมาถึง
00:13:16 → 00:13:19 อีกหนึ่งตำแหน่งที่สำคัญมากๆและต้องเฝ้า
00:13:19 → 00:13:22 ระวังเป็นพิเศษเลยนะคะคือบริเวณขวาล่าง
00:13:22 → 00:13:26 ค่ะเพราะบริเวณนี้มีอวัยวะที่สำคัญและ
00:13:26 → 00:13:29 เป็นสาเหตุของภาวะฉุกเฉินได้บ่อยค่ะครับ
00:13:29 → 00:13:32 สิ่งแรกที่แพทย์จะนึกถึงเมื่อมีอาการปวด
00:13:32 → 00:13:34 ท้องขวาล่างเฉียบพลันเลยก็คือไส้ติ่ง
00:13:34 → 00:13:38 อักเสบครับโดยปกติแล้วอาการมักจะเริ่มจาก
00:13:38 → 00:13:41 ปวดบิดๆรอบสะดือก่อนแล้วค่อยๆย้ายมาปวด
00:13:41 → 00:13:44 จุกๆเจ็บๆที่ท้องขวาล่างมากขึ้นเรื่อยๆ
00:13:44 → 00:13:47 ครับใช่ค่ะลักษณะเด่นของการปวดไส้ติ่ง
00:13:47 → 00:13:50 อักเสบคือจะปวดเฉียบพลันและอาการจะแย่ลง
00:13:50 → 00:13:54 เรื่อยๆจนทนไม่ไหวอาจมีไข้คลื่นไส้
00:13:54 → 00:13:58 อาเจียนเบื่ออาหารและที่สำคัญคือเดินแล้ว
00:13:58 → 00:14:01 เจ็บหรือต้องเดินงอตัวเพราะเจ็บท้องมาก
00:14:01 → 00:14:04 และอาจรู้สึกหน่วงลงขาได้ด้วยค่ะครับนอก
00:14:04 → 00:14:07 จากไส้ติ่งอักเสบแล้วบริเวณขวาล่างก็ยัง
00:14:07 → 00:14:10 เกี่ยวข้องกับนิ่้วในท่อไตหรือท่อปัสสาวะ
00:14:10 → 00:14:13 ได้ด้วยครับซึ่งอาการจะคล้ายกับนิ่วในไต
00:14:13 → 00:14:16 แต่ปวดร้าวลงมาบริเวณขาหนีบหรืออันถะใน
00:14:16 → 00:14:19 เพศชายหรือมีอาการปัสสาวะผิดปกติร่วมด้วย
00:14:19 → 00:14:22 ได้ครับและในคุณผู้หญิงนะคะการปวดท้องขวา
00:14:22 → 00:14:26 ล่างก็อาจจะมาจากปัญหาของถุงรังไข่เช่น
00:14:26 → 00:14:30 ถุงรังไข่บิดหรือรังไข่อักเสบได้ค่ะซึ่ง
00:14:30 → 00:14:33 เป็นภาวะฉุกเฉินที่ทำให้ปวดรุนแรงเฉียบ
00:14:33 → 00:14:36 พลันและต้องรักษาการผ่าตัดอย่างเร่งด่วน
00:14:36 → 00:14:39 ค่ะครับด้วยความที่บริเวณขวาล่างมีอวัยวะ
00:14:39 → 00:14:42 สำคัญที่สามารถทำให้เกิดภาวะฉุกเฉินได้
00:14:42 → 00:14:45 หลายอย่างดังนั้นคำแนะนำที่สำคัญที่สุด
00:14:45 → 00:14:48 เลยก็คืออย่ารอให้ปวดหนักหรือรอให้อาการ
00:14:48 → 00:14:52 แย่ลงนะครับใช่ค่ะรีบไปโรงพยาบาลทันทีหาก
00:14:52 → 00:14:55 มีอาการปวดท้องขวาล่างเฉียบพลันและรุนแรง
00:14:56 → 00:14:59 โดยเฉพาะถ้าปวดมากจนทนไม่ไหวมีไข้คลื่น
00:14:59 → 00:15:02 ไส้หรือเดินแล้วเจ็บเพราะการวินิจฉัยและ
00:15:02 → 00:15:05 การรักษาที่ล่าช้าอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต
