00:00:00 → 00:00:03 This Is Thai PBS podcast View the
00:00:03 → 00:00:05 world By The
00:00:05 → 00:00:08 Voice ความบกพร่องทางเพศของผู้ชายเนี่ย
00:00:08 → 00:00:11 นะคะเราเรียกว่าโรคเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ
00:00:11 → 00:00:13 การมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายเนี่ยไม่ได้
00:00:13 → 00:00:15 เป็นเรื่องของทางกายเท่านั้นแต่มันเป็น
00:00:15 → 00:00:17 เรื่องของศักดิ์สีซึ่งเราพบว่าผู้ชายใน
00:00:18 → 00:00:21 โลกเนี้ยนะคะประมาณถึง 152 ล้านคนกำลัง
00:00:21 → 00:00:24 เผชิญกับปัญหานี้อยู่แต่โดยทั่วไปตาม
00:00:24 → 00:00:27 ธรรมชาติเนี่ยนะคะมันก็เป็นความเสื่อมของ
00:00:27 → 00:00:30 สมรรถภาพตามวัยเพราะผู้ชายเนี่ยอายุ 30
00:00:30 → 00:00:34 ขึ้นแล้วเนี่ยนะคะจะมีฮอร์โมนเพศเค่ะลดลง
00:00:34 → 00:00:36 เรื่อยๆฮอร์โมนเพศเนี่ยมันเป็นตัวชี่ชัด
00:00:36 → 00:00:40 เลยที่จะทำให้เกิดการแข็งตัวหรือการอ่อน
00:00:40 → 00:00:42 ตัวของ
00:00:42 → 00:00:45 อวยเมนสัก
00:00:45 → 00:00:49 50 ฟังทุกเรื่องสุขภาพอัปเดตทุกโรคไทย
00:00:49 → 00:00:52 ฟังรายการโรงหมอกับดิฉันสุรีพรวงสถิตพร
00:00:52 → 00:00:56 ค่ะ This Is tha PBS podcast คุณผู้
00:00:56 → 00:00:59 ฟังคะเราพูดคุยกันถึงเรื่องของความบก
00:00:59 → 00:01:02 พร่องทางเพศของผู้ชายค่ะแล้วก็ปัจจัย
00:01:02 → 00:01:05 เสี่ยงที่ต้องระวังด้วยนะคะไอ้ความบก
00:01:05 → 00:01:07 พร่องของผู้ชายที่เกี่ยวกับเรื่องของทาง
00:01:07 → 00:01:09 เพศเนี่ยมีอะไรบ้างนะคะคุยกับผู้ช่วย
00:01:09 → 00:01:12 ศาสตราจารย์ดรจันทวิภาดิลกสัมพันธ์ผู้ทรง
00:01:12 → 00:01:15 คุณวุฒิมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จ
00:01:15 → 00:01:17 เจ้าพระยาผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์
00:01:17 → 00:01:20 และครอบครัวค่ะสวัสดีค่ะอาจารย์คะสวัสดี
00:01:20 → 00:01:23 ค่ะสวัสดีค่ะท่านผู้ฟังทุกท่านค่ะอ่าวัน
00:01:23 → 00:01:26 นี้เราคุยกันเรื่องของผู้ชายผู้ชายคุณผู้
00:01:26 → 00:01:29 ชายทั้งหลายนะคะอ่าแต่ไม่ต้องกังวลตกใจไป
00:01:29 → 00:01:32 เพราะว่าอู้หูขึ้นจั่วหัวมาก็เป็นเรื่อง
00:01:32 → 00:01:35 ความบกพร่องทางเพศกันไปแล้วนะคะอย่างน้อย
00:01:35 → 00:01:38 เราก็จะได้รู้นะว่ามันมีอะไรที่น่ากังวล
00:01:38 → 00:01:40 หรือเป็นปัจจัยเสี่ยงที่จะนำไปสู่เรื่อง
00:01:40 → 00:01:43 ของความบกพร่องทางเพศได้อ่ะถ้างั้นถาม
00:01:43 → 00:01:45 อาจารย์อย่างนี้ค่ะว่าในเรื่องของปัจจัย
00:01:45 → 00:01:48 เสี่ยงด้วยความบกพร่องที่จะเกิดขึ้นด้วย
00:01:48 → 00:01:50 เนี่ยมันมีอะไรได้บ้างคะอาจารย์ค่ะความบก
00:01:50 → 00:01:53 พร่องทางเพศของผู้ชายเนี่ยนะคะส่วนใหญ่เ
00:01:53 → 00:01:57 มันจะตรงกับทางการแพทย์ที่เราเรียกว่าโรค
00:01:57 → 00:02:00 เสื่อมสมรรถภาพทางเพศนะคะมันหมายถึงอะไร
00:02:00 → 00:02:03 ก็หมายถึงว่าเวลาที่เราจะประกอบกิจเนี่ย
00:02:03 → 00:02:06 องชาติของผู้ชายเก็จะมีเลือดมาคั่งทำให้
00:02:06 → 00:02:09 องชาติซึ่งมันเคยอ่อนตัวอยู่เนี่ยนะคะมัน
00:02:09 → 00:02:12 ก็จะแข็งขึงตึงตังขึ้นมาเพื่อที่จะทำการ
00:02:12 → 00:02:15 สอดใส่และเสียดสีได้นั่นคือการร่วมเพศถูก
00:02:15 → 00:02:18 มั้ยคะแต่ปรากฏว่าคุณผู้ชายบางท่านเนี่ย
00:02:18 → 00:02:21 จะมีการที่อวัยวเพศเนี่ยไม่สามารถแข็งตัว
00:02:21 → 00:02:24 ได้มากพอที่จะทำการสอดใสและเศษสีในเรื่อง
00:02:24 → 00:02:28 ของการมีเพศสัมพันธ์หรือบางคนก็อาจจะแข็ง
00:02:28 → 00:02:31 ตัวได้แต่ไม่มากพอทำให้มันภาษาศัพท์ทั่ว
00:02:31 → 00:02:34 ไปเขจะเรียกว่าอ่อนๆแข็งๆแข็งๆอ่อนๆน่ะนะ
00:02:34 → 00:02:37 คะคือปฏิบัติกิจไม่ได้สำเร็จรุร่วงตามที่
00:02:37 → 00:02:41 ตั้งใจหวังไว้นะคะซึ่งมันก็เป็นปัญหาทาง
00:02:41 → 00:02:44 กายและทางจิตร่วมกันนะฮะโดยเฉพาะทางจิต
00:02:44 → 00:02:47 เนี่ยก็จะทำให้เกิดความไม่มั่นใจที่จะมา
00:02:47 → 00:02:51 มีเพศสัมพันธ์นะคะเพราะทุกครั้งเนี่ยพอมี
00:02:51 → 00:02:53 แล้วเกิดความล้มเหลวเนี่ยมันก็ไม่มั่นใจ
00:02:53 → 00:02:56 ที่จะมีแล้วแล้วก็มันการมีเพศสัมพันธ์กับ
00:02:56 → 00:02:58 ผู้ชายเนี่ยไม่ได้เป็นเรื่องของทางกาย
00:02:58 → 00:02:59 เท่านั้นแต่มันเป็นเรื่องของศักดิ์สิทธิ์
00:02:59 → 00:03:02 สีเป็นเรื่องของอะไรอีกหลายอย่างซึ่งเรา
00:03:02 → 00:03:05 พบว่าตามสถิติเนี่ยนะคะมีผู้ชายในโลก
00:03:05 → 00:03:09 เนี้ยนะคะประมาณถึง 152 ล้านคนทั่วโลกที่
00:03:09 → 00:03:12 กำลังเผชิญกับปัญหานี้อยู่ค่ะนะคะซึ่ง
00:03:12 → 00:03:16 ปัญหานี้ก็มีจากได้จากหลายสาเหตุแต่โดย
00:03:16 → 00:03:18 ทั่วไปของผู้ชายทั่วไปตามธรรมชาติเนี่ยนะ
00:03:18 → 00:03:22 คะมันก็เป็นความเสื่อมของสมรรถภาพตามวัย
00:03:22 → 00:03:25 พะผู้ชายเนี่ยอายุ 30 ขึ้นแล้วเนี่ยนะคะ
