00:00:00 → 00:00:04 [เพลง]
00:00:04 → 00:00:07 จริงอาการปวดศีรษะหรือว่าเป็นโรคที่พบได้
00:00:07 → 00:00:09 บ่อยแล้วพบได้มากเลยนะคะแล้วก็พบได้ทุก
00:00:09 → 00:00:12 ช่วงอายุด้วยส่วนอาการที่ตาบ่งบอกว่าจะ
00:00:12 → 00:00:15 เป็นโรคหลอดเลือดสมองหรือเปล่าเนี่ยอาจจะ
00:00:15 → 00:00:17 ไม่ได้เฉพาะเจาะจงซะทีเดียวอาจจะเป็น
00:00:17 → 00:00:20 สัญญาณเตือนมากกว่าว่าอันนี้คือ Red Fat
00:00:20 → 00:00:22 ที่อาจจะต้องมาตรวจและว่าเรามีความสุข
00:00:22 → 00:00:25 ปกตินอกจากโรคปวดศีรษะทั่วๆไปหรือเปล่า
00:00:25 → 00:00:28 เช่นอาการปวดศีรษะเกิดขึ้นแบบไม่เคยปวด
00:00:28 → 00:00:31 แบบนี้มาก่อนคะแนนปวดสูงมากอาการปวดที่
00:00:31 → 00:00:34 สุดในชีวิตหรือมีอาการทางร่างกายที่ผิด
00:00:34 → 00:00:37 ปกติเช่นคลื่นไส้อาเจียนหนักตาพร่ามัว
00:00:37 → 00:00:39 เนื่องจากความดันในกะโหลกศีรษะเพิ่มขึ้น
00:00:39 → 00:00:42 ทำให้จอประสาทตาบวมมีอาการเหล่านี้เกิด
00:00:42 → 00:00:45 ขึ้นทำให้ต้องตื่นมาปวดกลางดึกแล้วก็ปวด
00:00:45 → 00:00:48 แบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อนอาจจะส่งสัญญาณว่า
00:00:48 → 00:00:50 เราอาจจะมีโรคหลอดเลือดสมองเกิดขึ้นร่วม
00:00:50 → 00:00:52 ได้ค่ะ
00:00:52 → 00:00:55 [เพลง]
00:00:55 → 00:00:58 จริงๆก็ควรจะมาพบแพทย์แล้วก็ได้รับการซัก
00:00:58 → 00:01:01 ประวัติตรวจร่างกายโดยแพทย์เฉพาะทางนะคะ
00:01:01 → 00:01:05 หากแพทย์ไม่แน่ใจว่าคุณมีความเสี่ยงในโรค
00:01:05 → 00:01:08 หลอดเลือดสมองหรือโรคอื่นๆเช่นเนื้องอกใน
00:01:08 → 00:01:11 สมองหรือเปล่าหรือโรคเส้นเลือดในสมองผิด
00:01:11 → 00:01:13 ปกติหรือมีอาการปวดศีรษะที่อาจจะมี
00:01:13 → 00:01:16 พยาธิสภาพในสมองก็จะทำการตรวจเพิ่มเติม
00:01:16 → 00:01:20 โดย Galaxy สแกนก็คือ x-rator สมองหรือ Mr
00:01:20 → 00:01:22 I ก็คือเอกซเรย์ขึ้นแม่เหล็กไฟฟ้าสมอง
00:01:22 → 00:01:24 ค่ะ
00:01:24 → 00:01:27 [เพลง]
00:01:27 → 00:01:30 ยาแก้ปวดเรามีหลายประเภทเลยนะคะอย่าง
00:01:30 → 00:01:33 ประเภทที่ทั่วๆไปที่กินกันก็อาจจะเป็นยา
00:01:33 → 00:01:37 แก้ปวดกลุ่ม assetaminophen กลุ่ม nsaid
00:01:37 → 00:01:39 ก็คืออาจจะเช่น Ibuprofen
00:01:39 → 00:01:44 arcipes พวกนี้ก็อาจจะทำให้เกิดผลข้าง
00:01:44 → 00:01:47 เคียงจากยาได้โดยเฉพาะการกินยาบ่อยๆและ
00:01:47 → 00:01:50 กินยามากๆเช่นภาวะตับล้มเหลวในร่มเหลว
00:01:50 → 00:01:52 หรือกลุ่มที่เป็นแก้ปวดลดการอักเสบก็อาจ
00:01:52 → 00:01:55 จะทำให้ระคายเคืองกระเพาะกระเพาะอาหาร
00:01:55 → 00:01:58 เป็นแผลก็เพราะอาหารทารกได้หรือกระทั่งยา
00:01:58 → 00:02:01 ที่เป็นลดปวดจากไมเกรนนะคะกลุ่มเออกัปตัน
00:02:01 → 00:02:03 มีนหากินบ่อยในคนป่วยไมเกรนโดยที่ไม่ได้
00:02:03 → 00:02:06 พบแพทย์ถ้าไปกินร่วมกับยาอื่นๆซึ่ง
00:02:06 → 00:02:09 เสริมฤทธิ์ตัวก็ตามนี้แล้วอาจจะทำให้เส้น
00:02:09 → 00:02:12 เลือดปลายมือปลายเท้าเกิดการตีบทำให้ไตมี
00:02:12 → 00:02:14 ปลายเท้าเขียวแบบที่เคยมีข่าวขึ้นมาก็ได้
00:02:15 → 00:02:18 หรือแม้กระทั่งกลุ่มคิดแทนต่างๆนะคะผ่าน
00:02:18 → 00:02:20 กินบ่อยจนเกินไปกลุ่มเหล่านี้เนี่ยสามารถ
00:02:21 → 00:02:24 ทำให้เกิดโรคที่เรียกว่าอาการปวดหัวจากยา
00:02:24 → 00:02:27 แก้ปวดค่ะก็คือเด็กที่เคชั่น over usage
00:02:27 → 00:02:30 เช่นการใช้ยาแก้ปวดมากจนเกินไปจนทำให้เรา
00:02:30 → 00:02:34 คล้ายกับติดยาแก้ปวดค่ะเราไม่ได้กินยา
00:02:34 → 00:02:37 เกิดอาการปวดศีรษะมากขึ้นกว่าเดิมอีกค่ะ
00:02:37 → 00:02:41 [เพลง]
00:02:41 → 00:02:45 จริงๆก็อาจจะดูอาการก่อนสังเกตอาการหา
00:02:45 → 00:02:47 อาการปวดหัวนั้นไม่ได้มากหรือไม่ได้มี
00:02:47 → 00:02:50 สัญญาณเรทจากเหมือนที่หมอบอกไปคืออาจจะมี
00:02:50 → 00:02:52 อาการทางระบบประสาทร่วมด้วยแล้วเนี่ย
00:02:52 → 00:02:55 สามารถกินยาได้ค่ะแต่ถ้าอีกวันนึงยังไม่
00:02:55 → 00:02:58 หายปวดแนะนำพบแพทย์ค่ะโรคบางโรคเช่นโรค
00:02:58 → 00:03:02 ไมเกรนสามารถกินยาเพื่อป้องกันในการกด
00:03:02 → 00:03:05 ศีรษะลดความถี่และลดความบ่อยในการปวด
00:03:05 → 00:03:08 ศีรษะได้ก็จะลดการกินยาแก้ปวดลงได้ค่ะ
00:03:09 → 00:03:15 [เพลง]