00:15:05 → 00:15:08 ได้เลยค่ะมาถึงตำแหน่งกลางล่างกันบ้างนะ
00:15:08 → 00:15:11 คะคือบริเวณเหนือหัวหนาวค่ะตำแหน่งนี้
00:15:11 → 00:15:14 เกี่ยวข้องกับอวัยวะในระบบทางเดินปัสสาวะ
00:15:14 → 00:15:17 และระบบสืบพันธุ์เป็นหลักค่ะครับสำหรับ
00:15:17 → 00:15:21 คุณผู้หญิงแล้วอาการปวดบริเวณกลางล่างมัก
00:15:21 → 00:15:24 จะเกี่ยวข้องกับกระเพาะปัสสาวะอักเสบหรือ
00:15:24 → 00:15:26 อุ้งเชิงกรานอักเสบได้ครับซึ่งมักจะมี
00:15:26 → 00:15:30 อาการปวดหน่วงในอุ้งเชิงกรานปวดบีบๆร่วม
00:15:30 → 00:15:33 กับอาการปัสสาวะลำบากปัสสาวะแสบขัด
00:15:33 → 00:15:37 ปัสสาวะบ่อยหรือปัสสาวะไม่สุดครับใช่ค่ะ
00:15:37 → 00:15:40 โดยเฉพาะอุ้งเชิงกรานอักเสบมักจะมีอาการ
00:15:40 → 00:15:44 ปวดท้องน้อยหน่วงมีไข้ตกขาวผิดปกติและอาจ
00:15:44 → 00:15:46 เกิดจากการติดเชื้อทางเพศเพศสัมพันธ์ได้
00:15:46 → 00:15:49 ค่ะส่วนคุณผู้ชายหากมีอาการปวดหน่วงๆ
00:15:49 → 00:15:52 บริเวณกลางล่างอาจจะสัมพันธ์กับปัญหาของ
00:15:52 → 00:15:55 ต่อมลูกหมากครับเช่นต่อมลูกหมากอักเสบ
00:15:55 → 00:15:59 หรือต่อมลูกหมากโตซึ่งอาจทำให้มีอาการปวด
00:15:59 → 00:16:02 หน่วงบริเวณท้องน้อยปัสสาวะลำบากปัสสาวะ
00:16:02 → 00:16:05 บ่อยตอนกลางคืนหรือปัสสาวะไม่พุ่งครับนอก
00:16:05 → 00:16:08 จากนี้อาการปวดหน่วงในอุ้งเชิงกลานยังอาจ
00:16:08 → 00:16:11 สัมพันธ์กับฤิสีดวงทวารได้ด้วยนะคะโดย
00:16:11 → 00:16:14 เฉพาะถ้ามีอาการปวดหน่วงคลายมีอะไรถ่วง
00:16:14 → 00:16:18 อยู่บริเวณทวารหนักถ่ายลำบากหรือมีเลือด
00:16:18 → 00:16:21 ออกขณะถ่ายอุจจาระค่ะครับคำแนะนำเบื้อง
00:16:21 → 00:16:24 ต้นเมื่อมีอาการปวดบริเวณกลางล่างนี้คือ
00:16:24 → 00:16:27 รักษาความสะอาดของอวัยวะเพศและทวารหนัก
00:16:27 → 00:16:30 ให้ดีเพื่อป้องกันการติดเชื้อนะครับและ
00:16:30 → 00:16:32 ที่สำคัญคือหลีกเลี่ยงการกลั้นปัสสาวะ
00:16:32 → 00:16:35 เพื่อลดความเสี่ยงของกระเพาะปัสสาวะครับ
00:16:35 → 00:16:38 แต่ถ้าอาการปวดไม่ดีขึ้นหรือมีอาการผิด
00:16:38 → 00:16:41 ปกติอื่นๆร่วมด้วยเช่นมีไข้ปัสสาวะเป็น
00:16:42 → 00:16:45 เลือดหรือมีตกขาวผิดปกติก็ควรรีบไปพบ
00:16:45 → 00:16:48 แพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาที่
00:16:48 → 00:16:51 เหมาะสมนะคะมาถึงตำแหน่งสุดท้ายแล้วค่ะ
00:16:51 → 00:16:54 นั่นคือบริเวณซ้ายล่างค่ะตำแหน่งนี้ก็