00:03:25 → 00:03:29 ก็ขี้มักจะมีฮอร์โมนเพศเค่ะลดลงเรื่อยๆนะ
00:03:29 → 00:03:32 คะฮอร์โมนเพศเนี่ยมันเป็นตัวชี่ชัดเลยที่
00:03:32 → 00:03:36 จะทำให้เกิดอาการแข็งตัวหรือการอ่อนตัว
00:03:36 → 00:03:39 ของอวัยเพศนะคะจะเห็นได้ชัดเมื่ออายุ
00:03:39 → 00:03:41 ประมาณสัก 50 เพราะฉะนั้นเราก็เรียกว่า
00:03:41 → 00:03:44 เป็นความเสื่อมตามวัยเนื่องจากว่าฮอร์โมน
00:03:44 → 00:03:47 เพศเนี่ยมันลดลงตามวัยอันนี้โดยทั่วไปนะ
00:03:47 → 00:03:50 แสดงว่ามันมีแกปช่วงตั้งแต่ 30 มาเริ่มละ
00:03:50 → 00:03:53 มาจนถึง 50 แต่ช่วง 30-50 เนี่ยก็ยัง
00:03:53 → 00:03:56 ปฏิบัติได้ปกติสำหรับบางคก็อาจจะบางคน
00:03:56 → 00:04:00 เริ่มมีนิดๆหน่อยๆได้บ้างไม่ได้บ้างอยู่
00:04:00 → 00:04:02 กับว่าอ่าเมีอาการสภาพจิตใจไม่ไม่ค่อย
00:04:02 → 00:04:05 สมบูรณ์ไม่พร้อมหรือเปล่าหรือมีปัจจัย
00:04:05 → 00:04:08 อย่างอื่นที่ในช่วงแกว่าเพราะดูรู้สึกว่า
00:04:08 → 00:04:11 อายุ 30 อมันยังน่าจะยังปึ่งปั่งสำหับบาง
00:04:11 → 00:04:14 คนไงคะแต่บางคนคือแต่ละบุคคลเี่ไม่เหมือน
00:04:14 → 00:04:17 กันอันนี้เราเป็นค่าเฉลี่ยนะฮะค่าเฉลี่ย
00:04:17 → 00:04:20 ว่ามันจะเริ่มเสื่อมลงหลังอายุ 30 แต่จะ
00:04:20 → 00:04:22 ไปแสดงอาการชัดเจนในช่วงอายุ 50 เพราะ
00:04:22 → 00:04:25 ฉะนั้นตรงเนี้ยเราลองมาดูก่อนว่าสาเหตุ
00:04:25 → 00:04:28 โดยทั่วไปนะคะก็คือในเรื่องของฮอร์โมนที่
00:04:28 → 00:04:30 บอกเพราะฉะนั้นสาเหตุเนี่ยมันจะมีมีอยู่ 4
00:04:30 → 00:04:32 กลุ่มด้วยกันนะคะถ้าไม่นับในเรื่องของ
00:04:32 → 00:04:35 ฮอร์โมนที่เป็นไปตามปกติของผู้ชายทุกคน
00:04:35 → 00:04:38 แล้วนะคะค่ะกลุ่มที่ 1 ก็คือเป็นความผิด
00:04:38 → 00:04:41 ปกติที่เส้นเลือดของอวัยวเพสนะคะซึ่งพบ
00:04:41 → 00:04:45 ได้ประมาณ 70% ของผู้ป่วยเราเคยพูดให้
00:04:45 → 00:04:48 ท่านผู้ฟังฟังไปแล้วนะคะว่าเวลาที่กลไก
00:04:48 → 00:04:51 ของการที่องชาติจะแข็งตัวเนี่ยก็คือเลือด
00:04:51 → 00:04:53 เนี่ยมาเลี้ยงที่องชาติแล้วองชาติเนี่ยนะ
00:04:53 → 00:04:57 คะเจะมีลักษณะของเนื้อเยื่อที่แตกต่างจาก
00:04:57 → 00:04:59 เนื้อเยื่ออื่นทั้งร่างกายไม่มีใครเหมือน
00:04:59 → 00:05:03 เนะคะนั่นก็คือว่าพอเลือดมาเลี้ยงองคชาติ
00:05:03 → 00:05:06 ในเวลาที่เกิดอารม์เพศอ่ะนะคะมันจะเกิด
00:05:06 → 00:05:08 ปฏิกิริยาอันนึงที่ทำให้เส้นเลือดที่มา
00:05:08 → 00:05:11 เลี้ยงองชาติเนี่ยปกติมันจะมาเลี้ยงด้วย
00:05:11 → 00:05:14 เส้นเลือดแดงแล้วไหลกลับด้วยเส้นเลือดดำ
00:05:14 → 00:05:16 แต่เวเราเกิดอารมณ์เพศเนี่ยค่ะเส้นเลือด
00:05:16 → 00:05:19 แดงไหลมาคั่งในเส้นเลือดแดงแล้วมันไหล
00:05:19 → 00:05:22 กลับไม่ได้จึงเกิดการที่มีเลือดเข้ามาใน
00:05:22 → 00:05:25 องชาติเนี่ยมากขึ้นมากขึ้นแล้วก็แข็งตัว
00:05:25 → 00:05:27 อยู่ในองคชาติซึ่งมีลักษณะเป็นเนื้อเยื่อ
00:05:28 → 00:05:30 คล้ายฟองน้ำทำให้องคชาติซึ่งอ่อนตัวตาม
00:05:30 → 00:05:33 ปกติเนี่ยเกิดการแข็งตัวขึ้นนะคะแต่ใน
00:05:33 → 00:05:36 กลุ่มเนี้ยนะค่ะจะเป็นกลุ่มที่มีความผิด
00:05:36 → 00:05:39 ปกติเกี่ยวกับเรื่องเส้นเลือดที่ไปเลี้ยง
00:05:39 → 00:05:42 อวัยเพทจะสรุปง่ายๆก็คือแบบที่ 1 ก็คือทำ
00:05:42 → 00:05:45 ให้เส้นเลือดนั้นอุดตันค่ะแบบที่ 2 ก็คือ
00:05:45 → 00:05:49 ถูกกดทับแบบที่ 3 คือทั้งอุดตันและกดทับ
00:05:49 → 00:05:53 ออนะคะเพราะฉะนั้นในนี้เรารวมก็คือเป็น
00:05:53 → 00:05:56 ความผิดปกติของเส้นเลือดกลุ่มที่ 2 ก็
00:05:56 → 00:05:58 เป็นความผิดปกติของเส้นประสาทที่มาเลี้ยง
00:05:58 → 00:06:03 เอวเพศเช่นตั้งแต่ในระดับสมองไขสันหลัง
00:06:03 → 00:06:06 เส้นประสาทในอุ้งเชิงการก็คือบริเวณอเเพศ
00:06:06 → 00:06:10 นะคะแล้วก็เส้นประสาทตัวอวยเพศเองด้วย
00:06:10 → 00:06:12 กลุ่มนี้ก็จะเป็นกลุ่มที่ทำให้มีความปกติ
00:06:12 → 00:06:15 เกี่ยวกับการแข็งตัวของอวยเพศด้วยนะคะมา
00:06:15 → 00:06:18 กลุ่มที่ 3 เป็นความผิดปกติและความบก
00:06:18 → 00:06:20 พร่องของฮอร์โมนบวกกับมีอาการอื่นร่วม
00:06:21 → 00:06:23 ด้วยเช่นในเรื่องของความรู้สึกว่าฮอร์โมน
00:06:23 → 00:06:26 ตัวเนะคะนอกจากทำให้องชาติแข็งตัวแล้ว
00:06:26 → 00:06:28 เนี่ยมันยังทำให้ความรู้สึกทางเพศเนี่ยลด
00:06:28 → 00:06:32 ลงด้วยออนะคะแล้วก็ความต้องการทางเพศลดลง
00:06:32 → 00:06:35 ด้วยการแข็งตัวก็ลดน้อยลงนะคะโดยเฉพาะ
00:06:35 → 00:06:38 อย่างยิ่งในตอนเช้าซึ่งปกติเนี่ยนะคะ
00:06:38 → 00:06:40 ฮอร์โมนเพศเนี่ยมันจะหลั่งในขณะที่หลับ
00:06:40 → 00:06:42 แล้วพอเช้าขึ้นมาเนี่ยมันเหมือนมันสะสม
00:06:42 → 00:06:46 เต็มที่อ่าพอเช้าขึ้นมาเก็นะชักธงชาติและ
00:06:46 → 00:06:49 นะฮะถ้าเป็นหนุ่มๆเนี่ยแต่ปรากฏว่าความ
00:06:49 → 00:06:52 ผิดปกติตรงเนี้ยคือฮอร์โมนลดลงเอาตามวัย
00:06:52 → 00:06:54 อะไรเงี้ยนะคะก็จะทำให้รู้สึกว่าไม่ค่อย
00:06:54 → 00:06:58 แข็งแรงอ่อนเพลียนะคะมันสังเกตได้ไม่ค่อย
00:06:58 → 00:07:01 ตั้งใจทำงานเนี่ยแสดงว่าฮอร์โมนเพศลดลง
00:07:01 → 00:07:03 แล้วอันแต่ตรงนี้คนก็เริ่มกังวลแล้วจาก
00:07:03 → 00:07:07 ที่เคยแบบว่ามาใช่ค่ะนะฮะฮะซึ่งอาจจะพบ
00:07:07 → 00:07:10 ได้นะคะในผู้ป่วยที่มีภาวะของฮอร์โมนตัว
00:07:10 → 00:07:13 อื่นบกพร่องด้วยเช่นในเรื่องของฮอร์โมน
00:07:13 → 00:07:16 ไทรรอยด์นะคะซึ่งไทรรอยด์เนี่ยอาจจะมีมาก
00:07:16 → 00:07:19 กว่าปกติหรือต่ำกว่าปกติก็จะมีผลต่อใน
00:07:19 → 00:07:22 เรื่องของอารมณ์เพศได้เช่นเดียวกันคค่ะ
00:07:22 → 00:07:25 อันนี้คือกลุ่มของฮอร์โมนนะคะแล้วมากลุ่ม
00:07:25 → 00:07:29 ที่ 4 ก็คือพวกที่มีความปกติทางจิตใจนะคะ
00:07:29 → 00:07:32 ซึ่งตรงเนี้ยในอดีตนะคะเมื่อประมาณสัก 30
00:07:32 → 00:07:35 40 ปีที่แล้วเนี่ยเราเชื่อกันว่าสาเหตุ
00:07:35 → 00:07:39 ด้านจิตใจเนี่ยมีผลต่อการแข็งตัวของววเพศ
00:07:39 → 00:07:43 ถึง 90% ่ะแต่ในปัจจุบันนะคะการค้นคว้า
00:07:43 → 00:07:46 มันไม่มีการหยุดนิ่งถูกมั้ยคะทางการแพทย์
00:07:46 → 00:07:49 ก็พบว่าไม่ใช่และนะฮะส่วนใหญ่ของการที่บก
00:07:49 → 00:07:52 พร่องทางเพศเนี่ยมันมาจากโรคทางกายมาก
00:07:52 → 00:07:56 กว่าโรคทางจิตอ่าอ่าเราพบอย่างนั้นและนะ
00:07:56 → 00:07:59 ฮะตอนนี้นะคะอแต่ว่าอย่างไรก็ตามเนี่ยมัน
00:07:59 → 00:08:02 ก็มีผลต่อภาวะทางจิตใจด้วยอย่างที่บอก
00:08:02 → 00:08:06 แล้วล่ะค่ะว่าความเครียดโรคซึมเศร้าโรค
00:08:06 → 00:08:10 จิตเภทแล้วก็ยาที่ใช้รักษาจิตเวชบางอย่าง
00:08:10 → 00:08:12 เนี่ยมันก็จะมีผลต่อการแข็งตัวขององชาติ
00:08:12 → 00:08:16 ด้วยอือันนี้อันนี้ก็เฉพาะยาบางชนิดนั่น
00:08:16 → 00:08:18 เองใช่ค่ะนั่นก็คือมีอยู่ 4 กลุ่มใหญ่ๆ
00:08:18 → 00:08:21 ด้วยกันนะอย่างอย่างถ้าเป็นโรคประจำตัว
00:08:21 → 00:08:23 ที่นำไปอ่อทำให้เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ
00:08:23 → 00:08:26 เนี่ยมันก็มีอยู่แต่โรคทางกายเนี่ยเดี๋ยว
00:08:26 → 00:08:28 เราจะพูดกันถึงกลุ่มเสี่ยงใช่่มั้ยคะ
00:08:28 → 00:08:31 กลุ่มเสี่ยงกับพฤติกรรมเสี่ยงคือปัจจัย
00:08:31 → 00:08:34 เสี่ยงที่จะทำให้เกิดการบกพร่องตรงเนี้ย
00:08:34 → 00:08:36 สมมุติว่าคุณไม่ได้เป็น 4 กลุ่มโลกที่ว่า
00:08:36 → 00:08:39 เนี่ยคุณมีพฤติกรรมเสี่ยงหรือเปล่าอ่าเรา
00:08:39 → 00:08:41 มาดูกันอ๋องั้นแสดงว่าในในความที่เป็น
00:08:41 → 00:08:45 ความบกพร่องเนี่ยเอ่อมันมันมีปัจจัยอื่น
00:08:45 → 00:08:48 นำไปสู่ความบกพร่องได้ใช่ค่ะนะฮะกลุ่ม
00:08:48 → 00:08:51 เสี่ยงหรือปัจจัยเสี่ยงที่จะทำไปสู่ความ
00:08:51 → 00:08:55 บกพร่องทางเพศเนี่ยนะคะอันแรกเลยคือ
00:08:55 → 00:08:58 เรื่องอายุเราจะพบมากในกลุ่มอายุต่างๆนะ
00:08:58 → 00:09:02 คะเช่นเช่นอายุ 40-49 เนี่ยพบอาการนี้ได้
00:09:02 → 00:09:06 ถึง 20.4 per ในในการสำรวจล่าสุดเนี่ยนะ
00:09:06 → 00:09:13 คะอายุ 50-59 เนี่ยพบถึง 46.4 per นะคะ
00:09:13 → 00:09:17 แล้วก็ช่วงอายุ 60-70 เนี่ยพบได้ถึง 73.1
00:09:17 → 00:09:20 เคือมันเพิ่มขึ้นเรยๆใช่ค่ะตามวัยเห็นมั้
00:09:20 → 00:09:23 คะอันที่ 1 นะคะอันที่ 2 คือกลุ่มที่มี
00:09:23 → 00:09:26 โรคประจำตัวที่คุณสุรีพรถามถึงเมื่อกี้นะ
00:09:26 → 00:09:29 คะก็คือกลุ่มที่มีโรคเส้นเลือดนะคะเกี่ยว
00:09:30 → 00:09:34 กับหัวใจตีบนะคะแล้วก็เป็นเบาหวานความดัน
00:09:34 → 00:09:40 คอเลสเตอรอลนะคะโรคซึมเศร้านะฮะโรคเอ่อไต
00:09:40 → 00:09:44 วายนะคะแล้วก็โรคเอ่อตับอะไรอย่างนี้เป็น
00:09:44 → 00:09:49 ต้นนะคะก็จะทำให้มีโอกาสที่จะเป็นเอ่อการ
00:09:49 → 00:09:52 มีความบกพร่องทางเพศได้ได้มากขึ้นนะคะจาก
00:09:52 → 00:09:54 โรคประจำตัวตงอย่างอย่างที่ใจคิดอะไร
00:09:54 → 00:09:58 อย่างเงี้ยนะใชค่ะนะฮะแล้วก็กับพฤติกรรม
00:09:58 → 00:10:01 ค่ะคือการดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่เป็น
00:10:01 → 00:10:04 ประจำตัวนี้มีผลอาจารย์คะอันนี้คือดยความ
00:10:04 → 00:10:07 ที่เข้าใจว่าการดื่มแอลกอฮอล์เนี่ยเลือด
00:10:07 → 00:10:10 มันสูบฉีดอย่างดีเลยค่ะแต่ต้องบอกว่าดื่ม
00:10:10 → 00:10:14 จนเป็นกิจวัตรนิสัยนึกออกมั้ยคะเป็นพวก
00:10:14 → 00:10:17 ที่ดื่มมากๆไม่ใช่ดื่มจิ๊บๆจ๊อยๆเพื่อ
00:10:17 → 00:10:20 เพื่อทให้ซู้ซ่าไม่ใช่นะคะแต่ดื่มทุกวัน
00:10:20 → 00:10:23 น่ะเอางี้แล้วกันดื่มทุกวันหรือบ่อยครั้ง
00:10:23 → 00:10:26 นะฮะสูบบุหรี่นี่ยิ่งชัดเจนเลยเพราะผลของ
00:10:26 → 00:10:29 บุหรี่เี่ทำให้เส้นเลือดตีบค่ะอืมนะฮะทำ
00:10:29 → 00:10:31 ให้เส้นเลือดตีบเพราะฉะนั้นการที่เส้น
00:10:31 → 00:10:34 เลือดตีบมันก็ตีบทั้งตัวโดยเฉพาะเส้น
00:10:34 → 00:10:36 เลือดที่ไปองชาติมันก็ตีบด้วยนะคะเพราะ
00:10:36 → 00:10:39 ฉะนั้นมันก็มีผลร้ายทั้งนั้นแหละนะคะอ