00:16:54 → 00:16:57 เป็นอีกจุดที่สำคัญโดยเฉพาะในผู้หญิงนะคะ
00:16:57 → 00:17:00 ครับบริเวณซ้ายล่างเป็นที่อยู่ของลำไส้
00:17:00 → 00:17:03 ใหญ่ส่วนปลายและยังเกี่ยวข้องกับอวัยวะ
00:17:03 → 00:17:05 สืบพันธุ์ในผู้หญิงด้วยครับสำหรับคุณผู้
00:17:05 → 00:17:09 หญิงแล้วอาการปวดท้องซ้ายล่างมักจะเกี่ยว
00:17:09 → 00:17:13 ข้องกับปัญหาของรังไข่หรือมดลูกค่ะเช่นซี
00:17:13 → 00:17:16 สุรังไข่หรือมดลูกผิดปกติซึ่งอาจทำให้มี
00:17:16 → 00:17:19 อาการปวดหน่วงโดยเฉพาะช่วงมีประจำเดือน
00:17:19 → 00:17:23 หรือบางครั้งก็ปวดบิดเป็นๆหายๆค่ะครับถ้า
00:17:23 → 00:17:26 เป็นซีสที่รังไข่เนี่ยบางครั้งอาจจะไม่มี
00:17:26 → 00:17:29 อาการเลยหรือมีอาการปวดหน่วงๆเป็นพักๆ
00:17:29 → 00:17:32 ครับแต่ถ้าซีสมีการแตกหรือบิดตัวก็จะทำ
00:17:33 → 00:17:35 ให้เกิดอาการปวดเฉียบพลันรุนแรงได้นะครับ
00:17:35 → 00:17:38 และอีกสาเหตุหนึ่งที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ
00:17:38 → 00:17:41 ที่ทำให้เกิดอาการปวดท้องซ้ายล่างโดย
00:17:41 → 00:17:44 เฉพาะถ้ามีไข้ร่วมด้วยก็คือถุงผนังลำสัไ้
00:17:44 → 00:17:48 อักเสบไดเvertตisที่เราได้กล่าวถึงไปบ้าง
00:17:48 → 00:17:50 แล้วค่ะซึ่งมักจะมีอาการปวดท้องซ้ายล่าง
00:17:51 → 00:17:54 แบบตื้อๆหรือปวดบิดร่วมกับอาการไข้และ
00:17:54 → 00:17:57 ท้องผูกหรือท้องเสียได้ค่ะครับสำหรับ
00:17:57 → 00:18:00 อาการปวดบริเวณซ้ายล่างนี้หากเป็นคุณผู้
00:18:00 → 00:18:03 หญิงควรสังเกตรอบเดือนและลักษณะอาการปวด
00:18:03 → 00:18:05 ที่สัมพันธ์กับประจำเดือนนะครับถ้ามี
00:18:06 → 00:18:09 อาการผิดปกติหรือไม่เคยเป็นมาก่อนหรือปวด
00:18:09 → 00:18:12 ซ้ำๆบ่อยๆก็ควรไปตรวจภายในเพื่อให้แพทย์
00:18:12 → 00:18:15 วินิจฉัยหาสาเหตุที่แท้จริงครับส่วนอาการ
00:18:15 → 00:18:18 ปวดท้องซ้ายล่างที่สัมพันธ์กับการขับถ่าย
00:18:18 → 00:18:22 เช่นปวดบิดตอนท้องเสียหรือท้องผูกก็อาจ
00:18:22 → 00:18:24 เป็นอาการของลำไส้ใหญ่ส่วนปลายหรือลำไส้
00:18:24 → 00:18:28 แปรปรวนได้เช่นกันค่ะแต่ถ้าอาการรุนแรงมี
00:18:28 → 00:18:31 ไข้สูงควรปรึกษาแพทย์โดยเร็วที่สุดนะคะ
00:18:31 → 00:18:34 เป็นอย่างไรบ้างคะคุณผู้ฟังและคุณผู้ชม
00:18:34 → 00:18:37 ตอนนี้เราก็ได้รู้กันแล้วว่าอาการปวดท้อง
00:18:37 → 00:18:39 ในแต่ละตำแหน่งนั้นอาจจะบ่งบอกถึงอะไรได้