00:10:39 → 00:10:43 พฤติกรรมต่อไปค่ะขาดการออกกำลังกายแล้วก็
00:10:43 → 00:10:46 พักผ่อนไม่เพียงพอไปด้วยกันเลยนะคะพักก็
00:10:46 → 00:10:49 ไม่พักออกกำลังกายก็ไม่
00:10:49 → 00:10:54 ออกนะคะอันนี้ก็จะเป็นผลนะคะอันต่อไปคือ
00:10:54 → 00:10:57 กลุ่มของคนที่เคยผ่าตัดเอ่อบริเวณอุ้ง
00:10:57 → 00:11:01 เชิงกรานนะคะเช่นหรือหลังต่อมลูกหมากแล้ว
00:11:01 → 00:11:04 ก็ท่อปัสสาวะนะฮะอวัยวะเหล่าเนี้มันมีผล
00:11:04 → 00:11:07 เกี่ยวเนื่องกันกับการแข็งตัวขององคชาติ
00:11:07 → 00:11:09 ทั้งสิ้นอือาจจะจากปัจจัยหรืออุบัติเหตุ
00:11:09 → 00:11:13 ก็ว่ากันไปใช่ค่ะนะฮะปัจจัยต่อไปคือมี
00:11:13 → 00:11:17 อุบัติเหตุที่กระดูกสันหลังอนะฮะกระดูก
00:11:17 → 00:11:21 สันหลังได้รับอันตรายหรือบริเวณอุ้งเชิงก
00:11:21 → 00:11:24 หรือที่อวัยเพศโดยตรงอันนี้ก็มีผลอุยต้อง
00:11:24 → 00:11:27 รู้สึกยังไงจากเดิมที่เราก็เคยปึ๊งปัง
00:11:27 → 00:11:28 เนาะแล้วพอวันนึงประสบอุบัติเหตุแต่แบบ
00:11:28 → 00:11:31 บางคนนึกไม่ถึงเอาจริงๆไม่เคยคิดมาก่อน
00:11:31 → 00:11:33 ว่าเกี่ยวกับกระดูกสัตหลังมันจะไปไปถึง
00:11:33 → 00:11:36 ข้างล่างนะฮะเพราะว่ามันติดต่อถึงกันโดย
00:11:36 → 00:11:39 เฉพาะบริเวณในอุ้งเชิงการนะฮะมันขึ้นอยู่
00:11:39 → 00:11:42 ว่าไปไปกระทบกับกระดูกสันหลังตรงส่วนไหน
00:11:42 → 00:11:44 ที่มันจะมีผลต่อตรงนี้เส้นประสาทคู่ที่
00:11:44 → 00:11:47 เท่าไหร่อะไรอย่างเงี้ยค่ะนะคะโค่ะกลุ่ม
00:11:47 → 00:11:51 ต่อไปก็คือกลุ่มที่กินยาบางชนิดเช่นยา
00:11:51 → 00:11:55 รักษาความดันโลหิตสูงนะฮะเอ่อบางตัวนะคะ
00:11:55 → 00:11:59 ไม่ใช่ทุกตัวนะคะยาประเภทที่เอ่อรักษาจิต
00:11:59 → 00:12:03 ประเพศนะฮะยาประเภทรักษาซึมเศร้าแล้วก็ยา
00:12:03 → 00:12:06 พวกที่เกี่ยวกับต่อมลูกหมากบางตัวนะคะมัน
00:12:06 → 00:12:09 ก็จะมีผลต่อการแข็งตัวของโอชาติได้เช่น
00:12:09 → 00:12:12 เดียวกันจริงๆคนที่ได้รับการจ่ายยาประเภท
00:12:12 → 00:12:14 เหล่านี้เนี่ยเาคือเชื่อว่าคุณหมอเองเขา
00:12:14 → 00:12:17 ก็คงอยากจะให้เรารักษาโรคเค้าก็จะบอกว่า
00:12:17 → 00:12:20 มันอาจจะมีผลข้างเคียงกับตรงนี้หรือบางที
00:12:20 → 00:12:23 เนี่ยสำหรับบ้านเราอ่ะนะฮะบางทีก็ไม่กล้า
00:12:23 → 00:12:26 ที่จะพูดเรื่องนี้กันนึกออกมั้ยคะหรือคน
00:12:26 → 00:12:28 ไข้เองก็ไม่ค่อยอยากจะกล้าถามแต่อาจจะบอก
00:12:28 → 00:12:32 ว่าอ่ะมีเอ่อมันจะมีผลข้างเคียงนิดหน่อย
00:12:32 → 00:12:35 นะแต่เราก็ไม่ได้คิดว่าในระยะยาวมันจะ
00:12:35 → 00:12:38 เป็นยังไงหรือบางทีคนไข้ไม่ทราบไม่ได้ข้อ
00:12:38 → 00:12:40 มูลก็ไม่รู้ว่าเอ๊ะมันเกิดอะไรขึ้นกับตัว
00:12:40 → 00:12:42 เองทำไมเราปึ๋งปั๋น้อยลงหรืออะไรอย่าง
00:12:42 → 00:12:44 เงี้ยเพราะว่าชีวิตทางเพศน่ะค่ะหลายคนก็
00:12:44 → 00:12:47 จะมีความรู้สึกว่าเป็นเรื่องน่าอายที่จะ
00:12:47 → 00:12:49 พูดถึงนะฮะยังมีความรู้สึกอย่างนั้นกัน
00:12:49 → 00:12:53 อยู่นะคะค่ะพฤติกรรมต่อไปนะคะคือพวกที่ทำ
00:12:53 → 00:12:57 งานหนักมากแต่พักผ่อนน้อยอืนะคะก็คือบาง
00:12:57 → 00:13:00 ทีทำงานดึกทำงานหามุ่งค่ำอะไรอย่างเงี้นะ
00:13:00 → 00:13:03 คะมันก็มีผลต่อการแขงตัวเหมือนกันเอ่า
00:13:03 → 00:13:05 ความเครียดความวิตกกังวลอันนี้ชัดเจนเลย
00:13:05 → 00:13:09 นะฮะเอ่อไม่เครียดเรื่องนั้นเรื่องนี้นะ
00:13:09 → 00:13:11 แทนที่เอ่อเวลาที่เรามีเซ็ก์เนี่ยเราจะจด
00:13:11 → 00:13:13 จ่ออยู่กับเรื่องเซ็กซ์แล้วผ่อนคลายให้
00:13:13 → 00:13:16 เซ็กซ์มันได้ช่วยบำบัติเราแต่มันปรากฏว่า
00:13:16 → 00:13:19 เราไปเครียดจึงทำให้มันยิ่งแย่หนักเข้าไป
00:13:19 → 00:13:22 อีกอะไรอย่างนี้เป็นต้นนะคะแล้วก็กรรม
00:13:22 → 00:13:25 พันธ์ก็มีส่วนนะฮะพันธุกรรมเนี่ยเราเคยมี
00:13:25 → 00:13:27 พันธุกรรมทางด้านนี้เป็นแบบนี้แล้วก็มี
00:13:27 → 00:13:30 ส่วนที่จะทำให้เราเป็นไปตามพันธุกรรมด้วย
00:13:30 → 00:13:33 นะคะอนอกจากนั้นก็ยังมีเรื่องของพฤติกรรม
00:13:33 → 00:13:37 การกินการกินอาหารบางอย่างที่มากเกินไปขอ
00:13:37 → 00:13:40 ใช้คำว่ามากเกินไปนะคะก็อย่างเช่นถั่ว
00:13:40 → 00:13:43 เหลืองหอยนางรมนะฮะซึ่งหอยนางรมเนี่ยใครๆ
00:13:43 → 00:13:46 ก็เชื่อว่ามันบำรุงเซ็กซ์ถูกมั้ยคะอแต่
00:13:46 → 00:13:49 อย่างที่บอกค่ะอะไรมันไม่อยู่สายกลางอ่ะ
00:13:49 → 00:13:53 มันมากเกินไปเมันก็เป็นผลเสียนะฮะกาแฟน้ำ
00:13:53 → 00:13:59 อัดลมนะคะอาหารกระป๋องนะฮะอาหารที่ประเภท
00:13:59 → 00:14:02 เอ่ออาหารขยะนะคที่เราเรียกกันว่าฟาสฟู้ด
00:14:02 → 00:14:05 เนี่ยนะคะแล้วก็พวกผงชูรสนะคะเอ่อแล้วก็
00:14:05 → 00:14:09 สารที่เป็นพวกเอ่อความหวานเทียมนะฮะพวก
00:14:09 → 00:14:12 น้ำตาลเทียมพวกอะไรพวกเนี้ยก็มีผลต่อตรง
00:14:12 → 00:14:15 นี้เหมือนกันอุยนะคะอีกกลุ่มนึงค่ะก็คือ
00:14:15 → 00:14:18 กลุ่มที่เป็นโรคที่เราเรียกว่าโรคเรื้อ
00:14:18 → 00:14:22 รังของระบบประสาทส่วนกลางนะฮะแปลยาวหน่อย
00:14:22 → 00:14:24 นะคะภาษาอังกฤษเขาใช้ตัวย่อ 2 ตัวเท่า
00:14:24 → 00:14:27 นั้นคือ ms นะคะก็คือว่าเป็นโรคเรื้อรัง
00:14:27 → 00:14:30 ของของเกี่ยวกับระบบประสาทส่วนกลางซึ่ง
00:14:30 → 00:14:32 มันมีผลทำให้ร่างกายเราอ่อนแอลงอย่าง
00:14:32 → 00:14:36 เงี้ยค่ะอก็จะมีผลแต่อย่างที่เรียนนะคะ
00:14:36 → 00:14:39 ว่าไม่ใช่ว่าปัจจัยหนึ่งปัจจัยใดทำให้
00:14:39 → 00:14:42 เกิดนึกออกมั้ยคะมันอาจจะผสมผสานกันหลายๆ
00:14:42 → 00:14:45 ปัจจัยจนกระทั่งทำให้เกิดตรงนี้ขึ้นก็ได้
00:14:45 → 00:14:49 อืมันก็เป็นในในเชิงว่าปกติเราอาจจะที่
00:14:49 → 00:14:52 ผ่านมาเราก็ดูดูปึ๋งป๋ดึ๋ดังดีก็มี
00:14:52 → 00:14:55 เพศสัมพันธ์ได้อย่างไม่ได้มีปัญหาค่ะแต่
00:14:55 → 00:14:58 วันนึงมันอาจจะมีอะไรมาเป็นปัจจัยที่ก่อ
00:14:58 → 00:15:00 ให้เกิดเกิดความเสียว่าอย่างที่อาจารย์
00:15:00 → 00:15:04 บอกมาอ่ะดื่มแอลกอฮอล์ค่ะ้ามากไปทุกๆวัน
00:15:04 → 00:15:07 ใช่ค่ะคืออีตอนหนุ่มๆมันก็ยังไหวยังไหว
00:15:07 → 00:15:11 มั้ฮะคก็มีคู่สมรสหลายคู่ค่ะที่แบบพอ
00:15:11 → 00:15:14 เริ่มอายุมากขึ้นน่ะนะฮะก็จะมีในเรื่อง
00:15:14 → 00:15:17 ของบนเตียงกันน้อยลงซึ่งบางทีอ่ะสามีก็
00:15:17 → 00:15:21 อายภรรยาถูกมั้ยคะอายภรรยาที่จะบอกว่าตอน
00:15:21 → 00:15:23 นี้เราไม่เหมือนเดิมนะหรือว่าถ้ามีอะไร
00:15:23 → 00:15:26 กันแล้วเราทำได้ครึ่งๆกลางๆเค้าก็เสีย
00:15:26 → 00:15:29 ความมั่นใจใช่มั้ยคะก็เลยปฏิเสธเลยเช่น
00:15:29 → 00:15:33 เอ่อบางคนมาบอกว่าสามีนะคะพอว่าจะถึงเวลา
00:15:33 → 00:15:36 จู๋จี๋กันซะหน่อยก็เข้าห้องพระอีกแล้ว
00:15:36 → 00:15:39 เข้าห้องพระสวดมนต์อีกแลซึ่งจริงๆแล้ว
00:15:39 → 00:15:42 เนี่ยสามีไม่กล้าบอกภรรยาว่าการมีเซ็ก์
00:15:42 → 00:15:45 กันเนี่ยเขาไม่สามารถที่กลัวน่ะค่ะต้อง
00:15:45 → 00:15:48 ใช้คำว่ากลัวที่จะมาทำให้ภรรยาผิดหวัง
00:15:48 → 00:15:51 หรือกลัวที่จะทำให้ภรรยาเนี่ยเอ่อไม่ถึง
00:15:51 → 00:15:55 จุดมุ่งหมายของของชีวิตรักบนเตียงใช่ไมคะ
00:15:55 → 00:15:59 ก็เลยปฏิเสธซะภรรยาบางคนก็เอ๊ะเป็นอะไร
00:15:59 → 00:16:02 หรือไม่มีคนใหม่นะฮะมันก็เกิดความระแวง
00:16:02 → 00:16:05 มากมายอะไรอย่างเยค่ะนะฮะเพราะฉะนั้นสิ่ง
00:16:05 → 00:16:08 เหล่าเนี้ยต้องควรจะพูดคุยกันเข้าใจได้
00:16:08 → 00:16:10 ว่ามันเป็นเรื่องศักดิ์ศรีค่ะอาจารย์เนาะ
00:16:10 → 00:16:12 ผู้ชายที่แบบว่าอ้าเราเคยแบบโอ้โหได้เลย
00:16:13 → 00:16:16 แต่วันนี้มันน้อยลงละหรือครึ่งๆกลางๆง
00:16:16 → 00:16:19 เงี้ยนะคะนะฮะเพราะว่าความบกพร่องทางเพศ
00:16:19 → 00:16:22 เนี่ยบางทีมันรวมไปถึงนะฮะเช่นการหลั่ง
00:16:22 → 00:16:25 เร็วการแข็งตัวไม่ได้นานเพียงพอก็คือหลัง
00:16:25 → 00:16:27 เร็วนี่แหละอะไรอย่างเงี้ยค่ะซึ่งบาง
00:16:27 → 00:16:30 ครั้งในการบำบัดเนี่ยต้องช่วยกันทั้งสามี
00:16:30 → 00:16:33 ภรรยานะฮะเป็นเรื่องที่ต้องเป็นคู่น่ะค่ะ
00:16:33 → 00:16:37 ที่เราต้องแท็กทีมกันแก้ไขคืออันเนี้ยมัน
00:16:37 → 00:16:39 ก็มองในแง่ที่ว่าอ่ะถ้าอย่างอย่าอย่าง
00:16:39 → 00:16:42 เรื่องของสามีภรรยาอย่างเงี้ยมันก็อาจจะ
00:16:42 → 00:16:44 สงสัยได้ว่าเอ๊ะเค้าไปมีคนอื่นมั้ยแต่ใน
00:16:44 → 00:16:47 ขณะเดียวกันถ้าเรารู้ค่ะว่าอ้าสามีของเรา
00:16:48 → 00:16:51 เนี่ยมีปัญหานี้ปัญหาอย่างนี้ขึ้นมาเนี่ย
00:16:51 → 00:16:53 อย่างน้อยก็คลายใจได้นะคะใช่แล้วก็ไม่
00:16:53 → 00:16:56 ต้องระแวงแล้วก็พ่อเคไปทำอะไรกับคนอื่น
00:16:56 → 00:16:59 ไม่ได้อยู่มันก็จะเป็นสุขภาพจิตเสียด้วย
00:16:59 → 00:17:01 ทั้ง 2 ฝ่ายนะฮะเจอมากเลยที่เป็นแบบเนี้ย
00:17:01 → 00:17:03 ค่ะออ้าแล้วอย่างงี้คืออาจารย์คะด้วยความ
00:17:03 → 00:17:06 ที่มันปัจจัยเสี่ยงหลายปัจจัยบางคนก็สั่ง
00:17:06 → 00:17:09 สมมาเรื่อยๆอ่าซึ่งอาจจะทำให้เกิดภาวะ
00:17:09 → 00:17:12 อย่างเงี้ยเร็วขึ้นกว่าที่จะมาถึงอายุ 50
00:17:12 → 00:17:15 เพราะมันมีแกปตั้ง 20 ปี 30 - 50 เนี่ย
00:17:15 → 00:17:19 ระหว่างทางตรงเนี้ยมันสามารถที่จะแบบปรับ
00:17:19 → 00:17:23 หรือว่าทำอะไรหรือว่ารักษาหรือยังไงให้
00:17:23 → 00:17:26 มันแบได้ค่ะนะคะอ้าถ้าอย่างงั้นจะสรุปให้
00:17:26 → 00:17:30 ว่าจะทำการแก้ไขหรือรักษายังไงนะคะการ
00:17:30 → 00:17:33 รักษาเกี่ยวกับภาวะบกพร่องทางเพศเนี่ยนะ
00:17:33 → 00:17:35 คะอย่างแรกเลยค่ะถ้าว่ามีปัญหาด้วยกัน
00:17:35 → 00:17:38 เนี่ยหรือฝ่ายฝ่ายชายรู้สึกว่าเอ๊ะตัวเอง
00:17:38 → 00:17:41 มีปัญหาและอย่างแรกเลยค่ะไปตรวจและรักษา
00:17:41 → 00:17:44 โรคที่เป็นอยู่ซะนะฮะโรคที่ประจำตัวที่
00:17:44 → 00:17:46 เป็นอยู่เนี่ยเพื่ออะไรคะเพื่อคัดกรอง
00:17:46 → 00:17:49 ก่อนว่าไอ้อาการตรงเนี้ยมันมาจากโรคต่างๆ
00:17:49 → 00:17:52 เหล่านี้หรือเปล่านึกออกมั้ยคะเช่นเอ่อ