00:18:39 → 00:18:43 บ้างแต่ละจุดมีความสำคัญและบอกถึงความผิด
00:18:43 → 00:18:46 ปกติปติที่แตกต่างกันเลยนะคะครับจะเห็น
00:18:46 → 00:18:49 ได้ว่าการปวดท้องไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย
00:18:49 → 00:18:52 เสมอไปและการที่ร่างกายส่งสัญญาณเตือนออก
00:18:52 → 00:18:54 มาเนี่ยมันคือโอกาสที่เราจะได้ดูแลสุขภาพ
00:18:54 → 00:18:57 ตัวเองได้ทันท่วงทีครับการรู้ตำแหน่งที่
00:18:57 → 00:19:00 ปวดและอาการร่วมที่เกิดขึ้นจะช่วยให้เรา
00:19:00 → 00:19:02 สามารถเล่าอาการให้แพทย์ฟังได้อย่าง
00:19:02 → 00:19:05 ละเอียดซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อการ
00:19:05 → 00:19:08 วินิจฉัยที่แม่นยำนะครับใช่เลยค่ะอย่าง
00:19:08 → 00:19:10 ที่เน้นย้ำตลอดรายการว่าถ้าปวดท้อง
00:19:10 → 00:19:14 ตำแหน่งเดิมซ้ำๆหรือปวดแบบผิดปกติจากที่
00:19:14 → 00:19:17 เคยเป็นเช่นปวดรุนแรงขึ้นเรื่อยๆปวดจนทน
00:19:17 → 00:19:21 ไม่ไหวมีไข้อาจเจียนมากถ่ายเป็นเลือดหรือ
00:19:21 → 00:19:25 มีอาการอื่นๆที่น่ากังวลร่วมด้วยแนะนำให้
00:19:25 → 00:19:27 รีบพบแพร่โดยเร็วที่สุดนะครับเพราะบาง
00:19:27 → 00:19:30 อย่างยิ่งรู้เร็วยิ่งป้องกันได้ง่ายและ
00:19:30 → 00:19:33 ยิ่งรักษาได้ไวแน่นอนครับอย่าปล่อยทิ้ง
00:19:33 → 00:19:36 ไว้จนอาการหนักเพราะสุขภาพของเรามีค่าที่
00:19:36 → 00:19:39 สุดนะครับสำหรับวันนี้สุขภาพสนทนาก็หวัง
00:19:39 → 00:19:42 ว่าข้อมูลเรื่องการปวดท้องในแต่ละตำแหน่ง
00:19:42 → 00:19:44 จะเป็นประโยชน์และเป็นคู่มือให้กับทุก
00:19:44 → 00:19:47 ท่านได้นำไปใช้ในการดูแลสุขภาพตัวเองและ
00:19:47 → 00:19:50 หมั่นสังเกตสัญญาณจากร่างกายนะคะครับและ
00:19:50 → 00:19:53 ถ้าคุณผู้ฟังและคุณผู้ชมชอบเนื้อหาแบบนี้
00:19:53 → 00:19:56 อย่าลืมกดติดตามช่องสุขภาพสนทนาของเรานะ
00:19:56 → 00:19:58 ครับและกดกระดิ่งแจ้งเตือนเพื่อไม่ให้
00:19:58 → 00:20:01 พลาดข้อมูลสุขภาพดีๆที่เราจะนำมาฝากกัน
00:20:01 → 00:20:04 ครับหรือถ้าใครมีคำถามหรืออยากให้เราพูด
00:20:04 → 00:20:06 คุยเรื่องอะไรก็สามารถคอมเมนต์ทิ้งไว้ใต้
00:20:06 → 00:20:09 คลิปนี้ได้เลยนะคะเรายินดีรับฟังทุกความ
00:20:09 → 00:20:12 คิดเห็นค่ะวันนี้พวกเรา 2 คนต้องขอลาไป
00:20:12 → 00:20:15 ก่อนขอให้ทุกท่านมีสุขภาพที่แข็งแรง
00:20:15 → 00:20:19 ปราศจากอาการปวดท้องกวนใจนะครับสวัสดีค่ะ
00:20:19 → 00:20:21 สวัสดี