00:17:52 → 00:17:56 ถ้าเป็นเบาหวานก็คลุมน้ำตาลซะนะฮะเอ่อไข
00:17:56 → 00:18:00 มันก็ลดซะนะฮะความดันโลหิตผิดสูงนะคะเอ่อ
00:18:00 → 00:18:04 งดบุหรี่งดเหล้านะคะเอ่อพักผ่อนให้เพียง
00:18:04 → 00:18:08 พอออกกำลังกายให้พอเหมาะนะฮะแล้วก็ปรับ
00:18:08 → 00:18:11 เปลี่ยนยาบางตัวที่จะส่งผลต่อในเรื่องของ
00:18:11 → 00:18:15 การแข็งตัวขององชาตินะฮะแล้วก็ถ้ามีปัญหา
00:18:15 → 00:18:17 ทางจิตใจเช่นเครียดมากเกินไปอะไรมากเกิน
00:18:17 → 00:18:21 ไปก็พบจิตแพทย์นะฮะอันนี้คือคัดกรองก่อน
00:18:21 → 00:18:24 ที่จะมาดูว่าจริงๆแล้วเนี่ยมันเกี่ยวกับ
00:18:24 → 00:18:27 เรื่องของโรคอื่นที่ไม่ใช่โรคเกี่ยวกับ
00:18:27 → 00:18:29 เส้นเลือดม
00:18:29 → 00:18:30 [เพลง]
00:18:30 → 00:18:35 เมดักนี้ขึ้นอยู่ในคามคบแพแล้วนะคะก็มา
00:18:36 → 00:18:40 รักาตัวอื่นนะคะเช่นการรักษาโดยการใช้ยา
00:18:40 → 00:18:44 นะฮะเขาก็จะใช้ยาบางตัวเคยได้ยินชื่อไาก
00:18:44 → 00:18:47 ใช่ไหมคะนั่นน่ะมันจะเป็นยารักษาที่ช่วย
00:18:47 → 00:18:50 ขยายเส้นเลือดสำหรับกลุ่มที่มีปัญหาที่
00:18:50 → 00:18:53 บอกเส้นเลือดตีบหรือว่าการกลไกของการกด
00:18:53 → 00:18:56 ทับเส้นเลือดไม่ดีเนี่ยนะคะซึ่งวาก้า
00:18:56 → 00:18:59 เนี่ยบางคนนะคะสำหรับบางคนมันเป็นเรื่อง
00:18:59 → 00:19:02 ของจิตใจนะฮะอย่างเช่นเมื่อก่อนเนี้ยตอน
00:19:02 → 00:19:05 ที่วกล้าออกมาใหม่ๆเนี่ยโอ๊ยาปลอมเกลื่อน
00:19:05 → 00:19:08 เลยค่ะนะฮะขายทางเน็ตทางอะไรกันในยาปลอม
00:19:08 → 00:19:10 ทั้งนั้นแต่บางคนบอกไม่ปลอมนะกินแล้วได้
00:19:10 → 00:19:14 ผลเพราะอะไรคะใจมันเชื่อไปแล้วค่ะมันก็
00:19:14 → 00:19:17 ได้ผลแล้วค่ะนะฮอย่างนี้เป็นต้นนะคะเพราะ
00:19:17 → 00:19:20 ว่าจริงๆตัวเองไม่ได้มีปัญหานี้ถูกมั้ยคะ
00:19:20 → 00:19:23 แล้วบางคนเนี่ยไม่ได้มีปัญหานี้แล้วกินยา
00:19:23 → 00:19:25 ตัวนี้เข้าไปมันก็ไม่มีผลอะไรเลยกับร่าง
00:19:25 → 00:19:28 กายคืออย่างบางคนได้ยินมาบอกว่ากินเพื่อ
00:19:28 → 00:19:31 แบบว่าอ่ะอ่ะมันจะได้นานขึ้นด้วยแข็งแข็ง
00:19:31 → 00:19:34 ตัวนานด้วยควเชื่ออ่าเป็นความเชื่อนะคะ
00:19:34 → 00:19:37 ค่ะอันต่อไปค่ะที่จะช่วยได้ก็คือการใช้
00:19:37 → 00:19:40 กระบอกสุญญากาศเคยได้ยินมั้ยคะมันจะมี
00:19:40 → 00:19:44 ลักษณะเป็นกระบอกยาวๆนะคะแล้วก็สวมเข้าไป
00:19:44 → 00:19:48 ในเอ่อสวมครอบองชาติเข้าไปนะคะแล้วก็จะมี
00:19:48 → 00:19:52 ทำงานไปสูบอากาศออกจากไอ้ๆท่อเนี้ยนะฮะ
00:19:52 → 00:19:55 ครอบลงไปที่องชาติแล้วก็สูบอากาศออกมันก็
00:19:55 → 00:19:58 เหมือนกับดูดอ่ะนะฮะดูดทำให้เส้นเลือดที่
00:19:58 → 00:20:02 เข้าไปเนี่ยค่ะมันเข้าไปในองชาติด้วยแล้ว
00:20:02 → 00:20:05 ก็ทำให้เกิดการแข็งตัวนะฮะแล้วก็ต้องใช้
00:20:05 → 00:20:08 ยางรัดนะคะใช้ยางพอมันแข็งตัวเต็มที่ตาม
00:20:08 → 00:20:10 ที่เราพอใจแล้วก็ต้องใช้ยางรัดที่โคน
00:20:10 → 00:20:13 องชาติมันก็จะได้ผลสักระยะนึงเพื่อไม่ให้
00:20:13 → 00:20:16 เลือดเนี่ยไหลออกมาก็ต้องทำอย่างนี้ทุก
00:20:16 → 00:20:18 ครั้งที่จะมีเพศสัมพันธ์นะคะโอช่างคิดคน
00:20:18 → 00:20:22 สรรหาแบบอุปกรณ์เนาะเออกอีกหน่อยเก็จะมี
00:20:22 → 00:20:25 อะไรใหม่ๆขึ้นมาอีกเยอะอ่ะค่ะนะฮะตัวต่อ
00:20:25 → 00:20:27 ไปนะคะก็คือในเรื่องการใช้คลื่นเสียงที่
00:20:27 → 00:20:31 มีความถีต่ำนะคะอันเนี้ยถือเป็นนวัตกรรม
00:20:31 → 00:20:34 ใหม่นะคะที่การใช้คลื่นเสียงแบบเนี้ยโดย
00:20:34 → 00:20:37 การกระแทกคลื่นเสียงเนี่ยจากภายนอกนะคะ
00:20:37 → 00:20:40 เขาจะใช้กระแทกคลื่นเสียงเนี่ยลงไปใน
00:20:40 → 00:20:44 เนื้อเยื่อขององชาตินะคะเพื่อสร้างให้
00:20:44 → 00:20:46 เส้นเลือดใหม่อย่างคนที่มีปัญหาเรื่อง
00:20:46 → 00:20:49 เส้นเลือดอย่างที่บอกอมันตันไปแล้วมันตีบ
00:20:49 → 00:20:51 ไปแล้วก็สร้างเส้นเลือดใหม่ให้มันไป
00:20:51 → 00:20:55 เลี้ยงเปิดทางไหมให้มันนะคะซึ่งเขาใช้กัน
00:20:55 → 00:20:58 ตอนเนี้ยประมาณ 1 ครั้งต่อ 1 สัปดาห์ติด
00:20:58 → 00:21:01 ต่อต่อกัน 5 สัปดาห์ก็จะช่วยให้องชาติ
00:21:01 → 00:21:04 เนี่ยแข็งตัวได้ดีขึ้นนะคะอันนี้ก็พอพอ
00:21:04 → 00:21:07 ช่วยได้อ๋แต่ว่าในระหว่างที่เอ่อ 1 ครั้ง
00:21:07 → 00:21:10 ต่อสัปดาห์เนี่ยระหว่างนั้นไม่ให้มีก็
00:21:10 → 00:21:13 แล้วแต่ค่ะแล้วแต่แต่ว่าให้ใช้ตัวเนี้ย
00:21:13 → 00:21:16 ประมาณ 1 ติดต่อกัน 5 ครั้ง 5 สัปดาห์
00:21:16 → 00:21:19 ก่อนนะฮะค่ะค่อยๆให้เส้นเลือดมันสร้าง
00:21:19 → 00:21:21 ขึ้นสร้างขึ้นทาสร้างทางใหม่ให้เค้าอ่ะ
00:21:21 → 00:21:26 แบบนั้นน่ะแปลกดีอันต่อไปก็คือใช้ยาฉีดยา
00:21:26 → 00:21:28 ฉีดนี่ก็จะมีฤทธิ์คล้พวกไไวอ้าที่เป็นยา
00:21:28 → 00:21:32 กินนะฮะแต่อันนี้จะฉีดประมาณ 5-10 นาที
00:21:32 → 00:21:34 ก่อนการมีเพศสัมพันธ์ส่วนยากินเมื่อกี้
00:21:34 → 00:21:37 ลืมบอกว่าต้องกินประมาณครึ่งชั่วโมงถึง 1
00:21:37 → 00:21:40 ชั่วโมงก่อนมีเพศสัมพันธ์มันออกฤทธิเช้า
00:21:40 → 00:21:43 กว่ากันถูกมั้ยคะแต่ถ้ายาฉีดในประมาณ 5-10
00:21:43 → 00:21:47 นาทีเอ่อหลายคนเคก็ฉีดตัวเองนะคะนึกออก
00:21:47 → 00:21:49 มั้ยคะจะมีเพศสำคัญคไม่มีเวลาวิ่งมาให้
00:21:49 → 00:21:52 หมอฉีดหรอกนะคะเอ่อก็จะเรียนรู้จากแพทย์
00:21:52 → 00:21:55 นะคะในการที่จะฉีดยาตัวนี้เข้าตัวเองนะคะ
00:21:55 → 00:21:58 ก็จะแข็งตัวได้ประมาณ 1 ช่วโมง
00:21:58 → 00:22:01 ยาเข้าตัวเองนี่คือฉีดตรงไหนคะเอ่อเค้าก็
00:22:01 → 00:22:04 จะมีวิธีฉีดตรงบริเวณอววเพทหรือบริเวณ
00:22:04 → 00:22:07 กล้ามเนื้ออะไรแล้วแต่ชนิดยาที่หมออันนี้
00:22:07 → 00:22:10 แต่ว่าหมอเนี่ยจะอยู่ในความควบคุมของหมอ
00:22:10 → 00:22:12 นะคะการใช้ยาตัวนี้ไม่ใช่ว่ามาฉีดเองได้
00:22:12 → 00:22:15 พร่ำเพรื่อคือคุณหมอต้องตรวจสอบก่อนว่า
00:22:15 → 00:22:18 อันเนี้ยเหมาะกับยาตัวไหนแล้วจะใช้วิธี
00:22:18 → 00:22:20 ฉีดยังไงคือบางคนเขาก็วิ่งไปให้หมอฉีด
00:22:20 → 00:22:23 เพราะมันออกฤทธิ์ 1 ชั่วโมงใช่มั้ยคะแล้ว
00:22:23 → 00:22:27 ก็กลับมา่ะใน 5 - 10 นาทีก็กลับมาเพราะ
00:22:27 → 00:22:30 ฉะนั้นก็ต้องใกล้ชิดกันกับหมอพอสมควรนะคะ
00:22:30 → 00:22:32 โอลำบากเหมือนกันนะเนี่ยแหมเพื่อความรัก
00:22:32 → 00:22:36 นะบางคนเค้าก็ยอมลำบากนะคะค่ะมาอันต่อไป
00:22:36 → 00:22:39 ก็คือการรักษาด้วยการผ่าตัดนะฮะการผ่าตัด
00:22:39 → 00:22:42 เนี่ยจะใส่แกนอวัยเพทเทียมเข้าไปในอวัย
00:22:42 → 00:22:45 เพศตัวจริงที่เป็นลำแข็งๆอ่ะนะคะเอ่อ
00:22:45 → 00:22:49 อันเนี้ยได้ประสิทธิภาพประมาณ 90% เลยนะ
00:22:49 → 00:22:52 คะส่วนยาฉีดเมื่อกี้เนี่ยได้ประมาณ 70%
00:22:52 → 00:22:55 ลืมบอกนะคะอันเนี้ยก็เหมือนกับว่ามันจะ
00:22:55 → 00:22:59 แข็งอยู่เวลาตลอดอ่ะพอพอเอาออกมาเค้าก็
00:22:59 → 00:23:02 ดีดออกมาจากจากที่คุมขังต้องใช้คำนี้แล้ว
00:23:02 → 00:23:05 กันนะฮะอันเนี้ยเขาคจะใช้ในกรณีที่วิธี
00:23:05 → 00:23:08 1-5 เนี่ยไม่ได้ผลแล้วจึงจะมาใช้วิธีสุด
00:23:08 → 00:23:11 ท้ายเนี่ยอ๋อนะคะในตอนนี้นะมันคงไม่ได้มี
00:23:11 → 00:23:13 ใครอยากอยู่ๆมานั่งผ่าตัดเอาไว้เพศตัวเอง
00:23:13 → 00:23:16 หรอกเนใช่ค่ะเพราะฉะนั้นกรณีนี้นะคะก็มี
00:23:16 → 00:23:21 ใช้เท่าที่ที่ทราบเนี่ยมีใช้ในกรณีของสาว
00:23:21 → 00:23:25 แปลงเพศเป็นชายเหมือนกันนะฮะนะฮะพวกทรานส
00:23:25 → 00:23:27 เนี่ยที่เค้าแปลงเพศเป็นผู้ชายเค้าก็ใช้
00:23:27 → 00:23:30 วิธีนี้เหมือนกันนะฮเพราะว่าเไม่มีองชาติ
00:23:30 → 00:23:32 นึกออกมั้ยคะเจะต้องทำองชาติเทียมแล้วก็
00:23:32 → 00:23:36 ใส่แกนพวกนี้เข้าไปด้วยอแล้วเชื่อว่าค่ะ
00:23:36 → 00:23:39 ในอนาคตก็จะมีวิธีการหรือนวัตกรรมใหม่ๆ
00:23:39 → 00:23:42 เกิดขึ้นอีกเรื่อยๆนะคะเพราะว่ายังไงก็
00:23:42 → 00:23:45 ตามอย่างที่บอกว่าเซ็ก์มันเป็นเรื่องของ
00:23:45 → 00:23:49 ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับสำคัญต่อชีวิต
00:23:49 → 00:23:52 คู่นะฮะแล้วยิ่งเป็นเรื่องของคุณผู้ชาย
00:23:52 → 00:23:55 ด้วยคุณผู้ชายก็ต้องคิดค้นหาวิธีแหละนะคะ
00:23:55 → 00:23:57 ในการที่จะทำสิ่งเหล่านี้เออฟังแล้วก็น่า
00:23:57 → 00:24:00 เห็นใจเพราะเพบางคนคือเค้าเรียกว่าอะไร
00:24:00 → 00:24:04 อ่ะใจอ่ะสู้อ่ะแต่ร่างกายมันไม่ไปอ่ะเออ
00:24:04 → 00:24:07 แล้วมันก็ทำให้เกิดความไม่ไว้เนื้อเชื่อ
00:24:07 → 00:24:09 ใจหรือว่ามีปัญหาอะไรอย่างอื่นตามมาอีก
00:24:09 → 00:24:12 อย่าแต่ก็อยากจะแนะนำนะคะว่าในกรณีที่เรา
00:24:12 → 00:24:15 ยังรักษาหรือบำบัดไม่ได้เนี่ยอย่าลืมว่า
00:24:15 → 00:24:18 การมีเซ็ก์กับคนที่เรารักเนี่ยมันไม่ได้
00:24:18 → 00:24:20 จำเป็นต้องเป็นอินเตอร์คอสเสมอไปเราจะพูด
00:24:20 → 00:24:23 กันเสมอเลยใช่มั้ยคะเราอาจจะเป็น Out
00:24:23 → 00:24:26 cost ก็ได้เพราะว่าผู้หญิงบางคนเ่ะก็ไม่
00:24:26 → 00:24:29 ได้ต้องการในเรื่องของการเซ็กซ์แบบจริงๆ
00:24:29 → 00:24:31 ที่ต้องมีการสอดใสและเสียดสีอย่างที่คุณ
00:24:31 → 00:24:34 ผู้ชายคิดนะฮะผู้หญิงบางคนเนี่ยแค่การแตะ
00:24:34 → 00:24:37 ต้องสัมผัสภายนอกหรือปฏิกิริยาของร่างกาย
00:24:37 → 00:24:40 ระหว่างคนรักเนี่ยเช่นการกอดการหอมแก้ม
00:24:40 → 00:24:44 การอะไรผู้หญิงบางคนก็พอใจแค่นั้นแต่ถ้า
00:24:44 → 00:24:46 บางคนต้องการมากกว่านั้นเราก็มีวิธีอื่น
00:24:46 → 00:24:50 ในเรื่องของร C ที่จะทำให้เอ่อสุขสมนะคะ
00:24:50 → 00:24:53 ในเรื่องของการมีเพศสัมพันธ์ด้วยกันทั้ง 2
00:24:54 → 00:24:57 ฝ่ายโดยที่เ่อไม่ได้แคร์เรื่องนี้ว่าต้อง
00:24:57 → 00:25:00 เป็นปัจจัยหลักหรือแหมเป็นเรื่องคอขาดบัด
00:25:00 → 00:25:03 ตายสำหรับผู้หญิงทุกคนไม่ใช่ค่ะนะฮะยิ่ง
00:25:03 → 00:25:05 อายุมากขึ้นความต้องการมันก็เปลี่ยนแปลง
00:25:05 → 00:25:08 ไปเรื่อยเรใช่อือันนี้ก็แต่ว่ามันก็ยัง
00:25:08 → 00:25:10 คุยกันได้นะบอกกันได้ใช่มั้ยคะในคู่ของ
00:25:10 → 00:25:14 ตัวเองนะคะอ่ะนี่ก็ได้รู้ถึงสาเหตุปัจจัย
00:25:14 → 00:25:17 เสี่ยงอะไรต่างๆแล้วนะคะก็ถ้าเราปกติดี
00:25:17 → 00:25:19 เลยแต่ว่ามีปัจจัยเสี่ยงเราก็ลดปัจจัย
00:25:19 → 00:25:21 เสี่ยงเหล่านั้นลงนะคะเพราะว่ายังไงวัน
00:25:21 → 00:25:24 นึงตามอายุก็จะลดน้อยลงอยู่แล้วนะเป็น
00:25:24 → 00:25:28 เรื่องปกตินะคะขอบคุณอาจารย์ค่ะสวัสดีค่ะ
00:25:28 → 00:25:30 หมดเวลาแล้วค่ะคุณผู้ฟังเราจะกลับมาพบกัน
00:25:30 → 00:25:33 ใหม่ครั้งหน้ากับรายการโรงหมอ Thai PBS
00:25:33 → 00:25:35 podcast ค่ะวันนี้ลาไปก่อนสวัสดี
00:25:35 → 00:25:39 ค่ะ This Is Thai PBS podcast อาการ
00:25:39 → 00:25:41 นิ้วปุ้มนิ้วตะบองมีอาการอย่างไรเป็น
00:25:41 → 00:25:44 สัญญาณปัญหาสุขภาพจากร่างกายด้วยโรคอะไร
00:25:44 → 00:25:47 ได้บ้างแพทย์หญิงกิตยาสรีเลิศฟ้าแพทย์
00:25:47 → 00:25:50 อายุรกรรมฝ่ายการแพทย์ AIA มาเล่าให้ฟัง
00:25:50 → 00:25:53 ครับนิ้วปุ้มนิ้วตะบองเนี่ยชื่อภาษา
00:25:53 → 00:25:55 อังกฤษเขาเรียกว่า clubbing Fingers
00:25:55 → 00:25:59 เป็นภาวะที่ปลายนิ้วมือหรือปลายนิ้วเท้า
00:25:59 → 00:26:03 มีลักษณะเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมอดูป้อมๆบวม
00:26:03 → 00:26:08 ๆคล้ายตะบองหรือคล้ายกระบองเป็นปุ้มๆหรือ
00:26:08 → 00:26:11 เหมือนหัวไม้กรองบางรายอาจจะมีอาการนิ้ว
00:26:11 → 00:26:15 เขียวร่วมด้วยได้เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าร่าง
00:26:15 → 00:26:17 กายอาจจะมีปัญหาสุขภาพบางอย่างภาวะนิ้ว
00:26:17 → 00:26:20 ปุ้มเนี่ยสังเกตง่ายๆนะอาการปลายนิ้วบวม
00:26:20 → 00:26:25 กลมมนมุมระหว่างเล็บกับฐานเล็บเนี่ยเปิด
00:26:25 → 00:26:28 กว้างขึ้นคือตรงระหว่างเล็บกับฐานเล็บ
00:26:28 → 00:26:30 เนี่ยเนี่ยมันนูนขึ้นมามุมตรงเนี้ยมันจะ
00:26:30 → 00:26:33 ขว้างขึ้นฐานเล็บหรือผิวหนังใต้เล็บอ่อน
00:26:33 → 00:26:37 นุ่มเล็บดูเหมือนลอยตัวไม่ติดแน่นเล็บหนา
00:26:37 → 00:26:40 ขึ้นและมีลักษณะงุ้มลงปลายเล็บอัดดูใหญ่
00:26:40 → 00:26:43 หรือโปนออกอาจจะรู้สึกอุ่นและเป็นสีแดง
00:26:43 → 00:26:46 หรือเขียวก็ได้เล็บมีลักษณะโค้งงอลงเกิด
00:26:46 → 00:26:49 ได้พร้อมกันทุกนิ้วหรือเป็นบางนิ้วก็ได้
00:26:49 → 00:26:51 แต่ส่วนใหญ่มักจะเจอหลายๆนิ้วมันมันไม่
00:26:51 → 00:26:54 เป็นนิ้วเดียวสาเหตุไม่ชัดจ้ะอาการที่
00:26:54 → 00:26:57 เล็บมือหรือเล็บเท้าเนี่ยค่ะเชื่อว่า
00:26:57 → 00:27:00 เกี่ยวข้องกับการขาดออกซิเจนในเนื้อเยื่อ
00:27:00 → 00:27:02 พอเนื้อเยื่อได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ
00:27:03 → 00:27:06 หรือว่าโรคบางอย่างนะเช่นโรคมะเร็งปอดโรค
00:27:06 → 00:27:10 หัวใจพิการแต่กำเนิดร่างกายเนี่ยจะผลิต
00:27:10 → 00:27:12 สารตัวนึที่เรียกว่า vascular enderal
00:27:12 → 00:27:16 Growth Factor หรือ vegf มากขึ้นเจ้า
00:27:16 → 00:27:19 ตัวนี้แหละจะเป็นตัวกระตุ้นการสร้างหลอด
00:27:19 → 00:27:22 เลือดส่งผลทำให้เกิดภาวะนิ้วปุ้มโรคต้น
00:27:22 → 00:27:25 เหตุที่ทำให้เกิดภาวะนิ้วปุ้มเนี่ยได้แก่
00:27:25 → 00:27:29 โรคปอดโรคหัวใจโรคระบบทางเดินอาหารโรค
00:27:29 → 00:27:32 ไทรรอยด์หรือว่าเนื้องอกที่พบบ่อยนะคือ
00:27:33 → 00:27:37 มะเร็งปอด 80% ของอาการนิ้วปุ้มพบในผู้
00:27:37 → 00:27:40 ป่วยมะเร็งปอดระยะแรกเราไม่ค่อยแสดงอาการ
00:27:40 → 00:27:42 อะไรอยู่แล้วแหละถ้าก้อนใหญ่ขึ้นอาจจะ
00:27:42 → 00:27:45 เจ็บหน้าอกหายใจสั้นหายใจไม่เต็มปอดมีไอ
00:27:45 → 00:27:49 เรื้อรังไอแห้งๆอาจจะมีไอเป็นเลือดเสมหะ
00:27:49 → 00:27:52 ปนเลือดหอบเหนื่อยเบื้อหาน้ำหนักรสอ่อน
00:27:52 → 00:27:55 เพลียโลกนี้ก็เกิดจากอะไรล่ะสูบบุหรี่
00:27:55 → 00:27:59 เป็นเวลานานมลพิษทางอากาศอืสารเคมีในโรง
00:27:59 → 00:28:03 งานฝุ่นละอองถ้าจะรักษานะรักษานิ้วปุ้ม
00:28:03 → 00:28:06 ตรงๆอ่ะไม่ได้ต้องรักษาสาเหตุหลักที่ทำ
00:28:06 → 00:28:10 ให้เกิดปัญหาอือๆอ่าก็ต้องตรวจเ่อซัก
00:28:10 → 00:28:12 ประวัติตรวจร่างกายโอหเยอะแยะเลยต้องตรวจ
00:28:12 → 00:28:15 เยอะมากเนาะซักประวัติก็นานหน่อยนะท่าน
00:28:15 → 00:28:18 ผู้ฟังถ้าเราทราบแล้วเอ้ยนิ้วปุ้มนี่เกิด
00:28:18 → 00:28:20 จากโรคมะเร็งนะมะเร็งปอดขึ้นอยู่กับ
00:28:20 → 00:28:24 ตำแหน่งขนาดของมะเร็งชนิดของมะเร็งนะอาจ
00:28:24 → 00:28:29 จะต้องทำการผ่าตัดใช้แสงเคมีบำบัดหรือทำ
00:28:29 → 00:28:32 ทั้งหมดร่วมกันถ้าดีขึ้นอาการนิ้วปุมอาจ
00:28:32 → 00:28:35 จะหาย
00:28:35 → 00:28:39 ไป This Is Thai PBS
00:28:39 → 00:28:42 podcast ติดตามรายการของ Thai PBS
00:28:42 → 00:28:58 podcast ได้ทางเว็บไซต www.thaipbs.or.th
00:28:58 → 00:28:59 แ
00:28:59 → 00:29:02 [เพลง]